-THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [แจ้งข่าวหน้า 56 ค่ะ] <14.03.16>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [แจ้งข่าวหน้า 56 ค่ะ] <14.03.16>  (อ่าน 707373 ครั้ง)

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [06-07] <22.05.15> page9
«ตอบ #300 เมื่อ23-05-2015 16:44:16 »

 :heaven :heaven :heaven :heaven

ออฟไลน์ barbiehateken

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [06-07] <22.05.15> page9
«ตอบ #301 เมื่อ23-05-2015 16:57:44 »

กรี๊ด มาสองตอนเบิ้ลลลล แปลว่าตอนใหม่ใกล้จะคลอดแล้วอะสิ  :hao7:

ชอบตอนยิ้มหวานจับผิดอะ  :ruready ดูแบ่บ.. นี่พยายามจะตามให้ทันหมอแล้วนะ
แต่ยิ้มหวานมันคนซื่ออออ

ชอบหมอตอนจะทิ้งบัตรประชาชนไว้ที่เพื่อนยิ้มหวาน 555555555555
ดูแบบ เอาสิ เอาเลย จริงใจที่สุดละนะ

ขำตรงเข่าหมอจะชนพวงมาลัย ยิ้มหวานไม่ไล่ให้หมอไปนั่งขับจากเบาะหลังไปเลย 555555

อันนี้ก็ชอบ 55555555555555555555
“แหวะอะไร เดี๋ยวเฮียแกก็เอากระบวยตักโจ๊กมาฟาดหรอก"
"เราไม่ได้แหวะโจ๊ก -- เราแหวะหมอนั่นแหละ"

เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆ มาไวๆนะ สู้นะ :katai2-1:

ออฟไลน์ qilarsy39

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [06-07] <22.05.15> page9
«ตอบ #302 เมื่อ23-05-2015 19:50:22 »

ยิ้มหวาน ยิ้มหวานนนน  :hao7:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [06-07] <22.05.15> page9
«ตอบ #303 เมื่อ23-05-2015 20:14:28 »

น่ารักเกิ้น

ออฟไลน์ rayjikung

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 120
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [06-07] <22.05.15> page9
«ตอบ #304 เมื่อ23-05-2015 21:51:35 »

ถึงไม่รู้ชื่อ แต่อิมเมจในหัวตอนนี้เป็นหมอแมนกับอินขาไปละอ่า  :z1:

ออฟไลน์ Takarajung_TK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 931
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-2
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [06-07] <22.05.15> page9
«ตอบ #305 เมื่อ23-05-2015 21:53:16 »

ชอบการนำเสนอของคนเขียนจัง
การที่ตัวละครแต่ละตัวไม่มีชื่อ ทำให้น่าสนใจดี
เวลาอ่านที่หมอหล่อไลน์คุยกับเพื่อนยิ่งตลก
อ่านแล้วมันใช่ฟิลเวลาคุยไลน์กับเพื่อนเลย
ชอบอ่ะ

ออฟไลน์ idemonize

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [06-07] <22.05.15> page9
«ตอบ #306 เมื่อ23-05-2015 21:54:28 »

มาต่อเร็วๆน้า   o13 o13 o13 o13

ออฟไลน์ ketekitty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [06-07] <22.05.15> page9
«ตอบ #307 เมื่อ23-05-2015 22:19:23 »

อ่านแล้วยิ้มแก้มแตกเลย น่ารักมาก :mew1:

ออฟไลน์ pannuna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 449
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [06-07] <22.05.15> page9
«ตอบ #308 เมื่อ24-05-2015 01:00:25 »

โอ้ยยยยยไม่มีชื่อก็ดีไปอีกอย่าง ตอนอ่านไม่รู้สึกขาดๆหายๆเลย แบบมีแต่ฉากเขินๆให้ลืมเรื่องชื่อไปเลยอ่ะ

ออฟไลน์ Misakiiz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [06-07] <22.05.15> page9
«ตอบ #309 เมื่อ24-05-2015 13:46:26 »

กรี๊ดดดด น่ารัก >///<
ทำไมเราเห็นภาพเป็นพี่อินกับพี่หมอแมนก็ไม่รู้ โอ๊ยยยย กำเดาจะไหล 5555
 :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [06-07] <22.05.15> page9
« ตอบ #309 เมื่อ: 24-05-2015 13:46:26 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ pimBNY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-3
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [06-07] <22.05.15> page9
«ตอบ #310 เมื่อ24-05-2015 13:51:50 »

 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
รอๆ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [06-07] <22.05.15> page9
«ตอบ #311 เมื่อ24-05-2015 13:53:55 »

 :jul3:โอ๊ยฟรุ้งฟริ้งกระดิ่งแมวมากค่า

ออฟไลน์ CheeRss

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [06-07] <22.05.15> page9
«ตอบ #312 เมื่อ24-05-2015 17:37:06 »

 :katai5: อรั๊ยย รอนะคะ จุ๊บๆๆ  :-[ ฟินนน อมยิ้มทุกตอนเลย   :m3:

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [06-07] <22.05.15> page9
«ตอบ #313 เมื่อ25-05-2015 01:31:28 »

 :o8:  มุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริง  ฉึกฉัก ฉึกฉัก ปู๊นๆ ดี๊ดี  :-[

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [06-07] <22.05.15> page9
«ตอบ #314 เมื่อ25-05-2015 02:25:42 »

งื้อออ น่ารักอ่ะ
เขิลแทนยิ้มหวาน

ออฟไลน์ dekeepstar

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [06-07] <22.05.15> page9
«ตอบ #315 เมื่อ25-05-2015 14:54:52 »

หลงรักเรื่องนี้แบบถอนตัวไม่ขึ้น
อ่านไปยิ้มไปอยู่คนเดียว
มันน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
น่ารักแบบธรรมชาติ
ขอบคุณนะคะ ที่แต่งเรื่องน่ารักๆอย่างนี้มาให้ได้อ่าน
: D

ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [06-07] <22.05.15> page9
«ตอบ #316 เมื่อ25-05-2015 16:55:40 »

หู้ยยยยยยยย
เขินแรงมากกกกกก
รู้สึกอยากโดนจีบบ้างอะไรบ้าง 55555555

 :-[

อ่านไปยิ้มไปทุกตอนเลยค่ะ ฮือออ มันน่ารักมาก
ยังยืนยันคำเดิมเหมือนกันว่าเราชอบที่นิยายเรื่องนี้ไม่มีชื่อตัวละครแหละ
เรารู้สึกว่ามันเป็นเสน่ห์ของเรื่องนี้เลยนะ :'))

ออฟไลน์ Maps

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [06-07] <22.05.15> page9
«ตอบ #317 เมื่อ25-05-2015 18:17:03 »

ตามยิ้มหวานมาถึงในเล้า
รักยิ้มหวานของหมอมากๆๆๆ

ออฟไลน์ spsygk

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 193
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [06-07] <22.05.15> page9
«ตอบ #318 เมื่อ25-05-2015 21:13:14 »

มาร๊ออออออออ :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ GlassesgirL

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1037
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-2
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [06-07] <22.05.15> page9
«ตอบ #319 เมื่อ26-05-2015 10:23:38 »

ตามอ่านทันแล้ว น่ารักมากๆ อ่านไปยิ้มไปตลอด
หมอแรกทำเป็นไม่สนใจแต่ในใจนี่นะ 5555
ยิ้มหวานน่ารัก ดูท่าทางจะเริ่มชอบหมอด้วยแล้วล่ะสิ
เขินตัวบิด ฟินตัวงอเลยค่ะ 5555 ชอบมากน่ารักมากค่ะ :impress2:
รอตอนต่อไปนะคะ

 :mew1: :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [06-07] <22.05.15> page9
« ตอบ #319 เมื่อ: 26-05-2015 10:23:38 »





ออฟไลน์ zabzebra

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1043
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-1
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [06-07] <22.05.15> page9
«ตอบ #320 เมื่อ26-05-2015 11:07:28 »

ตั่ลล๊าคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค
อยากมีแฟนเป็นเด็กถาปัตย์ หืดหาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ออฟไลน์ Gibbie Zuza

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [06-07] <22.05.15> page9
«ตอบ #321 เมื่อ26-05-2015 11:12:13 »

 :o8:ฟินกันไป

ออฟไลน์ EverGreen™

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-1
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [06-07] <22.05.15> page9
«ตอบ #322 เมื่อ26-05-2015 11:24:47 »

อิมเมจตัวละครที่แว้บมาในหัวคือหมอแมนกับอิน
 :-[
น้องสาวหมอชื่อมีน(ใช่มั้ย?)ด้วย เลยสมมติ(เอาเอง)ว่าหมอชื่อแมนละกัน :laugh:

ออฟไลน์ kipuuu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [06-07] <22.05.15> page9
«ตอบ #323 เมื่อ26-05-2015 12:55:39 »


ก่อนอ่านนิยาย เรามีเพลงมาฝาก เป็นเพลง ฝันรึเปล่า เวอร์ชั่นไลฟ์ค่ะ
กดตรงหัวใจเลย
[❤]




- 8 -

 


 
“เย็นนี้ว่างป่ะ"
 
คำถามของผมทำให้คนที่นั่งทำหน้าเครียดอยู่กับแม๊คบุ๊คแอร์ต้องเงยหน้าขึ้นมามอง
เขาขมวดคิ้ว ก่อนจะส่ายหน้าให้ผมเป็นคำตอบ
 
วันนี้เป็นวันเสาร์ - และเรานั่งกันอยู่ที่ร้านกาแฟตรงมุมเดิม
 
“ต้องไปงานวันเกิดเพื่อนม.ปลายอ่ะ มีไรเปล่า?”
 
เขาถามผมกลับ พร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบป็อกกี้คุ้กกี้แอนด์ครีมที่วางอยู่ใกล้ๆขึ้นมา
กินขนมอีกแล้วครับ -_-
 
“ไม่มีอะไรหรอก"
 
“อ่าว? ไม่มีอะไรแล้วถามทำไม?"
 
เขาถามพร้อมขมวดคิ้วใส่ผมนิดหน่อย
พอเห็นหน้าตาอย่างนั้นแล้วผมก็รู้สึกหมั่นเขี้ยวขึ้นมา เลยยื่นมือไปหยิบกล่องป๊อกกี้ของเขามาวางไว้ใกล้ๆตัวเอง แล้วยักคิ้วให้
 
“เย็นนี้ต้องไปซ้อมร้องเพลงอ่ะดิ นึกว่าว่างจะชวนไปด้วย"
 
“ร้องเพลง...อ๋อ!”
เขาพูดพลางทำหน้าเหมือนกำลังใช้ความคิด ก่อนจะยิ้มออกมานิดๆตอนที่นึกออก
 
“กับชมรมโฟล์คไง"
 
“อือๆ นึกออกละ"
 
คนตรงหน้าตอบออกมาสั้นๆ ก่อนจะพยายามหยิบป๊อกกี้ที่วางอยู่ข้างๆผมกลับไป
แต่พอเขายื่นมือออกมา ผมก็ดึงกล่องป๊อกกี้หนี แล้วมองสบตาพร้อมยักคิ้วให้คนที่นั่งทำหน้ามุ่ย
 
“เอามา -- จะกิน~”
 
“วันจันทร์ไปป่ะ?”
 
ผมถามพลางหยิบป๊อกกี้ออกมาอันนึง แล้วส่งไปให้ แต่พอเขายื่นมือออกมาจะรับ ผมก็ก่อนดึงมือหนี
นั่นทำให้คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าผมต้องทำหน้ามุ่ยเข้าไปใหญ่
 
“ไม่ไปแล้ว! เอาขนมเรามา~~"
 
“ไม่ไป ไม่คืนอ่ะ"
 
ผมพูดพลางหัวเราะออกมาเบาๆ ทนไม่ไหวแล้วว่ะ – น่ารักมาก!
 
“ซื้อใหม่ก็ได้!”
 
“อ่ะๆๆ"
 
ผมพูดพลางยื่นป็อกกี้อันที่ยังอยู่ในมือไปให้เขาตรงหน้า แต่พออีกฝ่ายยื่นมือมาเพื่อจะหยิบมันไป ผมก็ดันดึงมือหลบ ก่อนจะหยุดมือเอาไว้ตอนที่ขนมเจ้าปัญหานี่อยู่ใกล้ๆริมฝีปากของเขา ผมแตะเนื้อครีมรสนมลงไปที่ริมฝีปากของเขาเบาๆ
 
นั่นทำให้เขาทำหน้าบึ้ง ก่อนจะอ้าปากรับขนมไปคาบไว้ พร้อมกับยกมือข้างนึงขึ้นมาจับข้อมือผมไว้แน่น
ส่วนมืออีกข้างของเขาก็ชูนิ้วชี้กับนิ้วกลางขึ้นมา แล้วฟาดลงบนแขนผมดังเพี๊ยะ
 
ถามว่าเจ็บมั้ย – ก็แค่มีรอยแดงๆ 2 รอยคู่ขนานกันขึ้นมาผมแขนผมเลยอ่ะ
คิดดูดิ...
 
“นี่แน่ะ!! -- สมน้ำหน้า"
 
เขาพูดพลางเอาป๊อกกี้ที่แหว่งไปแล้วชี้หน้าผม ก่อนจะยื่นมือมาหยิบกล่องขนมของตัวเองกลับไป
แล้วกอดมันเอาไว้แน่นราวกับสมบัติล้ำค่า พร้อมกับส่งสายตาหวาดระแวงมาให้
ซึ่ง...น่ารักโคตร
 
“ตกลงวันจันทร์ไปนะ"
 
“ไม่ไป...”
 
“โถ่ ใบหน้างามๆไม่น่าใจดำเลยแก้วตา"
 
ผมแค่พูดออกมานะ ยังไม่ถึงขั้นร้องเป็นเพลง
ซึ่งผมได้เพลงนี้มาจากไอ้เบอร์ 1 ครับ อยู่ดีๆมันก็เอามาโพสหน้าวอล แล้วแทคเพื่อนเป็นสิบ
ผมเองก็เผลอกดฟังไปด้วย ฟังแค่รอบเดียว เล่นเอาติดหูไปซะอย่างนั้น
 
แต่ได้ผลด้วยว่ะ ริมฝีปากสีส้มอ่อนๆที่กำลังคว่ำลงหลุดยิ้มมุมปากตอนนิดหน่อยตอนที่ผมพูดเนื้อเพลงลูกทุ่งรุ่นเก่าออกมาอย่างหน้าตาเฉย จนผมต้องพูดต่อ
 
“ไม่ไปจะให้ประธานชมรมโฟล์คอุ้มมาผูกไว้กับเวที"
 
ไอ้ประธานชมรมโฟล์คนี่เป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนผมเองครับ แล้วก็เป็นรุ่นพี่คณะเขาด้วย
ความลับของทางราชการคือ – ไอ้รุ่นพี่คนนี้นี่แหละ ที่คอยตามสืบข่าวเรื่องของเขาให้ผมอยู่เรื่อยๆ
 
แล้วก็ไอ้ประธานคนนี้นี่แหละ ที่มันชวมผมไปช่วยร้องเพลงในคอนเสิร์ตของชมรม
 
ตอนแรกผมเหวอไปเลย กลัวจะเป็นงานใหญ่ แต่พอพี่มันบอกว่า เป็นแค่เวทีเล็กๆ ร้องกันตรงลานโล่งๆ จัดกันทุกปีอยู่แล้ว บรรยากาศแบบสบายๆ คล้ายๆที่ผมกับมันเคยร้องตอนม.ปลาย ผมก็เลยรับปากไป
 
แล้ว 1 อาทิตย์หลังจากนั้น รูปผมที่โดนเบลอหน้าก็ถูกโพสลงบนเพจของชมรม
พร้อมกับตัวหนังสือที่คาดผ่านกลางตัวเลยว่า...
เตรียมผมกับเซอร์ไพร์สแขกรับเชิญพิเศษ อะไรประมาณนี้แหละ...
 
ผมเห็นแล้วตกใจไปนิดหน่อย เพราะคอมเม้นท์ข้างล่างมีแต่คนรู้ว่าไอ้คนที่โดนเบลอนั่นคือผม
แล้วพอเอารูปมาถามคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกันตอนนี้ เจ้าตัวก็บอกว่า
เราเห็นรูปตั้งแต่เที่ยงแล้ว แค่สีผมกับจิวที่หูคนเค้าก็รู้หมดแล้วว่าเป็นใคร
 
ขนาดนั้นเลย?
 
“ถึงขั้นลักพาตัวเลยเหรอ? – ไปดิไป เพื่อนเราไปเยอะแยะ"
 
ในที่สุดเขาก็ยอมรับปากพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ผมจนตาหยี
โอย – ตาลาย...
 
นิสัยน่ารักแล้วยังใจดีอีก
แฟนในอนาคตใครวะเนี่ย?
 
ห้ามแย่งตอบนะเว้ย
ว่าที่แฟนผมเอง -_-
 
 
 
.
.
.
 
 
 
พอวันจริง ผมกลับรู้สึกเหมือนใครๆในม.ก็มารวมกันอยู่ตรงลานที่ใช้จัดคอนเสิร์ตหมดเลยครับ
ผมมาที่นี่ทันทีที่เลิกเรียน ก่อนจะไปเปลี่ยนชุดนิสิตเป็นเสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนส์สีเข้มพอกัน
แล้วก็เดินมานั่งลงตรงโต๊ะม้าหินเยื้องๆกับเวทีพร้อมไอ้เบอร์ 2 กับ ไอ้โคนัน ส่วนไอ้เบอร์ 1 มันเอารถไปวนหาที่จอดอยู่ครับ
 
“มึงเจอเฮียยัง?”
 
ผมถามหาไอ้รุ่นพี่ประธานชมรมจากไอ้เบอร์ 2 ที่นั่งรออยู่ตรงนี้ตอนที่ผมไปเปลี่ยนชุด กับไอ้โคนัน
 
“เมื่อกี้แวะมาแล้ว ดูยุ่งๆว่ะ เฮียบอกให้มึงนั่งรอเฉยๆตรงนี้แหละ หิวก็ไปกินข้าวก่อน ข้าวส่วนกลางก็มี เฮียบอกหยิบได้"
 
“เออๆ"
 
ผมรับคำ ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาแล้วไลน์หาใครบางคน
แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องเป็นเขา - ยิ้มหวานของผม
 
 
*มาถึงงานแล้วบอกด้วยดิ
 
 
แล้วตามด้วยสติ๊กเกอร์บราวขี่จักรยานตัวนึงครับ
 
เอาจริงๆป่ะ – ปกติผมไม่เคยส่งไอ้สติ๊กเกอร์พวกนี้เลยเว่ย
แต่เวลาไลน์ไปหาเขา ผมก็แค่ไม่อยากให้มันห้วนไป สุดท้ายเลยต้องส่งไอ้หมีนี่ปิดท้ายตลอด
 
พิมพ์ไปแค่นั้นแล้วก็ไม่เซ้าซี้ต่อครับ
เจ้าตัวเขาอ่านเมื่อไหร่เดี๋ยวคงตอบเอง
ผมหันมานั่งคุยกับไอ้พวกนี้สักพัก ก่อนที่มือถือจะดังเตือนว่ามีคนไลน์มา...
 
*อยู่หน้างานละ
*เพิ่งได้ที่จอดรถเนี่ย
 
*ครับผม
 
*เราแวะไปกินข้าวก่อนนะ
*กินไรยัง?
*ฝากเราซื้อมั้ย?


 
“พวกมึงจะกินไรป่ะ – ยิ้มหวานถาม เค้าจะซื้อมาให้"
 
ไอ้สามคนตรงหน้านี่ (รวมไอ้เบอร์1ที่เพิ่งจะเดินมา) มองหน้าผมด้วยสายตาหมั่นไส้ถึงขีดสุด ท่าทางดัดจริตจนผมเห็นแล้วยังเพลีย ก่อนจะพูดขึ้นมาพร้อมกันเสียงดังโคตรๆ
 
“ชีวิตดี๊ดี!!!"
 
ถามจริง พวกมึงไปแอบซ้อมบทกันลับหลังกูใช่มั้ย? -_-
 
"ดี๊ดีเหี้ยไร จะแดกไม่แดก?”
 
“ไม่ต้องก็ได้มึง พวกเราแม่งแดกเยอะชิบหาย เกรงใจเค้า"
 
“เออกูก็ว่า"
 
พอไอ้โคนันกับเบอร์ 2 ตอบมาอย่างนั้น ผมเลยพิมพ์ตอบเขาไป

 
*พวกนี้มันเกรงใจว่ะ
*ถ้าหิวคงออกไปซื้อกันเองแหละ

 
*อืม
*^ ^


 
พวกผมนั่งคุยไร้สาระทักคนโน้นคนนี้ไปเรื่อย จนกระทั่งอยู่ดีๆก็มีใครคนนึงตรงเข้ามาพร้อมรอยยิ้มตาสระอิ ที่ทำเอาหัวใจผมรู้สึกยุบยิบเหมือนถูกจั๊กกะจี้ขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ - ก็มีอยู่คนเดียวนั่นแหละ
 
“หวัดดี ^ ^”
 
ยิ้มทีนึงนี่ หลอดไฟในงานจะแตกเอาครับ
มันฆ่าตัวตายเพราะแพ้ความสว่างไสว
 
เออๆ – ปล่อยผมไปเหอะ -_-
 
ไอ้พวกเพื่อนๆผมนี่ก็ดูจะดี๊ด๊าโคตรที่เห็นเขาเดินตรงมาทางนี้ ยิ้มหวานมาคนเดียวด้วย เพื่อนไปไหนเนี่ย?
พอเขาเดินเข้ามาถึงที่โต๊ะ ผมเลยเห็นว่าเจ้าตัวถือของมาเต็ม 2 มือ
 
“เราซื้อของกินมาฝาก" ^ ^
 
พูดจบเขาก็วางสารพัดถุงก๊อบแก๊บในมือลงบนโต๊ะ
ไอ้พวกนี้ขอบคุณยิ้มหวานใหญ่เลยครับ ขอบคุณมากจนเกิดธรรมดาสามัญของมนุษย์โลกที่เค้าจะขอบคุณกัน
จนผมต้องส่งสายตาไปห้ามพวกมันคนละที คือแม่งก็หยุดนะ แต่ทำหน้ากวนตีนมาให้ผมแทน
ส่วนคนใจดีเขาก็ยิ้มรับเขินๆ
เอาของกินมาส่งเสร็จก็ทำท่าจะเดินไปไหนไม่รู้จนผมต้องเรียกเอาไว้
 
“นั่งกันอยู่ตรงไหนอ่ะ?"
 
“ไม่รู้ดิ"
 
“อ้าว? แล้วเพื่อน?”
 
“โดนลากเข้าห้องแต่งตัวพวกผู้หญิงไปแล้ว เราเลยจะไปนั่งรอแถวนั้นแหละมั้ง"
 
“งั้นก็นั่งนี่เหอะ ดีกว่าไปรออยู่คนเดียว"
 
ผมพูดพลางตบเก้าอี้ของผมอีกฝั่งนึงที่ยังว่างอยู่ เขาก็ว่าง่ายมากครับ
ผมบอกให้นั่งก็นั่งอ่ะ แถมยังหันไปทักเพื่อนผมแล้วชวนกินของกินที่ซื้อมา
 
“กินกันๆ ที่โรงอาหารคนเยอะอ่ะ ถ้าจะไปกินข้าวต้องรอคิวนานแน่ๆ กินพวกนี้รองท้องไปก่อนแล้วกัน"
 
ผมมองถุงก๊อบแก๊บที่วางอยู่ตรงหน้าสักสามสี่ถุงได้ ส่วนใหญ่เป็นพวกของกินเล่น มีผลไม้ด้วย แล้วก็น้ำเปล่า
 
“ทั้งหมดเท่าไหร่เนี่ย?”
 
“ไม่รู้ดิ เราลืมนับอ่ะ"
 
“คือ...ถ้าให้เงินก็จะไม่เอาใช่มั้ย?”
 
“ใช่แล้ว ^^ ก็ถือว่ามาช่วยงานรุ่นพี่คณะเราไง”
 
เจ้าตัวพูดพลางยิ้มกว้างให้ผมอีก
เห็นหน้ายิ้มๆนั่นแล้วผมโคตรจะก็รู้สึกอยากแกล้งเลยครับ
 
ใกล้ป่วยทางจิตแล้วครับ
รู้สึกแบบเห็นหน้ายิ้มๆแล้วอยากแกล้งให้หน้ามุ่ยเล่นตลอดเลย - สนุกดี
 
ผมนั่งมองคนที่แจกจ่ายสารพัดของที่ซื้อมาให้เพื่อนๆผม แล้วก็ค่อยๆคิดวางแผนอยู่ในใจ
จะแกล้งอะไรดีวะ?
 
เขาแบ่งของให้ทุกคนเสร็จเรียบร้อย แล้วก็ยื่นถ้วยโฟมที่มีลูกชิ้นทอดอยู่ข้างในมาให้ผม แล้วบอกสั้นๆ
 
“อ่ะ ลูกชิ้น"
 
“กินด้วยกันดิ"
 
“ไม่เอา เรากินข้าวมาแล้ว อิ่มจะแย่"
 
“เหรอ...? อย่าให้เห็นว่าหยิบขนมออกมากินนะ”
 
ผมพูดแบบลากเสียงนิดหน่อยครับ
คงจะกวนตีนน่าดูอ่ะ อีกคนเลยถลึงตากลับมาให้ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมา
 
ผมเหลือบตาแอบดูแบบที่คิดเอาเองว่าโคตรเนียน ก่อนจะเห็นว่าเขาไลน์ไปบอกเพื่อนว่านั่งรออยู่กับผมแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง
 
“เมื่อกี้กินข้าวกับอะไร"
 
“ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่เหมือนเดิมแหละ"
 
ปากนี่ตอบผมครับ แต่มือยังเถียงกับเพื่อนในไลน์อยู่ โดนแซวเรื่องที่มาอยู่กับผมอีกแล้ว
 
“น้ำอ่ะ?”
 
“น้ำฝรั่ง – หมอเป็นนักโภชนาการเหรอ?”
 
เดี๋ยวเหอะ! -_-
 
“เปล่า เป็นนักศึกษาแพทย์"
 
ผมตอบพลางเอาไม้จิ้มลูกชิ้นขึ้นมาหักปลายแหลมๆออก เคยเห็นแม่ทำให้น้องตอนเด็กๆครับ
แม่บอกว่าเดี๋ยวปลายแหลมมันจะจิ้มปากแล้วน้องจะเจ็บ
 
หักเสร็จก็ยื่นมือไปจิ้มลูกชิ้นเอาไว้ 2 ลูก พร้อมกับถามคนข้างๆที่ถล่มส่งสติ๊กเกอร์สู้กันกับเพื่อนอยู่
 
ดูจากมุมนี้สยองมากครับ คือสติ๊กเกอร์เดี๋ยวนี้แม่งขยับได้
เลยทำให้ไอ้ตัวในจอมือถือเค้าก็ขยับพร้อมกันทีละสามสี่ตัว
ตัวเดียวมันก็น่ารักดีอยู่หรอก แต่พอมาเป็นแถวแล้วดูหลอนไปเลย
 
“วันนี้กินหนมป่ะ?”
 
“กิน กินโคลอน" เขาตอบสั้นๆ แล้วยอมพักสงครามสติ๊กเกอร์ไลน์ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองผม "ถามมากเพราะเราเอาแต่เล่นมือถือใช่ป่ะ ไม่เล่นแล้วก็ดะ.....อื้ออ!”
 
ตอนนั้นเองที่ผมอาศัยจังหวะที่เขาหันมาพูด ใส่ลูกชิ้นเข้าไปในปากเขารวดเดียวทั้ง 2 อัน
แบบนี้ไม่เรียกว่าป้อนนะครับ – เรียกว่ายัดใส่ปาก -_-
 
เจ้าตัวเขาตกใจพอตัวเลยอ่ะ พอตั้งตัวได้ก็รีบยกมือขึ้นมาปิดปากทันที
อาจจะเป็นเพราะว่าเขาหน้าเล็กนิดเดียวด้วยล่ะมั้ง พอยกมือขึ้นมาปิดปากแบบนี้ มันเลยทำให้หน้าเขาก็หายไปเลยครึ่งนึง เหลือแต่ตาโตๆที่มองมาทางผมแบบโคตรเคือง
 
“กินเข้าไป กินเยอะๆ จะได้โตไวๆ" -_-
 
ผมพูดแล้วทำหน้านิ่งๆเหมือนไม่ได้ทำอะไรผิด พร้อมกับมองคนที่เคี้ยวลูกชิ้นแก้มตุ่ยกับหน้าบึ้งๆ
ก่อนจะหลุดยิ้มออกมาอย่างมีความสุข – แกล้งแล้วสนุกจริงๆนั่นแหละ
 
ตอนนี้คนตรงหน้าผมดูเหมือนหนูแฮมสเตอร์ เวลาที่อมอะไรเอาไว้ในแก้มเยอะๆอะครับ
ประมาณนั้น...
 
พอมองกลับมาอีกทางนึง ผมกลับเห็นสายตาสามคู่ที่มองมาแบบหมั่นไส้ผมโคตรๆ
ถ้าไม่ใช่เพื่อนกัน ผมว่าพวกมันลุกขึ้นมาถีบยอดหน้าผมแล้วเนี่ย
 
ผมยิ้มไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบขวดน้ำมาเปิด ใส่หลอดให้อันนึง
แล้วยื่นไปให้คนที่ยังคงนั่งทำหน้ามุ่ยเคี้ยวตุ้ยๆอยู่ไม่หาย
 
“อ่ะกินน้ำด้วย เดี๋ยวติดคอ"
 
เขารับน้ำที่ผมยื่นไปให้ ดูดเข้าไปอีกใหญ่ ก่อนจะกลืนทุกอย่างลงคอ
แล้วบอกผมด้วยเสียงเรียบๆ หน้าบึ้งๆ
 
“นิสััยดีจังเลย”
 
ผมหัวเราะรับไม่สะทกสะท้าน
ยิ้มหวานนี่น่ารักชะมัด
 
 
ระหว่างที่พวกผมนั่นกินของที่เขาซื้อมา เจ้าตัวเขาก็เล่มเกมในมือถือ พร้อมกับกินอะไรที่ผมส่งไปให้บ้าง รู้ตัวอีกที ตรงหน้าก็มีแต่ถุงเปล่าๆ หมดเกลี้ยงเหมือนเสกให้หายไปอ่ะครับ
 
พวกผมรวมขยะให้เหลือถุงเดียว ก่อนไอ้สามคนนั้นมันจะพากันเอาไปทิ้ง
คือมึงแห่ขยะรึไง? ถุงเดียวต้องไปกันตั้งสามคน
แล้วก็ทิ้งผมไว้ที่โต๊ะกับคนข้างๆ ก่อนจะเห็นว่าเขากำลังเล่นเกมทายชื่อหนังจากไอ้หน้ายิ้มๆ เค้าเรียกอะไรวะ? อิโมจิป่ะ?
เออนั่นแหละ... -_-
 
อันไหนที่คิดไม่ออก เค้าก็หันมาถามผม พอเพื่อนผมกลับมาก็ถามเพื่อนผมต่อ
ถามไปถามมาเลยกลายเป็นว่าช่วยกันเล่นไปซะอย่างนั้น
เล่นเกมบ้าง คุยกันบ้าง สักพักก็มีกลุ่มเด็กผู้หญิงเดินตรงมาทางพวกผมครับ มาขอถ่ายรูปเหมือนเดิมนั่นแหละ
พอกลุ่่มนึงมาขอถ่ายรูปผม อีกกลุ่มก็มาขอถ่ายยิ้มหวาน ไอ้แกงค์เพื่อนผมสามคนก็เลยโดนไปด้วย
ถ่ายรูปไปพลางคุยกับพวกน้องๆไปพลางก็สนุกดีนะผมว่า
 
คุยเล่นกันไปสักพัก พอพวกน้องๆเค้าไม่ค่อยเขิน ก็โดนเลยครับ
เพราะอยู่ดีๆก็มีคนขอถ่ายรูปผมกับยิ้มหวานคู่กันซะอย่างนั้น
ผมหันไปถามเขาเหมือนจะถามว่าได้รึเปล่า?
พอเจ้าตัวส่งยิ้มแล้วพยักหน้ากลับมาก็เป็นอันเข้าใจ...
 
ผมเดินเข้าไปใกล้ๆเขาก่อนจะยืนข้างๆกันให้พวกเด็กๆถ่ายรูปไป
ท่าทางดูสนุกกันมากอ่ะครับ ถ่ายกันรัวๆเหมือนพวกนักข่าวเลย
เล่นไปเล่นมาไอ้สามคนนั้นมันก็ขอตัวแยกจะไปหาอะไรกิน
เลยเหลือผมกับยิ้มหวานอยู่สองคน พอพวกเด็กๆไปกันหมด พวกผมก็กลับมานั่งลงตรงที่เดิม
แล้วก็เห็นว่ามีน้องคนนึงเดินตรงเข้ามา มาถึงปุ๊บก็ยื่นถุงขนมให้ยิ้มหวานทันทีเลย
...บอกแล้วคนนี้เค้าดังจริงๆ
 
“หนูซื้อขนมมาฝากค่ะ"
 
คนข้างๆผมที่ตอนนี้ ไปนั่งที่เก้าอี้อีกตัวนึงแล้วชี้ตัวเองเหมือนจะถามว่า ให้เราเหรอ?
พอน้องเค้าพยักหน้ารับ เขาก็ยื่นมือไปรับถุงขนมมา
 
“ขอบคุณมากเลย กินด้วยกันมั้ย แกะแล้วกินด้วยกันเลยมะ?"
 
ใจดีปะล่ะ?
ผมว่าน้องเขาก็ตกใจไม่แพ้ผมอ่ะ ได้ยินที่เขาพูดปุ๊บน้องก็รีบยกมือขึ้นมาโบกปฏิเสธทันที
ก่อนจะยิ้มเขินๆแล้วถามต่อ
 
“ว่าแต่ -- พี่สองคนสนิทกันเหรอคะ?”
 
เปลี่ยนฝ่ายแล้วครับ คราวนี้คนที่ตกใจคือคนข้างๆผมแทน
เขายิ้มรับคำถามแล้วขมวดคิ้วนิดหน่อยเหมือนกำลังใช้ความคิด ก่อนจะตอบออกมา
 
“ก็...สนิทนิดนึงมั้ง"
 
“สนิทก็สนิทสิคะ มีสนิทนิดนึงด้วยเหรอ?”
 
ดีมาก – ไอ้น้องพูดดี!
ผมหลุดหัวเราะออกไป แล้วก็โดนคนข้างๆหันมามองด้วยหน้ามุ่ยๆ
เห็นอย่างนั้นผมก็เลยหันไปสรุปให้ หวังดีเลยนะเนี่ย
 
“สนิทนิดนึงก็คือสนิทแหละเนอะ"
 
“ใช่ค่ะพี่หมอ!”
 
พอได้ยินที่ผมพูด น้องเค้าดูกระตือรือร้นขึ้นมาเลย
เหมือนในตามีลูกไฟอะไรประมาณนั้น...
 
“ถ้าอย่างนั้นหนูไปแล้วนะคะ ต้องไปเดินเล่นกับเพื่อนต่อ"
 
พอได้ยินแบบนั้นผมกับยิ้มหวานก็หันไปส่งยิ้มแล้วโบกมือให้น้องเขา
 
ก่อนจะเห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆในกระโปรงสีน้ำเงินกึ่งวิ่งกึ่งกระโดดออกไปได้สักสองสามก้าว แล้วหยุด พร้อมกับหันมามองหน้าพวกผมอีกที
 
“ขนมก็แบ่งกันกินนะคะ หนูซื้อมาชิ้นเดียวแบ่งกันนะค้าาาา"
 
ปล่อยให้ผมกับคนข้างๆหันมามองหน้ากันแบบงงๆ
เด็กพวกนี้นี่นะ...
 
 
ความสงบมาเยือนเราไม่นานหรอกครับ...
นั่งนิ่งๆได้ไม่เกิน 5 นาที อยู่ดีๆ เฮียแม่งก็โผล่มาพร้อมไอ้ 3 คนที่มันแอบไปกินข้าวมา
อิ่มแล้วสิพวกมึง -_-
 
พอมองผ่านพวกมันสามคนไป ผมก็เห็นผู้หญิงสวยจัดคนนึงในมุมที่ผมไม่คุ้นตา
เขาคือรุ่นพี่ที่โรงเรียนผมเองครับ วันนี้แต่งหน้าทำผมเรียบร้อยพร้อมใส่ชุดครุยเดินมาข้างๆเฮียแกด้วย
 
ได้ยินมาเหมือนกันว่าพี่เค้ากำลังจะรับปริญญาปีนี้ สงสัยจะมาถ่ายรูปล่ะมั้ง
จากมุมที่ผมมองอยู่ตรงนี้ เฮียแกเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆอย่างช้าๆ แต่ยิ่งใกล้ ผมก็ยิ่งรู้สึกได้เลยว่าลางไม่ดีว่ะ
 
ดูสีหน้าเฮียแม่งดิ เดินทำหน้าเหี้ยมแต่ไม่มีม.ม้ามาแต่ไกลเลยแม่ง -_-
 
รีบสารภาพก่อนจะโดนแฉก็ได้ครับ
พี่เค้าคือคนที่ผมแอบชอบสมัยเด็กๆ
 
“มานี่เลยมึง มาถ่ายรูปกับรักครั้งแรกของมึงซะ!"
 
นั่นไง – กูว่าแล้ว...
สิ่งแรกที่ผมทำคือหันไปมองคนข้างๆก่อนเลย เขาเองก็หันหน้ามามองผมแล้วก็หลุดขำนิดๆ ก่อนจะหันกลับไปยกมือไหว้เฮียกับว่าที่บัณฑิตที่ยืนอยู่ข้างๆ ไหว้ปุ๊บเฮียแกก็แนะนำให้รู้จักกันปั๊บ บอกชื่อคณะอะไรกันเสร็จ
เฮียแกก็ทิ้งท้ายเอาไว้อย่างงดงามว่า....
 
“และเหนือสิ่งอื่นใด พี่เค้าเป็นรักครั้งแรกของไอ้หมอมัน"
 
พูดจบไอ้สามคนข้างหลังก็หัวเราะชั่วปิดท้าย
สะใจมากสินะพวกมึง...
 
ยิ้มหวานยังคงยิ้มขำๆอยู่ครับ ส่วนผมนี่โดนลากให้ลุกขึ้นไปยืนถ่ายรูปเรียบร้อยแล้ว
ถ้าถามว่าเขินไหม – ก็นิดนึงอ่ะครับ
ต่อให้ตอนนี้ผมไม่ชอบพี่เค้าแล้วก็เหอะ ยังไงแม่งก็เขินนิดๆอยู่ดีล่ะวะ
 
และไอ้ความเขินนิดนึงของผมนี่ดูเหมือนจะยังไม่สาสมใจไอ้พวกเหี้ยสามตัวและ 1 ท่านที่ยืนมองอยู่
เพราะอยู่ดีๆ ไอ้เบอร์ 1 แม่งก็พูดออกมา
 
“สัดหมอมึงเขินไปมั้ย หูแดงหมดแล้วไอ้ห่า"
 
ได้ยินอย่างนั้นผมแม่งก็ยกมือขึ้นจับหูทันที
แม่ง จิตอ่อนเกินไปนะกู – อยากฟาดกบาลตัวเองชิบ -_-
 
“ถ้ามึงจะเขินขนาดนั้นมึงก็สารภาพไปเลยไป ว่าตอนอายุ 14 มึงแม่งหัดร้องเพลงเล่นกีต้าร์เพราะพี่เค้า แต่พอร้องได้เล่นได้ก็เสือกอกหักเพราะพี่เค้าดันมีแฟนไปซะแล้ว"
 
เชี่ย – ผมว่าผมโดนแกล้งว่ะ
แม่งเหมือนรวมหัวกันสร้างความร้าวฉานให้ผมกับยิ้มหวานอ่ะสัดเอ้ย!
ถ่ายไปสองสามรูปมั้งครับ ก่อนที่พี่เค้าจะเรียกยิ้มหวานให้ลุกขึ้นไปถ่ายด้วยกัน
แล้วสักพักพี่เค้าก็เรียกทุกคนมารวมกัน แล้วก็ถ่ายรูปรวมอีก
หมุนซ้ายหมุนขวาถ่ายไปถ่ายมา พอไม่รู้ว่าจะโพสท่าอะไรแล้วก็แยกย้ายกันครับ
 
เฮียสั่งผมทิ้งท้ายว่าเดี๋ยวอีกครึ่งชั่วโมงให้ไปสแตนบายหลังเวที
พอหันมาอีกด้านนึง ยิ้มหวานก็ยืนมองหน้าผมอยู่แล้ว พร้อมกับพูดออกมา
 
“เพื่อนเราออกมาจากห้องแต่งตัวแล้วอ่ะ เราไปหาเพื่อนก่อนนะ"
 
“โอเคๆ – ไปหาเพื่อนเหอะ อย่าลืมมาดูด้วยล่ะ"
 
“อือฮึ"
 
เขารับคำพร้อมกับยิ้มน่ารักๆมาให้ผม โบกมือลาทุกคนแล้วเจ้าตัวก็เดินผละไปอีกทางนึง
ลับหลังยิ้มหวานปุ๊บ เสียงไอ้พวกเวรสามตัวนี่ก็ดังขึ้นมาทันทีครับ
 
“งอนนน"
 
“งอนมึงแน่"
 
“งอนแน่นอน วะฮะฮ่าาา!!"
 
พูดจบแม่งก็หันไปแทคมือกันอย่างมีความสุข พร้อมตบมือรัวๆ
พ่องเป็นแมวน้ำซาฟารีเวิร์ลเหรอ ตบมือแม่งอยู่ได้
 
“กวนตีนไอ้เหี้ย"
 
อย่าคิดว่าพวกมันจะสะทกสะท้านกับคำด่าของผมครับ
เดินทำหน้าแรดไปนั่งกันอยู่โน่น...
 
ผมเดินไปหยิบของที่วางอยู่ ก่อนจะชวนพวกมันเข้าไปหลังเวทีด้วยกัน
เฮียบอกอีกครึ่งชั่วโมง แต่ไปก่อนเวลาก็ไม่แปลกป่ะวะ
เผื่ออีกคนจะไปอยู่หลังเวทีเหมือนกัน
 
 
.
.
.
 
 
ยิ้มหวานไม่อยู่ครับ...
พอหาเขาไม่เจอที่หลังเวที ผมเลยแอบโผล่หน้าออกมาส่องด้านนอก
แล้วก็เห็นว่าตอนนี้นั่งอยู่ตรงหน้าเวทีบนโต๊ะม้าหินอีกฝั่งนึงกับพวกเพื่อนๆ ก็คุยเล่นกันตามปกตินั่นแหละ
 
เขาอ่ะปกติ แต่ผมนี่โคตรจะไม่ครับบอกเลย
กลัวเขางอน ทั้งๆที่รู้ว่าเจ้าตัวก็ดูไม่น่าจะเป็นคนไม่มีเหตุผลขนาดนั้น
แต่ยังไงในใจผมแม่งก็อยากอธิบายให้เขาฟังอยู่ดีอ่ะ
 
แต่ตอนนี้ต้องร้องเพลงก่อน
 
ผมเพิ่งรู้ว่าคอนเสิร์ตมันจริงจังกันขนาดนี้ครับ คือแต่งตัวสบายๆกันจริงๆ
แต่เพลงที่ร้องนี่หลากหลายโคตร นอกจากเพลงไทยแล้วพวกเพลงฝรั่ง เกาหลี ญี่ปุ่น ก็ถูกเอามาร้องด้วย คนดูกรี้ดกร้าดกันน่าดู
 
ผมนั่งรออยู่ข้างเวที แล้วอยู่ดีๆ เฮียแกก็เดินมานั่งลงข้างๆกันแล้วยื่นน้ำดื่มให้ขวดนึง
ผมรับน้ำมา พร้อมกับขอบคุณ ก่อนจะบ่นเรื่องวันนี้ออกมา
 
“เฮียแม่ง – เล่นกันเองเฉย!”
 
“อะไรวะ?”
 
“เรื่องวันนี้ไง"
 
“อ๋อ! เรื่องรถไฟไทยชนชินคันเซ็นของมึงอ่ะนะ?”
 
“เออ"
 
ผมตอบสั้นๆ ยิ่งเห็นหน้าตาสะใจของเฮียแล้วก็ยิ่งอยากทำหน้านิ่งครับ กวนตีนชิบ พี่ใครวะ!
 
“ก็มึงทำให้กูหมั่นไส้ก่อน ทำมาเป็นถามโน่นถามนี่แล้วบอกว่าไม่กล้าจีบ แค่มองเฉยๆ มองเหี้ยไร กูเห็นอีกทีป้อนลูกชิ้นกันละแม่ง! วันเสาร์เจอกันก็ไม่บอกกูสักคำ"
 
พูดจบพี่แกก็ยกมือขึ้นมาตบหัวผมด้วยครับ เจ็บเลยแหละ
แต่สิ่งที่ผมทำคือมองเฮียแกกลับไปแล้วยักคิ้วให้สองสามที
 
“ตอนแรกจะชวนเค้าไปด้วยอ่ะ ดันไม่ว่างว่ะ – แต่ยังไม่ได้คบกันนะเว่ยบอกก่อน ก็คุยๆกันอยู่เฉยๆ"
 
“หือ น่าถีบว่ะ แต่เลิกป๊อดก็ดีละ – ตอนมึงปอดแหกแม่งน่าสมเพชชิบ นี่กูชมนะ"
 
สาบานว่านั่นชม...
 
แล้วก็อดไม่ได้ที่จะนึกไปถึงตอนที่ผมชอบยิ้มหวานใหม่ๆครับ ผมถามเฮียว่ารู้จักคนนี้มั้ย
ถามออกไปแค่นั้น เฮียมันดันตอบกลับมาเป็นคำถามทันทีเลยว่า
 
ทำไม – มึงชอบเค้าเหรอ?
 
อะไรจะขนาดนั้น?
ตอนแรกผมไม่ยอมรับหรอกครับว่าชอบ แต่พอถามมากๆเข้า ในที่สุดมันก็ต้องยอมสารภาพออกไปจนได้
ว่าผมชอบคนที่เฮียอธิบายให้ผมฟังแบบง่ายๆว่า...
 
มีคนชอบเยอะ แต่คนกล้าเข้ามาจีบน้อย (ส่วนใหญ่ก็ปอดแหกเหมือนมึงนั่นแหละ -_- )
ใจเย็น เลยเป็นคนคอยเคลียร์ตลอดเวลาเพื่อนมีปัญหา
ใจดี เคยขับรถไปส่งเพื่อนถึงบ้านแถมอัมพวาตอนดึกๆดื่นๆ กว่าจะถึงบ้านตัวเองก็เกือบเช้า
และ ตอนนี้ดูเหมือนจะยังไม่ได้คบกับใคร

 
“เฮียว่าผมจะจีบติดป่ะ?”
 
“ไม่!!”
 
“เฮ้ย!”
 
“กูล้อเล่น – ไม่น่าจะแห้วว่ะ"
 
“ถามจริง?”
 
“เออ ก็กูรู้จักมึง กูรู้จักมัน เด็กนั่นน่ะ ถึงจะดูเหมือนจะเปิดรับใครก็ได้ แต่มันก็มีเส้นของมัน ดูเหมือนมันจะให้ความสำคัญกับทุกคน แต่มันก็ให้ทุกคนเท่าๆกันนั่นแหละวะ เพราะคนเข้าหามันแบบหวังผลประโยชน์เยอะ น้องมันดัง หน้าตาแม่งก็ดี บ้านยังเสือกรวยอีก มันก็เลยแก้ปัญหาด้วยการใจดีกับทุกคน แต่ไม่ค่อยเปิดรับใครเข้ามาในโลกส่วนตัวของมัน"
 
“...”
 
“แต่มึงมันไม่ใช่พวกขี้เอาใจนี่ กูเห็นเวลามึงห่วงใคร เดี๋ยวมึงก็บ่นเดี๋ยวมึงก็ด่า – เด็กที่ใครๆก็คอยเอาใจเพื่อหวังผลประโยชน์อย่างมันน่ะ ได้เจอกับมึงกูก็ว่าดี"
 
“เหี้ย – เฮียแม่ง เล่นซะเขินเลย"
 
“ไอ้สัด หูแดงหมดแล้ว ทุเรศตาว่ะ"
 
ผมเขินจริงๆนะ เหมือนจังหวะหัวใจแม่งตกร่องไปแล้วว่ะ
พอหันไปมองหน้าเฮียก็โดนแกฟาดลงมากลางหน้าผากเต็มๆ
ไม่ทันที่ผมจะได้โวยวายกลับ เสียงเตือนจากโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้นมา
ผมหยิบมือถือในกางเกงขึ้นมาเปิดดู ก่อนจะเห็นว่าคนที่นั่งอยู่ไกลออกไป แต่ก็ยังพอมองเห็นกันได้ ส่งข้อความมาหาผม
 
 
*นินทาอะไรเราอ่ะ?
 
*รู้ได้ไง?

 
ผมพิมพ์ตอบ ก่อนจะยื่นโทรศัพท์ไปให้เฮียดูว่าอีกคนพิมพ์อะไรมาครับ
 
*ก็เฮียมองหน้าเราแล้วยิ้มแปลกๆตลอดเลย
*บอกมาเลยนะว่านินทาอะไรเ?
 
*ไม่ได้นินทา
*แค่พูดถึง
* -_-

 
*พูดถึงว่าไงอ่ะ?
*ในแง่ดีเหรอไม่ดี?
 
*เฮียบอกว่า
*เด็กถาปัตย์ต้องมีแฟนเป็นหมอ


 
เนียนกว่าบีบีครีมก็กูนี่แหละ
เห้ย – ผมไม่ได้โกหกนะ แค่เปลี่ยนคำพูดนิดเดียวเอง
 
ส่งกดข้อความไปเสร็จผมก็เงยหน้ามองคนที่นั่งอยู่ไกลออกไป
พอเห็นว่าใบหน้าน่ารักๆของเขาพยายามจะเบะริมฝีปากให้คว่ำลง ทั้งๆที่เจ้าตัวกำลังจะยิ้ม
ผมก็ได้แต่หัวเราะอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะแลบลิ้นไปให้เขาทีนึง
สุดท้ายเขาก็หลุดยิ้มออกมาจนได้
 
“กูไปละ เบื่อเด็กจีบกันว่ะ"
 
เฮียแกคงนั่งดูอยู่สักพักแล้วอ่ะครับ ก่อนจะลุกขึ้นปัดกางเกงสองสามที แล้วพูดต่อ
 
“ฟังคิวด้วย จำได้ใช่มั้ยว่ามึงต้องขึ้นตอนไหน อย่ามัวแต่จีบน้องกูอยู่"
 
“ผมก็น้องเฮียนะเว่ยยย"
 
“มึงอยากเป็นน้อง? -- เลือกเอา มึงจะเป็นแค่น้องกู หรือจะเป็นน้องเขย?”
 
ผมนี่ปิดปากสนิทเลยครับ ไม่เถียงแล้ว
ต้องยอมแพ้เฮียแกจริงๆ ก่อนจะตอบออกไปเบาๆ
 
“ยอมแพ้"






[ต่อ]

ออฟไลน์ kipuuu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [06-07] <22.05.15> page9
«ตอบ #324 เมื่อ26-05-2015 12:56:03 »



พูดจบเฮียแกก็เดินไป พร้อมกับพิธีกรกำลังพูดแนะนำว่าตอนนี้กำลังจะเข้าสู่ช่วงอำลาตำแหน่งของประธานชมรมรุ่นก่อน ซึ่งก็คือเฮียผมครับ
 
เท่าที่เฮียเล่าให้ฟัง ส่วนใหญ่เวลาอำลาตำแหน่งนี่พวกประธานเขาก็จะขึ้นมาร้องเพลงกันสี่ห้าหกเพลงตามความถนัดครับ
แล้วก็จะมีเซอร์ไพร์สเล็กน้อย
อย่างปีที่แล้วที่ผมมาดู ประธานรุ่นก่อนเฮียแม่ง แต่งตัวเป็นคนร้องกังนัมสไตล์ เพลงที่ร้องนี่มั่วเนื้อชิบหายครับ แต่ได้ใจคนดูโคตรๆ
 
ตอนนี้ผมนั่งอยู่ข้างเวที มองจากมุมนี้ ผมเห็นรุ่นพี่ที่ผมรู้จักมาตั้งแต่เด็กขึ้นไปร้องเพลงพร้อมกีต้าร์ตัวเก่ง
ว่าแล้วก็รู้สึกปลื้มไม่เบา เฮียแม่งเจ๋ง
ในสายตาของผม พี่ชายคนนี้เท่ประมาณพี่สแตมป์ อภิวัฒน์
ถึงแม้เพลงแรกที่แกร้องจะเป็นเพลง จักรวาล ของวง SixtyMiles ก็เหอะ
 
สักพักเพลงแรกก็จบลง พร้อมกับที่เฮียพูดทักทายทุกคน
เป็นสคริปต์ที่ผมได้แต่นั่งฟังแล้วขำออกมาพร้อมกับส่ายหน้าเพลียๆ
 
“ตั้งแต่เรียนมัธยมจนถึงตอนนี้ ผมก็มีรุ่นน้องที่สนิทกันอยู่หลายคนนะ บางคนแม่งก็เอาแต่ยืมตังค์ผมแล้วยังต้องให้ผมเลี้ยงข้าวตลอดเช่นไอ้ประธานชมรมคนต่อไป – แต่บางคนมันก็ได้ดิบได้ดี ตอนเด็กๆยังเต้นบีบอยกะโหลกกะลาอยู่ด้วยกัน รู้อีกทีมันก็ดังจนมีแฟนคลับเป็นเรื่องเป็นราวไปละ"
 
พอเฮียแกพูดถึงตอนนี้เสียงกรี้ดก็เริ่มมาครับ มือผมนี่แฉะไปหมด เหงื่อแตกครับบอกเลย
แล้วอยู่ๆไลน์ผมก็ดึงเตือนอีกครั้ง
 
 
*สู้ๆนะ
 
คนเดิมครับ มาพร้อมสติ๊กเกอร์ไฟท์ติ้ง น่ารักโคตร

*ตื่นเต้นว่ะ คนเยอะโคตร
 
*พยายามคิดว่าคนดูเป็นฝักข้าวโพดกับผักกาดขาวดิ อย่าคิดว่าเป็นคน
*เราว่าช่วยได้นะ
*สู้ๆ เป็นกำลังใจให้ ^ ^

 ผมเองก็ไม่รู้ว่าไอ้วิธีฝักข้าวโพดผักกาดขาวนี่มันจะช่วยได้จริงรึเปล่า
แต่ตอนนี้กำลังใจมาเต็มแล้วครับ!
อ่านจบผมก็เอามือถือไปฝากคนที่คอยดูแลข้างเวที แล้วพยายามตั้งสมาธิ มองข้ามเสียงโม้เรื่อยเปื่อยของเฮีย
ที่ตอนนี้ยังคงพูดถึงคนโน้นคนนี้ไปทั่วอย่างเมามัน
 
"และทุกครั้งที่มีรุ่นน้องหรือรุ่นพี่ได้ดีมีหน้าตาในสังคม สิ่งที่ผมทำตลอดคือการแสดงความยินดีกับมัน ทำไปงั้นๆอ่ะครับ เพราะเป้าหมายที่แท้จริงคือการเกาะพวกมันดัง – วันนี้ก็เช่นกัน...”
 
แล้วดนตรีที่ค่อนข้้างคุ้นหูทุกคนก็ดังขึ้นครับ
ผมยกไมค์ขึ้นมาทั้งๆที่ยังไม่ได้ก้าวขาขึ้นไปบนเวที
ทันทีที่ร้องคำแรก เสียงกรี้ดก็ดังตามมา...
 
“สวัสดีครับ เราเคยรู้จักกันหรือเปล่า
ท่าทางคุ้นๆ แค่ผมมองคุณยังไม่ค่อยชัด
เงยหน้าสักนิดให้ผมมีสิทธิ์ได้รู้จัก
อยากมองยิ่งนัก สักวินาทีอยากเห็นหน้า"

 
ผมยืนร้องเพลงอยู่ข้างเวที พอมองขึ้นไปก็เห็นว่าเฮียแกกำลังท่าท่าลิปซิงค์แบบโคตรจะไม่เนียน
ซึ่งโคตรจะกวนตีนอ่ะผมว่า
 
จนถึงท่อนต่อไป ผมก็ร้องเพลง พร้อมๆกับเดินขึ้นไปบนเวทีอย่างช้าๆ
เสียงกรี้ดโคตรดังเลยว่ะ -_- ตาลายหมดแล้วแม่ง
 
 
"แต่แล้วเธอก็ไม่มอง แล้วเธอก็ไม่มา
ก้มหน้าก้มตาละเลงนิ้วมือลงบนเครื่องนั้น
ยิ้มหัวเราะคนเดียว ไม่เหลียวข้างหน้าข้างหลัง
ต้องจบลงที่ฉัน พนมนิ้วมือท่องคาถา"

 
ดีที่ผมยืนร้องเพลงอยู่ข้างล่างสักพักแล้วครับ พอขึ้นมาบนนี้มันเลยประหม่าน้อยลงนิดนึง
...ก็แค่นิดนึงล่ะวะ ผมร้องเพลงไปเรื่อยๆครับ จนมาถึงประโยคสุดท้ายของท่อนฮุค
 

"รักจะเกิดขึ้นมันต้องมองตา ไม่ใช่มองจอ"
 
 
แล้วท่อนแรพก็เป็นหน้าที่ของเฮียทั้งหมด
เฮียแกร้องด้วยเล่นกีต้าร์ไปด้วย สนุกว่ะ
 
และพอมาถึงท่อนที่แรพว่า 'ไอ้เรื่องทะเล้น ทะลึ่ง อ่ะคิดไม่ถึงจริงๆ ผมขี้อาย แค่คุยกันแบบพี่ชาย...' จบลงปุ๊บ
เฮียแกก็ยืนมือมาทางผมครับ เป็นอันรู้กันว่าผมต้องร้องต่อ
 
“น่ารักอย่างคุณ ใครเป็นแฟนเค้าคงกลุ้มตาย"
 
เสียงกรี้ดแม่งดังกระหึ่มอ่ะ
ไอ้ตอนซ้อมกันแล้วปิ๊งไอเดียเรื่องท่อนนี้ขึ้นมามันก็สนุกดีอ่ะครับ
พอขึ้นมาร้องจริงๆ แม่งเขินโคตรอ่ะ
 
ระหว่างที่ปล่อยให้เฮียแกก็แรพต่อไป ผมเหยียดแขนขึ้นสูงแล้วตบมือ จนคนที่หน้าเวทีเริ่มทำตาม
ส่วนสายตาก็มองไปยังคงที่กำลังกลั้นยิ้มอยู่ที่มุมหนึ่ง
 
ในตอนที่สายตาของเราบังเอิญมองสบกัน ผมเห็นเขาย่นจมูกอย่างน่ารักแล้วก็ส่ายหน้าเบาๆมาให้ผม
อะไรวะ – เขินก็ยอมรับว่าเขินดิ
มาทำเป็นหน้ามุ่ยเดี๋ยวเหอะ...
 
ร้องเพลงจบเฮียแกก็ชวนคนดูคุยไปเรื่อย พร้อมกับที่ทีมงานยกเก้าอี้ขึ้นมาบนเวที
รอจนสถานที่ถูกเซ็ทเรียบร้อย เฮียแกก็พูดทิ้งท้ายเอาไว้
 
“เหนื่อยว่ะ ร้อนด้วย ไหนๆคนส่วนใหญ่ก็ซื้อบัตรเข้างานมาเพราะจะดูไอ้หมอนี่ ผมลงไปนั่งพัก แล้วทิ้งมันไว้บนเวทีคนเดียวก็แล้วกัน"
 
แล้วก็ทิ้งกันซะดื้อๆเลยครับ
ผมหยิบขวดน้ำขึ้นมาดื่ม แล้วก็กระแอมเขินๆ ก่อนจะหยิบกีต้าร์โปร่งที่เฮียทิ้งไว้มาสะพาย แล้วนั่งลงบนเก้าอี้
ก่อนจะพูดใส่ไมค์ไปสั้นๆว่า
 
“เขินว่ะ"
 
ฮาครืนครับ...
 
“ไม่ได้ร้องเพลงบนเวทีนานโคตรเลยอ่ะ ร้องผิดเล่นผิดอย่าโห่นะ"
 
พูดจบเสียงเฮียแม่งก็ดังลอยมาจากหลังเวทีครับ
 
“มันเก็ก อย่าไปเชื่อ"
 
เฮียแม่ง....เดี๋ยวกูก็เติมไม้เอกให้แม่งนี่
 
“จริงๆผมไม่อยากพูดแนะนำเพลงเลยว่ะ รู้สึกว่ามันเชยๆ แต่แบบ ยังไงแม่งก็ต้องพูดอ่ะ ขอพูดแล้วกัน"
 
“หมอมึงเป็นกันเองกับคนดูไปละ"
เสียงเฮียลอยมาอีกแล้วครับ..
 
คือผมเขินไง แล้วเวลาเขินแม่งก็ชอบสบถขึ้นมาเองตามความเคยชินว่ะ
ไม่รู้ตัวด้วย
 
“สนิทกันเว่ยเฮีย – ทุกคน เราเป็นเพื่อนสนิทกันแล้วนะวันนี้ เออๆ มาพูดถึงเพลง"
 
“...”
 
“ฟังผมพูดแล้วเขินได้ แต่ห้ามแซวนะ จะกรี้ดก็ค่อยกรี้ดจนพูดจบโอเคป่ะ แซวแล้วเดี๋ยวจะสบถอีก จะโดนเชิญลงจากเวทีทั้งที่้ยังไม่ได้ร้องเพลงละคราวนี้"
 
“...”
 
“ก็ ก่อนหน้านี้ผมแอบมองคนๆนึงอยู่ - เฮ่ย อย่าเพิ่งกรี้ด ฟังให้จบก่อน"
 
ผมพูดพลางยกมือขึ้นมาห้ามด้วย
ซึ่งมันทำให้คนดูที่กำลังจะกรี้ดออกมาเงียบลงไปทันที
 
"คือก็มองมาสักพัก แต่ไม่กล้าทักไม่กล้าเข้าไปคุย ผมแม่งก็ปอดแหกไง แล้ววันนึงเว่ยอยู่ดีๆเดินมานั่งลงตรงหน้าผม – เกือบตายว่ะบอกเลย แทบร้องหาเครื่องปั๊มหัวใจ แล้วเพลงนี้แม่งก็ดังขึ้นมาในมือถือพอดี มันคือเพลง ฝันรึเปล่า ของ อาร์มแชร์ ซึ่งเดี๋ยวจะร้องให้ฟังนี่แหละ จบ."
 
โดนแซวไปตามระเบียบครับ
นอกจากคนดูที่กรี้ดแล้ว พวกไอ้เบอร์ 1 เบอร์2 โคนัน ที่อยู่ดีมึงๆเนียนไปนั่งใกล้ๆกลุ่มยิ้มหวานได้ไงก็ไม่รู้ แม่งก็ผิวปากดังมาก ดังแบบเหี้ยๆ -- กูขอให้มึงคอแตก
 
“โอเค จะร้องแล้วนะ ใครร้องได้ก็ช่วยร้อง ร้องไม่ได้ก็ปรบมือ และถ้าเอาแต่เล่นมือถือไปด้วยกินขนมไปด้วยจนมือไม่ว่างปากไม่ว่างแล้วล่ะก็....”
 
"...”
 
"แค่ส่งยิ้มหวานๆมาให้กันก็พอ"
 
 
นาทีนั้นผมเหลือบไปมองทางเจ้าตัวและพบว่าเขากำลังเอาขนมเข้าปากพอดี และชะงักไปเลยตอนที่ได้ยินผมพูด
ยิ้มหวานทำหน้ายี้มาให้ผม ก่อนจะก้มลงไปกินขนมเล่นมือถือต่อ
 
ผมกัดปากยิ้ม ก่อนจะก้มหน้าลงเกลากีต้าร์ช้าๆ
 
"มองเธอทีไรสวยจนหัวใจ ของฉันแทบจะหยุด
จนแทบจะละลาย
ฝืนใจตัวเองไม่มองเธอไม่ได้ เหมือนไม่รู้ตัว
มันดีเกินจริงแต่ก็ยังไม่ชัวร์
อะไรก็เป็นใจ จนตอนนี้ตัวฉันก็แอบกลัว
 
นี่มันคือความฝันหรือเปล่า
ไม่อยากเชื่อเลยว่าเรากำลังตกหลุมรัก
จนหัวใจคล้ายจะคิดมาก
จนไม่อยากจะตื่นเลยหรือไง
 
อยากอยู่ในฝันนานๆ อีกสักหน่อย
ใจตอนนี้คงลอยไปอยู่ที่เธอแล้วใช่ไหม
ให้ฝืนเท่าไรก็คงไม่ได้
และไม่รู้ว่าควรทำเช่นไร
...นอกจากรักเธอ"

 
 
เขินโคตรครับ ผมพยายามมองคนที่เบียดกันอยู่หน้าเวทีให้เป็นฝักข้าวโพดกับผักกาดขาวตามที่อีกคนบอกมา
ซึ่งมันก็พอช่วยได้นะ...
 
ขอโทษจริงว่ะ แต่นาทีนี้ทุกคนเป็นข้าวโพดกับผัดกาดขาวไปหมดแล้ว
ยกเว้นคนนึงที่มองมาทางผมพร้อมรอยยิ้มบางๆ
คนที่ทำให้ผมร้องเพลงนี้...
.
.
.
 
 
ผมคืนเวทีให้เฮียหลังจากร้องเพลงจบ แล้วก็นั่งดูเฮียร้องเพลงอยู่ข้างเวทีจนหมดช่วงของแก ก่อนจะขอตัวออกมา แล้วเดินตรงมาหาพวกเพื่อนๆของผมที่นั่งอยู่กับกลุ่มของยิ้มหวานครับ
 
ระหว่างทางก็โดนขอถ่ายรูปมาเรื่อยๆ พอมาถึงพวกเพื่อนๆปุ๊บ ผมก็ถอนหายใจออกมา แล้วพูดสั้นๆ
 
“หิว!”
 
“หิวก็แดก! ไม่แดกก็อดตายไปซะ”
 
ไอ้เบอร์ 1 พูดสิครับ จะเป็นใครไปได้อีก
 
“กำลังจะไปเนี่ย ใครจะไปกินข้าวด้วยกันป่ะ?”
 
ผมถามเพื่อนผม เพื่อนยิ้มหวาน และเจ้าตัวที่มองมาทางผมเป็นระยะๆ ก่อนจะกลับไปเล่นไอ้เกมทายชื่อหนังเหมือนตัวเองไม่มีตัวตน แต่แก้มแดงเป็นมะเชือเทศเลยว่ะ – เขินอ่ะดิ?
 
“พวกกูกินกันอิ่มแล้วเว่ย"
 
“เราก็กินแล้วว่ะหมอ"
 
เหลือคนเดียวที่ยังไม่ตอบครับ...
ผมมองคนที่เป็นเป้าสายตาของทุกคนตอนนี้ ก่อนจะยื่นมือไปสะกิดเขาเบาๆ จนเจ้าตัวต้องเงยหน้าขึ้นมามองผม
เคี้ยวตุ้ยๆเลย กินอะไรอีกแล้ววะน่ะ?
 
“พาไปกินข้าวหน่อยดิ"
 
“เรา?”
 
“เออ ถ้ามึงไม่พาไอ้หมอไป กูว่ามันต้องเป็นลมซบตักมึงอยู่ตรงนี้แหละ ไปๆ พามันไปหน่อย"
เพื่อนยิ้มหวานครับ ช่วยชีวิตผมตลอด
 
“เสือก!”
โห ยิ้มหวานด่าเพื่อนครับ
เพื่อนนี่ก็เถียงกลับแล้วผลักหัวยิ้มหวานด้วยอ่ะ
 
“ด่ากู? เดี๋ยวตีปากเลย!”
 
 
“ตีดิ กูฟ้องเฮีย ให้เฮียตีมึงกลับ!”
 
เถียงกันเป็นเด็กเลยครับ เป็นการด่ากันกูๆมึงๆที่ง้องแง้งน่าดู
ก่อนที่ยิ้มหวานจะต้องลุกขึ้น ด้วยแรงผลักของเพื่อนคนเดิม จนมายืนอยู่ข้างผม
 
“หมอเอามันไปเลย"
 
"ได้เลย” ผมรับคำ แล้วคุยกับเพื่อนตัวเองต่อ "กูไปกินข้าวนะมึง กินเสร็จแล้วไลน์หา"
 
พูดจบก็เอื้อมมือไปจับข้อมือยิ้มหวานเอาไว้ พร้อมกับลากให้เดินตาม
พอผ่านช่วงที่คนเยอะๆไป ผมก็ปล่อยข้อมือของเขา แล้วเปลี่ยนมาเป็นเดินช้าๆอยู่ข้างกันแทน
 
เราเดินกันไปโดยไม่พูดอะไรออกมา ก่อนที่ผมจะเป็นคนทำลายความเงียบนั้นซะเอง
 
“ไง – ได้ข่าวว่าโดนร้องเพลงจีบกลางเวที?”
 
เขาได้ยินแล้วหันมาทำปากยื่นใส่ ก่อนจะเอาข้อศอกจิ้มมาที่ตัวผมที่นึง แล้วพูดต่อ
 
“ไง – ได้ข่าวร้องเพลงจีบพี่บัณฑิตกลางเวทีเหรอ?”
 
นั่นไง – ว่าแล้ว!
 
“เฮ้ย คุยกันก่อน ไม่ได้ร้องให้พี่เค้าดิ ร้องให้คนแถวนี้เนี่ย"
 
“ไหน? แถวนี้มีใครอยู่ที่ไหน"
 
ยังจะต่อปากต่อคำ แล้วทำเป็นหันหน้ามองไปรอบๆด้วยครับ
หมั่นเขี้ยวเว้ย!
 
ผมเห็นท่าทางของเขาแล้วทนไม่ไหว จนยื่นแขนไปกอดคอให้เขาหยุดเดิน ก่อนจะออกแรงดึงให้ไหล่ของเขามาเกยอยู่กับช่วงอกของผม แล้วใช้มือที่ว่างอยู่จิ้มปลายนิ้วลงไปบนแก้มนิ่มซ้ำๆเป็นจังหวะตามคำพูด
 
“ร้องให้คนนี้เนี่ย คนเนี้ยย อย่าหน้ามึนใส่กันดิวะ"
 
พอเขาดิ้นนิดนึงผมก็ปล่อยแล้วครับ
หันมาอีกทีก็เห็นเด็กเอามือลูบแก้มตัวเองแล้วทำหน้ายุ่ง พร้อมกับบ่น
 
“เจ็บ...”
 
“ดีแล้ว จะได้เลิกทำตัวหน้ามึนสักที...”
 
“...”
 
“เรื่องพี่เค้าอ่ะ เราก็เคยชอบเขาจริงๆนั่นแหละ ช่วงอายุสิบสี่สิบห้ามั้ง แต่ตอนนี้ก็ไม่รู้สึกอะไรแล้วนะเว่ย"
 
“....”
 
“มีคนที่ชอบแล้ว – เดินอยู่ข้างๆเนี่ย"
 
ผมพูดพลางยกมือขึ้นแล้ววางแปะลงไปบนหัวของ คนที่เดินอยู่ข้างๆ เพื่อย้ำว่าที่พูดเนี่ย หมายถึงใคร
ก่อนจะก้มหน้าลงไปส่งยิ้มให้เขาอีกที
 
แล้วหัวใจของผมมันก็ต้องกระโดดผิดจังหวะอีกครั้ง เมื่อเจ้าของใบหน้าที่อยู่ในสายตาของผมค่อยๆยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มเขินๆ ก่อนจะดึงมือผมที่วางแปะอยู่ออก
 
ตอนนั้นเองที่ผมกุมมือเขากลับแบบหลวมๆ แล้วถามออกมา
 
“เดินจูงมือได้ป่ะ?”
 
“จับไปแล้ว – ยังจะถามอีก?”
 
“จับไปแล้ว ยังจะถามอีก...” ผมทวนคำพูดของเขา ก่อนจะขมวดคิ้วเหมือนกำลังใช้ความคิด แล้วพูดต่อเสร็จสรรพ
 
"แปลความหมายละ หมายถึง ได้"
 
เขาถอนหายใจรับคำพูดของผม มันดูเหมือนจะแย่
แต่เมื่อผมมองใบที่ใบหน้าของเขาแล้วพบว่ารอยยิ้มเอกลักษณ์ของเจ้าตัวยังคงมีให้เห็นอยู่
ความคิดของผมก็เปลี่ยนไป
 
มันดีเกินจริง ต่างหากล่ะ
 
 
 
tbc
 


- - - -


ขอบคุณค่ะ ^ ^

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [08] <26.05.15> page 11
«ตอบ #325 เมื่อ26-05-2015 13:15:42 »

ละลายยยยยย

แต่ว่านะ อดีตคืออดีต ตอนนี้อย่าไปใจเต้นก็พอแล้ว :)


ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [08] <26.05.15> page 11
«ตอบ #326 เมื่อ26-05-2015 13:21:20 »

เขิลลลลลล

มันดีเกินจริงจริงๆ ด้วย
 :hao5:

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [08] <26.05.15> page 11
«ตอบ #327 เมื่อ26-05-2015 13:29:05 »

อะไรๆก็ดี เขินนนนน

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [08] <26.05.15> page 11
«ตอบ #328 เมื่อ26-05-2015 13:29:09 »

อ๊าคคคคคคคคคคค หมอกับยิ้มหวานน่าร๊ากกกกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ sirikanda28

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1758
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-3
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [08] <26.05.15> page 11
«ตอบ #329 เมื่อ26-05-2015 13:40:23 »

ฟินตายแล้วอ่ะ :heaven

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด