ตอนที่ 3.217 : 30“เอาของหมดยัง”
…ผมพยักหน้า“ไม่ลืมอะไรนะ”
…มึงจะให้กูลืมอะไรในเมื่อกูไม่ได้เอาอะไรมา
…ก็พยักหน้าอีกร่างสูงไม่พูดอะไรต่อ มือหนาหยิบแว่นกันแดดสีชาออกมาใส่ก่อนจะเริ่มเคลื่อนตัวรถออกจากโรงแรม เนื่องจากวันพรุ่งนี้ผมมีเรียนตั้งแต่เช้าเราเลยต้องรีบกลับกัน ส่วนเมื่อคืนผมกลับมาตอนไหนก็ไม่รู้(ซัดไปตั้ง 5 เป้กขนาดนั้นไม่เมาก็ไม่รู้จะว่ายังไง) พอตื่นมาอีกตัวเองก็นอนอยู่บนเตียงไปซะแล้ว แถมยังจำอะไรไม่ได้อีก สงสัยไอ้เสือมันคงจะอุ้มไม่ก็แบกผมมานั้นแหละ แต่คราวนี้ออกจะโชคดีนะเนี่ยที่พอตื่นขึ้นมาแล้วเสือผ้ายังครบอยู่ -- เฮอๆ
ตัวรถแล่นไปอย่างเงียบเชียบ ผมนั่งกดโทรศัพท์ของไอ้เสือเล่นยึกๆเป็นเวลานานจนมือหนาต้องหันมาหยิบโทรศัพท์ออกจากมือผมไปเพื่อให้สายตาได้พักบ้าง ผมเบะหน้าอีกประมาณ 30 นาทีถึงจะถึงกรุงเทพฯ เลยนั่งชมวิวไปเรื่อยๆเริ่มนานผมก็ได้หลับอีกรอบ
‘เสือทรมานมากไหมอ่ะ’
‘ตี้ อ…ออกไป’
‘เสือมึง …ปล้ำกูไหม’
‘ตี้ออก’
‘ปล้ำกูก็ได้นะ’
‘…’
‘พี่เสือปล้ำ.. อื้อ!!!’
‘อ่าส์’
'อร๊างงงงส์'
เฮือก!!ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมองไปรอบๆก็พบว่าข้างนอกมืดแล้ว ก่อนจะหันไปทางด้านข้างที่น่าจะเป็นสาเหตุทำให้ผมตื่น(เพราะโดนไอ้เสือสะกิดนี่เอง) ใบหน้าหล่อเหลาทำหน้าเหมือนจะงงว่าผมเป็นอะไร(มันจะคงเห็นหน้าตาตื่นของผมละมั้ง) ผมน้ำตาคลอเบ้าก่อนจะถูกรวบตัวมากอดในอกอุ่นมือหนาลูบผมเบาๆคล้ายเป็นการปลอบให้ผมหายกลัว
“ฝันร้ายหรือ”
…เปล่าฝันเปียก“ร้องไห้ทำไม”
…เพราะกูคิดว่าตัวเองกำลังเข้าขั้นโรคจิตแล้ว
“หือม์”
มันคงเห็นว่าผมไม่ตอบเลยเปิดประตูรถออกไปแล้วเดินอ้อมมาเปิดทางผม ถอดที่คาดเบลล์ให้แล้วอุ้มขึ้นในท่าของเจ้าหญิง แม้ตอนนี้กูกำลังจิตตกสุดขีดแต่เป็นได้ไม่นานความแปลกใจก็ประดังงาเข้ามาอีกรอบเมื่อสังเกตได้ถึงความผิดปรกติของสถานที่
เพราะที่นี่มันไม่ใช่คอนโดของไอ้เสือ
แต่มันเป็นบ้านกู!!!
ผมเบิกตาค้าง ค่อยๆหันหน้าไปทางต้นเหตุที่มันยังคงทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่ บ้านของผมเป็นบ้านขนาดใหญ่ครับ เอาตรงๆก็ใหญ่มากๆเลยล่ะ เห็นอย่างนี้ผมรวยนะแต่รวยน้อยกว่าไอ้เสือมันแน่นอน ครอบครัวของผมทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์พวกโรงแรม หรือคอนโด มีชื่อเสียงในทางสังคมเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน เพราะอย่างนี้ทำให้พ่อกับแม่ชอบออกงานบ่อยๆ จนผมอดที่จะนอยส์ไม่ได้เลยติดนิสัยชอบไปนอนกับเพื่อนหาความสนุกสนานเข้าชีวิตเพราะที่บ้านก็ไม่มีใครให้เล่นด้วยนอกจากสาวใช้กับแม่นมเท่านั้น บางครั้ง 1 เดือนถึงจะกลับบ้าน ในกรณีที่ผมไปอยู่กับไอ้เสือ 3 ถ้าถามว่าทำไมพ่อแม่ผมท่านถึงไม่โทรตามเหมือนบ้านอื่นไม่ต้องแปลกใจนะครับ กรณีนี้มันเล็กน้อยมาก(หรือพวกท่านก็คงจะชินกันไปแล้วล่ะมั้ง)
“มึงพากูมาทำไมเนี้ย” ผมหันไปกระซิบถามมันเบาๆเพราะนอกจากที่มันจะพาผมมาแบบไม่ให้ทันตั้งตัวแล้วยังถือวิสาสะเข้ามาจอดรถหน้าบ้านของชาวบ้านเขาอีกด้วย ลุงยามเปิดประตูให้มันเข้ามาได้ยังไงเนี้ย!!
เสือจ้องตาผมปริบๆ “เก็บเสื้อผ้าไปอยู่กับกู”
“ห้ะ? อะไรนะ…”
“ว๊ายตายแล้ว! ธามเป็นอะไรหรือเปล่าลูก” ในระหว่างที่ผมกำลังจะถามต่อ เสียงของพระมารดาผู้ให้กำเนิดบังเกิดเกล้าก็ขัดขึ้นมาซะก่อน ม๊าเอามือปิดปากใบหน้าสวยที่ราวสาวอายุพึ่ง 30 ต้นๆ(ทั้งที่ความจริงฟาดไปสี่สิบแล้ว)ดูตกอกตกใจ ผมมองสภาพด้วยเองในตอนนี้ผมเผ้ากระแซะกระเซิงเสื้อผ้ายับยู่ยี่จากการนอนบนรถ แถมไอ้เสือมันยังอุ้มผมอยู่ในท่าเจ้าหญิง…
“เฮ้ยย! ปล่อยกูลง”
ตุ้บ!ปล่อยแบบไม่ถนอมกันเลยนะสัส! เจ็บเชี่ย“ธามเป็นอะไรหรือเปล่า” ม๊ารีบวิ่งมาหาผมที่นอนกลิ้งอยู่กับพื้นแล้วเงยหน้าขึ้นมองไอ้เสือ ก่อนตาโตจะเบิกกว้างกว่าเดิมคล้ายคนกำลังตกใจอะไรแบบสุดขีด “โอ้! พระเจ้า ถึงว่าหน้าหล่อคุ้นๆ ที่แท้ก็คุณชายบ้าน
อัครมหาภูวสถิตนี่เอง”
“ม๊า!” คราวนี้เป็นผมที่เป็นฝ่ายช็อก “ม๊ารู้จักไอ้เสือด้วยหรือ!”
“แหม… ทำไมจะไม่รู้ก็ลูกชายของประธานเครืออภิวัฒน์หุ้นส่วนรายใหญ่ของเราไง” ม๊าทำหน้าปลื้มมันสุดๆส่วนไอ้เสือมันก็ยังคงสเต็ปหน้านิ่งเหมือนเดิม “แถมยังหล่อแบบเกินห้ามใจอีกด้วย
ม๊าจองไว้เป็นเขยคู่กับธีมนะ!”
“หึ!” คราวนี้ไอ้เสือแสยะยิ้มครับ มันมองผมนิ่งๆ ส่วนผมก็ใจสั่นแบบหวิวๆกับคำพูดของม๊าเมื่อกี้ ถ้าไม่ติดว่า…
“ม๊าแต่ธีมมันเป็นเลสเบี้ยนนะ!” ผมถามเสียงดัง ธีมคือน้องสาวของผมเองเราห่างกัน 4 ปีแถมยัยนี้ยังสวยซะเปล่าเป็นเลสเบี้ยนไปซะได้ ม๊าทำหน้าเหนื่อยหน่ายแล้วกอดอกยอมรับสภาพ
“จ้ะๆ ลูกชายเป็นเกย์ ลูกสาวเป็นเลส เจริญมากบ้านฉัน! ธามกับธีมก็หน้าตาดีกันซะเปล่าเสียของหมด”ถูกต้องแล้วครับ เรื่องผมเป็นเกย์นั้นรู้กันหมดทั้งบ้านแล้วเพราะผมมีอะไรก็บอกกับม๊ากับป๊าเสมอไม่เคยปิดบัง แถมทั้งสองท่านก็เป็นผู้ปกครองยุคใหม่ยอมรับทุกอย่างเกี่ยวกับลูกได้แบบไม่มีอะไรให้ตกค้างคาใจ เพราะแบบนี้ผมถึงรักป๊ากับม๊ามากๆ
“อ๊ะเกือบลืม! คุณเสือมาเอากระเป๋าเสื้อผ้าของธามใช่ไหมคะ นี่ค่ะน้าเตรียมเอาไว้ให้แล้ว”
ว่าจบกระเป๋าใบหนาก็ถูกยื่นให้ไอ้เสือ มันรับไปแบบยิ้มๆก่อนจะเหล่ตาคมมองผมที่ยังนอนงงอยู่บนพื้นบ้าน
“อ… อะไรนะม๊า นี่มันยังไงกัน”
ม๊าผมทำหน้าเอือมระอาอีกรอบก่อนจะยื่นมือมาฉุดผมขึ้นจากพื้น “ก็คุณเสือเขาโทรมาบอกฉันเอาไว้แล้วนะสิ ว่าธามจะมาเอาเสื้อผ้าที่บ้านฉันก็เลยจัดเตรียมเอาไว้ให้เลย”
อื้อหือ! โดนสถาปนาเป็นถึงคุณเสือ แค่บอกว่าจะพามาเอาเสื้อผ้าก็ถูกจัดเตรียมไว้ให้อย่างดี อภิสิทธิ์ออกจะใหญ่เกินไปแล้วนะมึงอ่ะ! “ม๊าแต่ธามยังไม่ได้บอกเลยนะว่าจะไป โอ้ยย -- มันเจ็บนะม๊า! แล้วม๊ารู้จักกับมันได้ยังไง”
“บ่นเป็นคนแก่ไปได้นะธาม รู้จักกันตั้งแต่งานครั้งก่อนนู้น แล้วนี่จะอยู่ทานข้าวกันก่อนไหมจ้ะ”
“คงไม่ครับ” เสียงทุ้มตอบ
“แหม… เสียดายจัง งั้นน้าฝากธามไว้กับคุณเสือด้วยนะคะ”
“ด้วยความยินดีครับ”
…เออ เอาเข้าไปประเคนกูให้ถึงมืออย่างเสร็จสรรพถามความคิดเห็นกูก่อนสักคำไหมเนี่ย เสือมันคงเห็นหน้าผมหงุดหงิดนิดหน่อยเลยบอกลามาก่อนจะขอตัวไปรอที่รถ เหลือเพียงแค่ผมกับม๊ากันสองคนกำลังจ้องตากันอยู่ ในที่สุดพอผมทนไม่ไหวจึงหลบสายตาก่อนพอดีที่มือเรียวหันมาบิดหูผมแบบปุ๊บปั๊บ
“โอ้ยยย เจ็บๆครับ พอได้แล้วธามเจ็บ”
“เจ็บนั้นแหละดีแล้ว จะเป็นเกย์ทั้งทีก็ขอให้สามีธามถูกใจม๊าหน่อยเถอะ! อย่างคุณเสือม๊าให้ผ่านทุกประการ”
“เอ้า แหงงี้อ่ะม๊า”
“รู้ไหมตอนที่คุณเสือเขาโทรมาหาม๊าว่าจะมาเอาเสื้อผ้าของธามไป ม๊ารู้สึกยังไง”
“ยังไงอ่ะ”
“อกอีแป้นจะแตกนะสิ! เด็กอะไรหล๊อหล่อแค่เห็นก็ยังใจสั่นแล้ว ทายาทของตระกูลอัครมหาภูวสถิตที่รวยล้นฟ้าจนไม่รู้ว่าจะเอาตังค์ไปไว้ใหน ถ้าหนูไม่โง่นะธามหนูควรจับคุณเสือเอาให้แบบอยู่หมัด…”
“เรื่องหัวใจมันทำให้รักกันไม่ได้นะม๊า!!”
“อยู่ไปนานๆก็รักกันเองแหละน๊า”
“นี้มันมัดมือชกแล้ว”
“ไม่รู้แหละแม่จะเอาคุณเสือ”
…นั้นไงมาละ ถ้าม๊าเปลี่ยนสรรพนามเรียกตัวเองว่าแม่ทีไรนั้นหมายความว่าสตรีท่านนี้เอาจริงแล้วครับ “ปกติเวลาเรามีอะไรกันใครเริ่มก่อนธาม”
ผมรู้สึกหน้าแดงวูบวาบ “ม… แม่อยากรู้ไปทำไม”
“เอิ่ม งั้นธามเคยเริ่มก่อนไหม”
“ร… เรื่องแบบนี้ไม่เคยหรอก”
สตรีหญิงดีดนิ้วดังเป๊าะ “งั้นดีคืนนี้ลูกต้องเริ่มก่อน”
“ห้ะ!”
“เชื่อแม่นะ อ่ะนี้ตัวช่วย” มือเรียวยืนซองยาวสีขาวอันเล็กๆมาให้ผม
“อะไรครับ”
“ถ้าแกเริ่มไม่เป็นก็ลองใส่ยานี้ลงไปในน้ำแล้วเอาให้คุณเสือกินดู”
“แล้ว…”
“แล้วมันก็จะเป็นไปตามวิถีทางของมัน”
“วิถีทางอะไรของแม่!”
“เชื่อแม่ แม่เคยทำมาแล้วไม่งั้นลูกคงไม่เกิดขึ้นมาหรอก”
ผมตาโต อ้าปากพะงาบๆอยากถามอะไรเกี่ยวกับไอ้ซองสีขาวนี่อีกมากมาย แต่โดนดันหลังให้ไปขึ้นรถเสียก่อน ผมถือกระเป๋าเสื้อผ้าใบหนาเหล่ตามองซองยาสีขาวแล้วยัดเข้าเสื้อ ก่อนจะเปิดประตูแล้วเข้าไปนั่งในตำแหน่งข้างคนขับไอ้เสือมองหน้าผมนิ่งๆ ก่อนจะเคลื่อนตัวออกจากบ้านผมเพื่อไปยังคอนโด
‘เชื่อแม่ แม่เคยทำมาแล้ว!!’ ผมคงกลืนน้ำลายอึกเสียดังไปหน่อย ใบหน้าหล่อเหลาของมัน(ที่ยังไม่รู้อิโหน่อิเหน่ถึงแผนการอันชั่วร้ายและแยบยลของแม่ผม)จึงหันมามองที่เกิดขึ้นพร้อมคำถามในใจผมว่า
‘กูจะเชื่อดีไหมวะ ?’ ยาสีขาวถูกเทลงในแก้วน้ำส้มผมใช้ช้อนค้นไปมาจนยาเริ่มผสมกับน้ำได้อย่างเนียน พร้อมถอนหายใจเป็นรอบที่ห้าของวัน มองหน้าตัวเองในกระจกก่อนจะถือแก้วน้ำส้มไปหาร่างสูงที่กำลังนั่งดูหนังอยู่ในห้องนั่งเล่น นัยน์ตาคมตวัดมามองผมเล็กน้อย ร่างเล็กเดินเข้าไปใกล้ๆมือหนาจัดการรวบตัวผมไปกอดแล้วเอาคางเกยบนหัวทันที ผมยื่นแก้วน้ำส้มไปให้ คิ้วเข้มเลิกขึ้นคล้ายแปลกใจ
“กินไหม”
เส้นผมสีน้ำตาลเข้มถูกขยี้ไปมา ร่างสูงรับแก้วที่ผสมยามาแบบไม่ต้องคิดก่อนจะ…
เฮือก.
เสือดื่มมันลงไปหมดทั้งแก้วเลยจบ.
PS.ยังไม่ได้ตรวจทานคำผิดกับประโยคผิดเลยนะรีบแต่งรีบลงให้อ่านเลย
***************************
ธามมันมโนจริงนะแต่รอบนี้
การมโนของธามอาจเป็นจริงก็ได้นะ อิอิ้

#คุณแม่วินสุดครอบครัวนี้เขาใจกว้าง
อาจดูไม่สมเหตุสมผมแต่เราไม่ต้องการให้นิยายของเรามีคำว่า 'ดราม่า' อยู่
โปรดเข้าใจเจตนานักเขียนด้วยนะคะ
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านค่ะ