น้องกันต์จัดให้ครั้งที่ 49.2พัทธ์เฮ้อ…
ผมได้แต่ถอนหายใจออกมาหลังจากที่วางสายจากพี่พฤกษ์ไปแล้ว รู้สึกเสียดายคนเก่งๆ อย่างพี่พฤกษ์เหมือนกันแต่จะทำยังไงได้ในเมื่อพี่เขายืนยันว่าจะลาออกจากบริษัท ซึ่งตัวผมแล้วก็พ่อของผมไม่มีปัญหาอยู่แล้วที่พี่พฤกษ์จะยังมีชื่อและถือหุ้นของบริษัทกิจไพศาลกุลด้วยโดยที่เข้าไปดูแลบริหารงานของบริษัทสโรชาด้วย แต่ผมก็เข้าใจความลำบากใจของพี่พฤกษ์เหมือนกัน ถ้าหากทำแบบนั้นคงมีหลายๆ คนครหาพี่พฤกษ์และอาจจะเกิดการกล่าวหาซึ่งกันและกันได้ สุดท้ายผมก็เลยต้องยอมให้พี่พฤกษ์ลาออกจากบริษัท
“ถอนหายใจทำไมครับ เป็นอะไรหือ” ผมเงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงของพี่คิน
และเมื่อพี่คินเดินมาหาผมที่นั่งอยู่ปลายเตียงผมก็ยกสองมือขึ้นโอบรอบเอวพี่เขาเอาไว้ทันทีพร้อมกับเอนหน้าซบลงกับหน้าท้องของพี่คิน
“เรื่องคุณพฤกษ์เหรอ” พี่คินถามแบบที่ผมก็พยักหน้ารับ “ไอ้หมอชลก็เล่าให้พี่ฟังอยู่ แล้วตกลงว่าไงยอมให้เขาลาออกแล้วหรือยัง”
“เซ็นให้แล้วละครับ พัทธ์เข้าใจพี่พฤกษ์นะแต่ก็เสียดายคนเก่งๆ อย่างพี่พฤกษ์เหมือนกัน ทำงานด้วยกันมาก็ตั้งนาน” ผมว่า
หน้าของผมที่ซบลงกับหน้าท้องของพี่คินถูกดันให้เงยหน้าขึ้น “พี่ควรจะหึงไหมนะ ตอนแรกยังเห็นเลี่ยงคุณพฤกษ์ได้เป็นเลี่ยง ตอนนี้ละก็พี่พฤกษ์ๆ หรือจริงๆ แล้วแอบชอบเขาอยู่ใช่ไหม”
ผมแกล้งทำตาโต “พี่คินรู้ได้ยังไงครับ”
คนตรงหน้าผมยื่นมือมาบีบจมูกของผมเอาไว้ “เดี๋ยวเถอะ เดี๋ยวจะโดนลงโทษ”
“ก็พี่คินเริ่มก่อนเองนะ” ผมว่าเสียงงอน ยกมือขึ้นตีมือของพี่คินให้ปล่อยจมูกของผมให้เป็นอิสระก่อนจะลูบจมูกตัวเองเบาๆ
“มันเขี้ยวเด็ก…” พี่คินว่าก่อนจะก้มลงมากัดแก้มของผม กัดแก้มไม่พอยังลามมากัดจมูก กัดหู แล้วก็เลื่อนมากัดแก้มผมอีก
ผมทำได้แค่ดิ้นหนี เบี่ยงหน้าหลบไปมาหนีคนขี้แกล้ง “พี่คินนน ไม่เล่นน้ำลายเต็มหน้าพัทธ์หมดแล้วเนี่ย ฮึ่มมม”
พี่คินหัวเราะหึอย่างชอบใจแต่ก็ยอมหยุดแล้วเปลี่ยนเป็นเอาผ้าขนหนูมาเช็ดหน้าให้ผมแทนก่อนจะคว้าเอาตัวผมแทบลอยขึ้นไปนอนบนเตียงด้วยกัน
“ใกล้ถึงงานเฟอร์นิเจอร์แฟร์แล้วตื่นเต้นไหม” พี่คินถามพร้อมกับรั้งให้ผมนอนหนุนแขน
“ก็ตื่นเต้นดีครับ ตอนเด็กๆ เคยไปเดินเล่นบ่อยๆ แต่หลังจากที่บริษัทไม่ได้เข้าร่วมงานก็ไม่ค่อยได้ไป พอไปอีกรอบก็เป็นคนดูแลเองเลยตื่นเต้นครับ” ผมพูดไปก็เงยหน้าขึ้นมองคนถามไปด้วย
“พัทธ์ของพี่คินเก่งอยู่แล้ว… ใช่ไหมครับ” พี่คินพูดพร้อมกับเลื่อนหน้ามาจุ๊บเบาๆ ที่ปลายจมูกของผม ก่อนจะใช้ปลายจมูกถูไปมาที่จมูก แก้มจนผมรู้สึกจั๊กจี้จนต้องหัวเราะออกมาแล้วดันหน้าของพี่คินออก
“แล้ววันงานพ่อกับแม่จะมาด้วยไหมครับ”
ผมพยักหน้ารับ “ก็คงขึ้นมาแหละครับ แต่คงมาแค่วันเดียวมาเช้าเย็นกลับ เพราะแม่ก็ไม่ได้บอกว่าจะมาค้างด้วยนะครับ”
พี่คินส่งเสียงรับในลำคอก่อนจะรัดตัวผมแน่นขึ้น ขยับมาหอมแก้มผมเล่นไม่หยุด ผมว่าพี่คินอาจจะมีปัญหานิดหน่อยนะครับ… เป็นโรคติดสัมผัสหรือยังไงกัน เอะอะเป็นกอด เป็นหอมตลอด อยู่ด้วยแล้วตัวผมชักจะช้ำ
“อยากให้งานเฟอร์นิเจอร์แฟร์จบเร็วๆ จัง” อยู่ๆ พี่คินก็พูดขึ้นหลังจากเงียบไปนาน
“ทำไมละครับ”
คนที่นอนอยู่ข้างๆ ผมยันตัวเองขึ้นนิดจนใบหน้านั้นลอยอยู่เหนือหน้าของผมพอดี พี่คินยิ้มโน้มหน้าลงมาใกล้จนจมูกของเราแตะโดนกัน ก่อนที่ริมฝีปากของเราจะแนบสนิทกัน…
“พี่ พัทธ์แล้วก็น้องกันต์จะได้ย้ายไปอยู่‘บ้านของเรา’ด้วยกันยังไงละครับ”บ้านของเรา…นั่นสินะครับผมเองก็เกือบจะลืมไปเหมือนกันว่าบ้านเสร็จแล้ว เหลือแค่รอพวกเราย้ายเข้าไปแค่นั้นเอง
“อย่างนั้น… พัทธ์ก็อยากให้งานเฟอร์นิเจอร์แฟร์จบเร็วๆ เหมือนกันครับ” ผมพูดเมื่อพี่คินถอนจูบออกไปแล้ว
“หึ… อย่างนั้นเรามาฉลองก่อนขึ้นบ้านไหมด้วยกันดีไหม”
“มันใช่เหรอครับ” ผมถามเบี่ยงหน้าหลบริมฝีปากของคนจ้องจะฉวยโอกาส
“ใช่ที่สุดเลยครับ” เมื่อจู่โจมปากผมไม่ได้พี่คินก็เปลี่ยนเป้าหมายไปที่ซอกคอของผมแทน
จากที่นอนข้างๆ ก็ยันตัวเองมาคร่อมทับผมเอาไว้ มือข้างหนึ่งของพี่คินยันไว้ข้างหัวผม ส่วนอีกข้าง… ก็จัดการเลิกเสื้อของผมขึ้นมากองไว้ที่หน้าอก
ผมตัวสั่นนิดๆ เพราะความเย็นจากแอร์ที่มากระทบกับผิวของผม แต่ไม่นานมันก็เปลี่ยนเป็นความร้อนเมื่อฝ่ามือของพี่คินกำลังลูบไล้ไปทั่วอก
“ว่ายังไงครับ…”
“ว่ายังไงอะไรครับ” ผมถามกลับ
“ฉลองก่อนขึ้นบ้านใหม่ยังไงละครับ… ตกลงไหม” พี่คินถาม
คำถามมันก็ต้องรอคำตอบก่อนไม่ใช่เหรอครับ แต่เหมือนพี่คินจะไม่ค่อยอยากรอคำตอบเท่าไหร่เพราะการกระทำล่วงหน้าไปเยอะแล้วทีเดียว
“ถ้าพัทธ์บอกว่าไม่ตกลงละครับ…” ผมแกล้งถามทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเอ่ยปฏิเสธ
“พี่ก็จะให้พัทธ์ตอบใหม่ยังไงละครับ” พี่คินว่าก่อนจะแนบริมฝีปากลงที่กลางอกของผมจนผมได้แต่สะดุ้ง
“แล้วจะถาม… พัทธ์ อือ… ทำไมละครับ ยังไงพัทธ์ก็หมดสิทธิปฏิเสธอยู่แล้วนี่นา…”
“แต่ถึงทำได้ พี่ก็เชื่อว่าพัทธ์จะไม่ทำยังไง”
รู้ดี…ผมไม่มีทางปฏิเสธพี่คินได้อยู่แล้วไม่ว่าจะยังไงก็ตาม
และตอนนี้ผมก็ทำได้แค่ยกมือขึ้นจับไหล่พี่คินเอาไว้ตอนที่พี่เขากำลังวุ่นวายกับยอดอกทั้งสองข้างของผม
“อือ… มันอร่อยหรือไงครับ อ่าห์… ชอบดูดจัง” อดที่จะถามไม่ได้ด้วยความสงสัย อกของผมมันอร่อยหรือไงนะถึงได้ดูดได้ดูดดี ดูดจนแดงไปหมดแล้ว
“ไม่ใช่แค่นี่นะที่พี่ชอบดูด” พี่คินเงยหน้าขึ้นมองผมยิ้มเจ้าเล่ห์ตอนพูด มือก็บี้ลงกับยอดอกของผมจนผมได้แต่คราง ก่อนที่มือนั้นจะเลื่อนลงต่ำ สอดเข้าไปในกางเกง แล้ว…
เฮือก
ผมสะดุ้งยามที่ฝ่ามือร้อนๆ กำลังลูบคลึงแกนกายของผม “เจ้านี่พี่ก็ชอบดูด…”
หน้าของผม แก้มของผมร้อนวูบขึ้นทันทีที่ได้ยินพี่คินพูด ปากได้แต่อ้าแล้วก็หุบอยู่แบบนี้อย่างไม่รู้จะสรรหาคำอะไรมาพูดในสถานการณ์แบบนี้ดี
พี่คินหัวเราะชอบใจที่ทำให้ผมอายได้ ดึงมือออกจากกางเกงนอนของผมพร้อมๆ กับดึงกางเกงนอนออกไปด้วย หลังจากที่จัดการตัวผมจนเปลือยแล้วก็ผละไปจัดการเสื้อผ้าของตัวเองแล้วกลับมาทาบทับผมอีกรอบ
“อ้ะ… อย่ากัดสิครับ” ผมร้องเสียงเครือเมื่อฟันของพี่คินขบกัดไปทั่วตัว “พี่คิน อือ… ชักจะซาดิสขึ้นเรื่อยๆ แล้วนะ”
“ก็พัทธ์น่ารัก ยิ่งพี่แกล้งพัทธ์ก็ยิ่งน่ารัก” พี่คินว่าก่อนจะหอมแก้มผมอย่างเอาอกเอาใจ
“อ่าา… พี่คิน ย อย่าเลีย อื้ออ อย่า…” ผมได้แต่ครางเมื่อพี่คินใช้ลิ้นเลียไปมารอบๆ รอยฟัน มันรู้สึกเสียววูบวาบไปหมดจนผมได้แต่นอนหลับตาเอ่ยห้ามเสียงสั่นปากสั่นไปหมดแบบนี้
ขาทั้งสองข้างของผมถูกยกขึ้นชันและจับแยกออกพร้อมกับริมฝีปากของพี่คินที่สัมผัสไล่ต่ำลงเรื่อยๆ จากกลางอกลงไปที่หน้าท้อง และซอกขา
“ไหน… ขอดูดตรงนี้หน่อยนะครับ ของโปรดพี่เลย” พี่คินว่าเสียงกลั้วหัวเราะ แต่ผมน่ะหน้าร้อนวาบไปหมด
ก็ไอ้ตรงที่เขาบอกว่าของโปรดน่ะ… มันน้องชายของผมนี่ครับ
จุ๊บ จ๊วบ!
“เฮือก! อ อ้า… ย อย่า อื้อออ พี่คิน อ่าห์” ผมสะดุ้งเฮือกทันทีเพราะจบคำพูดของพี่คินเจ้าตัวก็ทำอย่างที่ปากว่าทันที ดูดน้องชายผมเสียงดังลั่น
และไม่หยุดแค่นั้น… พี่คินยังคงสนุกและดูดมันไม่หยุด แต่ผมนี่แทบจะหยุดหายใจ
“พ พี่คิน… ฮ้าา… พ พอเถอะครับ อ่าห์ ม มันไม่ใช่น้ำหวานนะ อื้มม” ทั้งมือ ทั้งขา ไม่สิ… ทั่วทั้งตัวผมกำลังสั่น เหมือนกับว่าพี่คินดูดเรี่ยวแรงของผมไปหมดจากการที่เขาดูด… อื้ม… นั่นแหละ
“ไม่ใช่น้ำหวานเหรอ… แต่อร่อยยิ่งกว่าน้ำหวานอีกนะ” พี่คินเงยหน้าขึ้นมาบอกกับผมก่อนจะก้มลงไปดูดน้องชายผมใหม่จนผมรู้สึกปวดหนึบไปหมด
ตัวบิดจนเอวลอย มือทั้งสองข้างกำหมอนแน่น ได้แต่หลับตาแล้วครางหวิวตอนที่พี่คินดูดส่วนปลายแรงๆ หน้าอกของผมสะท้อนขึ้นลงเวลาหายใจเอาลมหายใจเข้าปอด ในหัวมันขาวโพลนไปหมดจนคิดอะไรไม่ออก นึกหาคำพูดมาห้ามไม่ได้
“พ พี่คิน พัทธ์… พัทธ์… อ่าห์!!” ตัวของผมกระตุกก่อนที่จะปลดปล่อยทุกอย่างออกมาทั้งๆ ที่น้องชายของผมยังอยู่ในปากของพี่คิน
ผมทิ้งตัวลงนอนกับเตียงอย่างหมดแรง หายใจหอบอย่างหนักหน่วง รู้สึกหมดเรี่ยวแรงยิ่งกว่าทุกๆ ครั้ง แล้วแทนที่คนที่สูบพลังผมไปจะปล่อยให้ผมได้พักให้หายเหนื่อย พี่คินกลับเริ่มขยับริมฝีปากที่ยังมีน้องชายของผมอีกรอบ
“พ พี่คิน… พ พอก่อนครับ ย อย่าแกล้งพัทธ์เลย… อ่าห์… พัทธ์… อื้มมม พี่คิน…” ผมได้แต่เอ่ยขอเสียงสั่น ขาทั้งสองขาสั่นระริกจนสามารถมองเห็นได้ชัด
ยิ่งยามที่สบตากับสายตาร้อนแรงของพี่คิน ตอนที่พี่คินแลบลิ้นเลียน้องชายของผมทั้งๆ ที่ยังไม่ละสายตาไปจากผม มันทำให้ผมรู้สึก… รู้สึกมากมายเหลือเกิน รู้สึกเหมือนตัวเองจะลืมวิธีการหายใจ
คนที่ซุกหน้าอยู่กับหว่างขาของผมขยับตัวนั่ง รั้งสะโพกผมให้ไปเกยอยู่บนตัดของตัวเขาเอง ก่อนที่ปลายนิ้วของพี่คินจะถูไถไปมาตรงช่องทางด้านหลังให้ผมต้องบิดเอวอีกรอบ
“มองพี่ด้วยสายตาแบบนี้ระวังพรุ่งนี้จะไม่ได้ไปทำงานนะครับ” พี่คินบอกยื่นตัวมากดจูบที่ริมฝีปากของผมหนักๆ แล้วผละออก
ผมได้แต่มองค้อน… “พูดเหมือนทุกทีผมได้ไปทำงานอย่างนั้นแหละ”
“อย่างนั้นพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องไปทำงานแล้วกัน… เนอะ” พี่คินว่าปลายนิ้วที่วนเวียนอยู่ตรงช่องทางค่อยๆ กดแทรกเข้ามาจนผมรู้สึกได้
และทันทีที่นิ้วแรกเข้ามา นิ้วที่สองกับสามก็ตามมาทันที จนผมได้แต่ผ่อนลมหายใจที่เหมือนจะขาดห้วง
“เจ็บไหม… เจ็บหรือเปล่าพัทธ์” พี่คินถามพร้อมกับขยับนิ้วที่อยู่ในตัวผมไปด้วย ผมได้แต่ส่ายหน้าไปมาแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา จนผ่านไปสักพักนิ้วยาวๆ ของพี่คินก็ถอนออกก่อนจะแทนที่ด้วยอะไรที่ใหญ่มาก
ผมยกมือกอดรอบคอพี่คินเอาไว้แน่นตอนที่พี่เขาดันตัวเข้ามาหาผม น้ำตาคลอหน่วงอยู่ที่หางตาทั้งสองข้างจนผมได้แต่หลับตาลง มันไม่ได้เจ็บ... แต่มันอึดอัดปนๆ กับรู้สึกดี
“อือ... พัทธ์... เด็กดี” ไม่ว่าก่อนหน้ามีอะไรกันพี่คินจะเรียกผมว่า พัทธ์ เด็กดื้อ หรือสารพัดคำเรียกแต่เวลานี้พี่คินมักจะชอบเรียกผมว่าเด็กดีที่สุด และผมก็ชอบมองหน้าพี่คินตอนเรียกผมแบบนี้เหมือนกัน
สายตาที่ร้อนแรงแต่ก็เต็มไปด้วยความอบอุ่นและถ่ายทอดความรักมาให้ผม... จนสุดท้ายก็อดใจไม่ไหวต้องยกมือขึ้นประคองเอาไว้ที่ข้างแก้มแล้วรั้งคนด้านบนลงมากดจูบ...
เราจูบกันอยู่นานไม่ได้จูบสอดลิ้นเกี่ยวพันไปมาจนแยกไม่ออก แต่เราทำเพียงแค่กดแนบริมฝีปากเข้าด้วยกัน ขบเม้มบ้างยามที่ความรู้สึกค่อยๆ พุ่งขึ้นทีละนิด
“พ พี่คิน... อ่าห์... พ พัทธ์จะไม่ไหวแล้ว อ่ะๆๆ พี่... ฮื่ออ...”
ผมรู้สึกว่าตัวของผมสั่นคลอนไปหมด มือที่กอดพี่คินเอาไว้ก็ยิ่งกอดแน่นกว่าเดิมเมื่อความรู้สึกกำลังพุ่งสู่จุดสูงสุดของความรัก ได้แต่ซุกหน้าลงกับไหล่กว้างของคนด้านบนที่โน้มตัวลงมาหาผมพร้อมกับขยับตัวเข้าหาไม่หยุด
“ฮ๊า... อีกนิดนนะครับ พร้อมกันนะเด็กดี อีกนิด... อ่าห์...”
ผมกระตุก พร้อมๆ กับที่พี่คินเองก็กระตุกก่อนที่ทุกอย่างจะถูกปลดปล่อยออกมา เราต่างหายใจหอบแม้จะหมดแรงจนแทบอยากจะทิ้งแขน ทิ้งตัวนอนนิ่งๆ แต่ผมก็ยังเลือกที่จะกอดพี่คินเอาไว้แน่น
“หัวเราะอะไรครับ...” ผมร้องถามคนที่อยู่ๆ ก็หัวเราะในลำคอขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“เปล่าครับ แค่รู้สึกมีความสุขก็เลยหัวเราะขึ้นมาเฉยๆ ไม่ได้เป็นอะไร” พี่คินตอบเลื่อนหน้ามาหอมแก้มผมเบาๆ แล้วผละออก
“นึกว่าเพี้ยนไปแล้วเสียอีก”
“ว่าพี่... เดี๋ยวจะโดนนะครับ” พี่คินบีบจมูกผมจนผมได้แต่ส่ายหน้าไปมายังหมดแรงที่จะโต้ตอบเลยได้แต่ปล่อยให้คนช่างแกล้ง แกล้งต่อไปครับ “พี่อยากให้เรามีความสุขแบบนี้ไปตลอด ต่อให้มีวันไหนเราทะเลาะกัน พี่ก็อยากให้เรามีความสุข”
ผมยื่นมือไปจับมือของพี่คินเอาไว้ก่อนจะประสานมือเข้าด้วยกัน “เราจะมีความสุขด้วยกันนะครับ พัทธ์ พี่คินแล้วก็น้องกันต์ เราจะมีความสุขด้วยกัน”
************************************************
มาแล้วค่ะ ขอโทษทีค่ะมาช้าไปหน่อยพอดีวุ่นๆ กับเรื่องที่ทำงานค่ะเลยไม่สะดวกเข้ามาอัพเท่าไหร่ นี่ก็เพิ่งจะเสร็จจากงานมาเลยแวะมาอัพให้ก่อน ตอนนี้เอาไปแบบหวานๆ เปรี้ยวๆ กันก่อนนะคะ แล้วตอนหน้าจะได้เจอกับเด็กน้อยที่ทุกคนคิดถึงแน่นอนค่ะ
ตอนนี้ไม่รู้จะพูดอะไรอะ เพราะเขามุ้งมิ้งกันสองคนแบบแนบชิดขนาดนี้ 5555555555 เลยหมดคำพูดค่ะ อ๋ออออ เดี๋ยวเขาจะย้ายไปอยู่บ้านด้วยกันแล้วน๊า ครอบครัวสุขสันต์กันสุดๆ อะ บ้านหลังน้อยๆ อยู่กันสามคนพ่อแม่ลูก โอ๊ย! นี่มันครอบครัวในฝันจริงๆ แต่จะสุขกันนานแค่ไหนน๊า อันนี้ก็รอลุ้นกันไปเนอะ ^[+++++]^
แล้วเจอกันใหม่นะคะ
อ่านแล้วอย่าลืมคอมเมนต์นะคะ คอมเมนต์กันหน่อยนะ อย่าเงียบค่ะ ใจไม่ดีเลยยยยย
ปล. ส่งภาพวาดประกอบนิยายเข้ามากันเยอะๆ นะคะ สวยไม่สวยไม่สำคัญค่ะ แค่ทุกคนสนใจเข้าร่วมกิจกรรมฟางก็ดีใจแล้วค่ะ
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
รักน้องกันต์ เอ็นดูน้องกันต์กันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกันต์นะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ