Ominous Bird นกบอกลาง [จบแล้ว]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ควรจะมีภาคต่อไหม ?

มีก็ดี :D
34 (82.9%)
ไม่มี จบแค่นี้ก็ฟินแล้ว ~
3 (7.3%)
มีก็ได้ไม่มีก็เฉยๆ
4 (9.8%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 41

ผู้เขียน หัวข้อ: Ominous Bird นกบอกลาง [จบแล้ว]  (อ่าน 69110 ครั้ง)

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 58 16 ต.ค 59 p.17
«ตอบ #480 เมื่อ16-10-2016 23:51:37 »

โถ่ดัฟเอ้ยยยย คิดแต่เรื่องกินจริงๆ 555555

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 58 16 ต.ค 59 p.17
«ตอบ #481 เมื่อ17-10-2016 20:07:11 »

ดัฟน้อ กินมาก่อนตลอด

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 59 25 ต.ค 59 p.17
«ตอบ #482 เมื่อ25-10-2016 23:21:32 »

ตอนที่ 59

เพราะดัฟฟ์กับนาซัสเข้าเรียนช้าจึงต้องมานั่งฟังวิทยากรที่ได้รับเชิญมาพูดเรื่องประวัติศาสตร์ดินแดนปีศาจ ทำให้ร่างสองพี่น้องจึงมายืนงงกันอยู่ในห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีนักเรียนปีศาจเด็กๆ นั่งกันเต็มไปหมดซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็เป็นนักเรียนใหม่ที่ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับดินแดนปีศาจน้อยมากทั้งนั้น

ดัฟฟ์ชะเง้อคอพยายามมองหาที่นั่ง "นาซัส เจ้าว่ามันจะมีที่ให้เจ้ากับข้าไหมง้า แก๊ซ"

นาซัสที่ป้องมือหาอยู่เหมือนกันตอบตามความเป็นจริง "ข้าว่าเราได้นั่งพื้นแน่เลย.."

ปีศาจเด็กตนอื่นๆ ที่อยู่ห้องปกติต่างพากันกระซิบกระซาบกันอย่างสนุกสนาน เมื่อมีเด็กห้องพิเศษที่มีกิตติศักดิ์อันเลื่องชื่อต่างๆ มากมายมาปรากฎตัวในห้อง

"นี่ๆ เจ้ารู้เปล่า พวกเด็กห้องพิเศษเป็นเด็กที่โง่และเรียนห่วยที่สุดล่ะ" ปีศาจตนหนึ่งกล่าวกับเพื่อนขณะที่เหลือบมองท่าทีลุกลี้ลุกลนหาที่ของดัฟฟ์ "คงจะจริงแน่เลย ฮ่าๆ"

"จริงดิ แต่แม่ข้าบอกว่ามีแต่พวกรวยๆ กับพวกมีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่นนะถึงจะได้อยู่ห้องนี้" 

ปีศาจตนเดิมขมวดคิ้วมุ่นส่ายนิ้วไปมา "รวยแล้วไง โง่ก็คือโง่สิ เจ้าจำไม่ได้เหรอที่ท่านผู้อำนวยการอะไรนั่นส่งเจ้าพวกห้องพิเศษไปป่าเฟอร์นอสนะ!"

"อ้อ ใช่ๆ ข้าจำได้แล้ว แต่พวกเขาก็กลับมาอย่างปลอดภัยนี่นา"

"แล้วไงใครสน ว่าแต่เจ้าพวกนี้มายุ่งอะไรกับงานนี้ ฟังแล้วจะเข้าใจเหรอ ฮ่าๆ"

ปีศาจตนนั้นยังคงพูดไปเรื่อยเปื่อยอย่างสนุกปากซึ่งก็มีคนมามุงพูดคุยส่งเสียงอือออเห็นด้วยกันครึกครื้นโดยไม่รู้ตัวสักนิดว่าข้างหลังมีปีศาจตนหนึ่งพยายามควบคุมอารมณ์หงุดหงิดอยู่

"พนันได้เลยว่าเจ้าอ้วนนั้นต้องหลับตั้งแต่อาจารย์พูดประโยคแรก ฮ่าๆๆ"

"ข้าก็ว่างั้น เจ้าว่าไอ้อ้วนนั้นเป็นปีศาจอะไร? ข้าว่าหมูแน่เลย อ้วนขนาดนี้"

"เจ้าก็พูดไป ฮ่าๆ มังกรดำต่างหากล่ะ ข้าเคยเห็นเจ้านั่นแปลงเป็นมังกรอยู่"

"บ้าไปแล้ว อย่างเจ้าอ้วนนั้นเป็นมังกรดำแล้วข้างๆ เป็นอะไร? มังกรแสงงั้นเหรอ"

"ไม่รู้สิ อาจจะใช่ล่ะมั้ง แลดูหน้าโง่เหมือนกัน"

เส้นสติขาดผึงก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงตวาดดังลั่นห้องโถง

"หุบปากไปซะ!!"

เกิดแสงสว่างวาบภายในห้องจนตาพร่า

"โอ้ย ตาข้า! ร้อนนน" ปีศาจขี้นินทาร้องลั่นน้ำตาไหลพรากๆ เมื่อรู้สึกโดนอะไรแผดเผาร่างกาย

"เจ้า เจ้าทำอะไรเพื่อนข้า!" ปีศาจตนอื่นชี้หน้าต้นเหตุด้วยสีหน้ากล้าๆ กลัวๆ

หากแต่ปีศาจที่เป็นต้นเหตุก็ยังคงใบหน้านิ่งงันไร้อารมณ์ได้อย่างเหนียวแน่นแม้ในหัวจะเกิดคำสบถด่ามากมายซึ่งถ้าหากพวกเด็กๆ ได้ยินคงต้องร้องไห้หาแม่แน่นอน

"อ้ะ ฟรังงงงงงงงงงงงงงก์!!"

ดัฟฟ์เป็นหนึ่งในปีศาจที่สะดุ้งกับเสียงตะโกนลั่นแต่พอรู้ว่าเป็นใครก็ร้องลั่นบ้าง ไม่รอช้าดึงแขนนาซัสรีบวิ่งไปหาฟรังก์ที่รอบข้างถูกเว้นไว้หนึ่ง เหมือนถูกรังเกียจยังไงยังงั้น

"ข้านั่งด้วยนะ! แก๊ซ" ดัฟฟ์ยิ้มจนตาหยีซึ่งกริสเซลบอกว่ามันชวนให้ใจอ่อนมาก ดัฟฟ์จึงใช้รอยยิ้มนี้ในการอ้อนขอสิ่งที่ต้องการบ่อยๆ

นาซัสไม่รอคำตอบอะไรทิ้งตัวลงนั่งไปก่อนแล้วเงียบๆ

เจ้าของชื่อเหลือบมองนิ่งๆ "อืม" ก่อนจะหันไปมองพวกปีศาจปากจัดเมื่อกี้ที่ตอนนี้นั่งสงบเสงี่ยมกันที่เก้าอี้แล้วเพราะอาจารย์วิทยากรที่ว่ามาถึงแล้ว

"พวกเจ้าคิดว่าตัวเองฉลาดมาก? หึ เจ้าสามารถถูกเจ้าอ้วนที่เจ้าว่าฆ่าได้โดยไม่กระพริบตาด้วยซ้ำ ไม่เคยได้ยินรึไง เพลิงกาฬ ถ้าเจ้าอยากลองก็พูดอีกสิ"  แม้เจ้าตัวจะพูดด้วยสีหน้านิ่งสนิทแต่ในหัวกลับคิดไปเยอะแยะมากมาย

บัดซบ ข้าจะพูดอะไรนักหนา? นี่ไม่ใช่ตัวข้าสักนิด นี่มันเรื่องของคนอื่น ข้าไม่จำเป็นต้องใส่ใจด้วยซ้ำไป ไอ้อารมณ์หงุดหงิดงุ่นง่านนี่น่ารำคาญชะมัด ทำไมข้าต้องรู้สึกด้วยนะ ให้ตายสิ ถึงข้าอยากจะเข้าใจอารมณ์คนอื่นแต่ก็ไม่ได้หมายความข้าอยากสับสนในตัวเองด้วยนะ

ปีศาจที่โดนคาดโทษส่วนใหญ่ขนลุกเกรียวแต่ก็ยังไม่พอใจอยู่ดีโดยเฉพาะปีศาจปากจัดตนนั้นพออาการแสบร้อนทุเลาลงก็เปิดปากต่อทันที 

"ฮึ่ย เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน?"

"เจ้าคุยกันใครน่ะ แก๊ซ" ดัฟฟ์ยื่นหน้าไปหาฟรังก์ที่ตอนนี้หน้านิ่วคิ้วขมวดจนน่ากลัว

"เปล่า" ฟรังก์ไหวไหล่ตัดสินใจเลิกสนใจเรื่องไร้สาระทั้งหมด

ดัฟฟ์ตั้งใจจะพูดอะไรต่อแต่พอเห็นอาจารย์จ้องเขม็งมาก็ได้แต่หดคอไปนั่งที่เดิมแล้วนั่งอย่างสงบเสงี่ยม

ผู้ที่ยืนอยู่บนพื้นยกสูงนั้นเป็นชายร่างโปร่งไม่สูงมากนักมีหูกับหางจิ้งจอกสีส้มพวกใหญ่ส่ายไปมาบอกถึงสายพันธุ์ของตัวเองได้เป็นอย่างดี   

"อืมม งั้นข้าจะแนะนำตัวก่อนแล้วกัน ข้าเป็นปีศาจจิ้งจอกที่จบเอกประวัติศาตร์ดินแดนปีศาจมาได้ไม่กี่ปี ถึงข้าจะเพิ่งจบมาแต่ข้าท่านปู่ข้าเกิดทันในยุคสงครามฝ่ายเหนือกับฝ่ายใต้นะ อ้าว ทำหน้างง ให้ตายสิ แค่เรื่องเก่านิดเก่าหน่อยของดินแดนตัวเองก็ยังจำไม่ได้"

ปีศาจจิ้งจอกผู้เป็นวิทยากรว่าพลางส่ายหน้า "ข้าชื่ออาร์เดน แต่พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องจำหรอก ยังไงซะข้าก็ไม่ได้ประจำอยู่ที่นี่อยู่ดี"

นั่นเหมือนจะเป็นมุขแต่น่าเสียดายที่ไม่มีนักเรียนคนไหนหัวเราะให้แม้แต่คนเดียว จะว่ายังไงดีหางพวงส้มที่ส่ายไปส่ายมาอย่างกระตือรือร้นข้างหลังอาจารย์นั่นดูน่าสนใจกว่าประวัติศาสตร์เป็นไหนๆ

"ข้าอยากจับจัง นาซัส! ทำไมหางเจ้าไม่เห็นดูนุ่มแบบนั้นมั้งเลยง้า" ดัฟฟ์กระซิบกับนาซัส มองหางอาร์เดนตาเป็นประกาย มันดูหนานุ่มน่าขยำมาก

นาซัสย่นคิ้ว "ข้าว่าเป็นที่แชมพูล่ะมั้ง คงจะใช้สำหรับพวกขนสัตว์โดยเฉพาะ ข้าจำได้ว่าเคยเห็นคอร์สเอามาอาบน้ำอยู่"

"เจ้าว่าถ้าข้าขอจับ อาจารย์จะให้จับไหม แก๊ซ!"

นาซัสส่ายหน้าดิกเป็นพัลวัน "ไม่มีทาง"

ดัฟฟ์จึงได้แต่ยั้งตัวเองไม่ให้กระโจนเข้าไปหาหางพวงนุ่มที่ล่อตาล่อใจนั่น

ความเงียบกริบภายในห้องทำเอาอาร์เดนใจแป้วไม่น้อยแต่ก็ถือว่าดีไปอีกแบบ "อ่า งั้นข้าจะเริ่มเล่าประวัติดินแดนปีศาจแล้วนะ! อืมมม มีใครรู้บ้างว่าใครเป็นคนสร้างดินแดนปีศาจ!?" พยายามพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นแต่ผลตอบรับคือความเงียบเช่นเดิม

ข้าจะร้องไห้แล้วนะ 

อาร์เดนคิดพลางยิ้มแหยๆ ให้นักเรียนที่ยังคงนั่งตาแป๋ว

นี่พวกเจ้าไม่รู้จริงๆ งั้นเหรอว่าใครเป็นคนสร้างดินแดนปีศาจ?

"ท่านโฟเทียส" เสียงหนึ่งดังเอือยๆ ติดจะรำคาญตอบ

"เก่งมาก! ใช่ท่านโฟเทียส" อาร์เดนยิ้มกว้างดีใจมากส่งผลให้หางส่ายไปมาเร็วกว่าเดิม สิ่งที่อาร์เดนไม่รู้คือที่นักเรียนไม่ตอบคำถามเพราะมัวแต่สนใจหางตัวเองนั่นแหละ

"เก่งจัง ฟรังก์ เจ้ารู้ได้ไง" ดัฟฟ์มองฟรังก์ด้วยสายตาเป็นประกาย 

ฟรังก์พยักหน้าส่งๆ ไม่ใส่ใจนัก

ผิดกับนาซัสที่มือไม้เย็นเฉียบปวดหัวตุบเลือดในกายร้อนฉ่าราวกับว่าสายเลือดกำลังโกรธจัดเมื่อได้ยินชื่อของผู้สร้างโลกใบนี้ นาซัสตกใจไม่น้อยแต่ก็ยังควบคุมตัวเองให้นั่งนิ่งๆ เงียบๆ ได้

ท่านโฟเทียส? ทำไมชื่อนี้ถึงได้คุ้นหูและข้าถึงรู้สึกขยะแขยงนัก..

นาซัสคิดอย่างงุนงง

"ท่านโฟเทียสเป็นผู้สร้างโลกใบนี้แล้วยังสร้างดินแดนปีศาจของเราด้วย ดินแดนปีศาจของเรานี่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนานมากแต่ที่มีการจดบันทึกจริงๆ จังๆ ก็ช่วงสงครามแดนเหนือกับแดนใต้" อาร์เดนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มน่าฟังและตื่นเต้นทำให้เด็กๆ เริ่มกลับมาฟังและจดบันทึกตามลงในสมุดเพราะออกสอบ

"พวกเจ้าเกิดมาในช่วงที่สงครามสงบแล้ว คงจะไม่รู้ว่าความโหดร้ายของสงครามเป็นยังไง" ปีศาจจิ้งจอกพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลงแววตาเศร้าซึมเพราะทุกอย่างเพิ่งเกิดขึ้นไปไม่นานนัก สงครามการแย่งชิงตำแหน่งราชาปีศาจที่เพิ่งสงบลงโดยท่านคาร์บิลัส

 "ทุกอย่างกลายเป็นทะเลเพลิง บ้านเจ้ากลายเป็นเถ้าถ่าน ไม่มีที่ใดปลอดภัย เจ้าต้องหนีหัวซุกหัวซุนแม้แต่ในดินแดนของตัวเอง" อาร์เดนรู้ดีว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่ควรพูดให้เด็กฟังแต่ในเมื่อมันเป็นความจริงก็ควรรู้ไว้ "พวกเราเรียนรู้ประวัติศาสตร์เพื่อที่จะไม่ทำให้มันเกิดขึ้นอีก เจ้าไม่อยากรู้หรอกว่ามีปีศาจมากมายแค่ไหนที่ตายไปกับสงครามแต่ละครั้ง"

ถึงแม้ว่าจะไม่เข้าใจนักแต่บรรยากาศอึดอัดในห้องกลับทำให้เด็กๆ รู้สึกเศร้าจนน้ำตาคลอ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังจะร้องไห้เรื่องอะไรหรือเพราะแววตาของอาจารย์นั้นแจ่มชัดไปด้วยความเจ็บปวดถึงเพียงนั้น

"พอๆ ข้ามาเล่าประวัติศาสตร์ไม่ได้มาเทศน์พวกเจ้า" อารเด็นไหวไหล่ควบคุมให้ตัวเองกลับมายิ้มแย้มอีกครั้ง "ดินแดนปีศาจช่วงแรกๆ ถูกแบ่งเป็นฝ่ายเหนือกับฝ่ายใต้ ตอนแรกก็ดีกันอยู่หรอกแต่ไปๆ มาๆ ก็ทำสงครามกันเองซะงั้น ต้นเหตุของสงครามคือความไม่ไว้ใจกัน ความหวาดระแวงกันเอง ความโลภ ความเห็นแก่ตัว ทุกอย่างทำให้ดินแดนปีศาจตอนนั้นวุ่นวายสุดๆ จนกระทั่งถึงจุดๆ หนึ่งที่แต่ละฝ่ายต่างอ้อนวอนให้ท่านโฟเทียสช่วย"

อาร์เดนกลืนน้ำลายเอือกแล้วหลับตาลง "แต่ท่านช่วยให้สงครามมันลุกลามมากขึ้นไปอีก"

นักเรียนเริ่มส่งเสียงฮือฮา เดิมทีพวกเขาก็รู้แหละว่าใครเป็นคนสร้างดินแดนปีศาจแต่ไม่กล้าตอบเฉยๆ เพราะพ่อแม่ปีศาจส่วนใหญ่จะเล่านิทานท่านโฟเทียสผู้มากไปด้วยเมตตาอยู่บ่อยๆ อย่างไรก็ตามพวกเขาย่อมเชื่อพ่อแม่มากกว่าคนนอกอยู่แล้ว ทำให้เริ่มเกิดสายตาหวาดระแวงในตัวอาร์เดน 

"ท่านอาจารย์ แต่ท่านแม่ของข้าบอกว่าท่านโฟเทียสใจดีมากนะ!" ปีศาจตนหนึ่งโวยวาย

"ใช่ๆ ท่านพ่อข้าก็บอกเหมือนกันว่าสงครามจบได้เพราะท่านโฟเทียสช่วย"

ปัง!!

อาร์เดนกระแทกเท้าจนเกิดเสียงดังลั่นทำให้นักเรียนในห้องที่ทำตัววุ่นวายกลับมานั่งสงบอีกครั้ง

ใบหน้าที่ประกอบไปด้วยตาเรียวๆ เริ่มสั่นไหวเล็กๆ ความนึกคิดของผู้อื่นเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงยากที่สุดแล้ว.. "ข้าไม่ได้ขอให้พวกเจ้าเชื่อข้าแต่ข้าขอให้พวกเจ้าเชื่อความจริง บางอย่างที่พวกเจ้ารู้มาตลอดอาจจะไม่ใช่ความจริง ตรองให้ดี เจ้าไม่เคยได้ยินนิทานของมนุษย์งั้นเหรอ? หมาป่ากับหนูน้อยที่แสนซื่อ เจ้าหมาป่าเพียงแค่สวมชุดคลุมแบบมนุษย์กับปกปิดใบหน้าก็สามารถหลอกกินหนูน้อยได้แล้ว นั่นแหละ ตัวอย่างที่เจ้าเชื่อบางสิ่งบางอย่างโดยทันทีเพราะคิดว่าไว้ใจได้" 

อาร์เดนพูดจบหอบแฮ่กแต่ก็ยังไม่หยุดพูดพยายามพูดต่อไปเรื่อยๆ เมื่อเห็นแววตาแข็งข้องของเด็กบางคนเริ่มอ่อนลง "ปีศาจฝ่ายเหนือได้รับพลังแห่งแสงสว่าง ปีศาจฝ่ายใต้ได้รับพลังแห่งความืด ทั้งสองดินแดนต่างเตรียมจะนำมันมาห้ำหั่นกัน แต่ข้าไม่แน่ใจว่าได้ปะทะกันหรือเปล่าเพราะมันถูกบันทึกไว้เพียงเท่านี้เหมือนกับมันถูกฉีกทิ้งไปซะเฉยๆ ข้าว่าคงเป็นใครสักคนในสงครามนั่นแหละที่ทำมันหรือไม่ก็.."

อาจารย์จิ้งจอกตั้งใจจะพูดชื่อท่านผู้นั้นออกมาแต่ก็กลืนลงไปซะก่อนเพราะดูๆ แล้วเด็กๆ ก็คงไม่ชอบใจสักเท่าไหร่ที่จะมาว่ากล่าวในสิ่งที่ตัวเองเชื่อมาตลอด

เดิมที่อาร์เดนก็เคยเป็นเช่นนั้นเคยหัวแข็งมากกว่านั้นเคยเถียงคอเป็นเอ็นมากกว่านั้นแต่พอได้ไปเรียนรู้ในประวัติศาสตร์จริงๆ ก็รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองรู้นั้นก็แค่เศษเสี้ยวของความจริงเท่านั้น โลกใบนี้ถูกแต่งเติมด้วยผู้ชนะส่วนผู้แพ้ก็กลายเป็นแค่ไอ้ชั่วไร้ค่าตัวหนึ่งเท่านั้น

"เอาล่ะ จบไปแล้วกับช่วงแรกของดินแดนปีศาจ" อาร์เดนตบมือดังแปะ "ข้าจะปล่อยพักสิบนาทีแล้วจะพูดต่อเรื่องสงครามกลางเมืองที่เพิ่งเกิดไปเร็วๆ นี้"

พอพูดถึงเรื่องนี้อาร์เดนก็อดเลื่อมใสในตัวราชาปีศาจไม่ได้ ท่านคาร์บิลัสต่างจากผู้ชนะสงครามคนอื่นตรงที่เขียนประวัติศาตร์ตามความเป็นจริงทุกประการไม่มีการยกยอตัวเองให้ดูดีเลิศกว่าผู้อื่นแต่งอย่างใด

ฟรังก์จึงหยิบหนังสือที่ตัวเองเตรียมมาอ่านขึ้นมาอ่าน แต่พอเห็นข้างๆ เงียบผิดปกติก็หันไปดู

"... นี่เจ้าหลับ?"

ดัฟฟ์สลบเหมือดคาโต๊ะน้ำลายยืด

มังกรแสงมองนิ่งๆ แล้วมองเลยไปอีกเพื่อดูว่าปีศาจที่มากับดัฟฟ์นอนด้วยหรือไม่ "..เจ้าเป็นอะไรรึเปล่า?" ถ้าอาการทางร่างกายฟรังก์พอจะมองออกเพราะไม่จำเป็นต้องวิเคราะห์อะไรมาก

เพราะนาซัสนั่งหอบหายใจอย่างน่ากลัว ตาแดงก่ำมองฟรังก์ "...ข้าไม่รู้"

ฟรังก์กำลังจะพูดอีกคำก็ต้องเบิกตากว้าง

"นาซัส!!!"

เพราะนาซัสจู่ๆ กลับคืนร่างกลายเป็นจิ้งจอกขาวขนาดยักษ์!
 

โฮ่งๆๆ

"บัดซบ ทำไมข้าต้องมานั่งเลี้ยงหมาวะ ไอ้แพะเวร"

หงิง

ฟาร์คัสสบถอย่างฉุนเฉียน ไอ้แพะปัญญาอ่อนมันนึกอะไรให้ข้าทำไม่ออก ก็เลยบอกให้ข้ามาเลี้ยงหมา ซึ่งตอนนี้ข้าก็ต้องมานั่งอาบน้ำให้พวกงูเวลล์ที่ตอนนี้อยู่ในร่างลูกหมาส่งเสียงหงุงหงิงน่ารำคาญประมาณสิบตัว ไม่แน่ใจว่ามันเห็นข้าเป็นแม่หรืออะไรถึงได้ตามติดแจ เกาะหน้าเกาะหลัง

"อยู่นิ่งๆ ข้าจะถูสบู่ให้ อย่าให้ข้าต้องใช้เวทย์มัดเจ้านะ" ฟาร์คัสขู่ลูกงูเวลล์ที่ตอนนี้ดิ้นไปมาพยายามตะเกียกตะกายหนีเพราะกำลังถูกจับอาบน้ำในห้องอาบน้ำ

หงิงงงง

ลูกงูเวลล์ที่ถูกจับอยู่ร้องครางออกมาอย่างน่าสงสารทั้งๆ ที่ตัวมันเต็มไปด้วยฟองสบู่ มันมองเพื่อนมันที่อาบน้ำแล้วแห้งแล้ววิ่งเล่นอยู่ไกลๆ ตาละห้อย

"อย่าดิ้นสิ เจ้าทำข้าเปียกนะ" ซึ่งก็ไม่น่าทันแล้ว ชุดปีศาจทะมัดทะแมงเสื้อยืดกางเกงขาสั้นเปียกแนบลำตัวไปแล้วเรียบร้อยโชคดีที่เลือกสีดำมาไม่ใช่สีขาว 

หงิงงงงง

"จะร้องอะไรนักหนา" ฟาร์คัสบ่น "แม่เจ้าก็นอนอยู่นี่เนี่ย"

ฟ่อ

คล้ายกับตอบรับ ร่างงูขนาดยักษ์ที่นอนขดอยู่ใกล้ๆ ขู่ฟ่อตอบอย่างสบายอกสบายใจ หลังจากที่เกือบถูกย่างสดเพราะไม่ยอมเชื่อฟังราชาปีศาจตอนนี้มันเชื่อฟังแล้วกลายเป็นงูที่เชื่องมาก 

โฮ่ง

เมื่อรู้ว่าร้องยังไงฟาร์คัสก็ไม่มีวันเห็นใจ เจ้าหมาก็เลยนั่งจ้องฟาร์คัสด้วยตาแป๋วๆ แทน

"เอ้าเสร็จแล้ว" ฟาร์คัสหลุดยิ้มเล็กๆ พลางร่ายเวทใส่เจ้าหมาทำให้มันแห้งภายในพริบตาแล้วจึงปล่อยให้มันวิ่งสุดชีวิตไปหาเพื่อนที่กำลังวิ่งไล่จับผีเสื้อที่บินไปมาอย่างเอาเป็นเอาตาย

ฟาร์คัสหลับตาแล้วทิ้งตัวลงนอนบนพื้นอย่างเหนื่อยอ่อน ไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะต้องมาเลี้ยงฝูงหมาและรู้สึกเหนื่อยกับแค่การอาบน้ำหมาขนาดนี้

"หรือว่าข้าไม่ออกกำลังกาย?" ฟาร์คัสคิดเรื่อยเปื่อยด้วยความว่างจัด เมื่อก่อนก็แข็งแรงดีอยู่หรอกเพราะต้องลงลานประลองบ่อยๆ เพราะต้องรักษาตำแหน่งในนกบอกลางเอาไว้ แต่ตอนนี้ไม่มีความจำเป็นต้องฝึกด้วยซ้ำในเมื่อคนที่นอนด้วยเป็นถึงราชาปีศาจที่พลังล้นเหลือและเก่งมากซึ่งแพะปัญญาอ่อนนั้นก็มีคู่ซ้อมประจำอยู่แล้วก็คือชาคอส

"ทำไมจะไม่ออก"

ฟาร์คัสสะดุ้งเฮือกไม่ทันได้ทำอะไรก็ถูกรวบตัวไปนั่งบนตักหนาๆ ของคาร์บิลัส

ใบหน้าคมคายของราชาปีศาจยิ้มพรายเมื่อเห็นเสื้อผ้าที่แนบไปกับลำตัวฟาร์คัส ดูเย้ายวนอย่างบอกไม่ถูก "ก็ออกบนเตียงกับข้าไง"

คาร์บิลัสเคยคาดหวังปฎิกิริยาน่ารักๆ จากฟาร์คัสแต่ความจริงส่วนใหญ่ที่ได้รับคือ

"บัดซบ ปล่อยข้าลง!" ฟาร์คัสหน้าแดงติดจะหงุดหงิดพยายามขืนตัวลงแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้

ราชาปีศาจผิดหวังเล็กๆ จึงเลือกที่จะฝังหน้าลงกับซอกคอฟาร์คัสเป็นรางวัลปลอบใจตัวเอง "แล้วเลี้ยงหมาเป็นไงบ้าง สนุกไหม?"

ลมหายใจที่พ่นรดต้นคอชวนให้รู้สึกจั็กจี้ทำเอาฟาร์คัสพูดเสียงสั่นพร่า

"สนุกกับผีสิ เจ้าหมาพวกนี้มันลืมไปแล้วมั้งว่าข้าไม่ใช่แม่มัน"

ไม่รู้เวรกรรมอะไรนักที่ไม่ว่าเด็กที่ไหนก็มักจะเห็นข้าเป็นแม่เสมอ

ฟาร์คัสคิดอย่างหงุดหงิดแต่ได้ไม่นานนักก็สะดุ้งเฮือกเมื่อถูกกัดเข้าที่ต้นคออย่างแรงซึ่งฟาร์คัสค่อนข้างแน่ใจว่าเป็นรอยแน่ๆ 

"คาร์บิลัส" เรียกเสียงเย็นเยียบ

"ก็ข้านึกไม่ออกนี่นาว่าจะให้เจ้าทำอะไรดี แต่ตอนนี้ข้าคิดออกแล้วนะ" คาร์บิลัสไม่สนใจเสียงเย็นของฟาร์คัส ไม่แน่ใจว่าเพราะอะไรที่ทำให้คาร์บิลัสรู้สึกเหมือนตัวเองหน้าหนาขึ้น มีภูมิต้านทานอารมณ์หงุดหงิดน่าเอ็นดูของฟาร์คัส

"เจ้าเป็นหมารึไง มากัดคอข้า มันไม่ใช่แผลที่เวทย์จะรักษาได้นะ" ฟาร์คัสสบถพลางใช้มือลูบบริเวณที่แสบๆ คันๆ ด้วยหน้าบูดบึ้ง

"ถ้าเจ้าอยากให้เป็นอีก ข้าก็เป็นได้นะ" คาร์บิลัสหัวเราะ

"..." ฟาร์คัสกลอกตาเซ็งๆ "แล้วจะให้ข้าทำอะไรถ้าไม่เลี้ยงหมา"

ใบหน้าหล่อเหลาค่อยๆ ฉีกยิ้มกว้าง "ก็ให้เจ้าเป็นคนช่วยข้าอาบน้ำแต่งตัวไง ดีใช่ไหมล่ะ หึๆ กว่าข้าจะคิดออกนี่เป็นเดือนเลยนะ"

ปัญญาอ่อนชะมัด ทำไมข้าต้องรู้จักแพะปัญญาอ่อนนี่ด้วยวะ

ฟาร์คัสถอนหายใจเฮือกใหญ่ทั้งๆ ที่หน้าแดง 

"คาร์บิลัส เจ้ามีอยู่ชุดเดียวไม่ใช่เหรอชุดเจ้าน่ะ อีกอย่างเจ้าก็ร่ายเวทย์ใส่ทุกวันไม่เคยเห็นมานั่งจัดอะไรสักที"

"จะยากอะไร ข้าก็เลิกใช้เวทย์แล้วให้เจ้าแต่งตัวแทนไง นี่ไง ข้าฉลาดไหม ฟาร์คัส"

"ข้าไม่รู้จะหาคำไหนมาด่าเจ้าจริงๆ " ฟาร์คัสถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกรอบทิ้งตัวพิงอกแกร่งอย่างเหนื่อยอ่อน "ไหนๆ ก็มาแล้วพาข้ากลับห้องหน่อยสิ ข้าไม่มีแรงจะเดินแล้ว"

"น้อมรับบัญชาขอรับ" 

คาร์บิลัสโน้มหน้าลงจูบริมฝีปากฟาร์คัสซึ่งฟาร์คัสก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรแล้วรวบตัวฟาร์คัสขึ้น ร่ายเวทย์เคลื่อนย้ายแล้วกระโดดเข้าไปอย่างรวดเร็ว

 
 ----------

ข้างบนแลตึงเครียด ข้างล่างหวานแหวว

เบื่อออ แพะปัญญาอ่อน 55555

 :man1: กอดทุกคอมเมนต์

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 59 25 ต.ค 59 p.17
«ตอบ #483 เมื่อ26-10-2016 00:30:13 »

ยอมใจจิงๆ 55555

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 59 25 ต.ค 59 p.17
«ตอบ #484 เมื่อ26-10-2016 00:54:46 »

เง่อะ กลายเป็นไปขุดอดีตนาร์ซัสหรอ
ฟาร์คัสมาหาลูกหน่อย ลูกแย่แล้ว><

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 59 25 ต.ค 59 p.17
«ตอบ #485 เมื่อ28-10-2016 22:37:09 »

เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งสวีท ไปดูลูกคนเล็กก่อนนนน

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 59 25 ต.ค 59 p.17
«ตอบ #486 เมื่อ30-10-2016 03:06:07 »

อ้อยไปอีก #ฟาร์คัสคาร์บิลัส >///////<  //ต้องเข้าใจนะฟาร์คัสว่าตัวเองมีออร่าความเป็นแม่ ไม่ว่าปีศาจพวกใดก็เลยชอบเกาะแกะ 55555 //คาร์บิลัสไอ้แผนการให้ช่วยอาบน้ำนี้มันคิดยากขนาดนั้นเลยหรอ ป่าวหรอแป๊ปเดียวก็คิดได้แต่ไม่กล้าพูด เดี๋ยวโดนเตะ 5555 ก็อย่างที่คาร์บิลัสบอกนะฟาร์คัส ต้องไปออกกำลังบนเตียง(nc) รับรองแข็งแรง? 55555555555 มีความอยาก #หื่น 555 //ดัฟฟ์ก็คือดัฟฟ์จริงๆ ตลกอะ ไม่มีไรมาก มีแต่กินกับนอน สนใจไรอีก ไม่มี๊ 55555 น่าร๊ากกกกกกเพราะอย่างงี้ไงดัฟฟ์ผู้ตีมึนเข้ามาป่วนใจฟรังงค์ผู้เงียบขรึม 5555 ทั้งมองดัฟฟ์ว่าน่ารัก แอบมีโกรธแทนด้วย วรั๊ยวุ้ยๆๆ 5555//นาซัส ใจเย็นๆ ดัฟฟ์ช่วยดูกันหน่อยได้ไหม นาซัสความรู้สึกกำลังแย่ จะเป็นอะไรยังไงละนี้ ที่ไม่มีในวิชาประวัติศาสตร์ก็อีกเยอะ แต่ยังไงราชาปีศาจของเราก็ดีที่สุดละ อิอิ *ชูป้ายเชียร์* อ๊อยยยยอยากอ่านต่อละคะ รอนะค่ะ ตอนต่อไป  :pig4: :katai2-1:

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ตอนที่ 60

ฮื่ออออ

จิ้งจอกขาวขนาดยักษ์ส่งเสียงคำรามดังลั่นตาแดงก่ำขณะที่เหลือบมองสิ่งมีชีวิตรอบด้านอย่างดุร้าย

"เฮ้ยยย ไหนผอ. บอกโรงเรียนเราคืนร่างจริงแบบเต็มตัวไม่ได้นี่ ทำไมไอ้ลูกกระจ็อกเด็กห้องพิเศษมันแปลงได้เนี่ย!!" นักเรียนปีศาจคนหนึ่งตะโกนเสียงดังรีบถลาไปอยู่ริมห้องไม่ต่างจากคนอื่นที่กรูหนีกันไปอยู่มุมห้องทิ้งไว้แต่โต๊ะที่ว่างเปล่ารอบตัวดัฟฟ์และนาซัส

"จะไปรู้เหรอ! ต้องเรียกครูๆๆๆ"

โครม

หางพวงยักษ์ปัดโต๊ะรอบตัวล้มจนเกิดเสียงโครมคราม

"แก๊ซ เสียงดังจัง"

ดัฟฟ์งัวเงียตื่นขึ้นมาหาวหวอดเอามืออวบๆ ขยี้ตา

ฮื่ออ

ปีศาจมังกรดำสะดุ้งโหยงขณะที่มองปีศาจจิ้งจอกหากแต่มองไปมองมากลับรู้สึกคุ้นๆ แปลกๆ "แก๊ซ ข้าว่าเจ้าคุ้นๆ น้า"

ฮื่ออ!!

จิ้งจอกขาวคำรามดังลั่นอีกครั้งกระโจนเข้าตะครุบตัวดัฟฟ์แต่ก็ถูกสกัดด้วยเวทย์แสงร้อนๆ ซะก่อน ทำให้มันต้องกระโจนกลับไปยืนที่เดิมขู่คำรามในลำคออย่างไม่พอใจ

"นาซัส เจ้าคิดจะทำอะไร"

ฟรังก์หรี่ตามองเย็นเยียบสบตากับจิ้งจอกยักษ์ที่ดูเหมือนจะขาดสติไปแล้ว มืออีกข้างกระชากตัวอวบๆ กลิ้งมาอยู่ข้างหลังตัวเอง

"อ้า! ใช่ แก๊ซซซ นาซัสสส" ดัฟฟ์ยิ้มตาเป็นประกายเมื่อตัวเองจำได้ "แก๊ซ นาซัสทำไมเจ้าอยู่ในร่างนั้นล่ะ ปกติเจ้าตัวเล็กมากๆ เลยนี่นา"

แม้หูสองข้างจะกระดิกฟังแต่จิ้งจอกขาวก็ไม่มีทีท่าว่าจะเข้าใจอะไรใดๆ ยังคงส่งเสียงคำรามในลำคอกรอดๆ เล็บยาวจิกพื้น มองซ้ายมองขวาอย่างหวาดระแวง ตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ทั้งๆ ตัวมันเองยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังกลัวอะไร

"เฮ้ เจ้าจะรีบลากข้ามาทำไม--" อาร์เดนโวยวายเสียงดังเนื่องจากจู่ๆ ก็ถูกเด็กที่ไหนไม่รู้มาลากตัวออกจากห้องน้ำวิ่งกลับมาที่ห้องโถงทั้งๆ ที่ยังไม่หมดเวลาพัก จะว่าเด็กพวกนี้ขยันเกินกว่าเหตุก็คงไม่ใช่เพราะเมื่อกี้ก็เหมือนเด็กหลับไปเกือบครึ่งห้อง

ซึ่งพอเห็นร่างของนาซัสอาร์เดนก็ได้คำตอบแทนจะทันทีเผลอจ้องตาค้าง

"เป็นไปไม่ได้... เจ้าเป็นแค่ตำนานไม่ใช่เหรอ? ตำนานจิ้งจอกโชคร้ายที่ถูกตรองจำ!" อาร์เดนตะโกนอย่างขวัญเสียถอยกรูดมองขนสีขาวที่ส่งแสงเรืองรองสว่างไสวแปลกๆ มีเพียงจิ้งจอกในตำนานที่เขาเคยเรียนเท่านั้นที่จะมีขนแบบนี้!

มันจะปรากฎตัวที่นี้ได้ยังไง ในเมื่อมันยังถูกตรองจำอยู่ที่ไหนสักแห่งไม่ใช่เหรอ!?

แต่ทิฐิความเป็นครูในตัวทำให้จำต้องยอมสาวเท้ากลับมาที่เดิมเพื่อเผชิญหน้ากับจิ้งจอกสีขาวร่างยักษ์ที่ส่งเสียงครางครืดๆ ในลำคอหูตั้งชันขนลุกทั้งตัวราวกับกำลังรอที่จะจู่โจมอะไบางอย่างที่มันกลัว

"นาซัส นาซัส!" ดัฟฟ์ยื่นหน้าออกไปเรียกแล้วก็ต้องหน้ายู่เมื่อนาซัสในร่างจิ้งจอกไม่สนใจตัวเองสักนิด

"เจ้าไปจะไปเรียกให้ได้อะไรขึ้นมา" ฟรังก์บ่นแล้วสาวเท้าเข้าไปหาร่างจิ้งจอกยักษ์อย่างไม่เกรงกลัว

ฮื่อออ!

มันคำรามเสียงดังลั่นถอยกรูดอย่างลนลาน นัยน์ตาสีแดงของมันเต็มไปด้วยความหวาดผวาและตื่นตระหนก เนื้อตัวสั่นเทารุนแรงอย่างห้ามไม่อยู่เพราะมันเคยถูกคุกคามแบบนี้มาแล้วจากท่านผู้นั้น

มันจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตัวเองทำอะไรผิดถึงต้องถูกจองจำไว้ในนรกหรือรูปปั้น

จิ้งจอกขาวอย่างมันก็แค่ต้องการอิสรภาพในการใช้ชีวิตอยู่ก็เท่านั้นเอง..

นัยน์ตาสีแดงของมันสะท้อนภาพฟรังก์ที่เงยหน้าขึ้นมาสบตากับมัน

"นาซัส เจ้าได้ยินข้าไหม" ฟรังก์พูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย

ฮื่อ..

นาซัสคำรามตอบ มันไม่เข้าใจในสิ่งที่ปีศาจตรงหน้าพูด ภาษาที่มันพอรู้ก็แค่ภาษามนุษย์ที่มันเคยอาศัยอยู่ในช่วงที่มันยังไม่ถูกจับเท่านั้น

"ไม่เข้าใจที่ข้าพูด?" ฟรังก์พึมพำเสียงขุ่นเริ่มหงุดหงิด "ถ้าเจ้าไม่ใช่นาซัสแล้วเจ้าเป็นใครกันแน่.." ประโยคแรกบ่นกับตัวเองส่วนประโยคหลังถามบุคคลที่น่าจะมีประโยชน์ "ดัฟฟ์ นาซัสของเจ้านี่เจ้าไปเจอที่ไหน"

ดัฟฟ์ยิ้มกว้าง "แก๊ซ! แม่เอามาให้ดัฟฟ์ อุ้มแหละ แก๊ซ ฟรังก์อิจฉาดัฟฟ์ล่ะสิที่ดัฟฟ์มีน้อง"

ทำไมไอ้ปีศาจตัวนี้มันสมองมันถึงมีอยู่แค่นี้วะ

ฟรังก์แทบจะสบถด่าคำหยาบคายใส่ดัฟฟ์แต่เพราะรู้ว่าดัฟฟ์เด็กกว่าตัวเองมากถ้าเทียบกับอายุมนุษย์ก็คงเจ็ดแปดขวบที่รู้เรื่องรู้ราวนิดหน่อยเท่านั้นเอง ส่วนปีศาจมังกรแสงอย่างเขาเทียบแล้วตอนนี้ก็น่าจะอายุประมาณสิบสองสิบสาม

"เจ้าจิ้งจอกนี่ไม่ได้ชื่อนาซัส!" อาร์เดนสาวเท้าเร็วๆ มาหยุดยืนข้างฟรังก์แล้วยืนพินิจจิ้งจอกยักษ์ตรงหน้าเมื่อมันไม่ได้มีท่าทีคุกคามเหมือนตอนแรก "จิ้งจอกนี่ชื่อเพวิสต่างหาก เป็นจิ้งจอกเมืองมนุษย์ที่ถูกท่านโฟเทียสตรองจำไว้ในนรกหรือรูปปั้นเนี่ยแหละ ข้าจำไม่ได้ แต่มันเป็นแค่ตำนานนะ" อาร์เดนบ่นงึมงำในลำคอมองเพวิสอย่างไม่เชื่อสายตา 

เรื่องของเพวิสมันเป็นแค่นิทานปรัมปราก็เท่านั้น

จิ้งจอกสีขาวผู้มีขนสีขาวเรืองรองจนผู้คนต่างพากันลุ่มหลง

ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นทำให้ผู้ที่สร้างมันขึ้นมาอย่างท่านโฟเทียสจับมันกักขังไว้ที่สักที่

ทุกวันคืนมันกรีดร้องตะเกียกตะกายฝันหาอิสระ

ขนสีขาวนับวันเริ่มกลายเป็นสีดำ

นิทานจบเพียงเท่านี้ไม่มีใครรู้ว่าหลังจากนั้นเพวิสมีชะตากรรมเป็นเช่นไร พวกเขาไม่ใช่ผู้ที่จับเพวิสกักขังจึงไม่มีทางรู้ได้ว่าเพวิสกลายเป็นเช่นไรต่อไป

"เพวิส" ฟรังก์ลองเรียกลองเชิง

จิ้งจอกยักษ์สะดุ้งเฮือกตวัดสายตามองทันที 

"นี่หมายความว่าไง? สรุปแล้วนาซัสเป็นจิ้งจอกในตำนานงั้นเหรอ" นักเรียนปีศาจคนหนึ่งออกความเห็นออกมาเสียงดัง

ดัฟฟ์เบิกตากว้าง

"แง้ นาซัสไม่ใช่นาซัสเหรอ แก๊ซ ดัฟฟ์ชอบชื่อนาซัสมากกว่าน้า" 

มังกรแสงเหลือบมองดัฟฟ์เลือกที่จะเมินแล้วหันกลับมาคุยกับนาซัส.. ไม่สิ เพวิสต่อ

"เพวิส เจ้าจำข้าได้ไหม" ฟรังก์พยายามคุยต่อ ดูเหมือนว่าตอนนี้นาซัสกลายเป็นเพวิสไปแล้ว ความทรงจำเกี่ยวกับเขา ดัฟฟ์และคนอื่นๆ จะหายไปเหลือเพียงความทรงจำส่วนตัวของเจ้าตัวเท่านั้น

หากแต่ยิ่งคุยก็เหมือนคุยกับตุ๊กตา

เพวิสเอาแต่นั่งส่ายหางไปมาจ้องฟรังก์ตาแป๋ว

มันสงบลงเพราะได้ยินชื่อตัวเองหลุดออกมา คาดคิดว่าปีศาจพวกนี้จะรู้จักตนบ้าง ตอนนี้มันไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าตัวเองควรทำอะไรหลังจากที่อยู่ๆ ก็มาปรากฎตัวในห้องโถงนี้ได้

น่าแปลกที่ความเคียดแค้นกระหายเลือดซึ่งมากพอที่จะฆ่าทุกอย่างที่ขวางหน้ากลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย เหมือนกับถูกลบออกไปซะเฉยๆ รวมถึงขนของมันที่กลายเป็นสีขาวล้วนแล้วด้วย

มันไม่แน่ใจนักว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองบ้าง

ที่จำได้ลางๆ ก็แค่ถูกปีศาจแพะตัวหนึ่งจับแล้วก็สลบไปเลยแล้วมาตื่นอีกทีก็ตอนนี้เนี่ยแหละ

"มาๆ ข้าพูดเอง กับจิ้งจอกเมืองมนุษย์เจ้าก็ต้องพูดภาษามนุษย์สิ พูดภาษาถิ่นปีศาจคงจะฟังออก" อาร์เดนไหวไหล่หัวเราะหึๆ เดินอย่างมีมาดมาหยุดยืนหน้าเพวิส "สวัสดี เพวิส"

หูสองข้างขยับไปมา 

"อืม"

ส่งเสียงตอบในลำคอ

อาร์เดนถึงได้ยิ้มออกและยิ้มกว้างมาก "เจ้าเป็นจิ้งจอกที่ถูกท่านโฟเทียส--"

โครม

ร่างของอาร์เดนกระเด็นกระแทกผนังภายในพริบตาเมื่อถูกเท้าที่เต็มไปด้วยกรงเล็บตบเข้าอย่างรุนแรง ทุกคนในห้องชะงักค้างแทบไม่กล้าหายใจ

"อย่าพูดถึงไอ้ตัวบัดซบนั่น" 

เพวิสตาแดงก่ำคำรามออกมาอย่างดุร้ายด้วยภาษามนุษย์ เท้าจิกลงกับพื้นอย่างฉุนเฉียว

"แง้ นาซัส โกรธไรง้า แก๊ซ!"

แต่จู่ๆ อุ้งเท้ากลับถูกร่างอ้วนกลมกอดแน่น

ฟรังก์ขบเคี้ยวฟัน "เวรเอ้ย" ห้ามดัฟฟ์ไว้ไม่ทัน

"เจ้า?"

เพวิสเตรียมจะสะบัดออกแต่จู่ๆ ความรู้สึกบางอย่างในหัวก็ห้ามเอาไว้จึงต้องปล่อยให้โดนกอดแน่นเหมือนเดิม

"นาซัส นาซัส จำดัฟฟ์ไม่ได้เหรอ" ดัฟฟ์งอแงพูดไปเรื่อยเปื่อย

เพวิสคำรามฮื่อๆ "เจ้าพูดอะไรของเจ้า ข้าไม่เข้าใจ"

"อูย... บอกข้าดีๆ ก็ได้ท่าน" อาร์เดนเดินโซซัดโซกลับมาที่เดิม ไม่มีบาดแผลตามตัวเพราะกางวงเวทได้ทันมีแต่ความรู้สึกมึนๆ เนี่ยแหละที่ยังคงอยู่อย่างเหนียวแน่น

"เด็กน้อยนี่พูดอะไร ข้าไม่เข้าใจ" เพวิสหลุบตามองร่างกลมที่เอาหน้าถูกับหน้าขานุ่มๆ ของมัน

"แง้ นาซัส"

อาร์เดนกระแอมเรียกความน่าเชื่อถือที่หล่นหายไปหมดแล้วกลับมา "เจ้าเด็กนี่กำลังเรียกชื่ออีกชื่อของเจ้าอยู่"

"นาซัส?" จิ้งจอกยักษ์ขยับหูไปมาอย่างสนใจ "อะไรน่ะ ข้าเคยมีชื่อนี้ด้วยเหรอ"

"แก๊ซ นาซัสพูดอะไรง้า ดัฟฟ์ฟังไม่รู้เรื่อง" 

เพวิสจ้องดัฟฟ์นิ่งเมื่อถูกเรียกด้วยชื่อนั้นอีกแล้ว แต่มองไปความทรงจำในหัวกลับว่างเปล่าจึงเลือกที่จะขุดคุ้ยเรื่องล่าสุดในหัวแทน

"เท่าที่ข้าจำได้ก่อนที่ข้าจะหลับไปนานมากก็คือข้าเหมือนถูกปีศาจแพะจับ" เพวิสโคลงหัวไปมาขณะคิด ถึงแม้จะรู้สึกโกรธๆ อยู่บ้างที่ถูกจับแต่ก็ควรจะขอบคุณมากกว่าที่อีกฝ่ายปลดปล่อยตัวเองจากห้องมืดทึบนั่น

"ปีศาจแพะที่ว่าของเจ้าเนี่ย เป็นยังไงเหรอ" อาร์เดนถามรู้สึกคุ้นๆ แปลกๆ แต่ก็คิดว่าไม่น่าใช่

"ก็ตัวสูงๆ ตาสีเทา มีเขาแพะ อ้อ รู้สึกจะปีกด้วย"

อาร์เดนยิ้มแห้ง

ใช่เลย คนนั้นแน่ๆ

พรึ่บ

เกิดวงเวทเคลื่อนย้ายกลางอากาศก่อนที่จะปรากฎร่างของราชาปีศาจกับชายาในชั่วพริบตาซึ่งบนไหล่ของชายานั่นก็มีงูตัวเล็กเลื้อยพันอยู่

"ดูเหมือนว่าเวทของข้าจะอ่อนลงแฮะ ถึงกดพลังเวทย์ของนาซัสไว้ไม่อยู่" พอมาถึงคาร์บิลัสก็ขมวดคิ้วมุ่นทันทีแล้วสาวเท้าเข้าไปหานาซัสในร่างจิ้งจอก ไม่สนใจคนอื่นๆ ในห้องที่ฮือฮากันมากยกเว้นแต่ฟรังก์ที่กลอกตาเซ็งๆ สาวเท้าเดินออกจากห้องเงียบๆ เพราะคาดว่าคาบนี้คงไม่ได้เรียนแล้ว

"เจ้า ข้าจำได้ ปีศาจแพะงี่เง่าที่กลัวเมียเป็นบ้า" เพวิสแสยะเขี้ยวเหมือนจะหัวเราะ

"ทะ ท่านคาร์บิลัส!" อาร์เดนเผลออุทานออกมาด้วยความตกใจ

น่าเสียดายที่ราชาปีศาจไม่ได้สนใจอะไรนัก

"ความจำกลับมาก็ปากดีเลยนะเจ้า" คาร์บิลัสพูดเซ็งๆ เหลือบมองเห็นดัฟฟ์พอดีก็นึกขึ้นได้ "อ้อ แล้วเจ้าจำเรื่องนาซัสได้หรือเปล่า?"

"นาซัส นาซัสอีกแล้ว ข้าชื่อเพวิสไม่ใช่นาซัสสักหน่อย" เพวิสโอดครวญส่งเสียงหงิงๆ 

ดัฟฟ์เงยหน้าขึ้นจนขนปุกปุยพอเห็นว่าใครมาก็ยิ้มกว้าง

"แก๊ซ ท่านพ่อ ท่านแม่!" ถลาวิ่งเข้าไปกอดขาฟาร์คัสทันที

นักเรียนปีศาจภายในต่างพากันสูดหายใจเฮือกๆ อย่างตื่นตระหนก ใครจะไปรู้ว่าผู้ปกครองของไอ้นักเรียนห้องห่วงจะเป็นถึงราชาปีศาจกันล่ะ

ฟาร์คัสยิ้มจางๆ ลูบหัวดัฟฟ์แต่สายตาก็ยังจ้องไปที่ร่างจิ้งจอกยักษ์ในห้องที่ตอนนี้เหมือนหมาตัวโตขี้อ้อนซะมากกว่า

คาร์บิลัสนิ่งไปสักพักแล้วหันไปถามความเห็นฟาร์คัสด้วยน้ำเสียงที่ได้ยินเพียงสองคนกับอีกหนึ่งตัวที่ยังคงเลื้อยเล่นไปมาบนไหล่ของปีศาจอีกา "เจ้าว่าข้าควรจะฟื้นความจำช่วงนาซัสให้เจ้านี่ไหม หรือควรจะกดพลังมันอีกรอบเพื่อที่จะให้นาซัสกลับมา"

สาเหตุที่คาร์บิลัสกดพลังของเพวิสไว้เพราะว่าเพวิสนั้นมีพลังเวทย์มากมายหากนำเอาไปใช้ในทางที่ไม่ดีไม่วายต้องเกิดเรื่องวุ่นในแดนปีศาจแน่ๆ ซึ่งแพะขี้เกียจอย่างคาร์บิลัสก็ขี้เกียจไปตามล้างตามแก้ทีหลัง ทางเลือกที่ง่ายที่สุดคือกดพลังมันไว้กับลบความทรงจำช่วงก่อนหน้าแต่มันก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ปลอดภัยนัก เพราะคาร์บิลัสไม่ใช่ผู้ควบคุมการเวลาที่สามารถลบความทรงจำได้หมดจด ทำให้เมื่อมีสิ่งเร้ามากระตุ้นเข้าแรงๆ ความทรงจำกับพลังเวทย์ของเพวิสจะกลับมา

ซึ่งคาร์บิลัสก็ลงเวทย์เตือนภัยไว้อีกชั้นหนึ่งเพื่อที่จะได้มาหานาซัสได้ทันท่วงที

"เจ้ากดไว้ วันดีคืนดีมันก็หลุดออกมาเหมือนครั้งนี้อยู่ดี" ฟาร์คัสจ้องนาซัสเศร้าๆ เล็กน้อย รู้สึกแปลกตานิดหน่อยที่ไม่เห็นว่าอีกฝ่ายเป็นเด็กตัวเล็กๆ เหมือนเดิม

"งั้นก็ช่วยฟื้นความทรงจำไปเลยแล้วกัน ยังไงเจ้านี้ก็ดูไม่ต่างอะไรไปจากหมาสักเท่าไหร่" คาร์บิลัสไหวไหล่ร่ายเวทย์สั้นๆ ออกมาแล้วตวัดมือใส่เพวิส

เพวิสในร่างจิ้งจอกหลับตาพริ้มยอมรับเวทย์สีเทาเข้มของคาร์บิลัสลอยเข้ามาในปากปล่อยให้มันฟุ้งอยุ่ในปากแล้วแพร่กระจายจนรู้สึกมึนไปทั้งหัวแต่ในช่วงขณะที่มึนกลับรู้สึกเหมือนมีภาพติดๆ ขัดๆ ของเจ้าเด็กอ้วนโผล่ขึ้นมา

"นาซัส! นาซัส!"

"แง้ ทำไมเจ้าไม่มากับข้าง้า"

"งอนแล้ววว"

"นาซัสทำไมไม่กินกับข้าล่ะ อร่อยน้า แก๊ซ"

"แง้ ท่านแม่บอกว่าข้าอ้วน"

ทำไมถึงได้มีแต่เรื่องไร้สาระนะ?

เพวิสคิดอย่างละเหี่ยใจแต่ลึกๆ กลับรู้สึกตลกและสนุกอย่างบอกไม่ถูก แต่พอภาพหลายๆ ภาพฉายซ้ำไปซ้ำมาในหัวก็เริ่มเกิดความรู้สึกคุ้นเคยมากขึ้นเรื่อยๆ

"ดัฟฟ์!" เพวิสอุทานออกมาด้วยภาษาปีศาจ

ดัฟฟ์เงยหน้ามองนาซัสตาเป็นประกาย "แก๊ซซซ นาซัสสส" ปล่อยมือจากฟาร์คัสอย่างไม่ไยดีแล้วถลาเข้ากอดรัดฟัดเหวี่ยงกับเพวิสแทน

ผลุ่บ

เพวิสกลับร่างเป็นเด็กตัวเล็กๆ เหมือนแล้วกอดดัฟฟ์ยิ้มจนตาหยี

"นาซัสตัวใหญ่มากเลยง้า แต่ก็เล็กกว่าดัฟฟ์ตอนเป็นมังกรอยู่ดี แก๊ซ"

"ข้าตัวใหญ่ได้มากกว่านี้อีก เพียงแต่ห้องนี้มันแคบไปหน่อย"

"เย้ นาซัสคุยกับข้าเยอะขึ้น ดีจัง แก๊ซ ข้าจะได้ไม่ต้องพูดคนเดียวแล้ว คาอิสกับออสการ์จะได้ไม่ว่าข้าว่าพูดมาก" ดัฟฟ์ยิ้มปิติแทบร้องไห้ด้วยความดีใจ

"ไม่ต้องห่วงๆ ข้าจะคุยกับเจ้าจนเจ้าเบื่อไปเลยล่ะ"

เพวิสกอดดัฟฟ์แน่น

จิ้งจอกที่เคยถูกตรองจำอย่างเขา ถูกความโดดเดี่ยวกัดกินมาจนแทบเสียสติ การหนีพ้นออกมาจากที่นั้นเพื่อมาเจอผู้คนย่อมเป็นเรื่องที่เพวิสถวิลหาแทบจะตลอดเวลา แม้ว่าจะเป็นเพราะคนอื่นที่ทำให้เขาต้องถูกโฟเทียสตรองจำแต่ตอนนี้ใครจะไปสนเรื่องพรรค์นั้นกันล่ะ

ขนของเขามันไม่เหมือนตอนนั้นแล้ว 

ขนศักดิ์สิทธิ์สว่างไสวที่เขาเคยหวงนักหวงหนาตอนนี้โดนถอนทิ้งไปหมดแล้ว

ขนตอนนี้ที่เงาๆ ส่องสว่างเทียบไม่ได้เลยกับขนพวกนั้น

ฉะนั้นเขาไม่มีความจำเป็นต้องไปใส่ใจเรื่องพวกนั้นอีกต่อไปแล้ว ควรจะเริ่มชีวิตใหม่ที่แพะกลัวเมียอุตส่าห์ให้มา

คาร์บิลัสมองร่างที่กอดกันงุนงง

"ฟาร์คัส.."

เจ้าของชื่อยิ้มจางตอบแพะโง่ที่ทำหน้างงชีวิตจนน่าสงสาร

"ข้าว่ามันก็คงไม่มีอะไรแล้ว กลับกันเถอะ อ้อ อย่าลืมเรียกคนมาเก็บกวาดห้องนี้ด้วย เละไปหมดแล้ว"

"ชาคอส" คาร์บิลัสเรียกเสียงยานคางไม่นานก็ปรากฎร่างมือขวาของราชาปีศาจขึ้นมาในห้อง

"ขอรับท่านคาร์บิลัส" ทันทีที่มาถึงชาคอสก็ค้อมตัวรอรับคำสั่งทันทีแต่พอเห็นสภาพห้องอันเละเทะก็เริ่มคิ้วกระตุก

"เก็บกวาดด้วย ข้าจะกลับไปพักผ่อนวันหยุดของข้าต่อ" คาร์บิลัสพูดเสียงเอื่อยๆ ถลาเข้าไปรวบฟาร์คัสขึ้นมาอุ้มอย่างง่ายดายแล้วกระโดดเข้าวงเวทเพื่อกลับห้อง หวังจะใช้วันหยุดให้คุ้มค่ามากที่สุดด้วยการกอดฟาร์คัสทั้งวัน

ทิ้งให้มือขวาที่เหลืออยู่ในห้องส่งเสียงบ่นอย่างหงุดหงิด

"บัดซบนี่ก็วันหยุดของข้าเหมือนกัน ท่านคาร์บิลัส!"
 
 -----------------------

ทุกคนอย่าเพิ่งตกใจกับคำว่าจบ 5555 ตอนแรกก็ไม่ได้กะว่าจะให้จบแต่คิดไปคิดมาก็จบเรื่องก็น่าจะดีกว่า

หลังๆ รู้สึกว่าเขียนเรื่องนี้ไม่สนุกเหมือนเดิมเหมือนเนื้อเรื่องมันเรื่อยเปื่อยเกินไปในแต่ละตอน คิดว่าตัวเองสมควรจะหยุดไว้แค่นี้

จะดีกว่าค่ะ  :sad4: ส่วนคู่เด็กๆ อาจจะเขียนเป็นเรื่องแยกออกมาในอนาคตแทนค่ะ

ขอบคุณทุกที่ติดตามมาตลอดนะคะ  :man1:  :man1:  :man1: //กอดจนตัวแตก

ใครอยากอ่านอะไรเป็นตอนพิเศษก็เมนต์เอาไว้ได้ค่ะเผื่อจะหยิบมาเขียนในตอนพิเศษที่จะเอามาลง  :L2:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เราว่ามันยังไม่สุดอ่ะ ต่ออีกนิดน๊าาาาาาาา

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
งะ แบบนี้ก้อได้หราาา รอเรื่องแยกน้อ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
จบ >> ช๊อค

คนเขียนโคดอินดี้ 555

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ตอนพิเศษ : วิญญาณตามติด 

ข้าเกิดมาพร้อมกับพรสรรค์ด้านการใช้เวทย์แต่ก็มีความผิดปกติที่ไม่แน่ใจว่าควรจะเรียกว่าร้ายแรงรึเปล่าอย่างการทำความเข้าใจผู้อื่น ข้าแทบจะไม่เข้าใจอารมณ์ของผู้อื่นเลย

ไม่เลยสักนิด รัก โลภ โกรธ หลง ข้าสัมผัสมันได้ในตัวเองแต่กลับสัมผัสมันจากผู้อื่นไม่ได้ ทุกๆ คนสำหรับข้าเหมือนเป็นแค่สิ่งมีชีวิตที่ไร้ซึ่งอารมณ์ ข้าจับน้ำเสียงในคำพูดไม่ได้ ข้าแยกแยะสีหน้าไม่เป็นด้วยซ้ำไป จนต้องดั้งด้นไปหาอ่านหนังสืออ่านนิสัยคนเพราะท่านแม่เคยบอกข้าว่าขืนข้ายังเป็นแบบนี้ ในอนาคตไม่วายข้าต้องถูกหลอกใช้แน่ๆ

แต่ข้ารู้ดีลึกๆ ได้ว่ามันไม่มีทางเป็นแบบนั้น ข้ามั่นใจว่าตัวเองเฉลียวฉลาดเกินกว่าจะถูกใครหลอกใช้ง่ายๆ แต่ถึงอย่างนั้นข้าก็ไปหาหนังสือที่ว่ามาอ่านอยู่ดี 

ระหว่างที่ข้ากำลังนั่งอ่านไปเรื่อยเปื่อยก็มีไอ้งั่งตัวนึงโผมากอดจากด้านหลัง

"ฟรังก์!!! เจ้าทำอะไรอยู่น่ะ วันนี้วันหยุดทั้งที แก๊ซ ไปกินขนมกัน ไปกินกัน ข้าชวนใครไม่มีใครไปเลย มีแต่เจ้าเนี่ยแหละที่จะไปกับข้า!"

เสียงงุ้งงิ้งดังกรอกหูจนเจ้าของร่างคิ้วขมวด

"ข้าไม่ชอบขนมหวาน"

เป็นไอ้มังกรดำนี่อีกแล้ว.. มันไม่ร้อนมือมั้งรึไงนะ ทั้งๆ ที่ตัวข้านั้นแทบจะร้อนตลอดเวลา

ข้ากลอกตามองเจ้ามังกรดำที่วันนี้ใส่ชุดสีแดงกับหมวกสีชมพูดูสดใสร่าเริงจนน่ารำคาญ ข้าพยายามสังเกตใบหน้ามันก็เห็นรอยยิ้มกว้าง

ให้ตายสิ ทำไมไอ้มังกรดำนี่ถึงได้อารมณ์ดีตลอดเวลานะ มีอะไรให้ดีใจนักหนา?

ข้ามองมันอย่างไม่เข้าใจนัก

"แก๊ซ ฟรังก์ไปไหมมม ต้องไปสิ ข้าไม่มีเพื่อนไปแล้วง้า"

ไม่ ข้าไม่อยากไปเลยสักนิด เสียเวลาชีวิตของข้าชะมัด

"ไม่"

ข้าตอบชัดถ้อยชัดคำก้มอ่านหนังสือในมือต่อแต่เพียงไม่นานก็ถูกดึงแขนไปกอด

"แง้ ฟรังก์ไปกับดัฟฟ์เถอะน้าาา ดัฟฟ์เลี้ยงก็ได้"

"ข้าก็มีของข้า"

กับขนมราคาไม่เท่าไหร่ทำไมข้าจะไม่มีปัญญาจ่าย อย่าลืมสิว่าข้าเป็นถึงมังกรแสงตระกูลดังที่มีหน้าที่เฝ้าประตูหน้าด่านของแดนปีศาจ เงินบำเหน็จบำนาญของแต่ละปีย่อมไม่ใช่น้อยๆ อยู่แล้ว

"แง้ อร่อยมาก เจ้าไปไหมจริงๆ เหรอ ไปเฉยๆ ก็ได้ ไปนั่งเป็นเพื่อนข้า"

"ทำไมเจ้าถึงอยากให้ข้าไปนัก ข้าว่าน่าจะมีคนที่เต็มใจกับเจ้ามากกว่าข้า"

และมันคงน่าสนใจและนิสัยดีกว่าข้าด้วย ...

ข้าชินชากับการเป็นฝ่ายเมินและฝ่ายถูกเมินมานานแล้ว คนนอกมักจะไม่รู้ว่าข้ามีความผิดปกติหรือความรู้สึกช้าในเรื่องนี้และตีความไปต่างๆ นานากันเอาเองว่าข้านิสัยอย่างงู้นอย่างงั้นจนในห้องเรียนข้าแทบจะกลายเป็นคนไร้เพื่อน ที่พอมีก็เป็นแค่ปีศาจอะไรสักอย่างที่วันๆ เอาแต่นอนทำให้ข้าไม่รู้ชื่อมันสักที 

ดังนั้นไอ้มังกรอ้วนนี้ควรจะหาเพื่อนที่ดีกว่าข้า ไม่ใช่มาเอาข้าแบบนี้

"ก็ข้าอยากให้ฟรังก์ไปด้วยนี่นา กินกับฟรังก์อร่อยที่สุด" 

หน้ากลมๆ นั้นยังคงมียิ้มกว้างๆ อยู่

ข้าอยากจะปฏิเสธอีกรอบแต่จนแล้วจนรอดก็ยอมถูกมืออวบๆ เล็กๆ ลากไปร้านขนมที่เจ้าตัวว่า ถามว่าทำไมข้าถึงไป ข้าก็ไม่เข้าใจตัวเองเท่าไหร่เหมือนกัน

ทำไมข้าถึงต้องยอมทำตามในสิ่งที่ดัฟฟ์บอกด้วยนะ?

เป็นแค่คนรู้จักกันแท้ๆ ไม่สิคนร่วมชมรมที่เข้าเผลอรวมเข้าไป มันก็แค่นั้น 

ข้าคิดไปเรื่อยเปื่อยเพียงพริบตาก็มาถึงหน้าร้านที่ดัฟฟ์ว่า ร้านน้ำแข็งไสภูเขาไฟอะไรสักอย่างที่มีคนนั่งเต็มร้าน โชคดีที่มีที่ว่างโต๊ะหนึ่งพอดี ทำให้ข้ากับดัฟฟ์มีที่นั่ง ข้าทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ที่ทำจากน้ำแข็งตัดเป็นทรง 

"แก๊ซ หนาว"

ดัฟฟ์บ่นพร้อมเอาแขนเล็กๆ กอดตัวเอง

"อืม"

ทั้งๆ ที่ข้าควรแค่ตอบรับเฉยๆ แต่มือข้ากลับวาดไปบนอากาศเพียงพริบตาอากาศรอบตัวดัฟฟ์ก็อุ่นขึ้นทันตาเห็น น้ำแข็งเก้าอี้ละลายลงเล็กน้อย 

ข้ากระพริบตาปริบ งุนงงตัวเองเล็กน้อย

ข้าทำมันไปทำไม..?

"แก๊ซ ขอบใจนะ! ฟรังก์" ดัฟฟ์เงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ข้า

อา ใช่ ยิ้ม.. ข้าจำได้มันเรียกว่ารอยยิ้ม รอยยิ้มที่แสดงถึงความรู้สึกดี

แต่จู่ๆ ตากลมๆ นั่นกลับโตยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า

"แก๊ซซซ"

ดัฟฟ์อ้าปากหวอชี้นิ้วสั่นๆ มาทางข้า

ข้าขมวดคิ้ว "อะไรของเจ้า" มือลูบใบหน้าของตัวเองทันที

"ฟรังก์ยิ้มให้ข้าด้วย แก๊ซ!" ดัฟฟ์พูดอย่างตื่นเต้นแล้วหัวเราะคิกคัก

แต่ไม่ใช่กับข้าที่ตกใจมากเมื่อมือสัมผัสกับมุมปากที่ยกยิ้มจริงๆ

นี่ข้ายิ้มเพราะเรื่องของคนอื่น? แล้วยังเป็นเรื่องของไอ้มังกรอ้วนนี้ด้วย

"ยิ้มอีกสิ แก๊ซ! น่ารักออก" ดัฟฟ์ยิ้มให้ข้า

ทำให้ข้าเผลอยิ้มตามออกมาโดยไม่รู้ตัว

และรู้สึกแปร่งๆ กับคำว่าน่ารักที่ดัฟฟ์ใช้นิยามตัวข้า ถ้าหากจะใช้จริงๆ ข้าว่าควรจะใช้กับไอ้มังกรหมูนี้ซะมากกว่า แต่ตอนนี้ไม่แน่ใจเพราะอะไรที่ทำให้ข้ารู้สึกขวยเขินแปลกๆ กับรอยยิ้มของดัฟฟ์

ข้าอาจจะฝันอยู่ก็ได้เพราะถ้าเป็นข้าจริงๆ คงไม่มีวันมีปฏิกิริยาแบบนี้ได้หรอก

"นี่ขอรับ ภูเขาน้ำแข็ง" 

ข้าพยักหน้ารับเงียบๆ เมื่อเมนูที่สั่งไว้ตั้งแต่เข้ามาถูกนำมาวางไว้บนโต๊ะ ข้าชะงักไปสักพักกับตาที่เป็นประกายระยิบระยับของดัฟฟ์และมืออวบๆ ที่ถือช้อนจ้วงเอาน้ำแข็งไสราดน้ำหวายสีแดงไม่หยุด

ทำเอามือข้าที่ถือช้อนเช่นเดียวกันชะงักค่อยๆ วางช้อนเข้าที่เดิม 

จดจ้องใบหน้าที่ยิ้มอย่างมีความสุขในขณะที่กินอย่างเผลอตัว

แปลก..

ที่ตอนนี้ข้ารู้สึกชอบรอยยิ้มนี่ชะมัด

----------

รู้สึกโหวงๆ ซะงั้นพอไม่ได้เขียน 555555 ใครอยากอ่านอะไรเมนต์ไว้ได้นะคะ เผื่อจะเอามาเขียนเรื่อยๆ  :z6:


 
 

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ไม่นะ คู่ดัฟฟ์ฟรังก์เหรอนี lolz

ฟรังก์จะทนผีดัฟฟ์ขี่คอได้กี่ตอนกันเชียว~

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
อยากเห็นชุดดัฟ คึคึ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
มาต่ออีกน้า

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
ทันซะที หลังจากไม่อ่านมานาน ชอบนาซัสจัง ชอบจิ้งจอกน่ารัก แต่คู่สองมังกร นียังไงเนี่ย

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ขอบคุณค่ะ สำหรับตอนจบเราว่าคนเขียนจบได้ดีแล้วนะ จัดการกับปัญหาทั้งหลายแบบไม่ต้องสงสัยอีก
ถ้าคนเขียนพอมีเวลาว่าง อยากจะอ่านตอนพิเศษคู่ของวารันค่ะ อยากอ่านจากใจโฟเทียส คู่ของดัฟฟ์ แล้วก็คู่ของนาซัส (ว่าแต่... นาซัสจะมีคู่กับเขาไหมคะ เพราะดูท่าเป็นผู้ใหญ่เหลือเกิน)
ปล. ประทับใจตอนคาร์บิลัสทำให้นาซัสจำเรื่องในปัจจุบันได้ แล้วนาซัสคิดว่าดัฟฟ์น่ารักดี (เราว่าตอนนี้น่ารัก)
ปล2. ข้อสงสัยนิดหน่อย ตอนงานแต่งงานทำไมไม่มีชื่อนาซัสอ่ะ เห็นแค่ดัฟฟ์กับเพื่อนช่วงเข้าพิธี จริง ๆ ต้องมีนาซัสร่วมด้วยในตอนนั้นหรือเปล่าคะ

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ตอนพิเศษ : วันๆ ของวารัน
 

"เฮ้ โซแวน นี่วันที่เท่าไหร่แล้ว?"

คนถูกถามเหลือบมองร่างที่นอนกลิ้งงอแงบนพื้นพรมด้วยหางตา 

"จะถามไปทำไม เจ้าโดนท่านโฟเทียสลงโทษให้อยู่ในนี้ตลอดชีวิต"

วารันหน้าบิดเบี้ยว

"ม่ายยยย นี่ข้าต้องอยู่ที่นี้ไปอีกนานแค่ไหนเนี่ย" ร้องไห้โฮๆ ออกมาเสียงดังลั่นแต่ใบหน้ากลับไม่มีน้ำตาสักหยด 

โซแวนหลุดยิ้มนิดๆ กับท่าทางน่าเอ็นดูของวารัน ที่ดูเหมือนจะโตแต่ตัว

"ข้าเบื่อ เบื่อจะตายอยู่แล้ววว" วารันบ่มงึมงำถลาเขามากอดขาโซแวน "คิดดูสิ วันๆ ก็บอกแต่ให้ไปนู่นนี่นั่น น่าเบื่อจะตาย จนเดี๋ยวนี้ข้าหลับข้ายังเผลอละเมอพูดเลยเนี่ย"

"ลุกขึ้นนั่งดีๆ เดี๋ยวข้าไปซื้ออะไรมาให้กิน" มือหนาลูบหัวทุยๆ ยุ่งเหยิงของคนรัก

"อะไรกัน นี่เจ้าเห็นข้าเห็นแก่กินขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ!" วารันหน้างอ

"ชาแดงเมืองเวลล์เป็นไง?" โซแวนยิ้มพราย หลังๆ มานี้ไอ้ทึ่มอย่างเขาเลยตามวารันทันแล้ว

"ไม่! ข้าไม่..กิน" วารันพูดไม่เต็มเสียงเมื่อโซแวนหยิบลูกอมที่เขาบอกว่าอร่อยมากๆๆ ออกมา

"แล้วนี่ล่ะ กินไหม" 

พูดไม่พอยังส่งสีหน้าเหนือกว่าใส่อีก

วารันเริ่มทนไม่ไหว ปกติแล้วเขาจะเป็นฝ่ายคุมโซแวนตลอด "โซแวน เจ้าจะฉลาดกว่าข้าไม่ได้นะ!" กอดอกขมวดคิ้วจริงจัง แต่ตายังจ้องลูกอมสีสวยในมือโซแวนไม่กระพริบ

ยิ่งพูดแบบนั้นยิ่งทำให้โซแวนได้ใจเข้าไปใหญ่

ใบหน้าที่มันจะเย็นชาคลี่ยิ้มจนหัวเราะ

"ให้ข้าฉลาดบ้างเถอะ"

ปกติก็ตามเจ้าไม่ทันอยู่แล้ว.. ไวยังกับอะไรดีทั้งความคิดแบบเด็กๆ ที่ข้าคาดไม่ถึง ไหนจะชอบแกล้งอีก

ไม่รู้ว่าเพราะอะไรพอเห็นไอ้คนที่หน้านิ่งๆ มาตลอดยิ้มกว้างก็เผลอหลุดหน้าขรึมไปยิ้มตาม

"จะยิ้มอะไรนักหนา เห็นข้าหงุดหงิดแล้วมีความสุขงั้นเหรอ" วารันถอนหายใจเหนื่อยๆ "ข้าเบื่อจริงๆ นะ เจ้าลองไปช่วยข้าพูดกับท่านโฟเทียสเรื่องลดโทษหน่อยสิ ไม่งั้นข้าต้องกลายเป็นบ้าตายแน่ๆ"

"ผู้ควบคุมกาลเวลาไม่มีวันตาย" โซแวนขัดหน้าตาเฉย

"ไอ้โซแวน ขืนเจ้าพูดมากข้าจะโยนเจ้าออกจากต้นไม้นรกนี่ซะ" 

ยิ่งพูดก็ยิ่งโดนขัดใจ วารันแทบจะกลายเป็นมังกรไฟพ่นทำลายล้างทุกอย่าง

"แล้วใครจะซื้อของกินให้เจ้า?"

"เออ ไงข้าก็ไม่อดตายหรอก"

"แล้วใครจะอยู่ฟังเจ้าบ่น"

"ข้าบ่นคนเดียวได้"

"แล้วเจ้าจะคิดถึงใครเวลาที่ข้าไม่อยู่"

"...นี่เจ้าพูดอะไรแบบนี้เป็นด้วยเหรอ" วารันสะดุ้งเฮือกหันขวับมองหน้าโซแวนด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ "ข้าเอาไปเล่าให้คนอื่นฟังต้องไม่เชื่อข้าแน่!"

"มากกว่านี้ก็ได้" โซแวนยิ้ม "ถ้าเจ้าทำตัวน่ารักกว่านี้"

วารันยักไหล่กวนๆ ลุกขึ้นยืนปัดฝุ่นออกจากตัว

"ทำตัวน่ารักกว่านี้ก็ไม่ใช่ข้าสิ อยู่แบบกวนประสาทเจ้าแบบนี้สนุกกว่าเยอะ" 

"แล้วนั่นเจ้าจะไปไหน" โซแวนขมวดคิ้วมุ่นเมื่อวารันเดินหนีตัวเองไปอีกทาง 

"หาทางหนีออกจากต้นไม้นรกนี้มั้ง" วารันพูดเซ็งๆ รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองพูดไม่มีวันเป็นจริงเพราะถูกท่านโฟเทียสลงเวทย์ไว้อย่างแน่นหนาในขนาดที่ว่าแมลงสักตัวยังลอดออกไปไม่ได้ซึ่งมันก็มีผลเฉพาะกับวารันเพียงคนเดียวซะด้วย

โซแวนหัวเราะในลำคอสาวเท้ายาวๆ ไปรวบตัววารันเข้ามากอดแน่น ฝังใบหน้าที่ลำคอขาวอย่างหลงใหล 

"เจ้าถูกขังไว้ในนี้ก็ดีนะ"

พูดพลางขบกัดลำคอของวารัน

"จะได้หนีข้าไปไม่ได้อีก"

"โอ๊ย! บัดซบ นี่เจ้าจะกัดข้าทำไม" วารันศอกใส่โซแวนอย่างดุร้ายแต่ก็ไม่ได้ทำให้เจ้าตัวสะดุ้งสะเทือนแต่อย่างใด

"เจ้าชอบหนีข้าไป ชอบทิ้งข้าให้อยู่คนเดียว ทั้งๆ ที่รู้ว่าข้าชอบเจ้ามากขนาดไหน" คล้ายกับสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเพราะถูกกลิ่นกายหอมๆ ของวารันมอมเมา โซแวนจึงพูดพร่ำไปเรื่อยเปื่อยไล้จมูกไปที่ใบหู

"เจ้าก็รู้ว่าข้าเป็นแบบนี้แต่ก็ยังมาชอบข้าอีก" 

วารันพยายามดันสุนัขตัวโตที่เกาะหลังตัวเองออกแต่เหมือนเดิมไม่เป็นผลอะไรทั้งนั้น

"ตอบข้าสิ เจ้าคิดถึงข้ารึเปล่า?"

เสียงของโซแวนคล้ายกับสุนัขอ้อนขอความรักจากเจ้าของ

ซึ่งเจ้าของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ตอนนี้ก็หน้าแดงก่ำไปทั้งหน้า

บัดซบ บัดซบ บัดซบ!

วารันโหยหวนในใจเมื่อเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้อย่างที่ควรเป็น

ทำไมวันนี้โซแวนถึงได้แปลกไปนักนะ? หรือว่าข้าแกล้งมากเกินไปถงกลายเป็นแบบนี้!

"หยุด โซแวน ข้าสั่งให้เจ้าหยุด!" วารันโวยวาย

"หยุดเจ้าก็ต่อยข้าสิ"

"เออ ถ้าไม่อยากโดนข้าต่อยก็ปล่อยข้าา นั่น! ข้าเห็นนกเดินมาตัวนึง ต้องมาถามไถ่ข่าวสารแน่ๆ ปล่อยยย" วารันตะเกียกตะกายสุดชีวิต

"ต้นไม้มีเป็นร้อยต้น ต่อให้เจ้าไม่ตอบมันก็ไปต้นอื่นอยู่ดี" โซแวนวางคางบนไหล่ของวารันพ่นลมหายใจร้อนๆ รดต้นคอ "เจ้ายังไม่ได้ให้รางวัลข้าเลยนะ.." พูดเสียงแหบพร่า

"กับอีแค่เดินออกไปซื้อขนมให้ข้ามันเหนื่อยตรงไหนกัน ทำไมข้าต้องเปลืองตัวให้เจ้าขนาดนั้นด้วย"

โซแวนขมวดคิ้วบ่นงึมงำ

"พูดเหมือนว่าเจ้ากินอยู่อย่างเดียว"

สำหรับโซแวนวารันก็เหมือนหมูตะกละสักตัวที่กินทั้งวัน ไม่มีอะไรทำก็กิน มีช่วงนึงที่ไม่ค่อยกินก็คือช่วงที่ติดตามดูเจ้าอีกานั้นแต่พอไม่มีเจ้าอีกานั่น วารันก็ไม่ได้สนใจใครอีก จดจ่ออยู่ในโลกของกินที่โซแวนต้องเป็นคนสร้างขึ้นมาให้กับวารัน

"..จะไม่ให้ข้าจริงๆ?" 

เจ้าของร่างที่แทบถูกกอดจนแบนแค่นเสียงตอบ

"ไว้วันหลัง วันนี้ข้าไม่มีอารมณ์ทำอะไรทั้งนั้นนั่นแหละ"

"แค่จูบก็ได้.. ข้ากับเจ้าไม่ได้จูบกันมานานแล้วนะ" 

วารันขยำเสื้อตัวเองแน่นรู้สึกเขินอายก็จริงแต่ก็ไม่อยากยอมรับนัก

"แค่จูบเท่านั้นนะ แล้วหลังจากนี้ก็ไปซื้อโดนัทให้ข้าด้วย เอารสช็อกโกแลตร้านดังๆ ในเมืองมนุษย์"

เอาเข้าจริงวารันก็ไม่ได้อยากกินอะไรขนาดนั้น เพียงหาวิธีที่จะโยนโซแวนให้ห่างจากตัวเอง

"อืม"

โซแวนยอมคลายแขนของตัวเองออกอย่างว่าง่าย

"เสร็จข้าล่ะ!" วารันยิ้มอย่างมีชัยผลุดลุกขึ้นยืนเตรียมจะวิ่งหนีไปหลบซ่อนสักที่ในห้อง

หมับ

"มุขเดิมๆ ใช้กับข้าไม่ได้หรอก" 

โซแวนยิ้มชั่วร้ายกระชากร่างเจ้าเล่ห์เข้าหาตัวเองโน้มหน้าลงจูบบนริมฝีปากที่เหมือนจะไม่ได้มาสัมผัสมาเกือบปีเพราะเจ้าตัวเอาแต่เลี่ยงมาตลอด อย่างมากที่ให้ทำก็แค่กอดเท่านั้น

ทั้งๆ ที่เป็นคนรักกันแล้วแต่ก็ไม่ได้รู้ว่าวารันจะอายอะไรนัก เวลาที่พูดถึงเรื่องแบบนี้ทีไรใบหน้าทะเล้นชอบกลายเป็นยิ้มกว้างเหมือนพยายามกลบเกลื่อนอะไรสักอย่างในใจ

คงจะเป็นความเขินอาย

โซแวนคาดเดาเรื่อยเปื่อย วารันเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองมาตั้งแต่ครั้งแรกที่รู้จักกัน ชอบเล่นซนไปทั่วเหมือนเด็กไม่รู้จักโต ทำอะไรไม่ยั้งคิด ชอบทำตัวให้เป็นห่วง แต่ก็เพราะแบบนี้นั่นแหละ

ถึงได้...หลงรัก

ร่างในอ้อมกอดโซแวนคล้ายกับตกใจจนเผลอเผยอปากขึ้นทำให้โซแวนได้โอกาสการไล่ต้อนในแบบฉบับของตัวเองดูบ้าง แต่น่าเสียดายที่วารันกลับสู้ตอบเหมือนพยายามจะพยศครั้งสุดท้ายทั้งๆ ที่ตัวสั่น

โซแวนหัวเราะในใจนึกเอ็นดูจนรู้สึกว่าต่อให้ตัวเองต้องกลายเป็นทาสของวารันไปตลอดชีวิตก็คงยอม

ต่อให้เจ้าหลอกใช้ข้าไปอีกนานแค่ไหนข้าก็คงยอม

ถ้าหากเจ้าไม่เปลี่ยนใจไปจากข้าก่อน

มือหนารวบเข้าที่เอววารันเมื่อปล่อยให้เจ้าตัวหายใจหายคอบ้าง

ผมสีเหลืองอ่อนๆ ยุ่งเหยิงไม่เป็นทรงหนักกว่าเดิมอีกทั้งตาของวารันยังแดงๆ เหมือนจะร้องไห้อีกด้วย

"โซแวน นี่เจ้าไปทำอะไรมา"

"หือ เจ้า? ร้องไห้เหรอ" โซแวนเลิกคิ้วงุนงงใช้นิ้วเกลี่ยขอบตาวารันซึ่งพบว่ามันชื้นจริงๆ

"ข้าไม่ได้ร้อง ปล่อยข้า ไปซื้อโดนัทให้ข้าสิ" วารันขมวดคิ้วพูดสีหน้าเหมือนทำใจไม่ได้ที่ตัวเองเหมือนจะพ่ายแพ้ให้กับโซแวนอย่างหมดรูป

วารันรู้สึกคล้ายกับตัวเองกลายเป็นหนูที่โดนแมวเหยียบหางจนหนีไปไหนไม่ได้ นอกจากร้องไห้จี๊ดๆ น่าสงสารอยู่ที่เดิม

โซแวนเริ่มเข้าใจถึงสาเหตุจึงถอนหายใจแล้วจูบเบาๆ ที่หน้าผากวารัน

"อืม"

ยอมปล่อยวารันออกไปง่ายๆ เพราะกลัวว่าร้องตรงหน้าจะปล่อยโฮออกมาซะก่อน

ช่วยไม่ได้จะให้ข้าโง่ตลอดกาลก็ใช่เรื่อง ข้าเป็นผู้ควบคุมกาลเวลานะ เกิดโง่ยาวนานขนาดนั้น ท่านโฟเทียสคงหมั่นไส้ไล่ข้าไปเกิดเป็นอย่างอื่นพอดี

"ซื้อเสร็จ ข้าจะมาเอารางวัลต่อ"

โซแวนไหวไหล่ยิ้มๆ แล้วหันหลังให้วารันที่น่าจะทำหน้าน่าสงสารอยู่แน่ๆ

ให้คนปากแข็งมีจุดยืนบ้าง... แค่โดนขังไว้ในนี้ก็หน้าเบื่อจะตายชักแล้ว ขืนข้าทำให้วารันจนตรอกเกินไปเดี๋ยวจะได้ร้องไห้โฮมาออกมาจริงๆ ซึ่งข้าก็ไม่ถนัดปลอบคนร้องไห้ซะด้วย

แต่คิดไปคิดมาก็อยากลองทำให้ร้องไห้บ้างแล้วสิ...
 
 -----

 :hao7:

ตอบคำถามคุณ sirin_chadada  :man1:

นาซัสจะมีคู่ไหม? :  มีค่ะแต่ยังไม่แน่ชัดเท่าไหร่ว่าใคร  :o8:

งานแต่งนาซัสหายไปไหน? : ตอนแรกกะจะให้อยู่ในงานด้วยแต่พอแต่งเข้าจริงๆ แล้วลืมนาซัสไปสนิทเลย 55555555555 (นาซัสอย่าร้องไห้) ตอนนั้นตัวละครเยอะมาก TWT

 :man1: ขอบคุณทุกคอมเมนต์ค่ะ กอดด ส่วนตอนพิเศษน่าจะมาเรื่อยๆ

 
 
 

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
วารันดูมุ้งมิ้งขึ้นมาทันที คึคึ

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
คิดถึง  ๆ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
วารันเหมือนเด็กซน ๆ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
เยี่ยมม

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ mentholss

  • "เหตุผล" หรือ "ข้ออ้าง"
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
Re: Ominous Bird นกบอกลาง [จบแล้ว]
«ตอบ #506 เมื่อ13-06-2018 21:42:13 »

 o13

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด