น้องกันต์จัดให้ครั้งที่ 48พฤกษ์ผมจัดเสื้อผ้าตัวเองให้เรียบร้อยพลางมองคนที่นอนหน้าบึ้งอยู่บนเตียงด้วยสายตาขวางๆ มีสิทธิ์อะไรมาทำหน้าบึ้งใส่ผม
“คุณจะลงไปหามันทำไม” เขาถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“เหตุผลที่เขามาก็คงเพราะเรื่องของคุณส่งศักดิ์ ผมจะลงไปคุยกับเขา” ผมตอบ
“ทำไมมันต้องมาขัดจังหวะคนกำลังจะมีอะไรกันด้วยวะ” หมอชลบ่นอย่างหงุดหงิดพร้อมทำเสียงจิ๊จ๊ะไม่พอใจ ซึ่งผมได้ยินแบบนั้นก็คว้าเอาหมอนมาปาใส่หน้าเขาทันที
“พูดจา”
หมอชลหยิบหมอนใบนั้นออก “ก็มันเรื่องจริง แล้วผมก็โคตรงค้างเลย” ไม่พูดเปล่าเขายังใช้นิ้วชี้ไปที่เป้าของตัวเองให้ผมมองตาม
โอเค... เขาคงค้างจริงๆ นั่นแหละ แต่ก็เป็นเขาเองหรือเปล่าที่ไม่ยอมหยุดตั้งแต่แรกยังจะทำเป็นเล่นให้มันเป็นแบบนั้น “นู้น... เข้าห้องน้ำไป”
พอผมบอกแบบนั้นเขาก็ทำเป็นนอนดิ้นไปดิ้นมาบนเตียงพร้อมกับร้องโวยวาย “ผมมีเมียนะโว้ย! ทำไมต้องไปช่วยตัวเองด้วยอะ”
ตุบ!
ผมจัดการคว้าหมอนอีกใบมาปาอัดใส่หน้าเขาเต็มๆ ก่อนจะยกนิ้วชี้หน้าเขาอย่างคาดโทษแล้วจึงเดินออกจากห้องนอน ไม่อยากจะพูดอะไรต่อเดี๋ยวก็ได้เถียงกันไม่จบไม่สิ้น
ขาที่กำลังก้าวเข้าไปในห้องนั่งเล่นชะงักเล็กน้อย ผมถอนหายใจออกมาบอกตรงๆ ว่าไม่ค่อยอยากจะเผชิญหน้ากับเขมสักเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าเขามาเพราะเหตุผลอะไร แต่ผมก็ไม่อยากเจอเขาจริงๆ
“พฤกษ์”
และทันทีที่ผมก้าวเข้าไปในห้องเขมก็ร้องเรียกผมทันที ผมเดาไม่ออกว่าน้ำเสียงที่ติดจะตื่นเต้นของเขานั้นหมายถึงอะไร เขมตั้งท่าจะก้าวมาหาผมแต่ผมก็เอ่ยห้ามไว้ก่อนแล้วบอกให้เขานั่งลงก่อนที่ผมจะเดินไปนั่งที่โซฟาเดี่ยวอีกตัว
“ถ้าคุณมาหาผมเพราะเรื่องของคุณส่งศักดิ์... ผมบอกเลยว่าผมไม่สามารถช่วยอะไรได้” ผมพูด
“ผมรู้...”
ผมเงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้น “ถ้าคุณรู้อยู่แล้ว คุณมาหาผมทำไม”
เขมมองผม เขาเบนสายตาไปที่อื่นแต่เพียงไม่นานก็หันกลับมามองผมอีกรอบก่อนที่จะถอนหายใจออกมา “ผม... ผมคิดถึงคุณ”
ผมขยับตัวลุกขึ้นยืนทันทีที่ได้ยินเขาพูดแบบนั้น “ถ้าคุณไม่มีเรื่องอะไร อย่างนั้นผมขอตัวนะครับ”
“พฤกษ์เดี๋ยวก่อนได้ไหม” เขมลุกขึ้นมาคว้าแขนของผมเอาไว้ทันที ผมไม่ได้ปัดมือของเขาออกหรือขยับหนี เพราะผมไม่ใช่ผู้หญิงที่จะต้องมาทำท่าทางอะไรแบบนั้น ผมเพียงแค่หันกลับไปมองเขา เลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามว่าเขาคิดจะทำอะไรกันแน่
“ผมคิดว่า... เวลานี้สิ่งที่คุณควรพูดกับผมน่าจะมีเพียงแค่เรื่องเดียวนั่นก็คือเรื่องของคุณส่งศักดิ์ พ่อภรรยาของคุณ” ผมพูดพร้อมกับจับมือของเขาออกจากแขนของผม “ทำตัวให้เป็นลูกผู้ชายหน่อยครับ คุณควรไปดูแลภรรยาของคุณมากกว่ามาหาผมแล้วบอกว่าคิดถึงผม มันน่าขำนะกับการที่คุณทำตัวแบบนี้”
“ผมรู้พฤกษ์ผมรู้ แต่จะให้ทำยังไง... ในเมื่อผมคิดถึงคุณ ผมมาหาคุณแบบนี้ผมผิดหรือครับ”
ให้ตายเถอะ... ผู้ชายคนนี้เขาต้องการอะไรจากผม
“มันไม่ผิดหรอกครับถ้าผมกับคุณเป็นคนอื่น ถ้าไม่ใช่ว่าผมมีคนรักอยู่แล้ว และคุณ... มีภรรยาอยู่แล้ว”
“แต่ผมรักคุณนะพฤกษ์!” เขมขยับเข้ามาใกล้ผมมากขึ้น “คุณก็... รู้สึกแบบนั้นใช่ไหม”
ผมพ่นลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด กำลังนึกคำพูดหรืออะไรสักอย่างมาจัดการกับผู้ชายคนนี้ให้ออกไปจากบ้านของผม แต่ดูเหมือนว่าผมไม่ต้องทำอะไรแล้ว...
“กล้ามากนะครับคุณเขม ที่มาบอกรักแฟนคนอื่นในบ้านคนอื่นแบบนี้เนี่ย” เสียงหมอชลดังมาจากด้านหลังของผม ก่อนที่ผมจะรู้สึกถึงน้ำหนักที่พาดมาที่ไหล่ของผม
“ผมว่าคุณกลับไปเถอะเขม แล้วก็เลิกมาวุ่นวายกับชีวิตของผมได้แล้ว เผื่อคุณจะลืมนะ... ว่าคุณเองก็มีส่วนที่ทำให้ผมต้องออกจากบ้านของตัวเอง เพราะไม่สามารถทนอยู่ได้ เลิกวุ่นวายซะแล้วกลับไปดูแลภรรยาของคุณ!” ผมพูดเสียงดัง ผมเริ่มโมโหแล้วจริงๆ
“ผมขอโทษพฤกษ์ ผมไม่ได้ตั้งใจจะบอกพ่อไปแบบนั้น... ผม... ผมขอโทษ” เขมพูด
“มันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วครับ ทางเดียวที่จะทำได้ในตอนนี้ก็คือ... เลิกมาวุ่นวายกับผมสักที”
หลังจากที่ผมพูดทุกคนก็เงียบและก่อนที่จะมีใครพูดขึ้นมาป้าสายก็เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นเสียก่อน สีหน้าดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ก่อนจะบอกผมเสียงเบา “คุณ... คุณลันดามาค่ะคุณพฤกษ์”
ให้ตายเถอะ! ทำไมวันนี้ผมถึงได้วุ่นวายจังวะ!
“พี่พฤกษ์!! พี่พฤกษ์ต้องช่วยพ่อของลันดานะคะ!” เสียงดังมาแต่ไกลก่อนที่ตัวจะมาถึงห้องเสียอีก และเมื่อลันดามาถึงห้องนั่งเล่นเธอก็ชะงักไปเมื่อเห็นเขมอยู่ที่นี่ด้วย “เขม... คุณมาทำอะไรที่นี่คะ”
ผมได้ยินเสียงหมอชลเดาะลิ้น เมื่อหันไปมองก็เห็นเขายิ้มอย่างชอบใจก่อนจะหันมาขยิบตาให้ผมเมื่อเห็นว่าผมมองเขาอยู่
“เอาสิคุณเขม บอกภรรยาของคุณไปสิครับว่าคุณมาทำอะไรที่บ้านหลังนี้” หมอชลหันไปพูดกับเขมที่มีท่าทีอึกอักทันที “บอกไปสิครับ ว่ามาช่วยพูดเรื่องคุณพ่อตาของคุณ... หรือมาเรื่องส่วนตัวล้วนๆ กันแน่”
“อะไรกันคะเขม คุณมาที่นี่ทำไม? แล้วก็พี่พฤกษ์ทำไมพี่ถึงทำแบบนี้กับพ่อคะ” ลันดาหันมาหาผม
“ผมทำอะไร” ผมเลิกคิ้วขึ้นมอง
“พี่ให้ตำรวจมาจับพ่อได้ยังไงคะ!” ลันดาร้องเสียงดัง
“มันก็ถูกแล้วไม่ใช่เหรอลันดา ตำรวจก็ต้องจับคนไม่ดี ในเมื่อพ่อของคุณเป็นคนไม่ดีทำไมผมจะให้ตำรวจไปจับไม่ได้”
ลันดาร้องออกมาเสียงดังจนผมได้แต่นิ่วหน้าด้วยความไม่ชอบใจ “แต่พ่อเป็นพ่อของพี่!!”
“เขาไม่ใช่พ่อผม!!” ผมสวนกลับเสียงดังทันทีที่ลันดาพูด “ทั้งเขาและเธอ ไม่ใช่คนของสโรชา ไม่ใช่แม้แต่นิดเดียว ผมไม่อยากทำร้ายผู้หญิงกลับไปซะก่อนที่ผมจะโยนพวกคุณออกจากบ้านหลังนี้ ถ้าอยากจะโทษก็ไปโทษพ่อของคุณที่โกงกินบริษัทที่คุ้มกะลาหัวพวกคุณ พ่อคุณผิดเองอย่ามาเที่ยวโวยวายไร้สาระแบบนี้ ถ้าอยากจะสู้ก็ไปสู้กันในศาลแต่ผมบอกเอาไว้เลยว่าไม่มีคำว่าออมชอมสำหรับผมแน่ สิ่งที่พ่อของคุณทำกับบริษัทสโรชามันเลวร้ายมาก”
ผมชี้นิ้วไปที่ประตูบ้านก่อนจะพูดไล่พวกเขาทั้งสองคน “ออกไปซะทั้งสองคนแล้วก็เลิกมาเรียกร้องมาวุ่นวายได้แล้ว เขม... เลิกยุ่งกับผมสักที ผมจะพูดดีๆ กับคุณครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย”
“พฤกษ์... / พี่พฤกษ์!!!”
“ออกไป ถ้าไม่ออกผมจะโทรเรียกตำรวจมาจับพวกคุณข้อหาบุกรุก”
“กรี๊ดดดด พี่พฤกษ์!!!”
“ลันดาเรากลับกันก่อนเถอะ” เขมจับแขนทั้งสองข้างของลันดาเอาไว้ก่อนจะลากเธอออกไป แต่ยังไม่ทันที่ทั้งสองคนจะก้าวพ้นห้องนั่งเล่นคนที่ยืนเงียบๆ ข้างๆ ผมก็พูดขึ้นเสียก่อน
“แล้วก็... คุณเขม ถ้าคุณรู้สึกว่าการเป็นผัวของผู้หญิงคนหนึ่งมันไม่ใช่ตัวคุณ
คุณก็ไปหาผัวที่เป็นผู้ชายคนอื่นแทนนะครับ เลิกมาวุ่นวายกับคนรักของผมได้แล้ว” ผมหันไปมองคนพูดทันที ซึ่งหมอชลก็เอาแต่ยิ้ม
“อะไรนะคะ!!!” ลันดาร้องเสียงดังหันมองเขมกับหมอชลสลับกันไปมาไม่หยุด “หมายความว่ายังไงคะเขม!”
“ลันดากลับกันก่อน”
“เขมคะ!!” เขมไม่ได้พูดอะไรนอกจากพาลันดาออกไป
“บายๆ นะครับ” หมอชลพูดเสียงดังมีการยกมือโบกให้กับพวกเขาตามหลังอีกต่างหาก
พลั่ก!
“โอ๊ย!!! พฤกษ์ถีบผมทำไหมเนี่ย” หันมาโวยวายกับผมทันทีที่ผมยกขาถีบเข้าที่ช่วงเอวของเขา เห็นแล้วมันหมั่นไส้ปนหงุดหงิดครับ ทำหน้าระรื่นเสียเหลือเกิน
ผมไม่ตอบอะไรเขาก่อนจะหันไปคุยกับป้าสายบอกป้าสายไปว่าถ้าหากพวกเขาสองคนมาอีกก็ไม่ต้องให้เข้าบ้านแล้ว และถ้าพวกเขายังดึงดันก็ให้แจ้งตำรวจได้เลย ต่อไปนี้จะไม่มีอีกแล้วสำหรับคำว่าใจดีกับพวกเขา หลังจากที่คุยกับป้าสายเสร็จผมก็เดินขึ้นไปบนห้องโดยมีหมอชลตามขึ้นมาด้วยเหมือนเงาติดตามตัวไม่ยอมห่างไปไหน
คว้าเอาผ้าขนหนูชุดนอนแล้วเดินเข้าไปอาบน้ำปล่อยให้หมอชลนั่งเล่นนอนเล่นบนเตียงไปตามสบาย
“วันนี้เป็นยังไงบ้างครับ” พอผมออกจากห้องน้ำก็เจอหมอชลนั่งมองอยู่ที่เตียง “ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วใช่ไหม”
ผมพยักหน้ารับคำถามของเขา “ก็เรียบร้อยดีแล้วละครับ คงไม่มีอะไรแล้ว”
“แล้วคุณส่งศักดิ์ล่ะ”
ผมเดินไปนั่งที่ปลายเตียงพร้อมกับเช็ดผมไปด้วย “ตอนนี้ก็โดนกักตัวเอาไว้อยู่ ทนายเดชบอกผมว่าตำรวจยังไม่อนุญาตให้ประกันตัวแต่ก็เห็นว่าเขาเรียกทนายอยู่นะครับ แต่ยังไงก็คงไม่มีทางเอาชนะได้เพราะเขาผิดเต็มๆ ทั้งฉ้อโกง ทั้งหลอกลวงคนในบริษัท ดีไม่ดีคณะกรรมการคนอื่นอาจจะร่วมกันยื่นฟ้องเขาอีกก็ได้”
หมอชลพยักหน้ารับกับคำพูดของผม “ก็ดีแล้วละครับ ปัญหาเรื่องนี้ก็จบไปแล้ว แล้วคุณจะเข้าไปทำงานที่บริษัทคุณตาคุณเมื่อไหร่”
“ผมก็ยังไม่แน่ใจ คงรอให้เรื่องของคุณส่งศักดิ์เรียบร้อยก่อนแล้วพวกคณะกรรมการคงเรียกพนักงานคุยถึงเรื่องนี้ ถึงผมจะเป็นหลานของคุณตาแต่ผมก็ไม่เคยเข้าไปดูแลอะไรเลย มันก็คงไม่แปลกอะไรถ้าเขาจะนึกระแวงหรือสงสัย คงต้องดูต่อไปเรื่อยๆ ก่อนครับ”
“คุณทำได้อยู่แล้วพฤกษ์ ไม่นานหรอกคุณจะสามารถซื้อใจพวกเขาทุกคนได้” หมอชลพูดก่อนที่เขาจะขยับมาใกล้ผม “เหมือนที่คุณซื้อใจผมได้ไง”
ผมได้แต่ส่งเสียงเหอะออกมา เอายืนยันหน้าของเขาออก “จะพูดอะไรให้มันดูดีตลอดรอดฝั่งนี่ไม่ได้เลยใช่ไหม ถ้าไม่วกเข้าเรื่องอย่างว่าก็เข้าตัวเองตลอด”
หมอชลหัวเราะ “หรือคุณอยากให้ผมเข้าเรื่องอย่างว่า ผมพร้อมนะยังค้างจากก่อนหน้านี้อยู่เลย ต่อนิดเดียวนี่เครื่องติดเลยนะ”
“คุณเป็นหมอประเภทไหนวะเนี่ย หมอเขาเป็นแบบนี้กันหมดไหม” ผมได้แต่กรอกตาไปมาอย่างเหนื่อยใจกับคนคนนี้
“หึหึหึ หมอคนอื่นผมไม่รู้หรอก แต่หมอคนนี้ก็เป็นแบบนี้นี่แหละ” เขาพูดก่อนจะจับหน้าผมให้หันไปหาแล้วจูบลงบนปากของผมเบาๆ “คุณยังไม่ลืมสัญญากับผมใช่ไหมครับ”
ผมนิ่งนึกก่อนจะพยักหน้ารับเมื่อนึกได้ว่าก่อนหน้านี้ผมเคยสัญญากับเขาเอาไว้ “อาหะ แล้วคุณอยากจะไปไหนละ ไม่ต้องทำงานหรือไง”
“ไม่ได้ไปไหนไกลหรือต้องไปค้างคืนหรอก แค่วันเดียวก็พอแล้วครับ”
“แล้วจะไปไหนละครับ”
พอผมถามแบบนั้นหมอชลก็ยิ้ม เป็นรอยยิ้มแบบที่ผมไม่ค่อยได้เห็นส่วนมากเขาจะชอบยิ้มแบบเจ้าเล่ห์หรือไม่ก็กวนๆ แต่ยิ้มครั้งนี้เป็นยิ้มที่เหมือนกับ... ยิ้มออกมาจากใจ ประมาณนั้น
ผมมองหน้าที่ขยับเข้ามาใกล้ของเขา มองรอยยิ้มบนใบหน้านั้น ก่อนที่เขาจะจูบผมอีกรอบแล้วกระซิบบอก
“ไปบ้านผมด้วยกันนะครับพฤกษ์”บ้านเหรอ...“บ้านคุณ...”
“ครับ บ้านของผม ไปหาพ่อกับแม่ของผม ผมอยากให้คุณได้รู้จักพวกเขา รู้จักครอบครัวของผมแล้วหลังจากนั้น... คุณก็พาผมไปรู้จักครอบครัวของคุณด้วยนะพฤกษ์ เราสองคนไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะแล้วคุณก็ทำให้ผมรู้สึกอยากที่จะใช้ชีวิตกับคุณไปตลอด ไม่อยากเริ่มต้นใหม่กับใครอีกแล้ว”
ผมมองเขานิ่ง มองเพื่อดูว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นจริงแค่ไหนหรือมันเป็นเรื่องล้อเล่นอย่างที่เขาชอบยกมาแกล้งผมกันแน่
แต่ไม่ว่าจะมองยังไง... ทำไมผมถึงไม่เห็นถึงแววล้อเล่นในตาของเขาเลยกันนะ
“ผมพูดจริงผมไม่ได้ล้อคุณเล่นนะพฤกษ์” หมอชลพูดเหมือนกับรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่ “มันไม่ดีกว่าเหรอครับถ้าเรามีใครสักคนที่จะอยู่ด้วยกันไปตลอด”
“หมอชล... คุณไม่ใช่เกย์นะ คุณไม่อยากมีลูกมีครอบครัวเหรอครับ” ผมถาม หมอชลเป็นผู้ชาย... เขาต่างจากผม เขาเคยคบผู้หญิง ไม่เหมือนกับผมที่ผมไม่เคยนึกสนใจในผู้หญิงเลย
“ผมอยากมีครอบครัว... ซึ่งนั่นก็คือคุณพฤกษ์”************************************************
สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้มาอัพให้นะคะ เพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจทุกอย่าง... ตามที่บอกก่อนหน้านี้เนอะว่าฟางมีงานที่บ้าน ยังรู้สึกหน่วงๆ ในใจอยู่เลยค่ะเพราะฟางก็สนิทกับก๋งมาก... ยังไงฟางก็ขอบคุณทุกคนมากๆ นะคะสำหรับความเข้าใจ สำหรับกำลังใจที่ให้ฟาง ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ
สำหรับเนื้อหาตอนนี้... คู่นี้ไม่มีอะไรแล้วค่ะ เหลืออีกนิดเดียวก็จบแล้ว(สำหรับคู่ชลพฤกษ์นะคะ) ซึ่งหลังจากจบคู่นี้ก็จะกลับไปที่คู่หลักของเรื่องกันนะต่อนะคะ นิยายยังไม่จบค่ะ แต่ก็อีกไม่นานเท่าไหร่
ที่จริงฟางตั้งใจจะอัพเมื่อวันพฤหัสที่แล้ว(แต่มีเรื่องราวเกิดขึ้นเสียก่อน) ซึ่งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม ที่ผ่านมา นิยายเรื่องนี้ก็ครบ 1 ปีแล้วค่ะ ไวมากเลยเหมือนเพิ่งเปิดเรื่องไปได้ไม่เท่าไหร่เอง ฟางขอบคุณทุกคนมากนะคะที่ติดตามนิยายเรื่องนี้กันมาทั้งคนที่ติดตามมาตลอด 1 ปี หรือคนที่เพิ่งเข้ามาอ่าน ขอบคุณมากค่ะ หวังว่าจะติดตามกันต่อไปจนจบเรื่องนะคะ เจอกันครั้งหน้าค่ะ
อ่านแล้วอย่าลืมคอมเมนต์นะคะ คอมเมนต์กันหน่อยนะ อย่าเงียบค่ะ ใจไม่ดีเลยยยยย
ปล. ส่งภาพวาดประกอบนิยายเข้ามากันเยอะๆ นะคะ สวยไม่สวยไม่สำคัญค่ะ แค่ทุกคนสนใจเข้าร่วมกิจกรรมฟางก็ดีใจแล้วค่ะ
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
รักน้องกันต์ เอ็นดูน้องกันต์กันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกันต์นะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ