เรื่องสั้น
นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนจดจ้องอยู่ที่หนังสือเล่มหนึ่ง
มันเป็นหนังสือธรรมดาปกติเหมือนหนังสือที่วางเรียงรายอยู่บนชั้นวางในร้านหนังสือขนาดใหญ่ร้านหนึ่งในห้างดัง มือหนายื่นไปหยิบมันมาถือเพื่อลองเปิดอ่าน ด้านหน้าปกแสดงชื่อหนังสืออันทำให้เขาต้องชะโงกหน้าไปมองร่างเล็กในชุดไปรเวทธรรมดาที่ดูเหมือนกำลังวุ้นกับการเลือกหนังสือการ์ตูนในโชนใกล้ๆกัน เนื่องจากเขาไม่อยากให้ร่างเล็กมาเห็นหนังสือที่เขากำลังถืออยู่มากเท่าไหร่ ‘นายน์เหนือ’ ถอนหายใจก่อนจะก้มลงมองหน้าปกที่มีตัวอักษรสีดำเขียนเอาไว้อย่างเด่นหราว่า
‘รวมคาถาบูชาเมีย’
ร่างสูงลองเปิดเข้าไปตรงหน้ากลางๆของหนังสือ ปรากฏกลอนๆหนึ่ง บรรทัดแรกเขียนเอาไว้ว่า
รักเมียต้องอดทน ต้องเป็นคนเคารพเมีย รักเมียต้องส่งเสีย อย่าให้เมียต้องสงสัย
ฉับพลันร่างสูงก็นึกย้อนไปยังเรื่องเก่าๆของตนเองกับคนรัก
อดทน อย่างนั้นหรือ ?
‘อ้ากกกกก พี่ด้วงกู มึงฆ่าพี่ด้วงกูทำม้ายยยยย’ จู่ๆเสียงตะโกนอย่างบ้าคลั่งก็ดังขึ้นทั่วคฤหาสน์ใหญ่ ร่างสูงที่กำลังส้วมผ้ากันเปื้อนทำอาหารอยู่ต้องชะงัก หันไปยิ้มให้แม่นมที่คอยช่วยทำอยู่ข้างๆ ก่อนจะฝากส่วนที่เหลือเอาไว้แล้วตนเองรีบบึ่งขึ้นห้องเพื่อดูคนตัวเล็ก
ประตูห้องถูกเปิดออกเสียงดัง เผยให้เห็นคนด้านในที่กำลังเอาหมอนฟาดทำลายข้าวของอย่างบ้าคลั่ง ใบหน้าเล็กๆนั้นเบะปาก น้ำตาใสไหลรินประดับหน้าและแหกปากเอาแต่ร้องว่า ‘ฆ่าพี่ด้วงกูทำไม ฆ่าทำไม’
นายน์เหนือใจร้อนรนรีบนำตัวเองเข้าประกบโดยการกอดแต่ดันถูกตีนถีบออกมาอย่างรุนแรง
‘โอ๊ยย’ ร่างสูงร้องเจ็บ ถีบกันมาแบบไม่ออมแรงเลยด้วย
‘ออกไป!’ น้ำเสียงใสตวาดเสียงดังก่อนจะหันไปทำลายข้าวของในห้องต่อ แต่เมื่อเห็นเขาไม่ออกไปจึงหันมาทำร้ายเขาแทน ‘อ้าก!! ฆ่าพี่ด้วงทำไม พี่ด้วงตายกูเลยแพ้เกม มึงเห็นไหม อ้ากกก!!!!’
ทั้งเตะ ทั้งถีบ ทั้งต่อย สารพัดวิธีที่ระบายความเครียดลงสู่ตัวเขา ร่างสูงยืนนิ่งปล่อยให้คนตัวเล็กทำตามใจจนกระทั้งคนตรงหน้าลงไปนั่งนิ่งร้องไห้กับพื้นเขาจึงตามไปกอดเป็นการปลอบประโลมเบาๆ
‘ฮือ’ เสียงร้องไห้ดังขึ้นเงียบในห้องที่มีผู้ชายสองคนนิ่งกอดกัน อีกคนร้องไห้และอีกคนก็ตามเนื้อตัวเริ่มช้ำเป็นสีม่วงจากการเป็นที่ระบายไปเมื่อกี้ด้วย…
นายน์เหนือชะงักหลังจากย้อนความคิดตนเอง ตอนนี้จากยืน เขาหันมาหาที่นั่งอ่านหนังสือในมุมลับสายตาคนแล้ว ใบหน้าหล่อเหลาปรากฏรอยยิ้มหลังจากควบคุมสติได้ร่างเล็กก็หันมาขอโทษเขาอย่างเอาเป็นเอาตายพร้อมด้วยบริการดูแลพิเศษในแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน ถือจะว่าเจ็บตัวในครั้งนั้นก็คุ้มอยู่เหมือนกัน นายน์เหนือส่ายหน้าให้กับความน่ารักของคนรักเบาๆก่อนจะเลื่อนสายตามาอ่านกลอนในบรรทัดต่อไป
รักเมียต้องรักเดียว อย่าได้เที่ยวไปรักใคร รักเมียต้องทำใจ ถึงอย่างไรเธอก็เมีย
รักเมียอย่าขี้เหล้า ถ้าเมียเหงาเราจะเสีย รักเมียอย่าอ่อนเพลีย คนรักเมียต้องแข็งแรง
รักเมียอย่าเที่ยวดึก จะเกิดคึกผิดสำแดง รักเมียอย่ารุนแรง ค่อยๆแซงอย่าขับไว
ทันใดนั้นมุมปากเรียวก็ยกยิ้มขึ้น หัวใจสะดุดกึกกับประโยคที่ว่า รักเมียอย่าอ่อนเพลีย คนรักเมียต้องแข็งแรง
ถ้าตอนนั้นเขาไม่เหนื่อยหอบจนอยากนอนให้ได้ ก็คงจะต่อได้ ‘ทั้งคืน’ อยู่หรอก
วันนั้นที่โรงเรียนมีงานกีฬาสีประจำปี และเนื่องจากร่างสูงที่เป็นนักกีฬาดีเด่นเกือบทุกปีทำให้ต้องลงแข่งขันกีฬาฟุตบอล แย่หน่อยที่ปีนี้จับฉลากเจอกับคู่แข่งที่เก่งๆทั้งนั้น นายน์เหนือที่เป็นหัวหน้าจึงต้องรับบทหนักและเหนื่อยกว่าใครเพื่อน ถึงกระนั้นก็ยังสามารถเอาชนะคู่แข่งคนสำคัญมาได้ แต่ที่แน่ๆคือเหนื่อยหอบจนแทบอยากจะล้มลงนอนกับพื้นดิน
หลังจากกลับมาถึงคฤหาสน์หรูที่มีแต่สาวใช้และแม่นมรอต้อนรับ เนื่องจากคุณพ่อและคุณแม่ท่านไปทำงานที่ต่างประเทศจะไม่กลับหลายเดือน นายน์เหนือพยักหน้า ยิ้มรับและไหว้กลับเช่นทุกครั้งแล้วรีบเดินขึ้นห้อง ถอนชุดเพื่ออาบน้ำขจัดคราบเหงื่อออก แต่งตัวอย่างรวดเร็วก่อนจะล้มลงสู่เตียงนอนขนาดคิงไซต์ เปลือกตาสีไข่ใกล้ปิดลงถ้าไม่ติดว่าได้ยินเสียงเคาะประตูเสียก่อน
เสียงเคาะประตูสามครั้งดังขึ้น ยังไม่ได้ทันขานรับประตูก็เปิดพรวดเข้ามาอย่างถือวิสาสะพร้อมกับการปรากฏตัวของร่างเล็กในมือถือตุ๊กตาหมีและอยู่ในชุดนอนเรียบร้อย นายน์เหนือขมวดคิ้วสงสัยแต่ไม่ถือโทษโกรธอะไร ร่างเล็กเดินดุ่มๆมาที่เตียงนอน เขาเห็นใบหน้ารูปไข่กะพริบตามองในความมืดเนื่องจากไม่ได้เปิดไฟและตอนนี้ก็เริ่มจะค่ำแล้ว
‘นาวา’ เสียงทุ้มกล่าวเบาๆ หลังจากที่ได้ยินเสียงแสดงว่ายังตื่นอยู่เจ้าของชื่อนาม ‘นาวา’ ก็โยนตุ๊กตาไปยังที่ว่างข้างๆร่างสูงก่อนจะเข้ามานอนทาบตรงนั้นตาม ‘วันนี้จะนอนด้วยหรือครับ’ เขาถาม ปกตินาวาก็ชอบมาเล่นเกมจนดึกเลยได้นอนด้วยกันบ่อยๆ ถึงแม้บ้านของร่างเล็กก็ตั้งอยู่แค่ข้างๆคฤหาสน์ของเขาก็ตาม
การที่นาวาส่ายหัวทำให้นายน์เหนือต้องขมวดคิ้วงง ก่อนจะทำหน้าตาตื่นเมื่อร่างบางลุกขึ้นมานั่งคร่อมบนตักแล้วพูดด้วยน้ำเสียงยั่วยวน
‘เหนือ กูอยาก’
คำว่า ‘อยาก’ ของนาวานั้นเดาได้ไม่ยากเลยสักนิด นาวาเป็นคนพูดตรงๆบางทีก็ตรงมากจนทำให้เขารู้สึกอายแทน
ร่างสูงชะงักไปนิดอยากตอบรับแต่สังขารตอนนี้มันไม่พร้อม จะไม่เอาเลยก็น่าเสียดาย พวกเขาสองคนเป็นแฟนกัน เรื่องแบบนี้จึงเป็นเรื่องปกติได้ทำแต่ก็ทำไม่บ่อยเท่าไหร่ ทั้งๆที่นายน์เหนือก็เป็นผู้ชายที่เรียกได้ว่า ‘เซ็กส์จัด’ อยู่พอตัว แต่เรื่องนี้กลับนับครั้งได้เลย เนื่องจากอยากแต่ร่างเล็กไม่ยอม ดังนั้นโอกาสที่นาวาเป็นคนขอมาเองแบบนี้มันจึงสำคัญต่อเขามาก
‘วันอื่น… ได้ไหมครับ’
‘ไม่!!!!’ โดนปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย เขาเม้มปากพร้อมๆกับที่มือบางเริ่มล้วงเข้าไปในกางเกงนอนของเขา
‘นา…วา’ อาการเสียวซ่านผุดขึ้นมาทันที คนตรงหน้าก้มลงมาจูบ เลียไปทั่วซอกคอ พออารมณ์เกิดเหตุกามก็เกิดขึ้นด้วย น่าเสียดายที่วันนั้นได้แค่หนึ่งครั้งเขาก็ดันหลับไปเสียก่อน ทิ้งให้ร่างเล็กยังอารมณ์ค้างคาอยู่คนเดียว พอตื่นขึ้นมาก็พบว่านาวางอนและไม่ให้แตะตัวอีกเลยเป็นเวลาสองเดือน
“หึ” พอคิดถึงตอนนั้นเขาก็แอบที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ ตั้งใจจะอ่านบรรทัดสุดท้ายให้จบก็มีเสียงขัดสมาธิขึ้นมาก่อน
“เหนือ ไปกันเถอะกูได้หนังสือแล้ว” ร่างเล็กเดินยิ้มร่ามาพร้อมกองหนังสือมากมายที่ถืออยู่ในมือซึ่งทั้งหมดก็ล้วนแล้วแต่เป็น หนังสือการ์ตูน นายน์เหนือพยักหน้าก่อนจะหันไปขโมยหอมแก้มแดงไปหนึ่งที นาวายักไหล่ไม่ได้ใส่ใจ “ป่ะๆ รีบไปจ่ายอยากไปกินไอติมด้วย”
“ครับ งั้นเอาเล่มนี้ไปด้วยนะ” เขาบอกชูหนังสือในมือที่ปิดหน้าปกเอาไว้ไม่ให้เห็น
“อื้อ” คำตอบรับง่ายๆแต่กลับน่ารักในความรู้สึกทำให้เขาต้องไปขโมยหอมแก้มมาอีกหนึ่งที แต่ครั้งนี้โดนตีหัวด้วยหนังสือ ตามจริงก็ไม่คิดจะเอาหรอกแต่เมื่อกี้เหลือบไปเห็นบรรทัดสุดท้ายอ่านแล้วมันโดนใจดี
รักเมียต้องยอมเมีย เพราะว่าเมียไม่ยอมใคร
รักเมียต้องเข้าใจ ไม่มีใครใหญ่กว่าเมีย
นั้นสินะ คงไม่มีใครที่จะใหญ่จนคับหัวใจของเขาเท่า ‘เมีย’ คนนี้จริงๆ
“รักนะครับ นาวาของเหนือ”
คำบอกรักธรรมดาที่จะช่วยยืนยันความรักของเรา
ตลอดไป
จบ