ผมไม่ใช่พ่อเด็ก ตอนที่ ๔๔ เสี่ยงเหลือเกิน ๒๘/๑๒/๕๘ (จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ผมไม่ใช่พ่อเด็ก ตอนที่ ๔๔ เสี่ยงเหลือเกิน ๒๘/๑๒/๕๘ (จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ)  (อ่าน 61936 ครั้ง)

ออฟไลน์ ❁INDY_FAMILY❁

  • -ทำไมต้องเดินตามรอยเท้าใคร เราสามารถสร้างรอยเท้าของเราเองได้-
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-12
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม






ผมไม่ใช่พ่อเด็ก
BY...........❁INDY_FAMILY❁


Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-12-2015 23:26:51 โดย ❁INDY_FAMILY❁ »

ออฟไลน์ ❁INDY_FAMILY❁

  • -ทำไมต้องเดินตามรอยเท้าใคร เราสามารถสร้างรอยเท้าของเราเองได้-
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-12
ผมไม่ใช่พ่อเด็ก
 
ตอนที่ ๑ ท้องไม่รับ




ความซวยมันไม่เข้าใครออกใครหรอกครับเมื่ออยู่ดีๆผมที่ไม่รู้เรื่องอิโหน่อิเหน่อะไรกลับต้องมารับผิดชอบชีวิตน้อยๆที่กำลังจะลืมตาขึ้นมาดูโลกใบนี้ มันช่างเข้าตำราเนื้อไม่ได้กินหนังไม่ได้รองนั่งดันเอากระดูกมาแขวนคอตัวเองอีก ซวยซับซวยซ้อนซวยซ่อนเงื่อนจริงๆ

2 วันก่อนหน้านี้

อุ๊ก!!

พลั๊ก!!

ตุบ!!

เสียงที่ทุกท่านได้ยินนั่นไม่ใช่เสียงกลองเสียงเบสหรือเสียงดนตรีอันไพเราะแต่อย่างใด หากแต่เสียงที่ทุกท่านได้ยินนั่นไซร์มันคือเสียงฝ่าตีนกระทบเข้ากับลำตัวและใบหน้าอันหล่อเหลาของกระผมเองครับ (มันไม่คล้ายลาวกระทบไม้นะครับ โอเคมุกไม่ฮาพาคนอ่านเครียดข้ามๆมันไปเถอะ) แมร่งกูยังไม่อยากกินขนมตุบตับตอนนี้ไม่ต้องประเคนมากันได้ไหม

โอ๊ยๆๆๆ ฝากรอยเท้าเอาไว้ ฝากรอยช้ำเอาไว้ (ใช่เวลาไหมเนี่ย)


"พอ!!" เสียงอันทรงพลังดังคำที่ผมรอคอยเอ่ยขึ้นเมื่อผู้พูดมองเห็นสภาพผมที่นอนอยู่ท่ามกลางดง Teen นับสิบ ใครสู้ได้ก็เทพแล้วล่ะครับ กูคนนะครับไม่ใช่เหล่าThe avengersนะเว้ยถึงจะสู้กับเหล่าตัวร้ายได้โดยไม่เป็นไร สิบรุมหนึ่งแมนมากครับพวกมึง

"มึงทำน้องสาวกูท้องแล้วยังไม่คิดจะรับผิดชอบอีกหรอวะ มึงอยากตายใช่ไหม" แค่นี้กูยังไม่เหมือนศพอีกหรอครับพี่น้องครับสภาพกูเนี่ย พี่ปอเห็นจับส่งห้องดับจิตสถานเดียวเลยนะครับ

"ผะ ผมไม่รู้เรื่อง พวกมึงพูดเรื่องอะไรกันวะ" น้องมึงเป็นใครกูยังไม่เคยเห็นหน้าแล้วกูจะไปเสกเด็กเข้าท้องน้องมึงได้ไงวะ กูไม่เทพขนาดนั้นนะเว้ย

"มึงจะบอกไม่รู้เรื่องได้ไงหลักฐานก็เห็นๆกันอยู่" ไอ้ตัวหัวหน้าเหล่าร้ายมันโยนรูปถ่ายมาให้ผมดูซึ่งในรูปนั่นมันเป็นรูปชายหญิงคู่หนึ่งที่อยู่ในอากัปกิริยาที่ไม่ต้องอธิบายก็รู้ว่ารักกันดูดดื่ม ปานจะกลืนกินเธอทั้งตัวไม่เผื่อเหลือไว้ให้ใครได้กลิ่น (กูยังเล่นไม่เลิก) คือผู้หญิงเนี่ยผมบอกได้เลยว่าไม่เคยรู้จักและไม่เคยเห็นหน้าคาดตาเธอมาก่อนเลยด้วยซ้ำ แล้วผมจะไปปล่อยลูกออดของผมใส่มดลูกของเธอได้ยังไงวะ แต่พอผมพินิจพิจารณาดูผู้ชายในรูปแล้วต้องบอกว่าหนังหน้ามันดีแบบสุดๆหน้าตาดีที่สุดในสามโลก หาผู้ใดเทียบเทียมมิได้อีกแล้ว หล่อโคตรพ่อโคตรแม่ขุดโคตรเหง้าขึ้นมาหล่อกันเลยทีเดียว

"มึงจะจ้องอีกนานไมวะ โดนกระทืบแค่นี้ลืมหน้าตัวเองเลยรึไง" ผมที่กำลังชื่นชมผู้ชายในรูปอยู่นั่นถึงกับสะดุ้งตกใจเพราะเสียงอันทรงพลังของตัวร้ายที่อยู่ดีๆพี่แกก็ตะโกนออกมา คือพี่ไม่กลัวกล่องเสียงอักเสบบ้างหรอครับผมล่ะเป็นห๊วงเป็นหวง

"ผู้ชายในรูปมันไม่ใช่ผม" ถึงหนังหน้ามันจะดีมากๆเหมือนผมก็เถอะแต่มันไม่ใช่ผมอ่ะ

"หน้าเหมือนมึงยังกับแกะยังจะบอกว่าไม่ใช่อีกรึไงมึงเห็นกูโง่รึไงวะ" ไม่ฟังกูอธิบายอะไรเลย ตะเบ็งเสียงใส่หูกูอยู่นั่นแหละ "มึงไม่ยอมรับใช่ไหม ดีงั้นมึงก็เตรียมตัวตายได้เลย" พูดจบมันก็หันไปหาลูกน้องมันที่พร้อมจะแจกTeenให้ผมโดยไม่ถามผมสักนิดว่ากูต้องการไหม

ตุบ!!

อั๊ก!!


พลั๊ก!!

ผมเหมือนกำลังกรอเทปกลับไปยังจุดเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ฝ่าเท้านับสิบคู่ทิ้งร่องรอยเอาไว้ที่เสื้อนักศึกษาโดยที่มองดูก็สามารถบอกได้เลยว่ามียี่ห้ออะไรบ้าง ถ้ากูรอดไปได้กูจะไปแข่งรายการแฟนพันธุ์แท้ (รอย) รองเท้า กูว่ากูชนะแน่ๆ

"สัสมึงกล้าสู้กูหรอวะ" กูไม่ได้สู้เว้ย พวกมึงคิดไปเองรึเปล่าวะ แรงจะหายใจกูยังไม่มีเลย กูจะเอาแรงที่ไหนมาสู้พวกมึงครับคิดกันนิดนึงสิครับพี่น้องครับ

"หยุ๊ดดดดดด พี่พายพี่ทำอะไรพี่เทียนอ่ะคะ" เสียงนางฟ้านางสวรรค์ที่ไหนวะ ผมพยายามลืมตามองดูคนที่เข้ามาช่วยชีวิตผม แต่มันก็ได้แค่พยายามเพราะตาผมมันดันลืมไม่ขึ้นซะแล้ว สัมผัสอุ่นๆที่ใบหน้ามาพร้อมกับเสียงร้องไห้โหยหวนปานญาติมิตรตายจากดังขึ้นข้างหูผมพร้อมกับอ้อมกอดที่รัดแน่นจนแทบหายใจไม่ออก

"แค่กๆๆๆ" โอ๊ยแม่คุณปล่อยผมก่อนเถอะครับผมจะตายเพราะเจ๊รัดคอผมเนี่ยแหละครับ

"พี่เทียนพี่เป็นยังไงบ้างคะ ฮือๆๆๆอย่าตายนะคะ" ถ้าคุณน้องไม่ตาบอดคุณน้องก็ไม่น่าถามนะครับ เพราะสภาพที่เห็นพี่เป็นอยู่เนี่ยใกล้เคียงกับคำว่าสาหัสแล้วล่ะครับคุณน้อง เออ แต่ยังไม่ตายนะครับแค่ใกล้เคียงกับคำนั้นเฉยๆ

"ผะ ผมไม่ใช่ ทะ" ผมกำลังจะบอกว่าผมไม่ใช่ไอ้เทียนคนที่ทุกคนกำลังเข้าใจผิดคิดว่าผมเป็น หึ ไอ้น้องเวรอย่าให้กูเจอตัวนะมึงกูนี่แหละจะกระทืบมึงให้จมดินเลยคอยดู แต่ต้องรอกูหายก่อนนะ เพราะตอนนี้ลำพังจะยืนด้วยลำแข็งตัวเองยังไม่มีปัญญาเลย

"พี่เทียนพี่อย่าตายนะคะ โฮๆๆๆ" กูจะตายเพราะมึงรัดคอกูเนี่ยแหละครับอิเจ๊คนสวย (หลับตาอยู่แล้วรู้ได้ไงว่าสวย)

"ผมยังตาย" แต่คิดว่าอีกไม่นานน่าจะได้ตายจริงๆกูโดนรัดคอขนาดนี้ไม่ตายก็น่าจะรอดยาก ถามจริงคุณน้องเป็นญาติกับงูเหลือมรึเปล่าครับรัดคอกูแน่นโคตรๆ

"ฮือๆๆๆ พี่พายช่วยพี่เทียนด้วยพี่เทียนกำลังจะตาย ฮือๆๆๆ" กูว่ากูเพิ่งจะพูดไปนะว่ากูยังตายแต่กูกำลังจะตายเพราะน้ำมือเจ๊คนเดียวเลยครับ โดนกระทืบเป็นชั่วโมงยังพอทนได้แต่ใครจะรู้ว่าผมกำลังจะไม่รอดเพราะแขนเรียวๆบางๆที่กอดรัด (แน่น) อยู่ที่คอของผม

อ๊ากกกกก ใครก็ได้ช่วยไอ้ธูปที ไอ้ธูปยังไม่อยากตายยยยย



ปัจจุบัน


"มึงจะเอาไง" เสียงนี้ตามหลอกหลอนผมมาตลอดสองวันที่ผมนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ถามคำถามเดิมๆเรื่องเดิมๆที่ผมไม่รู้ และไม่มีคำตอบให้เพราะผมไม่ใช่พ่อเด็ก ไม่ใช่ไอ้คนที่เสกสรรปั้นแต่งสเปิร์มชนเข้ากับผนังมดลูกของน้องสาวมันแล้วจะให้พูดอะไรก็คงจะทำไม่ได้คงต้องรอไอ้ตัวดีมันกลับมา (แต่มันไปไหนผมยังไม่รู้เลย)

"พี่พายอย่าดุพี่เทียนสิคะ" น้องสะใภ้ผมช่างเป็นคนดีจริงๆ

"เค้กเข้าข้างมันรึไงไม่เห็นหรือไงมันไม่คิดจะรับผิดชอบอะไรเราเลยสักอย่าง" ผิดกับพี่ชายที่โหดสัสๆ

"เปล่าค่ะเค้กไม่ได้เข้าข้าง เค้กแค่เห็นว่าพี่เทียนเค้าเพิ่งจะหายดีพี่พายก็อย่าเพิ่งไปเร่งอะไรพี่เทียนเค้ามากสิคะ" น้องครับน้องเป็นแม่ชีเทเรซ่ากลับชาติมาเกิดรึเปล่าครับ พี่ล่ะสงสัย

"ยังไงๆมันก็ต้องรับผิดชอบ!!" ส่วนคนพี่ก็คงเป็นซาตานกลับชาติมาเกิดแน่ๆ พูดแต่ละคำนี่บ่งบอกว่ามึงมันโหดสัสของแท้จริงๆ

"พี่เทียนเขาต้องรับผิดชอบลูกในท้องของเค้กอยู่แล้วล่ะค่ะใช่ไหมคะพี่เทียน" เอิ่ม อันนี้พี่ก็ไม่ทราบอ่ะครับน้องเค้กว่าไอ้เทียนมันจะรับลูกในท้องของน้องเค้กรึเปล่า

"จะรับไม่รับไม่รู้แต่พรุ่งนี้มันต้องไปจดทะเบียนที่อำเภอกับเค้ก" อ้าวเฮ้ย!!ถามกันสักคำไหมครับ คือเรื่องนี้ผมไม่เกี่ยวอ่ะครับผมไม่ได้มีส่วนร่วมในการออกแบบเด็กในท้องของน้องเค้กเลยนะครับแล้วทำไมผมต้องรับผิดชอบอ่ะ

"คะ คือ ผมไม่ใช่ ทะ เทียน" ผมเค้นเสียงพูดออกมาด้วยความอยากลำบาก

"มึงพูดอย่างนี้แปลว่ามึงจะไม่รับผิดชอบลูกในท้องน้องกูใช่ไหมห๊า!!" จ้ะพูดกันดีๆก็ได้ไม่ต้องพุ่งมาถวายตีนให้ด้วยความรักถึงเตียงขนาดนี้หรอกครับ ไอ้ธูปไม่ต้องการ

"ฮือๆๆๆๆ ทำไมพี่เทียนเป็นคนอย่างนี้ล่ะคะ เค้กรู้ว่าพี่มันติสแตกเข้าถึงยาก โลกส่วนตัวสูงมากๆ ฮือๆๆ แต่เค้กไม่คิดว่าจะเลวและชั่วบัดซบขนาดไม่รับผิดชอบลูกของเรา ฮือๆๆๆ" นี่น้องเค้กชมหรือด่าไอ้เทียนกันแน่วะเนี่ย ฟังดูแปลกๆนะครับ

"คือ ฟังผมพูดก่อน" ผมกำลังจะอธิบายแต่ว่า........

"ไม่ค่ะเค้กไม่ฟังเค้กเสียใจ โฮๆๆ เค้กเสียใจได้ยินไหมคะว่าเค้กเสียใจ ฮือๆๆๆๆ" ชัดเต็มสองรูหูเลยครับก็น้องเค้กเล่นแหกปากข้างหูพี่ขนาดนี้ไม่ได้ยินก็หูหนวกแล้วแม่คุณ แต่แม่คุณ #ร้องหนักมาก บ่อน้ำตาแตกแถมแม่คุณไม่คิดจะฟังอะไรอีก พูดเองเออเองคนเดียวเสร็จสรรพ พี่ล่ะเหนื่อยใจ

"มึงไม่คิดจะรับผิดชอบลูกในท้องน้องกูถึงขนาดต้องตอแหลหน้าด้านๆขนาดนี้เลยรึไงวะ อยากตายใช่ไหมห๊า" ไอ้คนน้องน่ะไม่เท่าไหร่ ไอ้คนพี่นี่สิแมร่งเออะอะจะฆ่าผมลูกเดียวเลย ฟังกันบ้างสิครับ ไม่ใช่คิดเองกันไปฝ่ายเดียว

"หุบปาก และก็ฟัง!!" แค่กๆๆๆเจ็บคอไม่น่าตะเบ็งเสียงเลยกู

"มึงมีสิทธิ์อะไรมาสั่งกู" แหม่พ่อคุณตัวๆกูไม่กลัวมึงหรอกเว้ยไอ้ว๊าก แมร่งอย่านะอย่าให้กูองค์ (บัวขาว) ลงนะมึงเดี๋ยวมีคนตายนะขอบอก

"เออ ถ้าไม่เงียบแล้วจะรู้เรื่องกันไหมห๊า อีกคนก็แหกปากร้องไห้ไม่ฟังอะไร อีกคนก็ตะคอกตะโกนอยู่นั่น เงียบแล้วฟัง!!" อย่าต้องให้มีน้ำโหนะเว้ยเดี๋ยวมีคนเจ็บนะขอบอก "ผมชื่อธูปเป็นพี่ชายฝาแฝดของไอ้เทียน" อ้าวๆทำหน้าเยี่ยงนั่นหมายความว่าไงกันวะ

"นี่อับจนหนทางจนต้องกุเรื่องฝาแฝดขึ้นมาโกหกกันเลยรึไงวะ คิดว่ากูโง่รึไง" เอาจริงๆหน้ามึงก็ไม่ได้ดูโง่ขนาดนั้นอ่ะนะ แต่โทษทีกูพูดเรื่องจริงครับ

"เออ พี่ธูปจริงๆหรอคะ" น้องเค้กเช็ดน้ำหูน้ำตาก่อนจะเดินมาจับแขนจับขาผมแล้วก็.................

"เฮ้ยๆทำไร จะถกเสื้อขึ้นทำไมอะ" คุณน้องครับพี่รู้ว่าพี่หล่ออาจจะหล่อจนน้องอดใจไม่ไหว แต่น้องเค้กครับน้องอย่าปล้ำพี่ครับที่นี่มันโรงพยาบาลนะครับน้องเตียงมันแข็งนะครับไม่มันส์หรอกขอเตียงนุ่มๆเดี๋ยวพี่จัดให้แบบเต็มสตีทเลยครับ เอ๊ย!!ไม่ใช่นอกประเด็นแหละกูนั่นมันเมียน้องนะโว้ยไอ้ธูป ท่องไว้เมียน้องๆ

"ไม่ใช่พี่เทียนจริงๆด้วย" อะไรวะบทจะเชื่อก็เชื่อโคตรจะง่ายเลย งงครับคนหล่องง

"หมายความว่าไงยัยเค้ก" เออ หมายความว่าไงวะ ไอ้ธูปก็งง

"ก็พี่เทียนเค้า เอิ่ม....คือ" คุณน้องจะบิดอีกนานไหมครับ เขินหัวนมสีชมพูของพี่เหรอครับน้องจ้องตาไม่กระพริบเลย

"เค้าอะไรล่ะครับไม่พูดแล้วผมจะรู้ไหม" ผมเร่งน้องเค้กที่ยังยืนบิดแขนบิดขาตัวเองจนจะกลายเป็นเกลียวอยู่แล้ว หัวนมกูมันมีอะไรให้เขินวะ ถึงมันจะไม่ชมพูเท่ามาริโอ แต่มันก็ไม่เห็นจะแปลกตรงไหนนี่หว่า

"คือ พี่เทียนเค้าจะสักคำว่า 'ผู้ชายของเค้ก' เป็นภาษากรีกตรงอกซ้ายอ่ะค่ะ แต่นี่ไม่มีก็แปลว่าเป็นพี่ธูปไม่ใช่พี่เทียน" น้องผมมันทำอะไรปัญญาอ่อนแบบนั้นเป็นด้วยเหรอวะ น้ำเน่าวะ แหวะ กูเลี่ยนอ้วกจะแตก

"ถ้ามึงไม่ใช่ไอ้เทียนแล้วทำไมมึงไม่บอกตั้งแต่แรกวะ" กูมีโอกาสบอกไหมละครับไขประตูเข้าบ้านได้ก็เจอตีนประเคนใส่หน้าทันทีเลยกูจะเอาเวลาไหนมาอธิบายล่ะครับ

เออพูดถึงเรื่องนี้แล้วก็ลืมเลย

พวกมันเข้าบ้านผมได้ไงวะ

"แล้วรอให้อธิบายไหมล่ะครับ เออแล้วอีกอย่างนะคุณเข้ามาในบ้านผมได้ไง" ผมถามมันกลับไป แต่ไอ้อดีตพี่ว๊ากมันแค่ยักไหล่ไม่สนใจคำพูดของผมแม้แต่นิดเดียว มารยาทต่ำเตี่ยเรี่ยดินสุดๆ ธูปรับไม่ได้อ่ะขอบอก

"แล้วน้องมึงมันไปไหน" ไม่ขอโทษไม่พอ มันยังไม่ตอบคำถามผมสักคำแถมยังถามในสิ่งที่ผมไม่รู้อีกต่างหาก

"จะรู้ไหมครับก็อยู่ด้วยกัน" ผมไม่ได้มีญาณทิพย์นะครับใช้สมองคิดนิดนึง สมองมีควรใช้ให้เกิดประโยชน์บ้างนะครับไม่ใช่ใช้กำลัง (คิดในใจเงียบๆคนเดียว พูดออกไปตอนนี้อาจอาการหนักกว่าเดิม)

"เป็นแฝดกันยังไงวะน้องมึงไปไหนดันไม่รู้" แล้วทีคุณล่ะครับน้องสาวไปออกแบบลูกในท้องกับน้องชายผมจนท้องป่องออกมาแล้ว คุณยังไม่ทราบเลยนะครับมาว่าแต่คนอื่นช่วยดูตัวเองด้วยนะครับ

"ผมไม่ใช่แฝดสยามอินจันนะครับตัวจะได้ติดกัน"

"หึ ปากดีนะมึง งั้นระหว่างที่รอไอ้เทียนมันกลับมา มึงต้องไปอยู่บ้านกูเพื่อรับผิดชอบเรื่องนี้"

"เฮ้ย!!ได้ไงผมไม่ใช่พ่อเด็กนะคุณแล้วทำไมผมต้องไปอยู่บ้านคุณด้วยเล่า" โวยวายสิครับงานนี้ไอ้ธูปสู้ตาย อยู่ดีๆจะให้ผมหอบผ้าหอบผ่อนไปอยู่บ้านคนอื่นเนี่ยนะ บ้านผมก็มีจะไปอยู่บ้านคนอื่นทำไมล่ะครับ


"มึงไม่สิทธิเถียง น้องมึงทำน้องกูท้องแล้วยังหายหน้าไปอีก ดูก็รู้ว่ามันกำลังหนีความรับผิดชอบ" ไอ้อดีตพี่ว๊ากมันขยับเข้ามาใกล้ผมที่นอนอยู่บนเตียง "ดังนั่นมึงต้องรับผิดชอบ ไม่งั้นกูเอามึงตายแน่ๆ" คือกูถามหน่อยเถอะว่ากูผิดอะไรวะเนี่ย

"ผมไม่เกี่ยว"

"มึงจะไม่รับผิดชอบว่างั้น" มึงจะกระชากคอเสื้อกูเพื่ออะไรครับกูหายใจไม่ออก

"พี่พายอย่าทำอะไรพี่ธูปนะคะ" น้องเค้กพยายามช่วยผมโดยการแงะมือไอ้พี่พายที่กำคอเสื้อผมอยู่ กูหายใจไม่ออกปล่อยกู โอ๊ย!!ตายๆงานนี้ไอ้ธูปตายครับ

"แค่กๆๆๆ" กูไปอยู่บ้านมึงกูมองเห็นอนาคตอันรำไรขอกูเลยวะว่ากูต้องเจออะไรบ้าง ขนาดอยู่บ้านกูเองมึงยังตืบกูซะเละเป็นโจ๊กถ้ากูไปอยู่บ้านมึงกูไม่ตายคาตีนมึงตั้งแต่วันแรกที่ไปอยู่เลยเหรอวะ 

"พี่พายปล่อยพี่ธูปนะคะ พี่พายทำร้ายพี่ธูปจนเข้าโรงพยาบาลนอนหยอดน้ำข้าวต้มจะตายแหล่ไม่ตายแหล่ขนาดนี้แล้ว คำขอโทษสักคำพี่พายยังไม่พูดเลย แล้วนี่ยังจะมาทำร้ายพี่ธูปอีกเค้กไม่ยอมนะ" เออ ใช่ๆๆมึงยังไม่ได้ขอโทษกูเลยนะ กระทืบกูซะเกือบจะไปเกิดใหม่ขนาดนี้แล้ว ขอโทษกูมาซะดีๆกูรอฟังอยู่

พี่ชายของน้องสะใภ้ผมมันหันหน้ามามองผมก่อนจะพูดออกมา "ทำไมพี่ต้องขอโทษมันด้วยไม่จำเป็น"

"อ้าวคุณทำไมพูดจาแมวๆอย่างนี้วะ คุณพาพวกมากระทืบผมถึงบ้านแล้วไม่คิดจะขอโทษกันเลยหรอ ผมแจ้งความข้อหาบุกรุกได้นะครับ" จี๊ดเลยกูจี๊ดเลย

แมร่งถ้าไม่ติดว่ากูนอนให้น้ำเกลืออยู่นะ มึงโดนกูเตะยอดหน้าไปแล้วอย่าๆไม่อยากจะคุยนะโว้ยนี่ไอ้ธูปศิษย์บัวขาวนะครับไม่ใช่ขี้หมูขี้หมานะครับขอบอก

"แล้วทีน้องมึงทำน้องสาวกูท้องล่ะ กูยังไม่เห็นมันมาขอโทษน้องสาวกูเลย แล้วทำไมกูต้องขอโทษมึงด้วยวะ เออแล้วกูจะแจ้งความจับน้องมึงก็ได้นะเพราะน้องกูยังไม่ 20 ^^" ขู่ตลอด เก่งแต่กับกูอ่ะ ลืมอะไรไปรึเปล่าว่าเรื่องนี้กูไม่เกี่ยวไงทำไมคุณเข้าใจอะไรยากจังครับ 

"คุณฟังนะผมไม่ได้ทำน้องเค้กทะ...." ผมกำลังอธิบายแต่ไอ้พี่พายมันก็พูดตัดบทขึ้นมาก่อน

"กูไม่ฟังถ้าอยากให้กูขอโทษมึงก็ตามตัวไอ้เทียนมา ถ้ากูเอาเลือดหัวมันมาล้างตีนกูไม่ได้กูก็ไม่มีวันขอโทษมึง จำเอาไว้" งานช้างเลยกูแล้วผมจะไปตามไอ้เทียนมันที่ไหนวะเนี่ย ไอ้เทียนมึงไปอยู่ที่ไหนวะรีบกลับมาสักทีเหอะพี่ธูปขอร้อง กูจะตายอยู่แล้ว

"ถ้าพี่เทียนกลับมาพี่พายห้ามทำอะไรพี่เทียนเด็ดขาดเพราะพี่พายกระทืบพี่ธูปไปแล้วถือว่าหายกันไปถ้าพี่พายทำพี่เทียนเค้กจะงอนพี่พายจริงๆด้วย" อ้าวน้องเค้กทำไมพูดจาหมาๆอย่างนี้ล่ะครับ สรุปงานนี้ไอ้ธูปโดนตีนคนเดียวทั้งขึ้นทั้งล่องอ่ะดิ ความยุติธรรมมันอยู่ที่ไหนครับ แล้วคำขอโทษชาตินี้กูจะได้ยินจากปากไอ้พี่พายมันไหมเนี่ย โฮกกกกกกเรื่องนี้กูเกี่ยวอะไรด้วยวะ

ไอ้อดีตพี่ว๊ากมันแค่เหลือบสายตามองหน้าน้องสาวมัน ก่อนจะหันมาสนใจผมที่นอนพะงาบๆอยู่บนเตียงดังนั้นผมจึงเลือกพูดสิ่งที่อยู่ในใจ

"คำขอโทษมันพูดยากมากเลยรึไงวะ" ก็แค่คำขอโทษสองคำมันพูดยากมากเลยเหรอครับ คนทำผิดก็ต้องขอโทษมันเป็นสิ่งที่ไม่ต้องมีใครเค้าบอกแต่เรารู้ได้ด้วยจิตใต้สำนึก ซึ่งผมคิดว่าไอ้พี่พายมันไม่มี หรือจิตใต้สำนึกมันอาจจะติดลบจนไม่สามารถรับรู้ว่าต้องทำไงเวลาทำความผิด นี่มันปัญหาสังคมเลยนะครับเนี่ย ท่านนายกต้องเอาเข้าสภาเพื่อให้เป็นวาระแห่งชาติที่ต้องรีบแก้ไขด่วนๆเลย ไอ้ธูปขอร้อง

"เปล่าแต่กูไม่พูดเองมีไรป่ะ" คนแบบนี้ก็มีด้วยวุ้ย แมร่งโลกนี้มันอยู่ยากเกินไปล่ะ

"ก็ผมไม่ได้ทำน้องมึงท้องนี่ครับ แล้วมึงพาพวกมากระทืบผม มึงก็ควรขอโทษผมนะ" กูไม่มีส่วนร่วมใดๆเลยนะเนี่ยทำไมต้องมารับกรรมคนเดียววะ

"น้องมึงก็ทำเหมือนกันนั่นแหละ" เหมือนตรงไหนวะ กูไม่ได้ซั่มด้วยเลยนะครับ แมร่งถ้าไม่ติดว่ากูนอนให้น้ำเกลืออยู่นะ มึงเจ็บบอกเลย

"พอค่ะพอ หยุดเถียงกันได้แล้ว" น้องเค้กเอ่ยปากห้ามทัพขึ้นเมื่อเห็นว่าผมและไอ้อดีตพี่ว๊ากไม่มีท่าทีจะยอมความกัน

"พี่ธูปคะ" น้องเค้กหันมายิ้มหวานให้ผม รอยยิ้มที่ผมเห็นแล้วเสียวสันหลังวาบ ตาขวากระตุก รู้สึกถึงลางร้ายแปลกๆ "พี่ธูปไปอยู่บ้านเค้กนะคะ เพราะเค้กต้องการให้ลูกเห็นหน้าพ่อ ถึงพี่เทียนจะหายไปแต่เห็นพี่ธูปที่หน้าเหมือนกัน เค้กจะได้มีกำลังใจ^^"  ดูรูปไอ้เทียนเอาก็ได้นะครับน้องเค้กมันคงคล้ายๆกัน

"เอิ่ม คือ" ผมกำลังจะปฏิเสธ

"ไม่ต้องเอิ่มแล้วค่ะ ตกลงตามนี้นะคะ อย่าให้เค้กเครียดนะเพราะมันมีผลกับลูกในท้องเค้ก หลานพี่ธูปเลยนะ เค้กไม่อยากให้ลูกเกิดมาเอ๋อนะคะพี่ธูป น้าๆๆ" แค่แม่เครียดนี่ลูกถึงกับเอ๋อเลยเหรอวะ มันร้ายแรงขนาดนั้นเลย ทำไมตอนเรียนกูถึงไม่เคยรู้เลยว่ะ หรือชั่วโมงนั่นกูโดด

เอาวะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เพื่อหลานธูปยอมเสี่ยงตาย

"ครับ พี่ไปอยู่บ้านน้องเค้กก็ได้ครับ" เพื่อหลานท่องไว้ไอ้ธูป เพื่อหลาน

"เย้ น่ารักที่สุดค่ะ" น้องเค้กยิ้มหวานให้ผมก่อนจะเดินออกไปโทรศัพท์ ทิ้งให้ผมอยู่กับไอ้อดีตพี่ว๊ากสองต่อสอง

ผมมองไอ้อดีตพี่ว๊ากที่จ้องหน้าผมอยู่ก่อนแล้ว มันทำหน้านิ่ง นิ่งเสียจนทำเอาผมใจเสียพอจ้องหน้าผมหน่ำใจมันแล้ว ไอ้อดีตพี่ว๊ากก็ยกมือมันขึ้นก่อนจะทำท่าปาดคอตัวเองและเดินออกจากห้องไป
คือใครก็ได้บอกธูปที ว่าการไปอยู่บ้านน้องเค้ก ไอ้ธูปคนนี้จะไม่ตายก่อนแก่ใช่ไหมครับ ผมเริ่มหวั่นใจว่าจากนี้ไปผมที่ต้องไปอาศัยอยู่บ้านน้องเค้กคราวนี้จะทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไป


ม่ายยยยยยยย ไอ้เทียนมึงอยู่หนายยยยยยยยยยย มารับผิดชอบลูกเมียมึงที




Talk: ธูปก็ยังคือธูปไม่ว่าจะรีไรท์กี่รอบๆมันก็ยังเอ๋อๆเหมือนเดิม ตัวละครบางตัวนิสัยอาจจะเปลี่ยนไปเพราะมันจะไปเชื่อมกับอีกเรื่อง (ที่ยังไม่ได้เปิดเรื่อง) นะคะ ชอบไม่ชอบก็เม้มบอกกันได้นะ พี่พายอาจจะไม่โหดเหมือนตอนแรกๆนะคะ (หราาาาาา)





ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
นี่ไม่โหดเลยยยยย 55555
ถนอมว่าที่เมียแกหน่อยสิอิพี่พาย ชิ

ออฟไลน์ naoai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-5
พี่อีเค้กนี่ตรรกะป่วยดีจริง ธูปไม่แจ้งความละข้อหาบุกรุกและพยายามฆ่าละ ดูไม่เมคเซ้นนะ

ออฟไลน์ ❁INDY_FAMILY❁

  • -ทำไมต้องเดินตามรอยเท้าใคร เราสามารถสร้างรอยเท้าของเราเองได้-
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-12
ผมไม่ใช่พ่อเด็ก
ตอนที่ ๒ วันแรกก็โดนซะแล้ว ตายแล่ว ตายแล่ว อะไรกันหว่า


นี่คือสถานแห่งบ้านทรายทองที่ฉันปองมาสู่~~~~~~  ถ้ากูมีชะลอมและถักเปียสองข้างนี่พจมานเลยนะครับ อย่าครับอย่าเพิ่งทำหน้าเยี่ยงนั่นกันคือตอนนี้ผมกำลังนั่งอยู่ในบ้านเอิ่มหรือจะเรียกว่าวังจุฑาเทพดีวะ เออนั่นแหละสรุปคือพอผมออกจากโรงพยาบาลพี่ชายน้องสะใภ้ผมมันก็บังคับ(ลาก)ให้ผมมาอยู่บ้านมันโดยที่มันไม่ฟังคำร้องขอของผมเลยสักนิดแมร่งต้องเป็นญาติกับฮิตเลอร์แน่ๆเผด็จการเป็นที่หนึ่ง

"มากันแล้วเหรอ" เสียงอันทรงพลังเอ่ยขึ้นทำให้ผมรีบหันไปมองว่าใครเป็นคนพูด และผมก็เห็นผู้ชายอายุประมาณห้าสิบปลายๆท่าทางน่าเกรงขามโคตรๆ(แต่หล่อเวอร์มากอายุขนาดนี้ยังหล่อไม่ต้องคิดเลยครับตอนหนุ่มๆจะขนาดไหน)ข้างๆกันนั่นก็มีผู้หญิงอายุน่าจะประมาณสี่สิบหรือห้าสิบต้นๆยืนอยู่คู่กัน(สวยมากๆครับ)พร้อมด้วยมนุษย์ชุดดำที่ยืนล้อมหน้าล้อมหลังคนทั้งคู่อยู่เต็มไปหมด

"เฮ้ย!!พวกมึงถอยห่างๆกูหน่อยได้ไหมวะ อยู่ในบ้านกูเองไม่ต้องอารักขากูขนาดนี้ก็ได้มั้ง!!" มนุษย์ชุดดำแตกหือทันทีเมื่อเสียงอันทรงพลังนั่นเอ่ยขึ้น ผมรู้แล้วว่าพี่ชายน้องสะใภ้ผมมันชอบว๊ากเหมือนใครเชื้อไม่ทิ้งแถวจริงๆ ทั้งคู่เดินมานั่งที่โซฟาฝั่งตรงข้ามผมและน้องเค้กนั่งอยู่ส่วนไอ้พี่พายมันยืนค้ำหัวผมอยู่ครับ สงสัยลมมันเย็นมันถึงไม่ยอมนั่ง


"สะ สวัสดีครับ" ผมยกมือไหว้พ่อแม่น้องเค้กทันทีเยี่ยงคนที่มีมารยาทือแบบว่าบุพการีผมสั่งสอนมาดีอ่ะครับ ไม่คลานเข่าเข้ามาก็บุญแล้วล่ะ เหอๆๆ

"ไหว้พระเถอะจ้ะ เรานะเหรอคนที่ทำลูกสาวฉันท้อง" ผมรีบส่ายหัวจนคอแทบหลุด แค่เจอตัวลูก (ชาย) ไอ้ธูปก็นอนหยอดน้ำข้าวต้มแล้ว นี่ตัวพ่อมาเองผมไม่เตรียมต่อโลงนอนเลยเหรอครับ น้ำเสียงสีหน้าท่าทางมาเฟียฝุดๆเลยอ่ะ

"ไม่ใช่ค่ะคุณป๊า นี่พี่ธูปพี่ชายฝาแฝดของพี่เทียนค่ะ" น้องเค้กอธิบายให้ผู้เป็นพ่อเข้าใจ และช่วยให้ไอ้ธูปรอดจากการโดนยำตีน

"แล้วแฟนเราเค้าไปไหนล่ะทำไมให้พี่ชายมาแทน" คำถามโลกแตกที่ไม่มีใครสามารถตอบได้หลุดออกมาจากปากของสตรีที่นั่งอยู่ข้างๆพ่อของน้องเค้ก แววว่าความซวยกำลังจะวิ่งชนไอ้ธูปอย่างจัง

"มะ ไม่ทราบค่ะเค้กยังติดต่อพี่เทียนไม่ได้เลยอ่ะคุณแม่" น้องเค้กก้มหน้าวางมือประสานกันไว้ที่ตัก สีหน้าเครียดขรึมขึ้นมาทันที 

บรรยากาศมาคุเริ่มเข้าปกคลุมทั่วทุกบริเวณบ้าน แว่วว่าความซวยกำลังคลืบคลานเข้ามาหาไอ้ธูปเป็นหย่อมๆและกำลังกระจายตัวเป็นพายุทอร์นาโดในอีกไม่ช้า

"หมายความว่าไงคะที่บอกว่าติดต่อไม่ได้คุณแม่ต้องการคำอธิบาย" แววความตายกำลังคืบคลานมาหาไอ้ธูปอย่าช้าๆ ดูเหมือนมัจจุราชจะมาเคาะประตูวังจุฑาเทพแล้ว ทำไมกูต้องมารับรู้เรื่องราวพวกนี้ด้วยวะเนี่ย ใช่เรื่องของกูไหมครับ

"คือพี่เทียนหายตัวไปได้สี่วันแล้วค่ะหลังจากที่เค้กบอกพี่เขาว่าเค้กท้อง" ไอ้เทียนมึงไม่กลับมานอนบ้านหลายวันเลยเหรอวะ มึงไปนอนไหนแล้วทำไมกูถึงไม่รู้เรื่อง

"หมายความว่าแฟนเราหนีไม่คิดจะรับผิดชอบลูกสาวป๊างั้นสิ" อย่าสรุปเอาเองแบบนั้นสิครับคุณพ่อ น้องชายผมถึงมันจะติสไปนิดเข้าใจยากไปสักหน่อยแต่มันไม่ทิ้งลูกทิ้งเมียมันแน่ๆอะครับ แล้วนั่นอะไรครับอะไรพวกมนุษย์ชุดดำจะทำอะไรไอ้ธูปครับ ขยับมาใกล้กูทำไมออกไปชิ้วๆๆ

"ห้ามใครทำอะไรพี่ธูปนะคะ แล้วก็ห้ามว่าพี่เทียนของเค้กด้วย" ดังคำประกาศิตมนุษย์ชุดดำถอยร่นออกห่างจากตัวผมทันทีไปยืนข้างหลังตัวพ่อ (มาเฟีย) เมื่อน้องเค้กกางปีกปกป้องผม

"จ้าๆลูกรัก ป๊ายังไม่ได้ว่าอะไรแฟนลูกเลยนะจ๊ะ แล้วป๊าก็ไม่ได้ทำอะไรพี่ชายของแฟนลูกด้วยอย่างอนนะจ๊ะอย่างอนเดี๋ยวมันมีผลกับหลานป๊านะจ๊ะ" ผมรู้แล้วว่าบ้านนี้ใครใหญ่สุดไอ้เทียนมึงนี่มันช่างเลือกจริงๆ ผมนี่ #ทีมน้องเค้ก เลยครับ

"เค้กมีอีกเรื่องที่จะพูด พี่พายเอาลูกน้องไปทำร้ายพี่ธูปถึงบ้านเรื่องนี้คุณพ่อต้องจัดการให้ความยุติธรรมกับพี่ธูปด้วยนะคะไม่งั้นเค้กไม่ยอมจริงๆด้วย" หึๆไอ้พี่พายหน้าซีดไปแล้วครับ 555 สะใจไอ้ธูปจริงๆเว้ย มามะมาขอโทษไอ้ธูปซะดีๆ

"พาย!!ฉันบอกให้แกไปคุยกันดีๆไม่ใช่เอาคนไปทำร้ายเขา แล้วนี่ใครมั้งที่ไปทำร้ายคุณธูปบ้าง!!" ตัวพ่อ (มาเฟีย) ตะโกนด่าตัวลูก (ชาย) ก่อนจะหันไปถามลูกน้องที่ยืนตัวตรงเป็นรูปปั้นกันอยู่ด้านหลัง

"ใครที่ไปทำร้ายคุณธูปออกมายืนเข้าแถวข้างหน้าคุณธูปเดี๋ยวนี้!!" สิ้นเสียงของตัวพ่อพวกมนุษย์ยักษ์ตัวเขียวพร้อมด้วยควายไบสันก็เดินออกมาเข้าแถวด้านหน้าผมกันอย่างพร้อมเพรียงและเป็นระเบียบประหนึ่งทหารที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี

"ป๊าจะทำอะไร" ไอ้พี่พายถามด้วยความสงสัย ครั้งแรกที่ความคิดเราตรงกัน คือไอ้ธูปก็สงสัยแต่ไม่กล้าถาม

"ขอโทษคุณธูปเขาซะ!!" พวกยักษ์ตัวเขียวและควายไบสันจ้องหน้าผมเขม็งจนผมรู้สึกว่าอยากหายตัวไปจากตรงนี้อย่างไว คุณพ่อครับเหมือนคุณพ่อจะหวังดีแต่คุณพ่อกำลังเพิ่มคดีให้ไอ้ธูปอยู่นะครับ ธูปผิดอะไรทำไมต้องมองหน้ากันเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อขนาดนั่น ธูปไม่เข้าใจว่าธูปผิดอารายยยยยยยยยย

"เร็วๆ!!สิวะหรือจะต้องให้ฉันทำให้พวกแกดูก่อน" คุณพ่ออย่าไปเร่งพี่ๆเค้าสิครับ เดี๋ยวความซวยมันจะมาตกอยู่ที่ผม แงๆๆๆอย่ามองหน้ากูอย่างนั่นกูต้องอยู่ที่นี่อีกนานดีๆกันไว้นะครับไอ้ธูปขอร้อง

"ขอโทษครับ!!" คำขอโทษที่เอ่ยออกมาเสียงดังสนั่นลั่นทุ่ง พวกควายไบสันพร้อมด้วยยักษ์ตัวเขียวโค้งคำนับผมอย่างพร้อมเพียงท่าทางมันเหมือนว่าจะสำนึกผิดนะถ้าไม่ติดว่าแววตาที่ส่งมาให้กันนั่นมันเหมือนกับยังอาฆาตแค้นกันแต่ชาติปางก่อน พวกมึงไม่สำนึกผิดจริงๆใช่ไหมครับมองกูเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ ตายงานนี้ไอ้ธูปตายหยังเขียดแน่ๆ

"พี่พายไม่คิดจะขอโทษพี่ธูปบ้างเหรอคะ" น้องเค้กครับดูหน้าพี่ชายน้องด้วยครับจะงับหัวพี่อยู่แล้วครับอย่าหวังดีกับพี่เลยครับน้องเค้กพี่ธูปไม่อยากได้ครับ

"ไม่จำเป็น" ไอ้นี่ก็ไม่สำนึกผิดเลยจริงๆ

"พาย!!" คุณแม่เอ่ยเสียงเรียกลูกชายด้วยน้ำเสียงเย็นๆฟังแล้วขนไอธูปนี่ลุกชูชันประหนึ่งว่ากำลังปวดขี้

"ถ้ายังไม่เจอตัวไอ้เทียน พายก็ไม่ขอโทษมันหรอก พายขอตัวก่อนนะครับ" พูดจบแมร่งเดินออกจากบ้านไปเฉยเลย ทิ้งความงงเอาไว้เบื้องหลัง เจริญล่ะพ่อคุณไอ้ธูปไม่อยากจะคิดเลยว่าใครที่ได้ไอ้พี่พายมันไปเป็นผัวเนี่ยคงจะเหมือนตกนรกขุมที่ลึกที่สุดอ่ะนะ น่าสงสารคนๆนั่นจริงๆ

"ฉันต้องขอโทษแทนลูกชายฉันด้วยก็แล้วกัน ยังไงคุณอยู่ที่นี่ก็ทำตัวตามสบายนะ" กูเกร็งตั้งแต่เหยียบเข้ามาในบ้านแล้วครับ จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่เลิกเกร็งเลยครับไหนจะลูกน้องคุณพ่อและลูกน้องพี่ชายน้องสะใภ้ผมอีกแต่ละคนมองผมเหมือนเป็นกระสอบทรายเดินได้ที่พวกมันพร้อมจะเดินมาเตะมาต่อยผมได้ตลอดเวลา คงทำตัวตามสบายได้หรอกครับคุณพ่อ

"คะ ครับ ไม่เป็นไรครับผมไม่ถือ" เพราะกูหนัก ก๊ากๆๆใช่เวลาเล่นไหมไอ้ธูป
.
.
.
.
.
.
.
"พี่ธูปนอนห้องนี่นะคะ ขาดเหลืออะไรก็เรียกเด็กๆในบ้านได้ทุกคนเลยนะ" น้องเค้กนั่งลงบนเตียงบอกกล่าวอย่างอารมณ์ดี คือพี่คิดว่าถ้าพี่อยู่บ้านนี้พี่ต้องยืนด้วยลำแข้งของตัวเองให้ได้อ่ะครับ เพราะพี่ไม่กล้าเรียกใช้ใครจริงๆหน้าตาแต่ละคน ไอ้ธูปให้สามคำ โหด-โฉด-เถื่อน มากครับใครจะไปกล้าใช้พวกมันวะ

"ขอบคุณครับ เออ น้องเค้กพี่ถามอะไรได้ไหมครับ"

"ได้ค่ะ พี่ธูปจะถามอะไรเค้กหรอคะ"

ผมรวบรวมความกล้าก่อนจะตัดสินใจถามออกไป "อาจจะดูเหมือนว่าพี่ละลาบละล้วงแต่พี่สงสัยอ่ะครับ" ผมถอนหายใจและแสดงสีหน้าว่าลำบากใจจริงๆที่จะเผือกเรื่องนี้ น้องเค้กทำแค่ยิ้มๆและรอฟังคำถามจากผม ผมจึงพูดสิ่งที่คิดออกมาผมลำบากใจจริงๆนะไม่อยากจะเผือกเล๊ย "บ้านน้องเค้กทำอาชีพอะไรกันอะครับทำไมพ่อของน้องเค้กต้องมีคนตามคุมหน้าคุมหลังเยอะแยะไปหมดล่ะครับ" ถ้าทำอาชีพที่ทุจริตไอ้ธูปจะได้ไหวตัวทัน

นี่ล่ะเหตุผลที่ผมเผือก ทั้งหมดก็เพื่อความปลอดภัยของตัวผมเองทั้งนั้น ผมไม่อยากเอาชีวิตที่สดใสและหล่อโคตรๆมาทิ้งไว้ที่นี่หรอกนะ

น้องเค้กส่งยิ้มหวานมาให้ก่อนจะตอบ "อ้อคุณป๊าเค้กเค้าทำธุรกิจหลายอย่างนะคะ ตั้งแต่อสังหา ธุรกิจน้ำมัน ผับบาร์ โรงแรม รีสอร์ท รวมไปถึงปล่อยเงินกู้ด้วยนะคะ แต่ตอนนี้ธุรกิจคุณป๊ากำลังมีปัญหาเพื่อนคุณป๊าโดยลอบทำร้ายตายไปแล้วสองคนพี่พายเลยให้คนมาคุมกันคุณป๊านะคะ แต่พี่ธูปไม่ต้องห่วงนะคะไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกคะ ชิวๆเค้กชินแล้ว" มันชิวตรงไหนว่ะ ไอ้ธูปยังมองไม่เห็นคำว่าชิวในรูปประโยคนั้นเลยอ่ะ ตายไปสองนี่คือชิวเหรอวะ แล้วน้องเค้กชินแต่ถามพี่สักคำไหมครับว่าชิวไหม เวรกรรมอะไรของกูวะเนี่ย

น้องเค้กลุกขึ้นส่งยิ้มหวานมาให้ "เค้กไปหาคุณแม่ก่อนนะคะ เออ!!พี่ธูปหกโมงตรงเป็นเวลาทานมื้อเย็นนะห้ามมาเลทห้ามสายนะ"


"ครับ" น้องสะใภ้ผมออกจากไปห้องไปพร้อมด้วยรอยยิ้มสดใสที่ผมเห็นแล้วต้องยิ้มตามน้องเค้กเป็นผู้หญิงคิดบวกจริงๆครับ น้องดูไม่เครียดไม่ทุกข์ร้อนกับอะไรเลย แต่ในใจน้องเค้กคิดอะไรผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เฮ้ออออ เมื่อไหร่ไอ้เทียนมันจะกลับมาสักทีว่ะเนี่ย

ผมก้มดูนาฬิกาเห็นว่ามีเวลาอีกตั้งสามชั่วโมงงั้นไอ้ธูปขอนอนพักเอาแรงก่อนก็แล้วกันเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ผมทิ้งตัวลงนอนหลังจากจัดการเก็บข้าวของเครื่องใช้ของตัวเองเรียบร้อยแล้ว และพร้อมที่จะเข้าสู่นิทรา


ในความฝันของผม ผมกำลังนอนมองท้องฟ้าสีครามในทุ่งกว้างที่มีมวลดอกไม้สวยงามนานาพันธุ์กลิ่นหอมรัญจวนใจของมวลดอกไม้ทำให้จิตใจของผมสงบ ผมมีอิสระสามารถโบยบินได้ดังเช่นนก ผมมีความสุขที่ได้อยู่กับธรรมชาติ ได้มองต้นไม้ใบหญ้า ท้องฟ้าสีครามสดใสและ........


คลื่นสึนามิ

ซ่า!!


"แค่กๆๆๆ" เชรี้ยในฝันกูไม่มีทะเลนี่หว่าแล้วอะไรแฉะๆเปียกๆตัวกูวะเนี่ยนี่กูกำลังฝันเปียกอยู่เหรอวะ ฉิบหายแล้วไอ้ธูปมึงมีอารมณ์กับดอกไม้หรือนี่ โอ้ว มาย ก็อต ผมสะดุ้งตื่นจากความฝันทันทีที่ร่างกายของผมได้สัมผัสกับความแฉะและเปียก พอลืมตาขึ้นมาก็เห็นไอ้พี่พายยืนทำหน้าทะมึนใส่ผมพร้อมกับหลักฐานในมือมันที่มาของฝันเปียกๆของผม เพราะมันคือกะละมังนั่นเอง ฝันดีของกูถูกมึงพรากไปด้วยน้ำในกะละมังเหรอเนี่ย

ม่ายยยยยไอ้ธูปไม่ยอม

"มึงสาดน้ำใส่ผมทำไม" สงกรานต์แล้วเหรอวะ ผมรีบลุกจากเตียงไปยืนเผชิญหน้ากับไอ้คนที่มันบังอาจมาทำลายความฝันอันสวยงามของผมให้กลายเป็นฝันเปียก(ที่เปียกไปทั้งตัว)

"กูปลุกมึงแล้วมึงไม่ตื่นเองช่วยไม่ได้" ช่วยไม่ได้อะไรคือช่วยไม่ได้วะ ไอ้ธูปไม่เข้าใจ

"แล้วมาปลุกทำไมวะ"

"ก็มันได้เวลากินข้าวแล้วและทุกคนเขาก็รอมึงอยู่คนเดียว มาอาศัยบ้านเขาอยู่ก็หัดเกรงใจบ้างนะต้องให้เจ้าของบ้านมารอเสียมารยาท" เป็นชุดมาเป็นสึนามิเลยเลยมึงแล้วเข้าใจอะไรผิดเปล่าวะกูไม่ได้อยากมามึงอ่ะบังคับให้กูมากูไม่เต็มใจเลยขอบอก

"รู้จักคำว่ามารยาทด้วยเหรอครับ" กวนตีนวันละนิดจิตไอ้ธูปแจ่มใส

"มึงกล้าว่ากูเหรอห๊า!!" จะตะคอกทำไมวะอยู่ใกล้กันแค่นี้

"ว๊ากกกกกกกกก" ตั้งหลักได้ก็วิ่งหนีเข้าห้องน้ำอย่างไว ขืนยืนอยู่อาจจะได้กินอย่างอื่นนอกเหนือจากข้าว
.
.
.
.
.
.
.
หลังจากมื้อค่ำที่แสนจะวุ่นวายผ่านพ้นไปเพราะคุณพ่อคุณแม่ไอ้พี่พาย เล่นยี่สิบคำถามกับผมจนตอบแทบไม่ทันทำเอาปวดเศียรเวียนเกล้าไมเกรนขึ้นกันเลยทีเดียว และตอนนี้ถึงเวลาที่ผมจิตตกนรกแตกเพราะผมกำลังยืนอยู่ในห้องของไอ้พี่พายโดยมีคุณพ่อคุณแม่และน้องเค้กมาส่งถึงห้อง คิดไปคิดมามันเหมือนมาส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าห้องหอเลยวะ เฮ้ย!!ไม่ใช่แหละไอ้ธูปมึงคิดอะไรอยู่เนี่ย สยองสัดๆ

และเหตุผลที่ผมมายืนเอ๋ออยู่ในห้องไอ้พี่พายก็เพราะว่าไอ้พี่พายมันสาดน้ำใส่ผมซึ่งนอนหลับฝันดีอยู่บนเตียงนุ่มๆดังนั่นเตียงที่ผมนอนอยู่มันก็เปียกน้ำจนไม่สามารถนอนได้และคุณพ่อไอ้พี่พายก็เลยลงโทษไอ้พายด้วยการให้ผมไปนอนกับมัน ฆ่ากูเถอะครับถ้าจะลงโทษกันด้วยวิธีนี้ ไม่ถามสุขภาพผมสักคำมาถึงก็ยัดเยียดกูให้ไอ้พี่พายมันซะงั้น นรกเถอะครับ

ห้องมีเหลืออีกตั้งหลายห้องทำไมต้องให้ไอ้ธูปมานอนกับไอ้ตัวอันตรายอย่างพี่พายมันด้วยครับ ธูปไม่เก็ตอ่ะ ธูปไม่ว๊อน แมร่งไอ้เทียนมึงนะมึงเพราะมึงตัวเดียวชีวิตกูเลยต้องเป็นอย่างนี้เกิดมาดูโลกจนอายุครบ20ปีบริบูรณ์ไอ้ธูปยังไม่เคยร่วมเตียงเคียงหมอนกับผู้ชายแปลกหน้าคนไหนเลย (แต่ผู้หญิงแปลกหน้าไอธูปก็ผ่านมาหมดแล้วนะครับ แต่หน้าแปลกไอธูปไม่ว๊อน) แล้วทำไมคนแรกที่ได้เปิดซิงในการนอนร่วมเตียงกับผู้ชาย (แปลกหน้า) ถึงเป็นไอ้พี่พายไปได้วะพี่พายผู้ชายอันตรายที่เหนือคำบรรยาย ตายไอ้ธูปขอลาตาย ณ บัดนาว


ชีวิตหลังจากนี้ของไอ้ธูปคงไม่ได้รู้จักคำว่าสงบสุขอีกแล้วละครับทุกท่าน

ผมทำใจอยู่พักใหญ่ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้อง ไม่ลืมหันกลับไปยิ้มขอบคุณในความเมตตา กรุณา อุเบกขาที่ไอ้ธูปคนนี้ได้รับจากทั้งสามคนโดยที่ไอธูปไม่ต้องการเลยสักนิด ยิ้มกันทำไมครับไอ้ธูปดูเหมือนดีใจขนาดนั้นเลยรึไง โอ๊ย!! นรกรออยู่ตรงหน้าแล้วไอ้ธูปเอย ตายแน่นอนหมอลักษณ์ไม่ต้องมาฟันธงไอ้ธูปก็รู้ตัว ปีนี้ปีชงกูรึไงวะเนี่ย

"มึงจะยืนเอ๋ออีกนานไหมวะกูง่วงนอนแล้วนะโว้ย!!" ไอ้พี่พายอดีตพี่ว๊ากเก่าแหกปากถามผมทันทีเมื่อมันเห็นว่าผมปิดประตูห้องเรียบร้อยแล้วแต่ยังยืนทำใจอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน

"จะตะโกนทำไมอยู่กันแค่นี้" ขอให้กล่องเสียงมึงอักเสบทีเถอะ สาธุ ผมเดินอาดๆอย่างมาดมั่นเพื่อขึ้นไปนอนบนเตียงขนาดใหญ่เวอร์ๆของไอ้พี่พายแต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ล้มตัมลงนอนเสียงไอ้อดีตพี่ว๊ากเก่าก็แหกปากร้องซะดังลั่นห้อง

"เฮ้ย!! มึงขึ้นมาบนเตียงกูทำไมลงไป๊!!" ไอ้พี่พายแหกปากร้องเสียงดังพร้อมกับฝ่าตีนอุ่นๆที่ไอ้ธูปแสนจะคุ้นเคยพุ่งตรงเข้าที่กลางดวงใจตรงอกข้างซ้ายของไอ้ธูปแบบพอดีเป๊ะมิใช่ลูกศรจากคิวปิคแต่อย่างใดกรุณาอย่าจิ้นกันไปไกลเพราะความจริงนั่นไซร์มันคือส้นตีนอุ่นๆของไอ้พี่พายมนุษย์เหนือโลกคนนี้นี่เอง


"โอ๊ย!!" ไอ้พี่พายมันถีบผมตกจากเตียงนอนอันแสนนุ่มมาสู่พื้นอันแข็งโป๊กตูดกูจะระบมก็งานนี้ล่ะครับแมร่งถีบมาได้อย่างแรงเลยริชซี่กูจะแตกไหมเนี่ย ทำไมมึงชอบใช้ความรุนแรงจังวะหรือว่ามึงเป็นพวกลัทธิคลั่งความรุนแรงเออะอะใช้แต่กำลังกูจะช้ำในตายก่อนจะเห็นหน้าหลานไหมครับเนี่ย


"มึงถีบผมทำไมเนี่ย!!" ผมรีบลุกขึ้นยืนก่อนจะตะโกนถามไอ้พี่พายด้วยใบหน้าที่เหยเกเพราะอาการเจ็บแปลบๆที่ช่วงล่างที่ผมเพิ่งถูกไอ้พี่พายมันทำร้ายร่างกายมาหมาดๆ แต่ผมต้องแอ๊บเนียนทำเป็นว่าไม่เจ็บเพราะเดี๋ยวไอ้พี่พายมันจะได้ใจ

เจ็บสัดๆTT_TT

"มึงจะตะโกนทำไมอยู่กันแค่นี้!!" โอ๊ยมึงจะโหดไปไหนคร้าบพี่น้องครับ  แค่นี้กูก็ขี้หดตดหายแล้ว ว่าแต่คำพูดเมื่อกี้มันของกูนะครับ

"ทีมึงยังตะโกนใส่กูได้เลยแล้วทำไมกูจะทำมั้งไม่ได้วะ" มารยาทอันดีงานที่ไอ้ธูปมีวันนี้ไอ้ธูปขอพับเก็บเอาไว้ก่อนแล้วกันนะครับ หึๆกับไอ้คนๆนี้ผมว่าไม่มีความจำเป็นที่ผมต้องพูดจาดีๆด้วยหรอกครับดังนั่นไอ้ธูปของัดวิชาสถุนลุนชาติที่ได้ศึกษามาจากเหล่าเพื่อนๆขอเอามาใช้กับไอ้พี่พายก่อนก็แล้วกัน

"ไอ้สัดมึงกล้าเถียงกูเหรอ อย่าอยู่เลยมึง" ไอ้พี่พายพุ่งมาหาผมเพื่อที่จะฝากรอยเท้าของมันเอาไว้ที่ร่างกายผม (อีกครั้ง) มันคงคิดจะเอาฝ่าเท้ามานวดผมเพื่อให้หลับฝันดีด้วยการใช้ส้นตีนนวดตามลำตัวและใบหน้าของผมแน่ๆเป็นวิธีการส่งเข้านอนในแบบฉบับของไอ้พี่พายที่ผมไม่ต้องการ ว๊ากกกกก พ่อแก้วแม่แก้วช่วยไอ้ธูปด้วยยยยคร้าบบบบบ

ผมวิ่งหนีตีนของไอ้พี่พายรอบห้องปากก็ตะโกนถามคำถามโง่ๆออกไป "มึงไม่ให้กูนอนที่เตียงแล้วมึงจะให้กูไปนอนที่ไหนวะ" กูหอบจะแดกแล้วนะมึงเชรี้ยกูไม่อยากออกกำลังกายก่อนนอนนะครับไอ้พี่พายมึงจะแรงควายไปไหนเนี่ยเหนื่อยบ้างเพลียบ้างเหอะธูปขอร้องตูดธูปยังเจ็บจากการกระทำของคุณพี่อยู่เลยนะครับ

"โน้นที่นอนของมึง" ไอ้พี่พายมันหยุดวิ่งไล่เตะผมแล้วนิ้วชี้ของมันก็ชี้ไปที่โซฟาเบดตัวใหญ่ พ่องมึงเถอะครับโซฟาเนี่ยนะ มึงจะให้กูซึ่งมาอยู่ในบ้านนี้ในฐานะพี่ชายฝาแฝดของสามีน้องสาวมึงที่ควบอีกตำแหน่งนึงก็คือลุงของลูกในท้องน้องสาวมึง (งงกันไหมครับ) ไปนอนที่โซฟาเนี่ยนะโหดร้ายมาก ฐานะที่กูมีกูต้องนอนเตียงเท่านั่นโว้ย!!

"เตียงออกจะกว้างนักฟุตบอลมานอนได้ทั้งทีมยังไม่เบียดกันเลย กูก็ไม่ได้ตัวใหญ่อะไรมากมายทำไมกูต้องไปนอนที่โซฟาด้วยวะ" อย่าว่าแต่นักฟุตบอลทั้งทีมเลยครับผมให้คนดูทั้งสนามมานอนบนเตียงมันก็เถอะแมร่งยังเหลือที่อ่ะ แล้วมันจะห่วงพื้นที่บนเตียงหาสวรรค์วิมานอะไรวะ

และไอ้พี่พายก็บอกเหตุผลที่โคตรจะฟังไม่ขึ้นในการที่มันไม่ยอมให้ผมได้นอนร่วมเตียงเคียงหมอนกับมัน "กูไม่เคยนอนกับใครกูไม่ชิน" ไอ้พี่พายครับมึงพูดซะกูจิ้นไปไหนต่อไหนแล้ว กูแค่มาอาศัยนอนหลับไม่ใช่หลับนอนกับมึงนะครับ มึงคิดไปไหนเนี่ยไอ้พี่พาย บรึ๊ย~~~ แค่คิดไอ้ธูปก็สยองแล้วครับ

"คือกูก็ไม่เคยนอนกับผู้ชาย (แปลกหน้า) เหมือนกัน ดังนั่นก็ถือว่าต่างคนต่างเปิดซิงเรื่อง (นอนหลับ) บนเตียงของกันและกันนะกูไม่ถือ" ไหนๆก็ต่างคนต่างไม่เคยก็ถือซะว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ๆในชีวิตก็แล้วกันไอ้พี่พายได้ผมเป็นผู้ชายคนแรกที่ยอมเสียสละตัวเองเพื่อนอนร่วมเตียงเคียงหมอนกับมัน ผมเองก็ได้นอนที่นอนนุ่มๆสบายๆดังนั่นผมจะถือว่าวิน-วินกันไปไอ้ธูปไม่ซีอยู่แล้วครับ ขอแค่คืนนี้ผมได้นอนเตียงนุ่มๆสบายๆแค่นี้ไอ้ธูปก็พอใจแล้วครับ

"แต่กูถือ ดังนั่นมึงไปนอนที่โซฟานั่นแหละดีแล้ว เอออย่าสะเออะมานอนเตียงเดียวกับกูเด็ดขาด" สัดกูนึกว่ามึงจะเป็นคนที่เข้าใจอะไรง่ายๆนะไอ้พี่พาย

"......." ยืนสตั้นไปสามวิ ไอ้ธูปเงิบแดกครับงานนี้ตกลงกูต้องไปนอนที่โซฟาจริงๆใช่ป่ะเนี่ย





TALK: ตอนนี้เรื่อยๆนะคะตามสไตล์ชีวิตของธูป อย่าเพิ่งเกลียดพี่พายนะ พี่พายน่ารักนะเออ (ตรงไหน) เรื่องนี้ไม่ค่อยสาระอะไรนะคะ อ่านไปก็คิดเสียว่าตามติดชีวิตมนุษย์แปลกๆกลุ่มหนึ่งแล้วกันนะ

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ฮิตเลอร์พาย 55555
ชื่อแกไม่ได้ทำให้วิญญาณว๊ากเกอร์หลุดออกจากร่างใช่มะ 5555

ออฟไลน์ naoai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-5
ธูปสู้คนอีกนิดท่าจะมัน แล้วพอฟักพอเหวี่ยงกับพายนี่แจ่มสุดๆ

ออฟไลน์ ❁INDY_FAMILY❁

  • -ทำไมต้องเดินตามรอยเท้าใคร เราสามารถสร้างรอยเท้าของเราเองได้-
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-12
ผมไม่ใช่พ่อเด็ก
ตอนที่ ๓ เรื่องบนเตียง


"เอ๊านี่หมอนกับผ้าห่ม" ไอ้พี่พายมันยังอุตส่าห์มีน้ำใจโยนหมอนกับผ้าห่มมาให้ผม แต่มึงช่วยโยนมาให้ถึงตรงที่กูยืนอยู่ได้ปะวะ แมร่งที่แหกปากพูดเนี่ยเสียงดังไปสามสี่จังหวัด ที่เวลากระทืบกูเนี่ยแรงดีเหมือนพลังช้างสาร แต่พอเวลาโยนหมอนโยนผ้าห่มให้กูเนี่ยแรงมึงไปไหนหมดวะ

"ชิส์!!" ผมเดินไปหยิบหมอนกับผ้าห่มที่ไอ้พี่พายมันโยนลงมาที่พื้นใกล้ตีนมันนั่นแหละครับ ก่อนจะเดินคอตกไปที่โซฟาแต่ผมยังไม่ลืมที่จะหันไปสะบัดบ๊อบใส่ไอ้พี่พาย (ท่าทางมึงเมะมากไอ้ธูปเมะมากๆ) ที่ยืนทำหน้าสะใจใส่ผมอยู่ ฝากไว้ก่อนเถอะมึง

ไอ้ธูปยังขอย้ำคำเดิมว่ามึงเผลอเมื่อไหร่กูจะปีนขึ้นเตียงมึงทันที มึงจำไว้เลยนะไอ้พี่พายไอ้ธูปคนนี้นี่แหละที่จะเป็นผู้ชายคนแรกที่นอน (หลับ) ร่วมเตียงเดียวกับมึง อย่าเผลอนะมึงกูจะปีนขึ้นเตียงไปนอน (หลับ) อยู่ข้างๆมึงคอยดู ผมนอนอยู่บนโซฟาพยายามทำจิตใจให้สงบบวกกับพยายามอย่างที่สุดที่จะทำตัวให้เล็กที่สุดในชีวิต โซฟามันจะไปนอนสบายเท่าเตียงได้อย่างไรล่ะครับ ข่มตาลงเริ่มใช้วิธีคลาสสิคที่ทั่วโลกใช้กันเวลานอนไม่หลับ

แกะตัวที่หนึ่ง.......กูยังนอนไม่หลับ

แกะตัวที่ยี่สิบสอง.........กูปวดคอโคตรๆ

แกะตัวที่สามสิบสี่........อาการปวดหลังตามมาติดๆ

แกะตัวที่สี่สิบห้า........ไอ้ธูปอยากนอนเตียงนุ่มๆสบายๆอ่ะ

แกะตัวที่ห้าสิบหก........กูทนไม่ไหวแล้วโว้ย!!

ผมลุกพรวดจากโซฟาก่อนจะสะบัดหัวไปมาสองสามทีและยกมือขึ้นนวดต้นคอเพื่อบรรเทาอาการปวดเมื่อยที่เกิดจากการนอนผิดท่า (?) ก่อนที่สายตาของผมจะจ้องมองที่เป้าหมายซึ่งตอนนี้มันกำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียงที่ผมปราถนาจะได้สัมผัสกับความนุ่มของมันสักครั้ง ผมค่อยๆย่องไปที่เตียงที่ไอ้พี่พายมันนอนหลับอยู่โดยไม่ลืมที่จะหยิบหมอนและผ้าห่มติดมือมาด้วยผมยืนมองมนุษย์เหนือโลกนามว่า 'พาย' ที่ตอนนี้ดูไร้ซึ่งพิษสงไร้ซึ่งความอันตราย ไร้ซึ่งความน่ากลัว เป็นเพียงผู้ชายน่าตาดีธรรมดาๆคนนึงเท่านั้นเอง ไม่อยากจะชมว่ามันหล่อแต่ก็นะหลักฐานคาตาขนาดนี้ไอ้ธูปก็ไม่อยากจะผิดศิลข้อมุสาอ่ะครับ

บนเตียงตอนนี้มีเพียง 'พาย' ผู้ชายธรรมดาที่หน้าตาไม่ธรรมดาเลยสักนิดขนาดที่ผมว่าตัวผมหล่อแบบโคตรพ่อโคตรแม่ขุดโคตรเหง้ากันขึ้นมาหล่อแล้วนะ (ไม่ได้หลงตัวเองนะหลักฐานมันมีอยู่ที่เบ้าหน้าครั้นไอ้ธูปจะปฏิเสธก็ลำบากใจสุดท้ายเลยต้องยอมจำนนต่อหลักฐาน โฮะๆ) แต่พอผมมาเจอกับไอ้พี่พายบอกตรงๆไอ้ธูปดูเป็นมนุษย์ธรรมดาๆที่หน้าตาบ้านๆไปเลย ผมว่าผมสูงแล้วนะ (178) แต่ไอ้พี่พายแมร่งสูงกว่าผมอีกอ่ะ (189) ตอนเด็กๆแมร่งต้องแอบไปกินเสาไฟฟ้าเล่นแน่เลยโตมามันถึงได้สูงขนาดนี้ แล้วดูจมูกแมร่งดิโด่งยังกะยัดซิลิโคลนเข้าไปอย่างนั่นแหละ คิ้วอีกแมร่งจะเข้มไปไหนครับ ตาคมๆดุๆที่ทำเอาประหม่าได้เวลาที่ถูกจ้องมอง ไหนจะริมปากแดงๆที่ดูมีเสน่ห์ (เวลาหลับ) แต่พอตื่นขึ้นมาปากมันก็หมาเหมือนเดิม

มึงมันช่างเป็นมนุษย์ที่พ่อแม่ตั้งใจปั้นจริงๆหน้าตามึงจะดีไปไหนครับพี่น้องครับ หน้าตาดีจนกูดูต่ำต้อยด้อยค่าไปเลย อ้อที่พูดๆมาทั้งหมดเนี่ยไม่ใช่ว่าผมจะหลงเสน่ห์อะไรของไอ้พี่พายมันหรอกนะ ผมแค่อิจฉามันแค่นั่นเองแค่นั่นจริงๆอะไรทำไมทำหน้าไม่เชื่อกันขนาดนั้นล่ะครับ ไอ้ธูปแมนนะครับแมนที่สุดในสามโลกแล้ว ดังนั่นผมจะไปหลงเสน่ห์ไปชอบผู้ชายด้วยกันได้ยังไงครับบ้ารึเปล่าที่พูดมาทั้งหมดก็แค่พูดไปตามเนื้อผ้าพูดไปตามที่ตาเห็นก็แค่นั้นแค่นั่นจริงๆ

พอเถอะพูดมากไปมันก็เหมือนกับแก้ตัวเนอะเอาเป็นว่าผมไม่พูดดีกว่าเสียเวลานอนอันมีค่าของผมหมด หลังจากที่ผมยืนทำใจอยู่นานสองนานผมก็ค่อยๆก้าวเท้าขึ้นไปบนเตียง พยายามทำตัวลีบๆแบนๆเบาๆเพื่อให้เตียงมันยวบลงน้อยที่สุดเพราะผมกลัวไอ้พี่พายมันจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาซะก่อน เพราะถ้ามันตื่นขึ้นมาเห็นผมที่กำลังปีนขึ้นเตียงมันอยู่ล่ะก่อนเชื่อเถอะครับความบรรลัยเกิดขึ้นกับไอ้ธูปแน่นอน

ผมทิ้งตัวลงนอนอีกฝากของเตียงโดยผมพยายามใช้วิชาตัวเบาที่เคยเล่าเรียนมา (?) ทำให้ผมขึ้นมานอนบนเตียงได้โดยที่ไอ้พี่พายมันไม่รู้สึกตัวสักนิดปลื้มใจกับความสามารถของตัวเองจริงๆ อ้าาาา เตียงโคตรจะนุ่มอ่ะคืนนี้ไอ้ธูปหลับฝันดีแน่ๆเลยวะ หลังจากเคลิบเคลิ้มกับความนุ่มสบายของเตียงผมก็เริ่มเข้าสู่นิทราตามล่าหาฝันของตัวเองทันที หวังว่าในฝันของผมคงไม่เจอกับคลื่นสึนามิเหมือนเมื่อตอนเย็นหรอกนะ
.
.
.
.
ผมกำลังฝันดีก็ต้องสะดุ้งตื่น (แต่ไม่กล้าลืมตา) เพราะรู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออกขยับเขยินตัวไปไหนไม่ได้เลยมันรู้สึกเหมือนกำลังถูกรัด เอ๋!!หรือว่าผมโดนผีอำหว่า เชรี้ยแล้วไงไอ้ธูปตอนมาก็ลืมไหว้บอกเจ้าที่เจ้าทางแล้วตอนนอนก็ดันลืมสวดมนต์อีกนี่กูเจอดีตั้งแต่คืนแรกเลยเหรอวะ โหบ้านนี่โหดยันเจ้าที่เจ้าทางเลยเหรอวะเนี่ย แล้วไอ้ธูปจะรับมือไหวได้ยังไงครับเฮี้ยนทั้งคนทั้งผี

"นะโมตัสสะ ภะคะวะโต...." อะไรต่อวะกูจำไม่ได้ สั่นแมร่งไปทั้งตัวแล้วเนี่ย โอ๊ยแล้วไอ้ผีบ้านี่จะรัดกูอีกนานไหมครับกูหายใจไม่ออกเดี๋ยวกูทำบุญไปให้คืนนี้กูขอนอนก่อนได้ไหม

"นอนได้แล้วกูรำคาญ" โอ้วววว วิญญาณมันสามารถสื่อสารกับมนุษย์ได้ด้วยโว้ย ไอ้ธูปสัมผัสได้ว่ามีพลังงานบางอย่างอยู่ใกล้ตัวครับมันใกล้มากใกล้จนไอ้ธูปสัมผัสได้ถึงลมหายใจของมัน เชรี้ยผีที่ไหนมันมีลมหายใจวะ


ผมหรี่ตาขึ้นมามองก็พบกับไอ้พี่พายมนุษย์เหนือโลกที่มันกำลังนอนหลับตาพริ้มอย่างมีความสุขและคงกำลังหลับฝันดี แต่มึงจะมากอดกูทำไมครับ แล้วนั่นอะไรไอ้พี่พายขามึงอยู่ใกล้ขีปนาวุธของกูแล้ว สัญญาณอันตรายบ่งบอกว่ามันเริ่มจะไม่ปลอดภัย ผมเข้าใจแล้วว่าน้องเค้กมันทำไมถึงรัดคอผมได้รุนแรงขนาดนั่นก็เพราะมันมีไอ้พี่พายเป็นไอดอลไงครับ แมร่งชาติก่อนมึงสองคนพี่น้องเกิดเป็นงูเหลือมกันรึไงครับกอดรัดกูแน่นขนาดนี้อ่ะ

"ไอ้พี่พายมึงเขยิบไปหน่อยดิกูอึดอัด" ผมเอามือดันอกไอ้พี่พายให้ออกห่างตัวผมแต่แมร่งไม่ขยับเลยแม้แต่นิดเดียวมึงขี้เซาไปนะกูว่า

"......." ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่กูเรียก


"เขยิบออกไปหน่อยดิกูหายใจไม่ออก" รวบรวมลมปราณทั้งหมดที่มีแล้วจัดการดันไอ้มนุษย์ขี้เซาออกห่างจากตัว แต่สุดท้ายก็เหมือนเดิมมันไม่ขยับเหมือนเดิม  "ไอ้พี่พายปล่อยกู" ดันแมร่งก็แล้วยกขาถีบแมร่งก็แล้วยังไม่ขยับอีกมึงมันไม่ใช่คนไอ้พี่พายมึงมันยักษ์ขี้เซาชัดๆ

หลังจากใช้เท้าดันและใช้มือยันไอ้ตัวโตที่กอดผมอยู่มันก็ไม่กระดิกสักนิดมันยังคงตั้งหน้าตั้งตาหลับอย่างสบายใจและผมก็ละอายแก่ใจไม่กล้าเซ้าซี้มันมากเกินไป จริงๆกลัวมันตื่นมาต่อยผมต่างหากล่ะครับ

"เฮ้อ!!" ผมถอนหายใจอย่างเซ็งๆบวกกับปลงในชีวิตสุดท้ายก็ต้องนอนเป็นหมอนข้างให้ไอ้พายมันกอดทั้งคืน

ชีวิตผมมันเกิดอาเพศอะไรขนาดนี้วะเนี่ย ผมโดนลูกน้องไอ้พี่พายกระทืบปางตาย เหตุเพราะน้องชายฝาแฝดของผมไปทำน้องสาวสุดที่รักของมันท้องป่องและเจ้าตัวมันดันหายเข้ากลีบเมฆตามหาตัวก็ไม่เจอไอ้เทียนมันปิดมือถือติดต่อไม่ได้ มึงจะรู้บ้างไหมว่ามึงทำให้ใครต่อใครเขาเดือดร้อนเพราะการกระทำของมึงคนเดียวเนี่ย 

และสุดท้ายใครต้องมารับกรรมถ้าไม่ใช่ไอ้ธูปคนนี้แต่เรื่องรับผิดชอบเด็กในท้องของน้องเค้กผมยังพอรับได้เพราะนั่นคือหลานของผม แต่ที่ผมต้องมาเป็นหมอนข้างจำเป็นให้พี่ชายน้องเค้กนี่สิไอ้ธูปบอกตรงๆเลยว่ากูรับไม่ได้ครับ ผู้ชายตัวเท่าควายสองคนมานอนกอดกันกลมอยู่บนเตียง ใครมาเห็นเข้าผมว่าเค้าคงอ้วกแตกรับไม่ได้กับภาพที่เห็นอ่ะ อย่างน้อยๆก็ผมคนนึงล่ะที่โคตรจะรับไม่ได้เลย ก็ผมไม่ใช่เกย์นี่ครับจะให้รับได้ยังไง แล้วไอ้พี่พายมันจะรู้ไหมว่าที่มันกอดอยู่เนี่ยคือคนที่มึงโคตรจะเกลียดขี้หน้า
.
.
.
.
.
แสงแดดอ่อนๆในยามเช้าปลุกให้ผมตื่นจากความฝันมาสู่โลกแห่งความจริง ผมลืมตาตื่นขึ้นมาก็เจอหน้าไอ้พี่พายที่อยู่ใกล้ผมมากใกล้มากจนปลายจมูกมันฝังอยู่ที่หน้าผากผมลมหายใจที่รินรดหน้าผากทำเอาผมไม่กล้าขยับตัวเพราะกลัวไอ้พี่พายมันจะตื่นขึ้นมาแล้วอาละวาดใส่  ผมนอนมองหน้าไอ้พี่พายมนุษย์เหนือโลกที่นอนกอดก่ายกอดรัดผมอยู่และด้วยสมองอันชาญฉลาดที่มีมาตั้งแต่บรรพบุรษบอกกับผมว่าผมต้องรีบลุกจากเตียงให้ไวเพราะถ้าไอ้พี่พายมันตื่นขึ้นมาแล้วเห็นว่าผมกับมันอยู่ในสภาพที่โคตรจะล่อแหลมมันจะไม่ดีกับชีวิตของผมเอง

ผมค่อยๆยกแขนไอ้พี่พายที่กอดรัดเอวผมอยู่นั่นออกห่างจากตัวผม อีกนิดๆอย่าเพิ่งตื่นขึ้นมานะ โอเคต่อไปก็เหลือขามันที่ก่ายอยู่ที่จุดยุทธศาสตร์ของผม แล้วขามึงจะหนักไปไหนวะไอ้พี่พายขาคนหรือท่อนซุงวะ ซวยแล้วลูกกูตื่น ตื่นผิดเวลารึเปล่าลูกนี่ยังไม่แปดโมงลูกยังไม่ต้องตื่นขึ้นมาเคารพธงชาตินะลูกนะหลับไปก่อนนะเดี๋ยวแปดโมงพ่อจะปลุกเองนะครับ

แรงกอดที่เพิ่มมากขึ้นพร้อมด้วยท่อนขาหนักๆตวัดเข้ากระชับรอบเอวของผมจึงทำให้ผมถอนใจที่จะเอาตัวผมลงจากเตียง คงต้องรอให้ไอ้พี่พายมันตื่นขึ้นมาเองนั่นแหละครับ

ผมนอนมองหน้าไอ้พี่พายเงียบๆอิจฉาในความหล่อของมันเบาๆ ทำไมพ่อแม่ผมไม่ตั้งใจปั้นผมออกมาหล่อแบบนี้บ้างว่ะ พูดแล้วก็แซด ระหว่างที่กำลังสำรวจใบหน้าของไอ้พี่พายเพลินๆผมก็รู้สึกว่าหน้ามันขยับเข้ามาใกล้ผมทีละนิดๆเป็นเพราะเมาขี้ตาหรือเพิ่งตื่นจึงทำให้ผมอึนๆงงๆจึงไม่ได้ระวังว่าผมจะเจอเรื่องซวยที่สุดในชีวิตของผม

ไอ้พี่พายมันขยับเข้ามาใกล้จนริมฝีปากของมันแตะเข้ากับริมฝีปากของผมและนั่นก็ทำให้สติของผมกลับเข้าร่างทันที ผมตกใจผลักร่างของพี่พายมันออกก่อนจะเด้งตัวลุกจากเตียงยกมือขึ้นแตะที่ริมฝีปากที่เพิ่งถูกผู้ชายที่ผมเกลียดขี้หน้าที่สุดสัมผัสมันไป

อ๊ากกกกกกกก


กูโดนผู้ชายจูบคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบ

ออฟไลน์ waterlily

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 150
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
หนูธูปจะได้เนื้อคู่แล้ว :hao5: :mc4: :pig4:

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
เอารีไรท์ใหม่หรือ? เคยลงแล้วนี่นา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kyungploy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
รีไรท์ลงใหม่หรอคะ? อันเก่าได้ประมาณยี่สิบตอนแล้วนี่นา  :ruready

ออฟไลน์ ❁INDY_FAMILY❁

  • -ทำไมต้องเดินตามรอยเท้าใคร เราสามารถสร้างรอยเท้าของเราเองได้-
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-12
เอารีไรท์ใหม่หรือ? เคยลงแล้วนี่นา
รีไรท์ลงใหม่หรอคะ? อันเก่าได้ประมาณยี่สิบตอนแล้วนี่นา  :ruready


ลงใหม่ค่ะเพราะตอนนั้นคอมพังและข้อมูลอยู่ในเครื่องหมดเลยค่ะ ^^






ออฟไลน์ มะเขือม่วง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 435
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ ❁INDY_FAMILY❁

  • -ทำไมต้องเดินตามรอยเท้าใคร เราสามารถสร้างรอยเท้าของเราเองได้-
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-12
ผมไม่ใช่พ่อเด็ก
ตอนที่๔  เจ้าทุย(ไอ้เทียน)อยู่ไหน


หลังจากที่ผมสงบสติอารมณ์ที่กระเจิดกระเจิงเนื่องจากถูกจูบมรณะของไอ้พี่พายเข้าไปแล้วนั่นผมก็ค่อยๆย่องออกจากห้องไอ้พี่พายและตรงไปยังห้องนอนของผม (ห้องรับแขก) เพื่อจัดการอาบน้ำ ล้างหน้าแปรงฟัน ไม่ลืมบ้วนปากด้วย และสุดท้ายก็แต่งตัวเพื่อที่จะไปมหาลัย และที่สำคัญผมต้องไปตามล่าหาไอ้เทียนน้องชายสุดติสแตกของผมด้วย ไม่รู้ป่านนี้มันไปเกรียนอยู่ที่นรกขุมไหน

เฮ้อ!! คิดๆแล้วก็เครียดทำไมเรื่องซวยๆมันถึงได้วิ่งตรงเข้าหาไอ้ธูปไม่หยุดไม่หย่อนอย่างนี้วะ ผมว่าผมต้องไปทำบุญไหว้พระ 999 วัดแล้วแหละครับ งานนี้แค่ 9 วัดอาจจะเอาความซวยของไอ้ธูปไม่อยู่ ยิ่งคนที่นำความซวยมาให้ชื่อ 'พาย' ด้วยแล้วไอ้ธูปว่างานนี้ต้องจัดหนักจัดเต็มกันเลยทีเดียว

"เป็นไงบ้างเมื่อคืนนอนหลับสบายไหมคุณธูป" พ่อไอ้พี่พายถามผมด้วยน้ำเสียงสดใสระหว่างที่พวกเรากำลังนั่งทานอาหารเช้ากันอยู่ คือไอ้ธูปอยากบอกมากเลยครับว่าเมื่อคืนลูกชายคุณพ่อจูจู๊บไอ้ธูปด้วย แต่พอเห็นสายตาของไอ้คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามแล้วไอ้ธูปของสงบปากสงบคำจะดีกว่า เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของกูเอง

"ครับ หลับสบายดีครับ" โดนทั้งจูบ ทั้งกอด นี่ยังไม่รวมโดนถีบด้วยนะครับ แหมหลับสบายกว่านี้ไม่มีอีกแล้วครับคุณพ่อ ไอ้ธูปล่ะปลื๊มปลื้มกับการต้อนรับขับสู้ของลูกชายคุณพ่อจริงๆ ปลาบปลื้มจนน้ำตาเล็ดเลยล่ะครับ

"แล้วนี่คุณธูปจะไปมหาลัยยังไงล่ะ"

"แท็กซี่ครับ เออ คุณพ่อครับไม่ต้องเรียกผมว่าคุณก็ได้ครับ คือเรียกธูปเฉยๆจะดีกว่านะครับ" ผมบอกพ่อไอ้พี่พาย

"หนูธูปนี่น่าตาน่ารักน่าเอ็นดูจังเลยนะคะคุณพี่ พูดจาดีมีสัมมาคาราวะ" คุณแม่กำลังชมธูปกระทบลุกชายอยู่ใช่ไหมครับ ธูปรู้นะ
"พี่ธูปไม่ต้องนั่งแท็กซี่หรอกค่ะไปกับเค้กก็ได้ทางเดียวกันไปด้วยกันประหยัดดี" น้องสะใภ้ผมนี่นางฟ้ากลับชาติมาเกิดชัดๆไม่เหมือนพี่ชายเลยแมร่งซาตานสัดๆ

"ไม่ว่างไปส่ง" เสียงไม่เข้าพวกแบบนี้ผมคงไม่ต้องบอกนะครับว่าเสียงใคร ไอ้คนแล้งน้ำใจเอ๊ย!!

"เค้กไม่ได้ถามพี่พายนี่คะ" น้องเค้กหันไปมองค้อนไอ้พี่พายทั้งๆที่ไส้กรอกยังคาปากอยู่ เอ่อคุณน้องสะใภ้ครับเคี้ยวแล้วกลืนไปก่อนก็ได้นะครับไม่มีใครว่าอะไรหรอกครับไม่ต้องรีบแจกค้อนขนาดนั่นก็ได้ มันคงไม่หนีไปไหนหรอกครับ

"เค้ก พี่ไปส่งเราที่มหาลัยก็จริง แต่พี่ก็มีธุระที่อื่นเหมือนกันไม่ว่างขับไปส่งพี่ชายแฟนเราหรอกนะ" คือมหาลัยผมกับน้องเค้กอยู่กันคนละที่ก็จริงครับ แต่ไม่ได้ห่างกันเท่าไหร่ ประมาณว่านั่งแท็กซี่จากมหาลัยน้องเค้กมามหาลัยผมมิเตอร์ยังไม่ขยับอ่ะ (ผมแอบเผือกถามน้องเค้กมาแล้ว)  แล้วนี่ไอ้พี่พายมันทำเหมือนกับว่าผมให้มันไปส่งที่มอเชียงใหม่ยังงั้นแหละ พูดซะเวอร์เชียวนะพ่อคุณ

"พี่พายคะมันไม่ได้ไกลกันเลยนะแล้วอีกอย่าง มหาลัยพี่ธูปก็ทางผ่านไปที่ทำงานพี่พายด้วยมันจะลำบากอะไรกันหนักหนา อย่าแล้งน้ำใจสิ" ผมก้มหน้าก้มตายัดไส้กรอก แฮม ไข่ดาว ของทุกอย่างในจานใส่ปากลงกระเพาะโดยไม่สนใจครอบครัวของไอ้พี่พายที่กำลังถกปัญหาวาระแห่งชาติว่าด้วยเรื่องการไปส่งไอ้ธูปที่มอ เพราะมันไม่ใช่เรื่องของผมมันเป็นปัญาครอบครัวที่พวกเค้าต้องจัดการกันเอาเอง ไอ้ธูปเป็นคนนอกดังนั่นไอ้ธูปไม่เกี่ยวครับ กูมีหน้าที่แดกอย่างเดียวเคี้ยวๆกลืนๆไม่สนใจสิ่งรอบข้างใดๆทั้งสิ้น

"ทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดีหน่อยสิ แกต้องไปส่งธูป นี่เป็นคำสั่ง!!" พ่อไอ้พี่พายสวมวิญญาณท่านว๊ากใส่ลูกชายตัวเองที่นั่งหน้าโหดมองหน้าผมด้วยสายตาอาฆาตอยู่ฝั่งตรงข้าม  "เพราะแกมีความผิดติดตัวอยู่เข้าใจใช่ไหม" ไอ้พี่พายแยกเขี้ยวใส่ผมแล้วครับ เชรี้ยกูไม่เกี่ยวพ่อมึงเลย พ่อมึงทั้งนั่นเลย กูนั่งกินของกูอยู่ดีๆอย่าลากกูไปเอี่ยวกับครอบครัวของมึง กูไม่ใช่คนในครอบครัวมึงกูมันคนนอกโว้ย

"หัวเราะเชรี้ยอะไรวะ" กูกำลังหัวเราะเชรี้ยที่โดนรุมอยู่ไงวะ  (ได้แค่คิดในใจเพราะพูดไปอาจได้กินตีนเชรี้ยแทนไข่ดาวในจานได้)

"เปล๊าครับ" รีบปฏิเสธอย่างไว

"พายลูกต้องดูแลธูปเขาดีๆนะเพราะว่าเขาก็เหมือนคนในครอบครัวของเรา" คุณแม่ไอ้พี่พายบอกอย่างอารมณ์ดี ผิดกับลูกชายที่นั่งแผ่รังสีอำมหิตใส่ผมอย่างจัง ถ้ามันลุกขึ้นมาบีบคอผมได้นี่มันคงทำไปแล้วแหละครับ

"ดีใจจังเค้กจะได้มีพี่ชายเพิ่มมาอีกคน" น้องเค้กกระดี้กระด้าสุดชีวิตที่ได้พี่ชายน่าตาหล่อโคตรพ่อโคตรแม่ขุดโคตรกันขึ้นมาหล่ออย่างผม แต่ผมไม่อยากนับญาติกับไอ้พี่พายอ่ะผมไม่อยากมีพี่ชายโรคจิต

"ป๊าก็ดีใจเหมือนกันที่ได้ลูกชายมาเพิ่มอีกคน เพราะไอ้ที่มีอยู่เนี่ยมันไม่ค่อยได้ดั่งใจเท่าไหร่" คุณพ่อครับจะพูดจะจาอะไรสงสารไอ้ธูปบ้างนะครับ เพราะคำพูดของคุณพ่อแต่ละคำนำมาซึ่งความวิบัติของชีวีไอ้ธูปทั้งนั่นเลยนะครับ ตั้งแต่เรื่องที่ให้ไอ้ธูปไปนอนในห้องไอ้พี่พายแล้ว ยังไม่ได้เคลียร์เลยอย่าเพิ่งเพิ่มคดีใหม่สิครับคุณพ่อ

"ถ้าดีใจกันมากขนาดนั่นไม่จัดงานเลี้ยงต้อนรับเปิดตัวลูกชายคนใหม่ไปเลยละ หรือไม่ก็แบ่งมรดกให้มันไปเลยสิ" หึ คนขี้อิจฉาก็ยังนี้แหละครับธูปเข้าใจนะพี่พายว่าพี่ไม่อยากเป็นหมาหัวเน่า แต่พี่ต้องเข้าใจด้วยว่าพี่หน่ะไม่มีใครต้องการ ก๊ากๆๆๆๆ หัวเราะ (ในใจ) ด้วยความสะใจ

"ก็ดีนะ" คุณพ่อไอ้พี่พายดันรับมุกซะงั้น

"คุณแม่ก็เห็นด้วยนะคะคุณลูกชาย ไม่อยากจะเชื่อว่าคุณลูกจะคิดอะไรดีๆเป็น" เหมือนจะเป็นคำชมรึเปล่าผมก็ไม่แน่ใจแต่ดูท่าไอ้พี่พายคงไม่ปลื้มกับสิ่งที่ได้ยินเพราะมันกระแทกมีดกับส้อมลงในจานอย่างแรงก่อนจะลุกขึ้นยืนและหันไปพูดกับน้องสาวสุดที่รักของมัน

"พี่ไปรอที่รถนะ ขืนอยู่นานกว่านี้อาจจะได้เตะคนก่อนไปทำงาน" พูดจบมันสะบัดตูดไปโดยไม่ลืมหันมาทำหน้าเหี้ย (ม) ใส่ผมอีก ไม่มีใครรักแล้วมาพาลกูเหรอ ตกกระป๋องแล้วยังไม่รู้ตัวอีก ไอ้หมาหัวเน่าเอ๊ย
.
.
.
.
.
"พี่พายพี่ธูปสวัสดีค่ะ พี่พายห้ามทำร้ายพี่ชายคนใหม่ของเค้กนะไม่งั้นเค้กจะโกรธพี่พายจริงๆด้วย ต้องรักพี่ธูปเหมือนที่พี่พายรักเค้กรู้ไหม" น้องเค้กหันมาสวัสดีผมกับพี่ชายของเธอก่อนจะลงจากรถแต่ยังไม่วายจุดชนวนระเบิดเอาไว้ด้วย กูว่าน้องเค้กมันไม่ใช่นางฟ้ากลับชาติมาเกิดแล้วล่ะครับ เพราะน้องแมร่งเดวิลชัดๆผมแอบเห็นหางแหลมๆมันงอกออกมาจากก้นน้องมันด้วย

"พูดมากไปเรียนได้แล้วไป๊" ไอ้พี่พายทำเสียงโหดใส่น้องสาวของมันก่อนจะตวัดสายตามามองผมที่นั่งเป็นคุณชายสบายกายอยู่ที่เบาะหลัง   "กูไม่ใช่คนขับรถ!!" ไอ้พี่พายพูดขึ้นลอยๆแต่คำพูดของมันดันลอยมากระแทกหน้าผมอย่างจัง บอกดีๆก็ได้จะตะคอกหาพ่องมึงหรอครับ

ผมเปิดประตูรถด้านหลังลงมายืนถอนหายใจก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดประตูฝั่งตรงข้ามกับไอ้พี่พายและหย่อนตูดลงกับเบาะเบาๆเพราะยังเจ็บสะโพกอยู่

ปัง!!

แต่ขอกูเอาคืนด้วยการปิดประตูมึงแรงๆหน่อยล่ะกันหมั่นไส้นัก เอิ่มทำไมต้องมองหน้าธูปอย่างนั่นด้วยอะ ธูปก็ไม่ได้ปิดเสียงดังอะไรมากมายเลยนะ

"ปิดแรงขนาดนั้นอยากเจอตีนกูใช่ไหม" โหดคงเส้นคงวาจริงๆ

"กล้าหรอ" เอาดิมึงทำกูเมื่อไหร่กูจะกลับบ้านไปฟ้องพ่อกับแม่มึงอ่ะ

"มึงท้ากูใช่ไหม" แหนะยังมีหน้ามาถาม

"เออ!!" กูก็ตอบกลับอย่างมั่นใจ

"หึ ปากดีให้ตลอดนะมึง" ผมจบไอ้พี่พายก็เหยียบคันเร่งจนรถพุ่งทะยานออกตัวไปอย่างไว นี่มันเขตมหาลัยนะครับพี่น้องครับมึงจะรีบไปตายที่ไหนครับ

"ช้าๆหน่อยดิวะถ้ารีบไปตายก็ไปคนเดียว" สิ้นเสียงผมไอ้พี่พายแมร่งก็เหยียบเบรกทันที ส่งผลให้

โป๊ก!!

หัวผมกระแทกคอนโซลหน้ารถอย่างจังเพราะไม่ได้คาดเบลท์ ผมเอามือลูบหน้าผากตัวเองก็พบว่ามันเริ่มปูดเป็นลูกมะนาวออกมานิดๆ เสียงหัวเราะสะใจของไอ้คนที่นั่งอยู่ข้างๆมันให้อารมณ์โกรธของผมเริ่มเพิ่มขึ้นที่ละนิดๆ

"เชรี้ย!!" นี่กูโกรธนิดเดียวนะมึงเลยได้แค่ตัวกินไก่ ถ้ากูโกรธมึงมากขึ้นกว่านี้รับรองกูยกมาทั้งสวนสัตว์แน่ๆ ตั้งแต่มดตะนอยยันหลิงปิงเลย นี่ถือว่ามึงยังโชคดีนะ

"มึงด่าใคร" ไอ้พี่พายจอดรถเข้าข้างทางก่อนจะหันมากระชากคอเสื้อผมอย่างแรงจนหน้ามันกับหน้าผมอยู่ใกล้กันมากจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน ไอ้พี่พายมึงตอนนี้ช่างเหมือนวัวกระทิงที่กำลังโมโหจนลมออกจมูกออกหูเลยวะ ถึงหน้ามึงจะดูดีแต่ก็ไม่ช่วยให้สิ่งที่มึงทำดูดีขึ้นมาได้เลยนะโว้ย

"อยู่กันสองคนกูคงไม่บ้าด่าตัวเองหรอกนะ" ผมก็กวนteenไอ้พี่พายมันกลับไปเหมือนกันเพราะความโกรธ จึงทำให้ลืมกลัวไปชั่วขณะ

"อย่าคิดว่าพ่อแม่และน้องสาวกูถือหางแล้วกูจะไม่กล้าทำอะไรมึงนะ" ไอ้ธูปกลืนน้ำลายลงคอดังเอือกเลยครับ

"กูกลัวตาย" กูกลัวตายจริงๆนะ ถ้ามึงจะเอาพวกควายไบสันมากระทืบกู ก็เอาแค่หยอดน้ำข้าวต้มพอนะ มึงอย่าเล่นกูถึงตายนะ กูกลัวไม่ได้เห็นหน้าหลาน

"หึ" หัวเราะแบบนั้นหมายความว่าไงวะ ไอ้พี่พายขับรถต่อไปไม่ตอบคำถามในใจของผมเกี่ยวกับเสียงหัวเราะ หึ เดียวของมัน
"เฮ้ย!! มันเลยมหาลัยกูแล้ว จอดๆๆๆ เฮ้ยจอดดิวะจอดดดดดดด" มึงจะพากูไปฆ่าทิ้งใช่ไหมไอ้พี่พายไอ้โหด ไอ้เลว ไอ้ชั่ว ไอ้ลูกพ่อแม่ไม่รัก แงๆๆๆไอ้ธูปตายแน่ๆเลยงานนี้

"หุบปาก!!จะเสียงดังหาพ่องมึงรึไง" เกิดความเงียบขึ้นมาทันทีที่ไอ้พี่พายมันว๊ากใส่หน้าผม

"แล้วจะพาไปไหนวะ"

"มึงพูดอะไรเนี่ยกูไม่ได้ยิน" แมร่งพอเสียงดังก็ด่า พอพูดค่อยๆก็ด่าอีก ตามอารมณ์ไม่ทันแล้วนะโว้ย

"จะพาไปไหน!!" ดังพอไหมครับ

"เข้าใจอะไรผิดรึเปล่าวะ กูไม่ได้จะพามึงไปด้วย" อ้าว งง สิกู

"แล้วทำไมไม่จอดที่มหาลัยกูล่ะ" มึงจะขับเลยมาหาสวรรค์วิมานอะไรครับ

"กูมีประชุมด่วนและกูก็สายมากแล้ว" อ้าวไอ้เวรมึงจอดรถให้กูลงมันจะเสียเวลาสักเท่าไหร่กันวะ

"มึงจอดรถให้กูลงเนี่ยใช้เวลาไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ"

"กูไม่จอดมีไรป่ะ" มึงกำลังกวนตีนกูใช่ไหมครับ

"ปลดล็อคให้หน่อยดิ รถติดไฟแดงเดี๋ยวผมลงตรงนี้ก็ได้" ผมพยายามไม่ต่อความยาวสาวความยืดกับไอ้พี่พาย แต่หันไปขอร้องมันที่นั่งทำหน้าโหดอยู่ข้างๆ โดยพยายามพูดดีๆกับมันเท่าที่ความสามารถของผมจะทำได้

"เรื่องดิ มึงไม่เห็นตำรวจรึไงวะ เดี๋ยวก็ซวยกันหมดหรอกโง่แล้วยังอวดฉลาด" ด่ากูอีกแล้ว
"ชิส์" สะบัดหน้าหนีมัน หันไปดูวิวทิวทัศน์นอกรถก็ได้วะ
.
.
.
.
"ลงมาสักทีจะนั่งเป็นหมากระเป๋าอีกนานป่ะ" สัดแต่ละคำที่หลุดออกมาจากปากมึงนี่นะ เกินคำบรรยายจริงๆ

"เพิ่งรู้ว่ามึงคุยกับหมากระเป๋าได้ด้วย" ผมเปิดประตูลงมาจากรถก่อนจะพ่นคำพูดใส่ไอ้พี่พายมันกลับไป

"หึ ยอมรับแล้วเหรอว่ามึงเป็นหมา" กูเกลียดมึง

"มึงก็หมาเหมือนกันล่ะหว่า"

"ระวังกูจะชำแหละเนื้อหมากระเป๋าอย่างมึงเข้าสักวัน" พูดจบแมร่งสะบัดตูดเดินเข้าตึกไปเฉยเลย ผมที่ยืนงงอยู่ราวๆสองวินาทีเศษๆจึงทำได้แค่ถอนหายใจด้วยความเซ็ง

.
.
.
.
.
หลังจากเดินมึนๆออกจากตึกอันใหญ่โตของบริษัทครอบครัวไอ้พี่พายผมก็ต้องนั่งแท็กซี่ย้อนกลับมาที่มหาลัยแมร่งสุดท้ายไอ้ธูปก็ต้องเสียตังค์ค่าแท็กซี่อยู่ดี รู้งี้กูมาเองยังดีซะกว่า แมร่งซวยๆ

"ธูปเป็นอะไรวะ" ไอ้แมนเมืองมันถามขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นผมเดินกระเผลกๆเข้ามานั่งที่โต๊ะประจำใต้ตึก "ใครทำมึง บอกกูมาเดี๋ยวกูจะไปจัดการให้" ขอบใจมากว่ะเพื่อนมึงอย่าเอาตัวไปแลกกับตีนไอ้พี่พายเลยมันไม่คุ้ม

"กูไม่เป็นอะไรหรอก พอดีกูตกนอนเตียงอ่ะ"

"โง่อ่ะดิ!!" ไอ้ชาไอ้เวร ซ้ำเติมกูเหรอมึง

"ไอ้คุณน้ำชาเพื่อนเจ็บอยู่นะครับ กรุณาอย่าซ้ำเติม" ไอ้แมนเมืองขอบใจมึงจริงๆซึ้งจนน้ำตาเล็ด

"แล้วไงวะ" เดี๋ยวมึงได้เจ็บแน่ไอ้ชา

"พอๆเลิกเถียงกันสักทีเหอะว่ะ เออไอ้ธูปมึงเจอตัวไอ้เทียนน้องมึงรึยังวะ" ไอ้น้ำเหนือห้ามทัพระหว่างผมกับไอ้ชา ก่อนจะหันมาถามคำถามที่เล่นเอาผมปวดหัวเพราะไม่มีคำตอบ

"ยังอะ"

"แล้วมึงจะไปตามมันที่ไหน" ถ้ากูรู้กูจะเครียดแบบนี้เหรอครับไอ้คุณแมนเมือง

"กูไม่รู้ว่ะ ยังคิดไม่ออกเลย แมร่งกูโคตรจะเครียดเลยสัด ปวดหัวฉิบหาย" ผมบอกด้วยน้ำเสียงเครียดๆ

"ถามแม่มึงดิวะ" ไอ้ชาพูดขึ้นพร้อมกับจุดประกายแสงสว่างให้ผม

"เออๆๆ มันอาจจะไปหาพ่อกับแม่มึงก็ได้ มึงลองโทรไปถามพ่อกับแม่มึงดูดิวะ" ไอ้น้ำเหนือเร่งผมยิกๆ


ผมหยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดโทรออกหาบุพการีที่ไปเปิดร้านอาหารอยู่ที่เมืองนอกเมืองนา โดยทิ้งลูกชายสุดหล่อสองคนไว้ที่ประเทศไทยให้อยู่กันตามลำพัง ไม่คิดจะกลับมาหากันบ้างเลย คิดแล้วก็น่าน้อยใจจริงๆ ผมรอสายอยู่นานพอสมควรกว่าจะได้ยินเสียงที่แสนจะคิดถึง

"ว่าไงจ๊ะสุดหล่อของมามี๊" เสียงหวานมาตามสายเลยนะคุณนาย

"แม่ครับไอ้เทียนไปหาแม่รึเปล่าครับ" ผมรีบเข้าเรื่องทันทีเพราะมันเปลือง (เลวจริงๆไอ้ธูป: คนเขียน)

"ไม่นะ ธูปถามทำไม อย่าบอกแม่นะว่าน้องหายออกจากบ้าน" น้ำเสียงร้องรนเอ่ยถามด้วยความกระวนกระวายทำเอาผมพูดอะไรไม่ออก เพราะไม่อยากให้คนในสายไม่สบายใจ

"คือ แม่ครับใจเย็นๆก่อนนะครับ คือไอ้เทียนมันไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ ธูปก็แค่ถามดูเฉยๆเห็นมันบอกว่าจะไปหาแม่กับพ่อหน่ะครับ" ผมจำต้องโกหกแม่เพราะไม่อยากให้ท่านเครียดและไม่อยากให้ท่านคิดมาก

"ธูป" แม่เรียกผมก่อนจะเงียบไป เป็นอันรู้กันว่าเริ่มเข้าสู่บทสนทนาที่เป็นการเป็นงานและตึงเครียด

"ครับแม่"

"มีเรื่องอะไรที่แม่ไม่รู้รึเปล่าลูก" น้ำเสียงของแม่อ่อนลงจนผมใจอ่อน แต่เพราะเรื่องนี้ผมไม่รู้ว่าสมควรบอกแม่รึเปล่าผมกลัวว่าบอกไปแล้วแม่จะเครียดและอาจจะผิดหวังในตัวไอ้เทียน และที่สำคัญผมอยากให้ไอ้เทียนมันบอกแม่เอง

"ไม่มีอะไรครับแม่ แม่ไม่ต้องห่วงนะครับธูปสัญญากับแม่แล้วว่าธูปจะดูแลน้อง ธูปไม่มีทางผิดสัญญาแน่นอนครับแม่" แต่ตอนนี้ธูปยังไม่รู้ว่าน้องไปตกระกำลำบากอยู่ที่ไหนก็แค่นั่นเอง

"ธูปอย่าโกหกแม่นะลูก"

"ครับแม่ ธูปไม่กล้าโกหกแม่หรอกครับ" ผมรับคำทั้งๆที่หัวใจมันเริ่มบีบรัดแน่น ผมดูแลน้องไม่ดี ผมสั่งสอนน้องไม่ดีทำให้น้องทำเรื่องผิดพลาด และสุดท้ายน้องก็หนีเตลิดไปไหนก็ไม่รู้ ทั้งหมดมันเป็นเพราะผมคนเดียว

"พ่อกับแม่รักลูกสองคนมากนะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วแค่นี้ก่อนนะลูกลูกค้าเต็มร้านเลย รักษาสุขภาพด้วยคนเก่งของมามี๊" แม่ผมพูดก่อนจะวางสายไป ผมรู้สึกไม่สบายใจยิ่งกว่าเดิม เทียนมึงอยู่ไหนวะ กูเป็นห่วงมึงมากมึงรู้ไหม รีบกลับมาสักที กูคิดถึงมึงเหลือเกิน

"สรุปว่าไงวะ" ไอ้ชาถามทันทีหลังจากที่ผมเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง

"แม่บอกว่ามันไม่ได้ไปหาว่ะ โอ๊ยกูจะไปหามันที่ไหนวะเนี่ย" ผมทึ้งหัวตัวเองด้วยความเครียด ที่หาทางออกให้ตัวเองไม่เจอ

"ไปถามเพื่อนๆที่คณะมันไหมเดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อน" ไอ้แมนเมืองตบบ่าให้กำลังใจผม

"อืมก็ดีเหมือนกันนะเว้ย" ไอ้น้ำชาพยักหน้าเห็นด้วย ซึ้งผมก็เห็นด้วยเช่นกัน

พวกผมไม่ได้เข้าเรียนวิชาแรกเพราะไม่มีอารมณ์เรียนจริงๆและตอนนี้ผมกับเพื่อนๆก็มายืนหน้าหล่อราวกับนักร้องเกาหลีกันอยู่ที่ตึกคณะสถาปัตย์คณะที่รวมเด็กติสท์แตกโลกส่วนตัวสูงมากๆ เด็กคณะนี้มันคุยกับผู้คนคณะอื่นไม่ค่อยจะรู้เรื่องหรอกครับนอกจากพวกเดียวกันเอง แต่ขนาดพวกเดียวกันเองมันยังคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่องเลย

"มึงเคยเห็นหน้าเพื่อนๆไอ้เทียนรึเปล่าวะ" ไอ้แมนเมืองยื่นหน้ามาถามผม คือมึงไม่ต้องเอาหน้ามาใกล้กูขนาดนี้ก็ได้ ช่วยเอาหน้าหล่อๆของมึงออกไปห่างๆกูหน่อยได้ไหมวะ

"ไม่เคยอะ" ผมบอกไอ้แมนเมืองก่อนจะเดินแยกตัวออกมาและพยายามสอดส่องสายตามองหาเป้าหมายที่ดูเป็นคนปรกติธรรมดามากที่สุดเพื่อที่จะสามารถจะคุยด้วยได้

ผลั๊ก!!

ไอ้สัดใครตบหัวกูคร้าบบบบบ ผมหันไปมองด้านหลังก็เจอเข้ากับผู้ชายน่าตาดีโคตรๆผมยาวๆหน้าเซอร์ๆ ซึ้งผมมั่นใจว่าไม่เคยรู้จักกับมันแน่นอน ว่าแต่มึงมาตบหัวกูทำไมวะเนี่ย

"สัดตบหัวกูทำเชรี้ยอะไรวะ" ผมพุ่งไปหมายจะกระชากคอเสื้อไอ้เวรนั่นทันทีแต่ตัวมึงจะสูงไปไหนครับย่อลงมานิดนึงได้ไหม

"ไอ้เทียนไอ้สัดมึงหายไปไหนมาวะ" ไอ้เซอร์ถามผม โดยที่ไม่คิดจะขอโทษผมสักนิด

ว่าแต่มันเรียกผมว่าเทียนงั้นมันก็ต้องรู้จักน้องชายผมอ่ะดิ สรรค์ยังเมตตาไอ้ธูปอยุ่ใช่ไหมครับ

"มึงเป็นเพื่อนไอ้เทียนเหรอวะ" ผมถามมันกลับทันทีลืมเรื่องที่มันตบหัวผมไปเลย ตอนนี้เรื่องไอ้เทียนสำคัญที่สุด

"มีไรวะไอ้ธูป" ไอ้แมนเมืองเดินหน้าโหดมาหาผมทันที

"มึงคือไอ้ธูป พี่ชายฝาแฝดของไอ้เทียน?" ไอ้เซอร์ทำหน้าเจื่อนๆใส่ผมทันที  "กูโทษทีว่ะนึกว่าไอ้เทียน" กูตบซะดาวกระจายขนาดนี้มึงไม่ต้องขอโทษก็ได้มั้ง แต่ขอโทษกูก็ดีเหมือนกันนะอย่างน้อยก็มีจิตสำนึก ไม่เหมือนคนบางคน แล้วผมจะไปนึกถึงมันทำไมวะ

"เออกูพี่มันเองแหละ"

"แล้วทำไมไอ้เทียนมันไม่มาเรียนรึไงวะ หายไปตั้งหลายวันแล้ว" ไอ้เซอร์เกาท้ายทอยตัวเองแก้เก้อก่อนจะถามผม ซึ่งคำถามมันผมไม่สามารถตอบได้จริงๆ

"กูก็หาตัวมันอยู่เหมือนกัน" ผมบอกมันกลับไป "มึงรู้ไหมว่ามันไปไหน"

"มันบอกว่าจะไปทำสิ่งที่ถูกต้อง" อะไรคือสิ่งที่ถูกต้องวะ กูงง
"หมายความว่าไงวะ"

"สิ่งที่ถูกต้องก็คือสิ่งที่ถูกต้องไง มึงไม่เข้าใจตรงไหนวะ" กูไม่เข้าใจตรงมึงพูดนี่แหละ

"ขอบใจนะ มึงช่วยกูได้มากจริงๆ" ผมบอกไอ้เซอร์ก่อนจะหันหลังเดินจากมันมา

"กูดีใจนะที่ได้ช่วยเหลือมึงอ่ะ" กูประชดเหอะสัด

ผมหันหลังโบกมือลาไอ้เซอร์ติสท์แตกที่ไม่ได้ช่วยห่าเหวอะไรเลยก่อนจะเดินกลับคณะด้วยความเซ็งจิตหนักกว่าเดิม เฮ้อเจอเพื่อนไอ้เทียนคนเดียวกูก็อึนแดกแหละถ้าแมร่งยกกันมาทั้งกลุ่มผมคงบ้าตายก่อนจะได้รู้ว่าไอ้เทียนมันไปไหน

"ไปแดกข้าวเหอะวะ แล้วค่อยคิดกันต่อ" หลังจากที่ไอ้แมนเมืองมันพูดผมก็พยักหน้าหงึกๆและเดินตามพวกมันไปที่โรงอาหารด้วยสภาพที่เหมือนคนไม่สมประกอบใครลากไปไหนก็ไป สมองตอนนี้คิดอยู่อย่างเดียวว่าจะไปตามหาไอ้เทียนมันที่ไหน ยิ่งคิดยิ่งเครียดยิ่งเครียดยิ่งปวดหัว เส้นเลือดในสมองกูจะแตกก่อนจะเจอมึงไหมเนี่ยไอ้เทียน

ผมเดินเข้ามาในโรงอาหารกลาง นั่งลงเฝ้าโต๊ะให้พวกเพื่อนๆไปซื้อข้าวให้ ไอ้แมนเมืองมันบอกจะไปซื้อให้เพราะสภาพผมมันเห็นแล้วอนาถใจเกินกว่าจะปล่อยออกสู่สายตาประชาชนได้ ก็ดีครับผมยิ่งไม่อยากทำอะไรอยู่ด้วย อยากอยู่นิ่งๆเฉยๆ ไม่อยากคิดอะไรแล้วเพราะมันปวดหัวแทบจะระเบิด


"ธูปข้าว" เสียงไอ้แมนเมืองมาพร้อมกับจานข้าวเปล่าที่เลื่อนมาตรงหน้าผม เอิ่มให้แต่ข้าวเปล่าแล้วกับข้าวอ่ะครับ ผมหันไปมองไอ้แมนเมืองก่อนจะพูดคำๆหนึ่งออกไป
 
"เป๊บซี่กูอ่ะ" ชั่วโมงนี้ความเกรงใจไอ้ธูปไม่มีครับ ขอใช้ความดราม่าให้เป็นประโยชน์หน่อยเถอะ

"ไม่ลืมหรอก เอ๊า" ไอ้แมนเมืองว่าก่อนจะยกถุงเป๊บซี่ขนาดใหญ่มาตรงหน้าผม เอิ่มมึงไปเอาถุงตอนเค้าแจกน้ำท่วมมาใส่เป๊บซี่ให้กูรึเปล่าวะ

"มัน-ใหญ่-มาก" ไอ้น้ำเหนือพูดขึ้นซึ่งผมโคตรจะเห็นด้วยเลย

"แมร่ง-ลำ-เอียง" ไอ้ชามองถุงเป๊บซี่ (ขนาดใหญ่) ในมือผมกับขวดเอสขนาดอันน้อยนิดตรงหน้ามันสลับกันไปมา

"มัน-หนัก-มาก" ผมบอกหลังจากที่รับถุงเป๊บซี่ขนาดยักษ์มาไว้ในครอบครอง รู้สึกเหมือนยกดัมเบลอยู่เลยว่ะ กว่าจะแดกหมดกูคงกล้ามขึ้นแขน

"ซื้อมาให้แดกก็แดกๆไปอย่าบ่น" ไอ้แมนเมืองพูดตัดบทก่อนจะตักกระเพราไก่ใส่ปาก  (จานกับข้าวไอ้น้ำเหนือและไอ้น้ำชามันถือมาครับ)  เมื่อประธานเปิดพิธีพวกผมก็หุบปากและเริ่มจ้วงกับข้าวตรงหน้าตามมันทันที ช้าอาจจะหมดอดแดกได้ครับ นาทีนี้จ้วงได้จ้วงตักได้ตักไม่มีมาคุยกันให้เสียเวลา

"ไอ้ชากูเห็นมึงมองมานานแล้วอะกูให้เอาไปเลย" ผมยื่นถุงเป๊บซี่ขนาดใหญ่ไปตรงหน้าไอ้ชา เพราะเห็นมันมองนานมันคงอยากได้ รีบๆรับไปสิวะกูหนัก

"ขี้เกียจถือ" จะแดกยังขี้เกียจอีก

"อยากแดกก็ให้ไอ้เด็กเนิร์ดมันซื้อให้ดิวะ กูว่าเผลอๆมันนั่งถือให้มึงด้วยเชื่อกูป่ะ" ไอ้แมนเมืองกระตุกหนวดให้ชาด้วยพูดคำต้องห้ามออกมา วอนตีนคุณชายแล้วมึง

"ปากหมา" ไอ้ชาว่าก่อนจะก้มหน้ากินข้าวโดยไม่สนใจใคร

"เขินหรอวะ" ไอ้น้ำเหนือซ้ำอีกรอบ

"แดกตีนไหม" ไอ้น้ำเหนือนั่งขำเงียบๆโดยไม่พูดออะไรออกมาอีก เป็นอันจบประเด็นเพราะถ้ายังแซวต่ออาจจะไม่ได้กินข้าวกันแต่ได้แดกตีนแทน

ระหว่างที่พวกผมกำลังกินข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อยผมขอใช้เวลาช่วงนี้เม้าส์มอยเรื่องของไอ้ชาเพื่อนผมกับไอ้เด็กเนิร์ดที่ไอ้แมนเมืองพูดถึงสักนิดนะครับ เผื่อว่ามีใครอยากรู้ (ทุกคนส่ายหน้าออกอาการว่ากูไม่อยากฟัง แต่ไม่เป็นไรไอ้ธูปอยากเล่า) คือเรื่องมันมีอยู่ว่าไอ้เด็กเนิร์ดที่พวกผมเรียกกันเนี่ยมันเป็นน้องรหัสของเจ๊ชีสพี่สาวไอ้ชา ซึ่งเจ๊แกเป็นเด็กซิวตอนนี้เจ๊แกเรียนอยู่วิศวะปีสอง ส่วนพวกผมเรียนนิเทศปีสาม

เรื่องมันก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับแค่เจ๊ชีสแกไปฟันเด็กไอ้ชามัน (เจ๊แกเป็นทอม) แล้วเจ๊แกกลัวไอ้ชามันจะเสียใจที่ผู้หญิงของมันมาชอบนิ้วเย็นๆมากกว่าเอ็นอุ่นๆเจ๊แกเลยจัดการหาคนมาดามใจไอ้ชา ซึ่งก็ไม่ใช่ใครนั่นก็คือไอ้เด็กเนิร์ดนั่นแหละครับเจ๊ชีสขู่มันว่าจะตัดมันออกจากสายรหัส และมันจะไม่ได้ลายเซ็นของเจ๊แกถ้ามันจีบไอ้ชาไม่ติด

ผมว่าชาติหน้ามันก็คงไม่ติดอ่ะ เพราะมันคนละขั่วกับไอ้ชาเลยก็ว่าได้ พวกผมสงสัยกันว่าเจ๊ชีสแกรักไอ้ชา เป็นห่วงไอ้ชาจริงๆหรือว่าแกเกลียดไอ้ชากันแน่ถึงให้ไอ้เด็กเนิร์ดนี่มาจีบไอ้ชา เพราะอะไรทำไมพวกผมถึงคิดอย่างนี้น่ะหรอครับ ก็เพราะว่าการพูดการจากับสไตล์การแต่งตัวที่โคตรจะเป็นเอกลักษณ์ของมันนั่นแหละครับ

เสื้อตัวใหญ่ ไหล่ตกถึงข้อศอก มองไม่ออกว่ามันใส่ไปได้ไง แว่นสายตาอันโตรุ่นคุณทวดสมัย จอนด์ เลนนอน เห็นแล้วปวดร้าวไปถึงหัวใจ ไหนจะกางเกงหนีน้ำท่วม (มันคงฝังใจกับเหตุการณ์น้ำท่วมเมืองกรุง) ยังไม่รวมรองเท้าหนังขัดมันวาว ราวกระจกใช้ส่องหน้า ทรงผมแสกกลางหวีจนเรียบแปล้แถมยังใส่น้ำมันจนมันเยิ้มกลิ่นน้ำมันก็ฉุนกึก  เห็นแล้วคิดหนักจริงๆว่าชาตินี้มันจะจีบไอ้ชาติดด้วยวิธีไหน (ผมว่ายัยคนเขียนคงกำลังเขียนเรื่องไอ้ชาเร็วๆนี้แหละครับ) พอๆๆกลับมาเข้าเรื่องของผมกันดีกว่าเสียเวลาเรื่องไอ้ชาไปหลายบรรทัดแล้ว เดี๋ยวมันจะเด่นกว่าผม ธูปไม่ยอม

"แมร่งตายอยากฉิบหาย" พวกผมเงยหน้าขึ้นจากจานข้าวไปมองตามสายตาของไอ้แมนเมืองก็เจอเข้ากับมนุษย์ เพศผู้รูปร่างสูงใหญ่ (สูงกว่าไอ้พี่พายอีกครับ)  หนังหน้าเป็นเช่นไรไม่มีใครสามารถแถลงไขได้เพราะแว่นตาอันใหญ่ที่บดบังใบหน้าไปกว่าครึ่ง การมาของเค้านั่นทำเอาคนทั้งโรงอาหารหยุดนิ่งเป็นหินราวกับกำลังจ้องตากับเมดูซ่าก็ไม่ปาน

ออฟไลน์ มะเขือม่วง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 435
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
อิพี่พายนี่น่าจับไปตีก้นจริงๆ
โหดตลอด 55

ออฟไลน์ pachth

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-5
โอ๊ะเรื่องนี้
รีไรท์
ติดตามค่ะ

ออฟไลน์ ❁INDY_FAMILY❁

  • -ทำไมต้องเดินตามรอยเท้าใคร เราสามารถสร้างรอยเท้าของเราเองได้-
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-12

ผมไม่ใช่พ่อเด็ก
ตอนที่ ๕ (กลุ่ม)คนธรรมดาที่ไม่ธรรมดา




"แมร่งตายอยากฉิบหาย" พวกผมเงยหน้าขึ้นจากจานข้าวหันไปมองตามสายตาของไอ้แมนเมืองก็เจอเข้ากับมนุษย์ เพศผู้รูปร่างสูงใหญ่ หนังหน้าเป็นเช่นไรไม่มีใครสามารถแถลงไขได้เพราะแว่นตาอันใหญ่ที่บดบังใบหน้าไปกว่าครึ่ง การมาของเค้านั่นทำเอาคนโรงอาหารหยุดนิ่งเป็นหินราวกับกำลังจ้องตากับเมดูซ่าก็ไม่ปาน

"ขอสามคำ" ไอ้น้ำเหนือเริ่มเปิดประเด็นเมื่อเห็นไอ้เด็กเนิร์ดเดินหน้ามึนมาแต่ไกล

"แนว-ไหน-วะ" ไอ้แมนเมือง

"กู-ไม่-รู้" ไอ้น้ำเหนือ

"รู้-แต่-ว่า"  ผม

"แมร่ง-โคตร-กล้า!!" ผมไอ้แมนเมืองและไอ้น้ำเหนือพูดขึ้นมาพร้อมๆกัน

"กู-อิ่ม-แล้ว" ไอ้ชารวบช้อนก่อนจะลุกออกจากโต๊ะไปด้วยความไวแสง แต่ดูเหมือนจะไม่รอดเพราะว่าเจ๊ชีสแกยืนดักมันอยู่ตรงทางออกพอดี และสุดท้ายไอ้ชามันก็โดนเจ๊ชีสแกลากคอกลับมาที่โต๊ะเหมือนเดิม


"รีบ-แดก-เหอะ" พวกผมพยักหน้าหงึกๆเห็นด้วยกับไอ้น้ำเหนือ จัดการยัดทุกอย่างตรงหน้า (ที่กินได้) เข้าปากอย่างเร่งรีบเมื่อเห็นว่าเจ๊ชีสที่ลากคอไอ้ชาใกล้เข้ามาที่โต๊ะพวกผมทุกทีๆ

"กู-เห็น-ด้วย" ไอ้แมนเมืองพูดก่อนจะจ้วงไข่พะโล้เข้าปากทั้งลูก

ทำ-ไป-ได้

"เงียบ-ไหม-วะ" ไอ้น้ำเหนือเงยหน้าจากจานข้าวขึ้นมาถามผม

"อ้าวเอ็มอากอู" (ข้าวเต็มปากกู) ไหนมึงบอกให้รีบกินไงวะยังจะมาชวนกูคุยอีกไอ้พวกนี่นิ

"เกิน-สาม-คำ" สัดใช่เวลาไหมไอ้เหนือมึงดูดิเจ๊ชีสมันใกล้เข้ามาแล้ว

"ก็มึงบอกให้รีบแดกกูก็รีบอยู่นี่ไง" ไข่เจียวกูไอ้แมนเมืองมึงเอาไข่เจียวกูคืนมา แมร่งแย่งกูแดกจำเอาไว้เลยนะมึง

"เกิน-สาม-คำ" ไอ้น้ำเหนือมึงยังไม่หยุดเล่นอีกใช่ป่ะ

"ตั้งหน้าตั้งตาแดกกันขนาดนั้น พวกมึงจะไม่เงยหัวขึ้นมาทักกูกันหน่อยเหรอวะ" เจ๊ชีสนั่งลงตรงหน้าผมก่อนจะกระชาก (คอ) ไอ้ชาให้นั่งลงข้างๆเจ๊แก ส่วนเพียงฟ้าเด็กเก่าไอ้ชาแฟนคนปัจจุบันของเจ๊ชีส (งงกันไหมครับ) ก็นั่งลงข้างๆเจ๊แก ไอ้น้ำเหนือรีบยกจานข้าวย้ายตูดมานั่งกับพวกผมก่อนที่ไอ้เด็กเนิร์ดผู้มีสไตล์เป็นของตัวเองจะนั่งลงแทนที่ไอ้น้ำเหนือ

"หวัดดีครับเจ๊" พวกผมยกมือไหว้เจ๊ชีสด้วยความพร้อมเพรียง และสวยงามประหนึ่งจะไปประกวดมารยาท

"เออ!!" เจ๊แกพยักหน้ารับไหว้พวกผม ส่วนเพียงฟ้าก็ทักทายพวกผมพอเป็นพิธีอย่าถามถึงไอ้เด็กเนิร์ดนะครับเพราะมันไม่พูดอะไร นั่งมั่นหน้ามั่นสไตล์ของมันไปเงียบๆคนเดียว

"ชีสปล่อยชา" ไอ้ชาสะบัดคอตัวเองแรงๆเหมือนเวลาหมาที่ขนมันเปียกน้ำ (ผมพยายามอธิบายให้ทุกคนเห็นภาพตามไปด้วย) เพื่อให้หลุดจากการวงแขนอันแข็งแรงของพี่สาวมัน


"ไม่!! ขืนกูปล่อย มึงก็หนีกูอีกไอ้โซ่มันอุตส่าห์มาหามึงเลยนะเว้ย หึหึ" เจ๊ชีสบอกก่อนจะเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่พวกผมมักจะเห็นบ่อยๆเวลาที่เจ๊แกมีแผนชั่วๆอยู่ในหัว ปรกติในหัวเจ๊แกก็มีแต่เรื่องชั่วๆตลอดนั่นแหละครับ


"ใครให้มา" กูว่าบรรยากาศเริ่มได้ที่แหละ อีกนิดอีกนิดเดียวระเบิดลงแน่ๆ

"ไม่มีใครขอร้อง แต่มันมาตามเสียงหัวใจที่เรียกร้องว่ะไอ้น้องชาย" ถ้าไอ้ธูปอ้วกมันจะดูเป็นการเสียมารยาทมากไหมครับ

พวกผมพยายามกลั้นขำกันสุดชีวิตเมื่อเห็นหน้าเบื่อโลกของไอ้ชา มุกเสี่ยวๆเจ๊แกสรรหามาพูดกับไอ้ชาทุกวันนั่นแหละครับ แต่อย่าคิดว่าไอ้เด็กเนิร์ดมันจะพูดนะครับ ไม่มีทางแมร่งเงียบยังกว่าป่าช้าอีก (แต่เสียงมันเพราะมากนั่งฟังแล้วฟินเวอร์ พวกผมเคยได้ยินครั้งนึงตอนมันเรียกไอ้ชาตอนนั้นทำเอาพวกผมฟินไปหลายวัน)

"ชีส ชาบอกให้ปล่อย!!" กูว่าไข่พะโล้ในปากกูเริ่มไม่อร่อยแหละ บรรยากาศมาเต็มขนาดนี้ กินไม่ลงแล้วกู

"ไม่ปล่อย มึงหุบปากและฟัง" เจ๊แกโหดสัดรัสเซียมากๆอ่ะครับ "วันนี้กูจะชวนมึงและพวกเพื่อนๆมึงไปงานวันเกิดกูที่ร้านXXห้ามเบี้ยวเจอกันสี่ทุ่ม โอเค" เจ๊แกสรุปเสร็จสรรพไม่ถามความเห็นใครสักคน

"เจ๊ผมขอบายนะ เครียดๆเรื่องไอ้เทียนไม่มีอารมณ์ว่ะเจ๊" ผมบอกปฏิเสธโดยให้เหตุผลเรื่องที่ไอ้เทียนหายหัวไปและยังหาหัวและตัวมันไม่เจอ

"กูไม่ได้ชวนมึงไปเอานะไอ้ธูปมึงไม่ต้องใช้อารมณ์ ร่ำสุราเค้าใช้แค่มือกับปาก เออ ใช้ลูกชายมึงด้วยเวลามึงปวดเยี่ยว" เวลาร่ำสุรามันก็ต้องใช้อารมณ์นะเจ๊

"เจ๊เอากันก็ใช้ไอ้สามอย่างนี่เหมือนกันนะ" มือ ปาก และ (ละไว้ในฐานที่เข้าใจ) ครบเลย ขาดอันไหนไปอันหนึ่งก็ไม่ได้

"สัด วกเข้าเรื่องใต้สะดือตลอดนะมึง" เจ๊ชีสสรรเสริญผมก่อนจะเน้นย้ำเรื่องร้านอีกครั้ง  "สี่ทุ่มร้านXXอย่าลืมนะโว้ยใครไม่ไปมีเฮ" ถ้าเจ๊แกไม่ได้เป็นทอมผมจะติดต่อให้ไอ้พี่พายมันเลยนะเนี่ย สันดานแมร่งเหมือนกันเป๊ะๆๆ


"จะไปไหนกันเหรอ" ผมเงยหน้าขึ้นไปมองตามเสียงที่ได้ยิน (อีกครั้ง) ก็พบเจอเข้ากับมนุษย์หลุดโลกที่กำลังยืนหน้าเซอร์ พร้อมๆกับพ้องเพื่อนที่หน้าตาดีแต่บุคลิคขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิงกำลังยืนมึนๆอยู่เบื้องหน้าผม

"มึงมาทำไรวะ" โรงอาหารกลางกับตึกเรียนของพวกมันห่างกันสามล้านปีแสงแล้วพวกมันมาทำอะไรที่นี่วะเนี่ย

ไอ้เซอร์คนที่ตบกบาลผมเดินเข้ามาหา ก่อนจะใช้ตูดของมันเบียดๆไอ้แมนเมืองจนสามารถนั่งแทรกกลางระหว่างผมกับไอ้แมนเมืองได้ กูนับถือความพยายามของมึงจริงๆ

"จะเบียดหาพ่องมึงรึไงวะ" ไอ้แมนเมืองถามอย่างหัวเสีย

เพื่อนไอ้เทียนหันไปยิ้มเฉ่งใส่ไอ้แมนเมืองก่อนจะพ่นคำพูดกวนตีนออกมา "กูเบียดไอ้ธูปไม่ได้เบียดพ่องมึง" ชัดเจนมากคำว่าพ่องกระแทกเข้าเต็มหน้าไอ้แมนเมืองเต็มๆ

"สัด!!มึงกวนตีนกูเหรอวะ" ไอ้แมนเมืองลุกขึ้นพร้อมๆกับที่พวกผมและเพื่อนๆไอ้เทียนที่ลุกหือขึ้นมาเหมือนกัน ตอนนี้คนในโรงอาหารจ้องพวกผมเป็นตาเดียว หลังจากที่ทุกคนจ้องไอ้เด็กเนริ์ดจนลืมโลกกันไปแล้ว

กูไม่อยากเด่นเลยบอกตรงๆ (กลุ่มแกเด่นตั้งแต่อิโซ่มันมานั่งแล้วจ้ะ)


"ใจเย็นๆดิวะไอ้แมน" ไอ้น้ำเหนือปราม

"มึงก็เห็นว่าแมร่งกวนตีนกู" ไอ้แมนเมืองยังไม่หยุด

"กูไม่ได้กวนตีนมึงเลยนะ มึงถามกู กูก็ตอบแล้วกูกวนตีนตรงไหนอ่ะ" ตรงคำตอบมึงไงไอ้เวร แบ๊วได้อีกนะมึง

"พวกมึงจะยืนค้ำหัวกูอีกนานไหมวะ" เจ๊ชีสวีนแตกเมื่อไม่มีใครมองเห็นหัวเจ๊แก  ผมรีบกดไหล่ไอ้แมนเมืองให้มันนั่งลงจากนั่นจึงหันไปส่งสายตาให้ไอ้เซอร์เพื่อนไอ้เทียนเพื่อให้มันนั่งลงเหมือนกัน พอมันสองคนนั่งลงไอ้มนุษย์หลุดโลกเพื่อนๆไอ้เทียนที่เหลือก็นั่งลงเช่นกัน

"บอกกูได้ยังว่ามึงมาทำไม" ผมถามไอ้เซอร์

"คืองี้กูเห็นมึงเครียดๆเรื่องไอ้เทียนหายตัวไปใช่ป่ะ กูเลยจะมาอยู่ด้วยเผื่อว่าจะช่วยทำให้มึงหายเครียดได้" กูคาดว่ากูคงเครียดหนักกว่าเดิมอีกนะ

"แฮะๆ ไม่เป็นไรกูเกรงใจ" บอกปฏิเสธมันไป

"เฮ้ย!!ไม่ต้องเกรงใจ" ไอ้เซอร์โบกมือไปมาตรงหน้าผม "คนกันเองทั้งนั้น" คนกันเอง ใครคนกันเองกับมึงครับ กูจำไม่ได้ว่าเราสนิทกันขนาดนั้นแล้วเหรอวะ

"เราสนิทกันแล้วเหรอวะ ทำไมกูไม่เห็นรู้สึกตัวเลยอะ" ผมพูดตามที่ใจคิด

"งั้นเรามาทำความรู้จักกันก่อนดีมะ" ไอ้เซอร์พูดขึ้นก่อนจะชี้นิ้วไปทางกลุ่มมนุษย์หลุดโลกที่นั่งกันอีกโต๊ะนึง "ไอ้นี่มันชื่อโต" ไอ้เซอร์ชี้นิ้วไปที่ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่หน้าตาคมเข้มแบบชายไทย ที่ใส่กางเกงขาเดฟรัดติ้วเน้นสัดส่วนช่วงล่างอย่างเด่นชัด อืมกูเชื่อแล้วว่ามึงมันโตสมชื่อจริงๆๆ

"หวัดดีพี่ชายไอ้เทียน" ไอ้โตรัดติ้วมันโบกมือทักทายผม ซึ่งผมก็แค่พยักหน้าให้มันกลับไปอย่างงงๆ

"แล้วไอ้หน้าฝรั่งนี่ชื่อ ไอ้กานต์" ผู้ชายหน้าตาโคตรหล่อรูปร่างสูงใหญ่ตัวพอๆกับไอ้เด็กเนิร์ด แต่เบ้าหน้าดีกว่า (ผมคิดเอาเองเพราะไม่เคยเห็นหน้าไอ้เด็กเนิร์ดมันชัดๆ)

"หวัดดีพี่ชายไอ้เทียน" ไอ้กานต์ยกมือขึ้นเซย์ไฮกับผม ซึ่งผมก็แค่พยักหน้ารับอย่างงงๆเหมือนเดิม


"และนั่นไอ้คนที่ทำหน้าง่วงๆอยู่นั่นน่ะชื่อไอ้โอม" ไอ้โอมผงกหัวขึ้นมายิ้มแบบง่วงๆให้ผม

"หวัดดีพี่ชายไอ้เทียน" ผมก็ยิ้มรับแบบ งงๆกลับไปให้มันเช่นกัน

"และคนสุดท้ายก็คือกู" ไอ้เซอร์คนที่ตบหัวผมมันชี้นิ้วไปที่หน้าของมันเอง ก่อนจะแนะนำตัว  "กูชื่อมาวิน เรียกวินเฉยๆก็ได้"

"เออ" ผมพยักหน้ารับรู้

สามปีในรั้วมหาลัยไอ้เทียนไม่เคยแนะนำให้ผมรู้จักเพื่อนของมันสักคนโดยไอ้เทียนให้เหตุผลว่าไม่อยากให้พวกมันมากวนใจผมและเวลาอยู่ที่มหาลัยเทียนจะมาหาผมแค่คนเดียวไม่เคยพ่วงเพื่อนๆมาด้วยที่สำคัญเทียนห้ามผมไปหาที่คณะเพราะกลัวว่าผมจะไปเจอกับเพื่อนหลุดโลกของมัน แปลกดีไหมล่ะน้องชายของผม

ผมเลยจำใจต้องแนะนำเพื่อนของผมบ้างแบบว่ามันเป็นมารยาทอ่ะนะ "นี่เพื่อนกูชื่อ......"

"ข้ามๆไปคนอื่นได้ป่ะกูไม่อยากรู้จักมัน" ไอ้เซอร์มาวินหรือไอ้วินพูดขัดขึ้นมากลางปล้องเมื่อผมกำลังจะแนะนำไอ้แมนเมืองให้พวกมันรู้จัก

"กูก็ไม่อยากรู้จักมึงเหมือนกัน" อะไรของมึงสองคนวะ

"เออๆข้ามไปก็ได้ แมร่งจะอะไรกันนักกันหนาวะ" ผมบอกอย่างหัวเสีย ก่อนจะแนะนำคนอื่นๆให้พวกเพื่อนๆไอ้เทียนมันได้รู้จักจนครบทุกคนยกเว้นไอ้แมนเมืองคนเดียว

"เพื่อนมึงเหรอวะธูป" เจ๊ชีสถาม คือเจ๊ใช้อะไรดูครับถึงถามแบบนั้นออกมา  "คืนนี้ว่างป่ะวะ กูอยากจะชวนพวกมึงไปงานวันเกิดกู สี่ทุ่มร้านXXนะเว้ย เพื่อนไอ้ธูปก็เหมือนน้องกู" เจ๊ชีสเจ๊ไปชวนพวกมันทำไมครับสนิทกันหรอเจ๊

"ของฟรีพวกผมไม่มีพลาด" ไอ้พวกนี่มันก็ยินดีเสมอเมื่อเจอของฟรีไม่มีใครคิดจะปฏิเสธเลยสักคน

"กูไปก่อนนะ" ไอ้ชาอาศัยช่วงที่เจ๊ชีสเผลอรีบลุกขึ้นและเดินออกจากโรงอาหารอย่างไว

"เฮ้ยไอ้ชารอกูด้วย ไอ้น้ำชากูบอกให้รอกูด้วยไงวะแมร่งเอ๊ย!! เอ๊าฟ้ารีบลุกเร็วเดี๋ยวไม่ทัน ไอ้โซ่ลุกเร็วๆดิวะน้องกูเดินไปโน้นแล้ว โว้ยไม่ได้ดั่งใจกูสักคน" เจ๊ชีสแกลากเพียงฟ้าให้รีบวิ่งตามไอ้ชาไปอย่างเร่งรีบ ส่วนไอ้โซ่มันแค่ถอนหายใจอย่างหน่ายๆก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นยืนเต็มความสูงที่สูงมากๆและโคล้งหัวให้พวกผมก่อนจะเดินตามตูดเจ๊ชีสไปอย่างเลี่ยงไม่ได้

พอไอ้เด็กเนิร์ดมันลุกไปเท่านั่นแหละครับพองเพื่อนไอ้เทียนก็อึ้งกับสไตล์การแต่งตัวของแฟชั่นนิสต้าเซเลบโซ่ทันที

"แนวฉิบหาย" ไอ้โตพูดขึ้นก่อนจะขำกลิ้งน้ำตาเล็ด

"มันหลงมาจากยุคไหนวะ มั่นมั๊กมากๆ" ไอ้วินถามผมก่อนจะหันไปมองเซเลบโซ่ด้วยสายตาที่อธิบายได้ว่ามันอึ้งกับสิ่งที่เห็น

"เป็นสิ่งมีชีวิตที่พระเจ้ายังไม่กล้าจะลงโทษ" ไอ้กานต์พูดอย่างปลงๆ  ส่วนไอ้โอมมันฟุบหน้าหลับโดยไม่มีส่วนร่วมใดๆทั้งสิ้นกับเหตุการณ์เมื่อครู่


"ธูปขึ้นเรียนเหอะว่ะ" ไอ้แมนเมืองเดิมมาสะกิดไหล่ผม

"เออๆ เฮ้ยกูไปเรียนก่อนนะพวกมึง" ผมพยักหน้าให้ไอ้แมนเมืองก่อนจะหันไปบอกไอ้มาวินที่ยังไม่เลิกวิเคราะห์สไตล์การแต่งตัวที่ลิมิเต็ดอิดิชั่นของไอ้เด็กเนิร์ด

"อ้าวมึงจะไปแล้วเหรอวะ" ไอ้วินถามผม

"เออ"


"งั้นคืนนี้เจอกันสี่ทุ่มนะพี่ชายไอ้เทียน" พูดเหมือนมึงเป็นเจ้าของงานเลยนะไอ้เซอร์ ได้ข่าวว่าเพิ่งรู้จักเจ๊ชีสนะ แล้วอีกอย่างกูมีชื่อทำไมไม่เรียกกันครับ

"อืมๆ กูไปล่ะ" ผมเดินออกมาจากโรงอาหารพร้อมไอ้น้ำเหนือ ได้ยินเสียงไอ้แมนเมืองพูดอะไรสักอย่างกับไอ้มาวินแว่วๆฟังไม่ชัดก่อนที่ตัวมันจะวิ่งมากอดคอผมและก้มหน้าลงมาดูดเป๊บซี่ในมือ ซึ่งตอนนี้ละลายหมดความซ่าไปล่ะ รสชาดแยกไม่ออกระหว่างน้ำเปล่าหรือน้ำล้างจาน

ช่วงบ่ายผมก็เรียนไปพลางคิดเรื่องไอ้เทียนไปพลาง บางครั้งการมีเพื่อนๆอยู่ข้างๆมันก็ทำให้ผมลืมเรื่องเครียดๆไปได้เหมือนกัน จนเมื่อเลิกเรียนพวกผมก็แยกย้ายกันกลับ ไอ้ชารีบกลับบ้านไปอย่างหัวเสียด้วยเรื่องที่คืนนี้มันต้องไปงานเจ๊ชีสโดยเลี่ยงไม่ได้ ส่วนไอ้น้ำเหนือก็ไปรับแฟนมันที่โรงเรียนสตรีชื่อดัง (มันกินเด็ก) ส่วนผมก็อาศัยไอ้แมนเมืองให้ไปส่งที่บ้านเพราะผมขับรถไม่เป็นปรกติผมจะมาเรียนพร้อมไอ้เทียนหรือไม่ก็ขึ้นแท็กซี่มา (อยู่ด้วยตลอดยังไม่รู้ว่ามันมีเมียคิดดูดิ)
.
.
.
.
"มึงจะไปกินข้าวก่อนป่ะวะ" ไอ้แมนเมืองถามผมหลังจากที่เราทั้งคู่ขึ้นมานั่งอยู่บนรถของมันเรียบร้อยแล้ว

"ตามใจมึงเหอะวะ" กูขี้เกียจคิด


"มึงคิดมากเรื่องไอ้เทียนอยู่ใช่ป่ะ"


"อืม"

"อย่าเครียดดิวะกูว่ายังไงไอ้เทียนมันก็มีเหตุผลของมัน"

"เหตุผลอะไรวะ กูไม่เข้าใจมันเลยนะเว้ย มึงคิดดูดิกูเป็นพี่มันแท้ๆถึงกูจะเกิดก่อนมันแค่นาทีเดียวแต่กูก็พี่มันป่ะวะ แล้วกูกลับไม่เคยรู้เรื่องอะไรของมันเลย" บางครั้งผมก็น้อยใจนะ ผมเข้าใจว่ามันโลกส่วนตัวสูงแต่มันก็น่าจะเปิดโลกของมันให้พี่ชายอย่างผมได้เข้าไปรู้ไปเห็นบางไม่ใช่ว่าเป็นคนสุดท้ายที่รู้เรื่องของมันอย่างนี้

"เอาน่าเชื่อกูเหอะว่ามันต้องกลับมา ไอ้เทียนมันไม่ใช่คนที่หนีปัญหามึงก็รู้ ที่สำคัญมันรักมึงหวงมึงมากขนาดไหนมันไม่หายไปไหนนานๆหรอก" ไอ้แมนเมืองพยายามพูดปลอบใจผม ซึ้งก็ทำให้ผมรู้สึกดีได้นิดหน่อย

"อืม ขอให้มันจริงอยากที่มึงพูดเหอะวะ" รีบๆกลับมานะเทียน ธูปเหนื่อยเต็มทีแล้วตอนนี้ธูปคิดอะไรไม่ออกเลยสักอย่างเลย
.
.
.
.
.
ไอ้แมนเมืองจอดรถเข้าซองในที่จอดรถของห้างชื่อดังก่อนที่เราทั้งคู่จะลงจากรถไอ้แมนเมืองมันล็อครถเสร็จสรรพเราสองก็เดินเข้าห้างหาร้านอาหารเพื่อยัดของกินใส่กระเพาะ เราทั้งคู่ยืนลังเลอยู่ระหว่าง เป็ด กับ ไก่ อะไรที่มันจะได้เข้าไปอยู่ในท้องน้อยๆของเราสองคน

"MK เหอะวะไม่ได้กินนานล่ะ" ผมเสนอแต่ไอ้แมนเมืองมันไม่สนองปัญหาจึงเกิด

"KFC กูอยากกินไก่" มึงกินไก่สุกได้ด้วยเหรอวะ

"แถวนี้ไม่มีแม่น้ำให้มึงลากลงไปแดกนะโว้ย"

"เก็บปากไว้แดกไก่เหอะ ปะกูเลี้ยง" พูดจบมันก็ลากผมให้เดินตามมันไป สุดท้ายก็ต้องตามใจเจ้ามือเค้าแหละครับ แดกกันจนโรคเก๊าท์จะถามหากูอยู่แล้ว

ระหว่างที่ผมกำลังนั่งแทะกระดูกไก่กันอยู่เพลินๆไอ้แมนเมืองมันก็ทำหน้าเครียดๆจ้องมองหน้าหล่อๆของผมมันจ้องแบบจ้องเขม็งเหมือนมันกำลังจะหาสิวบนใบหน้าใสๆของผม ซึ้งแน่นอนว่ามันไม่มี

"มองไรวะ" ผมถามด้วยความสงสัย

"ถ้าไอ้เทียนมันรู้ว่าเพื่อนมันมายุ่งกับมึงเป็นเรื่องแน่" ระเบิดลงเลยล่ะครับเพราะไอ้เทียนมันขึ้นชื่อว่าหวงผมยังกับอะไรดี ถ้าเราไม่ใช่พี่น้องกับมัน ผมนี่คิดว่ามันจะเอาผมทำเมียอ่ะครับ จะทำอะไรกระดิกตัวไปไหนทีไอ้เทียนต้องรู้ตลอด แต่มันจะทำอะไรผมกลับไม่รู้สักอย่างน่าน้อยใจไหมล่ะครับ

"ให้มันกลับมารับรู้เถอะ ตอนนี้มันหายไปไหนกูยังไม่รู้เลย ไหนมันบอกรักกูจะไม่ทิ้งกูไงวะ แล้วนี่อะไรหายไปไหนไม่คิดจะบอกกันเลย" พูดแล้วมันน้อยใจพาลน้ำตาจะไหล

"เอาน้ามึงอย่าคิดมากดิวะ กินๆเข้าไปอ่ะกูยกน่องไก่ให้เลย อย่าคิดมากนะมึง" ไอ้แมงเมืองยกน่องไก่ชิ้นโตให้ผมเพื่อปลอบใจ แต่มึงเป็นคนเปิดประเด็นก่อนนะเท่าที่กูจำได้อ่ะ
.
.
.
.
.
"มึงนั่งดูหนังรอกูก่อนเดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อนแป๊ปเดียวเดี๋ยวกูมา" ผมบอกไอ้แมนเมืองก่อนจะวิ่งขึ้นบันไดไปที่ห้องนอนของตัวเอง

ผมอาบน้ำสระผมด้วยความเร่งรีบเพราะกลัวว่าไอ้แมนเมืองมันจะรอนาน หลังจากอาบน้ำอาบท่าเสร็จผมก็เปิดประตูห้องน้ำเดินเปลือยกายออกมา ก็นะห้องนอนผมใครมันจะกล้าเข้ามาล่ะครับจะมีก็แต่ไอ้เทียนซึ้งผมกับมันก็เห็นกันมาหมดทุกซอกทุกมุมแล้ว และอีกอย่างผมก็แก้ผ้าเดินในห้องเป็นปรกติอยู่แล้วด้วย

แต่ใครจะคิดว่าครั้งนี้จะมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญเข้ามาอยู่ในห้องผมล่ะครับ


"เฮ้ย/เฮ้ย" เสียงผมกับเสียงไอ้แมนเมืองดังขึ้นพร้อมๆกัน ก็ไอ้เพื่อนเลวมันดันมานั่งอยู่บนเตียงในห้องผมในขณะที่ผมเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำพอดี ทำเอาตกอกตกใจหมด

"ทำไมไม่นุ่งผ้าดีๆวะ เอ๊าเอาไป" มันว่าก่อนจะโยนผ้าขนหนูมาให้ผม

ผมรับผ้าขนหนูที่มันส่งมาให้ก่อนจะจัดการพันรอบเอวเอาไว้หลวมๆก่อนจะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าและหันไปพูดกับไอ้แมนเมือง "ก็มันห้องกูแล้วทำไมกูจะเดินแก้ผ้าไม่ได้วะ อีกอย่างกูก็ผู้ชาย มึงก็ผู้ชายมีเหมือนๆกันจะอายอะไร" ถ้ากูมีไข่สามใบล่ะก็ว่าไปอย่าง

"มึงหัดระวังตัวบ้างนะธูป" ไอ้แมนเมืองเดินมายืนซ้อนอยู่ข้างหลังผม ลมหายใจอุ่นๆรินรดอยู่แถวๆซอกคอ ทำเอาขนลุกแปลกๆ

"ทำไมต้องระวังด้วยวะ ใครมันจะมาปล้ำกูรึไงฮ่าๆ" ผมพูดกลับไปขำๆก่อนจะใส่กางเกงชั้นในและกางเกงยีนส์ พอใส่เสร็จแล้วก็หันหลังกลับไปคุยกับมันโดยที่มือก็หยิบเสื้อยืดมาสวมใส่ไปด้วย  "ถ้ากูเป็นผู้หญิงก็ว่าไปอย่างจริงปะ แล้วนี่มึงจะมายืนเบียดกูเพื่อ" ผมขยับตัวออกห่างจากไอ้แมนเมืองเพื่อจะหันไปหยิบครีมมาทาตัวทาหน้า

"กูขอเตือนมึงด้วยความหวังดี" บ่นเป็นคนแก่เลยนะไอ้นี่

"อืมๆเข้าใจแล้วครับบ่นเป็นแม่กูเลยนะมึง เออแล้วใครจะมาปล้ำกูวะถามหน่อยเหอะ " ผมบ่นงึมงำๆ ก่อนจะป้ายครีมทุกอย่างที่อยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งลงบนใบหน้าและผิวกาย และลุกขึ้นเดินนำไอ้แมนเมืองออกจากห้องเพื่อไปงานวันเกิดของเจ๊ชีส โดยที่ผมไม่ได้ยินคำพูดของไอ้แมนเมืองที่มันพูดพรึมพร่ำกับตัวเองเบาๆว่า.....


'เพราะกูนี่แหละที่จะปล้ำมึง'

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
อุ่ย เสียวสันหลังแทนธูปเลยแหะ

มีเพื่อนคอยจ้องจะงาบเนี่ย

ออฟไลน์ ❁INDY_FAMILY❁

  • -ทำไมต้องเดินตามรอยเท้าใคร เราสามารถสร้างรอยเท้าของเราเองได้-
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-12
ผมไม่ใช่พ่อเด็ก
ตอนที่ ๖ หลอกกันเล่นรึเปล่า




"เฮ้ย!!!ทางนี้ๆๆๆ"  ผมกับไอ้แมนเมืองเดินเข้ามาในร้านก็ได้ยินเสียงเจ๊ชีสที่แหกปากตะโกนเรียก (โดยไม่อายใคร) คือเจ๊แกเล่นยืนบนโซฟาแล้วโบกมือหยอยๆมาให้  อืมเล่นกูอายสายตาประชาชีตั้งแต่นาทีแรกที่เหยียบเข้ามาในร้านเลยเหรอเจ๊ ช่างเป็นผู้หญิงที่ควรค่าแก่การถูกเก็บรักษาเอาไว้จริงๆ

"มาช้าว่ะ" ไอ้ชาครับที่พูด ตอนนี้หน้ามันบอกบุญไม่รับอย่างแรง

"มาช้าดีกว่าไม่มานะมึง" ผมพูดก่อนจะหย่อนตูดนั่งลงข้างๆไอ้ชา และสายตาผมก็พลันไปเจอกับมนุษย์ถ้ำตัวหนึ่งที่ไม่รู้ว่าใครกันที่สามารถลากมันออกมาจากถ้ำได้ หรือว่ามันหมดฤดูจำศีลแล้ววะ

ขออธิบายนิดนึงนะครับไอ้มนุษย์ถ้ำคนเนี่ยมันเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับพวกผมแต่มันไม่ค่อยออกมาเจอผู้คนสักเท่าไหร่ (ขนาดเรียนมันยังไม่ค่อยจะมาเลยครับ ((มันเป็นเด็กบริหารครับ)) เพราะมันชอบจำศีลอยู่ในถ้ำ นานๆครั้งมันถึงจะโผล่หน้าออกมาเจอฝูงชน จนบางครั้งพวกผมก็ลืมไปแล้วว่ามีมันเป็นเพื่อน

"ไอ้เพื่อนมึงมาได้ไงวะ" ผมตะโกนถามมนุษย์ถ้ำที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

"เจ๊ชีสอ่ะดิ แมร่งไปลากกูถึงหอจะไม่มาก็ไม่ได้อีก เล่นยืนแผ่รังสีหน้าประตูห้องกูอ่ะคนเค้าก็นึกว่ากูทำผู้หญิงท้องแล้วไม่รับ" กูโคตรเข้าใจมึงเลยวะ ว่าแต่หน้าอย่างมึงคนจะคิดว่าเป็นเมียเจ๊ชีสอ่ะดิ ก่อนพูดอะไรมึงควรส่องกระจกดูเบ้าหน้าตัวเองนิดนึงนะไอ้เพื่อน

"ไอ้เพื่อนงานวันเกิดกูทั้งทีมันต้องครบองค์ประชุมดิวะ จะขาดใครไปไม่ได้ ต่อให้พวกมึงตายกูก็จะไปลากพวกมึงมาจากนรก มาร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ให้กูฟัง" เจ๊ชีสยืดอก (แบนๆ) ประกาศกร้าวอย่างมั่นใจ  คือเจ๊ไม่คิดบ้างเหรอครับว่าถ้าพวกผมตายพวกผมอาจจะได้ขึ้นสวรรค์นะครับ

"เจ๊ถ้าพวกผมร้องเพลงให้เจ๊ฟังแล้วเจ๊จะเด็กลงป่ะ ก็ไม่นะแล้วทำไมต้องอยากฟังนักวะ" ไอ้เพื่อนพูดจาวอนโดนตีนมาก   

"น่ารำคาญ" ไอ้ชาพูดขึ้นด้วยอารมณ์ขุ่นๆ

"อารมณ์ไม่ดีเพราะไอ้โซ่ไม่มาเหรอวะ" เจ๊ชีสแกว่งตีนกลับมาหาปากไอ้ชาแล้วครับ

"พูดมาก" ไอ้ชาหันไปว่าเจ๊ชีสก่อนจะเลิกสนใจเสียงโห่เสียงแซวจากเจ๊แก  อืมผมดูเจ๊แกมีความสุขอยู่คนเดียวนะคนอื่นๆเค้ายังไม่เฮฮาขนาดนี้เลยหรือว่าเจ๊แกเมาหญ้าแห้งวะ

ผมเลิกสนใจเจ๊ชีสก่อนจะหันไปทักทาย (ยกมือไหว้อย่างสวยงาม) กับพวกเพื่อนที่โรงเรียนเก่าเจ๊แก (พวกเฮียๆเรียนกันจบแล้วครับมีงานมีการดีๆทำกันหมดแล้วมีแต่เจ๊ชีสนี่แหละที่ยังคงเรียนอยู่) และพวกเพื่อนๆไอ้เทียน (กลุ่มนี้ไม่ยกมือไหว้นะครับ) ที่ดูจะทำตัวกลมกลืนซะจนแยกออก (กลมกลืนยังไงวะ) พวกมันมานานแล้วครับและก็ตีซี้ตีสนิทพวกเพื่อนๆเจ๊ชีสเรียบร้อยแล้ว หลังจากทำตัวเป็นคนของประชาชนเสร็จเรียบร้อยผมก็ดื่มไปคุยกันไปเฮฮาปาจิงโกะสุดติ่งกระดิ่งแมว โต๊ะพวกผมเสียงดังกันแบบลืมตาย ไม่อายและไม่เกรงใจใครหน้าไหนทั้งนั่นก็มากับเจ๊ชีสขาใหญ่นี่ครับ ใครมีปัญหาก็มาเคลียร์กับเจ๊แกได้ ถ้าไม่โดนเตะสลบซะก่อนอ่ะนะ

พวกผมคุยกันไปดื่มกันไปเสียงดังประหนึ่งว่าเป็นวันพบญาติของผู้ต้องขังยังไงยังงั้น เสียงดังแข่งกับเสียงเพลงกันเลยทีเดียว แต่อยู่ดีๆผมก็รู้สึกว่ามีใครมาสะกิดที่แขนพอเงยหน้าขึ้นไปมองก็เจอกับไอ้เซอร์มาวินที่ยืนทำหน้ามึนอึนอยู่ข้างๆ   ผมมองหน้ามันพร้อมกับเลิกคิ้วด้วยความสงสัยประมาณว่ามึงสะกิดเรียกกูเหรอ ส่วนไอ้มาวินก็ส่งสายตามาให้ประมาณว่าถ้าไม่ใช่มึงแล้วกูจะสะกิดหาพ่องมึงเหรอครับ ประมาณเนี่ยแหละครับ =_=!! ไอ้เซอร์มาวินมันพยักหน้าให้ผมก่อนจะเดินออกจากร้านไปส่วนผมก็ลุกขึ้นเดินตามมันไปแบบงงๆ

พอเดินมาถึงหน้าร้านไอ้มาวินก็จุดบุหรี่ดูดพร้อมกับยื่นซองบุหรี่มาทางผม ช่างเป็นคนดีมีน้ำใจซะจริงๆแบ่งปันมะเร็งมาให้กูด้วย ผมส่ายหัวปฏิเสธมันไปไม่ใช่ว่าผมไม่ดูดบุหรี่นะครับ แต่ที่ผมปฏิเสธไม่รับบุหรี่จากมันก็เพราะว่าผมไม่ดูดบุหรี่ยี่ห้อนี้แค่นั่นแหละครับเหตุผล ไม่ใช่ว่าเป็นคนรักสุขภาพอะไรหรอกครับ เหอๆ (จะรับมะเร็งเข้าสู่ร่างกายเราก็ต้องเลือกยี่ห้อกันนิดนึง มะเร็งยี่ห้อกระโหลกกะลาผมไม่มีทางให้เข้าสู่ปอดผมแน่ๆล่ะครับ)

ผมยืนรอว่ามันมีเรื่องอะไรจะพูดกับผม แต่ไอ้เซอร์มาวินมันก็ยังคงยืนเต๊ะท่าดูดบุหรี่โดยไม่พูดอะไรและไม่สนใจผมอีกต่างหาก แล้วมึงมาสะกิดเรียกกูออกมาเพื่อ? สายตามันเหม่อมองออกไปไกลแสนไกลไม่ได้โฟกัสที่จุดใดจุดหนึ่ง เหมือนมันมีเรื่องให้คิดและมันก็คงคิดไม่ตกกับปัญหาของมัน ว่าแต่ผมเกี่ยวอะไรกับปัญหาของมันด้วยวะทำไมต้องมายืนดูมันพ่นมะเร็งใส่ผมด้วยเนี่ย กูไม่เอามะเร็งยี่ห้อนี้ไม่ต้องพ่นมาทางกู

ยืนไปก็ปวดขาเปล่าๆแถมเสียเวลาแดกเหล้าอีก เมื่อคิดได้ดังนั่นผมเลยหันหลังจะเดินกลับเข้าไปในร้านแต่ไอ้เซอร์มันดันมาจับแขนผมเอาไว้ซะก่อน

"เดี๋ยว"

ผมหันกลับไปมองมันก็เห็นมันกำลังเอาแจ๊คหนังหุ้มข้อบดบี้ขยี้บุหรี่ที่พื้นอยู่  "มีไรวะ" ผมถามด้วยความสงสัย

"กูชอบไอ้เทียน" O_O!! มันบอกว่าอะไรนะ ผมได้ยินไม่ชัด มันบอกว่ามันชอบไอ้เทียน OMG ตาเถรตกต้นชี มึงพูดอะไรออกมาเนี่ย

"มะ มึงเป็นเกย์เหรอวะ" ผมถามพร้อมกับขยับตัวหนีมันนิดนึงพองามเพื่อไม่ให้ดูน่าเกลียดและไม่ให้มันรู้ว่าผมรังเกียจมัน

"ถ้าการที่กูรักผู้ชายคนนึงมันหมายความว่ากูต้องเป็นเกย์ งั้นกูคงเป็นเกย์อ่ะ" กูต้องงงไหมวะ

"แล้วไอ้เทียนรู้รึเปล่าว่ามึงชอบมัน"  ไอ้เซอร์ถอนหายใจดังเฮือกก่อนจะตอบ

"รู้" มันหันมามองหน้าผม  "แต่มันไม่ชอบกูพอกูตื้อมันมากๆเข้ามันก็หนีกูไปทำผู้หญิงท้องเฉยเลย กูเศร้าว่ะ กูรักมันแต่กูไม่อยากเป็นมือที่สามทำให้ครอบครัวใครเขาแตกแยก กูไม่อยากพรากลูกพรากเมียใคร" ดราม่าใส่กูซะงั้น กูว่าต่อให้มึงคิดจะพรากก็คงทำไม่ได้อ่ะนะเพราะพี่ชายเมียไอ้เทียนมันคงไม่ยอมหรอกว่ะกูว่า อีกอย่างมึงพูดเหมือนน้องกูมีใจให้มึงยังนั่นแหละ ทั้งๆที่มึงเพิ่งจะบอกเองว่ามันไม่ชอบมึง

"แล้วมึงมาบอกกูทำไมวะ กูเกี่ยวอะไรด้วยไม่ทราบ" ดูไปมันไม่เกี่ยวอะไรกับผมเลยนะเรื่องนี้ ใครจะรักกับใครใครจะทำใครท้องมันเกี่ยวอะไรกับกูวะ ทำไมอะไรๆก็กูตลอดเลย

"เกี่ยวดิมึงน่ะตัวเกี่ยวเลย" ไอ้เซอร์หันมามองผมและถ้าตาผมไม่บอดผมว่าผมเห็นสำแสงสีชมพูอมม่วงจากตัวมันพุ่งตรงมาทางผมนะ เอาแล้วไงตาขวากูกระตุกแล้วครับ

"กูเกี่ยวยังไงวะ" ทำใจดีสู้เกย์(?)ถามมันออกไปเอาให้เคลียร์ครับงานนี้  ไอ้เซอร์เอื้อมมือมาจับไหล่ผมทั้งสองข้าง ซึ่งผมก็พยายามสะบัดแต่ไม่หลุด (ไม่ต้องเข้ามาใกล้กูได้ไหมกูกลัว)  ก่อนที่คำพูดมันจะทำเอาผมช็อคตาค้างเพราะตรรกะทางความคิดที่แปลกแหวกของมัน

"ก็ในเมื่อไอ้เทียนมันหนีกูไปมีเมียดังนั่นคนที่น่าตาเหมือนไอ้เทียนก็เหลือแค่มึงกูก็ว่าจะจีบมึงแทน เป็นไงดีมะ" ดีบ้านป้าแกสิ ถามกูสักคำไหมว่าต้องการให้มึงจีบรึเปล่า อย่าคิดเองเออเองไอ้ธูปขอร้อง

"กูเป็นผู้ชายเหอะ แล้วมึงก็ไม่ต้องมาจีบกูเลยไปหาคนอื่นไป๊" เอกราชกูมึงอย่ามาคิดที่จะทำลายเชียวนะมึง กูกระโดดเตะสองตีนจริงๆนะเว้ย

"กูก็ไม่ได้บอกว่ามึงเป็นผู้หญิงนี่ แล้วมึงจะให้กูไปจีบใครในเมื่อคนที่หน้าเหมือนไอ้เทียนมันก็มีมึงคนเดียว หรือว่ามึงมีแฝดอีกล่ะกูจะได้ไปจีบมัน" อย่ามายุ่งกับกูเลยกูขออยู่สงบๆเถอะครับพี่น้องครับ

"กูยังอยากมีเมียเป็นผู้หญิงเหอะ" ตอนนี้ผมเริ่มถอยห่างจากไอ้เซอร์เรื่อยๆแล้วครับ "แล้วมึงใช้สมองส่วนไหนคิดวะว่าจะมาจีบกูเพราะกูหน้าเหมือนไอ้เทียน กูกับไอ้เทียนคนละคนเหอะ"

"สมองที่กูคิดมาดีแล้วไง มึงคอยดูเถอะไอ้ธูปกูจะไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเด็ดขาด กูจะทำทุกอย่างไม่ให้มึงมีเมีย เพราะกูจะเอามึงทำเมียแทนไอ้เทียน"  คำพูดคำจาน่าเอาส้นตีนลูบหน้าจริงๆ

"พูดเชรี้ยอะไรเนี่ย มึงบ้าป่าววะมึงชอบไอ้เทียนไม่ได้ชอบกู พออกหักจากน้องกูมึงก็จะมาจีบกูเพราะกูหน้าเหมือนไอ้เทียนเนี่ยนะ มึงใช้ส้นตีนคิดเหรอห๊า" เดือดสุดๆเกิดมากูยังไม่เคยโดนใครจีบด้วยเหตุผลเลวๆแบบนี้เลย แมร่งคิดได้ไงวะจีบกูเพราะกูหน้าเมือนคนที่มันชอบ

"มันก็จริงที่มึงบอกว่ากูชอบไอ้เทียน แต่มึงรู้ปะว่าตั้งแต่ที่กูได้คุยกับมึงกูว่าเราสองคนไปกันได้นะเว้ย เคมีเรามันเข้ากันเชื่อกูเถอะ" ใครเชื่อมึง ไม่ต้องมาล้างสมองกูเลยนะ แล้วเคมงเคมีอะไรกูไม่ได้เรียนวิทย์กูไม่รู้จักอย่ามาหลอกกูซะให้ยากเลย

"ไร้ซึ่งสาระมากๆกูกลับไปแดกเหล้าข้างในยังมีสาระกว่าอีก" ผมกำลังจะเดินหันหลังกลับเข้าไปในร้านแต่ก็ต้องหยุดขาทั้งสองข้างของตัวเองเอาไว้ก่อนจะหันกลับไปมองไอ้เซอร์เพราะคำพูดของมัน

"กูจะจีบมึง เตรียมตัวและหัวใจมึงเอาไว้ให้ดีๆล่ะกัน เพราะกูจะเอามันมาเป็นของกูให้ได้คอยดูแล้วกัน" ปีนี้มันปีชงของกูแน่ๆ โดนซ้อมเพราะเข้าใจผิดกูยังไม่เครียดเท่ากับโดนผู้ชายด้วยกันจีบกูเลย พระเจ้ากำลังเล่นตลกอะไรกับผมอยู่เหรอครับ

"ข้ามศพกูไปก่อนถ้ามึงคิดจะจีบไอ้ธูปอ่ะ" ผมกับไอ้เซอร์หันไปมองข้างหลังทันทีเมื่อได้ยินเสียงของบุคคลที่สามที่อยากมีส่วนร่วมในวงสนทนาที่ผมไม่อยากให้ใครมาได้ยิน

"มึงมายุ่งไรด้วยวะ" ไอ้เซอร์เดินไปยืนประจันหน้ากับไอ้แมนเมือง

"กูไม่จำเป็นต้องบอกมึง" ไอ้แมนเมืองก็ยืดอกพกความกวนตีนไว้สุดติ่งเช่นกัน

"ไอ้เมืองแมนเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับมึง" เพื่อนกูชื่อแมนเมืองเว้ย

"กูชื่อแมนเมืองเหอะ" ก็นะตอนกูจะแนะนำให้รู้จักดันไม่อยากรู้จักกันแล้วเป็นไงเรียกชื่อผิดอายไหมล่ะมึง

"จะชื่ออะไรก็ช่างมึงเถอะ แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับมึง" แถสีข้างถลอกแล้วไอ้เซอร์ อายก็บอกไปเถอะ กูไม่ล้อมึงหรอก

"ทำไมจะไม่เกี่ยว" ไอ้แมนเมืองหันมามองสบตาผมแวบนึง  อืมเจนรู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่างที่ถูกส่งผ่านมาทางสายตาคู่นั่นเค๊อะ อย่ามองกูด้วยสายตาแบบนั่นกูขนลุกเหอะ

"เกี่ยวยังไงวะ" มึงจะไปถามมันทำไมล่ะครับ มึงมองสายตามันก็น่าจะรู้จะไปถามมันให้กูลำบากใจทำไมครับ

"เพราะกูก็ชอบไอ้ธูปและกูก็ชอบมันมาก่อนมึง ดังนั่นมึงไม่มีสิทธิ์มาจีบไอ้ธูปตัดหน้ากู" นั่นไงคำตอบที่กูไม่อยากได้ยิน ชัวร์เลยปีนี้ปีชงของกูชัวร์

"ไอ้แมนมึงพูดเรื่องอะไรวะเนี่ย" ผมกลั้นใจถามมันออกไป ช่วยบอกกูทีเถอะว่ามึงล้อกูเล่นอ่ะนะ

"กูชอบมึง ชอบมานานแล้วด้วย" อย่าย้ำให้กูขนลุกไปมากกว่านี้

"มึงเป็นเกย์เหรอวะ" ขอร้องอย่าตอบเหมือนไอ้เซอร์นะ เพราะมันน้ำเน่ามาก

"เปล่า" ไอ้แมนเมืองปฏิเสธ

"อย่าพูดนะว่ามึงเป็นผู้ชาย แต่การที่มึงชอบกูจะทำให้มึงเป็นเกย์มึงก็ยอม" ผมก๊อบปี้คำพูดของไอ้เซอร์เป๊ะๆทุกคำ

ไอ้แมนเมืองส่ายหัวไปมาก่อนจะเอ่ยปากพูด  "กูไม่ได้เป็นเกย์แต่กูเป็นไบ" แล้วมันแตกต่างกันตรงไหนวะ งง ไอ้ธูปไม่เข้าใจ ไบคืออะไรอ่ะ

"แต่กูเป็นผู้ชาย แล้วกูก็ไม่คิดจะมีเมียเป็นผู้ชายด้วยว่ะ" ผมบอกเจตนารมณ์ของตัวเองออกไปให้พวกมันฟัง จะได้เลิกยุ่งกับผมสักที

"กูก็ไม่ได้บอกว่ากูจะเป็นเมียมึงนิ" นี่มึงคิดจะตีประตูเมืองกูเหรอวะไอ้แมนเมืองไอ้เพื่อนเลว

"มึงสองคนอย่าบอกกูนะว่า......"  ผมชี้หน้าไอ้สองตัวที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยอาการสั่นสะท้านในทรวง

"มึงนั่นแหละต้องเป็นเมียกู!!" สัดทีเรื่องนี้ล่ะสามัคคีกันเลยนะพวกมึง

"อย่ามายุ่งกับกู!!" ผมถอยห่างพวกมันเรื่อยๆ  "ไอ้แมนมึงเป็นเพื่อนกูนะ ถ้ามึงยังไม่เลิกคิดเรื่องบ้าๆพรรณ์นี้กูจะเลิกคบกับมึงจริงๆนะ" ผมพูดขู่เพื่อนสนิทตัวเองออกไป

"กูไม่ใช่เพื่อนมึงถ้างั้นกูก็จีบมึงได้อ่ะดิ" ยังเหลือไอ้เซอร์อีกตัวครับ

"ข้ามศพกูไปก่อนเหอะ" ไอ้แมนเมือง

"งั้นมึงก็วิ่งไปให้รถชนดิจะได้ตายๆไปซะกูจะได้ข้ามศพเน่าๆของมึงไปจีบพี่ชายไอ้เทียนมันสักทียืนพูดอยู่ได้เหม็นขี้ฟันว่ะ" ในสมองมึงมีแต่เยลลี่ใช่มะไอ้เซอร์

"กวนตีนกูใช่มะหรือมึงจะเอา"
 
"กูไม่เอามึงหรอก ตัวยังกับหมีขั่วโลก" เชิญพวกมันสองตัวเถียงกันอย่างกับเด็กๆต่อไป

"พอ!! มึงทั้งสองตัวหยุดกัดกันได้แล้ว" ผมสวมวิญญาณพี่ว๊าก (จำมาจากไอ้พี่พาย) ไอ้สองตัวที่กำลังกระชากคอเสื้อของกันและกันอยู่ มันสองคนหันมาสนใจผมแวบนึงก่อนจะหันกลับไปแยกเขี้ยวใส่กันเหมือนเดิม


สนใจกูมาก

ดีงั้นก็กัดกันให้ตายไปเลยกูไม่สนใจพวกมึงล่ะ เสียเวลาร่ำสุรากูฉิบหาย ผมเดินหัวเสียกลับเข้าไปในร้านโดยไม่ได้หันกลับไปมองไอ้สองตัวที่ยืนแลกขนมตุบตั๊บกันอยู่หน้าร้าน ถ้ามันอยากต่อยกันนักก็ปล่อยให้มันต่อยกันไป ผมไม่อยากยุ่งด้วย ไร้สาระที่สุด

"ไปไหนมาวะ" พอผมนั่งลงปุ๊บไอ้น้ำเหนือก็เสนอหน้ามาถามผมทันที

"ไปดูหมากัดกัน" ผมตอบก่อนจะกระดกเหล้าเข้าปากโดยไม่สนใจอะไรอีก
.
.
.
.
.
.
"เฮ้ยมึงสองตัวไปฟัดกับหมาที่ไหนมาวะทำไมสภาพมันเละขนาดนี้วะเนี่ย" เจ๊ชีสลุกขึ้นยืนทันทีเมื่อเจอหมาบ้าสองตัวเดินกลับเข้ามาในร้าน

"ไม่มีอะไรหรอกเจ๊" ไอ้แมนเมืองตอบเจ๊แกก่อนจะหันมามองหน้าผมซึ่งแน่นอนผมรีบก้มหน้าหลบสายตาของมันทันที

"แน่ใจว่าไม่มีใครทำอะไรพวกมึง" เจ๊ชีสแกยังคงคาใจ

"ไม่มีใครทำอะไรหรอกเพราะดูๆแล้วมันสองตัวคงฟัดกันเอง" เพื่อนเจ๊ชีส (เฮียฮง) เป็นคนพูดขึ้น

"มึงสองตัวต่อยกันทำไมวะ" จะถามทำไมครับแค่นี้กูก็อายมากพอแล้วเหอะ

"เรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อยอ่ะเจ๊" ไอ้แมนเมืองเดินมานั่งลงข้างๆผมอยากจะกระเถิบหนีแต่ไม่สามารถทำได้อย่างใจคิดเลยทำได้แค่เห็นมันเป็นธาตุอากาศ ส่วนไอ้เซอร์กลับไปนั่งกับกลุ่มเพื่อนๆมันโดยที่มันยังไม่ลืมส่งสายตาหวานเยิ้มที่มีรอยเขียวช้ำๆมาให้ผม มีบางครั้งที่มันมองไอ้คนข้างๆผมด้วยสายตาอาฆาต มึงนี่ก็เก่งเนอะเดี๋ยวทำตาหวานเดี๋ยวทำตาขวาง กูกลัวตามึงจะเหล่ซะก่อน

พวกเพื่อนๆไอ้เซอร์ก็คงพอจะรู้แหละครับว่ามันไปมีเรื่องกับใครเพราะไอ้พวกที่เหลือมันพร้อมใจกันส่งสายตาอาฆาตมาให้ไอ้แมนเมือง อืมถ้าสายตาพวกมึงเป็นมีดกูว่าไปไอ้แมนเมืองคงตายไปแล้วล่ะ ส่วนพวกเพื่อนกลุ่มผมน่ะเหรอ เมาเหล้าไม่สนใจใครแล้วครับ ดีเหมือนกันเพราะผมขี้เกียจตอบคำถามและไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้ด้วย

"มึงโกรธกูเหรอวะธูป" ไอ้แมนเมืองมันกระซิบถามผม

ผมกระเถิบหนีมันก่อนจะส่ายหน้าให้มันเป็นคำตอบคือปากไม่ว่างกูแดกเหล้าอยู่

"ไม่โกรธแล้วทำไมไม่พูดกับกูอ่ะ"

"ถ้ามึงยังคิดเชรี้ยๆกับกู กูก็จะไม่พูดกับมึงอีกเลย" ผมหันไปตอบมัน

"ความรักมันไม่ใช่เรื่องผิดนะเว้ยธูป" อย่ามาดราม่าใส่กูไม่ได้ผลหรอกเว้ย

"มันผิดตรงที่เราเป็นเพื่อนกันและที่สำคัญมึงกับกูก็เป็นผู้ชายกันทั้งคู่ไง"

"มึงอย่าเอาเรื่องเพศมาเป็นตัวกำหนดดิวะธูป" ไอ้แมนเมืองเริ่มขยับเข้าใกล้ผมเรื่อยๆ  "ทำไมวะความรักมันต้องเป็นผู้หญิงกับผู้ชายแค่นั้นเหรอวะ"

"กูไม่ได้หมายความอย่างนั้น แต่กูเป็นผู้ชายไม่ใช่เกย์กูชอบผู้หญิงไม่ได้ชอบผู้ชายเข้าใจป่ะวะ"

"ผู้ชายบางคนไม่ได้เป็นเกย์ยังรักกับผู้ชายด้วยกันได้เลยมึงไม่เคยอ่านในพันทิพ ในเว็บนิยายเกย์เหรอว่ะ คิดไรมากวะมึงลองเปิดใจดิธูปแล้วมึงจะรู้ว่ามันไม่ได้แย่อย่างที่มึงคิด" เข้าใจหว่านล้อมกูซะเหลือเกิน แต่กูไม่หลงกลมึงแน่นอน คือกูแมนๆเตะบอลกูจะเข้าเว็บนิยายเกย์เพื่ออะไรครับ

"ไม่วะขอบใจที่แนะนำ ยังไงๆกูก็ยังชอบผู้หญิงอยู่วะ และถ้ามึงยังคิดจะจีบกูอยู่ล่ะก็เลิกคิดไปได้เลย ไม่งั้นกูจะเลิกคบมึง" ผมขู่มันก่อนจะหันไปสนใจแก้วเหล้าในมือ ให้มันได้คิดเองกับสิ่งที่ผมพูด ผมว่าผมเองก็พูดเคลียร์แล้วนะถ้ามันยังดื้อรั้นอยู่อีกผมคงต้องจัดการขั้นเด็ดขาด (ผมคงไม่ต้องลงทุนเหมือนไอ้เทียนหรอกนะยังไม่อยากมีเมียตอนนี้ กลัวแม่หัวใจวาย)

ผมถอนหายใจหนักๆหลังจากที่เห็นอาการของไอ้แมนเมืองที่แดกกระดกแก้วเหล้ายังกับน้ำหลังจากที่ผมพูดออกไป พอหันไปมองไอ้เซอร์สภาพก็ไม่ต่างกันกับไอ้แมนเมืองเลย เฮ้อ!!เหนื่อยใจว่ะเกิดมาหน้าตาดี ก็มีแต่คนหมายปอง โอ๊ยไอ้ธูปอยากขี้เหร่ครับ ไอ้ธูปอยากเป็นสิว ไอ้ธูปอยากเอามีดมากรีดหน้าตัวเองจังเลย อยากขี้เหร่จะได้ไม่ต้องมีคนมาแย่งมาแข่งกันจีบธูปแบบนี้ เหอๆ

ผมลุกขึ้นเดินออกจากโต๊ะที่นั่งอยู่เพราะตอนนี้กระเพาะผมมันรับน้ำเข้าไปเยอะผมเลยต้องเอามันออกอย่างด่วน ทำไมโลกมันเอียงๆวะหรือว่าผมจะเมา ผมเดินเซๆไปห้องน้ำที่ไม่ไกลแต่โคตรจะนานกว่าจะถึง (เพราะเซไปข้างหน้าทีข้างหลังที) กว่าจะถึงห้องน้ำก็ใช้เวลาพอสมควรผมเข้าไปปลดทุกข์เรียบร้อยก็เดินไปล้างมือตรงบริเวณอ่างล้างหน้าแต่ระหว่างที่ผมกำลังล้างมืออยู่นั่นก็มีมือปริศนามาสะกิดที่หลังของผม

ผมหันกลับไปมองก็เจอกับหญิงสาวสวยเซ็กส์เอ๊กซ์แตก นมระเบิดคนนึงยืนอยู่ด้านหลังผม นี่มันห้องน้ำชายนะครับน้อง แล้วน้องเขาเข้ามาทำไมวะผมยืนงงอยู่สักพักก่อนจะรวบรวมสติอันน้อยนิดและเอ่ยปากถามน้องเค้าไป

"มีอะไรรึเปล่าครับ" ผมถาม

"พี่ธูปจำบีไม่ได้เหรอคะ" บีไหนวะ แล้วแอ๊บเสียงทำไมครับน้อง กล่องเสียงอักเสบเหรอครับ

"จะ จำไม่ได้อ่ะครับ"

น้องบีทำหน้าหง่อยๆก่อนจะฉีกยิ้มให้ผมอีกครั้ง  "บีเพื่อนของน้ำฝนแฟนเก่าพี่ไงจำได้รึยังเอ่ย" เอ่อน้ำฝนปีสองแฟนเก่าผม

"อ้อ ครับๆจำได้แล้วครับแล้วมีอะไรรึเปล่าครับ" จริงๆจำไม่ได้อ่ะแต่แหลไปก่อน

"คือบีอยากจะอาเจียนน่ะค่ะเลยอยากให้พี่ธูปช่วยลูบหลังให้บีหน่อย อุ๊บ!!"  น้องบีรีบเอามืออุดปากตัวเองทันที  ยืนคุยกันตั้งนานสองนานไม่อ้วกพอพูดจบธาตุไฟแทรกร่างเหรอครับน้อง ถึงได้พะอืดพะอมขนาดนั้น

"น้องบีแพ้ท้องเหรอครับ" น้องบีถลึงตาใส่ผมทันที   โถ่น้องครับมุกนี้พี่เคยเจอมาแล้วครับ เห็นหล่อๆแบบนี้พี่ไม่โง่นะครับ

"เปล่าคะบีไม่ได้แพ้ท้อง บียังไม่เคยมีอะไรกับใครเลยนะคะ" น้องบีรีบเอามือออกจากปากพูดบอกผมอย่างไว โดยอาการพะอืดพะอมก่อนหน้านี้หายไปสิ้น

"ครับๆพี่เชื่อว่าน้องไม่เคย" แหมนะเข้าหาผู้ชายซะขนาดนี้เชื่อก็โง่แล้วน้อง  "เฮ้ยน้องบีจะพาพี่ไหน" น้องบีฉุดกระชากลากแขนผมตรงดิ่งไปที่ห้องน้ำห้องในสุด

ผมเองก็เดินตามมาโดยไม่ได้ขัดขืนเพราะอยากรู้ว่าน้องมันจะทำอะไรกับผมเหมือนกัน พอเข้ามาในห้องน้ำน้องแกก็ล็อคประตูและเข้าชาร์ตผมทันที น้องบีโน้มคอผมลงมาก่อนจะประกบจูบปากผมอย่างเร่าร้อน เนี่ยนะคนไม่เค๊ยไม่เคยจูบเก่งโคตรๆลิ้นนี้ไล้เข้ามาในช่องปากผมอย่างหื่นกระหาย สะโพกมนของน้องเขาก็บดเบียดอยู่ตรงเป้ากางเกงผม มือข้างหนึ่งที่ว่างอยู่ก็ลูบไล้อยู่แถวๆหน้าท้องผมก่อนจะเริ่มถกเสื้อของผม น้องบีถอนริมฝีปากจากปากผมและเริ่มซุกซนอยู่แถวๆน่าอกผม น้องบีทั้งดูดทั้งกัดจนหน้าอกผมแดงไปหมด ผมดันไหล่น้องแกออกจากตัวผมซึ่งน้องแกก็ฝืนตัวไว้ไม่ยอมง่ายๆ

"บีจะอ้วกไม่ใช่หรอคะ" ผมถามอีกฝ่ายที่แสดงอาการหื่นใส่ผมอย่างไม่ปิดบัง ผู้หญิงสมัยนี้น่ากลัวฉิบ

"พี่ธูปคะ บีชอบพี่อ่ะค่ะชอบมานานแล้วด้วย" วันนี้มันวันอะไรวะเนี่ยทำไมมีแต่คนมาสารภาพรักกับกูจัง คิวปิคช่างขยันแผลงศรใส่กูจริงๆนะครับ

"แต่พี่เคยเป็นแฟนน้ำฝนเพื่อนเรานะคะ" ผมพยายามจะหาทางชิ่งน้องบี

"ก็เลิกกันแล้วไม่ใช่เหรอ บีไม่ถือหรอกค่ะ" แต่พี่ถือครับน้อง แรงขนาดนี้ไอ้ธูปขอผ่านล่ะครับ คบไม่ไหวจริงๆกูกลัว

"ออกไปคุยกันข้างนอกดีกว่านะคะ อยู่ในนี้นานๆมันไม่ดีนะ" ผมเปิดประตูห้องน้ำออกมาก็ต้องผงะเพราะไม่คิดว่าจะเจอคนที่คุณก็รู้ว่าใคร

ไอ้พี่พายมันยืนมองหน้าผมก่อนจะแสยะยิ้มมาให้และเดินเข้าห้องน้ำห้องข้างๆไปโดยไม่สนใจผมที่ยืนเอ๋ออยู่

"พี่ธูปคะเราไปคุยกันต่อที่ห้องบีไหม" น้องบีเดินมาเกาะแขนผมพร้อมกับเอาฟาร์มโคนมมาเบียดๆที่แขนผมอย่างจงใจ คือตอนนี้สมงสมองผมมันเออเรอไปหมดเมื่อเจอหน้าคนที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ

"ไอ้ธูปมึงอยู่นี่เองกูหาซะทั่ว" สาดดดด กูไม่เคยดีใจเท่านี่มาก่อนเลยที่เห็นหน้ามึง ไอ้น้ำเหนือ

"เออ บีพี่ขอตัวก่อนนะคะพอดีพี่มีเรื่องต้องเคลียร์กับเพื่อนพี่น่ะ ไว้คุยกันวันหลังนะ" ผมรีบลากแขนไอ้น้ำเหนือออกจากห้องน้ำทันทีโดยไม่ฟังเสียงร้องเรียกของหญิงสาวที่แหกปากเรียกผมอยู่ด้านหลังโดยไม่อายใคร ส่วนไอ้น้ำเหนือก็ทำหน้ากระหยิ่มยิ้มย่องใส่ผม

"ร้ายนะมึง นี่กูมาขัดจังหวะป่าววะ" ไอ้น้ำเหนือมึงอย่าเพิ่งถามรีบเดินก่อนเดี๋ยวแม่นางตามมางานจะงอกกู

"มึงมาช่วยกูไว้ต่างหากกูเกือบโดนปล้ำน่ะ" ถ้าไอ้น้ำเหนือมาไม่ท้นผมคงได้รวมร่างกับน้องบีแน่ๆ ปลุกเร้าอารมณ์เก่งขั้นเทพจริงๆ นี่ขนาดน้องเขาไม่เค๊ยไม่เคยนะครับเนี่ย แค่คิดก็หลอนแล้วกูน้ำฝนไปคบเพื่อนแบบนี้ได้ไงวะ

"หราาาาา" ทำหน้ากวนตีนใส่กูอีก

"เออ"

ผมกับไอ้น้ำเหนือเดินกลับมาที่โต๊ะ (ผมลากมัน) ก่อนที่นักร้องบนเวทีจะร้องเพลงแฮปปี้เบริ์ดเดย์ให้เจ๊ชีส พี่ตุล (เพื่อนเจ๊ชีส) ถือเค้กก้อนใหญ่เดินมาที่โต๊ะพวกเราหลังนักร้องร้องเพลงจบเรียบร้อยแล้วเจ๊แกก็อธิฐานก่อนเป่าเทียนเสร็จเจ๊แกก็วางเค้กลงบนโต๊ะ พวกผมก็เริ่มหันมาสนใจเหล้าบนโต๊ะกันเหมือนเดิม ผมกระดกเหล้าเข้าปากแบบลืมตายเพราะสายตาผมดันหันไปเห็นบุคลลอันตรายทั้งสองคนที่ผมไม่อยากเจอมากที่สุด คนนึงคือผู้หญิงที่พยายามจะปล้ำผมในห้องน้ำซึ้งตอนนี้น้องบีนั่งรวมกลุ่มกับเพื่อนๆน้องเขา ผมมองผ่านๆแล้วไม่เห็นน้ำฝนแฟนเก่าอยู่ในกลุ่ม ส่วนอีกคนคือผู้ชายที่ผมโคตรเกลียดขี้หน้า ไอ้พี่พายมันนั่งอยู่กับผู้หญิงโคตรจะสวยเลยครับ ทั้งสองคนมองมาที่ผมจนผมรู้สึกขนหัวลุก สายตาที่มองมามันต่างกันแต่ทำเอาผมผวาได้พอๆกัน
.
.
.
.
.
.
"ไอ้ธูปมึงเมาแล้วพอๆ" เสียงครายวะ แล้วแก้วเหล้ากูเอาไปไหนเอามานี่

"ครายมาวกูยางม่ายมาว" เหล้ากูเอาเหล้ากูมา

"ธูปมึงเมาแล้วกลับบ้านเหอะเดี๋ยวกูไปส่ง" ใครเมาวะกูบอกว่ากูไม่ได้เมา กูเมาตรงไหนเนี่ย

"ม่ายกลับ" เฮ้ยจะลากกูไปไหน ปล่อยๆๆๆ

"อย่าดื้นดิวะ"  ใครวะเนี่ยมาลากกูทำไม 

"อืม ปล่อยกู กูจะแดกเหล้า"

"เดี๋ยวไปแดกต่อที่ห้องกูป่ะเร็ว" ผมไม่ได้พูดอะไรต่อเพราะตอนนี้ไอ้ที่กินๆเข้าไปมันเริ่มจุกอยู่ที่ลิ้นปี่แล้วครับ กลัวว่าถ้าพูดออกไปมันจะพุ่งออกมาและมันจะเกิดปัญหาเพราะการทรงตัวของผมอาจจะทำให้มันเลอะได้ดังนั่นไอ้ธูปขออยู่เงียบๆดีกว่า 

ผมโดนลากมาที่รถใครก็ไม่รู้ก่อนจะถูกยัดเข้าไปในรถ เบาะถูกปรับเอนไปด้านหลังและผมก็ไม่รอช้าตูดถึงเบาะไอ้ธูปก็เข้าญาณทันที
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ผมตื่นขึ้นมาในตอนบ่ายๆของอีกวันนึงรู้สึกปวดเมื่อยตามตัวแปลกๆ ผมลืมตาขึ้นก่อนจะหรี่ตาเพื่อปรับแสงที่แหยงตา อืมเพดานห้องไม่คุ้นอย่างแรง ผ้าม่านไม่เคยเห็น สภาพห้องไม่เคยผ่านตา ที่นี่ที่ไหนวะผมพยายามจะลุกขึ้นแต่ก็ต้องร้องซื้ดออกมาเพราะรู้สึกปวดที่สะโพกจนแทบทนไม่ไหว ผมมองดูมือที่พาดอยู่บนท้องผมก่อนจะมองเลยลงไปก็เห็นขาสองข้างพาดเกยกันอยู่ที่ขาผม ผมพยายามตั้งสติก่อนจะหันมองทางขวามือผมก็เห็นไอ้แมนเมืองนอนอยู่ข้างๆพอหันไปมองด้านซ้ายก็เห็นไอ้เซอร์มาวินนอนอยู่ข้างๆเช่นกัน

และที่สำคัญพวกเราสามคนนอนไม่ได้ใส่เสื้อผ้าครับ!! นี่ผมโดนปล้ำใช่ไหมเนี่ย เวรล่ะกูหนีผู้หญิงมาถูกผู้ชายสอย (ตูด) เหรอวะเนี่ย หนีเสือ (ผู้หญิง) ปะจระเข้ (เกย์) ชัดๆ มึงสองตัวสามพีกูใช่ไหม โฮกกกกกก T_T

ผมค่อยๆยกแขนและขาไอ้สองตัวที่กระทำชำเราผมออกจากร่างกายและรวบรวมพลังทั้งหมดที่มีค่อยๆลุกลงจากเตียงด้วยความยากลำบากเพราะร่างกายไม่เอื้อสุดๆ ผมเดินหาเสื้อผ้าตัวเองอยู่พักใหญ่ก็เห็นว่ามันถูกตากอยู่ที่ราวตรงระเบียงนอกห้องจึงไม่รอช้าคว้าเอาผ้าขนหนูที่พาดอยู่บนพนักเก้าอี้มาพันเอวก่อนจะเดินไปเอาเสื้อผ้าที่ระเบียงมาใส่อย่างเร็วและรีบหยิบเอากระเป๋าตังค์กับโทรศัพท์ที่วางอยู่ที่โต๊ะและรีบเผ่นออกจากห้องอย่างไวมุ่งตรงกลับบ้านด้วยหัวใจที่ชอกช้ำระกำอุราแบบสุดๆ

พยายามคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นแค่ความฝันมันไม่ใช่เรื่องจริง แต่ร่างกายผมมันกลับตอกย้ำว่าเรื่องทั้งหมดมันคือความจริงที่ผมไม่อาจปฏิเสธได้ ไอ้ธูปคนนี้ยังอยากมีเมียอยู่นะครับ แล้วทำไมสรรค์ถึงต้องกลั่นแกล้งไอ้ธูปด้วย ทำไมต้องให้ผมมีผัวแถมมีทีเดียวตั้งสองคนโอ๊ย ธูปรับไม่ได้

ชีวิตผมจะเจอเรื่องอะไรเลวร้ายกว่านี้อีกไหมเนี่ย


 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-04-2015 23:11:55 โดย ❁INDY_FAMILY❁ »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ❁INDY_FAMILY❁

  • -ทำไมต้องเดินตามรอยเท้าใคร เราสามารถสร้างรอยเท้าของเราเองได้-
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-12
ผมไม่ใช่พ่อเด็ก
ตอนที่ ๗ ฉันก็สู้คนนะฉันก็สู้คน


พยายามคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นแค่ความฝันมันไม่ใช่เรื่องจริง แต่ร่างกายผมมันกลับตอกย้ำว่าเรื่องทั้งหมดมันคือความจริงที่ผมไม่อาจปฏิเสธได้ ไอ้ธูปคนนี้ยังอยากมีเมียอยู่นะครับ แล้วทำไมสรรค์ถึงต้องกลั่นแกล้งไอ้ธูปด้วย ทำไมต้องให้ผมมีผัวแถมมีทีเดียวตั้งสองคนโอ๊ย ธูปรับไม่ได้


ผมพาร่างกายที่บอบช้ำออกมาจากห้องที่ไม่น่าจดจำนั่น ก่อนปิดประตูห้องให้มันด้วยมือที่สั่นเทา (มารยาทดีซะด้วยขอบอก) ผมยังไม่ลืมที่จะก้มเก็บเศษหัวใจที่แหลกสลายของตัวเองที่ตกกระจายอยู่ที่พื้น (รันทดได้อีกชีวิตกู) สองขาค่อยๆก้าวเดินลงบันได ห้องแมร่งก็ดันมาอยู่ชั้นสองอีกลิฟท์มันไม่เปิดรับอ่ะ สภาพผมตอนนี้ใกล้เคียงกับคำว่าทุพพลภาพไม่ต่างจากคนพิการสักเท่าไหร่
 
ผมต้องเกาะราวบันไดและค่อยๆลากสังขารที่ไม่สมประกอบลงมาทีละขั้นทีละขั้น พอมาถึงประตูด้านหน้าหอดันออกไม่ได้อีก =_=!! เพราะไม่มีคีย์การ์ดผมเลยต้องนั่งหล่อๆอยู่ที่เก้าอี้ข้างๆบันไดนั่นแหละครับ นั่งอยู่สักพักก็มีผู้หญิงคนนึงเปิดประตูเข้ามาผมไม่รอช้าค่อยๆลุกขึ้นยืน (เจ็บตูดนิครับลุกไวไม่ได้จริงๆ =_=!!) ลากสังขารไปที่ประตูกว่าจะเดินไปถึงประตูก็เกือบจะไม่ทัน
เดินออกจากหอก็ต้องมายืนหน้าหล่อๆ (เบื่อความหล่อตัวเองว่ะ) อยู่ตรงฟุตบาทด้านหน้าหอเพื่อรอเรียกรถแท็กซี่กลับบ้าน  ในสภาพเช่นนี้บอกตามตรงว่าไอ้ธูปไม่สามารถไปยืนเบียดเสียดกับคนอื่นๆบนรถเมล์ได้หรอกครับสังขารมันไม่เอื้อจริงๆ
.
.
.
.
หลังจากโบกแท็กซี่ผมให้โชเฟอร์มาส่งที่บ้านผม ที่ผมไม่ไปบ้านไอ้พี่พายเพราะว่าผมไม่อยากเจอหน้าใครผมอยากอยู่เงียบๆคนเดียว อยากใช้สมองคิดทบทวนถึงเรื่องเมื่อคืนไม่แน่นะครับมันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่ผมคิดก็ได้ ผมอาจจะลื่นล้มในห้องน้ำ แล้วก็อ้วกใส่เสื้อตัวเองก็ได้คุณว่าจริงไหมครับ

เฮ้อ!!ผมขอบอกเลยครับว่าตอนนี้สภาพจิตใจของผมมันติดลบขั้นรุนแรง ผมไม่อยากจะเจอหน้าใคร ไม่มีกะใจพบคน หนักใจเหลือทน ทุกครั้งที่พบใครจะตอบยังไงเขาดี เวลาที่คนถามไถ่ (กูยังมีกะใจร้องเพลง) ผมยืนถอดถอนใจอย่างปลงๆอยู่หน้ารั้วบ้านของตัวเองก่อนจะไขกุญแจประตูรั้วเข้าไปในบ้าน ไม่ลืมที่จะเดินกะเผลกๆเข้ามาในบริเวณบ้าน

สายตาพลางสอดส่องมองดูบริเวณรอบๆบ้านที่ไม่ได้กลับมาหลายวันแต่สภาพโดยรอบที่ดูสะอาดสะอ้านเหมือนมีคนคอยดูแลรดน้ำต้นไม้พร้อมตัดแต่งต้นไม้ใบหญ้าจนดูสวยงามไร้ที่ติ จึงทำให้บ้านผมไม่เหมือนป่าดงดิบทั้งๆที่ไม่มีคนอาศัยอยู่

สองขาก้าวขึ้นบันไดหน้าบ้านที่มีอยู่แค่สามขั้นแต่ผมกลับใช้เวลาในการก้าวขึ้นบันไดแต่ละก้าวช่างยาวนานเหมือนกำลังเดินขึ้นบันไดดอยสุเทพก็ไม่ปาน กว่าจะเดินมาถึงประตูใหญ่หน้าบ้านก็เล่นเอาเหงื่อไหลพรากๆร้อนน่ะไม่เท่าไหร่ แต่เจ็บตูดนั่นไซร์มันใหญ่หลวงนัก

ก้มหน้าก้มตาหาลูกกุญแจที่อยู่ในมือเพื่อที่จะไขประตูบ้านแต่แล้วก็ต้องแปลกใจเพราะประตูบ้านกลับถูกเปิดออกอย่างแรงเหมือนคนด้านในรู้ว่าผมจะมา ด้วยความดีใจเลยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาดูว่าเป็นใครเหตุเพราะคนที่มีกุญแจบ้านก็มีแค่พ่อแม่ของผมไอ้เทียนและตัวผมเองเท่านั่น และตอนนี้พ่อกับแม่ก็อยู่เมืองนอก (ไม่คิดจะกลับมาเยี่ยมลูกอยู่แล้ว) ซึ่งสองตัวเลือกนั้นตัดออกไปได้เลยครับ ดังนั่นก็เหลืออยู่แค่คนเดียวคือไอ้เทียน น้องชายที่นำเรื่องวุ่นวายเข้ามาในชีวิตผม ด้วยความดีใจปนกับเรื่องร้ายๆที่เพิ่งผ่านมาทำให้ผมต้องการหลักยึด ต้องการที่พึงทั้งทางกายและทางใจ

ไม่รอช้าผมรีบโผเข้ากอดไอ้เทียนอย่างไวและกอดมันแน่นเพราะกลัวมันจะหนีหายไปอีก ปากก็พร่ำพูดถึงเรื่องที่อึดอั้นอยู่ภายในจิตใจเรื่องซวยๆที่ผมต้องพบเจอ

"เทียนหายไปไหนมา รู้ไหมธูปต้องเจอกับอะไรบ้าง ธูปโดนพี่ชายแฟนเทียนกระทืบ โดยที่มันไม่ถามธูปอะไรสักคำเลยมาถึงมันก็กระทืบๆธูปอย่างเดียวเลยโคตรเหี้ยเลยธูปโคตรเกลียดมันเลย แต่เรื่องนั่นมันยังไม่น่าเจ็บใจเท่าเมื่อคืน เมื่อคืนที่ธูปโดนโฮกกกก..... โว๊ะเทียนจะดิ้นทำไมเนี่ย ธูปยิ่งเจ็บตูดอยู่นะ" กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไอ้เทียนก็พยายามขืนตัวให้หลุดจากอ้อมกอดอยู่นั่นแหละ แต่ผมไม่สนผมใช้พลังทั้งหมดในร่างกายที่มีล็อคตัวมันเอาไว้ไม่ให้ดิ้นหลุดจากอ้อมกอดอันแข็งแกร่งของผม ตอนนี้กูยิ่งกว่าตุ๊กแกอีกขอบอก มึงไม่มีทางดิ้นหลุดแน่นอนไอ้เทียน

"มึงจะปล่อยกูได้ยัง" เสียงเรียบๆที่คุ้นหูแต่ไม่เคยคุ้นชินสักทีถามกลับมาในน้ำเสียงที่พูดออกมานั่นฟังดูน่าขนลุกแปลกๆ

สมองประมวลผลอย่างไวผมรีบเงยหน้าขึ้นมองคนในอ้อมกอดด้วยความเร็วสูงก่อนจะคลายอ้อมกอดเด้งตัวผละออกจากมันเหมือนกับแม่เหล็กขั้วเดียวกันที่ไม่สามารถอยู่ใกล้ๆกันได้ ตะลึงกับภาพตรงหน้าที่เห็นยกนิ้วชี้ค้างอยู่อย่างนั่นปากอ้างค้างเหมือนขากรรไกรใช้การไม่ได้ชั่วขณะ ตาโตจนแทบจะถลนออกมาจากเบ้า มันเป็นอาการที่เรียกได้ว่าช็อคสุดขีด
   
มันมายืนอยู่ตรงนี้ได้ยังไงคร้าบบบบบบบ
   
"มะ มึงเข้ามาในบ้านกูได้ไงวะ" ร้องถามคนตรงหน้าด้วยความสงสัย ไอ้คนตรงหน้ามันทำหน้านิ่งไม่รู้ร้อนรู้หนาวเหมือนกับว่าการที่มันเข้ามาบ้านคนอื่นเป็นเรื่องปรกติอย่างนั่นแหละ

"ทำไมเมื่อคืนมึงไม่กลับบ้าน ไปนอนกับใครก็ควรจะบอกกันบ้างนะ" ไอ้พี่พายมันไม่ตอบคำถามแต่มันกลับถามผมกลับซะงั้น เออดีจริงๆคำถามกูนี่ไม่เข้าหูมึงเลยใช่ไหมไอ้อดีตพี่ว๊าก

"เรื่องของกู มึงยุ่งอะไรด้วยวะ"  ไม่อยากคุยกับใครกูอยากอยู่คนเดียว กรุณาเข้าใจและไสหัวกลับไปได้แล้ว

"กูก็ไม่อยากยุ่งเรื่องของมึงเท่าไหร่หรอกนะแต่พ่อกับแม่กูเค้าเป็นห่วงมึงเค้านึกว่าไปตายที่ไหน ทีหน้าทีหลังถ้าจะไม่กลับบ้านก็ควรบอกผู้ใหญ่เขาด้วยเขาจะได้ไม่ห่วง"  ผมยอมรับว่าผิดที่ไม่ได้บอกใครไว้ว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อนและไม่กลับไปนอนที่บ้านจึงทำให้ผู้ใหญ่เป็นห่วง แต่อารมณ์ตอนนี้ของผมมันติดลบเกินกว่าจะพูดอะไรออกไปได้เลย ผมอยากอยู่เงียบๆคนเดียว

"กูขอโทษล่ะกัน" ผมเดินสวนมันเข้าบ้านมุ่งตรงไปที่บันไดอย่างช้าๆแต่ละก้าวช่างสร้างความร้าวรานให้ร่างกายผมจริงๆ เฮ้อเวรกรรมอะไรของไอ้ธูปวะเนี่ย
   
"อย่าเดินหนีกู!!"  ไอ้พี่พายตรงเข้ามากระชากแขนผมอย่างแรงพร้อมกับตะคอกใส่หน้าผมเสียงดัง จองเวรจองกรรมกูจริงๆจะไฝว์กับกูใช่ไหม ได้ธูปจัดให้

ผลั๊ว!! 

หมัดหลุนๆของผมตรงเข้าที่หน้าของไอ้พี่พายอย่างจังส่งผลให้มันล้มลงไปนอนตายอยู่ที่พื้น ผมไม่รอให้มันได้ลุกขึ้นยืนปรี่ตรงเข้าไปนั่งทับกลางลำตัวของมัน พร้อมกับส่งหมัดใส่หน้าไอ้พี่พายไม่ยั้ง ผมระบายอารมณ์ระบายความอึดอั้นทุกอย่างลงที่ใบหน้าของไอ้พี่พาย มันเองก็ยกมือยกไม้ขึ้นมาปัดป้องหมัดของผมเหมือนกันแต่ตอนนี้อารมณ์โมโหมันมีมากกว่าจนทำให้ผมลืมความเจ็บที่ร่างกายก่อนหน้านี้ไปสิ้น

อั๊ก!!

"มึงรู้ไหมว่ากูต้องเจอกับอะไรบ้าง" ผมยังคงรัวหมัดใส่หน้าไอ้พี่พายไม่ยั้ง ปากก็ร้องตะโกนสิ่งที่อยู่ในใจ น้ำใสๆไหลออกมาจากตาโดยที่ผมไม่คิดจะยกมือขึ้นเช็ดมันด้วยซ้ำ

"........"

"ทำไมวะกูต้องมาแบกรับปัญหาของคนอื่นตลอดเลย ทำไมต้องเป็นกู ทำไมๆๆ!!" ตอนนี้น้ำหูน้ำตามันไหลพรากออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ มันเกิดจากความอัดอั้นที่ผมต้องแบกรับทุกสิ่งเอาไว้เพียงลำพังโดยบอกใครไม่ได้ ใครจะมองว่าไอ้ธูปอ่อนแอก็เอาเถอะครับไม่เจออย่างผมใครจะเข้าใจ

"ปล่อยกูไอ้พวกเชรี้ยกูบอกให้ปล่อยกู!!" ผมร้องบอกลูกน้องไอ้พี่พายที่ตรงเข้ามาชาร์ตตัวผม พยายามดิ้นให้หลุดจากมืออันแข็งแกร่งแต่ก็ไม่เป็นผลไม่รู้มันแดกครีมเหล็กเป็นอาหารรึไงวะทำไมถึงได้บีบแน่นไม่มีทีท่าว่าจะหลุดเลย เลือดกูไม่เดินแล้วมั้งเบาๆหน่อยก็ได้ไอ้พวกควายไบสันเอย

ลูกน้องไอ้พี่พายปรี่กันเข้าไปพยุงลูกพี่มันที่ยังนอนอยู่ที่พื้นให้ลุกขึ้นมา ไอ้พี่พายยกมือห้ามก่อนจะลุกขึ้นยืนเอง สายตาอาฆาตถูกส่งมาจากดวงตาเรียวคมดุๆคู่นั้น แต่ตอนนี้ขอบอกว่าไอ้ธูปไม่กลัวอะไรอีกแล้ว กูสู้ตาย

"หึ หมัดหนักเหมือนกันนี่หว่า"  ไอ้พี่พายเดินมาหยุดตรงหน้าพร้อมกับใช้นิ้วโป้งปาดเลือดตรงมุมปากของมัน

ผลั๊ก

เพราะไม่ทันตั้งตัวมัวแต่แหกปากโวยวายสุดท้ายเลยโดนหมัดหนักๆของไอ้พี่พายกระแทกเข้าหน้าอย่างแรง ทำเอาไอ้ธูปเห็นดาวตอนกลางวันแสกๆเลยครับขอบอก

"แน่จริงมึงตัวๆกับกูดิวะอย่าเก่งแต่หมาหมู่"  มึงจะเป็นพี่เขยไอ้เทียน กูก็ไม่สนแล้วชั่วโมงนี้เลือดขึ้นหน้าตายเป็นตายไอ้ธูปขอระบายความแค้นหน่อยเถอะ

"ปล่อยมัน!!"  ไอ้พี่พายว๊ากใส่ลูกน้อง   "กูบอกให้ปล่อยมันไม่ได้ยินรึไงวะ!!" แหกปากตะโกนขนาดนั้นไม่ได้ยินกูก็ไม่รู้จะว่าไงแล้วลูกน้องมึงคงหูดับหูอื้อเพราะต้องทนฟังเสียงตะโกนของมึงทุกวี่ทุกวันล่ะมั้ง

ลูกน้องไอ้พี่พายปล่อยแขนผมให้เป็นอิสระและพวกมันก็พร้อมใจกันเดินถอยฉากออกไปยืนดูสถานการณ์ใกล้ๆยังไม่ลืมส่งสายตาเฉือนเชือดมาให้ หึ วันอื่นกูอาจจะหวั่นๆกับสายตาพวกมึงแต่วันนี้ต่อให้มาอีกสิบอีกร้อยไอ้ธูปก็บ่ยั่นเว้ย

ผลั๊ก

ผมตรงเข้าซัดหน้าไอ้พี่พายทันทีเมื่อลูกน้องมันปล่อยตัวผมให้เป็นอิสระ ไอ้พี่พายเองก็ไม่ยอมแพ้ มันต่อยหน้าผมสวนกลับมาเหมือนกัน ผมสะบัดหน้าเรียกสติก่อนจะส่งฝ่าเท้าเข้าที่ท้องมัน และก็ได้เรื่องเลยครับเหตุเพราะยกเท้าผิดท่าเลยทำให้เกิดอาการปวดแปลบๆที่สะโพกขึ้นมาทันที จึงทำให้เสียเปรียบโดนไอ้พี่พายยันฝ่าเท้าเข้าเต็มๆท้อง ล้มลงไปกระแทกกับขั้นบันได เจ็บจนจุกลุกไม่ขึ้นเพราะมันดันไปซ้ำแผลเก่าที่โดนกระทำชำเรามาเมื่อคืน

"ไงมึงไม่เก่งแล้วรึไง" ไอ้พี่พายเดินมานั่งยองๆตรงหน้าผม คือถ้ามึงรู้ว่าเมื่อคืนกูเจออะไรมามึงจะไม่พูดแบบนี้เลย ไม่ได้เจอแค่หนึ่งแต่มาถึงสอง กูต่อยกับมึงได้ก็เทพแล้วสัดเว้ย

"พวกมึงออกไปจากบ้านกูเดี๋ยวนี้เลยไป๊!!"  สู้ไม่ได้สุดท้ายก็แหกปากใช้เสียงสู้กับมันนี่แหละ
   
"กูไม่ไป" หน่ะยังหน้าด้านอีก ติดใจอะไรบ้านกูครับ

"มึงไม่ไปงั้นกูไปเอง" ผมเอื้อมมือจับราวบันไดพยุงตัวค่อยๆลุกขึ้นยืนก่อนจะก้าวขาเดินออกจากบ้าน

หมับ

ไอ้พี่พายจับแขนผมแน่นเมื่อผมเดินห่างมันออกไปไม่กี่ก้าว  "มึงจะหนีไม่รับผิดชอบน้องกูเหมือนที่น้องมึงทำใช่ไหม"

ผมหันกลับไปมองไอ้พี่พายด้วยสายตาเอาเรื่องสุดๆ "กูถามคำนึงนะ กูทำน้องมึงท้องรึเปล่า" ผมถามมันด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉยไม่เจือแววโมโหหรือฉุนเฉียว และไม่ลืมพยายามสะบัดแขนให้หลุดจากมือของไอ้พี่พายแต่มันกลับบีบแขนผมแน่นกว่าเดิมอีก เลือดที่แขนกูไม่เดินแล้วมั้งนั่น

"น้องมึงหายตัวไปมึงก็ต้องรับผิดชอบ" เกี่ยวกันไหมถามหน่อย เกี่ยวอะไรกับกูไหม

"เหตุผลควายๆอย่างนี้อย่ามาใช้กับกูเลย" ผมบอก

"ยอมมาได้ตั้งหลายวันมาพยศอะไรวันนี้วะ"


"ก็เพราะกูยอมไงมึงเลยคิดจะทำอะไรกับกูก็ได้  คิดจะซ้อมกูมึงก็ทำ กูคนนะเว้ยกูก็มีความรู้สึกเหมือนๆกับมึง กูเจ็บเป็นเหมือนกัน กูไม่ใช่หุ่นยนต์นะสั่งให้ไปทางไหนกูก็ต้องไปอ่ะ กูเป็นคนเหมือนๆกับพวกมึง และกูถามหน่อยเหอะมันใช่เรื่องของกูไหมห๊า!!"
ผมระบายทุกอย่างออกมาหมด ทุกอย่างที่มันอยู่ในใจ ทุกอย่างที่มันอัดแน่นอยู่ในนั่นจนผมแทบจะกระอักมันออกมาวันละหลายๆรอบ
   
"......"

"แทนทีมึงจะพูดกับกูดีๆไม่มีเลยไม่มี มึงใช้กำลังกับกูตลอดมึงอยากได้คนรับผิดชอบใช่ไหม งั้นมึงเอาที่อยู่กับเบอร์โทรของพ่อกับแม่กูไปแล้วมึงก็ไปหาเค้าบอกให้เค้ามารับผิดชอบเองแล้วกัน เรื่องนี้กูไม่ยุ่งด้วยแล้ว ใครจะเป็นจะตายไม่เกี่ยวอะไรกับกู!!"

ไอ้พี่พายมันปล่อยแขนผมทันทีที่ผมพูดจบ ผมกับมันยืนจ้องหน้ากันเหมือนกับว่าใครหลบสายตาก่อนคนนั่นแพ้ จนสุดท้ายก็เป็นผมที่ยอมหลบสายตา ผมค่อยๆเดินไปหยิบกระดาษกับปากกาที่วางอยู่บนโต๊ะมาจดเบอร์โทรและที่อยู่ของพ่อกับแม่แล้วยื่นให้มันที่ยังคงมองหน้าผมอยู่  เลิกมองหน้ากูได้แล้วมั้งมองจนตาจะถลนออกมาแล้วนั่น

ผมส่งกระดาษให้ไอ้พี่พายเสร็จผมก่อนบอกให้พวกมันออกไปจากบ้านผมให้หมด ส่วนตัวผมก่อนเดินขึ้นบันไดเพื่อที่จะไปที่ห้องนอนของตัวเอง เหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งใจ กูจะตายก่อนไอ้เทียนกลับมาไหมวะเนี่ย

"เดี๋ยว!!" เสียงเรียกผม (โคตรดัง) ดังขึ้นด้านหลังระหว่างที่ผมกำลังลากสังขารขึ้นบันไดด้วยความอยากลำบาก ผมค่อยๆหันหลังกลับไปมองไอ้พี่พายด้วยความงง  "มีไร" กูต้องการพักผ่อนครับปล่อยให้กูไปสบายสักทีเหอะธูปขอร้อง

"แล้วเบอร์มึงละ" มึงจะเอาเบอร์กูไปแทงหวยเหรอครับ

"จะเอาไปทำไม"

"ก็ถ้าพ่อแม่มึงไม่รับผิดชอบ มึงก็ต้องรับผิดชอบสิวะถามโง่ๆ อ้อแล้วอีกอย่างเผื่อมึงหนีกูจะได้ตามตัวมึงทันไง"  เกี่ยวอะไรกับกูวะครับ

"มึงโทรรึยัง ถึงรู้ว่าพ่อแม่กูจะไม่รับผิดชอบอะ"  โทรก็ยังไม่ได้โทรดันรู้ดีซะงั้น   "แล้วที่สำคัญกูจะหนีไปไหนพ้น ลูกน้องมึงตามติดกูยิ่งกว่าเงาตามตัวขนาดนี้" อย่าคิดว่าไอ้ธูปไม่รู้นะว่ามึงเช่าบ้านหลังข้างๆกูให้ลูกน้องมึงมาเฝ้ากูอะ อ้อหน้าบ้านฝั่งตรงข้ามมันก็เช่าเอาไว้ให้ลูกน้องมันเหมือนกันครับ เรียกว่าวันๆนึงผมตดกี่รอบไอ้พี่พายมันยังรู้เลยแล้วยังนี้กูจะหนีไปไหนพ้นวะ ผมได้แต่ภาวนาให้เรื่องเมื่อคืนมันไม่รู้นะ ขอให้มันตายไปพร้อมกับผมเถอะ

"อย่ามาเถียงกู กูบอกให้เอามาก็เอาเบอร์มึงมาสิวะ อย่าให้กูต้องใช้กำลัง" มีขู่กูอีก นี่มึงจะขอเบอร์กูดีๆไม่ได้ใช่มะ

"เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับกู เลิกยุ่งวุ่นวายกับกูสักที กูรำคาญ!!"  พลิกตัวกลับหันหลังเดินขึ้นบันไดไม่สนใจไอ้พี่พายที่ยืนขู่อาฆาตอยู่ข้างหลัง

"มึงจะไม่ให้ดีๆใช่ไหมต้องให้เจ็บตัวก่อนใช่ไหม"

"กู ไม่ ให้" สะบัดตูดเดินขึ้นบันไดต่อไปด้วยความยากลำบาก รัดทนจริงๆชีวิตไอ้ธูป

หมับ

หวือ 

"เฮ้ย/เฮ้ย"

ตุบ

อั๊ก

กร๊อบ


"โอ๊ย!!"

อย่าเพิ่งงงครับเดี๋ยวไอ้ธูปจะอธิบายให้ฟัง คือผมหันหลังเดินขึ้นบันไดใช่ป่ะแล้วถูกไอ้พี่พายมันกระชากแขน และด้วยร่างกายของผมที่คล้ายกับคนทุพพลภาพเรื่องการทรงตัวนั่นไม่ต้องพูดถึงเลยครับลำพังจะยืนโดยไม่ให้เอนเอียงเนี่ยยังลำบากเลยครับ สุดท้ายเลยหงายหลังตกบันไดพร้อมๆกับไอ้พี่พายที่มือมันยังจับอยู่ที่แขนผมอยู่เลย

"ลุกไปสักทีสิวะ กูเจ็บโว๊ย!!!"  แหกปากสิครับรออะไรอยู่ ก็ท่าที่ลงมานั่นไม่เหมือนในนิยายที่พวกคุณเคยอ่านเคยเจอมาหรอกครับที่พระเอกกับนางเอกตกลงมาแล้วพระเอกมันเอาตัวมารองรับนางเอกเอาไว้ได้ทัน โกหกทั้งเพ

สภาพผมที่ตกลงมานั่นคือความจริงเลยครับความจริงที่พวกคุณไม่สามารถหาชมได้จากในละครหลังข่าว หรือจากในนิยายตาหวานแน่นอน เพราะผมตกลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลก ในสภาพที่ใช้แขนข้างที่ไม่ได้ถูกไอ้พี่พายจับไว้ท้าวลงกับพื้นตามสัญชาตญาณป้องกันตัวเพื่อไม่ให้บาดเจ็บแต่ไอ้ธูปก็ยังคงเป็นไอ้ธูปที่พกพาความซวยเอาไว้เต็มกระเป๋านั่นแหละครับ เพราะแขนข้างที่ผมใช้ยันพื้นนั่นมันเกิดเสียงดัง กร๊อบ และตามมาด้วยความเจ็บที่แล่นจากข้อมือขึ้นมาถึงหัวไหล่ เหตุเพราะคนตัวเท่ายักษ์วัดแจ้งอย่างไอ้พี่พายมันดันหล่นลงมาทับตัวผมอีกทีนึงนะสิครับ ตูดระบมจากการถูกกระทำชำเรา แขน (คาดว่าจะ) หักจากการใช้ยันพื้น  จุกที่ท้องเพราะไอ้พี่พายมันหล่นมาทับ เฮ้อชีวิตไอ้ธูปซวยกว่านี้มีอีกไหมครับ

แล้วไอ้พวกควายไบสันพวกมึงจะยืนมองกูกับลูกพี่มึงนอนทับกันอีกนานไหมครับลูกพี่มึงไม่สั่งก็ไม่คิดจะช่วยกันเลยใช่ไหม ใครก็ได้ช่วยเรียกรถพยาบาลให้กูที กูต้องการเข้าห้องไอ ซี ยู ด่วนเลย กูจะตายอยู่แล้ว 

ออฟไลน์ ❁INDY_FAMILY❁

  • -ทำไมต้องเดินตามรอยเท้าใคร เราสามารถสร้างรอยเท้าของเราเองได้-
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-12
ผมไม่ใช่พ่อเด็ก
ตอนที่ ๘ ฝากให้เธอช่วยดูแล


ผมนอนมองเพดานสีขาวด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย คิดถึงความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในชีวิตผมช่วงเกือบเดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่ที่โดนไอ้พี่พายกระทืบเกือบตายเพราะเข้าใจผิดคิดว่าผมคือไอ้เทียนคนที่ทำให้น้องสาวสุดที่รักของมันท้อง เรื่องที่ไอ้แมนเมืองแอบชอบผมมานานสองนานโดยที่ไม่มีใครรู้ ไหนจะเรื่องไอ้เซอร์มาวินที่ชอบไอ้เทียนแล้วพอมันผิดหวังก็คิดจะเบนเข็มมาจีบผมแทน เหตุผลเพียงเพราะผมหน้าตาเหมือนไอ้เทียนคนที่มันรักนักรักหนา

ส่วนเรื่องสุดท้ายก็คือเรื่องที่ผมโดนไอ้แมนเมืองกับไอ้มาวินมัน เฮ้อ!! ช่างมันเหอะอย่าไปนึกถึงมันจะดีกว่า อะไรที่เสียไปแล้วก็ให้มันแล้วกันไปเพราะถึงยังไงผมก็เป็นผู้ชายและที่สำคัญผมท้องไม่ได้  จะให้มานอนร้องไห้คร่ำครวญผมก็ทำไม่เป็นซะด้วยสิ ก็นะผมมันไม่ใช่นางเอกในละครหลังข่าวนี่ครับที่พอโดนพระเอกมันข่มขืนแล้วตื่นขึ้นมาก็มานั่งกัดผ้าห่มร้องไห้เสียใจ สุดท้ายก็เรียกร้องให้พระเอกมายอมรับกับสิ่งที่มันได้ทำลงไป

-น้ำเน่าเหอะครับ-

"เฮ้อ!!" วันนี้ผมถอนหายใจไปกี่ครั้งแล้วนะ มีคนเคยบอกไว้ (ใครบอกอันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน) เขาบอกว่าจะถอนหายใจหนึ่งครั้งอายุจะสั้นไปสิบปี ผมว่าตอนนี้ชีวิตของผมคงเหลืออยู่ไม่เท่าไหร่แล้วล่ะครับเพราะแค่ไม่กี่นาทีที่ผ่านมาผมถอนหายใจไปเป็นสิบๆครั้งได้แล้วมั้ง ว่าแล้วก็ขอถอนหายใจอีกซักรอบก็แล้วกัน

"เฮ้อ!!"  ถอนแมร่งก็ไม่ได้ตังค์ แต่ชั่วโมงนี่กูจะถอดใครจะทำไม ผมว่าออกจากโรงพยาบาลผมคงต้องเดินสายทำบุญ ทำมันตั้งแต่แม่สายยังเบตงเลยแวะทุกวัด ไปทุกอำเภอ ไหว้ทุกจังหวัด สะเดาะเคราะห์บริจาคโลง บังสกุลเป็นบังสกุลตาย ถวายสังฆทาน อะไรที่ทำแล้วดีขึ้นทำมันให้หมดเผื่อชีวิตหลังจากนี้ของไอ้ธูปมันจะดีขึ้นมาบ้าง เพื่อเจ้ากรรมนายเวรจะได้หายๆไปจากชีวิตไอ้ธูปสักที


แอ๊ดดดดด (เสียงเปิดประตู : ผมว่าทางโรงพยาบาลน่าจะหยอดน้ำมันบ้างนะ เสียงสยองยังกับประตูบ้านผีสิง)

ผมหันไปมองที่ประตูก็พบกับพ่อแม่ของไอ้พี่พายที่เดินหน้าเครียดขรึมเข้ามาในห้องพร้อมด้วยไอ้ตัวการที่ทำให้สภาพผมไม่ต่างจากคนทุพพลภาพ ผมยกมือไหว้พ่อแม่ไอ้พี่พายอย่างยากลำบากเพราะมือข้างนึงก็ถูกเข็มจิ้มอยู่เพื่อให้น้ำเกลือ ส่วนมืออีกข้างก็ใส่เฝือกอ่อนคิดดูแล้วกันว่าผมเห็นสภาพตัวเอง ผมยังรับไม่ได้เลยอ่ะอนาถจัด

"สวัสดีครับ" ถึงจะเดี้ยงแต่ไอ้ธูปก็มารยาทงามนะครับขอบอก อิอิ

"ไหว้พระเถอะจ้ะ" แม่ไอ้พี่พายเดินมายืนข้างๆเตียงพลางส่งสายตาเป็นห่วงเป็นใยมาให้ส่วนพ่อไอ้พี่พายพยักหน้าก่อนจะรับไหว้ผม

"คุณแม่คุยกับคุณหมอแล้วนะคะ ธูปไม่ต้องห่วงนะ ธูปจะนอนที่โรง'บาลนานเท่าไหร่ก็ได้คุณแม่บอกคุณหมอให้แล้ว" คุณแม่ครับผมไม่ได้มาพักผ่อนนะครับ พูดเหมือนกับว่าผมมานอนโรงแรมห้าดาวอย่างนั้นแหละ

"คะ ครับ ขอบคุณครับ" ยกมือไหว้ให้กับความหวังดีของคุณแม่ ที่ไอ้ธูปไม่ต้องการเล๊ย

"แล้วนี่เจ็บมากไหมธูป คุณแม่ขอโทษแทนพายด้วยนะที่ทำเราเจ็บขนาดนี้น่ะ" แม่ไอ้พี่พายทำหน้าสำนึกผิด เหมือนกับท่านเป็นคนทำผมเจ็บเองยังงั้นแหละ

"ไม่เป็นไรหรอกครับคุณแม่ไม่ต้องขอโทษผมหรอกครับ เพราะคนที่ทำเขายังไม่คิดจะขอโทษผมเลย คุณแม่ไม่ได้ทำอะไรผิดจะขอโทษผมทำไมล่ะครับ" ไม่ได้ประชดใครและไม่ได้โกรธใครทั้งนั้น แต่ผมคิดอย่างที่ผมพูดจริงๆคนที่ทำผิดยังไม่มีจิตใต้สำนึกไม่คิดจะขอโทษ แล้วทำไมคนที่ไม่ได้ทำแถมยังเป็นผู้ใหญ่อีก จะต้องมาขอโทษขอโพยกับสิ่งที่ท่านไม่ได้ทำล่ะ ผมแค่มองว่ามันไม่สมควรก็แค่นั่น

"พายไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยเหรอ" แม่ไอ้พี่พายหันไปถามลูกชายตัวดีที่นั่งไขว่ห้างอ่านนิตยสารอยู่ที่โซฟา ไอ้พี่พายไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองด้วยซ้ำมันแค่ไหวไหล่ทำท่าไม่แคร์กับสิ่งรอบข้าง หึ คนแบบนี้ไอ้ธูปขออยู่ห่างๆจะดีกว่า

"พายถ้าคำว่าขอโทษมันพูดยากนักแกก็ต้องรับผิดชอบการกระทำของแกด้วยการดูแลธูปเขา และถ้าแกไม่ทำแกเจอดีแน่" คุณพ่อครับไม่ต้องให้ไอ้พี่พายมาดูแลไอ้ธูปหรอกครับ ผมกลัวจะตายก่อนจะหายน่ะครับ ปล่อยให้หมอให้พยาบาลดูแลผมดีกว่านะครับ

ไอ้พี่พายละความสนใจจากนิตยสารตรงหน้าก่อนจะตอบพ่อของมันแต่สายตาของมันกลับจ้องมองที่หน้าผมซะงั้น  "ครับ ผมจะดูแลอย่างดีเลย"  หนักแน่นในคำพูดมั๊กมาก ซวยล่ะสิกู งานงอกไอ้ธูปแล้วครับ

"เออ มะ ไม่เป็นไรครับผมว่าผมดูแลตัวเองได้" ผมยืนได้ด้วยลำแข้งของผมเอง ไม่ต้องมีใครมาดูแล ผมดูแลตัวเองได้ครับ

"ไม่เอาสิจ๊ะธูป อย่าปฏิเสธความหวังดีของคุณป๊าสิจ๊ะ ให้พายเขาดูแลเราน่ะดีแล้ว" ตรงไหนของรูปประโยคที่ว่าดีครับคุณแม่ ไม่ดีครับไม่ดีอย่างแรง มันทำผมเจ็บขนาดนี้มันดูแลผมไม่ได้หรอกครับ ไอ้พี่พายมันถนัดเรื่องทำให้ผมเจ็บตัว มันไม่ถนัดเรื่องดูแลใครหรอกครับ เชื่อไอ้ธูปสิ


"ใช่ มึงอย่าปฏิเสธความหวังดีของกูสิ" ความหวังดีจอมปลอมของมึงกูไม่ต้องการเว้ย

"เออ คือ....." ผมอ้าปากพะงาบๆพูดอะไรไม่ออกเลยทีเดียว

"อุ๊ย!! คุณพี่คะได้เวลาไปงานเลี้ยงผู้ประกอบการแล้วค่ะ เดี๋ยวไม่ทัน" คุณพ่อคุณแม่จะรีบไปไหนคร้าบบบบบ อยู่กับไอ้ธูปก๊อนนนนนน อย่าทิ้งธูปปายยยยยยย

"เออ จริงด้วยสิคุณผมก็ลืมไปเลย ธูปป๊าไปก่อนนะลูก" พ่อไอ้พี่พายกระเด้งตัวขึ้นจากโซฟาด้วยท่าทางสง่างามทันทีก่อนจะหันมาบอกลาผม ทำเอาผมยกมือไหว้ท่านทั้งสองแทบไม่ทัน  "พายแกดูแลน้องดีๆละ ป๊าไปก่อนเดี๋ยวไม่ทันงาน" จะไปยังไม่วายหันมาสั่งเพชรฆาตให้ลงทัณฑ์ธูปอีกเหรอครับ อย่าไปย้ำมันครับคุณพ่อ

"หึ ผมจะดูแลให้เป็นอย่างดีเลยครับป๊าไม่ต้องเป็นห่วงหรอก" คุณพ่อเป็นห่วงไอ้ธูปเถอะครับธูปขอร้อง แมร่งน้ำเสียงจริงจังฟังแล้วขนลุกซู่เลยกู เหมือนเห็นนรกอยู่ร่ำไร ตายแน่ไอ้ธูปตายแน่ๆ

พอคุณพ่อกับคุณแม่ของไอ้พี่พายเดินออกพ้นจากห้องไปความเงียบก็บังเกิดขึ้น ความวังเวงมันก็เริ่มคืบคลานเข้ามา ความกดดันพุ่งตรงแสกหน้าไอ้ธูปทันที และผมว่าความซวยมันจะกำเนิดเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วินาทีต่อจากนี้แน่ๆๆๆ

มันมาแล้วครับมันเดินมาทางผมแล้วครับ

"อย่าหันหน้าหนีกูได้มะ"  กูจะมองท้องฟ้า มองอากาศก็ผิดอีก แมร่ง

ผมหันหน้าไปจ้องหน้าไอ้พี่พายแถมด้วยถลึงตาใส่มันแถมไปอีก ช่วยกลัวกูหน่อยเถอะพ่อคุ๊ณ

"มึงกำลังประชดกูอยู่ใช่ไหมเนี่ย"  โว้ย เอาใจยากสุดๆ ผมป่วย ผมเจ็บ คุณต้องตามใจผมสิวะ ทำไมผมต้องมาทำตามใจคุณด้วยวะเนี่ย

"กลับไปเหอะไป อยากอยู่คนเดียว" ผมหันหลังให้ไอ้พี่พายก่อนจะโบกมือไล่มันไปให้พ้นๆ

"กูต้องอยู่ดูแลมึง ไม่ได้ยินที่ป๊ากูบอกไง" แหมเกิดจะเป็นคนดีขึ้นมาเชียวนะพ่อคุณ กูรู้สันดานมึงหรอกน่าว่ามึงจะหาเรื่องแกล้งกูอ่ะ

"กูอยากอยู่คนเดียว" ผมย้ำอีกครั้ง

"กูเป็นคนจ่ายค่ารักษาพยาบาลแล้วก็ค่าห้องที่มึงนอนอยู่เนี่ย ดังนั่นกูมีสิทธิ์จะอยู่" มึงอยากอยู่งั้นมึงอยู่ไปเลย แมร่งแล้วใครขอร้องให้มึงพากูมาที่นี่วะ ค่าห้องแพงพอๆกับโรงแรมห้าดาวเลย (แต่เสียงประตูหลอนกูชะมัดเลย) แล้วกูจะเถียงอะไรได้ล่ะ ก็ยอมจำนนฟ้าดินนอนเงียบๆเหมือนคนเป็นใบ้ต่อไป ขืนพูดอะไรไม่ถูกใจแมร่งจะอ้างเรื่องเป็นคนจ่ายค่านั่นค่านี้อีก น่ารำคาญ

"........"  คลุมโป่งแมร่งเลยกู ไอ้ธูปขอตัดขาดจากโลกภายนอก

"ไม่เถียงต่อแล้วไง" กูยอมถอยให้มึงแต่มึงก็ยังไม่ยอมหยุดนะ จะหาเรื่องกูให้ได้เลยใช่มะ

ผมเลิกผ้าห่มออกจากตัวลุกขึ้นนั่งด้วยความยากลำบากก่อนจะจ้องหน้าไอ้พี่พายเขม็ง 


"มึงจะเอายังไงกับกูว่ามาเลย กวนตีนกูอยู่ได้ น่ารำคาญ!!"  กูเหลืออดแล้วนะมึง

"อย่ามาขึ้นเสียงใส่กู!!" แล้วทีมึงว๊ากใส่หน้ากูล่ะ

"โว้ยอะไรนักหนาวะ ในเมื่อมึงกับกูต่างคนต่างก็ไม่ชอบหน้ากันอยู่แล้วจะมาอยู่ใกล้กันทำไม จะไปไหนก็ไปดิไป๊!!" แมร่ง อันนั่นก็ไม่ได้ไอ้นี่ก็ไม่เอา กูหายใจมึงยังผิดเลยมั้ง หงุดหงิดเว้ย!!


"มึงคิดว่ากูอยากอยู่ไง ป๊ากูสั่งหรอก"  เถียงคำให้ตกฟาก เดี๊ยะๆ

"ทุกทีกูไม่เคยเห็นมึงจะเชื่อ ทำไมตกบันไดสองสามขั้นสมองกลับรึไงถึงได้ทำตัวเป็นลูกที่ดีได้อ่ะ" คิดว่าจะสงบปากสงบคำนอนเฉยๆแล้วนะ แต่ไม่ไหวจริงๆขอด่ามันหน่อยเถอะ

"ถ้าป๊ากูไม่เอาเรื่องประมูลโครงการมาขู่กู กูก็ไม่มาดูแลมึงหรอก" ไอ้พี่พายมันพูดจบก็เดินไปนั่งไขว่ห้างที่โซฟาเอื้อมมือไปหยิบนิตยสารบนโต๊ะขึ้นมาอ่านเหมือนเดิม   แล้วมึงจะลุกมาหาพระแสงอะไรครับลุกมาแล้วก็ต้องกลับไปนั่งเหมือนเดิม


"หึ งั้นมึงกลับไปเหอะเดี๋ยวกูบอกพ่อมึงเอง" นี่กูยอมลดตัวไปช่วยมึงแล้วนะ


"กูต้องเชื่อมึง" เอ๊าไอ้นี่ กวนตีนกูซะงั้น

"โว้ย!! ตามใจมึงเหอะจะอยู่ก็อยู่ไป อย่ามายุ่งกับกูก็แล้วกัน แมร่งเวรกรรมอะไรของกูวะเนี่ย"  โอ๊ยไอ้ธูปอย่างจะบ้าตาย

ก๊อกๆๆ

เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาขัดจังหวะสงคารมย่อมๆระหว่างผมกับไอ้พี่พายตามมาด้วยเสียงเปิดประตูสยองขวัญ (แอ๊ดดดดดดด) เผยให้เห็นร่างบางในชุดสีขาวสะอาดตา (นางพยาบาล) เดินเข้ามาก่อนที่คุณเธอจะหยุดฝีเท้าพร้อมเหลือบสายตาแอบมองไอ้คนที่นั่งอ่านนิตยสารไม่สนใจโลกอยู่ที่โซฟาแวบนึง จึงหันมาสนใจผมที่นอนเน่าอยู่ที่เตียง กว่าจะสนใจกูได้ไม่รอให้กูถอดเฝือกซะก่อนล่ะ

"วัดไข้หน่อยนะคะ" ปรอทเสียบเข้าที่รักแร้ทันทีที่พูดจบ สายรัดที่อยู่ที่แขนเพื่อตรวจวัดชีพจร สายตานางพยาบาลหันกลับไปมองไอ้คนที่นั่งอยู่บนโซฟา โดยที่มืออีกข้างก็บีบๆปั้มๆไอ้เครื่องตรงหน้าโดยไม่ได้สนใจผมเลย

"คุณครับ เลือดที่แขนผมไม่เดินแล้วมั้งครับ" ผมร้องบอกคุณพยาบาลที่ยังคงจ้องไอ้พี่พายเหมือนจะจับกินเข้าไปทั้งตัวก็ไม่ปาน คุณเธอตกใจก่อนจะหันมาขอโทษขอโพยผมซะยกใหญ่ กว่าจะวัดชีพจรเสร็จเล่นซะแขนชาไปทั้งแถบ

"อีกสักครู่ดิฉันจะยกอาหารเย็นมาให้นะคะ" คุณพยาบาลเธอว่าก่อนจะส่งสายตาหวานเยิ้มไปให้ไอ้พี่พายอีกรอบก่อนจะนำอุปกรณ์การแพทย์ออกจากร่างกายผม คุณเธอค่อยๆย่างก้าวออกจากห้องไปอย่างช้าๆเหมือนใครไปกดปุ่ม Slow ที่เท้าคุณเธอ ถ้าจะเดินช้าขนาดนี้ ผมว่าเจ๊ คลานออกไปจะดีกว่านะครับ


ว่าแต่ไอ้หน้าที่ยกถาดอาหารนี่มันหน้าที่ของพยาบาลเหรอวะ  ผมสงสัยได้ไม่นานถาดอาหารก็มาอยู่ตรงหน้าพร้อมกับนางพยาบาลคนเดิมที่เดินนวยนาดยิ้มโชว์ฟันขาวมาให้ไอ้พี่พาย (ที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองเลยสักนิด) คุณเธอบริการจัดแจงเอาถาดอาหารวางบนโต๊ะแล้วเข็นมาให้ผมถึงเตียง บริการเปิดรินน้ำใส่แก้วให้อีกเสร็จสรรพ สมแล้วที่ค่าห้องค่ารักษามันแพงหูฉีก บริการดียิ่งกว่าโรงแรมห้าดาวซะอีก นี้ถ้าเคี้ยวให้ผมได้คุณเธอคงทำไปแล้ว


"คนไข้มือเจ็บ ให้ดิฉันป้อนไหมคะ" ถามผมแต่ทำไมสายตามองไปยังไอ้คนที่นั่งอยู่ที่โซฟาวะ เฮ้ยสนใจผมหน่อยเดะผมมีตัวตนนะเว้ย

"ไม่ต้องเดี๋ยวผมดูแลเอง" ไอ้พี่พายพูดแต่ไม่ได้เงยหน้าจากนิตยสาร นิ่งได้อีกพ่อคุณ

"คุณพยาบาลป้อนผมก็ได้ครับ"  ให้ไอ้พี่พายป้อนกูสำลักข้าวต้มตายก่อนพอดี

"อะ เอ่อ คือ"  คุณพยาบาลใบ้รับประทานไปเรียบร้อยแล้วครับ นี่ผมช่วยให้คุณได้นั่งจ้องไอ้พี่พายนานๆแล้วนะช่วยสนองตอบรับความหลังดีของผมหน่อยเถอะครับ

"ออกไป อย่าให้ต้องพูดซ้ำ" ไอ้พี่พายเงยหน้าขึ้นมองคุณพยาบาลตาขวาง  สาดมึงจะโหดไปไหนครับ ขนาดคุณพยาบาลคนสวยมึงยังไม่เว้นเลย ดุยังกะหมา

"ค่ะๆออกไปเดี๋ยวแหละค่ะ" คุณพยาบาลวางช้อนลงในชามข้าวต้มก่อนจะพุ่งออกจากห้องไปด้วยความไวแสง ผิดกับตอนมาวัดไข้ผมราวฟ้ากับดิน

ไอ้พี่พายมันวางนิตยสารลงบนโต๊ะก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินมาหาผม  กูเห็นนะว่ามึงแอบแสยะยิ้มอ่ะมึงต้องแกล้งกูแน่ๆเลย

ผมรีบคว้าช้อนในชามข้าวต้มทันทีเพราะไม่ไว้ใจมันแต่ด้วยสังขารที่ไม่เอื้อทำให้มือขวาที่มีเฝือกอ่อนอยู่หยิบช้อนได้ไม่ถนัดและมันก็หล่นลงไปในชามเหมือนเดิม เฮ้อ อนาถชีวิตตัวเองจริงๆ

ไอ้พี่พายเดินมาคว้าช้อนข้าวต้มไว้ในมือก่อนจะมองหน้าผมนิ่งๆแต่แววตามันแวววาวเหมือนกำลังเจอเรื่องสนุกๆ ไอ้เลวไอ้ชั่วอย่าบอกนะว่ามึงจะแกล้งกันอ่ะ

มันตักข้าวต้มมาพูนช้อน แถมด้วยควันที่ลอยอยู่จางๆ "อ้าปาก" ช่วยรบกวนเป่าให้กูก่อนได้ไหมครับ ไม่รู้สึกเลยเหรอว่าข้าวต้มมันร้อนอะ ขนาดกูอยู่ตรงนี้กูยังรู้เลยว่ามันร้อน ดูควันดิระอุเชียว

"มันร้อน"  ผมรีบร้องบอก เพราะไม่อยากให้ลิ้นตัวเองพอง กินเข้าไปมีหวังสุกยันลำไส้อ่ะผมว่านะ "เป่าก่อนดิวะ"

"เรื่องมากงั้นแดกเองแล้วกัน" มันวางช้อนลงชามดังเดิมก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่โซฟา

อ้าวไอ้เลว มาแค่นี้อ่ะนะ นี่มึงกำลังแกล้งกูใช่ไหมเนี่ย

ผมไม่พูดอะไรเพราะไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด ในเมื่อมือขวาใช้การได้ไม่ถนัดก็ยังมีมือซ้ายอยู่จะไปกลัวอะไร ผมใช้มือซ้ายหยิบช้อนข้าวต้มขึ้นมาด้วยความทุลักทุเล ค่อยๆตักข้าวต้มมาทีละน้อยก่อนจะเป่าให้คลายร้อนและยัดเอาปากอย่างเร็วด้วยความหิว แต่ละคำนำพาความลำบากและความเจ็บแปลบๆมาให้ แต่ใครสนก็ผมหิวอ่ะในเมื่อไม่มีใครช่วยผมและแขนผมก็ไม่ได้ขาด แรงก็ยังมีไม่ต้องไปง้อให้มาช่วยหรอกครับ ตักข้าวใส่ปากกินเองก็ได้วะถึงแมร่งจะลำบากไปหน่อยก็เหอะ แอ๊ดดดดดดดด (ผมว่านะโรงพยาบาลน่าจะเอาตังค์ค่าห้องค่ายาไปซื้อน้ำมันมาหยอดประตูเถอะธูปขอร้อง)


"ยังทานข้าวอยู่เหรอครับ" ผมหันไปมองตามเสียงที่ได้ยินก็ประสบพบเจอกับผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ หล่อราวเทพบุตร ผิวขาว สวมแว่นตา ใส่เสื้อกาวน์ (คุณหมอนั่นเอง) คุณหมอเดินยิ้มอารมณ์ดีมาที่เตียงก่อนที่คุณพยาบาลจะเลื่อนโต๊ะที่วางชามข้าวต้มของผมออก

คือ ผมยังกินไม่อิ่มเลยนะครับ

"ขอหมอดูข้อมือก่อนนะครับแล้วค่อยทานต่อนะ" เสียงนุ่มๆเสียงแล้วเคลิ้มมากๆพูดบอกผม ซึ่งผมก็ได้แต่พยักหน้าหงึกๆ รีบๆตรวจเถอะครับผมจะได้ทานข้าวต่อ ธูปหิวจนจะแดกควายได้อยู่แล้วครับ

คุณหมอตรวจๆจับๆถามโน้นนี่นั่นสักพักก่อนจะจดอะไรหยิกๆลงในชาร์ตประวัติผู้ป่วยแล้วยื่นชาร์ตนั่นให้คุณพยาบาลที่ยืนยิ้มหวานให้ไอ้พี่พาย (คุณพยาบาลที่โดนไอ้พี่พายไล่ออกไปนั่นแหละครับ) ก่อนจะหันมาคุยกับผม

"คุณธรรณ์พยายามอย่าขยับมือข้างขวาถ้าไม่จำเป็นนะครับ เพราะกระดูกมันยังไม่เข้าที่ มีอะไรสงสัยไหมครับ"

"ไม่มีครับ เอ่อคุณหมอครับแล้วผมจะออกจากโรง'บาลได้เมื่อไหร่อ่ะครับ" ให้นอนอยู่อย่างนี้น่าเบื่อโคตรๆ

"อยากกลับบ้านแล้วเหรอครับ" ผมพยักหน้าจนคอแทบหลุด

ใครบ้างอยากนอนโรง'บาลวะ

"ขอหมอดูอาการอีกสักสองสามวันนะครับเพราะถ้ากลับบ้านไปหมอเกรงว่าคุณธรรณ์อาจจะยังใช้มือข้างนี้ไม่สะดวก เพราะกระดูกจะไม่ติด" สรุปไอ้ธูปต้องนอนเน่าอยู่โรง'บาลอีกสองสามวัน เฮ้อ ถอนหายใจอีกแล้วกู

"U_U"

"อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิครับ เดี๋ยวกระดูกไม่ติดกันนะ"  เกี่ยวไรกันวะกูทำหน้าเศร้าแล้วมันเกี่ยวกับกระดูกไม่ติดหรอวะ ตรรกะแปลกๆพอๆกับน้องเค้กเลย

"ครับๆ" ผมยิ้มรับแกนๆ

"อืมถ้าไม่มีอะไรแล้วหมอขอตัวก่อนนะครับ" คุณหมอว่าแล้วก็เดินยิ้มอารมณ์ดีออกจากห้องไป เหลือก็แต่คุณพยาบาลคนสวยนั่นแหละครับ ที่ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเคร่งครัด คุณเธอลากโต๊ะที่วางชามข้าวต้มมาให้ผมที่เตียง ก่อนจะยืนยิ้มหวานส่งไปให้ไอ้พี่พายที่นั่งจ้องหน้าผมเขม็ง กูทำอะไรผิดอีกวะเนี่ย

"เสร็จรึยัง" ไอ้พี่พายลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินมาที่เตียง


"สะ เสร็จแล้วค่ะ"  คุณพยาบาลตอบ


"........" ส่วนไอ้ธูปนอนตายอยู่บนเตียงเหมือนเดิม

"เสร็จแล้วก็ออกไป"  มึงนี่ก็โหดคงเส้นคงวาจริงๆ

"ค่ะๆ"  คุณพยาบาลหน้าซีดทันทีก่อนจะจรลีลี้ภัยออกจากห้องไปอย่างเร็ว

"จะนอนหรือจะกินข้าว" ว๊ากใส่กูเพื่อ?

"กินข้าวดิ หิวจนจะแดกควายได้ทั้งตัวแล้ว" ผมว่าก่อนจะจับช้อนตักข้าวต้มขึ้นมาแต่ไอ้พี่พายมันกลับแย่งช้อนผมไปถือไว้  แมร่งอย่าบอกนะว่ามึงจะแย่งข้าวกูกินอ่ะ

ไอ้พี่พายมันเอาช้อนที่มีข้าวต้มเอาในนั่นมาจ่อที่ปากผม โดยไม่พูดอะไรส่วนผมก็มองช้อนข้าวต้มสลับกับมองหน้าไอ้พี่พายด้วยความงง มันจะมาไม้ไหนวะ เริ่มระแวงมึงแล้วนะเนี่ยโคตรจะระแวงเลยขอบอก

"จะกินข้าวหรือจะมองหน้ากูเลือกเอาสักอย่าง"  มึงพูดเฉยๆก็ได้ไม่ต้องดันช้อนมาชนปากกูหรอกไอ้พี่พายช้อนมันโดนฟันกู กูเจ็บ

ง้ำ

ผมงับช้อนข้าวต้มตรงหน้าก่อนจะรีบเคี้ยวรีบกลืนเพราะข้าวต้มคำต่อไปมาจ่อรออยู่ที่ปากแล้วครับ โอ๊ย จะเอาช้อนมาดันฟันกูเพื่อ? ไม่ต้องรีบป้อนกูขนาดนั้นช้าๆก็ได้กูเคี้ยวไม่ทันครับ

"แค่กๆ  มึงจะรีบป้อนกูทำไมเนี่ย กูกินไม่ทัน" โว้ยชีวิตไอ้ธูปเมื่อไหร่จะหลุดพ้นจากราหูสักทีวะ

"อย่าบ่นกินๆเข้าไป มึงควรจะดีใจนะที่กูป้อนข้าวมึงอ่ะ" ความภาคภูมิใจที่กูควรจะบันทึกไว้ในความทรงจำใช่ไหมเนี่ย  ถุยเถอะครับมันน่าจดจำตรงไหนวะ

"งั้นมึงควรจะดีใจนะที่กูผู้ชายคนแรกที่ได้นอนกับมึง ฮ่าๆๆ" ไอ้พี่พายหน้าตวัดสายตามองผม จนผมต้องหุบปากลงทันที แหมทำเป็นโกรธกูก็แค่ล้อเล่นเฉยๆทำเป็นเครียดไปได้ แต่ดูแล้วครั้งนี้ผมชนะก๊ากๆๆ

เถียงสู้กูไม่ได้อ่ะดิโด่วนึกว่าจะแน่

ไอ้พี่พายวางช้อนลงในชามอย่างแรงจนน้ำข้าวต้มกระเฉาะมาโดนแขนผมดีที่มันไม่ร้อนแล้วไม่งั้นมีเฮแน่นอน มันยืนจ้องหน้าผมเขม็งถ้ากระโดดงับหัวผมได้คาดว่ามันคงทำไปแล้ว

"ดูมึงจะภูมิใจมากเลยนะที่ได้นอนกับกูเนี่ย" มึงช่วยขยายรูปประโยคเมื่อครู่ด้วยครับ กูกลัวใครได้ผ่านมาได้ยินเขาจะตีความหมายไปผิดๆ

"หน้ากูดูภูมิใจรึไง" โดนมึงจูบต้อนรับอรุณขนาดนั้น เอาจริงๆผมก็สยองนิดๆนะตอนที่นึกถึงภาพเหตุการณ์วันนั้นอ่ะ แหวะข้าวต้มกูขึ้นมาอยู่ที่คอหอยแล้วครับ

"ก็นะหน้ามึงมันบ่งบอกว่าภูมิใจมากมายจนปิดไม่อยู่" มึงตอแหลเถอะ

"แหม่ได้เป็นผู้ชายคนแรกของมึงกูก็ต้องภูมิใจดิว่ะ" อย่าคิดจะมาเกรียนแข่งกับกู กระดูกคนละเบอร์ครับพี่น้องครับ

"........"

"หน้ามึงโคตรตลกเลยวะ ฮ่าๆ อ่อนจริงๆมึงอ่ะ" ไอ้พี่พายมันทำหน้านิ่งๆกอดอกมองผมอยู่ข้างเตียง ส่วนผมก็ได้ใจหาเรื่องล้อเลียนมันต่อไปโดยไม่รู้ถึงอันตรายที่กำลังคลืบคลานเข้ามา

"มึงจะหยุดพูดได้รึยัง" พอมันเถียงผมไม่ได้มันก็เล่นบทโหดใส่ผม เหอะคิดว่าผมกลัวรึไง คนมันกำลังได้ใจผมจึงใส่รัวเข้าไปไม่ยั้ง


ไอ้พี่พายมันเปลี่ยนจากหน้านิ่งๆโหดๆมาทำหน้าโรคจิตใส่ผม มันบีบไหล่ผมทั้งสองข้างอย่างแรงแล้วกดร่างผมลงกับเตียงก่อนจะ........







จูบผม





ไอ้พี่พายมันจูบผมอีกแล้ววววววววววว


ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
อุ๊ยตาย!รีไรท์ใหม่ ครั้งนี้ทำไมรู้สึกนุงธูปมันกวนๆขึ้น รึมันเป็นของมันอยู่แล้ว เอะรึยังไง เค้างง ฮ่าๆๆๆๆ :hao7:

ออฟไลน์ Blue

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ poterdow

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
เคยอ่านเมื่อนานนนนมาละ เอากลับมารีใหม่ ช๊อบชอบบ มาไวๆน้าาาาา

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ไรเนี่ย.....ขอเค้ารึยัง
อยู่ๆมาจับน้องธูปจูบหน่ะห๊ะคุณพี่ว๊าก

ออฟไลน์ ❁INDY_FAMILY❁

  • -ทำไมต้องเดินตามรอยเท้าใคร เราสามารถสร้างรอยเท้าของเราเองได้-
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-12
ผมไม่ใช่พ่อเด็ก
ตอนที่ ๙ เรื่องเข้าใจผิด



ผมดิ้นเหมือนปลาที่กำลังโดนทุบหัว มือใหญ่พอๆกับอุ้งตีนหมีนั่นกดไหล่ผมให้จมไปกับเตียง มันโถมร่างลงมาทาบทับตัวผมเอาไว้ให้หมดทางหนี และมันก็ไม่ลืมที่จะพยายามเอาลิ้นเข้ามาสำรวจในปากของผมอีกด้วย ส่วนตัวผมเองก็กัดปากแน่นจนเลือดไหลซิบๆออกมาอีกทั้งยังต้องพยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากสถานการณ์บ้าๆนี้อีก สภาพผมคงทุเรศสิ้นดีขออย่าให้ใครเปิดประตูเข้ามาเห็นฉากนี้เลยนะครับ ไอ้ธูปไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว

"อื้มมมมม" เสียงครางต่ำๆของมันเพราะโดนขัดใจ ก่อนที่มือหนานั่นจะบีบคางผมให้อ้างปากออกจนมันสามารถส่งลิ้นเข้ามาในปากของผมได้สำเร็จ

มันทั้งดูดทั้งดุนลิ้นผมจนเจ็บไปหมด มือมันคลายแรงบีบที่คางของผมก่อนจะกลับมากดที่ไหล่ผมเหมือนเดิม  ส่วนผมก็พยายามดิ้นหนีจูบที่น่ารังเกียจของมันแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะข้อมือผมก็เจ็บและไหนจะตัวมันที่ใหญ่พอๆกับหมีขั้วโลกเหนือที่ทาบทับลงมาทั้งตัวนั่นอีก

จูบกูขนาดนี้มึงแอบชอบกูอยู่ใช่ไหมเนี่ยบอกกูมาซะดีๆ กูว่ากูเริ่มชินกับการที่มีผู้ชายมาชอบแล้วนะ แต่โดนจู่โจมแบบนี้บอกตรงๆไอ้ธูปไม่ชิน

พอไหล่ของผมเป็นอิสระเพราะมือของมันกำลังลูบไล้ลงไปอยู่ที่หน้าท้องของผมอยู่  ผมจึงรวมรวบแรงทั้งหมดที่มีผลักหน้าอกไอ้เชรี้ยพี่พายให้ออกห่างจากตัว

"โอ๊ย!!" แหกปากร้องลั่นห้องสิครับจะรออะไรอยู่ล่ะ ก็มือที่ใส่เฝือกอ่อนคือมือข้างเดียวกันกับที่ใช้ผลักไอ้หื่นตรงหน้า คงเพราะออกแรงผลักมันมากไปหน่อยเลยรู้สึกเสียวแปลบๆที่ข้อมือ จะเป็นหนักกว่าเดิมรึเปล่าวะเนี่ย

ไอ้หื่นตรงหน้าผมก็นะ แมร่งจูบซะติดลมบนเลยนะมึง ช้ากว่านี้กูเสียตูดซ้ำสองให้มึงแน่ๆ

ไอ้พี่พายทำหน้าตกใจสติวิ่งกลับเข้าร่างฉับพลัน มันผงะออกจากตัวผมยืดตัวตรงก่อนจะมองหน้าผม เอิ่ม เรียกว่าจ้องเขม็งเลยจะดีกว่า มองกูขนาดนี้ไม่แดกกูเข้าไปเลยล่ะครับแหม่

มันใช้นิ้วโป้งเช็ดน้ำลายที่มุมปากของมัน ก่อนจะสาวเท้าเดินตรงเข้ามาหาผมที่นอนดิ้นไปมาพลางกุมข้อมือตัวเองอยู่บนเตียงด้วยความเจ็บปวด ไม่เอาแล้วนะไม่กูจูบแล้วนะพอเถอะ กูขนลุก กูสยอง

มันก้มหน้าลงมากระซิบที่หูผม  "จำไว้ที่หลังมึงอย่ามาลองดีกับกู"

=_=!! ครับ ไอ้ธูปจะจำเอาไว้ให้ขึ้นใจเลยครับ ว่าคนอย่างมึงฆ่าให้ตายได้แต่เกรียนใส่ไม่ได้

ผมไม่ได้พูดอะไรออกไปอีกเลย เพียงแต่ผลิกตัวหันหลังให้มันเพื่อที่จะไปกดปุ่มฉุกเฉินที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงเพื่อเรียกคุณพยาบาลให้เข้ามาดูข้อมือของผม แต่ผมก็ช้ากว่าอีกคนที่โน้มตัวข้ามผ่านตัวผมไปกดปุ่มที่ว่านั่นเรียบร้อยแล้ว

ทำไมมึงไม่เดินอ้อมไปกดล่ะเว้ยจะโน้มตัวมาทับกูเพื่อ?

"มีอะไรให้ช่วยคะ" เสียงพยาบาลพูดผ่านลำโพง (ผมไม่รู้ว่าเค้าเรียกว่าอะไรอ่ะ)

"คนไข้เจ็บมือ" ไอ้พี่พายมันตอบสั้นๆห้วนๆตามสไตล์ของมัน

"ค่ะ รอสักครู่นะคะ"

คุยกันเสร็จแล้วมึงก็ลุกออกไปสักทีสิวะ จะโน้มตัวคร่อมกูอยู่อย่างนี้ทั้งคืนเลยรึไง

"เสร็จแล้วก็รีบๆลุกออกไปสักทีกูอึดอัด!!" เอ๊าไอ้นี่มองหน้ากูอีก มีปัญหาอะไรกับหน้าหล่อๆของกูเหรอครับ

ไอ้พี่พายมันไม่ลุกไปตามที่ผมบอกแต่มันกลับโน้มใบหน้าของมันลงมาใกล้ๆผม ทำเอาผมตัวแข็งทื่อ นอนตาเหลือกไม่กล้าขยับเขยื้อนไปไหน ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ

คำพูดที่มาพร้อมกับลมร้อนๆที่กระซิบเบาๆที่ข้างหู แต่คำพูดของมันกลับดังก้องจนได้ยินชัดเจน

"มึงว่าข้าวต้มโรงพยาบาลมันหวานไปไหมวะฮ่าๆๆ"

มึงพูดอารายยยยยยยย

ข้าวต้มบ้านพ่องมึงสิหวาน จืดสนิทไร้รสชาดขนาดนั้น มันหวานตรงไหนวะ

ก๊อกๆๆๆ เสียงเคาะประตูช่วยชีวิตผมเอาไว้

แอ๊ดดดดดดด (แต่เสียงประตูยังหลอนได้ใจกูเหมือนเดิม)

"อุ๊ยขอโทษค่ะ" เสียงร้องด้วยความตกใจดังขึ้นที่หน้าประตู ก่อนที่ไอ้พี่พายมันจะผละออกจากตัวผมช้าๆไม่เร่งรีบแล้วเดินไปยืนกอดอกอยู่ข้างเตียงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ส่วนผมก็นอนรอให้เตียงมันสูบผมให้หายไปจากตรงนี้ ผมเห็นสายตาคุณพยาบาลแล้วผมกลัวฉิบหายเลยวะ

"จะยืนมองอีกนานไหม" โหดจริงอะไรจริง โหดเสมอต้นเสมอปลายเลยพ่อคุณ

คุณพยาบาลกุลีกุจอรีบเข้ามาดูข้อมือของผมทันทีส่วนไอ้พี่พายมันก็ยืนทำหน้าโหดกดดันอยู่ข้างๆ จนคุณพยาบาลแกมือไม้สั่นไปหมด พูดไปสั่นไปจนผมอดสงสารไม่ได้

"อย่าพยายามขยับข้อมือข้างนี้มากนักนะคะ เดี๋ยวกระดูมันจะเคลื่อนแล้วอาจจะต้องผ่าตัดนะ" ขู่กูอยู่ใช่ไหมเนี่ย T_T กูเชื่อนะ

"ครับ" ผมตอบรับอย่างไวพร้อมกับยิ้มให้คุณพยาบาล "เอ่อ มีอะไรรึเปล่าครับ" อดถามไม่ได้เมื่อเห็นว่าคุณเธอยืนจ้องหน้าผมพร้อมกับรอยยิ้มที่เป็นปริศนาที่ชวนให้เสียวสันหลังวาบ

คุณพยาบาลเธอก้มลงมากระซิบเบาๆที่หูผม "แฟนคุณดุจังเลยนะคะ แต่ก็น่ารักดีดูเค้าหวงคุณจัง ฉันล่ะอิจฉา"

ใครแฟนกูวะ

"คะ ใครแฟนผมเหรอครับ" ผมถามกลับไปด้วยความสงสัย

"แหม อย่าเขินไปเลยค่ะ แค่เห็นดิฉันก็รู้แล้วล่ะค่ะว่าคุณสองคนเป็นแฟนกัน" เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้วครับ

คุณพยาบาลกำลังจะคิดไปไกล เกินกว่าที่ผมจะดึงกลับมา

"เขาไม่ใช่แฟนผมครับ" ผมโบกไม้โบกมือพยายามปฏิเสธ ส่วนไอ้พี่พายมันแค่ยืนกอดอกมองดูอยู่เฉยๆ ช่วยกูได้มากจริงๆ

"อย่าอายไปเลยค่ะ ผู้ชายรักกันน่ารักออก" คิดไปถึงไหนแล้วเนี่ยแม่คุณ ฟังผมพูดบ้างเถอะครับ

"เสร็จรึยัง" คุณพยาบาลคุยกับผมอยู่ดีๆแต่กลับมีสายซ้อนแทรกเข้ามาซะก่อน ทำเอาคุณเธอหน้าเจื่อนไปเลย

"สะ เสร็จแล้วค่ะ" เธอหันไปตอบไอ้พี่พาย

"เสร็จแล้วก็ออกไปสิ คุยอะไรกันนักหนา" แล้วมึงจะยุ่งอะไรด้วยวะ กูกำลังช่วยมึงปฏิเสธข้อกล่าวหาที่คุณพยาบาลกำลังเข้าใจผิดอยู่นะเว้ย

"ขี้หวงจริงๆเลยอะ เนอะ" เนอะอะไรครับคุณพยาบาล แล้วยิ้มนั่นหมายความว่าอย่างไรมาอธิบายก๊อนนนนนนนน อย่าเพิ่งไปสิครับ คุณพยาบาลเดินหันหลังออกจากห้องไปด้วยสภาพลอยๆเหมือนคุณเธอกำลังเต้นบัลเล่ต์อยู่ท่ามกลางทุ่งข้าวสาลี ไม่ได้สนใจผมที่อ้าปากค้างกวักมือเรียกเธออยู่เลยสักนิด กูว่างานนี้แมร่งรู้กันทั้งวอร์ด ดีไม่ดีรู้ทั้งตึก

จินตนาการของผู้หญิงไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกจริงๆ =_=

"กูไปโทรศัพท์เดี๋ยวมา" ไอ้พี่พายมันบอกก่อนจะเดินออกจากห้องไป

แล้วมันจะมาบอกผมทำไมวะ ผมไม่ได้อยากรู้ว่ามันจะไปไหนมาไหนเลย ต่างคนต่างอยู่น่ะดีแล้ว

หลังจากไอ้พี่พายออกไปได้สักพักผมก็ลุกขึ้นจากเตียงเพราะรู้สึกเบื่อๆที่ต้องนอนอยู่ในห้องนานๆ เลยคิดว่าจะออกไปเดินยืดเส้นยืดสายข้างนอกสักหน่อย ผมหยิบโทรศัพท์กับกระเป๋าตังค์บนโต๊ะมาใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อและเดินลากเสาที่แขวนขวดน้ำเกลือเดินออกมาจากห้อง ก้าวเท้าออกมายังไม่ทันจะพ้นประตูห้องก็พบเจอกับสายตากรุ้มกริ้มของคุณพยาบาลทั้งวอร์ดที่มองผมเป็นตาเดียว (กูว่าแล้วแมร่งรู้ทั้งวอร์ด) ถ้าจะมองกันขนาดนี้เดินเข้ามาถามกันเลยดีกว่าไหมครับ มองซะเสียวสันหลังวาบ

ผมก้มหน้าก้มตาเดินเข้าลิฟท์ไปโดยพยายามทำเหมือนคุณพยาบาลทั้งหลายเป็นธาตุอากาศลงลิฟท์มายังชั้นที่ทางโรงพยาบาลเค้าจัดไว้เป็นเหมือนกับสวนพักผ่อนอ่ะครับให้สำหรับคนไข้และญาติผู้ป่วยหรือแม้แต่บุคลากรของทางโรงพยาบาลเองมาใช้บริการได้เช่นกัน ผมเดินลากเสาน้ำเกลือไปยังเก้าอี้ยาวตัวสีขาวที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับน้ำพุ หย่อนก้นลงนั่งทอดสายตาออกไปยังเบื้องหน้า รู้สึกดีกว่าอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆเป็นไหนๆ

"ขอนั่งด้วยคนได้ไหมครับ" กำลังคิดอะไรเพลินๆก็ต้องหลุดจากภวังค์ของตัวเองหันกลับไปมองตามเสียงที่ได้ยิน

คุณหมอที่เป็นเจ้าของไข้ของผมถือแก้วกาแฟชื่อดังราคาแพงที่ผมไม่กล้าซื้อกินยืนยิ้มเฉ่งอยู่ข้างๆ  "เชิญครับ" ผมบอกก่อนจะขยับให้คุณหมอนั่งลงข้างๆกัน

"ขอบคุณครับ" คุณหมอกล่าวขอบคุณ  "แล้วคุณธรรณ์มาคนเดียวหรอครับ" แล้วคุณหมอเห็นใครอยู่กับผมรึเปล่าล่ะครับ

"เออ ครับ" คิดอีกอย่างแต่จำต้องพูดอีกอย่าง ขืนพูดตามที่คิดกลัวจะได้กินยำจากคุณหมอ

"แล้วแฟนคุณธรรณ์ไปไหนซะล่ะครับ ปล่อยให้ลงมาคนเดียวได้ไง"

ใครเป็นแฟนกูอีกวะเนี่ย

"แฟนผม??"

"ก็คุณพีระไงครับ" แล้วไอ้พีระนี่มันใครวะ

คุณหมอคงเห็นผมทำหน้าเป็นหมางงเลยเฉลยข้อข้องใจให้

"ผู้ชายที่อยู่ในห้องกับคุณไง อย่าบอกนะว่าไม่ใช่แฟนกันผมไม่เชื่อหรอก ก็พยายบาลเขาพูดกันทั้งวอร์ด" คุณหมออย่าพูดกับผมด้วยน้ำเสียงแบบนั่น ผมขนลุกครับ แล้วอะไรพยาบาลพูดกันทั้งวอร์ดคืออะไร นี่รู้กันไปถึงไหนแล้วเนี่ย ทำไมมันระบาดไวกว่าเชื้ออีโบล่าอีกล่ะครับ

และกรุณาอย่าเข้าใจผิดคิดไปเอง เพราะผมกับไอ้พี่พายไม่มีทางเป็นแฟนกันได้หรอกครับ เพราะผมไม่นิยมผสมพันธุ์กับหมาบ้า

"เขาไม่ใช่แฟนผม คุณหมอเข้าใจผิดแล้วครับ" ผมบอก  "ผมกับเขาเกลียดขี้หน้ากันจะตายไป"

"เกลียดกัน" คุณหมอทำหน้าสงสัย

"ครับไม่เคยพูดดีๆกันสักครั้ง อีกอย่างผมก็ไม่ได้ชอบผู้ชายด้วย"

คุณหมอดูดกาแฟราคาหลายร้อยบาทในมือก่อนจะหันมามองผมพร้อมด้วยรอยยิ้มจางๆที่มุมปาก

"แต่คนนอกอย่างผมมองเป็นอีกอย่างนะครับ"

"คุณหมอคงตาฟาดอ่ะครับถ้ามองว่าผมกับเขาเป็นคนรักกัน" คุณหมอพยักหน้าเหมือนจะเข้าใจในสิ่งที่ผมพูด "เขาเป็นพี่เขยของน้องชายผมอ่ะครับ" ผมบอกความสัมพันธ์ระหว่างผมกับไอ้พี่พายที่มีศักดิ์แค่พี่เขย ระหว่างเราไม่มีทางเป็นได้มากกว่านี้แน่นอนไอ้ธูปฟันธง

"อ่อ" คุณหมอพยักหน้ารับรู้ในสิ่งที่ผมบอก

"เฮ้ออออออ" ผมถอนหายใจออกมาอีกครั้งหลังจากที่เราทั้งคู่นั่งเงียบๆกันมาพักใหญ่

"มีอะไรไม่สบายใจรึเปล่าครับ"  คุณหมอถาม

"คือ คุณหมอไม่คิดว่ามันแปลกๆเหรอครับ"

"แปลก อะไรแปลกครับ"

"คุณหมอกับคุณพยาบาลต่างก็ทักว่าผมกับไอ้เอ่อเขาคนนั้นเป็นแฟนกันทั้งๆที่เราสองคนเป็นผู้ชายทั้งคู่"

คุณหมอหันมายิ้มให้ผม  "คุณธรรณ์จำกัดความของคำว่ารักไว้แบบไหนล่ะครับ" คุณหมอถาม  "ถ้าคุณธรรณ์คิดว่าผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิงแล้วนั่นเรียกว่าความรัก ผมว่ามันไม่ใช่นะ"

"ทำไมอ่ะครับ ธรรมชาติสร้างมาให้ผู้ชายมันก็ต้องคู่กับผู้หญิงอยู่แล้ว"

"ความรักมันไม่มีข้อจำกัดเรื่องเพศหรอกครับ รักก็คือรักมันคือเรื่องของหัวใจ"

"สำหรับผม ผมว่ามันแปลกๆอยู่ดี แค่พูดก็ขนลุกแล้ว" ผมยกมือลูบแขนตัวเอง

คุณหมอหัวเราะในลำคอก่อนจะพูดต่อ "หมอก็ไม่เคยมีคนรักเป็นผู้ชายเหมือนกันนะครับ แต่น้องชายหมอเขามีแฟนเป็นผู้ชายนะ ซึ่งหมอก็ไม่เห็นว่ามันจะแปลกตรงไหน เขาก็ทำทุกๆอย่างที่คนรักกันเขาทำกัน หมอว่าถ้าคุณธรรณ์ลองเปิดใจมองความรักให้กว้างๆคุณธรรณ์ก็จะเห็นโลกในอีกแบบนึงนะครับ"

"แล้วความรักแบบนี้มันจะยั่งยืนหรอครับคุณหมอ ผมมองว่ามันก็แค่ความรักฉาบฉวย บางคนก็แค่อยากลองของแปลก" ผมคิดแบบนี้จริงๆนะ มันไม่ยั่งยืนหรอก ชายรักชายน่ะ

"ทุกวันนี้ก็ยังมีคนหย่าร้างกันอยู่เลยนะครับ ไม่มีอะไรมาการันตีได้หรอกครับว่าความรักแบบไหนมันจะยั่งยืนกว่ากัน สำหรับหมอรักก็คือรัก" คุณหมอหันหน้ากลับไปมองยังเบื้องหน้า ปล่อยให้ผมคิดตามในคำพูดของคุณหมออยู่คนเดียว

ผมรู้สึกสบายใจนะครับที่ได้คุยแลกเปลี่ยนทัศนคติกับคุณหมออาจเพราะเราไม่รู้จักกันมาก่อน หรือเพราะเราคือคนแปลกหน้าเลยทำให้ผมกล้าที่ถามหรือแม้แต่พูดในสิ่งที่คิดออกไปเพราะถ้าเป็นกับเพื่อนสนิทหรือคนในครอบครัวผมคงไม่กล้าพูดเรื่องนี้ ยิ่งมารู้ว่าไอ้แมนเมืองมันคิดไม่ซื่อกับผมด้วยยิ่งแล้วใหญ่ผมยิ่งจะปิดปากเงียบไม่กล้าพูดเรื่องนี้กับใคร กลัวและระแวงไปเสียทุกอย่างบอกตรงๆผมโคตรจะหลอนเลย

ว่าแต่ผมจะมาสนใจเรื่องนี้ทำไมวะ ผมก็ไม่คิดจะมีแฟนเป็นผู้ชายอยู่แล้วนี่หว่า จะมาเครียดไปทำไม เฮ้อไอ้ธูปมึงบ้าไปแล้ว คิดอะไรวะเนี่ย

Rrrrrrrrr

ผมกำลังคิดอะไรเพลินๆโทรศัพท์ผมก็ดังขัดจังหวะซะก่อน  ผมล้วงมือหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อขึ้นมาพอเห็นเบอร์คนที่โทรเข้ามาเท่านั่นแหละครับผมก็แทบจะปาโทรศัพท์ทิ้งทันที

'แมนเมือง'

"ไม่รับหรอครับ" คุณหมอหันมาถาม

"ไม่อ่ะครับ" ผมตอบก่อนจะกดตัดสายไป

Rrrrrrrrrr


มันก็ยังกระหน่ำโทรมาเหมือนเดิม

ช่วยเข้าใจหน่อยว่ากูไม่อยากรับสายมึง

คุณหมอหันมายิ้มให้ผม "เค้าอาจจะมีธุระสำคัญก็ได้นะครับ"

ผมเกรงใจคุณหมอเพราะเสียงโทรศัพท์มันดัง (ทำไมไม่ปิดเสียง) ผมจึงตัดสินใจกดรับทั้งๆทีไม่พร้อมจะคุยกับมันเลยสักนิด

"มึงอยู่ไหนธูปกูตื่นมาไม่เห็นมึงกูโคตรห่วงมึงเลย แล้วก่อนหน้านี้ใครรับโทรศัพท์มึงวะ" ผมยังไม่ทันได้พูดอะไรไอ้แมนเมืองก็ใส่รัวมาทันที

"อยู่โรง'บาลมึงมีธุระอะไรป่ะไม่มีแค่นี้นะ" ผมตอบกลับไป

"อยู่โรง'บาลมึงเป็นอะไรใครทำอะไรมึง และโรง'บาลไหนเดี๋ยวกูจะรีบไปหา"

"ไม่ต้องกูไม่อยากเห็นหน้ามึงตอนนี้" กูยังทำใจไม่ได้

"มึงโกรธกูเรื่องที่ไอ้วินมันทำให้มึงเจ็บตัวใช่ป่ะวะ กูขอโทษตอนนั้นกูเมากูช่วยอะไรมึงไม่ได้ อย่าโกรธกูนะธูป"

"พูดเหมือนมึงไม่ได้ทำกูด้วยอย่างนั้นแหละ" ถ้ามึงไม่ได้ทำกู แล้วทำไมมึงต้องนอนแก้ผ้าด้วยวะ

"มึงก็รู้ว่ากูรักมึง กูจะทำร้ายมึงได้ไงวะธูป"
ไอ้แมนพูดอะไรเนี่ยกูขนลุกเหอะ

"มึงเห็นว่ามันทำกูแล้วทำไมไม่ช่วยกู"  มึงรักกูจริงเปล่าวะ

"กูเมาเดินเองยังไม่ไหวเลย ไอ้ฝรั่งเพื่อนน้องมึงมันมาช่วยแบกกูไม่งั้นกูคงได้นอนอยู่ในรถอ่ะ"

"ไอ้วินมันทำกูคนเดียวงั้นสิ" เพราะกูจะได้คิดบัญชีกับมันคนเดียว

"เอ่อดิวะ แต่ธูปมึงจะไปว่ามันก็ไม่ถูกนะเว้ย มึงก็รู้ว่ามึงเมาแล้วเป็นไง" กูเมาแล้วกูเป็นยังไงวะ

"แล้วมึงก็ยืนดูมันทำกูเนี่ยนะ" ไอ้เพื่อนเลว

"กูขอโทษ แต่ตอนกูตื่นมากูต่อยมันให้มึงแล้วนะธูป"

แล้วมันทดแทนสิ่งที่กูเสียไปได้ไหมวะ

"แค่นี้นะกูไม่อยากคุยกับมึงแล้ว" ผมกดตัดสายก่อนจะลุกขึ้นยืนเพื่อจะกลับห้อง อารมณ์เสียกว่านี้ไม่มีอีกแล้วครับ

"จะกลับแล้วเหรอครับ มาผมช่วย" เอ่อผมลืมคุณหมอไปเลยนี่หว่า

"ขอบคุณครับ" ผมบอกก่อนที่คุณหมอจะช่วยลากไอ้เสาน้ำเกลือให้ผม

ผมกับคุณหมอเดินเข้าไปในลิทฟ์ด้วยกัน พูดคุยกันไปเรื่อยเปื่อยจนถึงชั้นที่ผมอยู่ ลิฟท์เปิดออกผมก็ต้องตะลึงกับเสียงไอ้พี่พายที่มันว๊ากใส่คุณพยาบาลทั้งวอร์ด เสียงดังไม่เกรงใจใครจริงๆ มารยาทมันติดลบเข้าขั้นรุนแรงจนเกินจะสั่งสอนได้แล้ว

พอไอ้พี่พายมันหันมาเห็นผมเท่านั้นแหละครับมันก็เดินฉับๆมาหาผมทันที ทำไมต้องทำหน้าโหดใส่กูด้วยอะ แล้วมึงจะแดกหัวคุณหมอรึไงดูทำหน้าเข้า

"ไปไหนมา!!" จะตะโกนหาพ่องมึงหรอครับ

"ยุ่งไรด้วยวะ" กูยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่นะเว้ย

"กูถามก็ตอบมา อย่าเดินหนีกู" ไอ้พี่พายเดินมากระชากแขนผม อืม มึงลืมไปรึไงว่าข้อมือกูเจ็บอยู่ กรุณาอย่ามาซ้ำรอยแผลเก่า

"ขอโทษนะครับค่อยๆคุยกันจะดีกว่านะครับ" คุณหมอเข้ามาห้ามศึกระหว่างผมกับไอ้พี่พาย

"ไม่ใช่เรื่องของคุณอย่ายุ่ง" เขาหวังดีกลัวกูตายมึงก็ไปว่าเขาอีกนะ

"ครับผมรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องของผม แต่คุณธรรณ์เป็นคนไข้ในความดูแลขอผม ดังนั่นผมมีสิทธิ์" เงิบไปเลยสิมึง สมน้ำหน้า

"คุณธรรณ์ครับเดี๋ยวหมอพากลับห้องนะ" คุณหมอว่าก่อนจะเดินมาแทรกกลางแล้วช่วยลากเสาน้ำเกลือพาผมเดินกลับห้อง

ส่วนไอ้พี่พายมันก็เดินกระฟัดกระเฟียดตามมา หน้าตาเหมือนเด็กที่โดนแย่งของเล่นประมาณนั่นแหละครับ ไม่รู้ใครทำมันอารมณ์เสียแล้วก็มาลงที่ผม สันดานเสียจริงๆกูไม่ใช่ถังขยะไม่ใช่ที่รองรับอารมณ์ของมึงนะเว้ย

"ส่งกันเสร็จรึยัง คนไข้ต้องการพักผ่อน" แหนะมึงรู้ดีกว่าตัวกูอีกเนอะ

คุณหมอหัวเราะหึหึก่อนจะหันมายิ้มให้ผม "แฟนคุณนี้ดุเอาเรื่องเลยเนอะ พักผ่อนเยอะๆนะครับ" หมอครับอย่าเพิ่งไปรอผมอธิบายก่อน หมอเฮ้ย หมอกำลังเข้าใจผิดนะครับ กลับมาก๊อนนนนนนนนนน

ผมอ้าปากพะงาบๆมองตามไอ้พี่พายที่เดินตามหมอไปที่ประตูก่อนที่มันจะกดล็อค เฮ้ย แล้วมึงจะล็อคห้องทำไมวะ

"มึงล็อคห้องทำไมอะ"

มันเดินกลับมาหาผมที่เตียงก่อนนะโน้มตัวลงมาใกล้ๆผม "มึงไปไหนมา" กูถามมึงไม่ใช่ให้มึงมาถามกูกลับ ไอ้บ้า

"กูถามมึงก่อนนะ" แล้วมึงจะก้มหน้าลงมาใกล้ๆกูทำไมเนี่ย

"ไปไหนมา" พูดเป็นอยู่คำเดียวไงวะ

"กูไม่จำเป็นต้องตอบมึง" เอาดิคิดว่าจะบังคับกูได้เหรอ โด่วกูไม่กลัวมึงหรอกโว้ย

ไอ้พี่พายมันทำหน้านิ่งพูดเสียงโทนเดียว  "ไม่ตอบกูจูบ"

จูบพ่องงงงงง

"กูลงไปนั่งเล่นที่สวนชั้นล่างมา แล้วๆเจอคุณหมอเขาก็เลยขอมานั่งด้วยก็แค่นั่นเอง" กูไม่ได้กลัวนะแต่กูรำคาญมึงถามเซ้าซี้

"หึ" ไอ้พี่พายมันหัวเราะ "ก็แค่เนี่ยต้องให้กูขู่"

"มึงมันก็ดีแต่ขู่นั่นแหละหว่า" ยังกูยังปากดีได้อยู่

"มึงท้ากู"

"เปล่ากูไม่ได้ท้ามึงเลยนะ" ส่ายหัวจนคอแทบหลุด

"แล้วคุยอะไรกัน" มึงจะมานั่งสอบสวนอะไรกูหนักหนาวะ

"ก็คุยไปเรื่อยอ่ะ"

Rrrrrrrrr


ใครโทรมาหากูอีกวะเนี่ย

ผมมองเบอร์ที่ปรากฏอยู่ในโทรศัพท์

เบอร์แปลก

ใครวะ

"กดรับสักทีกูรำคาญ" เร่งกูจัง กูกำลังวิเคราะห์อยู่เว้ยว่าเบอร์ใคร

"ฮัลโหล"

"ธูปนายอยู่ไหน"

"ใครครับเนี่ย"

"วิน"

กูไม่อยากคุยกับมึง โทรมาทำไมวะ

"มึงเอาเบอร์กูมาจากไหน"

"กูเอามาจากโทรศัพท์ไอเมืองแมนอ่ะ" แมนเมืองเว้ยเรียกยังเรียกผิดเลยมึง

"แค่นี้นะเว้ยกูไม่ว่างคุย" ผมกำลังจะกดวางแต่ไอ้วินมันดันพูดแทรกเข้ามาซะก่อน

"กูขอโทษที่ทำกับมึงแบบนั่น แต่กูไม่มีทางเลือกนะธูปมึงต้องเข้าใจกูนะ"

"เข้าใจมึงจะให้กูเข้าใจว่าไง มึงทำได้ไงวะไอ้วินกูพี่ชายเพื่อนมึงนะสัด" กูว่าจะลืมแล้วนะแต่ทำไมพอนึกถึงเท่านั้นแหละแมร่งจำได้ทันทีเลย

"ธูปมึงอยู่ไหนกูอยากขอโทษ กูอยากอธิบายอ่ะกูอยากคุยกับมึงนะ"


"กูไม่อยากคุยกับมึงตอนนี้วะ แค่นี้นะเว้ยเออแล้วไม่ต้องโทรหากูอีก จะให้ดีอย่ามาให้กูเจออีกเลย" ผมกดวางสายก่อนจะวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะดึงเอากระเป๋าสตางค์ในกระเป๋าเสื้อออกมาวางไว้ด้วย

ผมทิ้งตัวลงนอนเอามือก่ายหน้าผากจริงๆถ้าเอาเท้าขึ้นมาก่ายได้ผมคงทำไปแล้ว เฮ้อเหนื่อยใจวะ

"ใครโทรมา" เฮ้อ ผมลืมไอ้ตัวที่ทำให้ผมเครียดอันดับหนึ่งไปได้ไงวะ

"ไม่มีอะไรหรอก"

"กูถามก็ตอบ"

"จะอะไรกับกูนักหนาวะ กูอยากอยู่เงียบๆคนเดียวมึงเข้าใจไหม" ก้อนสะอึกมันมาจุกอยู่ที่คอกูแล้วนะ

"กูถามว่าใครโทรมา" ไอ้พี่พายมันเขย่าไหล่ผมจนหัวสั่นหัวคอน เอ่อ เขย่าจนเครื่องในกูไหลมารวมกันแล้วมั้ง

"โว๊ะ" ผมปัดมือมันออก  "ไอ้คนที่มันเอาตูดกูมันโทรมาขอโทษที่ทำแบบนั้นกับกู พอใจรึงยังว่ะ" ผมจ้องหน้าไอ้พี่พายเขม็ง

"ใครมันเป็นใคร" ไอ้พี่พายมันนั่งห้อยขาลงบนเตียงหันหน้าเข้าหาผม

"พอเหอะกูไม่อยากพูดถึง กูจะนอนแล้ว" ผมกำลังจะล้มตัวลงนอนแต่ไอ้พี่พายมันดันจับแขนผมเอาไว้ซะก่อน

"กูถามว่ามันเป็นใคร"

"กูบอกแล้วไงว่าไม่อยากพูดถึง" จะเซ้าซี้กูอีกนานไหมวะ  "โอ๊ยกูเจ็บนะเว้ย" ไอ้พี่พายมันบีบแขนผมอย่างแรง

"มึงเป็นเกย์หรอ"  ตรงไหนที่กูดูเหมือนเกย์ครับ

"ผู้ชายเหอะ" แมนๆเจะบอลเลยอย่างกูเนี่ย เกย์ตรงไหนครับ

"แล้วทำไมมึงยอมให้มันเอา"

กูไม่ได้ยอมเว้ย โดนตอนไหนยังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ

"กูเมาไม่รู้เรื่อง ตื่นมาก็มีผัวแล้ว และมึงจะให้กูทำไง" ย้ำอยู่ได้กูอยากลืมมึงก็ฟื้นฝอยหาตะเข็บจัง

"มึงมัน.....โว้ย!!" ไอ้พี่พายมันลุกขึ้นโวยวายก่อนจะเดินออกจากห้องไป

มึงเป็นอะไรวะ

กูงง

มึงจะมาหงุดหงิดใส่กูทำไม คนโดนเอาน่ะกูไม่ใช่มึง แล้วมึงจะมาโวยวายทำไมเนี่ย

ออฟไลน์ ❁INDY_FAMILY❁

  • -ทำไมต้องเดินตามรอยเท้าใคร เราสามารถสร้างรอยเท้าของเราเองได้-
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-12
ผมไม่ใช่พ่อเด็ก
ตอนที่ ๑๐ ควักหัวใจออกมาเอาออกมาพิสูจน์


หลังจากที่ไอ้พี่พายมันเดินกระฟัดกระเฟียดออกจากห้องไปทิ้งให้ผมงุนงงสงสัยว่ามันเป็นอะไรทำไมต้องโมโหขนาดนั้น ผมพยายามคิดสะระตะต่างๆนาๆว่ามันโมโหเรื่องอะไร แต่คิดเท่าไหร่ผมก็คิดไม่ออกจนสุดท้าย

ช่างแม่รง

ผมไม่คิดให้ปวดกบาลแล้วมันจะเป็นอะไรก็เรื่องของมันเหอะไม่เกี่ยวอะไรกับผมสักนิด ปล่อยมันบ้าไปคนเดียวผมไม่ยุ่งด้วยดีที่สุด

แอ๊ดดดดดด

เสียงเปิดประตูมาพร้อมกับร่างสูงที่เดินเนื่อยๆคล้ายคนหมดเรี่ยวแรง (ประหนึ่งว่ามันโดนไล่ออกจากบ้าน AFอย่างนั่นแหละ กูยังจะเล่นมุก =_=) มันปรายตามองผมแวบเดียวไม่ถึงวินาทีด้วยซ้ำ (ไวมากๆ) ก่อนจะสาวเท้าเดินไปนั่งลงที่โซฟา มันนั่งไขว้ห้างเอนหลังพิงพนักโซฟาพร้อมกับหลับตาปิดกั้นการรับรู้ทุกสิ่งอย่าง

ผมนั่งมองการกระทำของมันอย่างงงๆจนอดรนทนไม่ไหวต้องเอ่ยปากถามมันออกไปเพราะต่อมเผือกของผมเริ่มทำงานแล้ว  "เป็นไรวะ"

ไอ้พี่พายมันยังนั่งนิ่งไม่ขยับ ไม่พูด ไม่หายใจ (ใช่เวลาเล่นไหมไอ้ธูป)

"เฮ้ยได้ยินไหมเนี่ย มึงเป็นอะไรวะ" ผมเพิ่มคำพูดลงไปในประโยคคำถามให้มันยาวขึ้น (เพื่อ?) แต่ผลก็เหมือนเดิม คือมันยังคงนั่งหลับตานิ่งไม่ไหวติง มันทำเหมือนกับคำพูดของผมเป็นอากาศที่ลอยเข้าหูมันแล้วก็ลอยออกไปไม่มีความหมายอะไร ประมาณว่าเข้าหูหมาทะลุหูควาย มันนิ่งเหมือนตายไปแล้วแต่ก็ยังหายใจอยู่ ประมาณเนี่ยล่ะครับ =_=

ผมรำคาญไอ้พี่พายจึงลุกลงจากเตียงไม่ลืมที่จะลากไอ้เสาน้ำเกลือติดมือมาด้วย

แกร๊กๆๆๆ

เดินไปหยุดตรงโซฟาที่มันนั่งหลับ (ตา) อยู่ ผมก็ไม่รู้ตัวเองรู้เหมือนกันว่าทำไมต้องสนใจไอ้คนตรงหน้าด้วย เพราะมันทำตัวแปลกๆหรอ............... หรือเพราะมันเหมือนมีเรื่องกลุ้มใจหรอ.............. ผมไม่รู้อ่ะ ผมรู้แต่ว่าผมไม่ชอบให้ใครมาเงียบใส่ผมเวลาที่ผมถามหรือคุยด้วยก็เท่านั้นไม่มีอะไรมากกว่านี้แน่นอน

เชื่อผมสิ อย่าทำหน้าอย่างนั้นผมพูดเรื่องจริง

ผมหย่อนตูดนั่งลงบนโซฟาข้างๆไอ้พี่พายซึ่งโคตรจะลำบากเลย ไหนจะเสาน้ำเกลือที่มันเกะกะ ไหนจะสภาพผมที่เหมือนคนทุพพลภาพอีก กูจะเดินมาหามึงให้ลำบากตัวเองเพื่ออะไรวะเนี่ย

"มึง" เอื้อมมือไปสะกิดมันก็ยังนั่งนิ่ง วิญญาณมันออกจากร่างรึเปล่าวะ อย่างนี้ผมต้องเชิญคุณริวจิตสัมผัสปะเนี่ย

"ตายหรือยังวะ นิ่งเชียว" สาบานได้ว่าผมไม่ได้เกรียนใส่มันนะครับ

"ถ้ามึงยังไม่หยุดพูดมึงนั่นแหละที่จะตาย" สาสสสสสส ทำเป็นโหดแมร่งโหดตั้งแต่ต้นเรื่องยันตอนนี้มึงก็ยังโหดอยู่อีก โหดไม่เปลี่ยนแปลงจริงๆพ่อคู๊ณณณณณ

ไอ้พี่พายมันลืมตาขึ้นมาเหล่ผม ย้ำว่ามันแค่เหล่ตามองผมจริงๆ มึงจะมองให้มันเต็มๆตาไม่ได้รึไงวะ แมร่งอารมณ์เสีย

"มีไร" มันถาม

"มึงเป็นไรวะ" ที่ถามเนี่ยไม่ได้เป็นห่วงมันนะ แค่ต่อมเผือกมันเริ่มทำงานแค่นั้นเอ๊ง

"เกี่ยวไรกับมึง" ตอกกูซะหน้าหงายไปไม่เป็นเลย

"เออ มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับกูหรอก กูก็แค่เป็นห่วงนึกว่ามึงเป็นอะไรแมร่งไปก็ได้วะ" ผมลุกขึ้นยืนด้วยความฉุนเฉียว กำลังจะเดินกลับไปที่เตียงแต่ไอ้พี่พายมันดันคว้าแขนผมเอาไว้ซะก่อน

"เดี๋ยว!!"  มึงจะว๊ากกูทำไมเนี่ยอยู่ใกล้กันแค่เนี่ย วู้!!

"อะไร!!" กระชากเสียงใส่ให้มันรู้ไปเลยว่ากูกำลังโกรธมึง

"มึงเป็นห่วงกู" อะไรของมันวะ อารมณ์ไหนเนี่ย

"อะไร มึงพูดเรื่องอะไรวะกูงง" จะยกมือเกาหัวประกอบอาการงง ก็ทำไม่ได้หรอกครับเพราะมือข้างที่มีเข็ม (น้ำเกลือ) เจาะอยู่ไอ้พี่พายมันจับไว้ ส่วนอีกข้างก็เข้าเฝือกอยู่ เฮ้อช่างมันเถอะครับแค่หน้าผมไอ้พี่พายก็คงดูออกแล้วมั้งว่าผมงงจริงๆๆๆ

"มึงโง่หรือมึงความจำเสื่อมวะ"  มีข้ออื่นที่ดีกว่าสองข้องนี้ให้กูเลือกป่ะ   "ก็มึงเพิ่งบอกกูเมื่อกี้นี้ว่ามึงห่วงกู"  กูบอกตอนไหนวะคิดไปเองทั้งนั้น

"กูบอกตอนไหน"  ผมมองที่แขนตัวเอง  "แล้วมึงจะจับแขนกูอีกนานไหม ปล่อยได้แล้วมั้ง" เกาะเป็นเห็บหมาเลยนะมึง

ถ้าไอ้พี่พายเป็นเห็บหมา ผมก็ต้องเป็น.......

ไอ้พี่พายมันปล่อยแขนผม ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมันอีกตั้งหน้าตั้งตาลากเสาน้ำเกลือ (แมร่งเหมือนอวัยวะชิ้นที่33เลยวะ) เดินไปที่เตียงด้วยทันที ผมหย่อนก้นลงบนเตียงจัดแจงร่างกายและไอ้เสาน้ำเกลือให้มันเข้าที่เข้าทาง ก่อนจะทิ้งตัวลงนอน

แต่ผมก็ต้องสะดุ้งสุดตัวด้วยความตกใจ  "เฮ้ย!!มึงขึ้นมานั่งบนเตียงกูทำไมวะเนี่ย" ก็พี่แกเล่นขึ้นมานั่งอยู่บนเตียงพร้อมทำหน้าตาหาเรื่องผมแบบจริงจัง ย้ำว่าจริงจังจริงๆครับ

กูทำอะไรให้มึงโกรธอีกวะเนี่ย


"มึงเป็นห่วงกู??" อะไรครับมึงเป็นอะไรอีกเนี่ย ไปเช็คสมองชั้นล่างก่อนไหม ไอ้ธูปเริ่มจะงง แรมกูยิ่งต่ำๆอยู่ มึงช่วยพูดอะไรให้มันเคลียร์ๆหน่อยได้ไหมอ่ะ

"เออๆกูห่วงมึง.....ก็ได้วะ" พูดไปจะได้จบเรื่องจบราวกูจะได้นอนสักที เพลียกับมึงมานานแล้ว

"ทำไมต้องมี ก็ได้ ด้วยวะ" มันยังไม่จบ มันคงคิดว่าตัวมันเป็นเจ้าหนูจาไมรึไงวะ มึงจะสงสัยอะไรหนักหนาครับ

"โอเคกูเป็นห่วงมึงจบไหม" ผมตอบมันกลับไป  "กูจะนอนแล้วง่วง"  ผมทิ้งตัวลงนอนเพราะรำคาญมัน แต่ผมรู้ซึ้งเลยว่าผมทำผิดมหันต์

เพราะ............

ไอ้พี่พายมันทิ้งตัวตามลงมาทับผมทันทีเหมือนกัน โอโนวววววววว มึงทำอารายยยยยยยยกูวะเนี่ยยยยยยย

"มึงเล่นบ้าอะไรเนี่ย" มึงจะก้มหน้ามาใกล้ๆกูทำไม แค่นี้กูก็หนีไม่รอดแล้วมั้งมึงจะกดไหล่กูให้เจ็บเพื่อ?

"มึงเป็นห่วงกูแปลว่ามึงต้องคิดอะไรกับกู" ทำไมมึงต้องทำเสียงแหบพร่าขนาดนั้นด้วยอ่ะ กูสยองมากกว่าจะสยิวนะเว้ย

"เออ กูคิด" คิดว่ากูโคตรจะเกลียดมึงเลย

ผมพูดได้แค่นั่นแหละครับเพราะไอ้พี่พายมันปิดปากผมด้วยปากมันทันทีที่ผมพูดจบ มึงจะสอดลิ้นเข้ามาทำไมวะ ผมพยายามหลบลิ้นของไอ้พี่พายที่มันพยายามจะเชิญชวนลิ้นผมให้ไปเกี่ยวพันกับลิ้นของมัน ขอโทษ (ลิ้น) กูไม่ใช่ง่ายๆนะเว้ย

"อืมมมมมม" เสียงใครครางวะ เสียงครายยยยยย ไม่ใช่เสียงกูใช่ไหม ไม่น่าใช่นะ หรือใช่วะ

ผมไม่รู้ว่าไอ้พี่พายมันขึ้นมาทับตัวผม (บนเตียง) ตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วมันปล่อยให้ไหล่ผมเป็นอิสระตั้งแต่ตอนไหน ผมรู้ตัวอีกทีแขนของผม (ข้างที่มีเข็ม) เจาะอยู่ก็โอบรอบคอไอ้พี่พายเรียบร้อบแล้ว จะยกอีกข้างก็เกรงใจเพราะมันติดเฝือก มันยกไม่ขึ้นจริงๆ

ว่าแต่ทำไมสภาพกูตอนนี้มันเหมือนกูจะเป็นเคะน้อยๆเลยว่ะ

แค่กูมีผัว (แบบไม่รู้ตัว) คืนเดียวและครั้งเดียว (รึเปล่า) ไม่จำเป็นว่ากูจะต้องเคะเสมอไปนี่หว่า


เฮ้ย!!มันใช่เวลาคิดเรื่องเคะเรื่องเมะรึเปล่าวะเนี่ย

ผมดันไหล่ไอ้พี่พาย (เบาๆเพราะกลัวมือเจ็บ) ก่อนจะร้องบอก   "พะ พอ หยู๊ดดดดด" ไม่ต้องมาทำหน้าตาหงุดหงิดใส่กูเลย

"มีอะไร" ใช้สมองคิดรึเปล่าครับที่ถามออกมาเนี่ย แล้วมึงไม่ต้องทำเสียงกระเส่าขนาดนั้นกูขนลุกเหอะ

"กะ ก็มึงมาจูบกูทำไมเล่า" เสียงกูสั่นไปนะ

"จูบไม่ได้?" เอ๊าไอ้นี่กูลูกมีพ่อมีแม่นะเว้ยเฮ้ยไม่ใช่นึกจะจูบก็จูบบ้าเปล่าวะ

"เออสิ แล้วมึงมาจูบกูทำไมมึงเป็นเกย์รึไงห๊ะ" ถ้าอย่างมึงเป็นเกย์กูบอกเลยว่าขายดีแน่นอน

"กูก็กำลังพิสูจน์อยู่นี่ไง"  พิสูจน์อะไรของมันวะ

"พิสูจน์อะไรวะ"

ไอ้พี่พายมันก้มหน้าลงมากระซิบเบาๆที่หูผม ริมฝีปากของมันโดนหูผมอย่างตั้งใจทำเอาขนลุกซู่กันเลยทีเดียว  "ก็พิสูจน์ว่ากูกำลังจะเป็นเกย์รึเปล่ายังไงล่ะ"

สาสสสสสสส กูไม่ใช่หนูทดลองนะเว้ย แล้วกูก็ไม่ใช่เกย์ด้วย

"เชิญมึงไปพิสูจน์กับคนอื่นเลยไป๊!! อย่ามายุ่งกับกู ชิ้วๆ" ผมผลักไอ้พี่พายให้ออกห่างจากตัวผม นี่ถ้าผลักมันออกไปจากชีวิตผมได้ผมก็จะทำนะ แต่มันทำไม่ได้ไงเพราะแค่ผมผลักมันให้ออกห่างจากตัวมันยังไม่กระดิกเลย ยังคงนั่งหน้ามึนอยู่บนเตียงเหมือนเดิม

"กูรู้สึกแบบนี้กับมึงแค่คนเดียวกูก็ต้องพิสูจน์กับมึงแค่คนเดียว" เหตุผลเหมือนจะดีแต่โทษทีกูไม่เคลิ้ม

มันกำลังบอกชอบผมรึเปล่าวะ ทำไมคำพูดมันฟังดูแปลกๆ ชอบกล

"แต่กูไม่ได้รู้สึกอะไรกับมึง" ถึงตูดกูจะเคยผ่านการใช้งานมาแล้ว แต่กูก็แมนนะเว้ย   "กูชอบผู้หญิงไม่ได้ชอบผู้ชาย" อย่ามายุ่งกับกูเลยนะต่างคนต่างอยู่เหอะเดี๋ยวกูทำบุญกรวดน้ำไปให้ นะๆๆๆๆ

"กูก็ชอบผู้หญิงไม่ได้ชอบผู้ชายเหมือนกัน" ไม่ได้ชอบผู้ชายแล้วพี่จะมาจูบผมทำไมล่ะครับ

"แต่ที่มึงจูบไปเมื่อกี้น่ะผู้ชายนะเว้ย" แถมหล่อซะด้วย (ใช่เวลาเล่นไหมไอ้ธูป)

"แล้วไงวะ" ผมพูดไม่เคลียร์หรือไอ้พี่พายมันไม่เข้าใจ

"มึงนี่มัน" ผมมองหน้ามันอย่างระอา "อะไรมองกูทำไม"

"เปล่า"

"แล้วมึงจะพิสูจน์อะไร" เปลี่ยนเรื่องทันทีครับเพราะผมไม่อยากพูดเรื่องจูบบ้าบออะไรนี่แล้ว

"พิสูจน์ว่ากูชอบผู้ชายรึเปล่า" ตรงมากครับพี่น้องครับ หรือกูคิดผิดที่เปลี่ยนเรื่องวะ

"มึงก็ไปพิสูจน์กับคนอื่นดิวะ"

ไอ้พี่พายถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย "ก็กูเพิ่งบอกไปไง ว่ากูรู้สึกแบบนี้กับมึงแค่คนเดียวแล้วมึงจะให้กูไปพิสูจน์กับใคร"

ยังไงๆมึงก็จะเอากูให้ได้ใช่ไหม

"ตั้งแต่เมื่อไหร่" ที่มึงคิดไม่ซื่อกับก้มงามๆของกูอ่ะ

"ไม่รู้เหมือนกัน"

แล้วกูจะรู้ไหมครับ
 
"อ้าว"

"เอาเป็นว่ากูรู้สึกแปลกๆกับมึงโอเครไหม"

"ไม่โอเคร"


"มึงนี่เข้าใจอะไรยากนะ" ด่ากูโง่ป่ะเนี่ย



"มึงช่วยอยู่ให้ห่างจากกูเลยนะ อย่ามาพิสูจน์ห่าเหวอะไรกับกูเด็ดขาด" ผมพยายามขยับหนีไอ้พี่พายด้วยความยากลำบาก อนาถชีวิตตัวเองจริงๆ

 
"กูอยู่ห่างมึงแล้วกูจะพิสูจน์สิ่งที่กูสงสัยได้ยังไงวะ" มึงยังจะพิสูจน์อีกหรอ

 
"นั่นมันเรื่องของมึง" ผมเริ่มจะเพลียกับไอ้พี่พายแล้ว

 
"ถ้าเรื่องของกู กูก็จะอยู่ใกล้ๆมึง" หน้าด้านไปนะ

"มึงจะมายุ่งกับกูทำไม" ผมถาม  "มึงก็รู้ว่ากูเพิ่งโดนอะไรมา" ไม่อยากพูดแต่ก็ต้องพูด

"เออ เรื่องนี้ก็อีกที่กูจะถาม" ไอ้พี่พายมันขยับเข้ามาใกล้ผม

"ถะ ถามอะไรวะ"

"ใครทำมึง" อยากให้มาเห็นหน้าตามันตอนนี้จริงๆ น่ากลัวสัดๆ

"กูไม่อยากพูดถึง"

"มันชื่ออะไร" อยากรู้ไปทำไมจะไปขอเคล็บลับวิชารึไงครับพี่น้องครับ

"ถามทำไม มึงจะไปทำอะไรมัน"

"กูจะไปจัดการกับมันไง" เหมือนที่มึงเอาควายไบสันมาจัดการกับกูใช่ไหม

ผมกลืนน้ำลงคออย่างยากลำบาก "อย่าไปยุ่งกับมันเลยวะเรื่องมันแล้วไปแล้วกูไม่อย่างนึกถึง" ผมบอกปัดมันไป จริงๆผมอยากลืมใจจะขาดอย่าขุดมันขึ้นมาอีกเลยนะ ธูปขอร้อง

"มึงติดใจมันรึไงถึงห้ามกูอ่ะ"

"แล้วมึงเป็นอะไรกับกูล่ะ ถึงมายุ่งวุ่นวายด้วยอะ"

เงียบ หลังจากที่ผมพูดออกไปห้องทั้งห้องก็เกิดความเงียบ ถ้าใครสักคนทำเข็มตกลงพื้นผมว่าเราคงได้ยิน

"เออ กูเสือกเอง" พูดจบแมร่งก็เดินออกจากห้องไปเหมือนตอนแรกเริ่มในบรรทัดแรกของตอนนี้เลย

ผมไม่ได้สนใจอะไรมันอยากไปไหนก็ปล่อยมันไป ผมทิ้งตัวลงนอนใช้เท้าเกี่ยวผ้าห่มที่อยู่ตรงปลายเตียงขึ้นมาห่มและหลับตาปิดสวิตช์ในร่างกายและเข้าสู่ห้วงแห่งเวลาของการหลับไหล

บอกตรงๆนะถ้าจะให้ผมคบกับผู้ชายสักคนเป็นแฟนจริงๆอ่ะนะผมขอเลือกไอ้แมนเพื่อนผมดีกว่าเพราะมันตามใจผมทุกอย่าง พูดกับผมดีมากๆไม่เคยขัดใจด้วย และที่สำคัญมันสนิทกับผมมากที่สุดแหละ ส่วนไอ้พี่พายคงจะเป็นคนสุดท้ายบนโลกเลยที่ผมคิดจะคบด้วย แต่เอาจริงๆผมก็ไม่คิดจะคบกับใครอยู่ดีอ่ะ ผมเป็นผู้ชายที่ชอบผู้หญิงนะครับ

อย่าลืมว่าผมอ่ะแมนๆเตะบอลนะ
.
.
.
.
.
.
ผมรู้สึกเหมือนมีสายตากดดันที่พุ่งมากระทบร่างอย่างจังจนต้องลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบเข้ากับไอ้พี่พายที่ยืนกอดอกจ้องเขม็งมาที่ผม

สะดุ้งเลยสิครับงานนี้ "มะ มองไรว่ะ" ผมถาม

"มองมึงไง" มันตอบแบบกำปั้นทุบดินมากๆ

"ไม่นอนต่อเหรอ มึงเพิ่งหลับไปแป๊ปเดียวเองนะ"

"กูนอนไม่หลับแล้ว" จ้องกันขนาดนี้ใครจะไปหลับลงว่ะ

"นอนไม่หลับแล้วจะทำอะไร ดูทีวีไหม รึว่า....." ไอ้พี่พายมันพูดทิ้งท้ายไว้ให้ผมงงเล่น

"รึว่าอะไร" ผมถามด้วยความสงสัย

"รึว่าจะช่วยกูพิสูจน์เรื่องที่กูสงสัย"

"ไปตายให้หนอนแดกซะไป๊!!" แมร่งอย่ามาทำหน้าหื่นใส่กูนะ กูขนลุกเหอะ

"มึงไม่คิดจะช่วยกูจริงๆหรอวะ"

"ช่วยมึงแล้วกูได้อะไร"

"ได้ชี้ทางสว่างให้กู เผลอๆมึงได้รู้ด้วยว่ามึงชอบแนวไหน"


เหตุผลน่าช่วยมาก

"กูชอบแนว หน้าสวย (ซึ่งมึงห่างไกลมาก) อกอึ๋ม (ไม่ใช่มึงแน่นอน) สะโพกสะบึม (อันนี้ยิ่งไม่ใช่ใหญ่) และที่สำคัญกูชอบผู้หญิง (ซึ่งมึงมีปิกาจูเหมือนๆกับกูแค่คิดก็สยองแล้ว)" ผมบอกแนวของผมให้ไอ้พี่พายมันฟัง
 
 
ไอ้พี่พายมันหัวเราะในลำคอก่อนที่สายตาเล่ห์วิบวับนั่นจะจับจ้องที่หน้าผม มันขยับปากขึ้นลงพร้อมเปล่งเสียงออกมา

 
เสียงที่ผมได้ยินแล้วแทบจะกลั้นหายใจตายอยู่ตรงนั้น
 
 
 
 
"หึ แต่หลังจากนี้มึงจะเปลี่ยนแนวแน่เชื่อกู"

 

เม้มให้เค้าด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-07-2015 23:44:04 โดย ❁INDY_FAMILY❁ »

ออฟไลน์ paiongza1669

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ ❁INDY_FAMILY❁

  • -ทำไมต้องเดินตามรอยเท้าใคร เราสามารถสร้างรอยเท้าของเราเองได้-
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-12
ผมไม่ใช่พ่อเด็ก
ตอนที่๑๑ ไม่เอานะเกรงใจไม่ดีหรอกเกรงใจ


ผมนั่งมองช่อดอกไม้ในมือด้วยความงงผสมกับความสงสัยระคนความไม่เข้าใจอยู่นานสองนาน ช่อดอกไม้มันดูไม่ธรรมดาเมื่อคนให้ผมมาคือ ไอ้พี่พายมนุษย์เหนือโลกที่ยืนทำหน้าเหมือนกำลังลุ้นล็อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งอยู่ตรงหน้าผม

"ดอกรัก" ผมเงยหน้าจากช่อบูเก้ในมือเลิกคิ้วถามมันด้วยความมึนงง


มึงเอาดอกรักมาให้กูเนี่ยนะ เอามาให้ทำไหม


"เออ ก็ดอกรักไง หรือมึงเห็นเป็นดอกไม้จันทร์เหรอไงวะ" ไอ้พี่พายมันยืนกอดอกตอบผมเหมือนสิ่งที่มันทำเป็นเรื่องที่ใครๆเค้าก็ทำกัน


บูเก้ดอกรัก...........


มึงจะเอามาไหว้กูหรอครับ


ผมก้มมองช่อบูเก้ดอกรักในมืออีกครั้งด้วยความระเหี่ยใจเกินบรรยาย เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อไอ้พี่พายมันบอกกับผมว่ามันต้องการพิสูจน์เรื่องบ้าบอคอแตกอะไรของมันเนี้ยแหละครับ ตั้งแต่นั้นมามันก็เริ่มทำตัวแปลกๆกับผม


เริ่มจาก........


มันดู (เหมือน) เอาใจใส่ผมมากขึ้น (กวนตีนมากขึ้นด้วย) มันคอยถามไถ่ผมตลอดว่าจะกินอะไรอยากได้อะไร มันก็หาซื้อมาให้ มันจะคอยกันท่าเวลาคุณหมอหน้าหล่อที่เข้ามาตรวจผม ที่สำคัญมันสแกนโทรศัพท์ของผมทุกครั้งที่มีคนโทรมา (ถ้าเป็นผู้ชายมันจะรับเอง) โดยไม่ถามความเห็นของผมสักนิด ยิ่งผู้หญิงโทรมาไม่ต้องพูดถึงเลยครับมันกดตัดสายทิ้งทันทีโดยไม่คิดถามผมอีกเหมือนกัน (มันปะทะคารมกับเจ๊ชีสแล้วเถียงแพ้เจ๊แก มันเลยโกรธตัดสายทุกครั้งที่เบอร์เจ๊แกโทรเข้ามา)


ไอ้ธูปเอ๊ยแกช่างอยู่บนโลกนี้ยากขึ้นทุกวันๆแล้วล่ะ


กลับมาที่บูเก้ดอกรักกับไอ้คนให้ดีกว่าครับ


"มึงคิดยังไงวะไอ้พี่พายเอาดอกรักมาให้กูอะ"


"ความหมายมันก็ตรงตัวอยู่แล้วมึงจะถามทำไมวะ"  ความหมายตรงตัว


"กูไม่ใช่พระนะเว้ย มึงจะเอาดอกรักมาไหว้กูหรอ" กูยังไม่คิดจะละทางโลกตอนนี้หรอกนะ


"มึงควายหรือมึงโง่วะ" มึงด่ากูอีกแล้ว  "ดอกรักความหมายมันก็บอกอยู่แล้ว"


"........" ผมอ้าปากพะงาบๆพูดไม่ออก


ไอ้พี่พายมันบอกรักโผ้มมมมมมครับท่านผู้ชม


แต่ความคิดนั่นเป็นอันต้องตกไปเพราะคำพูดต่อมาของมัน ที่พูดบอกกับผม "แต่ตอนนี้กูยังไม่ได้รู้สึกกับมึงขนาดนั้นนะ  มึงเองก็อย่าเพิ่งดีใจไปล่ะ"


ใครวะใครดีใจ กูหรอหน้ากูเหมือนคนดีใจรึไง


"มึงกำลังจะจีบกูจริงๆหรอวะ"


ไอ้พี่พายถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเดินมานั่งลงบนเตียงข้างๆผม  "เปล่าตอนนี้กูยังไม่ได้จะจีบมึง" อะ อ้าว งงแดกสิครับพี่น้องครับ


"แล้วมึงเอาดอกรักมาให้กูทำไมวะ" สงสัยเหมือนผมไหมครับทุกคน


"ก็กูไม่เคยให้ดอกไม้ใคร" มันก้มมองดอกรักในมือผมพร้อมกับเอามือมาลูบๆที่ช่อของมัน  "กูเลยคิดว่าถ้ากูจะพิสูจน์เรื่องของเรา (มึงกล้าใช้คำว่าเรื่องของเราเลยหรอวะ) กูก็คงต้องเริ่มจากให้ดอกไม้มึงก่อน"


ตรรกะอะไรของมึงวะเนี่ย


"กูไม่เข้าใจวะ มึงอธิบายมาดิ" ถ้าจะเริ่มมึงควรเริ่มจากการลงไปชั้นสองแล้วเช็คสมองนะ


"กูแค่อยากให้แน่ใจในความรู้สึกของตัวเองก่อน" ไอ้พี่พายมันเงยหน้ามามองผมสายตามันสื่อความหมายมากมายหลายอย่าง "ถ้ากูรู้ความรู้สึกของตัวกูเองเมื่อไหร่........"


ไอ้พี่พายมันหยุดเว้นวรรคคำพูดของมัน ทำเอาผมลุ้นจนตัวโก่งก่อนที่ริมฝีปากสีซีดนั่นจะขยับขึ้นลงพูดคำที่ผมได้ยินแล้วอยากจะกลั้นใจตายวันละสามรอบ


"........ตอนนั้นแหละที่กูจะจีบมึง"


โอ้วมายล็อด ก๊อดช่วยด้วย ไอ้ธูปอยากตาย ให้ควายขวิด ทำไมชีวิตกูมันช่างน่ารันทดขนาดนี้วะเนี่ย ปีชงกูแน่ๆ


"มะ ไม่เอาไม่ต้องมาจีบกู" ผมโยนช่อดอกไม้กลับไปให้ไอ้พี่พายเหมือนกับว่ามันเป็นของร้อนที่ไม่อาจแตะต้องได้


ไอ้พี่พายมันทำหน้าโหดใส่ผมแล้วครับ มันหยิบช่อดอกไม้ (ดอกรัก) ขึ้นมาถือไว้ก่อนที่จะเอามายัดใส่ในมือผมเหมือนเดิม


"มึงกล้าปฏิเสธกูหรอ อยากตายรึไงห๊ะ!!" มึงแน่ใจนะว่ามึงกำลังจะจีบกูไม่ใช่ว่ามึงกำลังจะฆ่ากูอ่ะ


"ละ แล้วทำไมมึงไม่ให้ดอกกุหลาบเหมือนคนอื่นๆเค้าวะ" เปลี่ยนเรื่องอย่างไว เพราะสถานการณ์ตรงหน้าเริ่มเข้าขั้นวิกฤต


"ต้องเหมือนคนอื่น?"


"......."  ใครๆเค้าก็ให้กันป่ะว่ะ "คือกูไม่เคยเจอใครให้ดอกรักกันเลยสักคน"


"แล้วไงก็กูจะให้ดอกรักอ่ะ มึงมีหน้าที่รับก็รับไปอย่าพูดมากรำคาญ" เอ๊ามีอย่างนี้ด้วยวุ้ย


"กูไม่มีสิทธิเลือกว่างั้น"


"มี" ไอ้พี่พายมันตอบ  "มึงมีสิทธิ์เลือกระหว่างรับดอกไม้จากกูหรือว่า........"


มึงจะหยุดพูดทำไมครับกูลุ้นจนเยี่ยวเหนียวแล้ว


"ว่า......" ผมพูดตามมัน


"โดนกูกระทืบ เลือกเอา"


"O_O" โหดกับกูตลอดๆ


.
.
.
.

"ออกไป!!"

"ไม่!!"

"กูบอกให้ออกไป"

"กู-ไม่-ออก"

ผมกับไอ้พี่พายยืนจ้องหน้าใช้สายตาฟาดฟันกันอย่างไม่มีใครยอมใครถ้าเป็นหนังการ์ตูนก็คงมีประกายไฟแปล็บๆออกมาทางสายตานั่นแหละครับ เหตุมันเกิดเพราะผมจะอาบน้ำแต่ไอ้พี่พายมันหวังดีจะอาบให้ (มันบ้าไปแล้ว) ผมเลยต้องมายืนไล่มันเหมือนหมูเหมือนหมาอย่างที่ทุกท่านเห็นนั่นแหละครับ เฮ้อ!! เกิดเป็นไอ้ธูปนี่มันเหนื่อยจริ๊งจริงๆๆๆ

"กูบอกแล้วไงว่ากูอาบเองได้" ผมยืนกำอวัยวะชิ้นที่33ของตัวเองไว้แน่น (ไอ้เสาน้ำเกลือนั่นแหละครับ) พลางข่มอารมณ์โกรธเอาไว้อย่างสุดชีวิต

"กูก็บอกมึงแล้วไงว่ากูจะอาบให้" มันยังคงหน้าด้านเหมือนเดิม


"กูแขนเข้าเฝือกนะไม่ได้แขนขาด มึงเข้าใจอะไรผิดไปเปล่าวะ" โอ๊ย!!ไมเกรนกูจะขึ้น ทำไมพูดยากพูดเย็นอย่างนี้วะเนี่ย


"อย่าเรื่องเยอะมึงจะอายอะไรวะกูกับมึงก็มีเหมือนๆกันจะต่างกันก็แค่......" สายตาไอ้พี่พายไล่ลงมาจากหน้าผมก่อนจะมาหยุดอยู่ที่เป้ากางเกงของผมอย่างมีเลศนัย

 
"......ขนาด"


"อะ ไอ้" ผมปล่อยมือจากเสาน้ำเกลือก่อนจะยกขึ้นมาชี้หน้าไอ้พี่พายด้วยอาการสั่นเป็นเจ้าเข้าเพราะไม่รู้จะด่ามันคำไหนดีถึงจะสมกับปากหมาๆของมัน


"มึงจะคิดอะไรมากวะ กูอาบน้ำให้มึงก็เพื่อเป็นการฝึกไว้ก่อน พอหลานคลอดออกมากูก็จะได้อาบให้หลานได้ไง" มึงเข้าใจอะไรผิดไปเยอะนะ กูไม่ใช่หนูทดลองนะเว้ยเฮ้ย


"มึงจะออกไปดีๆหรือจะให้กูเอาเสาน้ำเกลือฟาดหัวมึง" กูขึ้นแล้วนะมึง อารมณ์กูมาเต็มแล้วนะ
.
.
.
.
.
.
.
"ยกแขนขึ้น ค่อยๆใส่เข้ามาอย่างนั่นแหละ" ผมยกแขนตัวเองก่อนจะสอดเข้าไปในเสื้อของโรง'บาลโดยมีไอ้พี่พายยืนถือเสื้อให้ผมอยู่ทางด้านหลังและคอยกำกับทุกทวงท่าโดยที่ผมไม่ได้ขอร้องมันเลยสักนิด

"ไม่ต้องกูผูกเองได้" ผมเบี่ยงตัวหลบมือไอ้พี่พายที่กำลังเอื้อมมือมาเพื่อจะผูกเชือกที่เสื้อให้ผม

"จะอายอะไรวะอาบน้ำกูก็อาบให้มึงมาแล้ว เร็วๆมากูผูกให้" ไอ้พี่พายมันไม่ฟังที่ผมพูดมันเดินเข้ามาประชิดตัวผมก่อนจะก้มหน้าก้มตาผูกเชือกที่เสื้อให้

ว่าแต่ผมลืมอะไรไปรึเปล่าวะ   

เฮ้ย!!  อ๊ากกกก   ไอ้พี่พายมึงจะพูดทำไมครับพี่น้องครับกูอุตส่าห์ทำเนียนลืมๆมันไปแล้วนะ ที่นี้คนเค้าก็รู้กันหมดว่ากูกับมึงทำอะไรกันในห้องน้ำ (มันแค่อาบน้ำให้ผมเฉยๆนะครับกรุณาอย่าจิ้นกันไปไกล) โฮกกกก แล้วที่นี่กูจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนวะเนี่ย

"ไอ้พี่พายมึงทำดีกับกูแบบนี้กูไม่ชินวะบอกตรงๆ"  เตะกูต่อยกูด่ากูเหมือนเดิมเถอะนะๆ


"กูก็แค่อยากพิสูจน์ว่าความรู้สึกที่กูมีกับมึงมันเป็นความรู้สึกที่มาจากใจกูจริงๆไม่ใช่ความรู้สึกผิดกับสิ่งที่กูเคยทำกับมึง" กรุณาอย่าใช้สายตาแบบนั้นมองกู กูขนลุกเหอะครับ


"แต่กูเป็นผู้ชายไง มึงไม่รู้สึกแปลกๆบ้างหรอ"


"แล้วไงวะ ตอนนี้โลกมันไปถึงไหนกันแล้ว มันหมดยุคที่ผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิงแล้วเปล่าวะ"


สาดมึงกรุณาอย่าดึงกูให้เดินทางสายสีม่วงกับมึงเลยนะ กูไม่มักทางสายนั้นจริงๆวะ


"แต่มึงเล่นเปลี่ยนไปจากหน้าเท้าเป็นหลังตีนแบบนี้กูไม่ชินอ่ะ"


"นิสัยกูจริงๆก็เป็นแบบนี้ล่ะ" ไอ้พี่พายมันเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม มึงยืนใกล้กูไปไหมครับ จะสิงกูรึไงครับ  "ใครที่กูรักกูก็จะดูแลเอาใจใส่ อยากทำโน้นนี่ให้ ก็เหมือนกับที่กูทำทุกอย่างให้ยัยเค้กไง"


"แต่กูไม่ใช่น้องเค้ก" ผมถามด้วยความสงสัย  "แล้วมึงรักกูแล้วหรอ" อย่านะอย่ารักกูนะ กูไม่ต้องการแค่คิดก็สยองแล้วเหอะ


"จะรักหรือไม่รักแล้วไงวะ มึงอย่าเรื่องมากได้ป่ะวะกูทำอะไรให้ มึงก็แค่รับๆไปอย่าพูดมากน่ารำคาญวะ" สาดมีอย่างนี้ด้วยเว้ย


"ต่อให้กูพูดยังไงมึงก็ยังจะทำให้กูเหมือนเดิมใช่ไหม"

 
"เออ"

 
จบเลยครับ มันตอบมาแบบนี้ผมจะไปพูดอะไรได้ล่ะครับ แมร่งมัดมือชกกันนี่หว่า


"มึงไม่มีทางอื่นให้กูเลือกสักนิดเลยหรอวะ" ทางไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ทางสีม่วงอ่ะ กูไม่ต้องการเดินทางเส้นนั่นจริงๆวะ
 


ต่อให้ทางนั่นมันจะโรยด้วยดอกรักในช่อบูเก้ก็เหอะ =_=!!


 
ไอ้พี่พายมันไม่ตอบอะไรผมแต่มันกลับเลือกทางเลือกให้ผมเสร็จสรรพมันเกิดขึ้นรวดเร็วจนผมไม่ทันตั้งตัวไอ้พี่พายมันเดินมาแทรกกลางหว่างขาผม ก่อนที่มือมันจะล็อคคอผมและโน้มหน้าเข้ามาพร้อมกับประกบปากผมอย่างแรง สัดปากกูแตกเลยอ่ะไอ้เวรมึงจะซาดิสต์ไปไหนครับจูบปากเคล้าคาวเลือดมันโรแมนติคตรงไหนวะเนี่ย แล้วมึงจะเอาลิ้นเข้ามาทำไม ม้ายยยยยยยยย


"โอ๊ย!!" ไอ้พี่พายแหกปากร้องลั่นมันผละออกจากตัวผมอย่างไว ก่อนจะยกมือกุมที่ปากตัวเอง  "มึงกัดปากกูทำเชี้ยไรวะอยากตายรึไงวะ" แมร่งขู่กูอีก โหดไปนะมึงน่ะ


"แล้วมึงจูบกูทำไมอ่ะ" จูบซะได้เลือดกูก็ต้องเอาคืนดิ

 
"อยากจูบมีไรไหม" หน้าด้านกว่านี้มีอีกไหมครับ

 
ผมยังยืนยันคำเดิม  ใครได้ไอ้พี่พายไปเป็นผัว แมร่งเหมือนตกนรกทั้งเป็น


"มี" ผมตอบมันไปพลางเอามือถูปากไปพลาง แมร่งปากกูบวมเลยสัด  "ปากกูมึงคิดจะจูบก็จูบไม่คิดจะขออนุญาตกูก่อนไง" ไร้ซึ้งมารยาทที่สุดธูปรับไม่ได้อ่ะ คุ๊ณผู้โช้มมมมม

 
 
ไอ้พี่พายกำลังจะอ้าปากเถียง ผมมั่นใจว่ามันต้องเถียง แต่ผมชิงพูดตัดหน้ามันก่อนที่มันจะพ่นคำบ้าๆออกมาจากปากของมัน


"อ้อ แล้วมึงก็ไม่ต้องซื้อไอ้ดอกรักบ้าบออะไรนี่มาให้กูด้วยกูไม่อยากได้ มึงไม่ต้องมาดูแลกู ไม่ต้องมาเอาใจใส่กูเพราะกูไม่ต้องการ"


เหนื่อยนะเนี่ยพูดไม่เว้นช่องไฟเลย


ไอ้พี่พายมันยืนกอดอกจ้องหน้าผม ท่าทางมันไม่ทุกข์ไม่ร้อนกับสิ่งที่ผมเพิ่งพูดออกไป


กูใช้พลังงานเยอะนะกว่าจะพูดรวดเดียวจบอ่ะ ช่วยแสดงท่าทีตกใจหน่อยก็ได้มั้ง


"พูดจบรึยัง" ไอ้พี่พายมันถามผม


"จะ จบแล้ว ทำไมอะ"


"จะได้กินข้าวไง หรือมึงไม่หิวพูดมากซะขนาดนั้นน่าจะหิวนะกูว่า"

 
 
เฮ้ยมันใช่เวลากินข้าวไหม แล้วที่กูพูดไปเข้าหูมึงบ้างป่ะเนี่ย


"ไอ้พี่พายนี่มึงจะไม่ฟังที่กูพูดหน่อยหรอ"  ผมร้องถามเมื่อเห็นไอ้พี่พายมันกำลังจะเดินออกจากห้อง


สุดท้ายมันก็ไม่ฟังที่ผมพูดอยู่ดี
.
.
.
.
.
.
.
"อ้าปาก" มาแล้วครับฮิตเลอร์ในคราบไอ้พี่พายมันมาแล้วครับ

"........."

"มึงจะอ้าปากแล้วแดกข้าวดีๆหรือมึงจะให้กูใช้กำลัง" วู้!!เก่งเหลือหลายเลยนะพ่อคุณ เก่งจริงๆกับคนที่ไม่มีทางสู้อย่างกูเนี่ย

สุดท้ายผมจะทำอะไรได้ก็ต้องนั่งง่อยอ้าปากรอรับข้าวจากไอ้พี่พายที่มันตักมาป้อนให้ถึงที่ บ่นก็ไม่ได้ (เพราะมันไม่ฟัง)


"ไอ้อี๋อายอึงอ๋า......."


"เคี๋ยวให้หมดแล้วค่อยพูด" ดุกูอีก


ผมเคี้ยวข้าวในปากให้ละเอียดก่อนจะกลืนลงคอแล้วเริ่มพูด  "ไอ้พี่พายมึงอย่าทำอย่างนี้เลยวะกูไม่ชินจริงๆนะ"


"นานๆไปเดี๋ยวมึงก็ชินเชื่อกู"


"นานแค่ไหนกูก็ไม่ชิน" ก็มันไม่ใช่ทางผมอ่ะ จะให้ผมชินกับการที่มีผู้ชายตัวใหญ่อย่างกับยักษ์มานั่งป้อนข้าวป้อนน้ำ เอาดอกรักมาให้ แล้วก็อาบ เอ่อ อันนี้ข้ามๆมันไปอย่าไปเอ่ยถึงมันจะดีกว่า


ให้ตายไอ้ธูปก็ไม่ชิน


"กูเต็มใจที่จะทำ ส่วนมึงมีหน้าที่แค่รับมันไว้แค่นั่น"


"กูเกรงใจ แล้วกูก็ไม่อยากให้มึงลำบากด้วยนะเว้ย" 


"กูพูดหรอว่าลำบาก"


"แต่....."


"หุบปากแล้วก็กินข้าว" ถ้ามึงให้กูหุบปากแล้วกูจะกินข้าวได้ไงวะ (ใช่เวลาเล่นไหมไอ้ธูป)

 
สุดท้ายผมก็นั่งกินข้าวโดยมีไอ้พี่พายป้อนให้จนอิ่ม ไอ้พี่พายมันก็เอายาใส่มือผมก่อนจะยัดแก้วน้ำใส่มืออีกข้างของผมหลังจากนั้นมันก็บังคับให้ผมนอน กรดไหลย้อนเล่นงานกูก็ตอนนี้แหละ กินแล้วก็นอน เฮ้อ


"พี่พายทำไมน้องเค้กไม่มาเยี่ยมกูบ้างวะ" ผมถามระหว่างที่กำลังทิ้งตัวลงนอน จะไม่ให้ถามได้ไงล่ะครับก็ผมนอนโรง'บาลมาคืนนึงแล้วผมยังไม่เห็นหน้าคุณน้องสะใภ้เลยนิครับ


ไอ้พี่พายเงยหน้าจากนิตยสารแต่งรถที่มันกำลังอ่านอยู่ขึ้นมามองหน้าผม  "กูไม่ให้มาเองแหละโรง'บาลเชื้อโรคมันเยอะเดี๋ยวหลานกูไปอะไรไป"


ถ้ามึงห้ามน้องมึงไม่ให้มาโรง'บาลเพราะเชื้อโรคมันเยอะ แล้วเวลาน้องเค้กจะคลอด มึงจะให้น้องมันไปคลอดที่ไหนวะ ถ้าไม่ใช่โรงพยาบาลอ่ะ งงไหมครับหรือว่ามีผมงงอยู่คนเดียว

"แล้วเพื่อนๆกูอ่ะทำไมมึงห้ามมันด้วย (เพื่อนๆผมโทรมาถามว่าผมนอนโรง'บาลอะไรไอ้พี่พายมันกดตัดสายทุกครั้ง)" เพื่อนผมไม่มีใครท้องนะแถมพวกมันทนทานตายยากเชื้อโรคมากแค่ไหนก็ทำอะไรพวกมันไม่ได้หรอกครับ ผมก็ไม่เข้าใจไอ้พี่พายมันจะห้ามทำไมวะ


ไอ้พี่พายมันถอนหายใจเหมือนรำคาญผมเต็มที รำคาญกูเรื่องอะไรวะ มันใช้สายตาดุๆคู่นั้นมองผมเหมือนกำลังคาดโทษ


"เพื่อนมึงมาแล้วมึงจะได้พักผ่อนไหม หรืออยากนอนโรง'บาลนานๆ" อืมมันพูดก็ถูกของมัน


"ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่หว่าแค่ถามดูเฉยๆ" จะเถียงอะไรมันได้ล่ะครับ


"นอนได้แล้วพูดมากอยู่นั่น" ดุจังพ่อคุณ


ผมหลับตาพยายามหลับเพื่อจะได้พักผ่อนอย่างที่ไอ้พี่พายมันว่า เผื่อว่าวันพรุ่งนี้ตื่นขึ้นมาผมจะได้กลับบ้าน เบื่อโรง'บาลจะแย่อยู่แล้วครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-08-2015 11:07:28 โดย ❁INDY_FAMILY❁ »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด