*ตรวจคำผิดจะลงซ้ำจ้าPart13 Come Back หลังจากวันนั้น ผมใช้วันหยุดพักผ่อนอยู่กับบ้านสองวันเต็ม เช้าวันถัดไปเข้าบริษัท ตกเย็นกลับบ้านกินข้าวกับน้องชายแล้วดูแลแมว ผมไม่ขอบรรยายช่วงเวลาระหว่างนั้นก็แล้วกัน เพราะว่ามันธรรมดาซะจนไม่มีอะไรน่าสนใจ ที่เห็นจะพิเศษคงมีแค่เรื่องนายท่าน กินจุโตวันโตคืน เผลอแปบเดียวจากตัวเล็กแค่ฝ่ามือก็ตัวใหญ่จนต้องใช้สองมืออุ้มซะแล้ว พร้อมกับความหยิ่งที่มากขึ้นตามวัย ผลจากการถูกผมและวัตตามใจจนเสียแมว
เดี๋ยวนี้ ผมไม่ได้ติดต่อชินผ่านทางโทรศัพท์อย่างเดียว พอเกมทางนู่นเปิดตัวอย่างเป็นทางการ พวกเราก็ใช้เวลาว่างเข้าไปเจอกันในเกม ร่วมผจญภัยไปด้วยกัน เก็บเลเวล เกรียนใส่คนอื่น คอยดูว่าผลตอบรับของผู้เล่นเกมเป็นอย่างไรบ้าง ส่วนบันกำลังเตรียมตัวเป็นประธานคนใหม่ เวลาเล่นเกมเลยน้อยลงไปด้วย นานๆ ครั้งจะโผล่มาแจมปาร์ตี้กับพวกผม
โดยส่วนตัวแล้ว ผมได้เห็นเกมที่ตัวเองสร้างกับตา เกิดเป็นความภาคภูมิใจถึงที่สุด ยิ่งเห็นรอยยิ้มของผู้เล่น ความมีชีวิตชีวา ถึงจะมีเรื่องน่ารำคาญ จากพวกผู้เล่นแย่ๆ บ้างแต่นั่นก็เป็นสีสันของเกม โลกเสมือนจริงที่เปิดกว้างให้ทุกคน ทุกเชื้อชาติเข้ามาสัมผัสกับความหัศจรรย์ของมัน
ในที่สุด ความฝันของพวกเราทั้งสามคนก็เป็นจริง ครั้งก่อน เรายืนอยู่บนยอดผาของเกมอื่น คราวนี้เรายืนอยู่บนต้นไม้ที่เห็นภาพโดยรวมมากที่สุด ผู้เล่นใหม่กำลังตีมอนสเตอร์อยู่ในทุ้งหญ้ากว้าง ชาวเมืองที่เป็นพนักงานบริษัทให้คำแนะนำ เสนอขายสินค้าเริ่มต้นกันอย่างคึกคักภายในเมือง
พวกที่ได้รับคำสาปมีปีกพากันบินอยู่เต็มน่านฟ้า ประสานงานกับผู้เล่นภาคพื้นดิน มีทั้งชายหญิงหลากหลายเผ่าพันธุ์ สกิลจากอาวุธต่างๆ และจากเวทมนต์เป็นประกายสวยงาม สุดสายตานั้นมีผืนน้ำกว้างสีครามจรดขอบนภาสีฟ้ากระจ่าง สมกับเป็นโลกแฟนตาซีในความฝัน
“เฮ้อ เห็นแบบนี้แล้วบรรยายไม่ถูกเลยแฮะ ว่ารู้สึกยังไง” ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของบัน ความรู้สึกมันเต็มตื้อในอก ยากจะบรรยายเป็นคำพูดจริงๆ
“ไม่ต้องบรรยายซะก็จบ อย่างนายมันไม่เหมาะกับอะไรที่มันละเอียดอ่อนหรอก”
วาจาเหน็บแนมจากจิ้งจอก ไม่ระคายผิวอีกาที่สำเร็จวิชาหูทวนลม
บนยอดไม้ใกล้เมืองเริ่มต้นปรากฏเงาร่างของชายสามคน ผู้ที่อยู่ทางซ้ายคือจิ้งจอกหนุ่มสวมชุดยูกาตะสีดำเช่นเดียวกับสีขน พวงหางทั้งสามส่ายไปมาตามอารมณ์ ส่วนด้านขวาเป็นร่างสูงใหญ่ของเทนกุที่ใส่ชุดแหวกแนวไม่สมเผ่าพันธุ์ บนแผ่นหลังมีปีกสีดำเหลือบเขียวขยับน้อยๆ คล้ายอยากจะโบกจิ้งจอกให้ร่วงตกต้นไม้
ตรงกลางระหว่างพวกเขาทั้งสองคน คือเทพบุตรซาตานที่หลายคนกล่าวขานถึง เขาสวยโค้งไปด้านหลัง เรือนผมสีทองลับใบหน้าปานรูปสลักประดับรอยยิ้มชวนลุ่มหลง ปีกสีขาวคล้ายจะทอประกายจางๆ ยามต้องแสงแดด ดวงคาคมคู่งามแสดงถึงความพึงพอใจอย่างปิดไม่มิด
พวกเราอาศัยดวงตาที่ดีกว่ามนุษย์ธรรมดาหลายพันเท่าในการสำรวจโดยรอบ ชื่นชมบรรยากาศ
“ฉันว่าพวกนายเอาเวลาทะเลาะกันไปคิดดีกว่า ทวีปต่อไปจะสร้างแบบไหนดี” เทพบ้างานพูดดักศึกจิ้งจอกปะทะอีกาที่กำลังปะทุอยู่ด้านหลัง
“โห่ ยังไม่ทันไรนายคิดจะหางานเพิ่มอีกแล้ว! อย่างน้อยๆ รอชินกลับมารองมือรองเท้านายก่อนก็ดี ฉันยังไม่อยากเห็นลูกสมุนในแผนกของนายตายเกลื่อนนะ” คำนี้ไม่เกิดจริงแต่อย่างใด บันเคยเข้าไปเห็นด้วยตาตัวเองมาแล้ว ช่วงที่งานยุ่งมากๆ แผนกของวินแทบจะเปลี่ยนพนักงานเป็นซอมบี้ ไม่เว้นกระทั่งหัวหน้าแผนก เล่นเอาบันผงะ มองด้วยความหวาดผวา
“อีกไม่กี่วันก็จะกลับมาแล้วนี่ ใช่ไหม” ผมพูดพลางหันไปทางชิน เจ้าตัวยิ้มรับ
“ใช่ ทางนี้ทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว ฉันจะได้กลับไปหานายสักที”
“พวกนั้นไม่รั้งตัวไว้เรอะ” บันถามทีเล่นทีจริง ในความคิด มั่นใจไปเกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ว่าคนพวกนั้นต้องทำชัวร์ ที่ไหนได้ จิ้งจอกหนุ่มแสยะยิ้มโชว์เขี้ยวคมทำหน้าเหี้ยม
“ลองพวกนั้นรั้งฉันไว้สิ หึหึ”
เสียงหัวเราะเย็นจัดซะจนบันไม่กล้าถามต่อเลยว่าเจ้าตัวจะทำยังไง
“ไว้นายกลับมาค่อยคุยกันอีกทีก็ได้ ตอนนี้รีบไปเก็บระดับกันต่อเถอะ พวกเราใช่ว่าจะมีเวลาว่างเยอะ” อีกสองคนพยักหน้าเห็นด้วย พากันลงจากต้นไม้ด้วยวิธีของตัวเอง ชินกระโดดเหยียบกิ่งต่อกิ่ง ตัวเบาอย่างกับแมว ผมบินร่อนลงไปอย่างนุ่มนวล บันทิ้งตัวลงดื้อๆ ก่อนกางปีกตอนช่วงท้ายเพื่อชะลอจนถึงพื้น
คงเพราะพวกเราเลือกตำแหน่งแลนดิ้งกันดีไปหน่อย ยืนอยู่กลางวงระหว่างมอนสเตอร์หนอนชาเขียวกับกลุ่มปาร์ตี้แถวนั้น ทุกคนพากันมองตาโตอ้าปากค้าง โดยเฉพาะชายผมทองที่ดูสว่างไสวที่สุด เพื่อป้องกันความวุ่นวาย ผม บัน หลบจากจุดนั้นไปสมทบกับชินหลังแนวไม้ เร้นกายหายไปจากแถวนั้น
ภายหลังมีคนป่าวประกาศว่าเจอเหล่าบอสแรร์เป็นเทพปีศาจ พร้อมสมุนเทนกุและปีศาจจิ้งจอก เกิดเป็นเสียงฮือฮากันในกลุ่มผู้เล่น ทุกคนพยายามตามหาด้วยความอยากรู้อยากเห็น หารู้ไม่ ตัวต้นเรื่องทั้งสาม ขลุกอยู่ในดันเจี้ยนไม่รู้เรื่องใดๆ ทั้งสิ้น
พอเคลียร์ดันจบ พวกเราจำต้องแยกย้ายเพื่อไปทำงานของตัวเองต่อ ระดับเพิ่มคนละนิดละหน่อย คาดว่าหากมีเวลาว่างเยอะๆ จะลุยเก็บแบบให้ตายกันไปข้าง
ผมลืมตาขึ้นภายในห้องนอนของตัวเอง ใกล้ได้เวลามื้อเย็น ได้ยินเสียงน้องชายตะโกนเรียกจากชั้นล่าง พอเปิดประตู กลิ่นหอมของอาหารโชยมาถึงชั้นบน เรียกน้ำย่อยดีนักแหละ กินข้าวที่ไหนไม่อร่อยเท่าฝีมือแม่กับน้องชายจริงๆ ให้ตายสิ
“อ้าว มาแล้วเหรอพี่ ผมกำลังจะขึ้นไปตามอยู่พอดี” วัตค้างท่าขึ้นบันไดผมกอดคอน้องชายมาที่โต๊ะอาหาร ซึ่งจัดวางทุกอย่างเรียบร้อยพร้อมกิน ส่วนนายท่านกินของตัวเองอยู่ในห้องครัว
“จริงสิ พี่ชินกลับมาวันไหนครับ”
“อีกสามวันก็กลับมาแล้ว ถามแบบนี้ จะไปรับกับพี่เรอะ”
วัตส่ายหัวทำหน้าเซ็ง
“ก็อยากนะ แต่ผมติดเรียนอะ วิชานี้โดดไม่ได้ด้วย อดไปเอาของฝากเลย”
ผมวางช้อนดีดหน้าผากไปที
“ให้มันน้อยๆ หน่อย ต่อให้ไม่ไปรับ ชินมันก็ต้องเอาของฝากมาให้ถึงบ้านอยู่แล้ว” ผมมั่นใจพันเปอร์เซ็นต์เลย เจ้าตัวบ่นๆ อยู่ว่าอยากเจอคู่แข่งหัวใจ อีกอย่าง ชินเองก็รักวัตไม่น้อยกว่าผมหรอก กลับมาทั้งทีต้องอยากเจอหน้าน้องชายอยู่แล้ว
เอาเข้าจริง พวกเราสองพี่น้องไม่มีใครได้ไปรับชินทั้งคู่ ไม่ใช่ว่าผมติดงานด่วนจนลืมนะ ชินทำตัวเองต่างหาก
เสียงนาฬิกาปลุกยามเช้า บ่งบอกว่าผมควรจะรีบตื่นเพื่อเตรียมตัวไปรับเพื่อนวัยเด็กที่สนามบิน หากไม่ได้ยินเสียงข้างหู พร้อมสัมผัสหนักที่พาดตัวผมอยู่ ดวงตาสีเทาเปิดขึ้นเหลือบมองข้างกาย...
“ยังเช้าอยู่เลย ปิดนาฬิกาให้หน่อย” เสียงอู้อี้ เนื่องจากเจ้าของซุกหน้าอยู่กับหมอนนุ่ม ผมตอบสนองด้วยการหยิบกาฬิกาปลุกมาจ่อข้างหูคนหลับ ถ้ายกผ้าห่มคลุมโปง ผมก็จะสอดนาฬิกาเข้าไปใต้ผ้าห่ม ทำทุกวิถีทางเพื่อก่อกวนไม่ให้อีกฝ่ายได้นอน
สุดท้ายคนขี้เซาเริ่มทนไม่ไหว ยื่นมือปัดป่ายหมายจะปิดนาฬิกาปลุก เรื่องอะไรที่ผมจะยอมให้ปิดง่ายๆ ยกหลบไปมากระทั่งมือมาบนตำแหน่งไม่ควร
หมับ ผัวะ!
“จับอะไรของเอ็งวะ!!”
ฝ่าเท้ายันโครมจนแขกไม่ได้รับเชิญร่วงลงไปกองบนพื้นห้อง เจ้าตัวตะกายขึ้นมาเกาะขอบเตียง ยิ้มเผล่ทั้งที่ตาปรือ
“Good morning SWEET HEART” เสียงติดแหบเน้นคำจนน่าหงุดหงิด อีกฝ่ายอาศัยจังหวะที่เจ้าของห้องเผลอ คว้าหลังคอให้ก้มลงมาหา จูบปากดังจุ๊บ “Morning kiss จ๊ะ”
“Morning kiss งั้นเหรอ... อรุณสวัสดิ์ไอ้จิ้งจอกเวร! เสนอหน้ามานอนเตียงฉันได้ยังไงฮะ!! แล้วไหนบอกว่าเครื่องลงสิบโมงไง”
ผมกระโดดลงพื้นยกเท้าเหยียบจิ้งจอกรัวๆ ชินหัวเราะเสียงดัง ยิ่งยิ้มหวานเมื่อเห็นว่ามุมปากผมเองก็ยิ้มอย่างยินดี มือหนาลูบขาหวิดจะโดนผมก้านคอ หากไม่เกิดเหตุการณ์ต่อจากนี้ ฝ่ามือประคองบรรจงจูบหลังเท้าก่อนเงยหน้าสบนัยน์ตาพราวระยับ
“กลับมาแล้วท่านซาตาน”
ผมชักเท้ากลับ อารมณ์ขุ่นเคืองที่อีกฝ่ายมาไม่บอกปลิวหายเป็นปลิดทิ้ง ย่อตัวลงคุกเข่าคว้าอีกฝ่ายเข้ามากอด ชินลูบหลังผมเบาๆ
“ยินดีต้อนรับกลับมา”
“อื้ม คิดถึงนายจัง เพราะแบบนี้แหละฉันถึงรีบมาไวกว่ากำหนด”
“เลยแอบย่องเข้าบ้านกลางดึกเพราะไม่อยากปลุกให้วัตตื่น และเนียนมานอนกับฉันสินะ” ผมต่อประโยคอย่างรู้ทัน พอผละออก สองมือประคองหน้าอีกฝ่าย ชินยังเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือไรหนวดจางๆ ผมใช้นิ้วโป้งถูเล่น นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้เห็น เพราะชินเป็นคนที่ดูแลตัวเองดีอยู่เสมอ นี่คงจะโหมทำงานเพื่อเร่งเวลากลับมา
“อะแฮ่ม!”
เสียงกระแอมหน้าประตู ไม่ทำให้เราผละออกจากกัน ดวงตาสองคู่มองผู้มาเยือนที่ยืนกอดอกหน้าขึ้นสี
“ขอโทษทีที่มาขัดฉากหวานของพวกพี่นะ พอดีผมเห็นของในห้องนั่งเล่นกับกระเป๋าเดินทางเลยวิ่งขึ้นมาดู เอ่อ...เอาเป็นว่าพวกพี่เชิญต่อกันตามสบาย ผมขอลงไปทำมื้อเช้าก่อน พวกพี่ไม่ต้องรีบลงมาก็ได้นะ ผมจะเก็บอาหารไว้ให้”
วัตพูดรัวสีหน้าเคอะเขิน เกาหัวแบบไม่รู้จะวางมือที่ไหนดี แม้จะเห็นมาตั้งแต่เด็ก ถึงงั้นฉากหวานแผ่ออร่าสีชมพูพริ้งขนาดนี้น้อยนักจะได้เจอ สุดท้ายเลยกดล็อกประตูปิดให้อย่างดี ต่างคนต่างหมดอารมณ์จะหวานต่อ ชินลุกขึ้นยื่นมือมาดึงให้ผมลุกตาม
“วัตคงดีใจที่นายกลับมา”
“ฉันรู้ แล้วนายล่ะ ดีใจมากรึเปล่า” จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ยิ้มใส่ตา
“หึหึ”
ผมไม่ตอบ แค่หัวเราะเสียงต่ำในคอลากคอมันเข้าห้องน้ำไปกระชับความสัมพันธ์ให้หายคิดถึง รอดูอะไรกัน ผมไม่ให้ดูหรอก
เรื่องราวหลังจากนั้นก็อย่างที่ทุกคนรู้กัน ชินกลับมาทำงานตามเดิม เราสร้างทวีปใหม่ขึ้นตามที่วางแผนกันเอาไว้เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับผู้เล่น รวมถึงอัพเดตอะไรใหม่ๆ อีกมหาศาล ต่อให้เป็นนักเล่นเกมมืออาชีพ ใช้เวลาเป็นปีก็สืบเสาะหาสิ่งที่ซ่อนไว้ไม่หมด
พอวัตขึ้นปีสามก็เข้ามาเล่นเกมที่ผมกับชินสร้างพร้อมกับไวไว พบเพื่อนใหม่อย่างลินผู้มีความชอบแบบที่ผมไม่อาจเข้าถึงและบุคคลน่ารังเกียจที่สุดในโลก ว่าที่ลูกสมุนของซาตาน กลวัชร เจ้าเด็กตัวดำสมองอัจฉริยะ นิสัยแรกเจอเหลือรับยิ่งกว่าแฝดนรก ผมเกือบจะหักคอตายเสียหลายรอบ โดยเฉพาะเรื่องที่มายุ่งกับน้องชายของผม ดีที่ท่านซาตานคนนี้ยังใจเย็นพอ ใช้ประโยชน์จากเจ้าหนูนั้นในการคุ้มครองวัตจากแผนการร้ายของรุจ
ราวกับการเพาะต้นกล้าแห่งความเลวร้าย พวกเราหาทางจัดการรับมือทุกวิถีทางจนกระทั่งเกิดเรื่องใหญ่เกินความควบคุม น้องชายผมตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิต ทุกคนเคร่งเครียดแทบสติแตก ผมกับกลตามล่าจนถึงตัวของรุจ จัดการทุกอย่างในโค้งสุดท้าย เสียเวลานั่งเก็บกวาดสิ่งที่รุจทำเกือบครึ่งปี ผลจากการร่วมมือของทุกคนในที่สุดก็จบลงได้ด้วยดี
เมื่อพวกเขาเติบโตขึ้น น้องชายของผมเลือกคู่ชีวิตของตัวเอง วัตและกลอยู่ที่บ้านของเรา ขณะที่ผมยังคงแวะเวียนกลับไปเป็นระยะพลางโขกสับน้องเขยที่ทำงาน ไวไวกับลินได้แต่งงานกันมีลูกสาวหนึ่งคน แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมคาดไม่ถึงเลยก็คือ
กลและวัตมีโซ่คล้องใจตัวน้อย หลานชายของผม ซึ่งถือกำเนิดจากความรัก ความเสียสละของลินและวิทยาการทางการแพทย์ที่ล้ำหน้า
ไม่ใช่แค่พวกเราที่เป็นปลื้ม ผู้ใหญ่สองครอบครัวยิ้มแก้มปริกันทั่วหน้า พร้อมๆ กับสายตาร้อนแรงจากพ่อชินและพ่อผมจ้องเขม็งมาทางพวกเราอย่างกับจะสะกดจิต ผมรู้ว่าพวกเขาคิดอะไร แต่ผมกับชินแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ฝันไปเถอะว่าผมจะมีลูก แค่งานตอนนี้ก็ท่วมหัวจนแทบไม่ได้พักผ่อน จะเอาเวลาที่ไหนไปเลี้ยงลูกกัน
มนุษย์ตา มนุษย์ปู่ เป็นสิ่งมีชีวิตที่เข้าใจยาก เหมือนจะยอมวางมือจากพวกเราไปช่วงหนึ่ง พอบันแต่งงานมีลูกบ้าง สองคนนั้นรู้เข้า ทั้งข้อความทั้งโทรศัพท์กระหน่ำกดดันผมเสียเหลือเกิน ประเดี๋ยวจะมีหลานให้เลี้ยงซะให้เข็ด...
เหนือสิ่งอื่นใด ยังมีอีกคนหนึ่งที่ผมไม่เคยลืม ชายผู้แอบรักผมข้างเดียว พญานกผู้น่าสงสาร ตอนนี้ไม่ใช่นกไร้คู่อีกต่อไปแล้ว ช่วงเวลาที่ผมกำลังพักดื่มกาแฟฝีมือชินอย่างเป็นสุขนั้น คนที่นานๆ ครั้งจะติดต่อมาสักทีเปิดวีดีโอคอลกับผม
/สวัสดี อะไรกัน ฉันติดต่อมาทีไรเห็นนายดื่มกาแฟทุกที/
“เป็นเพราะนายชอบโผล่มาได้จังหวะต่างหาก คอลมาได้แบบนี้ ว่างแล้วเหรอพ่อนาวาเอก” ผมพูดแซว ตอนนี้อินทรีเลื่อนขั้นมาทำหน้าที่แทนญาติเต็มตัวแล้ว
/ว่างสิ ลาหยุดมา ฉันจะมาบอกข่าวดีกับนาย/
น้ำเสียงมีความสุข สีหน้าก็สดใสพลอยทำให้ผมยิ้มตาม ไหนๆ ก็ไหนๆ ผมเลยดึงชินที่ทำงานอยู่ข้างๆ มาร่วมฟังข่าวดีด้วยเลย สองคนนี้ญาติดีกันแล้วครับ มีการผงกหัวทักทายกันเล็กน้อย
“เอ้า ว่ามา”
/คือว่า...ฉัน/ ไอ้อากาศเขินอายแก้มขึ้นสีนี่มันอะไร ผมกับชินขมวดคิ้วมองหน้ากัน จ้องกดดันจนอินทรียอมพูดออกมา
/อย่าจ้องแบบนั้นสิ คือ...ฉันกำลังจะแต่งงานปลายเดือนหน้า อยากเชิญพวกนายมางานด้วย พวกนายสะดวกรึเปล่า/
พวกเรายิ้มกว้าง มิน่าทำไมพ่อทหารเรือผู้เคร่งขรึมถึงได้ออกอาการเขินแบบนี้
“สะดวกอยู่แล้ว! เพื่อนรักจะแต่งงานทั้งที ใช่ไหมชิน”
“อ่าฮะ นายเตรียมเสียเงินกับประตูเงินประตูทองได้เลย” อินทรีหัวเราะตบกระเป๋าเสื้อเป็นเชิงบอกว่าเรื่องแค่นี้สบายมาก
/ไว้ฉันจะส่งการ์ดแต่งงานให้พวกนายอีกทีนะ วิน ในที่สุดฉันก็พบคนที่ใช่สำหรับฉันแล้ว นายช่วยมาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้ฉันได้ไหม/ เจ้าตัวออกปากขอด้วยความหวัง ผมจะทำลายความสุขเพื่อนได้ยังไง
“ได้สิ ยินดีด้วยนะ ที่เจออีกครึ่งของตัวเอง”
รอยยิ้มกับใบหน้าอ่อนโยน สำหรับอินทรีแล้วมันไม่ต่างจากการอวยพรของเทพ แม้ใครต่อใครจะบอกว่าคนตรงหน้าเป็นซาตานก็ตาม
/ขอบคุณพวกนายมาก…/
ระหว่างที่พวกเขากำลังถามสารทุกข์สุขดิบกัน เสียงใสๆ ดังแทรกเข้ามาพร้อมกับเจ้าของเสียง
/อินคะ ทุกคนมากันแล้ว รีบออกไปต้อนรับกันเถอะค่ะ…อ๊ะ ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังคุยเพื่อนอยู่/ หญิงสาวผู้มีหน้าตาธรรมดา แต่บุคลิกท่าทางที่แสดงออกมาให้เห็นนั่นงดงามกว่านางงามที่ไหนซะอีก ใบหน้าเล็กแย้มรอยยิ้มหวาน ดวงตาทอประกายสดใสแฝงความรู้สึกผิด
/ขอโทษด้วยนะคะ ที่มาขัดจังหวะ/
“ไม่เป็นไรครับ เฮ้ย ไอ้ไก่บ้าน ไม่คิดจะแนะนำว่าที่ภรรยาในอนาคตหน่อยเหรอ” จิ้งจอกเริ่มออกลายให้อินแยกเขี้ยวจ้องเขม็งใส่ แต่เพราะมีผมนั่งอยู่ด้วยเลยยอมแนะนำโดย
/นี่วิลัยคนรักของฉันเอง ส่วนคนผมทองหน้าตาเหมือนเทพบุตรคนนั้นชื่อวิน ไอ้หมาบ้านข้างๆ นั่นชื่อชิน/
การแนะนำที่แสนลำเอียงเรียกเสียงหัวเราะคิกคักจากร่างเล็กข้างกาย พวกเราทักทายกันแค่เล็กน้อย ก่อนจะปล่อยให้อินทรีไปรับหน้าครอบครัวแฟนสาวที่มาเยี่ยมถึงบ้าน เห็นใบหน้าเปี่ยมสุขของว่าที่เจ้าบ่าว เจ้าสาวทำให้ผมเกิดความคิดอะไรบางอย่าง
“ชิน เรามาแต่งงานกันบ้างมะ” ผมเปรยขึ้นลอยๆ ขณะจิบกาแฟ
“ก็ดีนะ เอาเมื่อไหร่ดี ถัดจากอินเลยเป็นไง”
“นายจัดการเลย”
“รับทราบ ท่านซาตานที่รัก” ชินโน้มกายมาจูบรอยสักที่หลังคอ ก่อนจะโดนผมโบกมือไล่ให้กลับไปทำงานตามเดิม
ผมนึกทบทวนทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ พวกเราล้วนฝ่าฟันกันจนถึงจุดนี้ได้ เพราะเรารู้จักความทุกข์ ถึงรู้ว่าความสุขนั่นดีมากแค่ไหน ยามประสบปัญหาผู้ช่วยที่ดีที่สุดคือครอบครัวและคนสนิทใกล้ตัว อุปสรรคยากแค่ไหน ขอแค่มีสติก็สามารถผ่านมันไปได้อย่างงดงาม ฟ้าหลังฝนย่อมดีเสมอ ทุกคนคิดเหมือนผมไหม
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
ในที่สุด พาทพิเศษของท่านซาตานวินก็จบลงด้วยดี
จะบอกว่าจบบริบูรณ์ทุกอย่างก็ไม่ผิดนัก
หากจะมีคงเป็นตอนพิเศษขำๆ มากกว่า
ตอนนี้กำลังหันมาจับงาน ซีรี่ย์มหาลัยอย่างจริงจัง จบพี่วินได้เปิดคู่ป๋ามิทสักทีเย้!
