┤ ราคา ◇ ค่า ◇ รัก ├ งวดพิเศษ 03 - สัตว์กินเนื้อที่กินผักชีได้ หน้า 64 [6/6/60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ┤ ราคา ◇ ค่า ◇ รัก ├ งวดพิเศษ 03 - สัตว์กินเนื้อที่กินผักชีได้ หน้า 64 [6/6/60]  (อ่าน 469524 ครั้ง)

ออฟไลน์ sikamkanda

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
กลัวincestอะ

ออฟไลน์ nongou

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ดีใจจังมาต่อแล้วเรื่องนี้สนุกมากค่ะ :mew1:

ออฟไลน์ BeauBeeiiz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
คุณธเนศนี่ คือพ่อใช่ป่าว แต่เป็นพ่อที่แอบจิตเล็กนะ แบบรักแม่งี้
แต่แม่ไม่อยู่ เก็บลูกไว้ดูเล่นงี้อ่ะ

พอมาถึงรร.เด็ก แหมะช่างเป็นคำที่สะเทือนจริงๆน้า

ค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะค่ะ เป็นกำลังใจให้ สู้ๆ
และสวัสดีปีใหม่ค่ะ ร่างกายแข็งแรง เป็นปีที่ดีตลอดปีนะค่ะ

ออฟไลน์ snoopy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
อ่าว...น้องตัง  เดี๋ยวจะไล่ให้ไปเล่นตรงโน้นเลย // กลับมาแล้วดีใจ

ออฟไลน์ jejiiee

  • cannot open this page
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
กลัวพี่ธัญญ์จะโดนแกล้งให้ทิ้งสองพ่อลูกนี้สิ  :ling3:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
แอบบเงิบบเบา ๆ

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
ดีใจที่กลับมาต่อ

หน่วงๆๆตอนเจอธเนศ :ling2:

 :กอด1: :L2: :pig4:

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
คิดถึงแล้วก็มา ดีใจอ่ะ
อ่านไปคิดเป็นประเด็นๆๆตามไปเลย
ต้องเป็นพ่อ หรือ ลูกเลี้ยง แน่ๆๆเลย
เห็นเด็กน้อยตามภูมิมากก็คิดว่าจะมีบทไรไหมยืนฟังเรื่องน่ารักๆๆตั้งนาน พอออกปากพูดเท่านั้นพี่ตังทำให้ผู้ใหญ่ชะงักไปเลยจากคำตอบน้องภูมิ ว่าจะเชียร์ให้พี่ตังเป็นแฟนน้องภูมิสักหน่อย แบบนี้เชียร์ให้ภูมิจับตังกดเลยดีกว่า ฮ่าๆๆๆๆ ดีใจที่เห็นธันวางแผนจะให้ชีวิตที่นี้ แอบลุ้นต่ออุปสรรค์มันมาแล้ว ชอบคู่นี้จังเลบรอจิกหมอน อิอิ
สวัสดีปีใหม่จ้า^^

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
คุณธเนศเป็นพ่อ!??

ออฟไลน์ kanunsak

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
ตบหัวเด็กเนี่ยผิดมั้ย? ค่าปรับเท่าไหร่ค่ะ? อีชั้นขอซักป๊าปเถอะ อีเด็กปลวก คนกำลังอิน วิมานในอากาศหายวึบ เซ็งจริง ชิชะ...

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Lovetree

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
พอรู้ว่าคุณธเนศเป็นใครแล้ว  เราสงสารธัญญ์มากๆเลย  อยากกอดปลอบจัง :กอด1:
แม้คุณธเนศจะดูรักธัญญ์มากๆเลย แต่เราว่าคุณธเนศดูมีอำนาจ  น่ากลัว ไม่อยากอยู่ใกล้ด้วยเลย
เอาใจช่วยธัญญ์ให้สามารถอยู่กับคุณภูเมศตลอดไป  หลังจากนี้คงมีอุปสรรคมากมายเลยเนอะ

กรี๊ดให้กับการบอกรักของคุณภูเมศกับน้องธัญญ์มากๆ หวานมากๆ ยิ่งสบตากันด้วยยิ่งเขิน ชอบๆน่ารักๆ

กำลังอมยิ้มกับความหวานและความสุขของครอบครัวนี้ แต่ต้องมาเครียดเพราะคุณน้องพี่ตัง  จะมาทำไมเนี่ย555
น้องภูมิความสุขของหนูคืออะไร อย่าคิดมากนะ  คุณภูเมศและน้องธัญญ์สู้ๆนะคะ รักกันแล้วต้องสู้ต่อไปค่ะ

ตอนนี้อินมากๆเลยค่ะ  รอเรื่องนี้เสมอนะคะ
ขอบคุณนักเขียนมากๆนะคะที่ยังแต่งเรื่องนี้ต่อไป เป็นกำลังใจให้ในทุกเรื่องนะคะ :L2:
เรื่องนี้สนุกมากๆ ลุ้นและน่าติดตามทุกตอนเลยค่ะ  o13

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
กลัวดราม่า

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เขากำลังมีความสุขกัน อิตาธเนศจะมาป่วนอะไร กำหนดเวลานั่นนี่
ความสัมพันธ์ยังน่าสงสัย พ่อลูกแน่เหรอ เหมือนเลี้ยงต้อย เป็นนกน้อยในกรงทอง

ออฟไลน์ ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥

  • เหรียญยังมีสองด้าน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2

ออฟไลน์ sujusaranghae

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ในที่สุดก็ได้อ่าน เย่ๆ

ออฟไลน์ Malimaru

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-4
    • facebook


จุด ๆ นี้ ป้าหวั่นไหวมาม่าหม้อโตเหลือเกิน
เรื่องคุณธเนศ โอเค... เคลียร์ แต่เรื่องลูกนี่สิ งานใหญ่เลยนะ
หากภูเมศไม่ช่วยจัดการ อาจจะบานปลายกลายเป็นต้องเลือกใครคนใดคนหนึ่งได้... ซึ่งป้าไม่มักเลย
แต่จะยังไง ป้าก็จะติดตามเรื่องนี้ต่อไปค่ะ เพราะป้าสตรอง!!

สวัสดีปีใหม่นะคะ!  :L2:


ออฟไลน์ lieu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
= =* อีตาลุงโรคจิตนั่น ไม่น่าไว้ใจ
ท่าทางร้าย เจ้าเล่ห์

ส่วนธัญ น่าจะพอตัว เจ้าเล่ห์ไม่แพ้กัน ออกไปทางจอมวางแผน
พระเอกเรื่องนี้ เลยกลายเป็นใสซื่อ ไปเลย

T_T; อย่าเพิ่งมาม่านะ พลีสสสสสส


สวัสดีปีใหม่ค่ะ ^3^

ออฟไลน์ mizzmizz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
เหมือนจะมีิะไรแอบแฝงในคำพูดของคุณพ่อนะคะ (เตะคว่ำ) ปล. น้ำตาแทบไหล เห็นว่าอัพ อิอิ รอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ rainystreet22

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
จากนิยายรายเดือนกลายเป็นรายปีแล้ววววว อยากอ่านต่อมากๆๆๆๆๆๆๆ รีบแลับมานะ คิดถึง :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
มันก็เป็นความจริงๆนะ อะไรที่ได้มาง่ายๆมันก็รู้สึกไม่ค่อยมีค่า
 :hao7: :hao7: :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Sunny.Day.

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
แหมๆ  น้องตังนี่คงไม่ได้มาจีบพร้อมภูมิหรอกนะคะ  (มองเค้าออกนี่ไม่ธรรมดา  555)
ถ้ามา  ขอหล่อๆ  ดีๆ  โตมาคุณภาพสูงๆนะคะ
เพราะตอนนี้โดนหมายหัวไว้แล้วนะจ๊ะ   :m16: :m16:

ชอบพร้อมภูมิอยู่นะ  ทั้งๆที่ไม่ชอบเด็ก
พอน้องตังมานี่แบบ...ต่อมเกลียดเด็กทำงานเลยอะ
น้องชัดไป  ตรงไปนะจ๊ะ   โดนพร้อมภูมิงอนเลย  ว๊ายยยยย   :hao7: :hao7:

กำลังหวานอยู่เชียวปูทางเครียดอีกและ
ยังไงก็รอตอนต่อไปนะค่ะ

รัก  :3123: :3123:  และขอบคุณ  :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
ดีดปากเด็กจะโนจับไหม 5555

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
เจ้าตังหึงหล่ะสิ
 :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0
ธเนศน่ากลัว

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
จะมายังเอ่ย

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ง่าาาาาาาาาา

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
┤ ราคา ◇ ค่า ◇ รัก  ├

งวดที่ 13


ไม่ใช่ผู้ชายตัวเปล่าแล้วนี่นะ..

ว่าไปก็เป็นพ่อม่ายลูกติด ให้นึกอยากชอบใครก็ลงมือจีบ จีบติดตกลงคบกันเป็นคนรักเหมือนตอนยังไม่แต่งงานมีครอบครัว มันง่ายดายอย่างนั้นที่ไหน

คงต้องโทษตัวเองอย่างหนึ่งที่คิดง่ายเกินไป เห็นว่าคุณลูกชายติดธัญญ์แจอย่างกับอะไรดี เอะอะก็พี่ธัญญ์อย่างนั้นอย่างนี้ เลยหลงคิดไปว่าคงไม่ทำให้รู้สึกไม่ดี ค่อย ๆ ตะล่อมบอกทีละน้อยไม่น่ามีปัญหา พร้อมภูมิก็เก้าขวบแล้ว คุยรู้เรื่อง เป็นเด็กดีมีเหตุผลมาตลอด แม้ว่าเรื่องแบบนี้อาจจะเกินความเข้าใจของเด็กเก้าขวบไปสักหน่อย

อย่างหนึ่งที่เขาไม่ควรลืม คือพร้อมภูมิโตมากับแม่แท้ ๆ ตั้งราวแปดปีได้ แม้ผู้ใหญ่มีปัญหากันอย่างไร แต่ความสัมพันธ์แม่ลูกก็เป็นไปด้วยดีเสมอมา ทุกวันนี้ยังไปมาหาสู่กันด้วยซ้ำ ต่อให้เขาไม่ได้คิดจะให้ธัญญ์มาเป็นแม่พร้อมภูมิ—อย่างไรธัญญ์ก็ผู้ชาย แทนกันไม่ได้อยู่แล้ว เรื่องนั้นรู้ดีมาแต่แรก—ทว่าสำหรับเด็ก หากเป็นตำแหน่งคนรักของคุณพ่อ ก็คงเทียบเท่ากับเป็นคุณแม่ไปโดยปริยาย

พอเห็นปฏิกิริยาลูกชายต่อหน้าเพื่อนร่วมโรงเรียนเมื่อเย็น ความคิดว่าจะเริ่มบอกให้รู้ทีละน้อย ก็มีอันต้องเลื่อนไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด

“เฮ้อ”

“ถอนใจอะไรอย่างนั้นครับ”

ชายหนุ่มหลุดจากภวังค์ ผงกศีรษะขึ้นเหลียวมองไปด้านหลังตามเสียง เห็นคุณพี่เลี้ยงประจำตัวลูกชายยืนพิงผนังใกล้ ๆ จ้องตาใสกลับมาด้วยท่าทางไม่ทุกข์ร้อน

“เดี๋ยวก็ยิ่งแก่ไวหรอก”

ให้ตายเถอะ เป็นเด็กหน้าตาดีที่ปากร้ายเสมอต้นเสมอปลายจริง ๆ

เขาโบกมือไปมาอย่างปลง ๆ ขณะที่อีกฝ่ายเดินอ้อมมาย่อตัวนั่งลงด้านข้าง

“ช่างฉันเถอะน่า”

“แต่ผมก็ไม่ได้รังเกียจคนแก่หรอกนะ”

“นี่สรุปว่าฉันแก่แล้วเรอะ” ภูเมศถามเสียงเพลีย

ธัญญ์มองเขานิ่ง ตอบกลับมาเรียบ ๆ “วันหนึ่งทุกคนก็จะแก่”

“ไม่ต้องมาทำพ่นปรัชญาชีวิตเลย”

“เรื่องพรรค์นั้นไม่อยู่ในหัวผมหรอก” อีกฝ่ายปฏิเสธ รอยยิ้มบางเบาวาดบนริมฝีปาก ขณะสายตาทอดไปไกลข้างหน้า “คิดแค่ว่าอยากอยู่กับคุณจนแก่จัง ไว้วันนั้นคุณก็จะเห็นผมตอนแก่ด้วย”

แล้วทำไมช่างขยันพูดอะไรให้คนอื่นคิดมากคิดไกลนักนะ

“เฮ้อ...” เขาถอนใจอีกครั้ง ข่มความวุ่นวายใจไว้ในอก ดูคนหนุ่มตรงหน้านี่สิ รูปลักษณ์หล่อเหลาไร้ที่ติ ทั้งคำพูดคำจาหรือสารพัดเรื่องที่เคยเอามาสอนลูกชายเขาก็ดูมีการศึกษา ถ้าไปจับคู่กับหญิง...หรือผู้ชายก็ได้หากเหมาเอาว่าอีกฝ่ายเป็นเกย์ ชอบพอกับใครสักคนที่ไม่มีพันธะ เรื่องคงง่ายกว่ามายุ่งกับคนมีลูกติดเป็นไหน ๆ แค่หน้าตาหรือบุคลิกน่าจะทำให้ผู้คนหลงรักได้ไม่ยากเย็นแท้ ๆ

“ถอนใจอีกแล้ว”

โดนทักเข้าอีกจนได้

“คนอย่างฉันมีอะไรดีรึไงนะ”

“แล้วคุณมีอะไรที่ไม่ดีล่ะครับ”

น้ำเสียงราบเรียบเช่นเคย ยากจะเดาว่าจริงจังหรือกำลังล้อเล่น

เขาฟังแล้วถึงกับชะงักไป พอตั้งตัวติด จะถอนใจอีกหนพลันนึกขึ้นได้ว่าเดี๋ยวก็แก่ไวจริง ๆ หรอกจึงหยุดไว้เสียก่อน

“...ไม่รู้สินะ...แต่ยังไงก็เป็นผู้ชายที่มีลูกแล้ว”

“นั่นเป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือครับ?”

“หือ?”

“หรือคุณคิดว่ามีน้องภูมิแล้วไม่ดี”

“ต้องดีอยู่แล้วสิ!”

“นั่นสินะครับ” ธัญญ์ยิ้มน้อย ๆ ขยับมุมปากเพียงนิดเดียวก็น่ามองจนละสายตาลำบาก “คุณเป็นพ่อที่ดีของเขา เขาเป็นลูกชายที่น่ารักของคุณ เป็นเรื่องดีมากออกขนาดนี้”

แม้ขณะกำลังเอ่ยเรื่องน่าฟังออกมาแท้ ๆ ทว่าแวบหนึ่ง กลับเห็นแววหม่นหมองในดวงตา ทั้งที่ผ่านมาไม่ค่อยเห็นหน้าตาแบบนี้แล้วตั้งพักใหญ่

ไม่รู้เขาคิดมากไปเองหรือเปล่า แต่พอมีบทสนทนาหรืออะไรที่ชวนให้นึกถึงความสัมพันธ์อย่างพ่อลูกทีไร แววตาอย่างว่ามักฉายขึ้นมาอยู่เรื่อย

“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นอีกแล้วล่ะ”

“เอ๋?”

“นึกว่าเลิกทำหน้าเศร้าไปนานแล้วเสียอีก”

“ผมน่ะหรือครับ”

“เธอ...” เขาลังเล ไม่รู้ควรหรือไม่ควรถามต่อ สุดท้ายจึงได้แต่พูดอ้อมค้อมอย่างระมัดระวัง “...ไม่เห็นเล่าเรื่องครอบครัวตัวเองให้ฉันฟังบ้างเลย”

ธัญญ์มองเขาอย่างชั่งใจ ประสานมือไว้บนตักหลวม ๆ ครู่หนึ่งค่อยเปลี่ยนเป็นก้มลงมองนิ้วมือตัวเองอยู่นาน กว่าจะเอ่ยออกมาเสียงเบา ราวกับเพียงแค่กระซิบกับตัวเอง

“ไม่มีอะไรน่าสนใจหรอกครับ”

“ไม่เห็นต้องน่าสนใจก็เล่าได้ไม่ใช่หรือ” เขาพยายามทำเสียงเริงร่าสร้างบรรยากาศ “มีพี่น้องไหม แล้วพ่อแม่เธอล่ะ”

อีกฝ่ายเม้มปากอีกครู่หนึ่ง ค่อยพึมพำอย่างไม่แน่ใจนัก

“พี่น้องนี่...จะว่ามีก็มี จะว่าไม่มีก็ไม่มี...”

ภูเมศทำตาปริบ ๆ พยายามแปลผลถ้อยคำกำกวม ทว่าไม่สำเร็จ งงกว่านี้มีอีกไหม

“คุณแม่ป่วย เสียไปนานแล้ว ส่วนพ่อ...จะว่ามีก็มี...จะว่าไม่มีก็ไม่มี..”

งงกว่าเดิมได้อีกจริง ๆ ด้วยสิ

“พูดอะไรไม่รู้เรื่องเลยไอ้หนู”

ธัญญ์ยักไหล่ “ผมถึงได้บอกไง ว่าไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก”

“ทำไมล่ะ ฉันสนใจเรื่องเธอไม่ได้หรือไง”

อีกฝ่ายได้ยินเช่นนั้นกลับเงียบไปอึดใจ หันมามองเขาช้า ๆ สีชมพูระเรื่อแต้มบนผิวแก้ม ไม่ปริปากพูดอะไรอีก แต่มองเห็นรอยยิ้มที่ฉายผ่านแววตาชัดเจน

บ้าฉิบ ถึงไม่อยากให้ทำหน้าเศร้า แต่เวลาที่ดูน่ารักแบบนี้ก็ไม่ค่อยดีกับหัวใจเท่าไรเหมือนกัน 

“เอาเถอะ” เขายกนิ้วขึ้นถูปลายจมูกเบา ๆ แก้เก้อ “ไม่อยากพูดถึงก็ไม่เป็นไร”

คราวนี้กลับเป็นธัญญ์เสียเองที่ผ่อนลมหายใจยาวออกมา

“ขอบคุณนะครับ”

“ขอบคุณอะไรกัน”

“ทุกเรื่องเลย”

“พูดเกินไปแล้ว”

“เห็นคุณแล้ว...คิดว่าสว่างมาก ๆ เลย...จนบางทีผมก็รู้สึกตาพร่า”

ภูเมศกลบเกลื่อนอาการสำลักด้วยการแสร้งทำเป็นกระแอมค่อกแค่ก “พูดอะไรน่าขนลุก ฉันไม่ใช่หลอดนีออนนะ”

“หลอดไฟไม่ทำให้อุ่นแบบนี้หรอกครับ”

“ใครสั่งใครสอนให้พูดจาน้ำเน่าอย่างนี้เนี่ย”

เขาเริ่มเขินขึ้นมาจริง ๆ แล้ว แต่พอหันไปบ่นต่อว่า “อยู่บ้านดูละครมากไปหรือเปล่า” แล้วกลับได้รับรอยยิ้มละมุนกลับมา ผิดจากเวลาหาเรื่องแกล้งให้เขินไปเรื่อยอย่างเจ้าตัวชอบทำ ก็เล่นเอาพูดไม่ออก หัวใจกระดอนอยู่ในอก ทำตัวเป็นตาลุงแพ้รอยยิ้มเด็กน่ารัก ๆ เข้าเสียได้ เจ้าตัวต่างหากที่จะทำคนมองตาพร่าเวลาจ้องนาน ๆ

“จริงเลยน้า” เขายกมือขึ้นเสยผม ส่งยิ้มอ่อนใจกลับไป ครู่เดียวก็อดไม่ได้ต้องย้ายมือไปลูบหน้าลูบผมอีกฝ่ายอย่างรักใคร่เจือมันเขี้ยว “จะว่าน่าเอ็นดูหรือน่าหมั่นไส้ดีล่ะเนี่ย”

อีกฝ่ายไม่ตอบอะไร จะวางมือวางไม้ลงไปตรงไหนก็ยอมแต่โดยดี ทั้งยังเอียงใบหน้าให้แก้มแนบกับฝ่ามือเขาแล้วหลับตาลง ขนตาเป็นเป็นแพทาบสนิทบนผิว

รู้อยู่แล้วว่าเป็นชายหนุ่มรูปหล่อ แต่พักนี้มองใกล้ ๆ ยิ่งสวย

“ทั้งหมดนั่นละครับ ตามใจคุณเถอะ”

ยังมีหน้ามาพูดอีก

“เธอนี่น้า”

ใครจะอดหลงรักคนแบบนี้ได้กันนะ

เปลือกตาหลับพริ้ม ท่าทางโอนอ่อน เห็นแล้วก็ใจคอไม่ค่อยดี ในความใกล้ชิดอันชวนให้เผลอไผล กลิ่นกายเฉพาะตัวที่คุ้นเคยยิ่งแจ่มชัด ย้อนดึงเอาภาพเมื่อครั้งเคยฝังใบหน้าลงไปบนซอกคอนั้น พรมจูบลงไปบนผิวขาวจนเป็นรอยแดงให้กลับมาโลดแล่นในหัว ทาบซ้อนกับตัวตนจริง ๆ ซึ่งอยู่ข้างกายยามนี้

เป็นเขาเอง ค่อย ๆ โน้มตัวเข้าไปหาเชื่องช้า ความคิดขาดห้วงลงครึ่ง ๆ กลาง ๆ รับรู้เพียงผัสสะที่ค่อยแจ่มชัดขึ้นทีละอย่าง

ผิวแก้มฝ่ายนั้นที่แนบสนิทกับฝ่ามือเขา...อุ่น

ลมหายใจ...ร้อนผ่าว

ทั้งปลายลิ้นเขาที่สัมผัสบนริมฝีปากตรงหน้า...ไล้เล็มแผ่วเบา...ดุนดันให้กลีบปากนั้นเผยอออกรับ

...หวาน...







พร้อมภูมิอาบน้ำเสร็จแล้ว ผมยังเช็ดไม่แห้ง หยดน้ำร่วงแหมะจากปลายเส้นผม แต่ใจร้อนอยากเล่นหุ่นรบตัวใหม่ที่พี่ธัญญ์เพิ่งซื้อให้เต็มแก่ รีบทาแป้งแต่งตัว สวมชุดนอนลวก ๆ กระดุมเสื้อยังติดไม่ทันครบก็รีบคว้าหุ่นมากอด เดินตามหาพี่เลี้ยงคนโปรดที่คงอยู่ไหนสักแห่งในบ้าน

เสื้อนอนมีรอยหยดน้ำเป็นดวงเล็ก ๆ เพราะผมยังไม่แห้งดี แต่เด็กน้อยไม่ใส่ใจนัก เดี๋ยวเจอพี่ธัญญ์อาจโดนบ่นนิดหน่อย สุดท้ายก็จะมานั่งเป่าผมให้อยู่ดี หรือบางทีถึงถูกทำโทษให้อ่านหนังสือ แต่อีกฝ่ายก็จะอยู่เป็นเพื่อนจนเขาอ่านจบนั่นละ

พร้อมภูมิเดินย่องไปหลังบ้านที่พี่ธัญญ์ชอบไปนั่งเล่นกับเจ้าเหมียวถุงทอง ตั้งใจว่าจะไปแอบกระโจนใส่ให้ตกใจจากข้างหลังดูบ้าง เอาคืนที่เขาเองโดนย่องมาตะครุบตัวไว้ได้ประจำ ยังไม่เคยแก้มือได้สักที

แต่วันนี้เมื่อไปถึงกลับพบว่าไม่อยู่ เจ้าแมวส้มก็เช่นกัน ถาดอาหารมีอาหารเม็ดสำหรับแมวเหลือนิดหน่อย สงสัยเจ้าเหมียวกินเสร็จจะออกไปเที่ยวเล่นเรียบร้อย

ถ้าไม่ใช่หลังบ้าน ก็อาจจะเป็นห้องนั่งเล่น

เด็กน้อยเขย่งบนปลายเท้า ย่องเบาที่สุดอย่างเคยซ้อมกับพี่ตังที่โรงเรียน กลั้นยิ้มไปด้วยอย่างนึกสนุก คุณพี่เลี้ยงคนโปรดจะต้องตกใจสะดุ้งโหยงแน่นอน หากจู่ ๆ ถูกเขาพุ่งเข้าใส่จากข้างหลัง

นั่นไง...เห็นแล้ว

ตรงสุดมุม บนเก้าอี้ริมประตูกระจกซึ่งเชื่อมไปยังระเบียงเล็ก ๆ ด้านข้าง พบว่ามีคนนั่งอยู่

จากตำแหน่งยืนของเขาตอนนี้ นับว่าเหมาะเหม็งสำหรับการซุ่มหาจังหวะดี ๆ เพื่อเข้าจู่โจมโดยไม่ถูกเห็นเข้าก่อน เพราะอยู่ใกล้พอจะเล็งเป้าหมายได้ชัดเจน แล้วยังมีมุมให้หลบเสียด้วย

เด็กชายพร้อมภูมิกอดหุ่นรบตัวใหม่ไว้แน่น ใจเต้นตึกตักด้วยความระทึก ขณะเพ่งสายตาไปเบื้องหน้า คิดไปด้วยว่าจะส่งเสียงให้ตกใจตอนเข้าถึงตัวว่าอย่างไรดี

ตอนนั้นเอง ที่ได้เห็นว่าพี่ธัญญ์ไม่ได้นั่งอยู่คนเดียว

คุณพ่อก็อยู่ด้วย

นั่งใกล้กันมาก มิน่าเล่า ตอนแรกจึงคิดว่ามีคนอยู่แค่ลำพัง

เขาจ้องตาปริบ ๆ จากตรงนี้ไม่ได้ยินว่าทั้งสองคนคุยอะไรกัน ให้เข้าใกล้กว่านี้ก็กลัวโดนจับได้ แต่ยังดีที่หากตั้งใจมองสักหน่อย ก็จะเห็นสีหน้าท่าทางทั้งหมดได้ชัดเจน ดีไม่ดีอาจทำคุณพ่อตกใจเสียท่าได้ด้วยอีกคน แผนเจ๋งสุดยอด!

พ่อยกมือขึ้นเสยผมตัวเอง จากนั้นยิ้มบางพลางส่ายหน้าน้อย ๆ เดี๋ยวเดียวก็เปลี่ยนเป็นเอามือไปวางไว้บนผมพี่ธัญญ์แทน ปลายนิ้วสางตามเส้นผมดำขลับ แล้วค่อยเลื่อนลงมาประคองสองข้างแก้ม

เขานึกว่าพี่ธัญญ์จะขยับหนี หรือไม่ก็บ่นคุณพ่ออย่างที่เคยบ่นเขา แต่ก็เปล่า

ฝ่ายนั้นกลับนั่งนิ่ง

ไม่สิ...เอียงหน้าเข้าหาฝ่ามือพ่อต่างหาก

แสดงความรัก?

แน่นอน พร้อมภูมิรู้จักท่าทางเช่นนั้น พ่อก็เคยทำกับเขาเหมือนกัน เอื้อมมือใหญ่ ๆ มาลูบผม ยีจนหัวยุ่งแล้วพึมพำกลั้วหัวเราะว่าไอ้ลูกหมาของพ่อ แม้ครั้งนี้มีจุดที่รู้สึกว่าต่าง แต่ไม่มั่นใจนักว่าต่างกันตรงไหน

ตอนนี้พ่อก็อาจพูดอะไรสักอย่างกับพี่ธัญญ์เหมือนเวลาล้อเล่นกับเขา จึงได้ยื่นหน้าเข้าไปใกล้

...จนชิด...

จูบ..?

เด็กน้อยเบิกตากว้าง เผลอกลั้นหายใจ ถอยหลังออกมาหนึ่งก้าว สะดุดขาตัวเองเดินเซไปด้านข้างแล้วค้างอยู่แค่นั้น แต่สองคนตรงหน้ายังคงละเลียดชิมริมฝีปากกันและกันโดยไม่เห็นว่าเขาอยู่ตรงนี้

ไม่รู้เวลาผ่านไปนานเท่าไรที่ขาเด็กชายนิ่งแข็งอยู่กับที่ ขณะพ่อและพี่เลี้ยงของเขาต่างตระกองกอดกันและกัน แลกจุมพิตลึกซึ้งขึ้นเรื่อย ๆ

กระทั่งหุ่นยนต์ของเล่นหลุดจากมือเขา ร่วงลงกระทบพื้น

โครม!

เสียงดังขึ้นชัดเจนในความเงียบ แม้แต่เขาเองที่เป็นคนถือมันอยู่เมื่อครู่ก็ยังพลอยสะดุ้ง

“...อึก!”

พร้อมภูมิเงยหน้าขึ้นมาตื่น ๆ หลังจากตั้งสติขึ้นมาได้บ้าง

และพบสายตาตื่นตระหนกสองคู่มองตรงกลับมาทางเขาพร้อมกัน

“ภูมิ!”

ได้ยินพ่อเรียกชื่อตัวเองด้วยน้ำเสียงร้อนรน

เขาอ้าปาก แต่มีเพียงเสียงกระซิบ “...พ่อ..” ออกมาคำเดียว

จากนั้นสมองก็ไม่ส่งถ้อยคำใดให้ปากพูดออกมาอีก

ไม่รู้ควรทำอย่างไรดี สุดท้ายจึงตัดสินใจหันหลัง ทิ้งหุ่นยนต์ของเล่นที่เพิ่งได้มาไว้ที่เดิม วิ่งตึงตังเข้าห้องตัวเอง ล็อคลูกบิดประตู ทั้งยังลงกลอนไว้อย่างแน่นหนา หอบหายใจแรง ๆ จนแผ่นอกกระเพื่อมหนักหน่วง หัวใจเต้นรัวเร็วชวนให้อึดอัดไปหมด ขาสองข้างสั่นระริกจนยืนไม่อยู่

ได้แต่ทิ้งตัวลงนั่งพิงประตูอย่างอ่อนแรง




ภูเมศวิ่งตามมาถึงหน้าห้องลูกชาย แต่ไม่ทันแล้ว ประตูห้องถูกปิดไปเรียบร้อย ต่อให้มีกุญแจไขลูกบิดประตู แต่ในห้องก็มีกลอนอยู่ด้วยเหมือนกัน

เมื่อเคาะประตูไม่มีทีที่ว่าจะเปิดให้ เรียกแล้วไร้เสียงตอบรับ จึงได้แต่เดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้อง ปากก็บ่นพึมพำไปด้วยไม่หยุด

“แย่แล้ว...ทำไมสะเพร่าอย่างนี้นะ”

“ขอโทษด้วยครับ”

“ไม่ ๆ” ชายหนุ่มโคลงศีรษะรัวเร็ว “ไม่ได้ว่าเธอ ฉันหมายถึงตัวเอง”

ว่าจบแล้วทำสีหน้าหนักใจ พ่นลมยาวออกปากอย่างเหนื่อยอ่อน นวดขมับตัวเองเบา ๆ สุดท้ายพูดต่อโดยไม่สบตา “ขอโทษนะที่ทำให้ลำบากใจไปด้วย เธอพักก่อนเถอะ ฉันขอคุยกับภูมิก่อน”

“แต่ผมก็..” ธัญญ์ตอบแผ่วเบา ทว่าหลังจากนั้นกลับหยุดไปกลางคัน เม้มปากจนเป็นเส้นตรงบางเฉียบ

ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง จึงยอมถอยออกมาแต่โดยดี

เรื่องกาลเทศะ ตอนไหนควรอยู่ ตอนไหนควรไป เขาย่อมรู้ดีอยู่แล้ว

เพียงแต่คงเพราะความเคยชินจากที่อยู่ร่วมบ้านกันมานาน คงทำให้เผลอเข้าใจไปว่าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ที่หนักกว่านั้น ยังเผลอทำตามใจจนเกินไปอีก โทษภูเมศคนเดียวก็ไม่ถูก เขาเองเหมือนกันที่ไม่ทันระวังให้ดี รู้ทั้งรู้ว่ามีเด็กอยู่ด้วยแท้ ๆ

ทั้งที่ถ้าเป็นเด็กคนอื่นละก็ จะไม่สนใจเลยสักนิด

เขาเดินกลับเข้าห้องตัวเอง เหม่อลอยไปไกลหลายต่อหลายเรื่อง และหนึ่งในนั้นก็เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยอยากนึกถึงเท่าไรนัก

บางที..ที่ธเนศเคยพูดไว้อาจถูกแล้วก็ได้

คนอย่างเขา อยู่ที่ไหนก็เดือดร้อนที่นั่น

‘แล้วใครจะทนได้ล่ะ นอกจากฉัน ดังนั้นเธออยู่ข้าง ๆ ฉันก็ดีที่สุดแล้ว จริงไหม’

“ไม่จริงหรอก..”

เขาพึมพำ คล้ายจะกล่อมตัวเองให้เชื่อเช่นนั้น

ทว่าเมื่อทิ้งตัวลงนอนมองเพดานว่างเปล่าในห้องตัวเอง ความหวาดหวั่นที่เหมือนม่านหมอกสีดำบาง ๆ ก็ค่อยแผ่ขยายตัว ห่อหุ้มหัวใจไว้เงียบงัน






สุดท้ายแล้วคืนนั้น ธัญญ์ก็ไม่รู้ว่าพร้อมภูมิยอมเปิดประตูให้ผู้เป็นพ่อเข้าไปคุยด้วยหรือเปล่า

แต่เดาว่าคงเปิดให้เข้าไปหา เพราะในเช้าวันรุ่งขึ้น แม้เด็กน้อยจะมีทีท่าตึง ๆ อยู่บ้าง แต่ก็ยอมพูดคุยกับภูเมศได้เกือบเป็นปกติ

อย่างนั้นก็ดีแล้ว 

ธัญญ์ผ่อนลมหายใจยาว วางจานชามที่เป็นอาหารมื้อเช้าสำหรับพร้อมภูมิไว้บนโต๊ะ

ไส้กรอกทอดที่เจ้าตัวเคยบ่นอยากกิน ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ว่าเดี๋ยวจะทำให้ วางคู่กับผัดผักคะน้าที่หลังจากธัญญ์สอนแกมบังคับจนกินเป็นแล้ว พร้อมภูมิก็สามารถตักเข้าปากเคี้ยวตุ้ยได้โดยไม่บ่น

แต่วันนี้เมื่อเด็กชายนั่งลงตรงหน้าโต๊ะอาหาร เห็นมื้อเช้าที่เพิ่งเตรียมไว้ กลับบอกว่าไม่ชอบกินผักคะน้า

“แล้วไส้กรอกล่ะ” ภูเมศต่อรอง หน้าเจื่อนลงเล็กน้อย “วันนั้นเห็นบอกอยากกินไม่ใช่หรือ”

ลูกชายส่ายหน้า “แต่วันนี้ไม่อยากแล้ว”

“อ้าว” ชายหนุ่มเลิกคิ้ว แม้พยายามทำตัวเป็นปกติอย่างที่สุด แต่ความลำบากใจยังปรากฏให้เห็นได้จากท่าทาง

ธัญญ์ดึงจานอาหารที่ถูกปฏิเสธกลับมา พลางถามเสียงเรียบ “งั้นเอาเป็นไข่ดาวดีไหม? เดี๋ยวทำให้”

พร้อมภูมิไม่ได้ตอบเขา แต่หันไปพูดกับภูเมศแทน “เช้านี้กินนมกับขนมปังได้ไหมครับ”

“เอ้อ..”

“ไม่งั้นผมไปกินที่โรงเรียนก็ได้” เด็กน้อยเออออกับตัวเองพลางลุกขึ้นยืน “รถใกล้มารับแล้วด้วย”

“อ๊ะ เดี๋ยวสิ” สุดท้ายภูเมศก็พยักหน้ากับลูกชาย ยอมตกลงตามนั้นไปก่อน “กินนมกับขนมปังก็ได้ ไม่กินอะไรตอนเช้าเดี๋ยวก็ไม่มีแรงหรอก”

พร้อมภูมิพยักหน้า จังหวะหนึ่งที่เหลือบมาทางเขาแล้วสบตากันเข้าพอดี แต่เพียงแค่แวบเดียวเท่านั้น เด็กชายก็เบือนสายตาไปทางอื่น

ธัญญ์ไม่เอ่ยปากอะไรอีก ใบหน้านิ่งสงบเหมือนรูปปั้นที่ไม่สื่ออารมณ์ใด เก็บจานชามเงียบ ๆ แล้วยกเข้าไปไว้ในครัว จากนั้นไม่ได้เดินกลับออกมา จนภูเมศแน่ใจว่าคงตั้งใจหลบไปก่อน เหลือแต่ตัวเองกับลูกชายสองคน ช่วยกันทาแยมลงบนขนมปัง

สองพ่อลูกมือไม้เกะกะไปหมด เศษขนมปังร่วงเต็มโต๊ะ แต่จนแล้วจนรอดบทสนทนาก็ยังว่างเปล่าจนภูเมศต้องเปรยลอย ๆ ขึ้นมาก่อน

“เดี๋ยวนี้พี่ธัญญ์เขาก็ทำอาหารเก่งขึ้นเยอะเลยนะ”

พร้อมภูมิไม่ตอบคำ ก้มหน้าก้มตาปาดแยมลงบนแผ่นขนมปัง

“จำได้ไหม ตอนแรก ๆ ทำกระทะดำปี๋ประจำ ไส้กรอกทอดอย่างเมื่อกี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนละก็ อย่าหวังว่าจะได้เห็นเลย” ว่าพลางปั้นเสียงหัวเราะเฝื่อน ๆ “พอรู้ว่าภูมิอยากกิน เมื่อวานก็ซื้อมาเก็บไว้เยอะแยะ รอทำให้ตอนเช้า...”

“ก็ไม่ได้อยากกินเสียหน่อย ใครใช้ให้ซื้อมาล่ะ”

ชายหนุ่มเลิกคิ้ว จากนั้นระบายลมหายใจยาว

“...นั่นสินะ วันนี้ไม่อยากแล้วนี่เนอะ”

เด็กชายส่งขนมปังเข้าปาก หน้านิ่วคิ้วขมวดโดยไม่รู้ตัว สายตาลอบมองไปด้านหลังทางห้องครัวเป็นระยะ เมื่อเห็นว่าไร้การเคลื่อนไหวใดจากทางนั้น ก็กลับมานั่งก้มหน้าก้มตากับมื้อเช้าที่เลือกเอง แต่ไม่ได้รู้สึกถึงความอร่อยสักนิด

ชายหนุ่มเห็นท่าทางลูกรักแล้วให้ยิ่งหนักอึ้งในใจ เอื้อมมือไปลูบผมเจ้าตัวเล็กตรงหน้าเบา ๆ

คราวแรกนั้นลูกชายทำท่าจะขยับหนี แต่แล้วก็ตัดสินใจนั่งนิ่งอยู่อย่างเดิม

“โกรธพี่ธัญญ์อยู่หรือ”

พร้อมภูมิได้ยินคำถามนั้นถึงกับชะงักไป แวบหนึ่งทำหน้าเบะอย่างกับจะร้องไห้ พอปรับสีหน้าได้ก็ปฏิเสธเสียงแข็ง

“เปล่าสักหน่อยนี่”

ภูเมศถอนหายใจหนักหน่วง แต่ยังพยายามกอบกู้สถานการณ์เท่าที่จะทำได้

“..ภูมิโกรธพ่อเถอะ”

นัยน์ตาใสซื่อเหลือบขึ้นมองเขาช้า ๆ ได้ครู่เดียวก็หลุบลงมองเท้า

“พ่อ...ทำให้ลูกผิดหวังใช่ไหม”

ริมฝีปากเด็กน้อยเม้มแน่นจนสั่นระริก ขอบตาแดงก่ำเมื่อได้ยินคำถาม ทั้งปลายจมูกก็เริ่มขึ้นเป็นสีแดงเข้มตามไปด้วย

เสียงรถรับส่งมาจอดที่หน้าบ้านพอดี พร้อมภูมิถือโอกาสนั้นรีบคว้ากระเป๋าหนังสือ ยกมือสวัสดีพ่อทั้งที่ยังก้มหน้าก้มตา แต่ไม่เอ่ยลา ‘พี่ธัญญ์’ อย่างเคยเจื้อยแจ้วเรียกหาตลอดมาสักคำ รีบผลุนผลันออกจากจากบ้านราวกับอยู่ตรงนั้นต่อไปไม่ไหวอีกแม้สักวินาที

เข้าไปนั่งในรถได้ไม่ทันไร พอเงยขึ้นเห็นใบหน้านิ่ง ๆ ของเด็กชายที่นั่งอยู่ก่อนแล้วด้านข้าง ความอัดอั้นตลอดทั้งคืนก็กลั่นเป็นหยดน้ำตา ร่วงผล็อยลงอาบแก้ม

“...พี่ตัง”








ตั้งแต่กลับบ้านมาเย็นวันนั้น พร้อมภูมิก็มีท่าทีมึนตึงกับพี่เลี้ยงที่เคยเป็นคนโปรดหนักกว่าตอนเช้าเสียอีก

ธัญญ์เองก็ดูรู้เช่นกันว่าถูกหลบหน้า กระทั่งวันถัด ๆ มา บางครั้งถึงขั้นถูกทำเหมือนไม่มีตัวตนด้วยซ้ำ ทว่าไม่ได้ปริปากอะไร

พี่เลี้ยงไม่ถอยออกห่าง แต่ก็ไม่พยายามดิ้นรนเข้าหา ทิ้งระยะห่างที่คิดว่าเหมาะ ได้แต่หวังว่าเวลาจะช่วยอะไรได้บ้าง

ทว่านับวันคล้ายจะมีแต่ยิ่งแย่ลง

พร้อมภูมิเลิกสุงสิงกระทั่งกับแมวส้มถุงทองที่ถูกเลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก เคยเล่นด้วยกันกับธัญญ์บ่อย ๆ แค่สองคนเพราะภูเมศแพ้ขนแมว เจ้าเหมียวเจอพร้อมภูมิทีไรเป็นต้องเข้ามาออดอ้อนคลอเคลียอย่างเคย แต่เห็นแมวครั้งใดก็พาให้นึกไปถึงคนที่เคยเลี้ยงเคยเล่นด้วยกันบ่อย ๆ ตอนหลังนอกจากเลี่ยงคนแล้ว จึงกลายเป็นเลี่ยงแมวไปด้วยอีกตัว

แม้แต่อาหารที่ธัญญ์เตรียมไว้ให้ เด็กชายก็แสดงออกเป็นนัยว่าไม่อยากกิน เดือดร้อนถึงคุณพ่อกลับจากทำงานต้องลงมือทำเอง ทั้งรีบร้อนและฉุกละหุก มื้อเช้าก็เร่งรีบไม่ต่าง สุดท้ายเลยออกมาสภาพไม่น่าดูเท่าไรนัก แต่เจ้าตัวเล็กไม่บ่นเรื่องนั้นสักแอะ เห็นเพียงแต่กินน้อยลงจนน่าห่วงเท่านั้นเอง

เกือบทั้งสัปดาห์ บรรยากาศยิ่งชวนอึดอัด

เช้าวันเสาร์นี้ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเก่า วันหยุดที่ทุกคนเคยคุยเคยเล่นกันอย่างสนุกสนาน ตอนนี้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ หนักหนาขึ้นอีกตรงต้องอยู่ร่วมบ้านกันทั้งวัน จะหลบจริง ๆ หากไม่ใช่ขังตัวเองอยู่ในห้องไปเสียเลย คงเป็นเรื่องลำบากไม่น้อย

ต่างคนต่างกระอักกระอ่วน จนอดคิดไม่ได้ว่าอาจถึงจุดที่ถูกกดดันให้มายืนอยู่ตรงทางแยกในวันใดวันหนึ่ง..


วันใดวันหนึ่งนั้น ธัญญ์ตระหนักได้ว่ามันคงใกล้กว่าคาด ตอนกำลังจะหิ้วถุงขยะไปทิ้ง แต่พบว่าถุงดำที่กองอยู่มีปริมาณมากผิดปกติจากทุกที เมื่อพิจารณาดี ๆ เห็นว่ามีอยู่สองใบที่รูปทรงประหลาดไม่เหมือนถุงขยะใบอื่น จึงได้ลองเปิดออกดูข้างใน

แบบจำลองหุ่นยนต์?

คงเพราะไม่ทันได้เตรียมใจว่าจะมาถึงขั้นนี้ หากบอกว่าหัวใจหล่นวูบ ก็คงไม่เกินเลยไปนัก

ธัญญ์ค่อย ๆ รื้อดูถุงดำสองใบนั้นไปเรื่อย ๆ ข้างในมีของเล่นหลายชิ้น หนังสือนิทาน หนังสืออ่านเล่น แผ่นดีวีดีการ์ตูนอีกหลายแผ่น กล่องหนึ่งในนั้นมีรอยแตกจากการถูกพร้อมภูมิทำเก้าอี้ล้มทับ จำได้ว่านี่เป็นแผ่นแรกที่เคยให้ ทั้งชิ้นอื่น ๆ ก็จำได้ดีเช่นกัน เพราะทุกอย่างเขาเคยยกให้พร้อมภูมิกับมือทั้งสิ้น

กระทั่งหุ่นของเล่นตัวล่าสุดที่เพิ่งซื้อให้ก่อนจะถูกเห็นเรื่องที่ไม่ควรทำตอนนั้นเข้า บัดนี้ก็นอนอยู่ในถุงขยะอย่างไร้ความหมาย

ทั้งที่เคยดีใจขนาดนั้นตอนได้รับแท้ ๆ

ธัญญ์เผลอยกมือขึ้นกำอกเสื้อตัวเอง ไม่รู้ควรทำหน้าอย่างไรดี

แน่นอน เขายังเป็นธัญญ์ที่เกลียดเด็กเหมือนเดิม แล้วก็ไม่เดือดร้อนอะไรด้วยหากจะถูกเด็กเกลียดเช่นกัน อันที่จริงเขาไม่ถือเป็นเรื่องเดือดร้อนเลยด้วยซ้ำหากจะถูกใครก็ตามในโลกนี้เกลียด

ยกเว้นแค่พ่อลูกคู่นี้...

ขอแค่สองคนนี้เท่านั้นเอง

“ธัญญ์”

เขาชะงัก เหลียวกลับไปมองตามเสียงเรียก มือก็ผูกปากถุงดำไปด้วยอย่างไร้พิรุธ ทำเหมือนเป็นขยะทั่วไปที่กำลังจะถูกนำไปกำจัดทิ้ง

“ครับ?”

ภูเมศยกนิ้วมือขึ้นถูปลายจมูกเบา ๆ ท่าทางแบบเดิมเวลาขัดเขินหรือลำบากใจ แต่ตอนนี้คงเป็นเพราะอย่างหลังมากกว่า ไม่รู้ทันเห็นหรือเปล่าว่าของในถุงเหล่านั้นคืออะไร

“เธอ...ไหวไหม?”

ธัญญ์ไม่ตอบรับ ไม่ปฏิเสธ

“...ฉันขอโทษจริง ๆ”

เขาโคลงศีรษะน้อย ๆ เอ่ยคำเดิมเช่นทุกครั้งที่ได้รับคำขอโทษจากอีกฝ่าย

“ไม่มีอะไรต้องขอโทษนี่ครับ ไม่ใช่ความผิดคุณเสียหน่อย”

ทว่าครั้งนี้ ภูเมศยิ่งมีสีหน้าหมองหม่นลงกว่าเก่า

“เธอเองก็คงลำบากใจเหมือนกัน..”

เขาไม่ตอบ รอฟังอยู่เงียบ ๆ เชื่อว่าคนตรงหน้าคงมีเรื่องสำคัญที่อยากพูดอยู่

วันใดวันหนึ่งนั้น...อาจจะเป็นวันนี้

หลังจากปล่อยเวลาผ่านไปครู่ใหญ่ ก็เป็นจริงดังคาด

“เธอ...ว่างคุยกันสักแป๊บไหม”

ธัญญ์พยักหน้า คลี่ยิ้มบางบนริมฝีปาก รอยยิ้มนั้นดูสมบูรณ์แบบราวกับหลุดจากภาพวาดที่ถูกเติมแต่งมาอย่างดี

มาหยุดตรงทางแยกแล้ว...เขารู้อยู่แล้ว ปัญหาแบบนี้ เดาได้ไม่ยากว่าผู้ชายที่เป็นพ่อคนควรหาทางออกอย่างไร

“ฉันขอโทษจริง ๆ แต่ว่า...”

ความเจ็บปวดแฝงกับทุกสิ่งที่อีกฝ่ายพยายามสื่อมาถึง สัมผัสได้ต่อให้ปลายมือจะเริ่มรู้สึกชา ได้ยินชัดเจนต่อให้ปิดหู มองเห็นได้แม้ยามหลับตา

“...ถ้ายังไง...ช่วงนี้”

ดังนั้นเขาจึงหลับตาลง

พยักหน้ารับฟังทางออกนั้นอย่างว่าง่าย




มีต่อรีพลายถัดไปค่ะ
v
v
v

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-03-2017 17:44:15 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
งวดที่ 13 (ต่อค่ะ)



รุ่งเช้าวันอาทิตย์ บ้านยังคงเงียบกว่าปกติ เมื่อพร้อมภูมิใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในห้องตัวเองมาได้สักระยะใหญ่ ไม่ออกมาเล่นเสียงดังเหมือนก่อน ต่อให้กับภูเมศที่คล้ายว่าความสัมพันธ์เริ่มเข้าที่เข้าทาง แต่ก็ไม่นับได้ว่ากลับไปเหมือนตอนก่อนเกิดเรื่อง เด็กชายยังคงมีทีท่ากระอักกระอ่วนใจมากบ้างน้อยบ้างเป็นบางเวลา

ทว่าเช้านี้ยิ่งเงียบกว่าทุกที

กระทั่งเมื่อพร้อมภูมิออกจากห้องมาเวลาสาย ในห้องนั่งเล่นเห็นผู้เป็นพ่อนั่งมองถ้วยกาแฟเงียบ ๆ

ครั้นเดินไปหลังบ้านไม่เห็นวี่แววของเจ้าเหมียวสีส้มที่เคยมาคลอเคลียบ่อย ๆ ถาดอาหารแมวคว่ำอยู่เรียบร้อยบนชั้นวาง ทั้งที่ปกติธัญญ์มักคอยดูแลเติมอาหารอยู่เสมอ

“เมี้ยว ๆ ๆ”

พร้อมภูมิร้องเรียกเสียงแผ่ว เบาจนคงไม่มีแมวตัวไหนได้ยิน จึงมีเพียงความเงียบงันตอบกลับมา รอบกายไร้การเคลื่อนไหว ทั้งบ้านเงียบสงัดราวกับมีแค่เขาและพ่อที่นั่งอยู่ด้านใน

ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกเหงาขึ้นมาจับใจ แม้รู้ทั้งรู้ว่ามีผู้อาศัยร่วมชายคาอยู่ถึงสามคน

บ้านเราเคยเงียบขนาดนี้ด้วยหรือ

เด็กชายส่ายหน้า สลัดความคิดนั้นทิ้งเสีย สาวเท้าต่อไปอีกหน่อย มองหาถุงขยะสีดำสองใบที่เมื่อวานมันวางอยู่ตรงนี้

...ไม่มีแล้ว...

ถุงดำที่เขาเอาข้าวของทั้งหมดใส่ลงไป ขนออกมาวางรวมกับขยะอื่น เวลานี้หายไปหมดแล้ว เหลือเพียงถังขยะหนึ่งใบกับพื้นที่โล่ง ๆ

ขนไปทิ้งหมดแล้วสินะ...

พร้อมภูมิยกนิ้วขึ้นถูจมูกเบา ๆ ท่าทางถอดแบบมาจากพ่อตัวเอง รู้สึกคัดจมูกขึ้นมาจนต้องสูดน้ำมูกครั้งหนึ่ง แต่ไม่ช่วยให้ดีขึ้นแต่อย่างใด

เมื่อหันหลังเดินเข้าบ้าน พบว่าพ่อยังนั่งอยู่ที่เดิม เมื่อเห็นเขาเข้า จึงร้องบอกให้ไปกินข้าวกินปลา พูดพลางยิ้มพลาง แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด เห็นพ่อยิ้มอย่างนั้น กลับยิ่งชวนให้หดหู่

เขาเดินผ่านตัวบ้านช้า ๆ ไล่สายตาไปตามตู้กระจก หุ่นยนต์จำลองที่วางอยู่ตามตู้โชว์หายไป ชั้นหนังสือที่เคยถูกเติมเต็มจนแน่น ตอนนี้มีที่ว่างเป็นรูโหว่ตรงนั้นตรงนี้

เมื่อวานตอนเก็บใส่ถุงขยะ ยังไม่ทันคิดอะไรมาก ทว่าพอเห็นบางอย่างซึ่งเคยจับจองพื้นที่ของมันตรงนั้นมานานสองนานหายไปดื้อ ๆ ในหัวใจก็พลอยจะโหวงเหวงไปด้วย

แต่ไม่มีอะไรให้เสียใจสักหน่อย ก็คนคนนั้นทำลายความไว้ใจของเขา...

เด็กชายพยายามทำเป็นลืมความว่างเปล่าในอกไปเสีย ทำกิจวัตรของตัวเองอย่างที่เพิ่งเปลี่ยนใหม่และดำเนินมาตลอดนับสัปดาห์

แค่อีกวันหนึ่งของสัปดาห์...ก็อย่างทุกทีนั่นละ

พร้อมภูมิบอกตัวเองเช่นนั้น

กระทั่งบ่ายคล้อย ทั้งบ้านยังคงเงียบเกินไปจนไม่สามารถหลอกตัวเองได้อีกว่าไม่มีอะไรผิดปกติ

“...พ่อครับ”

เขาอ้าปากส่งเสียงได้ในที่สุด หลังจากละล้าละลังครั้งแล้วครั้งเล่า

“ว่าไงลูก”

หลังจากนี้ต่างหากที่พูดไม่ออก

ที่เขาอยากรู้...ไม่สิ...ที่เขาสงสัย...แค่สงสัยเท่านั้น คืออีกคนหนี่งในบ้านอยู่ไหน ทำไมจึงเงียบนัก

“...คือ..”

ภูเมศยิ้มอ่อนโยน รอฟังอย่างให้ความสำคัญกับลูกชายเต็มที่

แต่กลับเป็นเจ้าตัวที่พูดไม่ออกเสียเอง

“เปล่าครับ” เด็กชายเบือนหน้าไปทางอื่น “ไม่มีอะไร”



ไม่เห็นสนใจเลย...ไม่มีอะไรน่าสนใจสักนิด...

แต่ก็ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน เท้าจึงได้พาเดินมาหยุดอยู่หน้าประตูห้องนอนของพี่เลี้ยงตัวเอง หันรีหันขวางอย่างชั่งใจ ไม่รู้จะมาหยุดอยู่ตรงนี้ทำไม ทั้งยังพยายามเงี่ยหูฟังอยู่นาน

มีเพียงความเงียบ เงียบจนเหมือนไม่มีใครอยู่ในนั้น

เขาค่อย ๆ ยื่นมือไปข้างหน้า กลับพบว่าสั่นจนต้องหาที่วางลงกับลูกบิดประตู กุมอยู่บนโลหะเย็นเฉียบ ไม่กล้าแม้แต่จะออกแรงหมุน

ถ้าล็อค?

แล้วถ้าไม่ได้ล็อค?

ถ้าเปิดเข้าไปแล้วเจอเจ้าของห้องอยู่ในนั้น

ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกคัดจมูก ขอบตาพลันร้อนผ่าวขึ้นมา แม้แต่ริมฝีปากก็ยังสั่นไปด้วย

เขารู้สึกกลัว แต่ไม่รู้ว่ากำลังกลัวอะไร

อาจกลัวว่าหากเปิดประตูได้ แล้วเห็นพี่เลี้ยงตัวเองอยู่ในห้องนั้นจะทำอย่างไรดี

อย่าเปิดเลย ไม่เห็นอยากรู้เลย

ทั้งที่คิดอย่างนั้น แต่แรงผลักดันจากอีกฝั่งฝ่ายในใจกลับรุนแรงกว่า ท้ายที่สุดแล้ว ลูกบิดประตูจึงถูกหมุนช้า ๆ อย่างง่ายดาย

ห้องไม่ได้ล็อค

ประตูถูกแง้มออกกล้า ๆ กลัว ๆ จากนั้นค่อยเปิดกว้างจนสุดบาน ภาพตรงหน้าปรากฏขึ้นเต็มลานสายตา 

แสงแดดสีส้มอ่อนทอทอดจากหน้าต่างที่ถูกเปิดทิ้งไว้ อาบย้อมลงบนเตียง โต๊ะ และชั้นวางซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคยเห็นว่ามีข้าวของกองอยู่เต็มไปหมด ฝั่งนั้นเป็นโต๊ะทำงานที่พี่ธัญญ์บอกว่าเล่นไม่ได้ ส่วนบริเวณอื่นปล่อยเขาขลุกได้ตามชอบใจ แผ่นดีวีดีการ์ตูนที่เขาชอบจะวางเรียงอยู่ด้านขวามือ ถัดไปคือชั้นหนังสือซึ่งมีทั้งของที่เขาอ่านรู้เรื่องและไม่รู้เรื่องแต่ก็ยังถูกบังคับให้อ่านบ่อย ๆ

เวลานี้เหลือเพียงเครื่องเรือนเปล่า ๆ กับละอองฝุ่นเม็ดเล็ก ๆ ลอยล่องล้อแสงแดดอยู่ในอากาศ


แน่นจมูก..


น้ำมูกใส ๆ หยดลงมา พร้อมภูมิใช้หลังมือป้ายมันทิ้ง จากนั้นทรุดตัวลงนั่งกับพื้น ยกมือขึ้นปิดหน้า


"อึ้ก!"


กลั้นเสียงสะอื้นไว้ในลำคอ


เขาไม่ได้กลัวว่าหากเปิดประตูเข้าไปเจอธัญญ์แล้วจะทำอย่างไรดี


ที่เขากลัวคือหากเปิดประตูเข้าไป แล้วพบเพียงความว่างเปล่าเช่นนี้ จะทำอย่างไรดีต่างหาก




- To be continued –






งวดประจำเดือนกุมภาฯ มาแล้วค่ะ ฮะเอื้ออะะะะ
ขอโทษที่ช้านะคะ ตอนนี้อาจจะจบแบบค้างคา (คาใจคนเขียนด้วย ฮือ) ตอนหน้าจะพยายามรีบหน่อยค่ะ ไม่อยากให้ค้างตรงนี้นาน ถถถถถถ ที่จริงเรื่องนี้น้องภูมิเป็นพระเอกค่ะ--แค่ก ๆ
พอไม่ได้เขียนนาน ก็รู้สึกขัดไปหมดเลยค่ะ ถ้าอ่านแล้วไะดุด มีจุดหงุดหงิดใจ ต้องขอโทษจริง ๆ นะคะ จะพยายามฝึกให้ดีขึ้นค่ะ ;{};

ขอบคุณงาม ๆ ที่ยังเข้ามาอ่านนะคะ ฮือ คิดถึงมากกกกกกค่ะ

ปล. แอบมาบอกว่านิยายเรื่อง "รักติดดิน" จะรีปริ้นต์เดือน มี.ค.นี้แหละค่ะ ยังไงถ้าสนใจครอบครัวกุ๊กไก่ ฝากไว้เอ็นดูด้วยนะคะ ฮรี่

ปล. 2 ช่วงนี้ไม่ค่อยได้วาดรูปจากนิยายเลย ไว้ได้วาดจะรีบแจ้นมาแปะมั่งนะคะ ไม่มีรูปแล้วห่อเหี่ยวเอง แง 555


พบกันงวดหน้าค่ะ //รักกกกกก


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-03-2017 17:59:56 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ l2_in*

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 229
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2
จะร้องไห้แล้วนะ สงสารธัญญ์ ฮือออ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เศร้าอ่ะ ภูมิก็ตัวแค่นั้นจะรับเรื่องอะไรได้มากแค่ไหนกัน
ธันก็น่าสงวารไม่รู้ว่าเจอกับอะไรมาบ้าง
คนกลางอย่างคุณพ่อก็น่าเป็นห่วง
งื้ออออออ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด