“ไปให้อะไรกระต่าย ทำไมผมไม่รู้เรื่อง” ผมหงุดหงิดแต่พยายามเก็บอาการไว้ให้มากที่สุดครับ พี่ทิตย์ดึงการ์ดในมือผมไปกวาดสายตาอ่านลวกๆแล้วก็ขมวดคิ้ว
“พี่ให้กระต่ายครั้งสุดท้ายก็… อมยิ้มตอนจีบอุ่นไง" ผมทำหน้าไม่เชื่ออยู่สักพักก็นึกขึ้นได้ว่ามีกล่องอมยิ้มกล่องใหญ่อยู่ในถุงใบนึงครับ อะไรวะ เขียนซะผมคิดไปไกลเลยครับ นั่งหน้ามุ่ยมองการ์ดใบอื่นก่อนจะหมดอารมณ์วางมันไว้อย่างนั้นครับ
“พี่ทิตย์กลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อก่อนมางานหรือเปล่า” พี่ทิตย์พยักหน้ารับครับ ผมก็พยักหน้างึกงักตาม ตอนนี้เพิ่งบ่ายสองเองครับหรือว่าผมจะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อห้องพี่ทิตย์บ้าง
แม่พี่ทิตย์ให้พี่ทิตย์เช่าหออยู่แถวมหาลัยเพราะเหม็นขี้หน้าพี่ทิตย์ครับ ท่านใจดีบอกให้ผมไปอยู่ด้วยได้ด้วยล่ะครับ แต่ผมก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ด้วยทำไมเลยไปบ้างไม่ไปบ้างครับ ชีวิตเด็กมหาลัยเนี่ยดูมีอิสระมากจริงๆผมยังอิจฉาพี่ทิตย์เลยเหอะ แต่ยังไงตอนนี้พี่ทิตย์ก็ยังแค่ม.6อยู่นั่นล่ะครับ
“งั้นเดี๋ยวรออยู่นี่แหละ ว่าจะขึ้นไปเรียน” ผมนึกขึ้นได้ว่าผมควรจะขึ้นเรียนได้แล้วเลยพูดไปแบบนั้นครับ พี่ทิตย์เลิกคิ้วแล้วพยักหน้ารับรู้ ผมยิ้มครับ แฟนใครวะเนี่ยยย ดูมีอนาคตจังเล๊ย
“รูปนี้น่ารักดี ดูสิ” ไอ้น่ารักของพี่ทิตย์เนี่ยเชื่อถือไม่ได้ครับ ผมโดนรัวถ่ายตอนเหวอไปตั้งหลายรูป รูปหน้าเมาๆพี่ทิตย์มันก็ยิ้มบอกว่าน่ารักครับ ผมล่ะปวดหัว
“นี่เรียกน่ารักเหรอ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้วไปเดี๋ยวผมขึ้นเรียนแล้วเนี่ย” ผมไล่พี่ทิตย์ที่รับกล้องคืนไปแบบยิ้มๆครับ พี่ทิตย์พูดน้อยลงหรือผมพูดมากขึ้นก็ไม่รู้นะครับ แต่ผมก็รู้สึกดีอยู่เสมอ คงเพราะเราอยู่ด้วยกันมาค่อนข้างนาน ผมผูกพันธ์กับความสัมพันธ์ของเราไปแล้ว
หืม… น่าอายนะเนี่ย
……………………………………………………………………………………………………………………………….
แฟนผมแม่ง… น่ารักชิบหาย
ผมยกยิ้มมองอุ่นที่ยืนหัวเราะไปคุยไปกับกลุ่มเพื่อนในห้อง ตอนนี้งานเริ่มจะมีคนทยอยมาเรื่อยๆแล้วครับ ศิษย์เก่าบ้าง แต่ส่วนมากก็เด็กปัจจุบันมากกว่า ผมยืนรออยู่ห่างๆแบบนี้เพราะไม่ค่อยรู้จักอะไรกับพวกเพื่อนอุ่นเท่าไหร่หรอกครับ แม้ว่าฝ่ายนั้นจะดูรู้จักผมก็เถอะ
“โต๊ะนู้น ไปนั่งกับเราไหมล่ะ” อุ่นเอ่ยชวนเพื่อนแบบทีเล่นทีจริงโดนที่ไม่ได้ถามความเห็นผมกับเพื่อนร่วมโต๊ะเลยซักคำครับ แล้วก็เหมือนว่าเจ้าตัวจะเห็นสีหน้าผมเลยยิ้มทะเล้นออกมาก่อนจะเดินกลับมาหาผมครับ
“ไปนั่งรอคนมากัน พี่รหัสผมก็นั่งโต๊ะเราเหรอ” ผมพยักหน้ารับก่อนจะเดินอยู่ข้างๆอุ่นไปจนถึงโต๊ะครับ อุ่นกะพริบตาปริบพร้อมอมยิ้มออกมาเล็กน้อย แก้มยุ้ยๆที่เป็นผลพลอยได้จากการจัดฟันมันน่าฟัดมากเลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำตัวน่าหมั่นเขี้ยวไปถึงไหน
“มองอะไร” น้ำเสียงติดหงุดหงิดเล็กๆนี่ก็น่ารักครับ สีหน้าฉายแววรำคาญใจออกมานิดหน่อยให้ผมรับรู้ อุ่นไม่ชอบให้ใครมองอยู่แล้วมั้งครับ ไม่ชอบเป็นจุดเด่น แต่ก็ดูโดดเด่นในสายตาผมอยู่ดีแหละ
“มองแฟนตัวเองไม่ได้เหรอ” ผมโต้กลับไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย อุ่นเหมือนจะโวยวายออกมาทันทีที่ผมพูดจบแต่ก็เงียบทำหน้าบูดหน้าบึ้งแทนครับ จริงๆผมรู้ว่าอุ่นคงกำลังเขินไม่ก็จั๊กจี้ในอกอยู่แน่ๆครับ
“เขามีเหล้าด้วยว่ะ แบบนี้เรากินจะมีครูว่าหรือเปล่าเนี่ย” อุ่นถอนหายใจออกมาเสียงแผ่วหลังจากเห็นกล่องเหล้าตามโต๊ะอื่นๆที่เป็นทางผ่านครับ
“กินเยอะๆเลย เมาแล้วระวังพี่อุ้มขึ้นห้องด้วย” ผมพูดหยอกล้อออกไปอุ่นก็หันมาเลิกคิ้วประกอบกับกัดปากท้าทายผมครับ อยากจะจับลากเข้าห้องแม่งเดี๋ยวนี้เลยเถอะครับ ชอบทำหัวใจผมเต้นรัวไม่หยุดตลอดเลย
“ไม่ มี ทาง” อุ่นพูดถูกเลยครับ เห็นหน้ามันใสซื่อบริสุทธิ์ตัวเล็กเหมือนจะไร้เดียงสาแต่อุ่นกินเหล้าเป็นนะครับ อย่าหวังว่าผมจะมอมเหล้าแล้วลากขึ้นเตียงกันง่ายๆ ถ้าผมจะมอมเหล้าเพื่อการนี้ขอบอกเลยว่าเปลืองงบประมาณมากครับเพราะอุ่นจะไม่กินถ้าผมไม่กิน และกว่าอุ่นจะเมาผมก็เมาไม่แพ้กัน
อ่านมาถึงตรงนี้คงจะสงสัยล่ะสิว่าเราเคยมีอะไรกันหรือยัง
สาบานได้ว่ายังครับ ถึงแผนชั่วๆในสมองมันจะมากมายก็ตามครับแต่ผมก็ยังมีสติมากพอนะครับ อุ่นไม่เคยห้ามไม่เคยว่าถ้ามันจะเกินเรื่องแบบนั้น แต่ผมสัญญากับอุ่นแล้วครับว่าอย่างน้อยก็ให้อุ่นจบม.6ก่อนก็ได้ เราห่างกันแค่ปีเดียวก็จริงครับ แต่ดูอุ่นสิครับ ภายนอกหลายคนก็คงมองอุ่นเป็นเด็กผู้ชายซนๆตามปกติ แต่ผมว่าอุ่นเป็นเด็กที่โคตรน่าถะนุถนอม ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไอ้ความรู้สึกนี้มันมาได้ยังไง
“จะจบเนี่ยแก้ศูนย์ยังเอ่ยย” อุ่นยิ้มหวานไปพูดล้อเลียนพี่รหัสตัวเอง ก็ไอ้บอมบ์นั่นล่ะครับ ไอ้บอมบ์เดินมานั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามผมพร้อมๆกับเนย เนยมองหน้าผมแต่ไม่ได้ยิ้มทักหรือพูดอะไร ผมคิดว่าคงเกรงใจบอมบ์มั้งครับ แต่ผมกับเนยคงกลับไปคิดหรือรู้สึกเหมือนเดิมไม่ได้แล้วล่ะครับ
“ไม่ติดโว้ย มาใกล้ๆมาอุ่น” อุ่นหัวเราะเสียงใสออกมาเบาๆอย่างถูกใจที่ได้ล้อเลียนชาวบ้าน ไอ้บอมบ์ชี้หน้าอุ่นแบบที่เล่นทีจริงครับ
“ไม่ให้ไป” ผมกดหัวไอ้เด็กที่นั่งอยู่เก้าอี้ข้างผมมาซบไหล่ตัวเอง คนอื่นหัวเราะแซวกันส่วนอุ่นหันมาทำหน้ามุ่ยใส่ผมทันทีครับ ผมเลิกคิ้วยิ้มกวนตีนอุ่น น้องเลยดันผมออกก่อนนั่งดีๆครับ
บรรยากาศเรื่อยๆกับโชว์อะไรไม่รู้ของแต่ละม.ครับ ผมไม่ค่อยได้ตั้งใจดูเท่าไหร่เพราะมัวแต่นั่งฟังเพื่อนผมบ่นอะไรกก็ไม่รู้ครับ โต๊ะนี้มีเพื่อนผมเป็นส่วนมากแล้วก็แฟนเพื่อน ประมาณนั้นครับ แรกๆอุ่นไม่ค่อยชินกับกลุ่มผมเท่าไหร่แต่พออยู่ไปนานๆอุ่นคงเริ่มปรับตัวได้มั้งครับ
“อย่ากินเยอะเกินนะ” ผมหันไปแตะมืออุ่นที่กำลังยื่นแก้วให้ไอ้บอมบ์ชงเหล้าให้ครับ อุ่นชะงักไปเล็กน้อยแต่ก็ยื่นแก้วเหล้าให้ตามเดิมครับ ไอ้เด็กดื้อเอ๊ย
“มีห่วงด้วยวุ้ย” ไอ้บอมบ์พูดแซวขึ้น
“เสือกอีก” ผมตอบมันไปเสียงเรียบและดูมันก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรแถมยังชงเหล้าที่ดูเข้มเกินไปให้อุ่นอีกต่างหาก มันจะร่วมมือกันยั่วโมโหผมหรือไงวะ ผมขมวดคิ้วแน่นให้รู้ว่าไม่พอใจครับ
“เอาน่าพี่ทิตย์ ผมไม่เมาหรอก” ขนาดไม่เมายังเอามือมาดึงแก้มผมเลยครับ เมาจะขนาดไหน ผมถอนหายใจออกมาเบาๆตามใจอุ่นไปครับ ถ้าแม่อุ่นรู้ว่าผมให้น้องมาเมาแบบนี้ผมโดนดุแน่ครับ แม่อุ่นไม่ได้ห้ามเพราะเข้าใจว่ามันก็ต้องมีบ้าง แต่ผมก็ไม่ควรปล่อยให้น้องเมามากเกินไป
“ผมอยากไปโต๊ะเพื่อนอ่ะ เดี๋ยวมานะพี่ทิตย์”
“ไปส่งเปล่า เดินไหวไหมเนี่ยอุ่น” ผมบ่นพึมพำออกมาเพราะอุ่นก็ดูเริ่มเมาแล้วด้วยครับ
“หือ ไหวๆ เดี๋ยวมาแป๊บนึง” ผมพยักหน้าเออออแล้วมองตามอุ่นที่ยังเดินตรงปกติได้ โต๊ะอยู่ไกลกันพอสมควรครับแต่ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ผมเลิกสนใจอุ่นแล้วหันมองเวทีการแสดงบ้าง มองเพื่อนนั่งคุยกับแฟนบ้าง เหงาครับ แต่ผมบ่นเหงาตอนนี้ต้องโดนหาว่ากระแดะแน่เพราะเพิ่งห่างจากอุ่นไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำครับ ได้แต่นั่งถอนหายใจไปกระดกเหล้าไปอย่างไม่รู้จะทำห่าอะไรที่ดีกว่านี้ได้แล้วครับ หรือผมจะไปตามน้องดี โอ๊ย ให้ความเป็นส่วนตัวน้องหน่อยสิไอ้อาทิตย์!
ตอนนี้เหมือนมีนักร้องที่โรงเรียนจ้างมามาร้องเพลงครับ ความสนุกหน้าเวทีเลยเพิ่มมากขึ้น โต๊ะผมลุกไปแจมกันหมดเหลือผมนั่งอยู่คนเดียว ผมนั่งระงับอารมณ์ตัวเองอยู่สักพักก็มีคนกอดผมจากด้านหลังครับ กอดทั้งที่มีเก้าอี้กั้นนั้นแหละ อุ่นแน่ๆครับ ผมจับแขนน้องดึงออกจากคอผมแล้วดึงเข้ามาใกลตัวด้านข้างให้ผมเห็นหน้า
“โต๊ะเพื่อนมีเบียร์ สลับกินกับเหล้าไม่ไหวว่ะ กว่าจะกลับมาโต๊ะได้ผมมึนเลยเนี่ย” ผมดันน้องให้นั่งลงกับเก้าอี้ข้างผม น้องงอแงบ่นอะไรก็ไม่รู้ครับ ท่าจะเมาจริงๆแล้วสิ เอาลูกชายเขาไปส่งบ้านทั้งแบบนี้คงไม่ไหวมั้งครับ อุ่นยังใส่ชุดนักเรียนอยู่เลยครับ
“กลับเลยไหม นอนห้องพี่ก็ได้” ผมเสนอขึ้นมาแต่อุ่นส่ายหน้าพรืดปฏิเสธครับ
“หือ? พี่ทิตย์อยู่กับเพื่อนเหอะ ปัจฉิมทั้งที” คนตัวเล็กยิ้มหวานออกมาเล็กน้อย ผมยกมือขึ้นยีหัวอุ่นอย่างนึกหมั่นเขี้ยวครับ แต่อยู่ดีๆอุ่นก็เงียบ ปากเรียวสวยเผยออกเล็กน้อยเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่พูดครับ ผมขมวดคิ้วสงสัยท่าทีของน้องที่เปลี่ยนไป
“เป็นอะไร หืม? มีอะไรจะบอกพี่เหรอ” ผมถามออกไปครับ อุ่นกลอกตาไปมาแล้วหลบสายตาผม มันต้องมีอะไรแน่ๆครับ
ผมเลิกคิ้วก่อนที่จะจ้องหน้าน้องรอคำตอบตาแทบไม่กะพริบ พออุ่นรู้ตัวว่าโดนผมจ้องกดดันอยู่มือเล็กๆก็มาเลยครับ อุ่นใช้มือดันหน้าผมออกห่างก่อนจะส่งเสียงงอแงในลำคอเบาๆให้ผมรู้ว่าไม่ชอบครับ อุ่นมีอะไรในใจแน่นอนแล้วล่ะครับ ไม่งั้นคงไม่งอแงแบบนี้ หรืออาจจะเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์
“อุ่นเป็นอะไร?” ไอ้บอมบ์ที่เดินกลับมาหยิบกระเป๋าบนโต๊ะถามขึ้นครับ ผมส่ายหน้าไปมามันก็ขมวดคิ้วยุ่งเลยครับ
“อุ่นมันเมาแล้ว เดี๋ยวกูจะพากลับหอเนี่ย” ผมโบกมือไล่มันถึงยอมไปครับ สายรหัสนี่แม่งเป็นบ้าอะไรวะห่วงกันเกินไปหรือเปล่า ผมชักอยากพาลขึ้นมานิดหน่อย แต่พอเห็นไอ้คนที่นั่งข้างๆเลื้อยมือหาแก้วเหล้าผม ผมก็ต้องหันไปดุแทนครับ
“พอแล้วอุ่น ป่ะ กลับหอ” ผมดึงตัวอุ่นให้ลุกขึ้น ตอนนี้แทบจะหิ้วปีกน้องแล้วครับถ้าไม่ยอมกลับ อุ่นดูมึนๆแต่ก็คงยังพอมีสติอยู่นั่นล่ะครับ
ผมจูงมือน้องให้เดินตามมายันลาดจอดรถครับ ผมแอบเนียนจอดที่จอดรถของอาจารย์ล่ะครับเพราะขี้เกียจไปจอดไกล ที่ตรงนี้ค่อนข้างมืดเพราะเป็นด้านหลังอาคาร มีแสงไฟจากงานลอดเข้ามาไม่มากบวกกับแสงไฟจากหลอดสีส้มเก่าๆที่ติดอยู่ด้านบนก็พอทำให้ผมเห็นว่าอะไรเป็นอะไร
อุ่นเปิดประตูรถทำท่าว่าจะเข้าไปในรถแต่ผมผลักปิดไว้อย่างเดิมก่อนจะดันตัวอุ่นให้ชิดไปกับรถ อุ่นดูตกใจอยู่แว๊บนึงแล้วก็ปรับสีหน้าให้เรียบเฉยเหมือนที่ชอบทำ ผมส่งสายตาตั้งคำถามไปทันทีครับ
“พี่ทิตย์…” ผมรู้ว่าถ้าน้องอยากพูดก็จะพูดออกมาเอง แต่บางเรื่องก็ต้องกดดันให้น้องพูดออกมาบ้างครับ ไม่อยากให้เก็บไว้คนเดียว ผมเลิกคิ้วรอฟังสิ่งที่อุ่นจะพูด
“เพื่อนบอกว่า ถ้าขึ้นมหาลัย เราอาจจะเลิกกัน? อยู่ดีๆผมก็กลัวอ่ะ งี่เง่าชิบหาย” อุ่นพูดออกมาแต่ไม่ได้มองหน้าผมเลยครับ น้องหันข้างมองอะไรก็ไม่รู้แต่ผมอดใจไม่ไหวแล้วสิครับ ตอนนี้น้องน่ารักมากจริงๆ
ผมจับคางบังคับให้น้องหันหน้ามามองผม ผมจ้องมองน้องด้วยสายตาที่น้องชอบหลบมันครับ แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ อุ่นหลบตาผมแต่ก็เลิ่กลั่กอย่างเห็นได้ชัด ผมลอบยิ้มออกมาทำให้น้องหันมามองผมแล้วทำหน้ามุ่ยครับ ตอนนั้นล่ะผมได้โอกาสกดจูบลงไปแผ่วเบาลงบนปากยื่นๆของอุ่น เสียงประท้วงในลำคอดังขึ้นผมเลยผละออกมาทั้งที่ยังไม่ได้ทำอะไร
เราจ้องตากันอยู่สักพักก็เหมือนทุกอย่างมันดูดให้เราเข้าใกล้กันอีกครั้ง ผมเผลอดันตัวน้องจนชิดไปกับตัวรถแล้วบดเบียดริมฝีปากตัวเองลงไป อุ่นไล้มือขึ้นมาโอบรอบคอผมไว้นั่นยิ่งทำให้ผมเตลิดไปไกลยิ่งกว่าเดิม ผมหวังว่าจูบนี้ของผมมันจะบอกทุกอย่างที่ผมรู้สึกได้ และอุ่นก็คงจะรับรู้
เวลาผ่านไปสักพักเราถึงผละออกจากกันได้ อุ่นยกมือขึ้นเช็ดปากแล้วยืนเงียบเหมือนรวบรวมสติพร้อมมองซ้ายมองขวาครับ จริงๆมันก็เสี่ยงมีคนมานะครับแต่งานกำลังสนุกกันคงไม่มีใครกลับตอนนี้กันหรอกครับ
“เชื่อพี่หรือเพื่อน” ผมเลิกคิ้วถามอุ่นครับ
“เพื่อน” คนตัวเล็กพูดแล้วยิ้มทะเล้นออกมาท่ามกกลางความมืด ตานี่เป็นประกายเลยเถอะครับพอได้กวนชาวบ้านเขาเนี่ย
“พี่รักอุ่นนะครับ” ผมพูดย้ำออกไปอีกครั้ง อุ่นทำลอยหน้าลอยตาไม่สนใจครับ
“รักแค่ไหน” ผมยิ้มให้กับคำถามน่ารักๆจากเด็กเอาแต่ใจตรงหน้า ก่อนจะใช้นิ้วจิ้มหน้าผากอุ่นเบาๆ
“แค่อุ่น” ผมพูดพร้อมคลี่ยิ้มออกมาเพราะคนตรงหน้าผมแม่งนิ่งเหมือนกำลังประมวลผมคำพูดของผมอยู่ มือเล็กทุบลงที่อกผมไม่แรงมากแต่ก็เจ็บอยู่ครับ แบบนี้เขาเรียกว่าเขินแล้วกลบเกลื่อน ผมจับมือน้องมากุมไว้แล้วจ้องหน้าน้องอยู่อย่างนั้นจนน้องหลบสายตา
“ปล่อย… กลับได้แล้ว ง่วง” อุ่นหันหนีเปิดประตูรถจนชนผมแล้วเข้าไปนั่งกอดอกอยู่ข้างในครับ ผมยิ้มแล้ววิ่งไปฝั่งคนขับแล้วมองหน้าอุ่นที่บูดเหมือนตูดหมาครับ อุ่นดึงหน้าไปงั้นล่ะครับจริงๆเขินอยู่ ผมรู้
“คิดมาก” ผมขับออกมาได้ก็บ่นพร้อมยกมือขึ้นยีหัวน้องครับ
“ไม่รักก็ไม่คิดหรอก” น้องพูดออกมาทั้งทีตามองตรงไปข้างหน้าครับ ผมแอบยิ้มออกมาแผ่วเบาเพราะความปากหนักของอุ่นครับ คนอะไรวะน่ารักชิบหาย
“อะไรนะ” ผมแกล้งพูดหยอกไปครับ
“รู้ว่าได้ยิน” อุ่นพูดเสียงดังขึ้นมาเลยครับ ทีอย่างนี้ล่ะพูดชัดเชียว ผมได้แต่ส่ายหน้าไปมาเหมือนระอาทั้งที่ปากยังเหยียดยิ้มไม่ยอมหุบ
“ครับๆ ได้ยินครับ”
มีแฟนน่ารักนี่มันมีความสุขจริงๆเล๊ย
_________________________________________________________________________________
เอาปัจฉิมนิเทศมาคั่นความรู้สึกของคนคืนก่อนนะคะ เพราะฝั่งนั้นต้องย้อนไปดูตั้งแต่แรกแบบย่อๆในฝั่งของพี่ทิตย์ คนแต่งขี้อู้เลยขอเวลาหน่อยนะคะ แฮร่ ดีใจมากๆที่ทุกคนบอกว่ายิ้มตอนอ่านเรื่องนี้ เราก็ยิ้มไม่หุบตอนอ่านความเห็นของทุกคน ขอบคุณจริงๆค่า

ใครไม่มีแอคของเล้าฝากแท็ค #น้องครับยืมตังหน่อย ด้วยนะคะ แฮ่
แล้วเจอกันค่า
