Charm Online สาปผมเป็นแวมไพร์! [Up Lv.พิเศษ พจนินท์สไตล์3 100% 8/4/61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Charm Online สาปผมเป็นแวมไพร์! [Up Lv.พิเศษ พจนินท์สไตล์3 100% 8/4/61]  (อ่าน 287793 ครั้ง)

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Youi_chin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 166
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ VentoSTAG

  • ไม่รักอย่าทำให้มโนฯ GO AWAY!!!
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-9
 :mew4: เข้าใจฟีลสาวๆ ในลิฟต์เลย
"กรี๊ดดดดดดดดดดดด....เขาอยู่ด้วยกันแหละแก....." :-[

ออฟไลน์ แฟนตาเซีย

  • หืมม...?
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
ก็กินเลยสิจ๊ะ...

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
กลมันตอแหลอย่างที่วินบอกรึเปล่านะ แต่เป็นมารยาที่น่ารักโพดดดด

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
Part2 น้องชาย

   นับจากวันแรกที่เด็กทั้งสองได้เจอกัน ทุกครั้งที่อาเนซไปเช็คระบบให้บริษัทของผณินทร วินเป็นต้องตามไปด้วยตลอดเพื่อเล่นกับชิน ส่วนชินเองหลังจากพ่อเรียนวิชาผูกชิงช้าให้ที่บ้าน ขยันแวะเวียนไปเที่ยวบ้านวินบ่อยๆ นับวันเด็กทั้งคู่ยิ่งสนิทกันมากขึ้น แต่น่าเสียดาย ดันอยู่คนละโรงเรียนซะนี่

   ระหว่างรอวินมา ชินอยู่ในห้องทำงานพ่อ เด็กน้อยดูมีชีวิตชีวาขึ้น น่ารักสมวัยวิ่งไปเกาะขอบโต๊ะทำงาน พยายามเขย่งตัวเล็กๆ ให้เห็นพ่อที่กำลังตรวจเอกสารกองโต

   “พ่อครับ”

   “ว่าไงครับ” ทรตอบพลางกวาดตาอ่านเอกสารคร่าวๆ

   “ผมอยากเรียนที่เดียวกับวินฮะ”

   ทรถึงกับละสายตาจากเอกสารมองภาพลูกชายเกาะขอบโต๊ะ น่ารักซะจนใจอ่อนยวบ เผลอพยักหน้ารับโดยไม่รู้ตัว ชินยิ้มกว้างขอบคุณพ่อเป็นการใหญ่ พอดีกับมีคนมาแจ้งว่าอาเนซมาถึงแล้ว ชินจึงวิ่งแจ้นลงไปหาเพื่อนชั้นล่าง พ่อทรค่อยได้สติ ตายล่ะ ลูกชายอยู่อนุบาลสอง จวนจะขึ้นอนุบาลสามอยู่รอมร่อ ย้ายกระทันหันคงไม่ดี ดันไปให้ความหวังลูกแล้วซะนี่

   ก่อนอื่นต้องโทรไปคุยกับคุณหญิงที่บ้าน ให้คุณหญิงช่วยจัดการทุกอย่างให้ ระดับอย่างคุณหญิงแล้วทรมั่นใจว่าลูกชายได้ย้ายโรงเรียนสมใจอยาก

   ชินลงมารอชั้นล่างไม่เห็นวี่แววของวิน เด็กน้อยเดินไปเรียกอาเนซจากทางด้านหลัง เจ้าตัวกำลังติดต่อเคาน์เตอร์ด้านล่าง

   “พ่อเนซ วินอยู่ไหนเหรอครับ”

   ได้ยินเสียงเด็กเรียก อาเนซย่อตัวลงชันเข่าลูบหัวเพื่อนลูกชาย

   “วันนี้วินไม่มาครับ อยู่ที่บ้าน” เด็กชายชินกฤตคอตกพอรู้ว่าเพื่อนไม่มา อาเนซส่ายหัวอุ้มขึ้นมองด้วยความเอ็นดู ทุกวันนี้บ้านพจนินท์เห็นชินเป็นลูกชายอีกคนไปแล้ว

   “เอางี้มั้ย เดี๋ยวพ่อเนซขอพ่อทรให้ ชินจะได้ไปเล่นกับวินที่บ้านไง ไว้ตอนเย็นๆ ค่อยให้คนรถไปรับกลับ”

   ด้วยความที่เลี้ยงลูกชายตัวแสบมากับมือ เตะมากับเท้า อาเนซเลยสำเร็จวิชาการเลี้ยงเด็ก เพราะคงไม่มีเด็กคนไหนเลี้ยงยากเท่าลูกชายตัวเอง

   ชินพยักหน้ารับดีใจ หลังทำงานเสร็จอาเนซเลยขอตัวชินไปเล่นที่บ้าน ทรไม่คิดปฏิเสธ ดีซะอีกลูกชายจะได้ไม่ต้องนั่งเบื่อในบริษัท

   อาเนซพาชินมาที่บ้านเห็นวินกับรสานั่งเล่นกันอยู่ในบ้าน ชินวิ่งเข้าไปเป็นคนแรก รสายิ้มให้เด็กน้อย ส่วนวินตาโตรีบลากเพื่อนมานั่งด้วยกัน ทิ้งพ่อยืนอย่างโดดเดี่ยว

   “ชินๆ ฉันมีอะไรจะอวด”

   เด็กชายหัวทองยิ้มเห็นฟันครบทุกซี่ ดูอารมณ์ดีสุดๆ ชินเอียงคอมองด้วยความสงสัย คิดไปว่าน่าจะเป็นของเล่นใหม่ที่ประดิษฐ์ขึ้นเองเหมือนอย่างทุกที แต่ชินคิดผิด วินจับมือเพื่อนไปแตะแถวท้องของแม่ตัวเอง

   “ฉันกำลังจะมีน้อง! เมื่อวานพ่อพาแม่หาคุณหมอมา คุณหมอบอกว่าในท้องแม่มีเด็กอยู่”

   วินพูดเหมือนผู้รู้เต็มที่ ทั้งที่ไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมท้องแม่ถึงมีน้องได้ ขนาดชินเองยังสงสัย พยายามเพ่งมอง จินตนาการไปต่างนานา เด็กก็ต้องเหมือนพวกตน เข้าไปอยู่ในท้องได้ยังไงนะ

   รสาเห็นหน้าเด็กน้อยงงพลางหัวเราะเสียงใสช่วยอธิบายเสียงนุ่ม ส่วนอาเนซมาหอมแก้มภรรยาแล้วหายไปทำงานบ้านที่ต้องใช้แรงแทนภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์

   “ตอนนี้น้องยังตัวเล็กมากๆ เลยอยู่ในท้องได้ พอน้องโตขึ้นก็จะออกมาข้างนอกเหมือนวินกับชิน”

   “น้องจะออกมายังไงครับ”

   วินถามด้วยความตื่นเต้น ชินเองตาโตตั้งใจฟังเหมือนกัน

   “แม่มีเวทมนต์ไงจ๊ะ พอถึงเวลาแม่จะเสกน้องออกมา ตอนนั้นวินกับชินต้องช่วยแม่เลี้ยงน้องนะ”

   เด็กชายทั้งสองตาส่องประกายระยิบระยับ

   “แม่เก่งจังเลยมีเวทมนต์ด้วย แม่ชินมีเวทมนต์มั้ย” เด็กหัวทองหันไปถามเด็กหัวดำ ชินขมวดคิ้วเล็กพยายามครุ่นคิดเต็มที่ โคลงหัวไปมาจนดูน่าขัน รสาคว้าเด็กน้อยทั้งสองมากอดรวบ เธอรักเด็ก และรักสามีมาก ต้องขอบคุณอาเนซที่ทำให้เธอมีลูก มีครอบครัวเป็นของตัวเอง แถมยังมีเพื่อนลูกชายมาเพิ่มให้บ้านคึกคักมากขึ้น ใบหน้าสวยหวานจึงอิ่มเอมไปด้วยความสุข

   “มีสิจ๊ะ แม่ทุกคนมีเวทมนต์ ไม่งั้นชินจะเกิดมาได้ยังไง จริงมั้ย?”

   วินแสร้งทุบมือปุเลียนแบบพ่อเวลานึกอะไรออก ชินเห็นเลยทำตามมั้ง งานนี้บ้านพจนนินท์มีแต่เสียงหัวเราะ ให้เพื่อนบ้าน คนผ่านไปผ่านมายิ้มตามไปด้วย

   “ชินอยากมีน้องเหมือนกัน แต่พ่อกับแม่คงไม่ยอม”

   ชินกฤตเข้าใจว่าพ่อกับแม่ไม่ค่อยมีเวลาว่างทั้งคู่ แถมยังพูดอยู่เสมอว่ามีลูกชินเพียงคนเดียวก็พอแล้ว เด็กน้อยก้มหน้าท่าทางเสียดาย วินเห็นอาการเพื่อนหันไปมองแม่ตัวเองเหมือนต้องการผู้ช่วย คุณแม่เลยหันไปทางคุณพ่ออีกทอด อาเนซถือแก้วน้ำผลไม้กับขนมมาให้ภรรยากับเด็กทั้งสอง กระซิบบอกภรรยาเบาๆ ไม่ให้เด็กได้ยิน

   “พวกเขามีลูกยาก แค่มีชินก็ดีใจจะแย่แล้ว”

   รสาพยักหน้ารับคำสามี ก่อนหันมายิ้มให้เด็กสองคนที่นั่งมองตาแป๋ว

   “เอ... ทำยังไงดีน้า ลูกวิน ถ้าแม่บอกว่าให้แบ่งน้องกับชินได้รึเปล่า”

   “ได้สิ! พ่อบอกว่าถ้าผมอยากเป็นเด็กดีต้องมีน้ำใจแบ่งปันคนอื่น งั้นเรามาแบ่งน้องกันนะชิน” จากคำพูดวิน ชินตื่นเต้นตาโตมองเพื่อน

   “ขอบคุณนะ”

   เด็กสองคนดีใจ สองพ่อแม่พยายามกลั้นหัวเราะ ดูท่าวินจะเข้าใจว่าน้องเป็นสิ่งของต้องแบ่งปันไปซะแล้ว แต่เอาเถอะ ผลออกมาดี เดี๋ยวตอนโตก็รู้เองแหละ สองพ่อแม่ผู้ปัดความรับผิดชอบไม่ยอมอธิบายให้กระจ่าง

   ภายหลังชินได้ย้ายโรงเรียนกับอยู่กับวินสมใจ ด้วยเหตุนี้ตอนกลับบ้านทุกครั้งจึงแวะมาอยู่ที่บ้านวินเป็นประจำ ทั้งคู่คอยช่วยรสาทำงานบ้านตามประสาเด็ก วินกับอาเนซยิ่งอาการหนัก ลูบท้องแม่กับภรรยาแทบจะทุกเวลาด้วยความเห่อ

   เวลาผ่านไป วินกับชินขึ้นอนุบาลสาม ท้องของรสาก็ใหญ่ขึ้น กระทั่งวินอายุได้ห้าขวบได้ไม่นาน รสาเจ็บท้องใกล้คลอดกลางดึก พ่อลูกวิ่งวุ่นเหมือนหนูติดจั่น รีบพาคนท้องไปโรงพยาบาลที่ฝากครรภ์ไว้ อาเนซกอดลูกชายคนโตที่หลับปุ๋ยในอ้อมแขนอยู่หน้าห้องคลอด พ่อตากับแม่ยายจะมาหาวันพรุ่งนี้

   ความรู้สึกของอาเนซไม่ต่างจากตอนที่วินคลอด ทั้งดีใจ ตื่นเต้น และกังวล นั่งภาวนาขอให้ลูกและภรรยาปลอดภัย ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นลูกชายหรือลูกสาว ขึ้นชื่อว่าลูก อาเนซย่อมรักสุดหัวใจ กระทั่งเด็กแผดเสียงร้องจ้า ขนาดวินยังสะดุ้งตื่น

   ประตูห้องคลอดเปิดออก ผู้ช่วยแพทย์เดินออกมาพร้อมเด็กตัวแดงในห่อผ้า อาเนซรับมากอดด้วยความปลื้มปิติ น้ำตาร่วงผล็อยๆ เหมือนคราวของวินไม่มีผิด วินยืนขยี้หาอ้าปากหาววอดยังไม่ตื่นดี อาเนซย่อตัวลงให้ลูกชายคนโตได้เห็นน้องครั้งแรก

   “วินดูสิ คุณแม่เสกน้องออกมาแล้วนะ ดีใจรึเปล่า”

   วินตาโตสั่นไปทั้งตัวด้วยความตื่นเต้น มือยกมั่วซั่วไปหมด เรียกได้ว่าตื่นเต็มตา มือเล็กๆ ยื่นมือคว้าจับนิ้วพี่ชาย ความรู้สึกอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั้งตัว สุดท้าย พ่อลูกแข่งกันร้องไห้จนนางพยาบาลส่ายหน้า อาเนซส่งเด็กคืนให้ แล้วอุ้มลูกชายคนโตตามรถเข็นภรรยาไปห้องพักฟื้น

   เช้าวันต่อแม่ตากับยายมาถึง ปู่กับย่าเองก็คอลทางไกลมาคุยกัน อาเนซต้องถ่ายรูปลูกชายคนเล็กส่งจนมือหงิก พอช่วงส่ายชินมาพร้อมกับพ่อ ทรตบบ่าเพื่อนรุ่นน้องหนักๆ แสดงความยินดีปนอิจฉา

   รสาฟื้นตัวเร็วเพราะคลอดแบบธรรมดา เพียงไม่นานก็สามารถกลับบ้านได้พร้อมลูกตัวน้อย อาเนซรับงานน้อยลงเพื่อช่วยภรรยาเลี้ยงลูกอ่อนอย่างเต็มที่ ส่วนวินเห่อน้องมาก เวลาเลิกเรียนเสร็จปุ๊บจะต้องรีบตรงดิ่งกลับบ้านทันที พอๆ กับชิน แทบจะย้ายมาอยู่บ้านนี้ด้วย

   ทั้งบ้านตลบอบอวนไปด้วยกลิ่นเด็กอ่อนและกลิ่นนม ดีที่พ่อแม่บ้านนี้มีประสบการณ์เลี้ยงลูกมาแล้ว ทุกอย่างจึงไม่มีปัญหา ไปตามที่หมอนัด ดูแลลูกอย่างใกล้ชิด

   อาเนซตั้งชื่อลูกชายคนเล็กว่า ‘อายุวัต’ คำว่า อา ให้เหมือนชื่อพ่อกับพี่ชาย ส่วนคำว่า วัต จะได้ชื่อเล่นเป็นตัว ว แหวนแบบเดียวกับวิน

   เด็กน้อยเริ่มพลิกตัวไปมายังไม่เท่าไหร่ พอโตจนเริ่มคลานความวุ่ยวายจึงบังเกิด วินแทบจะกอดรัดน้องด้วยขากับแขนกันดิ้น ขณะชินช่วยแม่รสาชงนมป้อน พอดูดนมหมดกำลังจะนอน ยังไม่วายปาขวดเปล่าใส่วินที่นอนข้างๆ ทีแรกคิดว่าไปเกะกะน้องเลยโดนปาใส่ หลังจากนั้นวินย้ายตำแหน่งหลบไปอยู่อีกมุม ขวดเปล่ายังบินตามมาเหมือนเคยสร้างความขบขันในครอบครัว

   “ทำไมปาให้แต่พี่วินล่ะ ปาใส่พี่ชินมั้งดิ” เด็กชายอาชวินออกอาการประท้วง ชินชี้หน้าตัวเองแบบงงๆ ว่าเขาไปเกี่ยวอะไรด้วยกับศึกสายเลือด

   วัตโตวันโตคืน เริ่มเดินด้วยการจับนู่นจับนี้ช่วย มีครั้งหนึ่งเกาะโซฟาเล่นตุ๊กตาอย่างเมามัน จู่ๆเกิดขาพันก้าวผิดจังหวะกำลังจะล้ม วินกับชินที่คอยเฝ้าน้อง วินบนโซฟากระโจนหมายจับตัว ส่วนชินนั่งด้านล่างสไลตัวไปนอนรอง ก้นนุ่มห่อแพมเพิส นั่งปุบนหลังชินตบมือหัวเราะชอบใจ

   ช่วงเวลาแห่งความสงบ ทุกคนอยู่ในบ้าน ด้านนอกมีแสงอ่อนๆ ส่องผ่านต้นไม้ร่มรื่น วินกำลังเล่นเกมกับชิน อาเนซนอนขวางวัตไม่ให้เดินลงไปที่สวน คุณแม่กำลังเตรียมอาหารว่าง วัตอายุหนึ่งขวบกำลังสนใจทุกสิ่งรอบตัว ดวงตาสีเทากลมโตเห็นสิ่งมีชีวิตตัวหนึ่งเดินทอดน่องอยู่บนกำแพงบ้าน เสียงนกร้องจิ๊บๆ บินผ่านไป

   “อา อู”

   เสียงร้องดึงความสนใจจากทุกคน ในตอนนี้ ทุกคนกำลังพนันกันว่าถ้าวัตเรียกใครได้เป็นคนแรก คนนั้นจะได้รางวัลหนึ่งอย่าง

   “ผลไม้เย็นๆ จ้า วัตมาหาแม่เร็ว ได้เวลากินนมแล้ว”

   เด็กน้อยหันตามเสียง ใช้พุงพอเป็นที่พยุงตัวลุกขึ้นยืน เดินเตาะแตะไปหาคุณแม่คนสวย สองแขนเล็กป้อมยื่นเข้าหา ส่งเสียงไม่ได้ศัพท์

   “อู อู”

   วินหกขวบนอนคว่ำหน้ากดเกมสบายอารมณ์ ถูกน้องชายสุดที่รักเตะจนร้องอุก แถมยังเหยียบปีนข้ามผ่านดื้อๆ เพื่อไปหาแม่ วินได้แต่จ้องน้องชายตาเขียว เมื่อกี้โดนรบกวนสมาธิทำให้แพ้ชิน พอจะคว้าน้องมาฟัดแก้แค้น กลับโดนมือเล็กตบเอาๆ ส่งเสียงโวยวายใหญ่

   “แอ้!”

   “วินอย่าแกล้งน้องสิ” รสาเอ็ดลูกแบบไม่จริงจังนัก ชินเป็นคนอุ้มวัตออกจากวินส่งให้แม่ เด็กน้อยจะได้กินนมนอน มือเล็กจับขวดนมมาดูดเอง เพียงแปบเดียวนมก็หมดขวด และขวดเปล่าบินไปหาวินอีกตามเคย พี่ชายเริ่มชิน เตรียมรับขวดไปส่งให้พ่อล้าง

   รสาอุ้มพลางลูบหลังลูกชายคนเล็กให้เรอนม วัตดูมีความสุขถูหน้ากับบ่าแม่

   “มะ มา”

   “ไม่นะ” อาเนซมองลูกชายอย่างกับเจอคนใบ้หวย วินกับชินลุกไปยืนรุมรสา คุณแม่เองก็ตื่นเต้นรอฟังลูกชาย

   “แมะ อืออ... ฟี้”

   เหล่าหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ ร่วงลงไปกองกับพื้นระนาว อุตส่าลุ้นแทบตายว่าจะพูดคำแรกว่าแม่รึเปล่า ดั๊นหลับไปซะดื้อๆ นี่มันพูดให้อยากแล้วเลี้ยวกลับชัดๆ

   “เอาเถอะ ยังมีเวลาอีกเยอะ” คนพ่อพูดแบบปลงๆ

   และแล้วคำแรกที่วัตพูดหลังจากนั้น ยังคงเป็นคำว่าแม่อยู่ดี งานนี้คุณแม่มาวินชนะได้เครื่องซักผ้าใหม่ไปเป็นรางวัล ถือเป็นเกมเล็กๆ น้อยๆ ภายในบ้าน

   ไปโรงเรียนครั้งแรก วินยื่นคำขาด ไม่ว่ายังไงน้องชายต้องอยู่โรงเรียนเดียวกับตัวเอง โชคดีหน่อย โรงเรียนที่วินอยู่มีตั้งแต่อนุบาลจนถึงม.ปลาย ถือเป็นโรงเรียนใหญ่เลยก็ว่าได้

   อาเนซมาส่งลูกชายทั้งสอง เจอชินยืนรออยู่หน้าประตูโรงเรียน เด็กชายยกมือไหว้ เวลาเดียวกับที่วินไหว้ครู วัตน้อยยกมือไหว้ทำตามพี่ชายบ้าง

   “ฝากลูกชายคนเล็กด้วยนะครับครู”

   ครูวัยกลางคนยิ้มใจดี

   “ครูจะดูแลอย่างดีเลยค่ะ เด็กๆ ไหว้คุณพ่อก่อนเร็ว” ทุกคนทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย

   “พ่ออย่าลืมซื้อทิชชู่ให้แม่นะ” วินพูดขึ้นอย่างคนเพิ่งนึกได้ เพราะแม่ฝากมา กลัวพ่อจะลืมอีก คุณครูหัวเราะ อาเนซคาดโทษลูกชายในใจ ทำพ่อขายหน้าซะได้

   ยังพอมีเวลาเหลือก่อนเคารพธงชาติ พี่ชายสองคนในชุดเด็กประถมกางเกงดำจูงมือน้องชายคนละข้าง ชินถือกระเป๋าข้างตัว ส่วนวินใช้แขนหนีบไว้ไปส่งน้องที่ห้องเรียน เด็กน้อยแก้มยุ้ยหัวทองกางเกงแดง พายเป้สีเดียวกันเหมือนกระดองเต่าน้อยชวนพี่ชายคุยเจื้อยแจ้ว

   พอถึงห้องมีแต่เสียงเด็กเต็มไปหมด บางคนร้องไห้งอแงอยากกลับบ้าน บางคนยังไม่ตื่นเลยด้วยซ้ำ สัปหงกอยู่ในมุมของตัวเอง แลดูวุ่นวาย ครูประจำชั้นกำลังหัวหมุนได้ที่ เงยหน้าขึ้นมาเจอเด็กชายสองคนที่เธอเคยสอนมา วินกับชินยกมือไหว้

   “สวัสดีครับครูแอม”

   “เด็กแสบสองตัวมาทำอะไรกัน หรืออยากเรียนอนุบาลกับครูอีกรอบ”

   สองหนุ่มน้อยส่ายหัวขวับๆ ทันที ใครอยากซ้ำชั้นกัน

   “ผมมาส่งน้องชายต่างหาก น้องชายผมกับชินครับ ชื่อวัต”

   “สวัสดีจ๊ะ ดูน่ารักเรียบร้อยกว่าพวกเธอนะ” ครูแอมแซวขำๆ วินเกาหลังคอแก้เขิน เพราะวัยเด็กตัวเองถือเป็นหัวโจกของเพื่อนร่วมห้องเลยก็ว่าได้ กระทั่งทุกวันนี้ยังเป็นเหมือนเดิม โดยมีชินเป็นคู่หูพากันป่วน

   วัตมองครูสลับมองเพื่อน เป็นครั้งแรกที่มองไปทางไหนก็เจอแต่เด็ก ถึงจะตื่นตาตื่นใจ พอได้ยิน เห็นเพื่อนคนอื่นร้อง วัตน้อยเริ่มเบะปากจะร้องบ้าง วินเห็นรีบคว้าน้องชายมากอด

   “พี่วิน วัตอยากกลับไปหาแม่ ฮึก”

   “โอ๋ๆ ไม่ร้องนะ วัตไม่อยากอยู่กับพวกพี่เหรอ”

   วัตส่ายหัวพยักหน้าดูสับสนไปหมด ชินย่อตัวมาคุยกับน้องอีกคน

   “เอาไว้ตอนเที่ยงพวกพี่จะแวะมาหานะ ถ้าวัตไม่ร้อง พี่จะซื้อขนมมาให้”

   ของโปรดเด็กยังไงก็หนีไม่พ้นขนมกับของเล่น วัตน้อยตาวาว พยักหน้ารัวๆ ส่งตัวให้ครูรับช่วงต่อ วินกับชินถึงรีบวิ่งแจ้นกลับตัวเองเตรียมเข้าแถวตอนเช้า ตอนเที่ยงมาหาน้องตามสัญญา พร้อมขนมที่ซื้อมาให้ กลายเป็นกิจวัตรประจำวัน ที่สองพี่ชายต้องมาหาน้องตอนเที่ยง และมารับน้องรอพ่อมารับตอนเย็น ชินจะรอจนพ่อเนซมา ถึงจะยอมกลับไปกับคนขับรถ

   วัตเป็นเด็กสดใสร่าเริง ไม่กี่วันก็ได้เพื่อนเพียบ แถมยังน่ารักน่าชังเอาใจสาวรุ่นพี่ ยิ่งเป็นน้องชายของวินกับชินที่มีแต่สาวมอง ทุกวันกลับบ้านเลยมีขนมเต็มกระเป๋า ลำบากพ่อต้องเอาไปแจกจ่ายให้คนอื่น เพราะที่บ้านกินกันไม่ทัน


ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
หลงน้องกันน่าดู

ออฟไลน์ VentoSTAG

  • ไม่รักอย่าทำให้มโนฯ GO AWAY!!!
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-9
เป็นหนุ่มป็อปแต่เด็กเลยเจ้าวัต แต่เสียใจพี่สาวทั้งหลาย
วัตโดนหมา(ป่า)คาบไปทานแล้ว อิๆๆ :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ ployspy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
โอ๊ยยยยย
สรุปหลงกันแต่เด็กเลยซินะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fammi50

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
เป็นพี่น้องที่น่ารักมากเลยอ่าาาาาาาา อยากอ่านตอนต่อไปเร็วๆแล้ววววววววว  :ling1:

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
Lv.พิเศษ ใจผมหล่อมาก ลิน-ไวไว

   โรงเรียนสตรีมีการแข่งขันสูง ไม่ว่าจะเรื่องการเรียน ฐานะ การคบเพื่อน ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นการแข่งขันหมด ภายนอกดูเหมือนพูดคุยกันดี ภายในคอยจับผิดมองด้วยความอิจฉา บางคนอาจจะโชคดีหน่อย ไม่เป็นจุดสนใจให้ใครนินทา แต่นั่นไม่ใช่กับลิน

   สาวผมทองดวงตาสีสวย ร่างสูงเพรียวบุคลิกดี บ้านมีฐานะ พ่อแม่มีหน้ามีตา ลูกสาวเพียงคนเดียวอย่างลินจึงถูกจับตามองจากทุกคน ที่ผ่านมาไม่เธอเรียน แวะร้านหนังสือ กลับบ้าน ต้องรักษาเรื่องกริยามารยาทตลอดเวลา จากอึดอัดจนกลายเป็นความเคยชิน การเรียนไร้ที่ติ ไม่มีใครร้ายใส่ กระทั่งมีเรื่องความรักเข้ามาเกี่ยวข้อง

   หลังคบกันอย่างจริงจัง ไวไวขอลินมาพบกับผู้ใหญ่ทางบ้าน ทีแรกที่บ้านยังไม่ค่อยยอมรับเท่าไหร่ เพราะไม่เคยรู้จักมาก่อน เกรงว่าลูกสาวจะถูกผู้ชายล่อลวง ทั้งที่มันกลับกันแท้ๆ

   ด้วยความอดทนของไวไว ไปลามาไหว้ มีมารยาท มาหาผู้ใหญ่มีของฝากติดไม้ติดมือ ไม่เคยทำอะไรรุ่มร่ามกับลิน ให้เกียรติเสมอ ในที่สุดทางผู้ใหญ่เริ่มใจอ่อน เห็นเป็นลูกเป็นหลานอีกคนหนึ่ง ปัจจุบันกลายเป็นคนขับรถคอยรับส่งลินเป็นครั้งคราว

   คนนอกไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง นำเรื่องพวกนี้มานินทาลับหลัง บอกว่าแฟนของลินขี่มอเตอร์ไซต์ท่าทางไม่มีเงิน พูดไปสารพัด ลินเองไม่สนใจ ไวไวไม่รู้เรื่อง ทางบ้านเมินใส่เพราะถือว่าในเมื่อเราไม่ได้แย่แบบนั้นจริงจะไปสนใจกับขี้ปากชาวบ้านเขาทำไม และแล้วไวไวก็รู้จนได้

   “ฉันว่าวันหลังให้ลุงชื่นมารับดีมั้ย” ผมเกริ่นหลังรับลินกลับจากโรงเรียน ตอนนี้พวกเรากำลังนั่งเล่นอยู่ในสวน

   “ทำไมล่ะ ถ้ากลัวเรื่องฉันนั่งกระโปรงเปิดไม่ต้องห่วง ใส่กางเกงข้างในไว้แล้ว”

   ผมกุมขมับ ฟุบไปบนโต๊ะ รู้สึกท้อแท้ยังไงชอบกล ตกลงเขาได้แฟนสาวหรือแฟนหนุ่มกันแน่นะ

   “เรื่องนั้นก็ห่วง แต่มีประเด็นอื่น ฉันเพิ่งรู้ว่ามีคนนินทาเธอลับหลัง” ดวงตาสีน้ำตาลค้อนใส่แฟนตัวเองอย่างเคืองๆ ที่เก็บเงียบไม่ยอมเล่าให้ฟังบ้าง

   “ก็ใช่ แล้วไงเหรอ?”

   “แล้วไง! โดนนินทาเชียวนะ สำหรับผู้หญิงถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ของการอยู่ในกลุ่มเลยไม่ใช่รึไง” ผู้ชายทั้งแท่งเริ่มเป็นเดือดเป็นร้อนแทนแฟนสาว

   “แค่อิจฉาเพราะตัวเองหาไม่ได้ต่างหาก ผู้ชายนิสัยดีไม่เจ้าชู้แถมให้เกียรติ พึ่งพาได้ จริงใจขนาดมาแสดงตัวกับผู้ใหญ่ ที่สำคัญรับความชอบฉันได้ ต่อให้ต้องใช้โซ่ล่าม ฉันไม่ปล่อยให้หลุดมือแน่นอน อย่าห่วงเลยพวกนั้นก็ได้แต่พูดนั้นแหละ นายทำตัวตามปกติเถอะ”

   ลินพูดตั้งมั่น ส่วนคนฟังก่ำกึ่งระหว่างดีใจกับเสียใจ ในเมื่อเจ้าตัวไม่เดือดร้อนเขาก็ว่าตามนั้น

   ผมไปรับลินเหมือนเดิม รอบนี้ต่างกันคือถอดหมวกกันน็อกออก สาวหลายคนต่างมองกันเป็นตาเดียว ผมชินกับการเป็นเป้าสายตา เพราะไปไหนมาไหนกับพวกหน้าตาโดดเด่นอย่างพี่น้องหัวทองบ่อย แต่ลินดูจะไม่ชินด้วย หลังจากนั้นสาวเจ้าสั่งผมห้ามไม่ให้ถอดหมวกหน้าโรงเรียนอีกเป็นครั้งที่สอง

   ด้วยความกลุ้มใจเลยมาปรึกษาเพื่อนตัวเอง ผมหน้าตาไม่ดีจนลินไม่อยากให้ใครเห็นรึเปล่า อีกใจคิดว่าอย่างลินไม่สนอะไรพวกนี้หรอก ใจหญิงนั่นไซร้ยากแท้หยั่งถึง แต่เทียบใจลินแล้วยากหยั่งยิ่งกว่า

   “กูว่ามึงคิดมากไปเอง หน้าตาอย่างมึงเขาไม่ได้เรียกว่าขี้เหร่เว้ย ออกไปทางหล่อด้วยซ้ำ เพียงแค่มันไม่ได้หล่อกระแทกลูกตา มันชวนมองได้เรื่อยๆ”

   อยู่กันแค่สองคน พ่อขุนสิงร่างเลยครับท่านผู้ชม

   “คงงั้นมั้ง อยู่กับพวกหน้าตาดีอย่างกับไม่ใช่คนมากเกินไป รู้สึกสัมผัสในการมองมันเพี้ยนๆ” ผมตอบมันด้วยสายตาว่างเปล่า วัตแยกเขี้ยวรู้ทันว่ามันหลอกด่า ฮ่าๆ

   “เอ้อ คืนนี้ไม่ออนเกมนะ”

   ผมขมวดคิ้วแปลกใจ วัตนักเล่นเกมตัวยง ไหงมันถึงบอกไม่เล่นหว่า แถมหายไปคู่ วัตทนสายตาล้อเลียนผมไม่ไหวยอมตอบจนได้

   “อยากควักลูกตาออกมาชะมัด คืนนี้จะไปกินข้าวกับพวกพี่วินแถวทะเล เห็นว่าจะพักที่นั้นสักคืน”

   “พี่วินกับพี่ชินไม่เท่าไหร่ เข้าใจว่าสองคนนั้นทำงานเหนื่อยอยากพักบ้าง แต่พวกนายสองคน อยากเปลี่ยนสถานที่อะดิ”

   วัตชูนิ้วกลางใส่ ผมหัวเราะฮา หลบเท้ามันไปทั่วบ้าน นายท่านกับขุนพลนึกว่าเล่นโผล่มาร่วมวงด้วย กลายเป็นศึกข้ามสายพันธุ์

   เล่นกันจนลิ้นห้อย ผมแหงนคอมองเวลามีขุนพลนอนทับอยู่บนอก ส่วนวัตไปเตรียมตัวรอสามีมัน แต่งมาซะหล่อ หมั่นไส้ โยนของเล่นแมวใส่หัวแม่ง

   “เฮ้ย หล่อไม่เท่าอย่าพาลดิ ไวไวไม่ไปรับลินเรอะ นี่มันจะห้าโมงอยู่แล้วนะ”

   “ชิบหายแล้ว! กินอาหารทะเลเผื่อด้วยนะเพื่อน”

   พูดจบผมรีบคว้ากุญแจรถแมงกะไซคันโปรดสวมหมวกบิดไปโรงเรียนลิน ป่านนี้คงเท้าสะเอวเป็นผีเสื้อสมุทรหน้าโรงเรียนแล้วมั้ง

   ผมจอดรถตรงที่ประจำ ยกมือไหว้ครูหน้าโรงเรียน ผมแอบติดสินบนเอาขนมไทยมาฝากแกอยู่ เลยไม่ถูกไล่เหมือนตอนแรกอีก หนุ่มมหาลัยขี่มอเตอร์ไซค์ไม่ได้เลวร้ายไปซะหมดนะคุณ ผมแค่ผู้ชายหน้าตาธรรมด๊าธรรมดา ไม่มีความโดดเด่นอะไร วันๆ ไม่เล่นเกมก็เป็นคนขับรถให้แฟนกับครอบครัวแฟน

   “ลินออกมารึยังครับ” ผมถาม ไม่ต้องห่วงว่าครูเขาจะจำหน้าเด็กไม่ได้ ยิ่งเป็นเด็กที่แสนจะโดดเด่นอย่างลิน สาวลูกครึ่งผมทอง ทั้งโรงเรียนคงมีไม่ถึงสองคนมั้ง เผลอๆ มีแค่ลินคนเดียว

   “เอ... ครูจำได้ว่าเพิ่งออกไปกับกลุ่มเพื่อนผู้หญิงไม่กี่นาทีก่อน”

   เฮ้ย! ลินมีปัญหากับเพื่อนผู้หญิงอยู่ไม่ใช่เรอะ! ออกไปด้วยกันแบบนั้น มันต้องเป็นการกลั่นแกล้งแน่ๆ ในเกมต่อให้เก่งยังไง นอกเกมยังคงเป็นเพียงเด็กผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง โดนเพื่อนรุม แล้วถ้าพวกนั้นพาเพื่อนผู้ชายมา โธ่เว้ย! ผมรีบถามครูอย่างร้อนรน

   “ไปทางไหนครับ”

   ครูแกแปลกใจนิดหน่อยกับท่าทางของผม

   “ด้านนั้นจ้ะ”

   เห็นทางที่ครูชี้ไป ผมสูดลมหายใจเฮือก เส้นนั้นเป็นทางเปลี่ยว มีพวกวัยรุ่นโรงเรียนอื่นไม่น่าไว้ใจ มักมาแอบดูเด็กโรงเรียนนี้บ่อยๆ ถามว่าทำไมผมถึงรู้ ก็ผมสำรวจรอบโรงเรียนลินหมดแล้วว่ามีอะไรบ้าง

   ผมรีบบึ่งรถไปทางนั้นทันที ขับเข้าซอยแม่ง ซ้ายเป็นกำแพงโรงเรียนสูงกันเด็กหนี และกันคนนอกเข้าโรงเรียน ขวาเป็นบ้านคนกำแพงสูงไม่ต่างกัน ถ้าเกิดอะไรตรงนี้ ยากที่คนจะผ่านมาเจอ ด้วยความที่ผมใช้มอเตอรืไซต์ไม่นานเห็นกลุ่มเด็กผู้หญิงยืนชิดกำแพง ล้อมด้วยวัยรุ่นม.ปลาย ผมโยนมอไซค์ทิ้ง กระโดดเข้าไปกลางวง

   “ทำอะไรกันวะ!!”

   ยอมรับเลยว่าเสียงผมตอนนี้โหดมาก อารมณ์โกรธพุ่งทะลุปรอท กวาดตาสำรวจสถานการณ์โดยรอบ คอยยืนจ้องคุมเชิงพวกนั้น

   ต่างจากที่ผมคิดนิดหน่อย เล่นกันเพื่อนผู้หญิงทั้งสี่คนของตัวเองให้ไปหลบด้านหลัง ผมจำหน้าคนได้แม่น ยิ่งคนที่เป็นคู่กรณีไม่มีพลาด ผู้หญิงสี่คนนี้เป็นพวกที่เคยว่าผมดูถูกลินมาก่อน ทำไมถึงมาด้วยกัน แล้วไหงแฟนผมทำท่าเหมือนจะปกป้องพวกนั้นล่ะ ไม่เข้าใจจริงๆ

   “ไวไว มาพอดีเลย จัดการพวกหื่นกามนี่ที”

   “เด็กมหาลัยว่ะ” พวกวัยรุ่นหันไปซุบซิบกัน ยังไงเด็กมหาลัยก็น่าเกรงขามกว่าพวกเด็กม.ปลาย

   “กลัวไร มันมาแค่คนเดียว พวกเรามากันห้า จัดการแม่งเลย”

   “ปากวอนตีนว่ะ จะไสหัวไปดีๆ หรือให้กูซัด” พอโดนผมไล่เข้า เหมือนเลือดขึ้นหน้า เด็กเปรตห้าตัวกรูเข้ามารุมทำร้ายผม ผมยันคนแรกออกไป ซัดหมัดเข้าคนขวา ผมไม่ได้เก่งเหมือนพระเอกในนิยาย แต่ผมก็ซัดพวกมันได้แบบไม่น้อยหน้า โดนถีบ โดนเตะกลับบ้านไม่เป็นไร นาทีนี้ผมต้องเอาพวกมันหมอบให้ได้!

   เสียงซัดกันตุบตับผสมเสียงกรี๊ดของพวกเด็กผู้หญิง น่ารำคาญ ผมขมวดคิ้ว ได้ยินเสียงลินทะเลาะกับเพื่อนให้หนีไปหาคนช่วย แต่ยัยพวกนั้นดันปอดแหกขยับไม่ไหว ลินเองก็ไม่กล้าทิ้งเพื่อนกับผมไป สถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เรื่องจริงไม่เหมือนในหนัง ที่ซัดแค่หมัดเดียวลงไปกองท้องชักแด่กๆ เหมือนแมลงสาบโดนไบก้อนบนพื้น

   พอผมซัดไป หายจุกแม่งก็ลุกมาใหม่ วนเวียนงี้ซ้ำไปซ้ำมาจนผมเหงื่อท่วมตัว ผมล่อพวกมันออกห่างจากพวกผู้หญิงเรื่อยๆ จับทุ่มคนที่คิดจะลอบโจมตีด้านหลังจนมันหลังเด๊าะอยู่บนพื้น ขัดขาอีกคนแล้วเสยคางน็อกไปอีกหนึ่ง เหลือสามตัว

   “หลบหน่อยพระเอกมา!!”

   เสียงเบิ้ลรถมอเตอร์ไซค์ผสมเสียงคนตะโกน ผมจำเสียงนั้นได้ รีบผละออกเจ้าพวกเด็กผี ลากลินกับผู้หญิงคนอื่นๆ หลบแนบตัวติดกำแพง มอไซค์หน้าตาคุ้นๆ ขับผ่านแบบไม่ลดความเร็ว ไอ้เด็กพวกนั้นรีบลากเพื่อนลุกวิ่งหนีเหมือนเจอโกสท์ ไรเดอร์ ผมมองดาบ เออ พอเข้าใจว่าทำไมพวกเด็กมันถึงเผ่นกัน

   วัตไม่รู้โผล่มาจากไหนบิดมอไซค์ผมไล่ต้อนเด็ก มือถือไม้กอล์ฟเหวี่ยงโคตรน่ากลัว

   “ฮ่าๆ ให้มันรู้ซะมั้งว่าไผเป็นไผ”

   ช่างหัววัตมัน ผมหันมาทางลินเป็นอันดับแรก

   “เป็นไงบ้าง บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า พวกมันทำอะไรมั้ย ทำไมถึงมาเดินทางนี้ บอกให้รอหน้าประตูโรงเรียนไม่ใช่รึไง ถ้าเกิดฉันมาไม่ทัน... โธ่เว้ย!”

   ลินมองผมที่รัวเป็นชุดตาปริบๆ เธอยิ้มกว้าง เป็นรอยยิ้มที่ผมคิดว่าสวยที่สุด มือเรียวหยิบผ้าเช็ดหน้าของตัวเองออกมาช่วยซับเหงื่อกับความมอมแมมตรงบนหน้าให้ ผมจับมือเธอแน่น

   “ตอบสิ วันหลังจะไม่เดินที่อันตรายแบบนี้อีก” ผมถามเสียงอ่อนลง ณ ตอนนี้ใครอยู่บ้างผมไม่สนใจ สิ่งที่ผมเห็นตรงหน้าคือผู้หญิงที่ผมรักคนเดียวเท่านั้น

   “อาจฟังดูแย่ แต่ฉันดีใจนะที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น” นอกจากจะไม่ตอบ ยังมายิ้มหน้าระรื่น ผมจ้องตาเขียวปั๊ด

   “ก็แหม... เห็นคนรักตัวเองออกตัวปกป้อง แถมเป็นห่วงขนาดนี้ มีผู้หญิงคนไหนบ้างไม่ดีใจ ไม่เอาน่า อย่าทำหน้าเป็นกระต่ายกินยาขม ขอโทษ วันหลังจะไม่มาที่แบบนี้อีก ดีกันนะ”

   นิ้วก้อยเล็กๆ ของลินยื่นมาตรงหน้าผม ผมนิ่ง เจ้าตัวยังคะยั้นคะยอไม่เลิก สุดท้ายต้องถอนหายใจหนัก ยกนิ้วไปเกี่ยวก้อยแบบหงุดหงิดในอารมณ์ ผมไม่เคยขัดใจลินได้สักที แต่พอแบบนี้ยิ่งเห็นชัดเจน นิ้วของผมกับลินแตกต่างกันมากแค่ไหน มือเล็กๆ คู่นี้พยายามกางแขนปกป้องเพื่อนที่ว่าร้ายตัวเอง

   “พวกนายว่าแต่ฉันชอบสร้างโลกส่วนตัวกับกล ตัวเองก็ไม่ต่างกันนะ”

   วัตยักคิ้วแซวพวกผม ผมกลอกตา มองไปยังต้นซอย เห็นชายอีกคนยืนดำ เอ้ย ยืนหล่ออยู่ ผมรู้จักกับวัตมานาน รู้เลยว่ามันแอบตามผมมาเพื่อเผือกแน่ๆ ก็ยังดี ไม่งั้นผมคงเหนื่อยจัดการเด็กเหลือขอมากกว่านี้

   “ไว้ค่อยคุยกันต่อ เดี๋ยวเราออกไปอีกทาง หน้าโรงเรียนเดี๋ยวคนแตกตื่นหมด” วัตแนะนำ พลางเดินเอาไม้กอล์ฟไปคืนแฟน แล้วเดินกลับมาหาพวกเรา เดี๋ยวกลก็คงจะขับรถวนมาจอดฝั่งที่เราจะไป ผมเพิ่งมารู้ตอนหลัง ไม้กอล์ฟเจ้ากรรมมันเป็นของพ่อกลติดรถลูกชายมา เพราะวันก่อนพาพ่อไปตีกอล์ฟ เกิดพ่อเขารู้ลูกสะใภ้เอามาเหวี่ยงเล่น ไม่รู้จะทำหน้ายังไง

   ระหว่างเดินลินเล่าให้ผมฟังว่า เธอคุยเคลียร์กับเพื่อนไปแล้ว พอผมถามว่าใช้วิธีอะไร เจ้าตัวตอบเป็นความลับของผู้หญิง เอาเถอะ แค่ลินยังไม่ลืมว่าตัวเองเป็นผู้หญิงผมก็ซาบซึ้งขอบคุณพระเจ้าน้ำตาแทบไหลแล้ว

   ลินบอกยิ่งวันนี้ผมโชว์หล่อ พวกนั้นคงได้แต่อิจฉามากกว่าเดิม ไม่มีใครกล้าดูถูกอีก ส่วนสาเหตุที่เดินมาทางนี้เพราะมันเป็นทางลัดไปร้านขนม ว่าจะไปนั่งรอแถวนั้นจนกว่าผมมารับ หลังส่งพวกเพื่อนสู่ที่ปลอดภัย พวกเธอขอบคุณผมกับวัตแล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน ไม่มีอารมณ์นั่งเล่นต่อ แต่ก่อนกลับพวกเธอยังมองวัตตาวาว ยิ่งกลเดินมาสมทบ ดวงตาพราวระยิบระยับสุดๆ

   หมากลยังคงเป็นหมากล พอเห็นสาวมีทีท่าสนใจแฟนตัวเอง มันเล่นโอบไหล่แสดงความเป็นเจ้าของ บางทีนี่อาจเป็นเหตุผลจริงๆ ที่พวกเธอตัดสินใจกลับบ้านแทนที่จะนั่งช้ำใจผู้ชายหล่อกินกันเอง

   ผมหันไปว่าจะถามเรื่องนัดกับพี่วิน แล้วไหงถึงโผล่มาแถวนี้ วัตไหวตัวทัน รีบบอกลาลากแขนกลขึ้นรถเผ่นไปอย่างไว ลินหัวเราะเสียงใสอยู่ข้างตัว

   “ขึ้นรถเถอะ เดี๋ยวไปส่งบ้าน เย็นมากแล้วทุกคนคงเป็นห่วง”

   ผมยื่นหมวกกันน็อคให้ลิน แต่ก่อนไม่มี นี่ผมใช้เงินของตัวเองซื้อให้เลย

   “ไวไว รถนายเป็นรอย” ลินตาโต ขณะสวมหมวกกันน็อคดูรอยขีดข้างตัวรถ คงเพราะผมโยนตอนแรกมั้ง คิดแล้วเจ็บจี๊ดที่หัวใจ เอาไว้พ่อจะเก็บตังทำสีใหม่นะลูก

   “ไม่เป็นไร ทำสีเดี๋ยวก็หาย”

   “ขอโทษนะ เพราะฉันแท้ๆ” ลินพูดอย่างสำนึกผิด ผมส่ายหัวใช้มือโยกหมวกกันน็อคอีกฝ่ายเบาๆ

   “อย่าใส่ใจเลย รถพังซ่อมได้ แต่ถ้าลินเป็นอะไรไป ฉันจะไม่มีวันให้อภัยตัวเอง”

   ผมตอบไปตามที่คิด ลินมองผมตาโตหน้าขึ้นสี ผมมองอย่างไม่เข้าใจ พอทวนคำพูดตัวเองดู ชิบ แม่งโคตรเสี่ยว อย่างกับในละคร ผมพูดออกไปได้ไงวะ เห็นผมเขินบ้างลินหัวเราะ

   “เพราะงี้ไง ถึงรัก”

   “พอได้แล้วน่า จะได้กลับมั้ยบ้านเนี่ย” ผมบ่ายเบี่ยงไปเรื่องอื่น ระหว่างขับมอไซค์กลับบ้าน ลินยังแซวผมไม่เลิก สุดท้ายต้องเปิดไฟจอดข้างทาง จุดนี้เป็นมุมอับไม่มีใครเห็น ผมเปิดหมวกกันน็อค หันมาจับจุ๊บปากเบาๆ ค่อยผละออก

   “ทีนี้เงียบได้รึยัง”

   เงียบกริบ ลินก้มหน้างุดๆ ผมแสร้งถอนหายใจขับรถต่อ ส่งลินถึงบ้าน บอกลากันนิดหน่อยค่อยขับกลับบ้านตัวเอง บอกเลย อารมณ์ล้วนๆ สัมผัสนุ่มนิ่มยังติดที่ริมฝีปาก บอกแล้ว ผมเป็นผู้ชายธรรมดา ขอแบบ นิดๆ หน่อยๆ บ้าง

   ถึงบ้าน กินข้าวอาบน้ำ ให้พ่อแม่ใช้แรงงานเสร็จ ผมค่อยเปิดเครื่องเล่นเกม เข้าไปโผล่อยู่กลางป่า ล่าสุดผมกับลินออกล่ามอนสเตอร์กันสองคน แดดส่องผ่านแมกไม้ โลกจริงเป็นตอนกลางคืน ส่วนในเกมเป็นตอนกลางวัน แดดจ้าได้ที่

   หางตาเหลือบเห็นมอนสเตอร์ไก่อ้วนลงพุงเดินผ่านมา มือเรียกไม้เท้าควงวอร์มร่างกาย กระโดดส่งลูกถีบกระต่ายตามด้วยไม้เท้าหวดซัดกันนัวตุบตับ เคลียร์มอนสเตอร์แถวนี้รอลินออนไลน์ ไม่นานจุดเดิมที่ผมโผล่เข้ามาทีแรก ปรากฎร่างพ่อมดหนุ่มยืนหันซ้ายหันขวา ราวกับมีเรด้าตรวจจับ ลินเดินดุ่มๆ มาหาผมคว้าแขนหมับลากเข้าเมือง ตรงดิ่งไปห้องพักที่ปาร์ตี้พวกผมจองเอาไว้

   ลินปิดประตูเท้ามือสองข้างบนบานประตู กักผมไว้ตรงกลาง สัญชาตญาณมันบอก ความซวยจะมาเยือนผมในอีกไม่ช้า

   “เดี๋ยว ใจเย็น จะทำอะไร” ผมยกมือห้าม มือพ่อมดไวเยี่ยงโจร หน้ากากผมถูกถอดออก

   “ตอนเย็นทำอะไรไว้ ฉันจำได้นะ นอกเกมมันไม่เหมาะ ขอเอาคืนในเกมแล้วกัน!”

   “เฮ้ย!”

   ลินโฉบหน้าลงมาประกบปากจูบ โคตรแตกต่างจากที่ผมทำ แบบนี้มันไม่แฟร์ ด้วยความที่ผมเองก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง โต้มา โต้กลับ สักพักไหงมาจบที่เตียงได้วะ! ผมโดนพ่อมดทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ สักวันหนึ่งเถอะ ผมจะบอกให้พี่วินเอาระบบความรู้สึกบ้าๆ นี่ออกไป แม้จะหนีการโดนสกินชิพไม่ได้ ก็ยังดีกว่าโดน... ว๊ากกก!

   ตกลงผมเป็นเกย์หรือเป็นผู้ชายกันแน่

   “เป็นอะไร ทำหน้ายุ่งเชียว ฉันทำไม่ดีเหรอ”

    ผมปัดมือที่กำลังเขี่ยหูกระต่ายออก

   “ฉันกำลังคิด ตัวเองรสนิยมแบบไหนกันแน่” ถึงบอกว่าเกย์ แต่ผมไม่สนใครนอกจากลิน กระต่ายไวไว ชีวิตว้าวุ่น

   “คิดมากทำไม สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะในหรือนอกเกม นายก็เป็นของฉันอยู่ดี”

   “…” โอเค ผมผิดเองที่ถามลิน ลินนอกเกมกับในเกม นิสัยแตกต่างกันมาก เพราะมีปัจจัยเรื่องความเป็นผู้หญิง กับสังคมเข้ามาเกี่ยวด้วย ลองลินไปเกิดในครอบครัวสุดชิวอย่างผมดิ คงกลายเป็นสาวห้าว

   “อย่าทำหน้าโหดงั้นสิ เสียดายหน้าตาหล่อๆ ของนายนะ”

   ลินพลิกตัวมาคร่อมอยู่เหนือตัว ผ้าห่มปิดเพียงท่อนล่างของพวกเรา แผงอกขาวมีกล้ามท้องพองาม ใบหน้าหล่อเหลา ดวงตาคมดูเจ้าเล่ห์ รอยยิ้มมุมปากไม่น่าไว้ใจ เรือนผมสีทองเหมือนเจ้าชายที่ไหนสักแห่ง ทุกวันนี้ผมยังสงสัย ทำไมลินโหมดชายถึงได้หล่อกระชากตับ ขนาดผู้ชายด้วยกันยังมองเหลียวหลัง ไม่ใช่หลงนะ อยากเข้ามาตื้บเพื่อลดคู่แข่งลง

   “หน้าตาฉันธรรมดา ไม่ใช่พวกหล่อเกินคนอย่างพวกนาย”

   ไม่ว่าลิน วัต หรือกล ไม่สิ ทุกคนรอบตัวผมมีแต่พวกหน้าตาดีจัดๆ ลินส่ายหัวทิ้งน้ำหนักตัวลงมากอด นอนทับผมเต็มๆ หนัก..

   “นายหล่อแต่ไม่ทำตัวเด่น ทุกคนเลยถูกดึงความสนใจมามองที่พวกเราหมด” วัตเองเคยพูดกับผมเหมือนกัน ตัวผมน่ะจะเรียกว่าหน้าตาดีเลยก็ได้ แต่เพราะชอบคิดว่าตัวเองหน้าตาธรรมดาหาได้ตามท้องตลาด และชอบทำงานหลังฉาก คนถึงมองไม่เห็นความหล่อของผม ถึงงั้น ไมผมมองหน้าตัวเองทุกวัน หาความหล่อไม่เจอ สงสัยรสนิยมคนเราต่างกัน

   “จะหล่อไม่หล่อ ยังไงก็มีแฟนแล้ว” ผมกอดกลับ ตบหลังอีกฝ่ายเบาๆ ลินร่างชายกอดเต็มแขนดีเหมือนกันนะ

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ลินแมนมากกกก 5555

ออฟไลน์ VentoSTAG

  • ไม่รักอย่าทำให้มโนฯ GO AWAY!!!
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-9
โถ....กระต่ายไวไว ไหนมาถอดหมวกให้พี่ดูหน้าซิว่าหล่อหรือไม่หล่อ
.
.
.

(เกมเมอร์รีพอร์ท) ดับอนาจ :jul1: ผู้เล่นใหม่ถูกเจี๋ยนแยกชิ้นด้วยนักรบโครงกระดูก o18
ผู้เห็นเหตุการณ์อ้าง ผู้ตายเกี้ยวกระต่ายของพ่อมดก่อน

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
โถ....กระต่ายไวไว ไหนมาถอดหมวกให้พี่ดูหน้าซิว่าหล่อหรือไม่หล่อ
.
.
.

(เกมเมอร์รีพอร์ท) ดับอนาจ :jul1: ผู้เล่นใหม่ถูกเจี๋ยนแยกชิ้นด้วยนักรบโครงกระดูก o18
ผู้เห็นเหตุการณ์อ้าง ผู้ตายเกี้ยวกระต่ายของพ่อมดก่อน


สู่สุขติ //ยืนสงบนิ่ง3วิ

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
เป็นคู่ชายหญิงที่เรานึกสงสัยว่านี่ใช่คู่ชายหญิงแน่เหรออออ แบบ ลินแมนมาก ถ้าไม่ได้เป็นผู้หญิงนี่คือรุกแมนๆคนหนึ่งเลยอ่ะ

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
หืมมมมมมมม เอาที่คนแต่งสบายใจค่ะ
เราอ่านแล้วก็โอเคดีนะ
รอละกันเนาะ

ออฟไลน์ fammi50

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
รอฉบับรีไรท์ค่าาาาาาา

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
อยากเห็นหน้าไวไวเหมือนกัน ลินอย่าเก็บไว้ดูคนเดียวเซ่

ออฟไลน์ nutae or

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
เนื้อหาตรงกับวันพ่อพอดีเลย อย่าลืมบอกรักพ่อกันนะครับ  :mew1:

----------------------------------------------------------------------------------------

Part3 พ่อ


   ตั้งแต่มีน้อง วินไม่ได้ตามพ่อไปทำงานอีกเลย ทุกวันถ้าไม่เล่นกับเพื่อนแถวบ้านจะต้องขลุกกับน้องชายวัยกำลังน่ารัก ชินเองยังคงสถิตอยู่บ้านนี้อย่างเหนียวแน่นอย่างเช่นวันนี้

   เนื่องจากช่วงนี้ยุงระบาดหนัก ที่โรงเรียนมีการพ่นยากำจัดยุงอย่างกะทันหัน เหล่าเด็กน้อยจึงได้หยุดอยู่กับบ้านแม้เป็นวันธรรมดา อาเนซไปทำงานตั้งแต่เช้า วันนี้มีหลายที่ ที่ต้องไป กว่าจะกลับคงมืดค่ำ เหลือเพียงภรรยาคนสวยกับลูกชายทั้งสามคนอยู่กับบ้าน

   ด้านนอกแสงแดดแผดเผาไม่อาจรบกวนเวลานอนกลางวันของเด็กวัยกำลังโตอย่างวัต ด้วยความที่รอบบ้านปลูกต้นไม้ให้ร่มเงา จึงมีเพียงลมพัดเย็นๆ เข้ามาภายในบ้านเท่านั้น วินกับชินนั่งเล่นเกมอยู่หน้าทีวีแบบปิดเสียง เพราะน้องชายกำลังหลับอยู่บนผ้าปูอยู่ด้านหลัง

   “อย่าออมมือดิ”

   เด็กผมทองวัยประถมโวยเสียงกระซิบกับเพื่อนซี้ ชินลังเลนิดหน่อยก่อนจะเริ่มเล่นแบบจริงจัง ผลที่ออกมาคือ วินแพ้ยี่สิบตารวด เจ้าตัวหัวเสียจนต้องเปลี่ยนเกมเล่นพวกแนวผจญภัยหรือแนวพัซเซิลไขปริศนาที่แสนจะถนัด

   ปกติวินเก่งไปซะทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องการเรียน กีฬา โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ ส่วนเรื่องที่วินไม่ถนัดมีแทบนับนิ้วได้ ยกตัวอย่างก็เกมแนวต่อสู้ที่แบ่งคนละฝั่งต้องโจมตีอีกฝ่ายจนกว่าหลอดเลือดจะหมด วินสามารถครองตำแหน่งผู้แพ้ได้อย่างเหนียวแน่น กับเรื่องงานฝีมือที่ห่วยเกินบรรยาย

   ชินแอบตั้งปณิธานเงียบๆ ในใจ สิ่งที่วินไม่ถนัด เขาจะอาสาเป็นคนทำเอง ไม่ใช่ว่ากลัววินลำบาก แค่ไม่อยากให้คนอื่นซวยเพราะวินมากกว่า ซึ่งคนซวยนั้นส่วนใหญ่จะเป็นเขาที่อยู่ข้างวินเสมอ ทั้งหมดทั้งสิ้นเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง! ชินตั้งมั่น

   ระหว่างกำลังเล่น คุณแม่ยกน้ำผลไม้กับขนมมาให้ลูกชาย พลางสั่งกำชับแล้วหยิบกระเป๋าตังค์กับโทรศัพท์มือถือเตรียมจะออกไปข้างนอก

   “แม่ออกไปจ่ายตังค่าน้ำค่าไฟก่อนนะเด็กๆ เฝ้าบ้านดีๆ ช่วยแม่ดูน้องด้วย”

   น้ำเสียงนุ่มนวลไพเราะพร้อมใบหน้ายิ้มแย้มแผ่ออร่าความเป็นแม่ผู้ใจดีออกมาเต็มเปี่ยม แต่คนที่รู้ฤทธิ์พระมารดาจริงคงมีเพียงคุณพ่อกับวินจอมซนเท่านั้น

   สองเด็กน้อยขานรับ พอรสาวางใจถึงค่อยปั่นจักรยานออกไปร้านสะดวกซื้อหน้าหมู่บ้าน แต่ก็ยังไม่วายฝากกับเพื่อนข้างบ้านอยู่ดี เวลาผ่านไปราวสิบนาที บ้านยังอยู่ในความสงบ จนกระทั่งมีเสียงกระดิ่งจักรยานดังขึ้นหน้าบ้านพร้อมเสียงตะโกนเรียกของเพื่อนวัยเดียวกัน

   “วิน! ชิน! ออกไปเล่นข้างนอกกัน”

   ด้านนอกหัวเราะกันเฮฮา ส่วนวินแทบจะขว้างจอยใส่หัวเพื่อน เด็กผมทองออกไปยืนจังก้าอยู่หน้าประตู ยกนิ้วชี้แตะปากแล้วส่งเสียงชู่ใส่

   “ให้เงียบเหรอ? เงียบทำไม แถวนี้ไม่เห็นมีผู้ใหญ่สักหน่อยเนอะพวกเรา”

   “ช่าย!”

   วินก้าวฉับๆ ไปยกขายันๆ จักรยานเพื่อนหัวโจก

   “ไม่มีผู้ใหญ่ แต่น้องฉันนอนกลางวันอยู่!!”

   ทุกคนพากันทำหน้าบรรลุ รีบยกมือทำท่ารูดซิบปิดปากราวกับจะบอกว่า จะไม่ส่งเสียงดังอีก เห็นแบบนั้นวินค่อยพยักหน้ารับอย่างพึงพอใจ

   ชินยังอยู่ในบ้าน มือเขากำลังช่วยตบก้นน้องเบาๆ เลียนแบบรสาเวลากล่อมวัตหลับ พอวัตที่ขยับตัวยุกยิกจากเสียงรบกวนเริ่มนอนนิ่งตามเดิมชินค่อยผละออกมาสมทบกับเพื่อนด้านนอก

   “วัตยังหลับอยู่ เอาไงดีวิน จะรอให้แม่รสากลับมาก่อน พวกเราค่อยไปเล่นมั้ย”

   วินถูกสายตาทุกคู่จับจ้อง เจ้าตัวกอดอกโครงหัวครุ่นคิด ปกติถ้าแม่ทำธุระเสร็จจะรีบตรงกลับบ้านมาทันที แต่ระหว่างทางจะชอบมีบ้านนู่นบ้านนี้เรียกไปคุยอยู่เรื่อยตามประสาแม่บ้าน บางครั้งยังคุยเพลินบ้างก็มี เรื่องนี้ขอรับประกันโดยวินที่เคยตามแม่ไปจ่ายตลาดเลย

   ดวงตาสีเทามองเพื่อนสลับมองเข้าไปในบ้าน เด็กวัยกำลังซนพอเพื่อนมาแทบอยากจะเหาะออกไปเล่นกับเพื่อน ส่วนชิน วินว่าไงว่าตามกัน ไม่รู้ว่าเพราะไม่คิดอะไรเลยหรือขี้เกียจคิดกันแน่

   ใจวินเอนไปทางเพื่อนมากกว่าครึ่ง ลังเลระหว่างจะให้พวกเพื่อนเข้าไปเล่นในบ้านดีมั้ย พอนึกขึ้นได้ว่าเจ้าพวกนี้เป็นพวกเก็บเสียงไม่เป็น มีหวังวัตได้ตกใจตื่นแหง ผลสรุปเลยกลายเป็นว่า

   “เอางี้ ข้างบ้านฉันมีที่อยู่ เราไปเล่นตรงนั้นกัน”

   “ได้ ส่วนปั่นจักรยานไว้รอแม่วินกลับมาก่อนแล้วกัน”

   หัวโจกพยักหน้ารับ วินวิ่งกลับเข้าไปปิดประตูให้เรียบร้อยแล้วไปเล่นกับเพื่อนอยู่ข้างบ้าน เล่นตรงนี้ นอกจากจะได้ดูน้องยังได้เล่นกับเพื่อนอีกต่างหาก เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว สุภาษิตที่ครูภาษาไทยเพิ่งสอนมาเมื่อวาน

   เด็กก็ยังคงเป็นเด็ก ต่อให้เรียบร้อยเชื่อฟังพ่อแม่แค่ไหน ถ้ามีเรื่องเล่นสนุกเข้ามาเกี่ยวข้อง ย่อมลืมเรื่องพวกนั้นจนหมดสิ้น เพื่อนคนหนึ่งที่มาช้ากว่าใคร ปั่นจักรยานมาบอกว่าแมวที่บ้านคลอดลูกแล้ว พวกเด็กพากันตาโตกระโดดขึ้นจักรยานกันหมด

   แมวเพื่อนคนนี้วินชอบไปเล่นด้วยบ่อยๆ พอรู้ว่ามันคลอดลูกอยากไปดูจนแทบทนไม่ไหว ยอมฝ่าฝืนคำสั่งแม่คว้าจักรยานออกมานอกบ้าน ชินจับเบาะหลังไว้ ขมวดคิ้วไม่ค่อยเห็นด้วย

   “เราไปไม่ได้ ต้องดูแลวัต”

   วินหัวเราะด้วยรอยยิ้มสดใส

   “ไปแปบเดียวเอง ไม่เป็นไรหรอก แค่ดูแวบเดียวจะรีบกลับมาเลย วัตเป็นเด็กขี้เซากว่าจะตื่นอีกนาน”

   เด็กผมทองไม่ปล่อยให้เพื่อนคิดนาน ดึงแขนให้ซ้อนท้ายแล้วซิ่งออกจากบ้านตามเพื่อนคนอื่นไปด้วยความเร็วแสง ถึงที่หมาย วินรีบปรี่เข้าไปดูคนแรก แมวสีสวาดตาฟ้ากำลังนอนให้นมลูกทั้งห้าตัว บางตัวเหมือนแม่ บางตัวขนลายเหมือนพ่อ

   “ตัวนี้น่ารักชะมัดเลย เดี๋ยวขอแม่เลี้ยงดีกว่า”

   วินชี้ไปทางลูกแมวที่ตัวเล็กสุด สีขนชวนงง ไม่รู้จะเหมือนพ่อหรือเหมือนแม่ดี ชินมองตาปริบๆ

   “น่ารักตรงไหน ขี้เหร่สุดๆ ตัวนั้นน่ารักกว่า”

   เพื่อนซี้ไม่เห็นด้วย จับจ้องลูกแมวอ้วนจ้ำม่ำลายเหมือนเสือ เด็กคนอื่นต่างพากันจองตัวนั่นตัวนี้ บางทีทะเลาะแย่งกันเป็นเจ้าของเป็นที่เอ็นดูของผู้ใหญ่ เด็กผู้ชายไม่ค่อยมีความละเอียดอ่อนเท่าไหร่ ดูได้แค่แปบเดียวเริ่มเบื่อกลับไปหาอะไรเล่นข้างนอกตามเดิม เว้นแต่วินที่ชอบแมวเป็นชีวิตจิตใจ นั่งดูเพลินจนลืมเวลา กว่าจะรู้ตัวอีกทีผ่านไปครึ่งชั่วโมง ชินมองนาฬิกาบนผนังถึงกับสะดุ้ง

   “วิน รีบกลับเหอะ เราออกมานานแล้วนะ”

   “อีกแปบ”

   ชินเลือกที่จะเงียบตามนิสัย ไม่พูดอีกเป็นครั้งที่สอง แต่ลากคอเสื้อวินออกไปทันทีโดยไม่สนเสียงโวยวาย แถมยังขึ้นจักรยานหันมาขู่

   “จะซ้อนหรือจะเดิน”

   คำถามง่ายๆ ที่วินได้คำตอบทันที เจ้าตัวขึ้นเหยียบที่วางเท้าแล้วเกาะบ่าเพื่อนซี้ ชินซิ่งกลับบ้านโดยไว สิ่งแรกที่วินมองคือรถจักรยานแม่บ้านของแม่

   “ค่อยยังชั่ว แม่ยังไม่กลับ”

   ขืนแม่กลับมาแล้วรู้ว่าพวกเขาแอบทิ้งน้องไว้ไปเที่ยวเล่น มีหวังได้ถูกดุยับแหง วินจับประตูรั้วถามชินด้วยความสงสัย

   “ชินนายไม่ได้ปิดประตูเหรอ”

   “ฉันปิดแล้ว”

   เด็กผมดำตอบเสียงหนักแน่น วินชักเริ่มรู้สึกไม่ดี เขารีบวิ่งเข้าไปในบ้านถอดรองเท้าทิ้งแบบไม่สนใจ หลังเห็นประตูบ้านเปิดแง้มอยู่ ดวงตาพลันเบิกกว้าง พุ่งสายตาไปยังผ้าปูที่วัตนอนอยู่ มันว่างเปล่า!

   “ชิน! วัตไม่อยู่!!”

   พี่ชายวิ่งหน้าตื่นออกมาหาเพื่อนที่กำลังจอดจักรยานเข้าที่ ชินตาโตมองไปรอบสวน

   “รีบแยกไปดูกันเร็ว วัตอาจจะยังอยู่ในบ้านก็ได้”

   สองเด็กน้อยไม่กล้ารอช้า วินเป็นคนดูด้านใน ชินวิ่งดูในสวนรอบบ้าน ทั้งคู่มาเจอกันหน้าประตู ใบหน้าซีดขาว วินนึกขึ้นได้ว่าแม่ฝากป้าข้างบ้านก่อนออกไปข้างนอก ไม่แน่บางทีป้าคนนั้นเห็นพวกเขาไม่อยู่เลยพาวัตไปดูแล

   วินปีนต้นไม้เตี้ยถามข้ามกำแพง ไม่อยากเสียเวลาวิ่งอ้อมไปหน้าบ้าน

   “ป้าครับ เห็นน้องผมรึเปล่า”

   หญิงวัยกลางคนผละจากงานบ้านเงยหน้ามองเด็กที่เธอเอ็นดูเหมือนหลาน

   “ป้าไม่เห็นนะจ๊ะ”

   “ขอบคุณครับ!”

   วินกระโดดลงจากต้นไม้สีหน้าแย่เต็มที ชินไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่ เขาจ้องที่จอดรถจักรยานเขม็ง บ้านของวินมีจักรยานอยู่สี่คัน คันแรกเสือภูเขาของพ่อ ยังคงจอดให้ฝุ่นเกาะอยู่ตามเดิม จักรยานแม่บ้านของแม่ จักรยานสองล้อของวิน และจักรยานสี่ล้อลายอุลตร้าแมนของวัต...

   มันหายไป!

   “น้องบ้าไม่น่าสอนปั่นจักรยานเลย!”

   พ่อเป็นคนสอนเขาปั่นจักรยาน ตัวเองเป็นคนสอนน้องอีกที วินโวยกับท้องฟ้าแล้วรีบปิดบ้านซ้อนท้ายชินเพื่อออกไปหาน้องข้างนอก หมู่บ้านที่พวกเขาอยู่ถือเป็นหมู่บ้านใหญ่พอสมควร แถมมีทางลัดซอกซอยเยอะ ได้แต่หวังว่าขาสั้นๆ ของวัตคงปั่นไปได้ไม่ไกล

   ป้าเพ็ญข้างบ้าน พอเด็กเด็กๆ รีบร้อนออกไป จากประสบการณ์เลี้ยงลูกหลานมาทำให้เดาได้ว่าเจ้าตัวเล็กหายออกจากบ้านแน่ๆ ส่วนหนึ่งเธอเองก็ผิดที่ไม่ทันใส่ใจดูแล ในฐานะผู้ใหญ่ต้องรีบบอกคนอื่นๆ แถวนั้นให้ช่วยกันออกตามหาแล้วโทรบอกรสาแม่ของเด็ก

   รสาตอนนั้นกำลังกลับพอดี เพราะเครื่องคิดเงินที่ร้านสะดวกซื้อมีปัญหา กว่าช่างจะมาซ่อมเสียเวลาไปไม่น้อย

   “สวัสดีค่ะ เด็กๆ ซนเหรอคะป้าเพ็ญ”

   คุณแม่ถามด้วยน้ำเสียงขบขัน แต่สิ่งที่เธอได้ยินทำเอาใจกระตุกวูบ แทบจะทำโทรศัพท์ร่วงจากมือ

   “รสาตาวัตหายไป ฉันกำลังออกตามหาพร้อมกับคนแถวนี้ เธอรีบกลับมาเถอะ”

   “ค่ะ ฉันจะรีบกลับไป แล้ววัตกับชินล่ะคะ”

   ต่อให้ตกใจแค่ไหน สิ่งที่คนเป็นแม่ควรมีในเวลานี้คือสติ เธอสูดลมหายใจลึก ถามถึงลูกชายอีกสองคนด้วยความหวังว่าเด็กๆ คงซนพาน้องออกไปเล่นเฉยๆ

   “เด็กสองคนนั้นรีบออกไปหาน้องแล้ว”

   “ขอโทษนะคะที่ทำให้วุ่นวาย”

   มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ทั้งที่ยังเร่งปั่นให้ถึงบ้าน อย่างน้อยเธอก็วางใจได้เปราะหนึ่ง ลูกชายคนโตกับเด็กที่เอ็นดูเหมือนลูกยังปลอดภัย

   “ไม่เป็นไร ฉันเองก็ผิด ทั้งที่เธอฝากไว้แท้ๆ รสา เธอรีบกลับมานะ ฉันจะออกไปหาต่อ”

   “ค่ะป้าเพ็ญ”

   มือเรียวสวยแต่หยาบกร้านจากการทำงานบ้าน กดวางสายปั่นไปถึงบ้านทั้งที่เหนื่อยหอบ ภายในบ้านไร้วี่แววของเด็กๆ รสารีบตามไปสมทบกับคนแถวนั้นออกตามหาลูก เสียงเรียกชื่อดังระงม ภายนอกแม้จะดูเข็มแข็ง แต่ในเวลานี้มือของเธอสั่นไปหมด ในหัวนึกภาพชายคนรักที่พึ่งพิงทั้งกายและใจ

   วัตจะต้องไม่เป็นไร ฉันจะต้องหาลูกให้เจอ...


   ทางฝั่งเด็กชายสองคน พวกเขาไปทุกที่ ที่เคยพาวัตไปและคาดว่าน้องชายจะอยู่ ไม่ว่าที่ไหนก็หาไม่เจอ ชินปั่นจนเมื่อยขาต้องสลับกับวิน พวกเขาช่วยกันตะโกนเรียกชื่อพลางถามคนแถวนั้นจนมาถึงสวนสาธารณะ เห็นพวกเพื่อนเลยจอดถาม เจ้าพวกนี้ปั่นไปทั่วหมู่บ้าน อาจจะเห็นบ้าง

   “เฮ้ย เห็นวัตกันมั้ย”

   เจ้าของแมวเตะบอลส่งให้เพื่อนแล้วตะโกนกลับมา

   “เห็นดิ วัตถามหาพวกนายอยู่ ฉันเลยบอกว่าอยู่ที่บ้าน... เฮ้ย! พวกมันรีบไปไหนกัน”

   ยังพูดไม่ทันจบประโยคดี สองพี่ชายรีบบึ่งกลับเส้นทางเดิม เพราะชินใช้ทางลัดกลับบ้าน คงจะสวนกันแน่ ปั่นจนไปถึงบ้านเพื่อน เห็นจักรคุ้นตาจอดอยู่ สองพี่ชายโยนจักรยานทิ้งพุ่งตัวเข้าไปเห็นน้องชายกำลังนั่งมองแมวอยู่ ใบหน้าน่ารักหันมายิ้มแป้นไม่รู้เรื่องรู้ราว

   “พี่วิน พี่ชิน! มาดูสิ ลูกแมวน่ารัก ไปขอแม่เลี้ยงกัน”

   สองพี่รู้สึกหมดแรง ทรุดลงนั่งเป็นหมาหอบแดด ตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อขนาดคุณน้าเจ้าของบ้านยังนึกเป็นห่วง

   “ไปเล่นที่ไหนกันมา ดูซิเหงื่อท่วมเลย อ้าว แล้วไม่ได้อยู่กับลูกชายน้าเหรอ”

   ทั้งคู่ส่ายหัว วินเป็นคนเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง หัวอกคนเป็นแม่เหมือนกันขมวดคิ้วรีบบอกให้วินกับชินรีบพาน้องกลับ ไม่รู้ว่าป่านี้รสาจะเป็นห่วงแค่ไหน เด็กสองคนรับคำ ยกมือไหว้ก่อนพากันกลับบ้าน

   ที่หน้าบ้านมีแต่ผู้ใหญ่ยืนเต็มไปหมด ที่โดดเด่นที่สุดคงเป็นคุณแม่ที่ยืนหน้าซีดอยู่หน้าบ้าน พอรสาเห็นลูกชาย รีบถลาเข้ามาหา จับเนื้อจับตัวลูบผมถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง

   “วัต! ลูกไปไหนมา พวกลูกปลอดภัยดีใช่มั้ย”

   “ผมไปดูลูกแมวมา แม่ฮะ ผมขอเลี้ยงแมวนะ”

   เด็กน้อยผู้ไม่รู้อะไร ทำอ้อนตาใส คนเป็นแม่คว้ามากอด ไม่ทันตอบคำถามหันไปขอบคุณทุกคนที่ช่วยออกตามหาลูกชาย

   “ขอบคุณมากค่ะที่ช่วยตามหาลูกฉัน”

   ผู้ใหญ่ชายหญิงพากันส่ายหัว ผู้หญิงเข้าใจกันเดินมาตบบ่าลูบหลัง

   “ไม่เป็นไร มีอะไรก็ช่วยๆ กัน ครอบครัวพวกเธอเองก็ช่วยเราเอาไว้เยอะ”

   “ใช่ๆ อีกอย่าง ถ้าไม่ช่วยหา มีหวังอาเนซได้อาละวาดหมู่บ้านแตกจนพวกเราไม่มีที่ซุกหัวนอนพอดี เฮ้ยพวกเอ็ง บอกคนอื่นด้วยเราเจอเด็กแล้ว”

   ผู้ชายอีกคนหัวเราะเบิกบานไม่ถือสาพลางหันไปตะโกนกระจายข่าวให้คนอื่น หลังเรื่องจบทุกคนพากันแยกย้ายกลับบ้านตัวเอง ส่วนเด็กชายสองคนผู้มีความผิดได้แต่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา คราวนี้รสาไม่ดุอย่างทุกที เธอเพียงแค่บอกว่าจะให้อาเนซมาจัดการและไล่ทุกคนไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ

   ช่วงค่ำหลังมื้อเย็น อาเนซนั่งฟังเรื่องทุกอย่างจากภรรยา มือใหญ่ลูบมือภรรยาเบาๆ มองด้วยแววตาชื่นชม

   “รสาเธอทำได้ดีแล้ว ไม่เป็นไรนะ”

   แค่เพียงคำพูดธรรมดากับน้ำเสียงอบอุ่นทำให้เธอทิ้งความกังวลได้อย่างหมดจด เธอยิ้มบางให้คนรักและพาลูกชายคนเล็กไปนอน เพื่อที่คุณพ่อจะได้สั่งสอนลูกต่อไป

   วินกับชินนั่งเงียบอยู่ในห้องนั่งเล่น ปกติเวลานี้ชินควรจะกลับบ้าน แต่เพราะพรุ่งนี้เป็นวันเสาร์เขาเลยค้างคืนกับวินเหมือนทุกที อาเนซออกจากห้องครัวที่คุยกับภรรยายืนมองลูกชายด้วยใบหน้าดุดัน

   “วินไปเด็ดก้านมะยมมา”

   คำสั่งเรียบง่ายทำให้วินหน้าซีดเพราะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป เขายอมออกไปในสวนเด็ดก้านมะยมมาตามที่พ่อสั่ง อาเนซรูดใบมะยมทิ้งทั้งหมด เรียกวินไปยืนกอดอกอยู่ตรงระเบียงติดกับสวน

   “ลูกรู้รึเปล่าว่าทำอะไรผิด”

   “รู้ครับ” วินตอบเสียงเบา ชินเริ่มนั่งไม่ติดด้วยความเป็นห่วงเพื่อน บ้านเขาไม่มีการตีแบบนี้ แม้จะได้ยินวินบ่นเรื่องโดนแม่ตีบ่อยๆ แต่ยังไม่เคยเห็นกับตา มาวันนี้ถึงรู้ว่ามันน่ากลัวสุดๆ คิดว่าน่ากลัวว่าแม่รสาด้วย

   “รู้ว่าอะไร”

   อาเนซถามด้วยน้ำเสียงปกติ ไม่มีการตะคอก แดกดัน ประชดหรืออะไรทั้งสิ้น เขาต้องการสั่งสอนลูก ไม่ใช่ข่มให้ลูกกลัวตัวเอง

   “ผมไม่ทำตามที่แม่สั่ง ปล่อยน้องให้อยู่คนเดียว”

   “ดี ถ้าเข้าใจแล้วพ่อจะลงโทษลูก วันหลังห้ามทำแบบนี้อีก”

   วินพยักหน้ารับขอบตาแดงก่ำ ริมฝีปากเม้มแน่นเตรียมรับความเจ็บ ยังไม่ทันที่อาเนซจะง้างมือตี ชินกลับวิ่งเข้ามาขวาง

   “เดี๋ยวครับ! ถ้าจะลงโทษ ลงโทษผมด้วยเพราะผมเองไม่ยอมห้ามวิน”

   อาเนซนึกถึงพ่อของเด็กตรงหน้า ทางนั้นเลี้ยงลูกอย่างกับเทวดาคงไม่เคยตีลูกแน่ แต่พอนึกถึงเรื่องที่อีกฝ่ายฝากให้ดูแลสั่งสอนลูกชายได้เต็มที่ จึงพยักหน้ารับ

   “พ่อจะตี 5 ที คนหนึ่งต้องโดนสามที อีกคนจะโดนแค่สอง พวกลูกเลือกมา” เขาลดมือลงถามอย่างใจเย็น

   “ผมขอสามทีครับ!”

   ชินตอบทันที วินสวนขึ้นมาอย่างไม่ยอม

   “ไม่ได้ ฉันต้องโดนสาม นายโดนแค่สองพอ คนที่ไม่ฟังและชวนนายออกไปคือฉัน”

   วินประกาศกร้าว ภายนอกอาเนซไม่มีท่าทีกับการทะเลาะกันของเด็กสองคนตรงหน้า แต่ลึกๆ ในใจ เขากำลังภูมิใจในตัวลูกชายและลูกของเพื่อน

   “ดี! ลูกผู้ชาย กล้าทำต้องกล้ารับ ทั้งคู่กอดอกหันหลัง!”

   เขาสั่งเสียงเข้ม คราวนี้วินไม่มีอาการกลัวเท่าตอนแรก แม้จะยังหวาดๆ แต่ดูเหมือนยืดอกรับความผิดที่ตัวเองก่อ เด็กทั้งสองโดนตามจำนวนที่ระบุไว้ อาเนซไล่ทั้งคู่ไปนอน เด็กสองคนพากันลูบก้นเดินขึ้นชั้นบน ทั้งที่เจ็บแสนเจ็บ แต่พยายามกลั้นน้ำตาไม่ยอมร้องไห้ทั้งคู่ พอลับสายตาไป เขาโยนก้านมะยมทิ้งราวกับไม่อยากแตะมันอีกเป็นครั้งที่สอง

   ความจริงมีอีกวิธี ที่จะลงโทษโดยไม่ต้องตี คือการพูดให้สำนึกว่าตัวเองทำอะไรลงไปและผลที่ตามมามันร้ายแรงแค่ไหน แต่เด็กทั้งคู่อายุแค่นี้ หากใช้วิธีแบบนั้นเกรงว่าจะมีผลกระทบทางด้านจิตใจ ผู้นำครอบครัวถอนหายใจเฮือกใหญ่ จังหวะเดียวกับที่ภรรยาลงมาหาพอดี

   “รับบทโหดที่ไม่ชิน ลำบากหน่อยนะ”

   รสากลับเห็นท่าทางงุ่นง่านของสามีเป็นเรื่องขำ เลยโดนค้อนไปทีหนึ่ง

   “ที่รัก เธอก็รู้ว่าฉันรักลูกแค่ไหน ให้มาดุด่าตีเองกับมือฉันอยากจะโดนแทนด้วยซ้ำ ต่อให้เจ็บแค่ปลายก้อยก็ไม่อยากให้เจ็บ”

   “ปากพูดแบบนี้ แต่เมื่อกี้ไม่ออมมือเลยไม่ใช่เหรอ ถึงได้ลูบก้นกันขึ้นไปชั้นบน” มือเรียวลูบต้นแขนคนรัก อาเนซถอนหายใจอีกเฮือกหนึ่ง

   “ถ้าออมมือไว้ตีเบาแบบเธอลูกก็ไม่จำน่ะสิ ว่าแต่ ดูเจ็บมากเลยเหรอ ฉันว่ายั้งๆ แรงไว้บ้างแล้วนะ จริงสิ”

   พูดจบเจ้าตัวเดินไปคุ้ยตู้ยาสามัญประจำบ้าน หยิบเอากระปุกขี้ผึ้งสมุนไพรสูตรบ้านรสามาส่งให้ภรรยา

   “ก่อนนอนเอาไปทาให้เด็กๆ ที”

   “จ้าๆ นายเอกก็ขึ้นไปอาบน้ำได้แล้ว วัตรอฟังนิทานก่อนนอนอยู่นะ”

   พอบอกว่าลูกชายคนเล็กรอ คนพ่อก้าวเท้ายาวๆ ขึ้นไปชั้นบนอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อ คว้าหนังสือเรื่องตำนานหมาป่ามาอ่านให้ลูกฟัง ตัดพวกฉากโหดร้ายทั้งหลายทิ้งจนหมด ตัวอาเนซก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ทำไมลูกชายคนเล็กถึงไม่ชอบฟังนิทานอย่างเด็กเลี้ยงแกะ หนูน้อยหมวกแดงเหมือนเด็กคนอื่น สุดท้ายก็สะบัดหัวไล่ความคิดนั่นทิ้ง ขอแค่ลูกมีความสุขก็พอแล้ว

   วันถัดมา วินกับชินยังออกอาการเกร็งเวลาเจอพ่อ อาเนซต้องไปร้องกระซิกกับภรรยาทุกคืน จะใจอ่อนไปโอ๋เอาใจก็ไม่ได้ เดี๋ยวเสียการปกครอง ผ่านไปสามวันวินกลับมาซนกวนพ่อตามเดิม ชินแม้จะเงียบเป็นปกติ แต่ให้ความรู้สึกสนิทสนมเป็นครอบครัวกันมากขึ้นจนอาเนซเริ่มคิด ยึดมาเป็นลูกตัวเองอีกคนเลยดีมั้ยนะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-12-2015 19:16:40 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
อ้อยยยย!! น่ารัก

ออฟไลน์ fammi50

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
ชอบเรื่องนี้จัง วินชินวัตน่าร้ากกกกกกกกก  :-[

ออฟไลน์ VentoSTAG

  • ไม่รักอย่าทำให้มโนฯ GO AWAY!!!
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-9
จะมีเรื่องไหนที่พ่อตาจะรักลูกเขยขนาดอยากยึดมาเป็นลูกอีกคนเนี่ย :hao7:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-12-2015 15:25:17 โดย VentoSTAG »

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
Part4 เปลี่ยน

   ไม่รู้ว่าทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อไหร่ อาจจะเริ่มตอนช่วงผมขึ้นมัธยม ผมเรียนต่อที่โรงเรียนเดิม มีเพื่อนใหม่เข้ามา พอๆ กับมีเพื่อนเก่าย้ายออกไป ส่วนชินยังคงอยู่กับผมตลอด บางทีได้อยู่ห้องเดียวกัน บางทีก็แยกห้องบ้าง ซึ่งมันไม่เป็นปัญหา ช่วงพักเราจะมาเจอกันและไปหาวัต

   วัตเป็นเด็กสดใสเหมือนเคย เขามีเพื่อนเยอะไม่ต่างจากผม สามารถทำให้ทุกคนมีรอยยิ้มได้ การเรียนถือว่าปานกลางไม่ได้เก่งเหมือนอย่างผมหรือชิน แต่เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว ขอแค่น้องผมมีความสุขก็พอ

   ส่วนผม ความสุขมันเริ่มหายไป...

   ช่วงแรกของการขึ้นมัธยมทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ผมทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ ผ่านไปแค่เดือนเดียว บรรยากาศรอบตัวผมต่างไปจากเดิม ทุกคนยังขอให้ผมช่วยเรื่องการบ้าน ติวสอบ งานกลุ่ม แต่ท่าทีเหล่านั้นมันดูมีอะไรแอบแฝง

   พวกเขายิ้มแย้ม ขอให้ผมช่วย ชมว่าผมเก่งดีอย่างงั้นอย่างงี้ พอผมได้รับคำชมจากครู ได้รางวัลจากงานแข่งวิชาการ เพื่อนทุกคนยิ่งเปลี่ยนไป พวกเขาเข้าหาผมแค่เฉพาะเวลาที่ต้องการให้ช่วย นอกจากนั้นมักจะจับกลุ่มคุยกันเอง ทุกคนในห้องไม่ได้เล่นด้วยกันอีก คนนั้นไม่ถูกกับคนนี้ คนนี้นินทาคนนั้น แบ่งพรรคแบ่งพวก

   ผมไม่เข้าใจ ผมลองไปถามชินดู เขาเพียงแค่มองผมนิ่งๆ แล้วบอกผมว่าผมคิดมากเกินไป ไม่ต้องสนใจใคร ทำตัวอย่างปกติก็พอแล้ว

   อย่างที่ชินพูด ใครจะเป็นยังไงไม่สำคัญ ทุกคนคงเปลี่ยนไปด้วยวัยที่เข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ความชอบ รสนิยมเริ่มแตกแยกย่อยมากขึ้น ไม่เหมือนแต่ก่อน วันๆ ไม่คิดเรื่องอะไรนอกจากเล่นเที่ยวตามประสา

   แถมยังมีเรื่องความรักเข้ามาอีก สังคมที่โรงเรียนเริ่มแย่ลงทุกที ผมมองสิ่งเหล่านั้นด้วยสายตาเบื่อหน่าย ไม่เข้าใจจะอิจฉาไปทำไม ใครแย่งใครมันสำคัญตรงไหน จนกระทั่งเรื่องมาเกิดกับตัวเอง เพื่อนผู้หญิงต่างห้องที่ชอบผม

   ผมโดนแซวกับเพื่อนผู้หญิงคนนั้นบอกว่าเป็นแฟนกัน แฟนบ้าอะไร เบอร์โทรยังไม่มี ขนาดชื่อผมยังจำได้แค่ชื่อเล่น นอกนั้นไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเธอเลยสักอย่าง ผมก็เบื่อที่จะค้าน พอบอกว่าไม่ได้คิดอะไร ก็ถูกทำเสียงแซว น่ารำคาญ เลยเลือกที่จะปล่อยไป เอาไว้พวกนั้นมีหัวข้อใหม่มาพูดเดี๋ยวก็เลิกไปเอง

   เรื่องเงียบไปอย่างที่คิด แต่มีบางคนไม่จบ ระหว่างนั่งกระดิกเท้าแอบกินขนมใต้โต๊ะเรียน มีเพื่อนที่เคยอยู่ห้องเดียวกันสมัยประถม บุกมาหาผมถึงห้อง บอกให้ไปเจอกันตอนเลิกเรียนมีเรื่องอยากจะคุยด้วย ผมหรี่ตามอง นึกถึงหนังสือการ์ตูนที่เพื่อนบางคนชอบอ่านขึ้นมาทันที

   ผมไปตามนัด ไม่ได้บอกชินเพราะพวกนั้นบอกให้ผมมาคนเดียว แต่ไหงมันมาพวกมาตั้งสามคน

   “มึงเลิกยุ่งกับกิ๊ฟซะ”
   
   ผมขมวดคิ้ว กิ๊ฟไหนวะ

   “อย่ามาทำเป็นแกล้งโง่! มึงทำกิ๊ฟเสียใจ ถ้ามึงไม่รักเธอก็ปล่อยเธอไปสิวะ” ผมงงเป็นไก่ตาแตก หลุดถามไปแบบมึนๆ

   “กิ๊ฟไหน ไม่รู้จัก”

   มันหน้าดำหน้าแดง เหมือนโกรธผมมาสิบชาติ

   “ไอ้ชั่วเอ๊ย ทั้งที่ตอนเด็กกูคิดว่ามึงนิสัยดี ไม่นึกเลยว่ามึงจะเหี้ยขนาดนี้ กับผู้หญิงคนเดียวยังทำได้ อย่าอยู่เลยมึง!!”

   มันถลาเข้ามาจะซัดผม หนึ่งหมัดเต็มๆ หน้า เจ็บสลัด ได้กลิ่นเลือดในปาก พ่อผมต่อให้โกรธแค่ไหนยังไม่เคยทำให้ผมได้เลือดเลยนะเว้ย ด้วยความหงุดหงิดที่จู่ๆ มันซัดผมโดยที่ไมไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด เลยซัดกลับ มันชกหนึ่งทีผมจัดมันสอง เพื่อนมันเข้ามาช่วย ผมก็จัดมันทั้งหมด ต่อให้ตายก็ต้องเอาเลือดพวกมันออกมาให้ได้!

   วันนั้นผมกลับบ้านไปในสภาพน่วมสุดๆ ชิงหนีจากชิน สั่งไม่ให้มันมาบ้าน ไม่งั้นเดี๋ยวมันตามไปอัดพวกนั้นเข้าโรงบาลแหง

   วัตเห็นผม อ้าปากค้างปล่อยจอยในมือลงพื้นก่อนวิ่งแหกปากไปบอกแม่ว่าผมต่อสู้กับมอนสเตอร์มา ส่วนแม่แค่มองด้วยรอยยิ้มบอกว่าผมโตเป็นหนุ่มแล้วสินะ พ่อกลับบ้านมาตอนค่ำจ้องผมเขม็งด้วยตาแดงก่ำ

   “ใครรังแกลูกบอกพ่อมา!”

   “มันเป็นเรื่องของเด็กผู้ใหญ่ไม่เกี่ยว” ผมโบกมือใส่ พ่อทำหน้ารับไม่ได้ เกาะซบแม่บอกว่าผมอยู่ในวัยต่อต้าน

   เวลาเข้านอนวัตกระแซะมาหาผมที่ห้อง ความน่ารักในตอนเด็กมันหายไปตามวัย ตอนนี้เหลือแค่น้องชายเกรียนๆ หนึ่งคน

   “พี่สู้กับมอนสเตอร์ตัวไหนมา”

   “หน้าตาเหมือนคน แต่สมองโง่กว่าควาย”
 
   “พี่กับมันใครชนะอะ” วัตถามตาวาว ผมควรจะลดไม่ให้น้องเล่นเกมไปมากกว่านี้ คิดว่าพี่ชายตัวเองเป็นตัวละครในเกมรึไงหา!?

   “แน่นอน ระดับนี้ พี่ชนะ” อาศัยเครื่องทุ่นแรงนิดหน่อย อย่างกระเป๋า ก้อนหินแถวนั้น สี่รุมหนึ่งนะเฮ้ย

   “วันหลังพาผมไปด้วยนะ”

   ผมหรี่ตามอง ขยี้หัววัต

   “เก็บเวลให้ตันก่อนค่อยคุยกัน” วัตส่งเสียงชิแล้วสะบัดหน้างอนออกจากห้องผมไป บางทีคนที่ทำให้น้องเป็นแบบนี้คงเป็นผมเอง ไม่น่าสอนเล่นเกมเลย น่าจะพาเล่นพวกลุงท่อประปา

   วันถัดแม่ ผมถูกเรียกผู้ปกครองไปพบ รวมกับโจทย์ทางนั้น พ่อผมไม่ว่างแม่เลยมาแทน แม่นั่งด้วยรอยยิ้มถามไถ่เด็กพวกนั้นอย่างเป็นห่วง หันมาดุผม

   “วิน วันหลังห้ามทำแบบนี้รู้มั้ยลูก กลับไปแม่จะบอกให้พ่อจัดการให้เข็ด! ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะคะ ที่ลูกชายทำแบบนี้ ดิฉันจะสอนเขาเอง ส่วนเรื่องค่ารักษาพยาบาลทางเราจะออกให้ทั้งหมด”

   พ่อเนี่ยนะจะจัดการผม แค่ผมแกล้งแหย่นิดหน่อยก็หงอยแล้ว ไม่มีทางซะล่ะ เมื่อวานยังจะดื้อไม่ยอมไปทำงานเพื่อมาดูหน้าเด็กที่รังแกลูกชายตัวเองอยู่เลย ดีที่มีแม่คุม ไม่งั้นผมกับวัตคงไม่มีเงินเรียนหนังสือ ส่วนผู้ปกครองพวกนั้น พอได้ยินว่าจะได้ค่ารักษา จากหน้าบูดเป็นตูดลิง กลับยิ้มคุยกับแม่ผมอย่างเมตตาว่าเด็กคงเล่นซนกันพวกเขาไม่ถือสา แต่ให้เลขบัญชีมาเสร็จสรรพ พอครูเห็นว่าเราเคลียร์กันได้ ไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ เลยปล่อยผ่านไป แค่ให้ผมกับพวกนั้นติดทัณฑ์บนเอาไว้

   ผมโดนแม่ลากกลับมาคุยที่รถด้วยสีหน้าจริงจัง

   “บอกสาเหตุมาว่ามันเกิดจากอะไร”

   นี่แหละคนที่น่ากลัวที่สุดในบ้าน

   “พวกรู้เหมือนกันแม่ จู่ๆ พวกนั้นก็เรียกผมไปคุย หาว่าผมทำผู้หญิงคนหนึ่งเสียใจ ชื่อกิ๊ฟอะไรเนี่ยแหละ ผมไม่รู้จักด้วยซ้ำ แล้วพวกนั้นก็มาชก ผมเลยสวนกลับ ผิดตรงไหนเนี่ย” ผมบ่นอุบ ก่อนจะกระพริบตาปริบๆ เอ๊ะ คนที่ชื่อกิ๊ฟ ใช่คนที่เคยโดนแซวตอนนั้นรึเปล่านะ ช่างเถอะ รับมือแม่สำคัญกว่า

   “ลูกชกกลับไปกี่หมัด”

   “ไม่รู้ดิ มันซัดมาหนึ่งผมจัดไปสอง มันถีบมาหนึ่งผมถีบไปสอง ถ้ามันรุม ผมก็เอาของแถวนั้นมาเป็นอาวุธจัดการ”

   “วันหลังห้ามทำแบบนี้อีกนะเข้าใจมั้ย”

   ผมหันหน้าหนี รับเสียงเนือง ผมผิดตรงไหนเนี่ย พ่อกับแม่เป็นคนสอนผมเองนะ ถ้าใครมารังแกผมกับน้องให้จัดการกลับสองเท่า

   “คราวหน้าต้องทำแบบแนบเนียน ไม่ต้องต่อยกลับ ยอมโดนนิดหน่อยแล้วไปบอกครูจัดการพวกนั้นซะ หรือไม่นอกรั้วค่อยจัดการ ไม่ได้การ ลูกชายโตเป็นหนุ่มแล้ว ต้องมีวิชาป้องกันตัว เดี๋ยวแม่จะบอกให้พ่อถามคนรู้จักให้ จะพาลูกกับชินไปฝึกสักหน่อย”

   ผมรีบหันกลับมาจับมือแม่ตาโต

   “เดี๋ยวแม่ใจเย็น”
   
   “ใจเย็นไม่ได้แล้ว ลงไปเรียนซะ แม่จะโทรหาพ่อ”

   แล้วผมก็ถูกแม่ถีบส่งลงจากรถ ให้ตายเถอะ บ้านผมมีคนธรรมดามั้ยเนี่ย ความจริงพ่อกับแม่ตอนแต่งงานเกิดอุบัติเหตุบางอย่างทำให้นิสัยสลับกันรึเปล่า

   ระหว่างผมจะเดินกลับ ชินยืนดังสีหน้าทมึนเกินบรรยาย คงจะรู้เรื่องทุกอย่างแล้ว

   “ทำไมไม่บอก”

   “เรื่องมันจบไปแล้ว เอาเป็นว่าหลังจากนี้ถ้ามีเรื่องออกกำลังกาย ฉันจะพานายไปด้วย”

   ชินไม่เคยขัดผมได้สักครั้ง ทำหน้าโกรธไม่เท่าไหร่ก็ถอดใจ เปลี่ยนตัวเองเป็นเงาตามติดผมทุกฝีก้าว บางวิชายังเนียนมานั่งเรียนด้วยจนครูแทบจะลืมแล้วว่าความจริงมันอยู่ห้องไหน

   หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ผมกับชินโดนจับไปฝึกจริงๆ ทุกวันอาทิตย์ แถมก็มีข่าวลือออกมาเพียบ ไม่ว่าจะเรื่องผมเจ้าชู้ชอบคบผู้หญิงแล้วทิ้ง ต่อหน้าครูทำเป็นเด็กดี ลับหลังเป็นเด็กเกเร มีกระทั่งผมโกงข้อสอบทำให้ผมคะแนนดี ชอบหาเรื่องชกต่อยคนอื่นโดยมีชินเป็นลูกสมุน ผมอยากหัวเราะให้ฟันร่วง

   ที่ผมมีแผลบ่อยก็เพราะพวกนั้นชอบมาหาเรื่อง ที่ผมเรียนได้ดีเพราะผมตั้งใจเรียน ส่วนเรื่องหน้าตาดี อันนี้โทษผมไม่ได้นะ ต้องไปโทษพ่อกับแม่ พ่อหล่อราวดับเทวดา แม่สวยอย่างกับนางฟ้า ถ้าผมเกิดมาหน้าตาเหมือนมังกรพ่อคงคิดแล้วล่ะ ว่าแม่ผมกำลังมีชู้

   แต่สิ่งที่น่าโมโหคือ วัตโดนไปด้วยเพราะเป็นน้องชายผม เด็กบางคนไม่ยอมเล่นเพราะกลัวว่าผมจะไปตามชก หลังๆ ผมเลยไปหาวัตน้อยลงจนแทบไม่ได้เลย น้องผมช่างให้ความร่วมมือ วิ่งขึ้นมาชั้นสี่หาผมเองถึงที่

   “ไหนพี่บอกจะเลี้ยงขนมไง!”

   “เอาไว้เลิกเรียนขากลับนะ”

   “ไม่ได้ สัญญาต้องเป็นสัญญา พี่วินมาเลี้ยงขนมผมกับเพื่อนเดี๋ยวนี้ พี่ชินด้วย”

   ผมกับชินมองหน้ากัน ยอมให้น้องชายตัวเล็กลากไปโรงอาหาร ที่นั่นมีเพื่อนวัตรอก่อนแล้ว เด็กบางคนเกร็งๆ เมื่อเห็นพวกผม แต่พอขนมมาเท่านั้นแหละ ลืมไปจนหมดสิ้น เห็นน้องชายโอเคดีผมก็วางใจ


   ว่าด้วยเรื่องแฟนคนแรกของผม เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันแต่อยู่คนละห้อง เธอนิสัยดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น แอบชอบผมแบบเงียบๆ ไม่เหมือนคนอื่นที่แสดงอาการชัดเจนว่าสนใจ ทุกวันผมจะเจอผู้หญิงสะดุดเข้าหาหรือเดินชนไม่รู้กี่รอบ ชินมันแทบแบกผมขึ้นแล้วเดินด้วยซ้ำ

   หน้าตาเธอไม่โดดเด่น แต่นิสัยดีน่ารัก ผมเลยลองคุยดู แอบแลกเบอร์คุยกันโดยไม่ให้ใครรู้ยกเว้นชิน ก็ในเมื่อเจ้าตัวเสนอให้ผมลองคบเอง ทำตัวเป็นพ่อสื่อ จะไม่รู้ได้ยังไง

   พอวันหยุดจะไปเดทกันตามประสาแฟน ที่เดทจะเป็นพวกร้านหนังสือที่เธอชอบ ร้านขนมบรรยากาศสงบ ทำอย่างมากแค่จับมือ เห็นท่าทางเขินอายผมยิ่งชอบ เธอบอกว่าเหมือนเป็นความฝันที่ได้คบกับคนเพอร์เฟคอย่างผม ในวันที่ผมคิดจะพาเธอไปเที่ยวที่บ้าน ให้ลองสัมผัสครอบครัวผมดู ความจริงก็ถูกเปิดเผย

   ความลับไม่มีในโลก ไม่รู้ใครเห็นตอนเราเดินเที่ยวกันอาทิตย์ก่อน ถ่ายรูปมาเผยแพร่ พูดปากต่อปากจนข้อมูลผิดเพี้ยนไปหมด เธอถูกเพื่อนผู้หญิงรังแกเพราะเธอมายุ่งกับผม ผมไม่สามารถปกป้องเธอได้ตลอดเวลา ท้ายที่สุด เธอก็ย้ายโรงเรียนออกไป

   ผมยอมโดดเรียนหนึ่งวันไปหาเธอที่บ้าน ถึงได้รู้ว่าเธอกำลังจะย้ายออกไปอยู่ต่างจังหวัด สาวแว่นท่าทางเรียบๆ เธอมีรอยยิ้มอบอุ่นจับมือผมเอาไว้

   “อย่าคิดมากนะวิน ฉันย้ายไปเพราะพ่อต้องไปทำงานที่นั้น”

   “เธอจะไปเมื่อไหร่”

   “อีกสามวัน”

   ต่างคนต่างเงียบ ลังเลที่จะพูดความในใจออกมา ผมตัดสินใจถาม

   “เรายังคบกันอยู่รึเปล่า”

   “ขอโทษนะ” เธอตอบทันที คงจะคิดเรื่องนี้ไว้แล้ว แค่ประโยคสั้นๆ สามารถอธิบายได้ทุกอย่าง ผมพยักหน้ารับแล้วยิ้มบอกลา

   “โชคดี”

   ถือว่าหลังจากนี้เราไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันอีก ถามว่าผมเสียใจมั้ย เสียใจอยู่ ความรู้สึกที่ผมมีให้เธอเป็นของจริง แต่เรายังเด็ก มันก็แค่ประสบการณ์ครั้งหนึ่งก่อนที่จะโตเป็นผู้ใหญ่ บางทีคงดีกว่า ถ้าผมไม่คบผู้หญิงคนไหนเลย ผมมีวัต มีชิน มีครอบครัว ไม่ได้โหยหาความรักจากคนอื่นขนาดนั้น

   ชินโดดเรียนตามผมมายืนหลบมุมรออยู่ ไอ้เสือผู้หญิงเลิกคิ้วมอง

   “อกหักแล้ว ยินดีด้วย”

   ผมยกขาถีบไปที อย่างมันมีหน้ามาพูดกับผมเรอะ หักอกสาวเป็นว่าเล่น

   “หรือนายจะแนะนำสาวให้” ผมสวนกลับ มันส่ายหัว

   “พวกนั้นไม่ได้เรื่อง” วาจาเรียบเฉย ผมเจ็บปวดแทนผู้หญิงเหล่านั้นจริงๆ ไม่รู้ว่าผมดูแลชินผิดตรงไหน ทำไมถึงกลายเป็นเสือผู้หญิงได้ขนาดนี้ ยังอยู่ม.ต้นกันแท้ๆ

   ปากบอกชินเสือผู้หญิง หลังจากนั้นดูผมไม่ค่อยต่างเท่าไหร่ คบๆ เลิกๆ เป็นว่าเล่น จะข่าวอะไรออกมาเลิกสนใจไปนานแล้ว ก็นะ ในเมื่ออยากคบกันนักหนา ผมเลยลองคบดูให้สมใจอยาก แต่ไม่ได้ตามไปดูแลอะไรเหมือนแฟนคนแรกผมหรอก ผมไม่ได้ชอบหนิ แค่สนองให้

   แล้วผู้หญิงทุกคนต้องบอกเลิกกับหมดผม ไม่ก็ผมเป็นฝ่ายบอกเลิกเอง เหตุผลง่ายๆ คนพวกนั้นให้ผมเลือกระหว่างตัวเองกับวัต บ้ารึเปล่า ผมก็ต้องเลือกน้องผมดิ วัตสำคัญกว่าชีวิตผมซะอีก ยัยพวกนั้นท่าจะประสาท

   ชินชะตากรรมไม่ค่อยต่างจากผมเท่าไหร่ แต่ทางนั้นเด็ดขาดและเย็นชากว่ามาก เมื่อไหร่ที่มันไม่พอใจ มันบอกเลิกมันเดี๋ยวนั้น อย่างเช่นเหตุการณ์ตรงหน้า

   “ชิน! เรามาเดทกันนะ ทำไมวินต้องมาด้วยล่ะ”

   “พูดเรื่องอะไร ฉันบอกแต่แรกจะไปซื้อของกับวิน เธออยากตามมาเอง”

   “แต่ฉันเป็นแฟนนาย!”

   “วินเป็นเพื่อนฉัน”

   “ฉันกับวินนายจะเลือกใคร!!”

   “เลิกกันเถอะ วิน นายบอกจะซื้อแผ่นเกมใหม่ใช่มั้ย ไปกัน”

   มันเดินล้วงกระเป๋านำหน้าผมแบบหล่อๆ ทิ้งผู้หญิงกระทืบเท้ากรี๊ดๆ อยู่ด้านหลัง ในอดีตผมมีศัตรูแค่ผู้ชาย ปัจจุบัน กระทั่งพวกผู้หญิงยังมารังควานเพราะชินทำตัวติดกับผมมากเกินไป กุมขมับ

   กลับถึงบ้าน เห็นวัตกำลังนั่งละเลียดขนมอยู่ในห้องนั่งเล่น ผมขมวดคิ้ว มั่นใจว่าค่าขนมของวัตไม่มีทางซื้อขนมเยอะแยะขนาดนี้แน่

   “เอามาจากไหน”

   ผมถามระหว่างลงมานั่งกินด้วยพลางยื่นให้ชิน

   “ของพวกพี่”

   ถุงขนมแทบร่วงจากมือ

   “นายแอบเอาตังเก็บซื้อเกมพี่ไปซื้อขนมเรอะ!”

   “ไม่ใช่สักหน่อย พวกผู้หญิงฝากผมมาให้พี่กับพี่ชิน” ผมโยนถุงขนมทิ้ง หมดอารมณ์จะกิน ชินหนักกว่า โกยขนมไปลงขยะ ไว้ชีวิตไว้แค่ถุงเดียวในมือวัต คงทำใจแย่งขนมจากมือน้องไปทิ้งไม่ได้

   “โหยพี่ ทิ้งทำไม น่าเสียดาย”

   “วันหลังไม่ต้องเอามา บอกไปว่าพวกพี่ไม่รับ” ชินกำชับเสียงเข้ม วัตยักไหล่ มั่นใจเลยว่าพวกเราจะไม่เห็นขนมมากองที่บ้านอีก เพราะวัตคงจัดการกับเพื่อนที่โรงเรียนไปแล้ว


   พอเข้าสู่ช่วงม.ปลาย จุดพลิกผันทั้งหมดเริ่มจากจุดนี้ ชีวิตผมดำเนินไปแบบที่เคยเป็นจนถึงม.6 ทุกคนกำลังเตรียมตัวเข้ามหาลัย หลายคนท้องจนต้องเลิกเรียนไป แน่นอนว่าไม่ใช่ฝีมือผมกับชินแน่ๆ เราสองคนไม่ไร้น้ำยาขนาดทำพลาดอย่างงั้น

   ผมกับชินเลือกเข้ามหาลัยเดียวกันทั้งคณะและสาขา ผมสืบทอดความสามารถจากพ่อมาอย่างเต็มเปี่ยม ขนาดผู้ใหญ่หลายคนยังต้องจับตามอง แต่พวกเขาทำอะไรไม่ได้เพราะผมยังเรียนม.ปลายอยู่ ที่สำคัญ ไม่รู้พ่อจัดการอิท่าไหนคนพวกนั้นถึงเลิกวุ่นวายกับผม

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
Part4 เปลี่ยน (ต่อ)

   ในวันสุดท้ายก่อนทุกคนจะแยกย้ายไปตามทางของตัวเอง นัดกันที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่ง ผมเองก็ไปด้วย ส่วนชินไม่อยู่ ทางนั้นถูกพ่อลากไปช่วยงานเลยไม่ได้ตามมาเป็นเงา

   ความมืดสลัว เสียงเพลงมันๆ ชวนให้ขยับร่างกาย แก้วเหล้าชนดื่มกันมั่วไปหมด กับแกล้มแทบไม่มีใครแตะ แต่ขวดเหล้ากับน้ำแข็งถูกสั่งเพิ่มไม่ได้ขาด โดยเฉพาะแก้วของผมไม่เคยพร่องลงสักนิด จวนจะหมดต้องมีคนเติมให้

   เริ่มดึกพวกผู้หญิงขอตัวกลับเหลือแค่กลุ่มผู้ชายนั่งดื่ม ผมแปลกใจนิดหน่อย ถึงจะเป็นผู้หญิง ก็เป็นพวกขาเที่ยวไม่น้อยกว่าผู้ชาย จะว่าไป นอกเหนือจากพวกเที่ยวกลางคืน ไม่เห็นมีใครมาเลยแฮะ เอาเถอะ พวกเด็กเรียนมันคงไม่อยากมาฉลองในที่แบบนี้ สงสัยจะนัดนอกรอบกันอีกที

   “ชินไปไหนวะวิน” เพื่อนคนหนึ่งถาม ผมหันไปมองตาปิดครึ่ง ไม่ใช่เมา กำลังสังเกต พวกมันมีท่าทางแปลกๆ

   “มันไปช่วยพ่อ หรือพวกมึงคิดถึง?”

   ไอ้กลุ่มนี้เคยมีเรื่องกับชินมาก่อน พวกมันปากหมาขอให้ผมช่วยงานแล้วพูดทำนองว่าผมเก่งตั้งแต่เกิด ไม่ต้องพยายามอะไรคงทำได้หมดทุกอย่าง ผมเข้าใจว่ามันหลุดปากตามอารมณ์ ชินมันไม่ยอมจัดหนึ่งหมัดปากแตกฟันโยก ทุกวันนี้พวกมันคงยังขยาดอยู่

   “พวกกูจะไปคิดถึงมันทำไม โหดชิบหาย เอ่อ...วินถามอะไรอย่าง มึงคิดไงกับผู้หญิงอายุเยอะกว่า”

   ผมขมวดคิ้วท่าไม่ดี กลับตอนนี้ดีมั้ยนะ

   “สิ่งมีชีวิตเพศแม่ที่เกิดก่อน” ผมตอบตามที่คิด พวกมันทำหน้าเหมือนผมไม่ใช่คน กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่มาจากต่างโลก

   “ไม่ใช่ดิ เอาดีๆ ชอบรึเปล่า ไม่ชอบ หรือเฉยๆ”

   “เฉยๆ กูว่ากูกลับล่ะ” ผมจะลุก พวกมันยื้อไว้ ยัดเหล้าแก้วใหม่ใส่มือผม

   “เดี๋ยวดิ จะรีบกลับทำไมวะ เอางี้ หมดแก้วนี้พวกกูปล่อยมึงเลย”
   
   เอาวะ ผมตอนนี้แค่กริ่ม ถือว่าคอแข็ง อีกแก้วเดียวไม่มีทางล้มแน่ ผมยกแก้วกระดกตัดปัญหา กระแทกแก้วลงบนโต๊ะ จ้องเขม็งใส่พวกมันเป็นเชิงว่าพอใจรึยัง พวกมันทำสีหน้าโล่งอก นั่งรั้งตัวผมไว้ ดูลุ้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป ประจวบเหมาะกับมีกลุ่มผู้หญิงน่าจะอยู่มหาลัยเดินเข้ามานั่งใกล้ผมสามคน แต่ละคนเหมือนเอาเศษผ้ามาทำชุด

   “น้องวินนี่นา พวกพี่อยากเจอมานานแล้ว ตัวจริงหล่อกว่าในรูปอีก”

   ผมจับมือเธอออก พูดอย่างเดียวไม่ต้องลูบอกผมก็ได้

   “ขอบคุณที่ชม ขอตัว ต้องรีบกลับบ้าน”

   “เดี๋ยวสิ จะรีบไปไหน อยู่กับพวกพี่ก่อนสิจ๊ะ” อีกคนมากระซิบข้างหูเป่าลม ผมขนลุกซู่ มั่นใจว่าตัวเองควบคุมอารมณ์ความต้องการเก่งมาก แล้วไหงแค่นิดเดียวมันชักตื่นๆ แล้ววะ ผมตวัดสายตามองพวกเพื่อนที่เริ่มทยอยลุกไป พวกมันทำสีหน้าอิจฉาแกมสะใจ

   “พวกผมกลับก่อนนะ พวกพี่สาวตามสบาย โชคดีว่ะวิน ทิ้งท้ายก่อนจากนะมึง”

   “ขอบคุณน้องๆ มากนะ ทั้งหมดที่กินไปไม่ต้องจ่าย” สาวคนที่สามล้วงหยิบแบงค์พันออกจากอกยื่นให้พวกนั้น ผมรู้สึกตัวเย็นเฉียบ มองภาพเบื้องหน้าอย่างตื่นตะลึง

   “โอ๋ๆ ตกใจเหรอจ๊ะ อย่าโกรธพวกเพื่อนเขาเลยนะ เด็กๆ อย่างพวกเธอคงไม่มีมาเที่ยวเล่นนักหรอก แล้วยังติดหนี้ร้านของพี่ชายฉันไว้เยอะซะด้วย ถือว่าช่วยๆ กันเนอะ”

   ผมกัดฟันแน่นจนเลือดไหนออกตรงมุมปาก รู้สึกโมโหแทบอยากร้องไห้ เพื่อนมันขายผมให้กับพวกนี้แลกค่าเหล้า! ช่วงที่ผมโกรธจนแทบคลั่ง นั่งกำหมัดแน่นอยู่กับที่ ผู้หญิงสามคนเข้ามาลวนลาม ในนั้นไม่มีใครสนใจผมเลยสักคน แถมยังมองด้วยความอิจฉา

   “หล่อจังเลยนะ ทั้งที่อายุแค่นี้ หุ่นดีอีกต่างหาก เล่นกีฬาเหรอ” ผมกระชากมือที่กำลังล้วงลงข้างล่างออก สะบัดตัวลุกจากที่ พอพวกเธอดึงผมซัดหลังมือใส่แบบไม่เกรงใจ

   “อย่ามาจับ! ขยะแขยงพวกผู้หญิงโสโครก!!”
   
   คล้ายจะเดือดบ้าง พวกเธอคิดจะเข้ามารุมลากผม คนที่ดูเหมือนจะเป็นน้องสาวเจ้าของร้านสั่งให้ลูกน้องวิ่งมา ผมคว้าขวดเหล้า ทุบกับโต๊ะให้แตกเป็นฟันฉลามแล้วชูขู่ ขณะเดินออกจากร้าน มืออีกข้างหยิบมือถือขึ้นมาโทรไปหาชิน

   “กูให้เวลามึงห้านาที ไปเจอกันที่คอนโด ถ้ามึงไม่โผล่หัวมา มึงอย่ามาให้กูเห็นหน้าเป็นครั้งที่สอง”

   ผมกดตัดสาย โบกแท็กซี่ตรงไปคอนโดชิน พ่อมันซื้อให้เป็นของขวัญเรียนจบ มันทำคีย์การ์ดกับกุญแจสองชุดไว้ให้ผมชุดหนึ่ง

   “น้อง วางลงก่อนมั้ย” แท็กซี่มือมองผมหวาดๆ ผมเงียบไม่พูด เขาเลยรีบเหยียบให้ถึงที่หมาย ก่อนหน้านี้มันมืดคงมองไม่เห็น ไม่งั้นเขาคงไม่รับผมขึ้นรถแน่

   ชินมาไวกว่าที่คิด กว่าผมจะถึงคอนโด เห็นมันยืนรออยู่ข้างล่างแล้ว ผมจ่ายตังลงจากรถมันรีบวิ่งเข้ามาหา พอเห็นของในมือดวงตาพลันเบิกกว้าง มันกำมือผมแน่น

   “เกิดอะไรขึ้น ใครทำมึง!”

   น้ำเสียงเดือดดาลอย่างน้อยครั้งจะได้เห็น ผมยอมปล่อยปากขวด มันโยนทิ้งไปไกลๆ แล้วรีบพาผมขึ้นห้อง อาการของผมคนอย่างมันต้องมองออก

    ใบหน้าแดงก่ำ ขบฟันจนขึ้นสันนูน เหงื่อเย็นไหลออกตามตัว ผมกำลังอดทนอยู่ ดีที่มันเป็นแค่ยาปลุก รวมกับความโกรธทำให้ผมยังพอมีสติกลับมาถึงห้องชินได้ ถ้ามันเป็นยาอย่างอื่น ผมคงกลายเป็นของเล่นคนพวกนั้น แต่ความอดทนของผมจวนจะหมดลงแล้ว

   มือกระชากชินเข้าหาทั้งที่ยังไม่ปิดประตูดี ชินขมวดคิ้วใช้เท้าถีบประตูปิดล็อกแบบลวกๆ ก่อนลากผมเข้าห้องน้ำโยนใส่อ่างแล้วเปิดน้ำเย็นรดหัวทั้งสภาพแบบนั้น

   “วิน! ตั้งสติหน่อย” มันกดตัวผมไว้กับอ่าง สมองผมรู้สึกมึนเบลอเหมือนคนเมา สติพอมีเหลืออยู่น้อยนิด แต่ความต้องการมีมากกว่า ยิ่งอีกฝ่ายเป็นคนที่ผมวางใจ ไม่จำเป็นต้องคิดอะไรอีก ผมดึงมันลงมาอยู่ในอ่างด้วยกัน ยื้อกันไปมา ชินจำต้องช่วยผมด้วยมือซ้ำแล้วซ้ำเล่า กว่าจะสงบลงไม่รู้เวลาผ่านไปเท่าไหร่

   ต่างคนต่างนั่งหอบอยู่ในอ่าง ผมหอบเพราะปลดปล่อยไปหลายครั้ง ส่วนชินมันหอบเพราะต้องปลุกปล้ำอยู่กับผมจนเริ่มสงบ สภาพพวกเราเปียกปอนทั้งคู่

   ชายผมทองเสื้อยืดกางเกงยีนถูกปลดออก ส่วนอีกคนมาแบบเต็มยศทั้งชุดสูท มือเสยผมเปียกชุ่มไปทางด้านหลัง เขาถอดสูทออกปลดกระดุมเชิ้ต

   ในห้องมีเพียงเสียงน้ำตกกระทบ ชินยื่นมือไปตบแก้มเพื่อนเบาๆ ด้วยความเป็นห่วง

   “เป็นไงบ้างวิน” เจ้าของชื่อนั่งเท้าแขนอยู่ตรงขอบอ่างท่าเดิม ไม่ตอบ กลับเป็นฝ่ายถามซะเอง

   “นายคิดยังไงกับฉัน”

   แม้จะสงสัย แต่ก็ตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมา

   “นายคือทุกสิ่งของฉัน”

   “รักฉันรึเปล่า”

   คนฟังส่ายหัว จับมือผมแน่น

   “ฉันไม่ได้รักนาย มันมากกว่านั้น แม้แต่ชีวิตฉันก็ให้ได้”

   ผมไม่แปลกใจกับคำตอบ ถึงไม่พูด พวกเราต่างรู้กันเป็นอย่างดี ผมสอดนิ้วกับมือชิน ตัดสินใจแล้วว่าใครคือคนที่อยู่ข้างผมตลอดไป

   “มาคบกันเถอะชิน”

   ชินขมวดคิ้ว เขาดูไม่ดีใจกับคำนี้เท่าไหร่

   “เกิดอะไรขึ้น”

   “ฉันตัดสินใจแล้ว เรามาคบกัน คบในแบบของเรา แค่นายเท่านั้น ชิน”

   น้ำเสียงคล้ายอ้อนวอนแบบที่ชินไม่เคยได้ยินมาก่อน สีหน้าอีกฝ่ายทำให้คนมองรู้สึกเจ็บปวด ช่วงที่เขาไม่อยู่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ เขาหลับตา ก่อนจะลืมตาขึ้นมาใหม่พร้อมกับคำตอบ

   “ได้ แค่นายกับฉัน”

   ราวกับมีแรงดึงดูด แนบริมฝีปากอีกครั้ง คราวนี้มันนุ่มนวลเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึก ก่อนจะทวีความเร่าร้อนตามลำดับ พวกเราไม่ใช่พวกไก่อ่อนทั้งคู่ เริมขยับเครื่องติดทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ผมผละริมฝีปากออก แลบลิ้นเลียปากอีกฝ่ายที่ถูกผมบดจูบตอนแรกจนแตก

   “ครั้งแรกของพวกเราทั้งที ห้องน้ำเป็นทำเลที่ไม่ค่อยเหมาะมั้ง ไปที่เตียงกัน”

   ชินไม่คิดปฏิเสธ เขาปิดน้ำลุกตามคนเดินนำไปที่เตียง เสื้อผ้าทุกอย่างถูกถอดทิ้งไปตลอดทาง สองร่างทาบทับ ปลุกเร้าเนิบช้าสลับเร่งเร้าอย่างมีชั้นเชิง ตลอดการสัมผัสริมฝีปากแทบไม่ละออกจากกัน เจลถูกนำมาใช้ แต่ถุงยางไม่จำเป็น ชายผมทองขมวดคิ้วรับสัมผัสที่ตนเองเป็นผู้ทำ ขณะแนบจูบสร้างรอยบนผิวคนด้านใต้ มือร้อนคอยประคองคนด้านบนเอาไว้ ทั้งที่ไม่โดนยา แต่ภาพที่เห็นทำเอาแทบอดใจไม่ไหว

   เขาขยับรูดทั้งสองไปพร้อมกัน ร่างสมส่วนผิวขาวขยับเคลื่อนไหวอยู่ด้านบนคอยคุมเกมทุกอย่าง มือสอดนิ้วประสานกับชินกดไว้ข้างหมอน สะโพกสอบได้รูปขยับขึ้นลงพร้อมเสียงครางเครือ แม้จะเจ็บจนเหงื่อตกแต่ยังคงกดกายลงจนสุด ทุกอย่างเข้าทีความเสียวซ่านเริ่มตามมา

   มือขาวลูบไล้ยกตัวขึ้นขบเม้มแผ่นอกอีกฝ่าย ขณะขยับกายสอดประสานกันอย่างเร่าร้อน ความแน่นตึงในช่องท้องบวกกับแรงเสียดสีสร้างความเจ็บระคนวายหวานปลุกความกระสันให้พุ่งสูง ยิ่งพอช่วงท้าย ยิ่งเร่งจังหวะจนสิ่งที่อยู่ในร่างกระตุกปลดปล่อยของเหลวร้อน พร้อมกับคนคุมเกมปลดปล่อยตามมา

   ทั้งสอบพักหอบหายใจให้อารมณ์สงบลงบ้าง

   “เป็นไงบ้าง” ชินถอนกายออกถามด้วยความเป็นห่วง ผมปัดมือออก

   “อีกรอบ”

   “ไม่ได้ นายปล่อยไปเยอะแล้ว” คำตอบไม่เข้าหู ผมย้ายเท้าไปอยู่กลางหว่างขาอีกฝ่าย ดูซิ จะทนได้อีกน้ำ ฝั่งชินปั้นหน้าเครียด สุดท้ายก็ทนไม่ไหว กระโจนเข้าใส่ผมอยู่ดี รอบนี้ผมยอมให้เขาคุมเกมบ้าง แม้ว่าปลายทางชินจะพยายามมอบความสุขสมให้ผมอย่างเดียวก็ตาม

   เขายอมให้ผมทำทุกอย่างกับร่างกายในระหว่างที่ขยับสะโพกแรงไม่ตก ผมมองใบหน้าชินในมุมที่ไม่เคยเห็น หยดเหงื่อเกาะพราว ผมรั้งใบหน้าหล่อเหลาให้จมูกโด่งมาซุกแถวคอ อนุญาตให้เขาทำรอย ชินหอบหายใจร้อนรดผิว ริมฝีปากดูดเม้มเจ็บเหมือนมดกัด ชื่นเพราะน้ำลาย

   ปากร้อนเลื่อนมาแถวไหปลาร้า วาดผ่านแผ่นอกกระเพื่อมหอบหายใจกับความหนักหน่วงที่ได้รับ ไล่ไปจนถึงปลายเท้า ดวงตามองลึกซึ้ง

   “วิน...” เสียงทุ้มพร่าเอ่ยเรียก ผมขานรับในคอ

   เราทำจนกว่าจะพอใจ กระทั่งจบรอบสุดท้าย ผมยกเท้ายันอกอีกฝ่ายให้ถอยออกไป ชินยอมถอยโดยดี ด้านล่างรู้สึกโล่งหลังถูกเติมเต็มมานาน แต่ยังทิ้งความรู้สึกอึดอัด ไม่ต้องถามเลยว่าอะไร ฝีมือคนตรงหน้าล้วนๆ ไม่เคยปล่อยด้านนอกสักรอบ

   ความรู้สึกของการรับครั้งแรก บรรยายไม่ถูกจริงๆ รู้แต่ว่าตอนนี้เพลียมาก จากอะไรหลายๆ อย่าง ผมเลยหลับไปทั้งแบบนั้น ปล่อยที่เหลือให้ชินจัดการ

   ตื่นขึ้นมาอีกทีด้านนอกก็สว่างแล้ว เนื้อตัวสะอาด ชินคงจับผมอาบน้ำตั้งแต่เมื่อคืน ลองหันมองข้างตัวเห็นกลุ่มผมดำยุ่งเหยิงจากการถูกผมทึ่งโผล่พ้นจากผ้าห่ม ผมใช้มือลูบเล่น ชินพลิกตัวมามอง ผ้าห่มร่นลงล่าง เห็นว่าบนผิวเขามีรอยจูบมากกว่าผมซะอีก ดวงตาคมหรี่มองคล้ายยังไม่ตื่นดี ผมเลยก้มลงไปจูบปากดูดแบบไม่เกรงใจ ชินต้องยอมตื่นอย่างช่วยไม่ได้

   “เมื่อคืนนายดื่มตั้งเยอะ สร่างแล้วเหรอ แล้วร่างกายเป็นไงบ้าง เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

   ตื่นมาถามมาก รู้งี้ผมไม่ปลุกดีกว่า

   “ทีละเรื่อง ฉันยังไม่สร่าง ไปหาอะไรมาให้กินที”

   เจ้าตัวถอนหายใจพยักหน้ารับ ลุกขึ้นไปดื้อๆ เสื้อผ้าไม่มีสักชิ้น ถ้าไม่ใช่ว่าเมื่อคืนสติครบถ้วนรวมกับอาการเสียดของผม ผมคงเข้าใจว่าเป็นชินที่เสียตัว มันโดนผมฟัดยับ คงเป็นเพราะฤทธิ์ยายังหลงเหลืออยู่ เจ้าตัวหยิบกางเกงสวมเดินหายจากห้องไปสักพัก กลับมาพร้อมกับเครื่องดื่มแก้เมาค้าง คงจะซื้อติดห้องไว้ กับของทานง่ายๆ ยามสาย

   ผมกินไปเล่าเรื่องทุกอย่างให้ชินฟังไปด้วย พร้อมกับชินที่ใบหน้าดำมืดขึ้นทุกที ที่ผ่านมาผมยังยอมรับได้ขี้ปากไม่ทำให้เจ็บตัว ต่อยตรงๆ ดีกว่าลอบกัด แต่ครั้งนี้หนักหนาเกินไปสำหรับผมจริงๆ ก็ยังดีที่ผมกับชินได้มหาลัยแล้ว เหลือแค่รอเวลาเปิดเทอมเท่านั้น

   “นายพักสักหน่อย ตอนเย็นฉันจะไปส่งที่บ้าน”

   ผมล้มตัวลงนอนเป็นตัวขี้เกียจให้ชินปรนนิบัติสักวัน ชินกำมือถือออกไปคุยที่ระเบียงสีหน้าเคร่งเครียด ต่อให้ผมไม่ได้ยินว่าเขาคุยอะไร ก็พอเดาได้ว่าไม่พ้นเรื่องผม คนพวกนั้นคงไม่ได้ตายดี หากเป็นแต่ก่อนผมคงห้าม แต่ตอนนี้ผมคงต้องเปลี่ยนนิสัยแสนดีของตัวเอง

   หลับตานึกทบทวนทุกเรื่องที่ผ่านมา เพื่อนทุกคนผมช่วยเหลือตลอด ไม่ว่าจะเรื่องเรียนหรือเรื่องส่วนตัว ขนาดมันทำผิดพอมันขอร้องผมยังช่วยไปคุยกับครูให้จนมันรอด พวกผู้หญิงโดนผู้ชายรังแกวิ่งให้ผมช่วย ผมไม่เคยเกี่ยง แล้วสิ่งที่คนพวกนั้นตอบแทนผมคืออะไร ต่อหน้าชมเชยยิ้มแย้ม ลับหลังด่าว่านินทา สร้างข่าวเสียๆ หายๆ ท้ายที่สุด พวกมันถึงขั้นขายผมเพื่อเงิน พวกที่รู้แต่ไม่เตือนถือว่าเลิกแล้วต่อกัน ส่วนพวกที่จงใจทำมันต้องเจอยิ่งกว่าผม

   ชินเปิดประตูเข้ามา ผมหันไปมองด้วยรอยยิ้มเย็นกับสายตาว่างเปล่า

   “ฉันจะเปลี่ยนตัวเอง จะไม่โง่เหมือนอย่างเก่า หลังจากนี้ถ้าฉันเป็นซาตาน นายจะยังอยู่ข้างฉันมั้ย”

   ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มมุมปาก

   “รอจะอยู่ข้างนายจนแทบทนไม่ไหว ถ้านายเป็นซาตาน ฉันจะเป็นอัศวินปีศาจ ถ้านายไม่มีความสุข ฉันจะเป็นคนสร้างรอยยิ้มให้นายเอง”

   ชินยกมือผมแนบริมฝีปาก ผมหัวเราะดีดใส่ด้วยความหมั่นไส้ นิสัยของพวกเราคงเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่ตอนนั้น

   เรื่องวิธีจัดการก็ไม่ยาก อาศัยความสามารถกับเส้นสายของผมกับชินเผยความผิดของพวกนั้นออกมาแฉให้หมด จนบ้านลุกเป็นไฟหลังรู้นิสัยที่แท้จริงของลูกหลานตัวเอง ร้านเหล้านั่นทำความผิดไว้หลายอย่าง สุดท้ายต้องปิดตัวลง ผู้หญิงสามคนนั้น เราไม่คิดปล่อยไว้ แต่ใช้วิธีเดียวกันกับอดีตเพื่อนร่วมห้อง
   
   ทุกอย่างจบลงด้วยดี ผมกับชินเตรียมตัวเข้าสู่รั้วมหาลัย พร้อมทัศนคติที่เปลี่ยนไป

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ VentoSTAG

  • ไม่รักอย่าทำให้มโนฯ GO AWAY!!!
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-9
ผูกพันธ์กันมาตั้งแต่เล็กๆ คำว่ารักเหรอ คู่นี้เกินคำนั้นไปแล้วจริงๆ

 o12 ข้องใจอย่างนึงเหมือนกัน ทำไมผู้หญิงหาได้น้อยคนมากที่จะ
เว้นระยะให้แฟนกับเพื่อนเขา หรือน้องเขา ทำไมชอบยื่นคำขาดให้เลือก
เพื่อนผู้ชายผมเห็นทะเลาะกับแฟนยาวๆ หรือจบกัน ก็เพราะให้เลือกนี่แหละ
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
ผูกพันธ์กันมาตั้งแต่เล็กๆ คำว่ารักเหรอ คู่นี้เกินคำนั้นไปแล้วจริงๆ

 o12 ข้องใจอย่างนึงเหมือนกัน ทำไมผู้หญิงหาได้น้อยคนมากที่จะ
เว้นระยะให้แฟนกับเพื่อนเขา หรือน้องเขา ทำไมชอบยื่นคำขาดให้เลือก
เพื่อนผู้ชายผมเห็นทะเลาะกับแฟนยาวๆ หรือจบกัน ก็เพราะให้เลือกนี่แหละ
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ จะอยู่กันได้ ต้องเว้นพื้นที่ส่วนตัวให้กัน และเข้ากับครอบครัวได้ด้วย  o13

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
เป็นกำเนิดที่ชอบค่ะ ชอบวินแบบดาร์กๆมากกว่าสำหรับเรา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด