น้องกันต์จัดให้ครั้งที่ 40พฤกษ์ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด
ผมขยับตัวตื่นเมื่อได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกก่อนจะเอื้อมมือไปกดปิดแล้วกลับมาทิ้งตัวลงนอนต่อบนเตียง
"หึ จะตั้งนาฬิกาปลุกทำไมครับ" ผมหรี่ตาขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงของหมอชลอยู่ไม่ไกลนัก
เขานั่งลงบนเตียงข้างผมดูจากชุดแล้วคงอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเรียบร้อย "อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ"
"ครับ เดี๋ยวจะไปแล้ว" เขาพูด มือสองข้างวางข้างตัวผมก่อนที่เขาจะก้มลงมาจูบปากผม ผมเลยได้แต่ยันหน้าเขาออกไปแบบที่เขาก็หัวเราะชอบใจ
"เอาจริงๆ นะ วันไหนที่คุณต้องเข้าเวรเช้าคุณก็ไปค้างที่คอนโดคุณสิ จะมาสิงอยู่บ้านผมทำไม" ผมบอก เอาจริงๆ เรื่องนี้ผมก็บอกเขาหลายรอบแล้ว บ้านผมอยู่คนละทางกับโรงพยาบาลของเขาเลย วันไหนที่เขาต้องเข้าเวรเช้าหมอชลก็ต้องออกจากบ้านตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างเพื่อที่จะได้ไปทัน
แต่บอกกี่ทีๆ ก็ไม่เคยฟัง
"ผมมันผู้ชายใจแตก หอบผ้ามาอยู่บ้านผู้ชายคุณไม่รู้หรือไง" หมอชลว่า ผมได้แต่ส่งเสียงเหอะออกมาอย่างไม่รู้จะพูดอะไรดี
"ตามใจผู้ชายใจแตก"
หมอชลหัวเราะกับคำพูดของผมพร้อมกับยื่นมือมาลูบผมของผมเล่น "คุณนอนต่อเถอะ ผมจะไปทำงานแล้วเย็นนี้เจอกันนะครับ"
ผมพยักหน้ารับกับคำพูดเขาก่อนจะหลับตาลงอีกรอบเพราะยังรู้สึกง่วงนอนอยู่
"ฟอด! ชื่นใจจริงๆ ผัวไปทำงานก่อนนะจ๊ะเมียจ๋า"ปึก!
ผมคว้าหมอนที่วางอยู่ข้างๆ ปาใส่คนพูดทันที แต่ดูเหมือนหมอชลจะรู้ทันเพราะหลังจากที่ก้มลงหอมแก้มผมเสร็จเขาก็รีบเด้งตัวหนีทันที หมอนที่ผมปาไปเลยไม่โดนเขาอย่างที่ตั้งใจ
"ฮ่ะๆๆๆ ไปแล้วจ๊ะเมียจ๋า"
"ไปไหนก็ไปเลยไป!" ผมได้แต่ตะโกนออกไปอย่างหัวเสียก่อนจะทิ้งตัวลงนอนเหมือนเดิม แต่จากที่ตอนแรกยังง่วงๆ อยู่พอโดนหมอชลกวนประสาทผมก็หายง่วงทันทีจะนอนต่อก็นอนไม่หลับเลยตัดสินใจลุกไปล้างหน้าล้างตาแล้วเดินไปที่โต๊ะทำงานแทน
ผมเปิดแฟ้มเอกสารบัญชีของบริษัทสโรชาก่อนจะเริ่มต้นตรวจสอบหาความผิดปกติของบัญชีต่อ ถ้าถามว่าผมได้แฟ้มพวกนี้มาจากไหน...
โชคดีที่คนเก่าคนแก่ของบริษัทสโรชายังจำผมได้ว่าผมเป็นหลานที่แท้จริงของคุณตาเป็นทายาทที่ถูกต้อง และตัวคุณคนิณคนที่เอาแฟ้มมาให้ผมก็นึกสงสัยว่าคุณส่งศักดิ์กำลังโกงเงินบริษัทเข้ากระเป๋าแล้วก็พยายามสืบ แต่ดูเหมือนว่าคุณส่งศักดิ์จะเริ่มระแคะระคายว่าคุณคนิณรู้เรื่องเลยจับตาดูคุณคนิณจนเขาทำอะไรแทบไม่ได้ อย่างที่บอกว่าผมโชคดี...
ผมบังเอิญเจอคุณคนิณ ผมเลยได้คุยกับเขาเรื่องบริษัทสโรชา และคุณคนิณก็เลยเอาแฟ้มพวกนี้มาให้ผม และขอให้ผมช่วยสืบต่อแทน ส่วนตัวคุณคนิณก็จะทำเป็นว่าไม่รู้เรื่องและเข้าหาคุณส่งศักดิ์มากขึ้นเพื่อให้เขาตายใจ
ผมเริ่มสืบเรื่องนี้รวมไปถึงตรวจสอบบัญชีมาได้เกือบสองอาทิตย์แล้ว แต่เพราะผมไม่ค่อยรู้เรื่องการทำงาน การสั่งซื้อของของบริษัทสโรชามากนักผมเลยต้องใช้เวลาในการตรวจสอบอย่างละเอียด
RRrrrr
ผมเงยหน้าขึ้นจากกระดาษที่เต็มไปด้วยตัวเลขมากมายมหาศาลแล้วหยิบโทรศัพท์ที่กำลังส่งเสียงดังลั่นมาดู
"ว่ายังไงคุณ" ผมกรอกเสียงลงไปหลังจากที่กดรับแล้ว
[ไม่ได้นอนต่อหรือครับ] ปลายสายส่งเสียงถามกลับมา
"เปล่าครับ นี่คุณถึงโรงพยาบาลแล้วเหรอหมอชล" ใช่แล้วละครับ คนที่โทรมาหาผมก็คือหมอชลนั่นแหละครับ
[ถึงแล้วครับ เลยตั้งใจจะโทรปลุกคุณถ้าตื่นแล้วก็ไปอาบน้ำเตรียมตัวไปทำงานครับ เดี๋ยวก็ไปสายหรอก แล้วนี่... นั่งตรวจบัญชีอยู่เหรอ] หมอชลถาม เขารู้เรื่องทุกอย่างที่ผมกำลังทำเพราะผมเป็นคนบอกเขาเอง
"ครับ"
[ไปอาบน้ำครับ ผมไปทำงานก่อนแล้วตอนเย็นเจอกันนะครับ]
"ครับ สวัสดีครับ" ผมวางสายจากหมอชลปิดแฟ้มแล้วเก็บบรรดาแฟ้มทั้งหมดไว้ในลิ้นชัก ก่อนจะลุกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเตรียมไปทำงาน
หลังจากที่จัดการมื้อเช้าที่ป้าสายเตรียมไว้ให้แล้วผมก็ขับรถออกจากบ้านตรงไปที่บริษัททันที อย่างที่บอกบ้านผมมันอยู่เสียชานเมือง กว่าจะถึงบริษัทก็ใช้เวลาไปเป็นชั่วโมง ผมเลี้ยวรถเข้าไปจอดในที่จอดรถประจำตำแหน่งก่อนจะหยิบของแล้วเดินลงจากรถไป
ผมชะงักขาที่กำลังจะก้าวผ่านร้านกาแฟที่เปิดอยู่ในตึกแล้วหันไปมองหน้าร้าน เมื่อก่อนทุกๆ เช้าผมมักจะซื้อชาเขียวปั่นบ้าง ชาเขียวเย็นบ้างให้กับพัทธ์เสมอ แต่เดี๋ยวนี้ผมไม่เคยซื้อให้เลย
เมื่อคิดได้แบบนั้นผมก็ก้าวตรงไปในร้านทันที "ชาเขียวปั่นหนึ่งแก้วครับ" ผมสั่งเครื่องดื่มที่เคาน์เตอร์ก่อนจะเดินมานั่งรอเครื่องดื่ม
ผมเดินออกจากร้านพร้อมกับถือแก้วชาเขียวปั่นในมือก่อนจะเดินไปกดลิฟต์ขึ้นไปบนห้องทำงานของพัทธ์ ตั้งใจว่าจะเอาไปวางไว้ในห้องของเขา แต่พอผมก้าวออกจากลิฟต์ก็เจอเจ้าตัวเดินออกจากห้องทำงานมาพอดี
"มาเช้าจังพัทธ์"
"วันนี้พี่คินมาส่งครับ เลยมาเช้า" พัทธ์ตอบพร้อมกับส่งยิ้มให้ผม
ผมยื่นแก้วชาเขียวปั่นของโปรดของพัทธ์ไปให้ตรงหน้า เขาดูจะงุนงงและลังเลไม่น้อยว่าจะยื่นมือมารับดีหรือเปล่า ผมเลยได้แต่ส่งยิ้มไปให้
"พี่ชายไม่ได้เลี้ยงน้ำน้องชายมานานแล้ว อยากเลี้ยง"คนตรงหน้าผมยิ้มก่อนจะยื่นมือมารับแก้วไป "ขอบคุณนะครับพี่พฤกษ์"
"ครับผม แล้วเจอกันตอนประชุมนะ" ผมบอกกับพัทธ์ก่อนจะเดินไปรอลิฟต์เพื่อลงไปชั้นที่ทำงานของผมแทน
ผมนั่งอ่านแฟ้มที่ต้องเซ็นอยู่ในห้องก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูแล้วประตูห้องก็ถูกเปิดออก ผมเลิกคิ้วขึ้นหันมองนาฬิกาที่วางอยู่บนโต๊ะ "ยังไม่ถึงเวลาประชุมนี่ครับ มีอะไรหรือเปล่าพัทธ์"
"ผมมีเรื่องอยากจะปรึกษาพี่พฤกษ์ครับ ก่อนจะตัดสินใจว่าจะเอาเรื่องนี้เข้าที่ประชุมดีหรือเปล่า" พัทธ์ก่อนจะเดินมานั่งที่เก้าอี้ตรงโต๊ะทำงานผม
"มีเรื่องอะไรครับ"
"เมื่อกี้ผมได้รับโทรศัพท์จากบริษัทสโรชาครับ..." ผมชะงักทันทีที่ได้ยินพัทธ์พูด มือกำเข้าหากันแน่นอย่างลืมตัว
พอมาพูดกับผมไม่ได้ นี่เล่นโทรหาพัทธ์เลยอย่างนั้นเหรอ!"เขาโทรมาว่ายังไง"
พัทธ์ถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะตอบ "เขาขอให้ทางบริษัทของเราลดพื้นที่ในการจัดงานเฟอร์นิเจอร์แฟร์ครับ ผมควรจะทำยังไงดีครับพี่พฤกษ์"
ผมได้แต่นึกโมโหอยู่ในใจกับสิ่งที่ทางนั้นทำ
"ผมไม่เคยมองบริษัทไหนเป็นคู่แข่ง คุณพ่อก็เหมือนกันแต่ถ้าหากเราไม่ทำลดพื้นที่จัดการทางสโรชาจะคิดว่าเราตั้งตัวเป็นคู่แข่งหรือเปล่าครับพี่พฤกษ์"
"พัทธ์... เรื่องนี้เดี๋ยวพี่จัดการเอง พัทธ์ไม่ต้องห่วงแล้วก็ไม่ต้องเอาเข้าที่ประชุมด้วย ที่สำคัญไม่ต้องสนใจว่าเขาต้องการอะไร ไม่ต้องสนใจ" ผมบอกกับพัทธ์
"เอาอย่างนั้นหรือครับ?"
ผมนิ่งไปแต่ก็ไม่เพียงไม่นานก่อนจะตัดสินใจพูดออกไป "จริงๆ แล้วพี่เป็นหลานชายของคุณตาดนัย ผู้ก่อตั้งบริษัทสโรชา"
"ครับ?!" พัทธ์ทำตาโตทันทีที่ได้ยินผมพูด
ผมไม่ได้ปิดบังว่าผมเป็นใคร แต่ผมก็ไม่ได้บอกใครต่อใครในบริษัทว่าผมเป็นหลานชายของคุณตา อีกอย่างนามสกุลที่ผมใช้ตอนนี้ก็เป็นนามสกุลของคุณยาย หลานๆ คนมักจะนึกว่าผมเป็นญาติทางฝั่งคุณยาย
"แต่นามสกุลพี่..."
"นามสกุลคุณยาย แม่ของพี่เป็นลูกสาวของคุณตา พ่อพี่แต่งเข้าตระกูลน่ะ แต่หลังจากที่พ่อกับคุณตาเสีย...พัทธ์คงเคยได้ยินแม่พี่แต่งงานใหม่กับคุณส่งศักดิ์"
พัทธ์พยักหน้ารับ "ครับ... ผมก็พอได้ยินมาแบบนั้น"
"หลังจากแม่พี่เสียไปอีกคน พี่ก็มีปัญหากับคุณส่งศักดิ์ คุณยายเลยพาพี่ออกจากบ้านนั้นเปลี่ยนนามสกุลใหม่หลังจากเรียนจบพี่เลยมาทำงานที่นี่ จริงๆ คุณยายพี่ท่านก็ช่วยด้วย" ผมเล่าให้กับพัทธ์ฟัง
"เพราะฉะนั้น...เรื่องนี้พี่ขอจัดการเองได้ไหม ที่จริงคุณส่งศักดิ์เคยมาพูดกับพี่เรื่องนี้แต่พี่บอกปัดไปแล้วเขาก็เงียบไปพี่ไม่คิดว่าเขาจะหาทางติดต่อพัทธ์แบบนี้"
"ครับพี่พฤกษ์ เอาแบบนั้นก็ได้ครับ"
ผมส่งยิ้มให้กับพัทธ์ "ขอบคุณนะครับ พี่จะรีบจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ถ้าเขาโทรมาอีกพัทธ์ก็ไม่ต้องรับหรือบอกปฏิเสธไปเลยก็ได้นะ เพราะเรื่องพื้นที่เราไม่ได้เป็นคนกำหนดเองเสียหน่อย ทางคุณเกริกไกรเป็นคนจัดสรรให้เอง"
"ครับพี่พฤกษ์ ยังไงผมฝากเรื่องนี้ด้วยนะครับ" พัทธ์บอก
ผมพยักหน้ารับ "ครับ เดี๋ยวพี่จัดการให้เอง"
เมื่อผมบอกแบบนั้นพัทธ์ก็ยิ้มรับก่อนที่เจ้าตัวจะขอตัวกลับไปเคลียร์งานต่อ หลังจากที่พัทธ์ออกจากห้องไปแล้วผมก็ได้แต่ถอนหายใจ รู้สึกไม่ชอบใจอย่างมากกับสิ่งที่คุณส่งศักดิ์ทำ การกระทำของเขาไม่ได้มีความเป็นผู้ใหญ่เลยสักนิด เป็นถึงผู้บริหารบริษัทแต่กลับทำตัวเหมือนขายของเล่นมีอย่างที่ไหนที่มาโวยวายกับบริษัทอื่นแบบนี้
เห็นที... ผมต้องรีบจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด รวมไปถึงเรื่องที่เขายักยอกเงินบริษัทของคุณตาด้วย
************************************************
ช่วงนี้วงจรชีวิตของฟางเริ่มเปลี่ยนอีกครั้งแล้วค่ะ หมดช่วงเวลาลอยไปลอยมาค่ะ ตอนนี้ฟางต้องเริ่มหางานอย่างจริงจังหลังจากปล่อยฟรีมาเกือบครึ่งปี แล้วเดือนธันวานี้ฟางมีสอบใบประกอบวิชาชีพด้วยค่ะ ซึ่งมันก็สำคัญสำหรับอาชีพสถาปนิกมากเลยต้องแบ่งเวลาใหม่ ฟางเลยจะปรับเปลี่ยนการอัพนิยายใหม่นะคะ หวังว่าทุกคนจะเข้าใจในสิ่งที่ฟางทำนะคะ ไม่อยากทิ้งนิยายให้เว้นช่วงนานเกินไป แต่ทางนั้นมันก็สำคัญเหมือนกัน ขอให้เข้าใจกันด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
เร็วๆ นี้ (อาจจะสักเดือนหน้า) ฟางจะมีกิจกรรมมาให้ร่วมสนุกกันนะคะ จะเป็นอะไร ของรางวัลคืออะไรขอติดตามกันเนอะ ^^
อย่าลืมคอมเมนต์ให้ฟางด้วยนะ แต่งมาให้อ่านแล้วก็อยากอ่านคอมเมนต์บ้าง คอมเมนต์กันด้วยน๊า พลีสสสสสสสสสส
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ
https://www.facebook.com/fgc32yaoiสำหรับทวิตเตอร์ค่ะ
https://twitter.com/Fangiily_GCเข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)