ตอนที่ 16
“จะพาไปไหน ?”
“เดี๋ยวก็รู้”
“ไปไหนเล่า”
“อย่าลืมเอาบัตรประชาชนไปด้วยนะ”
“เสือ” ผมเอ่ยเสียงเข้ม ถามไม่ไหนไม่บอกแต่ให้เอาบัตรประชาชนไปด้วยนี้มันหมายความว่ายังไง พอผมตื่นขึ้นมาและดูเหมือนภูมิคุ้มกันเรื่องโดนจนถึงเช้านี้มันจะเริ่มมีแล้วทำให้จากปกติจะเป็นไข้ตลอดตอนนี้เป็นเพียงหวัดธรรมดา หลังจากที่มือหนาจับปรอทวัดไข้ยัดเข้าปากผม พอได้คำตอบที่น่าพอใจเสือจึงให้ผมไปอาบน้ำ แต่งตัวแล้วมาทานข้าวและยากันไข้หวัด หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจทุกอย่างเสือก็ควงกุญแจรถแล้วบอกว่าจะพาไปข้างนอก แต่พอผมถามว่าจะพาไปไหนเขากลับไม่ยอมตอบ
ใบหน้าหล่อเหลาหันมา
“หือ” แล้วกะพริบตาปริบๆใส่
“…”
“ไปรอที่รถ”
เขาบอก ผมจึงส่ายหน้าเดินไปหยิบกระเป๋าตังแล้วตรวจดูว่ามีบัตรประชาชนหรือเปล่าก่อนจะลงลิฟต์ไปรอยังรถคันหรูของเสือ สักพักร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำกับกางเกงยีนส์สีเข้ม พร้อมด้วยนาฬิกาเรือนหรูแม้มันจะเป็นชุดธรรมดาแต่กลับหล่ออย่างน่าประหลาด อีกอย่างคือปกติแล้วเสือไม่ใส่สีดำหรอกนะ เขาใส่แต่สีขาว ผมก้าวขาขึ้นรถขณะคาดเบลล์ก็สังเกตเห็นความผิดปรกติที่ร่างสูง ยั้งมือตัวเองไม่ทันมันก็เคลื่อนไปแตะจุดที่ผมไม่ค่อยจะได้เห็นเขาใส่
“วันนี้ใส่ตุ้มหูด้วย ?” เป็นตุ้มหูสีดำธรรมดาที่เสริมเซ็กแอพพีลได้อย่างน่าประหลาด เสือยกยิ้มแล้วยกมือขึ้นมาขยี้หัวผมเบาๆหากไม่ได้พูดอะไรตอบ ตัวรถเคลื่อนออกจากที่จอดมุ่งตรงสู่ถนนกรุงเทพมหานครฯ ผมมองไปตามทางแม้จะคุ้นตาบ้างแต่ก็ยังนึกไม่ออกอยู่ดีว่าเขาจะผมไปไหนกันแน่
จนกระทั่ง…
“เดี๋ยวๆมาที่นี้ทำไม” ผมถามขึ้นเมื่อตัวรถเลี้ยวเข้ามายังสถานที่แห่งหนึ่ง อาคารขนาดใหญ่สไตล์โมเดิร์นสมัยใหม่ที่หรูหราและดูน่าทันสมัยรวมถึงคนปกติไม่ค่อยเข้าบ่อยเพราะของที่นี้น่ะมันโคตรแพง รถหรูแล่นเข้ามาจอดตรงลานจอดรถ ผมปลดสายคาดออกก่อนจะเดินลงจากรถกระทบกับแสงแดดเจิดจ้าที่ร้อนราวกับว่าจะเผาตับให้สุก “แดดชะมัด” ผมบ่นขณะยกมือให้บังหน้า พอเสือล็อครถเสร็จ ร่างสูงก็จับมือผมเดินมุ่งตรงเพื่อเข้าไปยังด้านในแต่เดินยังไม่ถึงผมก็พึ่งนึกได้ว่า…
“เสือ กูลืมเอากระเป๋าตังค์บนรถออกมาด้วยวะ”
ใบหน้าหล่อเหลาเลิกคิ้ว ผมจึงรีบว่าต่อ “ในนั้นมันมีบัตรประชาชน”
เขาปล่อยมือที่จับผมอยู่ออกแล้วบอก
“เข้าไปรอนานใน เดี๋ยวตามไป” มันบอกก่อนจะเดินกลับไปที่เดิมคงจะไปเอากระเป๋าสตางค์ให้ ผมมองตามหลังแกร่งตอนแรกว่าจะรอ แต่ทนความร้อนของแดดไม่ไหวจึงตัดสินใจเดินเข้าไปยังด้านใน แอร์เย็นฉ่ำกระทบกับใบหน้าให้ความรู้สึกต่างจากแดดข้างนอกลิบลับ แต่พอเข้ามาแล้วก็ได้แต่ยืนเงอะๆงะๆอยู่ใกล้ๆกับประตูมองซ้ายมองขวาเพราะไม่กล้าเดินไปสุ่มสี่สุ่มห้ารอเสือดีกว่าเยอะ จะว่ายังไงดีล่ะ…
เพราะของของที่นี้เงินในบัญชีผมทั้งหมดยังอาจจะซื้อไม่ได้เลยมั้ง!!!
มองซ้ายเจอรถหรู มองขวาก็เจอรถหรูที่นำเข้าเหมือนกัน ยี่ห้อดังแถมราคาแพงแสนแพงขนาดนี้ใครมันจะมีปัญญาไปซื้อวะ ผมก็รวยนะ(นี้ลืมกันไปหรือยัง)แต่รถราคาห้าล้านสำหรับผมนี้ก็เกินพอแล้ว
ใช่แล้วล่ะ… ที่ที่เสือพาผมมาคือโชว์รูมรถ
เป็นโชว์รูมที่ใหญ่มากแถมใหญ่โคตรๆ เจ้าของบริษัทคงจะรวยน่าดู
ผมถอนหายใจยืนรอเสือก็เมื่อยเปล่าๆเลยตัดสินใจเดินดูรถไปเรื่อยๆ แอร์เย็นอีกเดินได้สบายครับ เหมือนที่นี้จะมีลูกค้าเยอะนะครับ โชว์รูมใหญ่แถมแพงขนาดนี้ยังเห็นลูกค้าหลายคนกำลังสอบถามพนักงานอยู่เลย “คันนี้สวยจัง” ผมเผลอพึมพำกับตัวเองเมื่อเห็นเจ้ารถหรูสีแดงและออกจะดูดีสำหรับผม แต่พอเหลือบไปเห็นป้ายราคาก็ต้องเปลี่ยนสีหน้าเป็นเหยเกทันที
“แพงโคตร” สี่สิบสองล้านนี้ซื้อข้าวให้ผมกินได้หลายมื้อเลยนะ ผมขยับตัวออกจากห่างรถแล้วหมุนตัวกลับหลังหันในจังหวะนั้นสายตาก็ดันเหลือบไปเห็นร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำคนหนึ่งที่กำลังยืนกอดอกพิงราวเหล็กมองมาทางผมอยู่ ผมเผลอสบตากับร่างสูง ทันใดนั้นริมฝีปากบางก็กระตุกยิ้มเพียงชั่ววูบเหมือนผมลืมวิธีการหายใจไปเลย…
หล่อ
หล่อมาก
พระเจ้า!!!!!!!!!!!!!!!!
ผมพึ่งเคยเห็นคนที่หล่อทัดเทียมกับเสือได้ขนาดนี้!!!!!!!!!
ผมได้สติตอนที่รู้สึกถึงแรงกอดจากทางด้านหลัง พอเงยหน้าขึ้นก็พบกับใบหน้าหล่อเหลาของเสือ พบได้มาสังเกตอีกครั้งก็เล่นเอาหยุดหายใจไปเหมือนกัน ดูเหมือนว่าผมจะอยู่กับเสือมากจนความหล่อของมันกลายมาเป็นเรื่องปกติสำหรับผมแล้ว แต่พอได้มาเปรียบเทียบกับคนอื่นและได้สังเกตใบหน้าหล่อเหลานั้นอีกที…
นี้กูทำบุญมาด้วยอะไรทำไมได้ผัวหล่อขนาดนี้!!!!!!!
“มองอะไรเมีย” มันกระซิบที่ข้างหู ผมส่ายหน้ารัวๆแล้วกระโดดหลบไปด้านหลังเข้าเมื่อร่างสูงที่เคยยืนกอดอกพิงราวเหล็กอยู่เดินมาทางเรา ร่างสูงสองคนมองหน้ากันนิดหน่อยก่อนยกยิ้มออกมาทั้งสองฝ่าย เหมือนผมถูกแรงดึงดูดให้มองซาตานสองตนจนละสายตาออกไปไม่ได้ หัวใจสั่นระทึกไม่รู้ว่าทำไมแต่หยุดให้หัวใจเต้นแรงไม่ได้จนต้องเอามือมาจับไว้ที่อกข้างซ้าย พวกเขามัน…
สมบูรณ์แบบ ไร้ที่ติ เป็นชายหนุ่มที่หล่อได้อย่างร้ายกาจอย่างแท้จริง!!!
“ไง”
“ไง”
“กูบอกแล้วว่าถ้าจะมาที่นี้ต้องบอกก่อนหนึ่งอาทิตย์ งานกูมันเยอะนะ”
“กู VIPP อย่าบ่น”
ผมมองสองคนที่พูดคุยกันเหมือนรู้จักกันมาก่อน แถมสรรพนามแบบนี้ก็คงจะสนิทกันอยู่ในระดับหนึ่งด้วย เผลอมองทั้งสองคุยกันจนเพลิน แถมยังเหมือนกันมากชนิดที่ว่าถ้ามองใกล้ๆผมก็คงจะนึกว่าเป็นแฝดกันไปแล้ว ทั้งหน้าตาแบบหล่ออันตราย ส่วนสูงที่เท่าเทียมกัน ผิวพรรณ ลักษณะภายนอก ภาพโดยรวมมันเหมือนกันไปหมดทุกอย่าง
“ตี้” เสือหันมาทางผมแล้วจับอีกฝ่ายให้เดินมายืนหยุดอยู่ตรงหน้า “ฮิม เพื่อนกู”
คำอธิบายสั้นๆที่ทำให้ผมสามารถเข้าใจได้ง่าย ผมโค้งเป็นการทักทาย
“ธามครับ”
“อือ” พี่แกตอบรับสั้นๆ แล้วหันไปมองเสือ “ตามกูมา”
ว่าจบร่างสูงก็เดินนำส่วนพวกผมเป็นคนเดินตาม เราเดินออกมาทางด้านหลังโชว์รูม แล้วขึ้นรถกอล์ฟมาหยุดตรงหน้าโกดังขนาดใหญ่มากแห่งหนึ่ง ย้ำอีกทีว่ามันใหญ่มากจริงๆ ผมเดินลงจากรถกอล์ฟพอดีกับที่ประตูโกดังเปิดออกเผยให้เห็นสิ่งของด้านใน
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ผมเบิกตากว้าง ตกใจจนต้องยกมือขึ้นมาปิดปากในขณะที่ร่างสูงสองคนยังคงสภาพนิ่งไม่รู้สึกตื่นเต้นหรืออะไร
สิ่งของด้านในมันคือ …รถ ถ้ามันเป็นรถเฉยๆผมไม่แปลกใจหรอกแต่เพราะมันมีโคตรเยอะ!!!!!!!!!!!!!
มีเป็นร้อยๆคันอาจจะเกินสองร้อนคันเลยด้วยซ้ำ
ผมได้สติเมื่อตอนมือหนาโอบเอวแล้วให้เดินเข้าไปด้านในก่อนจะสตั้นรอบสองเมื่อเสือบอกว่า
“เลือก”
เลือก ? อะไรคือเลือก
“เลือกอะไร ?”
“เลือกรถ” ผมยังงงมันเลยกระซิบบอกที่ข้างหู
“อยากได้คันไหนเลือกมา จะซื้อให้ ไม่จำกัดจำนวนคัน”
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“แม่งเลือกยากชิบหาย”
ผมบ่นกับตัวเองขณะปาดเหงื่อบนหน้าผาก นี้เลือกเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้วยังเลือกไม่ได้เลย เสือให้ผมเลือกคนเดียวมันบอกอยากได้คันไหนเอาคันนั้น อยากได้สองคันเอาสองคัน เพราะมันไม่จำกัดจำนวน ตอนแรกผมปฏิเสธไม่เอานั้นแหละครับ(แต่ละคนแม่งโคตรแพง และผมยังมีความเกรงใจมันอยู่) แต่พอเห็นเสือทำหน้าเริ่มงอนเลยตัดสินใจรับความของที่มันอยากซื้อให้จนในที่สุดก็ต้องตระเวนหาคันที่อยากได้ ส่วนสองหนุ่มก็หลบมุมไปคุยกันตรงไหนแล้วก็ไม่รู้ทิ้งให้ผมเดินหารถที่ชอบคนเดี๋ยว แต่ขอโทษเถอะ รถที่มึงให้กูเลือกมีเป็นร้อยๆคันแต่ละคันก็สวยๆทั้งนั้นจะให้เลือกยังไงล่ะเนี้ย แถมยังไม่มีคันไหนโดดเด่นที่สุดสำหรับผมเลย
“เฮ้อ” ผมถอนหายใจทำหน้าอมทุกข์ ก่อนจะเดินตรงไปยังที่มีร่างสูงยืนอยู่ เสือหันหลังให้ผมเพราะกำลังคุยกับพี่ฮิม ผมจึงกอดมันจากทางด้านหลังแทน ซุกหน้าลงแผ่นหลังกว้างแล้วบอกเสียงอู้อี้ในลำคอ “เลือกไม่ถูก”
มือหนาจับเอวผมจากทางด้านหลังแล้วบังคับผมเบี่ยงตัวมาด้านหน้า
“เอาที่ชอบที่สุดสิ”
“ก็ที่ชอบที่สุดมันยังหาไม่เจอนี้ มันสวยเหมือนกันหมดเลย” ผมบ่นขณะกำลังกอดมัน เสือลูบหัวผมเบาๆเหมือนให้คิดก่อนจะไปคุยกับพี่ฮิมต่อ ผมตกอยู่ในห้วงภวังค์ได้แต่ซุกหน้าเข้ากับอกแกร่งทว่าพอเงยหน้าขึ้นมาก็เจอะกับรถคันหนึ่งที่สะดุดสายตาผมเหลือเกิน
สวย…
อยากได้…
พรึบ!!
ผมละออกจากอ้อมกอดของเสือทันที แล้วรีบจ้ำอ่าวไปยังรถคันนั้นโดยมีสายตาคมที่มองตามมา ผมเดินวนมองรอบรถไปมา เมื่อแน่ใจว่าตัวเองคงเลือกไม่ผิดก็ตะโกนบอกร่างสูงทันที “เสือกูอยากได้คันนี้”
นัยน์ตาคมมองตัวรถสีเทาเงินแล้วพยักหน้าเบาๆก่อนจะหันไปพูดอะไรสักอย่างกับพี่ฮิม แล้วเหมือนจะยื่นบัตรประชาชนของผมไปให้ (กระเป๋าตังค์ผมยังอยู่กับเสือ) เขาคุยกันต่อในขณะที่ผมมองเดินวนรอบรถไปมาราวเจอของเล่นถูกใจมารู้ตัวอีกทีร่างสูงเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่คล้ายคลึงเสือก็เดินมาประชิดตัวแล้วกระซิบลงข้างหู “ตาถึง”
ตาถึง ?
หมายความว่ายังไง
ว่าจบพี่ฮิมก็เดินออกจากโกดังไม่ได้อธิบายอะไรให้เข้าใจเพิ่มมากกว่าเดิม ผมหันไปมองเสือขณะเดียวกันที่ร่างสูงเดินมาทางผมพอดี “ตาถึงนี้มันหมายความว่าไง”
มันส่ายหน้าไม่ตอบแต่กลับเหล่สายตามองไปยังโทรศัพท์ประหนึ่งให้ไปเช็คราคาเอาเอง
ผมขมวดคิ้วกำลังจะหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าทว่ามือหนาก็ดันตัวผมให้เดินออกจากโกดังเสียก่อน เราขึ้นรถกอล์ฟกลับส่วนที่เป็นโชว์รูม นั่งดื่มน้ำรอที่โซฟาหรูสักครู่พี่ฮิมก็เดินออกมาพร้อมกุญแจรถในมือ กุญแจรถกับบัตรประชาชนของผมถูกยื่นมาให้ผมทันที
“ชื่อรถเป็นของเมียมึง ส่วนเงินหักเอาจากเลขบัญชีมึง” มึงที่ว่าคือเสือครับ “ต้องตรวจสภาพอีกนิดหน่อยเดี๋ยวพรุ่งนี้ให้คนขับไปให้ที่คอนโด” ใบหน้าหล่อเหลาหันมามองผมเสียงแหบพร่าบอก “กุญแจมีสองดอก เอาดอกเดียวไปก่อนนะเพราะอีกดอกต้องเอาไว้เวลาขับรถไปส่ง”
ผมพยักหน้าหงึกๆเป็นการรับทราบไม่มีปัญญา
“หมดธุระแล้วงั้นกูไปนะ”
“เออ” เสือตอบ
“อ้อ! กูลดให้มึงล้านหนึ่งโทษฐานที่กูแพ้พนัน” ทำไมคิ้วผมกระตุก ลดให้ล้านหนึ่งเลยหรือวะจะเอากำไรมาจากไหนล่ะนั้น ใบหน้าหล่อเหลาหันมาทางผมอีกครั้ง “ว่างๆเปิดโทรศัพท์เช็คราคามันก็ดีนะ” ว่าจบพี่ฮิมก็เดินออกไปทันทีผมมองตามแผ่นหลังกว้างดูดีจนลับสายตาแล้วตวัดมามองคนข้างกาย
“มึงพนันอะไรกัน”
“พนันว่ามึงจะซื้อรถราคาถึงเลขไหน”
“แล้วมึงพนันกูเท่าไหร่”
“เปิดราคาในเน็ต แล้วลองทายดูสิ”
มันเป็นปริศนาฟ้าแลบหรือสัส! ผมหน้าบึ้งขณะเสือพาเดินไปที่รถเพื่อกลับคอนโด เข้ามาในรถไม่สนใจคาดเบลล์จนร่างสูงต้องคาดให้เพราะมือผมมัวแต่พิมพ์ยึกยักหาราคารถในเน็ตอยู่ รอไม่นานนักพบลัพธ์ก็ออกมา
ราคาของมันสูงมากจนทำให้ผม…
“อี้เหี้ย!!!” เผลอตะโกนเสียงดังแถมตกใจจนทำโทรศัพท์หลุดออกจากมือก่อนจะรีบหันมามองร่างสูงทันควัน ก่อนเอ่ยเสียงหวานใส่ทันที “ผัวครับ~” ผมเบี่ยงตัวเข้าไปกอดเอาแขนโอบรอบคอแล้วหอมแก้มสากฟอดใหญ่
“ตี้ออกก่อน ขับรถก่อน” มือหนาพยายามดันตัวผมออกแต่ผมยั้งเอาไว้ นาทีนี้ความตกใจกลบทับความกลัวจนมิด ผมปลดเซฟตี้เบลท์ออกแล้วเคลื่อนตัวมานั่งคร่อมบนตักร่างสูงที่กำลังขับรถอยู่ ก่อนซุกใบหน้าเข้าซอกคอแกร่งแล้วขบเม้มเบาๆ นาทีนี้กูรักมึงมากเลยเสือ “เมียไม่เล่น ออกไปก่อน”
ผมไม่ตอบแต่ก็ไม่ยอมทำตามที่เสียงทุ้มบอก จนท้ายที่สุดเสือต้องเลี้ยวรถเข้าซอยแล้วหาที่จอดเพราะถ้าเกิดขับไปจนถึงคอนโดคงไม่รอดที่จะถูกรถชนแน่นอน เมื่อกะว่ารถหยุดแล้วผมถึงเงยหน้าขึ้นจากลำคอแกร่งแล้วแนบหน้าผากติดกันแทน ใบหน้าหล่อเหลาอยู่ในระยะประชิด ผมจูบริมฝีปากมันเบาๆแล้วถาม
“กล้าซื้อให้ได้ไง”
มันแพง…
เรียกได้ว่าแพงมาก…
แพงชนิดที่ว่าซื้อ Lamborghini Aventador ได้ถึง 4 คัน
แพงกว่า Lamborghini Veneno ลูกรักของเสือถึง 25 ล้าน
โชคดีที่ยังสู้ราคา Bugatti Veyron สีควันบุหรี่ของเสือไม่ได้
เสือหัวเราะ มือหนายกขึ้นลูบศีรษะผมเบาๆ
“ให้เมียทำไมจะซื้อให้ไม่ได้”
ผมยิ้มตามก่อนก้มลงไปขบริมฝีปากแรงๆ แทรกลิ้นร้อนเข้าไปด้านใน สอดนิ้วทึ้งกลุ่มผมสีดำแล้วละออกมาเพราะแรงผลักจากร่างสูง ผมเลิกคิ้วแปลกใจเล็กน้อยหากไม่ได้พูดอะไร “ไปนั่งดีๆ นั่งคร่อมแบบนี้ไปไม่ถึงคอนโดแน่ๆ”
“อือ” ผมตอบรับอย่างว่าง่ายพร้อมเคลื่อนตัวลงจากตักแล้วกลับไปนั่งที่เหมือนเดิม พอผมนั่งที่เรียบร้อยแล้วเสือจึงเคลื่อนรถออกจากซอยในจังหวะนั้นเองผมก็ปลดสายเซฟตี้เบลท์ที่แสร้งทำเป็นคาดออกจากตัวแล้วรีบก้มหน้าลงบนตักแกร่ง ล้วงมือเข้าไปหยิบแท่งเอ็นร้อนออกมาแล้วครอบครองด้วยริมฝีปากท่ามกลางเสียงทักท้วงจากร่างสูง
“เมีย!!! อึก!”
“…” ผมตอบไม่ได้เพราะปากยังติดพันกำลังมังกรยักษ์ที่มีท่าทางว่าจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ผมช้อนตามองขึ้นเห็นเสือกำลังทำหน้าเคร่งมองลงมาแต่สักพักก็หันกลับไปมองทางเหมือนเดิม ลิ้นร้อนเลียไปตามลำแท่งดูดวนที่ส่วนปลายจนน้ำสีขุ่นเริ่มปริ มือบางประกบทางลากเล็บยาวเสียดสีเบาๆในอีกคนซีดปาก ลัมโบกินี่คันหรูเร่งเครื่องขึ้นผมมองเข็มหน้าปัดที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งรถติดไฟแดง เสียงแหบพร่าและลมหายใจหอบสะท้านของเสือจึงดังขึ้น
“เมียเลิกเล่นได้แล้ว อึก!”
ผมละจากการครอบครองแล้วให้มือตัวเองทำหน้าที่นั้นแทนชั่วขณะ ผมเงยหน้าขึ้นแนบหูเข้ากับอกด้านซ้ายของอีกฝ่าย “หัวใจเต้นแรงจังนะ” ก่อนเลื่อนขึ้นจูบซบเหงื่อที่เริ่มไหลออกมาจากใบหน้าหล่อเหลาพอดีกับที่สัญญาไฟเขียวขึ้น “ถือเป็นค่าตอบแทนก็แล้วกันครับ”
“ตี้!! สัสเอ้ย!!” เสือสบถเมื่อผมก้มลงไปครอบครองมันด้วยปากอีกครั้ง แถมเมื่อกี้จังหวะออกรถผมหักพวงมาลัยเข้าเลนส์กลางจะเลี้ยวเข้าซอยคงไม่ทันเพราะมีรถขนาบอยู่สองข้างทาง ผมหัวเราะหึลำคอขณะเลียลูกชายของเสือไปมา ได้ยินเสียงครางทุ้มต่ำมาเป็นระยะๆ กลิ่นฟีโรโมนอ่อนเป็นตัวกระตุ้นให้ผมเริ่มรู้สึกร้อนหายตามไปด้วย ใบหน้าหล่อเหลารวมถึงตามตัวชื้นไปด้วยเหงื่อ ผละใบหน้าออกแล้วเลื่อนขึ้นกัดยอดดอกเขาแรงๆขณะกำลังชักมือรูดไปตามจังหวะ “อาส์ เมีย”
ผมเลียยอดดอกที่มีเสื้อกั้นอยู่จนมันชื้นแฉะ ก่อนเคลื่อนใบหน้าไปที่หูเลียติ่งหูเบาๆพร้อมกับจังหวะของมือที่เริ่มเร็วขึ้น “แตกสิครับ” กระซิบด้วยน้ำเสียงเย้าหยอก ได้ยินเสียงลมหายใจเสือหอบสะท้านชัดเจนและในจังหวะที่เขาใกล้จะปล่อยผมก็ปล่อยมือออกทันที
“เมีย…” เสียงทุ้มว่าข่ม ยังโชคดีที่เสือไม่ตวาดใส่ผมเพราะผมปล่อยให้เขาไม่ถึงจุดสูงสุด มือบางจับแล้วชักอีกครั้งคราวนี้ผมเร่งตั้งแต่ตน เข็มหน้าปัดเริ่มเคลื่อนไปทางขวาตามความเร็วของรถจนเสียววาบไปทั่วหน้าท้อง ผมเร่งจังหวะอีกครั้งพอดีกับที่รถหรูเคลื่อนเข้ามาในส่วนของบริเวณคอนโด เราหายใจหอบสะท้าน และในจังหวะที่เสือหักรถเข้ามาจอดน้ำสีขาวขุ่นก็พุ่งทะยานออกมาเลอะเต็มมือผมพอดี
…ตัวเครื่องรถดับลง
ผมละมือออกอย่างไม่ทุกข์ร้อน ค่อยๆเลียน้ำคาวออกจากซอกมือ
ในขณะที่เสือฟุบหน้าลงกับพวงมาลัย แต่ไม่นานนักเขาก็เงยขึ้น มือหนายกปัดผมที่ปรกหน้าออกแล้วหัดมาพูดกับผมด้วยน้ำเสียงแหบพร่าหากดูจริงจัง
“ตัวแสบ”
ผมยิ้มรับด้วยความเต็มใจ : )
[50%]
ก่อนอื่นต้องขอบอกเอาไว้ก่อนเลยว่า
รถราคา 1XX ล้านบาทน้องธามมันมีอยู่จริงๆนะคะ
นักเขียนไม่ได้มโนสร้างราคามันขึ้นมาแต่อย่างใด
(แต่ถ้าใครอยากรู้ราคาไปบวกลบคูณหารเลขกันเอานะคะ)
แต่ความรวยของเสือนี้มโนมาแบบอลังการเว่อร์วังจริงๆค่ะ
คำเตือน : อย่าหาความเป็นจริงจากนิยายเรื่องนี้ 55555555