{Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: {Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**  (อ่าน 92422 ครั้ง)

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม






It' you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'

 


 

คนนึงเดินตามความฝันจนได้อยู่จุดที่สูงที่สุด  แต่ไม่รู้เลยว่าตัวเองได้สร้างอีกหนึ่งชีวตขึ้นมา

.............................................................

กลับอีกคนที่ต้องละทิ้งความฝันไว้ข้างหลัง  เพื่อที่จะเก็บอีกหนึ่งชีวิตไว้

 

 


ไค/คิมจงอิน (อายุ21ปี)

นักร้องซุปเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งของเกาหลีตอนนี้  เป็นไอดอลที่มีอิทธิพล

กับแฟนคลับมากที่สุดในบรรดาไอดอลทั้งหมด สังกัดค่าย HK Entertainmen

 

 

โอเซฮุน(อายุ21ปี)

คุณแม่ยังสาว(?) เจ้าของร้าน Indy cafe ที่เป็นเหมือนศูนย์รวมวัยรุ่น

ลูกชายคนเล็กของคุณนายคิมและประธานโอ เจ้าของค่ายเพลงชื่อดังอย่าง HK Entertainment

 

 


จีซอง(อายุ3ปี)

ลูกชายสุดที่รักของหม่าม๊าเซฮุน เด็กน้อยน่ารัก แสนซุกซน

ที่ฉลาดเกินวัย ขวัญใจลูกค้าร้าน Indy cafe มีแฟนคลับตัวเองตั้งแต่เด็ก

 

 

........................................................................................

 

 

พยายามถอยห่าง......เพราะกลัวเจ็บ

พยายามจะไม่เก็บ......เรื่องราวของเราไว้

พยายามจะหยุดรักนาย......ครั้งใด

แต่หัวใจกลับไม่เคยทำได้......สักที




 


  คำว่ารักที่เคยบอกมันยังมีความหมายอยู่มั้ย? คำสัญญาที่เคยมีให้กันนายยัง

จำมันได้รึเปล่า? ที่เคยบอกว่าจะอยู่ข้างๆกันตลอดไป แล้วตอนนี้นายไปอยู่ที่ไหน?




 


เพราะรักจึงยอมปล่อยมือ คำสัญญาที่เคยบอกไว้วันนั้น

ตอนนี้ฉันคงทำให้นายไม่ได้แล้ว  เพราะฉันต้องรักษาสิ่งที่สำคัญที่สุดของฉันไว้เหมือนกัน

 

 


หม่าม๊าฮับป๊ะป๋าไปไหน จีซองจะไปหาป๊ะป๋า!!!




 

 

 

 

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

 

มี่ขอฝากนิยายเรื่องใหม่อีกหนึ่งเรื่องของมี่ด้วยนะค่ะ



 เรื่องนี้ก็เป็นแนว Mpreg ท้องได้ เหมือนกันค่ะ

::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::: 

 

 

 

ดีค่ะ!!!! เราชื่อ'มี่' เพิ่งจะยี่สิบต้นๆ จะเรียก 'พี่มี่' 'น้องมี' 'ไอ่มี่' หรือยังไงก็แล้วแต่สะดวกเลย

เราเป็นนักเขียนมือใหม่เพิ่งจะเริ่มแต่งนิยายเป็นของตัวเอง ปกติก็เป็นคนอ่านมาตลอด

แต่ที่ต้องมาแต่งเองเพราะว่ามันไม่ค่อยมีแนว 'mpreg' 'ผู้ชายท้องได้' แบบที่เราชอบสักเท่าไหร่

เราก็เลยเริ่มแต่งซะเลย ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อสนองความต้องการของตัวเองแท้ๆ ใครที่ชอบคล้ายๆกัน

ก็เข้ามาอ่ามาแลกเปลี่ยนความคิดกันได้นะคะ ส่วนคนที่ไม่ชอบแนวนี้เลยก็ลองเปิดใจ

ลองอ่านกันสักนิดถ้าไม่ชอบไม่ใช่แนวจริงๆก็กดปิดไปได้เลยค่ะ ให้นิยายมันเป็นแค่นิยาย

เปิดใจให้กว้างและสนุกไปกับมันไม่ต้องไปคิดอะไรมากมาย ไม่ต้องไปอิงกับความเป็นจริงให้มาก

เพราะมันมีไว้ให้เราอ่านเพื่อให้ผ่อนคลายพักสมองจากเรื่องเคลียดในชีวิตจริง แล้วโลดแล่น

มีความสุขสนุกหรรษาไปตัวละคร จะยังไงก็แล้วแต่ฝากผลงานของเราด้วยนะคะ

ถึงตอนนี้อาจจะยังแต่งได้ไม่ดีเท่าไหร่เพราะเราไม่ใช่นักเขียนอาชีพเราคือมือใหม่หัดแต่ง

แต่เราก็จะพยายามพัฒนาไปเรื่อยๆ เอาความคิดและคำแนะนำของทุกคนมาปรับแก้

 

สนับสนุน 'ไอ่มี่' คนนี้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ >3<!!

 

 

 

 

 

 

- ศิลปินในรูปไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับนิยายเรื่องนี้ รูปมีไว้เพื่อให้จิ้นเท่านั้น

- นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นตามจินตนาการของผู้เขียน ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำความเสียหายแก่ศิลปิน

- นิยายเรื่องนี้เป็นแนว mpreg 'เคะท้องได้' ท้องโดยไม่มีหลักการใดๆ ไม่มีเหตุผลรองรับ

- เรื่องนี้เป็น y เรื่องแรก เพราะคนแต่งมันเป็นวายตัวแม่ ++ขอแค่ได้จิ้น++

- ฝากช่วยเป็นกำลังใจให้ ลูกหมูตัวน้อยๆๆที่ตามหาป๊ะป๋า ด้วยน้าาาาาาา
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-12-2015 18:40:34 โดย Mimzmie »

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 1

HK Entertainment

"One two three four jump Stop.หยุดก่อน เป็นอะไรไปเซฮุน เต้นผิดตลอดเลย สีหน้าไม่ค่อยดีเลยนะไม่สบายรึเปล่า"

ครูสอนเต้นตัวเล็กถามขึ้น เมื่อเห็นสีหน้าซีดๆของนักเรียนในคลาส

"รู้สึกเวียนหัวนะฮะพี่เลย์ สงสัยเมื่อคืนอ่านหนังสือดึกไปหน่อย เลยนอนไม่พอนะฮะ" เด็กหนุ่มตัวขาวตอบด้วยเสียงอ่อนแรง

"ถ้าอย่างนั้นวันนี้พอแค่นี้ก่อนพรุ่งนี้ค่อยซ้อมต่อ อ่อ!จงอินก่อนพี่จะเข้ามาี่นี่พี่เจอท่านประธานนะท่านฝากให้พี่มาบอกนา่ยว่า

ฝึกเสร็จแล้วเข้าไปหาท่านด้วย ส่วนเซฮุนก็กลับไปพักซะถ้ายังไมดีขึ้นก็ไปหาหมอ ร่างกายของเราต้องเตรียมพร้อม

ตลอดเวลานะเพราะในบรรดาเด็กฝึกทั้งหมด นายสองคนมีโอกาสได้เดบิวต์เร็วๆนี้แน่ เชื่อสิ พี่ไปก่อนนะ" พูดจบร่างเล็ก

ของครูสอนเต้นก็ออกจากห้องไปทันที

"โอ๊ย...ไม่ไหวแล้ว เหนื่อย!!!" หลังจากครูสอนเต้นออกไปร่างบางก็ทิ้งตัวลงนอนกับพื้นห้องซ้อมทันที

"อะไรกันคุณกระต่าย แค่นี้บ่นเหนื่อย วันนี้ซ้อมน้อยกว่าทุกวันเลยนะ" ร่างสูงเอ่ยแซวและนั่งลงข้างๆร่างบาง

"ก็จริงนี่คุณหมี เวียนหัวไปหมด ไม่ไหวแล้วขอนอนก่อนนะ นายก็ไปหาท่านประธานสิไปช้าเดี๋ยวก็โดนว่าหรอก"

พูดจบร่างบางก็หลับตาลง

"อืม..นายก็นอนพักไปก่อนนะถ้าไม่ดีขึ้นเดี๋ยวกลับมาจะพาไปหาหมอ" ร่างสูงพูดบอกพลางปัดผมที่ปรกหน้าร่างบางออก

ก่อนจะก้มลงจุ๊บเร็วๆที่ปากบางๆ และเดินผิวปากอย่างอารมณ์ดีออกจากห้องไป

"เดี๋ยวเถอะจงอิน!!!" ร่างบางพูดดุออกมาทั้งที่ยังไม่ลืมตา ก่อนจะหลับลงไปอย่างรวดเร็ว

++ ปิ๊บ ปิ๊บ ++

เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้คนที่หลับไปด้วยความอ่อนเพลียต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมา

"ยอโบเซโย" ร่างบางกรอกเสียงรับสายด้วยความงัวเงีย

"ซ้อมเสร็จรึยัง อยู่ที่บริษัทรึป่าว" ปลายสายถามกลับมา

"เสร็จแล้วฮะอยู่ห้องซ้อม พี่มีอะไรรึเปล่า" ร่างบาตอบกลับด้วยคำถาม

"พอดีพี่พาแม่มาทำธุรแถวนี้ แม่เค้าอยากเจอเราน่ะ เลยให้โทรหาจะแวะไปรับมาทานข้าวด้วยกัน เสร็จแล้วก็รีบลงมาล่ะ

รถจอดอยู่ที่เดิมนะ" พูดจบคนปลายสายก็วางสายไปทันที

'เอาไงดีเนี่ยจงอินก็ยังไม่มา เขียนโน๊ตทิ้งไว้แล้วกัน ตั่งแต่ขอออกมาอยู่หอนานๆทีจะได้เจอคุณแม่ ซ้อมหนักตลอด'

ร่างบางคิดในใจพลางเขียนโน๊ตทิ้งไว้ให้ร่างสูง เก็บของเสร็จก็เดินลงมาจากตึกที่มีแฟนคลับมากมายที่มายืนรอศิลปิน

ที่ชอบอยู่ข้างหน้าบริษัทแม้ว่าจะมืดแล้วก็ตาม เดินตรงไปังรถคันใหญ่ที่จอดอยู่ฝั่งครงข้าม แต่ในขณะที่กำลังจะเปิด

ประตูรถนั้น ร่างบางก็รู้สึกหน้ามืดจนหมดสติล้มลงไปกับพื้นถนน ทำให้คนที่รออยู่ในรถนั้นตกใจ รีบลงจากรถออกมาดู

และพาไปโรงพยาบาลทันที



โรงพยาบาล


"อือ..ผมเป็นอะไรไปฮะ" ร่างบางลืมตาขึ้นมาเห็นห้องไม่คุ้นตาแต่ก็ดูรู้ว่าเป็นโรงพยาบาลและยังมีแม่และพี่ชายนั่งเฝ้าตนอยู่

"เราเป็นลมไปนะ พี่กับแม่เลยพามาโรงพยาบาล" พี่ชายร่างบางเป็นคนตอบ

"แล้วหมอว่ายังไงฮะ" ร่างบางถามต่อ

"ยังไม่ได้บอกอะไรเลย หมอเค้ารอให้ลูกตื่นก่อนนะ เป็นยังไงบ้างฮะเรา แม่ตกใจแทบแย่เลยรู้มั้ย ที่เห็นลูกเป็นลม

ล้มลงไปแบบนั้น ทำไมไม่ดูแลตัวเองให้ดีนะเซฮุน" คุณนานคิมบ่นลูกชายคนเล็กด้วยความเป็นห่วง

  ....ก๊อก....ก๊อก.....

"คุณเซฮุนฟื้นแล้วนะคะ หมอจะมาแจ้งผลตรวจให้ทราบคะ " ยังไม่ทันที่ร่างบางจะได้พูดอะไรหมอและพยาบาลก็เดินเข้ามา

"ลูกดิฉันเป็นอะไรมากรึป่าวคะ" คุณนายคิมถาม

"ไม่เป็นอะไรมากหรอกคะที่หมดสติไปเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ หมอขอถามคุณเซฮุนเพิ่มหน่อยนะคะว่าก่อนหน้านี้คุณมี

อาการผิดปกติยังไงบ้างคะ" หมอสาวถามอย่างสุภาพ

"ก็เวียนหัวแล้วช่วงนี้ก็รู้สึกหน้ามืดบ่อยๆนะฮะ เมื่อเช้าตื่นมาก็อาเจียนด้วย" ร่างบางตอบ

"ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงหรอกคะ อาการของคุณเซฮุนเป็นอาการทั่วไปของคนตั้งครรภ์น่ะคะ" หมอสาวบอก

"เดี๋ยวนะ คุณหมอบอกว่าลูกดิฉันเป็นอะไรนะ" คุณนาคิมถามด้วยความไม่มั่นใจ

"ตั้งครรภ์คะ คุณเซฮุนตั้งครรภ์ได้ 12 สัปดาห์แล้วคะ" คุณหมอยืนยันคำตอบ

"แต่ลูกดิฉันเป็นผู้ชายนะคะ จะท้องได้ยังไง" คุณนายคิมถามอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

"คุณแม่อาจจะยังไม่ทราบนะคะว่าผู้ชายที่มีฮอร์โมนเพศหญิงมากกว่าปกติสามารถตั้งครรภ์ได้ค่ะ แล้วนี่ก็ภาพอัลตร้าซาวด์

ของเด็กในครรภ์ตอนที่เราตรวจคุณเซฮุนน่ะคะ เด็กแข็งแรงมาก หมอฉีดยาบำรุงให้แล้วเดี๋ยวคุณพยาบาลจะเอายามาให้

และเคลียร์ค่าใช้จ่ายนะคะ  เสร็จเรียบร้อยแล้วก็กลับบ้านได้เลย หมอขอแสดงความยินดีกับว่าที่คุณแม่คนใหม่ด้วยนะคะ"

หมอสาวบอกและยื่นภาพถ่ายสองใบให้กับเซฮุนด้วยความยินดีและเดินออกไป เหลือแต่สามแม่ลูกที่ยังตกตะลึงกับสิ่ง

ที่คุณหมอบอก

"แม่ฮะ พี่ฮะ ผมท้อง" ร่างบางเอ่ยขึ้นราวกับเสียงกระซิบด้วยใบหน้าที่สับสน

"ไม่เป็นไรนะเซฮุน ไว้เราค่อยคุยเรื่องนี้กันพร้อมกับคุณพ่อพรุ่งนี้นะลูกจะได้ช่วยกันหาทางแก้ไข กลับไปพักผ่อนที่บ้าน

กันเถอะวันนี้ลูกเหนื่อยมามากแล้ว" คุณนายคิมบอกด้วยน้ำเสียงเบาหวิว

"แต่แม่ครับ" ลูกชาคนโตแ้ย้งขึ้น

"เชื่อแม่เถอะจุนมยอน เอาไว้คุยกันพรุ่งนี้พร้อมคุณพ่อ" เธอรู้ว่าลูกชายคนโตของเธอคิดอะไร เพราะเธอก็อยากรู้เหมือนกัน

แต่วันนี้เธอเหนื่อยเกินไปที่จะจัดการอะไรอีก ไว้ค่อยคุยกันตอนที่มีสติมากกว่านี้ดีกว่า  ที่สำคัญรอคุยพร้อมสามีเธอดีกว่า

เพราะเซฮุนคือลูกคนโปรดของประธานโอ ที่ดูจะหวงมากกว่าจุนมยอน

 

HK Entertainment
 
  ก๊อก....ก๊อก

"เชิญ"

"พี่เลย์บอกว่าท่านเรียกให้ผมมาพบหรอครับ"

"ฉันเรียกนายมาคุยเรื่องเดบิวต์ของนายนะ" ประธานโอเอ่ยเสียงเรียบ

"อะไรนะครับ เดบิวต์หรอ จริงหรอครับ" ร่างสูงถามอย่างไม่เชื่อหู

"อืม อีกหกเดือนต่อจากนี้คือวันเดบิวต์ของนาย เตรียมตัวให้พร้อมล๊ะ แผนสำหรับวันเดบิวต์ของนายได้วางไว้แล้วอย่าทำให้

ฉันต้องผิดหวังที่เลือกนาย ฉันมีเรื่องจะบอกนาแค่นี้แหละที่เหลือมินซอกและจงแดจะเป็นคนจัดการนายเอง ตั้งใจเข้าล๊ะ"

"ขอบคุณครับ ผมจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอน แต่ท่านประธานครับแล้เซฮุนล๊ะครับ" ร่างสูงถามไปถึงคนตัวบาง

"มันยังไม่ถึงเวลา ตอนนี้บริษัทมีโปรแผนที่จะปั้นศิลปินเดี่ยวน่ะ แล้วคนที่ฉันเลือกก็คือนาย ส่วนเซฮุนไม่ต้องเป็นห่วง

คนมีความสามารถอย่างเค้าได้เดบิวต์แน่นอน แต่นี่ยังไม่ใช่สำหรับเค้า ตอนนี้นายแค่กลับเตรียมตัวให้พร้อมเถอะ

ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องอื่นหรอกสนใจแค่ตัวนายก็พอ โอกาสเป็นของนายแล้วอย่าปล่อยให้หลุดมือไป" ประธานโอบอกด้วย

สีหน้าเรียบเฉย

"ครับ ขอบคุณอีกครั้งที่ให้โอกาสผม" ร่างสูงเดินออกจะห้องประธานบริษัทด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้มและมีความสุข โอกาสของเค้า

มาถึงแล้ว เค้ากำลังจะมีเพลงเป็นของตัวเอง ความฝันของเค้ากำลังจะเป็นจริง

"เซฮุน!! ฉันมีข่าวดีจะมาบอก อะ..อ่าว หายไปไหน" เมื่อร่างสูกลับมาถึงห้องซ้อมของตัวเอง กำลังจะบอกข่าวดีของตน

ให้ใครอีกคนได้ร่วมยินดีด้วย แต่เมื่อเปิดประตูเข้ามากลับไร้วี่แววของสิ่งมีชีวิต เหลือเพียงแต่กระดาษโน๊ตแผ่นเล็กที่

แปะติดกระจกไว้ แค่ว่า - วันนีไม่กลับหอนะคุณหมี คุณแม่มารับไปกินข้าวที่บ้าน มีอะไรโทรมานะ จากคุณกระต่าย แบร่ :P -

ร่างสูงได้แต่ขำกับความน่ารักของเจ้าของโน๊ต ตั้งแต่รู้จักกับเซฮุนมาจากความเป็นเพื่อนจนเลื่อนเป็นแฟน เค้าก็ไม่เคยเจอ

หรือรู้จักครอบครัวของเซฮุนเลย ส่วนเค้านั้นไม่มีญาติที่ไหน ตัวคนเดียวครอบครัวเค้าจากไปด้วยอุบัติเหตุเมื่อสองปีที่แล้ว

แต่พ่อและแม่ของเค้ายังทิ้งมรดกไว้ให้พอใช้ทั้งค่าเรียนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ทำให้เค้าเข้ามาเป็นเด็กฝึกอย่างเดียวสบายๆ

ได้โดยที่ไม่ต้องทำงานพิเศษไปด้วย

"คุณกระต่ายอยู่ที่ไหนครับ" ร่างสูงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาคนรักทันที

"อยู่บ้านน่ะ มีอะไรรึป่าวจงอิน"

"ฉันมีข่าวดีจะบอกด้วยล๊ะ" ร่างสูงบอกด้วยเสียงตื่นเต้น

"ฉันก็มีเรื่องจะบอกเหมือนกัน" ร่างบางบอกด้วยเสียงนิ่งเรียบ

"เรื่องอะไรหรอ พูดเรื่องของนายก่อนก็ได้" ร่างสูงถามด้วยความสงสัย

"พูดเรื่องของนายก่อนเลย เหมือนจะเป็นเรื่องดีมากๆเลยนะเสียงของนายดูมีความสุขมากเลย"

"ดีมากๆเลยแหละ ฉันจะได้เดบิวต์แล้วนะเซฮุน ที่ท่านประธานเรียกฉันไปเพื่อที่จะคุยเรื่องนี้น่ะ ฉันดีใจมากที่สุดเลย

โอกาสของฉันมาแล้ว สิ่งที่ฉันรอคอยมาตลอดชีวิตกำลังจะเป็นความจริงแล้วนะเซฮุน" ร่างสูงบอกด้วยน้ำเสียงที่มี

ความสุขมากจนคนฟังรู้สึกได้

"แล้วมีใครได้เดบิวต์กับนายบ้างล๊ะ" ร่างบางถามด้วยเสียงสั่นเคลือน้อยๆ

"มีแค่ฉันคนเดียว บริษัทต้องการที่จะทำศิลปินเดี่ยวนะ แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะฉันถามท่านประธานให้นายแล้วท่านบอกว่า

นายได้เดบิวต์แน่นอน นายเป็นอะไรไปเซฮุน นายไม่ดีใจกับฉันบ้างหรอ" ร่างสูงถามเมื่อจับความผิดปกติในน้ำเสียง

ของร่างบางได้

"ต้องดีใจสิ ดีใจมากๆ จนพูดไม่ออกเลยแหละ ก็นายรอวันนี้มานานแล้วนิ ฉันยินดีด้วยจริงๆน้าาา..." ร่างบางทำเสียงร่าเริง

กลบเกลื่อนความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง

"เพราะฉันมีนายอยู่ข้างๆและคอยเป็นกำลังใจให้ฉันสู้ต่อในวันที่ฉันท้อไง ถ้าไม่มีนายฉันก็ไม่มีแรงสู้จนถึงทุกวันนี้หรอก

ว่าแต่ที่นายบอกว่ามีเรื่องจะบอกเรื่องอะไรหรอ"

"ไม่มีอะไรหรอก แค่ฉันจะบอกว่าไปหาหมอมาแล้วน่ะ หมอบอกว่าฉันพักผ่อนน้อยเกินไป"

"ดีแล้วฉันจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง นี่ๆพรุ่งนี้วันหยุดของเรา เราไปเที่ยวกันมั้ย ฉันจะพานายไปกินชานมร้านโปรดนายไงไปนะ"

"ก็ได้ แต่ขอดูก่อนนะว่าจะออกไปตอนไหนได้ เดี๋ยวฉันโทรบอกอีกทีแล้วกัน"

"โอเค นอนพักผ่อนได้แล้วดึกแล้วนะ พรุ่งนี้เจอกัน รักนะครับคุณกระต่าย ฝันดีครับ" ร่างสูงว่างสายไปแล้วแต่ร่างบางก็ยัง

ไม่ได้นอนพักผ่อนอย่างที่อีกคนบอกไว

  ' รักเหมือนกัน......แม่ควรจะทำยังไงดีลูก แม่ขอโทษที่ไม่ได้บอกพ่อเค้าไปเรื่องของหนู ไม่ใช่ว่าลูกไม่สำคัญ แต่

ความฝันที่พ่อเค้าทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจและรอคอยเวลานี้มาตลอด แม่คงจะทำให้เรื่องของเราสองคนไปขวางความ

สำเร็จที่พ่อเค้าใฝ่ฝันมาตลอดไม่ได้ แค่คอยให้กำลังใจพ่อเค้าห่างๆก็พอ ลูกอยู่กับแม่แค่สองคนก็พอเนาะ แม่รักลูกมากนะ'

ร่างบางใช้มือนึงถือรูปถ่ายอัลตร้าซาวด์ อีกมือนึงลูบท้องที่ยังคงแบนราบเพราะอายุครรภ์ยังน้อยเพื่อส่งผ่านความรู้สึกไปถึง

ลูกน้อย ปล่อยให้น้ำตาไหลรินออกมาพร้อมกับความคิดดยู่อย่างนั้น ตอนนี้เค้าสับสนไปหมด ทั้งดีใจและเสียใจปะปนกัน

ไปหมด ยินดีที่คนรักของเค้ากำลังจะได้ทำในสิ่งที่หวังมาตลอด เพราะนั่นคือความสุขของคนรัก ดีใจที่ในท้องของเค้ามีอีก

หนึ่งชีวิตที่เกิดขึ้นมาจากความรักของเค้าทั้งสองคน และเสียใจที่เค้าบอกเรื่องที่น่ายินดีนี้กับคนที่เป็นพ่อไม่ได้ เสียใจที่ไม่

สามารถรักษาความสมบูรณ์ของครอบครัวให้พร้อมหน้า พ่อแม่ลูกได้ แต่เพื่อความสุขและความสำเร็จของคนรักเค้ายอม

ที่จะเก็บเรื่องทุกอย่างไว้คนเดียว และเป็นทั้งพ่อและแม่ให้ลูกของเค้า

 






...

เป็นครั้งแรกที่เอามาลงในเว็บนี้ ตอนแรกตั้งใจไว้ว่าถ้าจะลงนิยาย

จะลงที่นี่เปนเรื่องแรกแต่สรุปคือ คนแต่งโง่ลงไม่เป็น

ฝากนิยายเรื่องนี้ด้วยนะคะ

ออฟไลน์ เข็มวินาที

  • Those who make the worst use of their time are the first to complain of its shortness
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
มารอเรื่องใหม่ รู้สึกจะได้กลิ่นมาม่า จะมีรึเปล่านัเรื่องนี้  :hao7:

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 2




บ้านตระกูลโอ

 

 “คุณคะฉันมีเรื่องจะคุยด้วย” คุณนายคิมเอ่ยขึ้นในขณะที่สมาชิกครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า

“เรื่องอะไรกันคุณทำไมต้องทำหน้าเครียดกันขนาดนั้น” ประธานโอถามขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าของทุกคน

“เซฮุนลูกจะเป็นคนบอกคุณพ่อเองหรือจะให้แม่บอก” คุณนายคิมถามลูกชายคนเล็ก

“บอกเองฮะ” ร่างบางตอบด้วยเสียงแผ่วเบา

“ไหนมีเรื่องอะไรบอกพ่อมาสิเซฮุน” ประธานโอถามลูกชายอีกครั้งเมื่อเห็นทุกคนเงียบไป

“ผมท้องฮะพ่อ” ร่างบางบอกด้วยน้ำเสียงสั่นเคลือ

“ลูกว่ายังไงนะ พูดใหม่สิ” ประธานโอถามอย่างไม่เชื่อหู

“ผมท้องฮะพ่อ ผมกำลังจะมีลูก” ร่างบางบอกด้วยใบหน้าเปื้อนน้ำตา

“ใคร มันเป็นใคร!! แกไปท้องกับใครมาห๊ะ!!!” ประธานโอถามด้วยเสียงที่เกรี้ยวกราด พลางเขย่าตัวลูกชายคนเล็กของตน

ร่างบางได้แต่ส่ายหน้าเป็นคำตอบ  ร้องไห้สะอื้นแทบจะขาดใจอยู่อย่างนั้น

“คุณคะพอเถอะ แค่นี้ลูกก็เสียใจมากแล้ว” คุณนายคิมบอกและพยายามแกะมือของสามีออกจากตัวลูกชาย

“เสียใจหรอ แล้วผมละ ผมไม่เสียใจเลยรึไงที่ลูกชายที่ผมหวังไว้ว่าจะสานต่อความฝันของผม คุณรู้มั้ยวันที่เซฮุนมาบอกผม

ว่าจะไปเป็นเด็กฝึกในบริษัทผมดีใจแค่ไหน ตั้งแต่ตอนนั้นผมหวังมาตลอดว่าจะต้องมีซักวันนึงที่ผมจะมีโอกาสไปยืนดู

วันที่ลูกโลดแล่นเป็นดาวอยู่บนเวที แต่ตอนนี้มันจะไม่เป็นแบบนั้นอีกแล้ว บอกพ่อมาสิเซฮุนว่ามันเป็นใครพ่อของไอ่เด็กใน

ท้องแกมันเป็นใครห๊ะ มันเป็นใคร” ประธานโอพูดความในใจออกมาหมด มือก็ทุบตีร่างบางของลูกชายคนเล็ก ที่เป็นดัง

ดวงใจของเค้ามาตลอดเป็นลูกที่ทำให้เค้ามีความสุขตั้งแต่วันแรกที่เกิดมา จะบอกว่าเค้ารักลูกไม่เท่ากันก็ได้เพราะเซฮุน

นอกจากหน้าตาที่เหมือนแม่แล้วนอกนั้นทั้งความคิด ความอ่านและนิสัย เซฮุนเหมือนเค้ามากเลยทำให้คุยกันได้ทุกเรื่อง

อีกทั้งยังขี้อ้อน ช่างพูด ช่างเจรจาจนทำให้เค้าหลงลูกมาก แถมยังมีความฝันเหมือนเค้าตอนที่ยังเป็นเด็กฝึกเมื่อยี่สิบกว่าปี

ก่อนมากๆเรียกได้ว่าถอดแบบเค้ามาเลยก็ว่าได้ เพราะตอนนั้นเค้ามีจุนมยอนเลยต้องล้มเลิกความฝันนั้น แต่เพราะเค้า

รักเสียงเพลงรักเสียงดนตรีเลยมาเปิดค่ายเพลงเล็กๆของตัวเอง ล้มลุกคลุกคลานมาตลอด กัดฟันสู้จนมาเป็นบริษัทใหญ่

และมั่นคงอย่างนี้ เค้าแค่หวังว่าลูกๆของเค้าไม่คนใดก็คนนึงจะได้ไปยืนอยู่บนเวทีนั้นแทนเค้าแต่ไม่เลยจุนมยอนชอบที่จะ

อยู่เบื้องหลัง ขอเป็นโปรดิวเซอร์แทน เค้าก็ไม่ขัดเพราะมันคือความสุขของลูก จนมาวันนึงเซฮุนเดินมาบอกเค้าว่าไปสมัคร

เป็นเด็กฝึกที่บริษัทมา มันทำให้เค้าดีใจมากและมีความหวังมาตลอด

“พ่อครับพอเถอะ อย่าตีน้องอีกเลยน้องเจ็บไปหมดแล้วครับ มันอันตรายกับหลานนะครับ” จุนมยอนทนไม่ได้ที่เห็นพ่อทุบ

ตีน้องอยู่อย่างนั้น เอาตัวไปขวางกอดน้องไว้ให้พ่อตัวเองแทน ถ้ามันจะทำให้พ่อเค้าหายโกรธน้องได้บ้าง

เพราะเซฮุนคือความหวังของพ่อเค้ามาตลอด จะไม่ให้ท่านเสียใจก็ไม่ได้ แต่ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นมาแล้ว

ก็ต้องยอมรับกลับสิ่งที่เกิดขึ้น อย่างน้อยเด็กที่กำลังจะเกิดขึ้นมาก็มีเลือดเนื้อเชื้อไขของน้องเค้าครึ่งนึงไม่ว่าพ่อเด็กจะเป็น

ใคร เด็กในท้องของเซฮุนก็คือหลานของเค้าคนนึง

“ไปเอามันออกซะเซฮุน” ประธานโอบอกด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ

“ไม่ฮะ ผมจะไม่เอาลูกออก ผมขอเถอะนะพ่อ ขอร้องละครับ ให้ผมได้เก็บเค้าไว้เถอะฮะ นะฮะพ่อ ผมขอร้อง”

 ร่างบางทรุดลงกอดขาผู้เป็นพ่อด้วยน้ำเสียงแทบขาดใจ

“คุณคะฉันขอเถอะคะ อย่าให้ลูกทำอย่างนั้นเลย อย่างน้อยเค้าก็เป็นหลานเรา” คุณนายคิมที่ดูเหตุการณ์ตรงหน้าด้วย

ความเสียใจอยู่นาน เอ่ยขอร้องขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“พ่อครับเอาหลานไว้เถอะ ในเมื่อเค้าเกิดมาแล้วคุณพ่อยังจะทำร้ายเค้าได้ลงอีกหรอครับ” จุนมยอนเอ่ยขอร้องพลาง

เตือนสติของผู้เป็นพ่อ

“จุนมยอนแกเอามันไปเรียนกับแกที่ต่างประเทศด้วย” ประธานคิมพูดแค่นั้น แล้วเดินจากไปด้วยความผิดหวังและเสียใจ

“ลุกเถอะเซฮุนไม่ต้องร้องแล้วคุณพ่อท่านยอมแล้ว หยุดร้องได้แล้วเดี๋ยวหลานพี่ร้องตามนะ” จุนมยอนพยุงน้องขึ้นนั่งบน

โซฟา และกอดปลอบด้วยความโล่งใจ

“แม่ฮะ ผมขอโทษ” ร่างบางเอ่ยขอโทษอย่างรู้สึกผิดเมื่อหันไปเห็นคนเป็นแม่ที่นั่งร้องไห้ แทบขาดใจ

“ไม่เป็นไรจ๊ะ เรื่องมันผ่านมาแล้ว เลิกคิดมากได้แล้วนะลูก ถือซะว่ามันคือโชคชะตา ในเมื่อพระเจ้าประทานเค้ามาให้เรา

แล้วเราก็มีหน้าที่ ที่จะต้องดูแลเค้าต่อไป จะเป็นแม่คนอยู่แล้วเลิกร้องไห้ได้แล้วนะ ลูกจะต้องเข้มแข็งนะรู้ไหม” คุณนายคิม

เช็ดน้ำตาและเดินมากอด พูดปลอบคนตัวบางอีกคนนึง

“แต่คุณพ่อ” ร่างบางพูดขึ้น

“พ่อเค้าแค่เสียใจ เค้าไม่ได้เกลียดลูกหรอก เคยได้ยินไหมว่ารักมากก็เจ็บมาก ให้เวลาเค้าหน่อยนะลูก เดี๋ยวทุกอย่างก็จะดี

ขึ้นเอง เชื่อแม่เถอะ แม่ว่าเราไปพักผ่อนเถอะเหนื่อยมามากแล้ว” คุณนายคิมพูดบอก

“คุณแม่ฮะ ผมขอไปข้างนอกได้มั้ยฮะ วันนี้ผมนัดจงอินไว้ว่าจะไปฉลองให้ที่เค้าจะได้เดบิวต์เร็วๆนี้นะฮะ”

ร่างบางขออนุญาตคนเป็นแม่

“เราจะไหวไปหรอลูก” คุณนายคิมถามเมื่อมองดูลูกของตนที่ตาบวมแดงช้ำไปหมด

“ไหวฮะ จงอินเป็นเพื่อนคนเดียวในบริษัทที่ดีกับผม เดี๋ยวผมก็ต้องไปอยู่กับพี่แล้ว” ร่างบางขอร้องด้วยสีหน้าอ้อนวอน

“ก็ได้จ๊ะ ให้พี่เค้าไปส่งนะ ถ้ามีอะไรก็โทรหาแม่หรือโทรให้พี่เค้าไปรับนะ ลูกไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้วนะ” คุณนายคิมพูดสั่ง



"ฉันมาถึงแล้ว นายล๊ะอยู่ตรงไหนจงอิน ฉันมองไม่เห็นนายเลย" ร่างบางถามคนในสายเมื่อมาถึงจุดนัดพบ

"ฉันก็อยู่นี่ไงคุณกระต่าย" คนปลายสายตอบกลับมา

"อ๊ะ!! ตกใจหมด เล่นอะไรน่ะจงอิน" ร่างบางตกใจเมื่อมีคนมากอดจากด้านหลัง

"โอ๋ๆ ขอโทดนะครับคุณกระต่ายที่ทำให้ตกใจ" ร่างสูงบอกขอโทษด้วยสีหน้าทะเล้น

"นายมานานแล้วหรอ ไปอยู่ตรงไหนมาฉันไม่เห็นนายเลย" ร่างบางถามอย่างสงสัย

"ฉันเห็นตั้งแต่นายออกมาจากรถแล้ว เลยไปหลบอยู่ข้างหลังต้นไม้ตรงโน่นไง ว่าแต่ใครมาส่งนายหรอ"

ร่างสูงบอกและถามขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้

"พี่ชายฉันน่ะ ฉันว่าเราเข้าไปข้างในกันก่อนเถอะ ฉันร้อนแล้ว" ร่างบางตอบและชวนร่างสูงเข้าในร้านประจำ

"บ้านนายต้องรวยมากแน่เลย รถคันที่นายมามันแแพงมากเลยนิ อย่างนี้พอฉันได้เดบิวต์แล้วต้องขยันทำงานเก็บเงิน

ให้ได้เยอะๆแล้วแหละ จะได้มีเงินไปขอนายกลับพ่อแม่ แล้วเราก็จะมีลูกน่ารักๆกันสักสามคนเน๊าะ นายว่าอย่างนี้ดีมั้ย?"

ร่างสูงเล่าแผนการของอนาคตที่วางไว้ให้ล่างบางฟังอย่างมีความสุข

"อืม" ร่างบางฝืนยิ้มรับคำอย่างยากลำบาก

"นายเป็นอะไรไป ทำไมทำหน้าอยางนั้น ยังปวดหัวอยู่หรอ ไหนบอกว่าไปหาหมอมาแล้วไง" ร่างสูงถามเมื่อเห็นสีหน้าไม่สู้ดี

ของร่างบางพลางเอามือวัดอุณภูมิที่หน้าผากของร่างบาง

"ป่าวหรอก กินเสร็จแล้วเราไปเดินเล่นกันดีกว่า เราไม่ได้มาที่นี่กันนานแล้วเนาะ" ร่างบางบอกปัดพลางพูดเปลี่ยนเรื่อง

"อืม...ไปกันเลยเถอะ เดี่ยวจะเดินดูไม่ทั่ว" ร่างสูงพูดจบก็จูงมือร่างบางออกเดินทันที

"จงอินถ้านายได้เดบิวต์แล้วนายจะต้องมีความสุขให้มากๆนะ" ร่างบางพูดขึ้นในขณะที่ทั้งคู่เดินจูงมือกันเลือกซื้อของ

"แน่นอนอยู่แล้ว ฉันรอวันนี้มานานแล้วนี่ ทำไมนายพูดเหมือนจะไม่อยู่ข้างๆฉันต่อไปเลยล๊ะ" ร่างสูงถามอย่าหวาดระแวง

"ป่าวหรอก ฉันอยู่ข้างนายเสมอจงอิน ฉันแค่บอกเพราะว่าเคยเห็นพวกรุ่นพี่ที่เดบิวต์ไปแล้วดูเหนื่อยมากๆจนเหมือนไม่มี

ความสุขเลยน่ะ" ร่างบางเลี่ยงตอบกลับไป

"ฉันจะไม่เป็นแบบนั้นหรอเพราะฉันมีนายอยู่ข้างๆ รู้มั้ยเซฮุน ฉันรักนายมากเลยนะ และไม่คิดจะรักใครอีกไม่ว่าคนๆนั้นจะดี

สักแคไหนก็ตาม ฉันสัญญา ฉันจะพยามเพื่อวันข้างหน้าของเรา อยู่ข้างๆฉันต่อไปนะคุณกระต่าย" ร่างสูงบอกความรู้สึกที่มี

อยู่ในใจให้ร่างบางได้รับรู้ และมองสบตาร่างบางเพื่อยืนยันคำพูด

"อื้อ!! สู้ๆนะจงอิน ฉันก็รักนายมากที่สุดเลยคุณหมีของฉัน" ร่างบางบอกกลับ ด้วยน้ำตาคลอ ความรู้สึกอึดอัดที่มีอยู่ในใจมัน

แทบจะระเบิดออกมา ว่าเค้าทำไม่ได้ เค้าจะไม่อยู่เคียงข้างกับร่างสูงอีกต่อไป

"สู้ตาย!อยู่แล้วครับเพื่อคุณกระต่าย เรามาถ่ายรูปกันดีกว่า เดี่ยวเตรียมตัวเดบิวต์ฉันจะยุ่งมากๆเลยล่ะ คงไม่คอยมีเวลา

อยู่กับนายสักพักนึง มาถ่ายรูปไว้ดูตอนคิดถึงกันดีกว่า" ร่างสูงบอกพลางหยิบโทรศัพท์ออกมาเตรียมถ่ายรูป

"สนุกมั้ย?คุณกระต่าย" ร่าสูงถามขึ้นหลังจากที่ทั้งสองคน มานั่งเล่นที่สวนสาธารณะริมแม่น้ำ หลังจากที่เที่ยวกันมาทั้งวัน

"สนุกสิ วันนี้ฉันมีความสุขมากที่สุดเลยนะ ฉันจะจดจำวันนี้ไปตลอดเลย" ร่างบางตอบด้วยรอยยิ้มที่ฝืนออกมา

"พูดเหมือนกับเราจะไม่ได้มาเที่ยวด้วยกันอีกอย่างนั้นแหละ"

"ก็จริงนิ เดี๋ยวนายก็เป็นซุปตาร์แล้ว จะมาเดินเที่ยวไปทั่วอย่างนี้ไม่ได้หรอก" ร่างบางยู่หน้าตอบ

"ได้สิถ้าฉันจะทำซะอย่าง สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับฉันคือนายนะ ถ้านายต้องการอะไรฉันก็จะทำให้ทุกอย่า" ร่างสูงบอก

พลางรั้งหัวกลมๆของคนรักมาซบที่ไหล่ตน

"ถ้าอย่างนั้นฉันอยากให้นายใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนายอย่าทิ้งความฝันของนายนะเพราะมันคือตัวตน

ของนาย คือความสุขของนาย ดูแลตัวเองให้มากๆ อย่าซ้อมจนร่างกายตัวเองแย่ สัญญากับฉันสิ" ร่างบางพูดอย่างขอร้อง

"ฉันสัญญา ฉันรักนายนะเซฮุนรักมาก มากกว่าอะไรทั้งหมดจริงๆ" ร่างสูงรับปากพลางก้มหน้ามองร่างบางที่นั่งข้างๆตน

"ฉันก็รักนายมากที่สุดจงอิน" ร่างบางบอกพลางสบตากับคนตรงหน้า ในขณะที่ร่าูงสูงกดริมฝีปากลงมาอย่างแผ่วเบาและ

ลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆเป็นเวลานานเพื่อยืนยันคำสัญญานี้ ตราบนานเท่านาน








 

...


 

กว่าจะแต่งบทนี้เสร็จคนเขียนแทบตาย

ถูกใจกันรึป่าวไม่รู้ แต่บีบคนเขียนมาก (เขียนเองอินเอง) ฮ่าๆๆ

เพื่อเป็นกำลังใจให้กับ 'คุณหมีและคุณกระต่าย'

คนอ่านที่น่ารักช่วย เม้นๆ โหวตๆกันหน่อยนะคะ

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'  ตอน 3


HK Entertainment

       ก๊อก....ก๊อก

"ขออนุญาติครับ มีคนบอกผมว่าท่านประธานเรียกพบผมหรอครับ" จงอินเปิดประตู พลางขออนุญาติจากคนข้างใน 

ตอนที่เค้าซ้อมร้องเพลงอยู่นั้นมีรุ่นน้องที่เป็นเด็กฝึกด้วยกันเข้าไปเรียกและบอกกับเค้าว่าท่านประธานเรียกพบที่

ห้องประชุมใหญ่ นั่นเป็นเรื่องที่ทำให้เค้าตกใจมากอยู่เหมือนกันเพราะคนในบริษัทรู้กันดีอยู่ว่าห้องประชุมใหญ่จะใช้

ก็ต่อเมื่อมีโปรเจคใหญ่ๆหรือเรื่องที่สำคัญๆเท่านั้น แต่นั่นก็ไม่ทำให้เค้าตกใจเท่ากับตอนที่เค้าเปิดประตูเข้ามาแล้ว

เห็นแต่บุคคลที่ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้เจอใกล้ๆแบบนี้แน่ๆ ไม่ว่าจะเป็นบอร์ดบริหารทุกฝ่ายทุกคนที่เค้าเคยเห็นแต่

ในทำเนียบผูบริหารตรงทางขึ้นตึกเท่านั้นเป็นเด็กฝึกอยู่บริษัทนี้มาตั้งนานเพิ่งจะเคยเห็นตัวจริงก็วันนี้แหละ

แล้วยังมีนักแต่เพลงชื่อดังที่เคยเห็นในทีวีเค้าบอกกันว่าจะแต่เพลงให้เฉพาะคนที่พอใจจะแต่งให้เท่านั้น  ไม่ว่าเพลงไหน

เพลงนั้นดังทุกเพลง นักเต้นที่ชนะการประกวดระดับโลกมาอย่าพี่เลย์อีก อีกทัั้งยังมีโปรดิวเซอร์มือทองที่ใครๆก็อยาก

ร่วมงานด้วยทั้งนั้น นี่มันเกิดอะไรกันเนี่ย

"เข้ามาก่อนสิจงอิน ฉันให้คนไปตามนายมาเองแหละ มีคนที่อยากให้นายรู้จักไว้น่ะ" ประธานโอกวักมือเรียก

เด็กฝึกในสังกัดของตนที่เป็นตัวเอกของงานนี้เข้ามายืนข้างๆตน เพราะเห็นเด็กหนุ่มยืนตกตะลึงอยู่ตรงประตูนานแล้ว

"ครับท่านประธาน" ร่างสูงเดินเข้ามายืนข้างๆประธานโอ และมองไปข้างหน้าด้วยความประหม่า เพราะคนทั้งห้อง

จ้องเค้าจนเค้ารู้สึกไม่มั่นใจ นี่เค้าเผลอทำอะไรผิดไปรึป่าวเนี่ย เด็กหนุ่มได้แต่คิดในใจ

"นี่คิมจงอิน คนที่เราได้คุยกันไปก่อนหน้านี้ จงอินคือคนที่ฉันเลิกจะทำในโปรเจคนี้ คือคนที่จะได้ขึ้นแท่นเป็น

ซุปเปอร์สตาร์คนต่อไป เป็นดาวดวงใหม่ของวงการเพลงคนต่อไป เพราะจงอินคือคนที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอ

มา เด็กคนนี้มีความขยัน อดทน และพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆเสมอ จงอินเป็นเด็กฝึกกับเรามาห้าปีเต็ม ฉันเห็นพัฒนาการ

ความก้าวหน้าของเค้ามาตลอด จนมาถึงวันนี้ฉันคิดว่าเค้าพร้อมแล้วที่จะก้าวขึ้นไปเป็นศิลปินอย่างเต็มตัว นั่งสิจงอินวันนี้

เราจะมาคุยกำหนดการและและรายละเอียดทั้งหมดเรื่องการเดบิวต์ของนายกัน ใครมีอะไรจะแย้งหรือเสนอก็เชิญเลย"

ประธานโออธิบายเหตุผลต่างๆที่เลือกเด็กหนุ่มผิวเข้มคนนี้ให้คนในห้องทั้งหมดฟังก่อนจะหันไปแก้ข้อสงสัยให้กับ

เด็กหนุ่มที่ยืนงงอยู่ข้างตน และเปิดประเด็นในการประชุมครั้งนี้

"ผมไม่เห็นความน่าสนใจในตัวของเด็กคนนี้เลย ดูธรรมดาเกินไปซะด้วยซ้ำ แถมยังมีผิวสีเข้มที่ยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมอีก

แล้วอย่างนี้จะดังได้อย่างไร อย่าว่าแต่ระดับโลกเลยแค่ในเกาหลีบ้านเราหรือในเอเชียจะเป็นที่รู้จักรึป่าวเถอะ" บอร์ดบริหาร

คนนึงพูดแย้งขึ้นมาและยังมองเด็กหนุ่มด้วยสายตาดูแคลน เมื่อเห็นเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างหน้านั้นดูธรรมดาเกินไป

"แต่ผมขอดูพัฒนาการของเค้าที่คุณพูดถึงหน่อยได้ไหมครับประธานโอ แล้วผมจะให้คำตอบสำหรับการร่วมงานในครั้งนี้"

นักแต่งเพลงชื่อดังที่นั่งฟังอยู่นานแย้งขึ้นและขอดูความสามารถที่ผ่านมาของเด็กหหนุ่มบ้าง

"ได้สิคุณนักแต่งเพลง มินซอกช่วยจัดการเปิดในสิ่งที่คุณเตรียมมาด้วย"ประธานโอตอบรับและหันไปบอกหนึ่งในเมเนเจอร์

ทีดูแลเด็กฝึกทั้งหมดของบริษัท ที่เค้าอนุญาติให้เข้าร่วมในการประชุมนี้ด้วย

"ครับท่านประธาน" มินซอกหยิบแผ่นดีวีดีที่เค้าเตรียมมาด้วยเปิดให้กับทุกคนในห้องดู สิ่งที่เค้าได้เตรียมมาในวันนี้คือส่วน

หนึ่งของการฝึกทั้งหมดของจงอินที่เค้าได้รวบรวมมาตัดให้เหลือเวลาในการเล่นเพียงไม่กี่นาที เป็นพัฒนาการและความ

เปลี่ยนแปลงของจงอิน ทั้งด้านการแสดง การร้องเพลง การเต้น กาพรพูด บุคลิกภาพและการวางตัว ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่

จงอินได้เรียนในตลอดระยะเวลาในการฝึกห้าปี จากเด็กฝึกทุกคนที่เค้าได้รับหน้าที่ดูแลทั้งหมดในตอนนี้นั้น จงอินคือคนที่

สมควรได้โอกาสในการเดบิวต์ครั้งนี้มากที่สุด เป็นคนที่มีความพยายามและความอดทนมากจริงๆในขณะที่พวกที่ฝึกมาด้วย

กันนั้นบางคนก็ถอดใจกันไปแล้ว ความอดทนสูง แม้ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนก็ไม่เคยบ่น ถึงท้อก็ไม่เคยถอย คนแบบนี้แหละที่

เหมาะกับการที่จะก้าวขึ้นไปเป็นซุปเปอร์สตาร์

"เอาหล่ะในเมื่อดูกันจนจบแล้วใครมีอะไรจะแย้งอีกไหม หรือจะถอนตัวออกจาโปรเจคนี้ผมก็ไม่ว่า" ประธานโอถามขึ้น

เมือภาพในจอนั้นหยุดลง

"ผมไม่สงสัยแล้วแหละครับเอาเป็นว่าผมตกลงขอร่วมโปรเจคนี้ด้วย ฉันล๊ะไม่สงสายเลยว่าทำไมท่าประธานถึงเลือกนาย"

โปรดิวเซอร์มือทองเป็นคนพูดขึ้น ใครล๊ะจะคิดว่าเด็ที่ดูภายนอกแสนจะธรรมดาแบบนี้ จะดูเซ็กซี่และมีสเน่ห์ในตัวเอง

มากมายขนาดนั้น นี่ขนาดยังไม่จับไปแต่งไปปรับเปลี่ยนอะไรเลยนะ ถ้าเปลี่ยนขึ้นมาล๊ะก็เค้าไม่อยากจะคิด

"ส่วนเรื่องเพลงทั้งหมดผมจะจัดการให้ครับ ถ้าอยากได้แนวไหนเป็นพิเศษก็บอกผมเพิ่มแล้วกัน" นักแต่งเพลงชื่อดังที่ขึ้น

ชื่อเรื่องการวางตัวที่ใครๆก็บอกว่าหยิ่งและเล่นตัวกลับเป็นคนเสนอตัวขึ้นเอง

"แล้วนายล๊ะเลย์" ประธานโอหันไปถามครูสอนเต้นอันดับหนึ่งที่ยังคงเงียบอยู่หลังจากที่คนอื่นๆตกลงกันหมดแล้ว

"ท่านประธานก็น่าจะรู้คำตอบของผมดีอยู่แล้วนิครับ จะถามให้เสียเวลาทำไม ยังไงจงอินมันก็น้องผม" ครูสอนเต้นตัวเล็ก

ตอบด้วยสีหน้านิ่งๆน้ำเสียงกวนๆ อย่างไม่เกรงกลัวสายตาดุๆของประธานโอที่ใครๆในบริษัทก็ต่างเกรงกลัว

"ถ้าอย่างนั้นผมก็ขอบคุณมากสำหรับความร่วมมือ อย่างที่เห็นกันในเอกสารที่ผมให้ไปวันเดบิวต์ของจงอินคือวันคัมแบค

ของปาร์คชานยอล ในอีกหกเดือนข้างหน้า ชนกันให้รู้ไปเลยว่าใครจะแน่กว่ากัน" ประธานโอเอ่ยขอบคุณทุกคนจากใจจริง

เพราะความจริงเค้าก็กลัวเหมือนกันว่าจะไม่มีใครเต็มใจช่วยเค้าปั้นจงอินขึ้นมา เพราะอย่าที่เห็นตอนนี้จงอินยังไม่ค่อเป็น

ที่หน้าสนใจสักเท่าไหร่

"แต่ท่านประธานคะชื่อของจงอินมันจะม่ดูธรรมดาเกินไปหรอคะ" คณะกรรมการฝ่ายโฆษาณาคนนึงแย้งขึ้นมา

"นั่นสินะ เอาเป็นว่าต่อไปนี้นายใช้ชื่อ 'ไค' แล้วกัน ต่อไปนี้นายคือ 'ไค' คนที่จะมาเป็นซุปเปอร์สตาร์ของวงการคนต่อไป

ถ้าหมดเรื่องแล้วทุกคนก็ย้ายกันยไปทำหน้าที่ได้แล้ว ส่นนายไค ต่อไปนี้การฝึกซ้อมของนายเหมือนการเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่

โปรแกรมการฝึกของนายจะหนักขึ้นอีกหลายเท่าตัว ตั้งใจเข้าล๊ะ อ่อ!ส่วนนายมินซอกต่อไปนี้ดูแลแค่คนเดียวพอ

พรุ่งนี้เข้าไปพบฉันที่ห้องด้วย ไปเอาตารางงานของจงอิน" ประธานโอสั่งเสร็จก็เดินออกไปทันที ปล่อยให้อีสองคนที่เหลือ

ยืนงงกลับคำสั่งที่รวดเร็วจนตั้งตัวแทบไม่ทัน

"พี่รู้อยู่แล้วหรอว่าต้องมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวผม" ว่าที่ศิลปินถามเมเนเจอร์หมาดๆด้วยความสงสัยปนดีใจ

"เหอะ! ฉันก็รู้พร้อมนายนี่แหละ อะไรของท่านประธานเนี่ย" มินซอกตอบทั้งๆที่สติยังไม่เต็มร้อย

"ยังไงก็ฝากตัวด้วยนะครับคุณเมเนเจอร์" จงอินพูดด้วยเสียงทะเล้นและโค้งตัวลงเล็กน้อย

"เอาเถอะวันนี้เราแยกกันไปพักดีกว่าพรุ่งนี้งานหนักรอเราสองคนอยู่" มินซอกบอกก่อนจะแยกย้ายกันไป

 
บ้านตระกูลโอ

++ ปิ๊บ ปิ๊บ++

"ยอโบเซโย" ร่างบางที่กำลังนั่งเหม่ออยู่นั้นต้องหลุดจากภวังค์เพราะเสียงโทรศัพท์

"เซฮุนอยู่หอรึป่าว ฉันกำลังจะกลับ จะเอาอะไรมัย?" ปลายสายถามด้วยน้ำเสียงอย่างคนอารมณ์ดี

"ฉันอยู่บ้านนะจงอิน คงไม่กลับหอซักพัก ฉันต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบ แม่ฉันเลยให้มาอยู่บ้านซักพัก"

"แย่จัง วันนี้ฉันอุสาห์ได้หยุด ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ยังจะมีเวลาเจอกันมากแค่ไหน เสียดายจัง แต่เราเฟสทามคุยกันก็ได้เน๊าะ"

"อืม ถึงหรอรึยัง ให้ฉันวางก่อนไหม"

"ถึงพอดีเลยเดี๋ยวฉันโทรไปใหม่นะ"

"อือ"

"มาแล้วๆครับคุณกระต่ายที่รัก วันนี้คิดถึงคุณหมีบ้างรึป่าวน้า.." ยังไม่ทันที่จะเอาโทรศัพท์ออกจากหูเลยเสียด้วยซ้ำ ก็มี

สายเรียกเข้ามาอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นการโทรแบบเห็นหน้าแทน ทันทีที่รับสายเสียงทักทายหยอกล้อของจงอินก็ดังขึ้นมา

พร้อมกลับสีหน้าทะเล้นของเจ้าตัวที่นอนคว่ำหน้าจ้องเค้าอยู่บนเตียงของเจ้าตัวที่หอพัก

"ฮึ ฮึ รีบขนาดนั้นเลยหรอคุณหมี" เมื่อเห็นหน้าสีทะเล้นๆและกิริยาน่ารักๆของคนรักก็ทำให้คนที่นั่งเหม่อมาทั้งวัน

มีรอยยิ้มจางๆขึ้นมาแทนสีหน้าเศร้าหมองบนใบหน้าขึ้นมาบ้าง

"รีบสิ ก็คิดถึงคุณกระต่ายจะแย่ เราไม่ได้นอนกอดกันตั้งคืนนึงแหนะ" ร่างสูงตอบด้วยสีหน้าเศร้าเกินจริง

จนคนฟังอดที่จะขำไม่ได้

"เวอร์จริงๆ เลยนะจงอินเนี่ย ทำหน้าแบบนั้นมันไม่ได้น่ารักเลย มันดูตลกซะมากกว่า" เซฮุนแกล้งพูดให้อีกคน

เสียความมั่นใจ

"ตลกจริงหรอ แต่ฉันคิดถึงนายจริงๆเลยน้า...." จงอินเปลี่ยนสีหน้าทันที และพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"คิดถึงก็ต้องทนให้ได้สิจงอิน เพราะเวลาของเรากำลังจะไม่ตรงกันแล้วนะ อีกอย่างนายจะต้องซ้อมหนักขึ้นจนไม่มีเวลาเลย

นอนเลยแหละ จนถึงตอนนั้นนายอาจจะลืมฉันไปแล้วก็ได้" เซฮุนพูดบอกให้อีกคนได้คิดตาม และเพื่อเป็นการย้ำกับตัวเอง

ด้วยว่าหลังจากนี้ต่อไปเราสองคนจะไม่เหมือนเดิมแล้ว

"ทำไมนายพูดเหมือนไม่รักฉันแล้วล๊ธเซฮุน พูดแบบนี้ฉันเสียใจนะ" ร่างสูงพูดออกมาด้วยความน้อยใจ"

"ทำไมฉันจะไม่รักนายล๊ะจงอินฉันรักนายมากและคิดถึงนายมากกว่าที่นายคิดซะด้วยซ้ำ อย่าคิดอย่างนั้นอีกนะ แต่ที่ฉันพูด

ออกไปทั้งหมดนั้นก็เพราะฉันหวังดีกับนายนะ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันทำไปก็เพื่อนายทั้งนั้น" เซฮุนเค้นเสียงพูดออกไปอย่าง

อยากลำบากเพราะเมื่อเห็นสีหน้าของร่างสูงแล้วอาจจะเป็นเค้าเองซะอีกที่เป็นฝ่ายทนไม่ได้

"ฉันขอโทษนะเซฮุนที่พูดอะไรออกไปไม่คิด จนทำให้นายรู้สึกไม่ดี เออนี่!เซฮุนวันนี้นะท่านประธานเรียกฉันไปพบ บลาๆ"

จงอินเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับตนทั้งหมดวันนี้ให้เซฮุนฟังอย่างตื่นเต้น

"นายทำได้อยู่แล้วฉันเชื่อแบบนั้น สู้ๆนะ ไม่ว่าตอนไหนฉันก็เป็นกำลังใจให้นายเสมอ" เซฮุนพูดอย่างเชื่อมั่นและกำมือขึ้น

แล้วยกชูขึ้นมาเพื่อบอกให้ร้างสูงรู้ว่าเค้าจะคอยให้กำลังใจเสมอ

"ถ้ากำลังใจมาเต็มขนาดนี้ คิมจงอินสู้ไม่ถอยอยู่แล้ว แต่ฉันไม่ชินเลยที่มีแต่คนเรียกว่า 'ไค' ฉันเหมือนกับไม่ใช่ตัวฉันเลย"

"เดี๋ยวก็ชินไม่ว่าจะเป็น 'ไค' หรือ 'คิมจงอิน' ก็คือตัวนายทั้งนั้น อย่าคิดมากเลยแค่ตั้งใจทำในสิ่งที่นายต้องการมาตลอด

ก็พอ เรื่องอื่นก็ช่างมันเถอะนะจงอิน"

"นั่นสินะ ฉันก็คือฉัน ไม่ว่าจะเป็ ไค หรือ จงอิน คนที่ฉันรักที่สุดก็จะมีแค่นายคนเดียว ฉันรักได้แค่โอเซฮุน

คุณหมีรักคุณกระต่ายที่สุด อยู่ด้วยกันอย่างนี้ตลอดไปนะ" จงอินบอกความรู้สึกจริงๆออกมาจากใจ พร้อมกับสายตาที่จริงจัง

"ฉันก็เป็นคุณกระต่ายที่รักแค่คุณหมีคนเดียวเท่านั้น" เมื่ออีกฝ่าพูดแบบนั้นเซฮุนก็บอกความรู้สึกของตัวเองให้อีกคนมั่นใจ

"อ่า..ดึกขาดนี้แล้วหรอเนี่ย ถึงว่าทำไมรู้สึกง่วงๆ ฉันรู้สึกเหมือนเราพึ่งคุยกันได้ไม่นานเองนะ" ร่างสูงพูดไปหาวไป

"นายนอนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ไม่มีแรงซ้อมหรอก ฉันก็รู้สึกง่วงแล้วเหมือนกัน" เมื่อเห็นสีหน้าง่วงๆของคนรัก เซฮุนก็พูด

ตัดบทโดยทันที ทั้งที่จริงแล้วเค้าไม่อยากจะวางสายเลย อยากจะคุยต่ออีกสักนิด อยากจะซึมซับและจดจำความรู้สึกของ

คำว่าเราแบบวันนี้ไปนานๆ แต่เพราะมีงานหนักรอจงอินอยู่จะให้มาอดนอนคุยกับเค้าต่อไปก็คงไม่ใช่

จงอินสมควรที่พักผ่อนได้แล้ว

"อือ...ฝันดีนะครับคุณกระต่าย รักน้า.." จงอินบอกลาด้วยเสียงงัวเงียทั้งที่ตาแทบจะลืมไม่ขึ้น

"ดูแลตัวเองดีๆนะจงอิน ฉันก็รักนาย" ปลายสายตอบรับในลำคอเพราะง่วงเต็มทนแต่ก็ยังฝืนตัวเองเพื่อที่จะคุยกับเซฮุน

สายตัดไปแล้วร่างบางนั่งมองจอโทรศัพท์ที่มืดสนิทด้วยสีหน้าเศร้าหมอง น้ำตาที่พรั่งพรูออกมาจากดวงตาคู่สวยนั้นไม่มี

ทีท่าที่จะหยุดลง หัวใจดวงน้อยของเซฮุนตอนนี้มันบอบซ้ำไปหมด ความเจ็บปวดที่มีมันมากจนไม่รู้จะอธิบายออกมายังไง

การคุยกันครั้งนี้ของเค้ากับจงอินจะเป็นการคุยกันครั้งสุดท้าย พรุ่งนี้ก็จะต้องไปแล้ว นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เห็นรอยยิ้ม

ของจงอินที่ในแววตานั้นมีเพียงแค่เค้าคนเดียว จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้บอกความรู้สึกของกันและกันให้อีกฝ่ายได้รับรู้

เพราะหลังจากนี้ไปเค้าจะเก็บความทรงจำที่มีระหว่างเราสองคนเก็บมันซ่อนไว้ในส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจ จะไม่มีอีกแล้ว

เรื่องราวระหว่างเรา ไม่มีอีกแล้วความฝันอันแสนไกล จะไม่มีคุณหมี จะไม่มีคุณกระต่าย จะมีก็แต่โอเซฮุนที่ทั้งชีวิตนี้และ

หัวใจดวงนี้ ทั้งหมดยกให้แค่เพียงลูกน้อยของเค้าที่กำลังจะลืมตาขึ้นมาดูโลกนี้คนเดียว ลูกที่เป็นเหมือนชีวิตและเปรียบ

เสมือนดวงใจของเค้า ต่อให้ยากลำบากและทรมาณแค่ไหนเค้าก็ยอม

   ++ สนามบินอินชอน++

"เซฮุนรับเข็มขักฃดเรียบร้อยแล้วรึยัง" เสียงเรียกของพี่ชายที่ดังอยู่ข้างหูทำให้ร่างบางหลุดออกจากภวังค์

"เรียบร้อยแล้วฮะ" ตอนนี้ผมอยู่ในชั้นเฟิร์สคลาสบนเครื่องบินเป็นที่เรียบร้อย วันนี้เป็นวันที่ผมจะต้องเดินทางออกจาก

เกาหลีแล้ว เมื่อสักครู่ก่อนขึ้นเครื่องคุณพ่อและคุณแม่ก็มาส่งพวกผมด้วย คุณแม่ย้ำและเตือนว่าถ้ามีปัญหาอะไรให้โทรมา

บอกทันทีและท่านจะไปหาผมกับพี่บ่อยๆ ส่วนคุณพ่อท่านแค่ยืนมองผมเฉยๆไม่พูดอะไรออกมาเลย แต่ผมไม่โกรธหรืน้อยใจ

อะไรหรอกอย่างที่คุณแม่ท่านเคยบอกว่าคุณพ่อท่านคาดหวังกับผมไว้มาก เลยทำให้ท่าเสียใจมากเหมือนกัน เลยยังทำใจ

ยอมรับกับเรื่องนี้ไม่ค่อยได้ แต่ดีแค่ไหนแล้วที่ท่านยังยอมให้ผมได้เก็บลูกไว้ ผมหวังว่าสักวันเราสองคนพ่อลูกจะกลับมา

เหมือนเดิมและท่านคงจะเมตตาเอ็นดูลูกของผมบ้างในวันที่เค้าเกิดมา เครื่องกำลังเทคออฟออกจากเกาหลีแล้ว

ผมมองออกไปทางหน้าต่าง ดูวิวของเกาหลีเป็นครั้งสุดท้าย ลาก่อนความฝันของฉัน ลาก่อนความทรงจำที่แสนสุข

ลาก่อนความรักที่หอมหวาน ลาก่อนนะคุณหมี ลาก่อนจงอิน ลาก่อนที่รักของฉัน



...

 

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'  ตอน 4


HK Entertainment (เกาหลี)

 

"ไค มัวทำอะไรอยู่ ไปได้แล้วท่านประธานกับนักแต่งเพลงเค้ารอนายเลือกเพลงอยู่ ให้ผู้ใหญ่รอนานๆมันไม่ดีเลยนะแล้วนี่นาย

โทรหาใครพี่เห็นนายหน้าบู้อยู่กับโทรศัพท์ตั้งแต่ออกจากหอแล้วนะ คนสำคัญรึไง" มินซอกถามศิลปินในความดูแลของตน

เพราะเค้าเห็นร่างสูงหงุดหงิดอยู่กับโทรศัพท์ตั้งแต่ตอนที่เค้าไปรับออกจากหอมาแล้ว จนถึงตอนนี้มาถึงบริษัทตั้งแต่ครึ่งชั่วโมง

ที่แล้วสมควรทีจะต้องเข้าห้องประชุมเพื่อเลือกเพลงในการเปิดตัวของไคได้แล้ว แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ยอมลงจากลดซักที่

"โทรหาเซฮุนนะครับ โทรมาสองอาทิตย์แล้ว ไม่เคยติดเลย ไปหาที่หอก็ไม่มีใครอยู่ บ้านเค้าผมก็ไม่รู้จัก โทรกี่ครั้งก็ไมติดเป็น

อย่างนี้มาตลอดเลยหายไปไหนของเค้านะ จะเป็นอะไรรึป่าวก็ไม่รู้ ถ้าเจอนะจะตีให้ ทำให้ผมเป็นห่วงขนาดนี้" จงอินตอบอย่าง

หัวเสีย เค้าหงุดหงิดจนแทบบ้าแล้วตอนนี้ หลังจากวันนั้ที่คุยกันครั้งสุดท้าย ทุกอย่างในชีวิตเค้าก็เปลี่ยนไป พอเช้าวันต่อมาเค้าก็

โดนย้ายออกจากหอเดิมที่กว้างและใหญ่กว่าเดิม สะดวกสบายกว่าหลายเท่า มีมินซอกเป็นคนดูแลความเรียบร้อยทุกอย่าง

จะมาทำงานก็มีรถส่วนตัว มีห้องซ้อมส่วนตัวเป็นของตัวเอง ฝึกซ้อมหนักมากกว่าเดิมหลายเท่าจนแทบไม่มีเวลาพัก

 มีตารางเสริมความงามจับเค้าไปตัดผมทำหน้าจนเค้าแทบจะตัวเองไม่ได้ตอนที่เห็นหน้าตัวเองในกระจกเพราะมีข่าวเรื่องเดบิวต์

ที่บริษัทตั้งใจทำหลุดออกไปพร้อมกับภาพตอนที่เค้าฝึกซ้อม เลยทำให้เริ่มมีคนรู้จักและสนใจเค้าไปไหนก็มีแต่คนเรียกว่า ไค

กันหมด จนไม่มีใครเรียกชื่อจริงๆของเค้าแล้ว ทุกอย่างกำลังไปได้ด้วยดีแต่มี่แค่อย่างเดียวที่กำลังทำให้เค้ารู้สึกไม่ดีเลยคือเรื่อง

ของเซฮุนสิ่งที่สำคัญคือเซฮุนหายไปไหน เค้าทำอะไรให้เซฮุนโกรธจนต้องหายไปอย่างนี้รึป่าว เค้าสับสนไปหมดแล้ว

"เซฮุนออกจากการฝึกไปแล้วนิ เค้าไม่ได้บอกกับนายหรอ ลาออกไปตั้งแต่วันที่ท่านประธานเรียกนายเข้าไปประชุมเรื่องการ

เดบิวต์นั่นแหละแต่มีแค่จดหมายมาวางไว้นะ เห็นจงแดบอกว่าถามใครก็ไม่มีใครรู้ไม่มีใครเห็นเซฮุนเลย พวกนายเป็นเพื่อนกัน

ยังไงนนะไค ถึงไม่รู้เรื่องนี้" มินซอกเล่าเรื่องที่เค้ารู้มาจากจงแดที่เป็นเพื่อนผู้จัดการด้วยกันอีกทีให้จงอินฟัง

"อะไรนะ!! ออกไปแล้ว ทำไมผมไม่รู้เรื่องนี้ล่ะ แล้วเค้าออกไปทำไม มีปัญหาอะไรทำไมไม่บอกกัน"

จงอินถามด้วยความตกใจ นายมีเหตุผลอะไรถึงหนีหายไปเฉยๆแบบนี้ มีปัญหาอะไรทำไมไม่บอกกัน จะทำอะไรทำไมไม่คิดถึงใจ

เค้าเลย ทำไมถึงกล้าทิ้งให้ฉันอยู่คนเดียวแบบนี้ เคยบอกแล้วใช่ไหมเซฮุนว่านายคือหัวใจของฉัน เป็นทุกๆอย่างในชีวิตของฉัน

นายทิ้งฉันไปแบบนี้แล้วฉันควรจะทำอย่างไรต่อไปดี ช่วยบอกฉันทีสิเซฮุน

"เอาเถอะเรื่องนี้เอาไว้คุยกันที่หลังนะ พี่จะช่วยนายเอง แต่ตอนนี้เข้าบริษัทกันก่อนเถอะอนาคตของนายรออยู่ อย่าให้เรื่องอะไร

มาขวางทางของนายเลย ที่นายฝึกหนักมาตลอดก็เพื่อวันนี้ไม่ใช่หรออย่าทำให้ความฝันและความพยายามของนายต้องสูญเปล่า

เลยไค แล้วถ้าเซฮุนรู้ว่าเค้าเป็นสาเหตุที่ทำให้นายพลาดโอกาสไปเค้าคงเสียใจมาก เชื่อพี่เถอะนะ เราเข้าไปข้างในไปกันเถอะ

พี่สัญญาว่าพี่จะช่วยนายทุกอย่าง" พูดจบ มินซอกก็ลากร่างสูงที่ดูไร้ชีวิตทำหน้าเหมือนจะขาดใจของจงอินลงจากรถและเข้า

บริษัทไป เค้าก็พอรู้อยู่บ้างในความสำพันธ์ของทั้งสองคนแต่ในเมื่อทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ไปแล้ว ก็ต้องปล่อยมันไปก่อน เอไว้

ค่อยช่วยกันคิดและแก้ไขกันต่อไปก็แล้วกัน ตอนนี้มีเรื่องที่สำคัญกว่ารอพวกเค้าอยู่ เค้าไม่อยากให้ความพยายามที่ผ่านมาของ

ไคต้องหยุดลงด้วยเรื่องแบบนี้ เพราะไคก็เหมือนน้องชายของเค้าคนนึง




เคมบริด์จ (รัฐแมสซาซูเซตส์) อเมริกา


"เสร็จรึยังเซฮุน เดี๋ยวสายนะ" เสียงพี่จุนมยอนดังมาแต่ไกล สงสัยว่ากลัวไปช้าแล้วรถจะติดเพราะวันนี้เราต้องไปรับคุณแม่ที่

สนามบินด้วยท่านจะมาอยู่เป็นเพื่อนผมจนผมคลอดเลยหล่ะ ไม่รู้ว่าขอคุณพ่อได้ยังไง แล้วไหนยังจะธุรกิจส่วนตัวของท่านเองอีก

"เสร็จแล้วฮะไปกัน"

"ค่อยไเดินสิ จะเดินเร็วทำไมเดี๋ยวหลานพี่ก็ปวดหัวกันพอดี" ไม่ค่อยจะเห่อหลานสักเท่าไหร่เลยพี่ชายผม เป็นคนบอกให้รีบๆเอง

แท้ๆ แต่กลับห้ามไม่ให้เดินเร็ว นั่นยังไม่พอคอยแต่จะพยุงผมตลอดทั้งที่ผมก็บอกแล้วว่าไม่เป็นอะไรเลยเดินเองได้ แต่ช่างเถอะ

พูดไปเดี๋ยวก็งอลหาว่าหวงไม่ยอมให้เข้าใกล้หลานอีก จริงๆเลยพี่ชายผม

"คุณแม่สวัสดีฮะ รอนานรึป่าว" ตอนนี้เรามาถึงสนามบินแล้วฮะ พอเข้ามาก็เจอคุณแม่คนสวยของพวเรานั่งรออยู่ สงสัยเครื่อง

จะเลนดิ้งนานแล้ว

"ไม่นานหรอกจ๊ะ ไหนเซฮุนมาให้แม่ดูหน่อยสิว่าหลานแม่ตัวใหญ่แค่ไหนแล้ว" เมื่อหันมาเห็นพวกเราท่านก็ลุกขึ้นมากอดทักทาย

กับพี่จุนมยอนทันทีก่อนที่จะหันมากอดผมและทักทายเจ้าตัวเล็กในท้องด้วย หลังจากนั้นเราก็มุ่งหน้าไปโรงพยาบาลกันต่อทันที

เพราะวันนี้ผมมีนัดดูเพศของตัวเล็กกัน แต่เพราะคุณแม่บอกว่าอยากไปลุ้นด้วยและท่านจะมาวันนี้เลยไปรับท่านก่อนที่จะไป

โรงพยาบาล ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาสามเดือนแล้วที่ผมกับพี่มาอยู่ที่นี่ เมืองที่ผมกับพี่เลือกมาอยู่กันมันเป็นรัฐที่เต็มไป

ด้วยประวัติศาสตร์ ความสงบ ความสวยงาม สะอาดและความเป็นมิตรของผู้คน เป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางทางด้านการศึกษาของ

ประเทศนี้ เพราะผมและพี่ต้องเรียนต่อทั้งคู่ พี่จุนมยอนต่อปริญญาโทแต่ที่นี่ให้อิสระมากในการเลือกพี่เลยเลือกที่จะเรียนสอง

สาขาคู่กันไปคือสาขาบริหารและสาขาที่เกี่ยวกับศิลปะและการดนตรี ถ้าพี่จบก็จะได้ใบปริญญาสองใบส่วนผมเลือกเรียนปริญญา

ตรีแบบการศึกษาด้วยตัวเองแล้วเข้ามาสอบเอา และไปเข้าคลอสเรียนทำขนมอีกด้วย เพราะผมได้คิดไว้แล้วว่า

เมื่อเรียนจบแล้วกลับไปเกาหลีก็คงจะเปิดค่เฟ่เล็กๆอยู่กันอย่างเงียบๆแค่สองคนแม่ลูก ส่นจงอินนั้นถ้าจะบอกว่าไม่คิดถึงกันเลยก็

คงจะเป็นการโกหกกันเกินไป แต่ถ้าถามว่าตอนนี้จงอินสำคัญสำหรับผมไหมก็ยังคงสำคัญอยู่แต่ไม่ใช่จงอินอีกต่อไปแล้วที่จะเป็น

สิ่งที่สำคัญที่สุดของผม เพราะตอนนี้ผมมีเจ้าตัวเล็กที่ป็นเหมือนทั้งชีวิตของผมแล้ว และผมหวังว่าจงอินจะไปได้ดีกับการเป็น

ศิลปินอย่างที่เค้าฝันไว้และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขผมและลูกคงจะได้แต่ให้กำลังใจอยู่ห่างๆอย่างนี้

"เซฮุนมัวคิดอะไรอยู่จ๊ะ ไปกันเถอะแม่อยากเห็นหน้าหลานจะแย่อยู่แล้ว" เสียงเรียกของแม่ทำให้ผมรู้สึกตัวนี้ผมเหม่ออีกแล้ว

หรอเนี่ย หลังจากที่เราตรวจเสร็จเรียบร้อยก็กลับบ้านแม่กับพี่จุนมยอนดีใจกันใหญ่เลยที่ได้รู้ว่าตัวเล็กในท้องเป็นผู้ชายและแข็ง

แรงมาก ตอนแรกก็ถอดใจคิดว่าต้องรอลุ้นกันตอนคลอดซะแล้วเพราะว่าเจ้าตัวเล็กเกิดอายขึ้นมา แต่เพราะคำพูดห่ามๆของ

พี่จุนมยอนที่ก้มลงไปบอกกับตัวเล็กว่า'ถ้าเกิดมาแล้วเป็นผู้ชายแต่เตรียมบาร์บี้ไว้ให้ก็ต้องเล่นนะ' เพราะว่าไม่ยอมให้ดูว่าเป็น

ผู้หญิงหรือผู้ชาย ไม่รู้จะขอบคุณดีไหม จนตอนนี้เจ้าตัวก็ไปเรียนทั้งๆที่ดีใจจนหน้าบานไปแล้ว เพราะคิดว่าหลานรักตัวเองมาก

ที่สุด ที่บ้านก็เหลือแค่ผมกับแม่และเด็กรับใช้ในบ้าน แต่มีแค่แม่และผมเท่านั้นที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกตอนนี้

"เซฮุนโทรไปบอกพ่อสิลูกว่าตัวเล็กเป็นผู้ชาย พ่อเค้าคงอยากรู้"

"จะดีหรอฮะแม่ ท่านคงยังไม่หายโกรธผมหรอก แล้วนี่ไหนจะเรื่องที่คุณแม่ต้องมาอยู่กับผมแล้วปล่อยให้คุณพ่ออยู่คนเดียวอีก

ท่านยังจะยอมคุยกับผมอีกหรอกฮะ"

"โทรเถอะพ่อเราก็แค่คนปากแข็ง ตอนอยู่ที่เกาหลีเค้าถามเรื่องของเรากับแม่ทุกวัน ถ้าลูกโทรไปบอกกับเค้าด้วยตัวเองพ่อเค้า

คงจะดีใจ"

"ฮะผมโทรเลยนะ" ผมหันไปถามคุณแม่ให้แนใจอีกที ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ผมไม่เคยได้คุญกับคุณพ่อเลย ผมก็คิดถึงท่านเหมือนกันแต่

กลัวว่าท่านจะยังโกรธและยังคงไม่ให้อภัยผมอยู่

 

++ตรู๊ดด...ตรู๊ดด..++

"ยอโบเซโย ใครครับ ถ้ายังไม่พูดผมก็จะวางแล้วนะ" เสียงของคุณพ่อดังขึ้นมา ทำให้ผมกลัวจนไม่กล้าพูดอะไรออกไป พอหัน

ไปมองคุณแม่ท่านก็พยักหน้าและยิ้มให้ผมอีกครั้ง

"คุณพ่อฮะ ผมเอง เซฮุน ผมจะโทรมาบอกคุณพ่่อว่าตัวเล็กลูกของผมเป็นผู้ขายน่ะฮะ ผมอยากให้คนพ่อทราบ" เซฮุนบอกไป

ด้วยความกล้าๆกลัวๆหลังจากจบคำพูดของเซฮุนทุกอย่าก็ตกอยู่ในความเงียบ เซฮุนไม่กล้าที่จะพูดอะไรต่ออีก แต่ที่ประธานโอ

เงียบนั้นเพราะตกใจที่คนปลายสายนั้นคือลูกชายคนเล็กที่เปรียบเสมือนดวงใจของเค้า

"อืม..มีธุระแค่นี้ใช่ไหม ฉันจะได้ทำงานต่อ" เพราะทิฐิที่มีอยู่มากของเค้าทำให้คำพูดที่ออกไปนั้นสวนทางกับความคิดและความ

รู้สึกของเค้าทั้งๆที่ใจจริงเค้านั้นอยากจะรู้แทบแย่ว่าอาการของลูกนั้นเป็นอย่างไรบ้าง อยู่ที่โน่นสบายดีไหม ลำบากบ้างรึป่าว

"ฮะ...คุณฮะพ่อผมขอโทษ" สายตัดไปแล้วตัดไปพร้อมกับคำขอโทษของเซฮุนที่ไม่รู้ว่าคนปลายสายนั้นได้ยินสิ่งที่เค้าพูด

ไปรึป่าว

"เซฮุนไม่เป็นไรนะลูก พ่อเค้าก็แค่คนแก่ขี้งอล เดี๋ยวทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง ไม่ต้องร้องแล้วนะลูกเดี๋ยวตาหนูก็ร้องตามหรอก

โตจนจะเป็แม่คนอยู่แล้วยังจะขี้แยอยู่อีก ลูกชายใครน้าา..." คุณนายคิมที่นั่งอยู่ฝั้่งตรงกันข้ามกับว่าที่คุณแม่ที่เห็นน้ำตาไหล

ลงมาจากดวงตาคู่สวยพร้อมๆกับเสียงคำขอโทษที่แผ่วเบาที่เซฮุนตั้งใจจะให้คนปลายสายได้ยินก็ต้องรีบเข้ามากอดปลอบเพราะ

ลูกชายของเธอนั้นไม่มีทีท่าที่จะหยุดร้องเลย สงสัยว่าจะเป็นเพราะความเสียใจบวกกับอารมณ์อ่อนไหวของคนท้องเลยทำให้ยิ่ง

เสียใจมากกว่าเดิม

"คุณแม่ฮะคุณพ่อเค้าเกลียดผมแล้ว" เซฮุนพูดด้วยน้ำเสียงปนสะอื้น

"แม่บอกแล้วไงว่าพ่อเค้าแค่เสียใจให้เวลาเค้าหน่อยนะ ไม่มีใครจะเกลียดลูกของตัวเองได้ลงหรอก แล้วตกลงลูกจะไม่บอก

พวกเราจริงๆหรอว่าตาหนูเป็นลูกใคร เมื่อเค้าเกิดมาแล้วเค้าถามว่าพ่อของเค้าเป็นใครแล้วลูกจะตอบเค้ายังไง เด็กทุกคนเค้า

ต้องการครอบครัวที่อบอุ่นนะเซฮุน"

คุณนายคิมเปลี่ยนเรื่อง มาถามถึงคนที่เป็นพ่อของหลานเค้า ที่เค้าเฝ้าพยายามถามเซฮุนมาตอลอดเวลาสามเดือน

แต่ก็ไม่เคยได้คำตอบ

"ผมบอกไม่ได้หรอกฮะ ขอโทษนะฮะคุณแม่ที่ผมทำให้ทุกคนต้องผิดหวังอยู่ตลอด แต่เรื่องของต่อตาหนูผมขอเถอะฮะ

เค้าไม่รู้ซะด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังจะมีลูก"

"ลูกไม่ได้บอกเค้าหรอเซฮุน ทำไมลูกทำอย่างนี้ล๊ะ พรากพ่อพรากลูกเค้ามันบาปนะลูกไม่ดีเลยนะ"

คุณนายคิมตกใจที่เธอได้รู้ว่าลูกชายของเธอไม่แม้แตจะบอกพ่อของหลายชายเธอ นี่มันเรื่องอะไรกัเนี่ย สักวันเธอจะต้องรู้ให้ได้

ว่าเค้าคนนั้นเป็นใคร และทำไมลูกชายของเค้ามีเหตุผลอะไรถึงได้เลือกที่จะตัดสินใจแบบนี้

"ไม่ได้จริงๆฮะแม่ ส่วนเรื่องคำตอบนั้นที่คุณแม่ถาม เมื่อเวลานั้นมาถึงผมคงมีคำตอบดีๆให้ลูก และตาหนูแกคงจะเข้าใจ

ผมขอตัวก่อนนะฮะเริ่มง่วงแล้ว ตอนเย็นเจอกันนะฮะ คุณแม่ก็ไปพักผ่อนได้แล้ฮะเดินทางเหนื่อยมาทั้งวัน" พูดจบว่าที่คุณแม่ก็

ขอตัวทันที เมื่อถึงห้องนอนของตัวเองเซฮุนก็ทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงทันที พร้อมกับมือที่ลูบวนอยู่บนท้องที่เรื่อมจะใหญ่ขึ้นมากตาม

อายุครรภ์เพื่อเป็นการส่งความรู้สึกของตัวเองไปถึงลูกน้อยไปด้วย แม่ขอโทษนะลูกที่แม่ไม่สามารถบอกพ่อได้  เข้าใจแม่นะลูกที่

แม่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อพ่อของลูก อยู่กับแม่แค่สองคนก็ได้เน๊าะแม่สัญญาว่าจะรักและดูแลลูกอย่างดีที่สุดที่เท่าแม่คนนึงจะทำได้

เพราะลูกคือทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับแม่ แม่รักลูกนะเจ้าชายตัวน้อยของแม่

 

 

 

 

...
วันนี้วันแรกที่ลง และลงทั้งหมด 4ตอนเลยเพื่อที่จะให้ทันกับอีกสองเว็บ

อย่างที่บอกกันไปก่อนหน้านี้ว่าคอมคนเขียนพัง

จำเป็นที่จะต้องมาลงที่ร้านเน็ตเลยอาจจะผิดพลาดไปบ้าง

คนเขียนพยายามเต็มที่แล้วจริงๆคะ แต่เพราะนี่คือสิ่งที่รักที่ชอบ

ถึงจะมีคำติอีกเป็นร้อยคนเขียนก็สู้ตาย!!คะ เจอกันตอนหน้าคะ

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ


รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'  ตอน 5


เคมบริด์จ (รัฐแมสซาซูเซตส์) อเมริกา

 

'แรง!!! ทีเซอร์ซิงเกิลแรกเปิดตัวฮิตติดหูดังถล่มทลาย'

 

'ฮอตติดลมบน!!!หนุ่มผิวสีน้ำผึ้งขึ้นแท่นดาวรุ่งพุ่งแรงน้องใหม่แห่ง HK Entertainment'

 

'จำนวนแฟนคลับ!!!เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากปล่อยทีเซอร์ซิงเกิลแรกออกมา เผยเตรียมเดบิวต์เร็วๆนี้'


     'หลังจากค่ายดังอย่าง HK Entertainment เงียบหายไปถึง 4 ปีเต็ม ที่ไม่มีศิลปินใหม่เกิดขึ้นมาเลย ปล่อยให้ค่าย

คู่แข่งอย่าง CB Ent' ปั้นปาร์คชานยอลแร๊ปเปอร์อารมณ์ดีให้พุ่งแรงแซงทางโค้งสะเทือนวงการเพลงทำคะแนนทิ้งห่างไป

ไกลแต่แล้วสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นวงการเพลงต้องสั่นสะเทือนอีกครั้งเมื่อ HK Ent' นั้นได้ปล่อยทีเซอร์น่องใหม่ของค่ายออก

มาเปิดตัวแรงด้วยเพลงที่มีเนื้อร้องทำนองแปลกหู การเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่งพริ้วไหวและงดงามของร่างกาย ใบหน้าคม

คลายและผิวสีน้ำผึ้งสุดแสนจะเซ็กซี่และเย้ายวนใจ ทำให้สาวคนไหนที่ได้เห็นเป็นอันต้องหลงไหลกันทุกคน ความฮอตของ

น้องใหม่คนนี้คงจะฉุดไม่อยู่แล้วจริงๆแหละคร้าบบ..คุณผู้ช้มมมมม มีทีมงานกระซิบผมว่ามียอดจองอัลบั้มสูงลิบตั้งแต่ยังไม่

ได้เดบิวต์กันเลยทีเดียว เอาไว้เรามารอลุ้นกันดีกว่าคร้าบว่าเค้าจะแสดงตัวออกมาตอนไหน แล้วปาร์คชานยอลและ

ค่ายCB Ent' ต้นสังกัดจะเตรียมรับมือกับน้องใหม่มาแรงคนนี้อย่างไร เค้าจะสามารถรักษาความเป็นที่หนึ่งของเค้าได้รึป่าว'

เสียงพิธีกรที่ดำเนินรายการอยู่ในทีวีนั้นบรรยายอย่างออกรสเกี่ยวกับเรื่องที่จะเกิดศิลปินหน้าใหม่ที่กำลังทำให้วงการเพลง

ของเกาหลีถึงกับสั่นสะเทือน


"ดูอะไรอยู่เซฮุน มาทานข้าวได้แล้วนะ" เสียงคุณนายคิมเรียกลูกชายคนเล็กดังมาจากห้องทานข้าว


"แปปนึงฮะคุณแม่ ขอผมดูข่าวนี้ก่อน" ตอบกลับไปทั้งที่ไม่หันไปมอง


"ข่าวอะไรของเรา ไปดูต่อในห้องทานข้าวก็ได้ ลุกเลย ป่านนี้หลานพี่หิวแล้ว" เมื่อเห็นว่าเลยเวลทานอาหารมาพอสมควร

แถมพอคุณนายคิมเรียกก็ไม่ยอมลุกอีก เค้าจึงมาตามเซฮุนด้วยตัวเองและปิดทีวีทันทีหลังจากพูดจบ และมาช่วยพยุงร่าง

กลมๆของว่าที่คุณแม่ที่ใกล้คลอดเต็มทีให้ลุกไปยังโต๊ะทานข้าว

"โธ่! แปปเดียวเองฮะพี่" เมื่อนั่งประจำที่แล้วยังไม่วายจะทำหน้างอใส่พี่ชาย ก็เค้าอยากรู้ข่าวเกี่ยวกับจงอินบ้างนิ

พี่จุนมยอนอ่ะไม่เข้าใจน้องเลย  นี่ก็ผ่านมาตั้งหลายเดือนแล้วเค้าพึ่งจะได้เห็นหน้าจงอินจากทีเซอร์เปิดตัวนี่แหละ ถึงแม้ว่า

มันจะเลือนๆไม่ชัดก็ตามที แต่เห็นแค่นั้นเค้าก็รู้แล้วว่านั่นคือจงอินแน่นอน

"อย่าทำหน้างอแบบนั้นเซฮุน เดี๋ยวหลานพี่ไม่หล่อกันพอดี จะดูช่อง m-net ใช่มั้ยพี่จะเปิดให้ อ๊ะนี่ไง เห็นไหมข่าวที่เราดู

มันยังไม่จบเลย ทีนี้ก็เลิกทำหน้างอแล้วกินข้าวได้แล้ว ดูไปด้วยกินไปด้วยนั่นแหละ หลานพี่หิวแย่แล้ว" จุนมยอนเห็นหน้า

งอๆของน้องไม่ได้จนต้องเปิดช่องทีวีที่ของเกาหลีที่น้องชายดูก่อนหน้านี้ให้

"ข่าวอะไรของเราเซฮุน ถึงกับต้องทำหน้างอ งอลใส่พี่เค้าอย่านั้นฮึเรา" คุณนายคิมถามลูกชายคนเล็กด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ

หลังจากที่นั่งดูสองพี่น้องเค้างอลง้อกันอยู่นานสองนาน

"ข่าวบันเทิงของเกาหลีนะฮะคุณแม่ นักร้องของบริษัทคุณพ่อที่กำลังจะเดบิวต์นะฮะ เห็นเค้าว่ากำลังมาแรงเลยฮะทั้งๆที่ยัง

ไม่ได้เดบิวต์ด้วยซ้ำ กลับมีแฟนคลับและยอดจองอัลบั้มสูงลิบเลยฮะ" เซฮุนตอบทั้งๆที่สายตายังไม่ยอมละออกจากหน้า

จอทีวี

"ไม่ต้องตั้งใจดูขนาดนั้นก็ได้มั้งเซฮุน รู้จักเค้าหรือไง หรือจะเป็นแฟนคลับกะเค้าอีกคน กินข้าวเข้าไปถ้ามัวแต่ดูทีวีพี่ก็จะปิด

แล้วนะไม่ต้องดูมันแล้ว จะเป็นแม่คนอยู่แล้วห่วงลูกบ้างสิ เลยเวลาทานข้าวมานานแล้วแต่เราก็ไม่ยอมทานซักท มัวแต่สน

ใจไอ่ข่าวนี่อยู่ได้ ป่านนี้ตาหนูคงจะหิวแย่แล้วนะ" จุนมยอนพูดดุขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นน้องชายสนใจแต่ข่าวในทีวีจนไม่

ยอมกินข้าว

"อย่าดุน้องนักสิจุนมยอน เซฮุนคงจะสนใจจริงๆ ลูกก็รู้ว่าที่ผ่านมาไม่ว่าเรื่องอะไรน้องก็ให้ความสำคัญตาหนูมาเป็นอย่าง

แรกอยู่แล้ว ว่าแต่ทำไมเราถึงสนใจข่าวนี้นักล่ะเซฮุน คนรู้จักลูกหรอ" เมื่อคุณนายคิมปรามคนพี่เสร็ก็หนไปถามคนน้อง

"ก็รู้จักกันฮะ เราเคยเป็นเด็กฝึกมาด้วยกันนะฮะคุณแม่"

"อย่างนี้นี่เอง ใช่คนที่ลูกเคยขอแม่ไปเที่ยวฉลองที่ว่าเพื่อนกำลังจะได้เดบิวต์ใช่คนเดียวกันรึป่าวลูก เอ..ชื่ออะไรน้าแม่จำ

ไม่ได้ซะแล้ว" คุณนายคิมถามด้วยความสงสัยเธอเหมือนจะคุ้นๆเหมือนกันว่าลูกชายคนเล็กบอกว่าเพื่อนกำลังจะได้เป็น

ศิลปิน

"คนเดียวกันฮะ เค้าชื่อจงอิน แต่ตอนที่เราคุยกันครั้งสุดท้ายเห็นเค้าบอกว่าทางบริษัทเปลี่ยนให้ไปใช้ชื่อว่า 'ไค' น่ะฮะ"

เซฮุนตอบด้วยเสียงแผ่วเบาพร้อมแววตาที่สะท้อนความเจ็บปวด เมื่อเผลอนึกไปถึงวันเวลาเก่าๆ เรื่องราวดีๆ ระหว่างเค้ากับ

จงอินขึ้นมา

"เป็นอะไรไปน่ะเซฮุน ปวดท้องรึป่าว" จุนมยอนถามขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าแปลกๆของน้อง แต่เซฮุนกลับส่ายหน้าปฏิเสธ

"ลูกคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาหรอ ไม่เป็นไรหรอกนะเซฮุนถึงลูกจะไม่ได้เป็นศิลปิน แต่ลูกกลับมีโอกาสได้ทำหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่

มากกว่าการเป็นศิลปินอีกนะ อย่าคิดมากเลยลูกอะไรที่ผ่านมาแล้วก็ให้มันผ่านไป" คุณนายคิมลุกขึ้นจากที่นั่งของตน

เพื่อมาปลอบว่าที่คุณแม่ เพราะเข้าใจว่าเซฮุนนั้นเสียใจที่ไม่ได้เป็นนักร้องตามที่ตัวเองวาดฝันไว้ แต่ความคิดของ

คุณนายคิมนั้นผิดทั้งหมด

     นายทำได้แล้วนะจงอิน ความฝันที่นายเคยวาดไว้กำลังจะเป็นจริงแล้วสินะ มันใกล้เข้ามาแล้ว ตอนนี้นายจะรู้สึกยังไงนะ

ฉันก็หวังว่าตอนนี้นายคงจะมีความสุขดีในเมื่อสิ่งที่นายหวังไว้กำลังจะเป็นจริง การรอคอยของนายกำลังจะสิ้นสุดลง ความ

สำเร็จที่ยิ่งใหญ่กำลังรอนายอยู่ ทำให้ได้นะจงอิน ไปให้ถึงฝั่งฝันที่นายหวังไว้ ฉันขอให้นายประสบความสำเร็จ มีแต่คนรัก

เป็นที่นิยม  ฉันและลูกจะเป็นกำลังใจให้นายเสมอ



KBS Studio (Music Bank) เกาหลีใต้

"พร้อมรึป่าวไค แต่งหน้าเสร็จรึยัง ไปเปลี่ยนชุดให้เรียบร้อย วันนี้นายจะต้องแสดงเป็นอันดับที่9นะและคนที่ขึ้นแสดงก่อน

นายก็คือ ปาร์คชานยอล ผลสรุปจำนวนแฟนคลับที่อยู่ในฮอลล์ออกมาแล้วนะ นายอยู่ลำดับที5 ในขณะที่แฟนคลับของ

ชานยอลคลองพื้อนที่อยู่หกสิบสองเปอร์" พี่มินซอกพูดขึ้นหลังจากกลับเค้ามาจากการไปดูโพลและประสานงานกับทาง

รายการ วันนี้แล้วครับที่การรอคอยทั้งหมดของผมจะสิ้นสุดลง หลังจากที่ผมฝึกซ้อมจนแทบลืมหายใจ หลังจากที่บริษัท

ปล่อย mvออกไป กระแสตอบรับดีมากๆเลยครับ จำนวนแฟนคลับก็เพิ่มขึ้นรวดเร็วมากกว่าตอนที่ปล่อยทีเซอร์ออกไปนั่น

เป็นอะไรที่ผมดีใจมาก แต่หลังจากที่ฟังพี่มินซอกพูดออกมาเมื่อสักครู่เรื่องโพลแฟนคลับในฮอลล์ ผมชักไม่แน่ใจแล้วซิครับ

ว่าผมมีแฟนคลับเยอะอย่างที่ออฟฟิเชียลบอกรึป่าว

"เฮ้! อย่าทำหน้าอย่างนั้นน่า ผลโพลมันไม่ใช่การตัดสินทั้งหมดนะ นี่มันแค่สิบเปอร์เซ็นของการตัดสินทั้งหมดนะ มันเป็น

เพียงคะแนนส่วนน้อยนิดเท่านั้น เชื่อมั่นในตัวเองและเชื่อใจในแฟนคลับของนายหน่อยสิ แค่ทำให้เต็มที่ก็พอแล้วทุกอย่าง

มันจะดีเอง สู้ๆ พี่เชื่อว่านายทำได้แน่ไค"

"ขอโทษครับ ไค ไปรอแสตนบายหลังเวทีด้วยครับ ตอนนี้ชานยอลกำลังขึ้นแสดงอยู่" ก่อนที่จะได้ตอบอะไรเสียงสตาฟก็

เปิดประตูเข้ามาเรียกให้ไปรอทำการแสดงเป็นคิวต่อไป

"แล้วจะตามไปครับ ไปกันเถอะพี่ ผมพร้อมแล้ว" ตอบรับสตาฟเรียบร้อยก็พากันออกไปยืนรอข้างเวทีดูการแสดง

สุดเพอร์เฟคของแร๊ปเปอร์ชื่อดังที่เป็นแชมป์อันดับหนึ่งหกสมัยซ้อนของรายการเพลงนี้อยู่ในตอนนี้ หลังจากการแสดงของ

ชานยอลจบลงก็เรียกเสียงกรีดร้องจากแฟนคลับในฮอลล์ได้อย่างล้นหลาม นี่สินะคู่แข่งอันดับหนึ่งของเค้า น่ากลัวจริงๆ

"ฉันจะรอดูผลงานของนายนะน้องใหม่มาแรง" ขณะที่กำลังจะขึ้นแสดงตามคิวของตัวเองก็เดินสวนทางกับแร็ปเปอร์คนดังที่

ทักทายขึ้นและสบสายตาอย่างท้าทาย ทำให้ไคต้องย้ำกับตัวเองอีกครั้งว่านี่คือการพิสูจน์ฝีมือและการแสดงความเป็นตัวตน

ของเค้า เค้าจะต้องทำให้ทุกอย่างออกมาให้ดีที่สุด

"Hey..Are you ready" เสียงของไคดังขึ้นจากความเงียบเรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนคลับได้เป็นอย่างดี เสียงอินโทรเพลง

ดังขึ้นพร้อมกับสปอตไลท์ที่ส่องไปกลางเวที ใบหน้าคมคายและผิวสีน้ำผึ้งของไคส่องประกายเจิดจ้ามากเมื่ออยู่บนเวที

อย่างนี้ เสียงกรีดร้องของแฟนคลับที่อยู่ในฮอลล์ดังขึ้นอย่างถล่มทลายมากขึ้นไปอีก ตามบีตหนักๆของเพลง ร่างกายที่

เคลื่อนไหวไปตามทำนองเพลง ทั้งโดดแด่นและสดุดตา ไคทำได้ทั้งหมดอย่างเฟอร์เฟคโดยไม่มีที่ติถึงแม้ว่าจะเป็นการ

แสดงครั้งแรก

"นายทำได้ดีมากๆเลยไค" มินซอกพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นเมื่อเค้าทั้งสองคนเดินกลับมาถึงห้องพักหลังเวที เพื่อรอการแสดงทั้ง

หมดของวันนี้จบลง และรอทีมงานรวบรวมผลโหวตทั้งหมดด้วย

'การแสดงทั้งหมดก็จบลงไปแล้วนะครับ ขอเสียงปรบมือให้กับศิลปินทุกท่านที่อยู่บนเวทีในวันนี้ด้วยคร้าบ และก็มาถึงเวลา

ที่่ทุกคนรอคอยกันแล้วนะครับว่าที่หนึ่งในวันนี้จะเป็นใครกัน ผมล่ะตื่นเต้นแทนทุกคนกันจริงๆถ้าพร้อมแล้วขอผลโหวตด้วย

ครับ' พิธีกรพูดขึ้นเมื่อการแสดงทั้งหมดจบลงและศิลปินทุกคนก็มายืนรวมกันบนเวทีเพื่อฟังผลโหวต

'ผลโหวตออกมาแล้วนะครับ' ไคหลับตาลงกำมือแน่นขึ้นด้วยหัวใจที่เต้นแรง ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องและเสียงเรียกชื่อเค้าก็

ดังขึ้นจนทำให้เค้าต้องลืมตาขึ้มาดูจนได้

'ในที่สุดเราก็ได้รู้แล้วนะครับ ผู้ชนะในวันนี้ก็คือ น้องใหม่มากความสามารถ ไค!!!' ไคเดินเข้าไปรับถ้วยรางวัลมาจาก พิธีกร

ชูขึ้น เพื่อบอกกับทุกคนและเป็นการบอกกับตัวเองว่าเค้าทำมันได้แล้ว สำเร็จแล้วความฝันของเค้า มันเป็นจริงแล้ว

"เยี่ยมไปเลยไค เก่งมาก นายทำสำเร็จแล้ว พี่ยินดีด้วยนะ โตขึ้นไปอีกขั้นแล้วสินะน้องชายฉัน" มินซอกเอ่ยชมและแสดง

ความยินดีกับศิลปินในความดูแลของตน ที่ได้ชัยชนะมาครอบครองเพียงแค่การเปิดตัวเป็นครั้งแรกของการเป็นศิลปินเต็มตัว

ก็ได้คะแนนและความรักจากแฟนคลับอย่างล้นหลาม

"ถ้าไม่มีท่านประธาน ไม่มีทีมงาน ไม่มีพี่คอยช่วยผม ผมก็คงจะมาไม่ถึงวันนี้หรอกครับ รางวัลนี้ไม่ใช่ของผมคนเดียวหรอก

ครับพี่ มันเป็นของทุกคนเหมือนกันเพราะเราเหนื่อยมาด้วยกัน ผมสิต้องขอบคุณทุกๆคน ขอบคุณอีกครั้งนะครับพี่ที่คอยช่วย

เหลือผม" ไค ขอบคุณจากใจจริงเค้าดีใจมากที่มาถึงวันนี้ แต่นี่เป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น

     ไคกลับมาพักผ่อนที่หอหลังจาก งานเลี้ยงฉลองความสำเร็จในก้าวแรกของเค้าที่ประธานโอใจดีจัดขึ้นให้จบลง ก็ทิ้งตัว

ลงนอนบนเตียงหลังใหญ่มองถ้วยรางวัลที่พึ่งได้มาสลับกับรูปถ่ายใบเก่าที่แขวนติดผนังห้องนอนไว้

  'นายอยู่ไหนนะเซฮุน ฉันทำได้แล้วนะ นายจะได้ดูการแสดงของฉันรึป่าว ฉันอย่ากให้นายได้เห็น ได้อยู่ด้วยกันในวันที่ฉัน

ประสบความสำเร็จอย่างนี้ ฉันคิดถึงนายมากเหลือเกิน เวลาที่ไม่มีนายอยู่ข้างๆฉันก็เหมือนกับคนที่ตายไปแล้วเลยรู้ไหม

กลับมาเถอะเซฮุน กลับมาหาฉัน กลับมารักกัน' น้ำตาลูกผู้ชายที่ไม่เคยมีใครเห็นนั้นไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย ไม่ใช่

เพราะดีใจที่ความฝันเป็นจริงจนร้องไห้ออกมา แต่ที่น้ำตามันไหลออกมาก็เพราะความห่วงหา ความคิดถึง คนที่เป็นเจ้าของ

หัวใจมันเกินจะทนแล้วจริงๆ รอยยิ้มและความเข้มแข็งที่ผ่านมามันก็แค่ละครฉากนึงเท่านั้น ที่แสดงออกมาให้ทุกคนเห็นว่า

เค้าไม่เป็นไร


เคมบริด์จ (รัฐแมสซาซูเซตส์) อเมริกา

     ขณะที่ทางเกาหลีมีเรื่องหน้ายินดีนั้น อีกซีกโลกนึงในเวลาเดียวกันแต่แตกกันด้วยเวลานั้นก็มีเรื่องให้ตื่นเต้นและหน้า

ยินดีมากเหมือนกัน ในตอนที่เซฮุนตื่นมาแต่เช้ามืดเพื่อที่จะดูถ่ายทอดสดส่งตรงจากเกาหลีรายการเพลงที่จะเป็นเวทีเดบิวต์

ของจงอินก็รู้สึกปวดหน่วงที่ท้อง เจ็บเสียจนแทบจะขาดใจ จะตะโกนเรียกใครก็ไม่มีแรงพอที่จะส่งเสียงออกไป จนมือเรียว

คว้าสะเปะสะปะไปเจอแก้วน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง เซฮุนฝืนแรงฮึดเป็นครั้งสุดท้ายข้วางแก้วออกไปทางประตูกระจก

บานเลื่อนริมระเบียงห้องจนแตกกระจากก่อนที่จะหมดสติไป

 

    ++ เพล้ง!!!!!!!!!! ++

 

เพราะเสียงดังเหมือนมีอะแตกทำให้ทุกคนบ้านตื่นขึ้นมาดู ไม่ว่าจะเป็นคุณนายคิมหรือจุนมยอน ไม่เว้นแม้แต่พวกแม่บ้าน

"เสียงอะไรครับแม่/เกิดอะไรขึ้นนะจุนมยอน" จุนมยอนและคุณนายคิมถามขึ้นพร้อมกันเมื่อทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องรับแขก

แล้วยกเว้นว่าที่คุณแม่ที่หมดสติอยู่ในห้อง คำตอบจากการถามของทั้งสองคนคือการส่ายหน้าว่าไม่รู้

"เซฮุน/เซฮุน" เมื่อตั้งสติและนึกขึ้นได้ว่าไม่มีว่าที่คุณแม่อยู่ในห้องนี้ทั้งสองคนก็กึ่งวิ่งกึ่งเดินไปที่ห้องของเซฮุน ทันทีที่เปิด

ประตูเข้าไปนั้น ก็เจอกับเศษกระจกและเศษแก้วแตกทางประตูระเบียง และร่างอวบของว่าที่คุณแม่นั้นใบหน้าเนียนชื้นเหงื่อ

เต็มไปหมด ที่เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ได้สติ จนคนเรียกนั้นใจไม่ดี ใบหน้าเนียนนั้นชื้นเหงื่อเต็มไปหมด เพราะความเป็นห่วงน้อง

มากจุนมยอนตัดสินใจอุ้มน้องไปโรงพยาบาลทันทีทั้งที่ตัวเองนั้นตัวเล็กกว่า

           เปลือกตาสีน้ำนมค่อยๆลืมขึ้นมองห้องที่ไม่คุ้นตา มือบางยกวางขึ้นทาบหน้าท้องที่เคยกลมนูนด้วยความเคยชิน

แต่ตอนนี้มันได้แฟบลงไม่ไม่กลมนูนเหมือนเดิมจับลงไปก็เจอแต่ผ้าก็อตที่ปิดทับแผลผ่าตัด คิดย้อนกลับไปก่อนหน้าที่ตน

จะหมดสติลงก็ใจคอไม่ดี นึกเป็นห่วงลูกน้อยที่เคยอยู่ในท้อง

"อ่าว..ตื่อนแล้วหรอเซฮุนเป็นยัไงบ้างลูก" คุณนายคิมที่เดินเข้ามาในห้องพักก็ถามขึ้นเมื่เห็นว่าเซฮุนตื่นแล้ว

"โอ๊ย!! ก็รู้สึกเจ็บที่ท้องนิดหน่อยฮะ คุณแม่ฮะแล้วลูกผมล๊ะ ตาหนูล๊ะฮะ" เซฮุนตอบด้วยหน้าเหยเกเมื่อขยับตัวเร็วเกินไป

จนสะเทือนแผลผ่าตัด และถามถึงลูกน้อยด้วยสีหน้ากระวนกระวายเพราะความเป็นห่วง

"มาแล้วคร้าบ..คุณยาย ตาหนูมาแล้วคุณแม่ตื่นรึยังครับ" จุนมยอนเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับพยาบาลที่มีห่อผ้าสีขาวใน

ออ้มแขน

"พาน้องมาส่งคุณแม่คะ" พยาบาลสาวส่งห่อผ้าสีขาวที่มีเด็กน้อยตัวสีแดงๆอยู่ข้างในให้เซฮุนและเดินกลับออกไป

"น่าเกลียดน่าชังจริงๆเลยหลานยาย ดูสิตัวจ้ำม่ำจริงเชียว" คุณนายคิมยืนมองหลานจนยิ้มหน้าบานแทบหุบไม่ลง

"แล้วจะตั้งชื่อหลานว่าอะไรหรอเซฮุน" จุนมยอนถามด้วยเสียงตื่นเต้น

" 'จีซอง' ผมจะให้ตาหนูชื่อว่า'จีซอง' ดีไหมฮะคุณแม่ ดีไหมฮะพี่" เซฮุนบอกและถามควาเห็นจากอีกสองคน

"จีซอง ที่แปลว่า ความจริงใจที่แท้จริง การอุทิศเสียสระ ความจงรักภัคดีนะหรอ" จุนมยอนถามความหมายของชื่อด้วยความ

ไม่แน่ใจ แต่เซฮุนก็พยักหน้าว่าใช่ความหมายเดียวกันกับที่จุนมยอนบอกมา

"ก็ดีนะเพราะดี ความหมายก็ดีแม่ชอบ เอาชื่อนี้แหละ โตจนเป็นแม่คนแล้วเราเข้มแข็งให้มากๆนะเซฮุนเพื่อตาหนูจีซอง

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันข้างหน้า แม่ จุนมยอน และคุณพ่อจะอยู่ข้างลูกเสมอ" คุณนายคิมพูดบอกวันนี้เธอมีความสุขมาก

จริงๆที่เห็นหน้าหลานชายของเธอ แต่เธอกลัวว่าเมื่อวันเวลาผ่านไปลูกชายของเธอจะต้องมีปัญหาในการตอบคำถามของ

หลานเธอเรื่องคนเป็นพ่อแน่ๆ เพราะดูแค่ตอนนี้ก็เห็นชัดแล้วว่าหลานเธอได้หน้าตาคนเป็นพ่อมาเต็มๆ ถ้าโตขึ้นหน้าตาจะ

ต้องชัดเจนขึ้นแน่นอนเพราะแทบจะไม่ตรงไหนเหมือนลูกชายเลยแม้แต่น้อย พอถึงวันนั้นเราคงได้รู้กันแน่ว่าพ่อของตาหนู

เป็นใคร

"ฮะคุณแม่ ยินดีต้อนรับนะครับจีซอง ในที่สุดเราก็ได้เจอกันซะที หลังจากวันนี้ไปเราจะเป็นคนสำคัญของกันและกันนะลูกรัก

แม่สัญญาว่าแม่จะดูแลหนูให้ดีที่สุดเท่าที่แม่คนนึงจะทำได้ แม่รักลูกนะจีซอง ลูกรักของแม่" เซฮุนพูดกับลูกน้อยในอ้อม

แขนด้วยความรักและเอ็นดูอย่างสุดซึ้ง

 

...

มาแล้วค่ะตอนที่ 5 ของเรา รอกันนานรึป่าวคะ

ตอนหน้าขอกระซิบแอบบอกกันก่อนว่า เราจะเจอลูกหมูกันแล้ววว

ยังไงก็ขอฝาก นิยายเรื่องนี้ ด้วยนะคะ

แล้วตอนหน้ามี่จะพาทั้งคุณป๊ะป๋า คุณหม่าม๊า และลูกหมู

มาเสริฟคนอ่านกันแน่ค่ะ วันนี้ก๊ะ บ๊าย...บาย

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
 it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 6

 



"จีซอง อยู่ไหนลูก เราต้องไปกันแล้วนะ ออกมาเลย เลิกเล่นได้แล้วลูก ถ้ายังไม่ออกมาหม่าม๊าจะทิ้งให้อยู่ที่นี่คนเดียวแล้วนะ"

หายไปไหนอีกนะ ลูกหมูตัวแสบนิเดี๋ยวก็ตกเครื่องกันพอดี วันนี้พวกเราจะต้องกลับเกาหลีกันแล้วฮะ ทั้งผมและพี่จุนมยอนก็

เรียนจบแล้วตอนแรกพวกเราก็จะอยู่ต่ออีกซักเดือน แต่ทนเสียงรบเร้าของเพราะความคิดถึงหลานของคุณแม่ไม่ไหวก็เลยต้อง

กลับกันเลย

"ต๊ะเอ๋!!/อุ๊ย!!"ผมต้องสะดุ้งด้วยความตกใจ เมื่อยืนมองหาเจ้าตัวแสบก็มีมือป้อมๆมาตะปบที่ต้นขา แล้วยังไม่วายเอาหัวกลมมาถูต้นขาผมอีก

"คิมจีซอง!!! หม่าม๊าบอกแล้วไง ว่าเราต้องรีบไปยังจะมัวเล่นอีก" ใช่แล้วฮะจีซองหรือคิมจีซองลูกชายวัยสามขวบของผมเอง

จากเด็กน้อยตัวแดงๆวันนั้น กว่ากลายมาเป็นเจ้าเด็กตัวกลมๆเหมือนลูกหมูตอนนี้ ต้องยอมรับเลยฮะว่ามันไม่ง่ายเลยจริงๆ มัน

เป็นอะไรที่เหนื่อยและลำบากมาก แต่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผมมีความสุขมากเหมือนกัน เดือนแรกที่มีคุณแม่คอยสอนคอยแนะนำก็ว่า

ยากแล้ว แต่หลังจากที่คุณแม่กลับไปนี่สิผมกับพี่นี่แทบจะไม่ได้หลับได้นอนกันเลยทีเดียว

"จีซองไม่ได้เล่งซะหน่อย  จีซองแค่เจอร์ไปร์หม่าม๊าเองน้าา...คิก คิก" ดูสิเจ้าเลห์จริงๆแถมยังแสบสุดๆสงสัยจะอยู่กับคุณลุงมาก

เกินไปถึงได้เป็นแบบนี้ เจ้าคนนี้เค้าหลานรักคุณลุงโอ๋กันตลอด จนจีซองดื้อแบบนี้

"ไม่ต้องมาแก้ตัวเลยเจ้าลูกหมู อยากจะพูดก็ยังพูดผิดอีก เล่นครับไม่ใช่เล่ง แล้วเซอร์ไพร์ก็ไม่ใช่เจอร์ไปร์ของลูกด้วย เรารีบไป

กันเถอะจีซอง ลุงจุนมยอนรออยู่ มาหม่าม๊าอุ้ม" แหม่ พอบอกว่าจะอุ้มนี่รีบชูมือเลยเชียว ไม่ค่อยจะขี้เกียจเลยลูกผม

"ไปเลยฮับหม่าม๊า ไปขึ้นเครื่องบิน บรึ้น!..บรึ้น!..บรึ้น!.." ฮึ ฮึ พูดอย่างเดียวไม่พอยังกางแขนกางขาเป็นเครื่องบินอีก ผมเลยอดไม่

ได้ที่จะจับเจ้าตัวหันหน้ามาหาผมแล้วฟัดแก้มฟูฟูนั่นซะ ใครจะว่าผมหลงลูกก็คงต้องยอมรับว่าใช่ล๊ะฮะ ทั้งรัก ทั้งหลง ทั้งหวง

ทั้งห่วงเลย ก็ลูกเป็นเหมือนชีวิตของผมนี่ฮะ ถ้าวันไหนขาดลูกไปผมคงอยู่ไม่ได้ ผมหวังว่าการกลับไปเกาหลีครั้งนี้ของผมและ

จีซองจะราบรื่นไร้ปัญหาและคงจะไม่เจอกับจงอิน ผมขอแค่มองอยู่ห่างๆในที่ของผมก็พอ เพราะเท่าที่รู้มาคือ ตอนนี้จงอินเป็น

ศิลปินอันดับหนึ่งของเกาหลี ได้รับความนิยมมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาทุกอย่างที่จงอินทำมา

จะต้องจบแน่ๆ จีซองยิ่งโตก็ยิ่งชัดเจนขึ้นว่าเหมือนพ่อของเค้ามากทั้งหน้าตาและกริยาท่าทาง คงมีแค่สีผิวเท่านั้นที่เหมือนผม

แถมนิสัยยังเหมือนกันสุดๆ ทั้งกินเก่ง นอนเก่ง เหมือนจงอิน จนตอนนี้กลายเป็นลูกหมูน้อยๆไปแล้ว จีซองอาจจะดื้อจะซน

ไปตามเรื่องตามราวเหมือนเด็กทั่วไป แต่รู้มากรู้เกินเด็กจนเป็นหลานรักคุณลุงคุณยายไปแล้วหลงกันจนถอนตัวไม่ขึ้น

คุณยายนี่มาหาบ่อยมากๆ ส่วนคุณพ่อของผมท่านเองก็เคยมากับคุณแม่สองครั้ง ท่านก็ยังคงคุยกับผมแทบนับคำได้ ตอนแรก

ท่านก็ทำเหมือนไม่สนใจจีซองเหมือนกันแต่พอเจ้าตัวแสบตื้อคุยด้วยหน่อยก็ตกหลุมความเจ้าเลห์ของจีซองไปอีกคน ทีนี้แหละ

ถึงกับถอนตัวไม่ขึ้น ถึงตัวท่านจะไม่มาแต่ก็โทรคุยกันตลอด ทุกครั้งที่โทรมาก็จะคุยแค่กับจีซองเท่านั้นส่วนผมกับพี่จุนมยอนก็

ตกกระป๋องกันเป็นการถาวร ถ้าเป็นแบบนี้ไปนานๆเข้า สักวันจีซองคงจะเป็นกาวที่ต่อรอยร้าวของผมกลับคุณพ่อให้แนบสนิทได้

 


สนามบินอินชอน

"พร้อมนะไค" พี่มินซอกหันมาถามผม วันนี้ผมต้องขึ้นเครื่องไทยครับ เพราะผมมีคิวที่จะจัดคอนเสิร์ตครั้งที่สองขึ้นที่นั่น

ในวันพรุ่งนี้ แต่ตอนนี้เรายังอยู่บนรถกันอยู่เลย ยังเข้าไปเช็คอินไม่ได้เพราะจำนวนแฟนคลับที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกปีของผม

ปีนี้ก็เป็นปีที่สามแล้วที่ผมได้ขึ้นมาเป็นศิลปินเต็มตัว ผมก็ดีใจนะครับที่ผลตอบรับดีขนาดนี้ แฟนๆให้การสนับสนุนผลงาน

ของผมทุกๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นผลงานเพลง หนัง ละคร ถ่ายแบบ หรือโฆษณาก็ตามพวกเค้าให้การสนับสนุนผมเป็นอย่างดี

มีกันเยอะๆก็อบอุ่นดีครับ แต่จะไปไหนมาไหนทีก็ลำบากกันหน่อย

"ขอทางหน่อยครับ ขอทางให้ไคได้ไปทำงานอย่างสะดวกหน่อยนะครับ" การ์ดมาแล้วครับการเดินทางไปไหนของผมแต่ละที

ต้องใช้การ์ดมากกว่าสิบคน และพี่มินซอกก็ต้องตะโกนขอทางอย่างนี้ตลอดเวลา บางทีผมก็สงสารนะครับเพราะพี่แกตัวเล็ก

นิดเดียว ครั้งแรกเลยที่ผมต้องเดินทางไปต่างประเทศพอรู้ว่าต้องมีการ์ดเปิดทางให้เยอะขนาดนั้นผมแย้งเลยว่าไม่ต้องทำขนาด

นั้นก็ได้ แต่ผลคือผมถูกแฟนคลับรุมทึ้งจนล้มลงไปกองกับพื้นสนามบินเลย หลังจากวันนั้นผมก็ไม่เคยแย้งเลยว่าการ์ดเหมือน

จะเพิ่มจำนวนมากขึ้น แค่เดินออกไปนิ่งๆ ตามที่พี่มินซอกบอกเดี๋ยวผมก็ปลอดภัย

"อ๊ะ" เป็นเพราะผมหยุดเดินและถอดแว่นออกเพื่อที่จะได้มองให้ชัดๆให้แน่ใจว่าใช่รึป่าว กลับทำให้การเคลื่อนไหวทั้งหมด

หยุดลงพร้อมกับเสียงกรีดร้องของแฟนคลับที่ดังขึ้นจนปวดหู นี่ขนาดผมใส่หูฟังนะยังได้ยินขนาดนี้ แล้วพวกเค้าไม่หนวกหู

กันบ้างหรอ บางทีผมก็อยากถามออกไปว่าแค่ผมถอดแว่นนี่มันปหน้าตื่นเต้นขนาดนั้นเลยหรอ แต่ก็ทำไม่ได้

"หยุดทำไม ไค รีบเดินต่อเลยนายกำลังจะทำให้ผู้โดยสารคนอื่นเดือดร้อนนะ" พี่มินซอกหันมากระซิบผมและใช้มือดันหลังผม

เบาๆ เพื่อเป็นการให้สัญญาณว่าผมควรเดินต่อได้แล้ว

"เมื่อกี้นายหยุดทำไมน่ะไค นายเกือบจะทำให้เกิดความวุ่นวายในสนามบินเพราะถอดแว่นโชว์หน้าสดหล่อๆของนายแล้วนะ"

เมื่อเข้ามานั่งพักในเกทที่ปราศจากแฟนคลับแล้ว พี่มินซอกก็เปิดฉากบ่นผมทันที

"ผมคิดว่าผมเห็นเซฮุนนะพี่" เพราะเหตุนี้แหละที่ทำให้ผมลืมตัวหยุดเดินเพื่อจะดูให้แน่ชัดว่าผมไม่ได้ตาฝาด มองไม่ผิดจริงๆ

"นายแน่ใจรึป่าวว่าเห็นเซฮุนน่ะไค ไม่ได้คิดถึงเค้าจนมโนไปเองนะ"

"ก็เพราะว่าผมคิดว่าผมอาจจะตาฝาดนั่นแหละครบ ผมถึงหยุดเพื่อที่จะมองให้ชัดๆ แต่ก็เพราะแฟนคลับดันเข้ามาเรื่อยๆ

จนพี่ให้ผมเดินต่อนั่นแหละ หันไปอีกทีเค้าก็หายไปแล้ว อีกอย่างตรงที่ผมเห็นเค้ามันไกลมากเลยด้วย แต่ผมว่าผมดูไม่ผิดหรอก

ต้องใช่เซฮุนแน่ๆ พี่ต้องช่วยผมตามหาเซฮุนด้วยนะครับ"

"เอาเถอะพี่จะลองอีกทีก็แล้วกัน แต่ทีหลังนายอย่าทำแบบนี้อีกนะไค มีอะไรก็เก็บไว้ในใจก่อนเอาไว้มาคุยกันที่หลัง ทำอย่าง

นี้มันเสี่ยงเกินไป"

"ครับผมจะจำไว้ ขอบคุณครับพี่" ขอให้ใช่ทีเถอะ ผมว่าผมจำไม่ผิดแน่ ผิงจะดูอวบๆขึ้นกว่าเดิม ต้องใช่เซฮุนแน่ๆ

ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าผมไม่ตามหา สองปีแรกผมจ้างนักสือให้ตามหาจนนักสืบถอนตัวออกไปเป็นคนๆ ทั้งผมและพี่มินซอกก็ช่วย

กันแต่ก็ไม่มีใครหาเจอเลย จนผมเริ่มถอดใจหยุดการตามสืบหาเซฮุนมาได้ซักพัก ถ้าคนที่ผมเห็นเป็นเซฮุนก็แสดงว่าเซฮุนไป

อยู่ต่างประเทศมา บื้อจริง!!ๆจงอินเอ้ย มิน่าผมถึงหาไม่เจอเพราะผมมัวแต่หาในประเทศนี่แหละไม่คิดว่าเซฮุนจะไปต่างประเทศ

ผมลืมควาจริงไปอย่างนึงว่า เซฮุนเป็นลูกคุณหนูคงจะไปอยู่ต่างประเทศได้สบายๆ ผมนี่โง่จริงๆ ครั้งนี้ขอให้เจอทีเถอะ

จะได้รู้สักทีว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เซฮุนทิ้งผมไปเฉยๆแบบนี้ตั้งหลายปี แล้วไปอยู่ที่ไหนมา นายจะยังรักฉันคนนี้อยู่ไหมเซฮุน

...

"เค้ามีอะไรกันทำไมคนเยอะขนาดนั้น" ทันทีที่เครื่องลงจอดที่สนามบิน พวกผมก็เดินออกมาเพื่อที่จะไปหาที่นั่งรอรถของที่บ้าน

มารับ ลูกหมูน้อยๆของผมคงจะเพลียแย่แล้วและคงปรับเวลาไม่ทันด้วยมั้ง เลยอ้อนให้คุณลุงเค้าอุ้มจนหลับไปแล้ว หายซ่าไปเลย

     +++ กรี๊ดดด!!!! กรี๊ดดด!!!!!+++

"หม่าม๊า......" เพราะเสียงกรีดร้องที่ดังมากทำให้ลูกหมูของผมงัวเงียตื่นขึ้นมา เพราะนอนไม่พอจึงทำให้เจ้าตัวงองแงดันตั้วออกจากพี่จุนมยอนพลางเอนตัวมาจะให้ผมอุ้ม พอผมยื่นมือออกไปรับเจ้าลูกหมูก็กอดหมับเข้าที่คอและซุกหน้าเข้ากับซอกคอผม

แถมขาสั้นๆนั่นยังเกี่ยวรัดเอวผมซะแน่นเลย

"สงสัยพวกดารานักร้องมั้ง ไปกันเถะเดี๋ยวเจ้าตัวแสบตื่นขึ้นมางองแงอีกจะยุ่งเอา" ผมหันไปมองทางที่พี่จุนมยอนสนใจตั้งแต่แรก

ก็เห็นกอทัพแฟนคลับ มีทั้งป้ายไฟ ทั้งกล้องถ่ายรูป เต็มไปหมด แต่ผมมองไม่เห็นหรอกว่าศิลปินเป็นใครเพราะมันไกลเกินไป

สงสัยคงจะเป็นพวกที่ดังมากๆและอยู่ในกระแสตอนนี้ล่ะมั้ง ไปต่างประเทศทีถึงได้มีแฟนคลับแห่กันมาส่งเป็นกองทัพแบบนี้

แต่ก็ช่างเถอะมันไม่ใช่เรื่องของผม ตอนนี้ผมคงต้องรีบกลับไปให้ถึงบ้านอย่างเร็ว แล้วทิ้งตัวหนักของลูกหมูจีซองลงที่นอนนุ่มๆ

สบายๆ จะได้นอนอย่างเต็มอิ่ม ถ้าตื่นขึ้นมาตอนนี้คงจะอาละวาดให้แหลกกันไปข้างแน่ๆ ก็อย่างที่เคยบอกไปว่าเรื่องที่สำคัญที่สุด

ของจีซองคือเรื่องกินกับเรื่องนอน

 

 



บ้านตระกูลโอ

        หลังจากที่ได้นอนจนเต็มที่แล้ว เจ้าลูกหมูก็ตื่นขึ้นมาทันเวลาทานมื้อกลางวันพอดี คำแรกที่ใช้ทักทายผมตอนตื่นนอนคือ

'หม่าม๊า จีซองหิววว....' พูดทั้งๆที่ยังลืมตาไม่ขึ้นเลย แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ผมเรียกว่าลูกหมูได้ยังไงกัน ผมล๊ะอดไม่ได้ที่จะฟัด

พุงกลมๆที่มันโพล่พ้นเสื้อออกมาเพราะเจ้าตัวนอนดิ้น กลมไปหมดทั้งตัวแล้วลูกชายผม พอได้ลงมาทานข้าวก็เท่ากับเติมพลัง

ของเค้าเต็มร้อยแล้วหล่ะ ทีนี้ล่ะก็เอาช้างมาฉุดก็ไม่อยู่ และตอนนี้ก็เล่าเรื่องความฝันเมื่อเช้าให้คุณตาเค้าฟัง

"จริงๆนะฮับคุงตา จีซองอะชกคุงสักปะหลาดอย่างที่คุงลุงสอนเลย จีซองเก่งใช่ม้ายย....." เล่าจบก็กอดแขนคุณขาแล้วถามด้วย

ความภาคภูมิใจทีจัดการกับสัปหลาดในความฝัน แถมยังยักคิ้วให้อีกสองทีต่างหาก ทะเล้นจริงๆ ไม่ค่อยจะขี้โม้เท่าไหร่เลย

ไม่รู้ทำไมจีซองถึงพูดภาษาเกาหลีบางคำไม่ชัดทั้งที่พูดอังกฤษชัดทุกคำ

"ฮ่าๆ เก่งๆหลานตาเก่งจริงๆ" คุณพ่อก็เป็นไปกับเจ้าตัวแสบด้วยแต่ผมก็ดีใจนะที่เห็นท่านยิ้มและหัวเราะได้อย่างมีความสุขอีกครั้ง

"ลงมานั่งดีๆสิจีซอง นั่งบนตักคุณตานานๆอย่างนั้น คุณตาท่านจะเจ็บขาเอานะลูก" ผมบอกกับจีซองที่นั่งอยู่บนตักคุณพ่ออยู่นาน

สองนาน เพราะท่านอายุมากแล้วแถมเจ้าลูกหมูก็ไม่ใช่เบาๆ ผมกลัวว่าท่านจะปวดขาเอาได้

"ไม่เป็นไรหรอก หลานฉันตัวเล็กนิดเดียวไม่หนักหรอก" ท่านบอก และมองหน้าผมด้วยสายตาที่อ่อนลงมากซึ่งต่างจากวันนั้น

ผมหวังว่าสักวันเราจะกลับมาคุยกันได้เหมือนเดิม และจีซองคงจะช่วยผมไถ่บาปโดยทำให้ท่านมีความสุขในทุกๆวัน

"โอ้โห!! ถ้าไอ่ลูกหมูของคุณพ่อนี่ตัวเล็ก บนโลกนี้ก็ไม่มีเด็กคนไหนอ้วนหรอกครับ" พี่จุมยอนพูดแหย่จีซองเข้าให้

"เดี๋ยวเถอะ ตาจุนมยอนนี่ พูดกับหลานไม่เพราะเลย ไอ่เอ้ยอะไรกัน" คุณแม่ว่าและตีแขนพี่จุนมยอนเบาๆเพื่อเป็นการเตือน

"คุงลุงพูดไม่เพราะ หลานแค่ อวบ!! อวบ!! เองนะ ไม่ได้อ้วนสักหน่อย จิ๊!!" มาแล้วฮะสัพนามที่ใช้แทนตัวเวลาโกรธหรือจะอ้อน

เอาอะไร ถ้าเป็นผมก็จะแทนตัวเองว่า 'ลูก' ไม่มีใครสอนหรอกฮะแกเป็นของแกเอง หันมาพูดค้อนใส่พี่จุมยอนเสร็จก็กอดอกสะบัดหน้าหนีไปเลยแสดงให้เห็นว่าตัวเองงอลแล้ว

"อ้วน!! จีซองอ้วน ไอ่หมูอ้วน" พี่จุนมยอนยังไม่เลิกแหย่ เดี๋ยวคอยดูเถอะว่าใครจะชนะ

"ป่าวนะ!! หลานแค่ อวบ อวบ" คราวนี้ลงจากตักคุณตาไปยืนเท้าเอวที่ไม่ค่อยจะมีเถียงอยู่ตรงหน้าคุณลุงด้วยหน้านิ่วคิ้วขมวด

"อ้วน!!!"

"อวบ!!! อวบ!!!"

"หมูอ้วน"

"หลานก็แค่ อวบ อวบ แง๊ง....แง่ๆ....แง....ฮึก..." งานเข้าแล้วไง เรื่องนี้เป็นวาระระดับชาติของคุณลุงคุณหลานเค้าตั้งแต่อยู่อเมริกา

แต่ก็ไม่ต้องไปห้ามหรือไปยุ่งกับเค้าสองคนหรอกฮะ เค้าจัดการกันเองได้ ถ้าใครเข้าไปยุ่งเป็นเรื่องแน่

"โอ๋ๆ ลุงขอโทษครับจีซองคนหล่อ ดีกันน้า..." คุณลุงคว้าตัวคุณหลานเข้าไปกอดปลอบ พลางชูนิ้วก้อยแกว่งไปมาเพื่อขอคืนดี

แต่คุณหลานกับส่ายหน้าปฏิเสธ

"ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวลุงซื้อเค้กให้ ดีกันนะครับจีซองคนหล่อ" คราวนี้เอาของโปรดเข้าแลก คุณหลานถึงกับหยุดซะอื้นทันที แถมยังชูสองนิ้วขึ้นมาด้วย ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่รู้หรอกว่าความหมายคืออะไร แต่คุณลุงคุณหลานเค้ารู้กัน

"ก็ได้ๆ ลุงแถมไอติมให้ด้วย คราวนี้ดีกันน้า..." คุณลุงเพิ่มข้อเสนอให้และชูนิ้วก้อยเพื่อขอคืนดีกันอีกครั้งแต่คุณหลานกับส่ายหน้า

และพยักหน้าในเวลาเดียวกัน

"เค้กก็แล้ว แถมไอติมให้ด้วยยังจะเอาอะไรอีกครับคุณหลานสุดที่รัก" คุณลุงถามด้วยความไม่เข้าใจเมื่อหลานทั้งตกลงและปฏิเสธ

"ซื้อหม่าม๊า" คุณหลานบอกความต้องการ

"ห๊!!" แต่คุณลุงก็ยังคงไม่เข้าใจ

"ซื้อเค้ก กะ ไอติม ของหม่าม๊า หม่าม๊าทำอร่อยที่สู้ดดด..." ทีนี้เจ้าตัวบอกอย่างชัดเจนด้วยสีหน้าเจ้าเลห์

"ฮ่าๆ ฮึๆ ฮ่า" คำตอบของคุณหลานทำให้คนที่นั่งดูคุณลุงคุณหลานเค้างอลง้อกันถึงกับระเบิดหัวเราะออกมาพร้อมกัน เพราะความ

น่ารัก เจ้าเลห์ และรู้มากของคุณหลาน อย่างง่ายดาย ช่างเป็นภาพที่น่ารักจริงๆ

"มาหาตามาจีซอง ได้กำไรสองต่อเลยนะตัวแสบ ตัวแค่นี้รู้จักช่วยแม่แล้วหรอฮึ" ประธานโอเรียกจีซองเข้าไปหาและอุ้มจีซอง

นั่งตักตัวเองอีกครั้ง อดไม่ได้ที่จะขยี้หัวกลมของหลานด้วยความเอ็นดู

"ไม่ต้องทำตามที่จีซองบอกหรอกฮะพี่ แค่ลูกอยากกินผมทำได้จะซื้อกันทำไม" เซฮุนค้านขึ้น

"ไม่ได้น้า..หม่าม๊า คุงลุงบอกว่าลูกผู้ชายต้องห้ามผิดสัญญา" จีซองแย้งขึ้นและยกมือป้อมชูนิ้วก้อยหมุนไปหมุนมาด้วยหน้าทะเล้น

"โอเคๆ ลุงจ่ายเองพอใจยังครับคุณหลาน" จุนมยอนพูดอย่างปลงตกเพราะเสียรู้หลาน พลางยกมือทั้งสองข้างขึ้นเป็นการยอมแพ้

"แสบจริงๆหลานตา" ประธานโอพูดบอกก่อนที่จะฟัดแก้มฟูฟูนั่น

"ก็เหมือนคุงตาไงฮับ" พูดตอบและยิ้มจนตาหยี

"ฮ่าๆ!!!!!!!!!" คำตอบของลูกชายหม่าม๊าเซฮุนทำให้ทุกคนระเบิดเสียงหัวเราะขึ้นอีกครั้ง เพราะมีจีซองทำให้บ้านใหญ่ที่เงียบเหงา

ได้มีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง มีทั้งรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ทำให้ทุกๆคนในบ้านมีความสุขไปด้วย ทิฐิที่สูงลิบของประธานโอที่มีต่อ

เซฮุนกำลังทลายลงทีละนิดๆ เมื่อถึงวันที่ทิฐินั้นหมดไป บ้านก็คงจะเป็นบ้านที่น่าอยู่มากกว่านี้ ครอบครัวก็คงจะอบอุ่นและมี

ความสุขมากกว่านี้ หวังว่าวันนั้นคงจะมาถึงในเวลาอันใกล้นี้

 

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
  it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 7

 

 

 



Indy Cafe'


      กรุ๊งกริ๊ง  กรุ๊งกริ๊ง     

"อิงลี่ คาเฟ่ ยิงดีต้องรับฮับพี่สาว" จริงๆเลยลูกชายผมพูดไม่ชัดแล้วยังขยันที่จะพูดอีก ปมไปปรึกษากับคุณหมอมาแล้วแหละเรื่องนี้

เค้าบอกว่าอาจจะเป็นเพราะว่าตอนอยู่ที่อเมริกาแกพูดและได้ยินภาษาอังกฤษมากกว่าเกาหลีเลยทำให้แกยังออกเสียงไม่ค่อยถูกต้อง

อยู่ไปสักพักเดี๋ยวแกก็ปรับตัวได้และพูดชัดขึ้นเองไม่ต้องเป็นห่วงไม่มีปัญหาอะไร ผมก็พอจะเบาใจได้หน่อยที่ลูกไม่ได้เป็นอะไร

"จีซองครับ หม่าม๊าว่าเราไปทำการบ้านตรงโน้นกันดีกว่าไหมลูก ตรงนี้ให้พี่แบคกับะี่โด้เค้าดูแลเอง มาไปกับหม่าม๊าดีกว่าเร็ว"

ตอนนี้ก็ผ่านมาสามเดือนกว่าๆแล้วฮะที่เรากลับมาอยู่เกาหลีทุกอย่างก็เข้าที่เข้าทางมากขึ้น ตอนนี้ลูกหมูของผมก็ไปโรงเรียนแล้ว

เป็นนักเรียนอนุบาลหนึ่งโรงเรียนเอกชนหมีน้อย ค่าเทอมแสนแพง ที่คุณตาเค้าอยากให้เข้าเรียนที่นี่และขอดูแลค่าใช้จ่ายเรื่องเรียน

ของจีซองจนกว่าเจ้าตัวจะจบปริญญากันเลยทีเดียว ถึงจะเกรงใจแต่ผมก็ห้ามไม่ได้หรอกฮะเดี๋ยวจะมีเรื่องขัดใจกันขึ้นมาอีกเพราะ

ตอนนี้คุณพ่อท่านหลงหลานมาก และเรื่องราวต่างๆของจีซองก็ทำให้ผมและคุณพ่อได้คุยกันมากขึ้น ส่วนเรื่องที่ผมตั้งใจจะมาเปิด

คาเฟ่เล็กๆอยู่แล้ว พอคุณแม่รู้เรื่องเข้าก็อาสาจัดการเรื่องทำเลที่ตั้งและจัดการสร้างร้านนี้ขึ้นมา แต่ท่านก็ให้ผมออกแบบเองส่วน

ค่าใช้จ่ายทั้งหมดคุณแม่ก็เป็นคนจัดการ พอผมแย้งท่านก็บอกว่าเป็นของขวัญเนื่องในโอกาสที่ผมเรียนจบปริญญากลับมาและ

พี่จุนมยอนก็ได้รถหรูเกือบร้อยล้านเหมือนกัน แถมคุณพ่อยังถอยรถมาให้ใหม่คันนึงบอกว่าซื้อรับขวัญหลานแต่กลับเป็นชื่อผม

ส่วนผมเป็นแค่คนขับรถให้ลูกเท่านั้น ทำให้ผมกับพี่และคุณแม่ต้องหลุดขำออกมาเพราะความปากแข็งของคุณพ่อ ต้องยอมรับว่า

คุณแม่เก่งมากที่สามารถหาทำเลที่ตั้งร้านผมได้ดีขนาดนี้ เพราะร้านของผมตั้งอยู่จุดศูนย์กลางของย่านธุรกิจ แหล่งช็อปปิ้ง และอยู่

ใกล้โรงเรียนมัธยมอีกต่างหากทำให้ร้านของเรามีลูกค้าทุกเพศทุกวัยเลยทีเดียว Indy Cafe' เป็นร้านที่มีทั้งอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดยกเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ มีเค้กที่ทำขึ้นสดใหม่วันต่อวันและยังมีไอศครีมโฮมเมตที่ทำมาจาเนื้อผลไม้แท้ๆและนมโคสดๆ ไขมันต่ำ คนรักสุขภาพต้องลอง ทังสองอย่านี้ผมเป็นคนทำเองทั้งหมดที่สำคัญราคาถูกและเป็นกันเองแบบสุดๆ และมีพนักงานประจำที่น่ารักๆสามคนฮะคนนึงคือเชฟประจำร้านของเรามีหน้าที่ทำอาหารจานหลักทั้งหมด ส่วนอีกสองคนก็คือ

แบคฮยอนและดีโอ สองคนนี้เป็นบาริสต้าครับ ทั้งสุภาพ เรียบร้อย อัธยาศัยดีเป็นกันเองสุดๆ ขยันขันแข็งไม่เคยบ่นไม่เคยอู้เลยแม้ว่าบางทีแทบจะไม่ได้หยุดพักกันเลยก็ตาม เพราะช่วงเที่ยงพักกลางวันก็จะมีพวกพนักงานออฟฟิตแถวนี้เข้ามาที่ร้านกันเยอะเลย ส่วนช่วงบ่ายๆเย็นๆก็จะเป็นพวกคู่รัก วัยรุ่น หรือเด็กนักเรียนโรงเรียนมัธยมแถวๆนี้ ก็จะเข้าก้นมาพร้อมกันจนบางที่เราสามคนก็ทำไม่ทันแต่พวกเค้าก็ใจเย็นกันพอที่จะรอกัน ถือว่าเป็นอะไรที่ดีมากเลยฮะในการที่พึ่งเปิดร้านแล้วมีคนสนใจมากขนาดนี้

"เดี๋ยวก่อนค่ะ!! น้องน่ารักจัง พวกเราขอให้น้องมานั่งเล่นกับพวกเราก่อนได้ไหมคะ" ยังไม่ทันที่ผมจะพาจีซองเดินออกไปเลย

หนึ่งในกลุ่มน้องมัธยมปลายที่เข้ามาใหม่ก็พูดขึ้น

"จะดีหรอฮะ ลูกชายพี่ซนมากเลยนะ พี่กลัวน้องจะลำคานเอา"ผมไม่ได้หวงลูกจนไม่ให้ใครเข้าใกล้และไม่ให้เล่นกับใครหรอกนะ

แต่ที่พูดไปก็เพราะอยากจะเตือนน้องเค้าจริงๆก็จีซองน่ะซนแบบธรรมดาๆซะที่ไหน ป่วนสุดๆ

"ไม่รำคานหรอกคะ น้องน่ารัก เราแอบดูน้องเล่นกับคนอื่นหลายครั้งแล้ว ไม่มีโอกาสจะได้เล่นกับน้องซักที"

"ก็ได้ฮะ แต่ถ้าจีซองซนก็บอกพี่ได้เลยนะ"

"ขอบคุณค่ะ เดี๋ยวเราไปนั่งใกล้ๆกับเคาเตอร์เลย ออนนี่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงน้องด้วย"

"เอ๋!! น้องคงจะเข้าใจะอะไรผิดไป พี่เป็นผู้ชายนะฮะไม่ใช่ผู้หญิง" เหอะๆสงสัยน้องเค้าคงจะสับสนแหละฮะถึงได้เรียกผมว่าพี่สาว

"เรารู้ค่ะว่าพี่เป็นผู้ชาย แต่ก็พี่มีลูกนี่คะแถมยังสวยกว่าผู้หญิงอย่างเราอีก นะคะเราขอเรียกพี่ว่าออนนี่ได้ไหมคะ" ผมว่ามันจะไม่

แปลกเกินไปหรอฮะถึงผมจะมีลูกแต่ผมก็ยังเป็นผู้ชายอยู่นะ

"นร้าคร้าๆ นะ พวกเราอยากเรียกพี่ว่าออนนี่จริงๆ" อย่าอย่าทำหน้าอย่างนั้นกันสิ

"แล้วแต่พวกน้องเลย จะเรียกพี่ว่าอะไรก็ตามใจแล้วกันฮะ" โธ่!จนได้สิผม เฮ้อ!ท่องไว้ๆลูกค้าคือพระเจ้า

"เย้ๆ ว่าแต่พี่ชื่ออะไรคะ พวกหนูจะได้เรียกกันถูก" ดีใจกันขนาดนั้นเชียวแต่น้องรู้ไหมว่าพี่เสียใจมากเลยที่หลุดปากรับคำน้อง

ออกไป ฮือๆอยากจะร้องไห้แล้วลงไปดิ้นๆกับพื้นเหมือนจีซองจัง ไม่น่าเลยผม คนอื่นจะมองผมแปลกไหมเนี่ย

"พี่ชื่อเซฮุนนะ"

"ถ้าอย่างนั้นพวกเราขอเรียกว่าเซฮุนออนนี่ได้ไหมคะ!!!" ถ้าน้องพร้อมใจกันเรียกขนาดนี้ล๊ะก็อย่าขอพี่เลย

"แล้วแต่เลย เชิญตามสบายเลยนะฮะพี่ขอตัวไปทำงานก่อ จีซองครับอย่าซนนะดูแลพวกพี่สาวด้วย"

"ฮับป๋ม จีซองสุดหล่อจะดูแลพวกพี่สาวเอ๊งงง...." โถ่...เจ้าลูกหมูไม่ค่อยจะหลงตัวเองเลย ยังมีหน้ามาทำท่าตะเบ๊ะเหมือนตำรวจอีก

"อ๊าย!! น้องจีซองน่ารักจังเลย ถ่ายรูปกับพวกพี่สาวได้ไหมครับ" หนึ่งในกลุ่มเด็กมัธยมเมื่อกี้พูดขึ้นมา

"ได้ฮับ!! ถ่ายให้จีซองหล่อๆเลยน๊าาา...พี่สาว จีซองชอบถ่ายรูป" ผมล๊ะขำจริงๆ ทำไมผมเหมือนเห็นสายตาเจ้าชู้ของลูกหมูเลยนะ

แต่ผมก็ไม่ได้หวงไม่ได้ห้ามหรอกฮะเพราะนี่ไม่ใช่คนแรกที่ถ่ายรูปจีซอง ตั้งแต่เปิดร้านมาคนไหนที่ได้คุยได้เล่นกับจีซองก็จะขอ

ถ่ายรูปด้วยทุกคน จนจีซองจะกลายเป็นมาสคอต เป็นโลโก้ประจำร้านไปแล้ว แต่ผมก็ดีใจนะที่ลูกเข้ากับคนง่ายและมีแต่คนเอ็นดู

แบบนี้ แกจะได้ไม่รู้สึกเหมือนขาดอะไรไป

 

 


HK Entertainment     

     ตารางงานทั้งหมดของผมวันนี้ได้หมดลงแล้วครับ แต่ผมก็ยังไม่สามารถกลับไปพักผ่อนได้หรอกครับเพราะผมยังต้องเข้าบริษัทเพื่อที่จะมาซ้อมท่าเต้นของเพลงใหม่ที่กำลังเตรียมตัวจะคัมแบคในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

     ++ ปึก!!! ++

"งื้อ..อ...." ผมกำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยในขณะที่จะเดินไปห้องซ้อมก็มีเด็กที่ไหนก็ไม่รู้วิ่งมาชนผม แต่เจ้าตัวกลับหงายหลังล้ม

ไปเองซะงั้น

"โอ๊ะ! ตัวเล็กเจ็บไหมครับ อาขอโทษนะ ไหนขออาดูหน่อยสิ ว่าเราเจ็บตรงไหนรึป่าว" แปลกแฮะ ปกติเป็นเด็กทั่วๆไปนิ ถ้าล้ม

ก้นจ้ำเบ้าแรงขนาดนี้ คงร้องไห้จ้าไปแล้ว แต่เจ้าหนูนี่ก็ไม่ร้อง กลับนั่งนิ่งจ้องหน้าผมแทนซะงั้น นิ่งซะจนผมอดห่วงไม่ได้

จนผมผมต้องจับยืนขึ้นดูตามเนื้อตามตัวว่ามีรอยฝกช้ำตรงไหนรึป่าว

"ไม่เจ็บฮับ จีซองแข็งแรง!!" โธ่..กว่าจะตอบได้นะเจ้าตัวเล็ก ทำเอาอาใจหายหมดนึกว่าเดินชนลูกเค้าจนหัวฟาดพื้นไปซะแล้ว

แถมยังมีหน้ามาทำท่าแบ่งกล้ามให้ผมดูอีก

"ฮ่าๆ เก่งจังเลยนะตัวแค่นี้ ว่าแต่เรามากับใครครับ ที่นี่เค้าไม่ให้เด็กเข้ามาวิ่งเล่นหรอกนะ เดี๋ยวก็โดนดุเอาหรอก"

"ไม่โดนดุหรอกฮับ คุงตาบอกว่าที่นี่เป็งของคุงตาก็คือของจีซอง จีซองวิ่งได้" เจ้าตัวเค้าบอกด้วยความภูมิใจว่าแต่หลานใครเนี่ย

"หรอครับ แล้วตกลงมากับใคร เรายังไม่ได้บอกกับอาเลยนะ"

"มากับหม่าม๊าฮับ!! หม่าม๊าเอาเค้กมาให้คุงตา เค้าร้างหม่าม๊าอร่อยที่สุดในโลกเล๊ยยยย..." ฮึๆ เจ้าหนูนี่แค่ตอบไม่พอ ยังจะโฆษณา

ขนมที่หม่าม๊าตัวเองทำ ไม่วายที่จะทำท่าทางอยากจะกินซะเองเมื่อพูดถึงเค้กของหม่าม๊าตัวเอง ยิ้มกว้างซะน่ารักจนผมอดไม่ได้ที่

จะยิ้มตามไปด้วย

"หม่าม๊าเราไปไหนซะหล่ะ ทำไมถึงปล่อยให้เราอยู่คนเดียว แล้วที่เราวิ่งมาชนอาเนี่ยกำลังจะไปไหนฮะตัวเล็ก" ผมอุ้มเจ้าตัวเล็ก

ขึ้นมาถาม อื้อหือ!! เห็นตัวเล็กๆหนักไม่ใช่เล่นเลยนะเนี่ย

"หม่าม๊าคุยกะคุงตา แต่จีซองอยากไปหาคุงลุงเลยขอหม่าม๊าแล้วไงฮับ ว่าแต่คุงอาเป็นใครฮับ เป็นคนแปลกหน้ารึป่าวฮับ  หม่าม๊า

ไม่ให้จีซองคุยกับคนแปลกหน้าน้าาาา......" ฮ่าๆ โอ้ย!! ผมไม่รู้ว่าจะตอบคำถามยังไงดี เจ้าหนูนี่ตลกจัง แต่ไอ่การที่ทำหน้าเหมือน

หมาสงสัยนี่น่ารักชะมัด คุยกันมาตั้งนาน แล้วยังจะมีหน้ามาถามอีกว่าผมเป็นคนแปลกหน้ารึป่าว

"อาชื่อไค ไม่ใช่คนแปลกหน้าหรอกครับอาเป็นนักร้องอยู่ที่นี่ แล้วเราหล่ะชื่อจีซองใช่ไหม" ผมทั้งตอบคำถามและถามกลับไปบ้าง

เจ้าหนูนี่ก็พยักหน้าหงึกหงัก

"อาไม่ใช่คนแปลกหน้าจริงๆหรอฮับ ถ้างั้นเราก็คุยกันได้อ่ะจิ" พอผมพยักหน้ายืนยัน เจ้าหนูนี่ก็ยิ้มหน้าบาน ทำท่าดีใจสุดๆ

เด็กหนอเด็ก ทำไมถึงไว้ใจคนง่ายขนาดนี้

"แล้วนี่จีซองจะไปหาคุณลุงใช่ไหม ลุงเราชื่ออะไรหล่ะ เดี๋ยวอาจะพาไปส่ง"

"คุงลุงชื่อ คุงลุงจุนมยอนฮับ" หรือหลานรองประธานหรอเนี่ย ถ้าอย่างนั้นก็เป็นหลานประธานด้วยอ่ะดิ ถึงว่าเข้ามาวิ่งเล่นได้ขนาดนี้โดยที่ไม่มีใครสนใจจะบ่นจะว่าที่แท้ก็เป็นว่าที่เจ้าของคนต่อไปนี่เอง เอ..ว่าแต่ท่านประธานไม่ได้มีลูกแค่ท่านประธานคนเดียวหรอเนี่ยแต่ทำไมเจ้าหนูนี่ถึงไม่มีเคร้าโครงเหมือนทางบ้านท่านประธานเลยแฮะ

"หนูเป็นหลานประธานโอกับท่านรองหรอ"

"ป่าวนะ!! จีซองเป็นหลานคุงตา คุงยาย คุงลุง แล้วก็เป็นลูกชายหม่าม๊าด้วย" หือ...นี่ผมงงหรืองงเนี่ย ขนาดผมอุ้มอยู่ยังกอดอก

ขมวดคิ้วใส่ผมซะได้ ซ้ำยังตอบคำถามของผมซะหลุดโลกไปเลย

"แล้วคุณลุงของเราชื่อคิมจุนมยอนส่วนคุณตาชื่อโอซึลกีใช่ไหม" ผมถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง

"ใช่ฮับ" เจ้าหนูพยักหน้าตอบ

"ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ผิดแล้ว หลานท่านประธานกับท่านรองนี่แหละ" ผมพึมพำกับตัวเอง

"ไม่ใช่ซะหน่อย!! จีซองเป็งหลางคุงลุงกะไม่ใช่หลานท่านรองซะหน่อยน๊ะ" ฮ่าๆผมไม่รู้จะพูดยังไงแล้วหล่ะ เจ้าหนูนี่ซื่อจริงๆ

ฮาสุดๆ เหมือนเราคุยกันคนละเรื่องเดียวกันเลย

"โอเคๆหลานคุณลุงก็หลานคุณลุง อาขอโทษที่พูดผิดไป ถ้าอย่างนั้นอาพาเราไปส่งคุณลุงดีกว่าไปไหม..ป่านนี้คงรอเราแย่แล้ว"

"ไปฮับ!! " ทีอย่างนี้หล่ะยิ้มได้ขึ้นมาเชียว เมื่อตะกี้ยังทำหน้ายู่ใส่ผมอยู่เลย

"จะว่าไป จีซองหล่อนะเนี่ย ถ้าโตขึ้นสาวๆติดตรึมแน่ๆ" ดูไปดูมาเเจ้าหนูนี่หล่อแฮะ หน้าตาดีตั้งแต่เด็กเลยนะไอ่ตัวเล็ก

"ใช่ๆ พวกพี่สาวที่มากิงเค้กที่ร้านหม่าม๊าก็บอกว่าจีซองหล่อ ขอถ่ายรูปแล้วก็หอมแก้มจีซองทุกวันเลยด้วย" เจ้าหนูพูดอวดตัวเอง

ด้วยความภาคภูมิใจแบบสุดๆ ยิ้มซะแก้มกลมๆนั่นแทบแตก

"จริงดิ ฮอตแต่เด็กเลยน่ะเนี่ยเรา หล่อเหมือนพ่อหรือเหมือนแม่ฮะเรา"

"หม่าม๊าบอกว่าจีซองเหมือนป๊ะป๋าเป๊ะเลย แต่จีซองยังไม่เคยเห็นหน้าป๊ะป๋าเลยฮับ" อ่าวชวนคุยเรื่องผิดซะแล้วผม เจ้าตัวเล็กก็ดู

เศร้าลงจน จนผมรู้สึกไม่ดีเลยครับมันวูบๆโหวงๆในอกแปลกๆ

"ไม่เป็นไรนะจีซอง อาขอโทษ อาไม่น่าพูดเรื่องนี้กับเราเลย" ผมพูดปลอบ จับหัวเล็กๆนั่นซบไปกับไหล่ตัวและกระชับอ้อมกอด

ให้แน่นขึ้นอีกนิด เผื่อมันจะทำให้จีซองรู้สึกดีขึ้นไม่มากก็น้อย

"ฮึก!!....จีซองอยากหาป๊ะป๋า....ฮือๆ...." ทั้งที่พึ่งรู้จักกันวันนี้แท้ๆแต่ทำไม ใบหน้าเปื้อนน้ำตาและเสียงสะอึกสะอื้นจนตัวโยน

ของจีซองถึงทำให้ผมรู้สึกหน่วงในใจจนแทบหายใจไม่ออก

"จีซอง!!!!"

"แง๊....คุงลุง...ฮือ...." จะถึงห้องของรองประธานอยู่แล้วแต่บังเอิญท่านเดินออกมาซะก่อน คงเป็นเพราะเห็นจีซองร้องไห้ เลยทำ

ให้ตะโกนเสียงดังหน้าตาตื่นหลุดมาดที่เคยขรึมแบบนั้น เพราะตั้งแต่ที่ท่านมารับตำแหน่งรองประธานก็มีแต่คนเกรงเพราะพวก

พนักงานที่ทำอยู่ในออฟฟิตเคยมาเล่าให้ผมฟังว่าท่านทำงานเนี๊ยบมาก ทั้งนิ่ง ทั้งดุ จนพนักงานกลัวกันไปเป็นแถบ แต่ผมก็ไม่รู้

หรอกว่าจริงรึป่าวผมก็พึ่งจะเคยเจอตัวจริงของท่านวันนี้แหละ เพราะช่วงที่ท่านเข้ามารับตำแหน่ง ผมก็มีคิวงานที่ต่างประเทศ

ส่วนจีซองพอเห็นว่าเป็นคุณลุงของตัวเองก็ผละออกจากผมและโผลเข้าอ้อมแขนของท่านรองเลยทันที

"หลานผมเป็นอะไร ถึงร้องไห้ขนาดนี้ คุณพอจะบอกผมได้รึป่าวไค" ท่านรองถามผมด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งจนน่าขนลุก ส่วนมือ

ก็ลูบหลังปลอบจีซองไปด้วย

"ผมขอโทษครับท่าน เป็นความผิดของผมเองที่พูดถามถึงพ่อของแก ผมขอโทดจริงๆครับ ผมไม่รู้ว่าแกจะ..."

"ไม่เป็นไรหรอก ไม่ใช่ความผิดของคุณหรอกที่คุณพูดไปก็เพราะคุณไม่รู้ ว่าแต่ทำไมหลานของผมถึงมาอยู่กับคุณได้" ยังไม่ทัน

ที่ผมจะได้พูดจบท่านรองก็พูดขัดขึ้นมา คงเป็นเพราะไม่อยากให้จีซองได้ยินอะไรที่ทำให้รู้สึกแย่ขึ้นมาอีก

"พอดีเราเดินชนกันนะครับ ผมเลยจะพาแกมาส่งที่ห้องของท่านนะครับ"

"ยังไงผมก็ต้องขอบคุณ คุณมากนะไค"

"ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมนี่สิต้องขอโทษท่านที่ทำให้จีซองต้องร้องไห้ และอีกอย่างผมรู้สึกถูกชะตากับแกนะครับ" จะว่าไปผม

ก็รู้สึกแย่จริงๆเลยครับที่ทำให้ แววตาไร้เดียงสาของจีซองต้องมีน้ำตา น่าสงสารจริงๆเลยครับตอนนี้แกก็ยังไม่หยุดสะอื้นเลย

คนเป็นพ่อเป็นแม่เค้ามีปัญหาอะไรกันนะถึงได้สร้างรอยร้าวให้หัวใจที่บริสุทธิ์ของเด็กน้องที่แสนเปราะบางเหมือนตุ๊กตา

กระเบื้องเคลือบแบบนี้ ไม่ไหวเลยจริงๆ

"ช่างมันเถอะ ยังไงซะไอ้การที่จีซองไม่มีพ่อนั่นก็คือเรื่องจริง เค้ายังต้องต่อสู้กับความจริงที่เจ็บปวดอย่างนี้ไปอีกนาน นี่มันก็แค่

เริ่มต้นเท่านั้น" ท่านรองพูดด้วยหน้าเศร้าเมื่อมองมาที่หน้าของจีซองที่เต็มไปด้วยน้ำตา แต่คนเป็นพ่อนี่ก็แย่นะครับ ถึงจะมีปัญหา

กับคนเป็นแม่แต่มันก็คือเรื่องของผู้ใหญ่ ไม่ควรเลยที่จะทิ้งให้ลูกต้องเจ็บปวดกับเรื่องแบบนี้

"ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวไปซ้อมก่อนนะครับ จีซองอาไคไปก่อนนะ" ผมขอตัวจากท่านรองและบอกลาจีซอง

"คุงอา...ฮือ...ฮึก...ฮือ...อย่าไปน้าาา...อยู่กับจีซอง...ฮือออออ...." แต่แล้วจีซองก็สร้างความประหลาดใจให้ผู้ใหญ่ทั้งสองคน ด้วย

การงองแงไม่ให้จงอินไป จีซองผละออกจากอกของจุนมยอนและโผเข้าหาจงอินที่ยืนอยู่ตรงข้ามกันจนแทบจะรับไม่ทัน

"จีซองมาหาลุงมา อาไคต้องไปทำงานแล้วนะ" จุนมยอนพยายามพูดกล่อมและดึงตัวหลานออกจากอ้อมแขนของไค

"ไม่!! จีซองจะอยู่กับอาไค...ฮึกๆ.... อาไคกอดอุ่น จีซองอยากกอด...ฮือ...." แต่ผลคือจีซองกลับกอดรัดจงอินแน่นเข้าไปอีก และ

นั่นเป็นเรื่องที่ทำให้จุนมยอนแคลงใจเป็นอย่างมาก เพราะถึงแม้ว่าจีซองจะเป็นเด็กที่เข้ากับคนง่าย แต่ก็เป็นเด็กที่ฉลาดพอที่จะ

ไม่สนิทและไว้ใจใครนอกจากคนในบ้าน แต่นี่กลับเรียกร้องหาไคและจะอยู่กับไค ทั้งๆที่พึ่งจะรู้จักกัน ทำเหมือนกับว่าสนิทและ

ผูกพันกันมานานซะอย่างนั้น แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อจีซองพึ่งจะเคยเจอไคเป็นครั้งแรกแน่นอนเค้ามั่นใจ นี่มันคืออะไรกัน

หลานเค้าเป็นอะไรไปเนี่ย

"อย่าดื้อน่าจีซอง มาหาลุงมาเดี๋ยวเราไปกินเค้กกับหม่าม๊ากันดีกว่าเน๊าะ อาไคเค้าต้องไปทำงานแล้วนะ" จุนมยอนพยายามเกลี้ย

กล่อมอีกครั้งด้วยการเอาของกินสุดโปรดเข้าล่อ แต่เจ้าหนูจีซองกลับก้มหน้าก้มตาส่ายหน้าทั้งน้ำตาซุกไหล่ไคอยู่อย่างนั้น

"จีซองไปกลับคุณลุงก่อนะครับ เดี๋ยวอาไคทำงานเสร็จแล้วจะมาหานะ" ไคพยายามช่วยพูดอีกคน รำพังเค้านะไม่รีบอะไรหรอก

จะให้เอาจีซองไปเล่นด้วยที่ห้องซ้อมก็ยังได้ แต่คนเป็นลุงคงไม่ยอมแน่ๆ

"ไม่เอา!! อาไคโกหก ฮึกๆ เดี๋ยวอาไคก็หนีจีซอง" ก้มหน้าปฎิเสธลูกเดียว

"ไม่หนีหรอกครับ อาสัญญา ถ้าอาทำงานเสร็จแล้วอาจะมาหาจีซองที่ห้องของคุณลุง แต่ถ้าจีซองรอไม่ไหวก็ไปหาอาไคที่

ห้องเลยดีมั้ย" ไคค่อยๆพูดกล่อมอย่างใจเย็นเพราะเหมือนกับตอนนี้เจ้าตัวเล็กจะค่อยๆคล้อยตามเค้า เพราะหยุดร้องไห้ไปแล้ว

เหลือแค่สะอื้นเป็นพักๆเท่านั้น แต่ก็ยังคงซุกหน้าอยู่กับไหล่ของไค

"อาไค จะไม่หรอกจีซองใช่มั้ยฮับ" จีซองเงยหน้าขึ้นมาถามไคด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา

"อาไม่หลอกจีซองหรอกครับ"

"อาไคจะไม่ทิ้งจีซองไปเหมือนกับป๊ะป๋าใช่มั้ยฮับ" จีซองถามด้วยสีหน้าอ้อนวอน อย่างมีความหวัง ตากลมๆเริ่มรื้นไปด้วยน้ำตา

"อาจะไม่ทิ้งจีซอง อาสัญญา" ไคสบตาจีซองและชูนิ้วก้อยขึ้นตรงหน้าระหว่างเค้ากับจีซองเพื่อทำการสัญญา เค้าก็ไม่รู้เหมือนกัน

ว่าตัวเองเป็นอะไรไปทำไมถึงรู้สึกผูกผันกับจีซองอย่างนี้ ทั้งที่เพิ่งจะเจอเพิ่งจะรู้จักกันวันนี้แท้ๆ แต่พอเห็นจีซองร้องไห้เหมือน

จะขาดใจอย่างนั้น มันยิ่งทำให้เค้าปวดหนึบที่อกข้างซ้ายจนแทบหายใจไม่ออก ทั้งๆที่เค้าไม่ใช่คนใจอ่อนนไม่ใช่คนที่รักเด็ก

เสียจนทนเห็นเด็กเสียใจร้องไห้งองแงไม่ได้ แต่พอเป็นจีซองทุกๆอย่างมันเหมือนกับข้อยกเว้น 

"จีซอง!! เป็นอะไรไปลูกร้องไห้ทำไมครับ" เสียงของคนมาใหม่ทำให้ไคถึงกลับตัวชา ความรู้สึกตอนนี้มันบอกไม่ถูก ทั้งตื่นเต้น

ทั้งดีใจ จนไมกล้าหันกลับไปมอง แต่น้ำเสียงแบบนี้ มีแค่คนเดียวเท่านั้นที่มันฝังอยู่ในสมองและหัวใจของเค้า

"หม่าม๊า!!"

"เซฮุน....."

 

ออฟไลน์ RedQueen

  • Memois Of A Calamity Queen
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
เจอกันแล้ว แอร้ยยยยยยย ต่อจากนี้ละ มาม่ามาแน่ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ TrebleBass

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
 :hao7: เจอกันแล้วววววว  ทำใงละทีนี้ 

สารภาพ เข้ามาอย่างไว เพราะเห็นชื่อ ไค เซฮุน   5555

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
  it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 8




"หม่าม๊า!!!..." จีซองเรียกเสียงดังเมื่อเห็นว่าเป็นแม่ตัวเอง

"เซฮุน" จงอินพึมพำด้วยเสียงแผ่วเบาเหมือนคนละเมอ

"จีซอง! ร้องไห้ทำไมลูก มาหาหม่าม๊ามา" เพราะความเป็นห่วงลูกชายที่มีร่องรอยของการร้องไห้ใบหน้าที่เปอะเปื้อนด้วยน้ำตา

ทำให้เซฮุนไม่ทันได้สนใจมองว่าคนที่อุ้มลูกน้อยของตนหันหลังอยู่นั้นคือคนที่เค้าไม่อยากจะพบเจอ และพยายามจะเลี่ยงให้

จีซองนั้นอยู่ให้ห่างมากที่สุด

"จะหาหม่าม๊า" เมื่อเห็นว่าแม่ของตนอยู่ตรงหน้าทำให้หนูน้อยไม่ทันได้คิดว่าสิ่งที่ทำนั้นจะอันตราย เลยเอนตัวทิ้งน้ำหนักตัว

ทั้งหมดไปข้างหน้าเพื่อที่จะไปหาเซฮุน แต่จงอินที่พึ่งจะตั้งตัวได้นั้นกอดรั้งจีซองไว้แน่น

"หม่าม๊า...อย่างนั้นหรอ??" จงอินหันกลับไปเผชิญหน้ากับเซฮุนและถามขึ้นด้วยความไม่แน่ใจ ว่าที่เค้าได้ยินนั้นคือความจริง

"จงอิน..." เซฮุนพูดด้วยเสียงเบาหวิวอย่างไม่เชื่อสายตาว่าคนตรงหน้านั้นคือคนที่เค้าพยามที่จะหลีกเลี่ยงมาตลอด

"ใช่!! เป็นฉันเองแหละเซฮุน จงอินคนที่นายทิ้งไปไง ไหนนายช่วยบอกฉันให้ชัดๆทีซิ ว่ามันไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดใช่มั้ย?"

จงอินถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

"ลูก จีซองเป็นลูกของฉัน นายมีปัญหาอะไรหรอจงอิน" เซฮุนทำใจสู้ตอบกลับ ทั้งที่ความจริงนั้นตอนนี้แทบจะทรงตัวไม่อยู่

"แต่จีซองเรียกนายว่าแม่!! แล้วคนอย่างนายคงจะไปทำใครท้องไม่ได้หรอกใช่มั้ย??"

"ก็ฉันเป็นแม่!!!!  แล้วมันผิดตรงไหนล๊ะจงอินที่ลูกจะเรียกฉันว่าหม่าม๊า??"

"มันจะไม่ผิดเลยเซฮุน!! ถ้านายไม่ได้ทิ้งฉันไปตั้งสามปีกว่า แล้วกลับมาพร้อมกับเด็กที่นายบอกว่าเป็นลูกของนายอย่างนี้!!!!"

เซฮุนถึงกลับหน้าถอดสีเมื่อได้ยินสิ่งที่จงอินพูด น่ากลัวจริงๆตอนนี้จงอินโกรธจัดจนหน้ากลัว

"แล้วเรื่องที่ฉันมีลูกมันเกี่ยวอะไรกับนายตรงไหน ระหว่างเราสองคนมันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว มันจบลงไปตั้งนานแล้ว

เพราะฉะนั้นต่างคนต่างอยู่เถอะจงอิน ขอลูกฉันคืนด้วย" เซฮุนจ้องตาตอบจงอินเหมือนกับว่าเป็นเรื่องธรรมดาๆทั่วไป

และแสดงออกมาให้จงอินเห็นว่าตนไม่ได้รู้สึกอะไรเลยกลับเรื่องที่ผ่านมา

"ใครเป็นพ่อ"

"พูดอะไรของนาย??"

"ฉันถามว่าใครเป็นพ่อของจีซอง!!!! ตอบฉันมาเซฮุน บอกฉันสิ ฉันบอกให้พูดออกมา!!!!" ใบหน้าหล่อเหลาของจงอินตอนนี้

บิดเบี้ยวด้วยความโกรธจนแทบจะไม่เหลือเค้าโครงของนักร้องขวัญใจซุปเปอร์สตาร์คนดังที่ใครๆก็ต่างหลงไหล

"แง๊ง!!....หม่าม๊า...จีซองจะหาหม่าม๊า...ปล่อย...อาไคปล่อย...จีซองจะหาหม่าม๊า...ฮื่อๆ..." เพราะเสียงที่ไคใช้ถามเซฮุนดังจน

กลายเป็นการตวาดนั้น ทำให้จีซองตกใจและรู้สึกกลัวไค พยายามจะดิ้นให้หลุดออกจากอ้อมแขนของไค เพื่อที่จะไปหาคนเป็นแม่แต่จงอินกลับไม่ยอมปล่อยตามที่จีซองร้องขอ หนำซ้ำยังกอดรัดแน่นกว่าเดิม

"มันเป็นเรื่องส่วนตัวของฉัน นายไม่เกี่ยว ช่วยส่งลูกฉันมาด้วย" เซฮุนยื่นมือออกไปเพื่อที่จะอุ้มจีซอง แต่จงอินกลับเบี่ยงหลบ

และใช้ตัวเองบังจีซองไว้

"จะเกี่ยวหรือไม่ฉันจะตัดสินใจเอง บอกฉันมา มัน!เป็น!ใคร! ห๊ะ! ไอ้คนนั้นมันเป็นใคร!!!" จงอินปล่อยมือข้างนึงออกจากการอุ้ม

จีซอง มาจับแขนเซฮุนไว้ มือหนาของจงอินบีบแขนเล็กแน่นจนขึ้นรอย

"ปล่อยฉันนะ!! มันไม่ใช่เรื่องอะไรของนาย" เซฮุนตอบด้วยสีหน้าเหยเกด้วยความเจ็บ เพราะเหมือนกับว่ายิ่งพูดอะไรออกไป

จงอินยิ่งเพิ่มแรงบีบแขนตนแน่นกว่าเดิม เจ็บจนเหมือนกลับว่าแขนจะหักเลย

"แง๊ง!!!....แงๆ...ฮึก.....ฮือ..........หม่าม๊า...อย่าทำหม่ม๊า....อาไค...อย่าทำหม่าม๊าจีซองน้าาาาา......ปล่อย!!!....ปล่อยจีซองสิ!!!!"
เพราะเห็นจงอินบีบแขนเซฮุนแน่นและเขย่าจนเซฮุนแทบจะทรงตัวไม่อยู่ บวกกับสีหน้าเจ็บปวดและหยดน้ำตาที่ไหลลงมาของ

คนเป็นแม่ทำให้จีซองกรีดร้อง ทั้งหยิก ทั้งกัดและทุบตีจงอินด้วยมือเล็กๆของตนเท่าที่แรงจะมี

"ไคปล่อย ไคปล่อยน้องกับหลานฉันก่อน" เพราะความอยากรู้และดูให้แน่ชัดในความสัมพันธ์ของจงอินและเซฮุน จึงทำให้

จุนมยอนยืนดูอยู่ห่างๆและพยายามที่จะประติดประต่อเรื่องราวทั้งหมดที่ตนได้รับรู้ ได้ยิน ได้เห็น และคิดว่ามีความเป็นไปได้สูง

ในสิ่งที่ตนสงสัยอยู่ตอนนี้ แต่เพราะจงอินเหมือนกับขาดสติจนควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว จึงเข้ามาห้ามและพยายามแยกจงอินจาก

เซฮุนกับจีซอง เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของทั้งสองคน

"แง๊...หม่าม๊า...คุงลุง...จีซองกลัว.....ฮือ.....ฮือ..." เพราะเซฮุนและจุนมยอนพยายามแกะมือของจงอินที่อุ้มจีซองและที่จับแขนของเซฮุนอยู่ออก ทำให้เกิดการยื้อแย่งกันไปมาจนจีซองแทบจะล่วงหล่นไปที่พื้นจึงร้องออกมาด้วยความกลัว แต่เพราะจงอินปล่อยมือข้างที่จับเซฮุนอยู่นั้นออกมารับและรวบตัวของจีซองไว้ได้ทัน ทำให้จีซองปลอดภัย

"โธ่เว้ย!!!!" จงอินปล่อยจีซองให้กับจุนมยอนที่ยื่นมือเข้ามารับ หันกลับตัวไปต่อยระบายอารมณ์กับพนังทางเดินของบริษัท

"เซฮุนพาจีซองไปรอพี่ที่ห้องก่อน เดี๋ยวพี่ตามไป ส่วนนายตามฉันไปที่ห้องซ้อมของนาย ฉันว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันแล้วหล่ะไค"

พูดจบก็เดินนำออกไป ทิ้งให้จงอินยืนอยู่ตรงนั้นคนเดียว

"ท่านรองมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมหรอครับ" เมื่อตั้งสติได้แล้วจงอินก็เดินตามจุนมยอนเข้ามาในห้องซ้อมส่วนตัวของตน

"นายรู้จักกับเซฮุนมาก่อนหรอไค" จุนมยอนถาขึ้นด้วยน้ำเสียงปกติทำเหมือนว่าเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้น

"ครับ เราเป็นเด็กฝึกมาด้วยกัน"

"อย่างนั้นหรอ? แล้วนายกับน้องของฉันเป็นอะไรกันหล่ะจงอิน"

"ท่านต้องการจะถามอะไรผมกันแน่ครับ" จงอินถามด้วยความสงสัยเพราะเค้าไม่เข้าใจว่าจุนมยอนเรียกเค้ามาคุยเรื่องอะไรกันแน่

"ฉันแค่ถามนายว่า นายกับเซฮุนคบกันด้วยสถานะไหนกันแน่ไค แค่นี้เองทำไม นายไม่เข้าใจตรงไหนหรอ?" จุนมยอนที่ยืนหัน

หลังให้ถามย้ำ มองจงอินจากในกระจกที่มีติดอยู่รอบห้องซ้อม

"คนรักครับ ผมกับเซฮุนเป็นคนรักกัน" จงอินสบตาตอบกลับจุนมยอนที่ยืนจ้องมองจนในกระจกด้วยความชัดเจน

"แล้วถ้าฉัน จะขอให้นายเล่าเรื่องระหว่านายและเซฮุนตั้งแต่ต้น นายจะช่วยเล่าให้ฉันฟังหน่อยได้ไหม" จุนมยอนกันตัวกลับมา

เผชิญหน้ากับจงอินถามด้วยเสียงเรียบนิ่งอย่างไม่รีบร้อน

"ได้ครับ ถ้าท่านอยากจะฟัง ตอนนั้นผมกับเซฮุนเราเป็นบัดดี้กันในการฝึก เราอยู่ในสถานะเพื่อนมาได้ปีกว่าๆ จนมาถึงช่วงเวลา

ที่ผมได้สูญเสียครอบครัวทั้งหมดที่มีไปกับอุบัติเหตุทางเครื่องบินจนไม่เหลือใครทำให้ผมคิด ที่จะเลิกฝึกเลิกฝัน แต่เพราะมีเซฮุนที่คอยอยู่ข้างๆคอยดูแล ห่วงใยและให้กำลังใจผมมาตลอด ทำให้ผมลุกขึ้นสู้ขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากเหตุการณ์และช่วงเวลานั้น

ผ่านมาได้พัก อาจจะเป็นเพราะความรัก ความผูกพัน หรือจะเพราะอะไรหลายๆอย่างจนทำให้เราสองคนเลื่อนสถานะจากคู่หูจน

กลายมาเป็นคนรัก ช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาที่ดีและมีความสุขมากสำหรับผม จนเราเป็นคนรักกันมาได้สามปีกว่า ในวันที่ผมได้รู้

ว่ากำลังจะเดบิวต์ ถัดจากวันนั้นมาหนึ่งวันเราก็ไปเที่ยวฉลองกันแต่ใครจะรู้ล๊ะว่าจะเป็นวันที่ผมจะได้อยู่กับเซฮุนเป็นวันสุดท้าย

เพราะเช้าวันต่อมาก็มีจดหมายขอลาออกจากเซฮุนวางอยู่ที่โต๊ะของพี่จงแด ถามใครก็ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็น ผมและพี่มินซอก

พยายามที่จะตามหาเซฮุนมาตลอดแต่ก็ไม่เคยเจอ จนมาถึงวันนี้ วันที่ผมได้เจอกับเซฮุนอีกครั้งที่นี่ พร้อมกับจีซองเด็กคนที่เซฮุน

บอกกับผมว่าเป็นลูกของตัวเอง" จงอินยืนตัวสั่นกำมือแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน เมื่อนึกย้อนไปถึงวันที่เค้าได้รู้แน่ชัดแล้วว่าเซฮุน

ได้หนีจากเค้าไปแล้วจริงๆ วันนั้นเค้าทั้งโกรธ ทั้งโมโห ทั้งเสียใจจนแทบบ้า อาราวาดขังตัวเองไว้คนเดียวในห้องนอนที่หอพัก

ไม่กิน ไม่นอน ไม่ยอมพบใคร และไม่ได้ออกไปซ้อมเลยจนเกือบจะโดนประธานโอระงับการเดบิวต์ของตัวเอง จนมินซอกทน

ไม่ไหว ให้คนพังประตูห้องเค้าเข้ามา ทั้งพูด ทั้งดุ ทั้งด่า จนเค้าคิดได้และมีแรงฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง

"แล้วตอนที่คบกัน นายสองคนเคยมีอะไรกันรึป่าว?" จุนมยอนถามขึ้นอีก

"อะไรนะครับ" จงอินถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

"ฉันถามว่านายเคยมีอะไรกับเซฮุนรึป่าว เมคเลิฟน่ะ มันมีอะไรเข้ายากตรงไหน" จุนมยอนถามขึ้นอีกครั้งเหมือนเรื่องปกติทั่วไป

"เคยครับ" จงอินตอบอ้อมแอ้มพลางก้มหน้า

"อืม...ถ้าอย่างนั้นฉันก็พอจะเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้วหล่ะ ที่เหลือก็แค่ให้เจ้าตัวยอมรับออกมาเท่านั้น" จุมยอนพึมพำในสิ่งที่ตัวเอง

คิดว่าใช่และเริ่มมั่นใจออกมา

"ท่านอย่าบอกนะครับว่า!! ท่านคิดว่าจีซองเป็นลูกของผม" จงอินถามด้วยน้ำเสียงตกใจในตาคมเบิกกว้าง

"แล้วนายคิดว่าน้องฉันจะไปมีอะไรกับใครมั่วในขณะที่คบกับนายอยู่หรอ หรือนายจะบอกว่าการเมคเลิฟระหว่างนายสองคน

น้องฉันเป็นคนเริ่มก่อนหรอ น้องฉันเป็นคนประเภทที่กล้าในเรื่องนี้หรอไค แล้วอีกอย่าง ที่นายบอกว่าน้องฉันหายไปหลังจาก

ที่นายรู้ว่ากำลังจะเดบิวต์น่ะ ฉันก็จะบอกอะไรให้นายรู้ไว้นะว่าน้องของฉันก็รู้ว่าตัวเองตั้งท้องในวันนั้เหมือนกันเพราะฉันกับแม่

มารับเซฮุนหน้าบริษัทกลับไปทานข้าวด้วยกันแต่เซฮุนดันหมดสติเป็นลมล้มไปต่อหน้าต่อตา ฉันกับแม่ก็พาเซฮุนไปโรงพยาบาล

จนรู้ว่าน้องฉันท้องไง แต่พอพ่อฉันรู้ก็ทะเลาะกันจนเป็นเรื่องราวใหญ่โต เพราะพ่อฉันให้เซฮุนไปทำแท้งเอาจีซองออก แต่เซฮุน

ไม่ยอม แล้วประจวบเหมาะกันที่ตอนนั้นฉันจะต้องไปเรียนต่อโทเพื่อมารับช่วงต่อที่บริษัท คุณพ่อก็เลยไล่เซฮุนไปอยู่อเมริกา

กับฉันไง ยังไม่หมดนะในเย็นวันเดียวกันกับที่เซฮุนทะเลาะกับคุณพ่อน้องฉันก็ขออนุญาติคุณแม่ไปเที่ยวกับเพื่อนเป็นครั้งสุดท้าย

แล้วบอกว่าเพื่อนคนนั้นกำลังจะได้เดบิวต์ นายช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหมไค ว่าเพื่อนคนนั้นของน้องฉันใช่นายหรืป่าว'

จุมยอนเดินมาหยุดตรงหน้าจุนมยอนถามด้วยน้ำเสียงกดต่ำ

"ใช่ครับผมเอง แต่ถ้าจีซองเป็นลูกของผม ทำไมเซฮุนไม่ยอมบอกผมหล่ะ หนีหายไปอย่างนี้ทำไม" จงอินถามด้วยความสงสัย

ถึงแม้ว่าเค้าจะมั่นใจเกินร้อยแล้วว่าจีซองคือลูกของเค้า เพราะเค้ารู้นิสัยของเซฮุนดีว่าไม่ใช่คนมั่วไปทั่วติดจะขี้อายซะด้วยซ้ำ

และคิดประติดประต่อเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมารวมกับเรื่องที่จุนมยอนเล่า แต่เค้าก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมเซฮุนถึงไม่บอกเค้า

เรื่องที่ตัวเองท้องจะได้ช่วยกันคิดแก้ไขไม่ใช่หนีหายไปอย่างนี้

"นายลองคิดกลับกันสิไค ถ้าเป็นนายที่ท้องแล้วเซฮุนกำลังจะได้เดบิวต์ ความฝันของคนรักที่เค้ารอคอยมานาน นายจะทำยังไง"

จุนมยอนพูดให้จงอินคิดตาม เพราะเค้าก็พอจะรู้ประวัตินักร้องอันดับหนึ่งของบริษัทอยู่เหมือนกัน

"ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็เถอะ เซฮุนควรที่บอกผมบ้าง ยังไงเซฮุนกับลูกก็สำคัญกับผมมากกว่าชื่อเสียงเงินทองอยู่แล้ว ผมยอมที่

จะทิ้งความฝันทิ้งทุกอย่างเพื่อครอบครัวที่ผมรักอยู่แล้ว" จงอินถอนหายใจทิ้งตัวนั่งลงกับพื้นอย่างเหนื่อยล้า

"ก็เพราะว่าเซฮุนรู้นิสัยของนายดีนะสิ รู้ว่านายจะต้องทิ้งความฝันทั้งหมดของนายเพราะตัวเองกับลูก และความพยาพยามที่นายทำหลายปีก็ต้องสูญป่าว เพราะเซฮุนรักนายมากยังไงล่ะ เลยเลือกที่จะตัดสินใจอย่างนั้น แต่ฉันมั่นใจว่าทุกอย่างที่เซฮุนทำไปก็เพื่อนาย  นายรู้อะไรไหมว่าตลอดเวลาสามปีที่จีซองเกิดมาเซฮุนไม่เคยหลุดพูดออกมาเลยว่าใครเป็นพ่อของหลานฉัน ไม่ว่าฉันกับแม่

จะถามหรือว่าขู่แค่ไหน ก็เพราะปกป้องนายยังไงล๊ะเพราะว่าถ้าพ่อฉันรู้นายตายแน่ แล้วอีกอย่างนะหลานของฉันน่ะใช้นามสกุล

คิมไม่ใช่นามสกุลโอ พอได้ใบเกิดของจีซองมาเซฮุนก็เก็บไว้ไม่ให้ใครเห็นเลยว่าในช่องชื่อพ่อของจีซองเป็นใคร เอกสารทุก

อย่างที่มีชื่อพ่อของจีซองอยู่ เซฮุนจะเก็บไว้อย่างมิดชิดเลยแหละ แล้วที่สำคัญเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันมั่นใจมากที่สุดก็คือตอนที่ฉัน

เห็นนายอุ้มจีซอง นายแค่ดูก็รู้นิว่าจีซองไม่มีตรงไหนเหมือนกับเซฮุนหรือคนในบ้านฉันเลย ตอนแรกฉันก็แค่คิดเล่นๆ ว่าจีซอง

กับนายอาจจะเป็นพ่อลูกกันเพราะหน้านายกับหลานฉันเหมือนกับถอดย่อส่วนออกมาเลย แต่ตอนนี้ฉันมั่นใจกว่าเดิมแล้วหล่ะไค

 ไม่ใช่สิ ต้องเรียกว่าจงอินสินะ นายช่วยฉันคิดทีซิว่า คิมจีซองจะใช่ลูกของคิมจงอินรึป่าว???" จุมยอนถามขึ้นอีกครั้งอย่างกดดัน

แต่สีหน้าและท่าทางที่แสดงออกมาอย่างผ่อนนคลายเหมือนกับว่าตัวเองไม่ได้คิดอะไรเลยกับเรื่องที่พยามประติดประต่อกันอยู่

"แล้วผมควรจะทำยังไงดี" จงอินพึมพำกับตัวเองสองมือหนาขยุ้มผมกุมขมับตัวเองไว้แน่น ตอนนี้เค้าคิดหาทางแก้ไขเรื่องที่ผ่านมา

ให้มันถูกต้องจนหัวแทบแตก

"ฉันจะเป็นคนช่วยนายเองไค แค่นายสัญญากับฉันมาก่อนว่านายจะเป็นพ่อและสามีที่ดีของน้องกับหลานฉัน จะรักและดูแล

ทั้งสองคนอย่างดีที่สุด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนายจะต้องปกป้องทั้งเซฮุนและจีซองด้วยชีวิตของนาย" จุนมยอนจ้องหน้าจงอิน

และพูดขึ้นอย่างจริงจัง

"ถึงท่านรองไม่บอกผมก็ต้องทำอย่างนั้นอยู่แล้วครับ เพราะพวกเค้าเป็นหัวใจของผม เป็นคนสำคัญของผม และเป็นครอบครัว

ที่เหลืออยู่ของผม ผมขอสัญญาด้วยชีวิตเลยครับ!!!!" จงอินสบตาจุนมยอนด้วยความแน่วแน่และตอบกลับด้วยเสียงที่หนักแน่น

สายตาของจงอินสื่อให้จุนมยอนรู้ว่าเค้าจะไม่มีทางผิดคำสัญญาที่ให้ไว้แน่นอน

"ดี!! ฉันจะช่วยนายเองไอ่น้องเขย ที่ฉันช่วยไม่ใช่เพราะฉันชอบนายหรือเพราะว่านายเป็นซุปเปอร์สตาร์จนฉันอยากจะได้นาย

มาเป็นน้องเขย แต่ที่ฉันช่วยเพราะว่านายคือสามีของเซฮุนและเป็นพ่อของจีซอง และเพราะว่าฉันรักน้องและหลานของฉันมาก

จนทนเห็นเซฮุนเสียใจกับการที่ไม่สามารถอยู่กับคนรักได้กับจีซองที่ต้องเจ็บปวดและขาดความอบอุ่นเพราะขาดพ่อไป แต่นาย

อย่าพึ่งดีใจไปถึงแม้ว่าฉันและคุณแม่จะอยู่ข้างนายและคอยช่วยเหลือนาย แต่ปัญหาใหญ่ของนายคือคุณพ่อของฉันและแฟนคลับ

ของนาย"

"ผมยอมทุกอย่างขอแค่ให้ได้อยู่ใกล้ๆและได้รักเซฮุนกับจีซอง"

"ไม่ต้องกังวลหรอก ฉันบอกแล้วไงว่าจะช่วย แค่นายทำตามที่ฉันบอกก็พอ แต่ตอนนี้เราไปจัดการกับคนปากแข็งที่ทำให้เรื่อง

มันวุ่นวายมาถึงตอนนี้ก่อนดีกว่า"

"ครับ ขอบคุณครับ"

...

มาแว้วววว......สรุปอิพิ๊จุนเป็นพระเอกสินะ ฮ่าๆๆๆๆ

ภาษาอาจจะยังไม่สวย สำเนียงที่ใช้อาจะยังไม่ดีพอ แต่ก็จะพยายามค่ะ

ที่จริงเรื่องนี้มี่ลงไปถึงตอนที่14 แล้วนะคะ แต่เป็นอีกเว็บนึง ถ้าใครอยากอ่านเลย
ลองเอาชื่อเรื่องค้นหากันดูนะค่ะ ชอบไม่ไชอบยังไงก็บอกกันหน่อยน้าาาา
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
จีซองน่าร๊ากกกก~ :m3: เจ้าลูกหมูตัวน้อยร้องไห้เสียน่าสงสารเลยเชียว แต่เราว่างานนี้ง้อกันยาวเลยล่ะค่ะจงอิน เพราะคุณทำลูกกลัวเสียแล้วล่ะค่าา :laugh: นี่ถ้าจงอินไม่ฟิวส์ขาดเสียก่อน จงอินก็จะมีจีซองเป็นกองหนุนในการช่วยง้อคุณหม่าม๊าแล้วนะคะเนี่ย ><

รอตอนต่อไปจ้า ^^

ออฟไลน์ TOY_SKY

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
สู้ ๆ นะจงอิน เซฮุนก็ใจอ่อนหน่อยสิลูก

แล้วจีซองหนูจะน่ารักไปไหนเนี่ย ลักพาตัวจีซองได้มั้ยยยย

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
ตามอ่านทีเดียว ยาวสะใจมาก

ท่านรองจะใช้แผนอะไรช่วยไคหน๋อ?! :hao3:

ออฟไลน์ owo llยมuมข้u

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 459
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
สนุกมากเลยค่ะ // แต่อยากให้ช่วยกำกับตอนหน่อยได้ไหมอะค่ะ พอดี ถ้าอัพแล้วมันไม่ทราบน่ะค่ะ ว่าถึงตอนไหนแล้ว

ออฟไลน์ RedQueen

  • Memois Of A Calamity Queen
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ช่วยกำกับตอนหน่อยได้ไหมคะ พอดี ถ้าอัพแล้วมันไม่ทราบน่ะคะ ว่าถึงตอนไหนแล้ว เช่น EP 3 P 2 2/6/2558 อะคะ คือไม่งั้นก็ไม่รู้เลยอะคะว่าอัพเดทแล้วอะคะ รบกวนทีคะ

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
  it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 9




"เรามีอะไรจะบอกพี่รึเปล่าเซฮุน" จุนมยอนถามเปิดประเด็นขึ้น เมื่อเปิดประประตูห้องทำงานของตนเข้ามาและเห็นว่าเซฮุนนั่ง

ลูบผมของจีซองที่นอนหลับอยู่บนโซฟารับแขก

"พี่หมายถึงเรื่องอะไรหรอฮะ" เซฮุนถามกลับออกไปทั้งที่พอจะรู้อยู่ว่าพี่ชายนั้นต้องการจะถามเรื่องอะไร

"ก็เรื่องที่ไคเป็นของพ่อจีซองไงหล่ะ หรือเราจะปฎิเสธว่าไม่ใช่?"

"ผมขอปฎิเสธฮะ เพราะเค้าไม่ใช่พ่อของลูกผม" เซฮุนปฎิเสธเสียงแข็ง

"โกหกใครก็โกหกได้นะเซฮุน แต่โกหกตัวเองโกหกความเป็นจริงไม่ได้หรอก"

"เค้าไม่ใช่พ่อของจีซองหรอกฮะพี่ ผมกับจงอินเราแค่เคยเป็นเพื่อนกัน เค้าเป็นถึงซุปเปอร์สตาร์ของเกาหลี แต่พ่อของลูกผมเป็น

เพียงผู้ชายธรรมดาๆเท่านั้นเองฮะ"

"ถ้าน้องยังคงยืนยันที่จะตอบแบบนี้ และไม่ยอมบอกพี่ว่าพ่อของจีซองคือใคร เราก็คงจะต้องตรวจดีเอ็นเอกันแล้วหล่ะ เพราะไค

เค้าบอกกับพี่ว่าเค้าสงสัยเหมือนกันว่าจีซองอาจจะเป็นลูกของเค้า ถ้าเราไม่พูดออกมาว่าจีซองเป็นลูกใครเค้าก็จะขอตรวจดีเอ็นเอ

ให้แน่ชัดกันไปเลย " จุนมยอนพูดออกมาในสิ่งที่ตัวเองได้คิดวางแผนกับจงอินไว้

"อะไรนะ!! ไม่ได้นะฮะจีซองเป็นลูกของผม คนอื่นจะมาตรวจอะไรมั่วๆแบบนี้ได้ยังไง ผมไม่ยอมหรอก ยังไงผมก็ไม่ยอม"

เซฮุนเบิกตากว้างทันทีเมื่อได้ยินในสิ่งที่จุนมยอนบอก

"มันก็อาจจะจริงที่เค้าจะทำโดยพลการไม่ได้ แต่ถ้าเค้ายื่อนฟ้องกับศาลก็จากจะมีสิทธิ เพราะช่วงเวลาที่น้องท้องและหายไปจาก

ชีวิตของเค้าคือช่วงเวลาเดียวกัน เมื่อถึงวันที่ศาลอนุมัติเมื่อไหร่วันนั้นน้องก็ไม่สามารถจะปฎิเสธหรือแก้ไขอะไรได้แล้ว แต่มี

สิ่งหนึ่งนะที่พี่อยากจะเตือน น้องอย่าลืมนะว่าไคคือซุปเปอร์สตาร์คือคนดังที่มีคนให้ความสนใจมาก ถ้ามีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล

จะต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ และโดยเฉพาะเรื่องแบบนี้ ไคเสื่อมเสียชื่อเสียงแน่ๆหรือถ้าแย่กว่านั้นชีวิตในวงการบันเทิงของไคอาจจะ

จบลงไปเลยก็ได้ใครจะไปรู้ แล้วทีนี้ทั้งน้องและจีซองก็จะมีแต่คนให้ความสนใจ ความสงบสุขในชีวิตก็จะหายไป และที่สำคัญ

ถ้าจีซองรับเรื่องพวกนี้และแรงกดดันจากเรื่องนี้ไม่ไหวแกก็จะมีปมด้อยกลายเป็นเด็กมีปัญหาไปเลย น้องอยากให้ลูกเป็นแบบนั้น

หรอเซฮุน คิดดีๆนะ ไม่ว่าน้องจะเลือกทางไหนหรือเกิอะไรขึ้นพี่ก็จะอยู่ข้างๆคอยช่วยน้องเสมอ" จุนมยอนนั่งลงข้างๆเซฮุน

ค่อยพูดกล่อมและคอยสังเกตุอาการของเซฮุนอยู่ตลอด

"พี่ฮะ ผมไม่อยากให้ลูกเป็นอย่างนั้น ไม่อยากให้มีเรื่องอะไรมากระทบจิตใจของแก ผมไม่อยากให้จีซองโดนสังคมทำร้าย พี่ฮะ

ช่วยผมด้วย ช่วยผมกับจีซองจากเรื่องพวกนี้ด้วย" เซฮุนหันมากอดและซุกหน้าลงกับไหล่พี่ชายและพูดเสียงสะอื้น ด้วยความกลัว

กลัวว่าความจริงของเรื่องทั้งหมดจะกลายเป็นหนามที่คอยทิ่มแทงจีซองให้เจ็บปวด ถ้าเกิดมีเรื่องมีราวถึงศาลขึ้นมาจริงๆ

ไม่ว่าเรื่องออกมาเป็นแบบไหนก็ต้องมีเสียงวิพากย์วิจารณ์อย่างหนักแน่นอนและคนที่จะได้รับผลกระทบไปเต็มๆก็คือจีซอง

"พี่บอกแล้วไงว่าพี่จะอยู่ข้างๆน้อง และจะช่วยน้องทุกอย่า ขอแค่น้องบอกพี่มาได้ไหมว่าจีซองเป็นลูกของใคร เราจะได้รู้ว่าควร

จะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร" จุนมยอนพูดเกลี้ยกล่อมอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเซฮุนเริ่มคล้อยตาม

"จงอินฮะ....จงอินเค้าคือพ่อของจีซอง....แต่พี่อย่าบอกเค้าเลยนะฮะ" เซฮุนก้มหน้าตอบไม่เต็มเสียง

"แล้วทำไมเราถึงไม่บอกเค้าหล่ะว่าเราท้อง ตอนไคก็ยังไม่ได้เดบิวต์ไม่ใช่หรอ ทำไมน้องถึงเลือกที่จะหนีเค้าไปเฉยๆแบบนี้

น้องรู้รึป่าวว่าน้องกำลังทำร้ายลูกด้วยการทำให้เค้าขาดพ่อ ทำให้ไคกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวไร้ความรับผิดชอบทั้งๆที่เค้าไม่รู้

เรื่องอะไรเลย และที่สำคัญน้องทำร้ายหัวใจตัวเองรู้บ้างรึเปล่าเซฮุน"

"เพราะว่าตอนนั้นจงอินกำลังจะได้เดบิวต์แล้วฮะ ผมก็รู้ว่าท้องในวันเดียวกัน วันนั้นที่เราคุยกันจงอินเค้าดีใจมากเลยฮะที่จะได้

เดบิวต์ เพราะมันเป็นสิ่งที่เค้ารอมานาน ผมทำลายอนาคตของเค้าด้วยการบอกว่าผมท้องไม่ได้หรอกฮะ เพราะผมรู้นิสัยของจงอิน

ดี เค้าจะต้องระทิ้งความฝันที่เค้าเฝ้ารอมานานเพื่อผมกับลูกแนนอน และอีกอย่างผมไม่อยากให้ความพยามทั้งหมดของจงอิน

ต้องสูญเปล่าแน่ ก็เลยเลือกที่จะไม่บอกเค้าฮะ ผมทำร้ายเค้าไม่ลงจริงๆ"

"แล้วนายเคยถามฉันไหมว่าฉันต้องการแบบนั้นรึเปล่าเซฮุน  ฉันก็บอกนายตลอดนิว่านายคือสิ่งที่สำคุญที่สุดสำหรับฉัน คือ

ครอบครัวของฉัน คือชีวิตของฉัน เป็นทุกๆอย่างของฉัน แล้วนายคิดว่า ความฝัน ชื่อเสียง เงินทองทั้งหมดที่ฉันมีอยู่ตอนนี้

คือสิ่งที่ฉันต้องการมากกว่านายกับลูกอย่างนั้นหรอ???" จงอินที่ยืนฟังอยู่หน้าห้องตั่งแต่แรก เพราะได้ตกลงกับจุนมยอนไว้

ว่าจุนมยอนจะเข้ามาพูดเกลี้ยกล่อมให้ก่อนและตนค่อยเข้ามาปรับความเข้าใจกับเซฮุน แต่เค้ากลับไม่ได้ทำตามที่ตกลงกับ

จุนมยอนไว้ เพราะทนที่จะแอบฟังอยู่เฉยๆไม่ได้อีกต่อไป เมื่อได้รู้และได้ยินเหตุผลต่างๆและเรื่องราวทั้งหมด จึงทำให้

ตัดสินใจเปิดประตูเข้ามา

"จงอิน!!!" เซฮุนตกใจเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าจงอินเดินเข้ามา

"เอาหล่ะ!! ตรงนี้หมดหน้าที่ของฉันแล้ว หลังจากนี้ให้เป็นเรื่องของนายสองคนแล้วกัน จะทำอะไรก็นึกถึงสิ่งที่จะตามมานะไค

ตัดสินใจดีๆนะเซฮุน เรื่องนี้มันไม่ได้มีแค่นายสองคนเท่านั้นแล้วนะ จะเอายังไงก็คิดถึงจีซองให้มากๆหล่ะ ฉันจะเอาหลานฉัน

ไปนอนที่บ้านก่อน คุยกันซะ!! ทำให้ทุกอย่างมันถูกต้อง ให้มันเป็นไปในสิ่งที่ควรจะเป็น" จุนมยอนพูดจบก็อุ้มจีซองออกไป

"จงอินนาย...นาย..." เซฮุนพูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก

"ถ้านายจะถามว่าฉันได้ยินที่นายกับพี่คุยกันรึเปล่า ฉันก็จะตอบให้ว่าฉันได้ยินทุกๆอย่างตั้งแต่แรก!! ทำไมเซฮุน ทำไม? นาย

ถึงเลือกให้เป็นอย่างนี้ นายไม่เคยมั่นใจในตัวฉันเลยหรอ หรือฉันไม่ดีพอที่จะเป็นพ่อของลูก" จงอินพูดด้วยสีหน้าที่คาดเดาไม่ได้

"ไม่ใช่นะจงอิน!! มันไม่ใช่อย่างที่นายคิด เพราะการเป็นนักร้องคือความสุขของนาย ฉันเลยไม่อยากจะทำลายความสุขของนาย"

เซฮุนส่ายหน้าปฎิเสธเป็นพัลวัน

"นายกำลังดูถูกตัวเองอยู่นะเซฮุนที่คิดว่าความฝันบ้าบอนั่นมันจะสำคัญกว่านาย และนายก็ดูถูกฉันด้วยที่คิดว่าฉันจะมีความสุข

เพียงเพราะได้เป็นนักร้องมากกว่าการที่ฉันจะได้อยู่กับนายและลูก แล้วนายก็ใจร้ายมาก ที่ทิ้งฉันไปโดยที่ไม่บอกอะไรกันเลย

นายรู้อะไรไหมเซฮุน!! ว่าตลอดเวลาที่ฉันไม่มีนายอยู่ข้างๆกัน มันเจ็บปวดและทรมาณแค่ไหน ฉันเสียใจจนแทบบ้ารู้บ้างรึป่าว

เคยถามฉันไหมว่าจริงๆแล้วสิ่งที่ฉันต้องการมากที่สุดคืออะไร ความรักความห่วงใย กำลังใจจากนายและลูกไง แม้ว่าฉันจะไม่ได้

เดบิวต์เป็นนักร้อง แต่เป็นเพียงแค่พ่อค้าขายบะหมี่หรือพนักงานออฟฟิตธรรมดาๆ ต่อให้ฉันต้องลำบากมากแค่ไหนฉักก็ยอม

และมีความสุขได้ขอแค่มีนายกับลูกเท่านั้น" จงอินพูดด้วยน้ำเสียงและแววตาตัดพ้อ ความเจ็บปวดที่แสดงออกมาทางสีหน้าทำให้

เซฮุนเสียใจอดรนไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมาทั้งๆที่พยายามจะกลั้นจนสุดความสามรถ

"ขอโทษจงอิน ฉันขอโทษ...ฉันขอโทษที่ทำอะไรไปโดยไม่ทันได้นึกถึงความรู้สึกของนายเลย ฉันขอโทษจริงๆ ฉันเสียใจ...

ได้โปรดเถอะจงอิน...อย่าเสียใจอย่าทุกข์ทรมาณอีกเลยนะฉันขอร้อง...ยอมแล้ว....ฉันยอมแล้ว...จะให้ฉันทำอะไรก็ยอม" เซฮุน

สะอึกสะเอื้อนซุกตัวกอดจงอินด้วยน้ำตาพร่ำบอกแต่ว่าขอโทษอยู่อย่างนั้น

"กลับมาหาฉันสิเซฮุน กลับมารักกัน กลับมาอยู่กับฉัน อยู่กันแบบครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตาสามคนพ่อแม่ลูกไง มีฉันมีนาย

แล้วก็มีจีซอง มาอยู่กับฉันนะ ตอนนี้ฉันมีพร้อมหมดทุกอย่างแล้ว ทั้งบ้านทั้งรถ ทั้งเงินทองอีกตั้งมากมาย ฉันสามารถเลี้ยงนาย

และลูกได้สบายๆอยู่แล้ว ได้โปรดนะเซฮุน" จงอินบอกพร้อมกับกระชับอ้อมกอดที่มีเซฮุนอยู่ไว้แน่น

"แล้วงานของนายหล่ะจงอิน ถ้าแฟนคลับนายรู้พวกเค้าจะรู้สึกยังไง" เซฮุนถามด้วยความกังวล

"ถ้าใครถามก็บอกไปว่านายเป็นเมียฉันและจีซองก็คือลูกของเรา ไม่จะเห็นต้องคิดอะไรให้มันมากมาย" จงอินตอบแบบสบายๆ

ขอแค่ได้อยู่กับเซฮุนและลูกเท่านั้นต่อให้จะต้องเลิกเป็นศิลปินก็ยอม เค้าไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

"จะบ้าหรอจงอิน!!! นายจะทำอย่างนั้นได้ยังไง พวกแฟนคลับนายเค้าจะเสียใจมากแค่ไหนถ้ารู้เรื่องนี้ และผลกระทบที่จะตามมา

อีก จีซองยังเด็กนะจงอิน ลูกยังรับมือกับปัญหาพวกนี้ไม่ได้หรอก อย่างน้อยๆถ้านายจะเปิดเผยหรือบอกกับใครจริงๆก็ขอให้

จีซองได้โตพอที่รับรู้มากกว่านี้สักหน่อย เมื่อถึงวันนั้ฉันก็จะไม่ห้ามนายอีกเลย" เซฮุนพูดในสิ่งที่ตนคิดว่าดีที่สุดออกมาให้

จงอินรับรู้ เพราะตอนนี้สิ่งที่เค้าห่วงที่สุดก็คือสภาวะจิตใจของจีซอง ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจริงๆหัวใจที่บอบบางของจีซอง

คงจะรับไม่ไหวอย่างแน่นอน

"ก็ได้!! ฉันจะเก็บเรื่องของเราไว้จะยังไม่บอกกับใครตอนนี้ แต่ขอเถอะให้ฉันได้บอกกับลูกกับครอบครัวของนายเถอะ แล้วฉัน

ก็จะไปขออนุญาติพ่อกับแม่ของนาย เรื่องของเรา และเรื่องที่นายกับลูกจะมาอยู่กับฉัน" จงอินพูดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงอ้อนวอน

"ใครบอก!! ว่าฉันและลูกจะไปอยู่กับนายกันจงอิน" เซฮุนแกล้งพูดแหย่จงอินด้วยสีหน้าจริงจังและสียงเรียบนิ่ง

"ทำไม? ทำไมนายถึงพูดอย่างนี้หล่ะ ก็เราเข้าใจกันแล้วไม่ใช่หรอ หรือนายไม่รักฉันแล้ว??" จงอินผละเซฮุนออกจากอ้อมแขน

และถามด้วยสีหน้าหม่นๆนัยน์ตาเศร้า

"อุ๊บ!...ฮ่า....หน้านายตลกจังจงอิน แค่ฉันล้อนายเล่นเท่านั้นเอง ถ้านายสามารถผ่านด่านคุณพ่อไปได้หล่ะนะ ฉันก็ไม่มีปัญหา

อะไรหรอก แต่ฉันจะขอเตือนนายไว้ก่อนนะว่าจีซองอ๊ะหลานรักคนโปรดของคุณตาเค้า ท่างหวงยิ่งกว่าอะไร ท่านคงจะยอม

ให้นายเอาหลานรักของท่านไปอยู่ด้วยหรอก"

"นี่!!! นายกล้าหลอกฉันหรอเซฮุน ฉันก็จะบอกนายเหมือนกันว่าต่อให้ท่านประธานจะใจแข็งแค่ไหนหรือจะให้ฉันทำอะไร

เพื่อลูกเพื่อเมียฉันทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว แต่ตอนนี้มาให้ฉันลงโทษซะดีๆ กล้าหลอกฉันหหรอเซฮุน อย่าหนีนะ นี่แน่ะๆ"

จงอินไล่จับจี๋เอวของเซฮุนไปทั่วห้องเป็นการลงโทษที่เซฮุนแกล้งตอบให้เค้าใจเสีย

"ฮึก....ฮ่าๆ...ฮ่า....หยุดนะจงอิน...มันจั๊กจี้น้า...ฮึๆ...ยอมแล้วๆ..หยุดก่อน...อ๊ากกกกก...." เพราะมัววิ่งหนีจงอินจนไม่ได้มองทาง

ทำให้เซฮุนสะดุดขาโต๊ะรับแขกจึงทำให้เสียหลักหงายหลังล้มนอนไปกับโซฟา

"ฮึ ฮึ เสร็จป๊ะป๋าแน่คุณหม่าม๊าคนสวย...." จงอินยกยิ้มเจ้าเลห์เหมือกับหมาป่าที่จ้องจะกินกระต่าย ใช้สองแขนแกร่งกักตัวเซฮุน

ไว้ไม่ให้หนีไปไหนได้ ทั้งสองคนมองหน้าสบสายตาให้กันอย่างมีความหมายของกันและกัน ความรัก ความห่วงหา ความคิดถึง

ที่มันเต็มแน่นอยู่ในหัวใจจนแทบจะเอ่อล้นออกมา จงอินค่อยๆก้มลงเคลื่อนใบหน้าเข้าไปหาเซฮุนอย่างเชื่องช้า แค่อีกนิดเดียว

เท่านั้น ที่ปากของทั้งคู่กำลังจะสัมผัสมอบความหวานให้แก่กัน

"ฉันว่า!! เรากลับกันดีดว่า ป่านนี้จีซองคงจะตื่นแล้ว เดี๋ยวพอไม่เห็นหน้าฉันขึ้นมาจะพาลงองแงให้พี่ปวดหัวเอาอีก ไปกันเถอะ"

เซฮุนถดตัวถอยหนี ดันตัวของจงอินออกให้พ้นทางและลุกเดินหนีออกจาห้องไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้จงอินหน้าเหวออยู่อย่างนั้น

"โธ่....เซฮุนนะเซฮุนอีกนิดนึงก็ไม่ได้ อย่าให้ถึงวันของฉันบ้างแล้วกัน ฉันจะจัดการคิดบัญชีทบต้นทบดอกจนนายลุกจากเตียง

ไม่ขึ้นเลยคอยดู  จะเอาให้จีซองมีน้องแฝดไปเลยคอยดู" จงอินเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน บ่นงึมงำๆกับตัวเองด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

 



บ้านตระกูลโอ

"คุงลุงฮับ!! หม่าม๊าไปไหน?? เมื่อไหรหม่าม๊าจะมาหรอฮับ" จีซองถามขึ้นหลังจากที่หยุดร้องไห้มาได้ซักพัก เพราะตื่นขึ้นมา

แล้วไม่เห็นหน้าแม่ของตนกอปรกับก่อนที่จะเผลอหลับไป เห็นแม่ตัวเองมีปากเสียงกับจงอิน

"อยู่กับป๊ะป๋าของจีซองนั่นแหละครับ เดี๋ยวก็มา นั่งเล่นอยู่กับลุงก่อนเน๊าะ"

"ป๊ะป๋าหรอฮับ!! แล้วหม่าม๊าจะพาป๊ะป๋ามาหาจีซองรึป่าวฮับคุงลุง" จีซองถามด้วยความตื่นเต้นเมื่อได้ยินจุนมยอพูดถึงพ่อตัวเอง

"มาสิ! หม่าม๊าต้องพาป๊ะป๋ามาหาลูกหมูจีซองแน่ๆเลย แต่ตอนนี้ถ้าจีซองอยากจะอยู่กับป๊ะป๋าจีซองต้องฟังและทำตามที่ลุงบอก

ก่อน ถ้าจีซองไม่ทำอย่างที่ลุงบอกจีซองอดอยู่กับป๊ะป๋าแน่ๆ ถ้าเกิดว่าคุณตา.....บลาๆ โอเค๊??" จุนมยอนมั่นใจว่าการตกลงคุยกัน

ของทั้งสองคนจะต้องออกมาอย่าที่เค้าคิดแน่นอน  ตอนนี้เค้าจะต้องจัดการลงโปรแกรมปราบความรั้นของคุณตาเจ้าตัวเล็ก

ใส่สมองเจ้าเลห์ๆนี่ซะก่อน ทุกอย่างจะได้ไม่มีปัญหา

"โอเค หลานรับแซบ" หึๆ แค่นี้ก็เรียบร้อยโรงเรียนจุนมยอน

"อุ๊ต๊ะ!!!! หม่าม๊ามาแล้ววววว..... ป๊ะป๋า หม่าม๊า ป๊ะป๋า หม่าม๊าาาา.....อาาาาา...ไค" เพราะได้ยินเสียงรถดังเข้ามาในบ้าน จีซองจึงรีบ

วิ่งออกมาจากห้องนั่งเล่นด้วยความเร็วที่พอจะทำได้ เพราะความตื่นเต้นและดีใจที่จะได้เจอกับคนเป็นพ่อ แต่แล้วจีซองก็หยุดวิ่ง

และค่อยๆเดินถอยหลังเมื่อเห็นว่าคนที่มากับเซฮุนเป็นใคร ความทรงจำครั้งสุดท้ายของจีซองก็คือการได้เห็นจงอินและเซฮุนมี

ปากเสียงกัน เลยทำให้จีซองเกิดอาการกลัวจงอินขึ้นมา

"จีซองมาหาหม่าม๊ามาครับ" เมื่อเห็นลูกทำหน้าเหมือนจะร้องไห้และเดินถอยหลังหนี เซฮุนจึงดึงมือที่จงอินกุมอยู่ออกและเดิน

ไปอุ้มจีซองขึ้นมา

"เป็นอะไรไปครับลูกหมู ถอยหนีหม่าม๊าทำไม" เซฮุนถามขึ้น

"ป๊ะป๋าล๊ะฮับ คุงลุงบอกว่า หม่าม๊าจะพาป๊ะป๋ามาหาจีซอง" จีซองเลี่ยงที่จะไม่ตอบคำถามของเซฮุน ยืดตัวชะเง้อมองไปทาง

ด้านหลังของเซฮุนเพื่อมองหาป๊ะป๋าของตัวเอง

"ก็นี่ไงครับ!! ป๊ะป๋าของจีซอง หม่าม๊าพาป๊ะป๋ามาหาจีซองแล้วนี่ไง" เซฮุนพูดบอกและชี้นิ้วไปที่จงอิน พรางพยักหน้าให้จงอิน

เดินเข้ามาใกล้ๆ แต่พอจงอินขยับตัวเดินเข้ามาจีซองก็ผวากอดคอเซฮุนไว้แน่

"ไม่ใช่!!! นี่อาไค ไม่ใช่ป๊าป๋า ป๊ะป๋าอยู่ไหน!!! หม่าม๊าโกหกลูก!!!"จีซองหวีดร้อง ส่ายหน้าปฎิเสธลูกเดียว

"ก็อาไคนี่แหละครับคือป๊ะป๋าของจีซองน่ะ" จุนมยอนที่ยืนดูอยู่นานก็ช่วยพูดขึ้นอีกแรง

"แต่อาไคบอกจีซองว่าอาไคเป็นอาไค ไม่ใช่ป๊ะป๋านิ หม่าม๊ากับคุงลุงโกหก!!!!!" จีซองเถียงขึ้นเพราะจำได้ว่าตอนเจอกันครั้งแรก

จงอินบอกว่าตัวเองชื่อไคและแทนตัวว่าอา ไม่ใช่ป๊ะป๋าของตน

"ก็เพราะตอนนั้นป๊ะป๋าไม่รู้นครับว่าจีซองเป็นลูกชายของป๊ะป๋า จีซองเชื่อป๊ะป๋าเถอะนะครับว่า ป๊ะป๋าเป็นป๊ะป๋าของจีซองจริงๆ"

จงอินเห็นสีหน้าผิดหวังของลูกชายแล้วรู้สึกใจไม่ดี จึงค่อยๆขยับ ก้าวเดินเข้ามาใกล้ๆกับจีซองที่อยู่ในอ้อมแขนของจีซองและ

พยายามอธิบายให้จีซองได้เข้าใจ

"ก็เพราะหม่าม๊าเราไม่ยอมบอกนะสิ ว่ามีลูกหมูอย่างจีซองเกิดขึ้นมาก็เลยทำให้ป๊ะป๋าของเราไม่รู้ว่าเราเป็นลูกไงไอ่หมูอ้วน"

จุนมยอนพูดห่ามๆตามสไตล์ของตัวเอง เค้ามั่นใจว่าเด็กฉลาดๆอย่างหลานเค้าจะต้องเข้าใจเมื่อพูดอธิบายกันออกมาตรงๆ

"จริงหรอฮับหม่าม๊า??" จีซองหันไปถามเซฮุนเพื่อความแน่ใจว่าสิ่งทีจงอินและจุนมยอนพูดคือเรื่องจริง

"จริงครับ อาไคก็คือป๊ะป๋าของลูกนะจีซอง" เซฮุนพูดบอกด้วยเสียงจริงจัง

"มาหาป๊ะป๋ามาจีซอง ขอป๊ะป๋าอุ้มลูหน่อยนะ" จงอินทำใจกล้าพูดขึ้นและยื่นมือออกไปข้างหน้าจีซอง แต่จีซองกลับลังเล

มองหน้าคนนั้นทีคนโน้นที ทั้งเซฮุนและจุนมยอนก็ต่างพยักหน้าให้เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับจีซอง และมองดูกันอย่างลุ้นๆ

"ป๊ะป๋า!!!!!!!......" จีซองตะโกนเรียกจงอินและโถมตัวไปหาจงอินด้วยน้ำหนักตัวทั้งหมด

"ครับป๊ะป๋าเอง ต่อไปนี้ป๊ะป๋าจะไม่ปล่อยให้จีซองต้องอยู่กับหม่าม๊าแค่สองคนอีกแล้ว เราจะอยู่ด้วยกันสามคนพ่อแม่ลูกเลย

ดีไหมครับ ไปอยู่กับป๊ะป๋านะครับ" จงอินพูดด้วยความตื้นตันที่จีซองยอมรับตัวเองและยอมเรียกตนว่าป๊ะป๋า

"จีซองคิดถึงป๊ะป๋า จีซองรักป๊ะป๋า จีซองอยากอยู่กับป๊ะป๋ากับหม่าม๊าด้วย อยู่กันสามคนเล๊ยยย..." จีซองกอดรัดจงอินแน่น

ด้วยความดีใจ พูดบอกและยิ้มกว้างออกมาอย่างมีความสุข จนเซฮุนและจุนมยอนที่มองอยู่อดไม่ได้ที่จะยิ้มตามสองพ่อลูกคู่นี้

"จะไม่มีใครไปไหนทั้งนั้น!!!!!..."

"คุณพ่อ/พ่อ"

"ท่านประธาน"

"คุงตา....."

 

...

มาแล้วค่ะตอนที่9 สำหรับคนที่อยากให้ทั้งสามคนดีกันก็คงสมใจ

แต่สำหรับใครที่คิดว่าคืนดีกันง่ายเกินไปรึป่าว มี่ก็ต้องขอชี้แจงก่อนนะคะว่า

ความจริงคือจงอินและเซฮุนไม่ได้ทะเลาะกันแค่ห่างๆกันไปเฉยๆแต่ทั้งคู่ก็ยังคงรักกันมาก

ส่วนจีซองคือเด็กที่โหยหาความรักของพ่อมาตลอดแม้ว่าจะไม่ได้พูดออกมาตรงๆและถ้าจำกันได้ในตอนที่7

อ้อมกอดของจงอินนั้นทำให้จีซองรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยเหมือนมาเติมเต็มในสิ่งที่ตัวเองขาดไปจนทำให้ร้องตามจงอิน

ยังไงก็แล้วแต่ขอคุณสำหรับคอมเม้นเพราะทุกคอมเม้นทุกคำติชมคือกำลังใจที่สำคัญของมี่

แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ..........

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
เดี๋ยวดึกๆมี่จะมาลงให้อีกตอนนะคะหรอไม่ก็อาจจะลงจนถึงตอนที่15ให้ทันกับเว็บอื่นเลย
ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณผู้อ่านเลยค่ะว่าต้องการแบบไหน
จะให้ลงทั้งหมดเลยหรือจะให้เพิ่มทีล๊ะตอน ยังไงก็ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์มากเลยนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
คุณตากำลังจะปล่อยพลังทำลายล้างทุกคนแล้วสินะค้าา บรื๊อ~ :sad3:

ถ้าทำได้จริงๆ น่ะนะคะ ^^ เพราะก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคุณตาจะทนใจแข็งให้กับแอ็คติ้งของน้องจีซอนได้นานแค่ไหนกัน เราว่าน้องต้องมาเต็มแน่นอนเลยนะคะ ทั้งลูกอ้อน ทั้งน้ำตาคงจะเรี่ยราด(?)น่าดูเลยเชียว~ :laugh:

เพื่อความสุขของลูกและหลาน ได้โปรดอย่าเยอะนะคะท่าน~ o18 ..

ปล. ลงทีละตอนก็ดีเหมือนนะคะ >< เพราะเราอยากตามแสดงความคิดเห็นในแต่ละตอนด้วยน่ะค่าา~
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-06-2015 20:34:48 โดย Mouse2U »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ได้เวลาออกโรงแล้ว

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 10 






"ท่านประธาน"

"คุณพ่อ/พ่อ"

"คุงตา"

"จีซองมาหาตาหน่อยสิ" ประธานโอที่เดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับคุณนายคิมเอ่ยเรียกจีซองที่อยู่ในอ้อมแขนของจงอินให้มาหาตน

เป็นเพราะว่าวันนี้เค้าและภรรยาต้องไปงานเลี้ยงการกุศลเลยทำให้กลับบ้านค่ำกว่าปกติ ตนที่นั่งรถเข้ามาในเขตบ้านนั้นเค้าเห็น

รถไม่คุ้นตาจอดอยู่ในโรงจอดรถแต่ก็ไม่ได้สงสัยแต่อย่างใดเพราะคิดว่าอาจจะเป็นเพื่อนของจุนมยอนที่ตั้งแต่กลับมาจากอเมริกา

ก็มีเพื่อนมาหาไม่ซ้ำหน้า แต่แล้วในขณะที่กำลังจะก้าวเข้าไปในบ้านนั้นก็ได้ยินเสียงจุนมยอน เซฮุน จีซองและเสียงคุ้นหูของ

ผู้ชายอีกคนกำลังคุยกันเรื่องคนที่เป็นพ่อของหลานชายตน เลยทำให้ประธานโอรั้งแขนคุณนายคิมให้หยุดเดินและฟังในเรื่อง

ที่เค้าก็สงสัยและอยากรู้อยู่เหมือนกัน

"ฮับ!! คุงตาคุงยายฮับ ป๊ะป๋า นั่นป๊ะป๋าจงอินของจีซอง ป๊ะป๋ามาหาจีซองแล้ว" เมื่อจงอินปล่อยจีซองลงยืนที่พื้นแล้ว จีซองก็เดิน

ไปหาประธานโอทันที พูดพลางเขย่าแขนประธานโอและคุณนายคิมอย่างดีใจและชี้ไปที่จงอินให้รู้ว่านั่นคือป๊ะป๋าของตัวเอง

 คุณนายคิมได้แต่ยิ้มน้อยๆให้จงอินเพราะเธอพอจะรู้มาบ้างแล้วคร่าวๆเพราะจุนมยอนเป็นคนโทรไปเล่าให้เธอฟัง แต่กลับกัน

ประธานที่พึ่งจะรู้เรื่องราวทั้งหมดเมื่อสักครู่ด้วยตัวเองก็ได้แต่แหล่ตามองจงอินด้วยหางตา

"คุณพ่อคุณแม่ฮะคือ จงอินเค้าเป็น.." เซฮุนพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ เมื่อเห็นว่าหลังจากที่จีซองพูดจบนั้น ทุกคนกลับนิ่ง

และไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลย

"มีเรื่องอะไรก็เอาไว้คุยกนวันหลังตอนนี้ฉันเหนื่อยอยากพักผ่อน ส่วนนายก็กลับไปได้แล้วไค" ยังไม่ทันที่เซฮุนจะพูดจบ

ประธานโอก็พูดบอกตัดบทเลยทันที

"ไม่เอาน้าา...ไม่ให้ป๊ะป๋ากลับ จีซองอยากนอนกับป๊ะป๋า อยากนอนกับหม่าม๊า กอดกันสามคนเลย กอดอุ่นๆ นะฮับปป๊ะป๋า"

จีซองสะบัดมือออกจากประธานโอและวิ่งไปกอดต้นขาของจงอินไว้แน่น

"แต่ท่านประธานครับ ผมขอ.."

"ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้นไค นายควรจะออกไปจากบ้านของฉันได้แล้วตอนนี้ จุนมยอนพาเซฮุนกับจีซองขึ้นไปบนห้อง" ประธานโอ

หันไปสั่งจุนมยอน

"พ่อครับผมว่าเราควรจะรับฟังในสิ่งที่ไคอยากจะพูดกันก่อนดีกว่าไหมครับ" จุนมยอนแย้งขึ้น

"ฉันบอกให้แกพาเซฮุนกับจีซองขึ้นไปบนห้องไง ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉันแกเป็นแค่ลูกไม่ต้องมาออกความคิดเห็น

หน้าที่ของแกมีแค่ทำตามในสิ่งที่ฉันสั่งก็พอ" ประธานโอพูดบอกจุนมยอนด้วยน้ำเสียงเรียบแต่แววตากลับดุดัน

"ก็ได้ครับ! ไปเซฮุน ไปกันครับจีซองไปข้างบนกับลุงก่อน" จุนมยอนเห็นท่าทีของประธานโอก็ต้องจำใจตกปากรับคำ เพราะ

ไม่อยากจะขัดใจให้ประธานโอต้องอารมณ์เสียไปมากกว่านี้ เดี๋ยวจะพลอยเดือดร้อนกันไปหมด

"ไม่เอาจีซองไม่ไป! จีซองจะอยู่กับป๊ะป๋า ป๊ะป๋าอยู่กับจีซองน้าา...จีซองอยากกอดป๊ะป๋า..."จีซองกอดต้นขาของจงอินแน่นขึ้น

ไปอีกเมื่อเห็นว่าจุนมยอนกำลังจะเดินมาหาตัวเอง

"จีซองขึ้นไปเล่นของเล่นกับลุงก่อนดีกว่าเน๊าะ ให้ป๊ะป๋าของจีซองอยู่คุยธุระกับคุณตาก่อน ไปครับไปกับลุง" จุนมยอน

พูดบอกและพยายามดึงจีซองออกจากจงอิน

"กรี๊ดด...ไม่เอา!!! คุงลุงอย่าเข้ามานะ ฮือ...จีซองจะอยู่กับป๊ะป๋า...จีซองรู้คุงลุงโกหก! ฮึก...คุงตาไล่ป๊ะป๋าจีซองได้ยินนะ ฮือๆ

คุงตาไล่ป๊ะป๋าทำไม ฮือๆ...ฮือๆ" จีซองกรีดร้อง ปัดมือของจุนมยอนที่จะจับตัวเองออก

"จีซองครับเงียบก่อน หยุดร้องก่อนนะครับ แล้วฟังหม่าม๊า คุณตาเค้าไม่ได้ไล่ป๊ะป๋าไปหรอกลูกได้ยินผิดไปเองนะครับ คุณตา

เค้าแค่บอกให้ป๊ะป๋าไปทำงานเท่านั้นเอง ป๊ะป๋ามีงานต้องไปทำนะครับลูก ทำงานเหมือนกับที่หม่าม๊าไปทำที่ร้านทุกวันไง

จีซองคนเก่งของหม่าม๊าไม่งองแงหรอกเน๊าะ ให้ป๊ะป๋ากลับไปทำงานก่อนนะลูก" เซฮุนพยายามพูดกล่อมด้วยความใจเย็น

ไม่ใช่ว่าเค้าจะไม่รู้สึกอะไรที่ต้องยืนดูอยู่เฉยๆ ถึงแม่ว่าเค้าจะสงสารลูกและอยากที่จะอยู่กลับจงอินมากแค่ไหนก็ตาม แต่ก็คง

ต้องทนรอให้คุณพ่อใจอ่อนและยอมรับเท่านั้น เพราะว่าที่ผ่านมาเค้าทำให้ท่าต้องผิดหวังและเสียใจมามากแล้ว เลยไม่อยาก

ที่จะเรียกร้องหรือขัดใจท่านให้เกิดการทะเลาะกันขึ้นมาอีก

"หม่าม๊าโกหก!!! ฮือๆ..ลูกรู้  ฮึก....ลูกได้ยินคุงตาไล่ป๊ะป๋า....จีซองโกรธ!! โกรธคุงตาแล้ว...ฮือ...." จีซองพูดเถียงเซฮุนทันที

(โกหกจีซองทำไม อย่าคิดว่าจีซองเป็นเด็กแล้วจะไม่รู้เรื่องน๊ะ)

"จงอิน" เซฮุนเงยหน้ามองจงอินด้วยสายตาขอความช่วยเหลือ

"ฉันเข้าใจแล้วเซฮุน จีซองครับ! ลูกฟังป๊ะป๋าน่ะ วันนี้ป๊ะป๋าต้องกลับไปทำงานก่อน จีซองขึ้นไปเล่นกับหม่าม๊าบนห้องก่อน

ถ้าป๊ะป๋าทำงานเสร็จแล้วจะรีบมาหาลูกเลย วันนี้จีซองนอนกอดกับหม่าม๊าแค่สองคนก่อนนะครับ" จงอินพยักหน้าตอบเซฮุน

เพราะพอจะรู้อยู่ว่าเซฮุนต้องการจะให้ตนทำอะไร จงอินย่อตัวนั่งให้อยู่ระดับเดียวกันกับจีซองและช่วยเซฮุนพูดกล่อมลูกชาย

อีกแรงนึง

"แต่คุงตาไล่ป๊ะป๋า ฮึกๆ ไม่ให้ป๊ะป๋าอยู่กลับจีซอง ฮือ...." จีซองยังคงเถียงและเชื่อว่าตัวเองได้ยินไม่ผิด

"ไม่ใช่หรอกครับ จีซองได้ยินผิดแล้ว คุณตาแค่บอกให้ป๊ะป๋ากลับไปทำงานเฉยๆครับ ไม่ได้ไล่ ถ้าป๊ะป๋าไปทำงาน ป๊ะป๋าก็จะมี

เงินซื้อของเล่นกับขนมอร่อยๆให้จีซองไงครับ หยุดร้องได้แล้วนะครับ ลูกผู้ชายเค้าไม่ร้องไห้กันหรอกนะ เดี๋ยวไม่หล่อ"

จงอินพยายามพูดกล่อมให้จีซองคล้อยตาม

"ป๊ะป๋าจะไปทำงานจริงๆหรอฮับ ....ฮึก... แล้วป๊ะป๋าจะมาหาจีซองเมื่อไหร่ฮับ ป๊ะป๋าอย่าทิ้งลูกกับหม่าม๊าอีกน้าาา..." จีซอง

ถามจงอินด้วยความไม่แน่ใจ เพราะกลัวว่าจงอินจะทิ้งตัวเองให้อยู่กับเซฮุนแค่สองคนแม่ลูกอีก

"ลูกชายป๊ะป๋าน่ารักขนาดนี้ไม่ทิ้งหรอกครับ ป๊ะป๋าทำงานเสร็จแล้วจะรีบกลับมาหาจีซอง ป๊ะป๋าสัญญา" จงอินยื่นมือชูนิ้วก้อย

หมุนไปมาตรงหน้าจีซอง

"ป๊ะป๋าสัญญาแล้วนะฮับ ว่าจะรีบมาหาลูกกับหม่าม๊า" จีซองเกี่ยวก้อยกับจงอินก่อนจะพูดย้ำในสิ่งที่ตัวเองกลัวจนฝังใจ

"ครับลูกชาย ป๊ะป๋าทำงานเสร็จแล้วจะรีบกลับมารับ ตอนนี้จีซองขึ้นไปเล่นกับหม่าม๊าข้างบนก่อนนะครับ ป๊ะป๋าก็จะไป

ทำงานแล้วเหมือนกัน" จงอินพูดย้ำอีกครั้งก่อนจะพยักหน้าให้เซฮุนและจุนมยอนพาจีซองขึ้นไปบนห้อง

"ป๊ะป๋า!! ลูกแบ่งพลังให้ ป๊ะป๋าจะได้ทำงานไม่เหนื่อย แล้วรีบกลับมานะฮับ ลูกจะรอ จุ๊บบ!! >3< " ในขณะที่เซฮุนจูงมือจีซอง

เดินขึ้นบันได จีซองก็สะบัดมือออกและวิ่งมากอดและจุ๊บปากของจงอินเบาๆ ด้วยความคิดแบบเด็กๆที่ว่าสามารถแบ่ง

พลังงานให้กันได้ เหมือนกับที่เคยทำกับเซฮุนบ่อยๆในเวลาที่เซฮุนบอกว่าเหนื่อย

"ขอบคุณครับแล้วป๊ะป๋าจะรีบมารับลูกนะ ถ้าท่านประธานยังไม่พร้อมที่จะเปิดใจคุยและรับฟังผม ผมก็ขอตัวกลับก่อนนะครับ

แล้วผมจะมาใหม่ ผมหวังว่าท่านคงจะเมตตาให้โอกาสผมได้ทำหน้าที่พ่อและสามีที่ดีด้วยนะครับ" หลังจากที่จีซองวิ่งขึ้นห้อง

ไปกับเซฮุนและจุนมยอน จงอินก็หันมาพูดกับประธานโอด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่ประธานโอกลับหันหลังเดินหนีขึ้นบันไดไป

ทำเหมือนกับว่าไม่ได้ยินในสิ่งที่จงอินพูด

"เอาไว้ค่อยคุยกันนะไค ให้พ่อเค้าได้ตั้งตัวก่อน แล้วแม่จะช่วยพูดกับพ่อเค้าให้" คุณนายคิมที่ถูกทิ้งให้ยืนอยู่ที่เดิมกับจงอินพูดบอก

"ขอบคุณครับ ถ้าอย่างนั้นวันนี้ผมขอตัวก่อนนะครับ" จงอินโค้งตัวเล็กน้อยเพื่อบอกลาคุณนายคิม

................................................................

เช้าวันต่อมา

 

"เป็นอะไรไปจีซอง ทำไมถึงทำหน้ามุ่ยอย่างนั้นแถมยังกินข้าวแแค่นิดเดียวอีก อิ่มแล้วหรอครับ" คุณนายคิมถามในขณะที่

สมาชิกทุกคนในบ้านกำลังทานอาหารเช้ากันพร้อมหน้าพร้อมตาอยู่ แต่วันนี้หลานชายของเธอกลับทำตัวแปลกๆไป

ทั้งหน้างอไม่งอมพูดไม่ยอมจาอีกทั้งยังทานข้าวไปแค่นิดเดียวทั้งๆที่ปกติแล้วนี่กินเหมือนยัดนุ่นจนคนเป็นแม่อย่างเซฮุน

ต้องห้ามและบอกให้หยุดกินเพราะกลัวว่าท้องจะแตกซะก่อน

"เฮ้อ!!จีซองเป็นเด็กซึมเศร้าฮับคุณยาย เพราะจีซองขาดความอบอุ่นจากป๊ะป๋า" จีซองถอนหายใจเสียงดังและตอบคุณนายคิม

ด้วยเสียงหงอยๆ แต่คำตอบของจีซองนั้นทำให้ทุกคนต้องกลั้นขำจนหน้าแดงยกเว้นประธานโอที่คิ้วขมวดทันทีที่ได้ยินคำ

ตอบของหลานชายคนโปรด

////แอบวางแผนกันอีกแล้วซินะลุงหลานคู่นี้/// เซฮุนได้แต่คิดในใจพลางเหลือบมองจุนมยอนกับจีซอง

///เจ้าเลห์จริงเชียวหลานฉัน/// คุณนายคิม

///ฉันควรจะทำยังไงดี/// ประธานโอที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับเค้าเลย

///ดี่มากไอ้หลานรัก ตีบทแตกสมกับเป็นศิษย์ท่านจุนมยอน/// จุนมยอนแอบชูนิ้วโป้งให้จีซอง

///ผมเจ๋งใช่มั้ยฮับ/// จีซองยักคิ้วข้างเดียวให้จุนมยอนสองที

"แล้วยายจะต้องทำยังไงให้หลานยายกลับมาร่าเริงดีล๊ะเนี่ย หรือหลานอยากได้ของเล่นใหม่กันนะ ยายไม่ชอบเลยที่หลานเป็น

แบบนี้" คุณนายคิมแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องและถามต่อ

"จีซองไม่อยากได้ของเล่นหรอกฮับคุงยาย จีซองแค่อยากอยู่กับป๊ะป๋า" จีซองยังคงทำหน้าเศร้าพูดต่อไปทั้งๆที่ตอนนี้อยาก

จะกินกับข้าวฝีมือหม่าม๊าอีกแทบแย่ แต่ต้องต้องอดทนเพราะคุงลุงบอกว่าถ้าทำแบบนี้แล้วคุงตาจะให้เจอป๊ะป๋าเร็วขึ้น

"ผมไปบริษัทก่อนนะคุณ" ประธานโอทนอยู่ฟังคำพูดของหลานต่อไม่ไหว เลยต้องลุกออกจากโต๊ะอาหารและไปทำงานก่อนเวลา

"คุงตาฮับ!!" จีซองเรียกประธานโอไว้

"ไม่ต้องไปส่งตาหรอกจีซองหลานกินข้าวต่อเถอะ" ประธานโอพูดบอกเพราะคิดว่าหลานจะเดินไปส่งตนที่หน้าบ้านอย่างทุกวัน

"เปล่าฮับ! คุงลุงบอกว่าคุงตาทำงานที่เดียวกับป๊ะป๋า จีซองจะบอกว่าถ้าคุงตาเจอป๊ะป๋า จีซองฝากบอกป๊ะป๋าด้วยว่าจีซองคิดถึง

มาหาจีซองเร็วๆนะ ได้มั้ยฮับคุงตา??" จีซองพูดขอร้องด้วยหน้าเศร้าๆ

"อืม แล้วตาจะบอกพ่อเราให้" ประธานโอรับปากด้วยความขัดใจ

"คิกๆ/ฮึๆ /ฮ่าๆ" หลังจากที่เสียงรถของประธานโอออกไปทุกคนในบ้านก็ประสานเสียงหัวเราะออกมา เพราะความเจ้าเหล์

ของจีซอง แต่เจ้าตัวกลับไม่สนใจใครอีกต่อไป กลับไปนั่งที่ของตัวเองและตั้งหน้าตั้งตายัดข้าวเช้าต่อไป

 

...

มี่อยากลงอิมเมทตัวละครให้จิ้นน่ะค่ะ จะได้เพิ่มความฟิน ดีอ่ะป่าว?

ปกติแล้วอีกสองเว็บที่มีเอาลงไว้มี่จะลงรูปไว้ทุกตอนนะค่ะ

ที่นี่เค้าอนุญาติให้ลงรึป่าว? หรือว่าไม่? ยังไงกันดีคะ?

สุดท้ายก็ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ทุกกำลังใจนะคะ



ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
รางวัลออสการ์ไม่หนีไปไหนจริงๆ เลยค่ะจีซอง~ หนูตีบทได้แตกกระจุยกระจายมากเลย ยอดเยี่ยมค่าา o13 คุณตาจะทนไปได้อีกนานแค่ไหนกันน้อ~

ปล. เรื่องรูปอิมเมจที่นี่อนุญาตให้ลงได้ค่าา ^^ แต่ว่าขนาดของรูปภาพต้องไม่ใหญ่เกินไปกว่าที่ทางเล้ากำหนดไว้ด้วยนะค้าา :-[

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 11 







"กรี๊ดด...อ๊าย >///< ไค!! ไคโอปป้า ร้องอีกเพลงได้ไหมค่ะ เอาอีกๆ อีกเพลงๆ อีกเพลงๆ "

เสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังสนั่นฮออล์เมื่อนักน้องขวัญใจของตนร้องเพลงสุดท้ายจบ

"ขอบคุณครับ ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมสนุกกันวันนี้ และขอบคุณที่อยู่ข้างๆผม คอยให้กำลังใจ คอยสนับสนุนกันตั้งแต่วันแรก

เพลงแรก และอัลบั้มแรก ไม่ว่าจะที่ไปไหน เวลาใดผมก็มองเห็นพวกคุณอยู่ข้างๆกันตลอดเวลา ถึงตอนนี้เราจะต้องต่างคนต่าง

กลับบ้านแยกย้ายกันไป แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเวลาของพวกเราจะหมดไปนะครับ" ร่างสูงที่ยืนบนเวทีขนาดเล็กพูดขึ้น

เมื่อร้องเพลงสุดท้ายของงานนี้จบลง แต่เมื่อหมดเวลาที่กำหนดบรรดาแฟนคลับทั้งหลายกลับไม่ยอมที่จะแยกย้ายกันไป

"แต่พวกเรายังไม่อยากกลับนี่ค่ะ พวกเรายังอยากอยู่กับไคโอปป้าต่ออีก / ใช่ๆ" แฟนคลับสาววัยมัธยมคนนึงพูดขึ้นเพราะเธออยู่

ข้างหน้าเวทีเลยทำให้ไคได้ยินอย่างชัดเจน พอเธอพูดจบคนอื่นๆก็เห็นดีด้วย

"แต่ตอนนี้มันหมดเวลาที่เราตกลงกับเจ้าของสถานที่กันแล้วนะครับ เอาอย่านี้ดีกว่า พวกคุณก็คิดซะว่าให้เวลาผมไปเตรียมซ้อม

เพลงใหม่ เพราะว่าถ้าผมพร้อมและดีพอแล้ว เผื่อบางทีทางบริษัทจะเลื่อนกำหนดการคัมแบ็คของผมได้เร็วกว่าเดิมก็ได้

เราจะได้เจอกันเร็วกว่าเดิมอย่างนี้ไหมครับ" ไคพยายามที่จะต่อลองกับแฟนคลับตัวเอง

"ก็ได้ค่ะ แต่ไคโอปป้าต้องอยู่ส่งพวกเราก่อนนะค่ะ//ใช่ๆ" แฟนคลับสาวอีกคนเรียกร้องขึ้นอีกครั้ง

"ได้ซิครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอมอบเพลงพิเศษอีกหนึ่งเพลงให้พวกคุณที่เป็นคนพิเศษของผม ผมจะยืนส่งพวกคุณอยู่ตรงนี้จนกว่า

จะจบเพลง และเมื่อเพลงจบแล้วผมก็จะกลับทันที พวกเราจะได้กลับพร้อมกันไงครับ กลับบ้านกันโดยสวัสดีภาพนะครับ"

พูดจบไคก็ร้องเพลงขึ้นอีกเพลงทันทีเพื่อเป็นการส่งแฟนคลับของตน

 

 

 

แสงไฟที่ส่องแสง ท่ามกลางสายตาของฝูงชน
พวกคุณที่โบกแท่งไฟให้ผม
มือ(ของคุณ)เมื่อยไหม? พักหน่อยเถอะ
ความรักของพวกคุณต่อผม มากมายน่าจดจำ
การเคลื่อนไหวที่หลากหลาย สีสันเสื้อผ้าที่สวยงามไม่สามารถเปรีบเทียบได้
ใบหน้าหัวเราะที่มีความสุขของคุณ
มันยากที่จะพูดความเงียบที่ผมต้องเสียไป
บอกผม ว่าผมมีค่าพอที่พวกคุณปกป้องผม
เพราะความรักของคุณ (ทำให้ผมโบยบินในวันพรุ่งนี้ได้)
เพราะเสียงหัวเราะของคุณ (ให้ผมเห็นมันตลอดไป)
ไม่รู้ว่าจะสามารถบินได้สูงแค่ไหน ได้ไกลแค่ไหน ..โฮ้ว..
เพราะว่าความรักของคุณ (ทำให้ผมไม่รู้จักความเหนื่อย)
เพราะรอยยิ้มของคุณ (ทำให้ผมไม่กลัวอะไรทั้งนั้น)
พวกคุณอยู่ในใจ อยู่กลางใจของผม
เพราะความรักของคุณ (ทำให้ผมโบยบินในวันพรุ่งนี้ได้)
เพราะเสียงหัวเราะของคุณ (ให้ผมเห็นมันตลอดไป)
ไม่รู้ว่าจะสามารถบินได้สูงแค่ไหน ได้ไกลแค่ไหน ..โฮ้ว..
เพราะความรักของคุณ (ทำให้ผมพยายามที่จะไม่ร้องไห้)
เพราะรอยยิ้มของพวกคุณ (ผมจึงสามารถวาดภาพที่สวยงามได้)
พวกคุณอยู่ในใจ อยู่กลางใจของผม
พวกคุณจะเป็นทุกอย่างสำหรับผมตลอดไป(ชั่วนิรันดร)

## EXO (Lay ft. Luhan) - Because Of You {เป็นเพลงที่เลย์แต่งให้แฟนคลับค่ะ}

 

 

 

 

จงอินร้องเพลงพลางโบกมือลาไปด้วย ทันทีที่ดนตรีดังขึ้นแฟนคลับทุกคนก็เริ่มทยอยเดินออกไปทันทีแต่ที่น่าแปลกใจคือ

แฟนคลับทุกคนเดินถอยหลังและโบกมือตอบกลับจงอินทุกคน

"ว่ายังไงเหนื่อยไหมคุณนักร้องสุดฮอต แฟนคลับของนายนี่เหลือเชื่อจริงๆ พี่แทบไม่เชื่อตาตัวเองเลยนะที่เห็นพวกแฟนคลับ

เดินถอยหลังกลับทุกคนอย่างนั้น" มินซอกทักขึ้นเมื่อจงอินเข้ามานั่งในรถพร้อมที่จะกลับไปพักผ่อนแล้ว

"ก็นิดหน่อยครับพี่ พี่ช่วยไปส่งผมที่ Indy cafe' หน่อยสิครับ" ผมบอกจุดหมายที่จะไปกับพี่มินซอกทันที เพราะตารางงานของ

ผมวันนี้มีแค่งานแฟนมิตติ้งกับแฟนคลับเท่านั้นและไม่มีตารางซ้อมต่อด้วย จะถือว่าช่วงนี้เป็นช่วงพักของผมก็ว่าได้ หลังจาก

ที่ทำงานเกือบยี่สิบชั่วโมงในหนึ่งวันตลอดระยะเวลาสามปีกว่าๆที่ผมได้เป็นศิลปินเต็มตัว และที่จริงผมก็ยังไม่มีคิวที่จะคัมแบ็ค

หรอกครับ แต่ผมต้องหลอกแฟนคลับไปแบบนั้นก็เพราะว่าทางบริษัทได้เช่าสถานที่ไว้ในเวลาแค่นั้นจริงๆ นี่ผมก็กะว่าจะขอ

หยุดพักร้อนกับท่านประธานเพื่อที่จะได้ใช้เวลาพักผ่อนพาเซฮุนกับจีซองไปเที่ยวบ้างจีซองคงจะชอบ และหลังจากนี้ไปผมว่า

จะรับงานให้น้อยลงและเลือกรับแต่งานที่ทำให้ผมได้มีเวลาอยู่กับเซฮุนและจีซอง ส่วนเรื่องเงินก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับผม

เพราะเท่าที่มีอยู่จากจากที่ผมโหมรับงานมากตลอดจนแทบไม่มีเวลานอน ต่อให้ผมใช้ทิ้งใช้คว้างมันก็ไม่หมดง่ายๆหรอก

แต่ผมไม่ใช่คนอย่างนั้นซะด้วยสิ ยังไงผมก็มีปัญญาเลี้ยงลูกเมียไปตลอดชีวิตอยู่แล้ว ขอให้ผมได้มีความสุขบ้างเถอะ

"แหมๆ พ่อคนรักครอบครัว พอเจอลูกเจอเมียแล้วนิไม่ปล่อยให้ห่างเลยนะ" พี่มินซอกแซวผมอีกแล้ว คิดว่าจะอายหรอ

จงอินคนนี้บอกเลยว่าไม่ ฮ่าๆ ผมสืบมาหมดแล้วเหละครับว่าเซฮุนเปิดร้านอยู่ที่ไหนทำอะไรบ้าง

"พี่ก็ ให้ผมได้ทำหน้าที่พ่อที่ดีบ้างเถอะครับ แค่นี้ผมก็รู้สึกผิดจะแย่ที่ปล่อยให้พวกเค้าอยู่กันตามลำพังมาตั้งนาน"

"เรื่องที่มันผ่านมาก็ช่างมันเถอะ เอ้า!!ถึงแล้ว ระวังตัวด้วยนะไค พวกนักข่าวตาหูไว ถ้ามีอะไรก็โทรหาพี่เลยนะ"

"ขอบคุณครับพี่ แล้วผมจะระวังตัว พี่ก็กลับไปพักผ่อนให้สบายเถอะครับพี่เหนื่อยกับผมมามากแล้ว" อ้า!! ถึงแล้วครับ

Indy cafe' ร้านของเซฮุน ตกแต่งได้สมกับเป็นเซฮุนจริงๆทั้งๆที่ใกล้กลับบริษัทแท้ๆผมกับไม่เคยได้สังเกตุเลย

 
........................................................................


  กรุ๊งกริ๊ง กรุ๊งกริ๊ง

"อิงลี่ คาเฟ่ ยิงดีต้องรับฮับ คุงอาจะรับอะไรดีฮับ เดี๋ยวจีซองจะไปบอกหม่าม๊าให้เอง" ฮ่าๆ ลูกชายผมขนาดชื่อร้านยังพูดไม่ชัดเลย

แต่ผมก็อดภูมิใจไม่ได้เพราะตั้งแต่ที่ผมมองเข้ามาจากข้างนอกร้านก็เห็นจีซองนั่งจ้องประตูอยู่ พอผมเดินเข้ามาจีซองก็รีบวิ่ง

มาต้อนรับทันทีเลย ขยันจริงๆเลยลูกชายผมตัวแค่นี้รู้จักช่วยหม่าม๊าแล้ว

"มารับลูกชายครับ" ผมย่อตัวบอกกลับไป

"คนไหนหรอฮับ เดี๋ยวจีซองจะไปตามให้" ฮึๆ คงเป็นเพราะว่าผมใส่หมากและสวมฮู้ดคลุมทับอีกทีเลยทำให้จีซองจำผมไม่ได้

"คนนี้ไงครับ!! ป๊ะป๋ามาหาจีซองแล้ว" ผมบอกและดึงฮู้ดลงนิดหน่อยแค่พอให้จีซองได้เห็นเท่านั้น

"ป๊ะป๋า!!!! ป๊ะป๋ามาแล้ว เย้!!! เย้ๆ" จีซองตะโกนเสียงดังและกระโดดกอดผมด้วยความดีใจ จนคนทั้งร้านหันมามอง

ดีนะที่ผมดึงฮู้ดขึ้นปิดไว้เหมือนเดิมทัน

"จีซองเสียงดังอะไรลูกรบกวนลูกค้าหม่าม๊าหมดแล้วนะ อ่า....อ่าวจงอิน มาได้ไงเนี่ยรีบขึ้นไปอยู่บนห้องกันก่อนเลยนะทั้ง

สองคนพ่อลูกเลย  จีซองครับพาป๊ะป๋าไปนั่งเล่นรอหม่าม๊าข้างบนห้องก่อนนะลูกเดี๋ยวหม่าม๊าตามเอาเค้กขึ้นไปให้" เซฮุน

ก็คงตกใจเหมือนกันที่เห็นผม แต่อาจจะเป็นเพราะว่าจีซองตะโกนเสียงดังก่อนหน้านี้ทำให้ลูกค้าในร้านยังสนใจพวกเราอยู่

จนเซฮุนต้องเดินไปขอโทษ และจีซองก็พาผมขึ้นมาชั้นบนของร้านดูเหมือนว่าห้องนี้จะเอาไว้ให้เจ้าตัวแสบไว้นอนกลางวัน

เพราะมีทั้งเตียงนอนขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยตุ๊กตาและของเล่น

"ป๊ะป๋า จะมาอยู่กับจีซองแล้วใช่ไหมครับ" จีซองพาผมมานั่งที่เตียงและถามผมขึ้น

"ครับ แต่เราต้องช่วยกันคุยกับคุณตา ให้คุณตาอนุญาติก่อนเราถึงจะอยู่ด้วยกันได้" ผมถอดฮู้ดที่ใส่คลุมมาออกก่อนที่จะตอบ

"ว่างยังไงครับสองพ่อลูกทำอะไรกันอยู่" เซฮุนเดินเข้ามาพร้อมกับของว่างและเครื่องดื่ม

"อ๊า!! เค้กสตอเบอร์รี่!!!! ลูกอยากินๆ" ยังไม่ทันที่เซฮุนจะได้วางถาดที่ถือมาลงลูกชายผมก็ไปกระโดดแหย่งๆร้องจะกินเค้ก

ตรงหน้าหม่าม๊าเค้าแล้ว

"หยุดก่อนเลยจีซอง!! หม่าม๊าจำได้ว่าก่อนขึ้นมาลูกพึ่งจะกินไอติมสตอเบอร์รี่มาสองถ้วยเลยนะ ยังจะกินเค้กต่ออีกหรอ"

"กินฮับ ลูกแค่กินไอติมไปแค่อย่างเดียวเอง ลูกยังไม่ได้กินเค้กเลย มันไม่ครบเลยน้าา..หม่าม๊า  แล้วลูกก็ยังไม่อิ่มเลยด้วย

เดี๋ยวคุงเสือในพุงลูกก็ร้องโครก โครก จนเสียงดังอีก" เจ้าตัวพูดไปก็ลูบพุงน้อยๆของตัวเองไป

"จะกินก็กินครับ แต่จีซองต้องแบ่งกับป๊ะป๋าด้วยนะห้ามกินคนเดียว ถ้ากินมากๆแล้วอ้วนจนไม่หล่อขึ้นมาอย่ามาโทษหม่าม๊า

นะเจ้าลูกหมู" เซฮุนพูดบอก แล้วก็แกล้งฟัดพุงจีซองเล่น ตอนแรกผมฟังก็คิดว่าเซฮุนจะดุลูกจริงๆที่ไหนได้ดันตามใจกันซะงั้น

แต่อย่างว่าแหละครับลูกชายผมน่ารักขนาดนี้ใครจะดุลง

"ว่าแต่นายมาได้ยังไงจงอิน ไม่ทำงานหรอ" เล่นกับลูกเสร็จเซฮุนก็หันมาถามผมบ้าง ส่วนลูกชายผมน่ะหรอ โดนมนต์สะกด

เค้กของหม่าม๊าจนลืมป๊ะป๋าอย่างผมไปแล้ว

"พี่มินซอกมาส่งฉันนะ แล้วงานของฉันก็หมดแล้วด้วย ช่วงนี้ฉันว่างน่ะ เราไปเที่ยวกันไหมเซฮุน ไปกันแบบครอบครัวไง

เรายังพึ่งจะได้เจอกัน แล้วตอนนี้ฉันก็ว่างด้วย มันเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้ไปเที่ยวด้วยกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตานะ"

ผมลากเซฮุนมานั่งด้วยกันที่เตียงและพูดในสิ่งที่ผมได้คิดเอาไว้แล้วให้เซฮุนฟัง อ่า! มือเซฮุนยังนุ่มเหมือนเดิมเลย

"ฉันก็อยากไปเหมือนกันนะ แล้วคุณพ่อล๊ะนายจะทำยังไง เรื่องของเรามันยังไม่เคลียร์เลยนะจงอิน" นั้นสินะปัญหาทั้งหมด

ตอนนี้ก็อยู่ที่ท่านประธานคุณพ่อตาคนเดียว ผมคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้วแหละก่อนที่จะปล่อยให้เสียเวลาในการอยู่

กับลูกกับเมียของผมไปมากกว่านี้

"ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอกเซฮุน วันนี้ฉันจะไปคยกับท่านประธานให้รู้เรื่อง" ว่าแต่ทำไมจีซองถึงนั่งก้มหน้าเงียบไปเลยหล่ะ

"ลูกเป็นอะไรรึป่าวเซฮุน" ผมถามเซฮุน

"ไม่หรอก จีซองครับ จีซองหันมาหาหม่าม๊าหน่อยลูก" เซฮุนเรียกจีซองเบาๆด้วยน้ำเสียงธรรมดาๆแต่เจ้าลูกชายผมกลับ

สะดุ้งตกใจ

"ฮับหม่าม๊า!!!"
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

"ฮ่าๆ/ฮึๆ" โอ๊ย!จีซองนะจีซองนิ่งซะจนป๊ะป๋าเป็นห่วงกลัวว่าจะเป็นอะไรไปแต่ที่ไหนได้  เจ้าตัวกลับตั้งหน้าตั้งตากินเค้กซะงั้น

"ฉันบอกนายแล้ว ว่าลูกไม่เป็นอะไรหรอก มีอยู่สองอย่างเท่านั้นแหละที่ลูกจะเงียบและอยู่เฉยๆได้ ก็คือตอนกินกับตอนนอน

จีซองน่ะเหมือนเอานายมาก๊อปปี้แล้วย่อส่วนเลย เหมือนกันไปซะทุกอย่าง ฉันเป็นแม่เป็นคนอุ้มท้องมาแท้ๆกลับไม่มีตรงไหน

เหมือนกับฉันเลย มันน่าน้อยใจนัก" เซฮุนพูดด้วยหน้าและเสียงงอลๆ มันน่ารักซะจนผมอดไม่ได้ที่จะกัดจมูกรั้นๆนั่นด้วย

ความมันเขี้ยว

"นี่! เล่นอะไรน่ะจงอิน มันเจ็บนะ" ฮึๆ เซฮุนดุผมเหมือนแมวขู่เลย ผมควรที่จะกลัวดีไหมเนี่ย

"อย่าน้อยใจไปเลยนะเซฮุน เอาไว้คนต่อไปฉันจะตั้งใจทำให้เค้าเหมือนนายเลย"

"คนต่อไปอะไรของนายกัน" เซฮุนยังคงงงกับคำพูดของผมอยู่

"ก็ลูกคนต่อไปน้องของจีซองไงคุณกระต่ายที่รัก" ผมโอบเอวเอามือลูบวนไปมาที่หน้าท้องแบนราบของเซฮุนและกระซิบ

ข้างหูของเซฮุนเบาๆจนเจ้าตัวขนลุกให้ผมเห็นเลย

"ทะลึ่ง!!แล้วนะจงอิน"

"โอ๊ย!! นายตีฉันทำไมเนี่ยเซฮุน ฉันพูดความจริงต่างหากทะลึ่งตรงไหนกัน" เขินรุนแรงจังเมียผมเขินจนหน้าแดง แถมยังมาตี

แขนผมอีกมือหนักชะมัด แต่ผมชอบจังตอนที่เซฮุนเขินจนทำตัวไม่ถูกอย่างนี้

"ป๊ะป๋าเป็นอะไรฮับ!! ร้องทำไม" โธ่..ขอบคุณที่ยังเป็นห่วงป๊ะป๋านะจีซองถึงแม้ว่าลูกจะวิ่งมาทั้งๆที่มีเค้กอยู่เต็มปากเต็มมือ

อยู่อย่างนั้น

"หม่าม๊าแกล้งป๊ะป๋า ตีป๊ะป๋าด้วยครับจีซอง" ผมแกล้งทำสีหน้าเจ็บปวดซะเต็มประดาให้ลูกเห็น

"จงอิน!! ไปบอกลูกอย่างนั้นได้ยังไง" เซฮุนดุและเผลอตีผมเบาๆเข้าอีกที

"นี่ไงๆ จีซองเห็นไหมลูกหม่าม๊าตีป๊ะป๋า จีซองช่วยป๊ะป๋าจัดการหม่าม๊าหน่อยลูก" ผมแกล้งทำสีหน้าให้เจ็บเข้าไปอีก

"ฮับ!! จีซองจะช่วยป๊ะป๋าจัดการหม่าม๊าเองงงง....หม่าม๊าต้องเจอพลังลูกหมูพิฆาต ย๊าห์ นี่แน่ะๆจี๋ๆจี๋ๆ" พูดจบก็ยัดเค้ก

ทั้งหมดที่อยู่ในมือใส่ปากตัวเองก่อนที่จะกระโดดปีนขึ้นไปนั่งทับท้องเซฮุไว้ แล้วก็ไล่จี๋เอว จี๋คอ ของเซฮุน

"ฮ่าๆ...หยุดนะจีซองหม่าม๊าจักกะจี้ คิกๆ จงอินช่วยฉันหน่อย เอาจีซองออกไปจากตัวฉันทีนายก็รู้ว่าฉันบ้าจี้ ฮ่าๆ"

คุณหม่าม๊ากระต่ายของผมมีแรงแค่นิดเดียวสู้เจ้าลูกหมูไม่ได้ซะแล้ว อย่างนี้ผมต้องช่วยซักหน่อย

"ได้ฉันจะช่วยนายเอง แต่ช่วยซ้ำนะ ฮ่าๆ"

"อ๊ากกก!!! จงอินนนนนน.....จีซองงงงง.....หยุดน้าาาาาา...." ฮึๆแบบนี้แหละครับเค้าถึงจะเรียกว่าความสุขที่แท้จริง

เพราะมีเซฮุนและจีซองเป็นครอบครัว มาคอยเติมเต็มให้กับผม ผมก็กลายเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลกแล้วแหละครับ

 

...

ต่อกันด้วยตอนที่11 กันเลย

ตอนนี้ก็เรื่อยๆเอื่อยๆกันไปก่อนนะคะ

ดีไม่ดียังไงก็ติชมกันได้นะคะ

เพราะทุกคอมเม้นต์คือกำลังใจของคนแต่ง

ฝากนิยายเรื่องนี้ด้วย ชอบก็บอกต่อ

มีพี่ มีน้อง มีเพื่อน มีหลานก็ชวนกันมาอ่านนะคะ......



ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
สามคน พ่อ แม่ ลูก เขาอยู่รวมกันแล้วอบอุ่นจริงๆ เลยน้าา~ :heaven

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
อยากให้มีความสุขแบบพ่อ แม่ ลูก แบบนี้เร็วจัง เมื่อไหร่พ่อตาจะใจอ่อนซักทีเนี่ย :hao5:

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 12     




 


HK Entertainment

 

'เข้าไม่ได้นะ!! ท่านประธานไม่อนุญาติให้ใครเข้าพบตอนนี้'

'ถอยไป เธออย่ามาขวางฉัน วันนี้ฉันจะคุยกับท่านประธานให้รู้เรื่อง' เพราะเสียงเอะอะโวยวายของเลขาสาวหน้าห้องนั้น

ทำให้ประธานโอต้องละสายตาจากงานเอกสารที่อยู่ในมือ ขมวดคิ้วเพราะความสงสัย แต่ยังไม่ทันไรประธานโอก็รู้สาเหตุ

ที่เลขาของเค้านั้นเอะอะโวยวายเสียงดัง พร้อมกับคนที่ถือวิสาสะเปิดประตูห้องทำงานของเค้าเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาติ

"ขอโทษค่ะท่าน!! ดิฉันห้ามเค้าแล้วนะคะ แต่เค้าไม่ยอมฟังดิฉันเลยค่ะ" เลขาสาวรีบบอกด้วยความลนลาน

"ไม่เป็นไร เธอไปทำงานของเธอเถอะ" ประธานโอบอกปัด ไม่ได้ใส่ใจกับอาการกลัวของเลขาสาว เพราะจุดประสงค์การมา

ของคนที่บุกรุกห้องทำงานเค้าโดยไม่ได้รับอนุญาติเช่นนี้ มันจะต้องทำให้เค้าปวดหัวอย่างแน่นอน

"สวัสดีครับท่านประธาน" สาเหตุที่วันนี้ผมต้องบุกถึงห้องทำงานส่วนตัวของคุณพ่อตาด้วยตัวเอง ตั้งแต่วันนั้นที่ท่านประธาน

รู้ถึงความสัมพันธ์ของผมกับเซฮุน ผมก็พยายามขอเข้าพบท่านทุกวันแต่ผลที่ได้คือการปฏิเสธ ไปรอพบที่บ้านก็ไม่เคยเจอเลย

จนมาถึงวันนี้ก็ปาเข้าไปอาทิตย์นึงแล้ว ผมรอแล้วรออีกจนหมดความอดทน

"นายมาทำไม ไค" ท่านประธานถามผมเสียงเรียบ

"ผมจะมาขอลาพักร้อนครับ" ผมบอกจุดประสงค์ที่ผมมาวันนี้ แต่ไม่ใช่สาเหตุทั้งหมดหรอกครับเนี่ยแค่ส่วนย่อย

"ลาทำไม ช่วงนี้มันช่วงเก็บตัวของนายนิ ก็เหมือนวันหยุดอยู่แล้ว แล้วนายยังจะขอพักร้อนทำไม"

"เพราะผมต้องการความแน่นอนครับ ว่าผมจะไม่มีงานระหว่างที่ผมกำลังให้เวลาเที่ยวกับครอบครัว"

"ครอบครัว?? นายจะไปกับใคร ในเมื่อพ่อแม่พี่น้องของนายเสียไปหมดแล้ว" ท่านถามผมด้วยความฉงน

"จีซองกับเซฮุน ที่เป็นลูกเป็นภรรยาผมไงครับท่าน" ผมตอบด้วยรอยยิ้ม แต่เหมือนกับว่าท่านจะไม่ยินดีไปกับผมด้วยเลย

     ปึง!!!!

"ลูกชายกับหลานฉันไปเป็นลูกเมียนายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน อย่ามาพูดพล่อยๆอย่างนี้" ท่านประธานตบโต๊ะเสียงดัง ด้วยท่าทีขึงขัง

"ผมพูดอะไรผิดตรงไหนครับท่าน ในเมื่อจีซองกับเซฮุนเป็นลูกและภรรยาของผมจริงๆ" ผมตอบกลับอย่างไม่เกรงกลัว ในเมื่อ

สิ่งที่ผมพูดบอกออกไปมันคือเรื่องจริงทั้งนั้น

"จะเป็นได้ยังไง!!! ในเมื่อฉันยังไม่ยอมรับนาย" คราวนี้ท่านลุกตะโกนใส่หน้าผมเลย

"ถ้าเป็นอย่างนั้น ผมจะต้องทำยังไง ท่านถึงจะยอมรับในตัวผมและเปิดโอกาสให้ผมได้ทำหน้าที่สามีและพ่อที่ดี ดูแล

เซฮุนกับจีซองบ้างหล่ะครับ" ผมลุกขึ้นยืน ถามด้วยเสียงที่ดังไม่แพ้กัน

"โอกาสอะไรของนายมันไม่มีทั้งนั้นแหละ ลูกกับหลานแค่สองคนฉันมีปัญญาเลี้ยงไม่ต้องให้คนอื่นมาดูแลหรอก" ท่านประธาน

มองหน้าผมด้วยสายตาเหยียดๆ แต่นั้นมันยังไม่ทำให้ผมรู้สึกแย่เท่ากับคำว่า 'คนอื่น' ที่ท่านจงใจพูดออกมาหรอก

"ถ้าผมขอกับท่านดีๆท่านยังยืนยันที่จะไม่ยอม ผมก็คงต้องขอโอกาสจากคนทั้งประเทศ เอ๊ะ! หรือว่าทั้งโลกดีครับท่านประธาน"

ในเมื่อผมขออนุญาติดีๆยังแล้วไม่ยอมรับ ก็คงต้องบังคับกันทางอ้อมบ้างแหละครับ เพราะผมคงจะไม่ปล่อยให้เรื่องราวมัน

คาราคาซัง ยื้ดเยื้อต่อไปเรื่อยๆหรอกครับ ลูกเมียผมต้องการผมพอๆกับผมที่ต้องการพวกเค้าเหมือนกัน ทุกๆครั้งที่ผมแวะเข้า

ไปหาเซฮุนไปเล่นกับจีซองที่ Indy cafe' ตอนขากลับเวลาแยกจากกันทีไรจีซองก็จะร้องไห้สะอึกสะอื้น พยายามดิ้นออกจาก

อ้อมแขนของเซฮุนและวิ่งตามผมทุกที หัวอกคนเป็นพ่ออย่างผมมันรู้สึกแย่และเจ็บปวดทุกครั้ง ถึงแม้ว่าเราพึ่งจะพบเจอกัน

ได้ไม่นาน แต่มันคงเป็นเพราะสายสัมพันธ์ความเป็นพ่อลูกที่ทำให้เราผูกพันมากขึ้นทุกวัน จบผมพูดได้เต็มปากเต็มคำเลย

ว่าผมรักลูกชายของผมมากจริงๆ

"นายคิดจะทำอะไรห๊ะไค!!!!" ท่านประธานถามด้วยเสียงกระโชก

"ก็ทำในสิ่งที่ถูกต้องที่ควรจะเป็น โดยใช้ในสิ่งที่ผมมีอยู่ให้เป็นประโยชน์ไงหล่ะครับ"

"นี่นายขู่ฉันหรอ!!! คนอย่างนายมันเลี้ยงไม่เชื่อง ไม่รู้จักสำนึกบุญคุณ ฉันเป็นคนสร้างนายมาแท้ๆ"

"ไม่เลยครับท่าน ผมสำนึกมาตลอดว่าที่ผมมีเชื่อเสียงมาได้อย่างทุกวันนี้ก็เพราะท่าน ท่านคือผู้มีพระคุณของผมคือคนที่

ผมรักและเคารพมาตลอด ท่านอยากให้ผมทำอะไรผมก็ทำให้ท่านได้ทุกอย่าง แต่ผมขอท่านแค่อย่างเดียว ช่วยอนุญาติ

ให้ผมได้ดูแลเซฮุนกับจีซอง ให้พวกเราได้เป็นครอบครัวอยู่พร้อมกันพ่อแม่ลูกเถอะครับ ผมขอร้อง" ผมทิ้งตัวนั่งก้มหน้าคุกเข่า

ตรงหน้าท่านประธาน ยอมทิ้งแม้กระทั้งศักดิ์ศรีลูกผู้ชายที่ผมรักนักรักหนา แต่เพื่อเซฮุนกับลูกแล้วต่อให้มากกว่านี้ผมก็ยอม

"นายคิดว่าทำแบบนี้แล้วฉันจะยอมนายง่ายๆอย่างนั้นหรอไค" ท่านประธานก้าวเดินเข้ามาถามใกล้ๆผม

"ผมไม่คิดว่าท่านจะเห็นใจผมหรอกครับ แต่แค่ผมอยากให้ท่านเมตตา อย่างน้อยก็ขอให้ท่านได้นึกถึงความรู้สึกของเซฮุน

หรือท่านจะคิดซะว่าทำเพื่อจีซองก็ได้ครับ ไม่ใช่แค่ผมที่ต้องการพวกเค้า พวกเค้าก็ต้องการผมเหมือนกัน จีซองต้องการพ่อ

ต้องการความรักความอบอุ่นจากครอบครัวที่สมบูรณ์นะครับท่าน ได้โปรด ให้โอกาสผมเถอะครับ" ผมเงยหน้าตอบ และ

สบตากับท่านประทานด้วยความมั่นคงแสดงให้เห็นว่าผมจริงจัง ก่อนที่จะก้มต่ำจนศีรษะจรดพื้น

"ลุกขึ้นไค ยืนขึ้น ฉันบอกให้นายลุกขึ้นยืน!!!" ท่านประธานตะคอกเสียงดัง เมื่อเห็นว่าผมยังนั่งก้มหน้าอยู่เหมือนเดิม

ก่อนที่จะเดินเข้ามากระชากให้ผมลุกขึ้นยืน

   ผัวะ!!!!!

"ฉันอนุมัติการลาพักร้อนของนายสองเดือนไค นายจะพาลูกเมียนาย ไปอยู่ด้วยหรือไปเที่ยวที่ไหนก็ตามใจ

ถ้าหมดธุระของนายแล้วก็เชิญ ฉันจะได้ทำงานต่อสักที" ยังไม่ทันที่ผมจะได้ตั้งตัวท่านประธานก็ต่อยเข้ามาซะเต็มแรง

เล่นซะผมเสียสูญจนเกือยล้มเลย แต่นั้นไม่ใช่ประเด็นหรอกครับเจ็บแค่นี้สำหรับผมถือว่าเล็กน้อยมาก  ถ้าแลกกับสิ่งที่

ท่านประธานพูดออกมาเมื่อสักครู่

"ท่านหมายความว่า ท่านอนุญาติให้เซฮุนกับจีซองมาอยู่กับผมแล้วหรอครับ" ผมถามด้วยความดีใจ

"พูดมาก ออกไปได้แล้วฉันจะทำงาน" ท่านไม่ตอบผม แต่เดินกลับไปนั่งที่แล้วก้มหน้าทำงานต่อโดยไม่สนใจผมอีก

"ขอบคุณครับ ขอบคุณครับท่าน ขอบคุณจริงๆครับท่านประธาน" ผมโค้งตัวแล้วโค้งตัวอีกเพื่อเป็นการขอบคุณ ฮึๆ ฮ่าๆ

ผมดีใจจริงๆ โอ๊ย!! ผมไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกนี้ออกมายังไงดี  อ๊ากกกก!!!! คิมจงอินคนนี้จะได้อยู่กับเมียกับลูกแล้วครับ

พี่น้องงงงงงงงงงงงง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!   ฮู้ว!!!!!!

 


บ้านตระกูลโอ

 

      Tru.....Tru.....Tru

เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงนอนดังขึ้นอย่างต่อเนื่องปลุกจีซองที่หมดฤทธิ์นอนหลับพักเติมพลัง

อยู่ในห้องนอนคนเดียวเพราะเพลียจากการเล่นซนที่โรงเรียน ต้องงัวเงียตื่นขึ้นทั้งๆที่ยังนอนไม่เต็มอิ่ม

"งื้อ!!" จีซองดิ้นบิดตัวไปมาอย่างหงุดแต่เสียงของโทรศัพท์ก็ไม่ยอมหยุดสักที ทนไม่ไหวจนต้องค่อยๆกลิ้งไปตามความกว้าง

ของที่นอนไป เพื่อที่จะดูโทรศัพท์ของเซฮุน

"อุ๊ต๊ะ!! ป๊ะป๋า!!!!" พอเห็นรูปบนหน้าจอของสายเรียก ก็ทำให้ตื่นเต็มตาทันที ปากน้อยๆที่ยู่ด้วยความหงุดหงิดเมื่อครู่

ก็กลายเป็นรอยยิ้มกว้างจนตาหยี

"ป๊ะป๋า!!!!" จีซองกรอกเสียงใสรับสายอย่าง ดังจนคนปลายสายยกโทรศัพท์ออกจากหูแทบไม่ทัน

(/ฮึ ฮึ เสียงดีจังเลยครับลูกชาย ทำอะไรอยู่ แล้วหม่าม๊าไปไหนครับ/) เพราะเสียงดีใจของจีซองทำให้จงอินต้องกลั้นขำ

ก่อนที่จะพูดถามกลับไป

"ลูกนอนเติมพลังอยู่บนห้อง แต่หม่าม๊าอยู่ข้างล่างฮับ"

(/ถ้าอย่างนั้นจีซองไปบอกหม่าม๊าด้วยนะว่าป๊ะป๋าจะเข้าไปหา ได้ไหมครับลูกชาย/)

"ป๊ะป๋าจะมาหาลูกหรอฮับ!!!"

(/อีกซักพักป๊ะป๋าจะไปหาจีซองกับหม่าม๊า แต่ตอนนี้ป๊ะป๋าต้องไปทำธุระก่อนครับ/)

"ป๊ะป๋ามาเร็วๆน้าาาาา....ลูกจะรอ"

(/อย่าลืมไปบอกหม่าม๊านะจีซอง แล้วเจอกันนะครับลูกชาย/)

"หม่าม๊า!!!!!!!!!!!!!!" เมื่อวางสายจาจงอินแล้วจีซองก็หายง่วงเป็นปลิดทิ้ง รีบวิ่งลงมาหาเซฮุนข้างล่าง

"ไอ่ลูกหมูอย่าวิ่งลงบันได เดี๋ยวก็กลิ้งตกลงมาจนเจ็บตัวหรอก แล้วนี่เราจะแหกปากทำไมหึ หลานรัก" จุนมยอนที่พึ่งทำงาน

เสร็จกลับมาจากบริษัท พูดเตือนเมื่อเดินเข้ามาบ้านแล้วเห็นว่าจีซองวิ่งลงบันไดมาจากชั้นบนด้วยขาสั้นๆของตัวเอง

"หลานจะหาหม่าม๊า หม่าม๊าฮับอยู่ไหนนนนน!!!!!" จีซองตอบจุนมยอนก่อนที่ จะตะโกนเรียกหาเซฮุนต่อ

"อย่าเสียงดังสิจีซอง มันไม่น่ารักเลยนะ" เซฮุนชะโงกหน้าออกมาจากห้องอาหารเพราะกำลังจัดเตรียมมื้อเย็นอยู่พูดดุจีซองขึ้น

"ขอโทษฮะ ก็ลูกดีใจ"

"ดีใจอะไรครับลูกถึงต้องเสียงดังขนาดนั้น"

"ป๊ะป๋าจะมาหาฮับ"

"หืม ที่บ้านเนี่ยหรอ แล้วลูกรู้ได้ยังไงครับ" เซฮุนถามด้วยความแปลกใจเพราะจงอินบอกไว้ว่าวันนี้ต้องไปทำธุระเลยจะไม่มาหา

"ป๊ะป๋าโทรมาที่โทรศัพท์หม่าม๊าฮับ แล้วให้ลูกมาบอกหม่าม๊า"

"ถ้าอย่างนั้นลูกไปนั่งเล่นรอหม่าม๊าก่อนนะครับ หม่าม๊ายังเตรียมมื้อเย็นไม่เสร็จ"

"ฮับป๋ม!!" จีซองทำตัวตรงตะเบ๊ะเหมือนทหารอย่างทะเล้นจนเซฮุนหลุดขำ

 



 

ในขณะที่ทุกคนในบ้านกระกูลโอนั่งทานมื้อเย็นกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตานั้นก็มีเสียงรถยนต์แล่นเข้ามาในบ้านทำให้

ทุกคนหยุดทานและมองหน้ากันด้วยความสงสัยว่าใครที่มาในเวลานี้ ยกเว้นก็แต่จีซองและเซฮุนเพราะรู้ดีว่าใครมา

"ป๊ะป๋า!!!!!!" จีซองทิ้งช้อนที่กำลังตักข้าวเข้าปาก และรีบวิ่งออกไปหน้าบ้านทันที

"เมื้อกี้จีซองบอกว่าใครมานะ" ประธานโอหันมาถามเซฮุนด้วยเสียงเรียบ

"ผมเองครับท่านประธาน สวัสดีตอนเย็นครับทุกคน" ยังไม่ทันที่เซฮุนจะบอก จงอินก็อุ้มจีซองเดินยิ้มเข้ามาในห้องอาหาร

พร้อมกับโค้งตัวน้อยๆเป็นการทักทายสมาชิกในบ้าน

"อืม" ประธานโอรับคำเบาๆก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานมื้อเย็นต่อ ปฏิกิริยาการตอบสนองจงอินของประธานโอทำให้ทุกคน

ในบ้านตกใจอ้าปากค้างไปตามๆกัน

"พ่อครับ!! นี่ไคนะครับ ไคอ่ะไม่ใช่คนอื่น" จุนมยอนบอกย้ำอีกทีเพราะคิดว่าจะต้องมีอะไรผิดพลาดไปแน่ที่ประธานโอเห็น

จงอินแล้วยังนิ่งเฉยอยู่อย่างนี้ ไม่โวยวาย ไม่อาละวาดใส่

"ก็ไคนะสิ แกพูดอะไรของแกห๊ะจุนมยอน แกเป็นบ้าไปแล้วหรอ คุณผมอิ่มแล้วขอตัวก่อนนะ" ประธานโอทำหน้าเอือมใส่

จุนมยอนก่อนที่จะหันไปพูดบอกกับภรรยา และเดินออกจากห้องอาหารไป

"ปล่อยเค้าไปเถอะ นั่งก่อนสิไค อยู่ทานข้าวด้วยกันกับแม่ก่อนนะ" คุณนายคิมบอกกับจงอิน ก่อนที่จะหันไปสั่งแม่บ้าน

ให้จัดอาหารเพิ่มอีก

"โอ้บร๊ะเจ้า นี่มันเรื่องอะไรกัน แม่ครับบอกให้แม่บ้านเตรียมกักตุนอาหารไว้เลยครับ โลกแตกแน่ๆครับ เชื่อผมสิ

พ่อไม่โวยวายอะไรใส่ไคเลย" จุมยอนยังคงไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น

"ตาจุนมยอนนี่พูดอะไรเลอะเทอะจริงๆ อย่าไปสนใจเลยไค เรามาทานข้าวกันต่อเถอะ" คุณนายคิมเอ็ดใส่จุนมยอนอย่าง

ไม่จริงจัง ก่อนที่จะชวนทุกคนทานมื้อเย็นกันต่อ

"ผมพูดจริงๆนะครับแม่ แม่ก็ดูอาการของพ่อสิครับ!!!" จุนมยอนยังคงเถียงต่อ

"ไม่มีอะไรหรอกครับท่านรอง ผมเคลียร์กับท่านประธานเรียบร้อยแล้วครับ และท่านก็ยังให้โอกาสผมได้ดูแลเซฮุนกับจีซอง

ต่อจากนี้ไปอีกด้วยครับ" จงอินไขข้อข้องใจให้จุนมยอน ก่อที่จะหันมากุมมือเซฮุนจากใต้โต๊ะและบอกด้วยรอยยิ้ม

"จริงดิ!! เจ๋งว๊ะ!!ไอ้น้องเขย ต่อไปนี้นายก็เรียกฉันว่าพี่ได้แล้วนะสิ" จุนมยอนถามด้วยความตกใจอย่างไม่เชื่อหู

"นั่นสิ! ยังไงเราก็เป็นคนในครอบครัวเดียวกันแล้ว ไคก็เหมือนกับลูกชายแม่อีกคน ต่อไปนี้ก็เรียกแม่ว่าแม่นะลูก

ถ้ามีปัญหาอะไรก็ปรึกษาแม่ได้นะ" คุณนายคิมพูดบอกจงอินอย่าใจดี เธอดีใจที่สามีเธอเลิกทิฐิสักที

"ขอคุณมากครับ ผมก็อยากให้ทุกคนเรียกผมว่าจงอินเหมือนกันครับเพราะมันคือชื่อจริงๆผม ยังไงผมฝากตัวด้วยนะครับ"

"ยังไงคืนนี้ก็นอนค้างที่บ้านก่อนนะจงอิน แล้วจะทำยังไงต่อไปพรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีก" คุณนายคิมบอก

"ครับคุณแม่"



ห้องเซฮุน 

"เป็นอะไรปน่ะเซฮุน ทำไมถึงเงียบแบบนี้ นายไม่ดีใจหรอที่เราจะได้อยู้ด้วยกันพร้อมน่าพร้อมตาสามคนพ่อแม่ลูกสักที"

จงอินถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในห้องของเซฮุนสองคน หลังจากทานมื้อเย็นกันเรียบร้อย ส่วนจีซองขอไปเล่นกับคุณลุงก่อน

"ดีใจสิ ดีใจมากๆเลยหล่ะจงอิน ดีใจจนฉันไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมาดี" เซฮุนหันหน้ากลับไปพูดกับจงอินด้วยน้ำตาอาบ

สองแก้มด้วยความดีใจ

"โธ่...คุณกระต่ายทำเอาฉันใจไม่ดีเลย ฉันนึกว่านายจะไม่อยากอยู่กลับฉันแล้วซะอีก โอ๋ๆ ไม่เป็นไรนะ ไม่ร้องแล้ว

ดีใจก็ต้องยิ้มสิ เดี๋ยวลูกมาเห็น ก็หาว่าฉันแกล้งหม่าม๊าของเค้าหรอก" จงอินกอดปลอบลูบหลังเซฮุนอย่างโล่งใจ

"จะบ้าหรอ!! ฉันอยากจะอย่ากับนายมาตลอดนะจงอิน แต่ที่ฉันไม่ทำอะไรเลยก็เพราะว่าฉันไม่อยากจะขัดใจคุณพ่อ

ที่ผ่านมาฉันทำให้ท่านเสียใจมาตลอด" เซฮุนซบหน้าลงกับอกอุ่นของจงอินบอกด้วยเสียงเครือ

"ใครบอกว่านายไม่ทำหล่ะฮึ ที่ผ่านมานายทำเพื่อฉันมาตลอด แถมยังเลี้ยงดูลูกมาคนเดียวโดยที่ฉันไม่ได้ช่วยอะไรเลย

แค่นั้นมันก็มากพอแล้วนะ หลังจากนี้ให้เป็นหน้าที่ฉันดูแลนายกับลูกเอง ฉันรักนายนะคุณกระต่ายที่รักของฉัน"

จงอินก้มหน้าลงเล็กน้อย เพื่อกระซิบประโยคสุดท้ายด้วยเสียงแผ่วเบาแต่กลับชัดเจนในความรู้สึกของทั้งสองคน

"ฉันก็รักนายคุณหมี" เซฮุนสบตาบอกย้ำความรู้สึกที่ผ่านมาของตนให้จงอินได้รู้ ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีกี่เดือนหัวใจของทั้งคู่

ยังคงโหยหาอีกคนเสมอมา สายตาสองคู่ที่สะท้อนภาพกันและกันความรู้สึกที่ห่างหายไปนานเริ่มเรียกร้องให้ทำตามความ

ต้องการที่มันซ่อนลึกอยู่ข้างใน จงอินกระชับอ้อมแขนให้ตัวเซฮุนแนบให้ชิดเข้าไปอีก ลมหายใจอุ่นๆที่กระทบเปลือกตา

ของเซฮุน ยังไม่ทำให้ใจเต้นแรงเท่ากับริมฝีปากหนาที่แนบชิดและกดย้ำกับปากบางๆ ยิ่งได้สัมผัสยิ่งโหยหาความอ่อนโยน

แปลเปลี่ยนเป็นความร้อนแรงดุดันในชั่วพริบตา พาให้เลือดสูบฉีดทั้งร่างกาย  จงอินพาถอยหลังไปนั่งที่เตียงนอน

ริมฝีปากของทั้งคู่ยังคงไม่ยอมแยกห่างออกจากกัน  ดึงรั้งให้เซฮุนนั่งทับบนตักแกร่งรั้งเอวบางเข้ามาชิดตัว ร่างสูงถอนจูบ

อย่างอ้อยอิ่งจ้องมองดวงตาฉ่ำปรือของเซฮุนราวกับถูกมนสะกด

"ได้มัย?เซฮุน" จงอินถามด้วยเสียงพร่า เซฮุนทำได้เพียงพยักหน้าด้วยความเขินอาย  มือหนาสอดใต้เสื้อสัมผัสผิวนุ่มลื่น

บีบคั้นอย่าเพลิดเพลิน ลูบไล้ด้วยความปรารถนา จมูกโด่งคลอเคลียซุกซนอยู่กับซอกคอขาว ริมฝีปากหนาประทับลง

ปากบางด้วยความทะนุถนอม หลอกล้อเชิญชวนให้คล้อยตาม ความต้องการกำลังเพิ่มขึ้นจนไม่อาจหยุดยั้ง

      ปึง!!!!!

"ป๊ะป๋า!!!!! หม่าม๊า!!!! ลูกมาแล้ววววว......."

 

...

มาแล้วค่ะมีใครรอลูกหมูจีซองมั้งรึป่าว?

ป๊ะป๋าหมีทำสำเร็จแล้ว คุณตายอมแล้ว(??)

หวังว่าตอนนี้คงจะถูกใจใครหลายๆคนนะคะ

 

 

 

 

 

 

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
นี่ถ้าไม่บอกว่าน้องจีซองไปเล่นอยู่กับคุณลุง
จุนมยอนตั้งแต่ทีแรก เราก็คิดไปแล้วนะคะ
เนี่ยว่าเป็นความตั้งใจของคุณตาที่ปล่อยให้น้องจีซองเข้ามาขัดจังหวะคุณพ่อกับคุณแม่เขาสวีทกันแบบนี้น่ะค่ะ :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-06-2015 11:48:36 โดย Mouse2U »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด