เมื่อไรจะมาอะคิดถึงน้องแพ
สงสารคุณบลูมากเลย มาทวงประมาณ 3 รอบได้แล้ว ขอโทษนะครับผม มากอดๆๆๆ
หลังจากนี้ก็จะมาถี่ๆ เหมือนเดิมแล้วครับผม
19 เก็บใจไว้ในลิ้นชัก คงไม่เจอแล้วรักแท้ (เกิดไม่ทันจริงๆ นะ แบบว่าแม่เปิดให้ฟัง ไม่ทั๊นน ไม่ทันคร่า)
“ไอ้เหี้ยเนี่ยนะแม่!”
“ใช่จ่ะลูก มันกับแม่มันเอาพ่อแกไปกกไว้”
“ชาติชั่วทั้งแม่ทั้งลูกสินะ”
“กูเปล่า! กูไม่เกี่ยว มันมาเอากูแล้วไอ้เหี้ยนี่ไปอ่อยมันเอง”
แม้แต่แม่ยังไม่เข้าข้างเลย นับประสาอะไรกับสายตาคนอื่นที่มองมาอย่างหยามเหยียดเล่า ใจดวงนี้ไม่ใช่เหล็ก เปล่าทำด้วยหิน ไม่ได้ปั้นด้วยปูน ถึงจะแตกสลายไม่ได้ แต่เป็นแค่ก้อนเนื้อที่มีวันหยุดเต้นได้เช่นกัน
“สัตว์เอ้ย! ผมบอกแม่แล้วใช่ไหมว่าไอ้นั่นมันจะทำให้ตระกูลเราขายหน้า!”
“แม่รักเขาลูก ฮึก แม่รักเขา”
“แล้วไงล่ะแม่ แล้วมันก็ทิ้งแม่ไปเอากะXรี่แถมเอาลูกกะxรี่ด้วยเนี่ยนะ!!”
“แม่ขอโทษอัค แม่ขอโทษ!”“มึง..อย่างมึงก็คงเหมือนแม่มึง ชีวิตมึงต้องไม่มีความสุขอีกต่อไป พวกมึงทำกับครอบครัวกูขนาดนี้ อ่าหวังว่ากูจะปล่อยไปง่ายๆ”
นั่นสิ...จริงๆ มันก็สมควรแล้วใช่ไหมล่ะ? ไอ้ความวิปริตแถมมักมากในร่างกายรสรักของผู้ชายด้วยกันจนหลงลืมผิดชอบชั่วดีน่ะ มันก็ถูกต้องแล้วไม่ใช่หรอ?
“อ้อ! ไอ้นรก มึงชื่อแกวสินะ...กูจะจำไว้ จำไว้จนวันตาย แล้วก็อย่าหวังจะได้มีความสุขล่ะ”มันแกวหนีมาเจอเอ๋ยที่ทางเข้าหอ สอบติดแต่ยังไม่ได้ทำเรื่องย้าย เงินทุกบาทที่เอามาแจ้งค่าเทอมส่วนต่างที่นอกเหนือจากทุนและค่าหอในนักศึกษา ‘พ่อ’ เป็นคนออกให้ แต่ตอนนี้แกวตัวคนเดียวแล้ว ตัวคนเดียวพร้อมบาดแผลใหญ่ บาดแผลลึก และความสกปรกจากจิตใจของตัวเองที่ติดตัวมา
“เฮ้ยยยย ไอ้เหี้ยยย เลือดเต็มหลังเลยยย!!” เสียงคนแปลกหน้าดังขึ้นเรียกสติที่เกือบดับวูบไปของตัวเอง มันแกวลืมตาขึ้นช้าๆ เจ็บแปลบไปทั่วหลัง มึนเบลอเพราะพิษบาดแผลและคิดว่าอีกไม่นานคงจะหมดลม
แต่คนที่ส่งเสียงดังอยู่เมื่อครู่ก็ร้องตะโกนโหวกเหวกให้รปภ.กับเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยมาลากตัวไปอนามัยใกล้มอ ค่ารักษาพยาบาลที่ไม่แพงแต่ไม่มีปัญญาจ่ายพร้อมยาแก้อักเสบยาแก้ปวดแบบตามมีตามเกิดถูกคนที่เข้ามาช่วยเหลือเป็นธุระปะปังจ่ายเงินและฟังข้อมูลการล้างแผลไหม้เนื้อของเขาทั้งหมดสิ้น
อา...ทำไมไม่ปล่อยให้ตายๆ ไปนะ
“มึงเรียนที่นี่หรอ? ไปมีเรื่องกับใครมาวะ ไอ้ห่า กูตกใจนึกว่าผี ทำไมไม่เรียกให้คนช่วย แล้วนี่ปีไหนวะ? แต่ถ้ามานอนกองหน้าหอในก็ปีหนึ่งใช่ป่ะ? มึงอยู่ห้องไหนอ่ะ เมทมึงมารายงานตัวยัง แล้วแผลจะหายทันเปิดเทอมไหมวะ อีกแค่ 5 วันเอง เออแล้วอยู่คณะอะไร?” เสียงพูดและถามเองตอบเองแบบยาวเหยียดของคนข้างๆ ไม่ทำให้แกวรำคาญ แต่มันเสียดแทงจนสะท้อนใจ น้ำตาเลยไหลออกมาอย่างคนอ่อนแอ
“เฮ้ยๆๆๆ เออๆๆๆๆ มึงอย่าร้องงงง กูปลอบไม่เป็น เอ่อ...โอ๋ๆๆ แต่ช้าแต่ ไม่ร้องนะไม่ร้อง”
แล้วก็พาไปอยู่ห้องด้วย เพราะเขาก็ยังไม่ทันได้ดูรายชื่อว่าได้พักห้องไหนเมทเป็นใครจากคณะอะไร ดีใจที่สอบติดก็กลับบ้านเลย...และมันก็เกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน ถึงได้หนีซมซานมาที่นี่ ที่ๆ คิดว่าแม่คงตามตัวมาไม่ถูก
รู้จักกันแบบผิวเผินคือชื่อชั้นปีและคณะ คนขี้โวยวายและพูดมากติ๊ต่างความเป็นจับมือกระชับมิตรบอกว่าชื่อเอ๋ย ขึ้นปี 1 คณะเกษตร
อยู่ด้วยกันก็คอยดูแล ดูแลชนิดที่คิดว่าผูกพันกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน ไม่คิดว่าคนแปลกหน้าจะเอาใจใส่กันขนาดนี้ ถึงจะพูดมาก เถื่อน เล่นหัว แต่เอ๋ยเป็นคนจิตใจดี และบริสุทธิ์มาก
บริสุทธิ์จนคิดว่าคนอย่างไอ้แกวคนนี้ไม่เหมาะจะอยู่เคียงข้างในฐานะเพื่อนที่มันหยิบยื่นให้จริงๆ
“ชื่อเขยใช่ม่ะ? เรียนนิเทศอ่อ กูฝากไอ้แกวด้วยนะ มันป่วยหนักอยู่ เออ มันไม่ค่อยพูดก็พูดแทนมันหน่อยนะ เห็นหน้ามันอมทุกข์นี่เปล่าผีอำนะ แต่มันยิ้มไม่เก่ง ช่วยตลกๆ ใส่มันบ่อยๆ แล้วกัน”
วันรายงานตัววันสุดท้ายยังพาเดินมาส่งที่ห้องที่ต้องอยู่กับเมทอีก แถมฝากฝังประหนึ่งเป็นคุณแม่ แกวได้แต่ยิ้มขอบใจ ยังไงคงได้เจอกันบ่อยแน่ๆ ก็คณะเดียวกันปีเดียวกัน แถมมันก็ลงทะเบียนให้ ยังไงก็เซคเดียวกัน
เขยเป็นลูกคนรวย แหงล่ะก็เรียนนิเทศ คณะที่ไม่มีทุนให้เด็ก ของใช้แต่ละอย่างแกวได้แต่ส่ายหัวใส่ ไม่เคยเห็นไม่เคยได้ยินไม่เคยสัมผัส ขนาดตอนบอกไปว่าไม่มีโทรศัพท์ใช้และใช้ไม่เป็นด้วย อีกคนก็ตาโตตกใจแบบสุดๆ วันต่อมาก็ยื่นโทรศัพท์ให้ ทะเลาะกันจนลั่นหอจนเอ๋ยมาเกลี่ยกล่อมให้เลยต้องจำใจรับโทรศัพท์ในราคาที่เห็นคนอื่นๆ เขาพูดกันว่าแพงสุดๆ แล้วได้แต่มือสั่นรับไว้
นี่ก็ดูแลประหนึ่งลูกน้อย หาของมาให้กิน พาเที่ยว ช่วยทำแผล สอนเล่นโทรศัพท์ สอนขึ้นบันไดเลื่อน สอนกินอาหารญี่ปุ่น สอนเข้าโรงหนัง สอนใช้อินเตอร์เน็ต สอนภาษาอังกฤษ สอนทุกอย่างจนพอจะรู้ทันโลกกับเขาบ้าง
ผ่านไปสองเดือนก็มีผู้หญิงมีอายุคนหนึ่งมายืนด่าปาวๆ หน้าคณะว่าแย่งผัวเขาแล้วโดนลากไปด้วย สรุปว่าเป็นเมียของ ‘พ่อ’ ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของ ‘อัค’ เด็กนิเทศรุ่นเดียวกับเมทตัวเองนั่นแหล่ะ
โดนด่าจนหน้าชา เจ็บไปทั่วใจ แล้วแม่ที่ไม่เจอกันมานานยังทำเหมือนไม่ใช่ลูกอีก
เอาเถิด จะเจ็บจนไม่หายใจอีกต่อไปก็ไม่มีใครสนใจหรอก อยู่ไปก็คงโดนจองล้างจองผลาญจากผู้ชายที่ยืนด่าตัวเองแบบไม่มีชิ้นดีอยู่ตลอดไปแน่ๆ
แต่ก็สาสมแล้วกับที่ทำตัวไว้
“แกว แกวเป็นอะไรไปอ่ะ อย่าคิดมากเรื่องที่ผู้หญิงคนนั้นมาว่าเลยนะ สติไม่ดีหรือเปล่าไม่รู้” เขยปลอบใจตอนเขากลับไปถึงห้อง อ้อมกอดเขยอบอุ่น และแกวเองก็รู้ว่าเขยคิดอย่างไรกับตนก็ตอนที่ถูกจูบประทับที่หน้าผากอย่างอบอุ่นและแผ่วเบานั่น
“เขย...”
“ไม่เป็นไรแกว แกวไม่ต้องตอบรับหรอก ยินดีดูแลแบบไม่หวังผลนะ”
ตอบรับไม่ได้หรอกเขย ยังไงก็ไม่ได้ ตัวสกปรกใจก็หยาบช้าขนาดนี้ ไม่เหมาะจะอยู่กับคนดีๆ อย่างเขยเลยสักนิด ชีวิตแปดเปื้อนไปเสียขนาดนี้ ไม่กล้าลากใครมาจมลงบ่อโคลนตมด้วยกันหรอก
“ขอบใจนะเขย”
“อื้อ”
“ขอบใจจริงๆ”
ขอบใจที่ยอมเอามือมาจับคนสกปรกคนนี้ไว้...
*****************
#สั้นจัง
ฉากอารมณ์ไง แบบลึกซึ้งมากไม่ค่อยได้ เดี๋ยวสงสารน้องแกวสุดน่ารัก