Ominous Bird นกบอกลาง [จบแล้ว]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ควรจะมีภาคต่อไหม ?

มีก็ดี :D
34 (82.9%)
ไม่มี จบแค่นี้ก็ฟินแล้ว ~
3 (7.3%)
มีก็ได้ไม่มีก็เฉยๆ
4 (9.8%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 41

ผู้เขียน หัวข้อ: Ominous Bird นกบอกลาง [จบแล้ว]  (อ่าน 68926 ครั้ง)

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
อยากจะเขียนตอนพิเศษค่ะ เว้นเนื้อเรื่องหลักสักตอน  :hao6:

ตอนพิเศษอยากให้เขียนอะไรดี ? เสนอได้เลยยยย  :hao7:

ฟาร์คัสถูกสาป คู่วารันแบบเต็มๆ สถานการณ์ที่ดินแดนนกบอกลาง ได้หมดจ้า  :mew1:

--------------------------------

แฮ่ มีเพจไว้แจ้งนิยาย อัพไม่อัพค่ะ ทวงได้จิกได้จ้า  :z13:

https://www.facebook.com/FoggyTime

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
อยากกกกกก


แบบตอนไม่เอี่ยวกับเรื่องหลักนะคะ

ฟาร์คัสกับคาร์บิลัสสลับร่างกัน


วารันบอกว่ารักโซแวนนนน

 อิอิ

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
อยากได้ฉากขอวารันนนนนนนนนนน
แบบ ขอหวานๆ หื่นๆ ไม่เอาดราม่าาาา
หรือไม่ก็เรื่องของเอลล์กับมังกรที่เอาร่างกลับเป็นคนไม่ได้ โหย คงฟินเนอะ
มังกรไฟ พ่นไฟฟู่ๆ สยิวๆๆๆๆ

ออฟไลน์ yamanaiame

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
อยากอ่าน สถานการณ์ที่ดินแดนนกบอกลาง อะอยากรู้ว่าหลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ออฟไลน์ Hang

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เจอไข่!!!!!!!!!!!!!!!!  :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
--- ตอนที่พิเศษ -----

   ดินแดนปีศาจนับได้ว่าเป็นดินแดนที่น่าจะยิ่งใหญ่ที่สุดในตอนนี้ พื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลนั้นล้วนได้มาจากสงครามบ้างการล่าอาณานิคมของปีศาจในยุคก่อนๆ บ้าง ซึ่งส่วนที่เป็นของราชาปีศาจย่อมยิ่งใหญ่เพื่อให้เป็นการสมฐานะอันเกรียงไกร
   
ฟาร์คัสกำลังนั่งอยู่ในสวนที่กว้างพอๆ กับดินแดนเล็กๆ สักดินแดนในโลกใบนี้ ฟาร์คัสนั่งจ้องดัฟฟ์ที่กำลังกลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้นด้วยร่างมังกรที่เคยเจอตอนอาละวาด
   
ซึ่งยิ่งดูก็ทำให้ฟาร์คัสรู้สึกว่านี้มันไร้สาระสิ้นดี

   แต่ถ้าหากไม่คืนร่างมังกรบ้างจะทำให้พลังสะสมในร่างมนุษย์มากเกินไป

   ดัฟฟ์ใช้ร่างอันใหญ่โตของตัวเองกระโดดทับดอกไม้บ้างต้นไม้บ้างอย่างสนุกสนาน ร้องแก๊ซๆ ดังลั่น ซึ่งข้าก็คาดว่าน่าจะดังมากพอที่จะทำให้คาร์บิลัสโผล่มาเตะเพราะความรำคาญได้

   ฟาร์คัสคิดเรื่อยเปื่อยไปทั่วเพราะพอไม่อยู่ที่นี้ก็ไม่มีอะไรจะทำเท่าไหร่ เรียกได้ว่าว่างงานมากถึงมากที่สุด

   “ ฟาร์คัส ! ” เสียงร่าเริงดังขึ้นพร้อมกับแรงตะปปเข้าที่ไหล่ของฟาร์คัส
   
ฟาร์คัสสะดุ้งตวัดสายตามองโกรธๆ 

   สักวันข้าคงตกใจตายแน่ๆ

   “ เจ้าไม่ทำงานรึไง คาร์บิลัส ” ฟาร์คัสขมวดคิ้วตั้งคำถาม

   “ เจ้าชาคอสกับคอร์สมันรวมหัวให้ข้าทำงานมาหลายวันแล้วนะ ข้าก็ต้องมีวันหยุดบ้างสิ ! ” คาร์บิลัสทำหน้าน่าเห็นใจ แต่ข้ากลับรู้สึกอยากถีบมากกว่า

   “ แล้วแต่เจ้าเถอะ ” ฟาร์คัสถอนหายใจ

   “ อย่าเพิ่งเบื่อข้าสิ ฟาร์คัส ” คาร์บิลัสยิ้ม “ ข้ามีของดีมาให้เจ้าลองชิมด้วยนะ ” คาร์บิลัสยื่นขวดแก้วที่มีน้ำสีแปลกตาให้กับฟาร์คัส

   ฟาร์คัสไม่ได้รับมาดู “ แก้วล่ะ ? ”
   
คาร์บิลัสดีดนิ้วเรียกแก้วเรียวใสออกมาทันที

   ฟาร์คัสรับแก้วมาถือรอให้คาร์บิลัสรินให้ “ เจ้าไปเอามาจากไหนกัน ? ” ฟาร์คัสถามเมื่อคาร์บิลัสรินจนเต็มแก้ว
   
“ อ้อ ลุกซ์มันส่งมาให้น่ะ มันบอกว่าอยากให้เจ้ากับข้ากินเป็นพิเศษเลยล่ะ ”
   
ฟาร์คัสขมวดคิ้ว “ แล้วเจ้าไม่กินงั้นเหรอ ? ”
   
“ เจ้าลองกินไปก่อน ถ้าเจ้าไม่ชอยเดี๋ยวข้ากินให้เอง ” คาร์บิลัสยิ้มน้อยๆ ตอบ “ อร่อยนะ ”

   คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง ? ฟาร์คัสคิดสั้นๆ ไม่ได้ไตร่ตรองอะไรมากมายนักและจิบเล็กน้อย
   
หวาน.. และแผดเผาคอ แต่ก็ถือว่าอร่อย

   “ อร่อยดี เจ้าก็กินบ้างสิ ” ฟาร์คัสยื่นแก้วให้คาร์บิลัส

   “ เจ้ากินเถอะ ”
   
ฟาร์คัสเลิกคิ้วน้อยๆ เพราะเริ่มรู้สึกแปลกๆ กับท่าทีของคาร์บิลัส แต่ก็ยังคงจิบอีกครั้งอยู่ดีเพราะติดใจในรสชาติ

   คาร์บิลัสใช้ทีเผลอของฟาร์คัส รีบแนบริมฝีปากของตัวเองทันทีและลิ้มรสของน้ำที่ลุกซ์ให้มาจนฟาร์คัสเผลอครางออกมา

   คาร์บิลัสจูบจนพอใจจึงผละออกมาและใช้ลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองเบาๆ อย่างเสียดาย
   
ฟาร์คัสหน้าแดงก่ำกัดฟันแน่น “ ทำบ้าอะไรของเจ้า ! ”

   “ ก็เจ้าดูอร่อยมากนี่นา ข้าก็เลยอยากกินบ้าง ” คาร์บิลัสตอบอย่างไม่ทุกข์ร้อนใดๆ

   ฟาร์คัสแยกเขี้ยวอย่างโมโหและร่ายเวทคำสาปที่ตอนแรกคิดว่าไม่มีทางใช้สาปใครแน่ๆ เพราะคงอยู่ได้ไม่นานและยังไร้สาระมากเกินไป

   งั้นเจ้าก็ประเดิมคนแรกแล้วกันคาร์บิลัส !
   
แต่พอร่ายเสทคำสาปไปได้สักพักกลับมึนหัวและวูบแบบคำสาปค้างๆ คาๆ

   คาร์บิลัสเบิกตากว้างรีบก้าวเข้ามารับฟาร์คัสทันที
   
แต่พอคาร์บิลัสแตะตัวฟาร์คัสกลับถูกคำสาปสีดำครอบตัวทันทีรวมถึงฟาร์คัสก็เช่นกันที่ถูกครอบ

   คาร์บิลัสรีบร่ายเวทแก้คำสาปของฟาร์คัสทันทีแต่ก็ไม่ทันเมื่อรู้สึกเหมือนถูกกระชากแรงๆ จนเหมือนวิญญาณหลุดไปสักที่ ซึ่งสักที่ที่ว่านั้นกลับเป็นร่างของฟาร์คัส !

   …

   ฟาร์คัสลืมตาขึ้นมาและใช้มือนวดขมับตัวเองเบาๆ

   ทั้งๆ ที่ข้าคิดว่าตัวเองไม่ได้คออ่อนสักหน่อยกลับวูบไปซะงั้น ไอ้น้ำนั่นแค่จิบนิดเดียวก็มึนแล้วหรือว่ามันเป็นสูตรของลุกซ์ข้าถึงได้ไม่ชินกัน ?

   ช่างมันเถอะ นั่นมันไร้สาระเกินไปที่ข้าต้องมานั่งสนใจ

เพราะก่อนที่ข้าจะวูบไปรู้สึกว่าข้ากำลังจะสาปคาร์บิลัสนี่
   
ฟาร์คัสรีบหันซ้ายหันขวาทันทีพบว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในห้องนอนของคาร์บิลัสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีดัฟฟ์นอนกองอยู่บนเตียงเช่นกัน

   ซึ่งดัฟฟ์ก็กำลังกอดขาของฟาร์คัส

   ฟารคัส ... ?
   
ฟาร์คัส !!!
   
นั่นมันข้านี้ !
   
ฟาร์คัสเบิกตากว้างรีบถลาเข้าไปหาร่างของตัวเองทันทีซึ่งกำลังนอนด้วยสีหน้าทะเล้นแปลกๆ ฟาร์คัสขมวดคิ้วแน่น ลองดูมือของตัวเอง

   มือของข้าไม่ได้ใหญ่ขนาดนี้ !

   ฟาร์คัสก้มมองสำรวจตัวเองทันที

   เสื้อสีดำขลับแดงดูสูงค่ามีขนนุ่มๆ บริเวณคอ
   
ฟาร์คัสขยี้ตาตัวเองเปลี่ยนไปจับหัวตัวเองและต้องตกใจจนร้องออกมา

   “ คาร์บิลัส ! ”

   นี่มันร่างของคาร์บิลัสนี้ ข้าไม่ได้มีเขา !

   ฟาร์คัสใช้มือหยาบๆ ของคาร์บิลัสเขย่าร่างตัวเองจนหัวสั่นคลอน

   “ มีอะไรงั้นเหรอ ฟาร์คัส ~ ” ฟาร์คัสไม่สิคาร์บิลัสในร่างของข้า หาวออกมาได้น่าเกลียดจนข้าอยากกระโดดน้ำตายซะตอนนี้
   
“ ข้าจะกลับร่างของข้า ! เจ้าออกไปซะ ”
   
“ เจ้าเป็นคนสาปข้าเองนะ ~ ฟาร์คัส ข้าแก้คำสาปของเจ้าไม่ได้หรอกน้า ” ร่างของข้าทำหน้ากวนประสาทพร้อมกับเสียงที่ข้าไม่คิดจะพูด จนข้ารู้สึกรับไม่ได้
   
“ พอยซ์ล่ะ ! คาร์บิลัส ” ฟาร์คัสพูดออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำของคาร์บิลัส ทำให้ฟังแล้วรู้สึกกดดัน ถ้าหากเป็นปีศาจตนอื่นที่อยู่ภายใต้อาณัติของคาร์บิลัสคงไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว

   “ ข้าม่ายรู้ ~ ”

   “ อย่าทำให้ข้าโกรธนะคาร์บิลัส ”
   ร่างของข้าหน้าซีดเผือดทันตา “ เอาน่า ฟาร์คัสคำสาปของเจ้ามันอยู่ถึงแค่คืนนี้เอง ตอนนี้ก็เพิ่งเช้าเอง เจ้าก็เล่นร่างของข้าไปก่อนแล้วกัน ”

   “ ... ” ฟาร์คัสไม่พูดอะไรก้าวลงจากเตียงและลองก้าวเดินด้วยความไม่คุ้นชินนัก ภาพทรรศนียภาพต่างๆ ดูสูงกว่าเดิมมาก
   ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ลองเล่นร่างนี้ตามที่คาร์บิลัสบอกจะเป็นอะไรไป

   บนใบหน้าเรียบเฉยของคาร์บิลัสเกิดรอยยิ้มน้อยๆ

   ทำไมข้ารู้สึกว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกัน ? คาร์บิลัสคิดในใจ ทำไมยามที่ข้าเห็นรอยยิ้มของตัวเองแล้วมันดูน่าหมั่นไส้ยังไงชอบกล อย่าบอกนะว่าข้ายิ้มแบบนี้มาตลอด ! มิน่าล่ะฟาร์คัสถึงได้ชอบลงไม้ลงมือกับข้าบ่อยๆ “ เจ้าคิดอะไรอยู่น่ะ ฟาร์คัส ? ”

   “ คาร์บิลัส ” ฟาร์คัสพูดเสียงเข้มใส่เจ้าของร่าง

   คาร์บิลัสยิ้มแห้งๆ “ อ่า คาร์บิลัสก็คาร์บิลัส ”

   “ งั้นข้าลองอออกไปเดินเล่นหน่อยแล้วกัน ” ร่างของคาร์บิลัสพูดจบก็เปิดประตูออกไปทันทีโดยไม่รอคำตอบจากคาร์บิลัส

   “ เดี๋ยว ! ” คาร์บิลัสรีบย้ายร่างตัวเองออกจากเตียงวิ่งตามฟาร์คัสไปทันที

   แอ่ก

   “ แง้ ! ” ดัฟฟ์น้ำตาคลอ

   ซึ่งในขึ้นตอนการย้ายร่างกายนั้นก็มีการสลัดสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องอยู่เช่นกัน คาร์บิลัสไม่สนใจไอ้มังกรบ้าบอที่วิ่งตามมาติดๆ ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งตามร่างของตัวเองที่ไปโผล่แถวหน้าห้องเอกสารแล้ว

   น่าจะเป็นภาพที่แปลกตาของปีศาจที่ทำงานในคฤหาสน์ราชาปีศาจ

   เมื่อภาพที่เห็นตรงหน้าคือท่านคาร์บิลัสที่นั่งตั้งใจอ่านเอกสารไม่เหมือนปกติที่เอาแต่หาทางกลับไปยังห้องนอนของตัวเองเพื่อที่จะเป็นพบปีศาจอีกา
   
ปีศาจทุกตนที่อยู่ที่นี้รู้ดีถึงฐานะของปีศาจอีกาที่แม้ท่านคาร์บิลัสไม่ได้เอ่ยถึงแต่การกระทำของท่านคาร์บิลัสนั้นก็ได้หมายเหตุกลายๆ แล้วว่านี้ เป็นฐานะพิเศษ

   พระชายานั่นเอง

   ไม่ใช่เรื่องแปลกในดินแดนปี่ศาจถ้าหากจะมีชายาเป็นชายเพราะการสืบเชื้อสายหากไม่ใช้สายเลือดก็จะมีการประลองเฟ้นหาเช่นกัน ทายาทจึงไม่มีความจำเป็นเท่าไรนัก

   เพียงแต่ว่าพระชายาในตอนนี้ก็แปลกไปเช่นกัน

   คอร์สปีศาจกระต่ายตัวอ้วนที่มักจะเจอฟาร์คัสบ่อยๆ และรู้ดีว่าฟาร์คัสเป็นผู้ที่ค่อนข้างเก็บตัวแค่ไหนและไม่สุงสิงกับใครนอกจากราชาปีศาจกับมังกรดำ แต่ก็ไม่ได้เข้าขั้นเย็นชา คอร์สเบิกตากว้างหูกระต่ายตั้งขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นท่านฟาร์คัสวิ่งหน้าตั้งด้วยสีหน้าเหมือนจะร้องไห้

   เดิมทีฟาร์คัสไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมาให้เห็น ฉะนั้นการที่ฟาร์คัสนั้นแสดงอารมณ์ก็นับว่าเป็นเรื่องประหลาดพอสมควร ถ้าจะเปรียบเทียบ ก็คงจะเปรียบเหมือนเห็นแครอทมีขาล่ะนะ !
   
ดูเหมือนว่าวันนี้มีแต่เรื่องประหลาด คอร์สคิดและกระดิกหางสั้นๆ ของตัวเองไปมา เอาเถอะ ต่อให้มีเรื่องประหลาดแค่ไหนเกิดขึ้น ข้าก็ต้องทำงานอยู่ดี คอร์สถอนหายใจก้มลงไปหยิบเอกสารที่ความสูงมากกว่าตัวเองเดินก้าวต่อไป

   ฟาร์คัสที่นั่งดูเอกสารของคาร์บิลัสได้สักพักก็รู้สึกเบื่อขึ้นมานิดหน่อย เปลี่ยนใจเดินออกไปหาอะไรกินแทน และทิ้งกองเอกสารที่นั่งดูเมื่อกี้ไว้บนโต๊ะด้วยใบหน้าเรียบเฉย
   
คาร์บิลัสที่ตามมาดักหน้าประตูท้วงไว้ทันที “ เอ่อ คาร์บิลัส นี่เจ้าจะไปไหนน่ะ ? ”

   ฟาร์คัสแกล้งแค่นเสียงหึใส่เดินออกมาโดยไม่สนใจคาร์บิลัส
   
คาร์บิลัสรู้สึกเหมือนจะร้องไห้ ฮือออ ทำไมฟาร์คัสถึงได้ใจร้ายกับข้าขนาดนี้กัน แต่ขาของคาร์บิลัสไม่สิของฟาร์คัสก็ทำหน้าที่ได้ดี รีบก้าวตามไป

   “ แม่อย่าร้องไห้น้า ! ” ดัฟฟ์วิ่งเข้ามาเกาะคาร์บิลัสและพูดปลอบใจ โดยไม่รู้ว่าไอ้ไส้ในคือฆ่าบี้ลัส

   “ อย่ามายุ่งน่า ไอ้มังกรบ้า ! ” คาร์บิลัสปัดมือดัฟฟ์ออกรีบก้าวขาตามฟาร์คัสที่น่าจะเดินไปทางห้องอาหาร
   
ดัฟฟ์น้ำตาไหลพรากๆ ด้วยความน้อยใจ แต่ก็ยังคงวิ่งตามไปอยู่ดี
   
ฟาร์คัสเลิกคิ้วเมื่อเห็นดัฟฟ์น้ำตาไหลพรากๆ ทั้งๆ ที่กำลังนั่งกินขนมปังอยู่ ฟาร์คัสพยายามไม่สนใจแต่ก็ทำใจให้เมินไม่ได้ร่ายเวทดึงดัฟฟ์เข้ามาตัวเองและลูบหัวเบาๆ
   
โดยมีคาร์บิลัสนั่งอิจฉาตาร้อนอยู่

   “ แม่ ? ” ดัฟฟ์พูดเมื่อรู้สึกถึงความคุ้นเคย

   “ อืม ” ฟาร์คัสใช้มือขยี้หัวดัฟฟ์

   “ แง้ ! ฆ่าบี้ลัสบ้าที่สุด ! ” ดัฟฟ์ตวัดสายตามาทางคาร์บิลัสในร่างฟาร์คัสทันที ใช้มือสั้นๆ ชี้หน้าคาร์บิลัสอย่างเอาเรื่อง “ ฟ้องแม่แน่ แง้ ! ”

   “ ฟ้องก็ฟ้องสิ ใครกลัว ! ”

   ฟาร์คัสกลอกตา “ เจ้าจะรีบกินก็กิน ข้าจะไปอาบน้ำแล้ว เหนียวตัวชะมัด ” ข้าไม่เข้าใจว่าคาร์บิลัสทนใส่ไอ้เสื้อร้อนๆ หนาๆ นี้ได้ทั้งวันได้ยังไง

   “ จริงสิ ตอนเช้าเจ้ากับข้าแค่ใช้เวททำความสะอาดลวกๆ นี้นะ ” คาร์บิลัสพูดแต่กลับยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา แต่รอยยิ้มที่ว่านั้นปรากฎบนหน้าของฟาร์คัส
   
“ ... ” ฟาร์คัสไม่พูดอะไรต่อรู้สึกไม่ไว้วางใจคาร์บิลัสเท่าไรนัก
   
   “ เจ้าจะเข้ามาในห้องน้ำทำไมกันฮะ ! คาร์บิลัสส  ” ฟาร์คัสโวยวาย ทั้งๆ ที่ข้าเลือกที่จะอาบน้ำในห้องส่วนตัวแท้ๆ แต่ไอ้เจ้าปีศาจงี่เง่านี้ก็แอบเข้ามาด้วยจนได้

   “ ก็ข้ากลัวเจ้าแอบดูร่างกายของข้านี้นา ~ ”

   “ มันก็มีเหมือนๆ กันแหละวะ ! ” ฟาร์คัสตะคอกตอบกระชากเสื้อตัวหนาที่น่ารำคาญออกไปจนหมด

   “ งั้นเหรอ ? ” คาร์บิลัสถามเสียงยั่วเย้า “ ข้าว่าร่างของเจ้าน่าสนใจกว่านะ ” คาร์บิลัสปลดกระดุมเสื้อของฟาร์คัสออกจนหมดวักน้ำในอ่างราดบนหน้าอกตัวเอง

   ฟาร์คัสหน้าแดงก่ำ “ ทำบ้าอะไรของเจ้าวะ ! ” ข้าไม่เคยคิดมาก่อนว่าข้าจะดูยั่วยวนได้ขนาดนี้มาก่อน !
   
“ ข้าก็อาบน้ำไงล่ะ ฟาร์คัส ” 
   
ฟาร์คัสส่งสีหน้าไม่สบอารมณ์ใส่คาร์บิลัสและหันมาสนใจกับอ่างอาบน้ำแทน

   หมับ !

   คาร์บิลัสสวมกอดฟาร์คัสจากด้านหลังแกล้งกระซิบข้างหูฟาร์คัส
   
“ ข้าว่ากลับร่างดีกว่า ข้าเริ่มอยากทำแล้วล่ะ ~ ”

------------------
ไม่แน่ใจว่าได้ทำต่อหรือถูกฟาร์คัสไล่ตื้บกันแน่ค่ะ 555555555555

ส่วนตอนพิเศษตอนอื่นๆ จะทยอยเขียนให้ค่ะ ตามคิวๆ  :katai4:

พักตอนพิเศษกันสักนิด แล้วค่อยลุยเนื้อเรื่องต่อ  :really2:
   
   
   
   
   

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :a5:

โหหหหหหหห คุณ Foggy Time จะเขียนให้ทุกรีเควสท์เลยเหรอคะ รู้งี้ขอเพิ่มอีกดีกว่า  :hao7:

***

คาร์บิลัสนี่ฮาทุกที ขนาดเปลี่ยนร่างกลับแล้วก็ยังแพ้ฟาร์คัสจนได้ (ไม่หือเมียตัวเองนี่เป็นยอดชายเชียวนะ กรั่กๆๆๆ)

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
มีอะไรที่ไม่เหมือนกันเหรอออออออออออ
อะไรเหรอ // ใส่ซื่อออออออออออออออออ
ชอบตอนพิเศษตอนนี้ ฟาร์คัสในร่างาร์บิลัสก็ยังเป็นฟาร์สัส คาร์บิลัสก็ยังคงเป็นคาร์บิลัส
รอตอนหลักดี่าาา

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
คิดว่าถูกไล่ตื้บค่ะ 5555

ออฟไลน์ Hang

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อู้วว มันดูติดๆไงไม่รู้ 555 ช่างมันหนุกดี =w=

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 17 15 มิ.ย. 58
«ตอบ #130 เมื่อ15-06-2015 22:41:57 »

--- ตอนที่ 17 -----

   แสงตะวันทอแสงเรืองอ่อนๆ ที่ไม่มีความร้อนที่รุนแรงมากเรียกให้เมเออร์ตื่นขึ้นมาลืมตาโพลงด้วยความตกใจกับสภาพของตัวเอง

   นี่มันอะไร

   เมเออร์กัดฟันกรอดดวงตาแดงก่ำ

   นี่มันต้องเป็นฝีมือของไอ้คาร์บิลัสกับอีกานั่นแน่ๆ

   ข้าไม่มีวันยอมแพ้ให้กับศัตรูหรอก !

   “ ภูติไม้จงสดับฟัง ภูติแสงจงเป็นพยาน ข้าขอเรียกเจ้าออกมา ทูร์ริน ”  ระหว่างที่เมเออร์กำลังร่ายเวท สิ่งแปลกประหลาดก็เกิดขึ้นเมื่อเถาไม้เลื้อยรอบๆ ตัวเมเออร์ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาใกล้พร้อมๆ กับแสงสว่างที่เจิดจ้าจนแสบตา แต่เพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้นทุกสิ่งก็กลับมาเป็นปกติเมื่อเมเออร์ร่ายเวทจบ ปรากฎร่างเหยี่ยวที่ร่างกายประกอบกันคล้ายไม้เลื้อยดวงตาของมันหมุนริ้วเหมือนกับลูกไฟ   “ รอฟังคำสั่งจากข้า ” เมเออร์กล่าวสั้นๆ กับทูร์ริน
   
ดวงตาของทูร์รินหมุนริ้วเร็วขึ้นเหมือนกับกำลังตอบรับว่าตนเข้าใจ ทูร์รินโผบินไปเกาะกิ่งไม้ต้นหนึ่งและปล่อยให้ร่างกายของตัวเองกลายเป็นไม้เลื้อยรูปร่างแบบเดียวกันต้นที่เกาะไม่ผิดเพี้ยน
   
นี่คือเหตุผลที่เมเออร์เลือกใช้ทูร์ริน

   ความสามารถในการพรางตัวสูงมาก ต่อให้เป็นราชาปีศาจก็ไม่อาจจับเท็จได้
   
เพราะทูร์รินเกิดจากไม้เลื้อยบริเวณนี้นั่นเอง
   
   คาร์บิลัสขยี้ตาตัวเองเมื่อรู้สึกถึงแสงสว่างวาบช่วงสั้นๆ ถึงแม้มันจะเวลาเพียงนิดแต่คาร์บิลัสที่เป็นถึงราชาปีศาจย่อมรู้ตัวอยู่ดี การประมาทหรือพลาดพลั้งไปเพียงนิด ชีวิตอาจจะสูญหายไปได้ง่ายๆ อีกทั้งยังอยู่ในถิ่นศัตรูอีก

   ถึงแม้จะมีพลังมากมายแต่คาร์บิลัสไม่เคยประมาท นั่นเป็นอีกเหตุผลที่คาร์บิลัสถึงได้เป็นราชาปีศาจมาได้โดยไม่เคยถูกลอบโจมตีแม้แต่ครั้งเดียว

   เพราะคาร์บิลัสมักจะรู้ตัวก่อนและไล่ต้อนกลับจนกระเจิง

   แต่ว่า.. ข้ายังอยากกอดฟาร์คัสอยู่เลยนะ คาร์บิลัสคิดเศร้าๆ พยายามอย่างยิ่งยวดในการแกะมือตัวเองออกจากเอวของฟาร์คัส โอ๊ย มือข้าทำไมวันนี้เจ้าถึงได้เหนียวขนาดนี้นะ

   คาร์บิลัสยิ้มเมื่อฟาร์คัสยังหลับสนิทด้วยสีหน้าผ่อนคลายดูทั้งน่ารักและแปลกตา

   ให้ตาย ถ้าเมเออร์ไม่มาขัดข้า

   ป่านนี้ข้าได้ทำอะไรๆ ต่อแล้ว

   คาร์บิลัสขมวดคิ้วด้วยความโมโห มือเหนียวๆ ที่ถูกความแค้นชำระความเหนียวออกไปก็ปล่อยออกอย่างง่ายดาย คาร์บิลัสเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปหาเมเออร์เพราะรู้ดีว่าไอ้แสงวาบๆ เมื่อกี้มาจากเมเออร์แน่นอน
   
ถือว่าเป็นฤกษ์ดีในการแก้แค้นของข้า

   คาร์บิลัสร่ายเวทเรียกชุดของราชาปีศาจปล่อยเขาปีกหางออกมา พยายามทำให้ตัวเองดูน่ากลัวที่สุดและสื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่า การทำให้ราชาปีศาจโมโหนั้นเป็นเรื่องที่ร้ายแรงแค่ไหน
   
เมเออร์สะดุ้งเหมือนเห็นร่างที่ตนเพิ่งนึกถึงไปและถลึงตาใส่ทันที “ ปล่อยข้า ! คาร์บิลัส !! ” เมเออร์พูดเสียงเหี้ยมด้วยความแค้น

   “ ตราบใดที่ความต้องการของฟาร์คัสไม่สัมฤทธิ์ผล อะไรที่ทำให้ฟาร์คัสของข้าต้องผิดหวังข้าก็ไม่อนุญาตให้มีสิ่งนั้นเมเออร์ ” คาร์บิลัสตอบเสียงเย็นชา
   
ไอ้อีกานั่นมีความสำคัญกับราชาปีศาจถึงเพียงนี้เชียว เมเออร์ยิ้มเหี้ยม “ เจ้าเป็นแค่ผู้มาเยือนเองนะ คาร์บิลัส เจ้ามีสิทธิ์อะไรถึงกล้ามาพันธการข้าไว้กัน ” ถึงจะรู้ถึงความต่างกันของระดับพลังที่มี แต่เมเออร์รู้ดีว่าคาร์บิลัสไม่มีวันฆ่าตนแน่นอน
   
การฆ่าอดีตราชาของดินแดนอื่นนั้นนำพามาสู่สงครามไม่รู้จบมานัดต่อนัดแล้ว

   “ นั่นมันไม่ใช่เรื่องของเจ้า เมเออร์ ”

   เมเออร์หรี่ตาลง “ นั่นมันไม่ใช่คำตอบ ราชาปีศาจ ข้าตั้งคำถามใหม่ เหตุใดที่เจ้าถึงทำลายคุกที่ข้าใช้พลังเวทของข้าไปมหาศาลนั่นกัน ”

   “ เจ้าขังลูกน้องของข้า ”

   เมเออร์กัดฟันกรอด “ เจ้าบุกรุกเข้ามาก่อน  ”
   
“ หึ ” คาร์บิลัสแค่นเสียงใส่เมเออร์ ดวงตาทอประกายดุร้าย “ เจ้ากล้าปฏิเสธคณะทูตของข้าเอง ช่วยไม่ได้ ”

   “ ไอ้กระต่ายอ้วนนั้นเจ้าเรียกมันว่าทูตงั้นเหรอ ” เมเออร์หัวเราะแต่เสียงที่ออกมาเต็มไปด้วยความประชดประชัน “ นอกจากการกินมันรู้จักคำว่าสัมพันธไมตรีด้วยงั้นเหรอ ”
   
“ หุบปาก ” คาร์บิลัสเรียกมวลพลังหมุนริ้วจ่อตรงหน้าเมเออร์ “ อย่ามากล่าวหาลูกน้องของข้า ทั้งๆ ที่เจ้าไม่รู้จักดี ”
   
เมเออร์ดวงตาสีอำพันของเมเออร์ค่อยๆ กลายเป็นสีเลือดด้วยความโมโห

   ข้าไม่ได้เป็นคนผิด ข้าแค่ปกป้องดินแดนของข้าเท่านั้น !
   
เมเออร์เกือบจะเรียกทูร์รินออกมาโจมตีคาร์บิลัสแต่ก็เพียงแค่เกือบเท่านั้น

   เพราะอีกาผู้แสนสำคัญของคาร์บิลัสเดินเข้าไปใกล้คาร์บิลัสและใช้มือตบหัวคาร์บิลัส จนคาร์บิลัสเซแถดๆ เดินเอียงไปข้าง แต่อย่างที่รู้

   คาร์บิลัสแค่ทำให้มันดูรุนแรงก็เท่านั้น

   “ เจ้าตีข้าทำไมกัน ~ ฟาร์คัส ” ปีก เขา หาง ความโหดเหี้ยมอำมหิตกดดันต่างๆ ถูกพับเก็บเข้าไปจนหมดทันที
   
“ ข้าหมั่นไส้เจ้าล่ะมั้ง ” ฟาร์คัสกลอกตา เมื่อกี้ข้าเกือบจะมาไม่ทันแล้ว เพราะถ้าหากช้าไปกว่านี้ เมเออร์อาจจะไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้วก็เป็นได้

   “ หมั่นไส้ข้าทำไมล่ะ แต่ถ้าหมั่นไส้แล้วเจ้าสนใจแต่เรื่องของข้า ข้าก็ยินดีจะทำตัวน่าหมั่นไส้นะ ฟาร์คัส ! ” คาร์บิลัสพูดอย่างกระตือรือร้น
   
เมเออร์ค้างไปด้วยความตกตะลึงกับสิ่งที่กำลังเห็น

   ราชาปีศาจ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยมอำมหิตไร้หัวใจไม่เล่นหัวกับใคร

   แต่ตอนนี้กลับดูเหมือนเด็กๆ ที่กำลังอ้อน

   ไม่สิ เหมือนสุนัข..

   เมเออร์หลุบตาลงต่ำ ราชาปีศาจที่ดินแดนทั่วๆ ไปกลัวกัน ยามที่อยู่กับอีกาตัวนี้แล้วดูไร้พิษสงไปทันที อีกทั้งยังดูร่าเริงผิดวิสัย

   ฟาร์คัสตัดสินใจปล่อยให้คาร์บิลัสัสพูดมากต่อไปและมองพิจารณาร่างของอดีตราชาดินแดนภูต ถึงแม้ตอนนี้จะถูกคาร์บิลัสมัดแน่นจนเหมือนดักแด้แมลงและมอมแมมไปหน่อยแต่ก็ยังดูรู้ว่ามีเชื้อของกษัตริย์เพราะความสง่างามและความทระนงตนที่รู้สึกได้
   
แต่ช่างมันเถอะ นั่นไม่ใช่เรื่องที่ข้าต้องใส่ใจ
   
ไหนๆ ก็ ไหนๆ แล้ว เจ้าตื่นแล้วก็โดนรีดข้อมูลไปแล้วกัน
   
“ คาร์บิลัส เจ้าไปตามเอลล์กับลุกซ์มา อ้อ ดัฟฟ์ด้วย ” ฟาร์คัสเอ่ยคำสั่งกับคาร์บิลัส

   “ หวา ข้าเบื่อเจ้าพวกขี้เซาจัง ” คาร์บิลัสแสดงสีหน้าเซ็งขั้นรุนแรงออกมา คาร์บิลัสดึงเส้นผมของตัวออกมาเส้นหนึ่งและปล่อยให้มันปลิวลงบนพื้น “ ไปตามไอ้พวกขี้เซาซะ ”

   ฉับพลันเส้นผมของคาร์บิลัสก็ได้กลายเป็นแพะสีดำตัวอ้วนมีปีกปีศาจเล็กๆ อยู่บนหลัง เจ้าแพะคาร์บิลัสสะบัดหน้าเหมือนกำลังบ่นอยู่กลายๆ และควบฝีเท้าไปทางกระต็อบของเอลล์และลุกซ์
   
“ นั่นร่างจริงของเจ้างั้นเหรอ คาร์บิลัส ? ” ฟาร์คัสเลิกคิ้วสูงเพราะคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นไปแล้วครั้งหนึ่ง
   
“ ใช่ นั่นร่างจริงของข้านั่นแหละ ” คาร์บิลัสยิ้ม “ น่ารักไหม ”

   “ แล้วร่างนี้ ? ”

   “ อ้อ ร่างกลางของข้าไงล่ะ ถ้าให้ข้าไปหาใครต่อใครด้วยร่างแพะแบบนั้น คงน่าขำจะตาย  ”

   เป็นไปได้ข้าว่าเจ้าน่าจะอยู่ในร่างแพะนั่นดีกว่านะ เพราะมันดูน่ารักกว่ากันเยอะ ฟาร์คัสคิดเงียบๆ
   
เมเออร์จุกจนพูดอะไรไม่ออก แม้กระทั่งถามคำถามออกไป

   เอลล์ ?

   เอลล์ร่วมมือกับไอ้พวกศัครูพวกนี้น่ะเหรอ

   เอลล์โดนไอ้พวกศัตรูพวกนี้หรอกใช้งั้นเหรอ !
   
เมเออร์โมโหมากจนสิ่งที่คาร์บิลัสใช้พันธนาการถูกเมเออร์ระเบิดพลังเวทใส่จนแตกเป็นเสี่ยงๆ “ เจ้าหลอกอะไรบุตรของข้ากัน ! คาร์บิลัส ! ” เมเออร์คำรามถามเสียงดังลั่น ธนูคู่กายถูกเรียกออกมาทั้งๆ ที่ไม่ได้ร่ายเวท

   “ หวา คุณพ่อโมโหแล้วล่ะ ฟาร์คัส ” คาร์บิลัสพูดเรียบๆ ดูไม่ตกใจเท่าไรนักเพราะคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว ว่าเมเออร์สามารถทำลายพันธนาการของเล่นของตนได้

   “ เจ้าก็จับมัดใหม่ซะสิ ” ฟาร์คัสตอบเหมือนกับกำลังพูดเรื่องง่ายๆ

   เมเออร์ไม่พูดอะไรหักด้ามธนูในมือจนแยกเป็นสองชิ้น เถาไม้เลื้อยค่อยๆ ถักทอกันขึ้นมาใหม่อีกครั้งโดยกลายเป็นเคียวขนาดยักษ์มีละอองสีทองลอยอวล  ดวงตาเมเออร์ส่อประกายคมกร้าวดังนักรบแม้ว่าอายุที่ล่วงเลยมามาก แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ทำให้เมเออร์กลายเป็นคนยอมคนขึ้นมาแต่อย่างใด

   “ ข้าขี้เกียจมัดจัง ขังเอาแล้วกันนะ ฟาร์คัส ” คาร์บิลัสสะบัดมือเรียกดาบของตนบ้าง คาร์บิลัสใช้ดาบชี้หน้าเมเออร์และเลิกคิ้วอย่างท้าทาย “ ออกกำลังกายแก้ง่วงตอนเช้าสักรอบ ค่อยเป็นนกในกรงเนอะ เมเออร์ ”
   
เมเออร์ฟาดเคียวใส่คาร์บิลัสแทนคำตอบ

   คาร์บิลัสกระโดดหลบได้อย่างสบายๆ อีกทั้งยังส่งดาบในมือตัดเส้นผมของเมเออร์ได้ไม่น้อย

   เส้นผมสีทองของเมเออร์ส่งประกายสีทองสองสว่างยามที่แสงแดดตกกระทบใส่ แต่นั่นก็ยิ่งกระตุ้นให้เมเออร์บ้าคลั่งมากขึ้นยิ่งเท่านั้น

   เมเออร์ฟาดเคียวที่ถูกอัดพลังเวทใส่คาร์บิลัส

   คาร์บิลัสฟันดาบใส่เคียวของเมเออร์จนเคียวของเมเออร์แทบขาดสะบั้น
   
ถ้าจะให้อธิบายเมเออร์ในยามนี้ น่าจะบอกได้ว่าการต่อสู้ของคนที่น่าอดสู สู้ไปทั้งๆ ที่รู้ว่าแพ้ สู้เพราะความเคียดแค้นที่ถูกหักหลังมาตั้งแต้ครั้นบรรพบุรุษหากแต่ว่าถ้าไม่สู้ ดินแดนของตนก็ย่อมถูกบีบเค้นได้อีกครั้ง นับว่าเป็นการดิ้นรนเพื่อดินแดนของตัวเองอย่างแท้จริง
   
ถึงแม้เมเออร์จะดูเย่อหยิ่งจองหองถึงเพียงใด แต่ในความเป็นจริงแล้วเมเออร์นับเป็นกษัตริย์ที่ดีองค์หนึ่งของดินแดนภูตเลยทีเดียว กษัตริย์ที่ใส่ใจภูตผู้อยู่ใต้การปกครองของตนเองเป็นที่สุดและหวังจะมอบเจตนารมณ์นี้ให้กับบุตรคนโตของตนเอง
   แต่ความพยายามที่ทำมาก็กลับพังลง เมื่อเออล์มีความคิดที่แตกต่างออกไปมาตั้งแต่เด็ก เมเออร์มักจะโมโหกับความคิดที่จะมีสัมพันธไมตรีกับดินแดนของเอลล์

   ของพรรค์นั้นยังไงก็เชื่อถือไม่ได้

   สิ่งนี้ถูกปลูกฝังมานานมากมารุ่นสู่รุ่น
   
เพราะสัมพันธไมตรีที่ดีต่อดินแดนปีศาจในโบราณถึงได้เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายเข้ามาใช้เป็นสนามรบอย่างไร้ความเกรงใจ

   นี่เป็นเหตุผลที่เมเออร์ไม่คิดจะมีสัมพันธไมตรีต่อดินแดนใดทั้งนั้น

   คาร์บิลัสสลายดาบในมือเมื่อเห็นแววตาของเมเออร์ แววตาของคนที่คิดจะสู้จนตัวตายนั่นเอง “ ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้าแล้วกัน ” คาร์บิลัสถอนหายใจร่ายเวทที่ทำให้เมเออร์ตัวชาทั้งตัวจนขยับไม่ได้

   เมเออร์ส่งสีหน้าเย็นชาตอบ

   เจ้าแพะกระโดดโลดเต้นไปมาขณะที่เดินกลับยิ่งมันเห็นฟาร์คัสก็ยิ่งดูคึก ขาสั้นๆ นั้นวิ่งควบไวกว่าเดิมเป็นเท่าตัว มันวิ่งเข้าไปใกล้ฟาร์คัสหวังว่าจะเข้าไปอ้อน แต่ก็ถูกคาร์บิลัสเตะโด่งจนสลายหายไป

   ฟาร์คัสกลอกตา แม้กระทั่งเส้นผมของตัวเองเจ้ายังหวงได้อีกนะ คาร์บิลัส

   ลุกซ์ยิ้มแห้งเมื่อเดินไปแล้วเจอบรรยากาศขุ่นมัวของนายของตนและเอ่อ.. จะเรียกว่าอะไรดี พ่อเขย คงไม่เหมาะเท่าไหร่เพราะจับข้าล่ามไว้คุกใต้ดินซะนานนม เป็นพ่อของเอลล์ไปนั่นแหละ

   เอลล์ขมวดคิ้ว ท่านพ่อ... เขารู้ดีว่าท่านพ่อจะรู้สึกยังไงเมื่อเขามารวมกลุ่มกับฝั่งศัตรูของท่านพ่อ ท่านพ่อคงจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเหมือนเช่นทุดครั้งรวมถึงครั้งนี้เช่นกันที่ข้ารู้สึกถึงความปวดหนึบในใจที่รู้สึกได้จากสายตาของท่านพ่อ ถึงแม้จะมองไม่เห็นข้าก็รู้สึกได้..

   “ ที่เจ้าอยากสร้างสัมพันธไมตรีกับดินแดนอื่น เพราะปีศาจเหล่านี้มันกล่อมเจ้าใช่ไหม เอลล์ ” เมเออร์ท่านเสียงเรียบ ดวงตาจับจ้องที่บุตรของตน

   “ ข้าสมัครใจเอง ท่านพ่อ.. สิ่งที่ข้ากระทำล้วนมาจากความคิดของข้าทั้งนั้น ปีศาจพวกนี้เป็นสหายของข้าเท่านั้น ”

   “ สหาย ? ” เมเออร์ทวนออกมาอย่างอึ้งๆ

   “ ฟาร์คัส คาร์บิลัส ล้วนเป็นสหายของข้า ท่านพ่อ ” เอลลตอบใบหน้าซับเลือดเล็กน้อยเมื่อมาพูดอีกประโยค “ ส่วนลุกซ์.. ก็เป็นสหายของข้าเหมือนกัน ”
   
“ ข้าเสียใจที่เลี้ยงเจ้าได้ไม่ดีเท่าทีควร เอลล์ ” แววตาของเมเออร์กลายเป็นสีหม่น “ แม้กระทั่งมังกรที่ถูกตรองจำในคุกเจ้ายังนับเป็นเพื่อน ข้าอยากรู้ว่าอะไรที่เจ้าเรียกศัตรูพวกนี้ว่าเพื่อนกัน ”
   
เอลล์ยิ้มบางๆ ทำให้เมเออร์เบิกตากว้างอย่างตกใจ
   
ถึงแม้เอลล์จะยิ้มบางๆ อยู่เสมอ แต่ไม่มีครั้งไหนที่ดูมีความสุขเท่านี้มาก่อน

   “ ลุกซ์ กับ ฟาร์คัส รับปากว่าจะช่วยให้ข้ากลับมามองเห็นอีกครั้ง ” เสียงของเอลล์สั่นน้อยๆ “ ท่านรู้อะไรไหม ข้าใฝ่ฝันที่จะมองเห็นมาตลอด แต่ท่านมักจะเมินเฉยต่ออาการของข้าและให้ข้าฝึกหนักแทน ” เอลล์เว้นช่วงการพูดสูดหายใจลึก “ ยามที่ข้าได้ยินใครต่อใครพรรณาถึงสิ่งที่ได้เห็น มันทำให้ข้ารู้สึกเจ็บปวดจนแทบอยากร้องไห้ ถึงแม้ข้าจะไม่รู้ว่าการมองเห็นเป็นแบบไหน แต่ถ้าข้าได้มันมาข้าสัญญาว่าจะรับษามันไว้ให้ดีที่สุด ” เอลล์หันไปทางลุกซ์ “ ถ้าหากมันทำให้ข้ามองเห็นคนที่ข้ารัก.. ”
   
เมเออร์ยิ้มฝืนๆ รู้สึกเหมือนถูกอะไรมาตีแสกเข้าที่หน้าอย่างแรง เมื่อรู้ถึงเหตุผลของเอลล์ ทำไมข้าจะไม่รู้ล่ะว่าเอลล์ ต้องการจะมองเห็นขนาดไหน แต่เพราะรู้ดีถึงใคร่ครวญให้เอลล์ฝึกหนักเพื่อที่จะลืมความรู้สึกพวกนี้ไป
   
“ เฮ้อ ข้าขี้เกียจมาฟังพ่อลูกระลึกความหลังกันนะ ” คาร์บิลัสบ่น
   
ลุกซ์ยังคงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว
   
ฟาร์คัสหยิบขวดน้ำตาเงือกออกมายื่นให้คาร์บิลัส “ งั้นเจ้าก็กรอกเลยแล้วกัน คาร์บิลัส ”
   
“ ได้เลยยย ฟาร์คัส ” คาร์บิลัสรับมาถืออย่างกระตือรือร้นสาวเท้าเข้าไปใกล้เมเออร์และพูดขู่เสียงเหี้ยมต่างจากน้ำเสียงที่คุยกับฟาร์คัสโดยสิ้นเชิง “ กลืนมันซะ เมเออร์ ”
   
เมเออร์แค่นเสียงเหอะใส่ “ เจ้าหาใช่นายของข้า คาร์บิลัส ”
   
นั่นทำให้คาร์บิลัสหงุดหงิดจับขวดยัดปากเมเออร์ทันที
   
แกว้กกกกกกกกกกกกก

   เสียงร้องเหยียดยาวแปลกหูดังขึ้นพร้อมกับแรงที่มาพุ่งชนจนขวดในมือของคาร์บิลัสกระเด็นจนแตกกระจายอยู่บนพื้น

   แก้วที่แตกกระจายบนพื้นเจิ่งนองไปด้วยน้ำตาเงือก
   
“ แค่กๆๆ ” เมเออร์สำลัก
   
“ โว้ยยย ไอ้นกบ้า ” คาร์บิลัสใช้มือคว้าเข้าที่คอนกและกำแน่นจนไม้ที่ประกอบเป็นร่างของนกค่อยๆ กลายเป็นผุยผง
   
ดวงตาไหววูบติดๆ ดับของนกเป็นสัญญาณของการมีตัวตนครั้งสุดท้ายก่อนที่จะสลายหายไปเพราะพลังอำนาจที่ล้นเหลือของคาร์บิลัส
   
ฟาร์คัสเบ้หน้าเซ็งๆ เพราะไม่รู้ว่าเมเออร์กินเข้าไปมากขนาดไหนแต่ไม่หมดแน่นอนเพราะน้ำที่เจิ่งนองบนพื้น แล้วความทรงจำที่ได้มันจะมากขนาดไหนกัน

   ดัฟฟ์เดินเตาะแตะเข้าไปเกาะเข้าที่ขาของฟาร์คัสใช้หัวเล็กๆ ที่มีเขาสั้นๆ งอกถูเข้าที่ขาของฟาร์คัสเชิงอ้อน ดัฟฟ์ยิ้มกว้างเมื่อฟาร์คัสเอามือลูบหัวตัวเองเบาๆ

   “ พอขวดแตกแล้วไงต่อ ” ลุกซ์ขมวดคิ้ว “ ข้าไม่เห็นมันจะมีความทรงจำปปรากฎตรงไหน ” เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้าก็ยังคงเป็นเศษแก้วที่กองนิ่งๆ เหมือนเดิม
   
“ ต้องการเงื่อนไข ? ” ฟาร์คัสเดาสุ่ม

   “ จริงด้วย ! เงื่อนไขยังไงล่ะ ” คาร์บิลัสยิ้ม “ เก่งจังเลยยย ฟาร์คัสของข้า ! ”

   “ ถ้าเจ้ารู้แล้วก็ช่วยทำมันสักที ” ฟาร์คัสพูดด้วยเสียงจริงจัง
   
“ ก็ได้ๆ ” คาร์บิลัสหยิบเศษแก้วขึ้นมากำแน่นจนเลือดไหลออกจากฝ่ามือ สีหน้าของคาร์บิลัสไม่ได้เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใดเหมือนกับไม่รู้สึกถึงความเจ็บยังไงยังงั้น  “ ความทรงจำที่ซ่อนเร้น สิ่งที่ข้าเฟ้นหาจงปรากฎ อดีตที่ผ่านมาอย่างยาวนานเอ๋ย จงแสดงให้ข้าเห็น ! “”
   
เลือดที่ไหลอาบของคาร์บิลัสเปลี่ยนสีเป็นสีใสอย่างแปลกประหลาด

   ภาพบางอย่างที่ปรากฎในอากาศพานทำให้เลือดในกายเย็นเฉียบ

   ไม่เว้นแม้กระทั่งเอลล์ที่ถึงแม้จะมองไม่เห็นแต่เสียงที่ได้ยินก็ให้ความรู้สึกน่าขนลุก
   
เพราะสิ่งที่ปรากฎในความทรงจำของเมเออร์นั่นไม่ใช่ความทรงจำธรรมดา..

---------------------------------------------
หายไปนานคิดถึงคนอ่านนนน  :hao5:  ตอนนี้ก็ยังไม่ไปไหนเท่าไหร่  :beat:

ส่วนตอนพิเศษมาแน่ๆ ค่ะ แต่ขอแปะโป้งไว้ก่อน ลงตอนหลักก่อนน  :mew2:

 :man1: ขอบคุณทุกคอมเมนต์น้าา

ปล. สงสารตัวเองกันทำไม 5555555555555555555555


   
   
   
   
   
   
   
   

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 17 15 มิ.ย 58
«ตอบ #131 เมื่อ15-06-2015 22:59:21 »

สิ่งที่ปรากฏออกมาคืออะไรกันนะ? ลุ้นค่า


ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 17 15 มิ.ย 58
«ตอบ #132 เมื่อ15-06-2015 22:59:35 »

ขอเปลี่ยนจากตอนแรกจะเห็นใจคุณ Foggy Time ตอนนี้ขอมาเห็นใจพ่อลูกเอลฟ์ก่อนนะคะ

.........

น่าจะเป็นเมเออร์ตอนวัยรุ่นหรือเปล่านะ
(ปอลอ น้องแพะคาร์บบิลัสน่ารักสุดๆเลย ถ้าเป็นตุ๊กตาให้กอดก็คงดี T^T)

ออฟไลน์ yamanaiame

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 17 15 มิ.ย 58
«ตอบ #133 เมื่อ16-06-2015 07:06:31 »

อั๊ยยะ  มาต่อละหายไปชะนาน คิดถึงเด้ออ

ออฟไลน์ Hang

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 17 15 มิ.ย 58
«ตอบ #134 เมื่อ16-06-2015 08:55:23 »

เกือบลืมชื่อฟาคัส5555.  เริ่มสงสารละตอนแรกสาปส่งไปซะเยอะเลย55555

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 17 15 มิ.ย 58
«ตอบ #135 เมื่อ16-06-2015 09:36:17 »

มารอดูความจริง !!! ค้างง่าาาาาา :katai1:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 17 15 มิ.ย 58
«ตอบ #136 เมื่อ16-06-2015 19:11:37 »

มาอีกๆๆๆๆ

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 17 15 มิ.ย 58
«ตอบ #137 เมื่อ16-06-2015 19:48:29 »

แพะคาร์บีลัส อิอิ น่ารักเบาๆ
รอตอนต่อไปค่าา

ออฟไลน์ Rambluesky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-3
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 17 15 มิ.ย 58
«ตอบ #138 เมื่อ16-06-2015 21:02:32 »

ลุ้นๆ  :ling1:

รออ่านต่อนะครับ  :L1: :pig4:

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 18 23 มิ.ย 58
«ตอบ #139 เมื่อ23-06-2015 22:19:57 »

-- ตอนที่ 18 ---

   ภาพที่ปรากฎอยู่บนอากาศเป็นห้องคับแคบไร้ซึ่งสิ่งของที่ประดับตกแต่งในห้องมีเพียงโต๊ะกับเก้าอี้เก่าๆ ที่ผุพังตั้งอยู่กลางห้อง บนเก้าอี้ตัวเก่ามีร่างของผู้ที่ถูกดูความทรงจำนั่งอยู่ด้วยสีหน้าอึมครึม เพียงเวลาไม่นานเก้าอี้ที่ว่างเปล่าก็มีตราวงเวทโบราณหมุนริ้วอยู่ใต้เก้าอี้
   
ฉับพลัน
   
ห้องทั้งห้องได้กลายเป็นอีกห้องทันที
   
เพดานได้กลายเป็นสีขาวมุกมีโคมไฟไม้เลื้อยสีแปลกตาให้แสงสว่าง พื้นห้องได้เปลี่ยนเป็นพรมสีชาดจากที่เป็นเพียงพื้นที่มีฝุ่นเสมือนพรม ผนังห้อง ทุกสิ่งในห้องเปลี่ยนแปลงไปหมดราวกับว่าห้องคับแคบเมื่อกี้เป็นเพียงความคิดเล่นๆ ของใครสักคน 
   
“ สายัณห์สวัสดิ์ ท่านราชาภูต ” เสียงของผู้ที่มาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงเอ่ยทักทายเมเออร์

“ เรียกข้ามาทำไมกัน นูร์ ” เมเออร์ถามด้วยสีหน้าคร่ำเคร่ง

   นูร์แสยะยิ้มและทอดกายลงบนเก้าอี้บุนวม “ ท่านลืมไปแล้วหรือ ? สัญญาของเรา ”

   เมเออร์กัดฟันแน่นดวงตาแดงก่ำด้วยความแค้น “ มันยังไม่ถึงเวลา ”
   
นูร์หัวเราะเบาๆ “ คำสาปของท่านใกล้จะคลายลงแล้ว เมเออร์ ”
   
เมเออร์กำมือแน่น “ เจ้าหักหลังข้างั้นหรือ ”

   นูร์แสร้งเบิกตากว้าง “ หักหลัง ! เจ้าหาว่าข้าหักหลังงั้นเหรอ ” ถึงจะพูดด้วยน้ำเสียงตื่นตกใจแต่นัยน์ของนูร์กลับเย็นชา “ บุตรแห่งสงคราม ไม่มีอะไรที่ขวางกั้นได้หรอกนะ เมเออร์ ”

   เมเออร์ใช้เคียวชี้หน้านูร์ “ อย่าเรียกคำนั้นกับบุตรของข้า นูร์ ! ”

   นูร์แสดงสีหน้าไม่สบอารมณ์ออกมาอย่างชัดเจนจนเมเออร์ถึงกับเผลอปล่อยเคียวลงอย่างไม่รู้ตัว “ ข้ามาเตือนเจ้าก็ดีแค่ไหนแล้ว เมเออร์ ยามใดที่บุตรแห่งสงครามลืมตาขึ้นมาเมื่อนั้นดินแดนภูตย่อมพินาศ ! ”

   เมเออร์ยืนจ้องมองไปที่เพดานห้องที่กลายเป็นสีดำ “ เพื่อบุตรของเรา เพื่อชีวิตของเจ้าที่เสียไป ข้าจะพยายาม.. ” 

   แล้วภาพที่ปรากฎในอากาศก็หายไปทันที

   “ บุตรแห่งสงคราม ? ” ฟาร์คัสพูดทวนออกมาด้วยน้ำเสียงงุนงง

   เมเออร์เบิกตากว้างเหลือบมองเอลล์ที่ยิ้มจางๆ

   เอลล์คลี่ยิ้มที่ดูเหมือนกับกำลังร้องไห้ ข้าพอจะเดาอะไรลางๆ ได้แล้ว “ ข้าจะเล่าตำนานของดินแดนภูติแห่งเจ้าฟัง ฟาร์คัส ” มือของเอลล์สั่นน้อยๆ
   
ลุกซ์ถลาเข้าไปหาเอลล์ด้วยความตกใจเมื่อเห็นร่างตรงหน้าเหมือนกับกำลังจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง ถึงแม้จะไม่เห็นแววตาแต่การที่อยู่กับใครมาเป็นเวลานานทำให้รู้ว่าเอลล์กำลังร้องไห้อยู่ภายใน

   “ อย่าขัดจังหวะข้าสิ ลุกซ์ ” เอลล์แตะลุกซ์เบาๆ เพื่อไม่ให้คว้าตัวเองไปกอด และปล่อยให้ลุกซ์กอบกุมมือสั่นๆ ของตัวเองแทน

“ ตั้งใจฟังให้ดี ฟาร์คัส ”

   “ อืม ” ฟาร์คัสขานตอบ
   
ในอดีตครั้นที่ปีศาจยังคงทำศึกสงครามบนแผ่นดินภูติราวกับว่าตนเป็นเจ้าของดินแดน

ซึ่งในตอนนั้นราชินีภูตก็ได้ให้กำเนิดบุตรพอดี

เวลานั้นนับว่าเป็นเวลาที่ทั้งสมควรและไม่สมควร

เวลาที่สมควรคือบุตรผู้นั้นจะเป็นคนยุติสงครามนี้ลง
 
เวลาที่ไม่สมควรคือเวลานั้นไม่เหมาะสมกับการเติบโตในดินแดน
   
บุตรผู้นั้นเกิดมาพร้อมกับดวงตาสีเลือดแปลกจากภูตทั่วไป
   
การศึกยังคงดำเนินต่อไปอีกหลายปี

จนกระทั่งบุตรผู้นี้เติบโตและกลายเป็นราชาแทนผู้เป็นพ่อ
   
เดิมบุตรผู้นี้จะใส่หน้ากากปิดบังใบหน้ามาตลอดเพื่อป้องกันการลอบโจมตี
   
เมื่อบุตรผู้นั้นถอดหน้ากากออก
   
ดวงตาข้างสีแดงกลับดูกระหายเลือดขึ้นมาทันทีที่เห็นปีศาจ
   
ชาวปีศาจที่สบตามองล้วนแต่กลายเป็นปีศาจคุ้มคลั่งไม่มีสติทำลายทุกสิ่ง
   
ราชาภูตผู้มีดวงตากระหายเลือดที่แม้จะทำลายปีศาจอย่างบ้าคลั่ง
   
แต่ฆ่าไปเท่าไรก็ดูจะไม่มีผลอะไร ปีศาจที่คลุ้มคลั่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
   
สุดท้ายราชาภูตก็ปลิดชีวิตตัวเองลงด้วยดาบของตัวเอง
   
เพราะรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถทำให้สงครามยุติดังความหวังของท่านพ่อที่ล่วงลับ
   
ผู้ที่ขึ้นรับตำแหน่งแทนคือผู้เป็นน้อง
   
มิลแลนด์ ผู้สร้างกำแพงไม้เลื้อยที่แข็งแกร่งที่สุด
   
สิ่งที่ยังกล่าวขานกันต่อมาคือ
   
บุตรแห่งราชาผู้มีดวงตาสีแดงกับสีอำพัน

ดวงตาสีอำพัน แทนกำลังที่ล้นเหลือ

ดวงตาสีแดงโกเมน แทนความกระหายเลือด

หากเจ้าได้พบเห็นอีกครั้ง

จงกล่าวขานว่าผู้นั้นคือ บุตรแห่งสงคราม
   
เอลล์เล่าจบก็ยิ้มออกมา “ การมองเห็นของข้าคงไม่จำเป็นแล้วล่ะ ”
   
ลุกซ์คว้าเอลล์มากอดแน่นหวังจะซึมซับความเศร้าโศกของเอลล์ “ มันก็แค่ตำนานงี่เง่าน่าเอลล์ ข้าเห็นดวงตาเจ้าก็ไม่ได้คลุ้มคลั่งนี่ ”
   
เมเออร์เงียบไปสักพัก “ ขอเพียงเจ้ามองไม่เห็นผู้อื่นมันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก เอลล์ ” พ่อพยายามเต็มที่แล้วเอลล์.. ท่านแม่ของเจ้าก็ด้วย..
   
เอลล์สั่นไปทั้งตัวพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะกลั้นน้ำตาของตัวเอง “ ข้าอยากมองเห็น ! ท่านไม่รู้หรอกว่าการใช้ชีวิตกับสิ่งที่ข้าคุ้นเคยด้วยแต่มองไม่เห็นมันเจ็บปวดขนาดไหน  ” เอลล์ลืมตาขึ้นมา “ ข้าพยายามหาวิธีมองเห็นอีกครั้ง และข้าก็ใกล้ทำมันได้ ”  เอลล์เริ่มสูดหายใจลึกกลืนความอึดอัดในอกเพื่อที่จะพูดประโยคต่อไป “ แต่ข้าเป็นบุตรแห่งสงคราม.. ถ้าข้ามองเห็นก็เท่ากับว่าข้าจะทำให้ดินแดนภูตพินาศ ผู้ที่ไม่ใช่ชาวภูตจะคลุ้มคลั่งและทำลายดินแดนของข้า ”
   
ลุกซ์กอดร่างของราชาภูตที่เดิมทีแข็งแกร่งแต่ตอนนี้กลับอ่อนแอยิ่งกว่ารู้ความจริงกับพอยซ์ ร่างของเอลล์เหมือนกับอ่อนปวกเปียกจนยืนไม่อยู่
   
เอลล์พูดเสียงสั่น “ ข้าควรเลือกอะไรกันแน่.. .ระหว่างความเห็นแก่ตัวของข้ากับดินแดนภูต ” เมื่อพูดจบเอลล์ก็หลับตาลง “ ข้าเลือกไม่ได้.. ” พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
   
เมเออร์เม้มปากพูดอะไรไม่ออก ใบหน้าที่เย่อหยิ่งอยู่เสมอตอนนี้ปรากฎความเสียใจออกมา

“ ตอนแรกข้าไม่เชื่อในตำนานบ้าๆ นี่.. แต่พอดูความทรงจำของท่านพ่อ.. ” เอลล์ฝืนยิ้ม “ ข้าเชื่อแล้วว่ามันคือความจริง.. ”

----------------------
แวะมาลงความทรงจำค่ะ  o22
   
   
   

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 18 23 มิ.ย 58
« ตอบ #139 เมื่อ: 23-06-2015 22:19:57 »





ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 18 23 มิ.ย 58 40 %
«ตอบ #140 เมื่อ23-06-2015 23:02:35 »

 :ling2: :ling2:

เป็นเพราะเอลล์มีพลังมากเกินไปเลยไปกระตุกต่อมของปีศาจหรือยังไงนะ

ใส่คอนแทคซะเอลล์

ออฟไลน์ Rambluesky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-3
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 18 23 มิ.ย 58 40 %
«ตอบ #141 เมื่อ24-06-2015 20:58:19 »

^
^
^
 :z13:

จิ้มๆ

ใส่คอนแทค 555555555  :laugh:


รออ่านต่อนะครับ  :L1: :pig4:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 18 23 มิ.ย 58 40 %
«ตอบ #142 เมื่อ24-06-2015 21:36:38 »

งื้อออออ สงสารนุ้งเอลล์
จะมีทางไหนช่วยได้มั่งน๊าาา

ออฟไลน์ yamanaiame

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 18 23 มิ.ย 58 40 %
«ตอบ #143 เมื่อ24-06-2015 22:49:41 »

ขอโหวด  สงสารดัฟ  แทนได้มะ  ใครๆก็ไม่สนใจดัฟเลยย

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
-- 60 % --

“ เอลล์ บางทีเจ้าอาจจะไม่ได้เป็นบุตรแห่งสงครามนะ ” ลุกซ์ลูบหัวเอลล์อย่างอ่อนโยน “ ถ้าข้าจะบ้าคลั่ง ก็คงจะคลั่งรักกับเจ้าไงล่ะ ” ในประโยคหลังลุกซ์พูดดังเพียงกระซิบ

เรียกให้ใบหน้าของเอลล์ขึ้นสีแต่ก็ยังปรากฎร่องรอยความเสียใจอยู่ดี

คาร์บิลัสที่เงียบมาตลอดปริปากพูดบ้าง “เรื่องนี้มันขึ้นอยู่กับเจ้าว่าเจ้าจะเลือกอะไร ระหว่างดินแดนของเจ้าหรือความต้องการของเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะเลือกอะไร สิ่งนั้นย่อมส่งผลต่อตัวเจ้าเองทั้งนั้น ข้าบอกไม่ได้หรอกว่าเจ้าควรเลือกอันไหน  ”

ดัฟฟ์ที่ปกติไม่ค่อยทำอะไรนอกจากกินยังน้ำตาคลอตามเอลล์ร้องไห้งอแง “ เอ้ว เป็นไรง้า เดี๋ยวดัฟฟ์จะกินมันให้น้า ! ” ดัฟฟ์ถลาเข้าไปเกาะขาเอลล์
   
เอลล์กระตุกยิ้มบางลูบหัวดัฟฟ์ “ ไม่มีอะไรหรอกน่า ข้าแค่แสบตาเท่านั้นแหละ ดัฟฟ์ ” ถึงจะพูดอย่างนั้น เอลล์ในตอนนี้ยังยืนอย่างมั่นคงแบบปกติยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำ

   ฟาร์คัสยืนเงียบอย่างทำอะไรไม่ถูก เดิมทีฟาร์คัสไม่ใช่คนที่ปลอบคนอื่นเก่งมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แล้วยิ่งสถานการณ์แบบนี้อีก ทำให้ฟาร์คัสไม่ได้พูดอะไรออกมาทั้งสิ้นแต่แววตาฉายชัดซึ่งความเห็นใจในเอลล์ ข้าเข้าใจดีว่าการเป็นราชาหรือทายาทของราชานั่น แบกอะไรไว้มากมายเหมือนกับกระเป๋าหนักๆ ที่เจ้าต้องเอาใจใส่และดูแลมันให้ดี เพราะถ้าวันใดเจ้าทำมันหลุดมือเวลานั้นก็หมายถึงความพินาศของดินแดนเช่นกัน

   “ เอลล์ ” เมเออร์เรียกลูกของตัวเองเสียงเบา “ เจ้าอยากมองเห็นงั้นเหรอ .. ” ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจแต่เมเออร์ก็ยังถามมันออกมา
   
“ ข้าอยากมองเห็น.. ท่านพ่อ ” เอลล์ตอบเสียงเบา

   เมเออร์หลับตาลงอย่างครุ่นคิด เป็นเวลานานที่ข้าปกปิดเรื่องนี้ไม่ให้ใครรู้ว่าบุตรของข้ามีลักษณะเช่นเดียวกับบุตรแห่งสงคราม มีเพียงส่วนน้อยที่ข้าไว้ใจเท่านั้นที่อนุญาตให้รู้สิ่งนี้ เวลานี้บุตรของข้ากำลังร้องไห้ออกมาอย่างอ่อนแอเพียงเพราะต้องการที่จะมองเห็น พ่อขอโทษ.. เอลล์ เมเออร์ย่อมรู้ดีว่าเอลล์ไม่ได้ตาบอดมาตั้งแต่เกิด เพราะผู้ที่สาปเอลล์ก็คือแม่ของเอลล์นั่นเอง.. 

ทำไมข้าจะไม่รู้ว่า บุตรของข้าต้องการจะมองเห็นแค่ไหน บ่อยครั้งที่ข้าเห็นเอลล์พยายามใช้ดวงตาที่ไร้ประกายใดๆ จับจ้องที่ใดที่หนึ่งเป็นเวลานาน มันเป็นสิ่งที่บีบหัวใจเมเออร์ไม่น้อย  เมเออร์เลือกที่จะปฏิบัติต่อเอลล์อย่างเข้มงวดเพื่อให้อีกฝ่ายเข้มแข็งขึ้นมา

   แต่ก็ดูเหมือนว่าสร้างได้เพียงเปลือกนอกเท่านั้น “ ข้าจะบอกวิธีถอนคำสาปกับเจ้า ” นี่น่าจะเป็นสิ่งที่ข้ามอบให้เอลล์ได้ในฐานะของพ่อคนหนึ่ง.. ถึงแม้ข้าจะเป็นคนคิดเรื่องคำสาปก็ตาม

   “ ท่านเป็นสาปข้างั้นเหรอ ท่านพ่อ.. ” น้ำเสียงของเอลล์ไม่มีความดีใจปนอยู่สักนิด

   “ ไม่ใช่ข้าหรอกเอลล์ ” เมเออร์ลืมตาและยิ้ม “ แม่ของเจ้าต่างหากเอลล์ ”

   เอลล์เบิกตากว้างแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมามือข้างที่เกาะตัวลุกซ์ไว้กำแน่น  ท่านแม่ของข้าเสียไปตอนที่ข้าเกิดมาได้ไม่กี่วัน เดิมทีข้าคิดว่าท่านเสียเพราะร่างกายไม่แข็งแรงตามที่ท่านพ่อได้บอกไว้ การสาปผู้อื่นนั้นย่อมใช้พลังเวทและพลังชีวิตไม่น้อย
   
นั่นก็หมายความว่า ที่ท่านแม่เสียก็เพราะสาปข้านั่นเอง
   
เอลล์ตัวสั่นอย่างเห็นได้ชัดจนดัฟฟ์ตกใจ

   “ เอ้ว อย่าร้องไห้ง้า เดี๋ยวดัฟฟ์จะกินน้ำตาน้า ! ” ดัฟฟ์กัดแง่มเข้าที่ชายเสื้อของเอลล์เพื่อประท้วง

   “ ที่แม่ของเจ้าสาปเจ้า ย่อมมีเหตุผลเอลล์ ” เมเออร์รีบพูดต่อ กลัวว่าหากพูดช้าไปกว่านี้เอลล์อาจจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง “ ดวงตาของบุตรแห่งสงคราม ถ้าหากดวงตาสีโกเมนกลายเป็นสีเข้มส่อประกายระริกแสดงอารมณ์กระหายเลือดออกมา ผู้ที่บุกรุกที่ได้สบตามองจะบ้าคลั่ง ข้าไม่อยากให้เจ้ามีจุดจบเช่นเดียวกับบุตรแห่งสงครามหรอกนะเอลล์ ” เมเออร์พยายามกระเสือกกระสนออกจากพันธนาการของคาร์บิลัส

   คาร์บิลัสสะบัดมือเบาๆ สิ่งใช้พันธนการก็สลายหายไปอย่างรวดเร็ว

   เมเออร์ในตอนนี้ไม่ได้สนใจใครทั้งนั้นนอกจากบุตรของตัวเอง ทั้งลุกซ์ คาร์บิลัส ไม่ว่าใครก็ตามก็ไม่ได้รับความสนใจ สิ่งที่เมเออร์เห็นในยามนี้คือสีหน้าเสียใจของผู้เป็นราชาแทนตัวเองในปัจจุบัน เมเออร์เดินเข้าไปใกล้เอลล์ใช้ฝ่ามือหยาบของตัวเองลูบหัวเบาๆ
   
เหมือนกับครั้งที่เอลล์ยังเด็ก

   “ การแก้ปัญหาของข้ากับแม่ของเจ้าไม่ใช่สิ่งที่ดีต่อเจ้านัก เพราะเจ้าไม่ได้เป็นคนเลือก พ่อเลือกทางที่คิดว่าดีที่สุดให้เจ้า การที่เจ้าตาบอดจะให้ดวงตาของเจ้าทำให้ใครบ้าคลั่งไม่ได้ ถ้าหากพ่อไม่สาปเจ้าให้เจ้าสวมหน้ากากตลอดเวลาแทน หากเป็นแบบนั้นย่อมมีสักวันที่ลูกพลาดทำหน้ากากหล่น หากดวงตาของเจ้าสามารถทำให้ปีศาจบ้าคลั่งได้จริง สุดท้ายเจ้าอาจจะไม่เหลือชีวิตรอด ” 
   
เอลล์ค่อยๆ หยุดตัวสั่นนิ่งฟังอย่างตั้งใจ

   “ พ่อขอโทษ.. ที่ทำให้เจ้าตาบอด เอลล์ ” เมเออร์ผละมือออกจากหัวของเอลล์ “ ชีวิตของเจ้า เจ้าควรจะเป็นผู้เลือกเอง ไม่ใช่พ่ออย่างข้า ”  เมเออร์ก้าวถอยห่างออกจากเอลล์ ดวงตาของเมเออร์หรี่ลงเล็กน้อยเมื่อเพิ่งรู้สึกตัวว่าเอลล์มีนักโทษที่หนีออกจากคุกคอยประคองตัวอยู่

   เมเออร์คลี่ยิ้มจาง นั่นสินะ.. ที่เอลล์กล่าวไว้ อยากเห็นคนรัก ดูเหมือนว่าระหว่างที่ข้าเผลอนักโทษมังกรผู้นี้กับเอลล์มักจะแอบเจอกัน เอาเถอะ นั่นเป็นสิทธิ์ของลูกข้า จะทำอะไรก็ทำไปเถอะ ข้าไม่อยากจะทำให้เอลล์ต้องเสียใจอีกครั้งแล้ว “ คำสาปของเจ้านั้นรุนแรงเพราะสายเลือดเดียวกันเป็นผู้สาป วิธีแก้ก็ต้องใช้สิ่งเดียวกันเช่นกัน ” เมเออร์ไม่กล่าวอะไรกับความสัมพันธ์ของเอลล์และลุกซ์ “ การแก้คำสาปบทนี้เจ้าต้องใช้เลือดของราชาที่มีในตัวเจ้าผสมรวมกับเลือดของต่างเผ่าที่มีพลังมากทิ้งไว้หนึ่งคืนแล้วร่ายเวทบทแห่งแสงสว่างและความมืดมิด ”

   “ แค่นี้งั้นเหรอ ? ” ลุกซ์ถามแทนเอลล์

   เมเออร์ยิ้มเศร้าๆ “ ใช่ แต่ที่ยากมันก็ตรงที่ผู้ที่ต้องคำสาปเป็นคนร่ายบทเวทเองนั่นแหละ ” เมเออร์ถอดแหวนข้อมือของตัวเองออกมากำแน่น มีแสงสีทองทอวาปขึ้นมาจางๆ แหวนวงเล็กของเมเออร์ได้กลายเป็นคัมภีร์บางอย่างที่ดูลึกลับแม้หน้ากระดาษจะดูซีดจางไปบ้างแต่ก็ยังคงทอความขลังของมัน แต่สิ่งที่ประหลาดก็คือมีเถาไม้เลื้อยเกี่ยวพันกันอย่างหนาแน่นราวกับว่าไม่ประสงค์ให้ผู้ใดอ่าน
   
“ เจ้าเห็นไม้เลื้อยนี่หรือไม่ ? ” เมเออร์ถามสั้นๆ โดยไม่ต้องการคำตอบ “ มันเป็นสิ่งที่ใช้ป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่มีสายเลือดของราชาภูตเปิดมันได้ ”

   “ ก็แค่ให้เอลล์ใช้เลือดตัวเองหยดใส่มันก็น่าจะใช้ได้แล้วนี่ ท่านเมเออร์  ” ลุกซ์ถามด้วยสีหน้างงๆ
   
“ เจ้าสามารถเปิดมันได้แต่ไม่สามารถอ่านมันได้หรอกนะ อักษรเวทจะปรากฎให้อ่านก็ต่อเมื่อเจ้ามีสายเลือดของราชาภูตซึ่งมันก็จะปรากฎให้เห็นแค่คนเดียวเท่านั้น ”

   ลุกซ์แสดงสีหน้าเหยเก ข้าจะไปมีสายเลือดของเอลล์ได้ยังไงล่ะ “ แล้วทำไมท่านถึงไม่ถอนคำสาปให้เอลล์ เองล่ะ ”
   
เมเออร์ใช้มือนวดขมับตัวเอง “ ข้าใส่ข้อแม้เข้าไปอีกก็คือต้องเป็นสายเลือดของเอลล์เท่านั้น  ” เพราะยามนั้นข้าไม่ต้องการให้เอลล์สามารถมองเห็นได้และสามารถคำสาปนี้ได้ แต่ตอนนี้กลับต่างกันโดยสิ้นเชิงเมื่อเอลล์ที่มักจะยิ้มจางๆ กลับร้องไห้ออกมาจนตัวโยน ทำให้เมเออร์ต้องเปลี่ยนความคิดและปวดหัวกับข้อแม้ตัวเองแทน เพราะต่อให้เอลล์เปิดอ่านได้ก็จริงแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมองเห็นข้อความบนคัมภีร์

   ซึ่งตอนนี้ข้าก็ยังไม่รู้ว่าต้องทำเช่นไร
   
ดูเหมือนว่าคำสาปของข้าจะร้ายแรงกว่าที่คิดไว้มาก

   มันกระทบถึงกระทั่งการถอนคำสาป
   
ถึงแม้ข้ามีเวลาใคร่ครวญมากกว่านี่ ข้าก็เลือกวิธีนี้อยู่ดีเพื่อบุตรของข้าจะได้ไม่มีจุดจบเป็นการจากลาชั่วนิรันดร์เช่นเดียวกับบุตรแห่งสงคราม
   
เอลล์กลับมายืนตรงอย่างมั่นคงอีกครั้งแต่มือก็ยังถูกลุกซ์กุมอยู่ไว้หลวมๆ “ แต่ข้าก็มองมันไม่เห็นอยู่ดีนะ ท่านพ่อ.. ”
   
ดัฟฟ์เมื่อเห็นเอลล์กลับมามั่นคงเหมือนเดิมก็กระโดดโหยงแหยงไปรอบๆ พลางใช้สมองจิ๋วๆ คิดเรื่องที่ได้ยินจากพวกผู้ใหญ่คุยกัน สายเลือดเดียวกัน สายเลือดเดียวกัน อ๋า ข้ามีท่านแม่เป็นปีศาจอีกาใจร้ายกับท่านพ่อที่เป็นปีศาจแพะบ้าชอบเตะข้า ข้าไม่ชอบเลย ! ทำไมแพะข้าสั้นตัวเมื่อกี้ถึงได้วิ่งเร็วกว่าข้าอีก ต่อไปข้าจะวิ่งให้เร็วกว่าเดิม เพื่อที่จะได้ไปถึงแม่ได้ไวกว่าท่านพ่อ !

   คาร์บิลัสเหลือบมองอีกาหนุ่มที่ยืนทำสีหน้าหนักใจแทนสีหน้าปกติที่ติดจะเย็นชา ข้าอยากให้ฟารคัสห่วงข้าแบบนี้บ้างจัง  มันคงจะดีน่าดูเลยสินะ ถ้าฟาร์คัสไม่ถีบต่อยกระทืบข้าเหมือนทุกทีเวลาที่ข้าแค่แอบมือไวนิดหน่อย ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้สถานการณ์กำลังเคร่งเครียดป่านนี้ข้าอาจมือไวใส่ฟาร์คัสอยู่ ฮ่าๆ

   ดูเหมือนว่าคาร์บิลัสจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับเหตุการณ์เท่าไหร่ เพียงแค่ให้คำแนะนำง่ายๆ กับสองพ่อลูกเท่านั้น สิ่งที่อยู่ในหัวของคาร์บิลัสส่วนใหญ่จะมีแค่ฟาร์คัส ฟาร์คัส ฟาร์คัส เต็มไปหมด ไม่แน่ใจเพราะทำงานหนักมากเกินไปหรืออะไร

   “ ถ้าจะเป็นสายเลือดเดียวกัน ” ดัฟฟ์หยุดกระโดดยืนนิ่งๆ ใช้ดวงตาสีแปลกของตัวเองมองลุกซ์กับเอลล์ “ ก็แต่งงานกันสิ แก๊ซ !  ดัฟฟ์อยากกินขนมชาวภูตอีก ”

   เอลล์สะดุ้งโหยง

   ลุกซ์ยิ้ม

   เมเออร์ขมวดคิ้วแน่น

   คาร์บิลัสหันไปยิ้มกรุ้มกริ่มใส่ฟาร์คัส

   ฟาร์คัสมองโกรธๆ กลับ
   
มันใช่เวลามาเล่นไหม ! คาร์บิลัส

   คาร์บิลัสยักไหล่ยิ้มๆ
   
แล้วไงล่ะ ?
   
เจ้าจะลงโทษข้างั้นเหรอ ฟาร์คัส
   
ฟาร์คัสขบกรามหันหน้าหนีแทนการตอบราชาปีศาจงี่เง่า
   
เมเออร์ถอนหายใจออกมา ถึงข้าเลือกที่จะไม่ก้าวก่ายเอลล์ในเรื่องของคนรัก แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะถึงขั้นแต่งงาน “ พิธีกรีดเลือดสาบานสินะ ที่เจ้ามังกรนี่จะพูด ” 

   “ แต่งงาน.. ” เอลล์ครางออกมาอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ถึงข้าจะรักลุกซ์ก็จริงแต่ช้าก็ไม่ได้คิดว่าจะได้แต่งงานกับอีกฝ่าย

   “ แต่งก็แต่งสิ ข้าไม่ขัดข้องอะไรอยู่แล้ว ” ลุกซ์ตอบเหมือนกับกำลังพูดเรื่องง่ายๆ แต่ดวงตาสีเพลิงทอประกายดีใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด

   “ พรุ่งนี้เป็นคืนวันเพ็ญ ข้าว่าน่าจะเหมาะกับการแต่งงานนะ ” คาร์บิลัสพูดขึ้นซึ่งไม่แน่ใจว่ากำลังบอกลุกซ์หรือฟาร์คัสกันแน่

   ฟาร์คัสไม่สนใจ
   
ส่วนเมเออร์นิ่งเงียบไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ ออกมา

   “ ขาหนมมมมมม ” ดัฟฟ์กระดี้กระด้าทันทีที่รู้ว่าจะมีการแต่งงาน

   ฟาร์คัสเหลือบมองดัฟฟ์ด้วยแววตาติดจะสงสาร “ ข้าคิดว่าแค่เอาพิธีกรีดเลือดมาก็น่าจะเพียงพอแล้วคงไม่มีงานฉลองหรอก ดัฟฟ์ ”
   
ดัฟฟ์น้ำตาคลอเตรียมจะร้องไห้โฮ

   “ โว้ย ! จะร้องอะไรนักหนา เดี๋ยวข้าไปหาขนมให้เจ้าเอง ไอ้มังกรบ้า ! ” คาร์บิลัสหงุดหงิดตะคอกใส่ดัฟฟ์

   ดัฟฟ์ไม่มีทีท่าว่าจะกลัวแต่อย่างใด “ ฆ่าบี้ลัส ใจดีที่สุดเลยยยย ” แล้วยังถลาเข้าไปหาคาร์บิลัสอย่างผิดวิสัยปกติ เพราะค่าของขนมได้บังตาดัฟฟ์ไปแล้ว
   
คาร์บิลัสเตรียมจะถีบมังกรที่พุ่งเข้าใส่
   
แต่ฟาร์คัสไวกว่าคือยื่นขาไปสกัดดัฟฟ์ไว้จนกลิ้งขลุกๆ ไปหาเอลล์แทน
   
ดัฟฟ์เด้งตัวขึ้นปัดเศษดินทรายออกจากตัวและเงยหน้ามองเอลล์ที่ตอนนี้ดูเหมือนโล่งใจขึ้นมานิดหน่อยสีหน้าเดิมที่ร้องไห้ตอนนี้ได้กลายเป็นปกติแล้ว “ เอ้ว ต้องให้ดัฟฟ์กินขาหนมน้า ! ”

   “ อืม ” เอลล์ยิ้มจางๆ ไม่แน่พรุ่งนี้ข้าอาจจะมองเห็นก็ได้ แววตาสะท้อนความคิดลุ่มลึกออกมา

   ชาวดินแดนภูตเอ๋ย..
   
ให้อภัยความเห็นแก้ตัวของข้าเถอะ
   
ข้าขอโทษ..
   
ถ้าหากดวงตาของข้าทำให้ปีศาจคลุ้มคลั่งจริง
   
ข้าจะยอมใช้สละชีวิตนี้เพื่อสร้างกำแพงป้องกันดินแดนของเราอีกครั้ง
   
ข้าสัญญา..

-----------------

 :hao5: หวามาช้ามากเลย ขอโทษค่ะ TT

 :L1: ขอบคุณทุกคอมเมนต์ค่ะ  :man1:

--------------------
ช่วงตอบเม้น  :mc4:

คุณ บลูเชอรี่ / คุณ แรมบลูสกาย : ให้เอลล์ใส่คอนแทกเลยเหรอคะ 55555555 ใส่คู่กับลุกซ์เลย

คุณ ลิซซี่ (? ) : มีทางช่วยค่ะ  :hao6:

คุณ ยามาไนอเมะ : เพิ่มบทให้ดัฟฟ์แล้วค่ะ 55555555  :mc4:
   
 
   


   
   
 
   
   
   
   

   
   
   

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
รอดูว่าจะแก้ให้เอลมองเห็นได้ยังไง
สู้ๆ นะเอลลล

ส่วนดัฟฟฟฟฟฟ เอะอะกินอย่างเดียวเลยนะลูกเอ้ยยย
ขอมาเลี้ยงที่บ้านได้ไหมเนี่ย ฮ่าาาาา

ออฟไลน์ Rambluesky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-3
รอติดตามนะครับว่าเรื่องจะเป็นอย่างไรต่อไป ^^  :L1: :pig4:

ลุ้นๆ  :ling1:

ออฟไลน์ yamanaiame

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
ดัฟดัฟดัฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ อั๊ยสสดัฟน่ารักทากมาย 

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
ต้องเข้าหอป่าว อ้าวว คาร์บิลัส ลุกซ์นำแล้วนะะะ
รอตอนต่อไปค่า

ออฟไลน์ Hang

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ที่ไม่เม้นไม่ใช่ว่าไม่ตามนะแต่เล่นในโทร. คอมพัง...55 จะยังไงก๋ตามจนกว่าจะจบ(มั้ง) ล้อเล่น :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด