น้องกันต์จัดให้ครั้งที่ 51.2คิน“น้องกันต์ชอบไหมครับ” พัทธ์ถามน้องกันต์ตอนนี้กำลังพาน้องขึ้นมาดูห้องนอนครับ ห้องของน้องเป็นสีครามสีโปรดของเจ้าตัว เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ก็เป็นสไตล์โมเดิร์นครับไม่ได้เป็นพวกเตียงนอนหลายการ์ตูนเด็กๆ อะไรแบบนั้น เผื่ออนาคตไว้ตอนน้องโตด้วยจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย
อ๋อ... แน่นอนว่าทำชั้นสำหรับวางตุ๊กตาของน้องกันต์เอาไว้ด้วยครับ บนเตียงกว้างก็มีตุ๊กตาหลายตัวเลย
“ชอบบบบบบบบ น้องกันต์ชอบ อิอิ ชอบๆๆๆ” เจ้าตัวเล็กร้องดีใจก่อนจะวิ่งไปรอบห้อง แล้วก็ปีนขึ้นไปบนเตียงไปกอดตุ๊กตาที่วางเรียงเอาไว้
“ชอบก็ดีแล้วครับเจ้าตัวเล็ก” ผมเดินเข้าไปยีผมของน้องกันต์ เห็นเจ้าตัวชอบห้องนอนนี้ก็ดีใจ แต่คืนนี้ผมกับพัทธ์คงต้องมานอนเป็นเพื่อนก่อน เพราะน้องกันต์คงยังไม่คุ้นชินแน่ๆ
“อย่างนั้นไปอาบน้ำดีกว่า วันนี้เล่นแทบทั้งวันเลย” พัทธ์พูดพร้อมกับเดินไปหยิบผ้าขนหนูมาเตรียมเอาไว้
“อาบน้ำๆ อาบด้วยกันฉามคนนะ” น้องกันต์บอก ซึ่งพัทธ์ก็พยักหน้ารับยอมแต่โดยดี เดี๋ยวนี้ไม่เขินเหมือนครั้งแรกแล้วครับ เพราะเราสามคนอาบน้ำด้วยกันบ่อย แต่เวลาอาบด้วยกันพัทธ์ก็มักจะใส่เสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้นเสมอ แถมยังบังคับให้ผมใส่ด้วย ผมเลยไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ชอบอาบกันสองคนกับพัทธ์มากกว่า ฮ่าๆๆ
หลังจากที่พาน้องกันต์ไปอาบน้ำเรียบร้อยผมก็เป็นฝ่ายอาสาแต่งตัวให้เจ้าตัวเล็กเองแล้วบอกให้พัทธ์ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเพราะกลัวว่าจะไม่สบายขึ้นมา ซึ่งพอพัทธ์อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็เดินกลบมาที่ห้องน้องกันต์ ผมเลยไปอาบน้ำบ้าง
“พ่อคินนนนน นอนกับน้องกันต์ เล่านิทานให้น้องฟังด้วย” พอผมเดินกลับเข้ามาในห้องเจ้าตัวเล็กก็ร้องเรียกทันที
“ได้เลยครับคุณชาย” ผมพูดขึ้นไปนั่งพิงหัวเตียงก้มลงฟัดเจ้าตัวเล็กไปอีกทีเพราะมันเขี้ยวกับท่าทางนั้นจนน้องกันต์หัวเราะลั่น
“พอแล้วครับพี่คิน เดี๋ยวน้องกันต์นอนละเมอกันพอดี” พัทธ์เอื้อมมือมาตีไหล่ให้ผมหยุดแกล้งลูก โอเค... หยุดแกล้งก็ได้
พอเห็นผมหยุดแกล้งน้องกันต์พัทธ์ก็ส่งหนังสือนิทานมาให้ผมทันที เป็นอันว่า... คืนนี้หน้าที่เล่านิทานตกเป็นของผมครับ
เล่านิทานไปได้ยังไม่ถึงครึ่งเรื่องเจ้าตัวเล็กที่เล่นซนมาทั้งวันก็หมดแรงหลับไปแล้ว ผมเลยลุกเอาหนังสือไปเก็บที่ส่วนพัทธ์ก็จัดแจงจัดท่านอนแล้วก็ห่มผ้าให้น้องกันต์ ส่วนผมก็เดินไปฝั่งพัทธ์แล้วขึ้นไปนอนซ้อนหลังอีกคน ส่วนใหญ่เวลานอนด้วยกันสามคนเรามักจะนอนแบบนี้ พัทธ์นอนตรงกลางกอดน้องกันต์เอาไว้ ส่วนผมก็จะนอนต่อจากพัทธ์แล้วกอดทั้งสองคนเอาไว้
“ลูกหลับแล้ว คุณมัมก็หลับได้แล้วนะครับ” ผมพูดยื่นหน้าไปจูบขมับของพัทธ์เบาๆ อย่างรักใคร่ “วันนี้เหนื่อยเก็บของมาทั้งวันแล้ว”
“ครับ ฝันดีนะครับพี่คิน”
“ฝันดีครับพัทธ์” ผมล้มตัวลองนอนสอดมือข้างหนึ่งไปรองหัวของพัทธ์เอาไว้ อีกข้างก็ยกขึ้นพาดกอดทั้งแม่ทั้งลูก กระชับตัวพัทธ์เข้ามาใกล้ขึ้น
ปกติแล้วพัทธ์ใช้เวลาไม่นานก็หลับ แต่วันนี้ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วเจ้าตัวก็ยังไม่หลับ ส่วนผมมักจะรอให้พัทธ์หลับก่อนแล้วจึงค่อยนอน “นอนไม่หลับเหรอครับ”
“พี่คิน... ยังไม่หลับเหรอครับ” คนนอนไม่หลับหันกลับมามองผม
“ครับ พี่รอพัทธ์หลับอยู่ แปลกที่เลยนอนไม่หลับเหรอ หือ...” ผมถามใช้มือข้างที่เขาหนุนอยู่ยกขึ้นปัดปอยผมออกจากใบหน้าของเขาให้
“ก็... นิดหน่อยครับ”
“ให้พี่เล่านิทานให้ฟังเอาไหม” ผมยิ้ม
พัทธ์ส่งค้อนให้ผมทันที “ผมไม่ใช่น้องกันต์เสียหน่อย”
“ก็เห็นนอนไม่หลับ นึกว่าอยากฟังนิทานก่อนนอน” ผมพูดยื่นหน้าไปหอมแก้มพัทธ์เบาๆ “นอนได้แล้วครับคนดี ดึกแล้วนะวันนี้ก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้วด้วย เดี๋ยวพี่กล่อมนอน”
“จะกล่อมยังไงครับ”
“นอนบอกรักพัทธ์จนกว่าพัทธ์จะหลับเลยดีไหมครับ” ผมถามยิ้มๆ ชอบใจที่ได้เห็นเขาเขินหน้าแดง
“พัทธ์หลับดีกว่า...” เจ้าตัวว่าแบบนั้นก่อนจะหันกลับไปหาน้องกันต์แล้วก็หลับตาลง สงสัยจะเขินจัด
ผมหัวเราะเบาๆ เลื่อนมือไปลูบผมนุ่มเรื่อยๆ เหมือนจะกล่อมให้พัทธ์หลับ ไม่รู้ว่าเพราะมือของผมที่ลูบผมเขาอยู่หรือเพราะจริงๆ แล้วเจ้าตัวเหนื่อยจัดและง่วงอยู่แล้วกันแน่ เพราะไม่นานพัทธ์ก็หลับสนิท พอเห็นว่าเขาหลับไปแล้วผมก็เลยละมือออกจากผมนุ่มไปกอดทั้งน้องกันต์แล้วก็พัทธ์ต่อ ส่งคุณลูกคุณแม่เข้านอนแล้วเรียบร้อย ก็ได้เวลาคุณพ่อหลับบ้างแล้วละครับ
ผมรู้สึกตัวตื่นในตอนเช้าอย่างเช่นทุกที สองแม่ลูกยังคงนอนกอดกันหลับสนิทอย่างคนฝันดี เห็นแล้วก็ได้แต่ยิ้ม ยื่นหน้าไปหอมแก้มทั้งคุณลูกคุณแม่คนละทีก่อนจะลุกออกจากเตียงไปจัดการตัวเอง
เช้านี้ทำอะไรเป็นมื้อเช้าให้แม่ลูกดีนะ... เมื่อวานก็เพิ่งทำข้าวต้มไป วันก่อนก็ต้มเลือดหมู อย่างนั้นวันนี้เอาเป็นอาหารแบบอเมริกันแล้วกัน
ผมคิดถึงเมนูอาหารเช้าไปด้วยก็เดินลงไปชั้นล่างของบ้านแล้วตรงเข้าไปในครัว จัดการเตรียมมื้อเช้าสำหรับเราสามคน แต่ยังไม่ทันจะเตรียมเสร็จพัทธ์ก็เดินเข้ามาในครัวเสียก่อน แล้วถ้าคืนไหนเขานอนดึกเช้าตื่นมาพัทธ์จะกลายเป็นเด็กน้อยขี้เซาทันที เหมือนกับเช้านี้...
ผมหลุดหัวเราะเมื่อรับรู้ถึงสัมผัสที่แผ่นหลัง พัทธ์คงเดินมาซบหลังผมแล้วตั้งท่าจะหลับแน่นอน ผมเอื้อมมือไปจับมือของเขาเอาไว้แล้วหันตัวกลับไปหา เด็กขี้เซาก็ซบหน้าลงกับอกผมทันที “เด็กขี้เซา”
“พัทธ์ง่วง...”
“ง่วงแล้วลุกขึ้นมาทำไมละครับ ไม่นอนต่อละวันนี้ไม่ต้องไปทำงานเสียหน่อย” ผมพูดยกมือขึ้นลูบผมของเขาไปด้วย
แล้วเวลาที่พัทธ์เป็นเด็กขี้เซา เขาจะน่ารักมาก...
“พี่คินไม่อยู่...”“พี่ไม่ได้นอนกอดแล้วนอนไม่หลับเหรอ” ผมถาม ถ้าเป็นเวลาปกติเจ้าตัวคงไม่พูดอะไรแบบนี้แน่นอน แต่ตอนนี้พัทธ์กลับพยักหน้ายอมรับ “ถ้าง่วงอยู่ก็ขึ้นไปนอนครับ เดี๋ยวพี่ตามขึ้นไป”
“ไม่เอา... ขึ้นไปด้วยกัน”
“แต่พี่ทำมื้อเช้าอยู่นะครับ” ผมบอก
“ค่อยลงมาทำอีกที... นะครับ” พอเจอคนรักอ้อนแล้วผมจะทำอะไรได้ละครับนอกจากปล่อยมื้อเช้าที่ทำค้างเอาไว้แบบนั้นก่อนแล้วพาเด็กขี้เซาขึ้นไปบนห้องอีกรอบ
น้องกันต์ยังคงนอนหลับสนิทกอดตุ๊กตาแน่น ผมพาพัทธ์ไปนอนก่อนจะขึ้นไปนอนข้างๆ แล้วกอดเจ้าตัวเอาไว้ คนง่วงนอนก็หลับต่อ แต่คราวนี้ผมจะลุกก็ลุกไม่ได้แล้วละครับเพราะพัทธ์ไม่ได้แค่นอนหลับแต่ยังนอนหนุนอกผมแล้วหลับไปด้วย ผมเลยได้แต่นอนเป็นหมอนให้เจ้าตัวเขานอนหลับอย่างสบาย
ก็ไม่ได้ไม่ชอบนะ... ชอบมากด้วยแบบนี้
ผ่านไปเกือบชั่วโมงคนที่นอนหนุนอกผมอยู่ก็ขยับตัวตื่น คราวนี้หมดคราบเด็กขี้เซาแล้วละครับตื่นเต็มตาแล้ว “พี่คิน...”
“ตื่นแล้วเหรอเด็กขี้เซา”
“พัทธ์ลงไปพาพี่คินมานอนด้วยอีกแล้วสินะครับ” เจ้าตัวพูด
ผมหัวเราะ พยักหน้ารับกับคำถามของเขายื่นมือไปบีบจมูกของพัทธ์เล่นอย่างเอ็นดู “พี่ทำมื้อเช้าอยู่ก็จะให้พี่ขึ้นมาด้วย นอกจากจะขี้เซาแล้วยังเอาแต่ใจด้วยนะเราเนี่ย”
คนโดนผมแกล้งส่งเสียงในลำคอ “ไปครับ ลุกไปล้างหน้าล้างตาได้แล้ว เดี๋ยวพี่ลงไปทำมื้อเช้าให้ใหม่” ผมพูดยกมือขึ้นเสยผมของพัทธ์ให้ก่อนจะดันตัวคนที่ตื่นนอนแล้วให้ลุกขึ้นนั่งแล้วผมจึงลุกตาม
“ครับ” คราวนี้ว่าง่ายไม่งอแง พอผมเห็นพัทธ์เดินเข้าห้องน้ำไปแล้วผมก็เลยเดินลงไปที่ครัวอีกรอบ โชคดีที่ทำเสร็จไปแค่ชุดเดียว ซึ่งตอนนี้คงเย็นชืดไปแล้วแต่ไม่เป็นไรครับผมเอาไว้กินเอง เดี๋ยวทำของพัทธ์ให้ใหม่ ส่วนของน้องกันต์... รอเจ้าตัวเล็กตื่นก่อนแล้วกันค่อยทำให้อีกที
เพราะวันนี้เป็นวันหยุดของเราทั้งสามคน หลังจากจัดการมื้อเช้าเสร็จก็เลยนั่งดูหนังการ์ตูนด้วยกันในห้องนั่งเล่นไม่ได้มีแผนจะออกไปเที่ยวที่ไหนเพิ่งย้ายเข้าบ้านมาเมื่อวานวันนี้ก็เลยอยากอยู่ติดบ้านกันทุกคน ตอนแรกน้องกันต์ร้องอยากจะออกไปเล่นที่สนามหญ้าดูท่าเจ้าตัวจะชอบมากแต่ตอนเช้าแดดส่องลงพอดีผมก็เลยห้ามไว้ก่อนเดี๋ยวลูกจะไม่สบายไปเสียก่อน แล้วสัญญาว่าตอนบ่ายจะให้ออกไปเล่นข้างนอกน้องกันต์เลยร้องเปลี่ยนมาดูการ์ตูนแทน
“เลิกสนใจงานแล้วมาสนใจพี่กับลูกได้แล้วนะ” ผมหันไปมองคนที่ยังอุตส่าห์ลุกไปหยิบงานมาทำทั้งๆ ที่เป็นวันหยุดแท้ๆ
“ขี้น้อยใจเหรอครับ” คนขยันทำงานหันมามองผมแล้วถาม ซึ่งผมก็พยักหน้ารับเหมือนโดนทิ้งครับลูกก็สนใจแต่การ์ตูนบนจอ คนรักก็สนใจแต่งาน ไม่มีใครสนใจผมเลย
“ลูกก็ไม่สน เมียก็ไม่สน” ผมว่าพลางเบ้ปากให้พัทธ์หัวเราะออกมา
“แก่แล้วขี้น้อยใจนะเนี่ย” พัทธ์พูดแต่ก็ยอมวางงานที่ทำอยู่ลงบนโต๊ะแล้วขยับมานั่งใกล้ๆ ผมแทน
“ก็ขี้น้อยใจกับลูกกับเมียนี่แหละ” ผมพูดซุกหน้าลงกับไหล่ของเขาเหมือนจะอ้อนให้พัทธ์หัวเราะแล้วยกมือขึ้นลูบผมของผมเล่น
น้องกันต์ที่หันมาเห็นพ่อกับแม่นั่งกอดกันเจ้าตัวก็เลยปีนขึ้นมาบนโซฟาด้วยแล้วก็มานั่งแทรกตรงกลางให้ผมกับพัทธ์กอด เห็นลูกแล้วมันเขี้ยวทีเมื่อกี้ละไม่สนใจพอตอนนี้มาเรียกร้องความสนใจผมเลยจับเจ้าตัวเล็กขึ้นแล้วฟัดพุงที่ป่องๆ นั้นไป
“กลายเป็นหมูอ้วนแล้วน้องกันต์ เดี๋ยวพ่อคินพาไปออกกำลังกายดีกว่าจะได้หุ่นดีๆ มีซิกแพคสาวๆ จะได้ชอบ” ผมพูด
“น้องกันต์อย่างเท่เหมือนพ่อคินนนน”
“เดี๋ยวพ่อคินเป็นเทรนเนอร์ให้เอง เอาให้มีซิกแพคตั้งแต่ยังเล็กเลยดีไหม” ผมถามซึ่งน้องก็พยักหน้ารับ
“ซิกแพคคืออะไรหยอครับ” เจ้าตัวเล็กถาม แล้วเมื่อกี้มาทำพยักหน้ารับไอ้ตัวเล็กเอ๊ย! มันเขี้ยวขอฟัดพุงอีกสักทีเถอะ
“พี่คินชอบฟัดน้อง เดี๋ยวตอนนอนน้องกันต์ก็นอนละเมอหรอกครับ” พัทธ์ตีแขนผมก่อนจะดึงน้องกันต์ไปนั่งตักแล้วกอดเอาไว้เอง
“ไม่ฟัดลูกก็ได้ แล้วฟัดแม่แทนได้ไหมละครับ” ผมถามยื่นหน้าไปใกล้ ระดับนี้ไม่อายลูกแล้วละครับ อายทำไมเนอะ
“เดี๋ยวพัทธ์ตีเลย” ปากบอกจะตีแต่มือน่ะตีผมแล้วเรียบร้อย
“โอ๊ยๆ เจ็บๆๆ น้องกันต์ดูสิครับ คุณมัมตีพ่อคิน พ่อคินเจ็บมากเลย” ผมแกล้งร้องเสียงดังแล้วจับแขนตัวเองเอาไว้ทำหน้าแบบเจ็บมาก
แล้วลูกผมก็แสนดี นอกจากจะไม่หันไปดุคุณมัมแล้วยังหัวเราะผมอีกต่างหาก “พ่อคินโดนมัมตี อิอิ มัมตีอีก ตีอีก พ่อคินชอบแกล้งน้อง มัมตีเลย”
“โหย... น้องกันต์ไม่ช่วยพ่อคินเลย”
“ไม่ช่วยๆ อิอิ มัมตีพ่อคินอีก” น้องกันต์บอกกับผมก่อนจะหันไปอ้อนคุณมัม แล้วยังไงละครับคุณมัมก็รักลูกเสียเหลือเกินยื่นมือมาตีผมไม่หยุดเลยทีนี้ น้องกันต์ก็ร้องดีใจใหญ่
มันเขี้ยวทั้งแม่ทั้งลูก อยากจะจับมาฟัดคนลูกน่ะฟัดเบาๆ พอ แต่คนแม่น่ะอยากจะฟัดให้จมเตียงให้หมดแรงลุกขึ้นเลย
“ร่วมกันแกล้งพ่อคินนะ พ่อคินจะเอาคืน” ผมพูดก่อนจะพุ่งใส่ทั้งสองคนจนล้มลงไปที่โซฟาด้วยกันแต่ตอนจะล้มผมก็สอดมือไปประคองทั้งพัทธ์ทั้งน้องกันต์เอาไว้ก่อน แล้วจัดการฟัดลูกฟัดแม่สลับกันจนทั้งสองคนร้องลั่นห้องเลยละครับ
“พอแล้วครับพี่คิน พัทธ์กับน้องกันต์ยอมแพ้ ไม่เล่นแล้ว” พัทธ์ร้องมือก็กอดน้องกันต์ไปด้วยหลบปากผมไปด้วยเห็นแล้วตลกดี
ผมยอมผละออกจากทั้งสองแล้วมานั่งหัวเราะผิดกับสองแม่ลูกที่นั่งหอบหน้าแดงเพราะโดนผมฟัดไปชุดใหญ่
“มันเขี้ยวเด็ก ทั้งเด็กเล็กเด็กโตเลย” ผมพูดเอื้อมมือไปดึงแก้มของพัทธ์จนเจ้าตัวยกมือขึ้นตีมือผมเสียงดัง “พ่อคินไปทำขนมดีกว่า มีใครอยากไปช่วยพ่อคินบ้างไหม”
“น้องกันต์ น้องกันต์ช่วยด้วย” น้องกันต์ชูมือขึ้นสูงทั้งสองข้างพร้อมกระโดดดึ๋งๆ บนโซฟา ผมเลยจัดการอุ้มเจ้าตัวเล็กขึ้นหันไปบอกพัทธ์ก่อนจะเดินเข้าไปในครัว “เดี๋ยวพี่ทำมื้อกลางวันให้ พัทธ์ทำงานไปก่อนก็ได้ครับ”
พัทธ์ยิ้มแล้วก็พยักหน้าให้ผม วันว่างๆ ที่ไม่ต้องออกจากบ้านไปไหน แต่มันก็มีความสุขมากๆ เหมือนกันนะครับ
‘...เชิญชวนคุณผู้ชมทุกคนไปงานเฟอร์นิเจอร์แฟร์ค่ะ สำหรับคนที่ชื่นชอบการแต่งบ้าน หรือกำลังมองหาเฟอร์นิเจอร์สำหรับแต่งบ้าน คงจะไม่พลาดงานนี้แน่นอน ทางผู้จัดเขาบอกว่ามามีบริษัทมาเปิดร้านกันเพียบเลยค่ะ’
‘ใช่ครับ แถมราคาเฟอร์นิเจอร์ในงานนี้ก็ถูกด้วยเพราะเป็นราคาจากโรงงาน แล้วในงานไม่ได้มีแค่เฟอร์นิเจอร์อย่างเดียวนะครับ ของตกแต่งบ้านอื่นๆ ก็มีอีกเพียบให้เลือกกันเต็มที่เลย’
‘เราลองไปชมบรรยากาศในงานกันดีกว่าค่ะ’เสียงของนักข่าวที่กำลังรายงานข่าวทางโทรทัศน์ดังออกมาเมื่อกดเปิดโทรทัศน์ก่อนที่ภาพบนจอจะฉายภาพบรรยากาศในงานเฟอร์นิเจอร์แฟร์ที่มีการโฆษณามากมายทั้งทางโทรทัศน์ วิทยุ แล้วก็หนังสือพิมพ์ รวมไปถึงสื่อออนไลน์อีก
การโฆษณาที่น่าสนใจคงเรียกให้คนที่สนใจเรื่องเฟอร์นิเจอร์ไปงานได้ไม่ยาก แต่สำหรับ ‘เขา’ ที่ไม่สนใจงานพวกนี้จึงไม่สามารถเรียกความสนใจได้ แต่สายตาที่มองผ่านๆ กลับหยุดชะงักและมองภาพที่ฉายอยู่บนหน้าจอนั้น ก่อนที่รอยยิ้มจะปรากฏบนใบหน้าอย่างยินดี
“ในที่สุด... ก็เจอจนได้” คนพูดยิ้มกว้างอย่างดีใจจัดการกดปิดโทรทัศน์แล้วลุกขึ้นไปเตรียมตัวออกไปข้างนอกทันที
ช่วงเวลากลางวันแบบนี้รถบนถนนหนทางในตัวเมืองกรุงเทพไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่จึงใช้เวลาไม่นานก็มาถึงสถานที่จัดงานเฟอร์นิเจอร์แฟร์ แต่จากทางเข้าไปจนถึงอาคารจัดแสดงนี่สิ... ติดเสียยิ่งกว่าขับรถมาอีก แต่สุดท้ายก็ได้ที่จอดรถตามที่ต้องการ
ภายในงานเต็มไปด้วยห้างร้านที่มาเปิดบูธเต็มไปหมด นอกจากจะมีเฟอร์นิเจอร์แล้วยังมีพวกของตกแต่งบ้านและนวัตกรรมใหม่ๆ ให้ได้ชมอีกด้วย แต่จุดที่ดึงความสนใจได้เป็นอย่างดีก็คงเป็น... บูธที่ตั้งอยู่ตรงบริเวณทางเข้าพอดิบพอดี
ผู้คนให้ความสนใจมากเป็นพิเศษอาจจะเป็นเพราะด้วยการจัดแสดงที่แปลกตากว่าบูธอื่นๆ เหมือนกำลังเข้าไปชมบ้านหรือห้องคอนโดตัวอย่างอย่างไรอย่างนั้นเลยทีเดียว
“สนใจสอบถามได้นะคะ” พนักงานประจำบูธเดินเข้ามาทักทายพร้อมรอยยิ้มเป็นมิตรให้ได้ยิ้มตอบกลับไป
“ผม... ขอถามอะไรหน่อยได้ไหมครับ” เขาเอ่ยถาม ซึ่งพยักหน้าก็พยักหน้ารับ “คนออกแบบชุดโซฟาชุดนั้นจะเข้ามาไหมครับ” ชี้นิ้วไปที่ชุดโซฟา
“อ๋อ... ไม่ค่ะ สนใจอยากจะสั่งหรือคะ ถ้าสนใจสามารถสั่งจองเอาไว้นะคะพอดีชุดโซฟานี้ยังไม่มีวางขายค่ะ แต่ทางบริษัทจะผลิตออกมาเร็วๆ นี้ ถ้าสั่งจองในงานนี้สามารถเลือกสีของชุดโซฟาได้นะคะ”
“อ่า... ครับ... อย่างนั้นผมขอนามบัตรของบริษัทได้ไหมครับ เผื่อจะติดต่อไปสอบถามอะไรเพิ่มเติม”
“สักครู่นะคะ” พนักงานสาวว่า ก่อนจะเดินหายไปไม่นานก็กลับมาพร้อมนามบัตรของบริษัท “นี่ค่ะ เบอร์ติดต่อตามที่ลงไว้เลยนะคะ ถ้าสนใจก็สอบถามเพิ่มเติมได้ค่ะ”
“ขอบคุณครับ... ผมขอเดินดูก่อน” พูดแค่นั้นเขาก็เดินแยกไปที่ห้องตัวอย่างที่จัดแสดงชุดโซฟาชุดนั้น เดินสำรวจไปรอบๆ ก่อนจะหยุดอยู่ที่หน้ารูปภาพของหญิงสาวที่ประดับอยู่บนผนังไม้อัด
“พราว... พี่ขอโทษ...”************************************************
มาแล้วค่ะ มาอัพแล้ววววววว มาพร้อมกับความฟินระดับสิบ รู้สึกอิจฉายังไงบอกไม่ถูก อยากจะเข้าไปร่วมด้วยช่วยพ่อคินฟัดน้องกันต์แล้วก็คุณมัม น่าจะมีความสุขเนอะ ฟินกันเสร็จก็ส่งท้ายด้วยลางบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น
ใคร ทำอะไร ที่ไหน ทำไปเพื่ออะไร รอติดตามกันในตอนต่อไปนะคะ คอมเมนต์เยอะๆ นะคะ จะได้มีกำลังใจมาอัพ ไหนๆ นิยายเรื่องนี้ก็จะจบแล้วด้วย ^^
แล้วเจอกันใหม่ค่ะ
อ่านแล้วอย่าลืมคอมเมนต์นะคะ คอมเมนต์กันหน่อยนะ อย่าเงียบค่ะ ใจไม่ดีเลยยยยย
ปล. ส่งภาพวาดประกอบนิยายเข้ามากันเยอะๆ นะคะ สวยไม่สวยไม่สำคัญค่ะ แค่ทุกคนสนใจเข้าร่วมกิจกรรมฟางก็ดีใจแล้วค่ะ
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
รักน้องกันต์ เอ็นดูน้องกันต์กันเยอะๆ นะคะ