น้องกันต์จัดให้ครั้งที่ 45.2พัทธ์คนบ้า! บ้า! บ้า! บ้า! บ้าที่สุด!
พี่คินคนบ้า!ผมได้แต่มองค้อนพี่คินซ้ำแล้วซ้ำเล่าเมื่ออีกฝ่ายหันมามองทั้งๆ ที่ขับรถไปด้วย
พี่คินคนบ้า!ผมค้อนใส่อีกรอบ แล้วทุกครั้งที่ผมค้อนพี่คินก็มักจะหัวเราะกุกกักๆ ในลำคออย่างชอบใจที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้ได้
พี่คินนิสัยไม่ดี ทำไมชอบพูดจา ชอบทำอะไรให้ผมเขินด้วยก็ไม่รู้ พูดออกมาแบบนั้นได้หน้าระรื่น ผมไม่ได้หน้าหนาอย่างพี่คินที่จะไม่รู้สึกเขินอะไรเลยนะ!
ผมเขินมากๆ ผมเชื่อว่าใครมาเป็นผมก็ต้องเขินทั้งนั้นแหละ ใครที่ถูกคนรักถามถูกชวนให้ไปสร้างครอบครัวด้วยกันแล้วไม่รู้สึกอะไรเลยผมนี่จะนับถือมาก ผมแทบอยากจะหายตัวไปในอากาศตอนที่คุณตองหันมามองผมแล้วก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย ฮึ่ม! พี่คินนะพี่คิน
“หึหึหึ”
เอาอีกแล้ว หัวเราะอีกแล้ว ผมอยากจะรู้จริงๆ ว่ามีอะไรน่าขำนัก
“หัวเราะอะไรครับ” ผมหันไปถามเสียงเข้ม พยายามจะเข้มแต่ไม่รู้ทำไมพี่คินกลับหัวเราะมากกว่าเดิมก็ไม่รู้สิครับ
น้องกันต์ที่นั่งอยู่บนตักผมเงยหน้ามองผมกับพี่คินสลับกันไปมา ก่อนจะหันมามองหน้าผมอย่างงงๆ ก่อนจะหัวเราะออกมาบ้าง ผมขมวดคิ้วก้มลงมองน้องกันต์อย่างไม่เข้าใจ
“หัวเราะอะไรมัมครับ” ผมถาม น้องกันต์ยกมือปิดปากแล้วหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ
“มัมทำหน้าดุ แต่หน้ามัมแด๊งแดง” น้องกันต์บอก ก่อนจะยิ้มหวานเสียกว้างเอียงคอมองผมอย่างน่ารัก “มัมน่ารัก อิอิ”
“หึหึหึ” พี่คินหัวเราะเมื่อได้ยินคำพูดของน้องกันต์ “คนอะไรโห๊ดโหด โหดเสียหน้าแดงก่ำ”
ผมได้แต่เม้มปากเมื่อพี่คินพูดล้อเลียนผม สุดท้ายผมก็เลยยื่นมือไปตีไหล่พี่คินอย่างหมั่นไส้ คนนิสัยไม่ดี มาแกล้งผมแล้วยังจะมาหัวเราะผมอีก
“นิสัยไม่ดี พี่คินนิสัยไม่ดี”
“พี่นิสัยไม่ดีตรงไหนครับที่รัก” เจ้าตัวหันมาถามผมพร้อมกับยิ้มกว้าง
เห็นแล้วหมั่นไส้เลยจัดการตีไหล่ไปอีกหลายรอบเลยครับ ดูมาทำหน้าระรื่นคนอะไรน่าหมั่นไส้สุดๆ เลย ผมทำปากยื่นใส่พี่คิน ก่อนจะก้มลงมาบีบแก้มน้องกันต์ที่ยังหัวเราะคิกคักไม่เลิก ไม่รู้ขำอะไรนักเข้าใจหรือไงว่าผมกับพี่คินพูดอะไรกัน
“เลิกหัวเราะมัมเลยนะน้องกันต์ ไม่อย่างนั้นมัมโป้งด้วย” พอผมพูดแบบนั้นน้องกันต์ก็รีบยกมือปิดปากตัวเองแล้วส่ายหน้าไปมาเป็นเชิงบอกว่า ผมไม่ได้หัวเราะนะ
“เขินแล้วพาลนะเรา ไปลงกับลูกเฉยเลย” แต่อีกคนยังไม่รู้สึกครับ หันมาพูดหยอกผมไม่เลิกโดนตีไปหลายทีดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด
“เดี๋ยวพี่คินจะโดนอีกคนนะครับ” ผมหันไปพูดเสียงเข้มใส่ แต่เชื่อเถอะครับพี่คินไม่รู้สึกอะไรหรอก ขนาดผมเองยังรู้สึกหน้ามันวูบวาบๆ แบบไม่ต้องส่องกระจกก็รู้ว่าแดงชัวร์ๆ แล้วการทำเป็นเข้มที่ผมทำใส่พี่คิน พี่เขาจะกลัวไหมละครับ
“โอ๋ๆ โอ๋เอ๋นะครับ น้องกันต์มัมงอนพ่อคิน น้องกันต์ง้อมัมให้พ่อคินทีสิครับ พ่อคินขับรถอยู่ง้อไม่ได้ จำได้หรือเปล่าว่าเวลาง้อคนที่รักต้องทำยังไง” พี่คินทำเสียงโอ๋เอ๋เหมือนง้อเด็กกับผมแล้วจึงพูดกับน้องกันต์แทน
“จำได้ฮะพ่อคินนนน” น้องกันต์ตอบเสียงแจ๋ว
“อย่างนั้นง้อให้ทีนะครับ” พี่คินพูดพร้อมกับขยิบตาให้น้องกันต์ที่นั่งตักผมอยู่
ผมหรี่ตามองพี่คินอย่างไม่ไว้ใจ นี่แอบไปสอนอะไรน้องกันต์ตอนไหน สอนอะไรไม่เข้าท่าอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย ผมกำลังจะเอ่ยถามแต่น้องกันต์ก็ยันตัวขึ้นบนตักผมเสียก่อนผมเลยต้องรีบหันมาจับตัวเอาไว้เพราะกลัวน้องจะล้ม
“น้องกันต์ระวังลูกเดี๋ยวล้มหัวโขกหรอกครับ”
จุ๊บ
จุ๊บ“หายงอนพ่อคินนะครับมัม” น้องกันต์ยิ้มหวานจนตาแทบจะปิด
“น้องกันต์”
“พ่อคินบอกว่าถ้าคนที่รักงอนให้หอมแก้มเป็นการง้อครับ!” ตอบเสียงดังฟังชัดมากครับลูกรัก
ผมตวัดสายตาไปมองคนที่สอนอะไรแปลกๆ ให้ลูกอย่างเคืองๆ “สอนอะไรน้องกันต์ครับพี่คิน สอนอะไรแปลกๆ อยู่เรื่อยเลยถ้าโตไปน้องเที่ยวไปหอมแก้มใครไปทั่วเดี๋ยวก็เกิดเรื่องหรอก”
“พี่สอนอะไรแปลกๆ ที่ไหนกันครับ พี่ไม่ได้บอกให้น้องกันต์ไปหอมแก้มทุกคนสักหน่อยแต่บอกให้ทำกับคนที่รัก ใช่ไหมครับน้องกันต์” ดูครับ… ดูคนไม่ยอมรับผิดสิครับ มีการหันไปถามความคิดเห็นจากน้องกันต์อีก
แล้วดูเถอะครับ น้องกันต์ก็รักพ่อคินเสียเหลือเกิน หันไปยิ้มแป้นใส่พี่คินก่อนจะรับคำเสียงดังฟังชัด “ใช่ครับพ่อคิน~”
ผมได้แต่ทำหน้าบึ้งเลือกที่จะไม่พูดอะไรออกไปพูดไปก็สู้สองพ่อลูกเขาไม่ได้หรอกครับ แล้วพอผมไม่พูดพี่คินก็หัวเราะชอบใจยื่นมือมาบีบแก้มผมเสียจนเจ็บก่อนจะหันกลับไปตั้งใจขับรถต่อ ส่วนน้องกันต์ก็ชวนผมคุยไปตลอดทาง
ไม่นานหลังจากนั้นพี่คินก็เลี้ยวรถเข้าไปในหมู่บ้านที่ผมเคยมาเมื่อหลายเดือนก่อนแล้วก็ได้แวะเข้ามาบ่อยๆ เพื่อมาดูความเรียบร้อยของงาน แต่วันนี่บ้านเสร็จแล้วผมเลยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น แล้วก็พลันนึกไปถึงคำพูดของพี่คิน
ถ้าผม พี่คินแล้วก็น้องกันต์ย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้ด้วยกันก็เหมือนกับเราสร้างครอบครัวจริงๆ อย่างที่พี่คินพูดเลย…
ถึงแม้ว่าตอนนี้เราจะอยู่ด้วยกันที่ห้องของผมในคอนโดก็เถอะ แต่ความรู้สึกก็ต่างกันมากนะครับ
“ถึงแล้วครับน้องกันต์” พี่คินร้องบอกเมื่อจอดรถเทียบประตูรั้วของบ้าน
“เย้ๆ~ บ้านใหม่ของน้องกันต์” น้องกันต์โยกตัวไปมาบนตักของผม ร้องออกมาอย่างดีใจ
ผมเปิดประตูก่อนจะอุ้มน้องกันต์ลงไปยืนที่พื้นก่อนที่ผมจะตามลงไปพร้อมๆ กับพี่คิน พี่คินเดินมาเปิดประตูรั้วบ้านที่ตอนนี้เปลี่ยนใหม่แล้วก่อนจะจูงมือน้องกันต์เข้าไปด้านใน
ผมเดินตามเข้าไปกวาดสายตาไปรอบๆ ก่อนหน้านี้สนามหญ้ายังดูรกๆ แต่ตอนนี้ตัดเรียบสวยงาม สวนก็มีต้นไม้มาลงเยอะกว่าเดิม มีต้นแก้วกับต้นมะลิปลูกเป็นแนวเป็นรั้วอีกชั้นในบ้านเลยครับ ถ้าออกดอกคงหอมน่าดู
บ้านสองชั้นขนาดพอดีที่ก่อนหน้านี้สีซีดตามกาลเวลาตอนนี้ไม่เป็นแบบนั้นแล้วเพราะทาสีใหม่ ดูเหมือนใหม่เลยนะครับตอนนี้
“หญ้านุ้มมมนุ่มมม น้องกันต์ชอบ” น้องกันต์ร้องดีใจพร้อมกับกระโดดไปมาบนสนามหญ้า
“เข้าไปดูข้างในกันดีกว่าครับน้องกันต์” พี่คินก้มลงพูดกับน้องกันต์ก่อนจะหันมาหาผม “เข้าข้างในกันครับ”
“ครับพี่คิน” ผมเดินตามพี่คินเข้าไปในบ้าน ทุกอย่างถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงามตามแบบที่ผมกับพี่คินต้องการอย่างไม่ผิดเพี้ยนเลยครับ
เฟอร์นิเจอร์ในบ้านไม่เยอะมากทุกอย่างดูเรียบๆ ดูคลาสสิคแล้วก็มีความเป็นโมเดิร์นในตัว ภายในบ้านทาด้วยสีอ่อน บางส่วนก็ติดเป็นวอลเปเปอร์ลายสวยๆ
พวกเราเดินดูกันเสียทั่วบ้านทั้งชั้นล่าง ชั้นบน
“เป็นยังไงบ้างครับ น้องกันต์ชอบไหม” ผมหันไปถามเจ้าตัวเล็ก ตอนนี้เรามาดูห้องนอนของน้องกันต์ครับ ทั้งห้องเป็นโทนสีฟ้า น้ำเงินดูสบายตาแล้วก็เหมาะกับเด็กผู้ชาย
“ชอบครับ น้องกันต์ชอบมากกกกก” เจ้าตัววิ่งไปรอบห้อง ดูนู้นดูนี่อย่างสนใจ ทั้งๆ ที่ก็ไม่มีอะไรให้ดูหรอกครับ มีแค่เตียงนอนที่ยังไม่ได้ปูผ้า กับตู้เสื้อแล้วก็โต๊ะเขียนหนังสือ
“มัมมม พ่อคินนน น้องกันต์จะได้อยู่บ้านนี้ใช่ไหมฮะ” น้องกันต์วิ่งกลับมากอดแขนผมกับพี่คินเอาไว้คนละข้างพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาถาม
“ใช่แล้วครับ เดี๋ยวอีกไม่นานน้องกันต์ก็จะได้มาอยู่บ้านหลังนี้นะ” พี่คินตอบ
“เย้ๆๆ น้องกันต์ชอบ น้องกันต์ชอบ”
ผมยิ้มออกมาเมื่อเห็นท่าทางตื่นเต้นมีความสุขของน้องกันต์ ก่อนจะหันไปหาพี่คินเมื่อพี่เขาเรียกผม “ครับ”
“เอาไว้หลังพัทธ์เสร็จจากงานเฟอร์นิเจอร์แฟร์แล้ว… เราย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้กันนะ”
“ครับพี่คิน”
พี่คินยิ้มก่อนจะยกมือขึ้นเล่นผมของผมเบาๆ ก่อนจะก้มลงอุ้มน้องกันต์ขึ้นมา หลังจากเดินดูบ้านกันทั่วแล้วพวกเราก็กลับกันครับ แวะกินมื้อเย็นข้างนอกเลยเพราะตอนนี้ก็เกือบจะหนึ่งทุ่มแล้ว กว่าจะถึงคอนโดก็สองทุ่มกว่าเกือบจะสามทุ่มเข้าไปแล้วครับ
“เดี๋ยวพี่พาน้องกันต์ไปอาบน้ำนอนเองครับ พัทธ์ไปอาบน้ำเถอะ” พี่คินบอกก่อนจะอุ้มน้องกันต์ที่เริ่มงัวเงียเข้าไปในห้องนอนของน้อง
ส่วนผมก็เดินเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนใส่ชุดนอนก่อนจะเดินมานั่งตรวจงานที่ฝ่ายจัดงานเฟอร์นิเจอร์แฟร์นำมาส่งให้ อีกแค่อาทิตย์เดียวก็จะถึงงานเฟอร์นิเจอร์แฟร์แล้วครับ ทางบริษัทก็เริ่มเข้าไปจัดเตรียมสถานที่แล้วละครับ ส่วนเฟอร์นิเจอร์คอลเลคชั่นพิเศษที่พี่พราวออกแบบก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ผมก็ยังไม่เห็นนะครับ ยังอยู่ที่โรงงานอยู่เลย พรุ่งนี้คงต้องเข้าไปดูสักหน่อยแล้ว…
Rrrrrrrrผมหันไปหยิบโทรศัพท์ที่ส่งเสียงดังมาก่อนจะเลิกคิ้วอย่างแปลกใจแล้วจึงกดรับ “ครับคุณอนงค์”
[คือว่า… คุณพัทธ์ครับ ที่งาน… มีปัญหานิดหน่อยครับ]
“มีปัญหาอะไรเหรอครับคุณอนงค์” ผมถามกลับไป คุณอนงค์เป็นหัวหน้าทีมงานจัดงานเฟอร์นิเจอร์แฟร์ของบริษัทผมครับ
[ผนังที่เราเอามาติดตั้งกับพื้นพรมโดนทำลายครับคุณพัทธ์]
“อะไรนะครับ! มันเกิดขึ้นได้ยังไงครับคุณอนงค์” ผมขมวดคิ้วทันทีด้วยความไม่เข้าใจ
[ผมก็ยังไม่ทราบครับ เมื่อตอนบ่ายผมกับคนงานขนของมาลงแล้วก็กลับไปที่โรงงาน พอเมื่อครู่เข้ามาจะทำงานกันต่อถึงได้เห็นครับว่าโดนทำลาย ผนังก็โดนทั้งกรีดทั้งทุบ ส่วนพรมก็โดรกรีดครับ] คุณอนงค์ตอบ น้ำเสียงฟังเครียดไม่ต่างกันกับผม
“คุณอนงค์ติดต่อไปทางฝ่ายจัดงานแล้วก็ทางสถานที่นะครับ ขอดูกล้องวงจรปิดผมว่ากล้องคงถ่ายติดเอาไว้แน่ๆ ถ้าได้เรื่องยังไงก็โทรมาบอกผมโดยตรงเลยนะครับ” ผมตอบกลับไป หันไปมองที่ประตูห้องนอนเมื่อได้ยินเสียงประตูเปิดพี่คินคงอาบน้ำแล้วก็ส่งน้องกันต์เข้านอนแล้วเรียบร้อย
[ได้ครับคุณพัทธ์ ผมจะรีบจัดการทันทีครับ]
“ครับ ยังไงก็โทรมาบอกผมด้วยนะครับ ถ้ารู้ตัวคนทำแล้วเดี๋ยวผมจะจัดการต่อเอง สวัสดีครับคุณอนงค์”
ผมได้แต่ถอนหายใจออกมา ไม่อยากจะเชื่อว่างานระดับใหญ่ขนาดนี้จะยังมีคนที่ทำอะไรเหมือนเด็กอนุบาลมาทำลายข้าวของของคนอื่นเขาอีก
“มีเรื่องเหรอพัทธ์” ผมหันกลับไปหาพี่คินที่เปลี่ยนมาใส่ชุดนอนแล้วเรียบร้อยและตอนนี้กำลังนั่งอยู่บนเตียง
“นิดหน่อยครับ ที่งานมีปัญหา” ผมตอบพร้อมกับทำหน้างออย่างนึกเซ็งๆ
พี่คินยิ้มขำที่เห็นผมทำท่าทางงอแง จริงๆ ก่อนหน้านี้ผมก็ไม่ทำอะไรแบบนี้หรอกครับ ไม่มีคนให้งอแงใส่นี่นา ถ้างานมีปัญหาผมก็เอาแต่นั่งแก้ไปเรื่อยๆ กับพ่อหรือแม่ก็ไม่ได้บอกเพราะไม่อยากให้มาเครียดไปด้วย
แต่พอมีพี่คิน… ผมก็อยากทำตัวงอแงบ่อยๆเวลางานมีปัญหาผมก็จะบอกพี่คิน ทำหน้างอใส่พี่เขา งอแงใส่
“มานี่มาครับ” พี่คินเรียกพร้อมกับอ้าแขนออกกว้าง ผมเลยลุกจากโต๊ะเดินไปหาคนที่นั่งอยู่บนเตียงแล้วล้มลงไปซุกอกพี่คิน “งานมีปัญหาเรื่องอะไรครับ ไหนระบายกับพี่คินสิ”
พี่คินมักจะใช้คำว่าระบายให้พี่คินฟังมากกว่าบอกเพื่อเป็นการขอคำปรึกษา พี่คินเคยบอกว่าเพราะบางเรื่องพี่คินก็ให้คำปรึกษาคำแนะนำผมไม่ได้เพราะไม่ใช่ทางถนัด แต่พี่คินจะเป็นฝ่ายรับฟังเพื่อให้ผมระบายทุกอย่างออกมาเพื่อที่ตัวผมจะได้รู้สึกดีขึ้น
“มีคนมาทำลายข้าวของของบริษัทครับ งานระดับประเทศแต่ทำตัวเป็นเด็กอนุบาล ไม่พอใจอะไรบริษัทพัทธ์ทำไมไม่มาคุยกันแมนๆ ละครับ มาทำลายข้าวของกันแบบนี้ได้ไง”
“หึหึ ครับๆ คนแมน ก็เขาไม่แมนไงครับเลยไม่มาคุยกับพัทธ์แบบแมนๆ น่ะ” พี่คินหัวเราะยกมือขึ้นบีบจมูกผม
“หื่อออ” ผมส่งเสียงอย่างไม่ชอบใจที่โดนแกล้งแต่นั่นก็ยิ่งทำให้พี่คินอารมณ์ดีมากกว่าเดิม
“แล้วพัทธ์ทำยังไงครับ”
“พัทธ์บอกให้คุณอนงค์ไปขอดูกล้องวงจรปิดแล้วละครับ คงต้องรอดูก่อนว่าใครเป็นคนทำแล้วพัทธ์ค่อยตัดสินใจอีกทีว่าจะทำยังไง” ผมตอบ
“แล้วของที่เสียหายสั่งใหม่ทันไหมครับ”
“มีสำรองอยู่ในโกดังของโรงงานครับ เดี๋ยวผมเอาออกมาใช้ก่อนแล้วค่อยไปสั่งมาไว้เพิ่ม”
“ดีแล้วครับ เลิกคิดเรื่องงานก่อนดีกว่าเนอะดึกแล้ว นอนพักดีกว่าครับ พักเยอะๆ พรุ่งนี้คนเก่งของพี่คินจะได้มีแรงไปทำงาน” พี่คินบอกก่อนจะดึงผ้าห่มที่คลุมเตียงอยู่ออกก่อนจะดันผมให้นอนลงส่วนตัวเองก็ลุกเดินไปปิดไฟก่อนจะเดินมานอนข้างๆ ผม ดึงผ้าขึ้นห่มให้
“นอนหลับฝันดีนะครับ” พี่คินพูด
“ครับ นอนหลับฝันดีนะครับพี่คิน”
“ครับผม”
จุ๊บ
พี่คินเลื่อนหน้ามาจูบหน้าผากผมเบาๆ ก่อนจะสอดมือมากอดผมเอาไว้ ยกมือข้างหนึ่งมาลูบหัวของผมเหมือนเป็นการกล่อมให้นอน
ผมได้แต่นอนซุกอกพี่คินอย่างทุกคืน ปล่อยให้พี่คินกล่อมเหมือนทุกที ก่อนจะหลับไปในอ้อมกอดพี่คินเหมือนทุกครั้ง
************************************************
มาอัพแล้วนะคะ ฮิ้วววว ยาวต่อจากครั้งที่แล้ว น่ารักกันจริงๆ ครอบครัวนี้ เอ็นดูพัทธ์มากมายเลยค่ะ ทำหน้างอให้พี่คินโอ๋ งอแงให้พี่คินปลอบ คนอะไรน่ารัก! อยากจะสิงร่างพี่คินแล้วจับพัทธ์มาฟัดๆ ฟัดให้จมเขี้ยว ไม่แปลกใจเล้ยยยย ทำไมพี่คินชอบแกล้งน้อง เป็นฟางฟางก็อยากแกล้งค่ะ ตอนหน้าเจอกับคู่ชลพฤกษ์นะคะ แล้วเราจะเจอกันยาวๆ (ก็ไม่ยาวมากหรอก) จนกว่าจะจบคู่รองนะคะ แล้วพอจบคู่รอง (จบคือจบจริงๆ ค่ะ) เราก็จะมาต่อกันที่ครอบครัวนี้อีกรอบแล้วก็....จนจบเรื่องนะคะ ^^
อ่านแล้วอย่าลืมคอมเมนต์นะคะ คอมเมนต์กันหน่อยนะ อย่าเงียบค่ะ ใจไม่ดีเลยยยยย
ปล. ส่งภาพวาดประกอบนิยายเข้ามากันเยอะๆ นะคะ สวยไม่สวยไม่สำคัญค่ะ แค่ทุกคนสนใจเข้าร่วมกิจกรรมฟางก็ดีใจแล้วค่ะ
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)