น้องกันต์จัดให้ครั้งที่ 37พัทธ์"ทำไมครับ มีเรื่องอะไรหรือยังไง" พี่คินถามผมหลังจากที่ผมหันไปบอกว่าจะไปชลบุรีในวันพรุ่งนี้
ผมส่ายหน้าพร้อมกับขยับไปพิงอกพี่คินที่สอดมือมากอดเอวผมเอาไว้ "จดหมายนี้พี่พราวเขียนถึงพ่อครับ อย่างที่ผมเคยเล่าให้พี่คินฟังว่าพี่สาวพัทธ์ออกจากบ้าน"
"ที่ไปอยู่กับพ่อของน้องกันต์นะหรือครับ" พี่คินถามให้ผมพยักหน้ารับ
"ครับ ตอนก่อนจะหนีออกจากบ้านพี่กับพ่อทะเลาะกันหนักมาก พัทธ์ไม่เคยเห็นพี่พราวดื้อกับพ่อมาก่อนเลย พัทธ์สงสัยนะครับว่าผู้ชายคนนั้นมีอะไรดีพี่พราวถึงยอมทะเลาะกับพ่อ แต่สุดท้ายผู้ชายคนนั้นก็เลือกจะทิ้งพี่พราว เพียงเพราะพี่พราวท้องและพวกเขาก็ไม่มีเงิน" ผมเล่าเรื่องราวในใจของผมให้กับพี่คินฟัง
"ขนาดตอนท้องพ่อกับพี่พราวก็ยังไม่ดีกันแม้พ่อจะยอมรับลูกในท้องของพี่พราวแล้วก็รักน้องกันต์มาก แม้กระทั่งวันที่พี่พราวเสียทั้งสองคนก็ยังไม่ได้คุยกันดีๆ เลย" ผมเงยหน้าขึ้นมองคนที่ยกมือขึ้นลูบผมของผม "ผมอยากให้พ่อกับพี่พราเข้าใจกัน พรุ่งนี้พี่คินพาพัทธ์ไปชลบุรีนะครับ"
พี่คินยิ้มก่อนจะพยักหน้ารับ "ครับ พรุ่งนี้พี่พาไป"
ผมยิ้มออกมาทันทีที่พี่คินพูดแบบนั้นก่อนจะพับจดหมายของพี่พราวใส่กล่องไว้เหมือนเดิม หยิบเอาบรรดารูปเก่าๆ ที่พี่พราวเก็บไว้ออกมาดู
"พัทธ์เคยเจอพ่อของน้องกันต์ไหมครับ" พี่คินถามพร้อมกับยิ้มรูปของผู้ชายคนหนึ่งที่ถ่ายคู่กับพี่สาวของผมไปดู
"ไม่เคยเจอครับ พัทธ์ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาชื่ออะไรเวลาพี่พราวพูดถึงจะเรียกแต่พี่ชายๆ แต่เหมือนเขาจะไม่ได้ชื่อชาย พัทธ์ก็ไม่เข้าใจว่าเขาทิ้งพี่พราวได้ยังไง พี่รักเขามากแท้ๆ เลย" ผมพูดออกมาอย่างไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่นักที่เขาทำแบบนี้ ทิ้งพี่พราว ทิ้งลูกไม่แม้แต่จะกลับมาดูแลอะไรเลย
"เขาอาจจะมีเหตุผลของเขาก็ได้ครับ เราไม่รู้หรอกไม่แน่เวลานั้นเขาอาจจะมีปัญหาหนักมากก็ได้"
ผมขมวดคิ้วกับคำพูดของพี่คินก็อาจจะจริงอย่างที่พี่คินพูดแต่ว่า... "แต่ว่าคนรักกันก็ควรจะบอกหรือร่วมฝ่าฝันอุปสรรคต่างๆ ไปด้วยกันไม่ใช่หรือครับ"
"พี่บอกอยู่ไงครับว่าเขาอาจจะมีเหตุผลของเขา เราไม่สามารถไปตัดสินอะไรได้หรอกครับ" พี่คินพูดพร้อมกับยกมือขึ้นบีบจมูกผมเบาๆ แล้วจัดการหยิบรูปภาพทั้งหมดที่ผมถืออยู่ไปถือเอาไว้เองแล้วจัดการเก็บใส่กล่อง
"แล้ว... พี่คินละครับ"
"หือ? อะไรครับ"
ผมเม้มปากนิดๆ ก่อนจะหันไปหาคนที่นั่งอยู่ด้านหลังของผมแล้วถาม "แล้ว... ถ้าผมมีปัญหา หรือพี่คินมีปัญหา พี่คินจะทิ้งพัทธ์ไปไหม"
ผมยู่หน้านิดๆ เมื่อพี่คินไม่ตอบแต่หัวเราะออกมาแทนแล้วหันมาสนใจกับการเก็บกล่องของพี่พราวไว้ที่โต๊ะข้างหัวเตียงแทนที่จะสนใจตอบคำถามผม "พี่คินอ่า... ว่ายังไงครับ"
พี่คินยังคงไม่ตอบแต่กลับหันมารวบตัวผมแล้วทิ้งตัวลงนอนทำให้ผมต้องนอนลงไปด้วย "พี่คินตอบพัทธ์มาก่อนสิ"
คนตรงหน้าหัวเราะในลำคอก่อนจะมองหน้าผมด้วยสีหน้าจริงจังแล้วถามออกแทนที่จะตอบคำถามของผม "อยากจะฟังคำตอบจริงๆ หรือครับ"
พอได้ยินเสียงที่จริงจังแล้วก็สีหน้านิ่งๆ นั้นก็ทำเอาใจผมแกว่งไปเหมือนกัน แต่ผมก็อยากรู้อยู่ดีผมเลยพยักหน้ารับ ผมไม่รู้ว่าผมแสดงสีหน้าแบบไหน คาดหวังในคำตอบ หรือแสดงสีหน้าหวั่นๆ ออกไปกับคำตอบของพี่คิน เพราะคนตรงหน้าผมค่อยๆ เลื่อนมือมาลูบแก้มผมเล่น
"อยากจะรู้ แต่ก็กลัวคำตอบหรือไงครับ ดูทำหน้าเข้าสิ"
"พี่คินก็บอกพัทธ์สิครับ จะทิ้งกันไหม" ผมร้องถามอีกรอบเอื้อมมือไปจับชายเสื้อนอนของพี่คินเอาไว้
"รักขนาดนี้... จะทิ้งลงได้ยังไงกันครับ" พี่คินตอบก่อนจะเลื่อนหน้ามาจูบหน้าผากของผมเบาๆ แล้วเลื่อนมาหอมแก้มแบบที่ชอบทำ "เลิกทำหน้ายุ่งแล้วนอนได้แล้วครับ เรื่องคิดมากทั้งเรื่องพ่อ เรื่องพี่สาวรวมไปถึงแฟนของพี่สาวด้วย"
ผมพยักหน้ารับกับคำพูดของพี่เขา พี่คินจึงหันกลับไปกดปิดไฟในห้องให้มืดลงก่อนจะขยับมานอนกอดผมเอาไว้เหมือนทุกคืน ส่วนผมเองก็ขยับเข้าไปซุกอกพี่คินเหมือนกัน แต่ถึงแม้จะพยักหน้ารับว่าจะเลิกคิดมากแต่พอเอาเข้าจริงๆ ผมก็อดที่จะคิดไม่ได้ ผมยังคงนึกสงสัยและไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่พี่พราวรักถึงได้เลือกที่จะทิ้งพี่เขาไป หลังจากพี่พราวออกจากบ้านผมก็ยังติดต่อกับพี่เสมอ เวลาได้คุยกันหรือนัดเจอกันพี่พราวดูมีความสุขมากๆ
เล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ฟังว่าพี่พราวกับผู้ชายคนนั้นอยู่ด้วยกันยังไง ไม่เคยแม้แต่จะทะเลาะกัน รักกันและเข้าใจกันดี
ทั้งๆ ที่ดูเหมือนกับว่าจะรักกันมากขนาดนั้นแท้ๆ แต่ทำไมพอวันที่พี่พราวตั้งท้องน้องกันต์เขาถึงได้ทิ้งพี่พราวไป...
พี่พราวทั้งร้องไห้แล้วก็เสียใจมากจนสุขภาพร่างกายอ่อนแอลงเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งที่พี่ต้องเสียก็เพราะเอาแต่คิดถึงผู้ชายคนนั้น...
"ฮ... เฮ้ย" ผมร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่ออยู่ๆ พี่คินก็พลิกมาคร่อมทับตัวผมเอาไว้ก่อนจะจ้องมาที่ผม แม้ว่าภายในห้องจะไม่มีแสงไฟส่องสว่างแต่แสงไฟที่ระเบียงตรงห้องนอนก็ส่องเข้ามาพอให้ได้เห็น
"พ... พี่คิน" ผมได้แต่เรียกอีกคนเพราะพี่คิดเอาแต่เงียบไม่ยอมพูดอะไร
ใบหน้าคมคายของพี่คินโน้มลงมาใกล้จนผมต้องเผลอกลั้นหายใจก่อนที่น้ำเสียงดุๆ จะเอ่ยตามมา "พี่บอกว่ายังไงครับ ให้เลิกคิดมากแล้วนอนใช่ไหม คิดเรื่องอะไรอยู่ครับถึงยังไม่ยอมหลับ"
"พ... พี่คินรู้ได้ไงว่าพัทธ์... ย ยังไม่หลับ"
"ก็เพราะเรานอนนิ่งเกินไปยังไงละครับ เวลาพัทธ์หลับพัทธ์จะชอบเข้ามาซุกมาอ้อนพี่ แต่นี่นอนนิ่งๆ ไม่ขยับตัวแสดงว่ายังไม่หลับ ว่ายังไงครับเด็กดื้อบอกพี่มาว่าคิดเรื่องของใครอยู่" พี่คินยังคงทำเสียงดุไม่เลิก
ผมไม่ค่อยชอบเวลาพี่คินทำเสียงแบบนี้เท่าไหร่... บอกตรงๆ เลยครับว่า
กลัว ยิ่งทำหน้านิ่งๆ เสียงดุๆ ก็ยิ่งน่ากลัว
เพราะผมกลัวก็เลยตอบออกไปเสียงสั่นๆ "ร... เรื่องพี่พราวกับแฟนของพี่พร... อื้อออ!" ยังไม่ทันได้พูดจนจบประโยคคนที่ทำหน้าดุก็ก้มลงมาจูบปิดปากผมอย่างหนักหน่วงทันที ปลายลิ้นร้อนๆ ของพี่คินสอดแทรกเข้ามาเกี่ยวพันลิ้นของผมสัมผัสที่หนักและรุนแรงกว่าทุกครั้ง เหมือนกับกำลังจะลงโทษผมยังไงอย่างนั้น
นานหลายนาทีกว่าพี่คินจะถอนจูบออกผมได้แต่หอบหายใจเข้าเต็มปอดเพราะถูกจบแบบไม่ทันตั้งตัวจึงทำให้หายใจไม่ทัน "พี่คิน..."
"ดื้อ! ไม่ยอมนอนไม่พอ ยังมาคิดถึงผู้ชายคนอื่นทั้งๆ ที่พี่นอนอยู่ข้างๆ อีก แบบนี้ต้องลงโทษ" ผมยังไม่ทันจะได้ประมวลคำพูดของพี่คิน ยังไม่ทันรู้ว่าพี่คินพูดอะไรก็โดนจูบอีกรอบจนได้
"พ... พี่คิน อื้อ... พอก่อนครับ พ พัทธ์หายใจ แฮก... ไม่ทันแล้ว" ผมได้แต่ร้องบอกเมื่อพี่คินเอาแต่จูบผมไม่หยุด แบบนี้ผมก็แย่สิ...
"รู้ไหมครับบทลงโทษของคนที่คิดถึงผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่พี่คืออะไร" พี่คินยังคงใช้น้ำเสียงดุๆ เหมือนเดิมแต่ผมกลับฟังว่ามันปนความเจ้าเล่ห์เอาไว้ด้วยอย่างไรก็ไม่รู้
ผมส่ายหน้าไปมา บอกตรงๆ ว่ายังประมวลคำพูด หรือคิดอะไรไม่ออก จูบของพี่คินทำเอาผมเบลอไปเลย
"ถ้าอย่างนั้นพี่จะบอกให้ครับ"
"อึก! อ๊ะ... พี่คิน" ผมร้องออกมาเมื่อพี่คินก้มลงซุกซอกคอผม ส่วนมือก็คว้าเข้าที่กลางลำตัวผมผ่านกางเกงนอนแล้วก็ลูบคลึงไปมาไม่หยุดผมพยายามยกมือดันตัวพี่เขาออกแต่ก็ถูกคนแรงเยอะกว่ารวบข้อมือทั้งสองข้างไว้ด้วยมือเดียว ทั้งๆ ที่ผมคิดว่าข้อมือผมก็ใหญ่แต่ทำไมพี่คินสามารถรวบข้อมือผมไว้ได้ด้วยมือเดียวแถมยังแรงเยอะอีกตั้งหาก
"เฮือก!" ผมสะดุ้งเมื่อมือที่วุ่นวายกับกลางกายผมเริ่มขยับหนักขึ้นรุนแรงขึ้น
"บทลงโทษของคนที่ไม่ยอมนอนแล้วก็คิดถึงผู้ชายคนอื่นทั้งๆ ที่อยู่กับพี่ก็คือ... พี่จะทำให้พัทธ์ไม่ได้นอนและคิดถึงแต่พี่ทั้งคืน" เสียงทุ้มนุ่มของพี่คินดังอยู่ข้างหูมันไม่ได้ดังไปกว่าเสียงกระซิบแต่ผมกลับรู้สึกสั่นสะท้านกับคำพูดนั้น
แล้วพี่คินก็ทำอย่างที่พูดจริงๆ
เสื้อผ้าผมหลุดออกจากตัวตอนไหนก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าสัมผัสของพี่คินนั้นมีอยู่ทั่วตัวผม พี่คินเอื้อมมือไปกดเปิดไฟที่หัวเตียงให้มันสว่างไปทั่วทั้งเตียงก่อนจะหันกลับมาหาผมอีกรอบ อกของผมก็ถูกพี่คินทั้งดูดทั้งเลียจนมันขึ้นสีแดงก่ำทั้งสองข้าง ร่องรอยก็ปรากฏประปรายอยู่ทั่วหน้าอกแล้วก็หน้าท้อง
ผมได้แต่ยกมือขึ้นขยุ้มผมของพี่คินตอนที่เขาใช้ปลายลิ้นนุ่มๆ นั้นลากผ่านตั้งแต่กลางอกผมลงไปที่หน้าท้อง กดจูบที่สะดือของผมแล้ววนเล่นอยู่แถวนั้นจนผมต้องเกร็งหน้าท้องและส่งเสียงออกมาด้วยความซ่าน
"พ... พี่คิน อ่าห์..."
นี่ผมกำลังถูกลงโทษใช่ไหม... แม้ว่าตอนนี้ร่างกายของผมกับพี่คินจะเปลือยเปล่า แม้ว่าร่างกายของเราจะเสียดสีกันมากแค่ไหน แม้ว่าร่างกายจะร้อน หรือความต้องการของเราจะมากแค่ไหนแต่พี่คินกลับทำเพียงแค่จูบไปตามตัวผมโดยไม่ทำอะไรไปมากกว่านั้น เหมือนจะแกล้งให้ผมทรมาน
"ว่ายังไงครับ" คนตัวโตกว่าขยับขึ้นมากดริมฝีปากแนวลงกับแก้มและขมับที่ชื้นเหงื่อของผมทั้งๆ ที่เครื่องปรับอากาศยังคงทำงานได้ดีเยี่ยม
"ย... อย่าแกล้ง อื้ม... อย่างแกล้งพัทธ์"
"เด็กดื้อ... ต้องถูกลงโทษ" พี่คินยกยิ้มร้ายก่อนจะก้มลงหอมแก้มผมอีกหลายรอบ ส่วนสำคัญของพี่คินที่ตื่นและขยายขนาดเต็มที่ถูไถอยู่กับส่วนนั้นของผมจนผมได้แต่ส่งเสียงครางออกมา
พี่คินกำลังแกล้งผม... แกล้งให้ผมทนไม่ไหว"พี่คิน... พัทธ์ต้องการพี่คินนะครับ" ผมเงยหน้าขึ้นมองคนใจร้ายที่แกล้งผมไม่หยุด ได้ยินเสียงหัวเราะอย่างถูกใจจากคนตรงหน้า
"เด็กดื้อของพี่น่ารักจัง" พูดไปก็ยิ้มไปต่างจากผมที่อยากจะหนีหายไปตรงนี้เพราะพูดอะไรน่าอายออกไปตามความต้องการของคนใจร้ายจนได้
"พี่คินใจร้าย..." ผมได้แต่ตัดพ้อคนตรงหน้าดวงตาของผมฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำตาเพราะถูกพี่คินรังแก
"แต่คนใจร้ายคนนี้ก็รักพัทธ์ที่สุดนะครับ" คำพูดหวานๆ ดังอยู่ข้างหูของผม แต่ผมแทบจะฟังไม่รู้เรื่องเพราะคนตรงหน้าเริ่มแกล้งผมอีกแล้ว
ขาของผมถูกดันให้ยกชันขึ้นก่อนที่พี่คินจะแทรกเข้ามาตรงกลางจนผมต้องแยกขาออกกว้าง มือหนาจับขาของผมขึ้นวางพาดอยู่บนบ่ากว้างตอนที่พี่เขาก้มหน้าลงไปวุ่นวายกับช่องทางด้านหลังของผม
จุ๊บ จุ๊บ จ๊วบ
เสียงจูบดังออกมาไม่หยุดเมื่อพี่คินกดริมฝีปากลงกับช่องทางด้านหลังของผมพร้อมกับใช้ลิ้นเลีย ความชื้นแฉะที่สัมผัสไปทั่วทำให้ผมต้องเกร็งตัวมือคว้าเอาผ้าห่มมาจิกกำไว้แน่น
"พี่ พี่คิน อ่าาาาห์ พอ... พอเถอะครับ อึก! อ่าห์" ยิ่งผมดิ้นหนีพี่คินก็ยิ่งล็อคเอวผมไว้แน่นแล้วฝั่งหน้าลงมามากขึ้น ขาที่พาดอยู่บนไหล่พี่คินสั่นระริกจนแม้แต่ผมยังสังเกตเห็น
หลังจากแกล้งผมจนพอใจพี่คินก็ขยับตัวมาเสมอผมอีกรอบ แขนข้างหนึ่งของพี่คินให้ท้าวยันตัวเองเอาไว้อยู่ข้างๆ หน้าของผม ส่วนอีกข้างขยับไปวุ่นวายกับกลางกายของผม จับมันแล้วก็รูดมัน
"ตอนนี้คิดอะไรอยู่ครับ คิดถึงใครอยู่ ไหนบอกให้พี่คินฟังสิ"
ผมได้แต่ส่ายหน้าไปมามือทั้งสองข้างจิกกำที่นอนแน่นเมื่อมือร้อนๆ ของพี่คินยังไม่เลิกแกล้งให้ผมปั่นป่วน นิ้วโป้งขยี้ลงกับส่วนปลายของแกนกายผมจนผมได้แต่ผวาเฮือกส่งเสียงออกมาอย่างไม่สามารถกลั้นได้
"อึก! ฮ๊า... อ่าห์"
"บอกพี่คินสิครับว่าคิดถึงใคร ตอนนี้พัทธ์คิดถึงใครอยู่ครับ" พี่คินขยับตัวอีกรอบ ร่างสูงคร่อมทับอยู่บริเวณหน้าขาของผม มือข้างที่วุ่นวายกับแกนกายของผมก็ขยับรวบทั้งของตัวผมแล้วก็ของตัวเขาเองเข้าด้วยกันแล้วจับขยับจนมันเสียดสีกันไปมา มืออีกข้างก็เลื่อนมาขยี้คลึงที่ยอดอกของผม
"บอกพี่คินสิครับเด็กดี" น้ำเสียงทุ้มน่าฟังยังคงถามมาอีกรอบพร้อมกับแกล้งผมไปด้วย
"อ๊าห์... ค คิดถึงพี่คิน คิดถึงพี่คินคนเดียว ฮ๊าาา" สุดท้ายผมก็ต้องยอมแพ้เอ่ยปากบอกออกไปจนหมด เห็นพี่คินยิ้มพอใจกับคำตอบ
ผมได้แต่บิดตัวไปมาส่วนปลายของตัวเองเยิ้มไปด้วยหยาดน้ำสีขาว พี่คินขยับมือหนักขึ้น เร็วขึ้นจนสุดท้ายผมก็ฉีดพ้นน้ำสีขุ่นออกมาเปื้อนไปหมด
"อย่างนั้นพี่จะให้รางวัลเด็กดีนะครับ" พี่คินละมือจากแกนกายของผมเลื่อนมันไปที่ช่องทางด้านหลังอีกรอบ นิ้วที่เลอะไปด้วยน้ำของผมค่อยๆ สอดเข้ามาด้านในให้ผมต้องเกร็งเพราะสิ่งแปลกปลอม นิ้วยาวๆ หมุนวนไปทั่วสัมผัสกับผนังด้านใน กระแทกเข้าที่จุดกระสันจนผมได้แต่นอนหมดแรง ขาทั้งสองตั้งชันแยกออกกว้าง
ความรู้สึกวูบโหวงแปลกๆ ถาโถมเข้ามายามที่นิ้วทั้งสามของพี่คินถอนออก ได้แต่ปรือตามองคนตรงหน้าที่นิ่งไปเล็กน้อย "พีคิน..."
แต่ไม่นานมันก็ถูกแทนที่ด้วยอะไรที่ใหญ่กว่านั้น ผมยกมือกอดพี่คินเอาไว้ทันทีเมื่อส่วนหัวของแกนกายถูกดันเข้ามา "เมื่อกี้พัทธ์สวยมากเลยนะรู้ไหม"
"พี่คิน... พี่คิน"
"อื้ม... ซี๊ด อ่าห์" พี่คินซี๊ดปากเสียงดังยามที่ดันตัวเข้ามาหาผมมากขึ้นจนสุดความยาวและไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกว่ามันเข้ามาลึกกว่าทุกครั้ง และคับแน่นไปหมด
"พี่คิน... ม มันแน่น อื้อ... พัทธ์จุก"
"ใจเย็นนะครับเด็กดี แค่แปบเดียว แปบเดียวเท่านั้น" ร่างกายแข็งแรงของพี่คินเริ่มขยับเข้าออกช้าๆ เพื่อให้ผมปรับตัวและคุ้นชิน ก่อนจะค่อยๆ เพิ่มแรงและความเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ จนผมทำได้แค่กอดคอพี่คินเอาไว้ปล่อยให้คนใจร้ายที่หาเรื่องลงโทษผมทำตามใจตัวเอง
ผมถูกจับให้นอนคว่ำบั้นท้ายถูกแยกออกจนเห็นช่องทางด้านหลังก่อนที่ความใหญ่โตจะถูกสอดเข้ามาอีกรอบพร้อมกับแรงกระแทกที่ตามมาติดๆ
เสียงเนื้อกระทบเนื้อ และเฉอะแฉะของสิ่งที่สอดเข้าออกรับกันนั้นดังไปทั่วทั้งห้อง ดังพอๆ กับเสียงของผมแล้วก็พี่คิน
"พัทธ์... อื้ออ..." พี่คินครางออกมาอย่างพึงพอใจความร้อนจากแกนกายส่งผ่านมาที่ผมโดยตรง พี่คินไม่ชอบใส่ถุงยาง ยิ่งหลังจากที่เราไปตรวจเลือดกันที่โรงพยาบาลมาแล้วพี่คินก็แทบไม่ใช่เลย เขาบอกว่าแบบนี้มันดีกว่า ผมเองก็ไม่อยากยอมรับ... แต่ผมก็ชอบแบบนี้มากกว่ายิ่งตอนที่...
"อึก... พี่คิน พ พัทธ์จะไม่ไหว ล แล้ว ฮ๊าาาา" ผมร้องออกมาร่างกายผมเสียดสีไปกับผ้าปูที่นอน ส่วนที่ปลดปล่อยไปก่อนหน้านี้เริ่มปริ่มน้ำอีกรอบ
"พี่ก็เหมือนกัน... พ ซี๊ด อ่าห์... พร้อมกันนะครับเด็กดี" จังหวะหนักหน่วงกระแทกเข้ามาไม่หยุดตรงจุดภายในตัว ผมได้แต่เกร็งตัวด้วยความเสียวซ่านเมื่อรู้สึกจะถึงจุดหมาย
เวลาที่น้ำอุ่นๆ ฉีดพ้นเข้ามาในตัวผม ผมก็ปลดปล่อยออกมาเช่นกัน ร่างสูงโน้มลงมากอดผมไว้แน่น แนบจูบลงกับไหล่ของผมก่อนจะเลื่อนไปที่ใบหู
"ถ้าเด็กดียังดื้อนึกถึงคนอื่นอีกพี่จะลงโทษอีกนะครับ"คินผมรู้สึกตัวตื่นก่อนจะหยิบนาฬิกามาดูเวลา ผมตื่นสายกว่าปกติเล็กน้อย... ก็แน่ละเมื่อคืนลงโทษเด็กบางคนกว่าจะได้นอนก็เลยเที่ยงคืนไปแล้ว ส่วนคนที่โดนผมลงโทษนะหรือครับ ยังไม่ตื่นหรอก
ผมค่อยๆ ขยับตัวลงจากเตียงพร้อมกับห่มผ้าให้พัทธ์ที่ขยับตัวและส่งเสียงออกมาเจ้าตัวถึงได้นอนหลับต่อ ผมเดินเข้าไปล้างหน้าแปรงฟันแล้วก็ออกไปเตรียมมื้อเช้าให้กับทุกคน ยังไม่อาบน้ำหรอกครับทำกับข้าวเสร็จก่อนค่อยอาบทีเดียว
"พ่อคินฮะ..." เสียงงัวเงียดังมาจากด้านหลังให้ผมหันไปมอง น้องกันต์เดินอุ้มตุ๊กตาออกมา อีกมือก็ลากเอาผ้าขนหนูติดมือมาด้วย ผมเดินไปอุ้มน้องกันต์เพราะกลัวว่าเขาจะเดินชนโต๊ะเพราะเจ้าตัวเล่นหลับตาเดินมาแบบนั้น
"ตื่นแล้วทำไมไม่ลืมตาละครับน้องกันต์" ผมก้มลงหอมแก้มป่องๆ ไปอีก ปากเล็กๆ สีสดนั้นทำเสียงแจ็บๆ ได้น่าตลกเห็นแล้วนึกมันเขี้ยวอยากจะฟัดหนักๆ สักทีสองที
"น้องกันต์ยังไม่ตื่น" เจ้าตัวว่าแบบนั้นแล้วเอนหัวมาซบไหล่ผมตั้งท่าจะหลับต่อให้ผมหลุดหัวเราะออกมา
"ยังไม่ตื่นแล้วตอบพ่อคินได้ยังไงครับ ละเมอหรือยังไงเรา"
เจ้าตัวเล็กมีการพยักหน้ารับแล้วตอบรับด้วยคำตอบที่ทำให้ผมหัวเราะออกมาอีกรอบ "น้องกันต์ละเมอ"
ผมอุ้มน้องกันต์เดินกลับไปในห้องนอน แต่เป็นห้องนอนของพัทธ์แล้ววางเจ้าตัวเล็กลงบนเตียงข้างๆ พัทธ์ที่ยังหลับอยู่แล้วปล่อยให้แม่ลูกขี้เซาในวันหยุดนอนต่อส่วนตัวผมเองก็กลับไปทำมื้อเช้าที่ค้างไว้ให้เสร็จ
พอเดินกลับเข้าไปในห้องนอนอีกรอบสองแม่ลูกตอนนี้นอนกอดกันหลับไปแล้วครับ ถ้าเป็นวันหยุดแบบนี้น้องกันต์ที่มักจะตื่นเช้าก็จะขี้เซาส่วนพัทธ์... ที่จริงเขาก็ไม่ใช่คนตื่นสายหรอกครับแต่เมื่อคืนนอนดึกไปหน่อยเช้านี้เลยยังไม่ยอมตื่น
ผมเดินเลยเข้าไปในห้องน้ำเปิดน้ำอุ่นใส่อ่างพร้อมกับใส่บับเบิล บาธลงไปในอ่างแล้วทำให้มันเป็นฟอง ถอดเสื้อผ้าตัวเองแล้วคว้าผ้าขนหนูมาพันตัวเดินออกไปข้างนอกอีกรอบ อุ้มคนแม่ที่ยังหลับอยู่ขึ้นมาก่อนพาเข้าไปในห้องน้ำ คนที่หลับเริ่มรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา
"ล้างหน้าแปรงฟันก่อนครับ เดี๋ยวอาบน้ำกัน" ผมส่งแปรงสีฟันให้พัทธ์ที่นั่งตัวเปลือยเพราะโดนผมจับถอดเสื้อผ้าออกไปแล้วอยู่บนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ซึ่งเจ้าตัวก็พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย ผมเลยเดินออกไปอุ้มเจ้าตัวเล็กที่ยังหลับอยู่เข้ามาในห้องน้ำบ้าง
"พัทธ์ล้างหน้าเสร็จแล้วก็ลงมาสิครับ" ผมร้องบอกคนที่ยังนั่งอยู่บนเคาน์เตอร์ทั้งๆ ที่ล้างหน้าจนตาสว่างแล้ว
"อุ้ม..." เจ้าตัวพูดแค่นั้นก่อนจะยื่นมือออกมาหาผม
แล้วผมจะทำอะไรได้ละครับก็ต้องอุ้มน้องกันต์ออกไปที่เตียงอีกรอบเพราะน้องยังไม่ตื่นแล้วเดินมาอุ้มเด็กตัวโตไปนั่งรออยู่ในอ่างแล้วจึงค่อยเดินไปปลุกน้องกันต์พร้อมกับอุ้มเข้ามาในห้องน้ำ ผมแปรงฟันให้เจ้าตัวเล็กที่ยังงัวเงียอยู่จนเสร็จเรียบร้อยก็อุ้มพาไปส่งให้แม่เขาที่นั่งรออยู่ในอ่างอาบน้ำ
ผมแขวนผ้าเช็ดตัวไว้บนราวแล้วก้าวลงไปในอ่าง รั้งทั้งคุณแม่แล้วก็คุณลูกเข้ามาหาตัว ฟองสบู่ที่ผมใช้เป็นของเด็กที่ใช้ได้ทั้งอาบแล้วก็สระผม ผมเลยจัดการเปิดฝักบัวแล้วค่อยๆ รดน้ำลงบนตัวทั้งสองคนแล้วหยิบเอาขวดบับเบิล บาธมาเทใส่มือแล้วสระผมให้ทั้งสองคนก่อนจะล้างฟองออกให้ด้วย
"วันนี้พ่อคินต้องเลี้ยงลูกสองคนใช่ไหมครับ" ผมส่งเสียงถามทั้งสองคนที่นั่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน
ทั้งพัทธ์แล้วก็น้องกันต์หันมามองผมพร้อมกับพยักหน้ารับแล้วตอบออกมาพร้อมกัน "ใช่ครับ"
"ดีจริงๆ อยู่ๆ วันนี้ก็มีลูกเพิ่มมาอีกหนึ่งคน" อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปบีบจมูกโด่งๆ ของพัทธ์อย่างนึกมันเขี้ยวแบบที่เจ้าตัวก็ทำหน้ายู่แล้วปัดมือผมออก
ผมปล่อยให้ทั้งสองแช่น้ำเล่นอีกสักพักก็บอกให้ขึ้นเพราะเดี๋ยวจะไม่สบายกันไป "ขึ้นได้แล้วครับทั้งสองคนเลย วันนี้เดี๋ยวเราจะไปชลบุรีกันนะครับพัทธ์คงไม่ลืมใช่ไหม อุ้มน้องกันต์ขึ้นไปล้างตัวเลยครับ"
"มัมอุ้ม อุ้มน้อง อุ้ม อุ้ม" น้องกันต์หันไปอ้อนคนเป็นแม่ซึ่งพัทธ์ก็อุ้มน้องกันต์ขึ้นแล้วเดินไปที่บริเวณที่อาบน้ำแบบฝักบัวแล้วเริ่มล้างตัวให้น้องกันต์ ผมเองก็ขึ้นจากอ่างเหมือนกันปล่อยน้ำออกแล้วก็เดินไปหาทั้งสองคน
"วันนี้เราจะไปชลบุรีเหรอฮะ" น้องกันต์เอียงคอถามในขณะที่พัทธ์กำลังเช็ดตัวให้
"ใช่ครับ ไปหาคุณตาคุณยายกัน" พัทธ์ยิ้มให้เจ้าตัวเล็ก
"เย้ๆๆ หาคุณตา หาคุณยาย น้องกันต์หาคุณตาคุณยาย" พอรู้ว่าจะได้ไปหาคุณตาคุณยายเจ้าตัวเล็กก็กระโดดดีใจเสียจนทั่วเตียงให้พัทธ์ต้องตามไปจับตัวมาแต่งตัว
หลังจากที่จัดการมื้อเช้ากันเรียบร้อยผมก็ปล่อยให้น้องกันต์ดูการ์ตูนต่อก่อนส่วนตัวผมก็เดินเข้ามาในห้องนอนกับพัทธ์ ตอนที่ผมเข้ามาพัทธ์กำลังหยิบกล่องเหล็กที่เป็นกล่องใส่จดหมายแล้วก็สมุดบันทึกของพี่สาวของเขาพอดี
"พี่คินครับ พี่คิดว่าพัทธ์เอาไปทั้งกล่องเลยดีไหม" พัทธ์หันมาถามผม ในกล่องนั้นมีสมุดบันทึกแล้วก็รูปของคนรักที่คงเป็นพ่อของน้องกันต์อยู่ในนั้นด้วย
ผมคิดว่าพัทธ์คงกำลังลังเลว่าควรจะเอารูปของพี่สาวที่ถ่ายคู่กับผู้ชายคนนั้นไปให้พ่อดูด้วยดีหรือเปล่า
"เอาไปสิครับ พี่ว่าพ่ออาจจะอยากเห็น แต่ถ้าไม่อยากเห็นพัทธ์ก็แค่เอาแต่จดหมายให้พ่อก็ได้ครับ" ผมบอกอย่างที่ใจคิด ซึ่งพัทธ์เองก็พยักหน้ารับ
"ครับ อย่างนั้นผมเอาไปทั้งกล่องเลยนะ"
"ครับผม"
"พี่คิน... พี่คินว่าพ่อจะยังโกรธพี่พราวอยู่ไหม" พัทธ์เดินถือกล่องมาหาผมแล้วถาม
ผมยกมือวางบนผมนุ่มๆ ของเขา "ไม่มีพ่อแม่คนไหนโกรธลูกได้ลงหรอก พัทธ์บอกว่าจดหมายนั้นพี่สาวเขียนถึงพ่อ เขียนขอโทษพ่อไม่ใช่หรือครับ ถ้าพ่อรู้ว่าพี่สาวของพัทธ์เสียใจที่เคยทำให้พ่อผิดหวังและอยากจะขอโทษจริงๆ พ่อต้องยอมยกโทษและหายโกรธแน่นอนครับ"
"ครับพี่คิน พ่อกับพี่พราวจะได้เข้าใจกันสักทีเนอะ"
ผมยิ้มพร้อมกับพยักหน้ารับกับคำพูดของพัทธ์ ก่อนจะให้เจ้าตัวไปเตรียมตัวเพื่อที่จะได้ไปบ้านกัน "อย่างนั้นไปเตรียมตัวเถอะครับ จะได้ไปบ้านพัทธ์กัน"
ผมขับรถออกจากคอนโดโดยมีพัทธ์แล้วก็น้องกันต์นั่งตักพัทธ์อีกทีในตอนเกือบสิบโมง แต่วันหยุดแบบนี้ถนนจึงโล่งไม่มีรถใช้เวลาแค่หนึ่งชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงบ้านของพัทธ์ พ่อกับแม่ดูจะแปลกใจไม่น้อยที่พวกเรามากันโดยไม่ได้บอกล่วงหน้า
"คุณตาาา คุณยายยย" น้องกันต์ตะโกนเรียกท่านทั้งสองก่อนจะวิ่งเข้าไปกอดแขนกอดขา คงดีใจไม่น้อยที่ได้เจอ ก็แน่ละครับ... เห็นผมกับพัทธ์ตามใจน้องกันต์แบบนี้แต่คนที่ตามใจยิ่งกว่าแบบไม่เคยขัดเลยก็พวกท่านทั้งสองคนนี่แหละ ไม่แปลกหรอกครับที่พอเจ้าตัวเล็กได้เจอพ่อกับแม่จะดีใจแบบนี้
"เป็นไงมาไงละถึงได้มากันแบบไม่บอกพ่อกับแม่ล่วงหน้าแบบนี้" พ่อตรัยถามพร้อมกับอุ้มน้องกันต์ขึ้นมาแล้วเดินนำไปที่โซฟาในห้องนั่งเล่น
พัทธ์หันมามองหน้าผมเล็กน้อยเหมือนกับจะถามว่าควรพูดเลยดีไหม ผมก็เลยพยักหน้าตอบกลับไป เขาเลยหันกลับไปมองพ่อกับแม่ซึ่งทั้งสองคนก็คงดูออกว่าพัทธ์มีเรื่องสำคัญจะคุย
"มีอะไรหรือลูก" แม่ถามเมื่อเห็นท่าทางอึดอัดของพัทธ์
"คือ... พัทธ์มีเรื่องอยากจะคุยกับพ่อครับ เรื่องของ... พี่พราว" พัทธ์พูด
พ่อตรัยที่กำลังเล่นกับน้องกันต์ถึงกับชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะหันมามองพัทธ์ "เรื่องอะไร"
ผมหันไปมองพัทธ์ก่อนจะยิ้มให้แล้วหันไปมองแม่ซึ่งแม่เองก็มองมาที่ผมพอดีก่อนที่แม่จะลุกขึ้น "แม่ไปทำขนมต่อดีกว่า คินทำขนมไทยเป็นไหมลูกไปช่วยแม่ไหม"
"ครับ อย่างนั้นผมขอไปช่วยแม่ทำขนมนะครับ" ผมตอบรับคำของแม่ทันทีเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องในครอบครัวที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน ผมว่าผมไม่ควรเข้าไปยุ่ง พัทธ์หันมามองผมเหมือนกับไม่อยากจะให้ผมลุกออกไป ผมเลยยกมือโยกหัวของเขาเล่นแล้วยิ้มให้ก่อนจะเดินตามแม่ออกมา
ปล่อยให้สองคนนั้นคุยกันไปโดยมีน้องกันต์นั่งเล่นของเล่นอยู่ข้างๆ
************************************************
งง!! งงกับตัวเองค่ะว่าแต่งไปแต่งมาทำไมพี่คินจับน้องพัทธ์ปล้ำได้อีกแล้ววว ฮ่ะๆๆๆๆ เพลินมือไปหน่อยตอนแรกว่าจะแค่ขู่ให้น้องเลิกคิดมากแล้วนอน แต่ไม่รู้ทำไมมือมันพิมพ์ไปซะยาวจนจบกระบวนการได้ ตอนนี้เลยยังไม่เคลียร์กับพ่อเลย! แฮ่ รอตอนหน้าเนอะ ประเด็นเรื่องพ่อของน้องกันต์ยังไม่ออกนะคะ อันนี้เป็นความไม่เข้าใจของพี่พราวกับพ่อตรัยนะคะ ยังไม่ใช่พ่อแท้ๆ ของน้องกันต์ แต่คงอีกไม่นานเท่าไหร่ เตรียมตัวไว้แล้วกันเนอะ
เจอกันตอนหน้าค่ะ อย่าลืมคอมเมนต์ให้ฟางด้วยนะ แต่งมาให้อ่านแล้วก็อยากอ่านคอมเมนต์บ้าง คอมเมนต์กันด้วยน๊า พลีสสสสสสสสสส
แวะไปคุยกันในเพจเฟสบุ๊คของฟางกันเยอะๆนะ ไปคุยกันได้นะคะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi