น้องกันต์จัดให้ครั้งที่ 42คินแปลก...ไม่ใช่ผมที่แปลก ไม่ได้มีเรื่องอะไรแปลก แต่พัทธ์นี่สิแปลก
ผมรู้สึกว่าวันสองวันมานี้พัทธ์ดูแปลกๆ ไปเหมือนมีเรื่องอะไรในใจ อยากจะบอกอยากจะพูดแต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมพูดมันออกมา ผมก็ไม่อยากจะเซ้าซี้มากนักคิดว่าถ้าพัทธ์ตัดสินใจได้ก็คงจะบอกผมเอง
แต่ถ้าให้เดาก็คงจะเป็นเรื่องเพื่อนที่ชื่อแซม
ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่ามีเรื่องอะไรให้ต้องกังวลขนาดนี้ ผมส่ายหน้าไล่ความคิดออกไปก่อนจะหันกลับมาสนใจกับการทำขนมต่อแทน
"วันนี้น้องกันต์ไปกับคุณพัทธ์เหรอพี่คิน" เปรี้ยวหันมาถามผม
"เปล่าหรอก น้องกันต์ไปเที่ยวกับคุณตาคุณยายเขาน่ะ" ผมตอบ
วันนี้เป็นวันเสาร์ปกติแล้วน้องกันต์มักจะมาอยู่กับผมที่ร้านมากกว่า นอกจากวันเสาร์ไหนที่พัทธ์ไม่ได้ไปทำงานน้องก็จะอยู่กับพัทธ์ ที่จริงวันนี้พัทธ์ก็ไม่มีงานสำคัญอะไรต้องเข้าบริษัท แต่พอน้องกันต์ไม่อยู่เขาก็เลยเข้าไปทำงาน ตอนแรกผมก็ชวนมาที่ร้านนี่แหละครับแต่เขาไม่ยอมมา ผมเลยตามใจไปส่งเขาที่บริษัทก่อนที่ผมจะขับรถมาที่ร้าน
"เปรี้ยวยกชีทเค้กนี่ไปใส่ตู้ไว้ก่อน" ผมดันถาดที่มีชีทเค้กวางเรียกอยู่ไปให้เปรี้ยวซึ่งเจ้าตัวก็รับคำแล้วเดินมายกถาดออกไป
ผมหันมาทำมาการองต่อวันเสาร์แบบนี้คนมาที่ร้านค่อนข้างเยอะแล้วเมนูขายดีก็เป็นมาการองนี่แหละครับ ซื้อกลับไปบ้านกันเยอะพอวันเสาร์ผมเลยจะทำมาการองเยอะหน่อย ทำหลายรสแล้วก็หลายแบบเลย
ที่จริงเคยมีลูกค้าหลายคนบอกให้ผมเพิ่มเมนูให้มีอาหารด้วยแต่ผมว่ามันจะยิ่งเยอะไปก็เลยไม่ได้ทำ ขายแค่เบเกอรี่อย่างเดียวก็ทำกันไม่ไหวแล้วละครับ
"พี่คินครับมีคนมาหาครับ" เสียงเจ้าเป้เดินมาเรียกผมในครัว
ผมเงยหน้าขึ้นจากการผสมแป้งทำเค้ก "ใครมาหา"
"น่าจะเพื่อนพี่คินนะ ผมเห็นเคยมาที่ร้านแต่จำไม่ได้แล้วว่าชื่ออะไร" เจ้าเป้ตอบ
"โอเค บอกเขารอแปบเดี๋ยวพี่ออกไป" ผมบอกเจ้าเป้ก่อนจะหันไปหาฝนให้มาทำต่อแทน ส่วนตัวผมเองก็เดินไปล้างมือแล้วออกไปหน้าร้าน
"อ้าวแพรวา" ผมทักพร้อมกับยิ้มให้เมื่อเห็นว่าแพรวาเป็นคนมาหาผม
หลังจากที่มีเรื่องที่พัทธ์หึงผมไปคราวนั้นแล้วผมก็บอกแพรวาไปตรงๆ เราสองคนก็ยังติดต่อกันบ้างเป็นครั้งคราว แพรวาเองก็ไม่ได้มีทีท่าว่าอยากจะคืนดีกับผมแล้ว อีกอย่างเวลาผมคุยกับแพรวาผมก็มักจะบอกพัทธ์เสมอ เพราะไม่อยากให้เจ้าตัวคิดมากไปอีก
"พอดีเราอยากจะสั่งเค้กหน่อย อาทิตย์หน้าวันเกิดแม่น่ะ คินรับทำขนมเค้กวันเกิดหรือเปล่า" แพรวาถาม
ผมเดินไปนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับแพรวา "ได้สิ แพรวาอยากได้ขนมเค้กอะไร แบบไหนละ เราทำให้ได้"
"เราอยากได้พวกเค้กใบเตย ไม่ก็เค้กวนิลา ที่จริงแม่เราก็ชอบมาการองนะคินเอามารวมกันไว้ได้ไหม"
"รอเดี๋ยวนะ" ผมบอกแพรวาก่อนจะลุกเดินเข้าไปในห้องทำงานแล้วหยิบเอากระดาษกับกินสอออกมาแล้วจึงเดินกลับไปหาแพรวาอีกรอบ
"ถ้าอยากได้มาการองด้วยเราว่าเป็นเค้กวนิลาดีกว่านะ หรือว่ายังไง"
"เอาเค้กวนิลาก็ได้"
ผมจดรายละเอียดต่างๆ ว่าแพรวาอยากจะให้ขนมเค้กออกมาลักษณะไหนก่อนจะร่างแบบให้ดูคร่าวๆ จนเป็นที่พอใจของแพรวา
"โอเค... ขอบคุณมากนะคิน" แพรวาพูดกับผมหลังจากที่เราคุยกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว "อย่างนั้นเรากลับเลยนะมีธุระต่อเอาไว้วันหลังเราจะมาอุดหนุนนะ"
"โอเค กลับดีๆ เดี๋ยวเราเดินไปส่งหน้าร้าน" ผมพูดกับแพรวาก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปส่งอีกคนที่หน้าร้าน รอจนกระทั่งแพรวาเดินไปขึ้นรถแล้วขับออกไปแล้วนั่นแหละถึงได้หมุนตัวเตรียมกลับเข้าไปข้างในร้าน
พอดีกับที่มีรถแท็กซี่มาจอดสนิทอยู่หน้าร้านผมจึงหยุดขาที่จะเดินเผื่อเป็นลูกค้า แล้วผมก็ต้องเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นว่าใครลงจากรถมา
"พัทธ์? ทำไมนั่งแท็กซี่มาละครับ" ผมถามคนที่เดินเข้ามาหาผม
"พอดีเคลียร์งานหมดแล้วครับ ไม่รู้จะอยู่ไปทำไมก็เลยนั่งแท็กซี่มาหาพี่คินดีกว่า" พัทธ์ตอบก่อนที่เจ้าตัวจะถามต่อ "ว่าแต่ทำไมมาอยู่หน้าร้านละครับ เมื่อกี้เหมือนเห็นพี่คินมาส่งใครเลย"
ผมพยักหน้ารับกับคำพูดนั้นก่อนจะตอบพัทธ์ไปตรงๆ "ครับ แพรวาน่ะ พอดีแพรวามาสั่งขนมเค้กวันเกิดแม่ พอคุยกันเสร็จก็เลยเดินมาส่งนี่แหละครับ"
"คุณ...แพรวา...เหรอครับ" พัทธ์ถาม ที่จริงก็ไม่เหมือนกับถามหรอกครับเหมือนพูดกับตัวเองมากกว่า แล้วดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้ว่าตอนนี้กำลังทำหน้าแบบไหนอยู่
คนขี้หึงเริ่มออกอาการหึงอีกแล้วละครับ
"แค่มาสั่งขนมเค้กน่ะครับ ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้นสักหน่อย" ผมยกมือโอบไหล่พัทธ์แล้วพาเดินเข้าไปในร้านก่อนจะพาเลยไปที่ห้องทำงานของผม
"พัทธ์ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย" แม้ปากจะพูดแบบนั้นแต่สีหน้ายังงอง้ำไม่หาย
ผมยิ้มขำยื่นมือไปบีบปลายจมูกโด่งนั้นเบาๆ
"ครับผม แต่พี่ยืนยันว่าไม่มีอะไรแน่นอนครับพี่ไม่มีอะไรปิดบังพัทธ์อยู่แล้ว"หือ... เหมือนเมื่อกี้มีคนชะงักกับคำพูดของผม"ทำไมครับพัทธ์คิดว่าพี่ปิดบังอะไรอยู่เหรอครับ" ผมถามแบบที่พัทธ์ก็รีบยกมือขึ้นโบกไปมาทั้งสองข้างแถมยังส่ายหน้าไม่หยุดอีกต่างหาก
"ป... เปล่าครับ เปล่า พัทธ์ไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นนะครับ" พัทธ์พูดเสียงรัวจะฟังแทบไม่ออก
ผมหัวเราะยื่นหน้าไปหอมแก้มนิ่มๆ นั้น "ใจเย็นครับ รนพูดจนฟังไม่ออกแล้วนั้น อย่างนั้นพัทธ์นั่งรอพี่ในนี้ก่อนนะ เดี๋ยวพี่ไปทำขนมเพิ่มก่อน"
"พัทธ์ช่วย... นะครับ"
"โอเคครับ งั้นไปทำขนมกัน"
ดังนั้นทั้งผมและพัทธ์ก็เลยเดินเข้าไปในครัวของร้านพัทธ์ทักทายฝนกับเปรี้ยวอย่างสนิทสนมก่อนที่จะเริ่มช่วยผมทำขนม
"พัทธ์ครับเอาของพวกนี้ติดบนมาการองให้ทีครับ" ผมบอกก่อนจะเลื่อนถาดที่ใส่น้ำตาลปั้นให้พัทธ์ซึ่งมีทั้งดอกไม้ ใบไม้ หัวใจโบว์แล้วก็รูปตุ๊กตาง่ายๆ ก่อนจะเลื่อนถาดมาการองให้พัทธ์
"ติดยังไงก็ได้ใช่ไหมครับ"
"ครับ เอาให้สวยก็พอ" ผมหันไปยิ้มให้ก่อนจะกลับมาแต่งหน้าเค้กต่อส่วนพัทธ์ก็ใช้น้ำตาลปั้นแต่งหน้ามาการอง
พวกเราทำขนมกันเสร็จก็บ่ายโมงแล้วพอดีกับที่ตั้มเดินถือข้าวกล่องที่ไปซื้อมาให้เข้ามาในครัว ผมเลยหยิบข้าวกล่องของตัวเองแล้วก็พัทธ์มาถือไว้ก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องทำงานอีกรอบ
"กินข้าวกันครับ" ผมบอกพัทธ์ก่อนจะเปิดข้าวกล้องให้
"ครับ... อ๊ะ แปบนะครับพี่คิน" พัทธ์ร้องบอกก่อนจะหยิบโทรศัพท์ที่กำลังส่งเสียงขึ้นมาดูก่อนที่เจ้าตัวจะเงยหน้ามอง "เอ่อ... พ พัทธ์ขอไปคุยโทรศัพท์ก่อนนะครับ"
แล้วพัทธ์ก็เดินออกจากห้องไปให้ผมมองตามอย่างงงๆ เพราะปกติแล้วพัทธ์จะไม่ค่อยเดินแยกไปคุยโทรศัพท์ขนาดบางทีเป็นเรื่องงานก็ยังคุยต่อหน้าผมเลย แต่ช่างเถอะครับอาจจะเป็นเรื่องสำคัญมากจริงๆ ก็ได้
พัทธ์เดินออกไปคุยโทรศัพท์ไม่นานก็เข้ามายังไม่ถึงห้านาทีเสียด้วยซ้ำไปจนผมเริ่มไม่เข้าใจว่าคุยแค่แปบเดียวแบบนี้ทำไมถึงต้องออกไปคุยข้างนอกด้วยนะ
"มีอะไรหรือเปล่าครับ"
พัทธ์ส่ายหน้ายิ้มๆ ก่อนจะเดินกลับมาหาผมที่นั่งรออยู่ที่โซฟา "ไม่มีอะไรหรอกครับ พอดีเพื่อนพัทธ์โทรมา"
ผมเลิกคิ้วขึ้นทันทีที่ได้ยิน ก่อนจะหันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมพร้อมกับดันข้าวกล่องไปให้พัทธ์ "เพื่อน? แซมน่ะหรือครับ พัทธ์กับแซมสนิทกันมากเลยเหรอครับ"
คนถูกถามดูชะงักไปเล็กน้อยแต่ไม่นานก็พยักหน้ารับเหมือนกับจะยืนยันในสิ่งที่ผมถามออกไป "ครับ… ก็สนิทกันครับ รู้จักกันมาตั้งแต่มัธยมแล้วพอเข้ามหาวิทยาลัยก็เรียนอยู่คณะเดียวกันด้วยก็เลยสนิทกันครับ"
ผมพยักหน้ารับ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป เพราะผมเองก็มีเพื่อนสนิทแบบนี้นะ อย่างไอ้หมอชลไงสนิทกันตั้งแต่มัธยมยันเข้ามหาวิทยาลัยจนตอนนี้จบออกมามีงานทำกันแล้วก็ยังตัดกันไม่ขาด อย่างนั้นที่พัทธ์ออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกก็อาจจะเป็นไปได้ว่าเพื่อนของพัทธ์มีเรื่องจะปรึกษา เพราะบางครั้งเวลาที่ผมคุยโทรศัพท์กับไอ้หมอชลผมก็ไม่ค่อยคุยต่อหน้าพัทธ์ต่อหน้าน้องกันต์หรอกครับ ไม่ใช่ว่ามันมีเรื่องปรึกษาหรอก
แต่คุยกับมันแล้วมีเรื่องให้ต้องด่ามันตลอด "กินข้าวกันดีกว่าครับ บ่ายมากแล้วกินข้าวไม่ตรงเวลาเดี๋ยวปวดท้องนะ" ผมยกมือขึ้นยีผมของพัทธ์เบาๆ อย่างที่ชอบทำ
"ครับพี่คิน" พัทธ์ยิ้มกลับมาให้ก่อนที่เราสองคนจะเริ่มลงมือจัดการกับข้าวกล่องตรงหน้า หลังจากที่กินข้าวกันเสร็จเรียบร้อยพัทธ์ก็อาสาจะช่วยดูหน้าร้านให้ผมเลยปล่อยให้เจ้าตัวไปช่วยตรงตู้ขนมเค้ก ส่วนตัวผมก็กลับเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมทำขนมเพิ่มต่อ
วันนี้พัทธ์เลยอยู่ช่วยผมที่ร้านเสียจนกระทั่งร้านปิดกลับไปถึงคอนโดคงมีได้บ่นเมื่อยแน่ๆ เพราะต้องยืนตลอดตั้งแต่บ่ายยันหัวค่ำ ปกติพัทธ์นั่งทำงานเสียมากกว่ายืนนานๆ แบบนี้คงปวดขาน่าดู แล้วก็ไม่ผิดจากที่ผมคิดเอาไว้สักเท่าไหร่
"ปวดขาละสิ" ผมยิ้มทักคนที่นั่งเอามือบีบขาอยู่บนโซฟา
พัทธ์หันมายิ้มแหะๆ ใส่ผม "ครับ ทั้งปวดขาปวดเท้าเลย"
"รอแปบนึงนะครับ" ผมบอกก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ หยิบกะละมังพลาสติกใบเล็กมาใส่น้ำอุ่นก่อนจะยกไปวางไว้หน้าโซฟาตรงที่พัทธ์นั่ง จับขาของพัทธ์ให้เอาเท้าจุ่มน้ำเอาไว้
"พ พี่คิน ทำอะไรครับ"
"แช่น้ำอุ่นไงครับ มันช่วยได้นะ เดี๋ยวพี่ไปเอายามานวดขาให้" ผมพูดก่อนจะลุกไปหยิบหลอดยามาแล้วเดินกลับมานั่งขัดสมาธิอยู่ตรงหน้าอีกคน พับขากางเกงขึ้นไปจนถึงหัวเข่าทั้งสองข้างแล้วก็นวดขาให้
"พี่คิน... ผมทำเองก็ได้นะครับ" พัทธ์พยายามจะดึงมือผมออกจากขาของตัวเอง
"ไม่เป็นอะไรครับ นั่งอยู่เฉยๆ เถอะน่า ถ้าดื้อพี่จะลงโทษนะครับ" แล้วนั่นแหละเจ้าตัวถึงจะยอมนั่งนิ่งๆ ให้ผมนวดเท้านวดขาให้
RRrrrrrrrrrrrrrr
เสียงโทรศัพท์ของผมที่วางอยู่บนโซฟาดังขึ้นแต่เพราะมือผมเลอะยาอยู่พัทธ์เลยหยิบมาให้ พอเจ้าตัวเห็นว่าใครโทรมาก็ทำหน้ามุ่ยทันที
"ใครครับ?"
"คุณแพรวาครับ"
"รับแล้วเปิดลำโพงทีครับ สงสัยจะโทรมาเรื่องที่สั่งขนมเค้ก" ผมบอกพัทธ์ซึ่งเจ้าตัวก็ทำตามที่ผมบอก ผมเคยกับแพรวาไปก็นวดขาให้พัทธ์ไปด้วย แพรวาโทรมาเรื่องสั่งขนมเค้กจริงๆ ครับ โทรมาบอกว่าอยากจะเปลี่ยนแบบ แต่เพราะต้องไปต่างจังหวัดพรุ่งนี้เลยไม่ว่างไปคุยที่ร้านก็เลยโทรมาก่อน อีกอย่างก็กลัวจะลืมด้วยว่าต้องบอกผม
หลังจากที่นวดเท้าให้พัทธ์เสร็จเรียบร้อยผมก็เดินเอาน้ำไปเททิ้งพร้อมกับล้างมือก่อนจะเดินกลับมาหาคนที่ยังทำหน้ามุ่ยไม่เลิก เห็นแล้วมันเขี้ยว...
จุ๊บ!
"อ๊ะ! พี่คิน"
ผมหัวเราะแล้วก่อนจะก้มลงไปจูบที่ริมฝีปากอิ่มนั่นอีกรอบอย่างอดใจเอาไว้ไม่อยู่
"เลิกทำหน้ามุ่ยได้แล้วครับ พี่คินมีน้องพัทธ์แค่คนเดียวนะ คนเดียวเท่านั้นครับ"แล้วคำพูดนั้นก็เปลี่ยนจากคนหน้ามุ่ยเป็นคนหน้าแดงแทนครับ หึหึหึ************************************************
ทำไมชอบบบบบบบ ชอบเวลาพี่คินเรียกพัทธ์ว่าน้องพัทธ์ มันน่าเอ็นดูอะ เนอะๆๆๆ น่าเอ็นดู๊น่าเอ็นดู น้องพัทธ์ของพี่คิน กรี๊ดดดดดดดดดด ค่ะ กรี๊ดดดดดดดด
ประเด็นแซมยังไม่จบค่ะ น้องพัทธ์ยังไม่โดนลงโทษ 5555 แต่สำหรับแพรวาทุกอย่างคือจบตั้งแต่คราวก่อนแล้วนะคะ ไม่มีการหวนคืนแน่นอน แต่ไหนๆ ฟางก็สร้างเขามาแล้วก็เลยขอเอามาออกอีกหน่อย เป็นนักแสดงรับเชิญค่ะ แต่ไม่มีประเด็นแพรวาเพิ่มแน่นอนค่ะสบายใจหายห่วงได้ เชื่อฟางได้เลยค่ะ 555555555555555555 สำหรับเรื่องน้องพัทธ์กับแซมอันนี้รอดูต่อไปค่ะ ไม่มีประเด็นจริงๆ เรื่องมันอยู่ที่ตัวพัทธ์ไม่พูดไม่บอกแค่นั้น แซมไม่ได้คิดอะไรเลย แต่ยังไม่ถึงเวลาที่พี่คินจะลงโทษน้องค่ะ รอต่ออีกนิดนะคะ
ปล. ส่งภาพวาดประกอบนิยายเข้ามากันเยอะๆ นะคะ สวยไม่สวยไม่สำคัญค่ะ แค่ทุกคนสนใจเข้าร่วมกิจกรรมฟางก็ดีใจแล้วค่ะ
อย่าลืมคอมเมนต์ให้ฟางด้วยนะ แต่งมาให้อ่านแล้วก็อยากอ่านคอมเมนต์บ้าง คอมเมนต์กันด้วยน๊า พลีสสสสสสสสสส
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)