┤ ราคา ◇ ค่า ◇ รัก ├ งวดพิเศษ 03 - สัตว์กินเนื้อที่กินผักชีได้ หน้า 64 [6/6/60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ┤ ราคา ◇ ค่า ◇ รัก ├ งวดพิเศษ 03 - สัตว์กินเนื้อที่กินผักชีได้ หน้า 64 [6/6/60]  (อ่าน 469001 ครั้ง)

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
คุณภูเมศหวั่นไหวบ่อยนะเดี๋ยวนี้ เห็นธัญญ์น่ารักบ่อยๆอ่ะ >.<"

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
สนุกมากค่ะ  ถึงตอนเริ่มต้นอาจจะไม่ค่อยสวยนัก แต่ก็ค่อยๆ พัฒนาขึ้น

รอลุ้นเบืีี้องหลังคุณพึ่เลี้ยงจอมป่วนหัวใจค่ะ   :mew1:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
ชอบแบสุขสันต์มุ๊งมิ๊ง  แบบนี้ไปตลอตได้ใหม






ไม่เอาดราม่า ชวิตจริงเศร้าพอเพียงแล้ว

ออฟไลน์ puipimm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เจอนุ้งธัญญ์อ้อนแบบนี้เป็นใครก็ต้องใจอ่อนอะเนอะ อย่าว่าแต่ลุงเมศเลย 55555555
คุณเรนนี่ขาาาา ขอนุ้งธัญญ์โหมดอ้อนๆ เยอะๆนะคะ ชอบมากกกกกกก เด็กหน้าตาย แต่เวลาอ้อน ถ้าจะน่ารักขนาดเน้~~
รองวดต่อไปค่ะ ^^

ออฟไลน์ เจ้าหญิงขี้ลืม

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
เพิ่งเข้ามาอ่านเรื่องนี้ครั้งแรกค่ะ
อ่านรวดเดียวจบเลย
สนุกมาก น่าติดตามมาก

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
ขอแบบน่ารักอย่างนี้ยาวๆๆๆๆเถอะ

 :กอด1:  :L2: :pig4:

ออฟไลน์ kanunsak

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
กรี๊ดดดดดดด รูปสุดท้ายนั้นมันอาร๊ายยยยย


ปล.เค้ากลัวอีตาลุงธเนศอ่ะ ไม่อยากให้เจอกับพี่ธัญญ์เลย

ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
ปล่อยวางบ้างค่ะลุง
อะไรมีความสุขก็ทำๆ ไปเหอะะะะ
ครอบครัวสุขสันต์น่ารักมุ้งมิ้งจะตาย
นี่ทีมน้องธัญญ์นะคะ 555555555555555

น้องธัญญ์น่ารักมากอ่ะ ฮืออออออ
ส่วนลุงก็ตามสเต็ปเดิมเลยค่ะ ตามเด็กไม่ค่อยทัน ถถถถถถถถถ
ลุงต้องสู้นะคะ ไหนๆ น้องภูมิก็ติดพี่ธัญญ์ขนาดนี้แล้ว อยู่ด้วยกันแบบครอบครัวสุขสันต์แบบนี้ตลอดไปเลยน้า

 :-[ :-[

ว่าแต่คุณธเนศเริ่มขยับเข้ามาใกล้ทุกทีแล้วสินะคะ..
แอบกลัวอ่ะ กลัวว่าน้องธัญญ์จะหนีคุณธเนศไปอีก งี้ลุงกับน้องภูมิจะอยู่กับใครรร ;___;

ออฟไลน์ Teaw_HC+MJ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบบบบบบบบบบบ คนเขียนขาาาา

หนูรอพี่มาต่อนะค๊าาาาาาาาาาาาา

คนเขียนไฟท์ติ้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ yaoionlyyes

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
น้องธัญญ์นี่นะะ โอ๊ย. จะกี่ตอนก็น่ารักน่าใคร่ที่ซู้ดดดดดด ><

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
คุณธเนศเป็นใคร

ออฟไลน์ fida

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 353
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ถ้าได้อยู่ด้วยกันอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ก็จะดีมากเลยค่ะ :-[  :-[

ตอนคุณธเนศมาแล้วเกือบจะเจอน้องธัญญ์นี่แอบลุ้นไปด้วยเลยค่ะ

ส่วนปริศนายังคงไม่คลี่คลาย

ออฟไลน์ Littlesir

  • I adore all the things you hate about yourself.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-0
รอธัญญ์อยู่น้าา

ออฟไลน์ from_mars

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-0
โลกช่างกลมจนน่าใจหาย จะเจอกันแล้ว ปมหนักขึ้นสินะ ไม่อยากคิดไปก่อนเลย อร้ายยย
รออ่านต่อจ้า

ออฟไลน์ Malimaru

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-4
    • facebook
เข้ามาตามรอย alternative... แล้วก็หาทางออกไม่เจอ
น้องธัญญ์น่ารักมาก ขออย่าให้น้องหนีคุณธเนศไปที่อื่นอีกเลยนะ
พร้อมภูมิคงทำใจไม่ได้ (ไม่นับพ่อมันที่คงจะใจหายเลยแหละ)

รออ่านตอนต่อไปค่ะ ^^

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ครอบครัวสุขสันต์ น่ารักจริงๆ
เอาใจช่วยลุงภูเมศนะค๊าาาาาาา
เป็นใครก็ต้องสับสันกันมั่งแหละเนอะ ^^

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
ท่าจะยุ่งเหยิงไม่น้อย

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
กลับมาเถอะนะ

คิดถึงแล้ว

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2683
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
นุ้งธัญญ์มีซัมติงอะไรกับคุณธเนศน๊าาา

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
อั้ยยะ
จะรอเจอกันมั้ย แล้วเป็นใครอะไรยังไง
ฮือออ ลุ้นเลยเนี่ยยยยยยย
เชื่อไปละว่าเด็กเสี่ย
กลัวคุณภูเมศเสียใจง่ะ มารักคุณภูเมศได้ล้าววว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
┤ ราคา ◇ ค่า ◇ รัก  ├

งวดที่ 10


“ซี้เขาเลยละครับ”

เมื่อได้ฟังคำตอบ ธเนศก็คลี่ยิ้มน้อย ๆ

“อยากเห็นหน้าเลยนะครับ”

เด็ก ๆ จูงมือคุณแม่ไปเดินเล่นหน้าบ้านแล้ว เหลือภูเมศยืนเผชิญหน้ากับแขกผู้มาเยือนเพียงลำพัง ลอบพิจารณารอยยิ้มบางเบาที่ชวนให้บรรยากาศดูซับซ้อนอย่างยากอธิบายของคู่สนทนา

“วิ่งปรู๊ดเข้าห้องน้ำไปแล้วครับ” เขาตอบตามที่รู้มา “เห็นบ่นว่าท้องเสีย”

ขนาดเอ่ยจากปากตัวเองอย่างนั้น ภูเมศยังรู้สึกได้ว่านี่มันประหลาดพิกล ลองใคร่ครวญดูแล้ว อยู่ดี ๆ ธัญญ์เกิดจะมาท้องเสียอะไรตอนนี้ อย่างกับจงใจจะหลบเสียมากกว่า ทั้งที่กับลูกสาวตัวน้อยของเขาตอนเจอธัญญ์ครั้งก่อนก็เข้ากันได้ดีแท้ ๆ ไม่เห็นมีความจำเป็นต้องหนีหน้าไปไหน

เหตุผลเท่าทีเขานึกออกตอนนี้ มีสองทางหลัก ๆ คือหากไม่ท้องเสียจริง—ซึ่งเขาไม่นึกอยากเชื่อเท่าไรนัก ก็เหมือนกำลังหนีจากการ...

“จะเป็นอะไรมากไหมนะครับ”

ภูเมศหลุดจากภวังค์ หันกลับไปสบตาคู่สนทนา

เขาอาจคิดมากไปเอง แต่อดรู้สึกไม่ได้ว่ารอยยิ้มและน้ำเสียงนั้นเกินกว่าแค่พูดไปตามมารยาท 

อีกฝ่ายเห็นเขาไม่ตอบอะไรจึงพึมพำต่อด้วยสีหน้าและสุ้มเสียงอ่อนลงกว่าเก่า

“น่าเป็นห่วงจัง”

ไม่ใช่แค่ตามมารยาทแน่ ๆ

“ยังเด็กอยู่” เขาแสดงความเห็น “ไม่น่าเป็นอะไรง่าย ๆ หรอกครับ”

“ก็จริง” ธเนศหัวเราะเบา ๆ เอ่ยกระเซ้าทีเล่นทีจริง “แต่ยี่สิบหกปีอาจไม่เรียกเด็กแล้วมั้งครับ กำลังปีกกล้าขาแข็งเลย”

“เอ๋?”

สีหน้าเขาคงฉายชัดเป็นคำถามว่า ‘รู้เรื่องนั้นได้อย่างไร’ จนฝ่ายตรงข้ามต้องขยายความ

“น้องเพลงเล่าให้ฟังน่ะครับ เห็นบอกอายุยี่สิบหกปีแล้ว เอ..หรือผมจำมาผิด”

ภูเมศหัวเราะเจื่อน ใจหนึ่งอยากถามให้ชัดเจนกว่านี้ ทว่าไม่รู้กระทั่งตัวเองอยากถามอะไร ขณะที่อีกใจกลับหงุดหงิดอยู่ลึก ๆ จนนึกอยากจบบทสนทนาลงสักที

“ยี่สิบหกนั่นละครับ”

“ฮะ ๆ ๆ ความจำผมยังใช้ได้สินะครับ”

ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ เสียงเพียงขวัญก็ดังมาจากหน้าบ้าน พวกเขาพูดคุยกันอีกไม่กี่คำ ก่อนธเนศจะหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อตัวเองแล้ววางลงบนโต๊ะ

มันเป็นช่อดอกไฮเดรนเยียเล็ก ๆ ที่คงถูกแบ่งออกมาจากช่อใหญ่อีกที น่าจะเด็ดออกมาจากต้นได้สักระยะหนึ่งแล้ว เพราะกลีบดอกจิ๋วสีน้ำเงินเฉาลงจนบางกลีบบิดเบี้ยว มองไม่เห็นความสวยงามตรงไหน

เมื่อเห็นเขาทำสีหน้างุนงง ธเนศก็อธิบายสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย

“ติดกระเป๋ามาน่ะครับ”

“อ้อ..”

ให้ตายเถอะ นึกคำอื่นมาตอบไม่ออกเอาจริง ๆ

“ปกติผมไม่สนใจเรื่องดอกไม้เลย แต่พอมีคนสำคัญชอบมัน ก็เลยนึกสนใจไปด้วย ถึงกับไปหาความหมายของดอกไม้ที่เขาชอบ ตลกดีเหมือนกันนะครับ”

ภูเมศพยักหน้าน้อย ๆ เห็นด้วยอยู่เหมือนกันว่าประสาทหรือเปล่า ผู้ชายวัยนี้ใครเขาใส่ใจเรื่องความหมายของดอกไม้กัน แต่จะให้พูดสนับสนุนอย่างจริงจังก็ใช่ที่

“ไป ๆ มา ๆ เลยเหมือนจะติดเป็นนิสัยไปเลยครับ เห็นไฮเดรนเยียที่บ้านออกดอกทีไร ต้องเผลอเด็ดมานิดหน่อยอยู่เรื่อย”

ชายหนุ่มพยักหน้าอีกครั้ง ที่แท้ก็กำลังอธิบายเรื่องที่มาของไฮเดรนเยียเหี่ยว ๆ บนโต๊ะ

เพียงขวัญส่งเสียงเรียกซ้ำ คราวนี้โผล่หน้าเข้ามาดูในบ้านด้วยว่าคุยกันอะไรกันนานนักหนา เมื่อเห็นว่าพวกเขายังยืนอยู่ที่เดิม ไม่มีทีท่าจะขยับสักที ถึงกับโคลงศีรษะออกมาพร้อมสีหน้าอ่อนใจ

“คงต้องไปก่อนแล้ว” ธเนศขานรับทางนั้นแล้วหัวเราะเบา ๆ พลางหันกลับมา แต่เมื่อสังเกตดี ๆ กลับพบว่าสายตามองเลยไปยังข้างหลังเขา...ทางด้านในของตัวบ้าน

อึดใจหนึ่งก็เอ่ยออกมาเสียงแผ่ว..

“ไว้พบกันใหม่”

“ครับ”

สายตาผู้มาเยือนเบนกลับมาที่เขาอีกครั้ง จนไม่แน่ใจแล้วว่าเมื่อครู่นี้พูดกับใครกันแน่






เดินส่งลูก ๆ ขึ้นรถไปกับอดีตภรรยาและผู้ชายที่อ้างว่าเป็นเพื่อนของเธอ กระทั่งรถของอีกฝ่ายลับสายตาไปนานแล้ว ภูเมศยังได้แต่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ไม่รู้จะทำอะไรต่อ คล้ายสมองยังจัดระเบียบความคิดไม่ดีพอจะสั่งการให้ไปทำอย่างอื่น

เขาคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันแปลก แต่บอกไม่ได้ว่าแปลกตรงไหน ไม่ได้ผิดธรรมชาติหรือพิลึกพิลั่นจนต้องตกอกตกใจ แต่เป็นในลักษณะที่ทิ้งความรู้สึกคาใจให้ตกค้างอยู่ในอก พอกับเมื่อครั้งพบธัญญ์ใหม่ ๆ สถานการณ์เต็มไปด้วยความงุนงงจับต้นชนปลายไม่ถูก ทั้งที่ไม่เห็นว่าเรื่องราวที่เกิดจะเกี่ยวข้องกับตัวเองมากมายสักเท่าไร

ถึงจุดนี้ ภูเมศเพิ่งรู้ตัวว่าคุ้นเคยกับธัญญ์ และปราศจากความคลางแคลงใจกับการมีอยู่ของเจ้าตัวในระยะหลัง ๆ จนเกือบลืมความคับข้องใจช่วงเพิ่งพบกันไปแล้ว

ชายหนุ่มระบายลมหายใจยาว จากนั้นยักไหล่อย่างปลงตก

เพื่อนใหม่ของเพียงขวัญคนนั้นใช่จะเกี่ยวอะไรกับเขาเสียหน่อย มารับมาส่งลูก ๆ อย่างนี้อาจกำลังจีบกันอยู่ก็ได้ คิดเผื่อไว้ว่าหากเป็นเช่นนั้น วันดีคืนดีได้รับเชิญไปงานแต่งงานของพวกเขา ภูเมศก็ตั้งใจจะไปแสดงความยินดีด้วยจากใจจริง

ระหว่างกำลังหมุนตัวกลับ สายตาพลันเหลือบไปเห็นกระถางต้นไม้ทรงสี่เหลี่ยมในมุมหนึ่งใกล้รั้วบ้าน มันถูกทิ้งไว้ตรงนั้นมานานมากแล้ว ตั้งแต่ไฮเดรนเยียต้นเก่าของอดีตภรรยาเฉาตายไปเมื่อสักสองสามปีก่อน

เพียงขวัญชอบดอกไม้ประสาผู้หญิงทั่วไป แต่เขาไม่รู้ว่าเธอชอบดอกอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า หลายปีก่อนตอนคบกันใหม่ ๆ จะช่อกุหลาบ เบญจมาศ หรือลิลลี่ หากได้รับก็ล้วนแสดงสีหน้าดีใจเหมือนกันทั้งนั้น

แต่ถึงจะชอบดอกไม้เมื่อเห็นมันอยู่ในช่อสวย ๆ ผูกริบบิ้นอันโต เธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่ชื่นชอบการปลูกมันขึ้นมาเท่าไรนัก กระถางสี่เหลี่ยมซึ่งถูกวางทิ้งไว้เป็นเครื่องยืนยันได้ดี พวกเขาทั้งสองต่างคนต่างยุ่ง ไฮเดรนเยียซึ่งไม่ได้รับการเอาใจใส่เท่าที่ควร ออกดอกได้ไม่ทันกี่ครั้งก็เหี่ยวเฉาและตายไป เหลือไว้แต่ดินแห้ง ๆ ในกระถาง จางนั้นก็เธอก็ไม่ได้หาต้นใหม่มาปลูกอีก

นั่นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นนานมากแล้ว แต่มาถึงตรงนี้ ภูเมศลองปะติดปะต่อเรื่องราวจากที่ได้รับรู้ บางทีเพียงขวัญอาจชอบดอกไฮเดรนเยียมากกว่าที่เขาเคยเข้าใจก็ได้ และ ‘คนสำคัญ’ ที่ธเนศกล่าวถึงอาจเป็นเธอนี่เอง

เมื่อคิดอย่างนี้ก็นับว่าสมเหตุสมผลดี ไม่เห็นมีอะไรต้องงงสักหน่อย พอได้ข้อสรุปให้ตัวเองแล้วค่อยสบายใจขึ้นบ้าง

ชายหนุ่มโคลงศีรษะ เสร็จเรื่องเด็ก ๆ วันนี้แล้ว กลับมานึกห่วงคนร่วมชายคาที่บอกว่าท้องเสีย เข้าห้องน้ำหายเงียบไปนาน จนตอนนี้ยังไม่โผล่มาให้เห็นหน้า ไม่รู้เป็นอย่างไรบ้างแล้ว เกิดไม่สบายจริง ๆ ขึ้นมาจะได้รีบรักษา

เขาเร่งฝีเท้าเดินเข้าบ้าน ตั้งใจจะรีบไปดูอาการ ทว่าเพิ่งย่างเท้าผ่านธรณีประตูได้แค่ไม่กี่ก้าว กลับชะงักอยู่ตรงทางเข้าโถงรับแขก

ข้างโต๊ะที่เขาเพิ่งคุยกับธเนศเมื่อหลายนาทีก่อน มีร่างคุ้นตายืนอยู่ แผ่นหลังสูงโปร่งของอีกฝ่ายหันออกมาทางเขา ไหล่ผึ่งผายคราวนี้ค้อมลงน้อย  ๆ จากตำแหน่งยืนของเขามองไม่เห็นสีหน้า บอกได้เพียงว่าศีรษะก้มต่ำจนดูราวกับเจ้าตัวกำลังรู้สึกหดหู่จนน่าสงสาร แต่เห็นตำแหน่งมือแล้ว จึงรู้ว่าแท้จริงกำลังก้มมองบางสิ่งในมือต่างหาก

ภูเมศเลื่อนสายตาไปยังของที่ก่อนหน้านี้ยังอยู่บนโต๊ะ

ไฮเดรนเยียเหี่ยว ๆ ไม่ได้วางตรงจุดเดิมแล้ว

อีกฝ่ายขยับตัว ตอนนั้นเองที่ชายหนุ่มเพิ่งสังเกตเห็น ว่าดอกไม้สีน้ำเงินเล็ก ๆ ของธเนศย้ายมาอยู่ในมือธัญญ์ แต่จากตรงนี้ก็ยังมองไม่เห็นหน้าอยู่ดี

หากเดินเข้าไปหา จะได้เห็นใกล้ ๆ ไม่ต้องเดาเอาเองไปเรื่อยเปื่อย ว่าดวงหน้าและแววตาตอนที่กำลังจ้องมองกลีบเหี่ยวเฉาของดอกไม้ซึ่งถูกพรากจากต้นนั้นเป็นอย่างไร ทว่าเขากลับยืนชะงักค้างอยู่กับที่ พิศมองท่วงท่าสงบนิ่งนั้น แม้แต่หายใจยังพยายามให้เสียงเบาที่สุด ส่วนหนึ่งเพราะอยากรู้ว่าหากธัญญ์เข้าใจว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในสายตาคนอื่น เด็กนั่นจะทำอะไรต่อไป

แต่อีกส่วน อาจเป็นเพราะละสายตาไม่ได้...

ทั้งรูปร่าง ท่าทาง หรือแม้แต่การเคลื่อนไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิด ไม่ว่าจะโดยเจตนาหรือไม่ ล้วนสะกดสายตาคนมองได้อยู่หมัด...อย่างน้อยก็กับเขาคนหนึ่ง ภูเมศถึงกับลอบมองอยู่เช่นนั้นกระทั่งถูกเห็นเข้าเสียเอง

มันจะต้องเป็นอย่างนี้อยู่เรื่อยเลยให้ตาย!

ธัญญ์วางดอกไฮเดรนเยียลงที่เดิม มองตรงมาโดยไม่ออกปากอะไร เขาเองต่างหากเป็นฝ่ายทำตัวไม่ถูก ด้วยถูกจับได้ที่ยืนจ้องอยู่นานจนต้องพูดอะไรแก้เก้อ

“ดีขึ้นแล้วหรือ?”

“ครับ”

“หยุดถ่ายแล้ว?” เขาพยักพเยิดเป็นเชิงถามพลางเดินเข้าไปใกล้ “เป็นไง ปวดท้อง คลื่นไส้ อยากอ้วก?”

มุมปากอีกฝ่ายยกขึ้นน้อย ๆ “ไม่ครับ”

โต ๆ กันแล้วไม่ต้องห่วงนักก็ได้ แต่เห็นท่าทางก่อนหน้านี้ ทั้งยังคำพูดของธเนศที่ดูเป็นห่วงอย่างประหลาดทั้งที่ยังไม่เคยเจอหน้ากัน เขาเองก็อดกังวลขึ้นมาไม่ได้อย่างไรพิกล

“ไข้ล่ะ?” พร้อมคำถาม มือก็ยื่นไปแตะบนหน้าผากอีกฝ่ายโดยไม่ทันคิด เหมือนอย่างเคยทำกับลูก ๆ เวลาไม่สบาย “ตัวร้อนหรือเปล่า”

ผ่านการสัมผัสนั้น ภูเมศรับรู้ได้ว่าธัญญ์ชะงัก จนเขาเองก็พลอยสะดุดไปด้วย ตั้งใจจะรีบดึงมือตัวเองออก แต่ถูกอีกฝ่ายคว้าข้อมือเข้าเสียก่อน กุมเอาไว้หลวม ๆ ให้วางอยู่ตรงตำแหน่งเดิมบนหน้าผากตัวเอง

การวางตัวสงบนิ่งอย่างปกติกลายเป็นเรื่องยากลำบากเต็มที ในเมื่อรู้ตัวว่าหน้าร้อนวาบขึ้นมาขนาดนี้..

“นี่...” ภูเมศกระแอมเบา ๆ ให้คอโล่ง “เป็นอะไรน่ะเรา”

เสียงเขาหนักแน่นพอหรือเปล่านะ

“สบายดีแล้วครับ”

ถ้าสบายดีแล้วนี่ทำอะไรอยู่ เป็นสิ่งที่อยากถามแต่ก็ถามไม่ออก

ค้างอยู่ท่าเดิมนานเข้าจนเริ่มเมื่อย แต่นั่นยังไม่เท่าความรู้สึกประดักประเดิด ตัวยุ่งตรงหน้าก็มัวก้มหน้าก้มตาค้างอยู่อย่างนี้ตั้งนานแล้ว ขมวดคิ้วมองดี ๆ ยังไม่แน่ใจว่าแค่หลับตาหรือใจคอจะหลับทั้งยืนไปจริง ๆ พอลองดึงมือออกอีกครั้ง คราวนี้ได้ยินเสียงแผ่ว ๆ ราวกำลังพึมพำกับตัวเองลอยมาถึงหู

“มือคุณอุ่นดี”

ปลายนิ้วพวกเขาแยกจากกันตอนนั้น ในวินาทีที่นึกเสียดายจนอยากเอื้อมไปแตะอีกหน

ดวงตาอีกฝ่ายหรี่ลงเล็กน้อย ขยับเป็นเส้นโค้งคล้ายกำลังยิ้มแม้ริมฝีปากไม่ได้ขยับ ยกมือขึ้นลูบหน้าผากตัวเองเบา ๆ ตรงตำแหน่งที่มือเขาเคยวางอยู่เมื่อครู่ด้วยท่าทางอาลัยอาวรณ์ ทั้งน่าเอ็นดูและน่าประหลาดใจ

ภูเมศพ่นลมหายใจเฮือก แม้ปากก็บ่นว่า “อะไรกันเด็กนี่!” แต่ชั่งใจอยู่เพียงครู่เดียว กลับหมดแรงจะเก๊กเต็มที มือยื่นไปแปะเต็มสองข้างแก้มแต้มสีระเรื่อของคนตรงหน้า จับหันไปหันมาอย่างมันเขี้ยวเต็มแก่ เท่านั้นไม่พอยังเลยไปเสยผมซ้ายขวาแล้วยีจนยุ่งเหยิง ระหว่างนั้นก็บ่นไปด้วยไม่หยุดหย่อน

“เป็นอะไรไอ้หนู ทำหน้าตาท่าทางพิลึกพิลั่นอยู่ได้ ตอนแรกก็บอกว่าท้องเสีย วิ่งหนีไปเฉย เผลอแผล็บเดียวบอกสบายดี ทำท่าหงุงหงิง ถามคำตอบมาครึ่งคำ แถมนอกเรื่องอีกต่างหาก เห็นฉันเป็นตาลุงบื้อ ๆ ให้หลอกเอาง่าย ๆ หรือไง ไหนบอกมาซิว่าป่วยจริงหรือเปล่า”

ธัญญ์มองเขาบ่นจนพอใจ ทิ้งเวลาครุ่นคิดอีกครู่หนึ่ง จึงตอบกลับมาหลังปั้นหน้านิ่งอย่างเคยได้แล้ว

“ไม่จริงครับ”

มันเขี้ยวจนอยากจะเขกกะโหลกแรง ๆ สักทีจริงเชียว!

“ไม่ได้ท้องเสียด้วย?”

“ไม่ได้ท้องเสียครับ”

“โอ๊ะ!”

แล้วก็ปล่อยมะเหงกลงไปทีหนึ่งจริง ๆ จนได้

อีกฝ่ายครางเบา ๆ ในคอ คงไม่ใช่เพราะเจ็บ ด้วยแรงที่ส่งไปเพียงนิดเดียวเท่านั้นเอง แต่ท่าทางจะคาดไม่ถึงมากกว่าว่าจะโดนเข้าจริง

“แล้วหนีทำไม” นานทีจะมีสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นสักหน ภูเมศรีบไล่ต้อนต่อไม่ให้เสียโอกาส “จู่ ๆ ก็หลบเข้าห้องน้ำเฉย”

“ความลับครับ”

ช่างกล้ามาเล่นอีก

“ตอบดี ๆ”

“สามร้อยครับ—โอ๊ะ!”

ที่จริงท่าทางตอนโดนเขกหัวก็น่ารักดี เขาเกือบขำออกมาแล้ว

“ร้อยเดียวก็ไม่ให้ ตอบมาสักทีไอ้หนู”

คนฟังแสร้งถอนหายใจเบา ๆ “ร้อยเดียวยังไม่มีจ่าย ช่วงนี้การเงินฝืดเคืองสินะครับ”

“ไม่ต้องมานอกเรื่องเลย”

ธัญญ์เหลือบมองเขา จ้องนิ่งขณะที่เขาก็จ้องตาอีกฝ่ายกลับอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน ความดื้อของผู้ใหญ่ทำตัวเด็ก หรือผู้ใหญ่ทำตัวแก่จะชนะก็ให้มันรู้กันไป

“ทั้งหมดที่ทำ เพราะอยากอยู่กับคุณนาน ๆ ครับ”

ภูเมศอ้าปากหวอ หัวใจบีบตัวแรงไม่ถามไถ่เจ้าของ

หากเมื่อครู่เป็นการยิงปืน กระสุนคงแฉลบจุดตาย คำตอบที่ได้ยังไม่ตรงประเด็นเช่นเคย แต่เล่นเอาต้องประมวลผลเพิ่มเติมกันยกใหญ่ ทั้งคราวนี้อีกฝ่ายไม่เปิดโอกาสให้เขาได้ถามต่อ ผละออกไปง่าย ๆ แล้วก้มหน้าก้มตาเก็บแก้วและเหยือกน้ำที่ถูกวางทิ้งไว้บนโต๊ะ

เมื่อมือขยับไปถูกดอกไฮเดรนเยียเฉา ๆ เข้า เจ้าตัวก็หยิบมันขึ้นมามองเพียงแวบหนึ่ง จากนั้นขยำจนยับเยินคามือ โยนมันทิ้งถังขยะใกล้ ๆ โดยไม่ถามถึงที่มาแม้แต่พยางค์เดียว ทั้งที่ก่อนเขาเข้ามายังเห็นจ้องมันอย่างพินิจพิจารณาอยู่แท้ ๆ

แวบหนึ่ง เขาเกิดนึกถึงคำพูดของธเนศขึ้นมา

“ธัญญ์”

เจ้าของชื่อหันมามอง จากนั้นเงียบกันไปครู่ใหญ่ กว่าเขาจะหาเสียงตัวเองเจอ

“เอ้อ...” เขาจด ๆ จ้อง ๆ ดอกไฮเดรนเยียในถังขยะ ยกมือขึ้นลูบท้ายทอยแก้ขัดเขิน “เธอรู้ความหมายของไฮเดรนเยียไหม”

ธัญญ์เลิกคิ้ว “ปกติแล้ว ผู้ชายไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนั้นกันหรอกนะครับ”

ภูเมศพยักหน้า ถามต่อ “แล้วเธอปกติไหม”

หากใช้คำถามสิ้นคิดเช่นนี้กับเพื่อนสมัยวัยรุ่น อาจได้คำตอบทำนองว่า ‘พูดแบบนี้มาต่อยปากกันเลยดีกว่า’ กลับมาก็ได้ แต่พออีกฝ่ายเป็นธัญญ์ ซึ่งคงจะเริ่มชิน หรือไม่ก็เอือมระอาจนไม่อยากถือสากับคำพูดหลุดปากเหล่านี้ของเขาเต็มที ผลลัพธ์มักเกินคาดเสมอ

“เย็นชา”

“หือ?”

“ไร้หัวใจ”

ธัญญ์เอ่ยเรียบ ๆ กับภูเมศที่ยังตามไม่ทัน ได้แต่เอานิ้วชี้ตัวเองงง ๆ ด้วยคิดว่ากำลังโดนข้อกล่าวหาใหญ่

“หมายถึง...ฉันน่ะหรือ?”

อีกฝ่ายโคลงศีรษะ

“ไฮเดรนเยียครับ” พึมพำพลางโยนขวดเปล่าและถุงขนมที่พร้อมภูมิกินเหลือทิ้งตามลงไปในถังขยะ เศษขนมเทลงไปปนกับซากดอกไม้จนเละเทะ “เขาว่ากันอย่างนั้น”

“อ้อ...” ชายหนุ่มรับคำเหวอ ๆ ประหลาดใจกับความหมายของดอกไม้ที่ออกจะโหดร้ายไปสักหน่อย

“แต่ว่าคุณน่ะ...”

ธัญญ์วางมือ เงยขึ้นมองเขาตรง ๆ ยิ้มออกมาจนตาหยี ลักยิ้มกดบุ๋มลงบนแก้มซ้าย

“...ใจดีครับ”



มีต่อรีพลายถัดไปค่ะ
v
v
v
v



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-03-2017 19:33:02 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
งวดที่ 10 (ต่อ)









ไม่มีสมาธิ..

ขนาดรับโทรศัพท์จากเพื่อนร่วมงาน นัดแนะเรื่องเอกสารสำคัญของวันพรุ่งนี้โดยสังเขป ยังฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง หลังหย่อนโทรศัพท์มือถือลงกระเป๋ากางเกง นอกจากขาจะพาเดินวนไปวนมา ในหัวก็วกกลับมาคิดเรื่องเก่าที่ทำเป็นมองข้ามประเด็นใหญ่ไปอีกครั้ง ครั้นมีตัวกระตุ้นทีก็วุ่นวายที

อยู่มาจนป่านนี้ อีกแค่ไม่กี่ปีก็จะสี่สิบแล้ว ไม่นึกว่าต้องมาใจเต้นแรงครั้งแล้วครั้งเล่ากับคนที่อายุน้อยกว่าเป็นสิบปี แถมหน้าตาดูเด็กกว่าอายุลงไปอีกจนเหมือนว่าช่องว่างระหว่างวัยยิ่งห่างกันเข้าไปใหญ่

ที่สำคัญคือเป็นผู้ชายอีกต่างหาก!

ต่อให้ก่นด่าตัวเองอย่างไร ว่าควรระลึกถึงข้อสุดท้ายได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันในสถานการณ์แปลก ๆ แล้ว แต่ใครจะคิดว่ามันจะดำเนินมาถึงขั้นนี้ ในระดับที่ขึ้นมานอนเตียงเดียวกันอย่างเป็นปกติธรรมชาติ ต่อให้ทางกายภาพแล้วไม่มีอะไรเกินเลยไปกว่าแค่กอดไว้หลวม ๆ ก็เถอะ แต่หากให้ปฏิเสธว่าไม่ได้คิดอะไรเลยกับธัญญ์ ก็คงเป็นการโกหกอย่างหน้าด้านหน้าทนเต็มที

ถ้าไม่คิดเกินเลยก็คงไม่เป็นไรหรอก

แต่นั่นละปัญหาใหญ่ เพราะเริ่มตระหนักได้ว่าเผลอคิดไปแล้วนี่สิ

ภูเมศเดินวนไปวนมาในบ้าน พยายามหาอะไรทำไม่ให้อยู่นิ่ง แต่ระหว่างนั้นยังอดไม่ได้จะคอยเหลือบมองผู้ร่วมบ้านอีกหนึ่งชีวิตเป็นระยะว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่

เมื่อครู่นี้เหมือนจะเล่นกับเจ้าแมวส้มถุงทองอยู่หลังบ้าน ก่อนหน้านั้นเห็นเอาผ้าจากเครื่องซักผ้าไปตาก

เมื่อก่อนเคยจ้างร้านซักรีดเสื้อผ้า แต่ช่วงหลังตั้งแต่ธัญญ์มาอยู่ก็เลิกไป เวลาไม่แน่ชัดนักว่าตั้งแต่เมื่อไร เขาเองมัวยุ่ง ๆ กับงาน รู้ตัวอีกที อีกฝ่ายก็จัดการเรื่องพวกนั้นได้เรียบร้อยเหลือเชื่อ

เลี้ยงเด็ก...ผ่าน งานบ้าน....ผ่าน ทำอาหาร...ผ่าน

ถ้าเขาบริสุทธิ์ใจเสียอย่าง อยู่กันสามคน เขา พร้อมภูมิ ธัญญ์ แบบนี้ไปเรื่อย ๆ ก็ออกจะดีไม่น้อย

“แต่นี่ไม่ใช่ไง..”

ภูเมศถึงกับโอดครวญออกมา หลังจากเตร่ไปตรงนั้นตรงนี้ของบ้าน จนล่าสุดมาหยุดอยู่ตรงหน้าตู้เสื้อผ้าตัวเอง ลากมือไปตามเนื้อผ้าแต่ละชุดบนราวแขวน กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มซึ่งคล้ายว่าเพิ่งเปลี่ยนไปไม่นานมานี้โชยอ่อนเตะจมูก

สายตาเลยไปหยุดอยู่ที่สูทตัวหนึ่งด้านในของตู้

ปกติเขาไม่สวมสูทเต็มยศไปทำงาน อากาศประเทศไทยร้อนอย่างกับเตาอบ แค่เลือกสวมเฉพาะวันที่มีงานสำคัญก็แย่แล้ว แต่ละครั้งที่หยิบมาใช้งานจึงจำได้ค่อนข้างแม่นยำเป็นพิเศษ โดยเฉพาะสูทตัวนั้น ที่ครั้งหนึ่งเคยเอาไปช่วยเด็กวัยรุ่นท่าทางสะบักสะบอมจากการถูกรุมทำร้ายเมื่อหลายเดือนก่อน

มานึกย้อนหลังเมื่อเหตุการณ์ผ่านไปได้ระยะหนึ่งแล้ว ชายหนุ่มคิดว่าตอนนั้นเขาเองก็บ้าไม่น้อย ไม่รู้อะไรดลจิตดลใจให้ลากเด็กคนนั้นมาโอบไว้แล้วโยนสูทลงไปคลุม หากถูกจับได้ขึ้นมา เขาเองจะพลอยลำบากไปด้วยแท้ ๆ ต่อให้ฝ่ายที่ไล่ตามมาเป็นผู้ชายท่าทางสำมะเลเทเมาแบบนักเลงทั่วไป แต่หากต้องชกต่อยกันจริง คงได้เจ็บตัวไม่น้อยกว่าจะตามพนักงานรักษาความปลอดภัยแถวนั้นมาช่วยได้ แล้วยังอาจกลายเป็นเรื่องเป็นราวให้เสียประวัติอีก 

เจ้าเด็กนั่นก็ช่างไปมีปัญหากับพวกท่าทางอันตรายได้ ตัวเองสวมชุดพนักงานร้านสะดวกซื้อแท้ ๆ ดันมามีเรื่องทะเลาะวิวาทนอกร้าน ผิวพรรณก็ดูสะอาดสะอ้านดี แต่หน้าตาเนื้อตัวดูแทบไม่ได้ กว่าจะวิ่งหน้าตั้งมาชนเขาเข้า ไม่รู้โดนซัดไปกี่หมัดแล้ว หน้าถึงได้บวมปูดขนาดนั้น

ภูเมศโคลงศีรษะอย่างระอาใจ นึกโยงไปถึงคนที่เขาเก็บมาจากร้านสะดวกซื้อเหมือนกัน ทั้งส่วนสูงและหน่วยก้านตอนเอื้อมมือไปโอบไหล่ไว้ยังใกล้เคียงกันอีก ถ้าหากเจ้าเด็กที่นั่งเล่นกับแมวส้มอยู่หลังบ้านตอนนี้เจอเหตุการณ์อย่างไอ้หนูนั่นบ้าง ป่านนี้ไม่รู้หน้าหล่อ ๆ นั่นจะเป็นอย่าง....ไร....แล้ว.....

ชายหนุ่มชะงักไป นึกถึงแผลเป็นเหมือนรอยตะเข็บเย็บแผลที่ใต้คางธัญญ์ซึ่งเขาเคยถามถึงที่มา...แต่ไม่เคยได้รับคำตอบ

“ไม่จริงน่า...”







พรึ่บ!

สูทหนัก ๆ สีดำถูกวางคลุมลงไปบนศีรษะเป้าหมายจากด้านหลัง กะทันหันจนเจ้าเหมียวที่นอนแผ่ให้ธัญญ์เกาคางอยู่สะดุ้งโหยงแล้วกระโจนแผล็วไปทางอื่น

ธัญญ์เงยขึ้นมองเขาที่กำลังเดินตรงเข้าหา จากนั้นเหลือบมองไหล่ตัวเองซึ่งถูกเขาเอื้อมมือไปโอบไว้หลวม ๆ

แบบเดียวกับที่อาจเคยเกิดขึ้นเมื่อหลายเดือนก่อน

สีหน้าประหลาดใจในคราวแรกปรากฏอยู่เพียงไม่กี่วินาทีก็หายไป ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มบางเบา จากมุมที่กำลังเงยขึ้นมองเขาอย่างนี้ เพ่งดูดี ๆ ยังเห็นรอยแผลเป็นที่ใต้คาง

“เรา...เคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า” เขาถามเสียงดังจนเกือบกลายเป็นตะโกนแล้ว

“จีบผมอยู่หรือครับ” ธัญญ์ย้อนถามตาใส ยังมีแก่ใจทำเป็นเล่นอีก “มุกนี้ผมเคยเห็นในละคร แล้วผมจะได้ตอบคุณว่าตั้งแต่ชาติก่อน—”

“ฉันถามจริง ๆ”

คนในอ้อมแขนทำท่าทางครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ ก่อนจะหันมาทางเขา กระซิบแผ่วเบา ทว่าน้ำเสียงร้อนรนกว่าปกติ “...ช่วยด้วย”

ภูเมศขมวดคิ้ว มองคู่สนทนาด้วยสายตาสงสัย จนธัญญ์ถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง สีหน้าผิดหวังเล็กน้อย

“ตอนนั้นผมได้พูดแค่นี้ แถมเสียงยังแห้งไปหมด คุณจะไม่คุ้นก็ไม่แปลก”

“นี่...เธอ...” เขาได้แต่อ้าปากพะงาบเหมือนปลาที่ถูกตักขึ้นจากน้ำ “หรือว่าแผลที่คางนั่นก็..”

ธัญญ์มองเขาอย่างอ่อนใจ จากนั้นบอกใบ้ต่อ

“อ้อ แล้วที่เคยบอกว่าเจ้านายถามถึง บอกผมทำงานดี ไม่เกินปีหน้าได้เลื่อนขั้นแหง อันนี้ยังจริงอยู่หรือเปล่าครับ”

ชายหนุ่มแทบร้องอ๋อดังลั่นออกมา ประโยคนั้นเขาจำได้ เป็นคำพูดแบบขอไปทีของเขาเอง ตั้งใจแค่จะเอาตัวรอดจากสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานเท่านั้น ไม่นึกว่าจะมาได้ยินอีกครั้งตอนนี้จากปากธัญญ์...คนที่เขาเคยช่วยไว้

“ความจำคุณไม่ดีเลย” อีกฝ่ายบ่นงึมงำ ขณะที่เขาได้แต่ทำหน้าเอ๋อ “คิดว่าชาตินี้คุณจะนึกไม่ออกแล้ว”

“แล้วทำไมไม่..”

ธัญญ์หันมายิ้มละมุน “พนันกันได้เลย คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนั้นผมตบนามบัตรจากกระเป๋าคุณมาด้วยหนึ่งใบ”

ข้อมูลและจุดสังเกตเล็ก ๆ น้อย ๆ ปะติดปะต่อกันขึ้นมาในหัว ถึงจะรู้สึกเหมือนถูกหลอกแต่ก็พูดได้ไม่เต็มปาก ทั้งยังไม่นึกโกรธแม้แต่น้อย แต่คงเป็นความประหลาดใจจนก้อนเนื้อในอกเต้นโครมครามเสียมากกว่า

“แต่ก็นะ..มันแค่นามบัตรเองนี่นา” คนข้างกายงึมงำใต้ปลายจมูก  “ขนาดกระเป๋าสตางค์คุณยังโดนฉกมาได้ง่าย ๆ เลย ไหนจะนี่อีก”

พอพูดจบอย่างนั้น ก็ชูมือขึ้นให้เห็นของที่ตัวเองกำลังถืออยู่ เล่นเอาภูเมศเบิกตากว้าง

โทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงของเขา

ตอนไหน?

ธัญญ์คว้ามือเขาขึ้นมา บรรจงวางเครื่องมือสื่อสารที่ลอบหยิบมาจากเจ้าของคืนลงไป

“มือไวอย่างนี้ ไม่น่าไว้ใจใช่ไหมครับ แถมประวัติก็ดูไม่ค่อยจะดีเสียด้วย”

ภูเมศเกือบพยักหน้าตามแล้ว ทว่าพอเห็นสายตาจริงจังเจือเว้าวอนของอีกฝ่ายก็ทำอะไรไม่ถูก

“แต่เชื่อเถอะครับ ว่าไม่เคยมีเจตนาร้ายกับคุณเลย”

เขาโบกมือไปมา พลางเบือนหน้าไปทางอื่น ธัญญ์น่าจะรู้ตัวว่ามาจ้องเอา ๆ ขณะอยู่กันตามลำพังเช่นนี้มันเข้าท่าเสียที่ไหน พักนี้เขายิ่งรู้สึกตัวเองหวั่นไหวง่ายผิดปกติอยู่ด้วย

“โอเค ๆ ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย ถึงจะเห็นด้วยว่าเธอออกจะเข้ามาแบบแปลก ๆ ก็เถอะ”

“อา...นั่นสินะครับ”

“น่า ๆ อย่าคิดมาก ทำหน้าหงอยไปได้” เขาพยายามทำตัวเป็นผู้ใหญ่จิตใจใสสะอาด ตบไหล่อีกฝ่ายป้าบ ๆ เหมือนไม่ใส่ใจนัก “ทุกวันนี้เธอก็ทำตัวดีอยู่ไม่ใช่หรือไง ไหนจะงานบ้าน ไหนจะดูแลลูกชายฉันอีก ขอบใจมาก”

“แล้วจะได้เลื่อนขั้นภายในปีหน้าไหมนะครับ”

“หืม?”

ธัญญ์ยิ้มน้อย ๆ “ว่ากันตามจริง ตอนนี้คุณก็เป็นเจ้านายผมไม่ใช่หรือ ไหนบอกจะได้เลื่อนขั้นไง”

ภูเมศกุมขมับ “อย่าไปใส่ใจกับเรื่องโกหกเอาตัวรอดพรรค์นั้นได้ไหมล่ะ ทำเป็นเล่นไปได้”

“อ้อ..” ธัญญ์เลิกคิ้ว กลับไปทำหน้านิ่ง แต่มองแล้วอย่างกับเป็นเด็กน้อยที่ถูกยึดค่าขนมอย่างไรอย่างนั้น มือยื่นสูทคืนให้เขาส่ง ๆ “โกหกนี่นะ”

“พอเลย ทำหน้าบูดอะไรกัน”

“เปล่านี่ครับ หน้าผมเป็นแบบนี้อยู่แล้ว คุณจำไม่ได้หรือ แก่แล้วสินะ”

“ไม่ต้องมาค่อนขอดเลย” กำลังจะอ้าปากบ่นต่อ พลันเห็นว่าอีกฝ่ายหลุดขำออกมาพอดี “...นี่แกล้งงอนเรอะ!?”

“เปล่า” อีกฝ่ายรีบค้าน ตั้งท่าจะเดินหนีไปทางอื่น แต่โดนคว้าเอวเอาไว้ได้ก่อน จึงได้แต่ก้มหน้างุดหนี ครั้นเขาก้มลงไปดูใกล้ ๆ นึกว่าจะหงอย กลับเห็นว่ากำลังกลั้นหัวเราะจนหน้าแดงไปหมดเสียนี่

“เด็กคนนี้! กวนนักนะเรา”

“ครับ”

“ยังมีหน้ามาครับอีก!”

เขาบ่นอย่างสุดจะทน ปล่อยสูทในมือร่วงลงพื้น รัดวงแขนแน่นจนเหยื่อตัวโตเริ่มดิ้นขลุกขลัก แต่ยิ่งดิ้นก็ยิ่งรัดแน่นขึ้นอีกเป็นปลาหมึก ต่อให้มือไวอย่างไร หรืออายุจะห่างกันตั้งเป็นสิบปี แต่เรื่องกำลังกายเขามั่นใจว่าไม่ได้ด้อยกว่าอีกฝ่ายแน่นอน

“ครับ..ฮ่า ๆ ๆ”

แล้วดูหัวเราะเข้าสิ สำนึกเสียที่ไหนกัน!

ดิ้นรนจนเปลืองแรงทั้งสองฝ่ายอยู่พักใหญ่ กระทั่งเมื่อเขากอดแน่นเข้าจนคุณพี่เลี้ยงดิ้นไปจนมุมอยู่ตรงผนัง เจ้าตัวคล้ายจะตระหนักได้ว่าสู้ไม่ไหวจริง ๆ จึงหยุดออกแรงขืน ยืนนิ่งให้เขารวบเอวไว้เฉย ๆ แม้ยังหายใจแรงจนแผ่นอกกระเพื่อม

เมื่อไม่ดิ้น จึงได้ตระหนักว่าใกล้กันขนาดนี้ ...มองเห็นแผลเป็นที่ใต้คางชัดทีเดียว


ภาพใบหน้าแดงก่ำและชื้นเหงื่อของธัญญ์ในคืนที่พวกเขามีอะไรกันครั้งก่อนซ้อนทับขึ้นมา ตอนเขาสังเกตเห็นแผลเป็นนี้ครั้งแรกและถามว่าไปได้มาจากไหน

“คุณ/ธัญญ์”

พวกเขาส่งเสียงเรียกขึ้นพร้อมกัน จากนั้นมองหน้ากันเก้อ ๆ

“เธอว่าสิ”

“คุณก่อนเถอะ”

เขาจ้องคนดื้อ พยายามทำหน้าดุไปด้วย

“เถียงผู้ใหญ่หรือ?”

ธัญญ์นิ่งไป ก้มหน้ามองเท้าอีกพักใหญ่ ก่อนจะกระซิบเสียงเบาหวิวโดยไม่สบตา

“...คุณ.....จูบไหม?”

คำถามคล้ายกับในคืนนั้น ก่อนภูเมศจะนึกได้ในอีกไม่กี่อึดใจถัดมา

ธัญญ์เคยเล่าให้ฟัง เรื่องที่ว่าจูบบนริมฝีปาก ไว้ใช้กับคนรัก

ถ้างั้นก็ที่อื่น...

เขาจรดริมฝีปากตัวเองลงไปบนซอกคอร้อนผ่าวตรงหน้า ไล้เล็มเชื่องช้าจนมาหยุดตรงรอยแผลเล็ก ๆ ที่ลำคอ จากนั้นลากไปยังรอยแผลเย็บเก่าที่คาง แนบจูบลงไปซ้ำ ๆ อย่างห้ามใจไม่อยู่ เนิ่นนานจนราวกับจะขาดใจให้ได้

ธัญญ์ควานมือเปะปะขึ้นมาวางข้างแก้มเขา พอคว้าไว้ได้ก็วาดเลยไปโอบอยู่รอบต้นคอ จากที่คล้ายว่ากลั้นหายใจอยู่ตอนแรก กลับเปลี่ยนเป็นสูดลมเข้าลึกคล้ายกับกำลังตัดสินใจบางอย่าง พร้อมกับที่คำถามตะกุกตะกักลอยมาเข้าหู

“ที่ปาก...ได้ไหมครับ”

ภูเมศชะงักไป เงยขึ้นสบตาเจ้าของเสียง

“...จูบผม...ที่ปาก”

แววตาคู่นั้น....บอกว่าไม่ได้พูดล้อเล่น

เขาหมดแก่ใจจะครุ่นคิดอะไรอีกแล้ว โฉบลงขบขย้ำริมฝีปากตัวเองลงไปบนปากช่างพูดนั้นตามคำเชื้อเชิญ ไม่แม้แต่จะเว้นช่วงให้ได้หายใจ มือหนึ่งคว้าท้ายทอยอีกฝ่ายไว้ ขณะที่อีกมือสอดเข้าไปใต้ชายเสื้อ วางแนบลงบนแผ่นหลังเปลือยเปล่า เรียวลิ้นรุกล้ำ ดูดดุน กวาดต้อน...ราวกับไปอดอยากมาจากไหน

แค่ไม่กี่อึดใจ กลีบปากตรงหน้าก็แดงเจ่อ แต่ธัญญ์กลับยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นวางบนปากเขา ลูบเบา ๆ ซ้ำไปซ้ำมาเหมือนตกอยู่ในภวังค์

แนวสันหลังคล้ายมีกระแสไฟแล่นปราดจนวูบวาบไปหมดทั้งร่าง มองอีกฝ่ายขยับปลายนิ้วพลางโน้มกายเข้ามากระซิบเสียงแผ่วหวิวข้างหู ไอร้อนจากลมปากล่องลอยอ้อยอิ่งบนผิวแก้ม

“...จูบผมอีกครั้งได้ไหม”

พูดอย่างนั้น ทั้งยังมองมาด้วยสายตา...รักใคร่?

หรือไม่...นั่นอาจเป็นภาพสะท้อนของเขาเองต่างหากที่ปรากฏในดวงตาอีกฝ่าย...

แต่จะเป็นแบบไหนก็ช่างเถอะ

แพ้แล้ว แพ้อย่างราบคาบ

“ไหนลองบอกซิ อยากเลื่อนตำแหน่งเป็นอะไร”

เขากระซิบ..แต่ไม่ได้รอคำตอบ

สองแขนรวบร่างอีกฝ่ายเข้ามาชิด ...แล้วบรรจงแนบริมฝีปากลงไปแผ่วเบา

จุดที่ธัญญ์เคยบอกว่าสำหรับคนรัก

 




To be continued...







//คลานเข่าเข้ามาอีกครั้ง T{}T

อัพแล้วค่ะ กราบขออภัยงาม ๆ ที่ให้รอนาน (หวังว่าจะยังมีคนรออยู่นะคะ โฮร) ไม่มีข้อแก้ตัวใดนอกจากงานท่วมหัวค่ะ  :z10: หงิงง ช้าหน่อยแต่สัญญาว่าจะไม่ทิ้งแน่นอนนะคะ กลายเป็นนิยายรายเดือนไปแล้ว Orz

ตอนนี้ก็เบา ๆ (ละมั้ง) อยากเขียนอะไรหวาน ๆ จังเลยค่ะ (ฮา)


ขอบคุณจริง ๆ ที่ยังอยู่ด้วยกันค่ะ รักกกกกก
ปล.รูปยังไม่มี เดี๋ยวมีโอกาสจะวาดตามมาทีหลังนะคะ แล้วพบกันงวดหน้าค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-03-2017 20:39:58 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
โอ๊ยแหม่ ภูเมศ นึกออกแล้วว้อยยยยยยยยยยยย  :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:

จุดพลุฉลองซะเลย

เลื่อนขั้นน้องเป็นศรีภรรยาเถอะค่ะ พลีสๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :กอด1:

ออฟไลน์ nn~~NN

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-1
สมกับที่ดองจนเปรี้ยวๆ ถือว่าก้าวหน้าขึ้นเยอะนะคะ ดูทรงแล้วนึกว่าจนจบก็คงจำเรื่องที่ช่วยวันนั้นไม่ได้ หรือกว่าจะบอกความในใจคงอีก 20 ตอน 55555 (ถึงในใจจะคิดว่าเดี๋ยวจูบเสร็จธัญญ์จะบอกล้อเล่นก็เหอะ เด็กนี้มันซับซ้อน  :katai5:)
ลุ้นมากกว่าว่ากะธเนศนี่อะไรยังไงน้อ
ปล.แซวคุณเรนนี่นะเรื่องดอง เรารู้ว่าภาระหนักหนาจริงๆค่ะ เอาใจช่วยอยู่นะคะ  :L1:

ออฟไลน์ Coaramach

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ในที่สุดก็มาแล้ว!! :katai1: :katai1:
ฮืออออออออ..

ชอบที่ธันบอกคุณภูว่า ยากอยู่กับภูไปนานๆ

ออฟไลน์ Aoya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 906
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-3
เค้ารออยู่ตลอดน้าาา

ไม่ชอบคุณธเนศเลย

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ฮื้อ~~ จำได้เสียทีนะคะภู~ :m3: คุณสมบัติน้องธัญญ์ครบครันขนาดนี้จะไม่เลื่อนขั้นขึ้นให้ไวๆ ก็กระไรอยู่ล่ะเน้อ ><

ออฟไลน์ ผู้หญิงเอาแต่จัย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ฮืออออออออออออออ น้ำตาจะไหลในที่สุดก็มาต่อแล้ว 1เดือนที่รอคอย โอ้ยยยยยยยยเค้ารักกันแล้ววววววววว ไม่อยากให้ดราม่าเลยอะ เค้าเสียน้ำตาไปหลายเรื่องแล้วนะ หวานๆกวนๆแบบนี้ไปอีกยาวๆเลยได้มะ เค้าไม่เอาดราม่า

ออฟไลน์ toou

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-3
ดีใจที่มาต่อนะคะ แต่อย่าหายไปนานอีกได้ไหมอ่าาาากราบบบบบบบ :call:
ธัญญ์น่ารักกกกกกกกกกกกกก 
เลื่อนขั้นให้น้องได้แล้วววววว  อร้ายยยยยยย :hao6: :katai4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด