amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p8><10/12/58> แจ้งข่าวรวมเล่มค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p8><10/12/58> แจ้งข่าวรวมเล่มค่ะ  (อ่าน 75941 ครั้ง)

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ด กรุณาอ่านทุกคน
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วย

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)


................... :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:


                                                                                     
คุยกันสักนิดค่ะ
[/color][/size][/center]
           
คือว่านิยายเรื่องนี้ก็เขียนไปหลายตอนแล้วแต่ด้วยความที่สถานที่เราทำงานอยู่ห้ามเล่นคอมนะค่ะ

เราเลยใช้เวลาชิวๆว่างๆนั่งเขียนในสมุด

นิยายเขียนไปเกือบจบแล้วนะคะ

เพราะงั้นไม่ต้องกลัวว่าเราจะดอง

แต่อาจช้าแบบความถี่ในการลงสองหรือสามวัน

เพราะเราต้องมานั่งแกะอักขระมารของเราเองเวลาพิมส์ลงคอม

เรื่องนี้เป็นแนวฮาเร็มค่ะ

เป็นฮาเร็มแบบไหนขออุบไว้ก่อน

รักคนอ่านค่ะ

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-12-2015 21:31:48 โดย Silvan »

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่ 1
   
คงจะถึงคราวตายแล้วจริงๆ
   
เด็กหนุ่มที่กำลังสิ้นหวัง เพราะจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งทะเลสาบคิดอย่างเศร้าสร้อย ถึงแม้ว่าในใจกำลังภาวนาให้ญาติของตนที่มาด้วย รีบช่วยเขาก่อนที่จะหมดลมหายใจ
   
ทว่าระยะเวลาแห่งการรอคอยดูเหมือนใกล้จะสิ้นสุด เด็กหนุ่มที่กำลังจะขาดอากาศหายใจ นึกยอมแพ้และตัดสินใจหลับลงตายอมรับชะตากรรม

แต่ถึงจะคิดเช่นนั้น ที่ตรงหน้า การปรากฏของร่างเปลือยเปล่าผอมบางของเด็กชายที่มีรูปโฉมงดงามดั่งเทวทูต ต่อให้เป็นเพศชายก็เถอะ แต่ความงามของร่างวิญญาณที่โปร่งแสงตรงหน้า เป็นความงามที่ล่มฟ้าล่มดินอย่างแน่นอน

เจ้าของร่างนั้น มีเส้นผมสีดำดั่งความมืด และดวงตากลมโตสีม่วง นอกจากนั้น ผิวกายยังขาวผุดผาดราวกับมีรัศมีแผ่กำจายส่องสว่างเฉกเช่นเดียวกับดวงจันทร์

   เด็กหนุ่มคิดว่าร่างวิญญาณตรงหน้าคงจะเป็นเทวทูตที่รับเขาไปสวรรค์ไม่ผิดแน่
   เทวทูตผู้งดงามยิ้มอย่างอ่อนหวาน พร้อมกับกางแขนทั้งคู่ออกกว้างราวกับจะโอบกอดตัวเขา

   ทันทีที่ถูกเทวทูตกอดรัด ร่างวิญญาณอันงดงามก็จมหายเข้าไปในร่างของเขา

   เด็กหนุ่มรู้สึกถึงการมีอยู่ของใครอีกคนในตัว

ในตอนนั้น ร่างวิญญาณของโยชัว ก็ถูกดีดออกมาจากกายเนื้อ เป็นจังหวะเดียวกับที่ร่างของเขาถูกบรรดาญาติที่มาเที่ยวด้วยกันลากขึ้นมาจากก้นทะเลสาบ

   “เฮ้ย โยชัวร์”

หนึ่งในบรรดาลูกพี่ลูกน้องของเด็กหนุ่มตะโกนเรียก  โยชัวร์ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าในสภาพวิญญาณ มองดูญาติที่กำลังผายปอดให้ร่างกายของเขาอย่างสับสน

   เสียเวลาเปล่าน่า...ก็ในเมื่อวิญญาณออกจากร่างแล้ว ยังไงเขาก็ไม่ทางฟื้นขึ้นมาได้หรอก
   
โยชัวร์คิดอย่างหดหู่
   
หากแต่ร่างที่น่าจะตาย เพราะปราศจากวิญญาณของเด็กหนุ่ม กลับลืมตาโพลง แล้วลุกขึ้นราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อเพ่งมองดูให้ดีดี  โยชัวเห็นวิญญาณอันงดงามทับซ้อนกับร่างกายของเขา กลมกลืนจนแทบจะกลายเป็นเจ้าของร่าง แทนที่เจ้าของเดิมซึ่งตอนนี้เป็นวิญญาณเร่รอนอยู่ในอากาศ
   
“บ้าชัดๆ...นี่เขาถูกวิญญาณร้ายแย่งร่างกายเหรอ  บ้าไปแล้ว”
   
โยชัวร์ร้องตะโกนอย่างตื่นตระหนก ในตอนที่ยังไม่ได้ตั้งตัว ที่ด้านหลังของเด็กหนุ่ม ลมพายุที่บิดเป็นเกรียวก็ดูดร่างวิญญาณของเขา หายไปจากที่ตรงนั้นตลอดกาล
   
“แค่กๆ”
   
โยชัวร์สำลักอากาศอย่างรุนแรง หลังจากไอจนคิดว่าไม่สามารถจะไอไปได้มากกว่านี้ ความเจ็บทั่วร่างกายที่คล้ายมดแดงกัดทำให้เขารู้สึกชาจนขยับตัวไม่ได้

   เด็กหนุ่มพยายามปรือตามองดูรอบตัวว่าเกิดอะไรขึ้น  แต่ในเมื่อเขาไม่มีแรงแม้แต่จะขยับนิ้ว ที่เบื้องหน้าโยชัวจึงเห็นแค่เพียงเพดานที่น่าจะทำจากหิน
   
ที่นี่ที่ไหน
   
โยชัวร์คิด ทว่าร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงเกินกว่าจะอ้าปากพูดกับอาการคันยิบๆ ไปทั่วร่าง ทำให้เขาได้แต่อ้าปากผะงาบๆอย่างไร้เสียง
   
“อุตส่าห์วางยาพิษต่อต้านเข้าไปในร่างกายแล้วแท้ๆ  ทั้งๆ อย่างนั้น ตอนที่แกจะตายจริงๆ  ร่างกายโสโครกก็ยังอุตส่าห์พยายามรักษาตัวเองเพื่อให้แกมีชีวิตต่อไปสินะ”
 
เจ้าของเสียงเย้ายวนชะโงกหน้าเข้ามาในระยะสายตาของโยชัวร์

   คนตรงหน้าเป็นหญิงสาวผมแดงที่มีรูปลักษณ์สวยงามเย้ายวน ในระดับที่ใครหน้าไหนก็คงจะทนการรุกเร้าของหล่อนไม่ได้ หากแต่ว่าใบหน้าที่งดงามยั่วเย้าในตอนนี้  กำลังแสยะยิ้มชั่วร้ายเสียจนทำให้ความงามนั้นด้อยค่าลงไปมาก
   
“โยชัวนะโยชัว...แปด ปีมานี้ ข้าทรมานแกถึงขนาดนี้ยังไม่คิดที่จะตายอีกเหรอ... เอาเถอะตราบใดที่เจ้ายังมีชีวิตอยู่ ข้าจะช่วยทรมานเจ้าไปทุกวันๆ  จนกว่าเจ้าจะยอมตายไปเลยทีเดียว หรืออาจจะตลอดกาล”

หญิงงามผู้มีใบหน้าเย้ายวนผละจากไป แต่เสียงหัวเราะของเธอยังดังก้องไปตลอดทาง ก่อนจะค่อยๆ เบาลงไปตามลำดับและเงียบลง
   
โยชัวร์กระพริบตาปริบๆ  เด็กหนุ่มหลับตานอนนิ่ง เขารู้สึกคันยิบๆ ไปทั้งร่าง ที่ร้ายไปกว่านั้นยังไม่มีแรงแม้จะขยับแค่ปลายนิ้วเลยเสียด้วยซ้ำ
   
ทว่าสิ่งสำคัญยิ่งกว่านั้น คือเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ ผู้หญิงที่สวยแต่จิตใจอัปลักษณ์คนนั้นเรียกชื่อเขาได้อย่างถูกต้อง แต่ถึงอย่างนั้นในชีวิตนี้  โยชัวก็ไม่เคยเห็นผู้หญิงคนนั้นมาก่อนเลยแม้แต่ครั้งเดียว
   
ก่อนหน้านี้จำได้ว่าจมน้ำ หลังจากที่ถูกช่วยขึ้นมา เด็กหนุ่มก็ถูกเทวทูตแย่งชิงร่างกาย ก่อนที่จะถูกดูดหายเข้าไปในเกรียวพายุ แล้วลืมตาขึ้นมาที่นี่

   กลัว....
   
ทั้งที่วันเกิดอายุ 15 ปีนี้ โยชัวมาฉลองวันเกิดที่บ้านเก่าของพ่อท่ามกลางญาติมิตรที่รักมากมาย  ชีวิตของเด็กหนุ่มนับจากนี้กำลังมีอนาคตที่สดใสคอยอยู่  แต่ว่านรกที่รอรับเขาตอนที่ลืมตาตื่นขึ้น ก็ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกท้อแท้เกินกว่าที่จะรับไหว

   โยชัวร์รู้สึกได้ถึงหยาดน้ำจากดวงตาที่ไหลเปรอะแก้ม
   
ตอนนี้เขาสามารถขยับตัวได้แล้ว เด็กหนุ่มใช้มือปาดน้ำตาบนใบหน้า ก่อนจะผุดกายลุกขึ้นนั่ง

ในจังหวะนั้นเอง ที่โยชัวสังเกตเห็นบาดแผลจำนวนนับไม่ถ้วนบนร่างกาย
   
ถึงแม้ว่าร่างของเด็กหนุ่มจะชโลมเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดและกลิ่นสนิม  รอยแผลฉกรรจ์บนร่างซึ่งกำลังสมานตัว ก็ไม่หลุดพ้นไปจากการสายตาของเขาที่มองดูเหตุการณ์นั้นอย่างพิศวง
   
ขณะมองสำรวจร่างกายที่กำลังรักษาตัวอย่างถี่ถ้วน  บริเวณหน้าอกของโยชัว ตรงกับจุดซึ่งเป็นที่อยู่ของหัวใจมีรอยแดงช้ำเป็นบริเวณกว้าง เด็กหนุ่มมองเห็นมันไม่ค่อยชัด จึงใช้มือลูบไล้ไปที่บริเวณนั้นสำรวจอย่างแผ่วเบา รอยบุ๋มที่สมานตัวเข้ากันแล้ว ค่อยๆ ถูกเติมเต็มทีละนิดจนพื้นผิวที่จุดนั้น กลับมาเรียบเนียนไร้รอยแผล
   
ความอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับร่างกายของโยชัวร์ดำเนินไปเกือบสิบห้านาที  ในที่สุดร่างกายของเขาก็ปราศจากแม้แต่รอยขีดข่วนเล็กๆ

   สงสัยว่านี่คงจะไม่ใช่ร่างกายของเขา
 
โยชัวร์ยกมือที่ทั้งเล็กและนุ่มนิ่มขึ้นคลำใบหน้าและร่างกาย

ในตอนนั้นเอง เด็กหนุ่มก็เกิดความรู้สึกไม่ชอบใจ กับการที่เส้นผมสีดำ ซึ่งยาวรุงรังปลกคลุมใบหน้าและทัศนวิสัยทำให้เขามองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างได้ไม่ชัดเจน
   
ช่วงเวลาที่กำลังหงุดหงิดแบบนั้น  เสียงเปิดประตูอย่างกะทันหันที่ด้านหลัง  ก็ทำให้โยชัวร์หันหน้าไปมองเหล่าผู้คนที่ก้าวเข้ามาในห้อง โดยการนำของหญิงสาวในชุดเมดแบบโกธิค
   
“ยกอ่างน้ำเข้ามา”

พอหญิงสาวในชุดเมดสั่ง  ชายซึ่งยกถังไม้ขนาดใหญ่ก็ย่างเท้าผ่านประตูเข้ามา ด้วยแรงมหาศาลที่ยกถังไม้ขนาดให้คนเข้าไปนอนเล่นได้ แถมบรรจุน้ำจนเต็มด้วยตัวคนเดียว ทำให้โยชัวร์มองดูคนผู้นั้นตาไม่กระพริบ

และในทันทีที่อีกฝ่ายวางถังไม้ที่ปกปิดใบหน้าของตัวเองลง โยชัวก็ใช้มืออุดปากของตน ปิดกั้นเสียงร้องที่อาจจะเกิดขึ้น
   เด็กหนุ่มไม่อยากเป็นจุดเด่นให้ใครจับสังเกต หากแต่ดวงตาของเขายังไม่ละจากเจ้ามนุษย์หน้าเสือที่ถึงแม้จะยืนสองขา และมีแขนเหมือนคน

ทว่าร่างกายที่ปกคลุมด้วยขนสีส้มลายพาดกลอนและใบหน้าอย่างเสือโคร่ง ทำให้โยชัวร์ซึ่งเติบโตและมีประสบการณ์โลกแฟนตาซีผ่านทางอนิเมะ เกม และไลท์โนเวล ประมวลความคิดได้อย่างรวดเร็ว
   
“อ๊ะ”

โยชัวร์ร้องอุทานเบาๆ เมื่อจู่ๆ หญิงสาวในชุดเมดโกธิคตรงเข้ามาถอดชุดที่เขาสวมอยู่ เด็กหนุ่มใช้มือสัมผัสไปที่มือของอีกฝ่ายต่อต้านการกระทำของหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่พอใจ
   
แต่ทันทีที่แตะถูกตัว ภาพเหตุการณ์ต่างๆ ที่เต็มไปด้วยสีสันราวกับภาพยนตร์ ก็ผ่านเข้ามาในสมองของเขาโดยตรง
   
ซูซานคือชื่อของคนตรงหน้า สิ่งที่เข้ามาในสมองของโยชัวร์ คือภาพของหญิงสาวที่เข้ามาดูแล หาอาหารและชำระร่างกายให้เขาทุกวันหลังจากที่ถูกทารุณอย่างโหดเหี้ยม
   
“จะทำอะไรน่ะหา”

เสียงตะคอกของซูซาน ทำให้โยชัวร์มีสติกลับมายังเหตุการณ์จริงที่เบื้องหน้า เด็กหนุ่มหดมือที่จับข้อมือของอีกฝ่ายแน่นกลับอย่างตกใจ

   เมื่อกี้นี้คือความทรงจำของผู้หญิงคนนี้เหรอ...

โยชัวร์ครุ่นคิดขณะยืนนิ่งให้ซูซานจัดการตามใจชอบอย่างทุกครั้ง เพราะชายหนุ่มได้เห็นแล้วว่าอีกฝ่ายต้องการจะทำอะไร ด้วยภาพที่แล่นเข้ามาในสมอ เมื่อครู่  เขาจึงทำตามที่ซูซานต้องการราวกับตุ๊กตา

   “เฮอะ  ถ้ายอมตายไปซะก็ไม่ต้องทนทรมานต่อไปอีกแท้ๆ  เจ้ามันโง่ชัดๆ  ไม่รู้จะอดทนอะไร”
 
ซูซานพูดพร้อมกับฉีกเสื้อผ้าของเด็กหนุ่มที่ขาดวิ่นและเปรอะเปื้อนอยู่แล้วออก ดูเหมือนว่าชุดที่โยชัวสวมอยู่จะเป็นชุดคลุมยาวคล้ายชุดนอน ดังนั้นพอฉีกออกจึงสามารถกำจัดเสื้อผ้าที่ติดกายเอาไว้ได้ในครั้งเดียว
   
รู้สึกอายนิดๆที่ต้องถูกผู้หญิงมองร่างกายเปลือยเปล่าของตัวเอง แต่กระนั้นพอมองดูอีกฝ่ายผ่านผมเผ้ายาวรุงรังที่ปิดรกใบหน้า ท่าทางขึงขังและการแสดงออกด้วยความรำคาญอย่างชัดเจนทุกการกระทำ โยชัวเข้าใจว่า อีกฝ่ายคงไม่สนใจว่าเขาเป็นผู้ชายเลยซะด้วยซ้ำ

   โยชัวก้มลงมองเครื่องเพศของตนอย่างอดไม่ได้ เป็นอวัยวะเพศที่สีชมพูสวยก็จริง แต่ทว่าดูเล็กเหมือนของเด็ก ขนตรงนั้นก็ขึ้นน้อยซะจนน่าใจหาย เด็กหนุ่มเริ่มสำรวจบริเวณรักแร้และเรียวขาของตนอย่างหมกมุ่น
   
ไม่มีเลยแม้แต่น้อย
 
เด็กหนุ่มรู้สึกตระหนกที่ร่างกายปัจจุบันของตน ไม่มีขนขาหรือแม้แต่ขนรักแร้สักเส้น ดูจากส่วนสูงของเขาที่เตี้ยกว่าซูซานอยู่หลายเซนติเมตร
 
โยชัวเข้าใจว่าตัวเขาตอนนี้น่าจะสูงประมาณ 160 – 165 เซนติเมตร

จะว่าไปตัวเขาจริงๆก็อายุ 15 เหมือนกัน แต่ด้วยความที่เป็นลูกครึ่ง

เขาจึงสูงถึง 175 แล้วในช่วงก่อนที่จะมาสิงสู่อยู่ในร่างนี้

   หรือว่าร่างของเขาในตอนนี้ยังเป็นแค่เด็กประถมกันแน่นะ?

   “เอ่อ พี่ซูซาน ข้าตอนนี้อายุเท่าไหร่”

โยชัวเอ่ยปากถามโดยไม่ทันคิด กว่าจะเข้าใจถึงผลเสียที่เกิดขึ้น เด็กหนุ่มก็รู้ตัวช้าไปเสียแล้ว
   
ซูซานที่มีใบหน้าบิดเบี้ยว พุ่งเข้ามาตะครุบปิดปากโยชัว ก่อนที่จะจับเขากดนอนรายลงไปกับพื้นด้วยท่าทีตื่นตระหนก สายตาของเธอจับจ้องไปที่อีกฝากนอกห้อง

   เป็นเวลานานทีเดียวที่ถูกเธอใช้มืออุดปาก
   
“อย่าคิดบ้าๆ นะ บ้าใบ้ไปซะก็ดีอยู่แล้ว หากว่าท่านอมันด้ารู้ว่าเจ้ายังพูดได้ มีความรู้สึกนึกคิด ไม่ได้บ้า คิดดูสิว่าท่านอมันด้าจะเล่นงานเจ้าหนักกว่าเดิมแค่ไหน” 

ซูซานค่อยๆ คลายมือและผละออกหลังพูดจบ ก่อนที่จะกระซากมือโยชัว ถูลู่ถูกังไปยังอ่างน้ำที่ถูกยกเข้ามา เธอออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงตะคอกห้วนให้เด็กหนุ่มลงไปในอ่างน้ำ
   
ในระหว่างที่ชำระร่างกาย ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรกัน ทว่าสัมผัสนุ่มนวลอ่อนโยนของซูซานกับภาพซึ่งน่าจะเป็นความทรงจำของหล่อน ทำให้โยชัวรู้ว่าเธอดีกับเขา ไม่สิ...น่าจะกับเจ้าของร่างนี้แค่ไหน
   
ถึงตอนนี้โยชัวรู้ชัดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองแน่
   
ถึงจะรู้ไปก็ไม่สำคัญ สำคัญกว่านั้นคืออนาคตข้างหน้านั้นท่าทางจะมืดมนไร้ความหวัง
   
โยชัวหวาดกลัวอนาคตนับจากนี้จนตัวสั่น สั่นกลัวจนอีกอีกฝ่ายเข้าใจผิดว่า เด็กหนุ่มกำลังหนาวเพราะอาบน้ำเย็น ทว่าพอถูกปลอบโยนด้วยคำพูดและไม่ต่างจากขู่กรรโชก จิตใจของเขาก็ค่อยๆสงบลง
   
โยชัวร์ครุ่นคิดถึงความสามารถติดตัวของเขาในร่างนี้
   
อย่างแรกก็คือรักษาบาดแผลอัตโนมัติ
   
อย่างที่สองคืออ่านความทรงจำ
   
โยชัวไม่รอที่จะทดสอบความสามารถอย่างที่สอง แต่ไม่ว่าจะพยายามเพ่งกระแสจิตหรือออกคำสั่งในใจเท่าไหร่ ก็ไม่เห็นจะมีอะไรเกิดขึ้น พอคิดว่าตอนอ่านความทรงจำอีกฝ่ายครั้งแรกเป็นตอนที่ถูกสัมผัส แต่กระนั้นซูซานก็กำลังอาบน้ำสัมผัสเขาไปทั่วร่างแต่ก็ไม่เห็นมีเกิดอะไรขึ้น

   แย่แฮะ
   
ดูท่าจะเป็นความสามารถที่ไม่สามารถใช้ได้อย่างใจ  คงจะเป็นอบิลิตี้สกกิล ที่ต้องใช้การเรียนรู้และประสบการณ์สินะ
   
รู้สึกห่อเหี่ยวจนอยากตายอีกครั้ง
   
หลังจากถูกอาบน้ำแต่งตัวให้จนสะอาด  ซูซานก็ยื่นถาดอาหารให้โยชัวทาน โดยที่ออกคำสั่งให้ทหารหน้าเสือยกอ่างน้ำที่เต็มไปด้วยน้ำสกปรกออกไป  พอเด็กหนุ่มรับประทานอาหารเสร็จ  ซูซานก็ถือถาดอาหารผละจากไปโดยไม่พูดไม่จา แต่กระนั้นก่อนที่จะออกจากห้องขังไป เธอชะงักเท้าแล้วหยุดนิ่ง

   “เจ้าตอนนี้น่าจะอายุสักสิบห้า ไม่สิ...ต้องสิบห้าแน่นอน”  ซูซานพูดทิ้งท้ายก่อนจะจากไป

   ความอ่อนโยนอันน้อยนิดที่ได้รับทำให้โยชัวร์รู้สึกมีความหวังเล็กๆ
   
ถึงแม้ว่าลึกๆ แล้วจะรู้อยู่แก่ใจว่า พรุ่งนี้และวันถัดๆ ไปอาจจะต้องเผชิญชะตากรรมถูกทารุณทุกๆ วันไปจนกว่าจะเน่าเปื่อยและสูญสลายไป

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ขอโทษค่ะเราอ่านนิยายของเราดูแล้วตอนแรกๆเขียนได้มั่วมาก

เราเลยมาแก้ไขค่ะ จะทยอยแก้ตอนที่มั่วๆไปทีละตอนนะคะ

รัคนอ่านค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2015 08:33:35 โดย Silvan »

ออฟไลน์ glasses girl

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ว้าวน่าสนใจ

โยชัวสลับร่างแถมหลงมิติด้วยสินะ o13

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
น่าติดตามมมากค่ะ รอตอนต่อไปค่าาาาา

ออฟไลน์ Kamidere

  • บรรยายมันออกมา ทุกสิ่งที่อยู่ในใจ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
โอ๊ะ ตามมมมมมมม

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่ 2

   “วันนี้ดูเหมือนว่าจะตื่นตัวกว่าทุกวันนะ”  อมันด้าพูดขณะกลั้วหัวเราะเสียงสูง
   
หลังจากการทารุณโยชัวจนสาแก่ใจ เด็กหนุ่มถึงแม้จะถูกกรีดท้องหรือถูกถอดเล็บจนสภาพยับเยินราวกับเศษเนื้อ ทว่าระหว่างที่ถูกกระทำโยชัวไม่รู้สึกอะไรไปมากกว่าถูกมดกัดเบาๆ จนคันยิบๆ เท่านั้น

   ยังไงก็เถอะ ถึงแม้จะไม่รู้สึกเจ็บ แต่ภาพน่าหวาดเสียวที่เกิดขึ้นก็ทำให้เขาตระหนกเสียจนแทบจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่

ดวงตากลมโตที่ปกคลุมด้วยเส้นผมสีดำรุงรังเหลือบตามองเล็บบนนิ้วทั้งสิบที่กำลังงอกขึ้นใหม่อย่างช้าๆ ดูเหมือนว่าการรักษาตัวของเขาจะทำให้อมันด้าไม่พอใจ  เธอใช้รองเท้าส้นสูงเหยียบมือเขา บดขยี้จนเลือดไหลซิบด้วยใบหน้าขัดเคือง


   “เจ้าสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำน่ารังเกียจ”

อมันด้าพูดก่อนจะชักเท้าออกจากห้องขังไป ปล่อยให้โยชัวที่มีสภาพไม่ต่างจากผ้าขี้ริ้วนอนคว่ำหน้าอย่างหมดแรงสมานแผลกายอย่างช้าๆ
   
ต้องโดนอย่างนี้ทุกวันเลยเหรอเนี่ย

   ไม่เจ็บก็จริงแถมไม่ตายแต่ทว่าก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากห้องทรมานนี้ได้ นี่ขนาดวันนี้เป็นวันแรกที่เผชิญหน้ากับความเป็นจริง เขายังรู้สึกเครียด กลัว ทั้งสะอิดสะเอียนขนาดนี้ ถ้าต้องเจอแบบนี้ต่อไปอีกหนึ่งเดือนเขาคงเป็นบ้า
   
โยชัวคิดด้วยความสิ้นหวัง เด็กหนุ่มรู้สึกว่าภาพของครอบครัวสมัยที่ตัวเองยังอยู่ในร่างก่อนค่อยๆ ห่างออกไปทุกที พลันได้ยินเสียงด่าทอด้วยความไม่พอใจของอมันด้า

   กำลังทะเลาะกับใครอยู่นะ

   โยชัวรู้ว่าอมันด้ากำลังพูดตอบโต้กับใครบางคน แต่อีกฝ่ายนั้นพูดด้วยเสียงที่เบาซะจนเขาไม่ได้ยิน

เสียงของอมันด้าเริ่มเกรี้ยวกราดขึ้นเรื่อยๆ

   อันที่จริงเด็กหนุ่มแทบจะไม่รู้หรอกว่าเถียงกันเรื่องอะไร เพราะจากเสียงที่ได้ยินทั้งคู่อยู่ห่างไกลจากตัวเขามากพอดู

แต่ถึงอย่างนั้นเพราะเสียงที่ค่อนข้างดังของอมันด้าถึงแม้จะจับคำพูดไม่ได้แต่ก็สามารถเข้าใจได้ว่าอีกฝ่ายกำลังเปล่งเสียงด้วยความรู้สึกเช่นไร
   
หลังจากที่อมันด้าตะโกนอย่างกราดเกรี้ยว เสียงก็เงียบไป คราวนี้เสียงที่คล้ายจะออดอ้อนก็ดังขึ้น จากนั้นไม่นานก็กลายเป็นเสียงหอบฮั่ก ตามด้วยเสียงหวีดหวานครวญครางของอมันด้าก็ดังอย่างต่อเนื่อง

โทนเสียงที่ทั้งออดอ้อนสลับกับความยโสในแบบของราชินีดังสลับกันไป ในที่สุดเสียงหวีดสูงอย่างสมสุขก็ดังก้องไปทั่วก่อนที่จะกระตุกขาดหายอย่างกะทันหัน

   แปลกจังแฮะ ทำไมเสียงมันกระตุกหายเหมือนแผ่นดีวีดีเป็นรอย

   เอาเถอะยังไงก็ไม่เกี่ยวกับเขา

ยังไงซะชีวิตนี้ก็คงทำได้แค่รอวันตายในคุกหรือไม่ก็เป็นบ้า

เขาไม่มีอารมณ์จะสนใจใคร ทั้งนั้น

   ผ่านไปสิบนาที
   
บาดแผลที่ถูกแหวกท้องเริ่มจะเชื่อมกัน รู้สึกดีที่แผลที่ใหญ่ที่สุดสมานเป็นเนื้อเดียวกันจนได้ แต่อย่างนั้นก็ยังขยับกายไม่ได้ดั่งใจ จึงนอนจมกองเลือดอยู่อย่างนั้นรอให้แผลตามตัวสมานกันให้มากกว่านี้

พลันเสียงเปิดประตูห้องขังของเขาก็ดังขึ้น โยชัวไม่มีอารมณ์เงยหน้ามองจึงนอนคว่ำหน้าแล้วนิ่งเฉย สักพักคนที่เปิดประตูก็เดินลงส้นเท้าเข้ามายืนอยู่ที่เหลือศีรษะ

   “ตายแล้วอย่างนั้นเหรอ”

น้ำเสียงที่ทรงอำนาจและเย้ายวนดังขึ้น เสียงของผู้ชายคนนี้ทั้งทรงพลังทั้งยั่วยวนจนใจแทบสั่น

 โยชัวได้ยินเสียงของพวกดาราหรือนักร้องมาก็มาก แต่ไม่เคยได้ยินเสียงของคนที่มีชื่อเสียงคนไหนจะทำให้รู้สึกหวั่นไหวจนร่างกายสั่นระริกได้มากเท่านี้
   
ทว่าขณะที่คิดด้วยความวาบหวามแบบแปลกๆ ก็ถูกอีกฝ่ายกระชากเส้นผมให้ยืนขึ้น

วินาทีที่ถูกกระชากผมให้ยืนขึ้น ภาพความทรงจำที่เต็มไปด้วยสีสันก็วาบเข้ามาในสมองของโยชัว เสียงผู้คนและสัตว์ป่าจำนวนมากโห่ร้องอย่างบ้าคลั่ง จุดสายตาของเขาเหลียวมองไปยังประชาชนที่มีทั้งร่างแบบมนุษย์ไปจนถึงร่างอมนุษย์ ดูปราดเดียวก็รู้ว่าพวกนี้ล้วนแต่เป็นปีศาจ
ในขณะที่มองดูรู้สึกได้ถึงความเหนือกว่า และความรู้สึกหยามหยัน ทั้งยังสมเพช.... ราวกับเป็นความรู้สึกของตัวเอง

“นังเผ่าเทพจองหอง”

จุดสายตาหันไปยังที่เจ้าของเสียง ใบหน้าที่งดงามเย้ายวนของอมันด้าถูกมองดูด้วยระดับความสูงที่ต่ำกว่า ก่อนจะเบนสายตาไปยังสตรีผมเงินที่ทั้งงดงาม ทั้งสูงส่ง กริยาท่าทางที่เยื้องกรายเห็นได้ชักว่าถูกขัดเกลามาอย่างไร้ที่ติ

เป็นความงามที่เหนือกว่าผู้คน นอกจากรูปโฉมที่งดงามแล้ว ปีกสีขาวหกปีกที่อยู่ด้านหลังบอกชัดถึงเผ่าพันธุ์ของเธอผู้งามอย่างเหนือโลก

“สักวันหนึ่งจะกระชากปีกสีขาวพวกนั้นให้ขาดวิ่น น่ารังเกียจ ทั้งๆ ที่สามารถหุบปีกเกะกะพวกนั้นได้แท้ๆ แต่ก็ยังจองหองกางปีกที่น่าชิงชัง อย่างกับจะประกาศว่าตัวเองเป็นถึงธิดาแห่งเทพสวรรค์ น่าขำสิ้นดี”

 คำผรุสวาทของอมันด้าดังข้างหู ดูเหมือนว่าเจ้าหล่อนไม่คิดจะปกปิดความในใจเท่าไหร่จึงพูดด้วยเสียงที่ค่อนข้างดังอย่างไม่เกรงใจใคร

แต่กระนั้นจุดสายตาก็ยังจ้องมองอยู่ที่ร่างสูงส่งของเทพธิดา ที่ข้างๆ ของเทพธิดามีเด็กชายเผ่าเทพที่ดูคล้ายจะลอกแบบความงามและเผ่าพันธุ์มาจากผู้เป็นแม่ยืนอยู่ ทว่าจุดสายตาของเจ้าของความทรงจำไม่ได้อยู่ที่นั้นกลับเป็นเด็กอายุสี่ขวบที่ถูกเทพธิดาอุ้มอยู่ในอ้อมกอด

จุดสายตาหรี่ลงเล็กน้อยขณะจับภาพของเด็กสี่ขวบที่ว่า เด็กในอ้อมกอดนั้นตัวเล็กน่ารักราวกับเทวดาตัวน้อยที่ถูกวาดบนเพดานโบสถ์ในศาสนาคริสต์ ตอนนี้โยชัวชักเริ่มจะหงุดหงิดที่จุดสายตามองเด็กสี่ขวบมากเกินจำเป็น


“นังลูซิเอล่าที่น่าชิงชังอุตส่าห์แสร้งรับเจ้าลูกครึ่งมนุษย์ที่พอเกิดมาก็ดึงเอาพลังศักดิ์สิทธิ์จากแม่มันไปหมด ตัวอัปมงคลแท้ๆ พอเกิดมาก็ทำให้นังดาเลเน่ตายทันที ดูเหมือนว่าพลังในฐานะสตรีศักดิ์สิทธิ์จะถูกโอนถ่ายไปให้เด็กโสโครกนั่นเลยไม่สามารถรักษาตัวเองได้อย่างที่เคยเป็นสินะ ถึงจะน่าสมเพชแต่ก็สบใจทางนี้อยู่ทีเดียวล่ะ”

 จุดสายตามองดูอมันด้าหัวเราะเสียงกังวาน ก่อนจะปรับสายตาลงมาในระดับปกติมองดูเด็กชายวัยห้าขวบผมสีทองซึ่งยืนขนาบอยู่อีกข้างของอมันด้า เด็กวัยห้าขวบผมทองพอรู้สึกถึงจุดสายตาก็สะดุ้งตกใจผวากอดอมันด้าอย่างเกรงๆ
ความรู้สึกสนุกสนานและอยากกลั่นแกล้งแล่นริ้วขึ้นมาราวกับเป็นความรู้สึกของเขาเอง
โยชัวเริ่มคิดว่าเจ้าของจุดสายตาคงไม่ใช่เด็กนิสัยดีเท่าไหร่ ในตอนนั้นเสียงที่ดังกึกก้องราวกับฟ้าผ่าก็ดังไปทั่วบริเวณ จุดสายตาถูกปรับมุมขึ้นสูง ที่ตรงหน้าชายร่างยักษ์ที่ใหญ่โตพอๆ กับตึกสามสิบชั้นกำลังนั่งอยู่บนบัลลังค์ขนาดยักษ์

ใบหน้าที่ดุดันเต็มไปด้วยหนวดเครารกครึ้ม ผิวสีทองแดงที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อบอกชัดถึงความเป็นนักรบของคนตรงหน้า แวบนึงความรู้สึกเป็นปฏิปักษ์รุนแรงเกิดขึ้นก่อนที่ภาพแห่งสีสันจะเลือนหายไปและกลับสู่ความเป็นจริง

ตอนนี้เขาถูกกระชากจนตัวลอยด้วยการขยุ้มจับเส้นผมสีดำที่ทั้งยาวทั้งสกปรก รู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ทว่าดูเหมือนเส้นผมกับหนังศีรษะเขาดูจะแข็งแรงดีอย่างไม่น่าเชื่อ

โยชัวใช้ดวงตากลมโตมองดูใบหน้าของอีกฝ่ายที่เข้ามาประชิดผ่านทางเส้นผมยาวรุงรังปิดหน้าปิดตา
คนตรงหน้ามีเส้นผมสีแดงดั่งเปลวเพลิงเป็นสีเดียวกับอมันด้าก็จริงแต่ก็เป็นสีที่จัดจ้านร้อนแรงยิ่งกว่า ดวงตาที่มองอย่างเย็นชาทั้งสองข้างมีสีสันที่ต่างกัน ข้างหนึ่งเป็นสีแดงแบบเดียวกับเส้นผม ส่วนอีกข้างกลับเป็นสีม่วง

 เครื่องหน้าทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นหูตาจมูกปากที่ประกอบเข้ากัน ก่อให้เกิดความงามแบบลึกลับเย้ายวน หากเป็นอิสตรีเพศคงจะงดงามกว่าอมันด้าเป็นร้อยเป็นพันเท่า หากแต่กับบุรุษตรงหน้าที่มีเรือนกายสูงใหญ่กำยำ ใบหน้าที่งดงามเย้ายวนอย่างลึกลับไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายเหมือนสตรีเพศแต่อย่างใด ทว่ากลับมีกลิ่นอายแห่งความดิบเถื่อนของบุรุษเพศฟุ้งกระจายไปทั่วร่าง เป็นรัศมีแห่งอำนาจที่เรืองรองอย่างที่พวกลาสบอสพึงจะมี

“แปลกแฮะ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีสิ่งมีชีวิตที่ข้าอ่านใจไม่ได้”

คนตรงหน้าพูดด้วยเสียงอ่อนหวานยั่วยวนหากแต่ตาสองสีกลับมองมาที่โยชัวอย่างเย็นชา ยิ่งดวงตาของคนทั้งคู่ประสานกัน เด็กหนุ่มก็ยิ่งรู้สึกถึงความประสงค์ร้ายที่ฉายชัดในดวงตาสองสีคู่นั้น
พริบตาที่รู้สึกกลัวจนตัวสั่น

โยชัวก็ถูกดึงเข้าสู่อ้อมอกแกร่ง ชายตรงหน้าสอดขาข้างหนึ่งเข้ามาที่หว่างขาของเขาอย่างต้องการรองรับร่างที่อ่อนปวกเปียกจนแทบยืนเองไม่ไหว

ชายตรงหน้าใช้สองมือเกลี่ยปัดเส้นผมที่รกปกปิดใบหน้าออก  โยชัวรู้สึกเย็นวาบที่ใบหน้า อากาศซึ่งอันที่จริงก็ไม่บริสุทธิ์กระทบใบหน้าของตนให้ความรู้สึกดีเล็กน้อย

“เปรอะเลือดไปหมดเลย ดูเหมือนว่าแผลตามร่างกายและใบหน้ายังไม่สมานดีเท่าไหร่สินะ”

พูดด้วยเสียงยั่วเย้า พร้อมกับหัวเราะในลำคอราวกับสนุกสนานและพึงพอใจ ชายตรงหน้าใช้มือเกลี่ยรอบแผลที่แก้มซึ่งยังไม่สมานตัวดี ก่อนจะใช้ปลายลิ้นไล้เลียที่บริเวณนั้นอย่างไม่รังเกียจ

โยชัวตกใจจนตัวแข็งทื่อ หากแต่ว่ายังไม่หยุดแค่นั้น ชายตรงหน้าไล้เลียรอยแผลบนใบหน้าของเขาก่อนที่จะหยุดประสานสายตากับเขาด้วยแววตาที่ทำให้ร่างทั้งร่างสั่นสะท้าน

ในตอนนั้นเองปลายลิ้นสีแดงก็ฉกวูบที่ดวงตาของโยชัว อีกฝ่ายไล้เลียดวงตาเขาอย่างทนุถนอมหากแต่เด็กหนุ่มกลับกรีดร้องในใจด้วยความโกรธและหวาดกลัว

โยชัวเคยอ่านข่าวว่าการเอาลิ้นมาเลียดวงตาอาจทำให้ติดเชื้อโรคจนถึงขั้นตาบอด ไม่รู้ว่าคนตรงหน้าคิดอะไรแต่นี่มันเป็นการทรมาณทรกรรมเขาอยู่ชัดๆ
   
อยากจะดิ้นรนขัดขืนแต่เด็กหนุ่มสำเหนียกได้ว่าตัวเองไม่มีแรงพอจะต่อต้าน พอผละจากดวงตาของเขาที่ตอนนี้เอ่อคลอไปด้วยน้ำตาที่หลั่งออกมา ชายตรงหน้าก็ใช้ปลายลิ้นไล้เลียคลอเคลียริมฝีปากเขาด้วยใบหน้าที่ไม่บ่งบอกความรู้สึก หากแต่แววตาสองสีนั้นคุกกรุ่นดุดันจนใจสั่นไหว พริบตานั้นเรียวขาแกร่งที่สอดประคองช่วยให้เขายืนก็ถูกชักกลับชายผมแดงออกเดินโดยฉุดกระชากให้เขาที่แทบไม่มีแรงเดินตาม

ทว่าเพราะว่าแข้งขาไร้เรี่ยวแรง ในที่สุดก็กลายเป็นถูกคนตัวโตกว่าดึงลากไปตามทางอย่างสมบูรณ์

รู้สึกโกรธจนเดือดปุดๆ

ถึงรู้ว่าร่างนี้มีชะตากรรมที่อาจจะต้องถูกทำแบบนี้ แต่การกระทำที่หยาบคายของอีกฝ่ายทำให้เขาอยากจะโกนด่าให้หายแค้น
แต่โยชัวในตอนนี้บอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจ ขณะที่ปล่อยกายปล่อยใจให้อีกฝ่ายลากไปตามพื้นอย่างปลิดปลง ชายผมแดงก็หยุดการเดินลงแล้วเดาะลิ้นอย่างหงุดหงิด

ดวงตาสองสีประสานเข้ากับดวงตาของโยชัวที่มีแววท้าทายและดึงดันอยู่ในที

พริบตานั้นมือแกร่งก็คว้าร่างเด็กหนุ่มแบกเข้าสีข้างด้วยแรงมหาศาลเดินตัวปลิวออกจากคุกไปด้วยความเร็ว ระหว่างออกจากคุกโยชัวสังเกตเห็นซากศพของอมันด้าที่ถูกทิ้งไว้ที่พื้น

เด็กหนุ่มเบือนหน้าหนี เขากลัวจนตัวสั่น เมื่อชายผมแดงรู้สึกว่าเขากำลังกลัว อีกฝ่ายก็ไม่รีรอที่จะพูดจาหยอกเย้าด้วยเสียงที่ทรงอำนาจและเย้ายวนจนเขานึกสาปแช่งอีกฝ่ายนับครั้งไม่ถ้วน

เริ่มต้นจากถามว่าเพิ่งเคยเห็นคนตายเหรอ

หลังจากนั้นก็เริ่มเปิดการบรรยายการตาย วิธีการฆ่า และซากศพในแต่ละแบบ

จิตวิปลาส

ยิ่งเขาน้ำตาคลอหรือแสดงความหวาดกลัวด้วยร่างกายอันสั่นเทามากเท่าไหร่ อีกฝ่ายก็ดูจะอารมณ์ดีเท่านั้น
 ดูเหมือนว่าระหว่างทางเดิน ซึ่งเป็นบันไดวนขึ้นไปสู่เบื้องบนชักจะยาวนานเกินไปเมื่อต้องฟังการฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีของคนที่กำลังแบกตนเองเดิน ในที่สุดก็พ้นออกจากคุก แสงสว่างที่ได้เพิ่งได้ได้รับ ทำเอาโยชัวตาพร่า

พอปรับสายตาได้พวกอมนุษย์ที่ดูเหมือนจะเป็นทหารมองมาที่เขาด้วยสายตาดูหมิ่น พวกมันแสดงออกถึงความขยะแขยงอย่างชัดแจ้ง
สายตาและท่าทางของอมนุษย์พวกนั้นทำเอาโยชัวรู้สึกแย่ รู้สึกแย่จริงๆ อาจเพราะว่าสมัยที่เขายังอยู่ในร่างตัวเองไม่เคยมีใครมองเขาด้วยสายตาแบบนี้

เด็กหนุ่มในสมัยก่อนเป็นคนเข้ากับคนง่าย ยิ้มแย้มแจ่มใสเสมอ ดังนั้นตลอดเวลาสิบห้าปีเต็ม เขาไม่เคยมีศัตรูที่จะคอยว่ากระแทกแดกดันหรือมองดูราวกับมองดูแมลงสาปอย่างนี้

รู้สึกแย่มากเมื่อถูกมองดูด้วยสายตาระหว่างที่ถูกอุ้มเดินนับครั้งไม่ถ้วน รู้สึกอึกอัดจนเหมือนเท้าของเขากำลังถูกดูดลงสู่โคลนตม ร้ายไปกว่านั้นสายตาหลายคู่ยังมองเขาด้วยความหิวกระหายคล้ายกับมองอาหารโอชะจนสุดท้ายต้องก้มหน้าหลบสายตาเหล่านั้น
หากแต่ไม่วายถูกคนที่แบกเดินอ่านพฤติกรรมออกได้ ชายผมแดงหัวเราะหึหึอย่างสนุกสนาน

“ทำไงได้ล่ะก็สกปรกเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดและขี้โคลนในคุกไม่ต่างจากกองอาจมเลยนี่น้า จะถูกมองอย่างนี้ก็ต้องทำใจละนะ”

โยชัวกัดริมฝีปากตนเองจนเลือดซิบด้วยความโกรธ รู้ตัวดีอยู่แล้วว่ายังไงก็ไม่เจ็บแถมอีกสักแป๊บแผลก็จะหายไป ดังนั้นจึงสามารถทรมานร่างกายตนเองอย่างไม่รู้สึกผิดใดๆ ทั้งนั้น

โครม

เสียงฝ่าเท้าของชายผมแดงถีบประตูเปิดเสียงดังสนั่น ไม่รู้ว่าถูกพามาที่ไหนเพราะก้มหน้า หากแต่โดยไม่ทันตั้งตัวก็ถูกเหวี่ยงลงไปกองกับพื้น รู้สึกเจ็บนิดๆ แบบโดนมดกัดบริเวณที่กระแทกพื้นอย่างแรงง

“ดูเหมือนว่าท่านแม่จะถูกฆ่าตายซะแล้วที่คุกใต้ดิน”
 เสียงทรงอำนาจเย้ายวนประกาศก้อง ในเวลาเดียวกันกับที่ เสียงของผู้คนมากมายในท้องพระโรงแตกฮือราวกับฝูงสัตว์

“เพราะงั้นเจ้าสิ่งที่อยู่ตรงหน้านี้เท่ากับไม่มีคนดูแล เพราะฉะนั้นข้าจะขอรับไปเอง”

เสียงของผู้คนเซ็งแซ่อีกครั้งหลังจากเงียบเสียงลงเพื่อเปิดโอกาสให้ชายผมแดงพูด
ที่รอบๆ ทั่วทั้งท้องพระโรงมีทั้งเสียงเห็นด้วยและคัดค้านดังกระหึ่มดูวุ่นวายสับสนจนโยชัวต้องก้มหน้าลงต่ำ ลุ้นระทึกไปพร้อมกับคาดเดาชะตากรรมที่ดูเหมือนจะซับซ้อนและพลิกผันไม่จบสิ้น

“ตามใจสิ”

 เสียงแหบพร่าที่ทำเอาสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งห้องเอ่ยอนุญาต จุดสายตาของโยชัวตอนนี้อยู่บริเวณนิ้วเท้าอันใหญ่โตของเจ้าของเสียง

นิ้วเท้ายังมหึมาขนาดนี้เป็นได้ว่าขนาดตัวของคนที่นั่งอยู่บนบัลลังค์ยักษ์จะต้องใหญ่โตอย่างมาก
ภาพในความทรงจำของคนอื่นที่เห็นในคุกวาบเข้ามาในพริบตา จะว่าไปเขาดูความทรงจำของผู้ชายผมแดงคนนั้น ท่านพ่อที่ใหญ่โตมโหฬารคนนี้มีหน้าตาแบบไหนคงไม่แคล้วต่างจากภาพในความทรงจำสักเท่าไหร่

“ข้าคัดค้านครับท่านพ่อ”

โยชัวลอบมองเจ้าของน้ำเสียงเย็นเยียบราวน้ำแข็งที่ปลายสาตาผ่านเส้นผมยาวระพื้นซึ่งปิดบังใบหน้าอย่างมิดชิด
เขาเห็นชายหนุ่มร่างกำยำผู้มีใบหน้างดงามหากแต่เย็นชาราวกับก้อนน้ำแข็ง ร่างกายสูงสง่านั้นล้วนแต่ประกอบด้วยสีสันซึ่งเป็นสีขาวโพลนไปทั่วทั้งร่าง

ทว่าสิ่งที่ดึงดูดความสนใจเขามากที่สุดกลับเป็นปีกหกข้างสีขาวสะอาดที่อยู่เบื้องหลัง ภาพของเด็กชายที่มีปีกที่เห็นจากความทรงจำผุดวาบขึ้น

“ถ้าจะให้พูดจริงๆ ลาซาลัสมีงานสำคัญที่จะต้องทำอยู่ เรื่องที่ท่านอมันด้าตาย เขาเป็นคนพบศพคนแรกแถมยังไงก็เป็นแม่ของเขาเอง เรื่องนี้ย่อมสำคัญกว่าจะเอาเวลามาดูแลเด็กเล็กๆ”

“ที่ลูเซียพูดมาก็ถูก เจ้าคิดว่ายังไงลาซาลัส”
เสียงของท่านพ่อสร้างแรงสั่นสะเทือนให้ห้องกว้างอีกครั้ง ลาซาลัสที่รับข้อตกลงอย่างง่ายๆ  ทำเอาโยชัวรู้สึกหดหู่

“ถ้าอย่างนั้นคนที่เหมาะสมที่สุดตอนนี้ข้าคิดว่าน่าจะเป็นชาร์ฮาร์ เขาเพิ่งจะเข้าพิธีเป็นผู้ใหญ่มาหมาดๆ ยังไม่ได้รับหน้าที่อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ท่านพ่อจะว่ายังไง”

โยชัวเงียหูฟังลูเซียเสนอแนะด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น พอท่านพ่อผู้มีร่างกายใหญ่โตถามความเห็นของชาร์ฮาร์
เด็กหนุ่มก็เบนสายตาลอบมองดูว่าชาร์ฮาร์คือใครด้วยความคาดหวัง

ขอให้ไม่ใช่อมนุษย์น่ารังเกียจ นิสัยหยาบช้าชอบทรมาน
ไม่สิ ขอแค่มีร่างกายอย่างคนปกติหรือแค่เหมือนก็พอ

 เขาทำใจได้ระดับหนึ่งแล้วหากต้องถูกทรมาน ทว่าเสียงตอบรับจากร่างที่โผล่เข้ามาในดวงตานั้นคือเด็กหนุ่มร่างสูงใหญ่กำยำผู้มีผิวกายสีน้ำผึ้ง เส้นผมสีทองเป็นประกายขับเน้นความหล่อเหลาและสดใสดูดีจนแทบตาพร่า

ทำไมมีสปอร์ทไลท์แมนมาอยู่ในที่ๆ เหมือนนรกแบบนี้ได้

ความดีใจผุดวาบขึ้นมาจนแทบจะลุกขึ้นเต้นระบำ
ก่อนจะรู้สึกสิ้นหวังมากยิ่งกว่าเดิม เมื่อนึกถึงฆาตกรโรคจิตและตัวร้ายในอนิเมะที่มีลักษณะภายนอกเป็นคนโคตรหล่อ คูล เพอร์เฟค หากแต่เนื้อใน ร้ายกาจ หยาบช้า หาความดีไม่ได้

เขาไม่เคยดูหนังพวกหั่นๆ สับๆ อย่างพวกซอว์ หรือหนังโหด ทว่าก่อนหน้านี้หลายชั่วโมงในคุก เขามองการทรมานสดๆ โดยที่ตัวเองเป็นฝ่ายถูกกระทำถึงจะรู้สึกเจ็บปวดแค่คันๆ เท่านั้น
ทว่าหากเป็นไปได้ไม่อยากเห็นภาพหรือถูกทำอย่างนั้นอีกเป็นครั้งที่สอง

โยชัวหมอบลงกับพื้นด้วยร่างกายสั่นระริก
รู้สึกได้ถึงฝีเท้าที่เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่ฝีเท้าจะหยุดลงตรงหน้า เด็กหนุ่มหวาดกลัวจนแทบไม่กล้าเงยหน้า แต่กระนั้นก็ยังฝืนมองเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยทัก

“ไม่ต้องกลัว เจ้าคงจะลุกไม่ไหวสินะ”

โยชัวมองดูชาร์ฮาร์ที่ตอนนี้ส่งรอยยิ้มเจิดจรัสมาให้ พริบตานั้นเด็กหนุ่มถูกอีกฝ่ายอุ้มขึ้นจากพื้นด้วยท่าเจ้าสาว ดวงตากลมโตเบิกกว้าง โยชัวมองดูใบหน้ายิ้มแย้มของชาร์ฮาร์ซึ่งอยู่ในระยะใกล้ผ่านเส้นผมรกรุงรังที่ปกปิดใบหน้า

“อย่ากลัวข้า”

ชาร์ฮาร์กระซิบเสียงอ่อนโยน
เสียงนั้นทำให้โยชัวจิตใจสงบจนเผลอเอนศีรษะพิงอกอีกฝ่ายขณะที่ถูกพาจากไปอย่างไม่รู้จุดหมาย


 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ตอนสองแล้วนะคะตอนนี้กำลังให้น้องสาวช่วยพิมนิยายโดยแกะอักษรโทรลจากสมุดของเราอย่างเต็มกำลัง

รักคนอ่านค่ะ









ออฟไลน์ rabbit-orange

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

ออฟไลน์ Kamidere

  • บรรยายมันออกมา ทุกสิ่งที่อยู่ในใจ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
สงสารโยชัวร์จัง แต่มีบางส่วนที่อยากให้ปรับเล็กน้อยนะคะ คือช่วงที่โยชัวแตะตัวแล้วอ่านใจได้แล้วมันก็ต่อออกมาที่พาร์ทปัจจุบันเลยคือมันงงอ่ะ ไม่รู้ว่าสิ่งที่โยชัวเห็นมันจบลงตรงไหน เราอ่านไปมาก็อ้าวอมันด้าตายตอนไหนวะ อยากให้มันมีจุดตัดสิ่งที่เห็นกับเหตุการปัจจุบันนิดนึง

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
พระเอกปรากฏตัวรึยังน้อออออ

ออฟไลน์ Smirnoff

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
ชอบมากกกกก รอตอนต่อไปนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Rambluesky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-3
ชอบแนวนี้อะ รออ่านต่อนะครับ  :L1: :pig4:

ออฟไลน์ glasses girl

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
โอ๊ะมีแต่คนหน้าตาดี

มาต่อไวไวน้า

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
อยากอ่านต่อแล้วจ้า :mc4: :mc4: :mc4:

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
ชอบค่ะ สนุกดี

มาต่อเร็วๆนะ  :L2:

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่ 3

   ระหว่างที่ถูกอุ้มเดินไปตามทางอย่างเจ้าสาว ชายหนุ่มผู้เปล่งประกายวิบวับยิ่งกว่าดวงตะวันหรือชาร์ฮาร์ก็เปิดปากพูดคุยกับกับโยชัว สลับกับตอบรับคำทักทายอย่างนอบน้อมและปลาบปลื้มของเหล่าทหารและคนในวังซึ่งล้วนเป็นอมนุษย์ครึ่งคนครึ่งสัตว์อย่างเป็นกันเองไปตลอดทาง
   
และถึงแม้โยชัวจะแสดงออกถึงความไม่ไว้วางใจและมึนตึงสักแค่ไหน  ชาร์ฮาร์ก็ไม่มีท่าทีรำคาญหรือไม่ชอบใจสักนิด ชายหนุ่มผู้เจิดจรัสยังคงเล่าเรื่องนี้อธิบายเรื่องโน้นได้อย่างลื่นไหลโดยไม่คิดแม้แต่จะหยุดพักหายใจ
   
ในที่สุดโยชัวก็ถูกอีกฝ่ายพามาถึงปราสาทส่วนแยกทางด้านตะวันตก ถึงแม้จะบอกว่าเป็นปราสาทแยกแต่ถ้าสังเกตให้ดีจะมีทางเดินเชื่อมเป็นทางยาวระหว่างปราสาทแยกกับปราสาทหลักอยู่  แต่เดิมปราสาทหลักซึ่งถูกพาออกมาเป็นสัดส่วนในพื้นที่เดียวกันก็ยังใหญ่มากอยู่ดี

   ชาร์ฮาร์อธิบายว่าปราสาทแยกนี้เป็นที่อยู่ของพวกเจ้าชายซึ่งโตแล้ว แถมยังพูดต่อไปว่าเขาเองก็ถูกย้ายมาอยู่ที่นี่ตอนอายุสิบสองปีเช่นกัน

   พอก้าวเข้าไปในปราสาท บรรดาสาวใช้ในชุดเมดโกธิค ก็กรูกันเข้ามาต้อนรับผู้ป็นนายก่อนจะชะงัก
พวกหล่อนเบ้หน้าแล้วแสดงท่าทางรังเกียจโยชัวอย่างชัดแจ้งจนเด็กหนุ่มรู้สึกห่อเหี่ยวใจ
   
ทำไงได้ล่ะก็สกปรกเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดและขี้โคลนไม่ต่างจากกองอาจมเลยนี่น้า

คำพูดของลาซาลัสผุดวาบเข้ามาในความคิด 

โยชัวก้มลงดูสภาพที่เต็มไปด้วยเลือดและสิ่งสกปรกที่ติดกายตน ก่อนจะยกแขนตัวเองขึ้นดมเสียงฟุดฟิดแล้วผงะออกด้วยกลิ่นสนิมและอะไรหลายอย่างที่รวมกันแล้วทำให้รู้สึกขยะแขยงจนน้ำตาแทบร่วง
   
จะไปก่อนหน้านั้นเพราะอยู่ในคุกอับๆ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดเลยทำให้เขาไม่รู้สึกถึงกลิ่นที่น่าขยะแขยงของตัวเอง
ทว่าพอมาอยู่ในที่ๆ มีอากาศสดชื่นบริสุทธิ์ ขนาดตัวเองยังรับไม่ได้ ไม่แปลกที่คนอื่นจะแสดงสีหน้าแบบนั้น

   “อยากอาบน้ำ”

   โยชัวพูด เด็กหนุ่มใช้มือเล็กๆ กระตุกแขนเสื้อของชาร์ฮาร์ ดวงตากลมโตช้อนมองผ่านเส้นผมสีดำรกปกปิดใบหน้า

“อ๋อ จริงสินะ”
   
ชาร์ฮาร์ทำสีหน้าเหมือนนึกขึ้นได้ ดูเหมือนว่าชายหนุ่มผู้เจิดจรัสคนนี้จะไม่รู้สึกถึงความสกปรกที่ติดอยู่บนร่างกายของโยชัวเลยสักนิด จะเรียกว่าตายด้านเฉยเมย หรือเป็นคนดีซะจนไม่สนใจว่าร่างเล็กสกปรกแค่ไหนก็ไม่ทราบได้ ในตอนนั้นเอง ชาร์ฮาร์ก็ออกคำสั่งให้เมดสาวในชุดโกธิคพาเขาไปอาบน้ำรวมถึงปรนนิบัติรับใช้อย่าให้ขาดตกบกพร่อง

แต่ดูเหมือนว่าแม่สาวเมดพวกนั้นจะประท้วงโอดครวญและพากันแสดงความลำบากใจ
   
ยิ่งพวกสาวเมดแจกแจงเหตุผลที่ไม่ยอมปรนนิบัติรับใช้เขามากเท่าไหร่ ชายหนุ่มผู้เจิดจรัสก็ดูเหมือนจะมีท่าทางลำบากใจมากเท่านั้น ตอนนี้ชาร์ฮาร์อ้าปากพะงาบๆ อย่างคนหมดหนทาง
   
ยิ่งดูยิ่งรู้สึกสมเพชปนสงสารจนทนไม่ได้
   
โยชัวเริ่มเข้าใจพื้นฐานนิสัยของชายที่กำลังโอบอุ้มเขาอยู่ขึ้นมาทีละนิด เด็กหนุ่มกระตุกแขนเสื้อของชาร์ฮาร์เบาๆ อีกครั้ง

   “อยากอาบเอง”

   ในที่สุดโยชัวก็ได้รับคำอนุญาตให้อาบน้ำเองได้ ทว่าร่างเล็กที่ตอนนี้ที่ถูกพามาห้องอาบน้ำที่กว้างขวางกำลังเขม่นมองชาร์ฮาร์ที่ดึงดันจะช่วยเขาอาบน้ำให้ได้ โดยให้เหตุผลว่าเขายังเป็นแค่เด็กเล็กแถมยังตัวสกปรกมากขนาดนี้อาบเองคงจะไม่สะอาดถ้าไม่มีคนช่วย

   “ข้าอายุสิบห้าแล้วนะ”

 โยชัวมองช้อนคนที่ตัวสูงกว่าเกินยี่สิบห้าเซนติเมตร ในสภาพผมเผ้ายาวรุงรังลากพื้น เนื้อตัวสกปรกมอมแมม เด็กหนุ่มยืนจังก้าประสานสายตากับชาร์ฮาร์ในสภาพนี้มาเป็นเวลาสิบนาที ก่อนที่จะเปิดปากพูดเพราะไม่ว่าจะแสดงออกถึงท่าทางไม่พอใจหรือส่งสายตากดดันเท่าไหร่ อีกฝ่ายก็ยืนเฝ้าเป็นยักษ์ปักหลั่นแสดงเจตนารมย์อันมุ่งมั่นที่ต้องการจะช่วยเขาชำระล้างร่างกายให้จงได้
   
“ทำไมล่ะข้าเองก็มีคนช่วยอาบน้ำตั้งแต่เด็กนะ จนถึงตอนนี้ก็ยังให้พวกเมดพวกนั้นรับใช้อยู่ อาบน้ำเองมันก็ดีอยู่หรอก แต่พวกแผ่นหลังหรือตรงจุดที่มองไม่เห็นมันก็ลำบากอยู่นะ”
   
ชาร์ฮาร์พูดหน้าตาเฉยเหมือนเป็นเรื่องปกติ แต่ในเรื่องปกติของปกติที่เจ้าตัวพูดมานั้นทำเอาโยชัวหน้าแดงก่ำ เด็กหนุ่มวันสิบห้าจิตนาการถึง ’เฮ็นไต’ อนิเมะที่มีเมดสาวจำนวนมากช่วยอาบน้ำให้พระเอกของอนิเมะเรื่องนั้น โชคยังดีที่เส้นผมรกรุงรังปิดบังใบหน้าของเขาทำให้อีกฝ่ายไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร

   “ยังไงก็อยากอาบเองนี่นา ไม่ชอบให้ใครมาแตะน่ะ”

โยชัวยืนยันความคิดของตัวเองออกไป  ในใจนึกถึงความยุ่งยากที่จะตามมาหลายอย่างเพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะตอบโต้คำขอของเขาด้วยความรุนแรงหรือเปล่า เพราะงั้นตอนนี้จึงยืนตัวเกร็งอย่างผิดปกติ เด็กหนุ่มกำมือทั้งสองข้างแน่น แต่ก็ทำใจดีสู้เสือโดยการส่งสายตาแน่วแน่มองดูอีกฝ่ายตรงๆ

   “เข้าใจล่ะ แต่ถ้าไม่สะอาด ทางนี้จะเข้าไปช่วยอาบให้นะ”

   พอได้รับคำอนุญาต โยชัวที่รู้สึกผ่อนคลาย ก็สลัดชุดที่สวมใส่ซึ่งมีสภาพไม่ต่างจากผ้าขี้ริ้วออกทางหัว
 ร่างเล็กเดินฉับๆ ไปยังบ่อน้ำร้อนที่กว้างมาก พอจะหย่อนเท้าลงไป เด็กหนุ่มก็ชักเท้ากลับเพราะร่างกายที่เต็มไปด้วยสิ่งสกปรกของตัวเอง

   รู้สึกเกรงใจที่จะทำให้น้ำทั้งบ่อสกปรก
   
โยชัวมองซ้ายมองขวา ดวงตากลมโตสังเกตเห็นอุปกรณ์อาบน้ำและขันไม้วางอยู่ใกล้ๆ เด็กหนุ่มจึงใช้สิ่งนั้นจัดการทำความสะอาดร่างกายทันที

มือเล็กใช้ขันไม้ตักน้ำในบ่อราดตัวตั้งแต่หัวจนถึงปลายเท้าหลายครั้ง ก่อนจะหยิบสิ่งที่ดูยังไงก็เหมือนสบู่ขึ้นมาขัดถูตามร่างกาย ร่างเล็กรู้สึกดีใจสุดๆ ที่โลกนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ใกล้เคียงกับโลกที่เขาเคยอยู่ อย่างน้อยก็มีสบู่

   หลังจากใช้สบู่ขัดถูตามร่างกายโดยเมินเฉยชาร์ฮาร์ราวกับฝ่ายนั้นไม่มีตัวตน  โยชัวที่คิดว่าเนื้อตัวสะอาดหมดจดดีแล้วก็คว้าเอาขวดแก้วทั้งหมดขึ้นมาดมแล้วเทใส่มือไปทุกๆ ขวด ในที่สุดเด็กหนุ่มก็พบสิ่งที่คาดว่าน่าจะเป็นยาสระผม

รู้สึกปลื้มปิติจนน้ำตาแทบไหล สองวันมานี้ทุกครั้งและตลออดเวลาเขารู้สึกว่าอยากจะสระผมวันนึงสักหลายๆ ครั้งก็เพราะว่าผมของเขาตอนนี้มันยาวมาก ยาวจนนึกรำคาญในความยาวของของมัน อยากตัดมันออกแต่ก็ไม่มีอุปกรณ์
จะขอร้องคนดูแลก็เกรงใจ ดังนั้นสิ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือทำความสะอาดและดูแลมันให้สกปรกน้อยที่สุด
   
โยชัวนั่งขัดสมาธิแล้วเทน้ำยาสระผมลงบนฝ่ามือ เด็กหนุ่มชโลมน้ำยาลงบนเส้นผม เนื่องจากผมเขายาวมาก การสระผมจึงเป็นไปอย่างยากลำบาก ขณะที่กำลังวุ่นวายกับเส้นผม ชาร์ฮาร์ที่เข้ามาประชิดทางด้านหลังเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ก็อาสาช่วยเหลือ

เพราะว่ามันยุ่งยากมากบวกกับสิบห้าปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยไว้ผมยาวมาก่อน ยิ่งยาวจนลากพื้นขนาดนี้ โยชัวจึงไม่รู้สึกตะขิดตะข่วงใจที่จะให้อีกฝ่ายช่วยจัดการเส้นผม
   
จู่ๆ ภาพความทรงจำที่เต็มไปด้วยสีสันของชาร์ฮาร์ก็วาบเข้ามาในสมองของโยชัว

เสียงโอดครวญร้องขอของบรรดาเมดสาวหลายคน ดูเหมือนว่าพวกเธอจะวอนขอให้ชายหนุ่มผู้เจิดจรัสยิ่งกว่าสิ่งใดในพิภพไปอาบน้ำ

“เจ้าชาย...ท่านชาร์ฮาร์คะ ได้โปรดเถอะค่ะ ท่านไม่อาบน้ำมาเจ็ดวันแล้วนะคะ”
หนึ่งในบรรดาเมดสาวจำนวนมากโอดครวญขณะที่ชาร์ฮาร์ยืนปรึกษาเรื่องสำคัญกับบรรดาแม่ทัพนายกองซึ่งเป็นอมนุษย์ครึ่งสัตว์ทั้งหมด

“ตัวข้าเหม็นเหรอ”
 ชาร์ฮาร์ถามอย่างสงสัย ก่อนจะใช้จมูกสูดกลิ่นกายของตัวเอง

“ไม่ค่ะท่านชาร์ฮาร์ไม่มีทางมีกลิ่นโสโครกอย่างนั้นแน่ แต่เพื่อให้สมฐานะ การรักษาความสะอาดเป็นสิ่งที่เชื้อพระวงศ์ควรทำเจ้าค่ะ”
เหล่าเมดสาวพูดประสานเสียง หากแต่เหล่าแม่ทัพนายกองซึ่งเป็นอมนุษย์ครึ่งคนครึ่งสัตว์กลับเอ่ยคัดค้านจนเหล่าเมดสาวตีหน้ายักษ์

“ฝ่าบาทชาร์ฮาร์โปรดอย่าได้เชื่อแม่พวกไร้สมองพวกนี้ เผ่าอมนุษย์ครึ่งสัตว์หรือพวกอสูรกลายร่างอย่างเรากลิ่นฟีโรโมนสำคัญนะฝ่าบาท ยิ่งพวกเราไม่อาบน้ำ กลิ่นกายของเผ่าพันธุ์เราจะยิ่งหอมฟุ้ง ขนาดกระหม่อมเองยังไม่อาบน้ำมาแล้วสามเดือน...”
พอนายกองอมนุษย์ครึ่งคนครึ่งไฮยีน่าพูดจบเหล่าเมดสาวก็ส่งสียงยี้มองดูด้วยความรังเกียจ

ในตอนนั้นเองความรู้สึกลำบากใจของเจ้าของความทรงจำที่เห็นเหล่าเมดกับทหารคนสนิทของตนเขม่นกันทำให้ชาร์ฮาร์ตัดสินใจอะไรได้บางอย่าง

ไม่ใช่ไม่ชอบอาบน้ำ แต่มีเรื่องให้ทำมากซะจนไม่มีเวลาต่างหาก
นอกจากนั้นเขาไม่รู้สึกสักนิดว่าตัวเองมีกลิ่นเหม็นที่ตรงไหน

ในตอนนั้นเองเจ้าของความทรงจำก็ขยายร่างใหญ่ขึ้น พริบตานั้นร่างที่เคยเป็นมนุษย์กลายสภาพเป็นสัตว์สี่ขาขนสีทองฟูฟ่อง
ชาร์ฮาร์ในร่างหมาป่าอสูรใหญ่ยักษ์กระโจนลงสระน้ำที่มีขนาดใหญ่โตกว่าร่างกายเพียงเล็กกน้อย ก่อนจะร้องเรียกให้เหล่าเมดสาวช่วยทำความสะอาดร่างกายใหญ่ยักษ์ที่เต็มไปด้วยขนอย่างสนุกสนาน

ภาพเหตุการณ์นั้นสร้างความขบขันให้โยชัวจนหัวเราะออกมาเบาๆ ยิ่งตอนอาบน้ำสลัดขนอย่างหมานี่ยิ่งเด็ดมาก ที่บอกให้คนอาบน้ำเพราะทำความสะอาดไม่ทั่วก็เพราะแบบนี้สินะ

“จักกะจี้เหรอ”

เสียงของชาร์ฮาร์ดังขึ้นพอดีกับที่ภาพความทรงจำหายไป  โยชัวจำต้องเออออไปตามน้ำเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะถามซอกแซ่ก

“ถ้าเกิดว่าข้าจะขอตัดผมเจ้า เจ้าจะว่าอะไรหรือเปล่า”
 โยชัวพยักหน้าหงึกหงักเมื่ออีกฝ่ายร้องขอสิ่งที่ตรงกับใจตัวเองอย่างที่สุด

หลังจากนั้นชาร์ฮาร์ที่ไปหยิบกรรไกรมาก็เริ่มตัดผมหน้าที่รกรุงรังออก ใช้เวลาไม่นาน ใบหน้าที่ไม่ได้สัมผัสอากาศมานานก็เย็นวาบ ทัศนวิสัยที่เคยถูกบดบังตอนนี้กระจ่างชัดเมื่อไม่มีสิ่งใดมาปกปิด

ดวงตากลมโตประสานเข้ากับดวงตาสีทองของชาร์ฮาร์ และเพราะว่าชายหนุ่มผู้เจิดจรัสวิ้งวับมองจ้องมาที่เขานานจนรู้สึกแปลกๆ โยชัวจึงหลุบดวงตาลงแล้วเกาหัวแกรกๆ
เด็กหนุ่มเอ่ยถามเสียงอ้อมแอ้ม

“เอ่อ จะตัดผมต่อไหม”

“อือ แน่นอน”
ชาร์ฮาร์ที่เหมือนจะได้สติแสดงความกระตือรือร้น ชายหนุ่มเดินอ้อมไปที่ด้านหลังจัดการกับผมที่ยาวจนเกินปกติ

“อยากตัดสั้นๆ น่ะ”
โยชัวร้องขอคนที่จรดกรรไกรกับปลายเส้นผมของตน

“เอาขนาดไหน”
ชาร์ฮาร์ถามเสียงนุ่มนวล

“เอาเกรียนๆ เอาให้สั้นที่สุด”

ใช่

โยชัวคิดอยากจะได้ทรงเดียวกับพวกนักเรียนมัธยมต้นที่ประเทศไทยให้มันรู้แล้วรู้รอด เพราะช่วงเวลาที่อยู่ในร่างนี้เขาได้สัมผัสถึงความยุ่งยากในการไว้ผมยาวเต็มกลืนแล้ว

“จะดีเหรอ”

“ดีสิ”
โยชัวตอบคำถามชาร์ฮาร์อย่างมุ่งมั่น


“แต่คงไม่ได้หรอกมั้ง”

“ทำไมล่ะ”
โยชัวย้อนถามคนที่เอ่ยปฏิเสธความต้องการของตนด้วยน้ำเสียงลำบากใจ

“ก็เด็กชายเชื้อพระวงศ์จะต้องไว้ผมยาวจนถึงบรรลุนิติภาวะนี่นา”

“เอ๊ะ”
 โยชัวขมวดคิ้ว เด็กหนุ่มพยายามนึกภาพของชาร์ฮาร์ ลาซาลัส และลูเซียในความทรงจำ ดูเหมือนว่าคนที่ไว้ผมยาวจริงๆ ในวัยเด็กจะมีแค่ลูเซียเท่านั้น
 
คิดแล้วก็อ้าปากจะเอ่ยค้าน แต่ก็ต้องหุบฉับ ไม่รู้ว่าเจ้าของร่างของเขาถูกจับยัดคุกทรมานตั้งแต่อายุเท่าไหร่ อยู่มากี่ปี ในเมื่ออีกฝ่ายยืนยันว่าเขาทำกันแบบนี้ ถ้าหากเขายังโวยวายเอาแต่ใจไร้สาระ นอกจากจะถูกจับผิด แถมสถานภาพที่ไม่แน่นอนของตัวเองตอนนี้ไม่รู้ว่าจะถูกทำอะไรบ้าง

“เข้าใจแล้ว”

“งั้นตัดให้ยาวเหลือแค่ข้อเท้าพอนะ”
ชาร์ฮาร์ทำเสียงระริกระรื้นจนโยชัวรู้สึกหงุดหงิด คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน

หากตัดให้ยาวถึงข้อสำหรับเขาแล้วไม่เห็นจะต่างกับไม่ตัดตรงไหน แต่ถ้าจะคิดอีกทีก็ยังดีกว่าปล่อยให้ลากพื้นเหมือนตอนแรก
หลังจากตัดผมเสร็จ ตอนนี้โยชัวยืนประจันหน้ากับชาร์ฮาร์ในสภาพเปลือยเปล่า พอเห็นอีกฝ่ายมองดูเขาด้วยสายตาแปลกๆ เหมือนจะเรียบเรียงสิ่งที่ควรทำไม่ถูก โยชัวก็ร้องขอเสื้อผ้าทันที

“อ๋อ จริงด้วยแฮะไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามาด้วย งั้นใส่ชุดคลุมนี่ไปก่อน”

ชาร์ฮาร์หยิบชุดคลุมสีขาวหนานุ่มยื่นให้โยชัวรับไปใส่อย่างรู้งาน หากแต่สวมเสร็จชายผู้เจิดจรัสยิ่งกว่าดวงจันทร์ในยามค่ำคืนก็เข้ามาทำท่าคล้ายจะอุ้ม ทำให้เด็กหนุ่มถอยกรูดออกจากระยะเอื้อมของคนตัวใหญ่กว่าทันที

“ตอนนี้เดินเองได้แล้ว” โยชัวบอก

ชาร์ฮาร์ได้ฟังก็ร้องอ้อ รู้สึกว่าคิ้วบนใบหน้าหล่อเหลาขมวดเล็กน้อยแต่ก็แค่ชั่วแวบเดียว
หลังจากที่ชาร์ฮาร์พาเขาไปยังห้องห้องหนึ่ง เจ้าตัวก็บอกว่าเป็นห้องส่วนตัวของเขาที่ท่านพ่อจัดไว้ให้ตั้งแต่แรก ก่อนจะเดินออกไปพร้อมพึมพำ ‘แย่แฮะๆ’ ไปตลอดทาง ทิ้งโยชัวไว้ให้ยืนรอในสภาพชุดคลุมตัวเดียวเพียงลำพัง

เด็กหนุ่มเมื่อได้อยู่ในห้องคนเดียวตามลำพังก็อดไม่ได้ที่จะมองสำรวจไปทั่วห้อง ดวงตากลมโตชะงักเข้ากับกระจกบานใหญ่เท่าตัวคน ตั้งแต่มาอยู่ในร่างนี้ยังไม่มีสักครั้งที่จะเห็นร่างตัวเองได้อย่างชัดๆ พอคิดจะเดินไปตรงกระจก ชาร์ฮาร์ก็เดินโครมครามเข้ามาพร้อมกับเสื้อผ้าและอะไรอีกหลายอย่าง

“ใส่เป็นหรือเปล่า”

โยชัวพยักหน้าแล้วตอบอีกฝ่ายไปว่าไม่มีปัญหา เด็กหนุ่มถอดเสื้อคลุมออกแล้วเริ่มสวมใส่เสื้อผ้าทีละชิ้น มีบางจังหวะที่เขาเงยหน้าขึ้นขอความเห็นว่าใส่แบบนี้ถูกต้องไหม จังหวะนั้นชาร์ฮาร์ก็จะเสมองไปทางอื่นพร้อมกับบอกวิธีใส่ที่ถูกต้องให้
ในที่สุดพอถึงชิ้นสุดท้ายที่ต้องใช้ผ้ารัดเอว ชาร์ฮาร์ก็ขยับตัวเข้ามาจัดการสอนวิธีใช้ผ้ารัดเอว ก่อนจะจัดการรวบผมที่ยาวจนถึงข้อเท้า

 รู้สึกตะหงิดๆ เล็กน้อยกับทรงผมที่ถูกอีกฝ่ายทำให้ แต่พออีกฝ่ายพูดว่าถ้าปล่อยไว้มันจะยาวเกะกะจนไม่ชอบใช่ไหม โยชัวก็รู้สึกเห็นด้วยขึ้นมา

ถ้าทำให้มันเกะกะน้อยที่สุดก็จะเป็นผลดีกับตัวเองละนะ

โยชัวคิดพรางมองเสื้อผ้าเนื้อดีนุ่มสบายหากแต่ดูกรุยกราย ตอนแรกยังไม่เอะใจและต่อต้านเท่าไหร่ ทว่าพอเห็นตัวเองในกระจกเต็มตาแล้ว โยชัวแทบจะหัวเราะไม่ออก

ไอ้สาวน้อยโพนี่เทลนี่มันใครกัน

ใบหน้าและรูปร่างนี้มันช่างเหมือนกับเจ้าวิญญาณร้ายที่มีความงามล่มฟ้าดิน ซึ่งแย่งร่างกายเขาไปไม่ผิดเพี้ยนตอนนี้ตัวเขาในกระจกคือเทวทูตที่แยกเพศแทบไม่ออก

ผมที่ดำยาวสลวยถูกมัดรวบเป็นทรงโพนี่เทลด้วยเครื่องประดับที่ฝั่งพลอยอเมทิสต์สีเดียวกันกับดวงตาของเขาเสื้อผ้าสีฟ้าครามดูกรุยกรายช่วยขับผิวที่ขาวพุดผ่องราวกับเปล่งแสงได้ให้ดูกระจ่างตายิ่งขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากตัวผ้าที่ใช้ทำนั้นดันเปล่งแสงแวบวับตามการสะท้อนของแสงที่ตกกระทบได้ จนรู้สึกสงสัยว่าไอ้เสื้อชุดนี้ใช้ผ้าอะไรทำ โยชัวขมวดคิ้วดูเนื้อผ้าที่ชายแขน

“ชอบเหรอ ชอบก็ดีแล้วเพราะสั่งตัดไปแล้ว ภายในวันนี้น่าจะได้เจ็ดถึงแปดชุด”
ชาร์ฮาร์พูดด้วยรอยยิ้มกว้างส่องประกายเจิดจรัสแว้บๆ หากแต่พอเห็นใบหน้าซืดเผือดเหมือนถูกผีหลอกของโยชัว ชายหนุ่มก็หุบยิ้มลง

“อยากได้เสื้อผ้าธรรมดา เอาแบบเจ้าใส่ก็ได้”

 โยชัวกดเสียงต่ำ พยายามเก็บอาการโกรธองตัวเองเอาไว้
ไอ้ทรงโพนี่เทลนี่ยังพอจะทำใจได้แต่ไอ้ชุดกรุยกรายส่องแสงแวบได้นี่ ถ้าไม่ขจัดออกไปคงไม่พ้นถูกมองเป็นสาวดุ้น

“ไม่ได้หรอก”

“ห๊ะ” โยชัวอุทานเมื่ออีกฝ่ายตอบปฏิเสธด้วยท่าทางเคร่งขรึม

“ก็โยชัวยังไม่เป็นผู้ใหญ่นี่นาจะแต่งจะแต่งตัวแบบผู้ใหญ่ได้ยังไง”

โยชัวรู้สึกเหมือนถูกตีหัว เหตุผลบ้าๆ นี่ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจ จากความทรงจำของชาวบ้านไม่เห็นคนอื่นจะแต่งตัวแบบเขาตรงไหน

“อย่าเรื่องมากนักเลย ท่านพ่อถึงจะปล่อยให้ทำอะไรตามใจชอบได้ แต่จริงๆ แล้วท่านเป็นคนที่เข้มงวดมากนะ ถ้าท่านโกรธ ต่อให้เป็นข้าก็คงจะช่วยอะไรโยชัวไม่ได้”

โยชัวคอตก คำพูดของชาร์ฮาร์เท่ากับเป็นการประกาศกฎที่ห้ามละเมิด

“แล้วข้าจะบรรลุนิติภาวะตอนไหน” โยชัวถามทั้งที่ยังคอตก

“ยี่สิบละมั้ง”
ชาร์ฮาร์ทำเสียงเหมือนลังเล
 “ไม่สิยี่สิบห้าน่ะแหล่ะ”

เวรกรรม
หากว่าในเวลาอันใกล้เขาเติบโตเป็นหนุ่มล่ำกล้ามโตแต่อายุยังไม่ถึงยี่สิบห้าก็ต้องแต่งอย่างนี้เหรอ

 บ้า! บ้ามากๆ

“เจ้าตอนนี้อายุเท่าไหร่”

“ข้าเหรอ สักสามสิบได้มั้ง” ชาร์ฮาร์ตอบพรางเกาคอแกรกๆ

“แล้วพี่น้องคนอื่นๆ ล่ะ”

“อ้อท่านพี่ลูเซียห้าสิบ ส่วนท่านพี่ลาซาลัสสี่สิบได้ละมั้ง”

โยชัวฟังแล้วก็ถอนหายใจ

การที่คนพวกนี้อายุมากแต่มีรูปร่างหน้าตาไม่ต่างกับคนวัยหนุ่ม ก็คงเพราะเป็นเผ่าปีศาจ ในที่สุดก็เข้าใจว่ายังไงก็ต้องทำตามกฎของที่นี่อย่างไม่อาจบิดพริ้ว

สำหรับเด็กหนุ่มที่เป็นคนง่ายๆ จึงทำใจให้ยอมรับได้อย่างไม่ยากอะไร

ในตอนนั้นเองความรู้สึกตื้นตันและอบอุ่นก็พลุ่งพล่านขึ้นมา ดวงตากลมโตสีม่วงช้อนมองคนตัวสูงกว่าอย่างสำนึกขอบคุณ
หากว่าเขาถูกโยนให้คนที่มีจิตใจชั่วร้ายโดยที่ไม่ใช่คนๆ นี้  ไม่รู้ว่าจะได้สัมผัสความเป็นมนุษย์เหมือนก่อนที่จะมาโลกนี้หรือเปล่า

“ขอบคุณนะ” โยชัวเอ่ยขอบคุณด้วยรอยยิ้ม
เด็กหนุ่มอดคิดไม่ได้ว่าความตื้นตันและความดีใจของเขาคงจะส่งผ่านไปให้อีกฝ่าย จนทำให้ชาร์ฮาร์ผู้เจิดจรัสส่งยิ้มกว้างสดใสตอบกลับมา

รอยยิ้มที่ว่าส่งผลให้ใบหน้าหล่อเหลาซึ่งไม่ต่างจากเทพบุตร แลดูน่ารักและเปล่งประกายมากยิ่งขึ้น จนเด็กหนุ่มเกิดอาการตาพร่าอย่างคนที่กำลังมองดูดวงอาทิตย์

โยชัวรู้สึกตื่นเต้น ที่สามารถได้พบกับเจ้าชายที่ส่องสว่างหล่อเหลา ในโลกของความเป็นจริง
ไม่ใช่แค่ภาพในเกมหรือภาพวาดแบบสองมิติในอนิเมะและไลท์โนเวล

เอาเถอะจะสาวดุ้นหรืออะไรก็แล้วแต่ ถ้าคิดซะว่าเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชิวิต คิดในแง่นี้ก็ไม่เสียหายอะไร

“เอ่อเจ้าชื่อชาร์ฮาร์ใช่มั้ย ข้าเรียกเจ้าว่าชาร์ฮาร์ได้รึเปล่า”
โยชัวเอ่ยขออย่างเป็นมิตร ทว่าเจ้าชายผู้เจิดจรัสกลับหน้าตึงแล้วขมวดคิ้วเข้าหากันจนเด็กหนุ่มตกใจ

“ข้าเป็นพี่ชายของเจ้านะ ถ้าให้ถูกควรเรียกว่าท่านพี่สิ”
 ชาร์ฮาร์พูดด้วยเสียงกดต่ำ

 โยชัวรู้สึกถึงแรงกดดันด้านมืดอย่างแปลกๆ จากชายตรงหน้า
ออร่าสีดำพวยพุ่งอยู่ที่ด้านหลังชายหนุ่ม


ซิสค่อน

คำๆ นี้ผุดขึ้นมาในความคิดของเด็กหนุ่ม

ไม่สิถ้าจะเรียกให้ถูก ต้องเป็นบราค่อนต่างหาก

คนปกติ...คนปกติเนี้ย

 เขาไม่จริงจังกับคำเรียกขานขนาดนี้หรอก ถ้าไม่พอใจที่ถูกปืนเกรียวก็น่าจะพูดด้วยท่าทางที่ดูเป็นผู้ใหญ่กว่านี้ หรือไม่ตามคาแรคเตอร์ของหมอนี่ก็น่าจะพูดไปกลั้วหัวเราะไปด้วยท่าทางเฮฮามากกว่า
แต่นี่แผ่รัศมีกดดันเอาเป็นเอาตายซะจนรู้สึกได้ถึงความไม่ปกติ

ไม่ไหว ไม่ไหว ไม่ไหว

ทั้งสาวดุ้น ทั้งเจ้าชายบราค่อนอนาคตข้างหน้าไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับเรื่องวิตถารแบบไหนอีก
 จะทำยังไงดีถ้าผ่านช่วงเวลานี้ไปไม่ได้ ถ้าเกิดเจอเรื่องที่หนักหนากว่านี้ไม่รู้ว่าจะทนรับยังไง

ไม่สิถูกทรมานก็เจอมาแล้วนับภาษาอะไรกับเรื่องแค่นี้
 
จิ๊บจ๊อย....จิ๊บจ๊อยมาก
 
แค่เรียกพี่ชายเท่านั้นเอง ลืมเรื่องที่ไม่ปกติ หรือความคิดอคติไปซะ
โยชัวพูดปลุกปลอบใจตัวเองนับครั้งไม่ถ้วน พอทำใจได้ในที่สุด เด็กหนุ่มก็เอ่ยเสียงเรียกอีกฝ่ายด้วยคำที่ต้องการ

“ทะ ท่าน...”

“ช่างเถอะ”

“เอ๊ะ“
โยชัวร้องออกมาด้วยความสงสัยเมื่อถูกอีกฝ่ายจัดจังหวะคำพูดของตน

“โยชัวเรียกข้าว่าชาร์เฉยๆ ก็ได้ เจ้าทำท่าลำบากใจซะขนาดนั้น เรียกข้าว่าชาร์นั้นแหล่ะดีที่สุด”

“อืม”

 โยชัวพยักหน้าเบาๆ  พอทั้งคู่ตัดสินใจได้ว่าจะเรียกกันว่าอะไร เมดสาวชุดโกธิคก็โผล่เข้ามาเชิญพวกเขาไปรับประทานอาหาร ชายหนุ่มผู้เจิดจรัสคว้ามือเขาพาเดินไปพร้อมกับเล่าเรื่องราวที่น่าสนุกหลายอย่างให้ฟังไปตลอดทาง

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

อยากจะบอกว่าน้องสาวกับเราทะเลาะกันหนักมาก หลักๆคือเราโวยวายอยู่คนเดียว #ร้องไห้หนักมาก

คือน้องสาวเราเค้าอ่านลายมือในสมุดเราไม่ออก เลยเปลี่ยนรูปประโยคไปหลายอย่างจนเราอ่านแล้วงง

คือตอนนี้และตอนต่อไปอาจต้องเสียเวลาพิมและนั่งแก้ตอนต่อไปอาจจะลงได้วันอังคารนะคะ

สำหรับคนอ่านที่แนะนำให้เราเกลาภาษาเราดีใจค่ะ แต่นิยายเราเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกเลยที่เขียนไกล้จบ แถมเราเขียนไปไกลมากแล้ว

เราลำบากใจสุดๆ

ส่วนผู้อ่านที่ถามถึงพระเอก ออกมาครบแล้วนะคะ ตั้งแต่ตอนที่แล้ว และจะเริ่มทยอยเขารูทของแต่ละคน แต่เราไม่บอกนะว่าใครเพราะเราคิดว่าทุกคนคงเดาได้แหละ

รักคนอ่านค่ะ :bye2:






ออฟไลน์ Smirnoff

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
อั้ยยยย พระเอกครบแล้ววว ครบทุกรสชาติเลยยยย
ซู่วๆๆๆนัโยชัว55555
ปล.เป็นกำลังใจให้นะคะ ส่วนตัวคิดว่าภาษาก็โอเคแล้วนะคะ มีบางประโยค บางวลีที่ต้องย้อนกลับไปอ่านใหม่ถึงจะเข้าใจ แต่ส่วนตัวชอบนะคะ การใช้คำมันดูมีเอกลักษณ์ดี

ออฟไลน์ Raycira

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
สนุกกกกกก :impress2:

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
ท่านพี่นี่แอบคิดไม่ซื่อใช่ป่าวเนี่ย  :hao7:

ออฟไลน์ alt1991

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :pighaun:อิหนูโยชัวจะกินเรียบบรรดาพี่ ๆ ทั้งหมดเลยเหรอ
สรุปแล้วอิหนูโยชัวเป็นเจ้าของฮาเร็มหนุ่ม ๆ เทพบุตรเหล่านั้นละซิ  :haun4: :hao6:

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
พระเอกออกมาแล้ววววววว ใครฟะ :katai1:  ท่านชาร์หรอ :hao4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Paracetamol

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-2
ต่อด่วนๆ น่าสนุกจัง

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
น่าติดตามมากค่ะ มาต่อเร็วๆ น้า  :mc4: :mc4: :mc4:

ออฟไลน์ BExBOY

  • กัญชาเป็นยาเสพติด โปรอ่านฉลากก่อนสูบ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
รอออออ  แนวเรื่องน่าติดตามมากค่ะ

ถ้าจะให้ดีขึ้นอีก แยก ความในใจ กับ บทพูดปกติ ให้อ่านง่ายไม่สับสน ด้วยจะดีมากๆเลย

รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
กรี๊ดดดดดดดดดดดดสนุกมากเลย

เรื่องสำนวนก็ค่อยๆแก้ไปน้า

แต่สำหรับเราไม่มีปัญหาเรื่องสำนวน

อ่านรู้เรื่องจ้า

สำคัญคือมาลงสม่ำเสมออย่าหายไปก็พอจ้า :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ glasses girl

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เราว่าวิธีการเขียนมันคล้ายพวกไลท์โนเวลอยู่นะ

คงเปนเพราะ เราอ่านไลท์โนเวลมากเราเลยอ่านแล้วไม่งง

แต่นิยายแฟนตาซีก็แบบนี้แหละ
เราเพิ่งอ่าน

นิยายเรื่องเพชรยอดคถามากะลังหาแนวไกล้ๆกันอ่านเบย

สมใจแย้ว

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ทำใจได้เร็วดีน่ะ

ออฟไลน์ Luksa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :man1: ต่อด่วน ๆ น่าสนุกมากกกก ชอบแนวนี้ อ๊าซซ

รออยู่น้าา  :katai5:

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่ 4

เฮ้ๆ อย่าสิ อย่านะ

โยชัวร้องโวยวายด้วยตวามตื่นตะหนก

เด็กหนุ่มในตอนนี้ไม่สามารถบังคับร่างกายที่น่าจะเป็นของตัวเอง

จึงได้แต่โวยวายร้องห้ามการกระทำของร่างกาย ที่กำลังทำเรื่องอันตรายอย่างการพยายามเอื้อมมือเข้าไปจับสัตว์อสูรที่มีรูปร่างเป็นหมาป่าขนสีแดง

 ที่หน้าผากของมันมีเขาแหลมคมดูท่าทางอันตราย  เจ้าสัตว์อสูรตัวนี้ขู่กรรโชกอย่างบ้าคลั่งและถ้าสังเกตดูให้ดี ตามตัวของมันมีบาดแผลฉกรรจ์หลายจุด

“จะรักษาให้นะ”

ร่างกายที่ไม่สามารถบังคับได้ของโยชัวพูดกับสัตว์อสูร ในขณะที่จิตสำนึกตะโกนเตือนร่างกายของตนนับไม่ถ้วนว่าให้รีบออกให้ห่างจากเจ้าสัตว์บาดเจ็บตรงหน้า

จากท่าทางของเจ้าสัตว์อสูร เชื่อว่าไม่นานนักมันคงจะหมดความอดทนแล้วตรงเข้าจู่โจมร่างกายที่ไม่เชื่อฟังของโยชัวอย่างแน่นอน

แล้วก็อย่างที่คิดเจ้าหมาป่าอสูรสีแดงกระโจนเข้าหาอย่างรวดเร็ว  ร่างเล็กๆ ของเขาถูกคร่อมด้วยสัตว์ซึ่งกำลังบ้าคลั่ง 

ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นนอกจากจะไม่สามารถบังคับร่างกายได้ ความรู้สึกนึกคิดและจิตใจก็ดูเหมือนจะแยกกันอยู่

ทว่าทำไมนะ ในเสี้ยวเวลาแห่งความเป็นความตายนี้จึงได้เกิดความรู้สึกร่วม

เสียงหวีดร้องด้วยความกลัวและความตกใจกลายเป็นเสียงของเขาเอง ร่างกายและจิตใจได้กลับมารวมเป็นหนึ่งอีกครั้ง ความหวาดกลัวพลุ่งพล่านจนหลั่งน้ำตาออกมาเมื่อเห็นสัตว์อสูรอ้าปากที่เต็มไปด้วยฟันแหลมคมเตรียมปลิดชีวิตน้อยๆ ที่ไม่มีแรงแม้แต่จะต่อต้าน

ในตอนนั้น ร่างของสัตว์อสูรที่คร่อมร่างเขาอยู่ก็กระตุกและสั่นเทา ร่างกายของมันบิดเบี้ยวและพองลมก่อนที่จะระเบิดแตกตัวออกต่อหน้าต่อตา เลือดสีแดงฉานสาดกระเซ็นเปรอะเปื้อนร่างกายของเขาจนแทบจะไม่มีส่วนไหนที่ไม่ถูกย้อมให้กลายเป็นสีแดง

โยชัวตัวสั่นระริก อยากจะหวัดร้องออกมา ทว่ากลับไม่สามารถเปล่งเสียงออกจากลำคอของตนได้
เสียงหวีดร้องในตัวซึ่งเป็นจิตสำนึกของคนอื่นซ้อนทับกับภาพนรกซึ่งเป็นเหตุการณ์ครั้งแรกและครั้งเดียวของโยชัวที่ถูกอมันด้าทรมานนับตั้งแต่มาอยู่ในร่างนี้

ไม่ อย่าไปนึกถึงมัน

ลืมซะ

เสียงปฏิเสธของเขากับเสียงหวีดร้องด้วยความกลัวจากอีกจิตสำนึก ดังประสานกันไม่ต่างกับเสียงหวีดร้องของสิ่งมีชีวิตก่อนจะหมดลมหายใจ

เสี้ยววินาทีแห่งความตึงเครียดที่แสนสั้น หากแต่สำหรับโยชัวแล้วช่างยาวนาน

เสียงหัวเราะเบาๆจากโทนเสียงที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์  เป็นเสมือนดั่งฝ่ามือที่ตบหน้าเขาให้กลับมามีสติอีกครั้ง

ดวงตากลมโตมองดูเด็กชายผู้มีผมสีแดงเพลิง ใบหน้างดงามอย่างลึกลับและเย้ายวนกับดวงตาสองสี

สำหรับกับโยชัวคนที่ให้ความประทับใจในทางลบตั้งแต่ฉากเปิดตัวครั้งแรกในคุก  ต่อให้กลายเป็นเด็กเขาก็ไม่สามารถลืมใบหน้าของฝ่ายนั้นไปได้ง่ายๆ

โยชัวมองดูลาซาลัสที่มีอายุประมาณเก้าถึงสิบขวบลอยอยู่บนท้องฟ้าเหนือศีรษะก่อนที่อีกฝ่ายจะลดระดับความสูงจนลงมายืนอยู่บนพื้นดินเบื้องหน้าในระยะใกล้

“อะไรกัน ทำสีหน้าแบบนั้น ทางนี้อุตส่าห์ช่วยแท้ๆ ไม่สำนึกบุญคุณเลยน้า”
ลาซาลัสแสยะยิ้มยียวน

สำหรับโยชัวที่ไม่รู้ว่าร่างกายของตนแสดงสีหน้าแบบไหน หากแต่จิตสำนึกของอีกคนที่ซ้อนอยู่ในร่างร่วมกับเขากำลังหวาดวิตกและกังวล นอกจากนี้แล้วความหวาดกลัวของอีกจิตสำนึกที่กำลังพลุ่งพล่านทำเอาเขารู้สึกร่วมจนแทบครองสติไม่อยู่

“ช่วยไม่ได้เพราะแฮะ เพราะเป็นพวกสัตว์เล็กขี้ตื่นนี่น้า จะช่วยอีกครั้งเอาบุญด้วยการพาไปส่งให้ถึงที่ก็แล้วกัน”

 ลาซาลัสยื่นมือเข้ามาจับ รอยยิ้มซุกซน สนุกสนานที่ประดับอยู่บนใบหน้าเย้ายวนอย่างลึกลับ แทนที่จะทำให้โยชัวและอีกจิตสำนึกรู้สึกผ่อนคลาย กลับทำให้เกิดความหวาดระแวงในตัวอีกฝ่าย ส่งผลให้ร่างกายที่บังคับไม่ได้ของเขาปัดมือลาซาลัสที่ยื่นมาทิ้ง

แวบนึงในเสี้ยววินาที โยชัวเห็นความผิดหวังในสีหน้าและแววตาของลาซาลัส ก่อนที่อีกฝ่ายจะเปลี่ยนท่าทีเป็นคุกคามโดยสมบูรณ์

“เอาเถอะ ถ้าอยากถูกสัตว์อสูรแถวนี้รุมฉีกทึ้งก็ตามใจ กลิ่นเลือดรุนแรงขนาดนี้ อีกสักพักพวกสัตว์อสูรชั้นต่ำก็คงจะแห่กันมา”

ร่างกายของโยชัวสั่นเทา จิตสำนึกที่ไม่ใช่ของเขายัดเยียดความกลัวในรูปแบบต่างๆ ให้โยชัวสัมผัส

พอความกลัวของพวกเขาเร่งเร้าถึงขีดสุด จิตสำนึกที่ควบคุมร่างก็เปิดปากจะขอร้องเด็กชายผมแดงที่ตอนนี้ฉีกยิ้มกว้างอย่างผู้ชนะ

หากแต่เสียงเรียกชื่อเขาจากน้ำเสียงคนที่คุ้นเคยหยุดกระทำของโยชัวซะก่อน บนท้องฟ้า เด็กชายผู้มีใบหน้างดงามเยือกเย็นถลาร่อนลงมาบนพื้นดิน ปีกทั้งหกข้างที่กระพืออยู่เบื้องหลังกับเส้นผมสีเงิน รูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์สร้างความยินดีให้กับจิตสำนึกที่ควบคุมร่าง

“ท่านพี่ลูเซีย”

ร่างเล็กกว่าโถมเข้าหาคนที่ร่อนลงพื้นแทบจะในทันที ท่าทางหวาดกลัวและหมดเรี่ยวแรงในตอนแรกดูเหมือนจะเป็นเรื่องโกหกเมื่อเทพบุตรสีเงินแห่งสรวงสวรรค์ปรากฏกายราวกับอัศวินในนิทาน

“นี่มันอะไรกัน”

ลูเซียค่อยๆ ดันตัวโยชัวออก ดวงตาสีเทามองดูร่างที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเรื่องของเด็กชายที่มีศักดิ์เป็นน้องต่างมารดาด้วยความสับสนและสงสาร

“อธิบายมาด้วยนะ ลาซาลัส”

ลูเซียเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
ดูเหมือนว่าเด็กชายเผ่าเทพจะตัดสินว่าเด็กชายผมแดงซึ่งเป็นน้องชายต่างมารดาอีกคนของเขาเป็นคนผิด

จิตสังหารที่ไม่น่าจะเป็นของเด็กชายในวัยนี้แผ่ออกมาจากตัวจนโยชัวและจิตสำนึกเจ้าของร่างตื่นตระหนก หากแต่ลาซาลัสที่เป็นเป้าของจิตสังหารกลับเหยียดยิ้มอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว ท่าทางแบบนี้ดูเหมือนจะกระตุ้นโทสะของลูเซียให้ลุกโชนยิ่งขึ้น ก่อนที่ไฟแห่งโทสะจะดับวูบ ด้วยคำพูดที่ตรงประเด็นราวกับถูกน้ำสาด

“ถ้าอยากรู้นักก็ถามเจ้าสัตว์เล็กนั่นไม่ดีกว่าเหรอ”

“โยชัวบอกพี่สิว่าเกิดอะไรขึ้น”
ลูเซียถามอย่างอ่อนโยน

จากนั้นจิตสำนึกซึ่งยังบังคับร่างอยู่ก็เริ่มเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฟัง

ดูเหมือนว่าเจ้าของจิตสำนึกจะเป็นเด็กที่ซุกซน ทั้งที่ลูเซียเป็นคนพาออกมาเที่ยวนอกวัง พอคลาดสายตาจากพี่ชายเผ่าเทพแวบเดียว ร่างเล็กก็เดดินเล่นเรื่อยเปื่อยจนมาเจอสัตว์อสูรที่กำลังบาดเจ็บ

“พี่ผิดเองแหล่ะที่คลาดสายตาจากเจ้า”

ลูเซียพูดด้วยสีหน้ารู้สึกผิดก่อนจะอุ้มน้องชายซึ่งตัวเล็กกว่ามากขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน  เด็กเผ่าเทพขยับปีกทั้งหกโบยบินขึ้นสู่ท้องฟ้าอีกครั้งโดยไม่สนใจการมีตัวตนอยู่ของลาซาลัสเลยแม้แต่นิดเดียว

ในขณะที่ถูกพาบินจากไป  เจ้าของจิตสำนึกที่ถูกอุ้มพาดบ่ามองดูลาซาลัสด้วยแววตากลียดชัง
 ทว่าในทางกลับกัน ชั่ววินาทีที่แสงแดดสะท้อนจนตาพร่า รู้สึกเหมือนริมฝีปากของลาซาลัสวาดยิ้มอย่างอ่อนโยน

คิดไปเองรึเปล่านะ

โยชัวกระพริบตาปริบๆ  ที่เบื้องหน้าเขาเห็นเพดานไม้ของเตียงสี่เสา

ถึงแม้ว่าจะตื่นเต็มตาดีแล้วแต่กระนั้นเด็กหนุ่มก็ยังนอนหงายแผ่หลา รวบรวมความคิดและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนทั้งหมด

วันนี้เป็นวันที่สาม ที่ใช้ชีวิตในร่างนี้

จะว่าไปสิ่งที่เขาเห็นในความฝัน ถ้าคิดให้ดีๆ แล้วน่าจะเป็นความทรงจำของเจ้าของร่างนี้

คิดแล้วก็อยากจะวาดแผนผังความสัมพันธ์ของคนรอบตัวคร่าวๆ
 
โยชัวกระตุกกายลุกขึ้นนั่ง ดวงตากลมโตมองไปยังประตูซึ่งเปิดสู่ระเบียง ที่ด้านนอกถึงแม้ฟ้าจะมืดอยู่ แต่ก็เริ่มได้ยินเสียงนกร้องเจื้อยแจ้วอันเป็นสัญญาณการเริ่มต้นชีวิตในยามเช้า

น่าจะมีเวลาครุ่นคิดเพียงลำพังสักชั่วโมงสองชั่วโมงก่อนจะอาบน้ำ

เช้าวันนี้ โยชัวตัดสินใจว่าจะจัดการภารกิจส่วนตัวด้านความสะอาดด้วยตัวเอง ก่อนที่จะมีใครมาก้าวก่ายเรื่องที่เป็นเรื่องโคตรจะส่วนตัวของเขาด้วยทำเนียมอันแปลกประหลาดต่างจากโลกที่เขาจากมา

หลังจากที่ใช้เวลาสำรวจห้องนอนอย่างละเอียดไม่นานนักก็เจอกระดาษ ปากกาขนนกและน้ำหมึก
โยชัวเริ่มวาดแผนผังความสำคัญทันที

หลังจากที่เรียบเรียงความสัมพันธ์ของครอบครัวปีศาจได้อย่างชัดแจ้งยิ่งขึ้น
สิ่งหนึ่งที่เขานึกขึ้นได้และควรจะจำใส่สมองไว้ให้หนัก

โยชัวนึกถึงชายหนุ่มร่างสูงสง่า ใบหน้าที่งดงามเย็นชา ลูเซีย ชายคนนั้นเป็นคนที่ถูกเลี้ยงดูมาพร้อมกับเจ้าของร่างเขาอย่างใกล้ชิด แถมจากความทรงจำแล้วเป็นพี่น้องที่รักใคร่กันดี ถ้าเป็นไปได้ควรจะอยู่ห่างเอาไว้ให้มากที่สุด
 
หากว่าเรื่องที่เขาสวมร่างนี้แทนวิญญาณเดิมถูกเปิดเผยออกไป

สถานะภาพชีวิตของเขาในปัจจุบันก็ย่ำแย่อยู่แล้ว ไม่อยากจะคิดว่าถ้ามีใครรู้ความลับ เหตุการณ์จะเลวร้ายไปถึงขั้นไหน

แวบนึง

ภาพเหตุการณ์ที่เขาถูกทรมานโดยอมันด้าหวนเข้ามาในความคิด
ชัดเจนราวกับหนังถูกฉายซ้ำ

ถึงจะไม่เจ็บก็เถอะแต่กลัวก็คือกลัวอยู่ดี

หากเป็นไปได้ก็ไม่อยากกลับไปอยู่ในนรกแบบนั้น พอสงบสติอารมณ์ได้ ร่างกายที่สั่นระริกทุกครั้งที่นึกถึงเหตุการณ์นั้นก็กลับเป็นปกติ

“บางทีก็คิดว่าการที่เราถูกทำขนาดนั้นแต่ก็ยังไม่กลายเป็นบ้า สงสัยว่าเราเอง ก็คงจะมีอะไรบางอย่างที่ผิดปกติไปก็ได้”

โยชัวพึมพำกับตัวเอง

 เด็กหนุ่มเปลื้องผ้าออกจนร่างกายเปลือยเปล่า เขาผลักแระตูบานใหญ่ที่เชื่อมติดกับห้องนอนไปยังห้องน้ำในตัวเล็กๆ ซึ่งที่บอกว่าเล็กก็คือเล็กกว่าห้องน้ำที่เขาใช้ครั้งแรก ทว่าเมื่อเทียบกับสามัญสำนึกปกติของคนในโลกเขา ห้องน้ำในตัวนี้ก็ยังใหญ่และหรูหรามากพอสมควร

หลังจากชำระร่างกายและแต่งตัวเสร็จ ถึงแม้จะไม่ชอบใจเสื้อผ้าที่ถูกยัดเยียดให้เมื่อวานก่อนเข้านอนสักเท่าไหร่แต่ในเมื่อมันมีแค่นี้ ถึงไม่อยากใส่ก็ต้องใส่

พอแต่งตัวเสร็จ อาจจะเพราะพื้นฐานนิสัยที่เป็นคนขี้เกรงใจและว่าง่าย โยชัวจึงกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงสี่เสารอให้ชาร์ฮาร์ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่ชายในโลกนี้เข้ามาพาเขาออกไปจากห้อง

รอและรอ จนตะวันขึ้นสู่ท้องฟ้า

ทว่ารอนานมาก รอเท่าไหร่ก็ไม่มีใครมา หากมีนาฬิกา เชื่อได้ว่าตอนนี้คงเป็นเวลาสักเกือบสิบเอ็ดโมงเช้า
เสียงประท้วงน้อยๆ จากกระเพาะของโยชัวดังเป็นจังหวะราวนาฬิกาปลุก

“ไม่ไหวแฮะ ถึงจะดูเป็นเรื่องที่สุ่มเสี่ยงไปหน่อย แต่ขอชะโงกหน้าออกไปสำรวจสักนิดดีกว่า”

เด็กหนุ่มเดินไปที่ประตูห้องที่ใหญ่โต พอเปิดประตูแง้มออกก็ปะกับเรือนกายสูงใหญ่กำยำ
ชาร์ฮาร์ซึ่งยืนหันหลังให้โดยมีเมดสาวหลายคนยืนประคองเจ้าสิ่งที่น่าจะเป็นเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายจำนวนมาก
ยังไม่ทันจะเอ่ยปากทัก ชายหนุ่มผู้เจิดจรัสก็หันกลับมาทักทายเขาด้วยรอยยิ้มทันที

“รอโยชัวตั้งนานแน่ะ ตื่นสักทีนะ”

วลีที่อีกฝ่ายใช้ทักทายนั้นบอกความหมายได้ตรงตัวของมันแบบไม่ต้องประมวลผล
โยชัวขมวดคิ้วเข้าหากันพยายามเกร็งใบหน้าของตนเอาไว้ไม่ให้แสดงสีหน้าไม่พอใจหรือบึ้งตึง

“มารอตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ตั้งแต่ตะวันขึ้น”

“ทำไมไม่เข้ามาปลุกล่ะ”

“อยากจะให้เจ้านอนให้เต็มที่น่ะ อยู่ในคุกตั้งนานหลายปี คิดว่าคงจะนอนหลับให้เต็มตา สุขสบายเหมือนที่นี่ไม่ได้ ก็เลยรอให้โยชัวนอนจนเต็มอิ่มแล้วออกมาเอง”

เวรกรรม

โยชัวมองใบหน้าทิ่ยิ้มสดใสระยิบระยับของชาร์ฮาร์แล้วรู้สึกว่าโกรธไม่ลง

 เจตนาของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความปรารถนาดีถึงขนาดนี้
ย่อมหมายความว่าสิ่งที่เขาจะทำได้นับจากนี้
คือก่นด่าในความไร้สมองของตัวเองที่ไม่ออกจากห้อง แต่เลือกที่จะนั่งรอให้อีกฝ่ายมาหา

โยชัวจมอยู่กับห้วงความคิดไม่นาน

เสียงบ่นกระปอดกระแปดของพวกเมดสาวในทำนองที่ว่า
ท่านชาร์ฮาร์ต้องยืนรอตั้งแต่ตะวันขึ้นไม่ยอมไปไหน

หรือประมาณว่าเดือดร้อนกันไปหมด ทั้งที่มีเรื่องต้องทำมากมายแต่ก็ต้องพากันมายืนรอ

ฟังแล้วรู้สึกหดหู่

โยชัวยิ้มเจื่อนๆ เริ่มรู้สึกว่าไปไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือปีศาจ ผู้หญิงก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่สมควรจะเป็นศัตรูด้วย
ดูเอาเถอะขนาดคนเป็นเจ้านายยังว่าอะไรคนใช้ของตัวเองไม่ได้ ชาร์ฮาร์นั้นแทนที่จะใช้อำนาจต่อว่าพวกสาวเมด
 ดันบอกพวกหล่อนว่าวันนี้ให้งดงานได้หนึ่งวัน จากนั้นก็มาพูดจาขอโทษเขาแทนเมดสาวพวกนั้นด้วยใบหน้าลำบากใจสุดๆ

“รู้สึกแย่รึเปล่า”
ชาร์ฮาร์ถามหลังจากบอกให้สาวเมดออกไป

 ดูจากท่าทางและรอยยิ้มเจื่อนคงจะคิดมากน่าดู

แต่ก็นั้นแหล่ะ ถ้าเป็นผู้หญิงหรือแฟนสาว การที่ชายหนุ่มจะไม่เข้าข้างหรือลงโทษ พวกเมดที่พูดจาไม่ไว้หน้าก็คงจะโกรธจนเข้าโหมดงอนให้ง้อละนะ

แต่ถ้าจะให้พูดกันตรงๆ  เขาเป็นผู้ชายที่แทบจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคนตรงหน้า แถมร่างกายที่อาศัยสิงสู่ดันเป็นร่างกายของน้องชายคนตรงหน้าอีกด้วย

สิ่งสำคัญเหนือกว่าตอนนี้คือเสียงประท้วงจากกระเพาะที่ดังราวกับฟ้าร้องนี่ต่างหาก

สีหน้าของชาร์ฮาร์เปลี่ยนจากลำบากใจเป็นตกตะลึงในจังหวะร็อคที่แสนดุเดือดของกระเพาะ


“ข้อร้องล่ะ หาอะไรให้กินหน่อยเถอะ”

โยชัวพูดพร้อมกับลูบหน้าท้องแฟบๆ ของตัวเองไปมา

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ตอนที่สามแล้วนะคะ

ตอนนี้ถ้าจะให้พูดก็สั้นและยังไม่คืบหน้าเท่าไหร่

แต่ตอนหน้าเนื้อหาจะยาวขึ้นและเริ่มเดินเรื่องแล้วค่ะ

สำหรับคนอ่านที่ติชมมา รู้สึกขอบคุณค่ะ รูปแบบประโยคที่เราเขียนก็คงจะอ่านยากจริงๆน่ะแหละ

ก็จะพยายามแก้ไขค่ะ

สำหรับผู้อ่านที่บอกว่าโยชัวทำใจได้เร็วไป

ลองอ่านไปเรื่อยๆก่อนค่ะ ถ้าเนื้อเรื่องยังมีปัญหาอยู่เม้นบอกได้ค่ะ

ตอนนี้เราเอานิยายกลับมาพิมส์เองแล้ว น้องสาวเราไม่ค่อยมีเวลาว่างเพราะต้องทำงานพิเศษ

ตอนต่อไปไม่น่าจะเกินสามวันจะเอามาลงค่ะ

หวังว่าจะยังมีคนอ่านคนเม้นอยู่บ้าง  :hao5:

รักคนอ่านค่ะ

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
เราชอบความแฟนตาซีของเรื่องนี้มาก มันมีแนวดาร์กผสมเพราะตัวละครแต่ละตัวลึกลับมาก
อีกอย่างเราว่าคนที่ดูเหมือนจะดีน่าสงสัยไปหมดเลย

ถ้าเห็นว่าเป็นน้องโดนขัง ทรมาณขนาดนั้นทำไมไม่คิดจะช่วยตั้งแต่ต้นล่ะเนี่ย

ออฟไลน์ Smirnoff

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
มาจิ้มมมม รอตอนต่อไปนะคะ เนื้อเรื่องค่อยๆเผยแล้ว. เย่ๆๆๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด