ผมไม่ใช่พ่อเด็ก ตอนที่ ๔๔ เสี่ยงเหลือเกิน ๒๘/๑๒/๕๘ (จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ผมไม่ใช่พ่อเด็ก ตอนที่ ๔๔ เสี่ยงเหลือเกิน ๒๘/๑๒/๕๘ (จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ)  (อ่าน 61940 ครั้ง)

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
โอ้ยยย ดีใจ อย่างน้อยอิพี่พายไม่หึงหน้ามืดเผลอทำร้ายคนอื่นไปด้วย 5555
ว่าแต่ ของตอบแทนคือไรเหรอ หุๆ

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
โอ้ยยยยยอิพี่พายนี่ในหัวคิดหื่นกะธูป
อยู่ใช่มั้ย555566คนอ่านก็คิดเหมือนกัน

ออฟไลน์ BoolinMini

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 220
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
ผู้หญิงร้ายๆ ต้องเจอผู้ชายโหดๆแบบพี่พายนี่แหละ มวยถูกคู่ หึหึ

ว่าแต่ มิลค์คือใคร ความรู้สึกเหมือนผู้หญิงคนนี้แหละคือตัวปัญหา

ออฟไลน์ ❁INDY_FAMILY❁

  • -ทำไมต้องเดินตามรอยเท้าใคร เราสามารถสร้างรอยเท้าของเราเองได้-
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-12
ผมไม่ใช่พ่อเด็ก
ตอนที่๒๙ อยู่ดีๆก็เกิดรู้สึกอิจฉา



-พาย-


มาทุกวันตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ยัยแฟนเก่าของธูปก็มานั่งแป้นแล้นอยู่ที่บ้านพักตากอากาศของผมทุกวัน และที่กล้ามาเพราะแฟนผมนั่นแหละที่โทรไปเชิญชวนเขามาเอง ตอนแรกที่มาก็เกร็งทำท่าทางกลัวผมซะเหลือเกิน พอเริ่มคุ้นชินความกลัวหายไปความลั้นล้าเข้ามาแทนที่ ไม่ได้เกรงใจเจ้าของบ้านอย่างผมบ้างเลย


ไอ้ที่คุณๆคิดเอาไว้ว่าผมกับธูปจะมีซัมติงกันเมื่อตอนที่แล้วนั่นเลิกคิดไปได้เลยครับ เพราะนอกจากมันจะไม่ยอมผมแล้วยังขู่ผมอีกว่าห้ามทำถ้าผมทำมันจะงอน หมดกันแผนที่วางเอาไว้สุดท้ายผมก็อ้อนขอให้ธูปใช้มือช่วยผมแค่นั้นก็ฟินกันไปล่ะครับ แต่ตอนนี้เริ่มไม่ฟินเท่าไหร่ เพราะแฟนเก่าของธูปนี่แหละ จริงๆผมก็ไม่ใช่ว่าไม่ชอบอะไรหล่อนหรอกนะครับเพียงแต่ผมแค่คิดว่าคนๆนี้เคยเป็นคนที่ธูปรัก เคยได้กอดได้หอม ได้ทำอะไรๆที่ผมไม่เคยได้ทำผมก็รู้สึกว่าเหมือนจะอิจฉา ความรู้สึกมันเหมือนเด็กที่กำลังจะโดนแย่งของเล่น คุณเข้าใจที่ผมพูดไหม


คงเพราะผมไม่เคยมีแฟนไม่เคยต้องวิ่งตามใครไม่เคยให้ความรักใครผมเลยไม่รู้ว่าความรักของคนเรามันสามารถเปลี่ยนจากคนรักเป็นพี่น้องได้หรือเปล่าเมื่อความสัมพันธ์แบบชู้สาวจบลง จะว่าผมไม่ไว้ใจธูปก็ไม่ถูกซะทีเดียวเพราะอย่างน้อยทั้งคู่ก็อยู่ในสายตาของผมแต่ในใจผมมันยังรู้สึกไม่ดี ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร


"คริๆๆพี่ธูปก็พูดเกินไป" หัวเราะต่อกระซิกกันเข้าไป เอาให้ดังกว่านี้อีกสิ บ้านพักส่วนตัวไม่ต้องเกรงใจใครหรอก แหกปากไปเลยเต้มที่


"จริงๆนะฮ่าๆๆพี่นึกแล้วยังขำไม่หาย" หน้าระรื่นยิ้มปากกว้างขนาดนั้น มีความสุขมากไงวะ ทีกับกูแมร่งทำหน้าเหมือนจะตาย


"ฮ่าๆๆ/ฮ่าๆๆๆ" เต็มที่กันไปเลยไม่ต้องสนใจกูหรอกว่าจะมีใครคุยด้วยไหม แมร่งอารมณ์เสียทำไมแฟนกูเป็นคนแบบนี้วะ


บ่นไปก็เท่านั้นขนาดไปนั่งใกล้ๆยังเหมือนอากาศธาตุไม่มีคนสนใจสุดท้ายเลยระเห็จตัวเองมานั่งทำงานเพื่อไม่ให้ฟุ้งซ่านมากกว่าเดิม แต่เอาจริงๆมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะหูยังได้ยินตายังมองเห็น ดีที่ยังมีสติไม่กระชากคนทั้งคู่ออกจากกันและเตะโด่งยัยแฟนเก่าของธูปกลับบ้านไป อยากทำอย่างนั้นใจจะขาดแต่ก็กลัวมนุษย์แฟนจะโกรธเอาได้ สุดท้ายก็ได้แต่นั่งง่อยๆเป็นหมาเหงาอยู่แบบนี้


"พี่พายเป็นอะไรอ่ะทำหน้าบูดเชียว" ธูปเดินมาหาผมพร้อมกับเอียงคอทำหน้าสงสัย เพิ่งนึกได้รึไงว่ามีตัวตน


"เปล่า" ผมว่าก่อนจะเช็คเมลล์ที่ลูกค้าส่งมาให้


"ธูปหิวข้าว ไปกินข้าวกัน" ผมควรจะดีใจไหมที่แฟนสนใจผมเพียงเพราะมันหิวข้าว


"อืม" ผมตอบไปแค่นั้นเพราะยังระงับอารมณ์ตัวเองไม่ได้เท่าที่ควร กลัวพูดมากไปจะกลายเป็นทะเลาะกันเปล่าๆ


"ง งั้นธูปไปรอหน้าบ้านนะ"


"รอนี่แหละจะเสร็จแล้ว" ผมจับมือธูปไว้เมื่อเพื่อให้เขาอยู่กับผม ธูปทำหน้าสงสัยแต่ก็ไม่พูดอะไร ยอมยืนรอผมเคลียร์งานซึ่งจริงๆผมอยากจะทำงานอีกสักสองสามชั่วโมงให้ยัยกุ้งแห้งแฟนเก่าธูปรอให้แดดเผาไหม้ไปเลยแต่ก็ห่วงกลัวธูปมันหิว สุดท้ายเลยจำใจต้องปิดคอมและพากันไปหาร้านนั่งทานอาหารกันสามคน


ว่าแต่ทำไมต้องสามคนด้วยวะ ผมไม่เข้าใจ


ผมขับรถจากกรุงเทพมาที่นี่เพื่อมาเปลี่ยนบรรยากาศเพื่อทำให้ธูปกับผมรักกันมากขึ้นสนิทใจกันมากมากขึ้นแต่ทำไมต้องมียัยแฟนเก่าตามติดเป็นเงาตามตัวด้วยแบบนี้ด้วยวะ


"พี่พายโกรธอะไรหนูรึเปล่าคะ" ยังกล้าถาม


"เปล่า" ผมตอบก่อนจะตักกุ้งใส่ในจานให้ธูป ธูปหันมาขอบคุณผมและก็ตักปูใส่จานยัยกุ้งแห้ง เฮ้ย ทำไมไม่ตักใส่จานผมอ่ะ


"ขอบคุณค่ะ^^" ปูชิ้นนั้นมันต้องอยู่ในจานผมป่ะวะ ไม่ใช่ของยัยกุ้งแห้งแฟนเก่า


"อ่ะ" ธูปตักปูมาใส่ในจานผมพร้อมกันยิ้มกว้าง  "กินเยอะๆ" ผมตักปูในจานมากิน น้ำตาแทบไหลแฟนนึกถึงกู
.
.
.
.
.
.
.
หลังจากมื้ออาหารเย็นอันน่าเบื่อจบลงผมก็ต้องขับรถไปส่งแฟนเก่าธูปที่บ้านเหมือนทุกครั้ง ตอนมาก็มาเองทำไมตอนกลับต้องให้ไปส่งด้วยวะ


"เป็นอะไรอ่ะ" ธูปเดินมาจับแขนผมไว้เมื่อผมเดินเข้าบ้านโดยไม่รอ


"เปล่า"


"พี่พายเป็นอะไรพูดดิวะ"


ผมหันกลับไปมองอีกฝ่าย อยากให้พูดได้ผมก็จะพูด


"พี่รู้สึกเหมือนอากาศเข้าใจไหม อากาศที่ไร้ตัวตนเวลาธูปอยู่กับแฟนเก่า คุยกันในเรื่องที่พี่ไม่รู้ เหมือนโลกนี้มีกันแค่สองคนพี่ไม่รู้จะแทรกตรงไหน ไม่รู้ว่าจะไปตรงไหน ธูปสนใจพี่บ้างไหม ไม่เลย แล้วทำไมตอนนี้เพิ่งสังเกตุเหรอว่าพี่มีตัวตน"


"ค คือ ธูปไม่ได้คิดแบบนั้นนะ"


"แล้วธูปคิดแบบไหน คิดว่าไม่ได้เจอกันเลยมีเรื่องคุยเยอะแยะอย่างนั้นเหรอ เหอะ"


"พี่พาย!! อย่ามาชวนทะเลาะได้ป่ะวะ ก็ธูปเห็นพี่ทำงานอยู่ธูปก็ไม่อยากกวนป่ะวะ แล้วอีกอย่างใช่ธูปไม่เจอน้องมันมานานแล้วน้องมันก็เจออะไรมาเยอะ ธูปก็แค่อยากคุยกับน้องมันธูปกับน้องมันไม่ได้มีอะไรมากกว่าคำว่าพี่น้อง พี่จะอะไรหนักหนาอ่ะ"


"เออ!!กูงี่เง่า กูหึงมึงกูผิดเอง สัสเอ๊ย" ผมเดินกระแทกไหล่ธูปเข้าบ้านอารมณ์ตอนนี้มันปะทุจนผมอยากจะระเบิดออกมา ไม่อย่างนั้นผมคงหงุดหงิดตาย


"พี่พายมึงมาคุยให้รู้เรื่องนะเว้ย" ธูปเดินมาดึงแขนผม


"ถ้าไม่อยากเจ็บตัวมึงปล่อยกูเลยนะ"


"จะตีกูอีกเหรอ เอาสิตีเลยกูจะได้จำไว้ว่ามึงแมร่งไร้เหตุผล"


ผมไม่พูดอะไรมากจัดการอุ้มไอ้ตัวแสบพาดบ่าเดินขึ้นห้องทันทีธูปดิ้นทุบหลังผมดังอั๊กๆ แต่ผมไม่สนในเมื่อผมเตือนแล้วว่าให้ปล่อย มันดันไม่ปล่อยแล้วท้าทายผมดังนั้นผมก็ไม่มีทางปล่อยมันไปเหมือนกันถ้าเจ็บตัวขึ้นมาก็อย่าหาว่าผมไม่เตือนแล้วกัน


ตุบ!!


"ไอ้พี่พายกูเจ็บนะ!!" ธูปขึ้นเสียงใส่ผมทันทีเมื่อผมทุ่มมันลงบนเตียง


"ถ้ายังไม่เลิกปากดีมึงเจ็บกว่านี้แน่" ผมพูดจบก็จัดการถอดเสื้อยืดที่สวมอยู่ออก อยากเอาน้ำราดหัวให้มันเย็นดลงกว่านี้ ผมไม่อยากทะเลาะกันด้วยเรื่องไร้สาระ แต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่เคยรับรู้เลย


"ม มึงจะทำอะไรอ่ะ ไหนมึงสัญญากกับกูแล้วนะว่าจะไม่ทำอะไรกูถ้า ก กูไม่ยอมอ่ะ"


"คิดอะไรอยู่ กูจะอาบน้ำ"


"ก ก็ไปอาบสิ ใครว่าอะไรล่ะ"


"ไปอาบด้วยกัน" ผมยื่นมืออกไปหาธูปรอดูท่าทางอีกฝ่ายว่าจะเอื้อมมือมาจับมือผมรึเปล่า


"เร็วๆ" ผมเร่งเหมือนธูปทำเหมือนลังเล "เห็นกันมาหมดแล้วจะอายอะไร" ธูปหน้าแดงไปถึงหูถลึงตาใส่ผมก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือผม ปากนั่นก็บ่นขมุบขมิบไปเรื่อย



หล้งจากเข้ามาในห้องน้ำผมก็จัดการจับไอ้ตัวดีลอกคราบจนหมดแล้วก็มานั่งเบียดกันอยู่ในอ่างอาบน้ำ ธูปนั่งกอดเข่าหันหลังให้ผม


"ขอโทษ" เสียงอีกฝ่ายพูดขึ้นมาเบาๆ


"หืม"


ธูปหันหน้ามาหาผม "ขอโทษที่ไม่สนใจ อย่าทะเลาะกันได้ไหมธูปไม่ชอบเลย"


ผมยกมือลูบหน้าลูบตาธูปก่อนจะรั้้งอีกฝ่ายเข้าหามอบจูบที่อ่อนหวานให้ ผมสอดลิ้นเข้าไปในปากธูปกวาดชิมความหวานอย่างคนตะกละธูปเองก็ให้ความร่วมมืออย่างดี สอดลิ้นเกี่ยวพันกับลิ้นของผมเสียงจูบดังจ๊วบจ๊าบลั่งห้องน้ำ แต่ใครสนล่ะ


ผมจับธูปพลิกตัวมานั่งคร่อมบนตักผมโดยที่เราทั้งคู่ยังจูบกันอยู่ มือผมลูบวนไปทั่วร่างกายของอีกฝ่ายจับสำคัญชักนำพาอารมณ์ของธูปให้เตลิดไปไกลกว่าเดิม


"อื้ม" ธูปร้องครางเมื่อมือผมชักรูดแก่นกายของเขา "พี่พาย อ๊ะ อื้มมม"


เสียงครางฟังไม่ได้ศัพท์ร้องลั่นห้องน้ำ มือปัดป่ายไปมาเร้าอารมณ์ให้แตกกระเจิง


"ไปที่เตียงกันไหม" ผมถามเมื่อรู้สึกว่าต้องการมากกว่านี้


"อืม" ธูปพยักหน้าตอบรับ อารมณ์คงพุ่งสูงจนไม่รู้ว่าพูดอะไรออกมา แต่ก็ดีถือว่าผมไม่ได้บังคับแต่แฟนสมยอมเอง


หลังจากล้างเนื้อล้างตัวเสร็จผมจัดการอุ้มธูปมายังเตียงนอนไม่รอช้าขึ้นคร่อมร่างธูปเอาไว้ทั้งตัวเพราะกลัวอีกฝ่ายจะเปลี่ยนใจ เราจูบกันเสียงดังจ๊วบจ๊าบน้ำลายไหลลงมุมปากแต่กลับไม่มีใครสนใจ ผมลูบมือวนอยู่แถวสะโพกมนของธูปผละจูบออกเพื่อให้อีกฝ่ายได้หายใจ เลื่อนตัวต่ำลงเพื่อดูดชิมยอดอกทั้งสองฝ่าย ธูปดิ้นพร้อมกับแอ่นตัวสู้ลิ้นของผมที่ชิมเนื้อผิวกายของธูปทั้งตัวไม่เว้นแม้แต่ซิดขาอ่อนด่านใน


ผมลุกขึ้นไปหยิบเจล่อนจะเดินกลับมาที่เตียงที่ธูปนอนหลับตาพริ้มเหมือนคนกำลังล่องลอยอยู๋ในฝัน ผมจับขาแฟนตัวเองอ้างออกป้ายเจลลงบนช่องทางคับแคบนั้นธูปสะดุ้งลืมตาโพล่งและถดตัวหนีผม


"พี่พายทำอะไรวะ" พอได้สติก็ตั้งคำถามกับผมทันที


"ทำรัก" ผมตอบก่อนจะจับขาธูปลากกลับมาใหล้ๆผมเช่นเดิม เจ้าตัวดีก็ร้องลั่นแต่มาถึงขนาดนี้แล้ว ผมไม่ปล่อยธูปไปแล้วล่ะครับ


"ไม่เอากูกลัว"


"ไม่ต้องกลัว ไม่เจ็บหรอก" ปากพูดปลอบมือผมก็จัดการสอดใส่เข้าไปในช่องทางนั้นทีละนิ้วๆธูปดิ้นอยู่พักนึงก่อนจะร้องครางออกมา


"อ๊าาาาา" ธูปบิดตัวเกร็งหันหน้าซบกับหมอนร้องครางไม่หยุดเมื่อนิ้วที่สองและสามของผมสอดใส่เข้ามาในตัวของเขา


"อะ พี่พาย อ๊าาาาา ด เดี๋ยว" ผมเร่งจังหวะเมื่อรู้จุดว่าตรงไหนที่ทำให้ธูปครางเสียงหวานหูให้กับผมได้ก็ไม่รอช้าสอดนิ้วกระแทกไปตรงจุดนั้นถี่ๆ


ธูปกางขาออกแอ่นตัวบิดเร้าร้องครางฟังไม่ได้ศัพท์เมื่อผมปรนเปรอเขาอย่างถึงใจ นิ้วมือสอดใส่ปากก็ทำหน้าที่ดูดเม้มสร้างรอยรักสีสวยไว้เพื่อให้ระลึกถึงว่าธูปเป็นของผม ของผมคนเดียว


"พ พี่พายธูปไม่ไหวแล้ว" เหมือนคำอนุญาตเมื่อได้ยินอย่างนั้น ผมถอนนิ้วออกจากช่องทางคับแน่นนั้นก่อนจะรูดรั้งแก่นกายของตัวเองช้าๆจับขาธูปวางพาดกับต้นขาผมค่อยๆสอดใส่ตัวตนของผมเข้าไปในตัวของธูป


"อืมมม" มันคับแน่นเกินกว่าจะบรรยาได้ ผมอยากรุนแรงเมื่อทุกครั้งที่มีเซ็กส์กับคนอื่นแต่เพราะธูปไม่ใช่คนอื่นและสิ่งที่เราทำมันไม่ใช่เซ็กส์มันคือการร่วมรัก ดังนั้นผมจึงต้องไม่เห็นแก่ตัวกับอีกฝ่าย


"เจ็บ" ธูปยกมือดันหน้าท้องผมทันทีเมือ่ผมสอดใส่เข้าไปได้ครึ่งลำ


ผมหยุดก่อนจะกอดจูบธูปเพื่อให้คงายความเจ็บและความกลัว


"ธูปอย่าเกร็ง พี่จะค่อยๆทำ" ธูปพยักหน้ารับผมจึงค่อยๆดันตัวเองเข้าไปในตัวธูปอีกครั้งจนสุด


"อ๊าาาา จ เจ็บ" ธูปรัวหมัดทั้งทุบทั้งตีผมเพื่อระบายความเจ็บที่มี ผมก็ไม่ว่าอะไรปล่อยเขาทุบไปเพราะอย่างน้อยธูปจะได้คลายความเจ็บลงได้บ้าง


"อย่าเพิ่งขยับนะ เจ็บ" ธูปร้องห้ามผมลั่นห้องเมื่อผมเริ่มขยับสะโพก ได้ยินดังนั้นผมจึงหยุดรอให้ธูปคุ้นชินเสียก่อน


"ไหวไหม" ผมถามด้วยความเป็นห่วง


"พี่คิดว่าขนาดมันต่างกันขนาดเนี่ยธูปจะไหวไหมล่ะ" กวนตีนขนาดนี้คงหายเจ็บแล้วล่ะมั้ง


ผมไม่ต่อความยาวสาวความยืดสองมือจับสะโพกธูปไว้มั่นก่อนจะค่อยๆขยับสะโพกตัวเองช้าๆธูปเองก็ยกมือดันหน้าท้องผมเอาไว้แต่ไม่นานก็ยกมือขึ้นคล้องคอผม ส่งเสีนงครางหวานหูให้ได้ยิน ผมค่อยๆเพิ่มแรงขยับถี่ขึ้นเรื่อยๆเสียงเตียงกระทบผนังดังก้องในห้อง เหงื่อกาฬของเราทั้งคู่ไหลท่วมกายทั้งๆที่เปิดแอร์จนเย็นช่ำ เสียงจูบเสียงครางเสียงเนื้อกระทบกันดังสลับคละเคล้ากันไปทั้งคืน


"พอแล้ว" ธูปร้องบอกขยับตัวนอนหันหลังให้ผมเมื่อผมเริ่มกอดหอมอีกฝ่ายอย่างหลงใหล


"อีกครั้งนะธูปนะๆๆๆ"


"ไม่ เอ๊ะพี่พายบอกว่าไม่ก็ไม่ดิวะ จะนอนแล้วพรุ่งนี้ก็จะกลับแล้วนะ นี่ก็จะเช้าแล้ว ทำไปหลายครั้งแล้วนะ พอนอน!!"


เมียถลึงตาใส่แทบทำหน้าโหดขนาดนั้นใครจะกล้าล่ะครับ สุดท้ายผมก็ได้แต่ใช้มือลูบๆคลำๆอีกฝ่ายจนหลับไปด้วยกัน


บางทีเมียก็ไม่เข้าใจนะว่าความต้องการของผมมันมากขนาดไหน

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
เมีย....
แหมมมม เรียกเต็มปากเต็มคำเลยนะอิพี่พาย 5555

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
พี่พายต้องเข้าใจนะคำสั่งมนุษย์เมียคือที่สุด

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :pig4: พีพายเยอะไปป่ะ สงสารธูปมั่ง

ออฟไลน์ ❁INDY_FAMILY❁

  • -ทำไมต้องเดินตามรอยเท้าใคร เราสามารถสร้างรอยเท้าของเราเองได้-
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-12
ผมไม่ใช่พ่อเด็ก
ตอนที่๓๐ การกลับมา


-ธูป-

ผมตื่นนอนตอนเกือบจะบ่ายๆแล้วความรู้สึกแรกที่ผมรู้สึกเมื่อตื่นนอนขึ้นมาคือปวดร้าวไปทั้งตัว เจ็บจนน้ำตาเล็ดอยากจะยกขาถีบไอ้ตัวต้นเรื่องแต่ก็ทำได้แค่คิดเพราะมีแรงหายใจได้ก็ถือว่าผมเก่งมากแล้วนะ ผมนอนลืมตาอยู่อย่างนั้นคิดย้อนไปถึงเรื่องเมื่อคืนว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ผมยอมให้มันกอดได้ยังไงยอมเพราะรักหรือเพราะอารมณ์มันพาไปตอนนี้เอาจริงๆผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความรู้สึกไหนกันแน่ แต่ที่รู้ๆมันก็ไม่ได้แย่ไปกว่าที่คิดสักเท่าไหร่หรอกนะครับ


ตอนนี้ผมกับพี่พายเราก็ถือว่าเป็นคนๆเดียวกันแล้วถึงไม่อยากจะพูดมันออกมาสักเท่าไหร่แต่มันก็เรื่องจริงอ่ะนะก็เล่นรวมร่างกันไปขนาดนั้นทั้งคืน แต่ทำไมในใจผมมันกลับรู้สึกหวิวๆแปลกๆอาจเพราะผมไม่รู้เรื่องอะไรของพี่พายมากนัก เพื่อน สังคมที่มันอยู่ ผู้คนรอบตัวมัน อีกใจนึงผมก็อยากรู้ทุกเรื่องราวอีกใจก็ไม่อยากรับรู้เพราะกลัวจะรับไม่ไหว มันบอกว่ารักผม(ตอนมีอะไรกันมันพูดบ่อยมาก)แต่ทำไมผมกลับกลัว


ผมกลัวอะไร


ผมนอนลืมตานิ่งๆอยู่บนเตียงนึกคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนคนที่นอนข้างกันขยับตัวพร้อมวาดแขนโอบกอดตัวผมไว้ทั้งตัว


"ตื่นแล้วเหรอ" พี่พายถามพร้อมกับหอมแก้มผมฟอดใหญ่ โอเครยอมรับว่าไม่ชินอย่างแรงแต่ไม่อย่างสะดิ้งมากเพราะผ่านเรื่องเมื่อคืนมาแล้วสะดิ้งไปก็เท่านั้น


"อืม"


"เป็นอะไร" ยังมีหน้ามาถามอีกนะ


"ปวดตูด" เสียงหัวเราะของอีกฝ่ายดังขึ้นเมื่อผมพูดจบ  "ไม่ขำว่ะ" ผมมองค้อนมันด้วยความโมโห


มันจะรู้ไหมว่าฝ่ายรับต้องเจอกับอะไรบ้างต้องเสียสละมากแค่ไหน เจ็บแค่ไหนฝ่ายรุกแมร่งไม่รู้หรอก


หลังจากนอนทำใจอยู่นานสุดท้ายไอ้พี่พายจะต้องอุ้มผมไปอาบน้ำฟังไม่ผิดหรอกครับไอ้พี่พายมันอุ้มผมไปอาบน้ำจริงๆ มันจะขอค่าเหนื่อยแต่เพราะผมด่าไปสุดท้ายมันก็ต้องยอมอาบน้ำเฉยๆมีลูบไล้ตัวผมบ้างบางครั้งบางคราว


หลังจากอาบน้ำทานอาหารเสร็จแล้วเราทั้งสองก็เก็บของพร้อมเดินทางกลับกรุงเทพฯไม่ลืมที่จะแวะไปลาน้ำฝนที่บ้าน พี่พายทำหน้าตาไม่พอใจแต่ก็เท่านั้นเพราะมันไม่กล้าขัดใจผม ตั้งแต่รวมร่างกันผมรู้สึกว่าไอ้พี่พายมันจะเกรงใจและตามใจผมมากขึ้นกว่าแต่ก่อนนะ ก็ดีเพราะผมเบื่อจะทะเลาะกับมันเรื่องไม่เป็นเรื่องแล้ว


หลังจากที่กลับจากหัวหินผมและพี่พายเราสองคนก็ใช้ชีวิตเหมือนปรกติทุกอย่างเหมือนที่ผ่านๆมาบางคืนเราก็นอนด้วยกันมีความสัมพันธ์กันบางคืนพี่พายก็ต้องทำงานดึกดื่นๆกว่าจะเข้านอนก็เกือบเช้า พี่พายเริ่มพาผมไปแนะนำกับกลุ่มเพื่อนสนิท เพื่อนที่ทำธุรกิจด้วยกัน ในตอนแรกผมคิดเอาเองว่าเพื่อนพี่พายจะรับไม่ได้แต่ก็เปล่าเพราะพวกเขาเหมือนจะไม่สนใจเรื่องเพศของผม มากกว่าผมทำยังไงถึงทำให้พี่พายหลงได้ขนาดนี้


และมีบางครั้งที่พี่พายมันพาผมไปนั่งรอมันที่ทำงานด้วยถึงจะเบื่อแต่เหตุผลมันก็ฟังขึ้นล่ะนะว่ามีผมนั่งอยู่
ด้วยมันจะได้มีกำลังใจทำงานผมเลยไม่พูดอะไรนั่งรอมันทำงานไป หลับบ้างเล่นเกมส์บ้างฆ่าเวลาไป ทุกอย่างที่พี่พายมันทำมันก็เริ่มเปลี่ยนแปลงตัวมันเองไปทีละเล็กละน้อย มันบอกว่าผมเองยังเปิดโลกเปิดสังคมของผมให้มันเข้าไป มันเองก็อยากให้ผมอยู่ในโลกของมันเหมือนกัน แต่โลกที่มันเปิดให้ผมใช่ทั้งหมดเหมือนที่ผมเปิดรับมันเข้ามารึเปล่าผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่สำหรับผมแค่นี้มันก็มากพอแล้ว มากพอที่จะทำให้ผมรู้จักอีกด้านนึงของมัน


ผมโทรหาโทรคุยกับที่บ้านในบางครั้งเทียนดูไม่สบอารมณ์เอามากๆที่รู้ว่าผมไปอยู่บ้านน้องเค้ก(ไม่มีใครรู้ว่าผมกับพี่พายคบกันผมไม่กล้าบอก)ป๊าบอกว่ากำลังเคลียร์เรื่องที่ร้านเพื่อหาคนมาทำต่อเพราะป๊าคุยกับม๊าแล้วว่าจะกลับมาตั้งหลักที่เมืองไทยตามความเห็นของพี่ไฟว่าควรจะกลับมาอยู่ใกล้ครอบครับดีที่สุด และครอบครัวผมก็จะกลับมาให้ทันก่อนน้องเค้กคลอด ซึ่งสองครอบครัวได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์แล้วผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็ตกลงกันเรียบร้อยผมไม่ทราบว่าพวกท่านคุยอะไรกันแต่น่าจะเป็นเรื่องดีเพราะพ่อไอ้พี่พายดูจะพออกพอใจกับข้อเสนอของทางบ้านผม


และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ผมและพี่พายต้องมาทำหน้าที่แทนไอ้เทียนที่ต้องทำงานหาเงินมาสู่ขอน้องเค้กผมเพิ่งรู้ว่มันดร็อปเรียนก่อนไปเกาหลีผมด่ามันไปหลายต่อหลายคำแต่มันบอกว่ามันจะกลับมาเรียนแน่นอน และคงต้องทำงานที่ร้านไปด้วยเพื่อหาเงินมาเลี้ยงลูกผมอยากบอกจริงๆว่าบ้านน้องเค้กให้ได้มากกว่าที่มันหาทั้งชีวิตอีก


น้องเค้กเองก็เลิกแพ้ท้องแล้วผมและเหล่าบอดี้การ์ดรวมถึงพี่พายก็สบายกันไปไม่ต้องวิ่งให้เหนื่อยเพื่อเอาเหงื่อมาประเคนน้องเค้ก และอีกไม่กี่เดือนผมก็จะได้เห็นหน้าหลานของผมแล้ว อ่อลืมบอกไปหลานผมเป็นผู้ชายนะครับ"แฝด"น้องผมเก่งป่ะละ


"เป็นอะไรนั่งยิ้มคนเดียว" ผมหลุดจากภวังค์หันไปมองหน้าพี่พายก่อนจะส่งยิ้มให้มัน


"ตื่นเต้นจะได้เจอหน้าหลาน"


พี่พายเอื้อมมือมาจับมือผมก่อนจะบีบมือผมเบาๆ  "กลัวพอเจอแล้วจะเลี้ยงไม่ไหวนะสิ"


"นั่นสิเนอะตั้งสองคนอ่ะ" ผมหัวเราะเมื่อนึกภาพหลานตัวน้อยสองคนที่คลานไปคลานมา


"ธูป" ผมหันไปมองไอ้พี่พายที่กำลังจ้องหน้าผมอยู่ก่อนแล้ว  "อยากมีลูกไหม"


ผมส่ายหัวทันทีเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร  "ไม่อะธูปเลี้ยงหลานก็พอแล้ว พี่พายอย่าคิดมากดิ"


พี่พายยิ้มพร้อมบอกขอบคุณ........


ขอบคุณที่ผมเลือกเขาเลือกผู้ชายคนนี้มากกว่าการอยากสร้างครอบครัวแบบคนปรกติทั่วไป พี่พายพูดเสมอว่าตัวเขาเองเป็นลูกชายคนโตแต่กลับมีหลานให้พ่อแม่อุ้มไม่ได้ ส่วนผมเป็นพี่คนโตเช่นกันถ้าพ่อแม่ผมอยากให้ผมมีครอบครัววันนั้นผมยังจะอยู่ข้างๆยังจะจับมือของพี่พายอยู่อีกไหม ผมตอบกลับไปทุกครั้งว่าผมไม่สามารถรู้อนาคตได้แต่ที่ผมรู้คือในทุกๆวันผมจะรักและอยู่ข้างๆผู้ชายคนนี้จนวันที่เขาไม่ต้องการ


ใช่ครับผมยอมรับกับตัวเองแล้วว่าผมรักพี่พายรักผู้ชายที่โหดร้ายที่เคยทำร้ายผมอย่างโหดเหี้ยมในอดีต แต่ทั้งหมดก็เพราะความเข้าใจผิดที่ทางคนของผมเป็นคนก่อ ทุกครั้งที่ผมบอกว่ารักพี่พายจะยิ้มและดึงผมเข้าไปกอดดพร้อมบอกว่า ขอบคุณ ผมดีใจนะที่รักครั้งนี้ผมเลือกคนไม่ผิดถึงแม้คนๆนั้นจะเป็นผู้ชายก็เถอะ


"เอาไว้ถ้าธูปอยากมีลูกธูปค่อยให้น้องเค้กอุ้มท้องลูกธูปแล้วกันเนอะ" ผมยิ้มให้พี่พาย มันยกมือขยี้หัวผม อย่างน้อยคำพูดผมก็ทำให้มันไม่คิดมากเหมือนที่ผ่านๆมา


หลังจากที่นั่งรอน้องเค้กตรวจครรภ์และรับยาพวกเราก็พาน้องไปทานอาหารเดินช็อปปิ้งและพากลับบ้าน น้องเค้กแกไม่ยอมดร็อปเรียนแต่โชคดีที่น้องจะคลอดตอนปิดเทอมพอดี น้องเค้กบอกว่าคงไม่ลงซัมเมอร์เพราะอยากอยู่ดูแลลูกก่อนค่อยตามเก็บรายวิชาอื่นๆที่หลัง น้องเค้กในสายตาผมเป็นผู้หญิงที่มีความเป็นแม่สูงมากๆน้องยอมอุ้มท้องไปเรียนโดยไม่สนสายตาของใครๆที่มองมา น้องบอกว่าแคร์ทำไมในเมื่อเขาไม่ได้ให้เรากิน สุดยอดไหมล่ะน้องสะใภ้ผม ส่วนไอ้เทียนก็โดนป๊าลงโทษให้ทำงานหาเงินมาสู่ขอเมียกำหนดกลับไทยคงใกล้ๆแล้วล่ะครับ เพราะล่าสุดที่คุยกับมันบอกว่าป๊าขายร้านได้แล้วคงกลับมาลงหลักปักฐานอยู่ที่ไทยเลย ผมว่าที่กลับมาส่วนนึงเพราะเห่อหลาน


พวกเรากลับมาถึงบ้านก็ต้องแปลกใจเพราะเหมือนจะมีแขกเหล่าลูกน้องในบ้านพี่พายออกมายืนอยู่ด้านนอกกันเกือบหมด พี่พายมองหน้าผมก่อนจะขับรถเข้ามาในบ้าน พอจอดรถคนงานก็มาเอาถุงเสื้อผ้า ข้าวของที่น้องเค้กซื้อมาเข้าบ้านก่อนจะแจ้งให้พี่พายทราบว่าป๊าม๊าผมและไอ้เทียนมาพบพ่อแม่ไอ้พี่พาย ด้วยความดีใจผมจึงรีบเข้าบ้านทันทีเพราะอยากเจอหน้าครอบครัว


ป๊าม๊านั่งอยู่บนโซฟาข้างกันตรงข้ามกับพ่อแม่พี่พายที่มีสิหน้ายิ้มแย้มยินดีกับการมาเยือนของครอบครัวผมในครั้งนี้ ไอเทียนนั่งอยู่ข้างพี่ไฟด้วยใบหน้านิ่งๆตามแบบฉบับของมัน เมื่อทุกคนเห็นผมก็เอ่ยปากทักทายกันพอเป็นพิธีผมไหว้ป๊าม๊าและพ่อแม่พี่พายเหมือนทุกครั้งที่กลับมาบ้านหลังนี้ ก่อนจะหันไปไหว้พี่ไฟที่นั่งจ้องหน้าผู้มาใหม่อย่างพี่พายและน้องเค้กเขม็ง สายตาดุดันนั้นทำเอาผมแปลกใจเพราะปรกติพี่ไฟไม่เคยมองใครด้วยสายตาแบบนั้น ที่จำได้ก็คนที่มาหาเรื่องผมเมื่อนานมาแล้วและพี่ไฟก็กระทืบมันจนเข้าโรงพยาบาล


แล้วทำไมตอนนี้พี่ไฟต้องมองสองพี่น้องนี้ด้วยสายตาน่ากลัวแบบนั้นด้วย ผมไม่เข้าใจ


"สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ" พี่พายและน้องเค้กยกมือไหว้ครอบครัวผม


"สวัสดีจ้ะ/ไหว้พระเถอะลูก" ป๊าม๊าผมรับไหว้


"พายพาคุณไฟออกไปดูรอบๆบ้านหน่อยสิ"


"ครับ" พี่พายรับคำอย่างว่าง่ายก่อนจะจูงมือผมเพื่อให้เดินมาด้วยกัน ผมรู้ว่าพ่อพี่พายต้องการจะคุยกันเป็นส่วนตัวแค่เทียนน้องเค้กและผู้ใหญ่เท่านั้น ดังนั้นเราสามคนจึงเดินออกมาด้านนอกด้วยกัน


"กรุณาปล่อยมือน้องชายผมด้วยครับ" คำพูดเรียบๆแต่แฝงไปด้วยคำสั่งเอ่ยออกมาทันทีเมื่อเราทั้งสามเดินพ้นจากห้องรับแขก


พี่พายไม่ปล่อยมือจากผมแต่มันกลับกระชับมือผมแน่นและหันไปยิ้มท้าทายให้พี่ไฟอีกต่างหาก


"ทางนี้จะเป็นสระว่ายน้ำของทางบ้านเรา มีแยกสระเด็กและสระสำหรับผู้ใหญ่นะครับ"


พี่ไฟไม่ฟังคำบอกกล่าวนั้นกลับเดินมากระชากแขนผมให้หลุดจากการเกาะกุมของพี่พาย


"ผม บอก ให้ ปล่อย มือ น้อง ชาย ผม" คำพูดชัดถ้อยชัดคำเอ่ยออกมาพร้อมใบหน้าหล่อจัดอย่างคนตะวันตกที่ฉายแววไม่พอใจอยู่ในที


"เออ พี่ไฟอย่าโมโหนะ คือกลับมาเหนื่อยๆพี่กินไรมารึยัง หิวเปล่าเดี๋ยวธูปไปหาอะไรให้กินเอาไหม"


ผมพยายามพูดดีๆเอาน้ำเย็นเข้าลูบแต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่ พี่ไฟยกมือลูบหัวผมอย่างเอ็นดูเหมือนตอนเด็กแต่สายตากลับจับจ้องไปที่พี่พายเหมือนกำลังท้าทายกันอยู่


"ธูป!!" นั่นไงเขม่นกันแล้วทำไมกูต้องซวยทุกทีเลยวะ


"พี่พาย" ผมหันกลับไปมองที่พายที่อยู่ทำหน้ายักษ์ใส่เราสองคนพี่น้อง


"มาหาพี่"


"อยู่กับพี่"


ผมแทบจะทึ้งหัวตัวเองเพราะเอาใจใครไม่ถูก แต่แล้วเสียงสวรรค์(รึเปล่า)ก็ดังขึ้น


"ธูป" เราทั้งสามคนหันไปมองยังต้นเสียงแทบจะพร้อมกัน  "มาหาเทียน"


พี่ไฟจำต้องปล่อยมือจากผม ก่อนจะยิ้มมาให้อ่อนโยนมาให้ สุดท้ายผมก็ต้องเดินหงอยๆไปหาไอ้เทียนที่ยืนหน้านิ่งอยู่ข้างๆน้องเค้ก ไอ้เทียนจับมือผมแน่นก่อนจะลากออกมาจากเหตุการณ์ชวนอึดอัดนั้น


"เราสองคนมีเรื่องต้องคุยกันยาว" ทำไมรู้สึกว่างานจะเข้าผมจังๆเลยวะ

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
งานเข้าทั้งธูปและก็พี่พายเลย
รอๆตอนใหม่จ้าา :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ❁INDY_FAMILY❁

  • -ทำไมต้องเดินตามรอยเท้าใคร เราสามารถสร้างรอยเท้าของเราเองได้-
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-12
ผมไม่ใช่พ่อเด็ก
ตอนที่ ๓๑เหตุผลข้อเดียว

ผมโดนไอ้เทียนลากออกมาจากบริเวณนั้นก่อนที่เจ้าตัวจะดันผมเข้าไปในรถ และมันก็เดินอ้อมไปฝั่งคนขับ ผมที่กำลังงงๆกับเหตุการณ์รอบตัวพอตั้งสติได้ก็ร้องถามมันไปทันที

"จะไปไหน"

"นั่งเฉยๆ" มันไม่ตอบแต่กลับออกคำสั่งกับผม

"มันเสียมารยาทนะเทียนป๊าม๊าก็ยังอยู่ในบ้านแล้วที่เขามามันก็เรื่องของมึงด้วยแล้วมึงจะหนีออกมาอย่างนี้อ่ะนะ"

ไอ้เทียนได้ยินที่ผมพูดมันก็นั่งพิงเบาะรถหลับตาข่มอารมณ์ตัวเอง มันนั่งนิ่งอยู่แบบนั้นจนผมมองเห็นพี่พายมันกำลังเดินมาทางนี้แต่พี่ไฟก็ดักหน้าดักหลังเอาไว้ทั้งคู่พูดอะไรกันผมก็ไม่อาจจะรู้ได้แต่น้องเค้กก็ประคองท้องตัวเองเดินมาดักทางพี่พายไว้เช่นกัน สุดท้ายพี่พายก็ยอมยืนอยู่ตรงนั้นไม่เดินเข้ามาใกล้ตัวรถ

ไอ้เทียนลืมตาขึ้นก่อนจะหันมาหาผมสายตากลับมามองที่ผมสายตามันดูน่ากลัวจนผมต้องถอยจนหลังไปติดประตู แววตาผิดหวังฉายแววหม่นๆมองผมจนใจหาย

"เพื่อนเทียนบอกว่าธูปเป็นแฟนพี่ชายของเค้กมันคืออะไร" ผมกลืนน้ำลายดังเอื๊อก ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะถึงหูไอ้เทียนไวจนไม่ทันตั้งตัว

"แล้วมาอยู่ที่บ้านด้วยกันแบบนี้ที่ได้ยินมาคงจะจริงสินะ" ผมก้มหน้าไม่กล้าสู้สายตาไอ้เทียนที่มองมาด้วยความผิดหวัง

"ถามทำไมไม่ตอบ!!" สะดุ้งจนตัวโยนก่อนจะทำใจกล้าเงยหน้าขึ้นสบตาน้องชายที่หน้าตาเหมือนผมจนใครต่อใครก็แยกไม่ออก

"ขอโทษ" พูดได้แค่นั้นก่อนที่มือของอีกฝ่ายจะเอื้อมมากระชากแขนผมให้เข้าไปหาอย่างแรง

"ทำไม"

"ก  ก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงอ่ะ ค คือไม่รู้จะเริ่มตรงไหน"
"มีอะไรกันรึยัง" คำถามทะลุกลางปล้องถามออกมาทำเอาผมหน้าซีดกว่าเก่า

สุดท้ายก็พยักหน้ายอมรับความจริงไอเทียนทุบพวงมาลัยอย่างแรงมันสบถคำหยาบคายออกมาจนผมฟังไม่ทันก่อนจะเปิดประตูรถและพุ่งหาพี่พายทันที

เหตุการณ์ชุลมุ่นวุ่นวายเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วไอ้เทียนรัวหมัดใส่พี่พายที่ไม่ทันตั้งตัว แต่ก็ไม่ยอมโดนกระทำฝ่ายเดียวเช่นกันสองคนซัดกันนัว จนไอ้เทียนตะโกนด่าพี่พายว่ามันหยามศักดิ์ศรีผมมันมีอะไรกับผมเหมือนหยามครอบครัวของเราเท่านั้นแหละครับพี่ไฟที่ยืนอยู่ข้างกันพอรู้เรื่องเข้าก็รุมต่อยเข้าที่หน้าพี่พายเน้นๆจนพี่พายล้มลงไปกองกับพื้น

เหล่าบอดี้การ์ดและผู้ใหญี่ที่อยู่ในบ้านต่างวิ่งกรูกันออกมารวมทั้งผมด้วยที่วิ่งไปประคองพี่พายให้ลุกขึ้น พ่อไอ้พี่พายว๊ากออกมาเสียงดังไถ่ถามถึงเรื่องทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้น สุดท้ายจากเรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่ต้องการปกปิดกลับมีคนรู้กันทั้งบ้านรวมทั้งป๊าม๊าผมด้วย

"ผมจะรับผิดชอบธูปทุกอย่าง ขออย่างเดียวอย่ากล่าวโทษธูปเรื่องนี้ผมผิดเองครับ" พี่พายพูดขึ้นขณะที่เราทั้งหมดกลับเข้ามานั่งคุยกันในห้องรับแขก มันยกมือไหว้ป๊าม๊าของผม

"เรื่องแบบนี้มันพูดยากนะคุณ" ป๊าผมถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน

ผมเองที่เป็นตัวต้นเหตุจึงทำได้แต่นั่งเงียบๆอยู่อย่างนั้นไม่กล้าเงยหน้ามองใครๆเพราะไม่อยากเห็นสายตาผิดหวังของคนที่ได้ชื่อว่าพ่อกับแม่

"ยังไงผมขอให้ธูปกลับไปอยู่ที่บ้านก่อนเรื่องอื่นค่อยว่ากันอีกที" จบคำป๊าผมพี่พายเตรียมจะร้องค้านแต่เพราะพ่อของมันห้ามขึ้นมาก่อน พี่พายมันจึงทำได้แค่นั่งนิ่งๆจ้องหน้าผมด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์เท่านั้น

ผมกลับมาถึงบ้านก็โดนพี่ไฟและไอ้เทียนลากขึ้นมาบนห้องโดยที่ป๊ากับม๊าบอกว่าคุยเสร็จแล้วให้ผมลงมาคุยกับท่านทั้งสองคนต่อ งานนี้ผมโดนเละไม่ได้เกิดแน่นอน

"ทำไมทำแบบนี้วะธูป" พอปิดประตูได้ไอ้เทียนก็เริ่มพิพากษาผมทันที

"ขอโทษ" ให้เลือกผมยอมโดนป๊าม๊าดุด่าดีกว่าต้องมาเจอสองพี่น้องคู่โหดตรงหน้านี้นะ

"ทำไมถึงยอมวะ ทำไมตอบเทียนมาสิธูปตอบมาดิวะ"พอผมไม่พูดมันจึงพูดต่อ

"เลิกกับมันซะ!!" ไอ้เทียนออกคำสั่งกับผมครั้งแรกในชีวิต

"ไม่!!" ผมร้องค้านทันทีที่มันพูดจบ

"ทำไมรักมันมากเหรอรักมากกว่าเทียนเหรอธูป" ไอ้เทียนเหมือนสติแตกมันเขย่าตัวผมจับหัวสั่นหัวคลอน ผมที่มีความผิดติดตัวไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยปากพูดอะไรออกไปเพราะกลัวจะทำให้คนตรงหน้าเสียใจมากกว่าเดิม

ผมแคร์ครอบครัวของผมมากนะแต่ผมก็รักพี่พายเหมือนกัน มันเลือกยากนะครับถ้าต้องตัดใครสักคนออกไปจากชีวิต

"เทียนใจเย็นๆปล่อยธูปก่อน" พี่ไฟเห็นท่าไม่ดีเดินมาจับแยกเราสองคนออกจากกัน ไอ้เทียนโวยวายด่าทอพี่ไฟเสียหยาบคายจนฝ่ายนั้นต้องจับมันไปขังในห้องน้ำ ไอ้เทียนต่อให้แรงเยอะแค่ไหนก็สู้พี่ไฟไม่ได้รายนั้นนะเขาฝรั่งตาน้ำข้าวตัวสูงยังกับยักษ์วัดแจ้ง

พี่ไฟเดินกลับมาหาผมทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงข้างๆกันยกมือขึ้นลูบหัวผมเหมือนทุกครั้งเวลาที่ผมมีปัญหา พี่ไฟก็ยังคงเป็นพี่ไฟพี่ชายที่ผมรักและเคารพเหมือนเดิม ถึงแม้จะโมโหจนต่อยหน้าพี่พายแหกอ่ะนะ

"รักเขามากเหรอ" พี่ไฟถามผม และผมก็ได้แต่พยักหน้าตอบรับ ผมรักพี่พายผมยอมรับและไม่มีอะไรให้ต้องโกหกกัน

"รักมากกว่าครอบครัวไหม" ผมเงยหน้ามองพี่ไฟเพราะสงสัยในคำถาม

"ทำไมพี่ไฟถามธูปแบบนั้น"

พี่ไฟยิ้มบางๆก่อนจะตอบผม  "พี่ถามอะไรธูปสักอย่างได้ไหม" ผมพยักหน้า พี่ไฟจึงถามต่อ

"ถ้าเทียนกำลังจมน้ำพร้อมๆกับแฟนธูป ธูปจะโดดลงไปช่วยใคร" คำถามง่ายๆที่ผมก็หาคำตอบไม่ได้

"ธูปช่วยทั้งสองคนได้ไหม" ผมตอบออกไปตามที่ใจคิด เสียงไอ้เทียนเขย่าประตูห้องน้ำอย่างบ้าคลั่งทำเอาผมกลัวจนขวัญหนีดีฝ่อเวลามันโมโหมันไม่ไหวหน้าใครทั้งนั้นถึงแม้ผมจะไม่เคยถูกมันโมโหใส่อ่ะนะ แต่ครั้งนี้มันเกี่ยวกับผมเต็มๆ

พี่ไฟหันไปมองประตูห้องน้ำก่อนจะหันกลับมาสบตากับผม "ถ้าต้องเลือกแค่คนเดียวล่ะ" ผมส่ายหน้าเพราะจนกับคำถามจะให้เลือกช่วยไอ้เทียนแล้วทิ้งพี่พายก็ไม่ได้ ช่วยพี่พายแล้วทิ้งไอ้เทียนผมก็ทำไม่ได้แน่นอน


พี่ไฟลูบหัวผมอีกครั้งก่อนจะพูดออกมา 


"ธูปก็รู้ว่าป๊ากับม๊าค่อยข้างจะรับไม่ได้กับเรื่องนี้ถึงป๊าม๊าจะหัวสมัยใหม่ก็เถอะแต่ถ้าลูกชายมีความรักแบบนี้ป๊าม๊าก็อาจจะไม่ทันตั้งตัวไหนจะเทียนที่ไม่ยอมรับแน่นอนแล้วธูปจะฝืนคบกันไปแล้วต้องมีปัญหากับครอบครัวอย่างนั้นเหรอ"

"แล้วพี่ไฟรับได้ไหม" ผมถามเหมือนจะหาตัวช่วย
"รับได้สิน้องพี่รักใครพี่ก็รักด้วย แต่"

"ทำไมต้องมีแต่"

พี่ไฟหัวเราะ "แต่พี่รู้สึกว่าบ้านของแฟนเราไม่น่าไว้ใจเท่าไหร่"
"บ้านพี่พายทำธุระกิจหลายอย่างแต่ถูกกฏหมายนะ"

"ยังไม่ทันไรออกรับแทนกันล่ะ" ผมยู่หน้าให้พี่ไฟก่อนที่อีกฝ่ายบอกจะอยู่ข้างผมแต่ไม่ได้หมายความว่าจะยอมรับพี่พาย

หลังจากนั้นผมก็ลงมาคุยกับป๊าม๊าที่ห้องรับแขกด้านล่างพี่ไฟบอกจะกักตัวเทียนเอาไว้ให้ ผมจึงอุ่นใจไปเปราะหนึ่งลงมานั่งตูดยังไม่ทันจะแตะโซฟาเสียด้วยซ้ำก็โดนป๊าถามสารพัดคำถามตอบได้บ้างไม่ได้บ้าง โดนบ่นโดนด่าจนหูชา หาว่าส่งให้มาเรียนดันมามีผัวส่วนน้องชายก็มีเมียมีลูกอยู่ห่างหูห่างตาแล้วก่อเรื่องจนอยากจะฟาดให้ตูดลาย

ป๊าบ่นปวดหัวกับแฝดอย่างพวกผมสองคนก่อเรื่องจนทำให้ต้องย้ายกลับมาทำมาหากินที่เมืองไทยมาเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ทั้งๆที่ตอนนี้อะไรๆก็ลงตัวหมดทุกอย่างแล้วผมล่ะอยากเถียงจริงๆที่กลับมาเพราะห่วงหลานเห่อหลานล่ะไม่ว่าแต่ไม่กล้าพูดไปครับกลัวโดนตื้บ ม๊าเองก็ถามว่าผมเป็นเกย์ตั้งแต่เมื่อไหร่ คำถามที่ผมก็ไม่รู้จะตอบยังไงเจอคำถามนี้ไปผมล่ะอึ้งจนพูดไม่ออกตอบไม่ถูกจริงๆ

ครั้นจะบอกว่าไม่ได้เป็นก็นะหลักฐานก็ตำตาขนาดนั้น สุดท้ายเลยบอกไปว่าผมชอบผู้ชายก็แค่พี่พายคนเดียวถ้าให้ไปจูบกับผู้ชายคนอื่นผมคงอ้วกแตกตายก่อน โดนป๊าเขกหัวไปหลายต่อหลายทีโดนด่าโดนดุไปก็มากสุดท้ายป๊ากับม๊าก็ปลงตกเพราะทำอะไรไม่ได้ลูกเสียตัวให้เขาไปแล้วโวยวายไปก็อายชาวบ้านเขาเปล่าๆ(ป๊าพูดแบบนั้น)

สุดท้ายหลังจากเขกหัวผมจนโนป๊าก็ยอมให้คบกันได้แต่ผมต้องกลับมาอยู่บ้านช่วยป๊ากับม๊าทำร้านอาหารห้ามไปค้างอ้างแรมที่ไหนกับพี่พายทั้งนั้นง่ายๆเลยคือห้ามชิงสุกก่อนหามเด็ดขาด ผมก็ได้แต่พยักหน้าตอบรับเพราะอย่างน้อยก็ไม่ต้องเลิกกัน เหลือก็แต่ไอ้ตัวที่อยู่บนห้องกับอีกคนที่รอผมอยู่ที่บ้านเขาที่ผมจะต้องอธิบายให้ฟัง

"พี่พาย" ผมกดโทรศัพท์โทรหามันทันทีที่ป๊าอนุญาต

/อยู่ไหนให้ไปรับไหม/

"ไม่ต้องหรอก"

/พ่อว่ายังไงบ้างโดนดุโดนตีรึเปล่า/

"ป๊าเขกหัวธูปด้วยเจ็บอ่ะ" อ้อนมันไว้ก่อนเพราะไม่รู้ว่าอีกนานไหมกว่าจะได้เจอกัน

/ขอโทษที่ปกป้องไม่ได้/

"ช่างเถอะ พี่พายป๊า......" เอาจริงๆก็ไม่กล้าพูดอ่ะ
/ว่าไงพ่อเราว่ายังไงบ้าง/

ผมสูดลมหายใจลึกๆก่อนจะพูดออกไปในคราวเดียว  "ป๊าบอกให้กลับมาอยู่บ้านแล้วห้ามไปค้างกับพี่อ่ะ"

/เฮ้ยได้ไงวะ พรากผัวพรากเมียมันบาปนะพี่ไม่ยอม/

"กูไม่ใช่เมียมึงเว้ย"

/พี่จะไปพูดกับพ่อแม่ธูปเอง/

"อย่ามานะถ้าป๊าโกรธแล้วสั่งห้ามคบกันจะทำไง คิดดีๆดิ"

พี่พายเงียบไปนานกว่าผมจะหาคำมาปลอบมันได้ก็ใช้เวลานานพอสมควรสุดท้ายมันก็ยอม ผมเองก็ได้แต่ปลอบมันให้ใจเย็นๆเพราะทำอะไรวู่วามป๊าอาจจะไม่พอใจได้แล้วสุดท้ายอาจซวยกันทั้งคู่

วางสายจากพี่พายเสร็จก็ตรงขึ้นไปชั้นสองของบ้านทันทีป๊าม๊าไปพักผ่อนเพราะคงปรับเวลาไม่ทันและไหนจะต้องมาเจอเรื่องปวดหัวของผมอีก พอขึ้นมาบนห้องก็เจอพี่ไฟกำลังคร่อมตัวไอ้เทียนอยู่บนเตียง คงทะเลาะกันเหมือนเดิม

"ปล่อยกูไอ้เหี้ย" ไอ้เทียนปากบวมเจ่อนี่คงไม่ได้ต่อยกันอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย

พี่ไฟยอมปล่อยไอ้เทียนก่อนจะออกจากห้องไปตามคำสั่งของไอ้เทียนที่ต้องการจะคุยกับผมแค่สองคน พอพี่ไฟออกไปปุ๊บมันก็ฉุดผมลงนอนบนเตียงข้างๆมันทันที

"ทำไมทำแบบนี้" มันถาม  "รู้ไหมว่าเทียนเสียใจ"

"ขอโทษ" ผมไม่รู้จะพูดอะไรออกไปให้สถานการณ์มันดีขึ้นกว่านี้นอกจากคำว่าขอโทษ

"เลิกกับมันไม่ได้เหรอ" ไอ้เทียนอ้อนผมเหมือนทุกครั้งเวลาที่มันอยากได้อะไรจากผมแล้วเป็นเรื่องที่ผมตัดสินใจได้ยากมันก็จะอ้อนผมทุกครั้งไป

"เทียนอย่าบังคับกูเลยนะ" ไอ้เทียนไม่ฟังที่ผมพูดมันกอดผมไว้แน่นซุกหน้าเขาหาอกผม

"ไม่อยากฟัง"

"แต่มึงต้องฟังก็เหมือนที่มึงรักน้องเค้กนั่นแหละเทียน" ผมพยายามอธิบายให้ไอ้เทียนฟังแต่ดูเหมือนมันจะไม่ให้ความร่วมมือเลยสักนิด

"ไม่เหมือน" มันเถียงก่อนจะเงยหน้ามองผม "ถ้าธูปให้เลิกเทียนก็เลิกกับเค้กได้"

"เทียนมึงพูดอะไรอ่ะ!!" ผมตวาดมันเสียงดัง ไอเทียนปล่อยตัวผมก่อนมันจะลุกขึ้นนั่งผมจึงลุกขึ้นนั่งข้างๆมัน

"เทียนกับเค้กเราสองคนไม่ได้เริ่มคบกันเพราะรัก เราต่างฝ่ายต่างเมา"

"......"

"เทียนไม่มีใครน้องเองก็ไม่มีใครเราเลยลองคบกัน จนสุดท้ายน้องก็ท้อง แต่ถ้าให้เลือกเทียนก็เลือกลูกนะ แต่กับเค้กมันไม่ผูกพันธ์อ่ะน้องเองก็เคยบอกเทียนเหมือนกัน"

ผมงงไปหมดแล้วน้องเค้กดูเหมือนรักไอ้เทียนนักหนาขาดไม่ได้ แล้วทำไมคำพูดที่ไอ้เทียนพูดถึงไม่เหมือนที่น้องเค้กแสดงออกมาให้ผมและใครๆเห็นเลยสักนิด

"ธูปอย่ารักมันมากกว่าเทียนได้ไหม" ไอ้เทียนกลับมาอ้อนผมอีกครั้งท่าทางแบบนี้ไม่มีใครเคยเห็นหรอกครับนอกจากผมคนเดียวเท่านั้น

"ทำไม" ผมถาม

"เทียนไม่อยากให้ธูปรักใครมากกว่าเทียน"

"เพราะอะไรล่ะ"

"เพราะเทียนรักธูป รักมาก"  ไอ้เทียนขยับมาซ้อนด้านหลังผมมันกอดผมไว้แน่นมันคงกลัวว่าพี่พายจะมาแย่งความรักของผมที่มีให้มันแล้วคงกลัวว่าผมจะรักคนอื่นมากกว่ามัน นิสัยเหมือนเด็กจริงๆน้องชายผม

"กูก็รักมึงรักมากด้วยไม่ต้องกลัวว่ากูจะรักใครมากกว่ามึงเพราะมึงคือที่หนึ่งของกูเสมอ"

"จริงนะ" ในที่สุดมันก็ยิ้มออกมาได้หลังจากทำหน้านิ่งใส่ผมอยู่นาน
ถ้าจะให้ผมเลือกว่าต้องเลือกใครและตัดใครออกไปจากชีวิตผมคงหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้เหมือนกันเพราะทุกคนที่เข้ามาในชีวิตผมล้วนเป็นคนสำคัญของผมทั้งนั้น

ผมโลภมากไปรึเปล่าที่ไม่ต้องการเสียใครไปเลยสักคน เหตุผลที่ไม่อยากเสียใครไปเพราะผมรักและแคร์ทุกคนและทุกคนก็มีความหมายกับผมสำคัญกับผมมากเช่นกัน

เรื่องของผมกับพี่พายเอาไว้ค่อยคิดหาทางแก้กันในวันต่อไปจะดีกว่าแค่ให้ครอบครัวผมรับได้ว่าผมคบผู้ชายก็หืดขึ้นคอแล้วไม่อยากไปเดินหน้ารุกอะไรมากกว่านี้เกิดป๊าไม่พอใจ ไอ้เทียนโกรธ ม๊าไม่ชอบใจ พี่ไฟไม่เห็นด้วยผมอาจจะโดนสั่งห้ามคบห้ามเจอกันอีกเลยก็ได้ดังนั้นค่อยเป็นค่อยไปจะดีกว่า วู่วามไปจะไม่ดี เฮ้อออออออ คืนนี้ผมจะนอนหลับไหมนะไม่ได้นอนข้างๆพี่พายเหมือนคืนก่อนๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งคิดถึง

พี่พายจะคิดถึงผมเหมือนที่ผมคิดถึงเขาไหมนะ....................

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
น่าสงสารพี่พายกับธูปอ่ะแต่ก็อย่างว่าละ
แค่ยอมให้คบกันได้ก็ดีขนาดไหนแล้ว

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
พ่อแม่ของธูปยอมให้คบกันต่อก็โอเคแล้วในตอนนี้ อดทนกันหน่อย

ออฟไลน์ ❁INDY_FAMILY❁

  • -ทำไมต้องเดินตามรอยเท้าใคร เราสามารถสร้างรอยเท้าของเราเองได้-
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-12
ผมไม่ใช่พ่อเด็ก
ตอนที่ ๓๒ ใครเป็นคนกำหนดมา
ให้เราพบและพรากกัน ทดสอบอะไรกับฉัน




-พาย-


ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเราสองคนผมทำพลาดตรงไหนทำไมไม่บอก ทำไมไม่ใหโอกาสกันบ้าง ผมยอมทำตามข้อตกลงที่ธูปบอกทุกอย่างยอมทุกอย่างทั้งๆที่ชีวิตผมไม่เคยยอมใครแต่เพราะรักผมถึงยอม แล้วทำไมสิ่งที่ผมได้ตอบแทนกลับมาจึงเป็นคำล่ำลาที่อีกฝ่ายหยิบยื่นมันให้ผมโดยไม่ถามผมสักคำว่าผม้องการหรือเปล่า เดินเข้ามาบอกลากันง่ายๆเหมือนตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยรักกันไม่เคยรู้สึกดีต่อกัน หันหลังเดินจากไปโดยไม่มองผมไม่สนคำอ้อนวอนไม่สนเลยว่าผมจะเจ็บขนาดไหน


ความรักที่ใครคนนึงหยิบยื่นให้ผมมันคือคำลวงคือการแก้แค้นกับสิ่งที่ผมเคยทำไม่ดีกับเขาเอาไว้ เขาไม่เคยรักผมไม่เคยเลยแม้สักนิดที่จะมีผมอยู่ในหัวใจ


เจ็บสัสๆแต่จะโทษใครนอกจากตัวเอง


ดันรักเขาไปทั้งตัวและหัวใจรักโดยไม่คิดว่าเขากำลังหลอกลวง รักโดยไม่คิดว่าเขากำลังทำให้ตายใจเพื่อจะเห็นเราตายช้าๆเพราะคำว่ารัก


อยากไปถามอยากพูดคุยแต่เหมือนอีกฝ่ายจะไม่เปิดโอกาสให้กันเลยบอกลากันไปง่ายๆอยากโทรไปเคลียร์ก็ไม่เคยรับโทรศัพท์ ไปหาก็ไม่เจอ เหมือนกับว่าอีกฝ่ายไม่ต้องการจะเจอหน้ากัน


ทิ้งกันไว้แบบนี้แล้วคิดบ้างไหมว่าชีวิตที่ไม่มีกันและกันเขาจะอยู่ยังไง


หนึ่งอาทิตย์ก่อนหน้านี้..........


ผมเร่งเคลียร์งานอยู่ในห้องเพื่อให้เสร็จทันไปรับธูปที่มหาลัยวันนี้เราทั้งคู่นัดเจอกันว่าจะไปดูหนังหลังจากที่ไม่ได้เห็นหน้ากันมาอาทิตย์นึงเต็มๆโคตรคิดถึงเลยครับ กว่าจะได้คุยกันแต่ละทีฏ้ยากเสียยิ่งกว่าอะไร เหมือนเราสองคนลักลอบคบกันอย่างไงอย่างนั้นที่มันเป็นแบบนี้ก็เพราะไอ้แฝดน้องนรกของธูปนั่นแหละครับ มันขัดขวางทุกอย่างทำเหมือนหมาหวงก้าง ห้ามธูปสารพัดธูปเองก็กลัวน้องชายมันจะเสียใจเลยยอมตามใจ ผมเข้าใจนะพี่น้องรักกันแต่บางครั้งสายตาของไอ้เทียนที่มองเมียผมมันไม่เหมือนสายตาที่มันใช้มองน้องสาวผมเลย


เค้กเองก็เหมือนกันเวลาอยู่กับไอ้เทียนบรรยากาศระหว่างทั้งคู่ดูกดดันแปลกๆไม่เหมือนคนรักกันแต่ก็เหมือนว่ามีเส้นใยแห่งความผูกพันธ์จางๆซ่อนอยู๋ในความสัมพันธ์


"นายครับคุณธูปมาขอพบครับ"


ลูกน้องคนสนิทของผมเคาะประตูก่อนจะเดินเข้ามารายงานว่าคนที่ผมกำลังคิดถึงตอนนี้เขาอยู่หน้าห้องทำงานของผมนี่เอง


ผมเก็บอาการดีใจไว้ไม่อยู่จึงบอกให้เชิญธูปเข้ามา ปิดแฟ้มเอกสารที่อ่านค้างไว้ลุกขึ้นเดินไปหาคนที่เดินเข้ามา ธูปมองหน้าผมนิ่งจ้องหน้าผมไม่พูดอะไร ผมเดินไปกอดธูปทันทีที่ลูกน้องผมปิดประตูและเดินออกไป ธูปเพียงแค่ยืนนิ่งๆให้ผมกอด


"มายังไง" ผมถามก่อนจะจูงมือคนรักมานั่งที่โซฟา


"ขับรถมา" ธูปตอบนิ่งๆผิดกับนิสัยของมัน


"แล้วเลิกเร็วเหรอปกติต้องเลิกหกโมงนี่"


"อืม"


"งั้นรอแป๊ปนะเดี๋ยวพี่ทำงานก่อน" ผมลุกขึ้นเพื่อจะเดินกลับไปที่โต๊ะเร่งทำงานที่ค้างเอาไว้เพื่อออกไปดูหนังกับธูป


"มาวันนี้มีเรื่องจะคุยด้วย"


"เรื่องอะไร" ผมก้มหน้าอ่านเอกสารแต่ก็พูดตอบโต้อีกฝ่ายไปด้วยความสนใจไม่แพ้เอกสารตรงหน้า


"เลิกกันเถอะ"


คำสั้นๆสามคำที่พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆออกมาจากปากคนรักทำเอาผมชะงักค้างด้วยไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้จากปากของคนที่ผมพร่ำบอกรักอยู่ทุกคืน


"มึงพูดเหี้ยอะไร เล่นอะไรธูป!!" ผมเดินไปกระชากแขนคนรักที่นั่งอยู่ที่โซฟา ธูปไม่พูดอะไรเพียงแต่มองหน้าผมด้วยสายตาเหยียดๆ


"กูบอกว่า เลิก กัน เถอะ" เน้นย้ำทีละคำชัดๆเพื่อยืนยันว่าผมไม่ได้ฟังผิด และไม่มีคำว่าพูดเล่นในแววตาคู่สวยนั้น


"กูไม่เลิก" ไม่รู้ว่ามันกำลังเล่นอะไรอยู่แต่แบบนี้ผมไม่สนุกด้วย


"เรื่องของมึง" ธูปตอบแค่นั้นก่อนจะสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของผม แต่เป็นผมเองที่หน่วงรั้งมันเอาไว้ไม่ยอมให้มันจากไปได้อย่างใจคิด


"ปล่อยกู" ธูปโวยวายพร้อมกับเตะต่อยตัวผมอย่างแรง ผมจึงจัดการเหวี่ยงร่างมันลงบนโซฟาก่อนจะคร่อมร่างนั้นไว้


ธูปเองก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้ผมเลยโวยวายและด่ากราดใส่ผมจนทำให้หงุดหงิด


"เงียบแล้วพูดกันดีๆได้ไหมธูป!!"


ธูปยอมสงบลงแต่ก็ยังดิ้นไม่ยอมให้ผมโอบกอดเหมือนเก่าก่อน ผมซบหน้าลงบนไหล่ลาดของคนรักกอ่นจะสอดแขนโอบกอดร่างนั้นเอาไว้เหมอืนกลัวว่ามันจะหายไปถ้าผมปล่อยมือ ตัวผมสั่นอย่างที่ไม่เคยเป็น กลัวอย่างที่ไม่เคยกลัวมาก่อน ความรักมันน่ากลัวแบบนี้เองเหรอผมก็เพิ่งรู้เหมือนกัน


"เลิกกันเถอะนะ ถือว่ากูขอ" ธูปพูดนิ่งๆไม่แสดงท่าทีอื่นใด ไม่มีท่าทีเสียใจ ไม่อาลัยอาวรณ์กับความรักของเราสองคนเลย


"กูไม่เลิก กูทำผิดอะไรธูปบอกกูที" ผมพูดอู้อี้อยู่ตรงซอกคอของคนรัก


"มึงไม่ผิดหรอกแต่กูไม่เห็นประโยชน์อะไรที่จะคบกัน" ผมเงยหน้ามองคนรักให้ชัดๆ ว่าคำพูดที่ได้ยินมันใช่คำพูดที่หลุดออกมาจากปากคนรักผมหรือเปล่า


"ไอ้เทียน" ผมเด้งตัวออกจากอีกฝ่ายทันทีเมื่อจ้องมองในแววตาคู่นั้นที่ไม่มีอะไรเหมือนคนรักผมเลย ถึงแม้หน้าตามันทั้งคู่จะเหมือนกันแต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนกันเลยนั้นคือ "แววตา"


คนที่นอนอยู่บนโซฟาเมื่อครู่ลุกขึ้นนั่งก่อนจะหัวเราะออกมา มันมองหน้าผมแล้วพูด "พิสูจน์สิว่ากูไม่ใช่"


"อย่าเล่นลิ้นกับกู" ต่อให้มันเป็นน้องชายคนรักหรือเป็นพ่อของหลานผมก็เถอะ ผมก็ต่อยมันได้เหมือนกันถ้ามันกวนตีนผม


กูไม่ได้เล่นลิ้นกูพูดจริง"


มันยืนขึ้นมาประชันหน้ากับผม เราทั้งคู่จ้องตากันอยู่นานอย่างไม่มีใครยอมใคร จนสุดท้ายผมก็จำได้ว่าเค้กเคยบอกตอนที่ธูปนอนโรงบาลเพราะฝีมือผมว่าไอ้เทียนมีรอยสักที่อกด้านซ้ายของมัน  ผมไม่รอช้าเดินไปกระชากเสื้อนักศึกษาของคนตรงหน้าอย่างแรงจนกระดุมขาดมันเองก็คงตกใจทั้งดิ้นทั้งด่าผม สร้างความลำบากให้กับผมอย่างมากในการหาความจริง


แควก!!


ผมกระชากเสื้อนักศึกษามันออกมองหารอยสักที่ควรจะมีอยู่บนตัวมันแต่ไม่เจอ กลับเจอรอยจ้ำแดงๆทั่วทั้งร่างขาวตรงหน้า ผมยืนมองร่างกายคนรักก่อนที่ขาจะไร้เรี่ยวแรงทรุดตัวลงตรงหน้าคนๆนี้ เราสองคนไม่มีอไรกันตั้งแต่ที่ครอบครัวธูปมาที่บ้านแล้วรอยคิสมาร์คนั่นมาจากไหน ใครเป็นคนทำ


"เจอสิ่งที่หาไหม" ธูปถามผมเสียงเรียบๆไร้ความรู้สึก


"มึงนอนกับใครมา" ผมเงยหน้าถามมัน "ตอบกูมาใครทำรอยเหี้ยๆนี้บนตัวมึง บอกกูมากูจะไปฆ่ามัน!!"


"กูจะนอนกับใครไม่เกี่ยวกับมึง เราเลิกกันแล้วรู้ไว้แค่นี้" ธูปเดินผ่านผมไปโดนที่เจ้าตัวไม่ได้สวมเสื้อเพราะผมกระชากมันออก


"กูไม่เลิก" ผมลุกขึ้นกอดคนรัก ผมรักมันรักมากผมรู้แค่นี้แต่ทำไมมันไม่รักผมเลย


"ยอมรับความจริงแล้วปล่อยกูได้แล้ว" คำสั่งที่พูดออกมาด้วยเสียงเรียบเฉยมันทำให้ผมเจ็บยิ่งกว่าโดนต่อยหน้าเสียอีก


ธูปดึงมือผมออกจากเอวมันแล้วก้าวเท้าออกจากห้องไปด้วยสภาพแบบนั้น ส่วนผมก็แหกปากโวยวายทำร้ายข้าวของในห้องจนลุกน้องต้องเข้ามาล็อคตัวเอาไว้


ผมเจ็บจนไม่อยากทำอะไรได้แต่นอนอยู๋บนเตียงไม่ว่าใครต่อใครจะเข้ามาสอบถามอาการแต่ผมก็เลือกที่จะเงียบหลับตานอนนิ่งอยู่แบบนั้น จนสุดท้ายทุกคนก็อ่อนใจปล่อยให้ผมอยู่คนเดียว ผมรู้ว่าทุกคนเป็นห่วงผมแต่ผมแค่อยากอยู่เงียบๆคนเดียวอยากคิดอะไรคนเดียวว่าผมทำพลาดตรงไหน ผมรักมันน้อยลงหรือเปล่า


ผมวางโทรศัพท์ลงบนเตียงหลังจากที่กดโทรหาธูปไปแล้วเจ้าของเบอร์ไม่เคยรับสุดท้ายธูปก็บล็อคเบอร์ผม ผมผิดอะไรวะทำตามข้อตกลงทุกอย่างยอมทุกอย่างเพื่อให้เราสองคนได้คบกันแล้วทำไมสุดท้ายแล้วผมจึงเป็นคนที่ถูกทิ้ง


ทำไมผมต้องเป็นคนที่เสียใจ


ผมสั่งให้ลุกน้องไปตามเฝ้าที่บ้านธูปตามติดธูปเพื่อดูว่าใครคือเจ้าของรอยจูบบนตัวเมียผม ถ้ารู้ว่ามันเป็นใครผมนี่แหละจะฆ่ามันด้วยตัวของผมเอง ทั้งอาทิตย์ผมไม่ได้ไปทำงานเอาแต่ตามสืบเสาะหาเจ้าของรอยจูบนั้นจนไม่เป็นอันทำอะไร


Rrrrrrrrrrrr


ผมรีบคว้ามือถือขึ้นมากดรับโดยที่ไม่ได้ดูราชื่อคนที่โทรเข้ามาเพราะคิดไว้ว่าคงจะเป็นธูป


"ฮัลโหลธูป มันหายโกรธกูแล้วใช่ไหม"


"พาย เป็นอะไรอ่ะ" เสียงที่ตอบกลับมาทำเอามือผมไร้เรี่ยวแรง


ผมปรับเสียงให้เป็นปกติก่อนจะพูดกับปลายสาย  "มิลล์ว่าไง"


"พายเป็นอะไรรึเปล่าพวกบาสบอกว่าติดต่อพายไม่ได้เลย เพื่อนๆเป็นห่วงพายนะ"


คำถามห่วงใยถูกส่งมาให้จากปลายสาย ความรู้สึกผิดเกิดขึ้นมาในใจทันที


"พายไม่เป็นไร ฝากบอกพวกมันด้วยพอดีงานพายมีปัญหาหน่ะ"


"มิลล์เป็นห่วงนะ"


"ขอบใจนะมิลล์"


"พาย"  ผมจับเสียงผิดปกติจากปลายสายได้ว่ากำลังมีเรื่องไม่สบายใจ


"มีอะไรรึเปล่ามิลล์"


เสียงจากปลายสายเงียบไปเสียงสะอื้นไห้ดังขึ้นเบาๆใจผมยิ่งกระวนกระวายว่าคนที่อยู่ปลายสายจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น ผมลุกขึ้นก่อนจะคว้ากุญแจกระเป๋าสตางค์เพื่อจะออกไปหาคนที่คุยด้วย


"รอก่อนนะเดี๋ยวพายไปหา"


"ไม่ต้องหรอกพาย มิลล์ไม่เป็นไร"



"มิลล์รอพายก่อนนะ รอพายอย่าไปไหน มีอะไรเราจะได้ช่วยกันแก้ไขนะมิลล์"


"ฮึก ไม่มีใครช่วยเราได้หรอกพาย ฮึก" เสียงสะอื้นไห้ดังขึ้นจนผมทำอะไรไม่ถูก นึกเป็นห่วงคนตรงหน้าจนลืมเรื่องธูปไปชั่วขณะ


แต่แล้วเรี่ยวแรงที่มีทั้งหมดก็หายไปเมื่อปลายสายบอกถึงสิ่งที่ทำให้เธอร้องไห้เจียนตาย



"เราท้อง!!"







-ธูป-


ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นพี่พายเงียบหายไปไม่ติดต่อไม่โทรหา เหมือนกับว่าพี่พายไม่เคยมีตัวตนมาก่อน ผมอยากไปหาที่พายแต่ก็ถูกป๊าม๊าห้ามไว้เพราะท่านกลัวว่าผมจะทำผิดกฏที่ท่านตั้งเอาไว้ สุดท้ายผมเลยต้องถามความเป็นไรของพี่พายจากไอ้เทียนที่ไปหาน้องเค้กซึ้งมันเองก็ไม่ค่อยจะบอกอะไรผมมากนักเซ้าซี้ถามมากมันก็เงียบและเดินหนี


"ไปไหนมา" ผมถามเมื่อเห็นไอ้เทียนเดินยิ้มเข้ามาในห้อง 


"พาเค้กไปหาหมอ" มันตอบแค่นั้นสั้นๆตามสไตล์ของมัน


อีกไม่นานน้องเค้กก็จะคลอดลูกออกมาแล้ว และก็เข้าช่วงปิดเทอมปีหน้าไอ้เทียนคงไปลงทะเบียนเรียนเหมือนเดิม เรื่องมันดร็อปทำเอาที่บ้านผมแทบระเบิด แต่อย่างน้อยก็ดีกว่ามันหายไปโดยไม่จัดการอะไรเลย แบบนี้ก็ดีที่สุดแล้ว


"หมอว่าไงบ้าง" ผมวางมือถือของผมลงบนเตียงฟังมันเล่าเรื่องลูกเหมือนทุกๆครั้ง


"ก็ดีนะหมอบอกดิ้นเก่ง" มันยิ้มให้ผมก่อนจะพูดต่อ "เทียนมีความสุขมากอ่ะธูป"


ผมยิ้มให้มันก่อนจะบอกมันกลับไป "กูก็มีความสุขเหมือนกัน"


จริงเหรอผมมีความสุขจริงๆหน่ะเหรอ หึ คนรักหายหน้าไปไม่ติดต่อไม่บอกกล่าวทิ้งผมเอาไว้คนเดียวแบบนี้มันเรียกว่าความสุขจริงๆนะเหรอ ผมไม่รู้หรอก ตอนนี้ในหัวผมรุ้แค่ว่าพี่พายหายไปไหนโกรธอะไรผมรึเปล่าเพราะหลังจากที่เรานัดกันว่าจะไปดูหนังผมก็ติดต่อพี่เขาไม่ได้อีกเลย ผมรออยู่มหาลัยนานจนสุดท้ายพี่พายก็ไม่มาและไม่เคยโผล่มาให้เห็นอีกเลย ผ่านเวลามาเป็นวัน เลื่อนเป็นเดือนผมก็ไม่เคยได้ข่าวคราวของพี่พายเลย


อาจจะเป็นเพราะผมมาอยู่ที่บ้านใหม่เนื่องจากร้านที่ป๊าเปิดมีพื้นมากพอจะสร้างบ้านเราจึงขายบ้านเก่าและย้ายมาทันทีที่ร้านและบ้านสร้างเสร็จและพี่พายอาจจะไม่รู้ หรือไม่พี่มันก็อาจจะเบื่อผม เบื่อกฏระเบียบที่ป๊าผมตั้งเอาไว้มันจึงหนีหายไป ไม่รอไม่บอกกล่าวอะไรปล่อยผมทิ้งไว้ให้อยู่กับคำว่าไม่รู้เพียงลำพัง


"เป็นอะไร" ไอเทียนนั่งลงบนเตียงข้างๆผม มันเอื้อมมือมาลุบหน้าผมเบาๆ


"เปล่า"


"อย่ามาโกหกเราเป็นแฝดกันนะธูป"



ผมถอนหายใจดังเฮือกเมื่อนึกถึงเรื่องพี่พายแต่อย่างน้อยเล่าให้ใครสักคนที่เราไว้ใจได้ฟังมันก็ยังดีกว่าเก็บเงียบเอาไว้คนเดียว สองหัวดีกว่าหัวเดียวล่ะวะ


"ก็พี่พายหายไปไม่โทรหากูเลย พอกูโทรไปก็ไม่ติด มึงไปบ้านน้องเค้กเจอมันางป่ะวะ"


ไอ้เทียนยักไหล่ให้ผมก่อนมันจะลุกจากเตียงถอนเสื้อผ้าเพื่ออาบน้ำ มันนุ่งผ้าเช็ดตัวเสร็จก็หันมาพูดกับผม


"ถ้ามันหายไปไม่ติดต่อมาก็แปลว่ามันไม่เลือกธูป คนแบบนี้ธูปจะฝากอนาคตไว้ด้วยเหรอ หนีปัญหาทิ้งคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนกัน"


ไอ้เทียนเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม มันยกมือลูบใบหน้าของผมสายตาที่มองมามันอ่อนโยนเหมือนทุกครั้ง ไอ้เทียนก้มลงมาหอมหน้าผากผมเบาๆก่อนจะผละออกไปและเดินตรงไปเข้าห้องน้ำ


ผมทิ้งตัวลงนอนบนเตียงทิ้งอะไรไปเรื่อยเปื่อยสารพัดคิดถึงสาเหตุที่พี่พายหายไปคิดถึงวันเก่าๆของเราสองคน คิดจะน้ำตามันไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ทำไมผมอ่อนแอขนาดนี้วะ เขาไม่เอาก็ไม่เห็นจะต้องเสียใจร้องไห้ทำไม มันไม่มีอะไรเสียหายสักหน่อยก็แค่โดนฟันแล้วทิ้งแค่นั้นเอง


"ร้องไห้ทำไม" ไอ้เทียนถลาเข้ามาหาผมทันทีเมื่อมันเปิดประตูห้องน้ำออกมาเจอผมกำลังนอนขดตัวร้องไห้อยู่บนเตียง


"ฮึก เปล่าฝุ่นมันเข้าตาอ่ะ" ผมโกหก


ไอ้เทียนไม่พูดอะไรมาดึงตังผมให้เข้าไปในอ้อมแขนของมัน มันกอดผมเอาไว้แน่นไม่พูดอะไรปล่อยให้ผมร้องไห้เงียบๆ


"ลืมมันซะ" หลังจากที่ผมร้องไห้สะอื้นจนตัวโยนไอ้เทียนก็พูดในสิ่งที่ผมไม่รู้ว่าจะทำได้ไหม


"กู ฮึก กูไม่รู้" ไม่รุ้ว่าจะลืมได้ไหม ไม่รู้ว่าจะเลิกคิดถึงเมื่อไหร่


ผมไม่รู้อะไรสักอย่าง


ผมดันตัวออกจากอ้อนแขนของแฝดน้องก่อนจะยกมือเช็ดน้ำตาลวกๆไอ้เทียนเองก็ช่วยผมเช็น้ำตาเช่นกัน ผมมองร่างกายของมันที่ดูต่างจากผมไปมากพอสมควรอยู๋่โน่นป๊าคงใช้งานมันหนัก กล้ามมันเลยปรากฏให้เห็น ก้มมองดูตัวเองแล้วอนาถ ตรอมใจจนตัวจะเหลือแต่โครงกระดูอยู่แล้ว


"ไปแต่งตัวเหอะ" ผมบอกมัน


ไอ้เทียนลุกขึ้นยี้หัวผมก่อนจะเดินไปที่ตู้เสื้อผ้ามันหันมามองผมเป็นระยะๆดูมันห่วงผมมาก คงกลัวผมคิดสั้นมั้ง ผมมองมันแต่งตัวแล้วก็สงสัยอะไรบางอย่างที่ครั้งนึงสิ่งนั้นทำให้ผมรอดจากฝ่าตีนของพี่พายและลูกสมุนของมัน


"ไอ้เทียน" ผมเรียกคนที่กำลังยืนใส่กางเกงตรงหน้า


"ว่า"


"รอยสักที่หน้าอกมึงหายไปไหนวะ"


ไอ้เทียนก้มมองที่อกด้านซ้ายของมันก่อนจะหัวเราะออกมา "เทียนไม่เคยสัก"


"ก็น้องเค้กบอกกูว่ามึงมีรอยสักที่อกอ่ะ" ผมยังยืนยันว่าที่ผมรอดจากตีนพี่พายก็เพราะน้องเค้กบอกเองว่าไอ้เทียนมีรอยสักที่อกด้านซ้าย


"อ๋อ" ไอ้เทียนยิ้มก่อนจะเดินกลับมาหาผมที่เตียง  "เทียนไม่เคยสักก็ธูปไม่ชอบเทียนจะสักทำไมอ่ะ"


"แล้ว" ผมยังสงสัยอยู่


"แค่เพ้นท์นะ เค้กก็รู้เพราะไปด้วยกันมา"


"อ้าวแล้วทำไมน้องเค้กถึงบอกว่าสักแล้วยังทำท่าเหมือนดีใจเวอรืขนาดนั้นด้วยอ่ะ"


คือใครไม่งงกูงงครับ นี่มันเรื่องอะไรกันวะใครก็ได้บอกผมทีเถอะ คือเอาจริงๆกูตามไม่ทัน


ไอ้เทียนหัวเราะในลำคอเมื่อมันเห็นผมทำหน้าเอ๋อๆไม่เข้าใจที่มันกำลังสื่อสาร มันขยับเข้ามาใกล้ๆผมก่อนจะนั่งลงด้านหลังผมและยกแขนขึ้นโอบกอดผมเอาไว้ มันเอาคางวางลงบนไหล่ผมจับตัวผมเอียงไปเอียงมา ผมเองก็นั่งนิ่งๆให้มันจับเหวี่ยงนั่นแหละ ในหัวกำลังคิดเรื่องที่ผ่านมาด้วยความสับสน


"เรื่องบางเรื่องนะธูปมันมีเหตุผลในการกระทำ บางครั้งสิ่งที่เราเห็นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่มันเป็น"


"ยังไงวะ" ผมหันไปถามมัน เลยถูกมันหอมแก้มให้ฟอดใหญ่ เออคือไม่ต้องจิ้นนะครับผมกับน้องเราทำแบบนี้ด้วยกันตั้งต่เด็กๆแล้ว โตมาก็ยังทำแบบนี้กันอยู่ซึ้งผมมองว่ามันปกติ


"ก็อยากเรื่องรอยสักที่ธูปเข้าใจไง บางครั้งมันอาจจะไม่ใช่ในสิ่งที่เค้กอยากจะบอกและสิ่งที่เค้กสื่อมันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ธูปเข้าใจ"


โอเครกูงงหนักกว่าเดิมอีก


"ไม่เข้าใจ"


"อีกไม่นานธูปก็จะเข้าใจเอง แค่รู้ไว้ว่าเทียนทำทุกอย่างเพื่อธูปนะ"


"ยังไงวะกูงง"


"เอาไว้เมือ่ถึงเวลาธูปจะรู้เอง ตอนนี้แค่รู้เอาไว้ว่าเทียนรักธูปมากนะ"


"กูก็รักมึงมากเหมือนกัน"


ผมบอกมันเหมือนทุกครั้งที่เราสองคนพี่น้องบอกรักกัน ในเมื่อมันบอกผมว่าเรื่องบางเรื่องผมจะรู้เองเมื่อถึงเวลา ดังนั้นผมก็ควรรอเวลาเพื่อให้มันเฉลยความจริงทั้งหมด


ใครบางคนบนฟ้าอาจจะอยากทดสอบความรักของผมกับพี่พายก็ได้ว่าเราทั้งคู่รักกันมากไหม และผมจะทำให้คนที่เขียนบททดสอบนั้นรู้คำตอบเองว่าผมรักพี่พายมันมากขนาดไหน


ในเมื่อมันไม่ติดต่อมาผมนี่แหละจะไปหามันเอง จะไปเอาคำตอบจากมันเองว่ามันหายไปไหน




ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
เทียนกับน้องเค้กต้องการจะสื่ออะไร
รอๆตอนต่อไปนะคะรอคนเขียนมาเฉลย
 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11

ออฟไลน์ ❁INDY_FAMILY❁

  • -ทำไมต้องเดินตามรอยเท้าใคร เราสามารถสร้างรอยเท้าของเราเองได้-
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-12
ผมไม่ใช่พ่อเด็ก
ตอนที่ ๓๓ ไหนว่าจะไม่หลอกกัน


-ธูป-


ผมใช้ชีวิตโดยไม่มีพี่พายมาได้เกือบเดือนเอาเข้าจริงที่ปากบอกว่าจะไปหามันไปคุยให้รู้เรื่องผมกลับไม่สามารถทำได้เพราะต้องช่วยที่บ้านทำงานไหนจะใกล้ช่วงสอบปลายภาค สารพัดสิ่งที่ประดังประเดเข้ามาทำให้ผมกระดิกตัวไปไหนไม่ได้เลย ไอ้เทียนเองก็ไม่เคยพูดไม่เคยเล่าเรื่องพี่พายให้ผมฟังสักครั้ง พอถามอะไรมันก็แค่บอกว่าสักวันผมจะตาสว่างเอง


และวันนี้ผมก็ถูกมันลากมาโรงบาลพร้อมกับน้องเค้กเพื่อมาตรวจครรภ์ครั้งสุดท้ายเพราะสิ้นเดือนนี้น้องเค้กจะจะคลอดหลานของผมแล้ว ทุกอย่างจึงต้องเตรียมพร้อมเพื่อวันนั้น ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าไอ้เทียนมันจะลากผมมาด้วยทำไม ถามอะไรก็ไม่ตอบสักอย่างดูมันมีความลับซะเหลือเกิน


"ธูปรออยู่ตรงนี้นะเดี๋ยวเทียนมา" ไอ้เทียนบอผมก่อนจะพยักหน้าให้น้องเค้กเดินตามมันเข้าไปในห้อง


ผมก็นั่งมองนั่นมองนี้คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย สุดท้ายก็วกกลับมาคิดถึงเรื่องของผมกับพี่พายเหมือนทุกครั้งเวลาที่อยู่คนเดียว เมื่อไหร่จะตัดมันออกไปจากใจได้สักทีวะ คิดไปแล้วเขาจะรู้ไหม เขาเคยคิดจะตามหามึงไหมไอ้ธูปเขาคงไม่คิดถึงมึงแล้ว สุดท้ายมึงก็โดนทิ้งอยู่ดี สมน้ำหน้ามึงแล้วล่ะ


ผมเงยหน้าทันทีเมื่อรู้ว่าน้ำตากำลังจะไหลออกมา สุดท้ายจำต้องรีบลุกไปเข้าห้องน้ำเพราะน้ำตาหยดแรกมันไหลออกมาจากหางตาของผมแล้ว ผมเดินเข้าไปในห้องน้ำห้องในสุดปิดประตูลงกลอนได้ก็นั่งบนฝาชักโครกปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมาให้พอ ร้องไห้มันให้พอแล้วพรุ่งนี้ผมจะลืมมัน ผมจะไม่นึกถึงมัน ในเมื่อมันหายไปผมก็จะตัดมันออกจากชีวิตผมเหมือนกัน


"กำลังจะออกไป มิลล์รอพายก่อนแล้วกัน" ผมยกมือปิดปากกลั้นเสียงสะอื้นทันทีที่ได้ยินเสียงที่ผมเฝ้าคิดถึงจนแทบบ้ามานานนับเดือน


"ฝากครรภ์แล้วไม่มีอะไรต้องห่วงแล้วมิลล์เชื่อพายเถอะ"


ฝากครรภ์.........



พี่พายพาใครมาฝากครรภ์วะ ผมค่อยๆเปิดประตูออกเมื่อเสียงภายนอกเงียบลงผมเดินออกจากห้องน้ำสอดส่ายสายตามองหาร่างสูงที่คุ้นเคยเมื่อเห็นหลังมันไกลๆผมก็ค่อยๆย่องตามมันไปโดยไม่ให้มันรู้ตัว


จนสุดท้ายผมก็เห็นความจริงทุกอย่างเห็นว่ามันกำลังประคองผู้หญิงน่าตาสะสวยคนนึงเดินเข้าไปในห้องตรวจ เห็นว่ามันเอาใจใส่ผู้หญิงคนนั้นจนลืมผม เห็นทุกๆอย่างรับรู้ด้วยสายตาของตัวเอง เข้าใจแล้วว่าที่ผ่านมามันหายไปไหน ทำไมไม่มาหาผมบ้างเลย ขาผมอ่อนจนไร้เรี่ยวแรงจะยืนไหว แต่เพราะความอยากรู้ผมจึงเดินไปนั่งตรงหน้าห้องนั้นเพียงแค่คิดว่าถ้าเขาสองคนเปิดประตูออกมาทั้งคู่ก็จะเห็นผมที่นั่งเป็นไอ้โง่อยู่ตรงนี้


"ธูปมานั่งทำไรตรงนี้" ผมเงยหน้ามองคนที่หน้าเหมือนผมทุกระเบียบนิ้ว พลันในใจก็โหวงๆแปลกๆอยากร้องไห้อยากตะโกนถามคนในห้องว่ากูผิดอะไรทำไมต้องทิ้งกูไว้ตรงนี้ ทิ้งกูทำไม


เพราะกูให้ในสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นให้ไม่ได้เหรอ


เพราะกูท้องไม่ได้ใช่ไหม


"ธูปเป็นอะไร"  ไอ้เทียนย่อตัวนั่งลงตรงหน้าผมมันจับมือผมเอาไว้แน่น


"เปล่า แล้วน้องเค้กอ่ะ" ผมเลือกจะโกหกมันออกไปเพราะไม่อยากให้มันมาเครียดกับเรื่องของผม


"ไปซื้อเค้กอยู่หน่ะเทียนออกมาไม่เจอธูปเดินหาแทบแย่ ไปเถอะ" ไอ้เทียนลุกขึ้นจับมือผมให้เดินตามมันออกมา ผมหันไปมองประตูที่ปิดอยู่ตรงหน้าก็ได้แต่ทำใจ เพราะสุดท้ายผมก็ไม่รู้ความจริงสักที



................



หลังจากไปส่งน้องเค้กที่บ้านแล้ว กลับมาถึงบ้านผมก็ขึ้นห้องนอน นอนตายมันอย่างเดียวครั้นจะถามเรื่องราวจากน้องเค้กก็ไม่กล้า ไม่อยากเอาเรื่องปวดหัวไปให้น้องมัน ยิ่งท้องแก่อยู่ด้วยเกิดเครียดลูกหลุดขึ้นมาผมจะซวยเอา หยิบโทรศัทพ์ขึ้นมากดโทรออกเบอร์เดิมที่ผมเพียรโทรหาทุกๆวันแต่ผลก็เหมือนเดิมคือโทรไม่ติด สุดท้ายผมก็ถอดใจลุกจากเตียงลงไปช่วยงานที่ร้านดีกว่านอนจมน้ำตาแบบนี้


ผมทำงานในร้านเป็นเด็กเสริ์ฟนั่นแหละครับเดินเสริ์ฟกันขาแทบลากลูกค้าเยอะทุกวัน ตอนเปิดร้านใหม่ๆพวกเพื่อนๆผมน้องรหัสพี่รหัสยันเพื่อนๆในคณะลามไปถึงเพื่อนๆไอ้เทียนก็มาแสดงความยินดีและแดกฟรีกันจนล้นร้าน บางคนอัพลงโซเชี่ยลจึงทำให้คนรู้จักเยอะ เป็นผลพลอยได้ให้ร้านผมไปโดยปริยาย


ผมเดินเสริ์หจนร้านปิดจึงช่วยเก็บร้านจนเสร็จจึงเข้านอนโชคดีที่พรุ่งนี้มีเรียนบ่ายเลยนอนดึกได้ ทุกวันนี้ต้องทำงานในร้านแลกเงินครับไม่งั้นป๊าไม่ให้ตังค์ค่าขนม ขี้เกียจอาจจะอดตายได้


"คิดอะไรอยู่" ไอ้เทียนตวัดแขนมากอดเอวผมแน่น มันซุกหน้าลงที่ซอกคอผมก่อนจะเอ่ยถาม


"คิดอะไรเรื่อยเปื่อย" ผมตอบมันกลับไป


"คิดเรื่องผู้ชายคนนั้นเหรอ"


"คงงั้น" ผมพลิกตัวกลับไปหาไอ้เทียนกอดมันแน่นเหมือนกับว่ามันคือหลักให้กับผม มันเองก็กอดตอบผมก่อนจะจูบลงบนศรีษะของผม


"นอนเถอะเทียนอยู่ตรงนี้" มันกระชับอ้อมกอดเพื่อให้ผมมั่นใจว่ามันอยู่ตรงนี้อยู่กับผมจริงๆ


"ฝันดีนะคนดีของเทียน"


"ฝันดีเทียน"



.........



"เดี๋ยวเลิกเรียนเทียนมารับนะ" ผมยกมือบ๊ายบายตอบไอ้เทียนเมื่อมันขับรถมาส่งผมที่หน้ามหาลัย ตอนแรกมันก็จะมาสั่งผมหน้าคณะแต่ผมห้ามมันไว้เพราะมันจะได้เลยไปส่งน้องเค้กต่อไม่ต้องวนเข้าวนออก(มหาลัยน้องเค้กสอบแล้วครับคงปิดเทอมพอดีน้องคลอดลูก)


ผมมองดูรถไอ้เทียนที่ขับออกไปก่อนจะเดินเข้ามหาลัยแต่ก็ไม่สามารถเดินไปไหนได้เพราะว่ามีบุคคลปริศนาที่คุ้นตามายืนล้อมผมเอาไว้ตั้งหกคน


"คุณธูปครับ เชิญไปกับพวกเราด้วยครับ" ผมมองตาพวกมันปริบๆไม่รู้ว่ามันจะมาไม้ไหนกัน


"ผมมีเรียน" ไม่กล้าขัดขืนพวกมันหรอกครับเพราะผมเคยลิ้มรสส้นตีนของพวกมันมาแล้ว เข็ดเจียนตายเลยล่ะ


"ผมทราบครับ" ทราบแล้วมึงจะมาพาตัวกูไปทำไมครับ


"ผมขอตัวนะครับ" ผมเดินเลี่ยงออกมาแต่แล้วก็รู้สึกว่ามีคีบเหล็กมาสัมผัสที่แขน เลือดกูไม่ไหลแล้วเกิดกูตายขึ้นมาพวกมึงจะทำยังไง


"เชิญครับ" โอ๊ย!!พ่อเจ้าประคุณมึงจับกูลากมาขนาดนี้ไม่ต้องพูดดีกับกูแล้วมั้งครับ


สุดท้ายผมก็เข้ามานั่งในรถตู้ด้วยใบหน้าบึ้งตึงแต่มีใครสนไหม ตอบเลยว่าไม่มีพวกมันนั่งเป็นหุ่นไร้ชีวิตอยู่ข้างๆผม เมื่อไม่มีอะไรทำผมจึงต้องโทรไปบอกเพื่อนๆว่าวันนี้หยุดเรียนให้จดงานมาให้ด้วย เสียการเรียนเพราะพวกมันเนี่ยแหละ ถ้าเจอตัวหัวหน้ามันนะผมจะซัดให้หน้าหงายเลยคอยดู


ผมนั่งมองสองข้างทางที่เริ่มเปลี่ยนจากตึกสูงๆเป็นทุ่งนา ป่า คือพวกมึงจะเอากูมาฆ่าหมกทุ่งนาใช่ไหม มันเป็นแถวชานเมืองที่เริ่มจะออกต่างจังหวัดแล้ว ตอนนี้ผมเริ่มนั่งตูดไม่ติดเบาะ ระส่ำระส่ายกลัวไปสารพัดถ้าเกิดไอ้พี่พายมันเลือกตัดปัญหาโดยการฆ่าผมทิ้งเพราะไม่อยากให้ผมวุ่นวายกับมันปล้วผมจะทำยังไง


ป๊าม๊าพี่ไฟไอ้เทียนธูปลาก่อน มาเก็บศพธูปด้วยนะอย่าปล่อยธูปตายอย่างเดียวดายนะ ฮืออออออ


"เป็นอะไรครับ"


"เฮ้ย" ผมร้องลั่นเมื่อไอ้ควายไบสันตัวนึงที่นั่งข้างผมอยู่ดีๆมันก็แตะแขนผมเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง เหี้ยใจตกไปอยู่ตาตุ่มเลยกูนึกว่ามันจะเอามีดมาแทงผม


"เป็นอะไรรึเปล่าครับ พวกผมเป็นห่วง" สีหน้ากับคำพูดพวกมึงช่างห่างไกลกับคำว่าห่วงใยกูมากๆๆ


"ไม่เป็นไรครับ" ผมขยับตัวนิดหน่อยให้พวกมันรู้ว่ากูโคตรอึดอัดเลย นั่งประกบกูซ้ายขวาขนาดนี้ไม่ต้องกลัวกูหนีหรอก อย่าว่าแต่หนีเลยขนาดจะหายใจกูยังไม่กล้า


"ถึงแล้วครับ" ผมสะลึมสะลือขยี้ตาตื่นเมื่อเสียงที่ดังอยุ่ข้างหูมาพร้อมกับแรงสะกิดที่แขนเบาๆ


กลิ่นอายทะเลเสียงคลื่นดังให้ได้ยินแว่วๆ ผมรีบหันไปมองเหล่าควายไบสันที่ล้อมหน้าล้อมหลังผมอยู่


"ที่ไหนเนี่ย" มึงเอากูมาฆ่าไกลไปไหมวะ


"เชิญครับ" ไม่ตอบแถมมันดันหลังผมให้เดินไปข้างหน้าอีก ดีมากครับคุณมึงไม่คิดจะบอกอะไรกูเลย


ผมไม่พูดอะไรต่อได้แต่เดินตามพวกควายไบสันเข้าไปในบ้านติดริมทะเล พอเข้ามาในบ้านเหล่ามนุษย์ยักษ์ก็อันตธานหายไปทิ้งผมเอาไว้คนเดียวให้ยืนโง่ๆอยู่กลางบ้านของใครก็ไม่รู้ ถ้าเจ้าของเขาคิดว่ากูเป็นขโมยแล้วยิงกูตายนี่ไม่ต้องโทษใครเลยนะ


"ธูป" ผมหันขวับเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นหู


ไอ้พี่พายมันยืนยิ้มสยามอยู่ตรงหน้าเหมือนเห็นบรรพบุรุษมันขึ้นมาจากหลุม  "คิดถึงจัง"


เหอะ ผู้ชายแท้ๆก็ตอแหลไม่แพ้ผู้หญิงจริงๆกูล่ะเชื่อเลย เมื่อวันก่อนมึงเพิ่งจะประคองสาวสวยไปฝากครรภ์มาวันนี้มาบอกว่าคิดถึงกู ใครเชื่อก็ควายแล้วครับ


"ถอยออกไปห่างๆกูเลย" ผมเดินถอยหลังทันทีเมื่อมันเดินก้าวเข้ามาหา


"โกรธที่พี่หายไปเหรอ พี่ขอโทษพอดีมีเรื่องต้องจัดการหน่ะ"


"กูอยากฟังเหตุผลของมึงอยู่นะพี่พายแต่จากที่กูเห็นมึงดูไม่เป็นเดือดเป็นร้อนกับการที่ไม่มีกูเลย มันเลยทำให้กูคิดได้ว่ามึงแคร์กูบ้างไหมวะ"


พี่พายมันหน้าตึงทันทีสายตามันนี่ฆ่าผมได้เลยนะ แต่คิดว่าผมจะกลัวเหรอ ไม่เลยตอนนี้อะไรกูก็ไม่กลัวแล้ว


"พูดเรื่องอะไรทำไมพี่จะไม่เป็นเดือดเป็นร้อน มาดูบ้างไหมว่าใครเป็นยังไง รู้ไหมว่าต้องรับภาระโน้นนี่นั้นอยู๋คนเดียวมันเป็นยังไง"


"............"


"ไหนจะเรื่องงาน เรื่องเราสองคน เรื่องเพื่อน สารพัดที่จะเข้ามาจนพี่ไม่รู้จะแก้ตรงไหนก่อนดี"


"มึงเลยเลือกที่จะแก้เรื่องของเราสองคนที่หลังใช่ไหม มึงเลือกจะทิ้งกูใช่ไหม"


"พูดอะไรธูปใครจะทิ้งใคร" มันเดินเข้ามากอดผมเอาไว้แน่น ผมเองก็พยายามดิ้นให้หลุดแต่ก็ยากเกินกำลัง ไม่รู้แมร่งแดกคีบเหล็กเข้าไปรึไง


"ใครกันแน่ที่จะทิ้ง"


"......"


"มาบอกเลิกพี่ถึงที่ทำงานใจร้ายมากเลยนะ" ใครบอกเลิกมันวะ ผมเหรอ ตอนไหนอ่ะ ทำไมกูเพิ่งรู้


"กูเปล่า" พี่พายมันผละผมออกจากอ้อมกอดของมันก่อนจะมองหน้าผมนิ่ง คือมันจ้องหน้าผมนิ่งเลยจริงๆนะครับ


"ธูปแน่ใจนะ"  ผมพยักหน้าหงึกๆ


"แล้วจะเป็นใครก็เทียนมีรอยสัก......"


ผมพูดขัดมันขึ้นมากลางปล้องพอดี "เทียนไม่ได้สัก มันแค่เพ้นท์น้องเค้กก็รู้"


"ว่าไงนะ!!"

"ก็ตามนั้น" ผมตอบมันไปก่อนจะถามมันกลับ "ว่าแต่มันเรื่องอะไรทำไมไอ้เทียนถึงต้องมาบอกเลิกพี่พายด้วยอ่ะ"


"แน่ใจนะว่าไม่ใช่ธูป" โอ๊ยกูจะเป็นบ้าตายเพราะมึงแล้วกูจะมาบอกเลิกมึงให้กูเจ็บช้ำใจเล่นๆรึไงวะ


"พี่พาย" ผมท้าวเอวจ้องหน้ามัน "มึงคิดว่ากูจะบอกเลิกมึงเหรอ มึงบ้ารึไง"


มันยิ้ม


"รักพี่มากเลยละสิ" สัสมันใช่เวลามาบอกรักกันไหมเนี่ย


"ที่นี่บ้านใคร" กูไม่รู้กูเปลี่ยนเรื่องก่อนล่ะ


พี่พายมันคงรู้ว่าผมเขินมันเลยทำหน้าทำตาล้อเลียนแต่ก็ไม่พูดอะไรให้ผมเขินมากไปกว่านี้  "บ้านมิลล์"


ความเขินอายกูหายไปพร้อมกับคำว่า 'บ้านมิลล์'  คือถ้ามึงจะพาตัวกูมาชมบ้านเมียมึงก็ไม่น่าจะพากูมาไกลขนาดนี้ก็ได้นะ เปิดกล้องคุยกันกูยังไม่เจ็บจี๊ดๆอย่างนี้เลย


"ไปไหนธูป" ไอ้พี่พายมันเดินมาจับแขนผมเมื่อผมหันหลังเดินออกจากบ้าน


"กูจะกลับบ้าน" ผมสลัดมือมันออกเพื่อเดินต่อ กูไม่อยากเยียบบ้านหลังนี้เลย แมร่งหงุดหงิดวะ


"ธูปหยุดแล้วฟังก่อนได้ไหม"


"ไม่กูไม่ฟังมึงทำแบบนี้กับกูได้ไง จริงอย่างไอ้เทียนว่า สักวันกูก็จะตาสว่างกูแมร่งโง่ โง่ที่รักมึง ไอ้ควายไปตายซะ!!"


"เป็นอะไรพูดกันดีๆสิธูป"


อยากให้กูพูดดีๆทั้งที่มึงลากตัวกูมาบ้านเมียมึงเนี่ยนะ ไอ้เห้กูคงจะพูดดีๆกับมึงได้หรอกกูไม่ต่อยมึงหน้าแหกก็บุญเท่าไหร่แล้ว


"มึงแมร่งเหี้ยจะบอกเลิกกูทำไมต้องพากูมาบอกเลิกที่บ้านเมียมึงด้วย"


"เมีย" มันทำหน้าโง่ใส่ผม


"ใช่เมียมึงไง กูเห็นนะที่มึงพากันไปหาหมอประคองกันรักกันขนาดนั้นถ้าไม่ใช่เมียแล้วอะไร"


"เพื่อนไงคะ" ผมหันขวับไปมองเสียงหวานๆที่ดังมาจากด้านหลัง


"มิลล์" ไอ้พี่พายมันเดินผ่านผมไปประคองร่างเล็กให้มานั่งที่เก้าอี้  "ธูปมานี้สิจะยืนทำไม" ไม่ต้องมาเรียกยังไงกูก็ไม่ไปนั่งตรงนั้นเด็ดขาด


"ธูปมานั่งนี้สิคะ พี่มีอะไรจะเล่าให้ฟัง" พอเห็นว่าผมไม่มีทีท่าว่าจะเดินไปตามคำเชิญของพี่พาย หญิงสาวก็เรียกผมซ้ำอีกครั้ง ผมที่ยืนเก้งๆกังๆเพราะไม่รู้จะทำยังไงสุดท้ายก็จำต้องเดินไปนั่งที่โซฟาตามคำเชิญของหญิงสาวตรงหน้าอย่าเลี่ยงไม่ได้

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
ธูปใจร้อนไปม่ะหน้าแตกซะ

ออฟไลน์ ่KEI_jry

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 207
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
ฟังกันแล้วหันหน้าเข้าหากันนะ

รู้สึกอิพี่พายมันใจเย็นมากนะคราวนี้ อิน้องก็ฟังอิพี่มันก่อน :hao4:

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
รู้สึกว่าพี่พายใจเย็นขึ้นมากเลยนะ
ปกติต้องโวยวายแล้วใช้กำลังแล้ว
แต่นี่พูดกับธูปแบบนิ่งๆดีๆด้วย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
จะด่าไอ่เทียนว่าไงดี ก่อเรื่องให้ธูปแต่ละอย่าง

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
เลิฟพี่พาย สุดยอดมาก
ใจเย็นขึ้นมาก ตอนนี้ธูปยึดตำแหน่งว๊ากเกอร์แทน 5555

ออฟไลน์ ❁INDY_FAMILY❁

  • -ทำไมต้องเดินตามรอยเท้าใคร เราสามารถสร้างรอยเท้าของเราเองได้-
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-12
ผมไม่ใช่พ่อเด็ก
ตอนที่ ๓๔ คนน่าสงสาร


-ธูป-

"ธูปมานั่งนี้สิคะ พี่มีอะไรจะเล่าให้ฟัง" ผมเดินไปนั่งข้างๆพี่พายตามคำเชิญของหญิงสาวถึงแม้ว่าไม่อยากจะอยู่บ้านหลังนี้นานๆก็เถอะ แต่จะให้ผมกลับยังไงล่ะครับ สุดท้ายก็ต้องทำตามเจ้าของบ้าน

"แนะนำตัวอีกทีนะคะ พี่ชื่อมิลล์" พี่มิลล์ยิ้มหวานส่งมาให้อย่างจริงใจก่อนจะหันไปสบตากับพี่พาย  "เป็นเพื่อนของพายค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักธูปนะคะ"

ผมนั่งมองหน้าทั้งคู่ตาปริบๆ "พี่รู้จักชื่อผมได้ยังไงอ่ะครับ" 
พี่มิลล์ยิ้ม "พายเล่าให้พี่ฟังจ้ะ พวกบาสเองก็มาเม้าส์ให้ฟังบ่อยๆ อยากเจอตัวจริงมานานแล้ว"

ระหว่างที่ผมนั่งเอ๋อๆอยู่นั้นพี่มิลล์ก็เรียกเด็กให้นำน้ำขนมมาเสริ์ฟผมเป็นการใหญ่ ผมเองที่รู้สึกเก้งๆกังๆมือไม้ไม่รู้จะเอาไว้ที่ไหนก็ยิ่งประหม่า คือพี่เขาออกตัวแรงมากว่าเป็นเพื่อนแล้วดูเหมือนจะไม่ได้โกหกผมด้วย แววตาจริงใจถูกส่งให้ทุกครั้งที่สบตากัน แล้วเป็นผมเสียอีกที่อคติกับพี่เขา

"พี่ท้อง" พี่มิลล์ยกมือลูบท้องตัวเองเบาๆ "ธูปคงรู้แล้ว แต่พี่อยากบอกว่าพี่ไม่ได้ท้องกับพายจริงๆนะ"

"แล้ว....." ผมอยากถามพี่มิลล์จังว่าพ่อเด็กไปไหนทำไมไม่มาดูแล เพราะตั้งแต่เดินเข้ามาผมก็เห็นแต่คนของพี่พายทั้งนั้น
พี่มิลล์ก้มหน้ามองท้องตัวเองก่อนจะพูดเสียงสั่นๆ "พี่ไม่รู้ว่าใครคือพ่อเด็ก"

ผมสบตากับพี่พายทันทีเมื่อได้ยินคำตอบ  "พี่ไม่รู้ว่าท้องกับใคร"

"มิลล์พอเถอะไม่ต้องพูดแล้ว" พี่พายขยับมานั่งลงข้างๆพี่มิลล์พร้อมกับยกมือลูบหลังพี่มิลล์เบาๆ ผมมองภาพตรงหน้าด้วยใจไร้อคติไม่มีคำว่าหึงหวง มีแต่คำว่าสงสาร

"ไม่เป็นไรเราไม่อยากให้พายกับน้องผิดใจกันเพราะเรา"
พี่มิลล์บอกอย่างนั้นก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องที่ทำเอาผมไม่คาดคิดว่าชีวิตนี้จะมีใครที่น่าสงสารได้เท่าผู้หญิงตัวเล็กๆตรงหน้าผม

พี่มิลล์เล่าว่าเธอรู้จักกับพี่พายครั้งแรกตอนไปเที่ยวทะเลกับครอบครัวหลังจากที่พี่มิลล์เข้าหาพี่พายก่อนทั้งสองถูกใจในรูปร่างของกันและกัน คนทั้งคู่จึงไปต่อกันที่โรงแรมคงไม่ต้องบอกนะครับว่าไปทำไม ผมฟังถึงตรงนี้ก็อยากจะเดินออกมาให้รู้แล้วรู้รอดใจมันคันยิบๆแปลกๆ แต่ก็ยังทนฟังต่อไป

พี่มิลล์บอกว่ามันคือการสมัครใจไร้การบังคับใดๆทั้งสิ้นแต่เรื่องมันเกิดเมื่อพี่พายมันได้ยินเสียงกรีดร้องอย่างทรมานในห้องน้ำ พี่พายมันตะโกนเรียกอยู่นานก็ไม่มีการตอบรับ มันกลัวว่าพี่มิลล์จะคิดสิ้นจึงพังประตูเข้าไปก็เห็นพี่มิลล์กำลังเอาสบู่ถูร่างกายของตัวเองจนไปรอยแดงทั้งตัว

พี่พายจึงดึงพี่มิลล์ออกมาจัดการล้างตัวและพามาที่เตียงมันถามพี่มิลล์อยู่นานว่าเป็นอะไรทำร้ายตัวเองทำไมถ้าไม่เต็มใจทำไมไม่บอก พี่มิลล์ได้แต่ร้องไห้ส่ายหน้าไปมาแต่ไม่พูดอะไร พี่พายมันจึงรอจนพี่มิลล์สงบเพื่อให้พี่มิลล์พูดความจริง และความจริงที่พี่มิลล์บอกนั้นก็ทำให้พี่พายมันโทษตัวเองว่าฉวยโอกาสกับคนที่ป่วย

ใช่ครับพี่มิลล์ป่วยเธอเป็นโรคขาดผู้ชายไม่ได้เข้าขั้นรุนแรง โรคนี้ไม่ใช่ฮีสทีเรียนะครับคนส่วนมากมักเข้าใจผิด โรคที่พี่มิลล์เป็นนั้นคือโรคนิมโฟมาเนีย (Nymphomania)เมื่อพี่พายรู้เรื่องเข้าก็ช่วยเหลือพี่มิลล์ทุกทางแต่เพราะว่าทางบ้านที่พี่มิลล์อับอายที่มีลูกสาวเป็นคนส่ำส่อนจึงทำร้ายเธอทุกครั้งที่มีคนมารายงานว่าเธอไปนอนกับใคร เหตุเพราะแม่พี่มิลล์ก็เป็นโรคนี้และสุดท้ายแม่พี่มิลล์ก็นำความเสื่อมเสียมาให้วงศ์ตระกลู(พี่มิลล์เป็นเพราะกรรมพันธุ์)

พ่อพี่มิลล์รักษาพี่มิลล์แบบผิดๆและเมื่อพี่พายยื่นมือเข้ามาช่วยพ่อพี่มิลล์ก็ถูกชะตาจึงจะจับทั้งคู่คลุมถุงชนแต่ก็ไม่สำเร็จเพราะพี่มิลล์และพี่พายไม่ได้รักกัน พี่มิลล์เคยถูกญาติๆลูกพี่ลูกน้องข่มขืนเพราะรู้ว่าเธอเป็นโรคนี้ ไม่มีใครพาเธอไปแจ้งความเพราะกลัวจะเสียชื่อเสียง ทุกคนรักชื่อเสียงตัวเองมากกว่าชีวิตจิตใจคนๆนึงที่ชึ้นชื่อว่าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไข

พวกเพื่อนๆพี่พายรู้เรื่องเข้าก็ช่วยกันหาหมอที่ดีๆมารักษาจนอาการดีขึ้นแต่ทางบ้านพี่มิลล์กลับขังพี่มิลล์เอาไว้เพื่อใช้ประโยชน์จากโรคที่พี่มิลล์เป็น พ่อพี่มิลล์บังคับให้พี่มิลล์นอนกับคนใหญ่คนโตเพื่อปูทางในธุรกิจของตนเองไม่ให้พี่มิลล์กินยาไม่ให้รักษา จนสุดท้ายไม่ให้เจอกับพี่พาย แต่พี่มิลล์ก็หนีออกมาได้และเมื่อเธอขาดยาอาการเธอก็กำเริบสุดท้ายกว่าจะตามตัวเธอกลับมาได้เธอก็มีเด็กติดท้องมาด้วยแล้ว โดยที่เธอเองก็ไม่รู้ว่าใครคือพ่อของเด็กในท้อง

พี่พายและเพื่อนๆจึงพาพี่มิลล์มาซ่อนที่นี่ ที่ที่คนรักที่มิลล์ซื้อเอาไว้ให้ก่อนจากไป(ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์)พ่อพี่มิลล์ต้องการตัวพี่มิลล์กลับไปเพื่อให้นอนกับคนที่มีอำนาจเพื่อตัวเอง โดยไม่สนว่าลูกสาวจะเป็นอย่างไร ร้อนถึงพี่พายต้องปิดข่าวว่าพี่มิลล์อยู่ไหน การมาตรวจที่โรงพยาบาลก็ต้องนัดหมอและทุกอย่างต้องเช็คให้แน่ใจว่าไม่มีคนของพ่อพี่มิลล์ตามมา

ผมฟังถึงตรงนี้ก็ได้แต่สังเวชในใจชีวิตคนๆนึงที่เราไม่เคยรู้เบื้องลึกเบื้องหลังของเขาว่ามันน่าสงสารขนาดไหนเราเห็นเขายืนอยู่ในสังคมที่สวยหรูใช้ชีวิตดีๆมีคนล้อมหน้าล้อมหลังแต่ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังมันช่างเน่าเฟะจนอยากจะอาเจียน

"แล้วถ้าคลอดน้องแล้วพี่มิลล์จะไปอยู่ไหนล่ะครับ"  ผมอดถามถึงอนาคตของผู้หญิงตรงหน้าไม่ได้

"พี่จะไปอยู่อเมริกากับคุณหมอที่รักษาพี่นะจ๊ะ"

"ไปรักษาตัวต่อเหรอครับ"

"จ้ะ คุณหมออยากให้พี่ไปรักษาตัวที่โน้นแล้วก็เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่โน้นกับคุณหมอด้วย" รอยยิ้มที่สดใสปรากฏบนใบหน้าสวยอีกครั้ง

"การที่มีคนยอมรับในสิ่งที่เราเป็นได้มันไม่ง่ายเลยนะธูปและก็ไม่ใช่ว่าจะมีมากมายพี่เองอาจจะโชคร้ายที่เป็นแบบนี้ แต่ในความโชคร้ายพี่ก็ยังมีโชคดี"

พี่มิลล์ยิ้มให้พี่พายก่อนจะหันมาพูดกับผม "พี่มีเพื่อนที่ดี มีลูก และมีคนที่ยอมรับพี่ได้ไม่รังเกียจพี่ ธูปเองเมื่อเจอคนที่รักเราไม่ว่ายังไงก็รักษาเขาเอาไว้ดีๆนะคะ"

ผมพยักหน้าหงึกๆก่อนจะมองสบตากับพี่พาย มันยิ้มอบอุ่นส่งมาให้สัสกำลังซึ้งเล่นเอาผมเขินไปไม่เป็นเลย

พี่มิลล์ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาก่อนจะลุกขึ้นและหันมาพูดกับผม  "อยู่ทานอาหารฝีมือพี่ก่อนนะ แล้วค่อยกลับนะคะ"

"ครับ" ผมตอบกลับไปพี่มิลล์ส่งยิ้มมาให้(พี่มิลล์ยิ้มเก่งนะครับแต่ตาเศร้ามาก)เดินเข้าไปในครัวเหลือผมกับพี่พายสองคน
เอาล่ะกูทำตัวไม่ถูกกันเลยที่เดียว

"คิดถึง" ไอ้พี่พายมันกระโดดตุบมานั่งลงข้างๆผมทันทีเมื่ออยู่กันสองคน

"เหมือนกัน" มันกอดผมแน่นเมื่อได้ยินคำพูดของผม ผมเองก็กอดตอบมันเหมือนกัน

"อยาก" สัสอันนี้กูว่าไม่ใช่ละ

"พอเลย ปล่อย" ผมดิ้นพอเป็นพิธี(?)แต่มันไม่ปล่อยแถมยังฟัดผมอีกยกใหญ่

"ห้องข้างบนว่างนะพายใช้ได้" เสียงพี่มิลล์ดังมาจากในครัว คือพี่ไม่ห้ามเลยเหรอครับมีคนมาทำบัดสีบัดเถลิงในบ้านพี่นะครับ ห้ามหน่อยเถอะ

"ขอบใจนะมิลล์" ไอ้นี้ก็ไม่ปฏิเลธลากกูไปไหน ปล่อยกู กูไม่พร้อมจริงๆ

"พี่พายปล่อยไม่เอา" ผมขืนตัวเอาไว้ไม่เดินตามมันแต่แรงแมร่งเยอะขนาดไหนคุณก็รู้สุดท้ายมันดึงมือผมนิดเดียวตัวผมก็ปลิวไปตามมันล่ะ

อะไรใครหาว่าผมสมยอม ไม่มีอ่ะ
มันลากผมเข้ามาในห้องปุ๊บมันก็พาผมมานั่งที่เตียงก่อนจะปิดล็อคห้องด้วยความเร็วสูงมันพุ่งตัวโดดมาทับผมบนเตียง สัสจุกมากบอกเลย

"กูจุก" ผมร้องพร้อมกับยกเท้าถีบมันไปไอ้พี่พายฟังไม่ ตอบเลยว่าไม่ มันฟัดผมพร้อมกับขบเม้มซอกคอจนเป็นรอย รู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมา
มันไถลตัวลงมานอนข้างๆผมกอดผมเอาไว้แนบอก

"ไม่ทำหรอกสัญญากับพ่อตาเอาไว้ ใครจะกล้าแหกกฏเดี๋ยวเขาไม่ยกลูกชายให้จะซวยเอา"

"ทำเป็นพูดไป ไม่ทำแล้วกัดคอธูปทำไม"

"ฝากรอยไปให้ใครบางคน" พี่พายยิ้มเจ้าเล่ห์มันยักคิ้วให้ผม แต่คำพูดมันทำเอาผมอดสงสัยไม่ได้

"ใครเหรอ"

"ไม่บอก" มันหอมหน้าผากผมจูบปากผมจนเจ่อ "วันนี้เลิกเรียนกี่โมง"

"สองทุ่ม" ผมตอบพร้อมยกนาฬิกาขึ้นมาดู หกโมงกว่าแล้วอ่ะ  "ไปส่งธูปที่มหาลัยทันไหม" ผมถามเพราะถ้าไอ้เทียนไปรับแล้วไม่เจอมันอาละวาดแน่นอน

"ทันแน่นอน มากอดให้หายคิดถึงหน่อย" แล้วที่รัดกูอยู่เนี่ยไม่เรียกว่ากอดเหรอวะ

หลังจากที่เราทั้งคู่นอนกอดกันอยู่บนเตียง(ไม่มีอะไรเกินกว่านั้น)พี่พายมันก็บอกให้ผมดูท่าทีของไอ้เทียนว่าจะเป็นอย่างไรเมื่อผมกลับไป ผมก็สงสัยนะแต่มันไม่บอกอะไรมากกว่านี้อีกอย่างไอ้เทียนเองก็พูดแปลกๆเกี่ยวพี่พาย พี่พายเองก็พูดจาน่าสงสัยเกี่ยวกับไอ้เทียนสรุปสองคนนี้มีอะไรที่ผมไม่รู้รึเปล่า

ผมรับคำพี่พายมันแบบงงๆเรานอนคุยกันจนพี่มิลล์มาตามไปทานข้าว ผมบอกเลยนะว่าฝีมือพี่มิลล์นั้นสุดยอดมาก รสมือเหมือนม๊าผมไม่มีผิด เสน่ห์ปลายจวักสุดยอด ผมนี่เพิ่มข้าวไปสองจาน เมื่อทานอาหารเสร็จผมก็ลากลับบอกพี่มิลล์ว่าถ้าว่างจะมาเยี่ยมพี่แกอีกครั้งแน่นอน พี่มิลล์ก็บอกว่าจะรอ เธอบอกอยู่ที่นี่เหงาอยากมีเพื่อนคุย เราล่ำลากันสักพักก่อนที่พี่แกจะเดินเข้าบ้านไป

เหลือทิ้งไว้ที่ควายไบสันและลูกพี่พวกมันนี่แหละ พี่พายสั่งลูกน้องตัวเองให้ขับรถดีๆดูแลผมดีๆสั่งผมว่าถึงแล้วให้โทรมาบอกด้วยมันจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงมันจะกลับเข้ากรุงเทพก็อีกสองสามวันเพราะต้องสลับกับพวกพี่บาสมาเฝ้าพี่มิลล์ ผมก็พยักหน้าเข้าใจหลังจากรู้เรื่องพี่มิลล์ผมไม่มีคำว่าหึงคนทั้งคู่เลยจริงๆ

พี่พายกอดผม(ต่อหน้าลูกน้องมันอ่ะครับ)ก่อนจะหอมผมอีกฟอดใหญ่จึงปล่อยให้ผมขึ้นรถ โชคดีที่ขากลับมีแค่ผมและลูกน้องมันอีกแค่สองคนไม่มากเท่าตอนมา คนขับรถก็ทำเวลาอย่างดีใช้เวลาน้อยกว่าตอนไปมากโข สุดท้ายผมก็มาถึงมหาลัยตอนเกือบๆสองทุ่มตอนไอ้เทียนโทรมาผมไม่ได้รับแต่ไลน์บอกมันไปว่าเรียนอยู่

ผมนั่งอยู่ใต้คณะเพื่อรอไอ้เทียนมารับ ไม่นานผมก็เห็นคนที่หน้าตาเหมือนผมทุกระเบียบนิ้วเดินหน้านิ่งเข้ามาหา มันไม่พูดอะไรกระชากแขนผมให้ลุกขึ้นทันทีเมื่อมันประชิดตัวผม

"ไปไหนมา!!" มันดูโมโหมาก และผมก็ไม่เคยถูกมันโหโมใส่ด้วย

"ก กูก็เรียนไง มึงเป็นอะไรอ่ะเทียน"

"เรียนเหรอธูป เรียนบ้าอะไรเทียนเห็นธูปลงมาจากรถตู้แล้วต้องให้พูดไหมว่ารถของบ้านใคร ทำไมทำตัวแบบนี้วะธูป"
 
มันตะคอกใส่หน้าผมทำเอาผมตะลึงไม่คิดว่ามันจะทำแบบนี้มันดูโกรธมาก โกรธจนสามารถฆ่าใครก็ได้ที่อยู่ตรงหน้ามัน และคนๆนั้นก็คือผมนี่แหละ

ไอ้เทียนใช้มือมันเกี่ยวปกคอเสื้อผมเมื่อมันเห็นรอยที่คอของผมน็อตตัวสุดท้ายก็หลุดมันกระชากผมให้ไปที่รถ มันสถบคำหยาบมากมายจนผมฟังไม่ทัน พอยัดผมเข้าไปในรถได้มันก็ปิดประตูเสียงดังจนผมสะดุ้งด้วยความตกใจ

"คราวนี้อย่าหวังว่าจะได้เจอกับมันอีกเลย"

ผมกำลังจะอ้าปากด่ามันบอกว่ามันไม่มีสิทธิ์มาห้ามผม ไหนจะเรื่องที่มันปลอมเป็นผมไปหลอกพี่พายอีก แต่ไม่ทันได้พูดอะไรมันก็กระชากรถออกตัวไปด้วยความเร็วทำให้ผมต้องหาที่เกาะเป็นหลักยึด กลัวจนลืมว่าจะพูดอะไรกับมัน ไว้ถึงบ้านเมื่อไหร่ผมก็มีเรื่องจะเคลียร์กับมันเหมือนกัน

ให้กูมีชีวิตรอดปลอดภัยถึงบ้านโดยไม่เหลือแต่วิญญาณอ่ะนะ

ออฟไลน์ ❁INDY_FAMILY❁

  • -ทำไมต้องเดินตามรอยเท้าใคร เราสามารถสร้างรอยเท้าของเราเองได้-
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-12
ผมไม่ใช่พ่อเด็ก
ตอนที่ ๓๕ ครึ่งนึงของชีวิต


-ธูป-


กลับมาถึงบ้านไอ้เทียนก็ลากผมขึ้นมาบนห้องนอนทันทีโดยไม่มันสนใจสักนิดว่าผมเต็มใจจะขึ้นมากับมันไหม อารมณ์ร้อนคุยยังไงก็ไม่มีทางรู้เรื่องแต่ครั้นจะให้ผมพูดมันก็คงไม่ฟังกันอยู่ดี


ปัง!!



เสียงปิดประตูดังลั่นบ้านทำเอาผมสะดุ้งด้วยความตกใจ ไอ้เทียนลากผมมานั่งลงบนเตียงส่วนตัวมันก็ยืนอยู่ตรงหน้าผม มันจ้องหน้าผมเขม็งเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ กำมือแน่นจนเส้นเลือดปูดปูนขึ้น มันกำลังโกรธและโกรธมากทำไมมันต้องโกรธก็ในเมื่อผมไม่ได้ทำอะไรผิดผมมีแฟนมีคนรัก ผมผิดมากนักหรือไง แล้วที่มันทำผู้หญิงคนนึงท้องเกือบต้องเสียอนาคตมันไม่คิดว่ามันผิดมากกว่าผมเลยหรือ


"ไปไหนกันมา!!" เสียงตวาดลั่นที่มันเพิ่งเคยใช้น้ำเสียงแบบนี้กับผมเป็นครั้งแรกทำให้ผมรู้สึกไม่ดีนัก เมื่อก่อนมันโกรธมันน้อยใจอะไรมันไม่เคยใช้น้ำเสียงแบบนี้กับผมเลยสักครั้ง


"............"  ผมจ้องหน้ามันเงียบๆไม่พูดอะไรออกไป เพราะต่อให้พูดกันตอนนี้ยังไงก็ไม่พ้นทะเลาะกันอยู่ดี


"ธูป!! ถามทำไมไม่ตอบ" เสียงตวาดยังคงดังใส่ผมอย่างต่อเนื่องโดยที่ผมไม่รู้ว่าทำผิดอะไรมากมายนักหนา


"จะให้ตอบว่าอะไรล่ะ" ผมถามมันกลับไป  " อยากได้คำตอบแบบไหน คำตอบที่ถูกใจมึงหน่ะ"


"ธูป" เสียงมันอ่อนลงคงเพราะรู้ว่าผมเองก็กำลังโกรธมันเหมือนกัน


"เทียนมึงเป็นอะไร มึงโกรธอะไรพี่พายเขานักหนาวะ กูถามหน่อยเถอะ"


ไอ้เทียนหันหน้าหนีผม มันกระฟัดกระเฟียดเหมือนหาทางลงกับอารมณ์ของมันไม่เจอ อยากอาละวาดแต่ก็ไม่กล้าคงเพราะกลัวผมโกรธมันขึ้นมาจริงๆ


"ธูปก็รู้ว่าป๋าสั่งห้ามไปไหนมาไหนกับมัน"


"กูก็ไม่ได้ทำอะไรผิดกฏที่ป๋าตั้งไว้นี้ มึงนั่นแหละเป็นอะไร" ไอ้เทียนหันน้าหนีผมมันดูลุกลี้ลุกลนแปลกๆ


"เทียนไม่อยากให้ธูปคบมัน"


"กูว่าเราคุยเรื่องนี้กันแล้วนะเทียน แล้วกูก็ไม่เห็นว่าพี่พายมันจะเลวร้ายอะไรเลย มึงคิดมากไปเองรึเปล่า"


"ธูปรู้จักมันดีแค่ไหนกัน"


ถ้าจะตอบว่ารู้จักดีก็ตอบได้ไม่เต็มปาก เพราะความจริงผมก็ไม่ได้รู้เรื่องของพี่พายมากมายเท่าที่มันอยากให้รู้ ผมรู้แค่ว่าบ้านมันทำธุระกิจอะไร เพื่อนมันมีใครบ้างและความลับเรื่องพี่มิลล์ที่มันเปิดรับให้ผมเข้าไปในโลกของมันอีกก้าวนึง แต่ผมเองก็ตอบตัวเองแและไอ้เทียนไม่ได้เหมือนกันว่าผมรู้เรื่องพี่พายมากน้อยแค่ไหน


"ธูปเองก็ตอบไม่ได้" ไอ้เทียนพูดเหมือนรู้ใจผม ก็นะเราเป็นแฝดกันนิครับ


"กูรู้แต่ว่ากูรักพี่พาย และกูก็มั่นใจว่ามันเองก็รักกู" ผมรู้แค่นี้จริงๆ


"เทียนรักธูปรักมากกว่ามันอีก!!" ไอ้เทียนตวาดใส่หน้าผมอีกครั้ง


"กูรู้" บนโลกนี้ถ้าจะมีใครสักคนที่รักผมทำเพื่อผมได้มากมาย คงต้องมีชื่อไอ้เทียนอยู่ในลำดับต้นๆแน่นอน


"กูก็รักมึงนะเทียน"  ผมพูดความรู้สึกของตนเองออกไปทั้งหมด  "มึงเป็นเพื่อน เป็นน้อง เป็นทุกอย่างในชีวิตกู เราอยู่ด้วยกันก่อนจะเกิด ลืมตาดูโลกพร้อมๆกัน ทำทุกอย่างด้วยกัน มึงสอนให้กูรู้จักคำว่ารัก สอนให้กูรู้จักแบ่งปัน มึงเป็นคนสอนกูทุกอย่าง"


"......."


"กูรู้ว่ามึงเป็นห่วงกู กลัวกูเสียใจแต่กูไม่ใช่เด็กๆแล้วนะเทียนกูโตแล้ว สุขบ้างทุกข์บ้างมันก็คือชีวิตกู"


ไอ้เทียนก้มหน้าน้ำตามันไหลออกมาเงียบๆ


"ที่มีมึง"



ไอ้เทียนเงยหน้ามามองผมก่อนมันจะทรุดตัวลงนั่งตรงหน้าผมมันโผเข้ากอดเอวผมแน่นซบหน้าร้องไห้กับตักผม


ผมรู้ว่ามันรักผมมากเราอยู่ด้วยกันตลอดทำทุกอย่างร่วมกันเป็นทุกอย่างของกันและกันมันเป็นมากกว่าน้องชายมากกว่าครอบครัวเพราะมันเป็นอีกครึ่งในชีวิตผม เราเกิดมาพร้อมกันเรียนรู้สิ่งต่างๆพร้อมๆกัน ร้องไห้ก็เช็ดน้ำตาให้กัน ยิ้มหัวเราะมีความสุขเราก็แบ่งปันกัน ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตผมต้องมีไอ้เทียนร่วมอยู่ด้วยเสมอ


"เทียนรักธูปนะ" มันพร่ำบอกแต่คำเดิมๆ ร้องไห้และพูดแต่คำนี้ซ้ำๆ


ผมยกมือลูบหลังมันก่อนจะพูด  "กูก็รักมึง"


"น้องชาย"


มันเงียบเสียงเป็นความเงียบที่ชวนอึดอัดไม่น้อย มันพูดเสียงอู้อี้ตรงตักผม ฟังไม่ได้ศัพท์ว่ามันพูดว่าอะไร


"เทียนมึงเข้าใจที่กูพูดไหม" ผมถามย้ำกับมันอีกครั้ง


มันส่ายหัวอย่างเดียวไม่ยอมพูดอะไรกับผมเลย


"เทียนกูรักมึงที่สุดนะ แต่กูเองก็ต้องมีชีวิตของกู เหมือนๆกับมึง"


"ชีวิตของเทียนมีแต่ธูป" มันกอดผมเอาไว้แน่น เสียงสั่นเครือทำให้ผมใจไม่ดี


"คุยกันดีๆเถอะเทียน มึงบอกกูสิว่าทำไมถึงเกลียดพี่พาย กับฝนมึงยังไม่เป็นแบบนี้เลย"


ถึงมันจะไม่ค่อยชอบหน้าน้ำฝนเท่าไหร่เอาจริงๆมันก็ไม่ชอบแฟนผมทุกคนนั้นแหละแต่ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะรุนแรงเท่าครั้งนี้เลย


ไอ้เทียนลุกขึ้นยืนก่อนที่มันจะพูดออกมา  "เทียนเกลียดทุกคนที่เข้าใกล้ธูป เกลียดที่ทุกคนมาแย่งความรักของธูปไปจากเทียน เกลียดที่พวกมันทำในสิ่งที่เทียนทำไม่ได้ เทียนเกลียด"


"มึงหมายความว่ายังไง"


ไอ้เทียนไม่ตอบแต่มันโถมตัวลงมาทับผมไว้ทั้งตัว  "เทียนไม่อยากเป็นแค่ครึ่งชีวิตของธูป เทียนอยากเป็นทั้งหมดของธูปเข้าใจไหม"


พูดจบมันก็จูบผมมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เราจูบกัน เราเคยจูบกันมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว ดังนั้นตอนที่จูบกับพี่พายผมถึงบอกว่านั่นคือจูบแรกที่ผมจูบกับผู้ชายเพราะผมมองไอ้เทียนเป็นน้องไม่ใช่ผู้ชายคนอื่นมันคือน้องคือครอบครัว แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่มันต่างออกไปเพราะมันกำลังใช้ลิ้นกับผม พอได้สติผมก็ขัดขืนทั้งดันทั้งถีบดิ้นรนเอาตัวรอด ทั้งๆที่เราตัวเท่ากันสูงเท่ากันแต่ทำไมผมถึงสู้แรงมันไม่ได้เลย


"แฮกๆ มึงทำแบบนี้ทำไม!!"  ผมตะคอกมันดังลั่นเมื่อมันปล่อยปากผมให้เป็นอิสระ ตกใจกับสิ่งที่เกิดไม่คิดว่ามันจะกล้าทำกับผมแบบนี้


ผมถดตัวหนีมันยอมรับว่าเริ่มกลัวคนที่ผมคิดว่าผมรู้จักมาทั้งชีวิตแต่เอาเข้าจริงผมไม่รู้จักมันเลย


"นี่แหละคำตอบ เทียนรักธูป รักแบบที่อยากได้อยากครอบครองไม่ได้อยากเป็นน้อง ไม่ได้อยากเป็นแค่น้อง โว้ย!!!" มันก้มหน้ากับที่นอนยกมมือทุบที่นอนเหมือนต้องการระบายความอัดอั้นในใจ


ผมเองก็ทำอะไรไม่ถูกงงๆกับสิ่งที่เพิ่งได้ยินได้รับรู้ เราต่างจมอยู่กับความคิดตัวเองนานพอสมควรจนเมื่อมีคนเปิดประตูเข้ามาทำให้เราทั้งคู่ได้สติ


"ไอ้ไฟ" ไอ้เทียนลุกขึ้นนั่งทำพร้อมจะกระโจนใส่ทุกคนที่เข้ามาใกล้ เริ่มเหมือนหมาบ้าเข้าไปทุกที


"ครับพี่เอง" พี่ไฟเดินยิ้มเย็นๆสะท้านไปทั้งทรวง ขนลุกเลยกู


"มึงเข้ามาทำไม" ไอ้เทียนมันยืนจ้องหน้ากับพี่ไฟ


พี่ไฟเพียงแค่ยิ้มแต่เป็นยิ้มที่ดูสยองมากสำหรับผม สองคนนี้มีเรื่องอะไรกันทำไมบรรยากาศรอบตัวทั้งคู่ดูกดดันแปลกๆ


"ธูปต้องไปทำงานนะครับ" ได้ยินดังนั้นผมก็ลนลานรีบลงจากเตียงเพื่อจะหนีไปจากสถานการณ์ชวนอึดอัดนี้


"ขอบคุณครับพี่ไฟ"


"จะไปไหนครับเทียน" พี่ไฟจับแขนไอ้เทียนเอาไว้เมื่อมันเดินตามผมมา ผมหันกลับไปมองมันแต่จะให้ผมอยู่กับมันตอนนี้ผมไม่พร้อมจริงๆ


"ธูปอย่าทิ้งเทียนนะ กลับมา ธูปกลับมาหาเทียนนะ กลับมา ปล่อยกูไอ้สัสปล่อย"


"เรามีเรื่องต้องคุยกันนะครับเทียน"


ผมยอมรับเลยว่าวันนี้สมาธิไม่อยู่กับเนื้อกับตัวมากๆเสริ์ฟผิดเสริ์ฟถูกจนโดนดุไปหลายรอบสุดท้ายป๊าก็ให้ผมไปพักสลบสติอารมณ์ตัวเอง ผมเดินไปทางที่จอดรถลูกค้าก่อนจะล้วงเอาบุหรี่ที่นานๆครั้งจะสูบมันสักที ตอนนี้ผมต้องการสารนิโคตินที่ทำให้สมองปลอดโปร่ง เอาจริงๆมันก็ไม่ช่วยอะไรมากนักหรอกนะครับแต่เพราะไม่มีทางอื่นแล้วจะให้กินเหล้าเมาก็กลัวป๊ามาฟาดหัวผมแตกก่อนที่จะเมา


ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาลังเลว่าจะโทรหาพี่พายดีไหมจะบอกมันดีไหมว่าผมเจออะไรมา ผมไม่อยากเอาเรื่องปวดหัวไปให้มันแต่ผมก็ไม่อยากเก็บมันเอาไว้มันจะระเบิดอยู่แล้ว


น้องชายที่ผมคิดมาเสมอว่าเราคือคนๆเดียวกันคนที่ผมให้ทั้งความรักความเชื่อใจ ให้ทุกอย่างกับมันสุดท้ายมันกลับไม่คิดแบบเดียวกันเมื่อไหร่ ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ความรู้สึกของมันสวนทางกับผม ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่มันคิดกับผมแบบนี้


ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่มันก้าวข้ามผ่านคำว่าสายเลือด


"พี่พาย" ผมกดโทรศัพท์โทรออกหาเบอร์ปลายทาง แค่ได้ยินเสียงมันใจผมก็อุ่นวาบขึ้นมาทันที


"ธูปเป็นอะไร ใครทำอะไรบอกพี่"
น้ำเสียงร้อนรนดังขึ้นที่ปลายสายทั้งๆที่ผมไม่ได้บอกอะไรมันเลย


"ไม่มีอะไรหรอกธูปแค่คิดถึงพี่อ่ะ" ผมโกหกออกไปคำโตเพราะไม่อยากให้มันคิดมาก ไม่อยากให้มันมองไอ้เทียนไม่ดีไม่อยากให้น้องเค้กรู้เรื่อง


สุดท้ายผมก็แคร์ทุกคนรอบตัวมากกว่าตัวผมเอง แต่มันก็คุ้มนะครับเพราะถ้าทุกคนรู้ไอ้เทียนอาจจะโดนมองไม่ดี น้องเค้กที่ท้องแก่ใกล้คลอดอาจจะเสียใจ ครอบครัวน้องเค้กอีกล่ะ พี่พายเองจะมองหน้ากันติดไหม สุดท้ายผมก็ต้องเก็บทุกอย่างเอาไว้กับตัวเองให้ผมทุกข์คนเดียวดีกว่าทุกคนต้องมาเสียใจกับเรื่องนี้


ทุกคนกำลังมีความสุขกับการเกิดมาของเทวดตัวน้อยๆผมไม่อยากทำลายความรู้สึกนั้น


"กินข้าวรึยัง"
พี่พายถาม


"ยังอะ เดี๋ยวค่อยไปกินป๊าให้มาพัก"


"มีอะไรไม่สบายใจบอกพี่นะธูป เราเป็นแฟนกันเป็นคนคนๆเดียวกันแล้ว"


ผมยกมือปิดปากกลั้นเสียงสะอื้นไม่ให้เล็ดลอดออกมาน้ำตาที่มันไหลออกมาอาจจะเพราะผมอ่อนแอเกินไปตัดสินใจทำอะไรไม่สุด ผมก็แบบนี้ไม่กล้า ใจไม่แข็งพอ


ผมสูดน้ำมูกเช็ดน้ำตาลวกๆก่อนจะพูด "ธูปสบายดี พี่พายแค่นี้ก่อนนะธูปต้องไปทำงานแล้วเดี๋ยวป๊าว่าเอา"


"ครับ คิดถึงนะ"


"คิดถึงเหมือนกัน วางนะ"


ผมเก็บมือถือลงในกระเป๋ากางเกงก่อนจะหันหลังกลับเข้าไปในร้านแต่ก็เจอกับผู้ชายตัวสูงใหญ่ที่มายืนขวางทางเอาไว้


"ขอโทษครับขอทางหน่อย" ทั้งๆที่รู้ว่ากำลังมีเรื่องผิดปกติแต่ผมก็ยังทำใจดีสู้เสือพูดออกไป


ผู้ชายสามคนมองหน้ากันก่อนจะหัวเราะออกมา หนึ่งในสามคนนั้นพูดออกมาทำเอาผมต้องถอยหลังด้วยความกลัว


"น่าตาดีเหมือนกันนี่หว่า"


"คุณพูดเรื่องอะไร" ผมถามพร้อมสอดส่ายสายตามองหาทางหนีที่ไล่


"ถ้ามึงไปกับพวกกูดีรับรองว่าร้านมึงไม่พัง พ่อแม่มึงไม่เจ็บตัว แต่ถ้าไม่"


มันถกชายเสื้อขึ้นเพื่อให้ผมเห็นกับกระบอกปืนที่เหน้บเอาที่เอว


"กูยิงไม่เลี้ยง"


มันเดินมาประชิดตัวไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไรใครอีกคนก็เอาผ้ามาอุดจมูกผม พยายามกลั้นหายใจให้ได้นานที่สุดแต่สุดท้ายก็ต้องสูดหายใจพร้อมกับกลิ่นฉุนๆที่อยู่ในผ้าเข้าไปเต็มปอด สติที่มีลางเลือนจนสุดท้ายก็ดับวูบ


ก่อนจะได้เห็นใครอีกคนที่เดินลงมาจากรถตู้


"อุ้มไปที่รถเร็ว!!"

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
เอร้ยยยย ไม่นะๆๆๆๆ
อิพี่พาย เมียแกโดนฉุดแล้ว
มาช่วยด่วน

ช็อคแปป เรื่องเทียน อ้ากกกกก

ออฟไลน์ RAKDEK_KA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1798
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1
รู้สึกว่าธูปดอกนี้จะมีแต่เรื่อง แฮะ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
มีแต่เรื่องเนอะธูป

ออฟไลน์ มะเขือม่วง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 435
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ ❁INDY_FAMILY❁

  • -ทำไมต้องเดินตามรอยเท้าใคร เราสามารถสร้างรอยเท้าของเราเองได้-
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-12
ผมไม่ใช่พ่อเด็ก
ตอนที่ ๓๖ หน้าสวยใจเสีย



ผมสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาไม่รู้ตอนไหนเวลาเท่าใดเพราะห้องที่ผมอยู่ถูกปิดด้วยผ้าม่านมิดชิด ผมพยายามจะลุกขึ้นจากที่นอนก็ไม่สามารถทำได้เนื่องจากมือทั้งสองข้างถูกล็อคด้วยกุญแจมือติดกับหัวเตียง ผมจึงล้มเลิกความพยายามที่จะดันทุรังเพราะยังไงสุดท้ายผมก็ไม่สามารถหลุดออกไปจากการเกาะกุมที่แน่นหนานี่ได้อยู่ดี สุดท้ายจึงเอาเวลามาคิดหาทางรอดวิธีอื่นสอดส่ายสายตามองดูภายในห้องที่ไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรมานักนอกจากโต๊ะเก้าอี้ โทรทัศน์ และที่ทำให้ผมลมหายใจสะดุดนั่นก็คือ กล้องวิดีโอสองตัวที่หันมาทางเตียง


ไม่ว่าใครก็ตามที่จับตัวผมมามันผู้นั้นต้องไม่หวังดีกับผมและมันก็คิดจะทำเรื่องระยำๆกับผมแน่นอน คราวนี้ผมไม่อยู่เฉยรอตกเป็นเหยื่อพยายามกระตุกแขนตัวเองมองหาทางรอดอันน้อยนิดและเมื่อดิ้นไปมาจนผ้าห่มคลุมกายร่นลงไปอยู่ที่เอว ผิวเนื้อสัมผัสกับความเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำให้รู้สึกตัวว่าร่างกายผมไม่มีเสื้อผ้าปกปิดเลยแม้แต่ชิ้นเดียว


นี่มันเรื่องอะไรกันวะ



เสียงพูดคุยดังขึ้นใกล้ๆพร้อมกับเสียงเปิดประตูทำให้ผมละความพยายามที่จะหนี แสร้งทำเป็นหลับทันทีเพื่อต้องการจะรับรู้ว่าใครเป็นคนที่จับผมมา เพราะถ้าผมตื่นมันอาจจะเป็นอันตรายกับผมมากกว่านี้ก็เป็นได้


"ทำไมยังไม่ตื่นอีก" เสียงคุ้นหูที่ได้ยินทำเอาร่างกายผมเกร็งตัวขึ้นอย่างอัตโนมัติ


"กูจะรู้ไหม ก็โป๊ะไปเท่าๆกับตอนอีนั้นอ่ะ"


"ถ้าพี่ธูปของกูเป็นอะไรไปพวกมึงโดนแน่"


"อย่ามาขู่กูนะอีบีมันไม่ตายหรอกแค่ยานอนหลับมึงก็ทำเป็นตื่นเต้นไปได้อีห่า ทำไมกลัวไม่ได้มันทำผัวรึไง"


เสียงทะเลาะยังคงดังอย่างต่อเนื่องในห้องที่ผมถูกล็อคเอาไว้ เสียงน้องบีโหวกเหวกโวายวายตะคอกใส่ผู้ชายอีกคนที่อยู่ในห้องเดียวกัน ผมเองก็ยังคงแกล้งทำเป็นหลับอยู่แบบนั้นเพราะไม่อาจคาดเดาได้ว่าถ้าพวกมันรู้ว่าผมตื่นแล้วมันจะมีอันตรายอะไรกับผมรึเปล่า


"พวกมึงออกไปก่อนไปกูจะอยู่กับผัวกู"


เสียงปิดประตูดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับความเงียบที่อัดแน่นไปด้วยความกดดันผมไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ ผมยอมรับว่ากลัวไม่ใช่ว่ากลัวน้องบีจะทำร้ายอะไรหรอกนะครับแต่ที่ผมกลัว ผมกลัวว่าน้องบีจะทำกับผมเหมือนที่ทำกับน้ำฝนถ้าเป็นแบบนั้นอย่าว่าแต่พี่พายเลยครอบครัวผมจะรับได้ไหมถ้าลูกชายต้องเป็นดาราหน้ากล้อง


"ทำไมยังไม่ตื่นอีกคะคนดี" มือนุ่มที่ลูบไล้บนใบหน้าผมทำเอาแทบหยุดหายใจ ผมสยองขนลุกซู่เหมือนตัวเองกำลังจะถูกฆ่าตายในไม่ช้า


"........."


"พี่รู้ไหมว่าบีรอเวลานี้มานานขนาดไหน พี่ไม่เคยรู้หรอกว่าบีต้องเสียอะไรไปบ้างเพื่อให้ได้พี่มาอยู่ตรงนี้"


น้องบียังคงพร่ำเพ้อและลูบไล้ร่างกายของผมไปทั่ว มือนุ่มๆนั่นเริ่มจะลูบต่ำลงมาเรื่อยๆจนผมต้องเกร็งหน้าท้องตัวเองเมื่อมือนั้นลูบวนอยู่ตรงสะดือ


"พี่รู้ไหมว่าพี่เป็นรักแรกของบีเลยนะคะ บียอมเปลี่ยนตัวเองเพื่อพี่ ยอมเจ็บตัวนอนบนเตียงให้หมอผ่าเปลี่ยนบีเป็นอีกคนก็เพราะพี่"


"......."


"บีอยากสวยก็เพราะพี่ บียอมเจ็บก็เพราะพี่ แต่ทำไม!!"


น้องบีตะเบ็งเสียงขึ้นมาพร้อมกับสะอื้นไห้ เธอร้องไห้ไปด้วยพูดไปด้วยฟังไม่ได้ศัพท์ เสียงร้องไห้ของเธอมันฟังแล้วทรมานแต่คำพูดอาฆาตร้ายที่เธอพูดออกมาทำเอาความน่าสงสารนั้นหายไปเยอะเหมือนกัน


"ทำไมอีผู้หญิงหน้าจืดนั้นถึงได้พี่ไปครอง ทำไมไม่ใช่บีทำไมๆ!!" เธอกรัดร้องคลุ้งคลั่งจนผมเริ่มกลัวว่าเธอจะอาละวาดทำร้ายตัวเองและก็ทำร้ายผมที่นอนอยู่ตรงหน้าเธอ


"........"



"แม้แต่ไอ้เกย์สกปรกนั้นก็ได้พี่ไป บีไม่ยอม พี่เป็นของบี ฮ่าๆ เป็นของบีคนเดียว "


เธอซบลงกับอกผมลูบมือปัดป่ายไปทั่วร่างอย่างย่ามใจเธอทั้งร้องทั้งสะอื้นและหัวเราะอย่างกับคนบ้าในเวลาเดียวกัน


"ไม่มีใครแยกเราสองคนได้หรอกค่ะพี่ธูป ไม่มี"


เธอผละออกจากร่างผมก่อนที่เสียงประตูจะดังขึ้นอีกครั้ง ความเงียบเข้ามาแทนทีผมลืมตาขึ้นช้าๆพยายามกระตุกข้อมือตัวเองอย่างกับคนบ้า รู้ว่ามันไม่มีทางหลุดแต่ผมก็ไม่อยากนอนอยู่เฉยๆให้อันตรายมาถึงตัว 


ผมดิ้นรนหาทางรอดอยู่นานแต่สุดท้ายมันก็เหมือนเดิมนั้นคือไร้ทางหนี ระหว่างที่ผมกำลังหาทางเอาตัวรอดอยู่นั้นประตูห้องก็เปิดออกอย่างแรง ร่างบางที่หน้าตางดงามที่ใครต่อใครเห็นพาลต้องมองเหลียวหลัง เดินเข้ามาในห้องพร้อมรอยยิ้ม


"ตื่นแล้วเหรอคะ"


"บีจับพี่มาทำไม" ผมถามทั้งๆที่พอจะรู้คำตอบอยู่แล้ว


น้องบีแค่ยิ้มเย็นๆส่งมาให้เธอมองผู้ชายที่เดินตามเธอเข้ามาอีกสามคนก่อนจะบอกให้หนึ่งในนั้นนำของบ้างอย่างมากรอกปากผม พอได้ยินคำสั่งพวกมันก็กรูกันเข้ามาจับผมอ้าปากเอาน้ำอะไรสักอย่างที่ไม่เป็นผลดีกับผมแน่ๆกรอกเข้ามาในปากผม ผมกัดปากตัวเองแน่นแต่หนึ่งในสามคนนั้นก็บีบจมูกผมจนสุดท้ายผมก็พ่ายแพ้ยอมอ้าปากเพื่อเอาอากาศเข้าปอดพวกมันจึงสบโอกาสนั้นกรอกน้ำใสๆเข้ามาในปากผมทันที


เมื่อเสร็จสิ้นที่น้องบีสั่งพวกมันก็พูดจาหยาบโลนกับน้องบีแต่ละคำไม่คิดว่าผู้ชายจะใช้พูดกับผู้หญิง น้องบีเองไม่มีท่าทีโกรธเคืองกับยิ้มชอบใจและหัวเราะร่าอย่างมีความสุข เธอสั่งให้พวกมันจับขาผมมัดกับขาเตียงเป็นอันเสร็จสิ้นงานของพวกมัน ก่อนที่เธอจะโยนห่ออะไรบ้างอย่างให้หนึ่งในสามคนนั้นและบอกให้พวกมันออกไปถ้าเธอไม่เรียกก็ห้ามเข้ามา


ผมเริ่มรู้ชะตากรรมของตนเองเมื่อร่างกายร้อนผ่าวแก่นกายปวดหนึบจนทนไม่ไหวผมเริ่มดิ้นเพื่อเอาตัวรอดอีกครั้ง น้องบีหัวเราะกับสิ่งที่ผมทำเธอเดินไปที่กล้องวิดีโอสองตัวเปิดทีวีที่อยู่ปลายเตียง ภาพของผมที่นอนอยู่ปลายเตียงปรากฏชัดในทีวีตรงหน้า ผมแหกปากลั่นห้องเมื่อรู้ชะตากรรมไม่ต่างจากน้ำฝน แต่ของผมอาจจะซวยกว่าตรงที่ดูเหมือนผู้กระทำจะทำจริง


น้องบีเดินมาใกล้เมื่อเธอจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้น เธอเปลื้องผ้าที่ตัวเธอออกจนหมด ผมเห็นดังนั้นก็ได้แต่หันหน้าหนีเริ่มรู้ชะตากรรมของตัวเองเธอดึงผ้าห่มที่คลุมกายผมออกทิ้งมันอย่างไม่ใยดี เธอนั่งลงข้างๆผมใช้สองมือประคองแก่นกายที่แข็งชูชันจากยาที่โดนกรอกปากก่อนที่เธอจะขึ้นคร่อมร้างผมและเริ่มในสิ่งที่ผู้หญิงน้อยคนจะกล้าทำมัน


ผมดิ้นรนทั้งขอร้องเธอให้หยุดการกระทำนั้น แต่เธอไม่แม้แต่จะสนใจเสียงของผมเธอยังคงทำมันซ้ำๆทุกวันโดนไร้การป้องกัน ผมโดนกรอกยาทุกครั้งเมื่อเธออยากมีสัมพันธ์ด้วย น้ำตาผมตกในทันทีเมื่อคิดถึงหน้าพี่พายมันคงรับไม่ได้เมื่อรู้ว่าคนที่มันไว้ใจกำลังมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่น ผมอยากร้องอยากแหกปากตะโกนใส่ใครสักคนที่ทำให้ชีวิตผมมันโคตรบัดซบถึงเพียงนี้ แต่จะโทษใครได้นอกจากความประมาทไม่ระวังตัวของตัวเอง


น้องบียังใจดีให้ผมได้พักกินข้าวอาบน้ำและทำธุระส่วนตัวแต่ทุกครั้งที่มือถูกปล่อยให้เป็นอิสระขาผมกลับถึงตรึงด้วยโซ่เหมือนนักโทษ น่าสมเพชตัวเองจนอยากจะตายวันล่ะหลายๆครั้ง ชีวิตผมวนลูปเดิมซ้ำๆไร้จุดสิ้นสุดถูกกระทำซ้ำๆด้วยความไม่เต็มใจ ผมเหมือนคนไร้สติเข้าไปทุกทีไม่รู้วันรู้เวลา รู้แค่ว่าจวนเจียนจะบ้าเสียให้ได้


"ถ้าบีท้องลุกเราต้องน่ารักมากๆเลยพี่ธูปว่าไหมคะ" ผมเงียบฟังเธอพูดจ้อเพ้อเหมือนคนบ้าต่อไปโดยไม่คิดจะขัด


"บีรักพี่ธูปนะคะ" เธอนอนกอดผมร่างกายเปลือยเปล่าของเราสองคนเสียดสีกันใต้ผ้าห่มแต่ทำกลับไม่รู้สึกพิศวาสเธอเลยสักนิดกลับกันผมรู้สึกสะอิดสะเอียนจนอยากจะอ้วก


"บี" เธอผงกหัวขึ้นมามองผมด้วยความดีใจที่ผมยอมเปิดปากพูดกับเธอ


"คะ"


"ทำแบบนี้ทำไม" ดวงตาผมเลื่อนลอยไร้ความรู้สึก ผมคงใกล้บ้าเข้าไปทุกวัน


"บีรักพี่" คำตอบของเธอเหมือนทุกครั้งเวลาที่เธอพูดกับผม สายตาเธอเลื่อนลอยหาจุดหมายปลายทางไม่เจอ เราสองคนคงจะใกล้บ้าพอกัน


"แต่พี่ไม่ได้รักบี"


"ฮ่าๆๆ" เธอหัวเราะออกมา  "พี่จะบอกว่าพี่รักไอ้ผู้ชายสกปรกนั้นเหรอคะ"


ผมหันสายตากลับไปมองเธอ "พี่พายไม่ใช่ผู้ชายสกปรก!!"  ผมตวาดลั่น


"มันทำให้พี่ผิดเพศไม่เรียกว่าสกปรกวิปริตจะเรียกว่าอะไรคะ!!" เธอเองก็โมโหไม่แพ้กัน


"........"



"แต่ช่างเถอะค่ะ เพราะหลังจากนี้มันจะไม่มายุ่งกับเราสองคนแน่นอน ฮ่าๆๆ"


ผมเริ่มสังหรณ์ใจแปลกๆว่าจะเกิดเรื่องขึ้นในไม่ช้า แต่แล้วสิ่งที่ผมคิดมันก็เป็นจริงเมื่อผู้หญิงข้างกายเอ่ยปากบอกในสิ่งที่ผมกลัว


"บีส่งคลิปรักของเราสองคนให้มันแล้วนะคะ ป่านนี้คงอกแตกตายไปแล้วล่ะมัง ฮ่าๆสะใจจริงๆ ต่อไปก็จะไม่มีหมาตัวไหนมาขวางทางเราได้แล้วนะคะที่รัก"


ผมตัวแข็งทื่อสมองไร้การรับรู้ทุกสิ่งรอบตัว พี่พายเห็นคลิปรึยังพี่พายจะรับได้ไหมพี่พายจะรังเกลียดผมไหม ในหัวผมมีแต่ความกังวลเกี่ยวพี่พายกลัวไปหมด กลัวพี่พายจะโกรธและหมดรักผมโดยที่ผมไม่มีโอกาสได้อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่นิด


แค่คิดน้ำตาก็พาลจะไหล


กลิ่นคาวจากน้ำกามส่งกลิ่นชวนสำรอกมันคละคลุ้งไปทั่วห้องแต่นั่นยังไม่น่าอาเจียนเท่าคำรักที่ผู้หญิงข้างกายผมพ่นมันออกมา ผมได้แต่นอนนิ่งๆให้เธอกอดลูบไล้เธอจะทำอะไรกับร่างกายของผม ผมเองก็ไม่อาจจะขัดขืนได้สุดท้ายจึงได้เพียงแต่นอนนิ่งๆเหมือนคนไร้หัวใจให้เธอทำตามอำเภอใจโดยไม่คัดค้าน


ผมเริ่มชินกับชะตากรรมของตัวเองหลังจากเธอเพ้อสนุกกับร่่งผมจนพอใจเธอก็จะลุกไปอาบน้ำหาอะไรใส่ปากใส่ท้องยังดีที่เหลือมาเผื่อแผ่ถึงผม เมื่อปากท้องอิ่มเธอก็เริ่มจะทำเรื่องบัดสีกับร่างกายผมเหมือนทุกๆวันวนซ้ำไปเรื่อยๆจนผมชินชา


แต่วันนี้เหมือนสรรค์จะได้ยินคำอ้อนวอนของผมขณะที่ผู้หญิงคนนี้นั่งอยู่บนร่างผมเธอกำลังสนุกกับร่างกายของผมอยู่นั้นเสียงเอะอะก็ดังขึ้นจากหน้าห้องก่อนที่ประตูห้องจะโดนกระแทกอย่างแรงและปรากฏร่างของที่ผมคิดถึงสุดหัวใจ


"พี่พาย" ผมร้องออกมาด้วยความดีใจอย่างห้ามไม่อยู่


พี่พายตะลึงกับภาพที่เห็นก่อนจะตั้งสติได้พี่มันกระชากตัวน้องบีออกมาจากร่างผมก่อนฝามือจะตบเข้าที่ใบหน้าสวยนั้นอย่างแรงจนน้องบีสลบหลับไปกลางอากาศ


พี่ไฟและไอ้เทียนตามเข้ามาในห้องอย่างร้อนรนเมื่อทั้งคู่เห็นผมเป็นพี่ไฟที่ตั้งสติได้พี่ไฟนำผ้าห่มมาคลุมร่างผมก่อนจะตะโกนให้คนข้างนอกเอากุญแจมาปลดพันธนาการให้ผม ไอ้เทียนหน้าตาดุดันมันย่างสามขุมเข้าหาผู้หญิงคนนั้นก่อนจะลากเธอไปทางห้องน้ำ สักพักเสียงกรีดร้องอย่างหวาดกลัวก็ดังขึ้น


เมื่อผมเป็นอิสระจากพันธนาการก็รีบรุดไปดูไอ้เทียนด้วยกลัวว่ามันจะฆ่าผู้หญิงคนนั้นตายคามือ ผมลงจากเตียงใช้ผ้าห่มคลุมกายก่อนจะวิ่งไปเพื่อห้ามน้องตัวเอง ภาพที่ทำให้ใจหายวาบไอ้เทียนกำลังจับผู้หญิงคนนั้นกดน้ำในโถส้วมก่อนที่มันจะกรนด่าเธอสารพัดสุดท้ายพี่ไฟก็จับทั้งสองคนแยกจากกัน พี่พายเดินมากอดผมเอาไว้


อ้อมกอดที่ผมคิดถึงและโหยหาผมพลิกตัวซบหน้าเข้าหาพี่หาย กลิ่นกายที่คิดถึงอ้อมกอดที่อบอุ่นน้ำตาผมไหลจนกลายเป็นเสียงสะอื้นพี่พายพรมจูบไปทั่วหน้าผม ปากก็พร่ำบอกว่าปลอดภัยแล้วไม่เป็นไรแล้ว ก่อนที่เราทั้งคู่จะถูกกระชากออกจากกันด้วยฝีมือน้องชายของผม


"ธูปไม่เป็นไรใช่ไหม" ไอ้เทียนเอ่ยปากถามมือมันลูบหน้าลูบตาผมด้วยความวิตก


"ไม่เป็นไร" ผมรู้ว่ามันเป้นห่วงผมแต่เรื่องก่อนหน้าที่ผมจะถูกจับมามันยังอยู่ในหัว สุดท้ายผมก็ไม่กล้าสบตามันซึ่งๆหน้าเพราะผมยังทำใจไม่ได้กับเรื่องที่มันบอกกับผม


"ธูปกลับบ้านไปก่อนนะ เดี๋ยวพี่ตามไป" พี่พายบอกผมพร้อมกับลูบหัวผมเบาๆ


"พี่พายจะทำอะไร" ผมถามเพราะรู้สึกกลัวว่าพี่พายมันจะทำอะไรบ้าๆ


"เชื่อใจพี่นะครับคนดี" พี่พายพูดกับผมก่อนจะหันไปหาพี่ไฟ  "พาธูปกลับบ้านไปทีนะครับ"


พี่ไฟยิ้มเย็มก่อนจะตอบกลับไป  "ผมจะอยู่นี้เก็ดกวาบทุกอย่างเอง"


ผมมองคนทั้งคู่แล้วรู้สึกขนลุกซู่ ทำไมสองคนนี้ฉายแววอำมหิตออกมามากมายจนผมเองยังรู้สึกกลัว


"กูก็จะอยู่สั่งสอนมันเหมือนกัน" ไอ้เทียนที่ยืนกอดผมพูดขึ้นมาบ้าง


"ไม่ได้!!" พี่ไฟตวาดลั่น


"ทำไมอ่ะ"


"เทียนอยู่ใครจะดูแลธูป กลับไปพร้อมธูปนั้นแหละที่เหลือพี่จัดการเอง"


ไอ้เทียนคงเห็นด้วยมันกระฟัดกระเฟียดก่อนจะประคองผมพาไปที่รถตู้ที่มีคนของพี่พายรออยู่ ผมกังวลใจด้วยเพราะรู้นิสัยพี่ชายตัวเองและคนรักว่าเมื่ออารมณ์ดีก็ดีใจหายแต่ถ้าร้ายก็ดั่งพายุที่พร้อมจะทำร้ายทุกอย่างที่ขว้างหน้า


แต่สุด้ทายก็ได้แต่ปลง ใครทำอะไรไว้สุดท้ายก็ต้องรับผลกรรมที่ตนก่ออยู่ดี ไอ้เทียนกอดผมไว้แน่นมันตัวสั่นด้วยความโกรธผมรู้มันอยากแก้ให้ผมแต่มันคงคิดได้ว่าแค่สองคนในบ้านนั้นและลูกน้องอีกนับสิบก็คงพอไม่ต้องถึงมือมัน


ผมหลับตาลงช้าๆนึกรังเกียจตัวเองที่ร่างกายสกปรกถ้าจะมีใครที่สกปรกอย่างที่ผู้หญิงคนนั้นพูดคนๆนั้นคงเป็นผมเองนี่แหละ


ผมไม่อยากจะคิดเลยว่าพี่พายจะกอดผมโดยที่ไม่รู้สึกอะไรเลยไหมจะกอดโดยสนิทใจรึเปล่า


"เทียนขอโทษ" เสียงสั่นๆดังขึ้นเหนือหัวผม


ผมเงยหน้ามองคนที่หน้าเหมือนผมทุกกระเบียดนิ้วที่กำลังกอดดผมอยู่


"ขอโทษเรื่องอะไร" ผมถาม


"ขอโทษที่บอกความรู้สึกของเทียนให้ธูปรู้ ขอโทษที่ทำให้ธูปไม่สบายใจ ขอโทษ....."


"พอเถอะไม่ต้องแล้ว กูไม่เคยโกรธมึงเลยนะเทียน"


"........."



"เพราะมึงคือน้องกู คืออีกครึ่งชีวิตของกู กูรักมึงมากอาจจะมากกว่าชีวิตกูเองด้วยซ้ำแต่กูขอร้องล่ะนะ" ผมจ้องตามันก่อนจะพูดต่อ  "อย่าบังคับให้กูเลิกกับพี่พายเลยนะ กูขอร้อง"


ไอ้เทียนกอดผมแน่นมันซบหน้าลงกับหัวผมตัวมันสั่นเทาพอๆกับผมมันกอดผมนิ่งโดยไม่พูดอะไร มันคงไม่ยอมรามือเรื่องนี้แน่นอน


แต่ก่อนที่ผมจะได้พูดอะไรคนที่กอดผมก็พูดขึ้นมาเสียก่อน  "ธูปรู้อะไรไหม"


"......."


"ตอนธูปหายไปมันตามหาธูปจนไม่ได้หลับได้นอน ไปทุกที่ที่คิดว่าธูปจะไปพวกเพื่อนๆธูปเองก็ช่วยกันออกตามหา"


"......."


"พวกเราเป็นกังวลกันมากว่าจะเกิดอะไรกับธูป แต่มันกลับตามหาธูปไม่หยุด จนเมื่อมีคนส่งของมาให้มันสุดท้ายมันก็แกะรอยตามหาธูป มันทุ่มเทสุดอย่างเพื่อตามหาธูปยอมเสียการเสียงาน ยอมใช้อำนาจทั้งหมดที่มีเพื่อตามหาธูปให้เจอ มันใช้ทุกอย่างที่มันมีเทียนเห็นความพยายามของมันป๊าม๊าเองก็เห็นความตั้งใจของมัน"


ไอ้เทียนหยุดพูดมันมองหน้าผมที่เงยหน้ามองมันอยู่ก่อนแล้ว "ป๊าดีใจมากที่มันบอกว่าธูปอยู่ไหน ลำพังบ้านเราคงไม่มีทางหาธูปเจอเร็วขนาดนี้ เทียนรู้ว่ามันรักธูปเทียนรู้ว่าธูปเองก็รักมัน แต่ธูปสัญญากับเทียนได้ไหม"


"สัญญาอะไร" ผมดีใจจนเนื้อเต้น 


ไอ้เทียนมันยิ้มอย่างอบอุ่นมาให้ก่อนมันจะพูดต่อ  "สัญญาได้ไหมว่าจะไม่รักมันเท่าเทียน สัญญาได้ไหมว่าจะให้เทียนเป็นที่หนึ่งสำหรับธูป"


ถึงไม่ต้องสัญญาผมก็ทำแบบนั้นอยู่แล้วก็มันเป็นน้องชาย เป็นสายเลือดเดียวกันกับผมต่อให้ผมรักพี่พายมากมายขนาดไหนผมก็ไม่มีทางรักคนอื่นมากกว่าครอบครัวเด็ดขาด


"กูไม่สัญญา" ผมบอก ไอเทียนที่ได้ยินหน้าม่านไปทันที ผมจึงพูดต่อ


"เพราะไม่ว่ายังไงมึงก็คือน้องชายกู ยังไงกูก็ต้องรักมึงมากกว่าอยู่แล้ว"


ไอ้เทียนยิ้มจนตาหยีเมื่อได้ยินคำผม มันกอดผมหัวเราะในลำคออย่างมีความสุข


ผมเองก็ยิ้มออกมาเช่นกันเกิดเรื่องขึ้นมากมายภายในเวลาไม่กี่วันที่ผ่านมาแต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมรู้อย่างนึงว่า 'ครอบครัวไม่มีวันจะทิ้งกันไปไหน'


เหลือแต่ว่าผมจะกล้าสู้หน้าป๊าม๊าและพี่พายหลังจากนี้ได้สนิทใจหรือไม่แค่นั้นเอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-09-2015 10:15:49 โดย ❁INDY_FAMILY❁ »

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
เผลอๆ บีจะจิตยิ่งกว่ามิลล์ที่เป็นโรคเสียอีก  :เฮ้อ:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด