น้องกันต์จัดให้ครั้งที่ 53“ทำไมน้องกันต์ถึงเรียกคุณสองคนว่ามัมแล้วก็พ่อครับ”สิ้นคำถามนั้นทั้งพัทธ์และนคินทร์ก็ได้แต่นิ่งเงียบอย่างไม่รู้จะตอบอย่างไรดี ความอึดอัดวิ่งวนรอบตัวพวกเขาอยู่ครู่ก่อนที่ทุกอย่างจะหายไปเมื่อพนักงานสาวเดินมารับออเดอร์ พัทธ์จึงละสายตาจากคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกันกลับมาหาลูกชายตัวน้อยที่ร้องเรียกให้คุณมัมสั่งคุณปลาสีส้มให้เร็วๆ
คำถามนั้นเป็นอันตกไปเพราะศรัณย์เองก็หันไปสนใจน้องกันต์แทน อาหารหลายอย่างที่เขาสั่งมาให้เด็กผู้ชายคนนั้น... คนที่เป็นลูกชายแท้ๆ ของเขา ยิ่งศรัณย์มองน้องกันต์มากแค่ไหน ความรู้สึกผิดในใจก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ถ้าหากวันนั้น... เขาไม่เห็นแก่ตัวเองจนทิ้งพราวไป เรื่องราวทุกอย่างก็คงไม่เป็นแบบนี้ ถ้าหากเขาไม่ทำแบบนั้นทุกวันนี้เขาคงได้นั่งอยู่กับภรรยาคนสวยและลูกชายตัวน้อยน่ารัก ไม่ใช่การที่มานั่งมองในฐานะคุณอา... ที่เป็นใครที่ไหนก็ไม่รู้และไม่ได้ยินเด็กคนนั้นเรียกเขาว่า ‘พ่อ’
และพอนึกถึงตรงนี้ศรัณย์ก็เบนสายตาไปมองคนที่น้องกันต์เรียกว่าพ่อได้อย่างเต็มปากเต็มคำ เขาเพิ่งได้เจอกับพัทธ์... น้องชายของพราวอดีตคนรักของเขา เพิ่งได้รู้เรื่องของพราวว่าเสียชีวิตไปแล้วเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่รายละเอียดนั้นเขายังไม่รู้
หรือผู้ชายคนนี้... คนที่น้องกันต์เรียกว่าพ่อ จะเป็นคนรักใหม่ของพราว... อย่างนั้นเหรอ
คำถามมากมายผุดขึ้นในความคิดของศรัณย์เต็มไปหมดแต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรออกไปเพราะรู้ดีว่าเวลานี้คงยังไม่เหมาะสมที่จะถาม
ศรัณย์รู้มาตลอดว่าตัวเองมีลูกกับพราว... เพราะวันนั้นวันที่เขาตัดสินใจทิ้งพราวมาพราวเดินเข้ามาหาเขาพร้อมรอยยิ้มแล้วบอกกับเขาว่าตัวเองตั้งท้อง...
‘พี่ชาย... พี่ชายๆๆ’ เสียงของผู้หญิงดังเรียกชายหนุ่มที่กำลังง่วงกับการเก็บของอยู่ในห้องพักแคบๆ ก่อนที่ร่างของหญิงสาวจะเดินเข้ามาหา
‘มีอะไรพราว’ ชายหนุ่มถามกลับแต่ไม่ได้หันกลับไปมอง
หญิงสาวเจ้าของชื่อพราวเอื้อมมือมาจับแขนของเขาก่อนจะจับให้หันไปหา และเขาก็ได้เห็นผู้หญิงที่สวยที่สุดที่เขารู้จักมาก เธอทั้งสวย และนิสัยดี และเขาก็โชคดีได้เธอเป็นคนรัก แต่เขากลับโง่... ที่รักษาเธอไว้ไม่ได้
‘พราว... พราวท้องจ้ะ พราวท้องละพี่ชาย พราวท้องลูกของเรา’ คำบอกของหญิงสาวที่ใบหน้าเปื้อนยิ้มกลับทำให้เขาช็อคค้างยิ่งกว่าอะไร
‘พราวจะท้องได้ยังไง! พี่บอกให้ป้องกันไม่ใช่หรือยังไงกัน!’ ถ้อยคำที่นึกย้อนไปแล้วก็เหมือนกับคำพูดของผู้ชายที่เห็นแก่ตัว...
‘พราวรู้... ต แต่ของแบบนี้ใช่ว่าจะป้องกันได้ตลอดนี่คะ พ พี่ไม่ดีใจเหรอที่พราวท้อง...’‘พี่คงจะดีใจ ถ้าไม่ใช่ตอนนี้ ตอนที่เราตกงานจนแทบจะไม่มีเงินซื้อข้าวกิน ตอนที่แทบจะไม่มีที่ซุกหัวนอนอยู่แล้ว!!’ ชายหนุ่มตวาดเสียงลั่น แค่เรื่องตกงานก็ทำเขาเครียดมากพออยู่แล้ว ตอนนี้แค่จะหาเงินซื้อข้าวในแต่ละวันยังยากแสนยาก ถ้าต้องมี
’ภาระ’ เพิ่มมาอีกอย่างคงได้อดตายกันสักวัน
‘ล แล้ว... จะให้พราวทำยังไง ก็... พราวท้องไปแล้ว...’‘ถ้าไม่ไปเอาเด็กออก พราวก็กลับไปอยู่กับครอบครัวของพราวไป พี่ไม่มีปัญหาเลี้ยงดูหรอก’ ถ้อยคำร้ายกาจที่ทำเอาพราวถึงกับช็อคเหมือนกับมีอะไรตกใส่ หัวใจกระตุกอย่างรุนแรง น้ำตาเออคลอหน่วงอยู่ที่ดวงตาแต่มันกลับไม่ยอมไหลออกมา
‘พ... พี่ชาย... พี่ชาย พี่ชาย!’คำร้องเรียกที่ส่งไปไม่ถึงเมื่อเขาได้หันหลังแล้วเดินออกจากห้องพักนั้น เดินออกมาแบบไม่คิดจะเลี้ยวกลับไปมองเสียด้วยซ้ำ เพราะความเห็นแก่ตัว...
ตลอดระยะเวลาหลายปีเขาฝันเห็นภาพในคืนนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เริ่มต้นใหม่กับใครไม่ได้เพราะความรู้สึกข้างในอกมันรุนแรง หลายต่อหลายครั้งที่พยายามติดต่อไปหาพราวแต่ก็ไม่สำเร็จ ไปหาที่หอพักที่เคยอยู่ด้วยกันก็พบเพียงความว่างเปล่า เจ้าของหอบอกว่าพราวย้ายออกไปแล้ว... หลังจากที่เขาออกมาได้ไม่นาน สิ่งที่เขาคิดก็คงเป็นพราวกลับไปอยู่ที่บ้าน เขารู้แค่ว่าบ้านของพราวอยู่ชลบุรีแต่อยู่ที่ไหน ส่วนไหนของจังหวัดเขาไม่รู้ และนั่นก็ทำให้เขารู้ตัวเองว่า... ตัวเขาเป็นคนรักที่แย่มาก
ไม่เคยเข้าบ้านคนรัก ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะพยายามทำความรู้จักครอบครัวของพราว ไม่เคยเลย เขามันก็แค่ผู้ชายเห็นแก่ตัว...
“คุณอา... คุณอาๆ อ้าม...” เสียงของน้องกันต์เรียกให้ศรัณย์กลับมาจากความคิด ใบหน้าคมคายระบายยิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นน้องกันต์ใช้ช้อนตักข้าวในถ้วยของเขามาจ่อให้ถึงปาก “หม่ำๆ นะ หม่ำๆ ด้วยกันนะ”
“ขอบคุณครับ” ศรัณย์ตอบก่อนจะอ้าปากรับข้าวที่น้องกันต์ป้อนให้ พอเจ้าตัวเล็กเห็นคุณอายอมทานข้าวก็ยิ้มกว้างดีใจ แล้วก็วิ่งกลับมาฝั่งตรงข้ามทิ้งตัวลงนั่งบนตักของพ่อคินแล้วอ้อนให้พ่อป้อนแซลมอนบ้าง
หลังจากทานมื้อข้าวกันเสร็จเรียบร้อยพวกเขาก็ย้ายกันไปที่สวนสาธารณะใกล้ๆ เนื่องจากทั้งพัทธ์และคินต่างก็รู้ดีว่าศรัณย์คงมีเรื่องที่อยากจะคุยด้วย
คุณหมอยาที่พลันตัวไปเป็นปาติชิเย่พาน้องกันต์ไปเดินเล่นปล่อยให้พัทธ์ได้พูดคุยกับคุณศรัณย์ตามลำพัง หรือจริงๆ แล้วเขาอยากพาน้องกันต์ออกมาเพื่อที่จะได้คุยกับน้องได้
ไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้ หรือในอนาคตน้องกันต์ก็ต้องรู้เรื่องของตัวเองอยู่ดี คินไม่รู้หรอกว่าวันนี้จะเร็วเกินไปหรือเปล่าแต่อย่างน้อยหากได้ลองถามน้องกันต์และรู้ความรู้สึกลึกๆ ในใจของน้องทั้งเขาและพัทธ์จะได้คิดและตัดสินใจถูกหากมีอะไรเกิดขึ้น
ในขณะที่คินพาน้องกันต์ไปเดินเล่น พัทธ์กับศรัณย์ก็นั่งอยู่ที่ม้านั่งในสวน แล้วก็เป็นคนที่เก็บความสงสัยเอาไว้ตั้งแต่ในร้านอาหารเป็นคนเริ่มบทสนทนาก่อน
“ผมอยากรู้... ว่าทำไมน้องกันต์ถึงเรียกคุณว่ามัม...”
พัทธ์เบนสายตาไปทางที่น้องกันต์เดินไปกับนคินทร์ก่อนจะหันกลับมามองคู่สนทนาอีกรอบแล้วจึงเริ่มเอ่ยปากเล่าให้ฟัง “พี่พราว... สุขภาพไม่แข็งแรงหลังจากที่คลอดน้องกันต์ก็เจ็บป่วยมาตลอด บางวันก็ลุกไม่ไหว เลี้ยงน้องกันต์ไม่ได้ผมก็เลยช่วยเลี้ยงน้องให้ อย่างที่คุณเห็น... ผมกับพี่พราวหน้าคล้ายกันมาก”
พอพูดถึงตรงนี้ศรัณย์ก็พยักหน้ารับ พราวกับพัทธ์หน้าคล้ายกันมาจริงๆ ถ้าบอกว่าเป็นฝาแฝดก็คงมีคนเชื่อ...
“เพราะแบบนั้นแหละครับ คำแรกที่พี่พราวสอนให้น้องพูดก็คือ ‘มัม’ แล้วก็เด็กน่ะ... พอพูดได้ก็ติดเรียกมัมๆ ไม่หยุด ผมเคยสอนให้น้องเรียกผมว่าน้า แต่น้องกันต์ก็ไม่ยอมเรียก เรียกผมว่ามัมจนติดปากแล้วพอพี่พราวเสีย... ผมก็เป็นคนเลี้ยงน้องกันต์มา พอน้องโตขึ้นอีกหน่อยก็สอนให้เรียกน้า หรือไม่ก็พ่อ แต่น้องก็ไม่ยอมเรียก ผมก็เลยปล่อยให้น้องเรียกว่ามัมแบบนั้น”
“คุณเลี้ยงน้องกันต์มาเหรอครับ...”
“ครับ เหนื่อยเหมือนกันแต่ก็มีความสุข พ่อกับแม่ผมก็รักแล้วก็เอ็นดูน้องกันต์มา น้องเป็นแก้วตาดวงใจของบ้านเลยละครับ เป็นของขวัญชิ้นสำคัญ... ที่พี่พราวให้กับพวกเราก่อนที่พี่เขาจะจากไป”
“แล้ว... ทำไมน้องกันต์ถึงเรียกคุณคินว่าพ่อละครับ เขาเป็นคนรักใหม่ของพราวเหรอ” ศรัณย์ยังคงถามเรื่องที่ค้างคาอยู่ในใจต่อ
“พี่คิน... ไม่ได้เป็นคนรักของพี่พราวหรอกครับ แต่พี่คินเป็นคนรักของผม”
คำตอบของพัทธ์ทำให้คนฟังนิ่งไปทันที ก่อนที่ดวงตาของศรัณย์จะเบิกกว้าง ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนแล้วร้องถามอย่างไม่แน่ใจว่าเขาฟังผิดหรือเปล่า “คุณว่าอะไรนะ?! คุณคินเป็นคนรักของคุณ แล้วน้องกันต์เรียกเขาว่าพ่อได้ยังไง หรือคุณเล่นพ่อแม่ลูกกันอย่างนั้นเหรอ ตลกแล้วครับ”
“มันไม่ตลกครับคุณศรัณย์ พี่คินเป็นคนรักของผมและมีเหตุจำเป็นที่ทำให้น้องกันต์เรียกพี่คินว่า... พ่อ”
“คุณบอกว่าคุณคินเป็นคนรักของคุณ คุณรักเพศเดียวกันอย่างนั้นนะเหรอครับ” ศรัณย์ถามสีหน้าของชายหนุ่มยังเต็มไปด้วยความงุนงงและไม่เข้าใจ “แล้วคุณสองคนเลี้ยงน้องกันต์เนี่ยนะครับ!”
“แล้วมันยังไงครับ มันผิดตรงไหนที่ผมกับพี่คินเป็นคนรักกัน และเราเลี้ยงน้องกันต์ด้วยกัน!” คนที่พยายามนิ่งตลอดก็เริ่มไม่พอใจกับสิ่งที่ศรัณย์พูด พัทธ์พยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะพูดระบายทุกอย่างออกมา “คุณไม่พอใจอย่างนั้นเหรอครับ คุณคิดว่ามันผิดอย่างนั้นเหรอครับ! อย่างนั้นผมขอถามหน่อยเถอะ... แล้วคนเป็นพ่ออย่างคุณ คนที่เป็นพ่อแท้ๆ อย่างคุณในวันที่น้องกันต์ร้องไห้หาพ่อของเขา วันที่น้องกันต์ร้องไห้แล้วถามกับผมว่าพ่อของน้องไปไหน วันที่น้องร้องไห้แล้วบอกผมว่าน้องไม่มีพ่อ! คุณอยู่ที่ไหนครับคุณศรัณย์ ในวันแบบนั้นคุณอยู่ที่ไหน!!”
คำพูดของพัทธ์ทำให้ศรัณย์นิ่งเงียบไปทันทีเพราะสิ่งที่พัทธ์พูดนั้นเป็นจริงทุกอย่าง ในวันแบบนั้นเขาไม่ได้อยู่ตรงนั้น ไม่ได้อยู่ตรงหน้าน้องกันต์... และไม่ได้เป็นคนที่น้องกันต์เรียกว่าพ่อ
“ผมสาบานได้... ผมไม่ได้รังเกียจหรือบอกว่าสิ่งที่คุณเป็นมันผิด...” ศรัณย์ยกมือทั้งสองข้างขึ้นเป็นเชิงบอกว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นเรื่องจริง “แต่... คุณไม่คิดหรือว่าถ้าหากคุณสองคนเลี้ยงน้องกันต์ ต่อไปในอนาคตจะทำให้น้องกันต์เป็นแบบพวกคุณ...”
“ผมขอบคุณที่คุณเลี้ยงน้องกันต์มา คุณเลี้ยงเขาได้ดีมากจริงๆ คุณพัทธ์... แต่สังคม สภาพแวดล้อมที่น้องอยู่กับคุณ... คุณอยากให้น้องกันต์เป็นแบบคุณเหรอครับ...” ศรัณย์ถามย้ำ
คราวนี้เป็นพัทธ์ที่นิ่งเงียบไป ใบหน้าสวยนั้นเสหลบไปด้านข้าง ดวงตาหลุบต่ำลงอย่างนึกตามในสิ่งที่ศรัณย์พูด ไม่สิ... ไม่ได้นึกตามเพราะสิ่งที่ศรัณย์พูดเป็นสิ่งที่อยู่ในใจของพัทธ์มาโดยตลอดเพียงแต่เขาเก็บเอาไว้ในใจไม่พูดออกมา
การรักชอบผู้ชายไม่ผิด แต่คงดีกว่าหากทุกคนมีชีวิตที่ปกติ ไม่ต้องโดนคนบางกลุ่มนินทาหรือตั้งท่ารังเกียจ...“ผมรู้ว่ามันเป็นเรื่องยาก... แต่ผมอยากให้คุณกลับไปคิดดูในสิ่งที่ผมพูด แล้วสิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้มันเหมือนคำพูดลอยๆ แต่ผมสาบาน... ผมรักพราวจริงๆ ผมรู้สึกผิดมาตลอด ไม่ใช่ว่าผมไม่พยายามที่จะตามหาพราว แต่ภาระหน้าที่หลายๆ อย่างทำให้ผมไม่สามารถทำได้ ผมคิดมาตลอดว่าผมจะต้องมีชีวิตที่ดีขึ้นเพื่อสักวัน... จะไปขอขมาพ่อแม่ของพราว ขอโทษพราวและรับพราวกับลูกมาอยู่ด้วยกัน ผมคิดแบบนั้นจริงๆ คิดแบบนั้นในทุกๆ วัน มันไม่ง่ายเลยกว่าที่ผมจะสามารถขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งผู้จัดการได้แบบนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมทำ... ผมทำเพื่อพราวและลูก”
“คุณ... อยากจะพูดอะไรกันแน่ครับคุณศรัณย์” พัทธ์ถาม หันกลับไปมองคนที่ได้ชื่อว่าเป็น
พ่อแท้ๆ ของน้องกันต์“ผมอยากให้น้องกันต์ไปอยู่กับผม... ผมสัญญาผมจะเลี้ยงน้องกันต์ให้ดีที่สุด” ศรัณย์พูดก่อนที่เขาจะอธิบายเพิ่มต่อเมื่อเห็นสีหน้าของพัทธ์ “คุณจะแวะไปหาน้องกันต์เมื่อไหร่ก็ได้ หรือจะพาน้องกันต์มาที่บ้านก็ได้ ผมแค่อยากจะชดเชยช่วงเวลาที่ผมทำผิดพลาดไป ผมอยากเลี้ยงดูน้องกันต์ให้เขาเติบโตขึ้น หวังว่าคุณจะเห็นใจผม...”
“ผม... ผมขอเวลา อย่างน้อยก็ขอให้น้องกันต์เป็นคนตัดสินใจเอง ถ้าน้องอยากไปอยู่กับคุณผมก็ไม่มีปัญหา...” พัทธ์พูด แม้ในใจจะทั้งเจ็บปวดและทรมานกับคำพูดของตัวเอง
น้องกันต์ที่เคยร้องไห้เสียจนน่าสงสารร้องหาพ่อ ถ้าหากวันนี้น้องกันต์รู้ว่าพ่อที่เคยร้องไห้หามายืนอยู่ตรงหน้า น้องจะดีใจหรือจะเป็นยังไง ถ้าหากน้องกันต์อยากที่จะไปอยู่กับพ่อแท้ๆ พัทธ์จะทำยังไง...
แค่คิดน้ำตาก็เออล้นจนแทบจะไหลรินออกจากดวงตา ยังไม่รวมในสิ่งที่ศรัณย์พูดถึงข้อเท็จจริงที่สำคัญอีกหนึ่งข้อ ถ้าหากเขาเลี้ยงน้องกันต์ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าหากน้องกันต์ยังใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชายที่รักผู้ชายด้วยกันอย่างเขาต่อไป... ในอนาคตน้องกันต์ก็อาจจะเป็นแบบเขา
แล้วถ้าหากน้องกันต์เป็น และผู้คนรอบข้างตัวน้อง เพื่อนๆ ของน้องรับไม่ได้ น้องกันต์จะรู้สึกเจ็บปวดแค่ไหน น้องกันต์จะคิดกล่าวโทษว่าเป็นเพราะเขาหรือเปล่า...
“พัทธ์” เสียงเรียกชื่อของคนที่คิดไปไกลดังขึ้นให้พัทธ์รู้สึกตัว เป็นคินเองที่เรียกเขา
สีหน้าของคนตรงหน้าเคร่งเครียดซึ่งพัทธ์ไม่แน่ใจว่าเกิดจากอะไร หรือจะเป็นเพราะเห็นสีหน้าของเขากันแน่
พัทธ์ได้แต่ส่งยิ้มจางๆ ออกไปให้ ก่อนจะเลี่ยงหันไปคุยกับน้องกันต์แทน “ไปเดินเล่นถึงไหนกันมาครับน้องกันต์”
“นู้นนนน ไปตั้งไกลแหน่ะ พ่อคินวิ่งสู้น้องกันต์ไม่ได้ด้วย น้องกันต์วิ่งเร็วกว่าเยอะเลย” เจ้าตัวเล็กที่ไปวิ่งเล่นมาเสียจนเหงื่อออกร้องบอกพร้อมกับยิ้มกว้าง
“อย่างนั้นเหรอครับ เล่นซะเหงื่อเต็มเลย” พัทธ์ว่าก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าเป้ของน้องกันต์ออกมาแล้วจัดการเช็ดหน้าให้เจ้าตัวเล็ก
“ขอบคุณครับมัม” น้องกันต์ยิ้ม ก่อนที่เจ้าตัวจะหันไปมองศรัณย์ที่ยังยืนอยู่ใกล้ๆ ก่อนจะหันกลับไปมองพ่อคินของเขาและกลับไปมองศรัณย์อีกรอบพร้อมกับยิ้ม “คุณอาน่าจะไปวิ่งด้วยกัน”
“เอาไว้คราวหน้าเราไปเล่นด้วยกันแล้วกันนะครับ” ศรัณย์โน้มตัวลงมาหาน้องกันต์แล้วลูบผมที่ชื้นเหงื่อนั้นเบาๆ อย่างเอ็นดูแล้วจึงกลับไปยืนตรงเหมือนเดิม “อย่างนั้นผมกลับก่อนนะครับ เรื่องที่ผมพูด... คุณพัทธ์ลองเอากลับไปคิดดูนะครับ ผมขอยืนยันอีกรอบว่าผมจริงจัง”
“ครับ...” พัทธ์รับคำเสียงแผ่ว ก่อนที่ทั้งสามคนจะเอ่ยลาศรัณย์และแยกย้ายกันไป
************************************************
มาแล้วค่ะ เหตุผล สาเหตุ ทุกๆ อย่างกับสิ่งที่ศรัณย์ต้องการ อยากจะให้น้องกันต์ไปอยู่ด้วย แล้วถ้ายังจำกันได้... ก่อนที่พัทธ์จะตกลงคบกับพี่คิน สิ่งที่พัทธ์คิดอยู่ตลอดคือการคิดว่า... การเป็นผู้ชายปกติ ย่อมดีกว่าการที่รักผู้ชายด้วยกันเอง และไม่อยากที่จะทำให้คนที่ไม่ได้เป็นต้องมาเป็น ต้องมาเจออะไรแบบนี้ คราวนี้เจอศรัณย์จี้จุดในใจ พัทธ์ก็เคว้งไปทันทีเลยค่ะ แต่ก็อย่างที่พัทธ์บอก ทุกอย่างขึ้นอยู่กับน้องกันต์ค่ะ ถ้าต้องอยากไปอยู่ พัทธ์ก็ไม่สามารถห้ามความต้องการของลูกได้ อันนี้ก็ต้องรอลุ้นกันต่อไปนะคะว่าจะเป็นยังไง
ช่วงนี้ฟางงานค่อนข้างยุ่งค่ะ เพราะเพิ่งออกบูธเสร็จ ช่วงนี้งานจะเยอะมาก ปรับแบบ คุยกับลูกค้า แล้วก็ปรับแบบ อาจจะได้ทำงานล่วงเวลาบ่อยๆ (เหมือนอย่างวันนี้) เวลาคงน้อยลง ยังไงก็อย่าเพิ่งทิ้งกันไปไหนนะคะ
แล้วเจอกันใหม่ค่ะ
อ่านแล้วอย่าลืมคอมเมนต์นะคะ คอมเมนต์กันหน่อยนะ อย่าเงียบค่ะ ใจไม่ดีเลยยยยย
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
รักน้องกันต์ เอ็นดูน้องกันต์กันเยอะๆ นะคะ