【*...สุดที่รักษ์...*】Ver. Rewrite แจ้งข่าว P.67 [02/09/59]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 【*...สุดที่รักษ์...*】Ver. Rewrite แจ้งข่าว P.67 [02/09/59]  (อ่าน 601682 ครั้ง)

ออฟไลน์ sodawan1

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
รอ รอออ ตอต่อไป

ออฟไลน์ New_Tai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
คุณชายน้องรักษ์


ออฟไลน์ isBelle__

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ชอบนิยายที่ไปเรื่อยๆ เห็นความพัฒนาของทั้งสองคนก่อนจะมารักกันค่ะ
เห็นแบบนี้แล้วยิ่งลุ้นเลย เดาว่ากว่าจะรักกันคงมีอุปสรรครายทางเพียบ

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
รอนะค้าา.. :impress:

ออฟไลน์ Peung002

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ในฐานะคนอ่าน เรากำลังอินไปกับบทตำรวจจับผู้ร้ายของน้องรักษ์ค่ะ
สนุกและน่าติดตามจริงๆนะคะ.  :hao3:

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
ลุ้นตามน้องรักษ์ไปด้วย
แล้วแผ่นประคบเนี่ยจะทดลองกันแบบไหนนะ

ออฟไลน์ G-NaF

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
ชอบคับ อ่านทีเดียวลวดเลย  o13

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
อุ๊ยตาย ว้ายกรี๊ด ประโยคทิ้งท้ายสองแง่สามง่ามมากค่าา ชอบ 5555

ออฟไลน์ New_Tai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
รอตอนต่อไปปปป :ling1:

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
รอๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: 【*...สุดที่รักษ์...*】บทที่ 11 : P.25 [22/06/15]
« ตอบ #819 เมื่อ: 02-07-2015 23:00:33 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Fragrant

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
จะทดลองยังไงกันเน้อ หึๆ เกาะขอบหน้าต่างแน่นเลยนาทีนี้  :o8:

ออฟไลน์ Praykanok

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
อ๊าววววววววว น้องรักทำไมรีบร้อนจังงงง ขอไปค้างอ้างแรมกับคุณชายซะแล้ววว 555555555

ออฟไลน์ ToeyTato

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-1
สิ่งที่คนเขียนแจ้งมาตอนสุดท้าย คือสิ่งที่เราคิดอยู่เลยค่ะ ว่ามันดูไม่คืบหน้า แล้วเนื้อหาละเอียดมาก จะแตกต่างจากเรื่องอื่นๆ ถามว่าเบื่อมั้ย มันเป็นช่วงๆค่ะ แล้วแต่อารมณ์คนอ่านด้วย แต่ไม่ถึงกับจะเลิกอ่านนะคะ เพราเราอ่านแล้วได้ความรู้ด้วยเราชอบ ยิ่งเรื่องของกินนี่ชอบใหญ่ แต่ถ้าจะเป็นอย่างที่บอกว่าต่อไปเรื่องจะดำเนินเร็วขึ้นก็ดีค่ะ รออ่านต่อนะ

ออฟไลน์ BitterSweet

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +725/-2
...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-04-2022 17:40:50 โดย BitterSweet »

ออฟไลน์ BitterSweet

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +725/-2
..
..


ฝั่งห้องนอนเล็กเงียบสนิทไปแล้ว  ส่วนคนด้านนอกหยิบรีโมทขึ้นมากดให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นกลับเข้าแท่นชาร์ต มันทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย ไม่มีสีหน้าบึ้งตึง รอยยิ้มแสนกวน หรือท่าทีตอบสนองในประโยคส่งเข้านอน



“ราตรีสวัสดิ์”



ร่างสูงพึมพำกับเครื่องทำความสะอาด เสียงราบเรียบนั้นหลุดออกจากปากอย่างง่ายดาย ทั้งที่เมื่อครู่จำต้องแสร้งเฉไฉไปเรื่องอื่น



...ในบางสถานการณ์กับคนบางคน ถ้อยคำก็ช่างเอ่ยออกมาได้อ้อมค้อมและยากเย็น



ที่สำคัญเขาเพิ่งตระหนักว่า เขาไม่ได้แค่ปล่อยให้รักษ์เข้ามาในคอนโดส่วนตัว แต่ยังปล่อยให้รุกล้ำเข้ามาในใจอีกด้วย



เหลือบดวงตามองแท่นชาร์ตวัตถุทรงกลมอีกครั้ง นึกถึงสัมผัสซึ่งยังไม่คลายความอุ่น



ต่อให้เล่าอะไรไป หุ่นยนต์ก็ไร้การตอบสนองคืนมา ตรงข้ามกับมนุษย์ที่คอยถามไถ่ห่วงใย ถึงจะเป็นบทสนทนาสัพเพเหระ แต่นานเท่าไรแล้วที่หัวใจไม่ได้ผ่อนคลายลง ราวกับเกล็ดน้ำแข็งที่เกาะแน่นในใจ ถูกความอุ่นของมือคู่นั้นช่วยทำให้ละลายไปทีละน้อย



กระนั้น เมื่อนึกสถานะและแผนการที่วางไว้ เขาก็จำต้องห้ามความเผลอไผลของตนเอง แม้ลึกๆ จะสังหรณ์ใจว่ามันคงเป็นไปได้ยากเต็มทน  ตราบใดที่เขายังคงปล่อยให้เด็กหนุ่มผู้เริ่มมีอิทธิพลต่อความรู้สึกคอยวนเวียนอยู่ใกล้ตัว





             -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 



ตีสามสี่สิบห้า ใครเป็นคนบอกว่าจะตื่นตอนนั้น



คนกำลังสะลึมสะลือเพราะเพิ่งถูกเขย่าตัวปลุก ขนาดลืมตามาสติยังเบลอๆ แต่พอคุณชายชี้ไปยังนาฬิกาข้างผนังบอกเวลา 04.20 ความทรงจำทั้งหมดก็ไหลย้อนกลับเข้าร่าง



อนุรักษ์สะดุ้งตกใจ รีบคว้าเสื้อผ้าพุ่งตัวไปห้องน้ำ นึกตำหนิตัวเองที่พลาดท่าเป็นไปตามข้อกล่าวหาจริงๆ  เขาคิดหาข้อแก้ตัวระหว่างล้างหน้าแปรงฟัน ว่าควรโทษโทรศัพท์รุ่นเก่าที่ไม่มีประสิทธิภาพในการปลุก หรือโทษเตียงนอนที่ดันนุ่มสบายจนเผลอนอนเพลินดี



แต่คุณชายไม่ได้เยาะเย้ยถากถาง เมื่อคนตื่นสายออกมาจากห้อง กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นก็ลอยต้อนรับเป็นคำอรุณสวัสดิ์ทักทาย



"ทานซะ จะได้มีอะไรรองท้อง ไม่งั้นเธอจะไม่มีแรงวิ่ง"



กล้วยหอมหนึ่งลูกถูกยื่นมาให้ ส่วนคุณชายละเลียดจิบเอสเปรสโซ่เบาๆ ช่างเป็นภาพลักษณ์การกินอาหารเช้าที่ต่างกันลิบลับระหว่างไฮโซกับยาจก



"แล้วคุณดื่มแค่กาแฟอย่างเดียวไม่ปวดท้องเหรอครับ"



"ฉันชินแล้ว"



ร่างสูงสวมเสื้อยืดสีขาวสกรีนโลโก้แบรนด์ถุงเท้าเช่นเดียวกับเขา ทรงผมที่ไม่ได้ถูกจัดให้เนี้ยบปรกหน้าผากลงมา ส่งผลให้ใบหน้าดูเด็กกว่าเดิมเล็กน้อย แต่ถึงอย่างไรร่างกายของคนอายุสามสิบสองที่มีแค่กาแฟ จะให้วิ่งหกกิโลไหวได้ยังไง ถ้าเกิดล้มไปกลางทางก็อย่ามาขอร้องให้เขาช่วยแล้วกัน



อนุรักษ์กัดกล้วยไปพลางคิดอย่างหงุดหงิด



พวกเขาสองคนได้ฤกษ์ออกจากคอนโดในช่วงเวลาใกล้ตีห้า อาจเพราะเป็นวันอาทิตย์  ถนนช่วงเช้าจึงไม่ค่อยมีรถให้เห็น แต่พอไปถึงจุดนัดพบ คนกลับเนื่องแน่นจนแทบหาที่จอดไม่ได้ สมเป็นงานใหญ่ที่โปรโมทติดโปสเตอร์หน้าร้านสะดวกซื้อ ทำให้เรียกความสนใจจากลูกค้าได้มาก



คุณชายพาเขาแทรกผ่านคนไปยังจุดลงทะเบียนเพื่อรับป้ายผ้าเบอร์เลข โดยแบ่งประเภทเป็นผู้เข้าร่วมงานมินิมาราธอนห้าร้อยคน และประเภทฟันรันอีกห้าร้อยคน



ครั้นตีห้าครึ่งก็เข้าสู่ช่วงพิธีเปิดงาน ตามมาด้วยการออกกำลังแอโรบิคนิดหน่อย เพื่ออบอุ่นร่างกายให้เตรียมพร้อม อนุรักษ์ยืดแข้งยืดขาไปสองสามท่าเรียกเลือดลม ป้องกันการบาดเจ็บระหว่างวิ่ง



แล้วสัญญาณรวมตัวนักกีฬาก็เริ่มต้น ครึ่งแรกให้ผู้เข้าร่วมมินิมาราธอนออกสตาร์ทก่อน หลังจากนั้นสิบห้านาทีผู้เข้าร่วมวิ่งฟันรันจึงลงสนาม



เขายืนอยู่ค่อนไปทางด้านหน้า รอบตัวมีคนหลากหลายวัย ไล่ตั้งแต่เด็กประถมไปยันอากงอาม่า ...เห็นแบบนี้จะให้คนหนุ่มๆ อย่างเขาวิ่งแพ้ได้ยังไง



เสียงแตรลมเป่าปลุกความฮึกเหิม อนุรักษ์ออกตัววิ่งไปพร้อมคุณชายด้วยความมุ่งมั่นเต็มที่ ใช้เวลาเพียงหกนาทีก็ผ่านกิโลแรกมาอย่างไม่ยากเย็น ถ้าวิ่งด้วยสปีดนี้ไปเรื่อยๆ ไม่เกินสี่สิบนาทีก็น่าจะถึงเส้นชัย และอาจเป็นหนึ่งในร้อยคนแรกที่ได้เหรียญตามคาดหวัง แต่คุณชายซึ่งวิ่งคู่อยู่ข้างๆ พยายามเอ่ยเตือน



"เธอวิ่งเร็วเกินไป ถ้าไม่ผ่อนให้ช้าลงกว่านี้ เธอจะหมดแรงก่อนถึงเส้นชัย"



"โอยย ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมบอกแล้วว่าผมแข็งแรง เนี่ยเหงื่อผมยังไม่ออกเลย"



ข้อดีของการออกกำลังตอนเช้า คือการได้สูดอากาศเย็นสบายบริสุทธิ์สดชื่น แสงอาทิตย์เริ่มจับเส้นขอบฟ้าบนถนนเรียบทางรถไฟเกิดเป็นภาพวิวสวย ช่วยสร้างขวัญและกำลังใจ เขารู้สึกตนเองฟอร์มดีมากกว่าเคย คราวนี้จะพิสูจน์ให้คนที่ชอบสบประมาทรู้กันชัดๆ ไปเลยว่าเขายิ่งกว่าโอเค



"...งั้นก็ตามใจ" 



การตัดบทเรียบๆ ไม่ต่างจากให้ทึกทักเอาว่ามันเป็นคำอนุญาต



อนุรักษ์จึงถือโอกาสวิ่งตามใจตัวเองไปเรื่อยๆ  แต่ไม่รู้ทำไมเพียงแค่ผ่านไปอีกกิโลครึ่ง เหงื่อเขาก็เริ่มไหลหยดเป็นน้ำตก ดวงอาทิตย์พ้นมาเกือบครึ่งดวงแล้ว เมฆที่เคยบังแสงค่อยๆ หายไปจนเหลือแต่ไอร้อน ได้ยินเสียงถามจากคนข้างตัวเป็นระยะ



"ไหวรึเปล่า"



"วะ...ไหวครับ สะ..สบายๆ"



คนหอบฝืนยิ้ม ชักรู้ว่าความเร็วเริ่มตก เขาปลอบใจตัวเองว่าเป็นธรรมดาที่ร่างกายออกอาการล้า แล้วพยายามออกแรงวิ่งต่อไป ผ่านหลักสามกิโลมา เหลืออีกแค่ครึ่งทาง แต่....ทำไมมันไกลจังวะ



"รักษ์ เธอไม่เป็นไรแน่นะ ถ้าไม่ไหวก็พักก่อน"



"ยะ...ยัง...แฮ่ก...ยัง...วะ...ไหว...ครับ



ตอบกะท่อนกะแท่นแทบไม่เป็นประโยค ขาอ่อนยวบเหมือนเยลลี่วิ่งไปพาลจะล้ม กิโลเมตรที่สี่มีซุ้มให้บริการน้ำอยู่ เขารีบถลาไปหาประหนึ่งเจอโอเอซิสกลางทะเลทราย แต่คุณชายดึงแก้วไปจากมือ แล้วราดน้ำลงบนหัวเขาทันที



"เฮ้ย! เย็น"



อนุรักษ์สะดุ้งตกใจ  คุณชายยกน้ำอีกแก้วให้เขาพร้อมออกคำสั่ง



"เอานี่ จิบแค่สองอึกพอ"



คนเหนื่อยทำตามอย่างว่าง่าย พอได้น้ำชุ่มศีรษะช่วยลดความร้อน ประกอบกับน้ำที่เติมลงสู่ร่างกายก็ทำให้เขารู้สึกเหมือนปลาที่ได้ว่ายกลับลงทะเล หายใจสะดวก และฟื้นคืนพลังอีกครั้ง



"ดีขึ้นใช่ไหม"



"ครับ"



พยักหน้ามองคนถามที่มีเพียงเหงื่อซึมออกมาเล็กน้อย ตรงข้ามกับเขาซึ่งหอบปางตาย



"ทะ...ทำไมคุณดูไม่เป็นอะไรเลย"



"ฉันวิ่งที่ฟิสเนตคอนโดอาทิตย์ละสี่วัน วันละหนึ่งชั่วโมง ก่อนไปทำงานประจำอยู่แล้ว"



...ถ้าคุณพี่จะฟิตหุ่นหนักขนาดนั้นแล้วทำไมไม่บอกเขาตั้งแต่แรก!



ปกติอีกฝ่ายใส่เสื้อสูทตลอด พอสวมเสื้อยืดถึงเห็นว่าต้นแขนมีกล้ามเนื้อสวยพอเหมาะ ส่วนหน้าท้องก็คงมีซิกแพ็คเป็นลอนอยู่แน่ๆ มิน่าเจ้าตัวถึงคอยพะวงกลัวเขาจะไม่ไหว



หากลองสังเกตคนอื่นๆ จะเด็กประถมหรืออากงต่างก็วิ่งแซงเขาไปข้างหน้าอย่างสบายๆ คมมีดคำพูดของคุณชายจู่โจมเสียบแทงใจซ้ำ เขาไม่น่าออกตัวแรงโม้มากเลย ใครจะไปนึกว่ามาราธอนมันหนักกว่าที่คิด



"คุณวิ่งนำผมไปก่อนเลยก็ได้ครับ ไว้ค่อยไปเจอกันที่เส้นชัย"



บอกออกไปด้วยความที่ไม่อยากให้เห็นสภาพน่าสมเพชของตนเอง แต่คุณชายยืนกรานสั้นๆ



"...ฉันจะเข้าพร้อมกับเธอ" 



ฟังดูซาบซึ้ง ถ้าไม่ใช่ประโยคถัดมาปลิดแรงเขาให้เหือดหาย 



"เพราะถ้าปล่อยเธอไว้คนเดียว ฉันคงต้องไปตามหาเธอที่รถพยาบาลแทน มันจะยุ่งยาก"



ยังใช้คำเชือดเฉือนเหมือนเดิมจนต้องประท้วง



"โห อย่าดูถูก นี่ผมยังไม่ได้ใช้พลังแฝงที่ซ่อนไว้เลยนะ"



"พลังแฝงแบบไหน"



"ก็อย่างเวลาตกใจมากๆ คนที่บ้านไฟไหม้ เขาจะใช้พลังแฝงแบกโอ่ง ยกตู้ออกมาได้เลย"



"แต่ต้องให้ตกใจก่อนถึงจะมีแรงไม่ใช่เหรอ"



"เออ...ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น"



พูดไปแล้วเพิ่งนึกขึ้นได้ แล้วตอนนี้เขาจะเอาอะไรมาแกล้งตกใจหลอกตัวเองให้มีแรงกัน แต่คุณชายดันชะลอฝีเท้าพร้อมเรียกรั้ง



"รักษ์ เธอหยุดก่อน"



คนวิ่งเหยาะๆ หยุดตามคำสั่งด้วยความสงสัย แล้วก็ต้องเบิกตากว้าง เมื่อร่างสูงย่อตัวลงมาตรงหน้าเขา พร้อมกับผูกเชือกรองเท้าที่หลุดให้



"เฮ้ย! คุณชาย เดี๋ยวผมผูกเองครับ!"



"ร่างกายเธอกำลังเผาผลาญออกซิเจน ถ้าก้มลงมาเร็วๆ เดี๋ยวหน้ามืด"



ไม่ทันขาดคำ คนแข้งขาอ่อนแรงก็ทรุดฮวบนั่งล้มพับกองกับพื้น



"เห็นไหมฉันบอกแล้ว"



เปล่า...เขาไม่ได้ล้มเพราะหน้ามืด แต่เพราะตกใจที่คนอย่างคุณชายก้มลงมาผูกเชือกรองเท้าเขาต่างหาก ไม่เพียงแค่นั้นอีกฝ่ายยังส่งแขนมาให้



"ไปต่อเถอะ เหลืออีกแค่กิโลเดียว"



ใบหน้าคมย้อนแสงอาทิตย์เป็นเงาลางๆ มันเบลอจนเขาคิดว่าตัวเองตาฝาดรึเปล่าที่เห็นริมฝีปากตรงหน้าคลี่ยิ้ม คล้ายดั่งมนต์สะกดให้เขาเอื้อมไปจับมือฉุดตัวเองลุกขึ้น แล้วออกวิ่งอีกครั้ง



ในที่สุด หลังผ่านพ้นไปหนึ่งชั่งโมงเต็ม อนุรักษ์ก็วิ่งเข้าเส้นชัยในลำดับคนที่เกือบสี่ร้อย หมดสิทธิ์ได้เหรียญ แต่ตอนนี้เขาเลิกสนใจไปแล้ว เพราะสำหรับเขามันคือชัยชนะอันยิ่งใหญ่ ความรู้สึกเต็มตื้นเอ่อล้น เพลงวีอาร์แชมเปี้ยนกู้ร้องดังขึ้นในใจ



หกกิโลเมตร เหนื่อยยากแทบรากเลือด กระนั้นก็อุตส่าห์ฝ่าฟันมันมาจนสำเร็จ



เคยได้ยินว่าการวิ่งมาราธอนสามารถเปลี่ยนชีวิตคน ตัวเขาที่สัมผัสแค่เพียงเศษเสี้ยวเดียวก็ยังเผลอประทับใจ แต่ถ้าถามว่าให้วิ่งอีกไหม คงส่ายหัวดิก ตอนนี้อยากล้มตัวนอนเต็มแก่ ทว่าคุณชายยังดึงแขนเขาให้วิ่งต่อไปอีกระยะ เพื่อให้ร่างกายคูลดาวน์ ปิดท้ายด้วยการเหยียดกล้ามเนื้อจะได้ไม่เกิดอาการบาดเจ็บภายหลัง



อนุรักษ์ทำทุกอย่างด้วยความกระปลกกระเปลี้ย ก่อนมานั่งหมดแรงสิ้นสภาพ พลังงานกล้วยสลายหายไปตั้งแต่สองกิโลเมตรแรกแล้ว ที่เหลือวิ่งด้วยแรงอึด ส่วนกิโลเมตรสุดท้ายวิ่งด้วยแรงกระตุ้นเพราะตกใจ



...มีคนมาดดีระดับคุณชายก้มลงไปผูกเชือกรองเท้าให้เป็นใครจะไม่ช็อคบ้าง เขาไม่รู้เหตุผลว่าเป็นเพราะผีสุภาพบุรุษเข้าสิง หรือเพราะแค่ต้องการแกล้งเขาที่พูดถึงพลังแฝงออกไปรึเปล่า ซึ่งถ้าคุณชายจงใจแบบนั้น ขอบอกว่ามันได้ผลดี แต่ถ้าหากไม่ใช่...



"น้ำ"



น้ำแช่เย็นเจี๊ยบถูกยื่นมาให้จากคู่กรณีในห้วงความคิด คนเหงื่อโทรมหยุดฟุ้งซ่าน รีบรับไปเปิดฝากระดกอั่กๆ ระหว่างได้ยินเสียงถาม



"ขาเป็นไงบ้าง"



"แค่ล้าๆ ครับ"



"ให้ฉันดูหน่อย"



การดูของคุณชายคือการใช้นิ้วจิ้มลงไปตรงน่องแรงๆ เล่นเอาคนเจ็บสะดุ้งร้องโอย!



"พรุ่งนี้มันจะปวดมาก ถ้าเป็นไปได้ขอลาหยุดแล้วนอนพักซะ"



"ไม่เป็นไรครับ ผมก็จะได้ทดลองแผ่นบรรเทาอาการปวดเมื่อยด้วยพอดีเลยไง"



นี่เป็นจุดประสงค์ที่เขาตัดสินใจร่วมวิ่งตั้งแต่แรก แทนทีเจ้านายจะชื่นชม นัยน์ตาเรียวกลับดุขึง



"อย่าเห็นเป็นเรื่องเล่นๆ โฆษณาไม่ได้วัดกันที่ผลของผลิตภัณฑ์อย่างเดียว ถึงเธอจะทดลองจนรู้ประสิทธิภาพทุกอย่าง แต่ถ้าหาวิธีบอกเล่าให้คนอื่นสนใจไม่ได้ มันก็ไม่มีประโยชน์"



นักโฆษณาสวมวิญญาณสอนลูกศิษย์มือใหม่อีกครั้ง ย้ำท้ายด้วยการขีดเส้นใต้ใจความหลัก



"ข้อสำคัญ เธอต้องคิดเสมอว่า ไม่ใช่เธอคนเดียวที่ต้องการใช้ผลิตภัณฑ์นี้ แต่ต้องทำให้คนอื่นอยากจะใช้มันด้วย"



...ให้คนอื่นอยากจะใช้



ถ้อยคำนั้นกระตุ้นสมองให้นึกถึงบางอย่าง เขากวาดตามองไปรอบๆ



ผู้คนที่เหน็ดเหนื่อยจากการวิ่งมาราธอน แม้สีหน้าอ่อนล้า แต่ฉาบแฝงด้วยความสุขจากการเอาชนะขีดความสามารถตนเองมาได้ 



"คุณชายรู้ไหมครับ ตอนวิ่งมีอยู่แวบหนึ่งที่ผมคิดว่า ...นี่กูบ้ารึเปล่าวะ จะมาทรมานร่างกายตัวเองทำไม"



อนุรักษ์ย้อนความจำไปยังห้วงเวลาแห่งความลำบาก  "...เหนื่อยก็เหนื่อย ร้อนก็ร้อน ขนาดผมวิ่งแค่หกกิโลยังหอบแทบตาย แล้วพวกที่วิ่งเป็นสิบกิโลจะขนาดไหน แต่พอผ่านเข้าเส้นชัย ผมถึงเพิ่งเข้าใจ ...ถึงจะเมื่อยก็จริง เหนื่อยก็จริง แต่ถ้าไม่ลองพยายามสู้ก็คงไม่รู้ว่าตัวเองทำได้"



คนอื่นๆ ก็อาจไม่ต่างไปจากเขา ในจังหวะที่เหยียบเข้าเส้นชัย คงสัมผัสความรู้สึกได้ในแบบเดียวกัน



"...และเมื่อไรที่ล้า ถ้าได้แปะแผ่นบรรเทาอาการปวดก็คงพร้อมลุกขึ้นลุยต่อ ผมคิดว่าจุดนี้ก็ไม่ต่างไปจากชีวิตคนเลยนะครับ"



เขายกข้อเปรียบเทียบ โดยเอาแผ่นปิดประคบมาเชื่อมโยงกับประสบการณ์ของตนเอง คุณชายนิ่งคิดตามก่อนนำคำพูดมาเรียบเรียงอีกครั้ง



"เธอจะบอกว่า เธอต้องการสร้างภาพลักษณ์ของแผ่นบรรเทาอาการปวดให้เป็นเหมือนตัวช่วยสนับสนุนคนที่พยายามฝ่าฟันไปจนถึงเป้าหมายของตนเองน่ะหรือ"



สมกับเป็นครีเอทีฟมากประสบการณ์จับคอนเซปต์หลักตีความได้แจ่มแจ้ง อนุรักษ์รีบพยักหน้า



"ใช่ครับ ที่มาวิ่งวันนี้ผมเหมือนได้เปิดโลกกว้างไปด้วย คนอื่นก็คงมีเรื่องที่พวกเขาอยากทำ อยากเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ถ้าจะทำโฆษณาก็น่าจับประเด็นนี้มาปรับใช้ได้นะครับ"



พูดเสริมไอเดียด้วยความตื่นเต้น คุณชายลูบปลายคางเกลี้ยงเกลาไร้หนวดเคราคล้ายกำลังพิจารณา



"แล้วเธอคิดสตอรี่บอร์ดเป็นแบบไหน"



"สตอรี่บอร์ด?"



"หมายถึงภาพโฆษณาที่เธออยากจะเห็น"



เขาเงยหน้ามองท้องฟ้ายามเช้า จินตนาการว่ามันเป็นคลิปวิดีโอโฆษณาบนอินเตอร์เน็ต แล้วกดปุ่มเริ่มเล่น



"มีคนยืนอยู่ในสนามวิ่งมาราธอน แล้วพอสัญญาณออกสตาร์ทดัง ทุกคนก็วิ่งไปทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ออกไปปีนภูเขาเที่ยว ออกไปลองเล่นกีฬา ลงมือสร้างธุรกิจใหม่ๆ ...ภาพตัดมาที่เหงื่อพวกเขาหยด ร่างกายปวดเมื่อย แต่พวกเขาไม่ท้อ แปะแผ่นบรรเทาอาการแก้ปวด แล้วพยายามต่อจนสำเร็จ ...เสียงขึ้นปิดท้ายเท่ๆ ว่า 'ชีวิตคือการวิ่งไปหาเส้นชัยของตัวเอง'..."



แล้วภาพหน้าจอโฆษณาก็ดับลง คนลุกขึ้นปรบมือซาบซึ้งดังกระหึ่ม น้ำตาหน่วงคลอเบ้า เออ...ไอ้หลังๆ เขาเพ้อไปหน่อย หากแค่นั้นก็เพียงพอให้เจ้านายยอมรับ



"อืม น่าสนใจ ฉันจะลองเอาที่เข้าประชุมดู แต่ฉันยังกังวลว่ามันจะนำเสนอประสิทธิภาพของสินค้าได้ชัดเจนมากพอรึเปล่า"



คนทดลองใช้แผ่นประคบแล้วรู้สึกเฉยๆ อาจมองว่าโฆษณาที่พรรณนาดูเกินจริงไปบ้าง แต่เขายังไม่เคย ผลลัพธ์ที่มีอาจแตกต่างกัน



"แล้วคุณชายเอาแผ่นปิดประคบมาด้วยรึเปล่าครับ"



ฝ่ายถูกถามล้วงกระเป๋ากางเกง สิ่งที่หยิบขึ้นมาเป็นคูลเจลยาทาคลายกล้ามเนื้อหลอดเล็ก



"เธอใช้อันนี้ทาจะลดอาการอักเสบได้เร็วกว่า"



"แต่ผมตั้งใจวิ่งเพราะจะได้ใช้แผ่นปิดประคบนะครับ" อนุรักษ์ทักท้วง



"ฉันทดลองใช้แล้วเมื่อวาน เธอไม่จำเป็นต้องทำซ้ำหรอก"



"อ้าว งั้นผมจะเสียเวลามาวิ่งทำไม"



"ฉันเห็นเธอทุ่มเทเลยไม่อยากขัด"



"แบบนี้ก็เหมือนตั้งใจแกล้งกันนี่ครับ ตอนผูกเชือกรองเท้าก็ด้วย คุณแค่อยากแกล้งให้ผมตกใจเล่นๆ เหมือนกันใช่ไหม"



คาดคั้นกับความสงสัยที่อยากรู้ คุณชายชะงัก ย้อนถามด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะตึงขึ้นเล็กน้อย



"เธอคิดอย่างนั้นเหรอ"



"แล้วจะให้ผมคิดยังไง"



"...งั้นก็ตามใจ"



เอ่ยจบก่อนลุกขึ้นเดินห่างออกไป ปล่อยอนุรักษ์ให้มองตามแผ่นหลังของผู้ชายอายุสามสิบสองที่คล้ายกำลังงอน



...ก็เพราะไม่อยากคิดตามใจตัวเองไงถึงได้ถาม



สิ่งที่คุณชายคอยทำให้ เขาดูออกว่าเต็มไปด้วยความห่วงใย แต่ยิ่งคุณชายดีกับเขามากเท่าไร เขาก็ยิ่งวางตัวลำบาก โดยเฉพาะในฐานะเจ้านายลูกน้องด้วยแล้ว



เขาไม่แน่ใจว่าคุณชายจะรู้ตัวรึเปล่าว่า ถ้าพิจารณาจากสายตาบุคคลภายนอก เส้นขอบเขตนี้มันชักจะแกว่งไปมาเกินพอดีขึ้นทุกที บางสถานการณ์เขาเลยอยากให้คุณชายสื่อสารออกมาให้ชัดเจน มิเช่นนั้นอาจทำให้คนอื่นแปลเจตนาของการกระทำผิดพลาดไปเองก็ได้



"รักษ์มัวทำอะไรอยู่ กลับได้แล้ว"



เสียงออกคำสั่งดังตามมา อนุรักษ์ถอนหายใจยาว ลุกขึ้นเดินไปหาด้วยแข้งขาอ่อนแรง พร้อมมติตัดสินตามใจตัวเอง



...ถ้าอย่างนั้นตอนนี้เขาจะขอตีความว่า คุณชายทำทั้งหมดเพราะแค่อยากแกล้งกวนประสาทเขาตามประสา 'เด็กโข่งขี้เหงา' ไปก่อนก็แล้วกัน





-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 



หลังกลับขึ้นรถญี่ปุ่น พอมีแอร์เย็นๆ เป่าสักพักก็ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายได้บ้าง ยกเว้นเพียงสิ่งเดียวที่ถูกกระตุ้น คือน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร ซึ่งเริ่มทำงานจนท้องร้องโครกคราก



ระหว่างทางไปคอนโด คนขับจึงหมุนพวงมาลัยแวะจอดใกล้ตลาดเช้า



“ไปกินข้าวกันก่อน”



คุณชายเดินนำลัดเลาะเข้าซอยเต็มไปด้วยแผงขายของสด ผักผลไม้ รวมทั้งข้าวแกงใส่ถุง



แปดโมงยี่สิบไม่นับว่าเช้านัก แต่ตลาดก็ยังไม่ถึงกับวาย อาจเพราะเป็นวันอาทิตย์บรรยากาศจึงแฝงความสบายไม่เร่งรีบมาก



ด้วยเหตุนี้พอพวกเขาหยุดลงตรงหน้าร้านขายโจ๊กเลยยังมีที่นั่งเหลืออยู่บ้าง



“ใส่ไข่รึเปล่า”



ร่างสูงผู้เป็นคนพามาเอ่ยถาม อนุรักษ์พยักหน้าอัตโนมัติ



“โจ๊กหมูสองชาม ใส่ไข่ด้วยครับ”



คุณชายหันไปสั่งกับอาเฮียคนขายด้วยท่าทีเป็นธรรมชาติเหมือนคุ้นเคย



ไม่เกินสามนาที โจ๊กร้อนๆ ก็ถูกนำมาวางบนโต๊ะ ข้าวสีขาวนวล ตัดกับสีต้นหอม พริกไทย ขิงซอย และปาท่องโก๋ตัวเล็กเป็นเครื่องเคียง



อนุรักษ์เจาะไข่ลวกซึ่งยังไม่สุกดีตักคนขึ้นมาชิมพร้อมโจ๊ก รสอุ่นซ่านเต็มไปด้วยความอร่อยช่วยเติมพลังที่หายไปจากการวิ่งมาราธอนได้ชะงัด ไม่ทันไรก็พบว่าช้อนตัวเองตักโจ๊กด้วยความเร็วหมดไปเกินครึ่งชาม มาหยุดอีกทีก็ตอนเห็นจานใส่ปาท่องโก๋ตัวเล็กวางไว้ตรงหน้า



“ฉันสั่งมาให้เพิ่ม”



ความที่มัวแต่ก้มหน้าก้มตากิน เลยไม่รู้ตัวว่าผู้นั่งร่วมโต๊ะคอยสังเกตมองอยู่ แถมยังตาไวดูออกว่าของโปรดเขาคืออะไร



“ขอบคุณครับ”



“เธอชอบก็ดีแล้ว”



แม้พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบประจำตัว บางสิ่งกลับแปลกไปจากเดิม อาจเพราะคุณชายไม่ได้สวมสูท ทรงผมบางส่วนชี้ออกไร้ความเนี้ยบ นักครีเอทีฟโปรไฟล์ระดับหัวแถวเลยกลายเป็นคนธรรมดาเข้าถึงง่าย จนชักจะสงสัยว่าภาพลักษณ์แบบไหนคือตัวจริง



เขาละมือจากการกินโจ๊ก เกริ่นเริ่มบทสนทนา  “ปกติวันหยุดคุณทำอะไรเหรอครับ”



คนถูกถามนิ่งไปเล็กน้อยคล้ายทวนหาคำตอบ แต่คงพบแค่กิจวัตรเดียวของตนเอง



“คิดงาน”



ฟังแล้วละเหี่ยใจแทนหัวหน้าจอมขยัน หากคงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับอาชีพครีเอทีฟที่จะมีงานค้างอยู่ในหัวตลอดเวลา ต่อให้ยืน เดิน นั่ง ก็ต้องแก้โจทย์โปรเจคของลูกค้าให้ได้ เป็นงานที่ไม่สิ้นเปลืองแรงกาย แต่ต้องใช้สมองอย่างหนัก



“เธอล่ะ?”  ถึงคราวตนเองถูกย้อนถาม



“เออ...ผมก็คงนอนล่ะมั้งครับ”



หลุดปากออกไปแล้ว เพิ่งรู้ตัวว่ากิจวัตรของเขาช่างสิ้นคิดไร้ประโยชน์มากกว่าของคุณชายเสียอีก แต่อีกฝ่ายดันพยักหน้าเห็นด้วย



“ก็เหมาะกับเด็กวัยอย่างเธอดี”



เฮ้ๆ เดี๋ยวก่อน เขาไม่ใช่เด็กอนุบาลที่ต้องพักนอนกลางวันนะ ตอนเรียนปั่นงานโมเดลส่งอาจารย์ก็ยังเคยโต้รุ่งสองคืนติดเหมือนกัน ถึงเขาจะอายุห่างจากคุณชายสิบเอ็ดปีก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องถูกจับมาเป็นประเด็นเปรียบเทียบ ศักดิ์ศรีเขามี คงถึงเวลาต้องเคลียร์กันให้ชัดๆ



“ไม่เห็นเกี่ยวตรงไหนเลยครับ จะเด็กหรือผู้ใหญ่ยังไงก็ต้องพักบ้าง ขืนบ้างานตลอดร่างกายจะแย่เอา ...แล้วอีกอย่างคุณก็ควรเลิกมองผมเป็นเด็กซะที เดี๋ยวนี้มีหลายเรื่องที่เขาไม่เอาอายุมาเป็นเกณฑ์ตัดสินกันแล้ว”



อนุรักษ์อธิบายร่ายยาว หวังจะเปลี่ยนมุมมองของคนเกิดก่อน หากเจ้าตัวแค่หยิบปาท่องโก๋มาใส่ชามโจ๊กตนเองราวกับฟังเขาพอผ่านๆ ยังดีหน่อยตรงที่กระตุ้นถามให้ยกตัวอย่าง



“เรื่องไหนบ้างล่ะ”



“เออ...ก็อย่างเช่นเรื่อง...”



เขารีบคว้านหาข้อมูลสนับสนุนกะทันหัน แล้วสายตาก็บังเอิญไปจับตรงคุณตาคุณยายคู่หนึ่งกำลังนั่งกินโจ๊กอยู่โต๊ะข้างๆ กัน



“ความรักไงครับ ...ถ้าคนเรารักกัน จะอายุห่างเท่าไรก็ไม่เป็นอุปสรรค ...แค่ได้อยู่ด้วยกัน ได้ดูแลกันแล้วมีความสุขก็พอ”

             

              เขาใช้ตัวอย่างคลาสสิก ซึ่งพิสูจน์หลักฐานได้ชัดเจนที่สุด แทนที่จะโน้มน้าวคนฟังได้ กลับยังโดนพูดปรามาส



“แต่เด็กอายุเท่าเธอจะดูแลฉันได้จริงเหรอ”



ถูกสบประมาทไม่เลิกก็ทำเอาหมดความอดทน เผลอทุบโต๊ะปึง! พูดโพล่งยืนกรานหนักแน่น



“ผมดูแลคุณได้แน่อยู่แล้ว! เมื่อกี๊ก็เป็นห่วงถึงบอกให้คุณพักบ้างไงล่ะครับ!”



เสียงดังนั้นเรียกสายตาจากโต๊ะคู่ชายหญิงชราข้างๆ และทำให้อนุรักษ์ได้สติ



...เป็นอีกครั้งที่เขาเผลอหลุดปากไปแล้วจึงเพิ่งรู้ตัว หากคราวนี้มันมาพร้อมกับความรู้สึกบางอย่าง



ทั้งที่เขาแค่ตั้งใจจะตอกกลับคุณชาย แต่กลายเป็นถูกหลอกล่อให้ใช้ประโยคแสดงความห่วงใยออกไปโต้งๆ แล้วสิ่งที่พูดตอนอยู่ในภาวะอารมณ์โกรธ ก็มักจะเกิดจากแรงขับซึ่งซ่อนอยู่เบื้องลึกข้างในจริงๆ

“อืม ฉันเข้าใจแล้ว”



ตอนนี้คุณชายไม่ได้ให้ความสนใจกับชามโจ๊ก ดวงตาสบมองเขาตรงๆ ซ้ำยังทอประกายพาให้หัวใจเขาวูบไหวแปลกๆ จนต้องหยุดบทสนทนาทั้งหมด แล้วรีบหันไปหยิบช้อนตักโจ๊กกินต่อโดยไม่ปริปากพูดอะไรอีกเลย



กระทั่งพวกเขาสองคนจัดการมื้อเช้าเรียบร้อย



“เก็บเงินด้วยครับ”



อนุรักษ์ล้วงกระเป๋าตังค์ขึ้นมาเพื่อจะจ่ายส่วนของตน แต่กลับถูกคุณชายชิงยื่นเงินให้เด็กเสิร์ฟเสียก่อน



“ฉันออกเอง”



“ไม่ครับ ผมจะหารด้วย”



สุดท้าย ประเด็นเรื่องอายุก็ยังไม่เห็นจะเข้าใจอย่างปากว่าอยู่ดี เขาเองก็มีศักดิ์ศรี ไม่อยากโดนมองเป็นเด็กต้องมาให้ผู้ใหญ่คอยออกเงินเลี้ยงตลอด



“ฉันรู้ว่าเธอไม่ใช่เด็ก”

             

             คุณชายคงพอจับอารมณ์เริ่มหงุดหงิดได้จึงเปรยตัดหน้าก่อนเขาจะทันได้ท้วง ทว่าก็ยังใช้ประโยคโน้มน้าวตามรูปแบบนักโฆษณา



“...แต่คนเป็นผู้ใหญ่จริงเขาไม่มาคิดเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้หรอกนะ”



นอกจากเหตุผลที่อนุรักษ์เถียงไม่ออก รอยยิ้มมุมปากจากผู้ชายอายุสามสิบสอง ก็หยุดสมองเขาให้แล่นตามไปด้วย หลงเหลืออยู่เพียงความคิดเดียว



...เขาขอเปลี่ยนใจใหม่ คุณชายแกล้งกวนประสาทเขาไม่ใช่เพราะเป็น ‘เด็กโข่งขี้เหงา’ แต่เป็น ‘ผู้ใหญ่แสนเจ้าเล่ห์’ ต่างหาก!


 ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------


TBC



ก่อนอื่นต้องขอโทษที่มาช้าค่ะ //ก้มกราบ  :hao5:

เราอยากเขียนฉากให้ตัวละครวิ่งมาราธอนด้วยกันนานแล้ว ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่เราคิดว่าช่วงเวลาที่ทั้งสองคนได้เข้าเส้นชัยพร้อมๆ กันมันเป็นโมเมนต์ที่โรแมนติกดี เลยรู้สึกดีใจมากที่ได้เขียนฉากนี้ลงในสุดที่รักษ์ค่ะ

ถึงแม้ตอนจบแอบมีดราม่านิดหน่อย แต่ความหวานเจือขมก็เป็นรสชาติรักของผู้ใหญ่ในอีกรูปแบบหนึ่ง ...น้องรักษ์เริ่มหวั่นไหว  ส่วนคุณชายก็ยังไม่ชัดเจน เราไม่แน่ใจว่าจะถ่ายทอดความรู้สึกของทั้งสองให้ทุกคนเข้าใจได้มั้ย ถ้างงตรงไหนก็บอกได้นะคะ

คราวที่แล้วได้กำลังใจจากคอมเมนต์ไปเพียบเลย ขอบคุณที่ติดตามมาก ๆ ค่ะ


 :pig4:

BitterSweet


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2016 06:10:54 โดย BitterSweet »

ออฟไลน์ becrazie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 710
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
 :z13:

ออฟไลน์ ขนมโก๋

  • เป็ดหัวเน่า
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-0
 :katai5:

ออฟไลน์ ciaiwpot

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1098
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
 :z13: :z13:

ออฟไลน์ xeruoh

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 491
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
 :z10: :z10: :z10:

ออฟไลน์ gasia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-5
กำลังอ่านตอนก่อนหน้าพอดี  ตอนใหม่ก็มาเลย ฟินนน ><
โถถ รักษ์วิ่งเท่านี้จะร่วงแล้วร่วงอีก  ตัวเธอวิ่ง10 โลจะเป็นแบบไหนเนี่ยยย
คุณชายนี่คิดยังไงกันแน่น๊าาา
แล้วใครกันแน่ที่เป็นสายให้ ATM สรุปเป็นพี่พิม.. = =

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: 【*...สุดที่รักษ์...*】บทที่ 12 : P.28 [03/07/15]
« ตอบ #829 เมื่อ: 03-07-2015 22:31:56 »





ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
สู้ๆนะฮร่ะ
ดูก็รู้ว่าเป็นนิยายที่เขียนยาก เพราะมันเรื่อยๆ เเต่ต้องดึงเอาสเน่ห์ตัวละครออกมา
เป็นกำลังใจให้เจ้าคะ

ออฟไลน์ ROCKLOBSTER

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-4
 :L2: :L1:
 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
คุณชายดับฝันน้องรักษ์เลยนะคะเนี่ย น้องอุตส่าห์จะทดลองประสิทธิภาพของแผ่นประคบเสียหน่อย แต่สุดท้ายกลายเป็นว่าได้ใช้เจลเย็นแทนเสียอย่างนั้นน่ะ :laugh:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

ออฟไลน์ มาโซซายตี้

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-2
โธ่ น้องรักษ์ ทำไมอ่อนแองี้ 5.5 กิโล มันจิ๊บจ๊อยออกจะตาย
บอสฟิตเนสบ่อยๆ สงสัยจะซิกแพ๊คแน่น
แอบนึกว่าน้องรักษ์จะลองเอามือแตะๆ แต่ก็ไม่ได้ทำแฮะ 555

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ชอบตรงที่บอกว่าจะเข้าเส้นชัยพร้อมกัน ตัดแค่นั้นพอ 555555
เราว่าคู่นี้เค้าเหมาะกันดีนะ ฮ่าาาาาาาาา

ออฟไลน์ mox2224

  • :นักเขียนสมัครเล่น:
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
คุณชายแคร์รักษ์ไม่ใช่เล่น

ออฟไลน์ Chocobear

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เด็กโข่งขี้เหงานี่น่ารักขึ้นทุกตอนเลย....
ฉากผูกเชือกรองเท้านี่จัดว่าเบสิคแมนมากนะครับ
แต่คุณชายทำแล้วแบบ... เหยดแหม่  :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
ซึน อึน มึน

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
ฟินได้อีกอ่ะ
ถึงไม่ชัดเจนแต่ได้ใจมากๆๆ ชอบโมเมนต์แบบนี้
อีกเรื่อง คุณชายมีกล้ามเว้ยยยย เฮ้!!

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด