┤ ราคา ◇ ค่า ◇ รัก ├ งวดพิเศษ 03 - สัตว์กินเนื้อที่กินผักชีได้ หน้า 64 [6/6/60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ┤ ราคา ◇ ค่า ◇ รัก ├ งวดพิเศษ 03 - สัตว์กินเนื้อที่กินผักชีได้ หน้า 64 [6/6/60]  (อ่าน 468988 ครั้ง)

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1691
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
ได้กลิ่นมาม่าแอบโชยมาเบาๆ เบื้องหลังธัญญ์ต้องมีอะไรแน่เลย

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ครอบครัวสุขสันต์??
เป็นอย่างนี้ก็น่ารักดีเนอะ กลัวมาม่าจัง T_T

ออฟไลน์ kanunsak

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
 :haun4:  ตายไปเลยชั้น

ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
ลุงภูเมศเป็นภัยต่อสังคมมากเลยค่ะ ก๊ากกกกก  :laugh:
น้องธัญญ์ขูดรีดให้หมดตัวเลยนะคะ (ไม่ได้หมายถึงขูดรีดเงินนะ แต่ขูดรีดอย่างอื่น กรี๊ดดด ;////;)

ชอบวิธีเลี้ยงเด็กของน้องธัญญ์มากเลย น่ารักกกก น่าเอ็นดู น่ากินนนน (น้องธัญญ์ทำอะไรก็ดี)
พร้อมภูมิดูติดพี่ธัญญ์มากเลยเนอะ ชอบตอนขอคุณพ่อเลี้ยงแมว หูยยยยยยยยย
ลุงภูเมศรู้ตัวรึยังคะว่าตอนนี้ตัวเองไม่มีพรรคพวกแล้วนะคะ ดูเหมือนว่าน้องภูมิจะไปอยู่ฝ่ายพี่ธัญญ์แล้วล่ะค่ะ ก๊ากกกก

แต่อ่านถึงตรงนี้แล้ว
ประเด็กเรื่องคุณธเนศเนี่ย เราก็เริ่มเดาเอียงๆ (แบบไม่ฟันธง) ไปที่ว่าคุณธเนศเป็นคุณพ่อ(?)ของน้องธัญญ์แล้วล่ะค่ะ
สังเกตจากตอนสองพ่อลูกกอดกันแล้วน้องธัญญ์ยิ้มตาเศร้าเนี่ย โอ้ยยยยยยย อยากกอดแรงงงงงงงงงงง  :hao5:

รอตอนหน้า ครอบครัวสุขสันต์นี่มันน่าร๊ากกกกกก น่ารักกกกก กอดดดด  :กอด1:


ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
หึหึ เขิลอะดิ เล่นเองเขิลเอง  น่าร๊ากกก ตอนแรกติดว่าจะเด็กกว่านี้ซะอีก

ออฟไลน์ puipimm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
กรี๊ดดดดดดด ตัดจบแบบค้างๆๆอีกแล้ววววววว ฮืออออออ :hao5:
น้องธัญญ์จะน่ารักเกินไปแล้วววว

ออฟไลน์ BeauBeeiiz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
แหมะ มันต้องมีเบื้องหลังแน่ๆอ่ะ

โอ้ยย ค้างเด้อค่าาาา

ออฟไลน์ yaoionlyyes

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
งุยๆๆๆๆๆๆ น้องธัญญ์ งืออออ น่ารักน่าเอ็นดูที่ฉุดดดดดด ยั่วเขาแล้วก็มานั่งอายเองตลอด อยากจับมาฟัดให้ตัวช้ำให้หมด  :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ pe-ar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

พร้อมภูมิน่ารักค่าา
แมวน้อยถุงทองก็น่ารัก

ธัญญ์ หนูต้องเขี้ยวกว่านี้ลูก เดี๋ยวขาดทุนนะ

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
จะมายังน่าาาาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ anchoviiz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
ง่อออออออออออออออออออว
น้องธัญญ์โมเอะที่สุดดดดดดดดดดด :ling1:
เอาเลยค่ะในเมื่อคนแก่เงินเหลือกินเหลือใช้นักก็ยั่วไปเลยค่ะ
ลุงนี่ก็พร้อมเปย์ตลอด แต่อย่างว่าเด็กมันน่ารัก

ออฟไลน์ khwanruen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
ธัญญ์แพ้จูบของพี่เมศหรอ คึคึ ชอบตอนธัญญ์เขิน น่ารักดี รีบๆมาต่อตอนล่าสุดนะคะ  :hao3:

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
┤ ราคา ◇ ค่า ◇ รัก  ├

งวดที่ 7



รอยแผลเป็นราวสองเซนติเมตรที่ใต้คางนั้น เมื่อเพ่งมองใกล้ ๆ ตอนก้มลงไปจูบต้นคอ พบว่าเป็นรอยเย็บเก่า

“ไปโดนอะไรมา?”

ธัญญ์ไม่ตอบ นอนหายใจหอบน้อย ๆ อยู่ใต้ร่างเขา ไม่รู้ว่าเหนื่อย ง่วง หรือดื้อแพ่ง

“ให้สามร้อย” เขาลองเสนอทีเล่นทีจริง ขยับเอวให้ส่วนนั้นดันลึกเข้าไปอีกหน่อย ได้รับเสียงสูดลมหายใจเฮือกกลับมา แต่ไร้คำตอบในสิ่งที่ถาม “ไม่ร้อนเงินแล้วหรือ”

ใบหน้าชื้นเหงื่อเงยขึ้นมองเขา หัวคิ้วขมวดจนต้องเอานิ้วไปกดเบา ๆ ให้คลายออก ตอนนั้นเองที่ถูกยิงคำถามนอกเหนือความคาดหมายกลับมาเสียเอง

“ปกติคุณจูบไหม”

“หือ?”

“เวลาปกติ...ไม่ก็ระหว่างมีอะไรกัน...น่ะ..” ธัญญ์เสมองไปอีกทาง พยายามพูดไม่ให้กระท่อนกระแท่น แม้ในขณะที่ร่างกายส่วนล่างถูกรุกรานอยู่ “..หมายถึงเวลาคุณนอน..กับคนอื่น”

“อืม..” เขาครางในคออย่างครุ่นคิด ต้องย้อนความไปไกลพอดู จะว่าไปนอกจากกับภรรยาเก่า—ซึ่งมีอะไรกับเธอครั้งสุดท้ายก็หลายปีมาแล้ว เลิกมีความสัมพันธ์ทางกายลึกซึ้งตั้งแต่ก่อนจะแยกทางกันเสียอีก เขาก็ไม่ได้นอนกับผู้หญิงคนอื่น...ยิ่งกับผู้ชายไม่ต้องพูดถึงเลย

สุดท้ายก็ตอบไปตามจริง “..ไม่ค่อยนะ”

“ไม่ค่อย?”

“คิดว่า”

แต่ดูเหมือนคำตอบยังไม่ค่อยเป็นที่พอใจนัก เขาก็ไม่รู้ว่าอยากได้แบบชัดเจนขนาดไหน และเรื่องนั้นมันมีอะไรน่าใส่ใจนักหนา

“ไม่ค่อยนี่ก็คือมีบ้างใช่ไหมครับ”

“ประมาณนั้น” เขายกมือลูบท้ายทอยตัวเอง โดนซักไซ้ไล่เรียงตอนกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มนี่ชวนให้หดอยู่ไม่น้อย “จำไม่ค่อยได้แล้ว”

“..อ้อ..”

“ทำไมหรือ”

“...ผมเคยมีความคิดแบบเด็ก ๆ” ธัญญ์อ้อมแอ้ม “แต่ตอนนี้กลับพบว่ามันก็ยังอยู่...”

ภูเมศลังเลว่าจะทำอะไรที่ค้างไว้ต่อให้เสร็จ หรือตั้งใจฟังเจ้าหนุ่มตรงหน้าให้รู้เรื่องก่อน หากไม่ใช่เพราะปกติธัญญ์ไม่ค่อยพูดมาก ครั้งนี้นับว่าเยอะกว่าที่ผ่าน เขาคงไม่เลือกอย่างหลัง โอบไหล่อีกฝ่ายไว้ แล้วจับให้พลิกตัวนอนตะแคงบนเตียง ถึงกับให้ใช้แขนตัวเองต่างหมอนด้วยซ้ำ

แม้ไม่ได้ตั้งใจ แต่เมื่อขยับตัวเปลี่ยนท่าโดยร่างกายยังเชื่อมกัน อีกฝ่ายก็คงรู้สึกอะไรอยู่บ้าง จึงได้นิ่วหน้าจนยุ่ง แก้มแดงปลั่งอยู่แล้วยิ่งขึ้นสีเข้มจัด โดยเฉพาะเมื่อเขาทำท่าทางบอกให้รู้ว่ากำลังรอฟังอยู่ ก็คล้ายว่าสีแดงนั้นจะลามมาถึงกระทั่งปลายจมูก

แต่พอคิดว่าจะฟังดี ๆ อดทนรออยู่เป็นนานสองนาน ธัญญ์กลับปล่อยค้างไว้แค่ประโยคเมื่อครู่เสียอย่างนั้น

“ไม่เล่าต่อหรือ ความคิดแบบเด็ก ๆ ที่ว่าเมื่อกี้น่ะ” เขายิ้ม แกล้งขยับตัวให้ส่วนนั้นเสียดสีกันข้างในเบา ๆ

สายตาอีกฝ่ายแฝงแววคาดโทษอยู่นิดหน่อย

“จะลองเสนอราคาก็ได้นะ” ชายหนุ่มกระเซ้าอีกครั้ง อดไม่ได้จะชะโงกไปพรมจูบบนใบหน้าชื้นเหงื่อ ด้วยกิริยาอ่อนโยนกว่าที่ตัวเองคาดเสียอีก จำเป็นต้องอ่อนโยนกับผู้ชายด้วยกันขนาดนี้ด้วยหรือ? ...เรื่องนั้นไม่รู้เหมือนกัน... แต่ทั้งจูบผะแผ่วบนหน้าผาก สันจมูก เปลือกตา ข้างแก้ม แล้วมาหยุดอยู่ตรงมุมปาก ล้วนเป็นไปอย่างทะนุถนอม ความนุ่มนวลนั้นส่งมาถึงแม้แต่ในถ้อยคำกระซิบแผ่วเบา

“..ฉันอยากฟังเรื่องของเธอมากกว่านี้”

ธัญญ์สูดลมหายใจเข้าลึก เงยขึ้นสบตาเขา สีดำขลับน่าหลงใหลไหวระริกอยู่ตรงหน้า ครู่ใหญ่กว่าจะยอมเปิดปากอีกหน

“...ผม...เคยคิดว่า...จูบที่ปาก เอาไว้ใช้กับคนที่....”

...ท้ายประโยคเบาลง... จนคำสุดท้ายแทบหายลงไปในคอ..

“..คนที่...รัก..”

“หือ?”

“แค่นั้นแหละ ไม่มีอะไร” อีกฝ่ายกลับตัดบทลงเสีย “คุณรีบทำต่อให้เสร็จ เดี๋ยวผมจะกลับห้อง”

แม้ถูกเปลี่ยนเรื่องเสียดื้อ ๆ แต่ความหวามไหวที่เริ่มก่อร่างขึ้นในอกยังคงขยายตัวของมันอย่างห้ามไม่อยู่ เหมือนกระแสน้ำเชี่ยวกราก ตรงกลางเป็นหลุมลึกที่หมุนวน ดูดให้จมลงไปในวังวนของความรู้สึกที่ชายหนุ่มไม่กล้าเอ่ยชื่อมันออกมา

เขาพยายามครุ่นคิดถึงความหมายในคำพูดอีกฝ่าย..พยายามมองอย่างเป็นกลางจนถึงที่สุด...

นั่นคำบอกรัก...หรือบอกเล่า...ที่เพียงแจ้งเขาให้รู้ไว้เพราะไม่อยากให้ทำอย่างนั้นกับตัวเอง

“ขอโทษที..” สุดท้ายภูเมศก็เอ่ยออกมา ตัดสินใจในแบบที่เอาตัวเองไปเสี่ยงน้อยที่สุด “ถ้าไม่อยากให้จูบ จะไม่ทำ”

ผู้ใหญ่มักมีเกราะของตัวเองเสมอ แม้ปล่อยตัวมากขึ้น แต่ปล่อยใจน้อยลง..

หลายสิ่งเคยกล้าและทำได้ง่ายดายในวัยเด็ก กระทั่งรู้จักความผิดหวัง ล้มเหลว สูญเสีย เจ็บปวด ทั้งหมดนั้นเข้ามาถ่วงดุลย์ให้มองเห็นความเป็นจริงของโลกมากขึ้น ระมัดระวังในแต่ละย่างก้าว หรืออาจหล่อหลอมให้ใครสักคนกลายเป็นผู้ใหญ่ขี้ขลาดที่เอาแต่เดินตามเส้นทางที่คิดว่าปลอดภัยที่สุด ไม่กล้าจะแหย่ขาออกไปแม้เพียงปลายก้อย

เขาเองคงเป็นหนึ่งในพวกขี้ขลาดเหล่านั้น

ธัญญ์มองเขานิ่งงัน ผิดหวัง..หรือโล่งใจ? ความรู้สึกบนดวงหน้าหมดจดนั้นเขาอ่านไม่ออก ครู่หนึ่งเจ้าตัวจึงหลุบตาลงต่ำ เอื้อมมือดึงร่างเขาเข้าไปใกล้ พร้อมกับแยกขาตัวเองออกกว้างขึ้น ภาษากายตรงไปตรงมาสื่อว่าให้สานต่อกิจกามให้จบ ไม่จำเป็นต้องมีเรื่องของความรู้สึกมาข้องเกี่ยว

ราวกับมีเสี้ยนไม้อันหนึ่งคอยทิ่มแทงอยู่ที่ไหนสักแห่ง...เสียวแปลบทุกครั้งที่ไปสะกิดโดนเข้า

แต่อีกเดี๋ยวคงหายไป

ต่างคนต่างหอบหายใจแรงขึ้น ไอร้อนห่อหุ้มเรือนร่าง..ร้อนรุ่มจนทรมาน เสียงผิวเนื้อเปล่าเปลือยและเปียกชื้นกระทบกันดังอยู่ในห้อง ไม่มีคำพูดใดระหว่างพวกเขาอีก ฝ่ายธัญญ์นั้น หากไม่นับเสียงหอบแล้ว แม้แต่เสียงร้องยังแทบไม่ได้ยิน ต่อให้เขากระแทกกระทั้นลงไปหนักหน่วงจนสะโพกอีกฝ่ายสั่นคลอน ร่างไถลไปตามแรงจนศีรษะเกือบกระแทกกับหัวเตียง ขาถูกจับยกขึ้นแล้วดัดจนตัวงอคู้ ดูราวกับเป็นแค่การร่วมรักเพื่อระบายความใคร่เพียงอย่างเดียว..

ซึ่งนั่นก็ถูกแล้วไม่ใช่หรือ?

จะแบบไหนล้วนไปสู่จุดสูงสุดของอารมณ์ได้ไม่ต่าง จุดประสงค์หนึ่งเดียวของการขึ้นเตียงกับคนที่ไม่ได้เป็นอะไรกันก็เพียงเท่านี้

ชายหนุ่มระบายลมหายใจยาว ค่อย ๆ ถอนกายออกมา แล้วทิ้งตัวลงนอนแผ่ ความสุขสมที่เกิดยังลอยฟุ้งอยู่ในหัว แขนข้างหนึ่งโอบร่างคนร่วมเตียงเข้ามาใกล้โดยไม่ทันไตร่ตรอง แต่กลับชะงัก เมื่อรู้สึกได้ถึงแรงขืนจากอีกฝ่าย แม้ไม่ได้ปัดป้องอย่างออกหน้าออกตา แต่ก็ไม่ปล่อยตัวให้ถูกดึงเข้ามาใกล้ได้โดยง่าย

ผิดสังเกตจนต้องหันไปตั้งใจมอง

“หกพัน”

“หือ?”

“หกพัน” ธัญญ์ย้ำ จากนั้นชี้แจงเสียงราบเรียบ...เรียบจนเหมือนแค่ท่อง ๆ มันออกมาเท่านั้น “จูบหนึ่งครั้งในครัวห้าร้อย จูบไปทั่วหน้าตอนมีอะไรกัน ถือว่ารวม ๆ เป็นอีกครั้งก็ห้าร้อย กับเมื่อกี้ มีอะไรกันครั้งหนึ่ง อีกห้าพัน บวกกับค่าจ้างตอนสิ้นเดือนให้ผมด้วย”

พูดแค่นั้นก็ลุกขึ้นยืน หยิบเสื้อผ้าตัวเองบนพื้นขึ้นมาสวมลวก ๆ ต่อหน้าเขาที่ยังนอนเหวอ

“ธัญญ์”

เจ้าของชื่อก้มลงมองแขนตัวเอง ที่เขามือไวเอื้อมไปคว้าไว้อีกแล้ว

“วันนี้ปิดยอดแล้วครับ” อีกฝ่ายเอ่ยเบา ๆ แต่คราวนี้กลับเม้มปากคล้ายกำลังอดกลั้น “ขอบคุณที่ใช้บริการ”

เสี้ยนอันเล็ก ๆ ที่ทิ่มอยู่ตรงไหนสักแห่ง...เสียวแปลบขึ้นมาอีกแล้ว

“แล้วไม่มีบริการหลังการขายหรือไง?”

ส่วนหนึ่ง เขาก็รู้สึกตัวเองปากเสียอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน พูดจาอย่างนี้เข้า เผลอ ๆ อาจถูกต่อยดั้งยุบได้ แต่อะไรที่พูดไปแล้วก็คือพูดไปแล้วนั่นละ ถ้าจะโดนพี่เลี้ยงที่สอนท่ามวยแปลก ๆ ให้ลูกชายเขาสอยสักที จะลองดูหน่อยก็ได้ว่าหมัดหนักขนาดไหน

ทว่าธัญญ์กลับชะงัก เบิกตามองเขา ลังเลอยู่อึดใจ สุดท้ายจึงระบายลมหายใจยาว ทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ

“..เป็นคนที่มีน้ำอดน้ำทนดีนะ” ถึงกับอดชมไม่ได้ ระหว่างมองอีกฝ่ายหน้าก้มตา ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเขาจนถึงอกโดยไม่พูดอะไรออกมาสักหน่อย

นั่งมองเขานิ่ง ๆ อย่างนั้นพักใหญ่ ท่าทางอยากพูดอะไรแต่ก็ไม่พูด อมพะนำอย่างกับจะวัดความอดทนว่าใครเอ่ยปากก่อนคนนั้นแพ้ ธัญญ์ที่มักทำหน้านิ่งเป็นรูปปั้นแล้วกวนประสาทด้วยเสียงเนิบนาบคล้ายจะไม่ได้อยู่ตรงนี้

เป็นนาทีผ่านไป กว่าธัญญ์จะขยับตัวเชื่องช้า มือค้ำไว้ตรงขอบเตียง โน้มใบหน้าลงมาใกล้ ปอยผมอีกฝ่ายปรกลงเรี่ยไปตามข้างแก้มเขา ลมหายใจร้อนรินรดใต้ปลายจมูก เปลือกตาปรือลง จากตอนแรกที่มองเห็นนัยน์ตาสีดำขลับคู่นั้นชัดเจน ก็กลับกลายเป็นเพียงภาพมัว ๆ เมื่อเจ้าของดวงตาเคลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้อีก..

ภูเมศรอดูสิ่งที่กำลังจะเกิดอย่างใจเย็น กระทั่งธัญญ์หลับตาลงช้า ๆ ในระยะห่างที่เขามั่นใจ ว่าอีกลมหายใจถัดไป..คงเป็นจูบ

หัวใจบีบตัวหนัก ๆ รออยู่แล้วด้วยซ้ำ

แต่ผู้ชายคนนี้ไม่เคยทำให้เขาหยุดแปลกใจสักที

ธัญญ์ยกมือขึ้นประคองใบหน้าเขา เอาหน้าผากแตะกันเบา ๆ กระซิบเสียงแผ่วราวกับส่งเด็กเข้านอน

“ฝันดีครับ”

ไม่มีจูบที่...รอ...?





แค่อาบน้ำใหม่อีกหน เวลาก็ล่วงเลยไปจนดึกดื่นเสียแล้ว

ธัญญ์มองไปรอบตัวเงียบ ๆ ห้องนอนนี้กว้างขวางดี เดิมเป็นห้องที่ภูเมศตั้งใจจะเก็บไว้เป็นของลูกสาว สีสันในห้องตลอดจนเฟอร์นิเจอร์จึงออกไปทางสีพาสเทล โชคดีที่ไม่ดูลูกกวาดเกินไปนัก คนเลือกนับว่ารสนิยมใช้ได้ พอนึกถึงห้องนอนเดิมของตัวเองที่กว้างจนไม่รู้จะกว้างอย่างไร แต่แทบไม่มีอะไรที่เขาอยากเก็บไว้สักอย่าง คิดว่าห้องนี้ยังเข้าท่ากว่าเยอะ ถ้าได้อยู่อีกนาน ๆ หน่อยก็คงดีไม่น้อย

เขาทิ้งตัวลงแผ่บนเตียง ตัวไปทาง ผ้าขนหนูสำหรับเช็ดผมที่คล้องคอมาด้วยกระเด็นไปอีกทาง

ผมยังไม่แห้งดี ไม่ควรลงมานอนเล่นอย่างนี้ก็รู้อยู่หรอก แต่เพลียเกินกว่าจะสนใจเรื่องนั้น

ชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบรอยแผลเป็นที่ใต้คางของตัวเองเบา ๆ พลางมองภาพสะท้อนในกระจกอีกฝั่ง

มันจางลงมากแล้วจนเกือบมองไม่เห็น เว้นแต่จะเพ่งอย่างตั้งใจในระยะประชิด ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณหมอซึ่งช่วยเย็บแผลให้อย่างดี พอสมานแล้วจึงแทบไม่เหลือร่องรอย แต่การที่แผลไม่ใหญ่ไปมากกว่านี้อย่างที่อาจเป็น คงต้องขอบคุณอีกคนหนึ่ง...

คนที่ป่านนี้คงหลับไม่รู้เรื่องไปแล้ว

เขาพลิกตัวบนเตียง มองโทรศัพท์มือถือซึ่งส่องแสงวอมแวมจากไฟดวงเล็ก ๆ ที่เตือนว่ามีข้อความยังไม่ได้อ่าน เห็นมันอย่างนี้ตั้งแต่ก่อนออกไปเล่นกับแมวแล้ว ทว่ายังไม่มีแก่ใจเปิดดู หากให้กล่าวตามตรงแล้ว แม้แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีใจจะเปิดอ่านสักนิด ช่วงเวลาที่เอาแต่ใจตัวเองหนักกว่าครั้งก่อน ๆ ด้วยการออกจากบ้านมานานหลายเดือน ยิ่งทำให้การจะกลับไปเผชิญหน้ากับความจริงเป็นเรื่องยากลำบากกว่าเก่าหลายเท่าตัว

ธัญญ์หยิบเครื่องมือสื่อสารที่ยังส่องแสงจากไฟดวงเล็ก ๆ ไม่หยุดมาหมุนเล่นในมือ ตอนที่คิดจะลบข้อความใดก็ตามซึ่งค้างอยู่ตอนนี้ทิ้งไปโดยไม่เปิดอ่าน กลับถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเตือนข้อความเข้าซ้ำอีกรอบ

เขามองมันนิ่ง สายตาเกือบจะเป็นหวาดระแวง อยากรู้...แต่ก็ไม่อยากรู้ เมื่อเข้าไปดู เห็นชื่อผู้ส่งว่า ‘ธเนศ’ ก็ทั้งอยากปาทิ้งและอยากลองเปิดอ่าน

ไม่ได้กลับไปเจอนานขนาดนี้ คนน่ารังเกียจนั่นอกแตกตายไปแล้วหรือยัง

ที่ค้างอยู่ทั้งหมดมีสามข้อความ จากคนคนเดียวกัน ส่งมาในวันเดียวกันคือวันนี้ เป็นครั้งแรกตั้งแต่เปลี่ยนเบอร์มือถือ

ธัญญ์พ่นลมออกจมูก สงสัยคงเพิ่งหาเบอร์ได้ จะกดลบทั้งหมดในคราวเดียว แต่นิ้วจิ้มพลาด กลายเป็นเลือกคำสั่งเปิดอ่านบนหน้าจอแทน

เขาจ้องมันนิ่ง สะกดตัวอักษรเหล่านั้นทีละคำเหมือนเด็กหัดอ่านเขียน ยิ่งมองยิ่งขุ่นเคือง รอยยิ้มที่เห็นครั้งใดก็นึกรังเกียจของคนส่งยังติดอยู่ในหัว

‘สบายดีหรือเปล่า กลับบ้านเมื่อไหร่ จะให้คนเตรียมของโปรดไว้ให้’

พออ่านไปข้อความหนึ่งแล้ว จึงกลายเป็นว่าตัวอักษรถัด ๆ ลงมา ก็ลอยเข้าสู่ลานสายตาไปโดยปริยาย

‘ไฮเดรนเยียออกดอกเยอะมาก ฉันตัดมาปักแจกันในห้องของเธอ อยากให้กลับมาดูก่อนจะเหี่ยว’

และข้อความสุดท้ายที่เพิ่งถูกส่งมาเมื่อครู่นี้

แค่สั้น ๆ ไม่กี่คำ

‘ฉันคิดถึงเธอ’

ที่ดึงเอาความเกลียดชังขึ้นมาวิ่งพล่าน

ธัญญ์ขยับนิ้ว พิมพ์ข้อความกลับไปในช่องสำหรับตอบ

‘ผมเกลียดคุณ ไปตายซะ’

ทว่ากลับไม่ได้กดส่ง เพียงแต่มองมันอยู่เนิ่นนาน ก่อนจะลบทิ้ง แล้วพิมพ์ข้อความใหม่ลงไป

สิ่งที่ส่งไปจริง ต่างจากที่พิมพ์คราวแรกเป็นคนละเรื่อง

‘ผมก็คิดถึงคุณ’

จากนั้นจึงปิดมือถือ ปิดไฟในห้อง นอนคลุมโปง กั้นความเงียบจากภายนอก เหลือเพียงเสียงที่ดังก้องอยู่ภายใน

‘เด็กน้อย...ตรงนั้นของเธอน่ะสกปรก’

คนคนนั้นต่างหากที่สกปรก

‘เธอทำแบบนี้กับใครไม่ได้หรอกรู้ไหม ให้ฟรีเขายังไม่เอาเลย’

“อึก!”

ธัญญ์คู้ตัวลงใต้ผ้าห่ม ยกแขนขึ้นปิดหู แต่เสียงที่อยู่ในความทรงจำ ต่อให้ปิดหูอย่างไรก็ไม่สามารถเลี่ยงได้

“คุณไม่รู้หรอก...เขาจ่ายเงินให้ผมด้วยซ้ำ!”








วันที่ถูกอัดเสียเกือบร่วงนั้น ผ่านมาได้หลายเดือนแล้ว

ตอนนั้นธัญญ์เพิ่งออกจากบ้านได้ไม่นาน รู้ว่าธเนศไม่พอใจ แต่ไม่ได้รั้งไว้ ฝ่ายนั้นตามใจเขามาแต่ไหนแต่ไร หากอยู่ในขอบเขตที่ไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของตัวเองไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง แต่แน่นอนว่าก็มีวิธีบีบบังคับที่ทำให้ลำบากใจได้ไม่น้อยเช่นกัน

กล่าวตามจริงแล้ว ไม่ใช่แค่เขาหรอกที่สร้างความยุ่งยากให้อีกฝ่าย แต่เป็นพวกเขาต่างสร้างความยุ่งยากให้กันและกันต่างหาก

ออกมาได้เพียงไม่กี่วัน ก็ได้ที่อยู่ใหม่พอเป็นหลักแหล่ง ที่ซุกหัวนอนแรกไม่นับโรงแรมซึ่งอยู่แค่ชั่วคราวคืออพาร์ตเม้นต์โทรม ๆ แห่งหนึ่ง สภาพดูไม่จืด แต่เพราะผู้คนไม่ค่อยพลุกพล่าน จึงคิดว่าเหมาะกับการมากบดานสักระยะ

ระหว่างนั้นได้รู้จักกับเพื่อนข้างห้องขี้เมาชื่อเป๊ก ชื่อจริงไม่ได้ถาม อายุน้อยกว่าเขา ดื่มเหล้าเหมือนดื่มน้ำ แต่พื้นฐานจิตใจไม่ได้ย่ำแย่นัก ตอนไม่เมาก็ช่วยเหลือเขาหลายอย่าง ทั้งเรื่องของใช้ทั่วไป อะไรก็มีให้ยืม ห้องโทรม ๆ มีปัญหาก็มาช่วย ก๊อกแตก ท่อน้ำตัน หลอดไฟเสียยังมาเปลี่ยนให้ ตกเย็นปล่อยเมากอดขวดเหล้าไป เช้าขึ้นมาสร่างแล้วก็กลับมาเป็นปกติ

แต่เป๊กมีหนี้สินอยู่พอตัว อีกทั้งตอนเมายังชอบไปมีเรื่องกับนักเลง โชคดีพอเป็นมวยอยู่บ้าง เล่าว่าเพราะเคยอยู่ค่ายมวยที่ต่างจังหวัด ครั้งหนึ่งเคยโดนตามมาทวงหนี้ถึงห้อง

ตอนนั้นด้วยความใจกว้าง ทั้งยังไม่ระวังตัวของเขา จึงให้เงินสดที่มีติดตัวไปต่อหน้าพวกที่มาทวง

จำนวนเงินไม่ได้เยอะมาก แต่เจ้าหนี้ก็พอใจไม่น้อย ยอมถอยกลับไปโดยจำหน้าเขาไว้ว่าเป็นเพื่อนสนิทเป๊ก ต้องการทวงเงินให้มาทวงกับเขาได้อีกคน ตกกระไดพลอยโจนไปโดยปริยาย ร่วมหัวจมท้ายกันอย่างเสียมิได้อยู่ระยะหนึ่ง เด็กนั่นถึงกับเรียกเขาว่าลูกพี่ เสนอหน้ามาสอนหมัดมวยให้แบบไม่ได้ขอ แต่เห็นว่ามีประโยชน์ดีจึงฟัง ๆ ไว้หน่อย มีเวลาก็ลองหัดดูบ้างไม่เสียหลาย

ไม่ใช่แค่มวยอย่างเดียว เป๊กมือไวอย่างกับอะไรดี พอเริ่มคุยเล่นกันไม่เท่าไร เจ้าตัวก็แสดงฝีมือสายมิจฉาชีพให้ดู ด้วยการอวดกระเป๋าสตางค์ที่ฉกจากเขาไปได้ดื้อ ๆ ไม่รู้ตอนไหน ก่อนจะส่งคืนให้พร้อมสอนเคล็ดลับ

งานโจรแบบนี้ไม่ยักรู้ว่าครั้งหนึ่งจะได้หัด ผ่านไปสักสองสามสัปดาห์ก็เริ่มคล่องจนพอจะลองฉกกระเป๋าคนสอนได้บ้างครั้งสองครั้ง จากนั้นส่งคืนเจ้าของเป็นการเกทับ ลูกน้องเฉพาะกิจถึงกับออกปากชมว่าพี่นี่เหมาะเป็นโจรจริง ๆ ก็ไม่รู้ว่าแบบนี้ควรดีใจหรือเปล่า

จุดเปลี่ยนอยู่ตรงวันหนึ่งที่เป๊กเมาอีกแล้ว แถมคราวนี้เอาแต่เช้า ปากเสียนอกสถานที่ใส่เจ้าหนี้ที่บังเอิญเจอกันอีก อะไรจะซวยนักหนา

ช่วงนั้นเขาทำงานอยู่ร้านสะดวกซื้อ เพิ่งเริ่มงานได้ไม่นาน แต่รู้สึกชีวิตกำลังเข้ารูปเข้ารอย กะทำไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเบื่อ กับธเนศนั้นก็คล้ายอยู่ในช่วงวัดใจว่าจะทำตัวใจกว้างไปได้อีกนานแค่ไหน แต่เขาถึงขั้นคิดว่าหากไม่ต้องกลับไปยังที่ที่จากมาอีกเลยก็ดีเหมือนกัน

เขากำลังจะกลับอพาร์ตเม้นต์หลังเลิกกะดึก พอสายเข้าหน่อย แดดก็เริ่มแยงจนแสบตา ออกมาได้เพียงไม่ไกล ระหว่างทางกลับเจอเป๊กกำลังเอะอะล้งเล้งกับกลุ่มคนอีกสามคน ยังไม่ทันได้คิดว่าจะทำอะไรต่อ ช่วยหรือหนีดี เด็กนั่นก็แหกปากร้องเรียกเขาลั่น

“ลูกพี่! ช่วยผมด้วย!”

เท่านั้นเอง คู่กรณีอีกสามที่ฮึ่ม ๆ อยู่กับเป๊ก ล้วนหันมามองเขาเป็นตาเดียวราวกับหมาตัวใหญ่เห็นกระดูก ไม่ทันได้พูดแก้ต่างก็ตรงเข้ามาล้อมหน้าล้อมหลัง ส่วนเด็กเป๊กเหมือนสร่างเมากะทันหัน ยกมือไหว้จากด้านหลังปลก ๆ โบกมือเป็นสัญญาณว่าเดี๋ยวจะรีบไปตามตำรวจมาช่วย ไม่ถามความสมัครใจเขาสักคำ

อยากจะเจรจาดี ๆ แล้วส่งเงินสดทั้งหมดที่มีติดตัวให้ไปเพื่อจบเรื่องจบราวอยู่เหมือนกัน ขอเหลือไว้แค่ค่ารถกลับอพาร์ตเม้นต์ก็พอ ทว่าดูเหมือนคำเรียก ‘ลูกพี่’ เมื่อครู่นี้ ออกจะฟังดูเทิดทูนจนนักเลงทั้งสามประเมินเขาสูงเกินไปหน่อย ทั้งยังน่าจะเหลือความเดือดดาลจากไอ้ลูกน้องจำเป็นของเขาคุกรุ่นอยู่ไม่น้อย พอขู่กรรโชกเสร็จ ยังไม่ทันได้หยิบเงินส่งให้ด้วยซ้ำ กำปั้นลุ่น ๆ ก็พุ่งตรงเข้ามาที่ปลายคางแบบไม่ทันได้ตั้งตัว

เขามึนอยู่วูบใหญ่ แล้วยังชาไปอีกสักพัก กว่าจะรู้ตัวว่าเจ็บแบบที่ไม่ได้เจ็บมานานแล้ว

พอโดนไปหมัดหนึ่งก็เลือดขึ้นหน้าได้เหมือนกัน ต่อให้ต่อยตีไม่เก่ง แต่อย่างไรก็ผู้ชาย พื้นฐานร่างกายเขาดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถ้าต่อยกับแค่คนเดียวยังพอสูสีอยู่หรอก ปัญหาอยู่ที่ฝ่ายตรงข้ามมีสามนี่ละ

ยิ่งเห็นเขาสู้ สวนกลับไปได้ตั้งสองสามหมัด คนที่เหลือจึงยิ่งจัดเต็ม จากตอนแรกคล้ายว่าแค่ขู่ ไป ๆ มา ๆ ถึงกับมีเข่าบ้างศอกบ้าง จนสำเหนียกได้ว่าแบบนี้ไม่ไหวแน่

สุดท้ายจึงต้องเอาตัวรอดไว้ก่อน แทนที่จะปล่อยหมัดสวน สบโอกาสจึงหลอกล่อเหมือนจะออกอาวุธ แต่กลับหันหลังโกยอ้าวแทน ระหว่างนั้นยังก่นด่าไอ้เด็กเป๊กในใจไม่หยุด หมายมั่นปั้นมือกว่าถ้ารอดกลับไปจะจับเด็กนั่นใช้แทนกระสอบทรายหัดมวยให้น่าดู

เขาวิ่งหนีออกมาไกลเอาการทีเดียว โดนอัดน่วมมาตั้งเยอะ ทั้งยังออกแรงวิ่งท่ามกลางสายตาตื่นตระหนกของผู้คนขนาดนี้ อีกประเดี๋ยวตำรวจต้องมาหิ้วไปแน่ ๆ ถึงตอนนั้นก็เหมือนประกาศให้ธเนศรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่นะ รีบมาลากตัวกลับไว ๆ แบบนั้นไม่เอาด้วยหรอก

วิ่งลัดเลาะตามทางเท้ามาได้จนถึงหน้าอาคารแห่งหนึ่ง ชื่อคุ้น ๆ เหมือนเป็นหนึ่งในบริษัทลูกของธเนศ..ถ้าเขาจำไม่ผิด เหลียวกลับไปมองข้างหลังเห็นคู่กรณีตามมาไว ๆ ระยะห่างนับว่าพอไหว หากมีซอกซอยให้เข้าไปหลบอาจจะรอดก็ได้

ทว่าได้แค่คิดไว้ในหัว เมื่อหันกลับมาขณะที่ขายังซอยยิก กลับปะทะเข้ากับร่างใครสักคนที่เดินสวนมาพอดี

อีกฝ่ายโดนแรงกระแทกขนาดนั้นถึงกับเซไปด้านข้าง แต่ยังมีแก่ใจบอกขอโทษขอโพยเขา พยายามเข้ามาจับแขนจับตัวดูความเรียบร้อย ทั้งยังถามไถ่ว่าเป็นอะไรหรือเปล่า

เป็นสิ...เป็นแน่ละ สะบักสะบอมขนาดนี้ ไม่เห็นหรืออย่างไร ไม่น่ามีใครงั่งถึงขั้นคิดว่าเขาเยินแบบนี้เพราะแค่วิ่งชนคนหรอกใช่ไหม

แต่ตอนนั้นเสียงฝีเท้าดังเข้ามาใกล้ ดูเหมือนทางรอดริบหรี่เต็มทน ธัญญ์เงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายเต็มตา คนคนนั้นท่าทางสุภาพ คำพูดคำจาก็สุภาพ แต่งกายในชุดสุภาพ สวมสูททั้งที่อากาศร้อน แต่ตอนนี้เขาไม่ได้ต้องการแค่ความสุภาพ

“..ช่วยด้วย” เขาเอ่ยอย่างร้อนรน หน้าบวมปูดจนแทบนึกเค้าเดิมไม่ออก

ผู้ชายคนนั้นมองเลยไหล่เขาไปด้านหลัง ท่าทีตกใจตอนแรก กลับเปลี่ยนเป็นนิ่งสงบอย่างไม่น่าเชื่อ เห็นว่ามีคนวิ่งตามมาคงพอเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น นับว่าไม่โง่เท่าไร แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าขอความช่วยเหลือแบบนี้จะได้อะไรขึ้นมา ถึงกระนั้นก็ไม่เหลือเวลาให้คิดอย่างอื่นแล้ว ไม่รอดก็โดนอัดน่วม...ก็แค่นั้น

พรึ่บ!

เนื้อผ้าหนัก ๆ คลุมลงบนศีรษะเขา เงยขึ้นมองเห็นว่าเป็นสูทซึ่งถูกคลุมลงมาปิดหน้าปิดตา ตัวใหญ่จนบังเสื้อที่เป็นเครื่องแบบพนักงานร้านสะดวกซื้อไว้เกือบหมด เห็นแต่กางเกงแสลคสีดำที่ผู้คนใส่กันทั่วไป

ยังไม่ทันได้ออกปากถามว่าอะไรเป็นอะไร ก็ถูกโอบไหล่ไว้หลวม ๆ พาเดินไปอีกทาง ขณะที่เจ้าของเสื้อพูดเรื่อยเปื่อยไปด้วยน้ำเสียงเหมือนคนคุ้นเคยคุยกันอย่างสนิทสนม   

“เรานี่นะ ไปทำอีท่าไหนให้โดนถังน้ำหล่นใส่ เปียกหมด ชุดจะเปลี่ยนก็ไม่มี ดีนะที่ไม่ต้องเข้าประชุมกับเขาด้วย”

เขาได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นด้านหลังแล้วชะงักไป แต่ไม่กล้าหันกลับไปมอง ไหล่ที่ถูกโอบอยู่สั่นหงึก ๆ อย่างห้ามไม่ได้ ใจหนึ่งก็โกรธสามคนนั้น อีกใจก็กลัว ผู้ชายคนนี้เข้าใจพูดอยู่หรอก แต่ใครมันจะไปโง่โดนหลอกด้วยลูกไม้พรรค์นี้กัน

ทว่าคนข้างกายก็ยังพล่ามต่ออย่างใจเย็น

“เออ..เมื่อเช้านายถามถึงด้วยแน่ะ ทำงานดีนี่ ไม่เกินปีหน้าได้เลื่อนขั้นแหง” ว่าพลางตบไหล่เขาป้าบ ๆ โดนตรงที่เริ่มจะบวม เจ็บจนแทบสะดุ้ง

วินาทีนั้น เขาสิ้นหวังสุด ๆ แทบร้องออกมาว่าปัญญาอ่อน ใครเชื่อก็ควายแล้ว

ธัญญ์หลับตา ยอมรับชะตากรรม อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด กำมือเป็นหมัดแน่น ไหน ๆ จะโดนอัดแล้ว ขอต่อยก่อนสักสองสามทีตอนกำลังไม่ทันตั้งตัวนี่ละ

แต่แล้วเสียงฝีเท้าข้างหลังก็ดังขึ้นอีกหน...ก่อนจะค่อย ๆ ห่างออกไป...และเงียบหาย...

กระทั่งเหลือเพียงเสียงพูดคุยของผู้คนที่อยู่แถวนั้น 
 
ทั้งที่คิดว่าใครเชื่อก็ควาย...แต่เหมือนจะมีควายอยู่แถวนี้ตั้งสามตัว

นานทีเดียวที่เขายืนใจเต้นโครมคราม กว่าชายหนุ่มคนนั้นจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

“เกือบไปแล้วไหมล่ะ”

มัวแต่งงเป็นไก่ตาแตก กระทั่งอีกฝ่ายพาเขาไปยืนริมทาง โบกแท็กซี่ให้หนึ่งคัน บอกจุดหมายเป็นโรงพยาบาลใกล้ ๆ ให้เงินติดตัวมาอีกห้าร้อยบาท พลางบ่นเป็นตาลุงไปด้วย

“ทีหลังระวังหน่อย พ่อแม่ได้นอนร้องไห้อยู่ที่บ้านกันพอดี ไม่มีลูกไม่เข้าใจหรอก”

เมื่อเห็นเขาเข้าไปนั่งในรถเรียบร้อยแล้ว ผู้ชายคนนั้นก็ดึงสูทตัวเองคืนไป แต่คราวนี้ไม่ได้สวม กลับคลายเนคไทออกพลางสะบัดคอเสื้อพั่บ ๆ จึงเพิ่งเห็นว่าเหงื่อแตกเกินสภาพอากาศ ท่าทางคงระทึกอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ทำเหมือนจะบ่นอะไรต่อ แต่เมื่อก้มมองสภาพสะบักสะบอมของเขาแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า ปิดประตูรถให้แล้วหันหลังกลับ

แท็กซี่ออกตัวจากจุดนั้น เห็นแต่แผ่นหลังไว ๆ ของผู้ชายที่เพิ่งช่วยเขา ไม่ทันไรก็ห่างออกไปจนกลายเป็นแค่จุดสีดำเล็ก ๆ ก่อนจะลับไปจากสายตาในที่สุด

ธัญญ์หันกลับมาสำรวจตัวเอง ได้หน่อยเดียวก็ต้องคู้ตัวลงกุมท้อง จุกจะแย่อยู่แล้ว ข้อมือเคล็ด ผิวเหนือข้อนิ้วเป็นรอยแตก ต้นแขนเริ่มบวม แผลแยกที่คางยังมีเลือดหยด แถมแก้มปูดไปหมดอย่างกับเพิ่งผ่าฟัดคุด ชะเง้อมองเงาสะท้อนของตัวเองจากกระจกส่องหลังแล้วดูไม่ได้เอาเสียเลย คิดว่าแม้แต่เด็กเป๊กต้นเรื่องเห็นแล้วอาจนึกไม่ออกด้วยซ้ำว่านี่ใคร คนขับแท็กซี่ซึ่งเพิ่งเจอกันครั้งแรกยังทำท่าตกใจแทบแย่ กว่าจะตั้งสติได้จึงเริ่มชวนคุยว่าเขาไปมีเรื่องต่อยตีที่ไหนมา วัยรุ่นก็อย่างนี้ จากนั้นเริ่มเล่าวีรกรรมตัวเองสมัยวัยรุ่นบ้าง

แต่เขาไม่ใช่วัยรุ่น และไม่มีแรงจะตอบแล้ว ในหัว ณ วินาทีนั้นมีเรื่องให้ครุ่นคิดอยู่ไม่กี่อย่าง

เป้าหมายระยะสั้นตอนนี้ หนึ่งคือไปโรงพยาบาลก่อน สองกลับไปจัดการเป๊กให้หายเคืองสักที แล้วก็สาม..

เขาหยิบกระดาษใบหนึ่งขึ้นมาดู มันเป็นนามบัตรที่ล้วงได้มาจากกระเป๋าสูทของผู้ชายคนนั้น


ภูเมศ นพคุณา
Marketing Director



ธัญญฺ์อ่านชื่อนั้นซ้ำไปซ้ำมาจนจำได้ขึ้นใจ



To be continued…





มาต่อแล้วค่ะ ขอโทษที่นานนะคะ ,,>3<,,
ไม่ได้เขียนฉากอย่างว่านาน ตะกุกตะกักมากเลยค่ะ พรากกกส์ พยายามแล้วได้แค่นี้ ถถถถ

แถมรูปตอนที่แล้วค่ะ





แล้วพบกันงวดหน้านะคะ *รวบกอด*


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-03-2017 19:48:26 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
เรื่องมันเป็นอย่างงี้นี่เอง 
ลุงจำน้องไม่ได้สินะ
แก่ จิงๆด้วย 5555
 
ปล. รูปงามมากฮะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อัยย่ะ ความประทับใจเมื่อแรกเจอ

ออฟไลน์ flimflam

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
มือไวมากเลยธัญญ์ คุณภูเมศแกไม่รู้ตัวเลย 6655555555
แต่แบบนี้คือสนใจใช่มั้ย ///////

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ธัญญ์กับธเนศนี่มีอะไรมากกว่าที่เราคิดสินะคะ คล้ายๆ กับว่ามีความสัมพันธ์แบบ 'เด็กเสี่ย' ระหว่างกันเลยเน้อ~ :sad3:

ส่วนทางด้านคุณภู น้องธัญญ์ตั้งใจเดินเข้ามาในวงจรชีวิตของลุงเขาเองใช่ไหมค้าา~ :-[ หลงรัก? หรือไม่ก็อาจจะต้องการที่พึ่งพิงทางใจแน่เลยนะคะน่ะ ^^

ออฟไลน์ ZomZaa^^

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-0
มันเป็นแบบนี้นี่เอง งื้ออออออ><  :กอด1:

ออฟไลน์ hongzaa

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
อ้าว นึกว่าคุณธเนศเป็นพ่อนุ้งธัญญ์ ถ้าจะไม่ใช่ละ
ก็ดูแล้วถ้าไม่เป็นเด็กเสี่ย ก็นกน้อยในกรงทองที่เสี่ยเลี้ยงไว้ดูเล่น
แต่ถ้าเป็นเด็กเสี่ย เสี่ยจะไม่เคยสอนอะไรเลยหรอ
จำได้ว่าคุณภูบอกว่านุ้งธัญญ์แข็งทื่อ รึลุงแกบื้อ? ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕

ละไง ถ้าอิตาคุณธเนศนี้ซัมติ้งกะนุ้งจริง แล้วที่ไปรับเมียเก่าภูเมศคือระ????
แต่ว่านุ้งปลื้มลุงภูมาก่อนจริงๆด้วย๕๕๕๕๕ ลุงซื่อบื้อออ

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
น้องธัญน่่าสงสารนะ  แต่อดีตนี่ก็ยังคลุมเคลือต่อไป

สนุกมากกกกค่ะ รอตอนต่อไปนะคะ :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kosmos

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ย่องมาอ่าน เอ๋~~ น้องธันไม่ได้มาหลอกพี่ภูใช่ไหม
อย่าทำคนแก่เสียใจนะน้อง :z2:

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
บทสนทนาของธเนศกับธัญญ์นั้นกำกวมมากๆ  อ่านเผินๆจะนึกว่าเป็นระหว่างแฟน หรือ กิ๊ก  คู่นี้อาจจะเป็นญาติก็ได้ หรือว่าเป็นเหมือนแง่อุปถัมภ์เพียงแต่ธเนศไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับธัญญ์   ก็น่าจะไม่ในเมื่ออดีตภรรยาของภูเมศกำลังคบหากับฝ่ายนั้นอยู่   ธเนศต้องรวยมากๆ  ภูเมศทำงานที่บริษัทลูกของธเนศหรือเปล่า? แต่ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรตอนที่อดีตภรรยาไปกับทางนั้นเลยนี่

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
ความประทับใจแรกพบ แสดงว่าธัญญ์ทำให้มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญซินะ

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
จริงๆแล้วธัญญ์ก็รู้สึกพิเศษกับลุงภูแกอยู่บ้างนี่เอง :katai2-1:

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
เบื้องหลังน้องธัญญ์ :mew5:

 :กอด1: :L2: :pig4:

ออฟไลน์ Ba_wh99

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ธเนศนี่ใครนะ
ดูมาม่ามากอ้ะ
ไม่อาววววว :hao5:

ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
ธเนศนี่ใครอ่ะ น่าจะเป็นตัวปัญหาในวันข้างหน้าแน่ๆๆๆ

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
ตอนนี้อยากรู้ความสัมพันธ์คุณธเนศ กะ ธัญญ์ จุงงงง

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
เคยเจอกันมาก่อนสินะ!? รอตอนต่อไปน้า~

ออฟไลน์ blanchet

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
แงงง สงสารธัญญ์ เมื่อไหร่ภูเมศจะหลุมแบบจังๆสักที

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด