น้องกันต์จัดให้ครั้งที่ 47พฤกษ์พัทธ์กลับไปแล้ว กลับไปได้สักพักแล้วละครับ แต่ผมยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิมพร้อมความรู้สึกหนักอึ้งในใจ
ผมควรที่จะต้องรีบจัดการเรื่องของสโรชาให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุด เพราะผมไม่รู้ว่าถ้าหากผมยังปล่อยเวลาให้ยืดเยื้อต่อไปคุณส่งศักดิ์จะทำอะไรอีกหรือเปล่า ถ้าหากเขาจ้องเล่นงานมาที่ผมโดยตรงผมจะไม่กังวลอะไร แต่ถ้าหากเขาไปเล่นงานคนอื่นๆ ในบริษัทของพัทธ์เรื่องราวมันคงจะใหญ่โตไปมากกว่านี้…
‘พี่คงต้องลาออกจากบริษัทของพัทธ์’ นั่นคือคำพูดที่ผมพูดกับพัทธ์ไปก่อนที่เขาจะกลับ
อีกไม่นานเรื่องที่บริษัทสโรชาส่งคนมาทำลายข้าวของในงานเฟอร์นิเจอร์แฟร์ก็จะต้องรู้ไปถึงคณะกรรมการบริหารทุกคน แล้วเรื่องที่ผมจริงๆ แล้วคือทายาทของสโรชาก็คงต้องเปิดเผยด้วยแน่นอน ถึงแม้ตลอดเวลาที่ทำงานมาผมไม่เคยคิดที่จะคิดโกงหรือคิดไม่ดี แต่คงมีคนไม่พอใจอยู่แน่นอน
ถึงแม้ว่าพัทธ์จะบอกกับผมว่าผมไม่จำเป็นต้องลาออก แต่ถ้าผมจัดการเรื่องคุณส่งศักดิ์เรียบร้อย… บริษัทสโรชาจะไม่มีคนบริหารงาน แล้วผมคงไม่สามารถปล่อยให้บริษัทของคุณตาถูกปิดลงทั้งๆ ที่ผมยังมีชีวิตอยู่ มีแรง มีกำลังที่จะดูแลมันต่อ แล้วถ้าผมทำงานทั้งสองบริษัท ในวันนี้อาจจะไม่มีคนคิดแต่ต่อไปในอนาคตก็ไม่มีอะไรมายืนยันว่าคณะกรรมการจะไม่คิดว่าผมอาจจะโกงหรือเป็นนกสองหัว
ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกดโทรออก รออยู่ไม่นานปลายสายก็รับ “สวัสดีครับทนายเดช…”
“ผมมีเรื่องจะปรึกษาครับ เรื่องที่ผมเคยคุยกับคุณก่อนหน้านี้… ผมอยากจะฟ้องข้อหาฉ้อโกง ส่วนหลักฐานผมจะเข้าไปคุยกับคุณอีกทีนะครับ… ครับ ขอบคุณมากครับ”
ผมถอนหายใจออกมาหลังจากที่วางโทรศัพท์ลงแล้วรู้สึกหนักใจปนๆ กับโล่งใจอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกัน
หนักใจ… เพราะผมไม่คิดว่าตัวเองจะเข้ามาจัดการอะไรพวกนี้ ผมไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคุณส่งศักดิ์ไม่ว่าจะในกรณีใดๆ ทั้งสิ้น
โล่งใจ… ที่อย่างน้อยผมก็ไม่ได้ทำให้บริษัทของคุณตาต้องเป็นอะไรไป
“เฮ้อ…”
แปะ
“คุณทำถูกแล้วพฤกษ์”
ผมหันกลับไปมองเมื่อมีสัมผัสเอื้อมมาจับที่หัวไหล่ของผมพร้อมกับเสียงที่ดังมาเหมือนกับกำลังให้กำลังใจกัน
“หมอชล…”
“ไม่ต้องคิดมากหรอกครับ สิ่งที่คุณทำถูกต้องแล้ว” หมอชลว่าพร้อมกับบีบมือที่ไหล่ของผม
ผมพยักหน้ารับกับคำพูดนั้นก่อนที่เขาจะเดินอ้อมโซฟามานั่งข้างๆ ผม “แล้วจากนี้คุณจะทำยังไงต่อ”
“ผมคงจัดการเรื่องคุณส่งศักดิ์ให้เรียบร้อยก่อน… ส่วนบริษัทของพัทธ์ผมคงต้องลาออกแล้วเข้ามาดูแลบริษัทของคุณตา” ผมตอบเขาไป
“ดีแล้วละครับ พฤกษ์… หลังจากที่คุณจัดการเรื่องของคุณเสร็จเรียบร้อยแล้วผมมีที่หนึ่งที่อยากจะพาคุณไป…”
“ไปไหนครับ” ผมหันไปถามเขา ปกติหมอชลจะไม่ค่อยชวนผมไปไหนเท่าไหร่ก็อย่างที่รู้ๆ กันอาชีพหมอไม่ได้มีวันว่างได้ง่ายๆ พอเขาพูดแบบนี้ผมก็เลยค่อนข้างที่จะแปลกใจอยู่ไม่น้อย
“เอาไว้ถึงเวลานั้นแล้วผมจะบอก แต่คุณต้องสัญญากับผมก่อนว่าจะไปกับผม”
“อืม ก็ได้ หลังจากจัดการเรื่องของคุณส่งศักดิ์แล้วผมก็คงไม่มีอะไร” ผมบอกกับเขาไปแบบนั้น ซึ่งหมอชลก็ยิ้มรับ
“ครับผม อย่างนั้นผมไปเตรียมตัวก่อนดีกว่าคืนนี้ผมมีเข้าเวรนะ คงกลับพรุ่งนี้เลย”
ผมพยักหน้ากับคำพูดของหมอชลก่อนที่เจ้าตัวจะเดินขึ้นไปบนห้อง
ทำตัวอย่างกับเป็นเจ้าของบ้าน… ให้ตายสิคนคนนี้ผมหันไปหยิบโทรศัพท์มือถืออีกรอบเมื่อมันกำลังส่งเสียงดังเรียกร้องความสนใจจากผม เลิกคิ้วด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนโทรเข้ามา
คุณคนิณ…ไม่แปลกที่คุณคนิณจะโทรหาผม เพราะคุณคนิณเป็นคนช่วยผมเรื่องเอาเอกสารในบริษัทสโรชาออกมาให้ผมสืบ แต่ที่ผมแปลกใจก็เพราะปกติคุณคนิณจะไม่โทรหาผมเวลาแบบนี้ ส่วนใหญ่เขาจะโทรมาตอนดึกหรือก็ตอนเลิกงานแล้ว
“ครับคุณลุงคนิณ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับถึงได้โทรหาผมตอนนี้”
[ลุงมีเรื่องจะบอก อีกสามวันที่บริษัทจะมีประชุมบอร์ดบริหารทั้งหมด… ถ้าพฤกษ์คิดอยากจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยลุงว่าวันนั้นก็เป็นโอกาสที่ดีเหมือนกัน]
“ขอบคุณนะครับที่โทรมาบอก ผมขอไปดูเรื่องเอกสารแล้วก็หลักฐานก่อนว่ามากพอหรือยัง ถ้ายังไงผมจะโทรบอกคุณลุงอีกรอบนะครับ ส่วนเรื่องนี้… ผมขอให้คุณลุงเก็บเป็นความลับไว้ก่อนนะครับ” ผมบอกกับคุณคนิณไป
ทั้งบริษัทสโรชามีเพียงแค่คุณคนิณแล้วก็เลขาของท่านเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ คนอื่นยังไม่มีใครรู้ว่าผมกำลังคิดจะทำอะไร ซึ่งนั่นก็ดีแล้วละครับ เรื่องแบบนี้คนรู้น้อยเท่าไหร่ยิ่งดี…
[ถ้ายังไงโทรบอกลุงแล้วกันนะ อย่างน้นเท่านี้ก่อนแล้วเอาไว้คุยกันใหม่]
“ครับคุณลุง” ผมวางสายไปก่อนจะกดโทรหาทนายเดชอีกรอบเพื่อคุยเรื่องวันที่ผมจะเข้าไปจัดการเรื่องนี้ ซึ่งทางทนายเดชเองก็บอกว่าเอกสารทุกอย่างจะเสร็จทันแน่นอน ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมโล่งใจ
คิดจะจัดการทั้งที… ผมจะต้องจัดการให้เด็ดขาด ในเมื่อคุณส่งศักดิ์ไม่เคยคิดไว้หน้าครอบครัวสโรชาด้วยการทำไม่ดี โกงเงินบริษัทไปไม่น้อย ผมเองก็ไม่ควรจะไว้หน้าเขาเช่นกัน“พฤกษ์วันนี้คุณจะเข้าบริษัทสโรชาเหรอ” ผมที่กำลังแต่งตัวอยู่หันไปมองคนที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องนอน
หลายวันมานี้หมอชลมีเข้าเวรตอนกลางคืนทุกวัน ซึ่งกว่าเขาจะกลับมาก็เช้าพอดีเหมือนอย่างวันนี้ที่เขาก็เพิ่งกลับมาถึง
“อื้อ…” ผมพยักหน้ารับกับคำถามนั้น
“วันนี้คุณจะจัดการเรื่องทุกอย่างให้เรียบร้อยแล้วใช่ไหม” หมอชลเดินเข้ามาใกล้ผม เขาคว้าเนคไทในมือของผมออกไปก่อนจะจัดการผูกมันให้
“อื้อ ถ้าเป็นไปได้ทุกอย่างก็คงเรียบร้อย” ผมตอบพร้อมกับยืนนิ่งๆ ให้เขาจัดการกับเนคไทที่คอของผมไปด้วย
“คุณไม่ลืมใช่ไหมครับพฤกษ์ที่เคยสัญญากับผมเอาไว้” หมอชลก้าวถอยหลังออกไปก่อนจะเอ่ยทวงสัญญากับผม และพอเห็นผมนิ่งเขาก็ทำหน้ายุ่งก่อนจะท้วงขึ้นมาอีกรอบ “คุณคงไม่ลืมหรอกใช่ไหมที่สัญญากับผมเอาไว้ว่าถ้าจัดการเรื่องของคุณเสร็จเรียบร้อยแล้วจะไปที่หนึ่งกับผมน่ะ”
“ฮ่าๆๆ รู้แล้วๆ ไม่ลืมหรอกน่า แต่เอาให้ผมจัดการให้เรียบร้อยก่อน”
พอผมพูดแบบนั้นหมอชลก็ยิ้มแล้วก็พยักหน้ารับทันที ผมไม่ได้พูดอะไรต่อแต่เดินไปหยิบเสื้อสูทขึ้นมาพาดเอาไว้ที่แขนพร้อมกับหยิบกระเป๋าเอกสารเตรียมตัวจะออกจากบ้าน ส่วนหมอชลก็คงจะเตรียมตัวเข้านอนเพราะดูท่าแล้วจะไม่ได้นอนมาทั้งคืน
“พฤกษ์” หมอชลเรียกผมเอาไว้ก่อนที่ผมจะเปิดประตูออกจากห้องไป
ผมหันกลับไปมองเขา
“ผมขอให้ทุกอย่างเรียบร้อยนะครับ”“ขอบคุณครับ...” ผมยิ้มกลับไปก่อนจะเดินออกจากห้อง ปกติผมกับหมอชลเราจะไม่ค่อยพูดเรื่องงานกันเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่าไม่แบ่งปันเรื่องต่างๆ แต่ผมกับเขาไม่อยากเอาความเครียดไปใส่ให้อีกคนมากกว่า หรือจริงๆ แล้วเราพูดเรื่องงานกันไม่ค่อยรู้เรื่อง
ผมจะรู้แค่ว่าเขาทำงานอะไรในแต่ละวัน เหมือนที่หมอชลรู้ว่าผมกำลังทำอะไร แต่จะไม่มีใครรู้ลึกไปถึงรายละเอียดมากกว่านั้น มันยากที่จะอธิบายให้เข้าใจกัน ที่สำคัญ... ทั้งผมและเขาต่างก็มีความเครียดจากงานของตัวเองอยู่แล้ว เราสองคนก็เลยไม่อยากเอาความเครียดไปใส่เพิ่ม แต่พวกเราจะเลือกพูดคุยกันเรื่องอื่นมากกว่า
“ป้าสายครับ... ผมไปก่อนนะครับ” ผมบอกป้าสายที่กำลังทำความสะอาดอยู่ในครัว
“ขอให้ทุกอย่างราบรื่นเป็นไปได้ดีตามที่คุณพฤกษ์ต้องการนะคะ เดี๋ยวป้าจะทำเมนูโปรดเอาไว้ให้เป็นมื้อเย็นค่ะ”
“ครับป้าสาย แล้วผมจะกลับมากินนะครับ”
ผมเดินออกไปขึ้นรถแล้วขับออกจากบ้านไป ตลอดทางก็เหลือบมองกระเป๋าเอกสารที่วางอยู่ที่เบาะข้างที่นั่งคนขับไปด้วย เอกสาร หลักฐานทุกอย่างผมเตรียมเอาไว้พร้อมเรียบร้อยแล้ว และก็หวังว่าทุกอย่างจะจบลงภายในวันนี้...
รถของผมเลี้ยวเข้าไปจอดในลานจอดรถของอาคารที่เป็นที่ตั้งของบริษัทสโรชา ผมเคยมาที่นี่เมื่อหลายปีก่อน... ก่อนที่จะออกจากบ้านไป ช่วงที่คุณยายยังอยู่ก็มีแวะมาบ้างแต่หลังจากที่คุณยายเสียผมก็ไม่ได้เข้ามาที่นี่อีกเลย
ผมสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะพ่นมันออกมา มันบอกไม่ถูกว่าตอนนี้กำลังรู้สึกอะไรอยู่กันแน่ ทุกอย่างมันเป็นสีเทา มันขุ่นมัวไปหมดจนผมมองอะไรไม่เห็น คิดอะไรไม่ออก เหมือนสิ่งที่กำลังทำอยู่... ไม่ว่าจะลงจากรถ หยิบของ หรือเดินมันเป็นไปตามสัญชาตญาณเท่านั้น ในสมองของผมมันว่างเปล่า ไม่ใช่ว่ากลัว... ผมไม่กลัวอะไรทั้งนั้นเพราะสิ่งที่ผมทำมันคือสิ่งที่ถูกต้อง แต่มันก็บอกไม่ถูกว่ามันคืออะไร
ผมถอนหายใจแล้วถอนหายใจอีกถ้าหากคนเราจะอายุสั้นลงทุกครั้งที่ถอนหายใจผมคงอายุสั้นไปหลายปี...
“คุณลุงคนิณครับ ตอนนี้ผมมาถึงที่บริษัทแล้ว” ผมโทรศัพท์ออกหาคุณคนิณ “ครับ อย่างนั้นผมจะรออยู่ข้างล่างนะครับ สวัสดีครับ”
ผมวางสายไปหลังจากที่คุณคนิณบอกให้ผมไปรอที่ชั้นล่างของบริษัทแล้วจะให้เลขาของเขามารับผมไป เพราะคุณคนิณจะต้องเตรียมตัวเข้าประชุมแล้ว ถ้าหายออกมาก็คงจะไม่ดี ส่วนทนายเดชก็กำลังเดินทางมา อีกไม่นานก็คงจะถึง
เลขาคุณคนิณลงมาหาผมหลังจากที่ผมวางสายจากคุณคนิณไปไม่นาน พร้อมๆ กับที่ทนายเดชมาถึงพอดี เลขาของคุณคนิณพาผมกับทนายเดชไปที่ห้องประชุมเล็กเพื่อพูดคุยกันถึงรายละเอียดอีกรอบก่อนที่ตัวคุณเลขาจะขอตัวขึ้นไปข้างบน เหลือเพียงผมกับทนายเดชนั่งคุยกันสองคน
อย่างกับในละคร... ที่ผมกับทนายเดชจะเข้าไปในห้องประชุมหลังจากที่การประชุมเริ่มไปได้สักพัก ตอนแรกผมก็ไม่รู้หรอกว่าทำไมในละครต้องทำแบบนั้น แต่ตอนนี้ผมคิดว่า... คงเพราะถ้าหากเข้าไปแบบไม่ทันตั้งตัวคุณส่งศักดิ์ก็คงจะทำอะไรไม่ถูก ไม่มีเวลาคิดหาข้อแก้ตัวใดๆ
ถ้าเข้าไปก่อนเริ่มประชุมเป็นไปได้ว่าคุณส่งศักดิ์อาจจะยังไม่เข้าไปในห้องแล้วก็อาจจะมีคนไปบอกคุณส่งศักดิ์จนเขาไหวตัวทันก็ได้ หรือถ้าเข้าไปตอนหลังเลิกประชุมถ้าเข้าไปไม่ถูกจังหวะคนอื่นๆ ก็อาจจะกลับไปแล้ว หรือคุณส่งศักดิ์อาจจะออกไปก่อนก็ได้
ผมเก็บเอกสารทุกอย่างเข้ากระเป๋าก่อนจะส่งให้ทนายเดชเป็นฝ่ายถือเข้าไปในห้อง ก่อนที่เราจะเดินออกจากห้องประชุมเล็กขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนที่กำลังมีการประชุมบอร์ดบริหารกันอยู่
************************************************
หายไปนานเลยใช่ไหมคะ... ขอโทษด้วยค่ะแต่ฟางมีเหตุผล (ที่บอกเอาไว้ในเรื่องอุ้มรัก และในแฟนเพจ) ตอนนี้ฟางทำงานแล้วค่ะ เพิ่งเริ่มงานได้แค่สัปดาห์เดียวเลยต้องปรับตัวกันค่อนข้างเยอะ ฟางเลิกงานก็ 6 โมงเย็นค่ะ บางวันก็เลิกเย็นกว่านั้น อย่างวันศุกร์ที่แล้วเลิกงาน 3 ทุ่ม กว่าจะถึงหออีกอะไรอีกก็เลยค่อนข้างเพลีย หลับไวตลอด เลยไม่ค่อยได้แต่งนิยายเท่าไหร่ ทำให้ไม่ได้มาอัพเลยยังไงฟางก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ จะพยายามมาอัพให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะสามารถค่ะ
กลับมาที่เนื้อเรื่อง... ตอนนี้ทั้งตอนฟางคงยกให้เป็นพาร์ทของพี่พฤกษ์นะคะ อาจจะมีพาร์ทของหมอชลมาตอนท้ายๆ ซึ่งยังไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ แฮ่... พาร์ทนี้จะหน่วงไหม?... คงไม่ค่ะ เพราะเป็นตอนที่จะจัดการปัญหาของพี่พฤกษ์ให้เรียบร้อย คาดว่าอีกไม่เกินหนึ่งถึงสองตอน (อาจจะปรับมากหรือน้อยกว่านี้แล้วแต่สถานการณ์ความคิดนะคะ) แล้วก็จะจบคู่รองค่ะ
อ่านแล้วอย่าลืมคอมเมนต์นะคะ คอมเมนต์กันหน่อยนะ อย่าเงียบค่ะ ใจไม่ดีเลยยยยย
ปล. ส่งภาพวาดประกอบนิยายเข้ามากันเยอะๆ นะคะ สวยไม่สวยไม่สำคัญค่ะ แค่ทุกคนสนใจเข้าร่วมกิจกรรมฟางก็ดีใจแล้วค่ะ
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)