-รักพัดหวน- ตอนพิเศษ [11/09/59]+ แจ้งข่าว หน้า14
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: -รักพัดหวน- ตอนพิเศษ [11/09/59]+ แจ้งข่าว หน้า14  (อ่าน 171363 ครั้ง)

ออฟไลน์ AuyAaiz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 90
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: -รักพัดหวน- ตอนที่11 [21 ธ.ค.58]หน้า7
«ตอบ #210 เมื่อ21-12-2015 09:56:16 »

ตอนไหนจะเข้าใจกันล่ะเนี่ยยยยยยยย :serius2:

ออฟไลน์ janehh

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: -รักพัดหวน- ตอนที่11 [21 ธ.ค.58]หน้า7
«ตอบ #211 เมื่อ21-12-2015 11:40:38 »

เมื่อไหร่เขาจะเลิกโกรธกันนนน  :serius2:

อยากได้ฉากหวานๆ หวานนนนนน  :ling1:

ออฟไลน์ Mokuchi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: -รักพัดหวน- ตอนที่11 [21 ธ.ค.58]หน้า7
«ตอบ #212 เมื่อ21-12-2015 17:00:55 »

โอ๊ยยยย อุตส่าห์ดีมาเกือบทั้งตอน  :serius2:

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
Re: -รักพัดหวน- ตอนที่11 [21 ธ.ค.58]หน้า7
«ตอบ #213 เมื่อ21-12-2015 19:15:22 »

ดีใจที่มาต่อนะค่ะ^^//ว่าแต่อะไรยังงัยกันค่ะเนี่ย แล้วแม็คกี้เกี่ยวอะไรด้วยอ่ะ  ><

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: -รักพัดหวน- ตอนที่11 [21 ธ.ค.58]หน้า7
«ตอบ #214 เมื่อ21-12-2015 19:39:54 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ -Otto-

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-0
Re: -รักพัดหวน- ตอนที่11 [21 ธ.ค.58]หน้า7
«ตอบ #215 เมื่อ21-12-2015 20:41:22 »

แม็กกี้มายังละเนี่ย  :mew5:

ออฟไลน์ Youi_chin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 166
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
Re: -รักพัดหวน- ตอนที่11 [21 ธ.ค.58]หน้า7
«ตอบ #216 เมื่อ21-12-2015 21:15:49 »

 :z13:

ออฟไลน์ lieu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: -รักพัดหวน- ตอนที่11 [21 ธ.ค.58]หน้า7
«ตอบ #217 เมื่อ22-12-2015 14:43:39 »

=_=*  พอจะดีกัน หวานได้ไม่เท่าไหร่ มาม่าใส่กันอีกแล้ว
แบบนี้เมื่อไหร่จะเข้าใจกันนนนนนนนน!!!!

แคร์เค้าก็บอกเค้าไป  -___-''  สองคนนี้ ปากแข็ง แต่ใจอ่อนด้วยกันทั้งคู่
คนรอบข้าง ก็ลุ้นกันจนหัวทิ่มมม

ออฟไลน์ sine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 321
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +129/-3
Re: -รักพัดหวน- ตอนที่11 [21 ธ.ค.58]หน้า7
«ตอบ #218 เมื่อ12-01-2016 11:15:45 »

- รักพัดหวน - 

ลมพัดครั้งที่ 12












นี่มันเรื่องอะไรกัน?
เขาถาม...แต่ใครเล่าจะเป็นคนตอบ?
ภาพที่แม็กกี้ยกแขนขึ้นคล้องคอสีหราชพลางแนบริมฝีปากลงบนแก้มกร้านนั้นยังคงติดอยู่ในใจไม่อาจสลัดหลุด    เขาก้าวถอยหลังออกจากตรอกนั้นโดยไม่ปล่อยให้ใครรั้ง  หรืออันที่จริงอาจจะไม่มีใครร้องเรียกเพื่อรั้งเขาก็ได้...

ร่างโปร่งยกเข่าขึ้นชัน  ซบหน้าลงเพื่อซ่อนหยาดน้ำอุ่นที่จวนเจียนจะหยด  ทั้งความตกใจ  ความไม่เข้าใจ  ทั้งความสับสนตีกับวุ่นเสียจนเขาเรียบเรียงไม่ถูก
 
“เพลง  นิ่งเสีย”   คีตกาลบอกตัวเอง   เขาสูดลมหายใจเข้าลึกยกหลังมือปาดน้ำตาซึ่งหยดลงมาพอดีคิ้วเรียวขมวดแน่น   ฟังจากบทสนทนาของคนทั้งคู่เขาคิดว่า...  ทั้งแม็กกี้และสีหราชอาจจะมีข้อตกลงกัน   แล้วตกลงอะไรกันล่ะ?  เกี่ยวกับเขาหรือเปล่า?

‘ถ้ายังรักอยู่  นายก็ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เขาคืนมา’   คำพูดของแม็กกี้ผุดขึ้นมาในหัว  เพื่อนสาวบอกเขาก่อนขึ้นเครื่องมาที่นี่

ใช่!  เขาจะต้องทำทุกวิถีทาง!

แม้จะต้องผิดใจกับเพื่อนก็เถอะ!





...ก็...เขารักของเขามาตั้งนานนี่นา...

แต่จะทำยังไงกันล่ะ?

ร่างโปร่งเดินวนไป-วนมาในห้องของโรงแรมซึ่งตัดสินใจพักกะทันหันหลังวิ่งออกมาจากตรอกนั้น

‘ปล้ำเลย! ทำให้เขาเป็นของนาย!’   คีตกาลแสยะยิ้ม  คำแนะนำและแผนการของแม็กกี้ค่อยๆผุดขึ้นมา   ใช่!  เขาจะใช้แผนของแม็กกี้นั่นแหละจัดการสีหราช!  ดูซิ  ถ้าสีหราชตกเป็นของเขาเพื่อนตัวแสบนั่นจะทำหน้ายังไง!

แต่...

มันน่าอายนี่นา!  …ถ้าเมาก็ไม่อาย? 

งั้น...มอมเหล้าสีหราชดีไหม?  หรือจะมอมเหล้าตัวเองดี?

ปัญหาที่หนึ่งคิดได้ ปัญหาต่อไปก็มาเยือน  คีตกาลขบเล็บอย่างครุ่นคิด  เขาเหลือบมองนาฬิกาซึ่งบอกเวลาเที่ยงคืนแล้วอยากจะร้องไห้   เอาวะ!

สุดท้ายเขาเลยสั่งทั้งไวน์ทั้งเบียร์มาดื่มย้อมใจ   อันที่จริงเพื่อเพิ่มความด้าน...  ความกล้าให้ตัวเอง  ไวน์1ขวดหมดไปท่ามกลางความเสียดาย  คีตกาลมองแก้วเปล่าแล้วส่ายหน้า  คิดผิดจริงๆที่จะดื่มไวน์ให้เมา   ก็เลยต้องคว้าเบียร์ขึ้นกระดกอึกๆชนิดเร่งปฏิกิริยาความเมาชนิดเฉียบพลัน    และก็ดูเหมือนจะได้ผลดี....

“หึหึหึ~”   ร่างโปร่งยืนโงนเงนหัวเราะลงคอ  ความรู้สึกฮึกเหิมแล่นพล่านหลังจากตัดสินใจแน่วแน่แล้ว  ตอนดื่มยังนึกหวั่นๆอยู่บ้าง  หากพอนึกถึงเรื่องเมื่อตอนหัวค่ำเขาก็กระดกเอาๆแบบลืมตายจนได้ผลอย่างที่เห็น

คีตกาลเดินกลับไปยังโรงแรมที่พักกับสีหราช   มือขาวควานหากุญแจห้องชูขึ้นดู   รอยยิ้มหมายมาดวาดประดับมุมปาก  ก่อนๆค่อยก้าวเข้าไปในลิฟต์

ชั้น1…

ชั้น2....

ชั้น3…..

ติ๊ง!    ประตูลิฟต์เปิดออก   ร่างโปร่งเดินเชื่องช้าก่อนหยุดยืนหน้าห้อง  เขาเพ่งมองหมายเลขหน้าห้องท่ามกลางความมึนเมา  เมื่อมั่นใจว่าถูกต้องก็ค่อยๆไขกุญแจแผ่วเบา

ในห้องมืดสนิท     คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอีกครั้งในใจพลันตระหนก   หรือสีหราชจะไม่อยู่?    คีตกาลตรงไปยังส่วนห้องนอน  เพ่งมองเงาร่างบนเตียงนิ่งนาน...   จนแน่ใจว่าบนนั้นมีเงาร่างเดียวถึงผ่อนลมหายใจโล่งอก   มือขาวยกขึ้นตบหน้าตัวเองเพื่อเรียกกำลังใจอีกครั้ง   แล้วค่อยย่องไปหาร่างบนเตียงอย่างเงียบๆ   ร่างโปร่งคืบคลานช้าๆจนคร่อมทับร่างนั้น    ใบหน้าขาวเอียงมอง  ซ้าย...แล้วก็ขวา...

จะเริ่มจากตรงไหนดี?





“!”

พลันคนที่หลับอยู่ก็สะดุ้งเฮือกเพราะรู้สึกถูกคุกคาม   ร่างหนายันกายส่วนบนขึ้นก่อนจะเบิกตากว้างอย่างตกใจ  เงาร่างหนึ่งคร่อมทับเขาอยู่  ซ้ำยังจ้องเขาราวกับจะกลืนกิน!

กลิ่นแอลกอฮอลทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้วฉับ  ก่อนสงบสติอารมณ์แล้วจ้องมองเงามืดตรงหน้า   แสงจากหลอดไฟข้างถนนสาดส่องเข้ามาผ่านชายผ้าม่านทำให้เขาเห็นเค้าหน้าของเงานั้น   ครั้นเมื่อเห็นว่าเป็นใครจึงถอนหายใจโล่งอก

“คีตกาล  นายไปไหนมาน่ะฮึ?  แล้วกลับมาป่านนี้แถมยังเมาด้วย”

“....”  ใบหน้าขาวเอียงมองเขาหากไม่ตอบคำ

“เมาอยู่ใช่ไหมเนี่ย?”   ริมฝีปากหยักขยับจะบ่นต่อหากต้องชะงักเมื่อคนด้านบนฉกวูบลงมาอย่างรวดเร็ว  “!”

ริมฝีปากอิ่มบดเบียด  คลึงเคล้าย้ำแรง  สีหราชเบิกตากว้าง  กลิ่นแอลกอฮอลจากริมฝีปากที่บดเบียดลงมาขมปร่าเล็กน้อย   ชายหนุ่มปล่อยให้อีกฝ่ายและเล็มริมฝีปากของเขาอยู่ครู่หนึ่ง  นอกจากจะไม่ผละออกซ้ำยังละเลื่อยลงข้างแก้มและซอกคอ...

“ฮื่อ! เพลง! จะทำอะไร?”

“ปล้ำ!”

“ห้ะ?”

“ปล้ำ!”  ร่างโปร่งเยหน้าขึ้นตอบเสียงดังย้ำคำเดิมแม้จะฟังไม่ชัดเพราะลิ้นคับปากจากความเมาก็ตาม  สีหราชนิ่งอึ้งก่อนจะหัวเราะขึ้นจมูกจนอกแกร่งกระเพื่อมทำเอาคีตกาลที่นอนอยู่บนร่างหนากระเพื่อมตามแรงขำนั้น   คิ้วเรียวขมวดฉับอย่างไม่พอใจ  ริมฝีปากบางยู่ลง

“คิดยังไงจะมาปล้ำกันแบบนี้?”

“......นายเป็นของฉัน!”

“?”

“ฉันไม่ยกนายให้ใครหรอก!”  คำประกาศกร้าวพร้อมดวงตาคู่สวยจ้องท่ามกลางความมืดสลัว

คีตกาลจะรู้ไหม  คำขู่นี้ไม่น่ากลัวเลยสักนิด  ซ้ำยังทำให้หัวใจเขาพองโตคับอกและเต้นรัวแรงอย่างเหลือเกิน   ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าคีตกาลกำลังเมาเต็มที่  ถึงขนาดกลับมาปล้ำเขาหลังจากตระหนกกับเรื่องเมื่อค่ำแบบนี้...

“งั้น...นายจะทำยังไงล่ะ?”

“ฉันก็จะจูบนาย!”

“แล้วทำอะไรอีก?”

“อืม...กอดนาย”

“ต่อไปล่ะ?”

“ครอบครองนาย!  ทำให้นายเป็นของฉัน!”

“......”

“ฉันจะกดนาย!”

“อ้อ~”

“ปล้ำได้ไหม?”  เจ้าของใบหน้าใสเอียงคอถาม  ดวงตาหวานฉ่ำหรี่ปรือ  แก้มขาวแดงเรื่อเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล

“เชิญปล้ำได้เลยครับ”  สีหราชยกยิ้มก่อนจะทิ้งกายลงนอนพลางอ้าแขนกว้างแล้วยกยิ้มมุมปาก     หากคีตกาลกลับยิ่งขมวดคิ้วแน่น

“นายคิดว่าฉันไม่กล้ารึไง!”

“ครับ  กล้าครับ หึหึ~”

“ฮึ่ย!”  มือขาวกระชากเสื้อนอนคนด้านล่างจนกระดุมหลุดกระเด็น

“เอาน่า  ใจเย็น~  คราวนี้ฉันจะไม่หนีนายเหมือนตอนนั้นหรอก”

“.......”  ดวงตาวาวฉ่ำเหลือบมองใบหน้าหล่อเหลา    สายตาวาววับของสีหราชจ้องกลับ  คราวนี้ไม่มีรอยยิ้มยั่วเย้า  หากมีแต่เพียงความอ่อนโยนที่ส่งมอบให้  คีตกาลละมือจากปกเสื้อเลื่อนขึ้นแตะแก้มกร้านแผ่วเบา

แตะริมฝีปากแผ่ว  ผละห่างเพื่อจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีสนิมคู่นั้น  ไม่มีคำพูด...มีเพียงลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดแก้มซึ่งกันและกัน  คีตกาลก้มลงจูบ  ขบเม้มริมฝีปากล่างของคนข้างใต้   สีหราชเผยอยิ้มแล้วยินยอมให้เรียวลิ้นซุกซนล่วงล้ำ  ร่างโปร่งเกาะกระหวัดเกี่ยวพันคล้ายกลัวๆกล้าๆ  กดย้ำกวาดลิ้มด้านนอก  สีหราชยยกมือขึ้นกดท้ายทอยได้รูปให้ขยับลงแล้วเปลี่ยนเป็นฝ่ายรุกเสียเอง   ใบหน้าเข้มคร้ามขยับเปลี่ยนมุมแล้วกวาดต้อน  ดูดดึงเหนี่ยวรั้งเกาะพันไม่ยอมให้ร่างโปร่งผละหนี  มือแกร่งอีกข้างรั้งจับต้นแขนเรียวเอาไว้แน่น

“อืม~”  คนด้านบนส่งเสียงประท้วงยามเมื่อลมหายใจเริ่มติดขัด  กระนั้นคนที่บอกว่าจะยอมโดนปล้ำกลับไม่ปล่อยโดยง่าย  คีตกาลอยากดึงใบหน้าออกห่าง  หากสีหราชยิ่งกดให้โน้มลง  บดเบียดคลึงเคล้ากวาดต้อนไปทั่วโพรงปาก   รสชาติขมปร่าของเบียร์และไวน์ที่คีตกาลดื่มเข้าไปถูกไล้ชิมแปรเปลี่ยนเป็นหวานล้ำ...  สีหราชยินยอมผละให้คนด้านบนได้สูดลมหายใจเข้าปอดและรั้งให้จูบเขาอีกครั้ง  ฟันคมขบลงบนริมฝีปากล่างของคีตกาลให้ส่งเสียงอุทานแล้วจึงล่วงล้ำกวาดชิมความหวาน

บางคราวแกล้งรุกล้ำ  บางคราวแกล้งหนีถอย  คนด้านบนไม่แพ้เกี่ยวกระหวัดเรียวลิ้นจูบตอบ  มือแกร่งเลื่อนกุมมือขาวแล้วรั้งให้วางบนอกตัวเอง   เขาแกล้งผละริมฝีปากออกให้ร่างโปร่งตามมากดจูบอย่างไม่ยอมให้หนี   สีหราชหัวเราะกับท่าทางนั้นแล้วยื่นหน้ากระซิบริมหู  เสียงทุ้มแหบพร่า...

“ปล้ำซิ~”  เสียงทุ้มแหบพร่ายั่วเย้าเชิญชวน  คีตกาลที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเมาเบียร์  เมาไวน์หรือว่าเมาจูบของสีหราชกันนแน่ก้มลงครอบครองริมฝีปากหยักนั้นอีกครั้ง  มือขาวเลื่อนลูบไล้อกแกร่ง  หน้าท้องแข็งเกร็งเพื่อเล้าโลม  ผละจูบแล้วแนบริมฝีปากลงบนซอกคอ  สร้างเม้มรอยเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ  แลบลิ้นไล้เลียตรงเส้นบ่ากว้าง  เลื่อนแตะจูบปลายคางสากได้รูป   ยิ่งเจ้าของร่างหนาส่งเสียงครางเครือเขายิ่งกระสันอยากทำให้คนตรงหน้าเป็นของเขาเร็วๆ

“สิงห์  เป็นของเพลงนะครับ?”

“ครับ  สิงห์เป็นของเพลง  ดังนั้น...รับผิดชอบให้ถึงที่สุดนะ”  ริมฝีปากหยักยกยิ้มเจ้าเล่ห์ท่ามกลางแสงสลัว  หากคนที่กำลังเมามีหรือจะทันเห็น  คีตกาลก้มลงบดเบียดจูบอีกครั้ง  คนข้างใต้ช่างพูดจาได้น่ารักเหลือเกิน!

ยามเมื่อมัวเมากับจูบเร่าร้อนพลันร่างโปร่งกลับสะดุ้งโหยง  ฝ่ามือหยาบกร้านล้วงผ่านชายเสื้อเข้าแตะไล้เอวผอม  ความร้อนจากปลายนิ้วลากผ่านให้รู้สึกสะท้านสั่น  มือนั้นลากเลื่อนขึ้นแตะอกขาว  กดปลายนิ้วลงบนจุดสีแดงแข็งข้างหนึ่ง

“อื้อ!”  ราวกับรู้ว่าคนด้านบนจะผละห่างด้วยความตกใจ  มือใหญ่อีกข้างกดท้ายทอยร่างโปร่งเอาไว้ไม่ให้ผละจูบ  เรียวลิ้นรุกล้ำดูดดึงร้อนแรงกวดเกี่ยวไปทั่วโพรงปาก    คีตกาลยันแขนข้างหนึ่งดันกายไม่ให้ทรุดลงบนร่างหนา  อีกข้างยกขึ้นพยายามดึงมือสากนั้นให้พ้นจากอกของตัวเอง  หากเจ้าของมือกลับยิ่งลงแรงบนปลายนิ้วบดขยี้ลงบนยอดอกให้ร่างโปร่งสั่นสะท้านจนแทบสิ้นแรง   คีตกาลไม่อาจต้านทานเมื่อฝ่ามือข้างนั้นเลื่อนแตะไล่ลงไปยังหน้าท้องเนียน  นิ้วแข็งแกร่งปลดปราการแล้วสอดไล้แตะต้องกอบกุมความร้อนผ่าวให้คนด้านบนผวาแอ่นกาย

“อื้อ!”

“ไหนว่าจะปล้ำฉันไง?”  สีหราชยินยอมให้ริมฝีปากบางเป็นอิสระ  หากยังตามแตะแต้มคลอเคลียไม่ห่าง   สะโพกเพรียวพยายามขยับหนีฝ่ามือร้อนข้างนั้น  หากกลับกลายเป็นยิ่งเบียดกายเข้าหาอย่างไม่รู้ตัว

“ปล้ำ?”

“ใช่  เพลงจะปล้ำสิงห์ไงครับ”   กระซิบเอ่ยหลอกล่อ

“อื้อ~”

“มาซิ~”  คีตกาลจ้องใบหน้าหล่อเหลานั้นคล้ายตกอยู่ในภวังค์  ร่างโปร่งก้มลงจูบ  บดเบียดคลึงเคล้าสะโพกลงบนฝ่ามือนั้นด้วยตัวเอง  สีหราชยกยิ้ม  ขาแกร่งอ้ากว้างแล้วเกี่ยวกระหวัดร่างโปร่งเอาไว้ไม่ให้ถอยหนีได้อีก 

ยิ่งเร่งเร้า  ยิ่งร้อนไปทั่วสรรพางค์กาย   บดเบียดแนบร่างเข้าหาความอุ่นร้อน  จนเมื่อทนไม่ไหวร่างแกร่งจึงพลิกกายเป็นฝ่ายอยู่ด้านบนแทน    ฝ่ามือใหญ่เร่งขยับให้เจ้าของริมฝีปากบางส่งเสียงแว่วเครือด้วยความเสียวซ่าน เสียงหวานแว่วเครือเจือสะอื้นยามเมื่อห้วงอารมณ์โหมกระหน่ำถึงที่สุด    สีหราชกลายเป็นฝ่ายบดเบียดจูบเสียเอง...ขยับข้อมือเร็วเร่ง  อีกข้างกดปลุกเร้าจุดแดงบนอกขาว  ส่งให้คนใต้ร่างถึงฝั่งฝัน

“อื้อ!  สิงห์!”

ลมหายใจหอบกระชั้นแม้ไม่ได้ปลดปล่อย   ความปวดหนึบด้านล่างทำให้คนด้านบนขบกรามแน่น  สีหราชยันกายขึ้นจ้องมองร่างโปร่งซึ่งแน่นิ่งไปหลังทะยานเข้าสู่ความสุขสม   คิ้วเข้มเลิกขึ้นมองใบหน้าขาวซึ่งบัดนี้หลับตาพริ้ม  หายใจหอบน้อยๆจากริมฝีปากบวมช้ำคู่นั้นทำให้ร่างสูงอดจะหัวเราะออกมาไม่ได้   

ไหนว่าจะปล้ำเขาอย่างไรเล่า?   พอปลดปล่อยก็หลับทิ้งกันไปเสียแล้ว...

สีหราชยอมให้ร่างโปร่งซึ่งสิ้นเรี่ยวแรงเป็นอิสระ  หากไม่วายขอจูบซับความหวานฉ่ำจากริมฝีปากบวมช้ำตรงหน้า  และเล็มไล้เลียเคล้าคลึงด้วยอดใจไม่ไหว   แต้มจมูกลงข้างแก้มเนียนและขมับชื้นเหงื่อ  สุดท้ายที่หน้าผากเนียน...

 เขาจัดท่านอนให้คนตรงหน้า  ขยับชายเสื้อให้เข้าที่เข้าทางหากครู่หนึ่งจึงหยุดชะงัก  มือแกร่งค่อยๆปลดกระดุมเสื้อของคีตกาลทีละเม็ด   เข็มขัดและกางเกงถูกโยนไว้ปลายเตียง...  เสื้อนอนของเขาที่ถูกกระชากจนกระดุมขาดเขาสวมไว้อย่างนั้นไม่เปลี่ยน  ก่อนจะลุกไปค้นกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเอง  หยิบบางสิ่งออกมาแล้วกลับขึ้นเตียงอีกครั้ง  คราวนี้จัดท่าให้ร่างโปร่งซึ่งเปลือยเปล่าล่อนจ้อนกลายเป็นฝ่ายนอนอยู่บนตัวเขาท่ามกลางความยุ่งเหยิงเละเทะบนเตียง

ท่ามกลางความมืด   สีหราชก้มลงมองเสี้ยวหน้าขาวพลางยกยิ้ม   แขนแกร่งกอดกระชับเอวผอมเอาไว้แน่น  กดจูบหน้าผากเนียนอีกครั้งแล้วเข้าสู่นิทราด้วยความสุขใจ


พรุ่งนี้ตื่นมาก็รับผิดชอบกันอย่างที่ลั่นปากเอาไว้ล่ะ  คีตกาล...



**********


“.......”   เปลือกตาบางขยับไหว  แสงสว่างที่สาดส่องเข้ามาจ้าบาดตาจนต้องหลับลงอีกครั้งแล้วค่อยหยีลืมขึ้นใหม่   เขานอนนิ่งพลางนึกทบทวนว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน   อากาศเย็นกระทบแผ่นหลังให้ต้องขดกายเข้าหาความอบอุ่นในอ้อมแขนหากแล้วกลับต้องชะงักนิ่งเมื่อก้อนความอบอุ่นนั้นคล้ายมีรูปร่าง    คีตกาลก้มหน้าลงมอง  ‘ก้อนความอบอุ่น’  นั้นแล้วเบิกตากว้างอย่างตกใจ

“เฮ้ย!”

“อือ~”  ก้อนความอบอุ่นนั้นถูกเสียงของเขาปลุกให้ตื่นจากนิทรา     ร่างใหญ่สีแทนขยับแขนบิดกายไล่ความเมื่อยขบ  ก่อนจะชะงักตามเมื่อเห็นเขา

“สิงห์?”  คีตกาลผุดลุกขึ้นนั่งแล้วความหนาวเย็นจึงจู่โจมไปทั่วกาย  เขายกแขนขึ้นกอดตัวเองแล้วจึงค่อยพบ...ว่าตัวเองเปลือยเปล่า 

“.....”  สีหราชลุกขึ้นนั่ง  แผ่นอกกำยำมีร่องรอยสีแดงจ้ำประปราย  ซอกคอแกร่งยังมีรอบจ้ำสีแดงม่วงอีกสอง-สามรอย  ร่างโปร่งสำรวจอีกฝ่ายตาโต  ก้มลงสำรวจตัวเองแล้วเผ่นแผล็วลงไปยืนข้างเตียงทั้งที่ยังโป๊เปลือย  สีหราชมองท่าทางนั้นแล้วลุกขึ้นยืนให้หลังให้คีตกาล  แผ่นหลังกว้างอวดกล้ามเนื้อสวยได้รูป  ผิวเนียนสีน้ำผึ้งไหม้เรียบไร้ริ้วรอย  เอวสอบสวยไร้ไขมัน  กล้ามเนื้อแต่พองามสวยขยับไหวตามการบิดกายของสีหราช   คีตกาลจ้องมองภาพนั้นแล้วให้ใจเต้นไม่เป็นส่ำ  แก้มร้อนผ่าวหากก็ยังไม่ละสายตาจากแผ่นหลังเปล่าเปลือยนั้น   

สีหราชลุกขึ้นยืนเต็มความสูงบิดกายแล้วอุทานแผ่วพลางยกมือขึ้นแตะสะโพกสอบของตัวเอง  ครู่เดียวแล้วเดินเข้าห้องน้ำราวกับไม่สนใจอาการเจ็บของตัวเอง

“สิงห์!”   คีตกาลเบิกตากว้างนิ่งค้างกับอาการของคนตัวโต  ค่อยๆลำดับเหตุการณ์ในหัว...ตั้งแต่ตอนดื่มเบียร์  ตอนเมาและตอนที่คร่อมทับร่างสีหราช....ร่างโปร่งผวาตามไปเคาะประตูห้องน้ำอย่างร้อนรน     ความเหนียวเหนอะหนะตรงหว่างขาแม้จะถูกเช็ดซับไปแล้วก็ยังคงรู้สึกและท่าทางเจ็บสะโพกของสีหราชทำให้เขาตระหนก   

นี่เขาปล้ำอีกฝ่ายไปแล้วจริงๆหรือ!

ร่างโปร่งทุบประตูห้องน้ำ  ยิ่งลงแรงเมื่อด้านในมีแต่ความเงียบตอบกลับมา  หรือสีหราชจะเจ็บจนเป็นลมไปแล้ว!  โธ่!  นี่เขาหักหาญน้ำใจปลุกปล้ำสีหราชเพราะความเมาแท้ๆ!   ความรู้สึกผิดแล่นกอบกุมหัวใจจนต้องทรุดกายลงนั่งหน้าห้องน้ำ   ก่อนที่แสงแวววับบางอย่างจะสะท้อนเข้าสายตา

มือขาวยกสร้อยที่ห้อยบนคอตัวเองขึ้นดู   ตัวสร้อยมีแหวนทองคำขาววงหนึ่งคล้องอยู่  รูปแบบราบเรียบไม่สะดุดตาแล้วถ้อยคำกระซิบวอนขอของใครบางคนก็จึงกลับเข้ามาในความทรงจำ

‘สิงห์เป็นของเพลง  ดังนั้น...รับผิดชอบให้ถึงที่สุดนะ’

ประโยคเรียกร้อง...ครั้งที่สองที่เอ่ยจากริมฝีปากหยักคู่นั้น

เขาเคยปัดความรับผิดชอบไปแล้วครั้งหนึ่ง  คราวนี้เขาจะไม่ปล่อยให้สีหราชหลุดมือไปอีกแล้ว!   ร่างโปร่งตั้งมั่นถึงขนาดกำหมัดชูขึ้นฟ้าเพื่อแสดงเจตนารมณ์อันแน่วแน่

“.........”

“เอ่อ....”   ร่างโปร่งเก็บมือตัวเองไม่ทัน  เขายิ้มแหยให้ร่างสูงที่ออกมาจากห้องน้ำแล้วมองเขาด้วยสายตาเหมือนมองคนเพี้ยน

“จะยืนเป็นชีเปลือยอีกนานไหม?”

“!”  ไหล่บางสะดุ้งไหวแล้วผลุบเข้าห้องน้ำทั้งที่ไม่จบประโยคด้วยซ้ำ

พอพ้นร่างของคีตกาลร่างสูงจึงเดินมาสวมเสื้อผ้า   สีหราชจ้องมองเงาของตัวเองที่สะท้อนบนกระจกแล้วค่อยๆยกยิ้ม...


เอาสิ  อยากจะปล้ำเขาเขาก็ยอมให้ปล้ำแล้ว   หลังจากนี้จะทำอะไรต่อ?

.
.
.


“เอ่อ  นี่ยังเจ็บอยู่ไหม?”   สีหราชส่ายหน้า  “งั้นจะนอนพักอีกหน่อยหรือเปล่า?” ใบหน้าหล่อเหลาส่ายอีกครั้งแล้วก้มหน้าก้มตาตักอาหารในจานไม่ยอมเงยขึ้นมองคนถามสักครั้งจนคีตกาลใจแป้ว   พอร่างสูงผุดลุกขึ้นยืนเขาก็ยืนตาม  “จะไปไหน?”

“วันนี้ต้องไปเอาเอกสารเกี่ยวกับม้า  พรุ่งนี้จะได้กลับบ้าน”

“เดี๋ยวฉันไปเอาให้”

“ไม่ต้อง”

“งั้น  งั้นฉันไปด้วยนะ”   ร่างโปร่งคว้าโน่นหยิบนี่ส่งให้สีหราช  พอร่างสูงขยับจะทำอะไรเขาก็พุ่งถลามาคอยหยิบส่งหรือทำแทนไปเสียทุกอย่าง

“?”  สีหราชขมวดคิ้วกับท่าทางนั้น  เขาหรี่ตามองอีกฝ่ายคล้ายไม่พอใจ

“ก็   ฉันเห็นนายไม่ค่อยสบายเมื่อเช้าอ่ะ”

“ไม่ค่อยสบาย?”

“ก็  ก็ที่เจ็บ...สะโพก”

“หืม?”

“ขอโทษนะ  เมื่อคืนฉันคงทำนายแรงไปใช่ไหม?”  ดวงตาคู่สวยเหลือบมองสีหราชหวาดๆ

“อ้อ.....”

“ไม่ต้องห่วง  เดี๋ยวฉันจะคอยดูแลนายเอง”

“.....”   สีหราชเพียงพยักหน้ารับ

หลังจัดการเรื่องเอกสารเสร็จ  ด้วยไม่รู้ว่าบังเอิญหรืออีกฝ่ายจงใจ  พวกเขาพบแม็กกี้ระหว่างทางกลับโรงแรม  หญิงสาวชวนทั้งสองไปทานอาหารกลางวัน  ทั้งๆที่เขาจ้องเพื่อนสาวราวกับจะกินเลือดกินเนื้อฝ่ายนั้นก็เพียงแค่ยักไหล่แล้วหัวเราะเสียงดัง

คีตกาลตักนู่นนี่ใส่จานสีหราชจนแทบพูน  บางครั้งก็แกล้งเกี่ยวปลายผมอีกฝ่ายยามเมื่อลมพัดอ่อน  แกล้งแตะปลายนิ้วลงบนแก้มกร้านให้แม็กกี้เห็นโดยที่สีหราชไม่รู้ตัว

“เอ่อ...ยูสองคน...”  คิ้วเรียวของแม็กกี้ขมวดมุ่น  ใบหน้าสวยคล้ายจะยิ้มไม่ยิ้มคล้ายจะหัวเราะก็ไม่เชิง

“หืม?”   สีหราชเงยหน้าขึ้นจากหนังสือพิมพ์  เหลียวมองร่างโปร่งข้างตัวที่เก็บแขนลงไปอย่างรวดเร็ว

“แม็กกี้เขาจะถามน่ะว่าเราจะกลับเมื่อไหร่”

“ก็พรุ่งนี้ไง?”  สีหราชตวัดสายตามองหญิงสาวอย่างไม่พอใจ

“เอ่อ  ไอลืมน่ะว่ายูบอกแล้ว”  แม็กกี้หัวเราะ  แกล้งมองไม่เห็นว่าคีตกาลถลึงตาใส่   จนเมื่อมื้ออาหารนั้นสิ้นสุดลงหญิงสาวจึงลุกขึ้นเพื่อบอกลา  คราวนี้เธอบอกว่าจะกลับไปบ้านตัวเองจริงๆเสียที   แม็กกี้ยืนยิ้มจ้องมองหน้าคีตกาลนิ่งนาน   จนร่างโปร่งต้องถอนหายใจแล้วเดินเข้าไปหาเธอ

“คราวนี้เขาเป็นของยูจริงๆแล้วใช่ไหม?”

“...ใช่  และเธอก็จะแย่งเขาไปไม่ได้!”  ท้ายประโยคเขาขู่ลอดไรฟัน  หญิงสาวหัวเราะไม่มีทีท่าจะโกรธเคือง

“ก็ดีแล้ว”

“?”

“คราวนี้ก็รักษาเอาไว้ให้มั่นล่ะ  เกิดอะไรขึ้นก็อย่าปล่อยมือเชียว”

“....แล้วเธอ?”

“...ถ้าเขาไม่ใช่ของยูไอจะแย่งมาจริงๆนะ  แต่....”  หญิงสาวเหลือบมองร่างสูงที่ยืนรอห่างออกไปแล้วถอนหายใจ

“?”

“เผอิญว่าเขาไม่เล่นด้วย”  คีตกาลเลิกคิ้วแล้วยิ้มเยาะโดยไม่รู้ตัว  รอยยิ้มที่ทำเอาแม็กกี้หมั่นไส้ขึ้นมาติดหมัด  “...ไม่อยากจะเชื่อว่ายูจะจับเขากดได้จริงๆ”  คีตกาลกอดอกฉับอย่างโอ้อวดเมื่อได้ฟัง  แม็กกี้เพียงพยักหน้ากับท่าทางนั้นแล้วกอดเพื่อนแน่นก่อนโบกมือลา

ถึงแม้ว่าคีตกาลจะพยายามทำตัวเป็นสามีผู้ดูแลภรรยาท้องอ่อนมากแค่ไหน  หากสีหราชก็ปัดการดูแลนั้นทิ้งอย่างไม่ไยดี   เขาก็ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าบางทีสีหราชอาจจะเขิน...  แหม่   

ทั้งสองขึ้นเครื่องกลับในรุ่งเช้าต่อมา  คีตกาลลากสีหราชไปพักที่บ้านจนได้เนื่องจากว่าม้าต้องถูกตรวจสอบโดยกรมปศุสัตว์ที่กรุงเทพอีกครั้งก่อนนำกลับฟาร์ม

“เรานี่มันน่าตีจริงๆเชียว!”   ก่อนหน้าคุณยุวดีตกใจเพราะไม่รู้ว่าคีตกาลไปตามสีหราชถึงออสเตรีย  มารู้ก็ตอนทั้งสองมายืนกดออดอยู่หน้าบ้านแล้ว

“คิดถึงแม่มากๆเลยครับ”  คีตกาลถลาเข้ากอดเอวมารดาก่อนที่คนสูงวัยจะทันยกแขนขึ้นตี  คุณยุวดีส่งค้อนให้บุตรชายเสียวงหนึ่งแล้วลากทั้งสองคนเข้าบ้าน

“เดี๋ยวแม่ให้คนเตรียมห้องให้นะ”  คุณยุวดียิ้มต้อนรับ  ร้องเรียกให้สาวใช้มาช่วยกันขนของ   

“ไม่ต้องหรอกครับ  ให้สิงห์พักกับเพลงก็ได้”

“หืม?”  คุณยุวดีเงยหน้าขึ้นมองสีหราชเมื่อได้ฟังคำของบุตรชาย 

“แยกห้องเถอะครับ”  สีหราชยิ้มพลางเอ่ยขอ

“ไม่ต้องหรอก  สิงห์พักกับเพลงนะ!”  ร่างโปร่งหันมาค้าน

“แยกห้อง”

“แต่....”

“ไม่งั้นจะออกไปนอนโรงแรม”

“ก็ได้ๆ!”

“......”  คุณยุวดีมองท่าทีของคนทั้งสองตรงหน้าแล้วได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจ  คิดว่าอย่างไรคืนนี้เธอจะต้องลากคอบุตรชายมาถามความจริงดู









“ตาเถร!”   คุณยุวดีอยากจะเป็นลมในขณะที่คุณพีรพลหัวเราะงอหงายหลังจากได้ฟังบุตรหัวแก้วหัวแหวนพูดจบ   หลังอาหารค่ำคุณยุวดีก็ลากคีตกาลเข้าห้องทำงานของสามีทันที  สอบถามถึงท่าทางแปลกประหลาดเมื่อตอนเย็นและเหตุผลที่คีตกาลไปตามง้องอนสีหราชถึงเมืองนอกเมืองนามาเสียหลายวัน

“ให้มันได้ยังงี้ซี่~”  คุณพีรพลตบเข่าฉาดยังหัวเราะไม่หยุด

“นี่คุณ!  ลูกชายเราไปปล้ำเขาคุณยังจะหัวเราะชอบใจได้อีก!”  คุณยุวดีแหวใส่สามี

“น่าๆคุณ  ก็ดีกว่าลูกชายเราโดนปล้ำน่า”

“แต่.....”

“แล้วนี่จะทำยังไงต่อ?”   ผู้เป็นพ่อเช็ดน้ำตาจากการหัวเราะแล้วหันมาถามบุตรที่ยิ้มกว้างไม่ยอมหุบ

“ก็คงต้องง้อจนกว่าจะยอมดีด้วยแหละครับ”

“หืม?”

“แล้วก็...สิงห์เป็นเมียเพลงแล้วด้วย”

“ให้พ่อยกขันหมากไปขอไหม?”

“ก็ดีนะครับ”

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”   คุณพีรพลหัวเราะลั่นอีกครั้ง  คุณยุวดีมองหน้าบุตรชายแล้วยิ้มแหย  แม้สิ่งที่คีตกาลดูจะเป็นไปไม่ค่อยได้แต่...ท่าทางมีความสุขของบุตรชายที่ไม่ได้เห็นมานานก็ทำให้คุณยุวดีพูดไม่ออก

คีตกาลเมาแล้วปล้ำสีหราชเธอเชื่อ  แต่สีหราชที่ยอมเป็นเมียคีตกาลเนี่ย....

ปล่อยให้ฝันไปอีกหน่อยคงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง?








« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-01-2016 18:36:13 โดย sine »

ออฟไลน์ sine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 321
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +129/-3
Re: -รักพัดหวน- ตอนที่11 [21 ธ.ค.58]หน้า7
«ตอบ #219 เมื่อ12-01-2016 11:21:55 »





“จะแต่งเมื่อไหร่ดีล่ะ?”  คุณพีรพลยกผ้าเช็ดปากหลังสิ้นสุดอาหารมื้อเช้า  “งานแต่งของเราสองคนน่ะ”

“แค่ก! อะไรนะครับ?”  สีหราชถึงกับลำลักน้ำไอจนหน้าดำหน้าแดงไม่หยุด  คีตกาลเห็นก็ปรี่เข้าไปลูบหลังให้เป็นการใหญ่  หากสีหราชเบี่ยงตัวหลบแล้วถลึงตามอง

“ก็งานแต่งของเราสองคนน่ะ”

“งานแต่ง?”  ใบหน้าเข้มคร้ามมีแววประหลาดใจ  เขาเงยหน้าขึ้นมองอีกคน

“...ก็  พ่อกับแม่รู้แล้วแหละว่าฉันปล้ำนาย....”  ท้ายประโยคเสียงเบาลงจนแทบไม่ได้ยินเนื่องจากดวงตาวาวโรจน์ของสีหราช

“อะแฮ่ม!  เดี๋ยวผมขอตัวไปกรมปศุสัตว์ก่อนนะครับ  วันนี้น่าจะเอาม้ากลับฟาร์มได้แล้ว”

“เอ๋  แล้วเรื่อง....”   สีหราชไม่รอให้อีกฝ่ายพูดจบ  เขายกมือไหว้คุณพีรพลและคุณยุวดีแล้วลุกออกไปอย่างเร่งรีบ

“เอ้า  รีบตามเมียแกไปซิ!  ฮ่าๆๆๆ”

“คุณ!”  คุณยุวดีตีแขนสามีดังเผียะที่ยังเล่นไม่เลิก  คีตกาลวิ่งตามร่างสูงออกไปทันทีหลังจบคำบิดา   พอพ้นร่างบุตรชายเสียงหัวเราะนั้นจึงเงียบลง   คุณพีรพลถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

“เราฉวยโอกาสพลางมัดมือชกตาสิงห์มากไปหรือเปล่านะคุณ?”  คุณยุวดีกุมมือสามีแล้วตบลงบนหลังมือนั้นเบาๆอย่างให้กำลังใจ

“เราเคยทำพลาดมาก่อน...”

“ผมต่างหากที่ทำพลาด”

“นั่นล่ะๆ  คราวนี้ฉันหวังว่าตาสิงห์เองก็จะฉวยโอกาสนี้เอาไว้เช่นกันนะคะ”

“หึ  ตาเพลงนะตาเพลง  ทำเรื่องจนได้”

“นั่นซิคะ”

“ว่าแต่...มันแน่ใจได้ไงว่าตัวเองจะเป็นผัวตาสิงห์ได้  ฮ่าๆๆๆๆ”

“คุณนี่นะ!”  คุณยุวดีค้อนสามี  รู้ทั้งรู้ว่าอย่างสีหราชคงไม่ยอมเป็นเมียคีตกาลง่ายๆก็ยังยุยงส่งเสริมบุตรชายตัวเองไปในทางที่ผิด เอ้ย  ทางที่หลงเข้าใจเองว่าถูกอยู่ได้!




*********



“แค่กๆ ห้ะ! อะหยังเก๊าะ? ว่าอะไรนะ?  What ? Nani?“  อิ่มเอมสำลักกาแฟจนขึ้นจมูก   เขาขุดภาษามาถามอย่างตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน  นี่ถ้านึกภาษาอื่นออกอีกก็ว่าจะเอ่ยออกมา

“ก็....ฉันเมา”

“แม่เจ้าโว้ย  กูให้ไปง้อ  นี่แม่งข้ามขั้นมาก!”

“ก็ตอนนั้นมันหึงนี่!”

“เออๆ  ...แล้วมันก็ยอมให้มึงปล้ำเนี่ยนะ?”  คีตกาลพยักหน้า  “กูไม่เชื่ออ่ะ!  แค่ขนาดตัวมึงก็สู้แรงมันไม่ไหวแล้ว!”

“?”

“แถมมึงยังเมาด้วย”

“แต่....  สิงห์ตื่นมาแล้วก็เจ็บ...ก้น”

“ห้ะ! แค่กๆๆ”

“รอยจูบเต็มคอด้วย”

“คนอื่นทำหรือเปล่า?”  อิ่มเอมที่ไม่อยากจะเชื่อคาดเดาไปต่างๆนาๆและนั่นทำให้คีตกาลโมโหปรี้ดขึ้นมาทันที

“ไม่ใช่!  รอยนั่นฉันเป็นคนทำเองกับมือ เอ้ย  ทำเองกับปาก!”  อิ่มเอมตาเหลือกเมื่อได้ฟัง  หรือเพื่อนเขามันจะนิยมเป็นฝ่ายรับจริงๆ?  ไม่ๆๆ  ไม่มีทางอ่ะ  แค่คิดก็ขนลุกไปหมดแล้ว!     “แต่....”

“?”  อิ่มเอมเรียกสติตัวเองกลับมาเมื่อคีตกาลตีหน้ายุ่งยีหัวตัวเองคล้ายคิดไม่ตก

“สิงห์ทำเหมือนไม่อยากให้รับผิดชอบ”

“ห้ะ?  รับผิดชอบ?”

“อืม  พาไปหาพ่อกับแม่ที่บ้านมา  พอเกริ่นเรื่องแต่งงานก็หนีกลับมาที่ฟาร์ม”

“แต่งงาน!”  คราวนี้อิ่มเอมชักตาเหลือกของจริง

คีตกาลเหลือบมองท่าทางขนลุกขนพองของคนตัวโตแล้วเบือนหน้าหนีไม่ใส่ใจ  มือขาวยกขึ้นแตะวงแหวนที่ร้อยสร้อยคอพลางครุ่นคิด   สร้อยเส้นนี้     แหวนวงนี้สีหราชเป็นคนเอามาสวมให้เขาในคืนนั้นไม่ผิดแน่   แสดงว่าคืนนั้น...พวกเขาผูกพันกันจริงๆใช่ไหม?

แน่นอนวาคีตกาลยังจำรสจูบนั้นได้  มันทั้งอ่อนหวาน  เร่าร้อนและโหยหา...  ฝ่ามือที่เลื่อนไล้แตะสัมผัสใบหน้าอีกฝ่าย  กลิ่นกายที่พาให้ใจสั่นนั่นด้วย   ความรู้สึกสุขสม  รัญจวนร้อนรุ่มยังตราตรึงและซาบซ่าน  แม้บางช่วงจะขาดหายแต่เขามั่นใจว่าได้กอดสีหราชจริงๆ!

แล้วทำไมสีหราชถึงปฏิเสธเขาล่ะ?

หรือจะโกรธที่เขาขืนใจ?

ไม่นะ  เขาจำได้ว่าเสียงทุ้มแหบพร่านั้นกระซิบบอกให้เขารับผิดชอบ   เขาก็รับผิดชอบนี่แล้วอย่างไรเล่า  แล้วทำไมสีหราชยังมึนตึงใส่เขาอยู่อีก?

โกรธ?

เขินอาย?

จะอย่างไหนก็ช่างเถอะ!  ตอนนี้อีกฝ่ายเป็นเมียเขาแล้ว  เขาจะไม่ยอมแพ้อย่างครั้งที่แล้วอีกแน่!




























แถม





โอ๊ย!  อกสายใจจะแตก!  จู่ๆคุณคีย์ก็สั่งให้ย้ายข้าวของเข้าห้องคุณสิงห์   ซ้ำยังบอกว่าจะนอนเตียงเดียวกันด้วย!  คุณพระคุณเจ้า! สายใจไม่เคยเห็นนางเอกเรื่องไหนในใจกล้าเท่าคุณคีย์ของเธอมาก่อนเลย  นี่ไปตามรักคืนใจกันอีท่าไหน  กลับมาถึงก็ย้ายข้าวย้ายของมาร่วงห้องร่วมหอกันเสียแล้ว

“แม่!  แม่ว่าคุณสิงห์กับคุณคีย์ใครเป็นพระเอกนางเอก?”

“พระเอกนางเอกอะไรของเอ็ง?”  ถึงแม้ป้าแช่มจะตกใจอยู่ไม่น้อยแต่หล่อนก็ผ่านโลกมามาก  เรื่องแบบนี้มีให้เห็นเยอะขึ้นทุกวัน  ไอ้ชายรักชายเนี่ย  เพียงแต่ไม่คิดว่าคนใกล้ตัวอย่างคุณสิงห์จะเป็นเท่านั้นเอง

“ก็พระเอก  นางเอกไง!”  เด็กสาวละขัดใจ   พูดกับแม่ไม่ค่อยจะรู้เรื่อง

“หล่อๆอย่างคุณสิงห์คงเป็นพระเอกละมั้ง  ส่วนหน้าขาวๆอย่างคุณคีย์ก็นางเอก”

“ใช่ไหมๆ”

“.........โอ๊ย  เอ็งนี่ละเพ้อเจ้อ!  พระเอกนางเอกอะไรกัน  ดูละครมากไปล่ะซิเอ็งน่ะ”

“แม่อ่ะ!”

“ไปนอนได้แล้ว  คุยกะเอ็งละข้าปวดหัว”  สุดท้ายเลยย้ายก้นวิ่งไปเกาะขาคุณอิ่มเอมเม้าท์มอยแทน






“ฉันว่าไอ้สิงห์ต้องเป็นพระเอกชัวร์”

“ใช่ไหมคะๆ  คุณสิงห์ของหนูทั้งหล่อ  มาดเข้มและเท่ห์ขนาดนั้น”

“ช่าย   ส่วนคุณคีย์ของสายใจก็เป็นนางเอกที่เป็นทอม”

“นางเอกที่เป็นทอม?”

“ก็พอตกเป็นเมียพระเอกแล้วคิดว่าตัวเองเป็นผัวไง!”

“ฮื่อ  มันมีด้วยหรือคะคุณเอม?”

“นี่เรื่องแรกไง”

“อ่อ~~    แล้วแบบนี้หนูต้องเรียกคุณสิงห์หรือคุณคีย์ว่าคุณผู้หญิงอ่ะคะ?”

“วะ  ว่าอะไรนะ!”   คนตัวโตสะดุ้งโหยง

“ก็คุณคีย์เป็นนางเอกที่เป็นทอม  แต่ไม่ยอมรับและคิดว่าตัวเองเป็นสามี  แบบนี้สายใจงงนะคะเนี่ย”

“ฉันละงงกับเธอมากกว่า!”

“?”

“ไม่ต้องไปเรียกใครว่าคุณผู้หญิงทั้งนั้นถ้าเธอไม่อยากโดนคุณสิงห์หักคอ!”

“อ้าว?”  สายใจละอยากมีโมเม้นท์แบบ   ...คุณผู้ชายคะ  คุณผู้หญิง....แพ้ท้องค่ะ   อะไรแบบนี้เหมือนในละครบ้างนี่นา...





















แถม   แถม...


สวัสดีครับ  ผมชื่อเกียรติศักดิ์  ผู้ชายหน้าตาธรรมดาๆผิวขาวและใส่แว่น  ที่บางครั้งอยากจะหล่อก็หาคอนแทคเลนส์มาใส่เสียทีหนึ่ง  ผมเป็นผู้ชายประเภท ‘ตกหลุมรักง่าย’  เพราะอย่างนั้นเลยมักจะอกหักอยู่บ่อยครั้ง  เวลาเจอใครที่คิดว่าใช่อยากเข้าไปทำความรู้จักก็มักพลาดเพราะความจืดชืดของหน้าตาเลยโดนมักข้ามตลอด  สุดท้ายก็กินแห้วเข้าไปหลายไร่แล้ว...   อย่างครั้งล่าสุดนี่ก็เหมือนกัน...

คีตกาล  คนนี้หน้างามนามเพราะ... ผมตกหลุมรักทันทีที่เห็นหน้าเขา   แต่เพราะผมอาจจะแสดงออกมากไปคุณยุวดีแม่ของคุณคีย์ถึงได้พยายามกันผมเอาไว้   ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อหรอกนะที่บอกว่าคุณคีย์มีแฟนแล้ว  ผมเอางานไปให้คุณคีย์ดูหลายรอบไม่เคยเห็นคุณคีย์หยิบโทรศัพท์มาคุยนานเกิน 5 หรือ10นาทีสักครั้ง  ยิ่งโปรแกรมแชทต่างๆยิ่งไม่เคยเห็นเล่น  ผมเดาเอาว่าคุณยุวดีคงหวงลูกชายมากกว่า   ครั้นพอจะลงมือจีบจริงๆก็ดันอกหักโครมใหญ่เข้าให้

คุณสีหราช   ผู้ชายร่างใหญ่ผิวสีน้ำผึ้งไหม้  ใบหน้าหล่อเหลาหากดวงตาติดจะดุดันอยู่นิดๆ  เจ้าของฟาร์มม้าสีหกาลผู้เป็นหุ้นส่วนของรีสอร์ทของคุณคีย์   ผู้ชายที่คุณยุวดีบอกว่าเป็นคนรักของคุณคีย์   คนรักซึ่งกำลังงอนกันอยู่   ผมไม่อยากเชื่อว่าเขาสองคนเป็นคนรักกัน  ผมปฏิเสธเพราะว่าผมชอบคุณคีย์   หากบางอย่าง...บางคราวเราก็ไม่สามารถเข้าไปแทรกกลางระหว่างคนสองคนได้แม้จะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม..

ทั้งๆที่ปากทะเลาะกันแต่คุณสิงห์ก็คอยดูแลไม่ให้คุณคีย์คลาดสายตาสักครั้ง  บางคราวถึงขั้นลงมาดูแลด้วยตาเอง หรือถ้าไม่ว่างก็ส่งเด็กสายใจมาเป็นผู้พิทักษ์  บ้างก็ลุงแช่มหรือคนของไร่สีหกาลสักคน     ไม่มีสักครั้งที่เขาได้อยู่สองคนกับคุณคีย์ที่เขาชอบ

ผมชอบเวลาที่คุณคีย์ยิ้ม  ดังนั้นตอนที่เห็นแววตาเศร้าๆของเขาตอนมองแผ่นหลังกว้างของคุณสิงห์...ผมจึงได้แต่ทอดถอนใจ...  แม้จะเศร้าหากผมก็รู้สึกยังไม่ถึงขั้นเจ็บจนเจียนตาย  ผมยังหายใจเป็นปกติ  กินข้าวได้  แม้จะนอนไม่หลับเป็นบางครั้ง  ดังนั้น...ผมจึงได้แต่เอาใจช่วยให้คู่รักคู่นี้กลับมาคืนดีกันเร็วๆแม้จะไม่รู้ถึงสาเหตุที่โกรธกันก็ตาม    รู้ตัวอีกที...ผมก็กลายเป็นหนึ่งในผู้พิทักษ์ของคุณคีย์เสียแล้ว

ผู้ชายคนแรกที่ผมอยากเตะโด่งให้ห่างจากคุณคีย์สุดที่รักของผมคือนายอดิศร  หมอนั่นมันจอมเจ้าชู้แน่ๆผมมั่นใจ  แววตาหลุกหลิก  ซ้ำยังจีบคุณคีย์ออกนอกหน้า  คราวไหนคุณคีย์ยอมไปทานข้าวด้วยก็ยิ้มหน้าบาน  คราวไหนคุณคีย์ปฏิเสธก็เห็นควงสาวไม่ซ้ำหน้า  ผมว่า..มันคงเป็นพวกชอบจีบคนหน้าตาดี  จีบติดก็กำไรจีบไม่ได้ก็ไม่สน   หลังๆถึงได้หายหน้าไปหลังจากโดนคุณคีย์ปฏิเสธหลายครั้งเข้า   ไม่ต้องลงมือทำอะไรหมอนั่นก็ถอยห่างออกไปเอง

คนที่ทำให้ผมหนักใจที่สุดจู่ๆก็โผล่ขึ้นมา!  นายอิ่มเอม  ผู้ชายตัวโตอย่างกับยักษ์ปักหลั่นนั่น!    นายยักษ์นั่นชอบพูดกระแนะกระแหนให้คุณคีย์รู้สึกแย่บ่อยๆ  แล้วทำท่าทางหวงคุณสิงห์ยังกับอะไรดี  หรือว่า...หมอนี่จะเป็นสาเหตุที่ทำให้คู่รักคู่นี้ผิดใจกัน?  ไม่ได้ๆ  ผม   นายเกียรติศักดิ์คนนี้จะคอยช่วยเหลือคุณคีย์เอง!








“ถอยไปเลยไอ้แว่น!”

“ไม่!”  ผมกางแขนกั้นเอาไว้  แม้จะหวั่นว่าอาจโดนผลักกระเด็นก็ยังไม่ยอมให้คนคนนี้ผ่านไปได้   ด้านหลังของผมคือคุณคีย์กับคุณสิงห์   สองคนนั้นกำลังคุยกัน  แม้มีท่าทีแง่งอนอยู่บ้างก็ยังเห็นว่ายืนไหล่ชิดกันอยู่  ผมจะยอมให้หมอนี่เข้าไปในเขตนั้นไม่ได้เด็ดขาด

“จะลองดีใช่ไหมไอ้แว่น?”

“อ๊ะ!”  แว่นตาของผมโดนแย่งออกไปในพริบตา   ภาพตรงหน้าพร่ามัวทันที  แม้จะยืนห่างกันแค่สองช่วงแขนภาพของคนตรงหน้าก็ยังไม่ชัดเจน  สงสัยสายตาผมจะสั้นลงอีกแล้ว  “เอาแว่นตาผมคืนมานะ!”

“จ้างก็ไม่คืน  เป็นไง  ไม่มีแว่นก็มองไม่เห็นล่ะซิ?”  เสียงทุ้มนั้นเจือแววเย้ยหยันผสานเสียงหัวเราะ  “สายตานายสั้นแค่ไหนกันนะ?”

“เรื่องของผม!”  ยื่นมือไขว่คว้าเงานั้น  แต่คว้าเท่าไหร่ๆก็ไม่โดนเสียที   พอถอนหายใจก็พลันจับถูกชายเสื้อของอีกฝ่าย  กลิ่นน้ำหอมอ่อนแตะจมูก  พาให้สดชื่นหากกลับทำให้หัวใจเขาเต้นผิดจังหวะไปเสี้ยววินาทีหนึ่ง

“แล้วใกล้ขนาดนี้มองเห็นไหม?”

“!”   ผมผงะถอยหลังอย่างตกใจ  ก็นายยักษ์นั่นยื่นเข้ามาชิดที่ปลายจมูกเฉียดกันไปนิดเดียว!  พอเห็นท่าทางตกใจของผมหมอนั่นก็หัวเราะ  ทำท่าจะโยนแว่นตาคืนมาให้  ผมผวารับเพราะกลัวแว่นจะตกแตก  แต่...หมอนั่นก็แค่แกล้งทำท่าจะโยน!

“นายนี่โคตรเหมือนแฮมสเตอร์เลย”

“?”

“ขี้ตกใจกันไปแล้วนะนายน่ะ  ฮ่ะๆๆๆ”

“?”

“เอ้า!”  ผมมองแว่นตาที่ถูกคืนแต่โดยดีก่อนจะสวมกลับคืน  ลืมตามาก็เห็นแค่แผ่นหลังกว้างของนายนั่นเดินออกไป  นายอิ่มเอมคนนี้เป็นผู้ชายที่แปลกจัง...    ผมสลัดความรู้สึกประหลาดและจังหวะหัวใจที่ผิดแปลกไปจังหวะนั้นออกไปจากหัวอย่างรวดเร็ว






วันนี้ผมรู้สึกอยากบีบคอนายอิ่มเอมนั่นที่สุด!  หมอนั่นพาผู้หญิงที่ชื่อแป้งมาไร่สีหกาล   ทำตัวเป็นพ่อชักพ่อสื่อให้คุณสิงห์อยู่ได้ทั้งวัน  ดูซิ  ถ้าไม่มีสายตาคนอื่นจ้องมองอยู่คุณคีย์คงต้องร้องไห้แน่!  เอาไงดี  ผมจะแกล้งขัดขาหมอนี่ดีไหมนะ?  ข้อหาจุ้นจ้านเกินไป  โอ๊ะ!

…โทษที...ขาไปไวเท่าความคิด  ร่างหนาหนักของนายอิ่มเอมล้มครืนหน้าทิ่ม  ผมนี่สะใจจริงๆ!  คุณคีย์หันมายกยิ้มมุมปากแล้วเดินหนีไม่ยอมเข้าไปช่วย   ผมทำให้คุณคีย์ยิ้มได้นิดนึงแล้ว!

จู่ๆผู้หญิงที่ชื่อแป้งก็เข้ามาหาคุณคีย์โดยมีนายยักษ์นั่นพามา  คุยกันท่าทางอารมณ์ดีหนำซ้ำยังหัวเราะให้กันไม่หยุด  น่าหมั่นไส้!  ผู้หญิงที่ชื่อแป้งขอให้คุณคีย์ช่วยเธอกับคุณสิงห์  จะบ้าหรือไง!   ผมเอ่ยขัดว่าคุณคีย์กับคุณสิงห์เป็นแฟนกัน  นายยักษ์นั่นก็เอาแต่พูดว่าคุณสิงห์โสดอยู่นั่น  ชอบยัยผู้หญิงคนนี้มากเลยหรือไงนะ!  หงุดหงิดที่สุด!

ไม่รู้ว่าตอนหลังนายยักษ์นั่นแอบไปคุยอะไรกับคุณคีย์ตกเย็นมาถึงหายไปทั้งรถทั้งคน  และเขาจะไม่ห่วงมากเท่านี้หากไม่ใช่เพราะเพิ่งรับคนงานเข้ามาใหม่! คนงานคนนี้เขาเอามาด้วยเพราะจะได้คอยดูว่าทำงานเป็นอย่างไร  ไว้ใจได้หรือไม่  แต่...การที่หายไปพร้อมคุณคีย์ทำให้เขาเป็นห่วงเหลือเกิน!

แล้วก็เกิดเรื่องเข้าใจจนได้   ผมวิ่งโร่ไปหาคุณสิงห์  บอกว่าคุณคีย์หายไป  ตอนแรกเขาทำหน้าเศร้าๆไม่ออกตามเพราะคิดว่าคุณคีย์ออกไปเอง  แต่พอผมร้อนรนบอกว่ามีคนงานใหม่ชาวพม่าอีกคนหายไปพร้อมกันทุกคนถึงได้ตกใจแล้วออกตามหา   โชคดีเหลือเกินที่คุณคีย์ปลอดภัย...  ไม่อย่างนั้นผมคงรู้สึกผิดไปชั่วชีวิตแน่ๆ   ถึงคุณคีย์จะเป็นคนขอติดรถออกมา...แต่คนร้ายคนนี้ผมเป็นรับเข้าทำงาน   นั่นก็หมายถึงผมนำคนเลวร้ายมาสู่คุณคีย์อยู่ดี...

หัวใจของผมแทบหยุดเต้นตอนเห็นมันจ้วงมีดเข้ามาทางคนที่ล้มบนพื้น  ผมวิ่งเข้าไปหาคุณคีย์หากก็ไม่ทันคุณสิงห์ซึ่งยกปืนขึ้นปลิดชีพมัน   คุณสิงห์วิ่งเข้าไปประคองร่างคุณคีย์ขึ้นดู  ใบหน้าหล่อเหลานั่นซีดเผือดไร้สีเลือด   เขากอดคุณคีย์เอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย  ดีแล้ว...ที่ผมตัดใจจากคุณคีย์ตั้งแต่แรก  ดีแล้วที่ไม่แย่งคุณคีย์มาจากคนที่รักขนาดนั้น...   และผมก็เพิ่งรู้สึกตัวว่าเผลอกอดเอวหนาของนายยักษ์อิ่มเอมเอาไว้แน่นตอนได้ยินเสียงปืนเมื่อครู่

ก็นะ... การยิงกันตายไม่ได้มีให้เห็นทุกวันเสียหน่อย  เขาตกใจก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนี่นา...

ครั้งที่สอง...ที่ดูเหมือนหัวใจผมจะเต้นจังหวะไป….







“อ้อ  ไอ้โจรนั่นนายพามาเองเหรอ?”  คนตัวเล็กน่ารัก  เป็นเพื่อนกับคุณคีย์เท้าเอวจ้องหน้าผมด้วยท่าทางเอาเรื่อง   จากที่รู้สึกผิดอยู่แล้วเล่นทำเอาผมอยากจะร้องไห้ขึ้นมา

“เฮ้ย  คนซวยมันไอ้เพลงเองป่าว  หมอนี่ไม่ได้ตั้งจะพาโจรมาสักหน่อย  ใครจะไปรู้วะว่าหน้าตาอย่างนั้นจะเป็นคนไม่ดี”  ไม่คิดว่านายยักษ์นั่นจะปกป้องผม

คนตัวเล็กนั่นชื่อชายชาญ  ท่าทางจะสนิทกับนายยักษ์มากด้วย   นายยักษ์เอาแต่ยิ้มแล้วก็ยีหัวทุยๆของคนน่ารักคนนั้น  บ้างก็กอด  ลูบเนื้อลูบตัวไม่ยอมปล่อย  ถึงปากจะทะเลาะกันแต่ตัวก็ชิดติดกันตลอดเวลาไม่ยอมห่าง ....แล้วนี่ทำไมกลางอกผมจึงรู้สึกโหวงๆกันนะ?



“แล้วจะร้องไห้ทำไม?”

“ไม่ได้ร้อง!”  ผมเถียง 

“ตาแดงซะขนาดนี้    แล้วนี่จะกลับบ้านเลยหรือ?”

“อืม” 

“เออ นี่”

“?”

“เรื่องเมื่อคืนอย่าคิดมากล่ะ  ไม่มีใครรู้หรอกว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น”

“....”

“เพราะฉะนั้นมันไม่มีคนผิด  เข้าใจ๊?”  คนตัวโตเท้าแขนกับขอบประตูรถ  ผมแหงนหน้าขึ้นมอง... 

ครั้งที่สามที่หัวใจผมเต้นผิดจังหวะ.

“ขอบคุณ”   ผมคิดไปเองหรือเปล่านะว่าแก้มตัวเองมันร้อนๆชอบกล?

“อย่าขับรถเร็ว  อย่าจอดรับคนแปลกหน้า  กลับถึงบ้านแล้วโทร.มาบอกด้วย”

“หืม?”

“เข้าใจไหม?”  ผมพยักหน้ารัว  อดรู้สึกดีกับคนตรงหน้าขึ้นมาไม่ได้

 “แต่ผมไม่มีเบอร์...”

“เอามือถือมาดิ๊”  คนตัวโตยื่นมือขอผมก็ให้ไปอย่างงๆ  “เอ้า นี่เบอร์ฉัน  ถึงแล้วโทร.มาด้วย”

“...ครับ” 

ผมไม่เข้าใจการกระทำของยักษ์ตัวโตอย่างนายอิ่มเอมนี่เลยสักนิด  นิสัยห่าม  เถื่อนเหมือนพวกนักเลงร้ายๆ  แต่เอาเข้าจริงก็เป็นพวกแข็งนอกอ่อนใน ปากร้ายใจดี   ....ใจอ่อน  ใจดีและช่างเป็นห่วงคนอื่น...

เอ...  หัวใจที่เต้นผิดจังหวะนี้เมื่อไหร่จะปกติเสียที...














คุณชายชาญ...น่ารักกว่าที่คิด...
ถึงเมื่อวานทำท่าเหมือนจะกินหัวผมก็เถอะ  สุดท้ายก็เพราะว่าเป็นห่วงคุณคีย์นั่นแหละ  พอไม่มีอะไรแล้วผมถึงได้รู้ว่าคนตัวเล็กตรงหน้านี้น่ารักมากๆ  ปากเล็กจิ้มลิ้ม  แก้มใสๆชวนมอง  ดวงตาวาววับเหมือนลูกแก้ว...  ท่าทางเหมือนงอนๆตอนที่นายยักษ์เข้าใกล้  หรือจะตอนที่ดวงตาคู่นั้นจ้องนิ่งเวลาเห็นผมทำท่าตกใจล้วนทำให้ผมไม่อาจละสายตา  คงเหมือนตอน....เวลาที่เจอผู้หญิงน่ารักๆละมั้ง?  ผมชอบมองผู้หญิงน่ารักนะ!  เว้นคุณคีย์ที่เป็นผู้ชายไว้คนหนึ่ง  อา...เว้นคุณชาญด้วยก็ได้...

ริมฝีปากสีสดนั่นชวนผมคุยไม่หยุด  เข้ามาคลอเคลียเหมือนลูกแมวน้อย....  ดูก็รู้ว่าคุณชาญตั้งใจทำ   ทำให้นายยักษ์อิ่มเอมนั่นไม่พอใจ...  ผมไม่รู้ว่านายยักษ์อิ่มเอมกับคนน่ารักอย่างคุณชายชาญเป็นอะไรกัน  แต่...คงมากกว่าคำว่าเพื่อนแน่นอน...  รอยช้ำตรงซอกคอขาวเนียนของคุณชาญ   แม้จะพยายามซ่อนแต่ผมก็ยังเห็นและแน่นอน...สิ่งที่ทำให้ผมคิดว่าทั้งสองคนเป็นมากกว่าคำว่าเพื่อนก็เพราะรอยเล็บบนคอนายยักษ์อิ่มเอม...

“....ศักดิ์   คุณร้องไห้เหรอ?”

“เอ๊ะ?”  ผมเงยหน้าขึ้นมอง  ดวงตาเหมือนลูกแก้วคู่นั้นหม่นแสง...  ผมยกมือขึ้นแตะแก้มตัวเองแล้วให้ตกใจ  จู่ๆน้ำตามันก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว...  ผมไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไร  มันก็แค่เศร้า...เท่านั้นเอง

“เพราะผมเหรอ?”

“?”

“คุณศักดิ์ชอบอิ่มเอม?”

“เปล่านะ!”  ผมปฏิเสธคำกล่าวนั้นทันที  ผมไม่ได้ชอบนายยักษ์นั่น    ไม่ใช่หรอก...

คนตัวเล็กลุกขึ้นยืน  ถอนหายใจแล้วเดินจากไป  ผมเห็นอิ่มเอมวิ่งตามเจ้าของแผ่นหลังเล็กนั่น   บางที...ที่คุณชาญเข้าใกล้ผมคงเพราะอยากให้ใครบางคนหึง?  แปลกจัง...กลางอกมันเจ็บแปลบขึ้นมาอีกแล้ว

ผมไม่ได้เกลียดนายยักษ์อิ่มเอมอย่างเช่นตอนแรก  และก็ไม่ได้รู้สึกผิดใจอะไรกับคุณชายชาญด้วย  สิ่งที่ผมไม่ชอบใจ  และรู้สึกแย่ก็คือตัวของผมเอง...  เกลียดตัวเองที่ใจเต้นกับคนรักของคนอื่น....




จากวันนั้น   น่าแปลกที่คุณชาญยังคงทำตัวติดกับผมอยู่   ขอให้ผมพาชมสวนที่กำลังสร้างในรีสอร์ท  บ้างก็ขอให้สอนขี่ม้าซึ่งเรื่องหลังผมว่าให้อิ่มเอมทำคงดีกว่า

“คุณชาญ  สวมเสื้อแขนยาวเถอะครับ  แดดแรงขนาดนี้ผิวจะไหม้เอาได้”  ผมถอดเสื้อคลุมไหล่ให้คนตัวเล็ก  แก้มขาวแดงเรื่อเพราะแสงแดดจนน่าสงสาร  ถ้าเกิดไม่สบายขึ้นมาคงแย่   เจ้าของลูกแก้วใสจ้องมองผมนิ่งและไม่ยอมรับผ้าเช็ดหน้าที่ผมยื่นให้  สุดท้ายผมเลยต้องซับเหงื่อให้เสียเอง   ริมฝีปากจิ้มลิ้มเม้มแน่นเขาไม่ยอมละสายตาจากผม   “คุณชาญ?”

“...นายเอาเสื้อให้ฉันแล้วนายไม่ร้อนหรือไง?”

“ก็...ผมชินแล้ว  แต่คุณคงไม่   ใส่ไว้เถอะเดี๋ยวจะไม่สบาย” 

เพราะผมขี่ม้าไม่เป็น  สุดท้ายก็ต้องพาคุณชาญนั่งรถไปเที่ยวในฟาร์มโดยมีอิ่มเอมตามติดไปด้วย  วันนั้นคุณชาญข้อเท้าแพลงเนื่องจากพื้นขรุขระ

“เจ็บมากไหมครับ?”

“เจ็บๆ”  คนตัวเล็กร้องโอยจนผมไม่กล้าแตะ มือเล็กเกาะบ่าผมแน่นตอนที่ผมก้มลงดูข้อเท้าให้   ข้อเท้าขาวๆเริ่มบวม   ผมอยากให้คุณชาญกลับเรือนจะได้ประคบเย็น  ไม่อย่างนั้นอาการจะแย่ลงเลยเสนอให้กลับ   คนเจ็บไม่ยอมขี่หลังอิ่มเอมที่เข้ามาช่วย  ผมไม่รู้ว่าทั้งสองคนทะเลาะอะไรกันผมเลยอาสาพยุงคนตัวเล็กแทน    เอวคุณชาญเล็กมาก  ผิวก็เนียนตัวก็หอมมากด้วย!    โธ่  ผมเป็นอะไรไปแล้ว!

คนตัวเล็กไม่เคยอยู่นิ่งแม้ขาจะเจ็บ   แน่นอนว่าสารถีจำเป็นยังคงเป็นผมคนเดิม  มือเล็กๆที่มักเกาะแขนของเขาแน่นเวลาเดิน  กลิ่นตัวหอมๆตอนที่ช่วยพยุงและรอยยิ้มสดใสทำให้ผมเผลอมองตลอดเวลา   นายยักษ์อิ่มเอมมีท่าทีหงุดหงิดหนักเพราะเข้ามาแทรกกลางไม่ได้   คุณชาญบอกไม่ต้องไปสนใจ  แต่...ท่าทางหงอยๆนั่นดูน่าสงสารออก



ผมยิ้มกว้าง  รู้สึกเหมือนปากจะฉีกไปถึงหูได้ยังไงยังงั้นเมื่อคนน่ารักยื่นกล่องแซนวิชมาให้  ผมกัดได้ไม่กี่คำ  ยักษ์ก็โวยวายเข้ามาแย่ง  ผมหัวเราะกับการทะเลาะกันเป็นเด็กๆของทั้งสองคนโดนมีผมเป็นเกราะของแต่ละฝั่ง

ร่างสูงใหญ่ของอิ่มเอมแนบชิดกับด้านหน้าของผม  ปลายจมูกโด่งเฉียดขมับไปนิดเดียวรู้สึกเหมือนแอบโดนหอมยังไงไม่รู้?  มือใหญ่นั่นคว้าเอวเล็กและบ่าแคบของคุณชาญเอาไว้แน่น  เลยกลายเป็นว่าตอนนี้เหมือนโดนอิ่มเอมกอดโดยมีผมอยู่ตรงกลาง!

“.........”  ราวกับเวลาหยุดเดินไปชั่วขณะ   เราสามคนผละออกจากกันราวกับแตะโดนถ่านไฟแดงร้อน  หัวใจเต้นแรงแข่งกันเสียงดังเสียจนหูอื้ออึง  เป็นผมที่ตั้งสติได้ก่อน   กระแอมไอแล้วหันหลังกลับเตรียมเดินออกไป  หากแต่ผมลืมว่าด้านหลังคือคุณชาญที่ยืนไม่ห่างมากนัก  ดังนั้นพอหันกลับไปจึงชนเข้ากับคนตัวเล็กเต็มรัก   ผมคว้าตัวของคุณชาญที่เซล้มเอาไว้อย่างรวดเร็ว    แม้คุณชาญจะตัวเล็กแต่ยังไงก็ผู้ชายคนหนึ่งซึ่งน้ำหนักไม่น้อยเลยทำเอาผมถึงกับเข่าทรุด  แต่ผมก็ไม่ยอมปล่อยให้อีกฝ่ายล้ม

“........”  เกิดสภาวะเงียบงันรอบที่สอง   

“อะแฮ่ม!”  อิ่มเอมเข้าไปฉุดเราทั้งสองคนให้ขึ้นจากพื้น   รู้สึกว่าแก้มตัวเองร้อนไปหมด  เหลือบคนตรงหน้าก็เห็นว่าแก้มแดงเหมือนกันเลยยิ่งทำให้ใจเต้นแรงยิ่งกว่าเก่า















เป็นอาทิตย์แล้วมั้งที่เขาพยายามหลบหน้าทั้งนายยักษ์อิ่มเอมและคนน่ารักอย่างชายชาญ  จะไม่ให้หลบยังไงไหวก็ตอนนี้หัวใจเขามันแปลกประหลาดมากเลย!  เขาไม่เคยใจเต้นกับผู้ชายทีเดียวสองคนพร้อมกันนี่น่า!  แย่แน่ๆ  แบบนี้มันแย่เกินไป   ต้องทำอะไรสักอย่าง!

แฟน!

ใช่  เขาต้องมีแฟน  มีแฟนเป็นผู้หญิงนั่นแหละดีที่สุด!

















tbc.





สวัสดีค่ะ  หายไปนานเลย...
น้อมรับความผิดค่ะ

ถ้าจะบอกว่าใกล้จบทุกคนจะตีหัวเขาไหม?5555  มันคงไม่ตัดจบใช่ไหม?    อันที่จริงเรื่องนี้ก็ไม่ยาวมากนะคะ
คาดว่าอีกสักประมาณ 3-4 ตอนก็น่าจะจบแล้วค่ะ^^  บอกไว้ก่อนว่าประมาณนี้นะคะเท่าที่วางไว้^^ ถ้าหาอะไรมาใส่ก็จะรกเยอะเกินไปและออกทะเลเนอะ   เอาเป็นว่าใครอยากเห็นอะไร อยากอ่านอะไรก็บอกได้นะคะ  จะได้เอาไว้แต่งตอนพิเศษให้ค่ะ^^ 
เพราะตอนหลักวางพล๊อตไว้น่าจะครบแล้ว^^

ตอนหน้าอาจจะมาช้าหน่อยนะคะ คงประมาณสิ้นเดือนเลยเพราะทรายต้องไป ตวจ.ค่ะ  หลายวันเลย

ปล.เช่นเคยนะคะ  มีอะไรบอกได้ ติ-ชมกันได้เสมอค่ะ
ขอบคุณที่ยังอ่านเรื่องนี้อยู่
อ่านให้สนุกนะคะ^^

ด้วยรักและคิดถึง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-01-2016 18:46:54 โดย sine »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: -รักพัดหวน- ตอนที่11 [21 ธ.ค.58]หน้า7
« ตอบ #219 เมื่อ: 12-01-2016 11:21:55 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: -รักพัดหวน- ตอนที่12 [12 ม.ค.59]หน้า8
«ตอบ #220 เมื่อ12-01-2016 11:55:11 »

 :pig4:

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
Re: -รักพัดหวน- ตอนที่12 [12 ม.ค.59]หน้า8
«ตอบ #221 เมื่อ12-01-2016 13:45:21 »

 :m1: :m1: :m1: :m1: :m1:

ออฟไลน์ anterosz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
Re: -รักพัดหวน- ตอนที่12 [12 ม.ค.59]หน้า8
«ตอบ #222 เมื่อ12-01-2016 14:53:16 »

คีย์เป็นทอมสินะ 5555

ออฟไลน์ Mokuchi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: -รักพัดหวน- ตอนที่12 [12 ม.ค.59]หน้า8
«ตอบ #223 เมื่อ12-01-2016 14:53:52 »

สิงห์เล่นตัวใช่มั้ย คีย์รีบๆจับแต่งงานเลย :laugh:
ไหนๆก็ใกล้จะจบแล้ว ตอนต่อไปก็ขอแบบหวานๆเลยนะคะ แถมคู่สามคนเยอะๆด้วยก็จะดีมาก 555  :impress2:

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: -รักพัดหวน- ตอนที่12 [12 ม.ค.59]หน้า8
«ตอบ #224 เมื่อ12-01-2016 14:58:40 »

สนุกมากๆๆๆๆ น้องเพลงว่า ฮาแล้ว คุณพ่อน้องเพลงสิ ฮากว่า  :m20:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: -รักพัดหวน- ตอนที่12 [12 ม.ค.59]หน้า8
«ตอบ #225 เมื่อ12-01-2016 15:34:07 »

เพลงคะ คิดไปได้5555

ออฟไลน์ littlegift

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: -รักพัดหวน- ตอนที่12 [12 ม.ค.59]หน้า8
«ตอบ #226 เมื่อ12-01-2016 16:38:04 »

 :a5: เพลงคิดได้ไง 555 ขำหนักมากกกก
ปล.อยากอ่านตอนต่อไปแล้วค่ะนักเขียน

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: -รักพัดหวน- ตอนที่12 [12 ม.ค.59]หน้า8
«ตอบ #227 เมื่อ12-01-2016 16:42:06 »

นังเพลงนีนางมโนชนะเลิศจริงๆ 5555 คิดไปได้

ออฟไลน์ janehh

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: -รักพัดหวน- ตอนที่12 [12 ม.ค.59]หน้า8
«ตอบ #228 เมื่อ12-01-2016 18:40:40 »

ถ้าเพลงไม่เมาหลับป่านนี้คง  :z1:
ไม่อยากให้จบเลยยยย ขอตอนพิเศษเยอะๆ นะคะ

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
Re: -รักพัดหวน- ตอนที่12 [12 ม.ค.59]หน้า8
«ตอบ #229 เมื่อ12-01-2016 18:58:42 »

ขรรมมมมน้องเพลงงงงง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: -รักพัดหวน- ตอนที่12 [12 ม.ค.59]หน้า8
« ตอบ #229 เมื่อ: 12-01-2016 18:58:42 »





ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: -รักพัดหวน- ตอนที่12 [12 ม.ค.59]หน้า8
«ตอบ #230 เมื่อ12-01-2016 19:18:10 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ yisren.

  • #คนที่ฉันไม่เคยลืม
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4
Re: -รักพัดหวน- ตอนที่12 [12 ม.ค.59]หน้า8
«ตอบ #231 เมื่อ12-01-2016 19:45:22 »

นี่เชียร์ให้สิงห์เป็นเมียมาตั้งแต่ต้นเรื่อง หึหึหึ

ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
Re: -รักพัดหวน- ตอนที่12 [12 ม.ค.59]หน้า8
«ตอบ #232 เมื่อ12-01-2016 20:19:04 »

สิงห์นี่เริ่มมีจริตนางเอกละนะ ให้ระวังไว้  :laugh:

ออฟไลน์ May@love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 827
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2
Re: -รักพัดหวน- ตอนที่12 [12 ม.ค.59]หน้า8
«ตอบ #233 เมื่อ12-01-2016 20:36:09 »


เมียที่เป็นทอม  :m20:

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
Re: -รักพัดหวน- ตอนที่12 [12 ม.ค.59]หน้า8
«ตอบ #234 เมื่อ12-01-2016 22:20:47 »

คีย์เอาความมั่นใจจากไหนมาคิดว่าตัวเองปล้ำสิงห์ได้ล่ะเนี่ย55
งือออใกล้จบจริงดิ เสียดายยยย

ออฟไลน์ -Otto-

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-0
Re: -รักพัดหวน- ตอนที่12 [12 ม.ค.59]หน้า8
«ตอบ #235 เมื่อ13-01-2016 21:03:30 »

สิงห์แม่งเจ้าเล่ห์ว่ะ  :hao3:

ออฟไลน์ Sorso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-3
Re: -รักพัดหวน- ตอนที่12 [12 ม.ค.59]หน้า8
«ตอบ #236 เมื่อ14-01-2016 02:34:11 »

12ตอนรวด ยาวยาวววววว

ออฟไลน์ Toon_TK

  • เ ด็ ก อ้ ว น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
Re: -รักพัดหวน- ตอนที่12 [12 ม.ค.59]หน้า8
«ตอบ #237 เมื่อ14-01-2016 11:02:34 »

ชอบเรื่องนี้คร้าาาา~

ออฟไลน์ -Otto-

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-0
Re: -รักพัดหวน- ตอนที่12 [12 ม.ค.59]หน้า8
«ตอบ #238 เมื่อ25-01-2016 20:07:58 »

อยากอ่านต่อแล้วอ่าา :m1: :m1:

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: -รักพัดหวน- ตอนที่12 [12 ม.ค.59]หน้า8
«ตอบ #239 เมื่อ26-01-2016 00:11:23 »

คิดถึงน้องเพลงแล้วอ่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด