【*...สุดที่รักษ์...*】Ver. Rewrite แจ้งข่าว P.67 [02/09/59]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 【*...สุดที่รักษ์...*】Ver. Rewrite แจ้งข่าว P.67 [02/09/59]  (อ่าน 600073 ครั้ง)

ออฟไลน์ Praykanok

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ช่วงแรกๆติดตามอ่านมาตลอด แต่พอซักตอน20เริ่มไม่ค่อยว่าง นี่เพิ่งมีเวลามาอ่านจนจบบบบ
ฉากหวานน้อยนิด แรไอเท็มสุดๆ แต่ก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นนะคะะะ
เสียดายอยากให้ลงตอนพิเศษที่เคลียร์ปมเรื่องพ่อกับคุณชายในนี้ด้วยยย
เพราะรู้สึกว่ามันเป็นปมหลักๆของเรื่องเลยยย

ออฟไลน์ pim_onelove

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
เรื่องนี้จะมีหนังสือไหมคะ อยากได้ตอนพิเศษ อยากอ่านเรื่องราวหลังจากเป็นคนรักกันแล้วค่ะ
อยากรู้ว่าคุณชายจะหวานกับเขาเป็นไหม 55555  :laugh:  :m20:  :jul3:

ออฟไลน์ แม่น้ำพระจันทร์

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ถึงกับล็อคอินมาตอบ

ชอบเนื้อเรื่องมากค่ะ  มันทำให้เรารู้สึกว่า กำลังอ่านนิยายสืบสวนสอบสวน

ถ้ามีตอนพิเศษให้อ่านในนี้ จะดีใจมากค่ะ

ออฟไลน์ Shumi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
นิยายดี ๆ อีกเรื่องหนึ่ง ขอบคุณมากนะครับ ไม่ต้องห่วงว่าฉากหวานน้อยหรืออะไร รู้สึกว่ากลมกล่อมแล้ว รับรู้ได้ถึงกลิ่นอายอุ่น ๆ

แล้วก็.. ตอนพิเศษน่าติดตาม ไม่ทราบว่าจะหาอ่านจากที่ไหนได้

ออฟไลน์ whitelavenders

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เป็นนิยายที่สนุกและน่าติดตามมากเลยค่ะ ถึงจะไม่ค่อยมีฉากเซอร์วิส
แต่ว่าก็ชดเชยด้วยเรื่องของกระบวนการทำงาน เวลาเห็นไอเดียคิดตามแล้วรู้สึกสนุกดี
คุณนักเขียน ก็ยังเขียนได้เยี่ยมเหมือนเดิม ไม่ผิดหวังเลยค่ะ ตั้งแต่เรื่อง sotus
เราค่อนข้างชอบความสัมพันธ์ที่ค่อยเป็นค่อยไปของรักษ์กับคุณชาย
แล้วก็จะบอกว่าไม่ใช่แค่รักษ์นะที่หัวหมุน คนอ่านก็ไม่แพ้กันค่ะ 555555

ชอบน้องรักษ์มากเลยค่ะ เป็นเด็กดี มีน้ำใจ มีความเป็นนักโจรกรรมนิดๆ 55555

ออฟไลน์ pwstz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ปกติเวลาอ่านนิยายที่อธิบายมีหลักการเชิงลึกมากๆจะรู้สึกว่ามันหนักเกินไป
คืออ่านนิยายเพื่อคลายเครียด แต่ยิ่งอ่านยิ่งเครียด จะไม่โอเค (แต่บางคนเขาก็ชอบนะ)
แต่สำหรับเรื่องนี้ ไม่แน่ใจว่าเพราะเป็นเนื้อหาของงานโฆษณาหรือเปล่าเลยทำให้ไม่รู้สึกว่ามันหนักเกินไป
อ่านไปก็แบบ โอ้โห รักษ์แม่งโคตรเก่ง คิดได้ยังไง ชอบมากๆ
ถึงจะไม่ได้หวือหวา หวานแหววมาก แต่ทำมห้เราอ่านรวดเดียวจบเลย
ชอบมากๆ ยังไงก็จะรอรวมเล่มนะคะ อยากรู้เบื้องหลังน้องปลื้มมาก
ปล.บอกคุณชายเพลาๆงานบ้างเถอะ คือกลัวจะน็อคเข้ารพ.ซะก่อนจะได้แฟน  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Chk~a

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 618
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-1
ออกเป็นหนังสือหยังหว่า

รอคุณเฮงกับทัตเลย

ออฟไลน์ sherline8

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สนุกมากเลนค่ะ อ่านรวดเดียวจบเลยยย ขอบคุณนะคะที่เขียนนิยานแบบนี้ออหมา ไม่ๆด้เน้นความหวือหวา แต่เน้นความเป็นๆปของตัวละคร รู้สึกถึงความเรียลในความรู้สึกมาก 5555555 :-[

ออฟไลน์ RiyaKwon

  • Riya Kwon*Kwon Riya
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1021
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ว๊ายยยยย น้องรักษติดกับคุณชายเเล้ว 5555

ออฟไลน์ RiyaKwon

  • Riya Kwon*Kwon Riya
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1021
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ไม่เบื่อเลยค่ะ
ได้ทั้งความสนุกเเละสาระ อาจเพราะเราชอบคาเร็กเตอร์พระนายเเบบนี้ด้วยมั้ง
อ่านไปลุ้นไปคิดไป ว่าจะเป่นเเบบที่คิดไหม เลยยิ่งทำให้สนุกเเละน่าติดตามค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ RiyaKwon

  • Riya Kwon*Kwon Riya
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1021
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
สองคนนี้น่าร๊ากกกน่ารัก เป็นคู่ที่คอยส่งเสริมซึ่งกันและกัน
สมกันที่สุด

ออฟไลน์ RiyaKwon

  • Riya Kwon*Kwon Riya
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1021
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
สนุกเเละน่าติดตามเหมือนเดิมค่ะ

ออฟไลน์ Charmy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
รักกับแบบเงียบๆมากอิอิ

ออฟไลน์ ohuii

  • Why I cannot upload profile picture?
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-4
กลับมาอ่านต่อจนจบแบบไม่หลับไม่นอน
แอบอยากอ่าน Side ของทัต หวังว่าจะไม่ใช่..

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
อ่านรวดเดียวเครียดมากค่ะ คุณชายแสดงความรู้สึกบ้างก็ได้นะคะ 55555555 ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆอีกเรื่องนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ Ma Lullaby

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Re: 【*...สุดที่รักษ์...*】Ver. Rewrite
«ตอบ #1995 เมื่อ31-08-2016 20:24:44 »

กลับมาดันให้คุณชายกับน้องรักษ์

คิดถึงๆๆๆ :katai5: :3123:

ไม่ทราบว่ามีตีพิมพ์ไหมคะ

นิยายดีๆอย่างนี้อยากเก็บไว้ในคลังมากค่ะ :L2:

ด้วยรักและหวงห่วง จุ๊ฟๆ :mew1:

ออฟไลน์ BitterSweet

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +725/-2
Re: 【*...สุดที่รักษ์...*】Ver. Rewrite
«ตอบ #1996 เมื่อ01-09-2016 09:43:38 »

【*...สุดที่รักษ์...*】




บทที่ 10 : Keep Walking



"เส้นปลาต้มยำพิเศษสองครับ"



ตอนสั่งอาเฮียร้านก๋วยเตี๋ยวไป อนุรักษ์ก็ยังคิดว่าตัวเองพิลึก



ทั้งที่เมื่อวานจัดเมนูต้มยำไปสี่จาน เที่ยงวันต่อมาก็ยังจะอุตส่าห์ร้องหา ...ไม่ใช่เพราะใจเขามัวพะวงกับโฆษณาผงปรุงรส  แต่สาเหตุหลักเพราะร้านก๋วยเตี๋ยวในซอยข้างเจคิงส์ซูเปอร์ขึ้นชื่อเรื่องต้มยำอร่อย  เขาเลยชอบมาใช้บริการเติมพลังก่อนเข้าทำงานประจำ



ส่วนสาเหตุรอง เพราะร้านนี้เป็นสถานที่นัดพบกับใครบางคน



"ไงมึง"



อนุรักษ์ทักเพื่อนสนิทที่กำลังจดจ่ออยู่กับหนังสือพิมพ์กีฬา แต่เปล่าหรอก...เขารู้ว่าจริงๆ มันกำลังคร่ำเคร่งอ่านเรื่องย่อละครหลังข่าว ไอ้ที่ต้องแสร้งทำเป็นเก๊ก แค่อยากจะรักษามาดเด็กติสท์เจ้าของร้าน 'ทัตเทพ' ต่างหาก



ไอ้ทัตเคยอ้างว่ามันเอาไว้อ่านเล่นขำๆ แก้เบื่อ แต่ระดับความขำๆ ของมันจริงจังพอๆ กับแม่บ้านแฟนพันธุ์แท้ละครไทย หลังจากเขานั่งร่วมโต๊ะ อีกฝ่ายจึงแค่ส่งเสียงทัก โดยไม่ละสายตาจากตัวหนังสือ



"รอแป๊บ เหลืออีกสองย่อหน้า มึงแม่งมาช้า มิกเซอร์กูหมดไปสองขวดแล้ว"



ขวดน้ำเก๊กฮวยเปล่าๆ วางไว้เป็นหลักฐานประกอบวงเหล้าสมมติ



แม้พวกเขาจะทำงานที่เดียวกัน หากกลับหาจังหวะคุยกันได้น้อยมาก เพราะเริ่มงานคนละเวลา ออกคนละเวลา  ...เพื่อนคนอื่นอาจท่องราตรีเข้าผับสังสรรค์ดึกดื่น แต่พวกเขาเปลี่ยนมานัดกินก๋วยเตี๋ยวตอนเที่ยงแทน ทว่าเนื้อหาที่คุยก็ไม่ต่างจากบทสนทนายามเมื่อเหล้าเข้าปาก ...ถ้าไม่บ่นเรื่องงาน ก็ต้องระบายเรื่องรัก



อนุรักษ์จึงเอ่ยตรงเข้าประเด็นโดยไม่อ้อมค้อม



"มึงไปเจออะไรมาวะถึงโทรเรียกให้กูมาหาเนี่ย ไหนมึงบอกว่าเจอคนซ่อมใจได้แล้วไง หรือโดนทิ้งเขาแล้ว"



"ของกูยังโอเคดีเว้ย รักกันหวานชื่น แต่กูมีเรื่องจะถามมึง"



"เรื่องอะไร"



ก๋วยเตี๋ยวถูกนำมาเสิร์ฟ พร้อมๆ กับไอ้ทัตวางหนังสือพิมพ์ในมือลง ขยับแว่นเปลี่ยนไปถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด



"รักษ์ มึงตอบกูมาตามตรงนะ ตอนนี้มึงเดือดร้อนเรื่องเงินรึเปล่า"



เขาเลิกคิ้วงง ใช้ตะเกียบชี้ชามตรงหน้า "ถ้าเดือดร้อนแล้วกูจะสั่งเส้นปลาพิเศษมาสองชามทำไมวะ"



เส้นปลาคือเมนูแพงสุดของร้าน ยิ่งแบบพิเศษราคารวมจึงมหาโหดปาไปเกือบสองร้อย ปกติเขาไม่ค่อยสั่งเบิ้ล แต่เงินเดือนเพิ่งออก เลยตั้งใจจัดเต็มกับของโปรดให้หายอยาก



พอฟังคำชี้แจงคนกังวลจึงมีท่าทีผ่อนคลายลง "เออ ถ้างั้นกูค่อยโล่งใจหน่อย"



"ทำไมมึงถึงคิดว่ากูร้อนเงิน"



เขาลงมือทานมื้อเที่ยง ระหว่างย้อนถามคนห่วงสวัสดิภาพกระเป๋าตังค์ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนมันเคยขูดรีดค่าซ่อมโทรศัพท์จากเขาแพงๆ  แต่ความจริงไอ้ทัตก็แค่แกล้งพูดไปงั้น เพราะมันไม่เคยเอาเงินเขาเลยสักบาท



...'ธุรกิจไม่มีคำว่าเพื่อน' ฉะนั้นหากเลือกจะรักษา 'เพื่อน' เงินจึงไม่ใช่ประเด็นสำคัญมากไปกว่าน้ำใจและความห่วงใย พวกเขาสองคนยึดหลักการนี้มาตลอดหกปีเต็ม



แต่ดูเหมือนความเป็นเพื่อนอาจสิ้นสุดลงวันนี้ เมื่อได้ยินคำตอบจากไอ้ทัต



"กูนึกว่ามึงไปเป็นเด็กเสี่ย"



เส้นปลาแทบสำลักออกจากจมูก อนุรักษ์เบิกตาโตกับคำกล่าวหา



"กูเนี่ยนะเป็นเด็กเสี่ย!"



"ก็เมื่อวานกูเห็นมึงเดินกับเสี่ยที่ใส่สูท"



เสี่ยที่ใส่สูทมาเดินซูเปอร์คงมีเพียงคนเดียว ด้วยมาดและท่าทางผู้ดีเปล่งออร่า ไม่แปลกที่ไอ้ทัตจะเข้าใจผิด แต่อย่างน้อย มันควรมองว่าเขาเป็นคนรับใช้ มากกว่าเป็นคู่ขาไม่ใช่รึไงวะ!



"นั่นเจ้านายกูเอง มึงจำคุณชายที่กูทำมือถือเขาตกน้ำได้ไหม"



อนุรักษ์แก้ไขคำอธิบายใหม่ ทัตพยักหน้า



"อ้อ จำได้ แล้วเขาไปเป็นเจ้านายมึงตั้งแต่เมื่อไร ไหนตอนแรกมึงบอกว่าคุณชายกวนประสาท เป็นโรคหวาดระแวงไง"



คนเผชิญเหตุการณ์พลิกกลับตาลปัตรถอนหายใจ  "เฮ้อ...เรื่องมันยาว..."



แล้วเขาก็เริ่มต้นเล่าเรื่อง ตั้งแต่ตอนที่คุณชายฝากซิมโทรศัพท์  ไปจนถึงสปายซึ่งแฝงตัวมาในเอเจนซี่ไทเกอร์ แล้วจบท้ายตรงที่เขาถูกจ้างเป็นเด็กฝึกงานตำแหน่งครีเอทีฟ  ไอ้ทัตพิจารณาทุกอย่างเงียบๆ ก่อนออกความเห็น



"ฟังจากที่มึงเล่า กูว่ามันทะแม่งๆ ว่ะ"



"ทะแม่งตรงไหน"



"ซิมโทรศัพท์นั่นอ่ะ ปกติต้องให้เจ้าของบัญชีมายืนยันเท่านั้น ถึงจะสามารถผูกเบอร์เข้ากับบัญชีธนาคารได้ แล้วคุณชายไปสมัครรับข้อความบัญชีเงินใต้โต๊ะเอเจนซี่คู่แข่งมาได้ยังไง ...มึงไม่สงสัยเลยเหรอ"



...ไม่เลย เขาไม่เคยใช้บริการรับข้อความจากธนาคารจะไปรู้กระบวนการสมัครได้ยังไง ตอนนั้นเขามัวแต่โกรธที่คุณชายยัดเยียดซิมมาให้ จึงไม่ทันเอะใจอะไร



"กูรู้แค่ว่าเจ้าของบัญชีไม่ใช่คนในเอเจนซี่ไทเกอร์ หรือคุณชายจะมีสายอยู่ใน ATM ด้วยเหมือนกัน"



อนุรักษ์ลองตั้งข้อสังเกต ถ้ามีคนในเอเจนซี่ ATM คอยช่วยก็คงไม่ยากจะหาเจ้าของบัญชี  แต่สมมติฐานอ่อนเหตุผลของเขากลับถูกปัดทิ้งง่ายๆ



"ถ้ามีสายจริง แล้วทำไมเขาต้องฝากซิมไว้กับมึงด้วยล่ะ"



"เออ...ก็คุณชายระแวงกลัวคนในบริษัทจะรู้ กูเป็นคนนอกเขาก็เลยไว้ใจมั้ง"



"แต่ตอนนี้คุณชายกำลังดึงมึงให้มาทำงานกับเขานะ ถ้าอยากเก็บความลับเรื่องซิมให้พ้นจากคนในบริษัทก็ไม่เห็นจำเป็นต้องจ้างมึง"



"ก็...ก็กูไม่ค่อยได้เข้าบริษัทไง กูแค่ช่วยงานจิปาถะกับโทรรายงานเวลามีข้อความจากธนาคารเข้า คุณชายจะได้เช็คว่าพนักงานอยู่ที่ไหน ทำอะไร"



"แล้วถ้าเกิดข้อความเข้าตอนโทรศัพท์ไม่อยู่กับตัวมึงจะทำยังไง ...อย่างตอนนั้นที่มึงบอกว่ามีคนโอนเงินออกช่วงเกือบห้าทุ่ม คุณชายเขาจะแยกร่างเป็นสตอล์กเกอร์ตามดูลูกน้องทุกคนได้เหรอวะ"



"เออ...คือ เรื่องนั้น...."



"ยิ่งเดี๋ยวนี้มันมีอินเตอร์เน็ตแล้วนะเว้ย ถ้าอยากรู้ประวัติโอนเงินเข้าออกก็เช็คผ่านแอพธนาคารเอาเองดิ ...ถึงมือถือจะเคยถูกขโมยไป แต่แอพธนาคารมีความปลอดภัยสูง ต้องกรอก Username กับ Password ให้ถูกต้อง แล้วถ้าไม่ใช้งาน ระบบก็จะ Log out อัตโนมัติในเวลาสิบห้านาที ไม่ใช่ว่าใครจะแฮคข้อมูลไปดูได้ง่ายๆ หรอก ...มึงว่าจริงไหม"



...หมดคำค้าน



อนุรักษ์รู้สึกตัวเองเป็นทนายยืนอยู่ในชั้นศาลพิจารณาคดีความ และกำลังโดนผู้พิพากษาจี้ประเด็นของผู้ต้องหาที่เขาพยายามปกป้อง ราวกับใช้ค้อนตอกกระแทกซ้ำๆ ตรงจุดซึ่งเขาพยายามเลือกเมินมัน  หากตอนนี้ทุกสิ่งกำลังปริแตกออกช้าๆ หูอื้ออึ้งได้ยินเพียงเสียงคำประกาศตัดสินดังขึ้นชัดเจน



"สรุปก็คือ ไม่มีเหตุผลที่ต้องทำเรื่องให้มันยุ่งยากซับซ้อนขนาดนั้น ยกเว้นแค่ว่า..."



ทัตหยุดตรงท้ายประโยค มองปฏิกิริยาเพื่อนผู้เอาแต่ก้มหน้าจับจ้องชามเส้นปลาต้มยำ คล้ายจะหลบเลี่ยงผลที่ออกมาเป็นคำตอบเดียว



"คุณชายเขาจงใจเข้าหามึงตั้งแต่แรก"



ไม่ใช่ไม่เคยสงสัย ยิ่งพักหลัง บ่อยครั้งเลยที่อนุรักษ์ตั้งคำถามกับตัวเองว่า เพราะอะไรคุณชายถึงต้องวุ่นวายกับตนนัก ชอบมาบังคับให้ทำนู้นทำนี้ มีท่าทีเหมือนจะไม่ใส่ใจ แต่จริงๆ ก็คอยดูแลห่างๆ คอยสอนงานโฆษณาให้ แสดงความห่วงใยคล้ายเห็นเขาเป็น...เด็กเล็กๆ



"เขาอาจจะแค่ถูกชะตากับกูมั้ง คงเห็นว่ากูเป็นเหมือน...น้องชายคนหนึ่ง"



ภาพเจ้าของรอยยิ้มกว้างนั้นกระจ่างชัดอีกครั้ง



ถ้าคุณชายยังคงเก็บรูปน้องชายที่เสียไปไว้ในสมาร์ทโฟน เหมือนที่เขาเก็บข้อความจากแม่ไว้ในโทรศัพท์ คุณชายก็มีจุดอ่อนไม่ต่างจากเขา



...ยึดติดกับสิ่งของและความทรงจำที่ไม่มีวันคืนกลับมา



ด้วยเหตุผลเดียวกัน อาจทำให้คุณชายนึกสงสารหรือเห็นใจเขา เลยพยายามสร้างข้ออ้างต่างๆ เพื่อหวังจะหาโอกาสชดเชยแทนน้องชายที่เสียไป



ทว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยรักษาแผลในใจให้กับคุณชายได้จริงๆ น่ะหรือ



เสียงริงโทนโทรศัพท์ดังปลุกอนุรักษ์ที่จมจ่ออยู่กับความคิดของตัวเอง เขาลนลานรีบล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบมือถือเก่าโทรมขึ้นมา เบอร์แปลกตาที่ไม่ได้เม็มรายชื่อไว้ปรากฏบนหน้าจอ ที่สำคัญสายซึ่งโทรเข้าเครื่องไม่ได้มาจากซิมของเขา



“สวัสดีครับ”



             เขากดรับ แต่ไม่มีเสียงใดๆ ตอบกลับจนต้องพูดย้ำอีกรอบ

             

               “สวัสดีครับ...ฮัลโหล...ได้ยินไหม?”

           

                 แล้วอยู่ๆ ปลายสายก็ถูกตัดไปทั้งอย่างนั้น เขาขมวดคิ้วมองมือถือตนเองงงๆ จนไอ้ทัตต้องถาม



                “อะไรมึง?”



                “คงโทรมาผิดมั้ง”



                ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเกิดในเมื่อหมายเลขโทรศัพท์มีเป็นหลายล้านเบอร์ อาจมีคนกดผิดโทรเข้าซิมที่คุณชายฝากไว้ก็เป็นได้ กระนั้น  มีสิ่งหนึ่งที่ส่งเข้ามาถูกเบอร์อย่างไม่พลาด



ตี๊ด! ตี๊ด!                                                         

                   

เสียงเตือนข้อความดังตามขึ้นมา และเพียงแค่เขาเห็นชื่อผู้ส่งก็ใจหายวาบ





"กูขอไปโทรศัพท์แป็บ"



รีบลุกออกไปนอกร้านด้วยความกังวล เพราะรู้ดีว่า SMS แจ้งเตือนเงินเข้าจากธนาคารนี้ มันคือรางวัลหลังเสร็จภารกิจขัดขวางงานจากคุณชาย และตอนนี้อีกฝ่ายกำลังรับงานโฆษณาผงปรุงรสต้มยำอยู่เพียงงานเดียว ฉะนั้นทันทีที่โทรติด เขาจึงรีบร้อนแจ้งข่าวร้าย



"คุณชายครับ มีเงินโอนเข้ามาแปดหมื่นบาทครับ"



"อืม" 



คำตอบสั้นๆ ไม่ส่อแววตระหนกตกใจ คล้ายยอมรับชะตากรรมโดยดี ยิ่งทำให้ความกลัวเพิ่มขึ้นสูง อนุรักษ์ภาวนาขอให้ไม่เป็นไปอย่างที่คิดเมื่อเขากลั้นใจถาม



"แล้วเรื่องโฆษณาเป็นยังไงบ้างครับ"



"เธอพยายามดีแล้ว แต่มันเป็นความผิดฉันเอง"



"หมายความยังไงครับ!? หรือว่าเขาไม่ชอบไอเดียที่เสนอไป"



"เปล่า ไอเดียได้รับคำชม แต่บริษัทลูกค้าจะเปลี่ยนไปใช้พรีเซนเตอร์แทน"



"แล้วเอเจนซี่ไทเกอร์ยังได้ทำงานนี้อยู่รึเปล่าครับ"



“...”



"คุณชายครับ?"



"...เราถูกยกเลิก เพราะพรีเซนเตอร์คนนั้นเซ็นสัญญาจ้างกับ ATM ไว้ก่อนแล้ว"



อนุรักษ์นิ่งงัน เข้าใจความรู้สึกของการถูกศัตรูที่มองไม่เห็นเชือดคอนิ่มๆ โดยไร้หนทางต่อสู้



"คืนนี้ฉันจะเอาแชมพูไปให้ ไว้เธอค่อยโทรมาอีกทีหลังเลิกงาน"



คุณชายตัดบทแล้ววางสายไป ปล่อยให้สมองเขายังคงชากับความพ่ายแพ้



...โฆษณาผงปรุงรสต้มยำที่อุตส่าห์ทุ่มเทคิดดันถูกปฏิเสธ เขาจะไม่มีโอกาสเห็นสูตรต้มซุปเปอร์ของยายแม้นตีพิมพ์เผยแพร่ให้คนอื่นอีกแล้ว



ก้าวที่เดินกลับไปยังโต๊ะเดิมนั้นช่างหว่างโหวง ไอ้ทัตกำลังเปิดอ่านเรื่องย่อละครฆ่าเวลาอีกครั้ง เขาทรุดตัวนั่งฝั่งตรงข้าม แต่แล้วก็ชะงักเมื่อเห็นภาพนางแบบในชุดว่ายน้ำบนหน้าหนังสือพิมพ์



"คนนี้ใช่แม่แก้วมณีรึเปล่า"



เขาชี้ไปที่รูปขนาดครึ่งตัวของดาราหุ่นดีในบิกินี่สีดำสุดเซ็กซี่  ไอ้ทัตเลิกคิ้วแปลกใจ



"หือ? เด็กไม่ติดละครอย่างมึงรู้จักด้วย"



"เปล่า กูจำมาจากพี่อ้อยเห็นเขาเรียกแบบนั้น เมื่อวานก็บ่นว่าอยากเจอตัวจริง"



"เออกูก็ไปมา แต่แม่งคนเยอะโคตร กูเลยได้เซลฟี่กับเขาแค่รูปเดียวเองวะ แต่ก็มีรูปเดี่ยวๆ ที่พอใช้ได้นะ ...มึงจะดูไหม น้ำตาลตัวจริงโคตรสวย"



คนโม้เตรียมล้วงโทรศัพท์ออกมาโชว์ แต่เขาสะดุดใจกับชื่อที่ลอยผ่าน



"ไอ้ทัต เมื่อกี๊มึงเรียกชื่อแม่แก้วมณีว่าอะไรนะ"



"น้ำตาลไง 'น้ำตาล อลิสสา' นี่อย่าบอกนะว่ามึงไม่รู้จักเขา ...โหยย ตอนนี้ดังจะตาย เสียดายข่าวเพิ่งออกว่าโดนฝรั่งคาบไป"



อัพเดทข่าวก็อซซิปพลางสไลด์เปิดรูปถ่ายคู่หวังให้เพื่อนอิจฉา แต่นอกจากอนุรักษ์จะไม่สนใจ ยังรีบหยิบหนังสือพิมพ์มาเปิดอ่านคอลัมน์ ใต้กรอบรูปดาราสาวกับหนุ่มผมทองตาน้ำข้าวมีตัวอักษรพิมพ์พาดหัวใหญ่



'นางร้ายดาวรุ่ง 'น้ำตาล อลิสสา' เปิดตัวหวานใจนักธุรกิจหนุ่มอเมริกัน 'โรเบิร์ต ไซม่อน' เผยปิ๊งรักกันที่นิวยอร์กแฟชั่นวีค'



จิกซอว์แต่ละส่วนถูกนำมาใส่เข้ากันลงล็อก เขาเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราว



...ทั้งเสียงหวานแหลมซึ่งเคยได้ยินผ่านโทรศัพท์ คำพูดโกรธเคืองคล้ายมีอดีตแย่ๆ ร่วมกันมาก่อน และที่คุณชายบอกว่าการพลาดโฆษณาผงปรุงรสต้มยำเป็นความผิดของตนเอง 



พอคำนวณสมการทุกอย่างก็ชี้เป้าออกมาเป็นคำตอบ



...น้ำตาล คือ แฟนเก่าของคุณชาย และต้องการแก้แค้นเอาคืน เพราะไม่เคยได้รับความเอาใจใส่คนผู้มัวแต่บ้างาน จึงตกลงเป็นพรีเซนเตอร์ร่วมกับเอเจนซี่ ATM เพื่อตัดหน้าคว้าโฆษณาผงปรุงรสต้มยำไป



"แล้วเป็นไง เมื่อกี๊โทรรายงานคุณชายใช่ป่ะ เขาว่าไงบ้าง"



ไอ้ทัตเองก็เดาสาเหตุที่เขารีบร้อนลุกไปได้เช่นเดียวกัน ซึ่งเขาก็ตอบตามความจริง



"เพิ่งโดน ATM แย่งโฆษณาตัวล่าสุดไป แม่งใช้วิธีลอบกัดกันชัดๆ คืนนี้กูมีนัดกับคุณชายว่าจะไปถามรายละเอียดให้รู้เรื่อง!"



ความเศร้าแปรเปลี่ยนเป็นอารมณ์ไม่พอใจคุกกรุ่น เขาชักอยากมีส่วนร่วมสืบหาข้อมูลหนอนบ่อนไส้ในเอเจนซี่ไทเกอร์ด้วยอีกคน ในหัวเริ่มได้ยินธีมเพลงหนังสายลับ Mission Impossible ลอยมาให้ฮึกเหิม



"กูว่าแล้ววว...ตามพล็อตอมตะเป๊ะๆ" ไอ้ทัตผสมโรงตบโต๊ะเอ่ยเสียงดัง "พอพระเอกถูกตัวโกงทำร้าย..."



"ตัวละครสุดฉลาดก็จะมาช่วย"



"...ต้องได้เวลานางเอกไปปลอบใจ"



แล้วไหงมันออกมาเป็นหนังรักน้ำเน่ายุงชุมได้วะ!



อนุรักษ์รีบโวยวายเถียง  "มึงก็จินตนาการไปเรื่อย อย่างกูอ่ะเป็นได้แค่น้องชะ...ไม่ๆ หมายถึงแค่ลูกน้องพระเอกไปช่วยคุณชายตามจับคนร้าย"



ช่วงท้ายรีบแก้ไขคำที่เผลอลืมตัวเรียก แฟนคลับละครหลิ่วตามองเพื่อนฝั่งตรงข้าม



"อ้าวเหรอ ก็กูเห็นว่านางเอกส่วนใหญ่รู้ทั้งรู้ว่าพระเอกเขาหลอก แต่ยอมเต็มใจให้หลอกทั้งนั้น"



"กูไม่ได้ยอมโดนหลอกเว้ย! ...กูแค่ยังไม่รู้ความจริง"



ข้ออ้างที่ยกมา ไม่แน่ใจว่าตอบตนเองหรือคนอื่น



เขาเลี่ยงบทสนทนาต่อด้วยการหยิบตะเกียบคีบเส้นปลาต้มยำกินอีกครั้ง รสชาติของน้ำซุปดูอ่อนกว่าเคย เมื่อเทียบกับความเข้มข้นในปริศนาที่กำลังเผชิญ



...ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบัญชีธนาคารกับซิมโทรศัพท์ เรื่องคุณน้ำตาลเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณา หรือแม้กระทั่งเรื่องเจ้าของรอยยิ้มในสมาร์ทโฟน ทั้งหมดยังเป็นเพียงสมมติฐาน



และแน่นอนมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถไขข้อข้องใจได้



..
..



 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-09-2016 09:47:15 โดย BitterSweet »

ออฟไลน์ BitterSweet

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +725/-2
Re: 【*...สุดที่รักษ์...*】Ver. Rewrite
«ตอบ #1997 เมื่อ01-09-2016 09:46:32 »

..
..



คุณชาย



อนุรักษ์กดปุ่มโทรออกในรายชื่อนี้ทันทีที่หลังเลิกงาน



ไม่รู้ทำไมระยะเวลาทำงานวันนี้ดูยาวนานกว่าปกติ หรืออาจเป็นเพราะเขามัวเหลือบมองนาฬิกาบ่อยๆ จนพี่ตาสังเกตเห็นท่าทางกระวนกระวายถึงกับถามว่ามีธุระสำคัญอะไรรึเปล่า พนักงานแคชเชียร์ดีเด่นเลยพยายามดึงสติกลับมาตั้งใจทำงาน ภาวนาให้เข็มนาฬิกาเร่งเดินไวๆ



พอตอกบัตรออกปุ๊บ เขาก็ทำตัวเป็นแฟนโทรจิก ไม่เกินสิบห้านาที รถญี่ปุ่นคันเล็กก็มาจอดรออยู่หน้าป้ายรถเมล์ 



อนุรักษ์เปิดประตูเข้าไป ยกมือไหว้คุณชายราวกับผู้ปกครองมารับนักเรียนกลับบ้าน



"แชมพูอยู่หลังรถ เดี๋ยวฉันจะไปส่งเธอที่หอ บอกทางมาด้วยแล้วกัน"



คนขับหมุนพวงมาลัยให้รถเคลื่อนไปบนถนนอีกครั้ง ...สี่ทุ่มครึ่งน่าจะเป็นเวลาพักผ่อน แต่คุณชายก็ยังอุตส่าห์ขับรถเอาแชมพูมาให้แถมยังจะไปส่งเขาอีก ...นึกเกรงใจ แต่ก็ต้องข่มเรื่องมารยาทเอาไว้ เพราะก่อนหน้านี้เขาตัดสินใจว่าจะไม่อ้อมค้อมอีกแล้ว



"คุณชายครับ"



เกริ่นเรียกเจ้านายตัวเองที่ยังคงไม่ละสายตาจากถนน หากท่าทีบางอย่างทำให้รู้ว่ากำลังรอฟังเขาพูด อนุรักษ์สูดลมหายใจลึก เอ่ยสิ่งที่สงสัยมาตลอดทั้งวัน



"พรีเซนเตอร์โฆษณาที่ผูกสัญญากับ ATM คนนั้นคือใครครับ"



มือซึ่งจับพวงมาลัยขยับเข้าหากันเล็กน้อย พร้อมการตอบตัดบทสั้นๆ



"เธอไม่จำเป็นต้องรู้"



"แต่ผมเป็นครีเอทีฟช่วยคิดโฆษณานะครับ ผมมีสิทธิที่จะรู้"



“แล้วสิทธิในการเป็นหัวหน้าของเธออยู่ที่ฉันรึเปล่า"



ประโยคย้อนเล่นเอาแทบจุก ในเมื่อไม้อ่อนไม่ได้ผล เห็นทีคงต้องใช้ไม้แข็ง



"พรีเซนเตอร์โฆษณาคนนั้น...ใช่คุณน้ำตาลแฟนเก่าของคุณรึเปล่าครับ"



คำถามตีแสกหน้าตรงๆ  ทำให้ดวงตาเรียวหันมาสบมองเขาเป็นครั้งแรก



"เธอได้ยินมาจากไหน"



อนุรักษ์จึงเล่าเรื่องที่เมื่อวานบังเอิญเจอคุณน้ำตาลคุยกับคุณเฮงด้วยท่าทีลับๆ ล่อๆ และปิดท้ายด้วยการตั้งข้อสงสัย



"ผมว่าคุณเฮงอาจเป็นคนทรยศคุณอยู่ก็ได้"



ยอดนักสืบคาดหวังให้คุณชายตื่นเต้นไปกับการค้นพบคนร้ายของเขา ทว่าเจ้าตัวดันแย้งด้วยท่าทางเคร่งเครียด



"แต่เธอไม่มีหลักฐาน จะกล่าวหาลอยๆ ไม่ได้"



...มันก็จริง ผู้ร้ายส่วนใหญ่มักอ้างเหตุผลนี้ไว้เป็นคาถาป้องกันตัวกันทั้งนั้น



"งั้นคุณหาหลักฐานไปถึงไหนแล้วครับ"



"ยังไม่คืบหน้าเท่าไร ฉันไม่ได้แค่อยากรู้ว่าเขาเป็นใคร แต่ฉันอยากรู้ด้วยว่าเขาทำไปเพราะอะไร"



"แล้วคุณจะปล่อยให้เขาทำลายคุณต่อไปเรื่อยๆ แบบนี้เหรอครับ"



แค่เขาพลาดงานโฆษณาเดียวที่ทุ่มเทแรงใจแรงกายก็เจ็บใจแทบตาย แต่คุณชายยังเลือกยืนเป็นเป้านิ่งให้คนมายิงซ้ำๆ แล้วแล้วยังยึดกับแผนการเดิมๆ

 
“ขอมือถือเธอให้ฉันดูหน่อย”



อนุรักษ์ยกมือถือของตนเองไปให้อย่างว่าง่าย  หากเขาก็ยังหวนคิดถึงบทสนทนาที่ได้คุยกับไอ้ทัต เรื่องช่องโหว่งต่างๆ ที่คุณชายฝากซิมไว้กับเขา



“อาศัยแค่ซิมนั้นเป็นหลักฐานอย่างเดียวจะพอเหรอครับ ผมว่าเรามาลองคิดหาทางอื่นดีไหม เผื่อจะจับสปายได้เร็วขึ้น”



เขาพยายามเสนอตัวเข้าไปช่วย แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นการผลักไสให้ออกห่าง



“ไม่ต้อง เธอไม่เข้าใจ”



 ใช่...เขาไม่เข้าใจ เพราะคุณชายไม่ยอมบอกอะไรเขาเลย...



มีหลายเรื่องมากมายที่เขาสงสัย แต่ที่ผ่านมาเขาแกล้งทำเป็นมองไม่เห็น เพราะคิดว่าถ้าคุณชายอยากจะพูดก็คงพูดออกมาเอง แต่ความอดทนคนเรามีจำกัด การทำงานร่วมกันต้องอาศัยความเชื่อใจ หากความเชื่อมั่นนั้นสั่นคลอน



...เขาอยากรู้ว่าคุณชายจะรู้สึกแบบเดียวกับเขาตอนนี้รึเปล่า



"คุณรู้ไหม เมื่อวานตอนที่ผมโทรบอกคุณว่าถึงหอแล้ว ความจริงผมยังนั่งอยู่หน้าคอนโดคุณอยู่เลย พอวางสายจากคุณ ผมก็ไปดูหนังอีกสองเรื่องควบ กว่าจะกลับหอตั้งเกือบสี่ทุ่ม"



คุณชายละสายตาจากโทรศัพท์ขึ้นมามองเขาทันควัน ด้วยท่าทางตกใจมากกว่าจะโกรธ



"อะไรนะ!? ทำไมเธอทำแบบนั้น"



"ก็ไม่ต่างจากคุณที่เก็บทุกอย่างเอาไว้คนเดียวหรอกครับ ...ถ้าผมไม่บอก คุณก็ยังคิดว่าผมเป็นเด็กดีรีบกลับหอตามคำสั่งคุณใช่ไหมครับ" 



"เธอนี่มัน..." ราวกับสรรหาคำมาโต้ตอบไม่ได้คงรู้แล้วว่าโดนจงใจเอาคืน แต่เขาแสร้งทำเป็นชี้ไปยังตึกแถวใกล้สี่แยก



"เดี๋ยวรบกวนช่วยจอดรถตรงเซเว่นข้างหน้าด้วยครับ"



คุณชายไม่เอ่ยถามเหตุผล พอไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียวก็จอดรถแนบริมฟุตบาทตามคำขอ อนุรักษ์หายเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ ไม่นานก็หิ้วถุงใส่กระป๋องเบียร์กลับขึ้นมา ก่อนเปิดฝาดื่มอึกๆ โดยไม่คิดจะเกรงใจเจ้าของรถที่นั่งข้างๆ อีกต่อไป



เขาไม่ได้ตั้งใจเมา แค่อยากให้แอลกฮอลล์ไปละลายความกลัว เพราะเรื่องที่เขาตัดสินใจเล่าต่อจากนี้ ...มันเจ็บปวดทุกครั้งที่ย้อนความทรงจำกลับไป



"...ตอนพ่อแม่ผมเสีย คุณเชื่อไหมว่าผมไม่ร้องไห้เลย"



ในที่สุดหลังกระดกเบียร์ไปค่อนกระป๋อง อนุรักษ์ก็เริ่มต้นเล่าเรื่องทั้งหมดดังม้วนฟิลม์กรอกกลับ



...หลังอุบัติเหตุ ทุกอย่างผ่านพ้นไปรวดเร็ว งานศพถูกจัดขึ้น ญาติๆ รวมตัวกัน ป้ารับเป็นผู้ปกครองดูแลเขา ทำให้เขาต้องขนข้าวของย้ายไปต่างจังหวัด รวมทั้งจัดการเอกสารย้ายโรงเรียน มีเรื่องหลายเรื่องประดังประเดเข้ามาจนแทบไม่มีเวลาเสียใจ



อนุรักษ์ที่อายุสิบห้ารู้เพียงแค่ว่า เขาต้องไม่ทำตัวมีปัญหา เพราะไม่อยากให้ป้ารับภาระหนักกว่านี้ เขาไม่เรียกร้องเอาแต่ใจ พูดจาน้อยลง ทานอาหารน้อยลง ขังตัวเองไว้กับโทรศัพท์ที่มีข้อความสุดท้ายของแม่ ทุกคืนภาพในฝันซ้ำๆ เขาได้ย้อนเวลากลับไปมองอุบัติเหตุครั้งนั้น และกล่าวโทษทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่เอาตัวเขาไปแทนพ่อและแม่



น้ำหนักเขาหายไปหลายกิโล ร่างกายผอมแห้งจนป้าต้องพาไปโรงพยาบาลเพราะนึกว่าเขาป่วย หลังจากนั้นเขาจึงรู้ว่าตนเองป่วยจริงๆ ...ด้วยโรคซึมเศร้าระยะเริ่มต้น



เขาไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง เพื่อนสนิทอย่างไอ้ทัตเขาก็แค่บอกเรื่องอุบัติเหตุ แต่ไม่เคยรู้ว่าเขาป่วยเป็นโรคซึมเศร้าหวุดหวิดใกล้จะฆ่าตัวตาย เขาปรึกษาจิตแพทย์และทานยาอยู่เกือบปีอาการจึงดีขึ้นเรื่อยๆ



ยกเว้นเพียงอาการเดียวที่ยังไม่หายขาด ...คือการเก็บโทรศัพท์เครื่องสำคัญไว้ไม่ห่างกาย เพื่อเป็นเครื่องย้ำเตือนความเศร้าที่กลายเป็นแผลลึกในใจ



อนุรักษ์กระดกเบียร์อีกครั้ง ก่อนเฉลยความลับอีกเรื่องให้คนซึ่งนั่งเงียบฟังเขามาตลอด



"ตอนที่ผมเอาสมาร์ทโฟนคุณไปซ่อม ผมขอโทษที่เสียมารยาทเปิดดูอัลบั้มรูปของคุณ แต่ทั้งอัลบั้มผมเห็นมีรูปถ่ายแค่คนคนเดียว ...คนนั้นใช่น้องชายคุณรึเปล่าครับ"



เขาไม่คาดหวังว่าคุณชายจะตอบ เผลอๆ อาจโดนดุใส่เพราะดันไปเปิดข้อมูลส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต และที่สำคัญ เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ...ที่เขาตัดสินใจเล่าออกมา แค่ต้องการให้เห็นว่า เขาเองก็เคยเก็บปัญหามากมายเอาไว้กับตนเองเพียงลำพัง คิดว่าจะแบกรับทุกสิ่งทุกอย่างไหว แต่สุดท้ายมันกลับย้อนมาทำร้ายตัวเขาเอง



คุณชายทอดสายตามองไปยังกระจกหน้า แสงไฟถนนกระทบใบหน้าคมซึ่งยังนิ่งเฉย ขณะเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ



"สองปีก่อน น้องชายฉันมาหา ฉันควรจะไปส่งเขา แต่ฉันมัวยุ่งอยู่กับโฆษณารถ เขาเลยขอกลับเอง ระหว่างทางแท็กซี่คันนั้นประสบอุบัติเหตุ"



เป็นการอธิบายเรื่องที่สั้นกว่าเขามาก แต่ได้ใจความครบถ้วน และแม้ท่าทีของคุณชายไม่เปลี่ยน หากเขาสังเกตเห็นนัยน์ตาเรียวสะท้อนแสงไฟสั่นไหว คล้ายยังคงติดอยู่กับความผิดกล่าวโทษตัวเองที่เป็นสาเหตุทำให้คนสำคัญต้องจากไป



"ที่คุณเข้าหาผม เพราะคุณเห็นผมเหมือนน้องชายคุณใช่ไหมครับ"



ตัดสินใจถามสิ่งที่อยากรู้มานาน แต่คุณชายกลับส่ายหน้า



"เธอไม่เหมือนน้องชายฉันเลย น้องฉันเป็นเด็กซื่อๆ ฉันบอกอะไรก็จะยอมทำตาม แต่เธอน่ะมันดื้อ หัวรั้น ชอบเอาชนะ"



คำเปรียบเทียบเหมือนเขาเป็นเด็กนิสัยเกเรฟังเอาฉุน ทว่าพิจารณาจากวีรกรรมแสนแสบวันนี้ก็คงเป็นจริงตามนั้น



"แต่...เธอทำให้ฉันนึกถึงน้องชายตัวเอง เวลาฉันอยู่กับเขา ฉันจะคิดไอเดียดีๆ ได้เสมอ เหมือนตอนที่ฉันอยู่กับเธอ...ฉันสบายใจ"



คุณชายน่ะเหรออยู่กับเขาแล้วสบายใจ เห็นมีแต่ทำหน้านิ่งๆ เดาอารมณ์ไม่ค่อยถูก เช่นเดียวกับตอนนี้ที่อีกฝ่ายทำตัวเป็นผู้ปกครองเคร่งระเบียบ ดึงกระป๋องเบียร์จากมือเขาไปใส่ไว้ในช่องว่างแก้วข้างฝั่งตนเอง



"เธอไม่ควรกินเยอะมากขนาดนั้น ดึกป่านนี้กลับกันได้แล้ว"



เป็นอันปิดฉากการสนทนาย้อนความหลัง



อนุรักษ์นั่งเงียบให้คุณชายออกรถไปยังจุดหมายเดิมอีกครั้ง ไม่เกินสิบนาทีก็มาถึงหอพักโดยสวัสดิภาพ



เขาลงจากรถพร้อมคนขับซึ่งออกมาเปิดประตูท้ายหยิบถุงเจคิงส์ซูปเปอร์ที่มีแชมพูสามขวด รวมทั้งถุงใส่กล่องขนมสีชมพูลายวินเทจรูปดอกไม้น่ารัก แบบไม่เหมาะกับบุคลิกของผู้ที่ยื่นส่งมาให้



“อะไรน่ะครับ”



“ฉันซื้อมาฝาก”



เขารับมาเปิดกล่องออกดู คัพเค้กหกชิ้น สีสันตกแต่งหวานไม่แพ้เนื้อขนม เป็นของฝากช่างอยู่คนละขั้วกับการกระดกเบียร์แบบฮาร์ดคอร์ไปเมื่อครู่ ทั้งที่เขาเพิ่งแสดงออกว่าเป็นผู้บรรลุนิติภาวะเสียขนาดนั้น แต่คุณชายยังคงติดมองภาพลักษณ์เขาเป็นเด็กน้อยไม่หาย



 ตรงข้าม...ถ้าเป็นบทบาทเรื่องงาน กลับวางใจสั่งการเขาต่อเนื่องทันที



 "พรุ่งนี้ช่วยแวะมาบริษัทด้วยนะ เธอต้องเซ็นเอกสารรับรองฝึกงานเป็นครีเอทีฟ ฉันแจ้งฝ่ายบุคคลไว้แล้ว เตรียมแค่บัตรนักศึกษามาก็พอ"



"จะรับผมเข้าตำแหน่งนี้จริงๆ เหรอครับ ไหนคุณบอกว่าผมมีความสามารถไม่พอ"



ก็ใช่ที่เขาสนใจงานโฆษณาและอยากได้ประสบการณ์ แต่การใช้ตำแหน่งครีเอทีฟบังหน้าเจเนรัลเบ๊ก็สร้างความลำบากใจให้ไม่น้อย เกิดโดนสัมภาษณ์ หรือมีใครถามถึงเนื้องานเบื้องลึกขึ้นมาจะทำยังไง



ชั่วขณะนั้นเอง เขารู้สึกถึงสัมผัสของมือที่ลูบศีรษะเบาๆ



"ตำแหน่งของเธอให้ใครมาแทนที่ไม่ได้...อย่าคิดมาก"



...คุณชายทำเหมือนเขาเป็นเด็กอีกแล้ว แต่แปลกตรงคราวนี้เขาไม่ได้หงุดหงิดหรือโกรธเคืองใดๆ เลย



หลังเอ่ยจบอีกฝ่ายก็ขึ้นรถขับออกไปโดยมีอนุรักษ์ยืนส่ง ก่อนเขาจะเดินกลับห้องตนเองบ้าง เปิดประตู วางข้าวของลงบนโต๊ะ แล้วเปิดกล่องคัพเค้ก หยิบขึ้นมากัดชิมลงไปคำหนึ่ง



สมกับที่คุณชายเป็นนักโฆษณา จริงอยู่ว่าคำหว่านล้อมย่อมไม่มีประโยชน์ หากผู้ซื้อใจแข็งมากพอ เขามีสิทธิจะถอยห่างจากคุณชายได้ทุกเมื่อ และถึงจะรู้ความจริงไปบางส่วนก็ยังเหลือข้อสงสัยอีกมากมาย



ทว่า...แค่เพียงความหวานของขนมชิ้นเดียว มันกลับสามารถโน้มน้าวให้เขายอมรับ



ถ้าจะถูกหลอก...ตอนนี้เขาก็จะขอยอมโดนหลอกอยู่ในฐานะ ‘ลูกน้องชื่ออนุรักษ์’ เคียงข้างพระเอกต่อไปอีกสักระยะก็แล้วกัน

 



------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



ร่างสูงในชุดสูทก้าวผ่านโถงทางเดินของคอนโดตกแต่งด้วยโคมไฟแชนเดอเลียโอ่อ่าหรูหรา ห้องชุดแต่ละห้องถูกวางตำแหน่งไว้ห่างกันค่อนข้างมาก เหมาะสำหรับผู้อยู่อาศัยที่ชอบความเป็นปัจเจก เฟอร์นิเจอร์สวยงามราคาแพงจึงมีไว้เพื่อกลบเกลื่อนบรรยากาศเงียบงันไร้ความเป็นมิตร



มือขวายกกดแสกนรหัสประตูห้องตนเอง ส่วนมืออีกข้างถือกระป๋องเบียร์ซึ่งเหลือปริมาณอยู่ไม่มาก ครั้นถอดรองเท้าก้าวเข้าไปด้านใน หุ่นยนต์ดูดฝุ่นก็เคลื่อนมาหยุดอยู่ใกล้ๆ พอดี



“ออกมารับฉันหรือ”



พึมพำกับเครื่องทำความสะอาดเหมือนสัตว์เลี้ยงเฝ้ารอคอยเจ้าของอย่างซื่อสัตย์ ก่อนจะเดินเข้าไปในครัว เพื่อจัดการทิ้งกระป๋องเบียร์ลงถังขยะ แต่เสียงเพลงอิเล็กทรอนิคป็อบดันดังแทรกขึ้นจากสมาร์ทโฟนสีขาว ซึ่งเขาแยกไว้สำหรับติดต่องาน รวมถึงบุคคลสำคัญโดยเฉพาะ ดังนั้นเมื่อเห็นชื่อปรากฏบนหน้าจอ เขาจึงรีบวางกระป๋องเบียร์บนเคาท์เตอร์ครัว กดรับพร้อมกรอกเสียงสุภาพ



“ครับท่าน” 



“งานชิ้นล่าสุดมีปัญหาอีกแล้วรึ”



น้ำเสียงทอนไม่เชิงตำหนิ เป็นการถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงเสียมากกว่า หากชายหนุ่มรู้ดีว่าข้อผิดพลาดหลักๆ เกิดขึ้นเพราะมีเขาเป็นต้นเหตุ



“ต้องขอโทษด้วยครับ ผมรับรองว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก”



“น่าแปลกนะ โฆษณาลิปสติกคราวที่แล้วเธอจัดการแก้ปัญหาได้เร็ว แต่คราวนี้แค่เพราะใช้ดาราเป็นพรีเซนเตอร์ เธอกลับไม่มีแผนรับมือดึงลูกค้าเราคืนมาเชียวหรือ”



ดีที่เป็นการคุยโดยไม่เห็นหน้า มิเช่นนั้นอาการกระตุกมือเข้าหาโทรศัพท์เพียงเล็กน้อยของเขาอาจทำให้ข้อสงสัยลอยๆ เพิ่มน้ำหนักขึ้นราวกับถูกล้วงความลับในใจ

             

...แผนน่ะมีวางไว้พร้อมแล้ว



ไม่ใช่เรื่องยากที่นักครีเอทีฟจะสามารถนำเสนอบริษัทลูกค้าว่าการใช้พรีเซนเตอร์ก่อให้เกิดผลเสียอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะวิธีจ้างดาราซึ่งเป็นกระแสดังและรับงานโฆษณาหลายชิ้นในเวลาพร้อมๆ กัน



ข้อแรก ผู้บริโภคจะเกิดความเบื่อหน่าย เพราะพบเห็นหน้าดาราคนเดิมบ่อยครั้ง



ต่อมาอาจสร้างความสับสนในภาพลักษณ์  เนื่องด้วยพรีเซนเตอร์ที่พ่วงโฆษณาหลายแบรนด์เกินไป ย่อมมีสินค้าที่ไม่สอดคล้องกับบุคลิกได้ทั้งหมด ทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ กลายเป็นทัศนคติเชิงลบ



รวมถึงในแง่การลงทุน ค่าตัวผูกสัญญากับดาราซูเปอร์สตาร์ระยะยาวก็ไม่คุ้มค่าเงินที่สูญเสีย

         

...กรณีโฆษณาผงปรุงรสต้มยำและ ‘น้ำตาล’ เข้าข่ายหลักการนี้ทั้งหมด

       

แต่สาเหตุหลักที่เขายอมถอนตัวง่ายๆ ไม่ใช่เพราะเขาอยากจะไถ่โทษให้กับผู้หญิงซึ่งตั้งสถานะเอาเองว่าเป็น ‘แฟน’ ทั้งที่ไม่มีเรื่องเกินเลยใดๆ



                เขาเจอน้ำตาลในงานอีเวนท์โฆษณาที่เคยรับทำโปรเจคเมื่อสามเดือนก่อน หลังจากนั้นไม่รู้ว่าเธอเอาเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวของเขามาจากไหน แต่น้ำตาลเพียรตามเฝ้าถึงที่ทำงาน จนทั้งบริษัทลือกันเองว่าเธอเป็นแฟนเขา คำแก้ต่างเปล่าประโยชน์ เมื่อน้ำตาลยิ่งทำให้ข่าวลือหนักข้อด้วยการบินไปนิวยอร์กพร้อมกับเขาซึ่งต้องไปดีลงานโฆษณาสินค้า แต่นั่นเป็นเรื่องดีที่ทำให้เธอพบหนุ่มคนใหม่ จนยอมปล่อยมือเลิกรา ทว่าก็ไม่วายผูกใจเจ็บเอาคืนภายหลัง



...การมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงมักนำไปสู่เรื่องน่าปวดหัว



ด้วยหน้าตาและฐานะ เขาต้องรับมือกับผู้หญิงมากมายที่เข้ามาหาตั้งแต่สมัยเรียนจวบจนทำงาน แต่เขาไม่เคยคิดอยากจะผูกพันธะใดๆ เพราะสบายใจที่ได้ทำงานมากกว่าไปคอยทุ่มเทดูแลเอาใจใคร มีไม่กี่คนที่สามารถทำให้เขาละจากงานมาได้ ซ้ำล่าสุดยังเป็นผู้ชายอายุน้อยกว่าเกินสิบปี



“เอาเถอะ...อะไรพลาดไปแล้วก็ให้แล้วไป ฉันรู้ว่าช่วงนี้เธอคงเจอเรื่องหนักสักหน่อย ฉันก็ไม่อยากสร้างความกดดันให้เธอมาก แต่งานถัดไปมีคนฝากฝังมา...หวังว่าเธอคงจะเข้าใจนะ”



คำสั่งอ้อมๆ เพียงพอให้ทราบความหมายแฝงนัย ก่อนสายจะถูกตัดไป



ดวงตาเลื่อนมองกระป๋องเบียร์บนเคาท์เตอร์ครัว นึกถึงคำพูดแบบเด็กๆ ที่โมโหแทนเขา



‘แล้วคุณจะปล่อยให้เขาทำลายคุณต่อไปเรื่อยๆ แบบนี้เหรอครับ’



รู้สึกดีที่อีกฝ่ายเป็นเดือดเป็นร้อน หากใจหนึ่งก็อดห่วงไม่ได้



ถึงแม้รักษ์จะเป็นเด็กฉลาดพอจะคิดวิเคราะห์ แต่มักชอบใจอ่อนทำตามความรู้สึกมากกว่าเหตุผล ขนาดยอมเปิดปากเล่าอดีตอันเจ็บปวดที่สูญเสียพ่อแม่ เพื่อช่วยเยียวยาบาดแผลในใจให้เขาที่เสียน้องชายไป



...ตอนเขาแอบซ่อนซิมโทรศัพท์ไว้ในเครื่องก็เช่นเดียวกัน



มันง่ายมากหากเจ้าของจะถอดทิ้ง แล้วแสร้งทำเป็นไม่เห็น แต่รักษ์กลับนำมาคืน และยังเต็มใจช่วยในเรื่องที่เขาร้องขอ โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ เลย



ความเป็นธรรมชาติตรงไปตรงมานี้เอง เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาอยู่ด้วยแล้วสบายใจ ขณะเดียวกันก็ต้องคอยจับตาดูเด็กจอมดื้อรั้น เพราะในเกมธุรกิจอันเต็มไปด้วยคมเขี้ยวเล่ห์เหลี่ยมกลโกง ถ้าไม่ระวังให้ดีก็อาจถูกกัดเป็นแผลใหญ่



...เหมือนหมากตานี้ซึ่งเขาเดินเกมถอย แต่ไม่ได้หมายความว่าเขากำลังเสียเปรียบ



ชายหนุ่มเปิดถังขยะในครัว ข้างในมีกล่องขนมสีชมพูนอนนิ่งอย่างว่างเปล่า มันทำให้เขาหวนคิดถึงเรื่องในอดีต เป็นภาพทับซ้อนของกล่องเค้กลวดลายวินเทจดอกไม้เล็กๆ เหมือนกันกับของที่เขาเพิ่งให้ใครบางคนไป เพียงแต่สิ่งที่บรรจุก่อนหน้านี้ไม่ใช่คัปเค้ก แต่มันคือธนบัตรสีเทาจำนวนมากพอจะซื้อคัปเค้กได้เป็นร้อยๆ ชิ้น มือใหญ่ทิ้งกระป๋องเบียร์ตามลงไป ขณะนั้นเองที่โทรศัพท์อีกเครึ่องหนึ่งดังขึ้น เบอร์โทรสาธารณะไม่คุ้นตา แต่เขากดรับรอให้ปลายสายพูด



ความเงียบทิ้งตัวอยู่นานราวกับวัดใจ กระทั่งสัญญาณถูกตัดไป เช่นเดียวกับที่เคยขึ้นกับรักษ์มาก่อน



ชายหนุ่มจ้องมองจดจำตัวเลขเบอร์โทรศัพท์นั้น เรื่องนี้เขาคงไม่อาจรับมือได้เพียงคนเดียวอีกแล้ว



ร่างสูงรีบต่อสายไปยังเบอร์หนึ่ง เอ่ยประโยคขึ้นทันทีหลังได้ยินเสียงกดรับ




“ผมมีเงื่อนไขมาเสนอ คิดว่าเราน่าจะได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย...”





วงการโฆษณาไม่มีมิตรหรือศัตรูถาวร ถ้าอยากจะชนะ บางครั้งก็ต้องเล่นบท ‘ผู้ร้าย’ ให้เป็น




---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC


กลับไปอ่านตอนที่ 11 ตามลิงค์นี้เลยค่ะ   :pig4:

บทที่ 11 : เล็กๆ ไม่ ใหญ่ๆ ทำ 







ออฟไลน์ BitterSweet

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +725/-2
แจ้งข่าวเปิดจอง Wish Me Luck : สุดที่รักษ์


#สุดที่รักษ์ เปิดจองแล้วค่า!!


สำหรับผู้ที่เคยอ่าน #สุดที่รักษ์ เวอร์ชั่นก่อนรีไรท์ ต้องแจ้งให้ทราบว่า แม้เนื้อหาจะมีการปรับเปลี่ยนไปมากพอสมควร แต่ก็ยังมีส่วนขาดๆ เกินๆ อยู่บ้าง


ดังนั้น...เนื้อหาในหนังสือจะเป็นฉบับที่สมบูรณ์ที่สุด...!


แนะนำให้เริ่มอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น เพื่อที่จะได้เก็บรายละเอียดของปมต่างๆ รวมทั้งยังเก็บความฟินจากโมเมนต์หวานๆ ของน้องรักษ์กับคุณชายที่แทรกเข้าไปเพิ่มเติมด้วย (สำคัญตรงนี้)


สนนราคาพิเศษสุดๆ เฉพาะรอบจอง ...ลดจากราคาปกจริงเหลือแค่ 549 บาทเท่านั้น!!


จำนวน 2 เล่มจบ เพิ่มตอนพิเศษเฉพาะในเล่มอัดแน่นจุใจกว่าสองร้อยหน้า!


เปิดจองตั้งแต่วันนี้ - 2 ตุลาคม 59 จัดส่งฟรี!!
(หนังสือจัดส่งช่วงกลางเดือนตุลาคม)


สามารถสั่งจองได้ที่      https://www.reading.co.th/book-detail/140


 :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-09-2016 04:25:15 โดย BitterSweet »

ออฟไลน์ Ma Lullaby

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ถ้าสั่งจองแล้วจะได้รับหนังสือช่วงไหนหรอคะไรท์

จะได้คำนวนวันจองค่ะ  :hao7:

เคลียร์หิ้งหนังสือรอน้องรักษ์กับคุณชายมาไว้ในอ้อมอก :katai5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
จองแล้ววววว. รอรับ อิๆ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ M.J.

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ Aumy8059yaoi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ Kitsune1st

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
หักมุมแล้วหักมุมอีกนะเรื่องนี้
ในเรื่องแทบไม่เห็นพี่พิมเลย กลายเป็นคนขายผลฃานซะงั้น
แล้วตกลงแฟนทัตนี่ใครรร 555

ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3990
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
มาอ่านรอบ 2 แล้ว ชอบมากๆ  ครับ

ออฟไลน์ nutgen

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
อ่านถึงตอนที่ 8 กรี้ดลั่น sotus !!!! อร๊ายยยยยยยยย

ออฟไลน์ nutgen

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
บทที่ 22 เนื้อหาช่วงที่สอง(บล็อกสอง) กึ่งแรกมันเกินมานะคะ

ออฟไลน์ nutgen

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
เรื่องสุดที่รักษ์ ขอจัดเป็นนิยายที่จัดว่าอยู่ในหมวดอบอุ่นได้ไหมคะ  :กอด1:

ทั้งตัวของน้องรักษ์เอง หรือแม้กระทั่งคุณชาย ความดราม่าที่เหมือนจะแทรกเข้ามาเป็นปมของตัวละครบ้าง
หรือในเนื้อเรื่องบ้าง ถูกความอบอุ่น โอบอ้อม เอื้อเฟื้อของน้องรักษ์ กับความมุ้งมิ้งเล็กๆของคุณชายกลบเสียมิดเลยละคะ

แค่ฉากสัมผัสปากเล็กๆก็ฟินกระจายได้ 555+ ชอบจริงๆคะ  :-[

สุดท้ายคงไม่มีอะไรมากเกินไปกว่า

'รัก'นะคะ จุ๊บๆ  :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด