┤ ราคา ◇ ค่า ◇ รัก ├ งวดพิเศษ 03 - สัตว์กินเนื้อที่กินผักชีได้ หน้า 64 [6/6/60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ┤ ราคา ◇ ค่า ◇ รัก ├ งวดพิเศษ 03 - สัตว์กินเนื้อที่กินผักชีได้ หน้า 64 [6/6/60]  (อ่าน 469361 ครั้ง)

ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter
เกือบพลาดเรื่องนี้ไปแล้วค่ะ ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆ มาให้อ่าน ชอบตัวละครทุกตัว ทุกคนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
อ่านจนถึงตอนจบ ถึงจะเข้าใจว่าธเนศทำไปเพราะอะไร แต่สุดท้ายก็เป็นการกระทำที่ผิดศีลธรรมจรรยาอยู่ดี
และก็ไม่ใช่เรื่องที่จะรับได้ แต่มุมกลับก็สงสารธเนศค่ะ ในวัยหนุ่ม ผช คนนี้เป็นคนรักมั่นและดีเกินไป ฮือออออออออ  :mew6:

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
อ๋อยยยยยยย คือ พออ่านจบ ความรู้สึกแรกคือ สงสารธเนศที่ตกเป็นเหยื่อความเกลียดชังของเรา(และคนอ่านอีกเกือบครึ่งเล้า) เขาตายไปพร้อมกับการสาปแช่งและเกลียดชัง... ทั้งที่จริงแล้ว ...  *รู้สึกผิด* 

อ่านตอนนี้ช่วงแรกยังงงๆ มันเชื่อมกับเรื่องหลักยังไง? ตรงไหน? พยายามคิดตาม จนผ่านไป 3 รีพลายก็ยังไม่เก็ท และแล้ว.... โอววววววว เจนจบ >> ธเนศ // ธัญญธร >> พ่อธัญญ์  สถานะการณ์และความรู้สึกมันผลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย คุณ RainnyDay จินตนาการและเขียนเรื่องนี้ได้เยี่ยมจริงๆ ขอปรบมือรัวๆ  :katai2-1: :katai2-1:  สุดยอดจริงๆค่ะ ชื่นชม จะรอติดตามเรื่องต่อไปนะคะ ขอบคุณค่ะ  :กอด1:  :pig4:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
อ่านในรุ่นพ่อแล้วเข้าใจมากขึ้นค่ะ เคลียร์ความย้อนแย้งได้เยอะ
ความรักที่ไม่สามารถจัดการความรู้สึกตัวเองได้ มันทรมานจริงๆ

สงสารคุณเจน รักมาก ลืมไม่ลง เลยหลงทางไป

สงสารคุณธัญ ถ้าสู้อีกนิด ใจแข็งอีกหน่อย คงได้เจอความสุข
แต่ทำไงได้ คนคิดดี ห่วงใยคนอื่น เลยลืมห่วงตัวเอง

เป็นความทรงจำที่โหดร้ายสำหรับคนที่ต้องใช้ชีวิตจ่อไปจริงๆค่ะ

ธัญญ์โชคดี

ออฟไลน์ van16

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
ยังอ่านไม่จบเลยอ่ะ อ่านถึงตอนที่ 10 เอง แต่มันมีอะไรบางอย่างเริ่มกดดันมาละ
มีความรู้สึกแปลกๆ ไม่อยากให้เป็นแบบที่คิด และในที่สุดทนไม่ไหวเปิดมาอ่านคอมเม้นสองหน้าสุดท้ายก่อน
แล้ว ... แล้ว.... แล้วมันใช่จริงด้วยอ่ะ ล้องห้าย  :o12:  ว่าจะไปอ่านต่อ ทำใจแป๊บ
อ่านจบจะมาเม้นใหม่นะ  :o12:

ออฟไลน์ megatef4

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
อ่านรวดเดียวจบ
คนเขียนแต่งได้ดีมากๆเลยค่ะ เราชอบภาษา สำนวน เรื่องนี้มาก อ่านแล้วไม่สะดุดเลยค่ะ
ส่วนในเรื่องก็เนื้อหา ยอมรับว่าเดาได้ แต่ก็ยังสนุกและน่าติดตามทุกตอนอยู่ดี
ตอนที่ไม่คิดว่าจะเสียน้ำตามากที่สุด กลายเป็นว่าร้องไห้แบบเมทหันมามองอ่ะ 555
สงสารคุณธเนศมาก ไม่คิดว่าชีวิตจะน่าเศร้าขนาดนั้นอ่ะ แต่ยังไงก็ได้ไปอยู่กับคนที่รักแล้ว คงไม่เศร้าแล้วเนอะ  :กอด1:
สุดท้ายดีใจ ที่เรื่องนี้จบลงได้ด้วยดี
ขอบคุณคนเขียนมากๆ ค่ะ คุณทำให้เราอินหนักมาก ตอนมีความสุขก็ยิ้มปากจะฉีก พอเศร้าก็ซับน้ำตาแถบไม่ทันเลยอ่ะ
เขียนเก่งมากจริงๆ สนุกมากๆ มันดีมากกกกกกกกก
ขอบคุณสำหรับผลงานดีๆนะคะ ถ้าว่างๆก็ขอตอนพิเศษหวานๆมาล้างตับจากคุณเจนหน่อย เราจะตาย 555 :hao5:
จะติดตามผลงานเรื่องต่อๆไปนะคะ ขอบคุณค่ะ  :L2: :bye2:

ออฟไลน์ silkzeta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สวัสดีค่ะคุณ RainyDay
นี่เป็นคอมเมนท์แรกของเราในเล้าเป็ดเลยค่ะ ปกติจะอ่านเงียบๆ แต่เรื่องนี้ไม่ไหวแล้ว

ขอแจ้งให้ทราบก่อนว่าอ่านเรื่องนี้สองวันจบ ตอนนี้เราพังมาก ไม่ได้ร้องไห้จะเป็นจะตายเพราะนิยายมานานมากแล้ว เรื่องนี้เหมือนจี้จุดตายเราเลยค่ะ จริงๆ พอจะเดาได้ตั้งแต่ทีแรกว่าความสัมพันธ์ของธัญญ์กับธเนศเป็นอย่างไร แต่ก็เหมือนภาคีเลยค่ะ เรากลัวที่จะรู้ความจริง แต่ลึกๆ ก็สงสัยมากว่ามันเลวร้ายแค่ไหนกันนะถึงทำให้ธัญญ์กลายเป็นเด็กแบบนี้ แล้วพอได้รู้ก็ปวดใจเหลือเกิน ตอนน้องฆ่าตัวตายรอบแรกเหมือนอากาศรอบตัวเรามันหายวับไปเลยค่ะ น่าสงสารมากกกกก ต้องทรมานขนาดไหนถึงได้เด็ดเดี่ยวที่จะจบชีวิตของตัวเองลงได้ด้วยวัยเพียงแค่นั้น

ขอบคุณที่ภูเมศโผล่เข้ามาในชีวิตน้อง เราชอบความเคอะเขินของลุง ดูเป็นคนซื่อๆ ดี เห็นแล้วก็น่าแกล้งจริงๆ อย่างที่ธัญญ์ว่า น้องภูมิก็น่ารักมากกกก การมีอยู่ของตัวละครอย่างน้องภูมิช่วยให้เรื่องน่ารักขึ้นเยอะเลยค่ะ ดูเป็นวันที่ฝนตกแต่ก็ยังมีแสงแดดรำไรอยู่ พี่ตังค์ต้องเลี้ยงน้องภูดีๆ นะคะ ฝากฝังๆ อิอิ

ที่ชอบอีกอย่างหนึ่งในเรื่องนี้คือความรักของลุง สัมผัสได้ว่ารักมาก รักจริงๆ น้องธัญญ์ก็น่ารัก เป็นคนกวนประสาทหน้านิ่งๆ นี่ไม่อยากจะคิดเลยว่าหลังจากนี้จะอ้อนเป็นลูกแมวขนาดไหน เท่านี้ลุงก็ไม่ไหวแล้ว องค์จะแย่ ทั้งที่ก็เขินนักหนาแต่ก็ขยันหยอดอยู่นั่น เวลาจินตนาการถึงแก้มแดงๆ ของเจ้าตัวแล้วก็องค์ตามลุงภูไปติดๆ  งื้ออออ ต้องน่ารักมากแน่ๆ TwT ครอบครัวนี้อบอุ่นจัง

มาถึงอีกตัวละครที่ทำให้เราจมมากๆ อย่างธเนศ / พี่เจน  โอ้โหหหห พอรู้ที่มาที่ไปของตัวละครเราพังยิ่งกว่าเดิมเลยค่ะ เหมือนทั้งเรื่องคนที่รู้เรื่องทุกอย่างมีแค่ธเนศ เข้าใจแล้วว่าทำไมตอนธัญญ์ฆ่าตัวตายรอบแรกถึงได้จะเป็นจะตายขนาดนั้น มันคือแผลเป็นยิ่งใหญ่ในชีวิตสินะ แล้วต้องอยู่กับความรู้สึกแบบนั้นมาตลอดหลายปี มันเจ็บปวดจริงๆ นั่นแหละ เจ็บจนต้องกลายเป็นคนที่มีบุคลิกอย่างนั้น เราไม่ได้ให้อภัยธเนศนะ แต่เราเข้าใจว่าทำไมหรืออะไรผลักให้เขากลายเป็นคนแบบนี้ ธัญญ์คงเป็นตัวแทนของธัญผู้พ่อนั่นแหละ คือสิ่งเดียวที่เหลือให้ดูต่างหน้า

ฉากที่ขับรถออกไปด้วยกันเราใจหายมากเลยค่ะ เหมือนทั้งคู่ก็รู้ดีอยู่แล้วว่าจุดจบคืออะไร ยิ่งธเนศคงเหมือนเดจาวู แต่ก็คงเตรียมใจไว้แล้วว่าคราวนี้จะไม่ยอมปล่อยให้ธัญญ์ต้องเดินทางไปไกลๆ คนเดียวเหมือนกับธัญ ตอนที่บรรยายเรื่องเชือกดีมาก กรีดใจมาก มันเป็นความสัมพันธ์ที่ต่างฝ่ายจะไม่มีวันปล่อยมือออกจากกัน แต่สิ่งที่รั้งไว้ก็ไม่ใช่ความรัก ความเป็นความสัมพันธ์แบบ unhealthy เราว่าตอนที่ธัญญ์ตะโกนออกมาว่าเกลียดคงเป็นวินาทีที่ธเนศมีความสุขที่สุด อย่างน้อยก็เหมือนได้เห็นธัญญ์ในวัยเด็กอีกครั้ง ก่อนที่ตัวเองจะเป็นคนทำลายธัญญ์กับมือ แล้วก็คงรู้สึกผิดมาตลอดจริงๆ แต่มันก็ทำอะไรไม่ได้ ทำไม่ได้อีกแล้ว

เขียนมาซะยาว มีเรื่องของพระนางอยู่นิดเดียวเอง ขอโทษนะคะ เราค่อนข้างอินความสัมพันธ์ทั้งรักทั้งชังเป็นพิเศษน่ะค่ะ แฮ่ ตอนที่พิมพ์อยู่ที่ก็ยังเลิกร้องไห้ไม่ได้เลย ตาบวมหมดแล้ว TT  ได้แต่หวังว่าหลังจากนี้น้องธัญญ์จะมีชีวิตที่ดี เลิกฝันร้าย และค่อยๆ ใช้ความรักของคุณภูสมานแผลใจของตัวเองได้สักที

รักนะคะ
และขอบคุณมากๆ

:')

ออฟไลน์ onioniaom

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ทั้งงง สุข เศร้า กดดัน หดหู่มากๆกว่าจะจ่ายครบทุกงวด แต่ดีใจที่สุดท้ายทุกคนก็มีความสุข
ขอบคุณคนเขียนที่เขียนนิยายดีๆ มีอะไรให้ได้คิด ให้อ่านนะคะ  o13

ออฟไลน์ oohseyes

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
พออ่านจบแล้วร้องไห้หนักมาก มีความรู้สึกที่ทั้งเกลียดทั้งสงสารธเนศ  :mew4: :m15:

ดีแล้วที่พี่เจนได้ไปอยู่กับธัญสักทีนะ

ออฟไลน์ Fish129

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 746
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-3
ที่แท้ คุณธเนศก็ฝังใจมานาน
สงสารเลยนะแบบนี้นะ

ออฟไลน์ tensita

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ tensita

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พี่ธัญกับน้องภูมิอยู่ด้วยกันแล้วน่ารักกก :o8:

ออฟไลน์ tensita

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เอาธัญมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กเลยค่าาา ชั่วชีวิต ฮ่าาาาาาาาาาาาาาาาาา :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ tensita

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ทำไมได้กลิ่นตุๆ จะมีดรามาอะไรหรือเปล่า ฮืออออออออออ :mew6:  :mew6: :mew6: :mew6:

ออฟไลน์ tensita

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เป็นกบตัวที่สองค่ะลุง5555555555 :katai5:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ FiRMMiE

  • ผู้เสพความวาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อ่านจบหลายวันแล้ว แต่ ณ ตอนนั้นคือเม้นไรไม่ได้
จิตตก เสียใจ เศร้ามากกกก ร้องไห้จริงจัง
ทำไมทุกอย่างเป็นแบบนี้ ธเนศที่เราแช่งให้ตาย ๆ ไปซะ
พอเขาตาย เรากลับคิดว่าก่อนที่เขาจะตาย เขาต้องทรมานยังไง
ยิ่งมารู้เรื่องราวในอดีต พี่เจน คือน้ำตามาแบบจริงจัง สะอึกสะอื้น
และที่สุดยอดมากคือคนแต่ง ทุกเรื่องของคนแต่งคือแบบ เราจริงจัง ความรู้สึกตอนอ่านคือจริง
เหมือนเราอยู่ในนั้น มันสุด ๆ ตั้งแต่เฮียใหญ่เราก็ยังไม่หายจิตตกขนาดอ่านไปหลายปี
แบบพอนึกถึงก็จิตตก มาพี่เจนอีก โอ้ยยยยย
ตอนพี่เจนช่วยตัดเชือกให้ธัญญ์ มันบีบหัวใจ

ไม่รู้จะอธิบายยังดี แต่เรารักมาก
 :m15: :m15: :m15: :m15:

ขอบคุณที่แต่งนิยายที่สุดยอด ๆ มากนะคะ เรารักมาก
 :pig4: :L1:

ออฟไลน์ CChompu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เป็นตอนสปินออฟที่พีคมาก ดึงความรู้สึกได้ขึ้นสุดลงสุดมากค่ะ

อ่านตอนหลักมา 30 ตอน คือธเนศเป็นพ่อเลี้ยงที่เลวมาก
เด็กคนนึงที่บริสุทธิ์คนนึงต้องมาเจอเรื่องที่เปลี่ยนชีวิตเค้าทั้งชีวิต
มันเลวร้ายเกินให้อภัย เลวร้ายเกินกว่าการชดเชยใดๆจะทำได้
ธัญญ์เก่งมาก ที่สามารถเยียวยาจิตใจตัวเองให้ยังเป็นคนน่ารักแบบนี้อยู่

กลับกัน ในบทสปินออฟได้อ่านเรื่องของธเนศ
บอกเลยว่าอึ้งมาก ช๊อคมาก พีคมากจริงๆค่ะ
มันกลับกันหมดเลย ตัวละครที่เราเกลียด ตัวละครที่เรามองว่าเค้าทำลายชีวิตเด็กคนนึง
ตัวละครนั้นก็ถูกทำลายมาเหมือนกัน ถูกทำลายจนบิดเบี้ยวไปหมด
เป็นคนเลวที่รู้ตัวว่าเลว ที่น่าสงสารที่สุดแล้วค่ะ
ทุกอย่างมันผูกพันธ์ ความรู้สึกมันตัดไม่ขาด จนเกิดมาเป็นเรื่องเศร้าแบบนี้

ขอบคุณกับสปินออฟที่เต็มเติมเรื่องราวนี้ค่ะ ประทับใจมากจริงๆ
ประทับใจกับความรักของพี่เจนมากจริงๆค่ะ (แต่ความรักของธเนศนั้น...เลว)
เป็นตัวละครที่ทั้งรักทั้งเกลียดทั้งสงสารจริงๆค่ะ

ปล. ใครร้องไห้กับสปินออฟนี้ ยกมือขึ้น *ยกมือสุดแขน*
 :mew6:

ออฟไลน์ Monnee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :o12: อ่านจนจบแล้ว ทุกคนล้วนน่าสงสารทั้งนั้น// ปมในใจทำให้สร้างปมผูกทำร้ายกันไปหมด
อยากจะบอกว่า เกือบไม่ได้อ่านจนจบแล้วจริงๆ__เพราะรู้สึกเจ็บปวดกับเรื่องการถูกละเมิดทางเพศมาก
ถ้าไม่ใช่เพราะรักน้องธัญญ์มาก_คงทำใจอยู่ด้วยกันไม่ไหวแน่นอน_อนิสงค์จากต้นเรื่องที่ปูทางให้หลงรักกันนี่เอง!!!
พอมาได้อ่าน จุดสุดท้าย_ชีวิตคุณธเนศก็น่าสงสารนะ รักจนไม่สามารถคุมจิตได้เลย//_เจ็บปวดทุกการกรถทำ
แต่น้องธัญญ์นี่ตกลงเชื้อพ่อแรงมากมั้ยอ่ะ นิสัยความมึนนี่น่าตีพอกันเลย
___ขอบคุณนะคะสำหรับเรื่องราวดีๆที่เอามาแบ่งปันกัน  ///__เค้าอยากได้เรื่องน้องภูมิกะพี่ตัง เอามาดับดราม่าจังเลย
อ่านจบนี่เดินเหี่ยวมาหลายวันแล้วเนี่ย//_โลกชั่งโหดร้าย

ออฟไลน์ PAiPEiPEi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-3
เราชอบความอึดอัดไต่ระดับแล้วกระทืบซ้ำของคนเขียนมาก  มันเป็นดราม่าที่เจ็บปวดใจด้วยกลิ่นไอที่แปลกๆ   ชอบจริงๆแต่ครั้งนี้มีภูมิคุ้มกันละ  สมัยตอนอ่านเล่ห์รักฤดูร้อนเมื่อหลายปีมาละทำเราร้องไห้อยู่ 3 วันติดเพราะพี่วสันต์พีคสุดๆไปเลย   จนตอนนี้มาอ่านเรื่องนี้ชอบวิธีการบรรยายไม่ใช่บอกความเจ็บปวดนั้นออกมาด้วยประโยคยาวๆ  แต่ค่อยๆใส่คล้ายๆความรู้สึก ณ ตรงนั้นจิตใต้สำนึกที่ตัวละครรู้สึกลงมา  แบบนี้มันย้ำให้รู้สึกร่วมด้วยได้ชัดเจนมากสำหรับเรานะ   เราชอบมากเลยค่ะ

ออฟไลน์ PAiPEiPEi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-3
จนตอนนี้อ่านจบจริงๆ  เราชอบความรู้สึกของ .5 ที่สุดเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
 :katai2-1: :katai2-1: สนุกและชอบมาก แม้จะมีความหม่นหมองแต่ก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นอยู่ในนั้น...เขียนเรื่องใหม่ออกมาอีกนะคะจะรอค่ะ

ออฟไลน์ Maeo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อ่านจบแล้วชอบมากค่ะ
แต่เศร้าไปนิดนะคะ
ชอบความรักของพี่เจนกับธัญมากๆค่ะ
เข้าใจทุกอย่างกระจ่างเลยค่ะ
ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆให้อ่านค่ะ  :L1: :pig4:

ออฟไลน์ Bb nale

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
นั่งเฝ้าร้านอยู่นี่น้ำตาซึมเลย โอย ชีวิต ขอบคุณสำหรับนิยายเรื่องนี้นะ

ออฟไลน์ Aumy8059yaoi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เรื่องนี้ทั้งยิ้มทั้งร้องไห้หนักมากเลยค่ะ...เคล้าคลอจริงๆ :sad11: :monkeysad: :m15:
อยากได้ตอนพิเศษเยอะๆค่าาาาา. ขอมาชโลมจิตใจเราหน่อยเถอะ :กอด1: :เฮ้อ:
 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ myapril

  • Tomorrow
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-3
ก็ยังคงไม่ให้อภัยธเนศอยู่ดี ไม่เลยสักนิด
ธัญผิดอะไร ทำกับเด็กที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรด้วยเลย
ทำลายชีวิตบริสุทธิ์ของเด็กคนหนึ่งแบบโคตรโหดร้าย
คุณจะรักกันจนจะเป็นจะตายยังไงก็แล้วแต่
 แล้วมีสิทธิ์อะไรที่มาทำลาย ทำร้ายน้องธัญ
ธัญเข้มแข็งแล้วใช้ชีวิตต่อมาได้ขนาดนี้ เราว่าสุดๆแล้วล่ะ
ขอบคุณที่มาเจอภูเมศ ^^

ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
เป็นเรื่องที่เศร้าหน่วงอารมณ์มากๆเลย น้ำตาพราก ตอนสุดท้ายนี่ถึงเข้าใจในสิ่งที่ธเนศทำ สุดท้ายก็ไปอยู่ด้วยกันเนอะ

ออฟไลน์ lllittled

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ส่วนตัวแล้วบทสรุปไม่ได้ต่างจากที่ลองคิดไปเรื่อยเท่าไหร่ ก่อนถึงตอนที่ธัญญ์จะตัดสินใจใช้ความตายในการจบทุกอย่าง
ดิฉันเองยังเคยคิดไปเรื่อยเมื่อตอนระแคะระคายปมปัญหาของธัญญ์กับธเนศช่วงแรกๆว่าถ้าหนักหนาสุดๆน่าจะเป็นข่มขืน
แต่พออ่านต่อมาเรื่อยๆแล้วมันใช่จริงๆก็ยังอดสะท้อนใจแทนไม่ได้จากเด็กชายที่สดใสร่าเริงเป็นมิตรกลับกลายเป็นคนที่เหมือนถูกควันมืดหม่นโอบล้อมรอบตัวแทน
มันเป็นอะไรที่นักหนาจริงๆสำหรับเด็กคนนึงที่ต้องเจอเรื่องแบบนี้
แต่ส่วนตัวไม่ได้เกลียดธเนศอะไรเพราะในใจมีความรู้สึกหนึ่งผุดขึ้นตลอดว่าที่ธเนศทำมันต้องมีปัจจัยอะไรสักอย่างที่เป็นตัวแปรสำคัญถึงทำให้ตัดสินใจทำผิดพลาดไป
เพราะจากที่อ่านมาเรื่อยๆไม่ได้รู้สึกว่าธเนศทำไปเพื่อความสะใจเหยียบย่ำหรืออยากทำร้ายอะไรเลยด้วยซ้ำ
ตอนนั้นก็ได้แต่คิดว่าจะมีเฉลยปมธเนศไหมนะ
เหมือนที่คุณธเนศทำไปเพราะแค่ต้องการยื้อเส้นด้ายเส้นสุดท้ายที่จวนเจียนจะขาดร่อมร่อเท่านั้นตอนอ่านมีความรู้สึกแบบนี้จริงๆ
ยังกลัวอยู่เลยว่าถ้าเหตุผลจริงๆที่ธเนศทำมันไม่มีเหตุผลอะไรเลยล่ะไม่กลายเป็นว่าเรามองคนผิดไปไกลโขเลยนะเนี่ย ฮา
แต่พอได้อ่านมาถึงงวดที่30.5จบก็คล้ายคลายใจไปเปราะว่าตัวเราเองยังไม่ได้พลาดเรื่องการมองตัวละครไปนะ ขำ
ธเนศหรือเจนจะบอกว่าเป็นตัวละครอีกตัวในเรื่องที่น่าสงสารก็ใช่ (แยกกรณีกับที่ทำกับธัญญ์)
บางทีการตายจากกันไปอาจดีกว่าทนจมปลักกับความทุกข์ทมแบบนี้ไปเรื่อยๆ
และรู้สึกดีใจที่อย่างน้อยคนเขียนก็ไม่ได้ให้ธัญญ์ตายไปด้วย เราเองมองว่าธัญญ์เจ็บปวดมาเยอะพอแล้วและตอนนี้ก็ได้เจอทางสว่างของตัวเองแล้วเจอคนที่จะฝากทั้งชีวิตที่เคยบอบช้ำมาไว้ได้ด้วยแล้ว ก็ควรจะได้เจอสิ่งดีๆประโลมจิตใจบ้างไม่ใช่ทุกข์ระทมจนตายไปข้าง
ภูมิเมสเป็นตัวละครที่รู้สึกเอ็นดูแม้ลุงแกจะแก่แล้วก็ตาม แต่นิสัยซื่อตรงและไม่ทันเล่ห์เหลื่ยมคนเด็กกว่านี่มันแกล้งชะมัดเข้าใจความรู้สึกธัญญ์เลย ฮา
อยากอ่านตอนพิเศษของลุงกับธัญญ์อีกจังเลยค่ะ รู้สึกคิดถึง
ต้นเรื่องเริ่มมาแบบเฉื่อยชา หวานกลางเรื่องนิดหน่อยและหลังจากนั้นกลายเป็นดราม่าล้วน อยากได้ความหวานมาปิดท้ายปลอบประโลมจิตใจนักอ่านบ้างค่ะ
เอาความรักของคู่นี้ต่อจากผ่านเรื่องทุกอย่างมาแล้วมาล้างตาคนอ่านบ้างนะคะ ฮา
อ่านเรื่องดอกไม้กับพี่ชายข้างบ้านไปนานพอสมควรเลยลองกลับมาดูนิยายคุณrainydayดูว่ามีเรื่องไหนน่าอ่านบ้างลองสุ่มเป็นเรื่องนี้พอดี
อ่านจบแล้วประทับใจทั้งสองเรื่องเลย ต่อจากนี้ก็คงต้องติดคามผลงานของคุณrainydayต่อไปแน่ๆ
รอเรื่องใหม่อยากอ่านแนวฟีลกู้ดบางจังค่ะไม่รู้จะมีโอกาสได้อ่านไหมเพราะดูท่าแล้วสไตล์คุณrainydayออกไปทางละมุนปนหม่นๆหรือเปล่าไม่แน่ใจนัก
แต่ก็หวังว่าจะได้อ่านสักเรื่องเพราะชอบสำนวนภาษาการดำเนินเรื่องของคนเขียน5555 ติดตามผลงานต่อไปค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-03-2017 14:53:47 โดย lllittled »

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
┤ ราคา ◇ ค่า ◇ รัก ├

งวดพิเศษ 01


ระหว่างเดินซื้อของก่อนไปรับลูกชาย คุยกันอยู่ดี ๆ ก็นึกอะไรขึ้นมาได้อย่างหนึ่ง

“นี่ เลิกเรียกคุณ ๆ สักทีได้รึเปล่า”

พอพูดอย่างนั้น ธัญญ์กลับยืนมองเขานิ่ง ไม่พูดไม่จาอยู่พักใหญ่ อย่างกับจะกดดันให้อธิบายต่อให้กระจ่าง

“ก็...” เขายกมือลูบท้ายทอยเขิน ๆ “มันดูห่างเหินไม่ใช่รึไง”

“แล้วจะให้เรียกว่าอะไรหรือครับ”

“...ก็...พะ—”

‘เรียกพี่ได้ไหม แล้วพี่จะให้กินขนมหมื่นห้า~’

ชายตาบอดร้องเพลงถือกล่องรับบริจาคเดินเข้ามาใกล้ ท่อนฮุคช่างดังขึ้นมาได้จังหวะตอนนี้

‘..ถ้าเรียกอาลดมาห้าพัน เรียกลุงเลิกพลัน ไม่ให้สักพันแน่นอน...’

เพลงอื่นได้ไหมเนี่ย

เพื่อเป็นการแก้เก้ออย่างงง ๆ ภูเมศหยอดเงินลงกล่องให้ยี่สิบบาท อนาถตัวเองอย่างไรบอกไม่ถูก กระทั่งชายตาบอดเดินเลยไปแล้ว หันกลับมาอีกทีก็เจอสายตาใสแจ๋วจ้องเขม็ง ริมฝีปากเจ้าตัวขยับเป็นคำพูด

“หมื่นห้า ขอเงินสดนะครับ”

จะบ้าตาย!

“หรือว่าถ้าห้าพันก็เป็นคุณอา..”

เชื่อเขาเลย

อายก็อาย แต่หมั่นไส้ก็ด้วย คนอะไรจะกวนประสาทได้หน้านิ่งขนาดนี้

“เอาเลย” เขาตัดพ้อกลั้วหัวเราะ ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว “เอาไปให้หมดตัว ฉันยกให้เธอทั้งกระเป๋าเลยเอ้า!”

ธัญญ์อมยิ้ม ดวงตาหยีลงเล็กน้อย เอียงคอมองอย่างน่ารัก ครู่หนึ่งก็ชะโงกเข้ามาใกล้ กระซิบเบา ๆ ข้างหู

“...พี่ภู”

เหมือนหัวใจเต้นกระโดดข้ามไปจังหวะหนึ่ง

“พี่ภูครับ”

เสียงนุ่มจนคนฟังจะลงไปดิ้นตาย ใจหนึ่งคิดว่าไม่น่าเลย อีกใจกลับเถียงว่าแบบนี้มันดีจะแย่ไม่ใช่หรือไง อย่างกับจะเห็นสวรรค์รำไรอยู่ตรงหน้า

ครั้นตั้งสติเหลือบมองคนพูด ค่อยรู้ตัวว่าเขาไม่ได้เขินไปคนเดียวสักหน่อย

“อะไรกันละนั่น”

แก้มสองข้างของอีกฝ่าย ตอนนี้แดงเป็นลูกมะเขือเทศไปหมดแล้ว

คนอะไรช่างยั่ว แต่ยั่วทีไรก็เขินเองตลอด อดไม่ได้จะเอานิ้วไปคีบจมูกสักที ค้างไว้จนเจ้าตัวทำจมูกย่น ส่งเสียงฟุดฟิด ผิวแก้มยิ่งแดงกว่าเก่า

“มันน่านัก!”

“น่าอะไรครับ” ยังจะถามกลับเสียงอู้อี้ทั้งที่จมูกถูกบีบ

น่าอะไรนั้น เขาไม่ได้เฉลยโดยทันที

ธัญญ์ได้รับคำตอบตอนกลับถึงบ้าน หรือจะพูดให้ชัดเจนกว่านั้นก็คือบนเตียง หลังส่งลูกเข้านอนเป็นที่เรียบร้อย



รุ่งเช้าวันถัดมา พอแกล้งบอกว่าจะให้เงินหมื่นห้า ฝ่ายนั้นก็อ้าปาก ตั้งท่าจะก่อกวนด้วยการเรียกเขา ‘พี่ภู’ อีก

ทว่าความน่ารักคือปากที่โดนจูบจนเจ่อนั่นยังพูดได้ไม่ทันจบคำ มาแค่ “..พะ...พี่....” ทั้งหน้าก็แดงแจ๋จนเหมือนกำลังส่งเสียง ‘ฉ่าาา’ ออกมาให้ได้ยินแทนเสียก่อน จากนั้นยอมยกธงขาวไปดื้อ ๆ

เพราะน่ารักขนาดนั้น คืนถัดมาเขาเลยได้ใจ เตียงส่งเสียงลั่นเอี๊ยดอ๊าดเกือบทั้งคืน คนบนเตียงแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน
เช้าอีกวัน ไม่มี ‘พี่ภู’ หรือแม้แต่ ‘คุณภู’ ใด ๆ ทั้งสิ้น

“ลุงภู”

อุ้ก!

ธัญญ์ลูบสะโพกตัวเองป้อย ๆ บ่นอุบอิบลับหลังลูกชายไม่ได้หยุด “คนแก่บ้ากาม"

นึกว่าจะโดนงอนเข้าแล้ว แต่คืนนั้นก็ยังขยับเข้ามาอ้อนอยู่ดี แถมไม่รู้อารมณ์ไหน เอาแต่เรียกลุง ๆ แล้วก็งึมงำว่าน่ารักจังเลย เป็นคุณลุงที่น่ารักอะไรอย่างนี้นะ

“ชอบคนแก่รึไง” อดไม่ได้จะถามทั้งนึกกลัวคำตอบ เกิดบอกใช่คงหมายถึงเขาแก่จริง แต่ถ้าบอกไม่ใช่ก็กลัวจะกลายเป็นไม่ได้ชอบกันไปอีก ไม่กี่วินาทีถึงกับฟุ้งซ่านเป็นบ้าเป็นหลัง

“ไม่รู้สิ” อีกฝ่ายตอบง่าย ๆ ไม่เห็นแก่ความวุ่นวายใจของคนฟังสักนิด ก้มหน้างุดไม่ยอมสบตา ซุกอกเขาอย่างกับลูกแมว “รู้แต่ชอบคุณ”

จริง ๆ เลย ร้อนจมูกอย่างกับเลือดกำเดาจะไหล

วินาทีนั้นจึงตัดสินใจว่าเอาวะ

ลุงก็ลุง!






มีต่ออีกงวดรีพลายถัดไปค่ะ
v
v
v
v
v


ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page

┤ ราคา ◇ ค่า ◇ รัก  ├



งวดพิเศษ 02



ปีนี้ธัญญ์อายุยี่สิบเจ็ดปีเข้าไปแล้ว

ยังคงหล่อเหลาจับตาขนาดนี้ทั้งที่อายุก็ใกล้เลขสาม ไม่ใช่แค่โชคดีมีรูปเป็นทรัพย์ติดตัวแต่เกิดเท่านั้น ยังต้องอาศัยการดูแลอย่างสม่ำเสมอ จึงสามารถคงความอ่อนเยาว์ไว้ได้โดยไม่ถูกกาลเวลาทำร้าย ภูเมศเพิ่งเข้าใจข้อนั้นก็ตอนมาเดินซื้อสารพัดเครื่องประทินโฉมโหมหล่อของอีกฝ่าย ช่วงที่ลูกชายไปพักบ้านเดียวกับลูกสาวซึ่งอยู่กับอดีตภรรยานั่นละ

พูดแล้วก็เหมือนมาโฆษณาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของคุณผู้ชาย ควบรายการคนอวดแฟนไปด้วยในตัว แต่ช่วยไม่ได้ เจ้าเด็ก—ไม่สิ..ไม่เด็กเลย เจ้าหนุ่มข้างกายเขาวัยใกล้เลขสามเข้าไปแล้ว แต่หน้าตาอย่างกับอายุสักยี่สิบต้น ๆ เดินไปไหนมาไหนต้องมีสาวมองตามจนเหลียวหลังให้หึงเล่นบ่อยครั้ง นานทียังมีผู้ชายจ้องตาลุกวาวด้วยซ้ำ ถึงพอจะนับเป็นเรื่องให้ภูมิใจ แต่ก็น่ากลัวจะได้หวงจนอกแตกตายเข้าสักวัน

เพราะท่าทางไม่ได้คล้ายหนุ่มสำอางรักงามสักนิด ตอนแรกจึงคิดว่าคงมีแค่บำรุงผิวหน้านิดหน่อยพอหอมปากหอมคอตามประสาผู้ชายทั่วไป ลุแก่ความโง่วันนี้เองตอนไปเดินซื้อของด้วยกัน ว่าหน้าหล่อ ๆ นั่นไม่ใช่ของได้เปล่า ต้องผ่านการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี...ดีมาก ๆ 

ยิ่งหลังจากพวกเขากลับมาอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข คล้ายว่าฝ่ายนั้นหันมาใส่ใจตัวเอง (และใส่ใจแกมบังคับเขาใช้ของบำรุงอะไรต่อมิอะไรด้วย) มากกว่าเก่า สารพัดครีมที่ของเก่าก็เยอะอยู่แล้วยิ่งเยอะขึ้นไปอีก พอเขาทำหน้าบื้อ ๆ ใส่กระปุก ขวด สเปรย์ และสารพัดสิ่งประทินผิวของเจ้าตัว ธัญญ์กลับยักไหล่เหมือนว่าไม่เห็นเป็นเรื่องแปลก เมื่อก่อนก็ทำอย่างนี้ปกติอยู่แล้ว ติดที่มีเรื่องราววุ่นวายใหญ่โตช่วงก่อนหน้าจึงละเลยไปบ้าง ตอนนี้ชีวิตมีความสุขดี จะกลับมาใส่ใจเรื่องพวกนี้บ้างก็ธรรมดา

ว่าแล้วยังหยิบครีมอะไรไม่รู้มาป้ายที่หลังมือเขา ทา ๆ ถู ๆ เสร็จก็ก้มลงทำจมูกฟุดฟิดดมกลิ่น สาแก่ใจแล้วค่อยคลี่ยิ้มโดยไม่ถามความเห็นคนถูกใช้เป็นที่ลองครีมสักคำ บอกแค่ว่าอันนี้ดี เอาไว้จะซื้ออีก

นึกได้ขึ้นอย่างหนึ่ง ที่ธัญญ์เคยบอกไว้ว่าแท้จริงแล้วตัวเองเป็นคนเอาแต่ใจมาก ภูเมศเริ่มคิดว่าจะถึงขั้นไหนกันนะ แต่สงสัยจะไม่ใช่แค่ขู่

วันนี้เมื่อเขาเอ่ยถึงเรื่องสารพัดผลิตภัณฑ์สำหรับคุณผู้ชายขึ้นมา ขณะช่วยธัญญ์แยกของซึ่งเพิ่งซื้อเข้าบ้าน เจ้าตัวก็ไม่รู้นึกอะไร วางมือลงแล้วนั่งจ้องหน้าเขาเขม็ง จ้องจนเหมือนจะเก็บรายละเอียดทุกรูขุมขน

เขากระแอมแก้เก้อ มือไม้เกะกะจนหาที่วางไม่ถูกชอบกล ถูกคนตาสวย ๆ อย่างนั้นมองแบบเปิดเผยโดยไม่ยอมบอกสาเหตุ ให้หน้าด้านอย่างไรก็ต้องมีประหม่ากันบ้าง

“มีอะไรติดหน้าฉันรึไง”

“คุณ” ธัญญ์พึมพำ เลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ กลิ่นหอมอ่อน ๆ เย้ายวนโชยเตะจมูก

ฝ่ายนั้นใช้นิ้วหัวแม่มือไล้เบา ๆ เหนือริมฝีปากเขา นัยน์ตาดำขลับมองนิ่งไม่กะพริบสักนิด

“...อะ...อะไร”

“โกนหนวดดีไหมครับ?”

 จะบ้าตาย! แค่พูดเรื่องโกนหนวดจำเป็นต้องทำตาใสให้คนอื่นเขาเขินขนาดนี้ไหม

“เพิ่งโกนไปเอง”

“โกนไม่เกลี้ยงนี่นา แถมขึ้นใหม่เป็นตอแล้ว” ธัญญ์งึมงำในคอ ใช้ปลายนิ้วยาว ๆ ดันคางเขาให้หันหน้าซ้ายขวา ดูคาใจกับตอหนวดหร็อมแหร็มที่บางทีเขาก็โกนไม่ทั่วบ้างอะไรบ้าง “มันจักจี้นะ เวลาคุณ—”

พูดแค่นั้นแล้วก็ชะงัก ไม่ยอมออกเสียงต่อ แก้มแดงขึ้นมาอย่างน่าเอ็นดู

เขานั่งเอ๋อไปอึดใจหนึ่ง ค่อยพอเดาได้จากท่าทางและประโยคตอนต้นก่อนสัญญาณจะขาดหาย คิดได้แล้วให้ใจเต้นตึกตัก

มิน่าเล่า ตอนนั้นเคยมีวันที่ไม่ได้โกนหนวด พอฝังครึ่งปากครึ่งจมูกลงไปบนแก้มธัญญ์ ฝ่ายนั้นก็ทำเสียงหงุงหงิงอยู่ในคอแล้วหาเรื่องผละออก แต่ไม่ยักชี้แจงสาเหตุ ที่แท้ก็..

“ไหนเคยบอกว่าไม่ได้บ้าจี้ไง” เขากระเซ้า

แก้มแดง ๆ นั่นดูจะขึ้นสีจัดกว่าเก่า ทั้งที่เจ้าตัวยังใช้วิชากล้ามเนื้อหน้าอัมพาตอยู่ได้ นิ่งสนิทเว้นแต่เห็นสีเลือดฝาดชัดเจนบนผิวนั่นเอง เป็นเสียอย่างนี้จะไม่ให้มันเขี้ยวความขี้เก๊กจนอยากจับฟัดวันละหลาย ๆ หนได้อย่างไร

“มันเหมือนกันที่ไหน” สุดท้ายธัญญ์ก็อุบอิบออกมาจนได้ “คุณลองเอาแปรงสีฟันขนบาน ๆ ถูแก้มตัวเองดูสิ”

กะ...ก็แค่ตอหนวดเอง บางทีมีลืมโกนบ้างแต่ก็ไม่เคยถึงกับปล่อยรกหน้า เพราะต้องแต่งตัวเป็นทางการทำงานเข้าออกบริษัทพบปะผู้คน โดนเปรียบเทียบหนวดบนหน้าเป็นแปรงสีฟันขนบาน ๆ นี่มันออกจะสะเทือนหัวใจหนุ่มวัยใกล้สี่สิบอยู่นิดหน่อย ถึงกับเผลอยกมือลูบรอบปากตัวเองอย่างวิตกจริต

ขณะที่ยังมัวแต่อึ้งจนไม่ทันได้ต่อความยาว ธัญญ์ก็ลุกขึ้นยืน มือหนึ่งคว้าผลิตภัณฑ์อะไรไม่ทราบได้ที่เพิ่งซื้อมาสองสามอย่าง อีกมือดึงเขาให้ลุกตาม กึ่งดึงกึ่งลากไปทางห้องน้ำ ยกเก้าอี้ไปวางไว้หนึ่งตัว จากนั้นย้อนกลับมาผลักเขาเดินเข้าไป ก่อนจะปิดประตูตามหลังอย่างกับจะพามาทำมิดีมิร้าย
 
“ล้างหน้าก่อนครับ” ปากสั่งเสียงเรียบ ส่งโฟมล้างหน้ายี่ห้อโปรดของเจ้าตัวให้เขาจัดการตัวเอง

ถึงจะยังงง ๆ แต่ก็ยอมทำตามอย่างว่าง่าย ขณะหลับตาวักน้ำใส่หน้า ได้ยินเสียงน้ำไหลจากอีกด้าน เหลือบมองไปเห็นธัญญ์กำลังรองน้ำอุ่นใส่กะละมังใบเล็ก

เมื่อธัญญ์ยกกะละมังจิ๋วนั่นกลับมาทางนี้ เขาก็ล้างหน้าเสร็จพอดี

ตามมาด้วยคำสั่งที่สอง

“ทีนี้คุณนั่งนิ่ง ๆ”

ว่าพลาง เขย่งขึ้นนิดหน่อย กดไหล่เขาให้ย่อตัวลงหย่อนก้นบนเก้าอี้

ไม่เปิดโอกาสให้ได้อ้าปากซักไซ้ ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นถูกจับโปะเข้ามาเต็มหน้าอย่างกับจะแกล้ง

เขาดึงผ้าลง เลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ทว่าธัญญ์เพียงแต่ยิ้มน้อย ๆ อย่างน่ารัก ดูอารมณ์ดีเหลือประมาณ หลังจากแกล้งโปะผ้าเข้ามาจนน้ำหยดเต็มเสื้อเขาแล้ว จึงค่อยเปลี่ยนเป็นใช้ผ้าขนหนูผืนเดิมซับนุ่มนวลบนผิวหน้า ท่าทางตั้งอกตั้งใจ น้ำหนักมือที่กดลงมาไม่มากไม่น้อย อุณหภูมิของน้ำอุ่นชุ่มผ้าทำเขาแทบเคลิ้ม

ซับบ้างนวดบ้างอยู่เป็นสิบนาทีเห็นจะได้ ธัญญ์ค่อยเลื่อนปลายนิ้วหัวแม่มือไปตามแนวไรหนวดบนใบหน้าเขาอีกหน ส่งเสียงอืมในลำคออย่างพออกพอใจ จากนั้นละเลงครีมโกนหนวดที่เพิ่งซื้อมาลงเต็มครึ่งหน้าด้านล่างของเขา กระซิบเสียงทุ้มต่ำข้างหู

“อยู่นิ่ง ๆ ทำตัวเป็นคุณลุงที่น่ารักสักแป๊บนะครับ”

ได้ยินแล้วไม่รู้ควรดีใจหรือเสียใจมากกว่ากัน แต่เห็นรอยยิ้มละลายใจสุด ๆ นั่นของธัญญ์ เขาจะทำอะไรได้นอกจากยอมเป็นตาลุงว่าง่าย นั่งนิ่งให้จับโกนหนวดแต่โดยดี ชี้ซ้ายเป็นซ้าย ชี้ขวาเป็นขวาแบบหมดข้อโต้แย้ง

ธัญญ์ดูอารมณ์ดีเอามากจริง ๆ ครู่หนึ่งก็ถึงขั้นฮัมเพลงออกมา เรียกพี่ได้ไหมแล้วจะให้ค่าขนมหมื่นห้าอะไรสักอย่างที่เคยไปได้ยินชายตาบอดร้อง คราวนี้กลับมาหลอกหลอนอีกครั้งแบบรีอะเรนจ์ผ่านเสียงทุ้มต่ำนุ่มหูของธัญญ์ แต่ไม่ยักรู้ว่าร้องเพลงไม่ได้เรื่องจนขนาดฟังอย่างลำเอียงให้เต็มที่ ก็ยังเหมือนฟังเสียงสวดมนต์มากกว่าร้องเพลง

พอเขาจะหลุดขำเต็มแก่ (ทั้งขำเสียงธัญญ์และขำเจืออนาถตัวเองที่เหมือนจะโดนแกล้งไม่จบไม่สิ้น) เสียงเพลงเหมือนบทสวดนั่นก็ชะงัก ธัญญ์ใช้ตาดำ ๆ จ้องเป๋งประหนึ่งกำลังคาดโทษ มือข้างหนึ่งถือมีดโกนหนวดโบกไปมา อีกข้างยึดคางเขาไว้แน่น

“ยุกยิก”

ยังมีหน้ามาบ่นเขาอีก

“เมื่อยนี่” เขายักไหล่ เถียงข้าง ๆ คู ๆ ไปอย่างนั้น ความจริงไม่เมื่อยสักนิด ต้องสารภาพว่าเพลินมากต่างหากถึงจะถูก

ยิ่งเห็นใบหน้าคนรักในระยะใกล้ ยิ่งรู้สึกว่าเจ้าหนุ่มนี่หล่อเหลือเชื่อเอาจริง ๆ ผิวหน้าเนียนหมดจดจนอดไม่ได้ต้องยื่นมือไปลูบแผ่วเบา หลังมือคลอเคลียอยู่บนผิวเรียบลื่น แต่พอใบมีดโกนหนวดโฉบเข้ามาในลานสายตาคล้ายจะเตือนว่าพวกเขากำลังทำอะไรกันอยู่ ก็ได้แต่ถอยออกมาอย่างอ้อยอิ่ง ระหว่างละมือยังไม่วายไล้แผ่วเบาจนสุดปลายนิ้วอย่างแสนเสียดาย

“อีกนิด” ธัญญ์ว่า คงเห็นว่าปลายนิ้วเขาแฝงความอาลัยอาวรณ์เหลือประมาณ จึงยื่นหน้าเข้ามางับข้อนิ้วสุดท้ายของเขาเข้าให้หนึ่งหน จงใจแกล้งอีกแล้วแบบไม่ต้องสงสัย

ช่างยั่วจริง ๆ ให้ดิ้นตาย!

“แค่นิ้วหรือไง เป็นเด็กน้อยจริง ๆ” เขาข่มใจ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ขอใช้โควต้าของคนอายุมากกว่าให้เกิดประโยชน์ ด้วยการทำหน้าเจนโลก มองอีกฝ่ายเหมือนมองเด็กไม่ประสีประสา พลางชี้ที่ริมฝีปากตัวเองที่รอบ ๆ ยังเต็มไปด้วยครีมโกนหนวด พูดต่อแบบหน้าด้านสุดชีวิต “อยากยั่วจริงก็กล้า ๆ หน่อยไอ้หนู”

เขารอลุ้นว่าอีกฝ่ายจะยื่นหน้าเข้ามาจูบตามคำท้าหรือเปล่า ทว่าธัญญ์นิ่งไปครู่ใหญ่ จากนั้นแก้มสองข้างค่อยอูมขึ้นน้อย ๆ น่ารักจนเขาแทบเสียจริตลงไปดิ้นกับพื้นอยู่รอมร่อ ต้องกลั้นยิ้มเก๊กขรึมอย่างลำบากยากเย็นเต็มที ยิ่งเมื่อเห็นแก้มอูม ๆ นั่นเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อ โพรงจมูกเขาก็ชักร้อนอย่างไรพิกล

มัวรอคนช่างยั่วแต่เขินเองประจำแล้วมันไม่ทันใจ สุดท้ายจึงได้ยื่นหน้าไปละเลงครีมโกนหนวดที่พอกอยู่รอบปากกับใบหน้าอีกฝ่ายอย่างสุดแสนมันเขี้ยว จงใจเอาตอหนวดถูแก้มเจ้าคนขี้แกล้งที่อ่อนกว่าเขาตั้งเป็นสิบปี ถือเสียว่าแกล้งมาแกล้งกลับไม่โกง

ธัญญ์หดคอหนี จากหางตาเห็นใบหูแดงแจ๋เหมือนกำลังจะลุกไหม้ ขยับตัวหยุกหยิกแต่ไปไหนไม่ได้เพราะโดนเขากอดหมับเอาไว้เรียบร้อย

ประเดี๋ยวเดียว ผิวเนียน ๆ ของเจ้าตัวก็เต็มไปด้วยครีมโกนหนวดของเขา แต่สาแก่ใจตาลุงที่เจ้าตัวชอบล้อเลียนเสียที่ไหน ต่อให้ครีมเลอะเทอะเต็มหน้าอย่างไรเขาก็ยังไม่ยอมปล่อยง่าย ๆ ซ้ำยังยิ่งเอาตอหนวดเข้าถูไปมาอย่างได้ใจเสียอีก

ที่ผิดคาดคือเมื่อแกล้งหนักเข้า อีกฝ่ายถึงกับตัวอ่อนยวบในอ้อมแขนเขาไปเลยนี่แหละ

“งื้อ”

งื้อ?

ไม่อยากจะเชื่อหู เจ้าคนหน้านิ่งส่งเสียง ‘งื้อ’ ออกมาอย่างกับลูกแมว อยู่ด้วยกันมาเป็นปี ๆ ไม่ยักเคยได้ยินมาก่อน แต่แน่นอนว่าเขาเองก็ไม่เคยปล้ำเอาหนวดถูแก้มอีกฝ่ายอย่างกับเป็นไอ้โรคจิตหนักขนาดนี้มาก่อนเช่นกัน

มีดโกนหนวดหล่นอยู่บนพื้นแต่ไม่มีใครสนใจเก็บ

ชายหนุ่มยิ้มกริ่ม หรี่ตามองตัวแสบที่คู้หลังอยู่ในอ้อมแขน เริ่มสงสัยว่าที่มาบังคับจับเขาโกนหนวดนี่คงไม่ใช่แค่เพราะจักจี้อย่างเดียวเสียแล้ว...

เมื่อมีสมมติฐาน ก็ต้องพิสูจน์

คิดเออออกับตัวเองเช่นนั้นแล้ว จึงสวมวิญญาณตาลุงโรคจิตอีกหน ถูแก้มตัวเองตรงที่ยังมีหนวดเป็นตอให้เกลือกไปทั่วหน้าอีกฝ่าย

“อ๊ะ!”

คราวนี้ธัญญ์ถึงกับร้องเสียงหลง ทรุดลงมานั่งคร่อมบนต้นขาเขาด้วยท่วงท่าล่อแหลมซึ่งไม่กล้าฟันธงว่าเจตนาหรือไม่...แต่ก็ไม่เลวนักหรอก..เขาคิดในใจพลางถูไถใบหน้าต่อ

“...คุณ!” รู้ตัวว่าเล่นสนุกมากไป ก็ตอนอีกฝ่ายโพล่งออกมาอีกพยางค์ “ลุง!”

โอย มันร้าว

ตอนที่กำลังสำนึกว่าหยุดแกล้งดีกว่า เกือบปล่อยมือแล้ว กลับรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ดุนดันอยู่บนต้นขาตัวเอง

เมื่อก้มลงมองไปยังต้นตอ ธัญญ์ที่ลุกหนีไม่สำเร็จเพราะติดมือเขาคล้องรอบเอวไว้ก็ยิ่งคู้ตัวลงกว่าเก่าเหมือนจะปกปิดการเปลี่ยนแปลงนั้น หน้าตาแดงเถือกไปถึงไหนต่อไหน

ครั้นเอื้อมมือลงไปกุมส่วนที่โป่งพองผ่านเนื้อผ้านั้นไว้ อีกฝ่ายก็สะดุ้งโหยง

“นี่...” เขาพึมพำ “..เพราะหนวดหรือ?”

ฝ่ายนั้นเอาศีรษะโหม่งคางเขาทีหนึ่งแทนคำตอบ

เขาหัวเราะ ทั้งเขินทั้งเอ็นดูท่าทางคนรัก กระชับวงแขนรอบตัวอีกฝ่ายไว้แน่นขึ้นอีก “แล้วอย่างนี้จะมาบอกว่าเหมือนเอาแปรงสีฟันขนบาน ๆ ถูหน้าไม่ได้นะ”

“เหมือนกันนั่นแหละ” ธัญญ์ตัดพ้อเสียงอู้อี้

“เอาแปรงถูหน้าแล้วเธอจะแข็งแบบนี้หรือไง”

ถูกโหม่งปลายคางอีกทีโทษฐานพูดจาวิตถาร แต่ตรงส่วนนั้นของคนโหม่งก็ยังขยายขนาดขึ้นอีกในอุ้งมือเขา เมื่อล้วงผ่านขอบกางเกงเข้าไป สัมผัสร้อนผ่าวจากผิวเนื้อและส่วนปลายที่เริ่มชื้นทำเขาใจเต้นไม่เป็นส่ำ

“แบบนี้ก็แย่สิ” เขางึมงำเสียงแหบพร่า “เป็นอย่างนี้ใครจะไปมีแก่ใจโกนหนวดกันล่ะ”

ว่าพลางขยับมือ ดึงทั้งกางเกงและชั้นในอีกฝ่ายลงมากองอยู่ตรงเข่า พอทำท่าจะอิดออดเขาก็เอาหน้าถูไถเบา ๆ ไปทีหนึ่งค่อยว่าง่าย วาดสองมือเกี่ยวรอบต้นคอเขาแทนที่ยึดเกาะ ถึงกับทำเสียงน่ารักแบบที่ไม่ค่อยได้ยินบ่อย ๆ ออกมาให้คนฟังใจเต้นตึกตัก

“หึ ๆ”

แม้แต่เสียงหัวเราะในลำคอของตัวเองก็ยังฟังเหมือนไอ้โรคจิตจนละอายแก่ใจอยู่นิดหน่อย

แค่นิดหน่อยเท่านั้นแหละ...

เขาเอี้ยวตัวจูบธัญญ์ที่ข้างขมับซ้ำ ๆ ละเลงครีมโกนหนวดจนเละเทะอย่างได้ใจ

เริ่มคิดว่าเลี้ยงหนวดเป็นตอไว้เอาคืนเจ้าคนขี้แกล้งท่าจะดีเหมือนกัน











“ช่วงนี้คุณพ่อหน้าตาสดใสจังนะครับ”

ผ่านไปราวสามเดือน ขนาดเจ้าลูกชายยังเอ่ยทัก

หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นก็โดนบังคับให้โกนหนวดจนเรียบเกลี้ยง ตามด้วยสารพัดครีมบำรุงผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนั้นยังถูกลากไปออกกำลังกายบ่อย ๆ เมนูอาหารที่บ้านก็เต็มไปด้วยอาหารสุขภาพที่ชักจะหรูหราขึ้นทุกที ฝีมือที่ได้รับการถ่ายทอดจากคนที่ธัญญ์กับเจ้าหนุ่มพนักงานเสิร์ฟร้านกุหลาบขาวเรียกว่า ‘ตาลุงผี’ นั่นประมาทไม่ได้เลย

เขาพิจารณาเงาสะท้อนของตัวเองในกระจก...จะว่าอย่างไรดี...แม้อาจฟังดูหลงตัวเองอยู่นิด ๆ แต่ก็เหมือนจะดูดีขึ้นจริง ๆ นั่นละ ทั้งผิวพรรณ รูปร่าง และบุคลิก

แน่ชัดว่าคงไม่ใช่แค่คิดไปเอง ก็ตอนธัญญ์ชูกระดาษโน้ตแผ่นเล็ก ๆ ลายกระต่ายน้อยสีหวานแหววแผ่นหนึ่งขึ้นมาต่อหน้าเขาด้วยท่าทางนิ่งสงบ

ด้วยความสัตย์จริง ถึงจะยังมองไม่ถนัด แต่เขาไม่คุ้นกระดาษแผ่นนั้นแม้แต่น้อย กระทั่งลายมือที่เขียนอยู่ก็เช่นกัน ไม่รู้ว่าธัญญ์เอามาให้ดูอย่างนี้มีความหมายอะไรแอบแฝง

“มันอยู่ในกระเป๋าเสื้อคุณ” ธัญญ์เฉลย ยื่นกระดาษเข้ามาใกล้อีกหน่อย

ตอนนั้นจึงได้เห็นชัด ๆ ว่าบนกระดาษมีชุดตัวเลขที่คงจะเป็นหมายเลขโทรศัพท์ เขียนไว้ด้วยลายมือน่ารักเหมือนลายมือผู้หญิง ต่อท้ายด้วยประโยค ‘แล้วโทรมานะคะ จะรอค่ะ’ ตามด้วยลงชื่อเจ้าของลายมือว่า ‘แอปเปิ้ล’

เขาอ้าปากหวอ พยายามนึกแทบตายว่าเจ้าสิ่งนี้มาโผล่ในกระเป๋าเสื้อเขาได้อย่างไร แล้วแอปเปิ้ลนี่เป็นใครกัน ครู่หนึ่งจึงย้อนความไปได้ถึงงานพบปะของบริษัทเมื่อไม่กี่วันก่อน เหมือนจะมีหญิงสาวตัวแทนจากบริษัทคู่ค้าชื่อนี้อยู่เหมือนกัน แต่ไม่เห็นรู้ว่ากระดาษนี่มาโผล่ในกระเป๋าเขาตอนไหน

เมื่อก่อนเคยโดนธัญญ์ล้วงกระเป๋าเอาของไปแล้ว หรือคราวนี้จะถูกสาวล้วงกระเป๋าเอาอะไรยัดใส่ คิดไปก็อาจพอมีความเป็นไปได้อยู่เหมือนกัน

“แอปเปิ้ลนี่อร่อยไหมครับ” ธัญญ์ว่าเสียงเรียบ พลิกกระดาษไปมา “คุณชอบแอปเปิ้ลหรือเปล่า”

น่ากลัวจริง ๆ

“ฉันไม่รู้มันมาโผล่ในกระเป๋าได้ไง” เขาร้อนตัว รีบแก้ต่างเป็นพัลวัน “จริง ๆ นะ เพิ่งนึกชื่อเขาออกเมื่อกี้นี้เองด้วยซ้ำ”

ธัญญ์มองเขาพลาง เอียงคออย่างน่ารัก แต่เป็นความน่ารักที่ดูอันตรายแปลก ๆ

ครู่หนึ่งเจ้าตัวก็ถอนหายใจเฮือก ส่งยิ้มน้อย ๆ กึ่งขำกึ่งอ่อนใจ

“เชื่อครับ” อีกฝ่ายว่า “เชื่อคุณ แต่กับคนอื่นก็อีกเรื่อง”

พูดจบก็มองเขาอย่างพินิจพิจารณาตั้งแต่หัวจรดเท้า ช่วงเวลาแบบนี้อย่างกับลูกแมวเหมียวที่จู่ ๆ ก็แปลงร่างเป็นเสือ

“สงสัยจะบำรุงดีไปหน่อย” วันนั้นได้ยินธัญญ์พึมพำทำนองนี้ซ้ำ ๆ อยู่สองสามครั้งเห็นจะได้ “หล่อไปสินะ”

หลังจากนั้น อีกฝ่ายก็ดูจะลดความพยายามในการแต่งหล่อเขาลงอย่างมีนัยสำคัญ ปล่อยเขาดำเนินการดูแลหนังหน้าตัวเองด้วยมาตรฐานที่เตี้ยลงระดับหนึ่ง

เว้นก็แต่เรื่องตอหนวดนี่ละที่ยอมไม่ได้เลยจริง ๆ โผล่มาเมื่อไรเป็นจับโกนเมื่อนั้น



ไม่กี่วันถัดมา ภูเมศลูบผิวบริเวณคางและเหนือริมฝีปากเนียนเกลี้ยงของตัวเองหลังใช้อาฟเตอร์เชฟ พลางยิ้มผ่านกระจกให้กับธัญญ์ที่ยืนมองอยู่ข้างหลัง

เห็นหน้าตาท่าทางที่มาด้อม ๆ มอง ๆ แล้วนึกรักใคร่ขึ้นมาเต็มอก เขายิ่งฉีกยิ้มกว้างพลางกวักมือเรียกฝ่ายนั้น

ธัญญ์เดินเข้ามาหาอย่างว่าง่าย กอดเอวเขาไว้จากข้างหลัง ซบหน้าผากลงมาเหมือนจะอ้อนอยู่เงียบ ๆ

เขากระหยิ่มยิ้มย่อง เอื้อมมือไปลูบผมคนข้างหลังที่คล้ายคืนร่างเป็นลูกแมวในที่สุด

“ผลไม้เย็นนี้มีแอปเปิ้ลล่ะ” ธัญญ์งึมงำกับแผ่นหลังเขา “จะหั่นเป็นชิ้น ๆ ไว้รอนะครับ”

ไอ้ตรง ‘จะหั่นเป็นชิ้น ๆ’ นี่ ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่าว่าทำเสียงน่ากลัวพิกล

ครั้นเหลียวไปมองด้วยความสงสัย คนพูดกลับทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

หลังจากนั้น แม่สาวนามแอปเปิ้ลก็หายไปจากการพบปะระหว่างบริษัทคู่ค้า เห็นภาคีผู้เป็นเจ้านายโคลงศีรษะน้อย ๆ พลางยิ้มอ่อนใจ ส่งรายชื่อคนที่เขาต้องไปพบชุดใหม่มาให้แทน

“ระวังหน่อยสิ” เจ้านายเตือน ไม่ระบุชัดเจนว่าหมายถึงเรื่องอะไร แต่สบตาเป็นนัยคล้ายรู้กัน

ภูเมศเริ่มระแคะระคายว่าตัวเองคงอยู่กลางดงเสือเป็นแน่แท้

แต่เมื่อคิดถึงคนที่เดี๋ยวเสือเดี๋ยวแมวซึ่งเย็นนี้จะ ‘หั่นแอปเปิ้ลเป็นชิ้น ๆ’ รอเขาอยู่ที่บ้าน ก็เผลอส่งรอยยิ้มเพ้อฝันให้กับดินฟ้าอากาศ ลูบคางเกลี้ยงเกลาของตัวเองจากการถูกบังคับโกนหนวดทุกวันไปด้วย

ถึงเป็นเสือก็ออกจะน่ารักไม่ใช่หรือไง

ทั้งน่ารักและเอาแต่ใจมาก ๆ เลยเสียด้วยสิ







-------------------------


งวดพิเศษค่ะ ให้เขาหวาน ๆ ตะมุ้งตะมิ้ง (รึเปล่านะ) กันบ้างเนอะคะ ฮา
พอเขียนจบแล้วก็คิดถึงเรื่องนี้จัง แล้วไว้พบกันงวดพิเศษถัด ๆ ไป ตามโอกาสค่ะ ม้วฟฟฟฟ *กอดก่ายคนอ่าน*


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-04-2017 23:26:53 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ Kio

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ตะหนูธัญญ์เวลาหึงน่ารักจัง

ปกติก็น่ารักอยู่แล้วนะ งื้อ งื้อล่ะ งื้อออออ ////

อยากได้ธัญญ์มาไว้ที่บ้านสักวันสองวัน ขอยืมได้ไหมคะคุณลุงภูเมศ

 :laugh:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด