(ต่อค่ะ)คินผมกำลังทั้งขำทั้งสนุกรวมไปถึงอยากจะแกล้งมากขึ้นไปอีก ไม่ต้องมองผมแบบนั้นเลยครับผมไม่ได้โรคจิตที่ชอบแกล้งใครเขาไปทั่วนะ แต่ผมแค่ชอบแกล้งพัทธ์แค่นั้นเอง หลังจากที่ทานมื้อเช้าด้วยกันที่บ้านของพ่อตรัยแม่ณีพัทธ์ก็ยังไม่ยอมพูดกับผมเลยครับ ไม่สิ... ก็มีพูดบ้างแต่นั่นก็เฉพาะตอนที่จำเป็นจริงๆ หรือสื่อสารกับผมแทนน้องกันต์แต่ถ้าคุยกับผมโดยตรงละก็... ไม่เลยครับ ตอนจะกลับแม่ณีมากระซิบบอกว่าพ่อเขาแซวเรื่องหน้าแดงตอนออกจากห้องครัว สงสัยจะงอนผมที่ผมทำให้เขาโดนแซวแบบนั้น แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยนะครับที่พัทธ์เขางอนผมแบบนี้
เห็นแล้วอยากแกล้งมากกว่านี้จัง...ผมนั่งมองคนขี้งอนที่เอาแต่เล่นกับน้องกันต์ไม่สนใจผมเลย ตอนนี้เราสามคนกลับมาถึงกรุงเทพเรียบร้อยแล้วครับ ออกจากบ้านพัทธ์มาตอนสายๆ เพราะไม่อยากกลับตอนบ่ายหรือตอนเย็นกลัวน้องกันต์จะเพลียพรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนอีก ซึ่งพอกลับมาถึงผมก็จัดการเอาของไปเก็บให้เรียบร้อยส่วนพัทธ์กับน้องกันต์ก็นั่งเล่นนอนเล่นกันอยู่สองคน น้องกันต์น่ะยังมาเล่นมาอ้อนผม แต่พัทธ์เนี่ยสิ พอหันมาเห็นผมก็สะบัดหน้าใส่ตลอดเลย น่ารักจริงๆ เลยนะ...
"มองอะไรครับ" พัทธ์หันมาถามผมเมื่อรู้ตัวว่าผมเอาแต่จ้องเขาไม่เลิก
"มองคนขี้งอน" ผมตอบ ส่วนคนที่ได้ยินคำตอบนะหรือครับ ก็เม้มปากหันหน้าหนีผมไปอีกแล้วนะสิ ไม่ว่าจะงอนแบบไหนก็น่ารักจริงๆ เลยนะ
ถ้ารู้ว่างอนแล้วจะน่ารักขนาดนี้ ผมคงแกล้งให้เขางอนนานแล้วละครับผมได้แต่ยิ้มขำกับท่าทางแสนงอนอย่างที่เจ้าตัวไม่ค่อยได้แสดงออกนัก เวลาอยู่ในที่ทำงานหรือชุดสูทพัทธ์จะดูโตเป็นผู้ใหญ่มากคงเพราะภาระหน้าที่ที่แบกอยู่บนบ่าทั้งสองข้างนั้นทำให้เขาต้องทิ้งช่วงเวลาที่สมควรจะได้เที่ยวเล่นเหมือนคนอื่นๆ ผมจึงรู้สึกดีนะที่เวลาอยู่ด้วยกันแบบนี้เขาแสดงนิสัยจริงๆ ของเขาออกมาให้ผมเห็น และผมเชื่อว่านอกจากคนในครอบครัวไม่มีใครได้เห็นท่าทางน่ารักของรองประธานคนนี้นอกจากผมแน่นอน
หันเงยหน้าขึ้นมองเวลาตอนบ่ายสองโมงกว่าแล้วเราแวะกินมื้อกลางวันก่อนจะกลับเข้าคอนโดเรียบร้อยตอนแรกผมก็ตั้งใจว่าจะทำอาหารง้อเสียหน่อยแต่คงต้องเปลี่ยนแผนซะแล้วละครับ เอาเป็นขนมหวานสารพัดชาเขียวแบบที่เขาชอบดีไหมนะ
"น้องกันต์ครับ" ผมเรียกน้องกันต์ที่นั่งดูการ์ตูนตาแป๋วอย่างตั้งอกตั้งใจ
"ฮะพ่อคิน" รับคำผมทั้งๆ ที่ไม่ยอมละสายตามาจากโทรทัศน์เลยสักนิด
"อยากหม่ำขนมไหมครับ พ่อคินว่าจะทำขนมสักหน่อย" พอได้ยินคำว่าขนมเท่านั้นแหละรีบหันมาเชียว หันมาอย่างเดียวไม่พอคลานบนโซฟามาหาผมด้วยครับ
"หม่ำๆ น้องกันต์อยากหม่ำ พ่อคินทำให้น้องกันต์หม่ำนะครับ นะ"
"ได้ครับ เดี๋ยวพ่อคินทำให้หม่ำนะ แล้วพัทธ์อยากหม่ำ... เอ๊ย อยากกินอะไรไหม เดี๋ยวพี่ทำให้" ผมหันไปมองคนที่ยังทำหน้างอใส่ผมอยู่
"ทำให้น้องกันต์เถอะครับ"
ผมอุ้มน้องกันต์ลงจากตักแล้วลุกขึ้นเพื่อไปเตรียมทำขนมแต่คงต้องลงไปทำที่ห้องของผมเพราะว่าห้องพัทธ์ไม่มีของ ก่อนที่จะเดินผ่านเขาไปผมก็คว้าหมอนอิงขึ้นมาบังเพื่อไม่ให้น้องกันต์เห็นฉากอันไม่เหมาะสมแล้วก้มลงหอมแก้มนิ่มๆ นั้นเต็มฟอด
"ขนาดขี้งอนยังหอมขนาดนี้เลยนะเนี่ย"
พัทธ์หันมามองผมตาวาวเลยครับ แถมยังยื่นมือมาทุบอกผมเต็มแรง เจ็บเหมือนกันนะเนี่ยไม่ใช่ไม่เจ็บแต่หน้าขาวๆ ขึ้นสีระเรื่อน่ามองแบบนั้นแล้วก็ถือว่าคุ้มละนะ หึหึหึ
ผมยิ้มให้คนขี้งอนที่อาจจะกำลังเปลี่ยนเป็นโกรธก่อนจะเดินออกจากห้องของพัทธ์ลงไปที่ห้อง ผมจะทำอะไรดีนะ... ทำวุ้นชาเขียวในน้ำเต้าหู้ดี หรือว่าจะทำพุดดิ้งชาเขียวถั่วแดงดีนะ อือ... แต่ถ้าทำไอศกรีมด้วยก็ใช้เวลานาน ถ้าอย่างนั้นเอาเป็นมาการองชาเขียวกินคู่กับวุ้นชาเขียวในน้ำเต้าหู้ดีกว่าไหนๆ ก็มีน้ำเต้าหู้แบบสำเร็จแช่อยู่ในตู้เย็นอยู่แล้ว
หลังจากที่คิดเมนูที่จะทำได้แล้วผมก็เริ่มลงมือทำวุ้นชาเขียวก่อนเลยครับ อุปกรณ์ ส่วนผสมนี่ที่ห้องผมมีหมดแทบจะทุกอย่างอยู่แล้วเพราะฉะนั้นไม่ต้องออกไปหาซื้อเลยครับ แล้วทำวุ้นก็ง่าย ส่วนผสมที่ใช้ก็มีไม่เยอะครับ ผมหยิบหม้อขึ้นมาตั้งไฟต้มน้ำกับผงวุ้นจนเดือดและละลายก่อนจะเติมน้ำตาลและผงชาเขียวลงไป ใช่ผงชาไม่เยอะมากครับไม่อย่างนั้นมันจะขม เสร็จแล้วก็คนต่อไปเรื่อยๆ จนน้ำตาลละลายหมด ก่อนจะเอาวุ้นที่ได้ที่แล้วเทใส่แม่พิมพ์ก็กรองก่อนครับ ผมเทใส่แม่พิมพ์สี่เหลี่ยมอันใหญ่ไว้ค่อยเอามาตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ทีหลัง เอาเข้าแช่ตู้เย็นก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยสำหรับวุ้นชาเขียวครับ
ต่อไปก็... มาการองชาเขียว โอเคเริ่มทำกันเลยดีกว่าครับ ผมว่า... เดี๋ยวผมลงไปซื้อไอศกรีมที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตดีกว่า ทำไอศกรีมมาการองก็ท่าจะดีนะ หลังจากที่ผมทำฝาของมาการองเสร็จแล้วก็ลงไปซื้อไอศกรีมวนิลากลับมาแช่ไว้ในตู้เย็นก่อนครับ
"เอ่อ ว่าไง" ผมรับโทรศัพท์ที่ไอ้หมอชลโทรเข้ามา
(เย็นนี้สังสรรค์กันไหมมึง ไอ้เมฆไอ้อัฐมันต้องการแอลกอฮอล์ว่ะ) ไอ้หมอชลพูด
"เย็นนี้? พรุ่งนี้พวกมึงไม่ทำงานกันรึยังไงวะ"
(ไม่อะ พวกกูไม่มีใครเข้าเวร อ๋อ... มีนกยูงแต่เข้าตอนบ่ายเธอบอกว่าสบายมาก)
ไอ้หมอพวกนี้นินะ... ว่างเป็นไม่ได้หาเรื่องเรียกแอลกอฮอล์เข้าร่างตลอด "พวกมึงไม่มีงานแต่กูมีงานนะครับ เผื่อมึงจะลืม"
(เออว่ะ เอาอย่างนี้งั้นไปห้องมึงแล้วกัน มึงจะได้นอนง่ายๆ เดี๋ยวพวกกูก็สุมๆ เอาแถวห้องนั่งเล่นมึงเอง ส่วนนกยูงกับพลอยบอกว่าอยู่ไม่ดึกอยู่แล้ว สบายๆ มึง)
ผมได้แต่กรอกตาไปมา จะให้ผมปฏิเสธหรอครับ? คุณก็รู้นิสัยไอ้หมอแล้วนินาว่ามันสนใจไหม ไม่ว่าผมจะตอบรับหรือปฏิเสธมันก็พากันแห่มาห้องผมอยู่ดี เอาเถอะ ตามสบายที่พวกนั้นอยากจะทำเลยครับ คิดเสียว่าผมไม่ใช่เจ้าของห้องเลยแล้วกัน
(แล้วก็ ไอ้เมฆมันฝากบอกว่าให้มึงเตรียมของกินไว้ให้ด้วยนะ อันนี้กูสาบานได้เลยว่าไม่ใช่กู ไอ้เมฆล้วนๆ แค่นี้นะมื้อบรรดาเหล้าเบียร์เดี๋ยวพวกกูแบกไปเอง จุ๊บๆ นะ)
ไอ้!! มามีจุ๊บๆ อีก โอ๊ยยย อยากจะเตะมันสักทีสองที ผมได้แต่ถอนหายใจอย่างเซ็งๆ แต่ก็เดินไปรื้อตู้เย็นดูว่าพอจะทำอะไรเป็นมื้อเย็นให้ไอ้พวกหมอเถื่อนพวกนั้นบ้าง เวลามากินเหล้ากันที่ห้องผมเมนูประจำที่พวกนั้นชอบก็คือข้าวผัด ต้มยำทะเล ไม่ก็ต้มซี่โครงหมู แล้วก็ลาบ นี่ถ้ามีข้าวเหนียวมันคงกินข้าวเหนียวแทนข้าว เห็นท่าทางเป็นคุณหมอท่าทางไฮโซแบบนั้นแต่พวกมันก็ชอบกินอะไรธรรมดาๆ แบบนี้แหละครับ
แต่เดี๋ยวก่อนสิ... ผมยังไม่ได้ง้อพัทธ์เลยนิหว่า ก่อนอื่นต้องไปง้อคุณมัมก่อน อาหารของพวกนั้นค่อยว่ากันทีหลัง หันมองเวลาอีกทีก็จะสี่โมงเย็นแล้ว ผมหยิบโทรศัพท์กดโทรหาพัทธ์
(ครับ) ดูท่าจะยังงอนอยู่นะเนี่ย
"พัทธ์ครับ เดี๋ยวลงมากินข้าวที่ห้องพี่นะ พี่กำลังจะเตรียมเลย"
(ทำไมเตรียมเร็วจะครับ)
"พอดีเดี๋ยวพวกไอ้หมอเพื่อนพี่มันจะมาที่ห้อง เลยต้องทำเตรียมไว้ให้พวกนั้นด้วย แต่เดี๋ยวพี่ทำให้พัทธ์กับน้องกันต์ก่อน ยังไงสักห้าโมงก็พาน้องลงมานะครับ วันนี้กินข้าวกันเร็วหน่อยเนอะ"
(ถ้าไม่สะดวกเดี๋ยวผมทำให้น้องกันต์เองก็ได้ครับ)
"ไม่ครับ" ผมรีบปฏิเสธทันที "ลงมานะครับ พี่ทำขนมไว้แล้วด้วย พี่ยังไม่ได้ง้อพัทธ์เลย ลงมานะ"
สุดท้ายคุณมัมก็ตอบตกลงครับ ผมเลยจัดการทำมื้อเย็นทันที ไหนๆ ก็ต้องทำข้าวผัดให้พวกเพื่อนๆ อยู่แล้วผมเลยทำให้น้องกันต์กับพัทธ์ด้วยเลย แล้วก็มีต้มยำทะเลกับแกงจืดสำหรับน้องกันต์ เวลาพวกเรากินข้าวด้วยกันกับข้าวจะมีแค่สองถึงสามอย่างครับ เพระทำเยอะไปก็กินกันไม่หมด พัทธ์เลยให้ทำแค่สองอย่างพอ แต่ทุกมื้อจะมีผักอยู่ด้วย แล้วจะแต่เป็นแกงจืด ผัดผัก หรือผักต้ม เพราะคนนั้นเขาจะสอนให้น้องกันต์กินผักตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งผมก็เห็นด้วยนะ เด็กๆ หลายคนไม่ชอบกินผัก แต่มันมีประโยชน์ต่อร่างกาย แรงๆ ก็ทำเป็นพวกน้ำผักผลไม้ก่อนจะได้กินง่ายๆ ต่อมาก็ใช้เวลาหั่นผักให้เป็นชิ้นเล็กหน่อยแล้วเอาไปทำอาหาร หรือไม่ก็ตกแต่งให้ดูน่ากิน
"พ่อคินนนนน พ่อคินนนน ไหนขนมน้องกันต์" เจ้าตัวเล็กร้องลั่นพร้อมกับวิ่งเข้ามาหาผมในครัว
"อยู่ในตู้เย็นครับ เดี๋ยวหม่ำข้าวเสร็จก่อนพ่อคินจะให้หม่ำขนมนะครับตัวเล็ก"
"โอเคคร้าบบบบ"
ผมให้น้องกันต์นั่งดูโทรทัศน์ก่อน ส่วนผมก็ดึงคนที่ยังงอนผมอยู่ให้เดินตามเข้าไปในห้องนอนว่าจะจัดการง้อเสียก่อน เดี๋ยวจะไม่ทันได้ง้อ
"มีอะไรครับ..." พัทธ์ถาม
"ง้อคนขี้งอนครับ" ผมยิ้มพร้อมกับดึงให้พัทธ์นั่งลงข้างๆ ผมบนเตียง ซึ่งเจ้าตัวก็ทำหน้าบึ้งทันที
"ผมไม่ใช่คนขี้งอนเสียหน่อย"
ครับ ไม่งอนเลยครับ แค่ไม่มองหน้าผม ไม่ยิ้มให้ผม ไม่คุยกับผมทั้งวันเท่านั้นเอง"ไม่ใช่คนขี้งอน... แต่ก็พาลมาลงกับพี่หรอครับ หือ? โดนพ่อแซวแล้วมาโกรธพี่เนี่ยนะ"
"ก็พี่คินนั่นแหละแกล้งผม!" เจ้าตัวหันมาร้องว่าผมทันที ก่อนจะเม้มปากเมื่อรู้ตัวว่าเผลอพูดออกมาแล้วในขณะที่ผมก็หัวเราะมองคนหน้าแดงที่คงจะแดงเพราะโกรธ "ไม่ต้องมาหัวเราะผมเลยนะ คนขี้แกล้ง คนนิสัยไม่ดี"
"น่ารัก... ตอนธรรมดาก็ว่าน่ารักแล้วนะ แต่พอพัทธ์งอนพี่ก็ว่ายิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่เลย" คราวนี้ไม่รู้แล้วว่าที่หน้าแดงเพราะโกรธ... หรืออายกันแน่นะ
"พี่จะแกล้งพัทธ์ให้น้อยลงก็ได้ หายงอนพี่นะครับ นะ..." ผมอ้อนทันที เอื้อมมือไปจับมือสองข้างซึ่งอีกคนก็ไม่ได้ขยับหนีหรือปัดทิ้งอะไร "หายงอนนะครับ"
"ผมก็ไม่ได้งอนอะไรสักหน่อย..."
"แค่อาย?" พัทธ์หันมามองผมทันที ผมยกมือขึ้นสองข้างอย่างยอมแพ้ก่อนจะพูดง้อเขาต่อจนที่สุดคนขี้อายที่ทั้งแสนงอนก็ยอมยกโทษให้ผมครับ น่ารักจริงๆ
หลังจากง้อเสร็จเรียบร้อยผมก็ลุกจัดโต๊ะอาหารทันทีโดยมีเขาตามมาช่วยจัดส่วนน้องกันต์ก็มานั่งรออยู่ก่อนแล้วครับ พอจัดการมื้อเย็นเสร็จพัทธ์ก็อาสาเก็บล้างจานให้ผมเลยลุกไปเตรียมขนมแทน หยิบวุ้นที่แข็งตัวกำลังดีแล้วออกมาจากตู้เย็น ตัดวุ้นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมชิ้นเล็กแล้วเอาใส่ถ้วยก่อนจะหยิบน้ำเตาหู้มาเทใส่ลงไป เอาถ้วยวางบนจานกระเบื้องอีกทีแล้วตักไอศกรีมวนิลาที่ซื้อมาวางไว้ข้างๆ กัน ส่วนมาการองก็เอามาเรียงใส่จานกระเบื้องไว้ ตักไอศกรีมวางก่อนจะเอาฝามาการองมาวางทับไว้ด้านบนอีกที
"มาแล้วครับ ขนมของน้องกันต์แล้วก็คุณมัม" ผมพูดพร้อมกับยกถาดที่มีจานขนมวางเอาไว้เดินไปที่ห้องนั่งเล่นที่ทั้งสองคนย้ายไปนั่งดูโทรทัศน์กันแล้วเรียบร้อบ
วางทุกอย่างไว้บนโต๊ะหน้าโซฟา อุ้มน้องกันต์มานั่งตักผมเพื่อที่จะได้ป้อนเจ้าตัวเล็กง่าย หันไปดึงอีกคนลงมานั่งบนพื้นข้างๆ กันก่อนจะส่งจานที่มีวุ้นชาเขียวกับไอศกรีมส่งให้ ซึ่งพัทธ์ก็ยิ้มรับเมื่อเห็นชาเขียวของโปรดของตัวเอง
"เป็นยังไงครับ อร่อยไหม" ผมถามน้องกันต์ที่กำลังเคี้ยววุ้นชาเขียว ซึ่งเจ้าตัวเล็กก็พยักหน้ารับหลายๆ ทีก่อนจะคว้าเอามาการองมากินต่อ อีกหน่อยต้องอ้วนแน่เลยเจ้าตัวเล็กกินเก่งขนาดนี้เนี่ย "เป็นไงครับพัทธ์ อร่อยไหม"
"อร่อยครับ พี่คินทำขนมอร่อยจริงๆ เลยนะ วุ้นอร่อยมากเลยครับ" ผมยิ้มรับคำชมนั้น เอื้อมมือไปปาดนิ้วที่มุมปากของพัทธ์ที่เปื้อนไอศกรีมก่อนจะใช้ดูดปลายนิ้วที่เลอะนั้นทั้งๆ ที่ยังมองหน้าอีกคนไปด้วย
อื้อ... ถ้าพัทธ์เป็นกาน้ำร้อนผมคงได้ยินเสียงฟู่เหมือนน้ำเดือดแน่ๆ เลยครับ เพราะหน้าของพัทธ์แดงอีกแล้ว และผมก็ชอบมากๆ ด้วย
สงสัยผมจะโรคจิตนิดๆ แล้วละครับที่ชอบเห็นเขาหน้าแดง************************************************
เขินค่ะ เขินแทนคุณมัม พี่คินขยันหยอด ขยันแกล้งไปไหมคะ ถ้าจะทำขนาดนี้จับปล้ำ(?)เลยดีกว่าค่ะ 5555 ล้อเล่นค่ะล้อเล่น (แต่แอบคิดจริง) ตอนนี้ก็ยังคงความน่ารักของคู่นี้ อีกไม่นานค่ะเขาทั้งสองคนจะเลื่อนสถานะความสัมพันธ์กันแล้ว ที่จริงมันก็เลื่อนได้แล้วล่ะ แต่ฟางรอวันสำคัญก่อน ฮี่ฮี่ๆ จะขอเป็นแฟนทั้งทีก็ต้องจัดให้หวานนิ๊สสสสนึงงงง รออีกนิดนะคะ ไม่นานค่ะได้เห็นฉากขอเป็นแฟนของคู่นี้แน่นอนเลย(แอบสปอยนะเนี่ยยยยย) เจอกันตอนหน้านะคะ ^^
แวะไปคุยกันในเพจเฟสบุ๊คของฟางกันเยอะๆนะ ไปคุยกันได้นะคะ https://www.facebook.com/fgc32yaoiสำหรับคนที่เล่นทวิตเตอร์และอยากพูดคุยถึงนิยายเรื่องนี้ช่วยกันติดแฮชแท็ก #น้องกันต์จัดให้ ด้วยนะคะ มาเล่นกันเยอะๆ เลยนะ