-THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [แจ้งข่าวหน้า 56 ค่ะ] <14.03.16>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [แจ้งข่าวหน้า 56 ค่ะ] <14.03.16>  (อ่าน 707248 ครั้ง)

ออฟไลน์ zleep

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-4
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [09] <08.06.15> page 14
«ตอบ #480 เมื่อ27-06-2015 17:34:21 »

หมอขยันจีบมาก โอ้ยเขินอะ
หื้อ แล้วเวลาหมอจีบมันดูอบอุ่นแปลกๆ

ออฟไลน์ Babelilong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • Facebook  เข้ามาขอเป็นเพือนได้เลย
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [09] <08.06.15> page 14
«ตอบ #481 เมื่อ28-06-2015 20:36:44 »

รอนานมากกกกกกกกกกกก

มาเถ๊อะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ


 :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ kipuuu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [10] <29.06.15> page 17
«ตอบ #482 เมื่อ29-06-2015 01:14:52 »


กรี้ดกร้าดในทวิตฝากติดแทค #ยิ้มหวานของหมอ นะคะ
แอบมีเพลงอ่ะ  : ) minute of love - Super Baker



[10]




ตอนนี้เวลาหกโมงครึ่ง....
ผมเพิ่งเลิกเรียน และกำลังเดินลากขาเหมือนหุ่นยนต์ที่แบตกำลังจะหมดออกมาจากตึก

ทันทีที่รู้สึกถึงอากาศปลอดโปร่งนอกอาคาร ผมก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
เพิ่งจะรู้ว่าห้องเรียนมันอุดอู้แค่ไหนก็ตอนที่ได้กลิ่นฝนที่เพิ่งซาไปแบบนี้นี่แหละ

ก่อนที่ไอ้เบอร์1มันจะเดินตามมา แล้วฟาดไหล่ผมดังปั่ก!
"หิวชิบ! หาไรแดกกัน"
มึงหิว แล้วจำเป็นมั้ยที่ต้องมาฟาดกูเต็มแรง?

สักพักเสียงบ่นยาวๆก็ดังมาจากไอ้เบอร์2ที่ยืนถัดไป
"เหนื่อยชิบหาย! แขนขากูนี่แทบหลุดออกจากตัว หัวสมองแตกโพล๊ะเป็นโกโก้ครั้นช์!"

“มุกควาย บึ้มเป็นโกโก้ครั้นอะไรนี่เลิกเล่นเหอะสัด ฝืด"
ไอ้เบอร์ 1 บ่นต่อพลางหาวออกมายกใหญ่ แล้วทรุดตัวลงนั่งยองๆลงกับพื้น

ทั้งหมดนี้มีสาเหตุมาจากการที่พวกผมต้องเรียนหนังสือกันตั้งแต่แปดโมงเช้า ได้พักเที่ยงแค่ครึ่งชั่วโมง ก่อนจะเรียนต่อจนมาถึงตอนนี้

 "มึงอ่ะ นัดยิ้มไว้ป่ะ?"

ยิ้มพ่อง -_-
จากที่แรกๆพวกมันเรียกเขาตามผมว่ายิ้มหวาน ตอนนี้มีชื่อเล่นให้แล้วครับ
'ยิ้ม' คำเดียว สั้นๆ จบ
 เพื่อนเล่นมึงรึไง?

"ว่าจะแวะไปว่ะ พวกมึงแดกไรกันอ่ะ?"

"สเต็กกก กูอยากกินสเต็ก!"
ไอ้โคนันที่เพิ่งเดินตามออกมายืนเอาหัวพิงเสา แล้วตอบกลับมาด้วยความเหม่อลอย
ไอ้นี่อาการหนักสุดครับ เพราะมันตั้งใจเรียนอย่างจดจ่อทั้งวันเลยจริงๆ พวกผมนี่ถ้าขี้เกียจก็หลับบ้าง เหม่อบ้าง  แอบเล่นมือถือบ้าง แต่ไอ้โคนันไม่มีเลยครับ

ดีขนาดนี้ แต่ยังโสดนะครับ
ใครสนใจฝากเบอร์ไว้ดิ - _ -

ผมมองพวกเพื่อนๆอีกรอบ แล้วถอนหายใจกับพวกว่าที่นายแพทย์ในอนาคต

"พวกมึงไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวกูตามไป แวะไปหายิ้มหวานที่คณะก่อนแป้บนึง"

พูดจบผมก็เดินแยกจากพวกมันมา ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ แล้วตัดสินใจโทรหาเขาแทนที่จะไลน์ไปอย่างทุกที เผื่อตอนนี้เจ้าตัวไม่อยู่ที่คณะแล้ว ผมจะได้ไปที่ร้านสเต็กพร้อมไอ้พวกสามคนนั้นเลย
รอสายอยู่ไม่นาน เขาก็รับ...

"ไงหมอ~"
มาแค่เสียงยังน่ารักเลยเว้ย

"หวัดดี เพิ่งเรียนเสร็จว่ะ"

"ฮึ? โทรมาบอกกันเนี่ยนะ?"
เออนั่นดิ จะบอกเขาทำไมวะ?

"ไม่มีอะไร จะถามว่าอยู่ไหน ถามได้ปะล่ะ?"

เขาหัวเราะรับนิดๆ ก่อนจะตอบผมกลับมา
"ได้ดิ เราอยู่ตึกคณะ ยังนั่งทำงานอยู่ที่เดิมเลย...."

พูดจบเขาก็หาวใส่โทรศัพท์มาทีนึง แทนคำตอบ ง่วงมากสินะ
ไหวมั้ยเนี่ย?

"ง่วงอ่ะดิ กินข้าวยัง กาแฟมั้ย?"

"ถามเยอะจัง ง่วง เราหลับอยู่ เพิ่งตื่น ยังไม่กินข้าว อยากกินกาแฟนิดนึง"

น้ำเสียงสดใสของเขาไล่่ตอบผมทีละคำถามอย่างน่ารัก จนผมยังหลุดยิ้ม แล้วเอาเท้าเตะต้นไม้แถวนั้นเล่นแก้เขิน

"อืม งั้นเดี๋ยวไปหา"

"ฮึ? มาหาเรา?"

"ใช่อะดิ จะให้ไปหาใคร?"

พูดจบผมก็ยิ้มออกมา ยิ่งเขาเงียบ ผมก็ยิ่งยิ้ม  จนกระทั่งได้ยินเสียงเจ้าตัวตอบกลับมาแบบลากเสียงนิดหน่อย

"อื้อ~~"

"จะกินอะไรก็ไลน์มาบอกนะ ถามเพื่อนด้วยจะได้ซื้อไปทีเดียว"

"โอเค เก็บตังเราด้วย ห้ามเลี้ยงล่ะ"

พูดจบเขาก็รีบตัดสายไป หลังจากนั้นไม่นานไลน์ผมก็เด้งพร้อมกับรายการของกินยาวเหยียดที่เขาส่งมา พร้อมคำสั่งปิดท้าย

*อย่าลืม!!!
*ห้ามเลี้ยงนะ เก็บใบเสร็จมาให้เราด้วย
 *^ ^


ผมส่งสติ๊กเกอร์โอเคกลับไป ก่อนจะเดินไปเซเว่นสาขาที่ใกล้ที่สุด แล้วซื้อของเยอะแยะมากมายตามที่เขาสั่ง และกลับมาเอารถเพื่อขับไปที่คณะของเขา

เพราะวันนี้ต้องเข้าเรียนเช้ากว่าปกติ แถมยังต้องเรียนหนักทั้งวัน ผมเลยตัดสินใจขับรถมา
รู้เลยว่า กว่าจะเรียนเสร็จก็คงไม่มีแรงจะไปเบียดกับใครในรถไฟ้าอีก

มาถึงหน้าคณะเขา ผมก็จอดรถ ก่อนจะไลน์หากันอีกครั้ง

*ถึงแล้ว
*เดี๋ยวไปนั่งรอที่โต๊ะม้าหินหน้าคณะแล้วกัน


พิมพ์เสร็จผมก็หิ้วถุงก๊อบแก๊บสี่ห้าใบที่อัดแน่นไปด้วยขนมและข้าวกล่องแล้วลงไปจากรถ

พอเดินเข้าไปใกล้บริเวณที่นัดกันไว้ ผมก็เห็นว่าเขามานั่งรออยู่ก่อนแล้ว และคงจะได้ยินเสียงผมที่เดินเข้าใกล้เข้ามา เลยหันมาโบกมือให้กันพร้อมรอยยิ้ม

หัวใจผมแม่ง สะดุดผิดจังหวะอีกครั้งอย่างไม่รู้จักเบื่อ ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้เขา วางถุงทั้งหมดลงบนโต๊ะ
แล้วนั่งลงข้างๆคนที่หันหลังพิงขอบโต๊ะอยู่

"ไง...งานอีกเยอะป่ะ?"

เขาหันมายิ้มให้ผมนิดๆ ตอนนั้นเองที่ผมเห็นว่าผมเส้นเล็กๆของเขาดูยุ่งเหยิงกว่าทุกวัน แถมใบหน้าที่ดูสดใสก็ติดจะง่วงงุนเกินปกติ

"ไม่เยอะนะ แต่เราอยากรีบทำให้เสร็จวันนี้เลย เสาร์อาทิตย์นี้ไม่ได้อยู่ช่วยเพื่อนด้วยอ่ะ"

"อ่าว ไปไหน?"

"ไปเขาใหญ่ ไปกับที่บ้าน – เอ้อ! เสาร์นี้ผมเบี้ยวนัดด้วยนะครับคุณหมอ"

เขาบอกผม พร้อมกับส่งยิ้มตาสระอิมาให้

การไปนั่งร้านกาแฟด้วยกันทุกวันเสาร์กลายเป็นนัดประจำตัวของเขาไปแล้ว...

ผมยิ้มออกมากับความคิดนั้น แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ นอกจากพยักหน้ารับรู้

อาจจะเป็นเพราะเรายังไม่มีอะไรอยากจะเล่าให้อีกฝ่ายฟัง ผมกับเขาเลยนั่งข้างกันไปเงียบๆ เขาเหยียดแขนบิดขี้เกียจ ส่วนผมก็นั่งรับลมเย็นๆ
หันมาอีกที คนข้างๆตัวผมก็เริ่มหันไปรื้อถุงก็อบแก็บที่วางอยู่ แล้วถามออกมาทั้งๆที่ไม่หันมามองกัน

"ซื้ออะไรมามั่งเนี่ย? เยอะแยะเลย"

"ก็ตามที่บอกอ่ะ"

"แล้วหมอกินไรยัง?"'

ผมหันไปมองคนถาม ยิ้มมุมปากไปให้ แล้วส่ายหน้าตอบ ก่อนจะเพิ่งสังเกตเห็นว่าผมทางด้านหลังของเขา มีส่วนนึงที่กระดกขึ้นมานิดหน่อย

เห็นอย่างนั้นผมก็ยื่นมือไป แล้วลูบให้มันกลับเข้าที่ พร้อมกับที่เขาถามออกมา

"หัวยุ่งเหรอ?"

"อือ นิดนึง"

"เมื่อกี้เราแอบหลับไง คนแถวนี้โทรมาปลุกว่ะ"

ผมเห็นคนข้างตัวพูดพลางหัวเราะออกมานิดหน่อย ก่อนจะหยิบขนมจีบกุ้งออกจากถุง แล้วยื่นมาตรงหน้าผม

"กินมั้ย?"

ระหว่างที่ผมกำลังงง และไม่รู้ว่าจะรับมือกับการที่มีเขามายื่นของกินให้อยู่ตรงหน้าแบบนี้ได้ยังไง
เค้ายื่นมาให้ผมรับไปกิน หรือว่ากำลังป้อน -- นั่นแหละประเด็น
มือของเขาก็ยังคงขยับเข้ามาใกล้และยืนยันจะให้ผมกินขนมจีบตรงหน้านี้ให้ได้

ผมเลื่อนสายตาจากขนมจีบไปสบตากับเขา ก่อนจะเห็นว่าคนข้างๆกำลังยักคิ้วมาให้กันอย่างน่าตี
ได้... กวนกันใช่ไหม?

"ป้อนขนมจีบให้แบบนี้นี่ -- จีบกันรึไง?"

ผมพูดจบปุ๊บ คนข้างๆก็ทำสีหน้าตกใจ ก่อนจะดึงมือกลับไป แล้วงับขนมจีบอันแรกเข้าปากไปทันที

ผมมองเขาแล้วหลุดขำ ก่อนจะจับข้อมือของเขาไว้ ดึงให้ขนมจีบที่เสียบไม้อยู่นั้นกลับมาอยู่ตรงหน้าผมอีกครั้งแล้วกัดมันเข้าไปในปาก

อดไม่ได้ที่จะยักคิ้วให้เขาสองที ระหว่างที่กำลังเคี้ยวขนมจีบอุ่นๆไปด้วย

หลังจากผมปล่อยข้อมือของเขาเป็นอิสระ ใบหน้าอันสมบูรณ์แบบของเขามุ่ยเข้า ก่อนจะจ้องหน้าผมกับสายตาเอาเรื่ิอง

"ที่เหลือเราไม่แบ่งแล้ว ไม่ต้องมามองหน้าเลย"

"ตามใจ~"

คำตอบของผมทำให้ ริมฝีปากเล็กๆยื่นออกมาอย่างน่าเอ็นดู ก่อนจะเอ่ยถามคำถามไปอีกเรื่องหนึ่ง

"มัวแต่แกล้งคนอื่น ถามก็ไม่ตอบ กินอะไรมายัง?"

คำถามของเขาทำให้ผมหลุดยิ้ม เพราะความห่วงใยที่เจืออยู่ในนั้น ก่อนจะตอบกลับไป

"ยััง"

"แล้วทำไมไม่ซื้ออะไรมากินอ่ะ"

"เดี๋ยวต้องไปกินข้าวกับไอ้พวกนั้นอ่ะดิ"

"อ้าว! แล้วทำไมไม่รีบไป เพื่อนรอแล้วมั้ง"

"ดูคนกินขนมจีบอยู่เนี่ย"

"บ้าดิ มานั่งดูเรากินทำไม ไปหาเพื่อนได้แล้ว"

พูดจบเขาก็หันมา แล้วยกมือขึ้นตีต้นแขนผมทีนึง แล้วออกแรงดันที่ไหล่ผม เหมือนจะเร่งให้ลุกขึ้นยืน

"โอเคๆ ไปก็ได้"

พูดจบผมก็ยอมลุกขึ้นยืน ดึงเสื้อนักศึกษาที่ยับยู่ยี่ให้เข้าที่ ก่อนจะเห็นคนข้างๆตัวลุกขึ้นเหมือนกัน

ผมมองยิ้มหวานที่กำลังทำหน้าจริงจัง พยายามรวบถือถุงใส่ของเอาไว้ให้หมด ก่อนจะยื่นมือไปขยี้เส้นผมสั้นๆของเขาให้ยุ่งเหยิงไม่ต่างจากตอนแรก

ผมมองคนที่หน้ามุ่ย ผมยุ่ง แถมยังถือถุงก๊อบแก๊บเต็ม2มือแล้วยิ้มออก
สิ่งที่ผมคิดอยู่ในใจตอนนี้ก็คือ -- ไม่ว่าเขาจะเป็นยังไง อยู่ในสภาพแบบไหน ทำไมเขาถึงได้ดูน่ารักอยู่ตลอดเวลาอย่างนี้นะ? ผมเองก็ไม่เข้าใจ...

"ไปแล้ว ตั้งใจทำงานนะ เอารถมาปะ? ให้มารับมั้ย?"

"ถามเยอะอีกละ ไม่ต้องหรอก เรากลับเองได้" ^ ^

"อืม เดี๋ยวถึงบ้านแล้วไลน์หา ตั้งใจทำงาน สู้ๆ"

ผมได้รับรอยยิ้มจากเขาแทนคำพูดรับปากว่าจะตั้งใจทำงาน ก่อนจะเดินผละออกมา

เดินออกมาได้สองสามก้าว อยู่ดีๆผมก็หยุดฝีเท้าลง ก่อนจะมองกลับไป เพื่อที่จะเห็นว่า ใครอีกคนที่กำลังจะเดินเข้าไปในตึกคณะก็บังเอิญหยุดเดินและมองกลับมาที่ผมพอดี

ผมยกมือขึ้น โบกมือให้เขา ก่อนที่เขาจะย้ายของที่ถืออยู่ด้วยมือ2ข้างไปไว้ที่มือซ้ายแล้วโบกมือกลับมา ก่อนจะหันหลังเดินเข้าตึกไป

ผมมองแผ่นหลังได้รูปที่ห่างออกไปแล้วหลุดยิ้มกับเรื่องที่เพิ่งนึกขึ้นมาได้...

ครั้งแรกที่ผมเห็นเขาก็คือตอนที่เขายืนอยู่ตรงนั้น

จริงๆต้องใช้คำว่า 'ครั้งแรกที่ในหัวสมองของผมบันทึกภาพของเขาเอาไว้' ถึงจะใช่มากกว่า

นักแต่งเพลงคนหนึ่งเคยให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องวินาทีหนึ่งที่ทำให้คนแปลกหน้า 2 คนจดจำกันได้...
ผมก็จำคำพูดของเขาไม่ได้หรอกว่า เค้าพูดว่าอะไร แต่ใจความรวมๆก็มันประมาณว่า

คุณเคยสงสัยไหมว่า วินาทีไหนที่คน2คนไม่ได้เป็นคนที่เดินผ่านกันอีกต่อไป
แต่กลายเป็นคนที่เห็นกันและกันในสายตา

ความสงสัยนั้นทำให้เขาเขียนเพลงที่ชื่อว่า minute of love ขึ้นมา

และ วินาทีนั้นของผมเกิดขึ้นที่หน้าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ในบ่ายวันหนึ่ง
วันที่ผมเห็นยิ้มหวานในสายตาเป็นครั้งแรก...

ตลอดระยะเวลาปีกว่าในมหาวิทยาลัย ผมอาจจะเคยเดินสวนกับเขาเป็นสิบครั้ง ยี่สิบครั้ง สามสิบครั้งหรือมากกว่านั้น ผมไม่เคยรู้ เพราะสายตาผมก็แค่มอง -- แต่ไม่ได้เห็น

ผมไม่เคยบันทึกภาพของเขาเอาไว้ในหัวสมอง แค่ยอมให้เขาผ่านตาเข้ามา แล้วก็ปล่อยให้ผ่านออกไปเหมือนใครอีกหลายคนที่บังเอิญเดินสวนกับผมเช่นกัน

ใครจะไปรู้...ในครั้งที่หนึ่งร้อย หรืออาจจะมากกว่านั้น...
อยู่ดีๆสมองของผมก็บันทึกภาพของเขาคนนี้เอาไว้ แล้วส่งตรงไปที่หัวใจในทันที

วันนั้นผมโดนเพื่อนที่คณะลากมาโปรโมทกิจกรรมตรงพื้นที่ว่างหน้าคณะของเขา
เพียงเพราะว่าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์อยู่ติดประตูใหญ่จึงมีคนผ่านไปผ่านมาเป็นจำนวนมาก

ตอนนั้นผมกำลังนั่งอู้อยู่กับไอ้เพื่อนเวรสามคนนี้แหละ
ไอ้เบอร์1มันกำลังทายคำถามเรื่อง

'สัตว์อะไรไม่ได้ดอกไม้วันวาเลนไทน์'

ผมฟังคำถามของมันผ่านๆ แล้วถอนหายใจกับคำตอบที่ว่า 'สัดเอ้ย กูนี่แหละ'
ก่อนจะตัดสินใจเบนสายตามองบรรยากาศร่มรื่นรอบตัว เพียงเพราะอยากจะหนีจากมลพิษทางบุคคลที่ยังคงถามคำถามแนว 'สัตว์อะไร...' ของมันต่อไป
ตอนนั้นเองที่สายตาของผมไปสะดุดเข้ากับใครคนหนึ่งเข้าเต็มๆ

ถ้าการ 'สะดุดตา' มันแสดงออกได้เหมือนเวลาเราเดินสะดุดก้อนหิน
วันนั้นผมคงสะดุดแรงมากจนหัวทิ่มไม่มีชิ้นดี...

ภาพในตอนนั้นที่ผมเห็นคือ มีนักศึกษาคนนึงกำลังหอบข้าวของมาเต็มสองมือแบบทุลักทุเล
 
เขาเดินมาจากอีกฝั่งนึง ข้ามถนนแคบๆ แล้วเดินใกล้เข้ามายังจุดที่พวกผมนั่งกันอยู่

ใบหน้าของเขาดูบึ้งตึง แต่แปลกดีที่สีหน้านั้นยังคงไม่ทิ้งความสดใส
เขาเข้ามาใกล้พวกผมมากขึ้นอีกนิด ก่อนจะวางของทั้งหมดลงบนโต๊ะม้าหินที่อยู่ถัดไปสักสามสี่ตัว

พอได้วางของทั้งหมดลง เขาก็ถอนหายใจ ใช้หลังมือปาดเหงื่อ และทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้
พร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงออกมา ผมเดาเอาว่าเขาน่าจะกำลังโทรตามใครสักคน
 ริมฝีปากเรื่อสีตามธรรมชาตินั้นขยับบ่นไม่หยุดจนผมที่นั่งมองอยู่ยังต้องกลั้นขำ

 "มึง..."

 "...."

"คุณมึงครับ!!!!!"

และตอนนั้นเองที่เสียงเรียกดังๆพร้อมกับแรงตบหนักๆจะฟาดลงมาบนหัวของผมเต็มๆโดยฝีมือไอ้เบอร์ 1 คนเดิม เพิ่มเติมเดี๋ยวบอก
ผมหันไปมองไอ้เพื่อนสามคนที่มองมาที่ผมเป็นตาเดียว ก่อนจะเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่า พวกมันมีธุระอะไร?

"ไม่ต้องมาหน้าเหวอไอ้สัด!"

"อ่าว เหี้ยนี่! ก็อยู่ดีๆมึงมาฟาดหัวกู กูจะไม่เหวอได้ไงวะ"

"กูเรียกมึงหลายครั้งแล้วมั้ยล่ะ"

"อ่าวเหรอ โทษๆ กูไม่ได้ยินจริงๆ"

ผมไม่ได้เว่อนะเว้ย
ไม่ได้ยินมันเรียกจริงๆเหอะ -_-

"เออกูเชื่อ – มึงเป็นเหี้ยไร นั่งยิ้มลำพังหัวเราะลำพังสดชื่นกว่าทักครั้งที่ผ่านมา..."

"..."
ตลกมากมั้ยสัด?

"เมาเห็ดเหรอ?"

เห็ดหน้ามึงสิ -_-

"นั่นสิ..."

พูดออกมาแค่นั้น...ก่อนไอ้โคนันก็ดึงสายตากลับไปยังที่ๆเขาเคยยืนอยู่ ผมเองก็มองตามมัน ก่อนจะเห็นแค่แผ่นหลังของเขา ท่ามกลางเพื่อนๆอีกสองสามคนกำลังช่วยกันถือของเดินเข้าตึกไป

ริมฝีปากผมกดยิ้มโดยอัตโนมัติ ตอนที่เขาหันไปพูดกับเพื่อนด้วยสีหน้ามุ่ยๆอีกครั้ง เหมือนกำลังบ่นเรื่องลมฟ้าอากาศ

"เมาเห็ดพ่อง กูง่วงเลยเหม่อๆ"

"อ๋อเหรอ -- เห็นมึงเหม่อชิบ ก็นึกว่าแอบมองใคร"

ไอ้สัดโคนัน แว่นมึงนี่ซ่อนสมองกลไว้ใช่มั้ย ถึงได้รู้ทุกเรื่อง

"ไม่ได้มองใครเว่ย แค่กูเห็นเด็กถาปัตย์ตรงนั้นท่าทางวุ่นวายชิบ กูก็ดูเฉยๆ"

"คร้าบ...แถได้แถไป อย่าให้กูรู้นะ จะด่าให้มึงกลายเป็นตัวเหี้ยเลย"

ผมไม่ต่อปากต่อคำกับพวกมันอีก แต่ตอบกลับไปด้วยการยักคิ้วทีนึงพร้อมกับยิ้มมุมปาก
การกระทำนั้นทำให้ผมโดนพวกมันโบกกบาลไปอีกคนละที

หลังจากนั้นไม่นานช่วงเวลาแห่งการอู้งานก็จบลง พวกผมโดนประธานรุ่นลากออกไปยืนที่บูธโปรโมท เพราะมีกลุ่มเด็กม.ต้นมาถามหา

ผมโดนเด็กๆรุมล้อมรอบตัวเหมือนที่โดนอยู่บ่อยครั้ง แต่รอบนี้แปลกไป เพราะอยู่ดีๆก็มีสมุดโน้ตเล่มเล็กๆยื่นมาตรงหน้าพร้อมกับปากกาเมจิกสีดำ

ผมเลิกคิ้วมองสมุดเล่มนั้น ก่อนจะมองเลยไปยังเจ้าของมือเล็กๆที่ถือสมุดอยู่ แล้วพูดออกมาเมื่อสบตากับผมเข้า

"ขอลายเซ็นพี่หมอหน่อยค่ะ"

".....?"

"คือ...หนูขอลายเซ็นพี่หน่อย ได้ไหมคะ"

เขาดูประหม่ามากครับ แต่ผมเองก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก -_-

"ไม่มีลายเซ็นอ่ะดิ"

ผมตอบไปตามตรง ไม่ได้กวนตีนนะ แต่ผมไม่มีสายเซ็นจริงๆ พูดจบก็ได้ยินเสียงร้อง 'โหยย' แฝงความรู้สึกเสียดายดังขึ้นมาจากกลุ่มตรงหน้า จนผมต้องย้ำอีกครั้ง

"เห้ย ไม่มีลายเซ็นจริงๆ ไม่ได้แกล้งด้วย"

แต่น้องเค้าก็ยังไม่หมดหวัง...

"งั้นพี่เขียนชื่อให้หนูเฉยๆก็ได้ค่ะ"

"เอางั้นเลย?"

"ค่ะ!"

ได้ยินอย่างนั้นผมก็เขียนชื่อตัวเองลงไปบนกระดาษแล้วพบว่า
...มันช่างไม่มีอะไรสิ้นดี

ถ้าน้องเอากระดาษที่ผมเขียนชื่อไว้วางทิ้งเอาไว้ที่บ้าน ผมว่ามันอาจจะโดนใครหยิบไปเช็ดขี้หมาเอาง่ายๆ  เพราะแบบนั้นผมก็เลยเขียนต่อท้ายไปให้น้องเค้าสั้นๆว่า 'ตั้งใจเรียนด้วย'

เขียนเสร็จปุ๊บ เสียงฮือฮาของพวกเด็กๆที่ดังขึ้นมาข้างตัวก็เรียกให้ผมหันไปมอง ก่อนจะเห็นว่าพวกน้องๆบางคนที่เคยยืนอยู่ใกล้ๆผมกำลังวิ่งไปหาใครบางคน

และเมื่อผมมองไป...ก็เห็นว่าเขาอยู่ตรงนั้น
คนที่เพิ่งเดินเข้าไปในตึกเมื่อครู่เดินกลับออกมาอีกรอบ ถ้าไม่ลืมของก็คงจะออกมาซื้ออะไรสักอย่าง แต่การที่เขาเดินกลับออกมานั้นสร้างความฮือฮาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

เด็กผมเปียตรงหน้าผมพูดชื่อของเขาออกมา ตามด้วยคณะที่เรียนอย่างตื่นเต้น ดูท่าทางแล้วก็พร้อมจะทิ้งผมไปหาเขาอีกคนนึงเหมือนกัน

ผมมองใบหน้าสดใสของคนที่คุยหัวเราะอย่างเป็นธรรมชาติกับกลุ่มเด็กนักเรียนที่พุ่งตรงมารุมล้อมแล้วก็เผลอยิ้มตาม ก่อนจะรีบดึงความสนใจกลับมายังสมุดเล่มเล็กในมือตัวเอง

ผมเงยหน้าขึ้นไปสบตากับเด็กสาวผมเปียที่มองสิ่งที่ผมกำลังเขียนอยู่อย่างมีความหวัง

ก่อนนิ้วมือที่กำลังควงปากกาอยู่จะหยุดลง ผมจับปากกาให้ถนัดมือ แล้วจุดจุดเล็กๆลงไป 2 จุด ตามด้วยการวาดเส้นโค้งอีก1เส้นต่อท้าย

ทักษะการวาดภาพของผมย่ำแย่เต็มทน แต่รูปที่วาดลงไปก็ยังพอดูออกอยู่ว่าเป็นสัญลักษณ์หน้ายิ้ม : )

"มึงๆ เดี๋ยวไปถ่ายรูปกับอาจารย์หน่อย"

เสียงเรียกจากเพื่อนร่วมรุ่นทำให้ผมต้องหันไปมองก่อนจะพยักหน้ารับ
ได้ยินอย่างนั้น ผมก็รีบคืนสมุดโน้ตเล่มนั้นไปให้เด็กผู้หญิงตรงหน้า เขาขอบคุณผมยกใหญ่ทั้งๆที่สิ่งที่ผมทำให้เขามันเล็กน้อยเต็มที ซึ่งนั่นก็ทำให้รีบตอบเจ้าตัวกลับไปว่าไม่เป็นไร ก่อนที่น้องเขาจะเดินผละไปจากผม
พอมองตามทิศทางที่เด็กผู้หญิงตรงหน้าผมกำลังเดินไป ก็เห็นว่ามีใครอีกคนยังคงโดนเด็กๆรุมล้อมอยู่อย่างเดิม

"มึงเร็ว อาจารย์รอ"

เสียงเรียกที่ดังตามมาอีกครั้งทำให้ผมต้องจำใจละสายตาออกมา ก่อนจะตอบรับไปสั้นๆโดยไม่หันไปมองหน้ามัน

"กูผูกเชือกรองเท้าแป้บนึง"

พูดจบผมก็ก้มลง ดึงเชือกรองเท้าที่คลายออกมาแค่นิดเดียวเท่านั้นให้แน่นเข้า โดยที่ในสายตายังคงเห็นภาพของเขาพร้อมรอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าอย่างชัดเจน

แล้วอยู่ดีๆเขาหัวเราะออกมาอย่างสดใส รอยยิ้มเจือเสียงหัวเราะของเขาทำให้ผมเผลอตั้งชื่อให้เขาไปแล้วในใจ

...ยิ้มหวาน



 - - - - - - 



[มีต่อนะคะ ^^]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-06-2015 03:26:59 โดย kipuuu »

ออฟไลน์ kipuuu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [10] <29.06.15> page 17
«ตอบ #483 เมื่อ29-06-2015 01:15:27 »

ผมฉวยโอกาสนอนตื่นสายในวันเสาร์ที่ไม่ต้องออกไปเจอยิ้มหวานเหมือนทุกที แล้วขอให้พ่อช่วยไปส่งน้องสาวผมแทน

หลังจากหลับๆตื่นๆอยู่หลายครั้ง ในที่สุดผมก็ลุกขึ้นจากที่นอนตอน 11 โมงกว่า และตัดสินใจเริ่มวันหยุดด้วยการคว้ามือถือที่หัวเตียงใส่กระเป๋าหลังกางเกงบาสตัวเก่าที่ใส่อยู่ แล้วลงไปหาอะไรกินเป็นอย่างแรก

สภาพลูกชายที่ยังคงอยู่ในชุดนอนตอนใกล้เที่ยง ทำเอาแม่ผมละสายตาจากโทรทัศน์ตรงหน้าแล้วหันมามอง ก่อนจะส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้ม

"กำลังคิดอยู่เชียว ว่าถ้าน้องกลับมาแล้วลูกชายแม่ยังไม่ลงมาให้เห็นหน้า แม่จะให้พ่อเค้าลากขึ้นรถไปฉีดยาเล่นสักเข็มสองเข็ม"

"โถ่แม่ แค่นอนเฉยๆ ยังไม่ตาย"

ผมพูดเจือเสียงหัวเราะก่อนจะเดินเลยเข้ามาในห้องครัว แล้วพบว่าแม่แบ่งข้าวต้มที่เป็นมื้อเช้าไว้ให้ผม 1 ถ้วยใหญ่ๆ

"แม่ -- ข้าวต้มตรงนี้กินมั้ยครับ"

ก่อนอื่นต้องตะโกนถามคุณนายเธอก่อน...

"ของเรานั่นแหละ แม่แบ่งไว้ให้ รู้ว่าตื่นมาต้องร้องหาของกินก่อนเป็นอย่างแรกอยู่แล้ว"'

ผมยิ้มรับคำตอบพร้อมกับเลื่อนเก้าอี้ออก นั่งลงปุ๊บก็ตักข้าวต้มเข้าปากทันที ก่อนจะเห็นว่าแม่ของผมลุกขึ้นแล้วเดินตรงมาทางนี้ มาถึงก็ฟาดฝ่ามือลงบนไหล่ผมด้วยแรงไม่เบาเลย

 "ลูกคนนี้นี่! ทำไมกินแบบเย็นๆชืดๆแบบนี้ล่ะฮึ?"

"โถ่ ก็กินได้อยู่นะแม่"

ปากของผมเถียง แต่มือยกช้อนขึ้นมาคาบเอาไว้ ปล่อยให้มือนุ่มๆของแม่หยิบข้าวต้มถ้วยใหญ่ตรงหน้าไปอุ่นในไมโครเวฟ ผมได้แต่มองตามภาพนั้นก่อนจะยิ้มออกมา

"รอจนไม่โครเวฟมันร้องเตือนแล้วค่อยหยิบถ้วยออกมานะสุดหล่อ อย่าลืมใส่ถุงมือด้วยล่ะ มันร้อน"

"ครับ~ สุดสวย"

คำตอบของผมได้รับแววตาค้อนจากแม่กลับมาก่อนที่ผมจะหยิบโทรศัพท์
ที่หย่อนไว้ในกระเป๋ากางเกงมาปลดล็อคหน้าจอ

เด็กหนีเที่ยวเป็นไงบ้างเนี่ย?

มุมปากที่ไม่ค่อยชอบขยับของผมยกยิ้มขึ้นมาโดยอัตโนมัติเมื่อเห็นข้อความสั้นๆที่เขาพิมพ์ทิ้งเอาไว้ในไลน์ ตอนตีห้ากว่าๆ

*ง่วงว่ะ

เมื่อคืนเจ้าตัวก็บ่นอยู่ครับ ว่าต้องออกเดินทางตั้งแต่เช้า เพราะคุณพ่อของเขามีประชุมที่นั้นตอน 9 โมงตรง

*เพิ่งตื่นเนี่ย
*กินข้าวแป้บ


พิมพ์เสร็จผมก็วางมือถือลง เพราะได้ยินเสียงเตือนดังจากไมโครเวฟพอดี

นั่งกินข้าวต้มเงียบๆไปได้สักพัก เสียงเตือนข้อความเข้าของผมก็ดังรัวๆ พอกดเข้าไปดูผมก็เห็นรูปถ่ายของกินชุดใหญ่ถูกส่งมา ก่อนจะปิดท้ายด้วยสติ๊กเกอร์บราวน์กำลังทำกับข้าว

 น่าจะเป็นอาหารเช้าในโรงแรมที่เขาพักล่ะมั้ง
 
*ต้องอิจฉาใช่มั้ย ?

*นิดนึงก็ดีนะ
*คนเค้าอุตส่าห์อวด

* อิจฉานะเนี่ย
* -_-


*โหยยย หมอ!
*อิจฉาแบบนี้ไม่ต้องก็ได้เหอะ
*ทำไมเพิ่งตื่นอ่ะ
*ไม่ไปไหนเหรอ

*จะให้ไปไหน?

 *ก็ที่ๆไปอยู่ประจำดิ

*คนที่ไปรอเจอเค้าไม่อยู่
*ไปก็ไม่มีใครให้แอบดู
*ไม่ไปดีกว่า



ผมใช้โอกาสนี้สารภาพความจริงไปในตัว
ว่าแอบมองเขามาตั้งนานแล้ว


พิมพ์ข้อความส่งไปเรียบร้อย ก็ได้แต่ยิ้มถูกใจ ก่อนจะวางมือถือคว่ำลง แล้วตั้งใจกินข้าวต้มตรงหน้า ด้วยความที่รู้ว่า ถ้าแม่มาเห็นผมกินข้าวไปด้วยเล่นมือถือไปด้วยนี่ต้องโดนบ่นแน่ๆ ยังดีที่อีกยิ้มหวานยังไม่ตอบอะไรกลับมาตอนนี้

ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ผมก็จัดการมือเช้าตอนใกล้ๆเที่ยงเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะเดินกลับขึ้นห้อง ด้วยความตั้งใจว่าจะขึ้นมาอาบน้ำ

แต่พอเข้ามาในห้องนอนปุ๊บ เสียงเตือนว่ามีข้อความตอบกลับจากเขาก็ทำให้ทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงแล้วเปิดอ่าน

*จีบกันอีกแล้วนะ

คำตอบของเขาเรียกรอยยิ้มจากผมได้ไม่ยาก ระหว่างนั้นสมองก็ใช้ความคิด
ว่าควรจะตอบเขาไปว่าอย่างไรดี

*ไม่อยากโดนจีบ
*ก็จีบก่อนมั่งดิ


พิมพ์ไปปุ๊บ ก็มีข้อความเด้งกลับมาปั๊บ

*บ้าา
*เดี๋ยวบล๊อกไลน์เลย

*55555555555
*ตอบเร็วว่ะ
*ไม่ไปเที่ยวเหรอ?


*อือ นอนง่วงอยู่ที่โรงแรมเนี่ย โดนแม่กับพี่ทิ้งไว้แล้วหนีไปสปา
*รอพ่อคุยงานเสร็จ เย็นๆคงได้ไปมั้ง
*ไม่เหมือนมาเที่ยวเลย เหมือนมาเป็นเพื่อนพ่อทำงานมากกว่า


เจ้าตัวบ่นมาซะยาวเหยียดแสดงว่าคงเบื่อน่าดู แต่ก็ไม่อยากขัดใจที่บ้าน

*เหอะน่า
*คิดว่าออกจากกรุงเทพไปสูดอาการบริสุทธิ์บ้างไง


*ก็คิดแบบนั้นอยู่นะ
*มาสูดอากาศบริสุทธิ์บ้างก็ดีจริงๆนั่นแหละ
* ^ ^

*โทรหานะ


ผมพิมพ์ไปแค่นั้น ก่อนจะรอจนกระทั่งตัวหนังสือขึ้นเตือนว่าเขาได้อ่านข้อความเรียบร้อยแล้วปรากฎขึ้นมา ผมถึงโทรหาเขา

 น้ำเสียงเอื่อยๆที่รับโทรศัพท์ทำเอาผมหลุดยิ้ม

"ฮื้อ?"

"จะหลับแล้วป่ะเนี่ย?"

"ยัง แต่ก็นอนอยู่อ่ะ"

"อะฮะ ไม่รู้จะคุยอะไรว่ะ"

"แต่ก็โทรมาเนี่ยนะ?"

"อืม..."

ผมรับคำ แล้วหัวเราะเบาๆ ก่อนที่เราจะเงียบกันไปทั้งคู่

ผมไม่ได้ยินเสียงอะไรจากปลายสาย แต่รอยยิ้มก็ยังปรากฎขึ้นมาบนใบหน้าอย่างช้าๆ
เพียงเพราะตอนนี้ผมรู้สึกได้ว่าเขาเองก็กำลังนอนฟังความเงียบนี้อยู่เหมือนกัน

สักพักเขาก็พูดออกมา

"หมอ..."

"หืม?"

"ที่พูดเมื่อกี้ พูดจริงดิ?"

"เรื่องไหน?"

"เรื่องที่บอกว่า...ไปร้านกาแฟเพราะเราอ่ะ"

"อืม...พูดจริง"

"ไม่ได้ขี้โม้ เนียนจีบเราแน่นะ?"

"จีบโจ่งแจ้งขนาดนี้ คงไม่ต้องเนียนแล้วมั้ง"

เขาหัวเราะรับคำตอบของผม ก่อนจะเงียบไปสักพัก แล้วถามต่ออีกครั้ง

“...ถามหน่อยดิ"

น้ำเสียงของเจ้าตัวดูจริงจังมากจนผมแอบขมวดคิ้วเข้าตามไปด้วย ก่อนจะตอบเขากลับไป

"ถามมาเลย"

"อืม...ทำไมถึงมาชอบเราอ่ะ"

นั่นสิ-- คำถามของเขาทำให้ผมต้องครุ่นคิด
ทำไมผมถึงชอบเขานะ?

ตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมสะดุดตากับเขาเข้าเต็มๆ
หลังจากนั้นเป็นต้นมา...เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาผ่านเข้ามาในระยะการมองเห็นของผม
ผมก็จะเอาแต่จับตามองเขาอยู่อย่างนั้น

จนกระทั่งวันหนึ่ง ความรู้สึกหวั่นไหวเล็กๆมันก็ถูกหยดลงมาที่หัวใจของผมเหมือนสีน้ำที่หยดลงในน้ำเปล่า ความรู้สึกนั้นก็ลุกลามไปทั่วอย่างรวดเร็วไม่ต่างกับการกระจายตัวของสีในน้ำใสๆ
รู้อีกที -- ผมก็ชอบเขาเข้าไปแล้วเต็มๆ

“ตอบยากว่ะ"

“ก็....เพื่อนเราบอกว่า แต่ก่อนหมอก็เป็นแฟนกับผู้หญิงอยู่ไม่ใช่เหรอ ไม่แปลกๆเหรอ ทำไมอยู่ดีๆมาจีบผู้ชายอ่ะ?”

“อืม ก็ใช่นะ แต่ก่อนเราก็คบผู้หญิงอยู่ แต่แปลกใจไหมที่อยู่ดีๆมาชอบผู้ชาย --  ก็ไม่ว่ะ คือ...ความคิดเรามันไม่ได้ปิดกั้นตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าผู้หญิงเท่านั้นที่จะดู 'น่ารัก' หรือ 'น่าเอ็นดู' ได้ อืม...ประมาณนั้นแหละ ตอบไม่ค่อยถูกเหมือนกัน”

“....”

"...กับเธอ... ตอนแรก เราก็แค่มอง มองเพราะเป็นคนที่ให้ความรู้สึกที่ดี พูดยังไงดี อืม...ประมาณว่า...บรรยากาศรอบตัวมันดี อยู่คนเดียวก็ยิ้มเก่ง ไปอยู่ใกล้ใคร ใครๆก็ยิ้มตาม เวลามองเลยเพลินดี มองไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีก็ชอบไปแล้วว่ะ อธิบายให้ชัดเจนก็ยากเหมือนกัน"

ผมพูดพลางยกมือขึ้นมาถูปลายจมูกตัวเอง รู้สึกว่านี่ขนาดไม่มีเขามาอยู่ตรงหน้า ผมยังรู้สึกเขินมากขนาดนี้
ถ้าผมพูดประโยคพวกนั้นออกไปโดยที่มีสายตาของเขาจับจ้องอยู่ ผมคงขาดใจตายอยู่ตรงนั้น

“หมอ....ทำเราเขินว่ะ"

คำพูดของเขาทำให้ผมหัวเราะรับ
ความรู้สึกขลาดเขินที่มีอยู่ลดลงไปบ้างแล้วเพราะมีคนมาร่วมแชร์มันไปครึ่งนึง
ก่อนที่ผมจะตอบกลับ

“เขินบ้างก็ดี คนที่ตามจีบอยู่เค้าจะได้มีกำลังใจ"

ผมได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักของเขาดังกลับมา แต่กลับไม่ได้รับคำตอบ
ผมเลยเป็นฝ่ายเริ่มถามขึ้นมาบ้าง

“ถามทำไมอ่ะ?”

“สงสัยดิเลยถาม ไม่สงสัยเราจะถามทำไม"

“กวนนะ เดี๋ยวเหอะ!"

เสียงหัวเราะของเขายังคงดังมาให้ผมได้ยินอยู่ไม่ขาด ระหว่างที่เราคุยกัน

“แล้ว...ยิ้มหวานรู้ตัวว่าเราชอบตอนไหน?”

“ตอนไหนเหรอ........?”
คำตอบของเขาลากเสียงยาวฟังดูไม่แน่ใจ จนผมต้องช่วยนึก

“ที่ร้านกาแฟ ตอนเราซื้อชอคโกแลตปั่นไปให้ป่ะ?”

“ไม่ใช่....” เขาตอบพลางหลุดขำ แล้วร้อง อ๋อ... เบาๆเหมือนจะนึกออกจนได้ "เรานึกออกละ"

“อะฮะ"

“ตอนที่หมอมากินข้าวที่โรงอาหารคณะเรา!"

“ฮะ? ตอนนั้นเลยเหรอ?”

“อืม... ตอนนั้นเลย"

“รู้ได้ไงวะ? เพิ่งรู้จักกันได้วันเดียวเองนะ”

"ก็... เพื่อนหมออะ อยู่ดีๆก็เดินมาหาเรา แล้วก็มาบอกกันว่า 'เธอๆ เพื่อนชอบอ่ะ' พูดแล้วก็ชี้ไปที่ใครก็ไม่รู้แหละ ที่ตอนนั้นกำลังนั่งทำหน้าเครียดๆเหมือนคนขาเป็นตะคริวอยู่ที่โต๊ะกินข้าวเลย"

พูดจบเจ้าตัวก็ขำเข้าไปใหญ่ ส่วนผมนี่ได้แต่นึกโทษไอ้ตัวต้นเรื่องอยู่ในใจ
กูว่าแล้วเชียวว่ามึงต้องไปทำอะไรเหี้ยๆเอาไว้อีก
แม่ง....

“แล้วก็เชื่อเลย นึกว่าโดนเพื่อนเราแกล้งมั่งป่ะ?”​

“อืม...จริงๆเราก็ไม่เชื่อนะ ติดจะงงๆมากกว่า มาเชื่อเต็มๆก็ตอนที่โดนถามบนรถ ตอนนั้นแหละ"

“อะฮะ...”

ผมรับคำเขาเบาๆ ก่อนจะนึกไปถึงวันที่ผมพูดออกไปกับเจ้าตัวอย่างชัดเขน ให้เขารู้ว่าผมกำลังจีบอยู่
คิดแล้วก็ต้องสบถในใจกับการกระทำของตัวเอง – แม่งทำอะไรลงไปวะ

"คุยอะไรกันเนี่ย เขินว่ะ"

เขายังคงไม่ทำอะไรมากไปกว่าหัวเราะรับคำพูดของผม ก่อนที่บทสนทนาของเราจะเปลี่ยนไปเป็นประเด็นอื่น
วันนั้นผมนั่งคุยเรื่อยเปื่อยกับเขาอยู่จนเกือบสองชั่วโมงก่อนจะวางสายไป
ซึ่งนั่นคือสถิติที่ดีที่สุดในการคุยโทรศัพท์ของผม...เท่าที่จำได้

หลังจากนั้นผมกับเขาก็ไม่ได้คุยกันอีกเลยในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา
วันต่อมาเราเพียงแค่ไลน์คุยกันนิดๆหน่อยๆเท่านั้น เพราะต่างคนก็มีเรื่องต้องทำทั้งคู่ เขาได้เที่ยวอย่างที่คิดเอาไว้ในวันนี้เอง

ส่วนผมก็โดนพวกเพื่อนชั่วลากไปอ่านหนังสือด้วยกันที่บ้านไอ้โคนัน ซึ่งผมรีบตอบตกลงในทันทีที่รู้ว่าไอ้เบอร์ 1 ก็ไป เพราะนั่นเป็นโอกาสที่ผมจะไปคิดบัญชีกับมันโดยเร็วที่สุด สำหรับความเหี้ยที่แม่งทำเอาไว้ตั้งนานแล้ว แต่ผมดันเพิ่งรู้

คืนนั้นพวกผมติวกันทั้งวัน กินๆ นอนๆ กลิ้งๆ กันอยู่ที่โซฟาหน้าทีวีบ้านไอ้โคนัน แล้วก็นอนกันที่นั่นทั้ง 4 คน

ช่วงกลางวันนี่ก็ติวหนังสือกันดีอยู่หรอก พอดึกเข้าหน่อยก็เริ่มมีแอลกอฮอล์อย่างเบามาเป็นตัวช่วยเพิ่มความลื่นไหลของสมองกันคนละขวดสองขวด

นาฬิกาเลยเลข 12 ช่วงกลางคืนไปได้ไม่นาน ฤทธิ์ของเบียร์เยอรมันที่คุณพ่อผู้มีอุปการะคุณของไอ้เบอร์ 2 ท่านหิ้วมาฝากลูกรักกับเพื่อนๆก็ตีกันกับหลักอนาโตมี่จนทำเอาพวกผมแทบจะหัวทิ่มคาชีทกันเรียงตัว

สภาพดูย่ำแย่มากจนไอ้เจ้าของบ้านต้องลุกขึ้นมาสรุปให้ว่าวันนี้พอแค่นี้
ได้ยินอย่างนั้นผมก็รวบของทั้งหมดให้พอเป็นระเบียบ แต่ยังคงวางทิ้งเอาไว้ที่เดิม ก่อนจะขอตัวมาเข้าห้องน้ำในห้องนอนของไอ้เจ้าของบ้าน

ปลีกตัวมาได้แล้ว ผมก็เลยอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าไปในทีเดียว เพราะว่าผมเดินเข้านอกออกในบ้านนี้ได้เหมือนที่นี่เป็นบ้านของตัวเองอยู่แล้ว ดังนั้นการเปิดตู้หยิบผ้าเช็ดผืนใหม่ของเจ้าของบ้าน ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป เลยไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไหร่

พอโดนน้ำเย็นๆเข้าไปหน่อย อาการมึนๆที่มีอยู่ก็เหมือนจะดีขึ้น...

อาบน้ำเสร็จก็มาทิ้งตัวนอนลงบนเตียงของไอ้เจ้าของห้องที่น่าจะลำบากกับการเก็บซากไอ้เบอร์ 1 กับ2 อยู่ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ที่เพิ่งดึงออกมาจากกระเป๋ากางเกงเมื่อครู่มาเช็คไลน์ดู

แล้วก็เห็นรูปยิ้มหวานกับแกะหน้าตาไม่เข้าใจโลกถูกส่งมา พร้อมกับข้อความน่ารักๆของเจ้าตัว

*ชอบอ่ะ
*อยากเอากลับไปเลี้ยงที่บ้าน

*อืมๆ
*น่ารักดี


รู้ใช่ไหมครับ...ว่าผมหมายถึงคน

*เออ น่ารักมาก
*แต่มันเหม็นมากเลยเว่ย
*ยังติวหนังสืออยู่ป่ะเนี่ย?

*ไม่ละ
*เมาแยกวงกันหมดละ


พิมพ์ตอบกลับไปปุ๊บ ประตูห้องนอนก็เปิดออก พร้อมกับเจ้าของบ้านในสภาพตัวแดงๆส้มๆ แถมยงหัวยุ่งพอตัว
ดูสภาพก็รู้ว่าคงไปลากคอไอ้คู่ซี้สองคนนั่นขึ้นมาชั้นบนด้วยตัวคนเดียวแน่ๆ

“ลากไอ้สองคนนั้นเข้าห้องเรียบร้อยแล้วเหรอวะ?”

ปกติเวลามานอนบ้านไอ้โคนันกัน ผมกับมันจะนอนห้องเดียวกันครับ
ส่วนไอ้เบอร์ 1 กับ เบอร์ 2 จะโดนลากไปนอนห้องสำหรับแขก

“เออ มึงก็เนียนนะไอ้สัด กูหันมาอีกที แม่งหายไปละ"

“ก็กูปวดฉี่ บอกแล้วว่าให้ทิ้งแม่งไว้ตรงนั้นแหละ ตื่นเมื่อไหร่แม่งก็ลากกันขึ้นมาเอง ไม่เชื่อกู"

“เออ กูมันคนดี"

ระหว่างที่คุยกันนี่ ไอ้โคนันมันด่าผมไปพลาง เปิดตู้เสื้อผ้าเหมือนจะหาอะไรบางอย่างอยู่ไปพลาง ก่อนจะโยนผ้าห่มทั้งผืนเข้ามาที่หน้าผมเต็มๆ ตอนพูดประโยคสุดท้าย...

ผมหัวเราะท่าทางหัวเสียของมัน –ไอ้นี่มันคนดีครับ เวลาพวกผมเมาหมดสภาพนี่ ปกติจะต่างคนต่างดูแลตัวเองอยู่แล้ว แต่ถ้าวันไหนมีไอ้โคนันไปด้วย ไอ้นี่มันจะคอยดูแลพวกผมทุกคน แถมยังคอยโทรเช็คเรียงตัวว่าถึงบ้านกันเรียบร้อยดีรึยัง

ผมสะบัดผ้าห่มที่ได้มาขึ้นคลุมตัว พร้อมกับที่เจ้าของห้องแยกเข้าห้องน้ำไป 
ก่อนจะกลับมาอ่านไลน์ที่ยิ้มหวานส่งมา

*อ่านหนังสือกันไม่ใช่เหรอ
*ทำไมกินเหล้าด้วยอ่ะ
*นี่เรียนหมอกันจริงป่ะเนี่ย

*งี้แหละ
*ง่วงยัง?


*ยังเลย
*นอนเล่นอยู่

*วันจันทร์ไปกินข้าวด้วยนะ
*เดี๋ยวไปหาที่โรงอาหารตอนพักเที่ยง


*อยากกินก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่เจ้าโปรดเราอะดิ
* ^ ^

*เปล่า
*ค.ถ.


จริงๆนะเว่ย!
ก็ปกติมันได้เจอกันทุกวันเสาร์ พออาทิตย์นี้ไม่ได้เจอแล้วมันแปลกๆ
มัน ค.ถ. เออ...นั่นแหละ!

เขาอ่านแล้วไม่ตอบกลับมาในทันทีครับ ผมนับถอยหลังอยู่ จนได้สิบวิพอดีเป๊ะ ตอนที่ข้อความตอบกลับจากเขาจะปรากฎขึ้นมา

*คถ?
*ย่อมาจากอะไร??
*คนถ่อย?
*คนเถื่อน?

* -_-

*555555555

*เที่ยวมาทั้งวัน
*ไปนอนได้แล้ว
*ฝันดีนะ
*วันจันทร์เจอกัน


*อือฮึ
*บายยยย
*ฝันดี ^^

*อืม ฝันดีเหมือนกัน
*คนถ่อยโคตรๆเลยด้วย




tbc.



❤ ❤ ❤


กกกกกกกกกกกกกี กกกี หายไปไหนมา 55555+ ไปมาเยอะมากค่ะ ไปคอน ไปซ่อมคอม ไปหายิ้ม ไปหาหมอ ฯลฯ
เอาเป็นว่าเราจะข้ามๆประเด็นเรื่องที่เราดองฟิคไปแล้วกันนะ : )
มีอะไรมาชวนเล่นแหละ  -- เราอยากรู้ว่า ตอนที่ทุกคนอ่านถึงท่อน

เปล่า // ค.ถ.

แว้บแรกในใจคิดว่า ค.ถ. ย่อมาจากอะไร จะคิดว่าเป็นคนถ่อยแบบยิ้มหวานป่ะ?
ตอบไว้ในคอมเม้นท์น้าา

ปล. มุกคถ.นี่เราเอามาจาก #นพจทปก ล่ะ ไปส่องดูกันน้า

ขอบคุณที่เอ็นดูเจ้าเด็กน้อยสองคนนี้ค่ะ ^ ^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-06-2015 02:45:07 โดย kipuuu »

ออฟไลน์ Akikojae

  • พี่ยุนรักน้องแจ ★彡
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1137/-17
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [10] <29.06.15> page 17
«ตอบ #484 เมื่อ29-06-2015 01:16:52 »

จะจองอีกมั้ยยยย มารอออ
อ่านรีพลายแรกจบแล้ว แบบน่ารักอ่ะเจอกันแบบไม่ทันตั้งตัวเลยนะหมอ
ยิ้มหวานน่ารักกก อยากได้กลับบ้านมากเลยยย
รอต่อฮะะะ

.....

เข้าใจนะปูวว่าชอบดอง แต่คนรอจะตายเลี้ยววว รอมุกจีบเกรียนๆไม่ไหว
สารภาพว่า ค.ถ ก็คิดถึงนี่แหละ แต่อีกแว้บคือ คันไถ อ่ะ
ไปไถนาดีกว่า กากชิบ 55555555
ได้อ่านยิ้มหวานของหมอก็ไปนอนได้สักที หลังจากค้างมานาน 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-06-2015 02:57:30 โดย Akikojae »

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [10] <29.06.15> page 17
«ตอบ #485 เมื่อ29-06-2015 01:22:13 »

รอจ้า....แต่ตาเก๊าจะปิดแล้วอะสิ แงงงTT

.........................

แหมๆๆ สองคนนี้ จีบซะเล่นเอาเราเขินไปหมด อ่านไปมือไม้พันกันยุ่งเลย5555555 น่ารักมากค่ะ
ขอบคุณค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-06-2015 15:57:54 โดย nunnuns »

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [10] <29.06.15> page 17
«ตอบ #486 เมื่อ29-06-2015 01:46:29 »

รอต่อจ้าาาา

ออฟไลน์ Autonomyz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [10] <29.06.15> page 17
«ตอบ #487 เมื่อ29-06-2015 02:41:05 »

2.45 AM

ยังนอนไม่ได้ รออ่านยิ้มหวานให้ครบตอนนน
เครียดดดดดดดด
 :katai5:

------------
2.48 อ่านจบ กรี๊ดสลบอยู่บนที่นอน
ยิ้มหวานน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
งื้อเค้าอยากได้มาไว้ที่บ้านจุง
ไปเที่ยวเขาใหญ่(กะครอบครัว)ทำไมไม่ชวนหมอไปด้วยละจ๊ะ
จะได้(เปิดตัว)สวีทกันไปเลยไง
กิ้วๆๆๆ
 :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-06-2015 02:44:31 โดย Autonomyz »

ออฟไลน์ ploetkrai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [10] <29.06.15> page 17
«ตอบ #488 เมื่อ29-06-2015 03:43:03 »

ยิ้มหวานมาแล้ววววว หายไปนานมากกกกก
คนถ่อยเหมือนกันนะ 55555555555

ชอบประโยค “จีบกันอีกแล้วนะ” ของยิ้มหวาน
ชอบมากอย่างไม่ถูก 5555555
เมื่อไหร่หมอจะจีบติดน้าาาา ติดตามกันต่อไป
อย่าหายไปนานๆ อีกนะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [10] <29.06.15> page 17
«ตอบ #489 เมื่อ29-06-2015 04:15:31 »

แว๊ปแรก  คถ ก็คิดถึงแระ. นึกอย่างอื่นไม่ออก. คถ คนเขียนมากๆ. มาต่อไวๆอีกเลยนะ. อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [10] <29.06.15> page 17
« ตอบ #489 เมื่อ: 29-06-2015 04:15:31 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [10] <29.06.15> page 17
«ตอบ #490 เมื่อ29-06-2015 04:28:17 »

น่ารักอ่ะ คบกันได้แล้ว 55555

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [10] <29.06.15> page 17
«ตอบ #491 เมื่อ29-06-2015 04:51:15 »

ก็ช่างสรรหาคำแปลเนอะ แปลซะหมดอารมณ์ซึ้งเลย ฮ่าาาาา

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [10] <29.06.15> page 17
«ตอบ #492 เมื่อ29-06-2015 05:22:39 »

เราเคยใช้นะ ค ถ เนี่ย เพราะไม่กล้าบอกตรงๆ คนรับก็รู้แต่ก็กวนเหมือนยิ้มหวานเลย
ปล.087-0000000 ฝากเบอร์ให้โคนัน

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [10] <29.06.15> page 17
«ตอบ #493 เมื่อ29-06-2015 05:26:28 »

คถ. มากเหมือนกันค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [10] <29.06.15> page 17
«ตอบ #494 เมื่อ29-06-2015 05:48:25 »

คถ. สุดๆไปเลยยยย

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [10] <29.06.15> page 17
«ตอบ #495 เมื่อ29-06-2015 06:03:03 »

คถ.นี่ดิฉันคิดหยาบกว่านั้นมากค่ะ.. กรี๊ดด

แต่สองคนนี้มุ้งมิ้งเหลือเกิน

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [10] <29.06.15> page 17
«ตอบ #496 เมื่อ29-06-2015 06:32:59 »

ยิ้มหวานน่ารักมาก รับมือกับมุกจีบของหมอได้ดีขึ้นนะ

ค.ถ. จากคิดถึงแถไปเป็นคนถ่อยได้นี่สุดยอด ตอบไปยิ้มไปชัวร์ อิอิ

เราแปลเป็น 'คิดถึง' อย่างเดียวเลยอ้ะ


ออฟไลน์ anandawan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [10] <29.06.15> page 17
«ตอบ #497 เมื่อ29-06-2015 06:36:03 »

สองคนนี้จะได้เป็นแฟนกันรึป่าวเนี่ยยย เป็นแฟนกันเห๊อะ อยากเห็นโมเม้นของการเป็นแฟนสักที  :ling1:

ออฟไลน์ pannuna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 449
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [10] <29.06.15> page 17
«ตอบ #498 เมื่อ29-06-2015 06:56:53 »

ตายตอนประโยคสุดท้ายค่ะ  :ling1:
เราอยากบอกประโยคนั้นกันคนเขียนเช่นกันค่ะ5555555555

ออฟไลน์ ☾❤Nyanpire❤☽

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1836
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-2
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [10] <29.06.15> page 17
«ตอบ #499 เมื่อ29-06-2015 07:05:06 »

"จีบโจ่งแจ้งขนาดนี้ คงไม่ต้องเนียนแล้วมั้ง"
 :o8:
ชอบประโยคนี้
เขาจีบกันโจ่งแจ้ง เขินหนักมากกกกกกกก

>/////<

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [10] <29.06.15> page 17
« ตอบ #499 เมื่อ: 29-06-2015 07:05:06 »





ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [10] <29.06.15> page 17
«ตอบ #500 เมื่อ29-06-2015 07:14:26 »

มุ้งมิ้งๆ

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [10] <29.06.15> page 17
«ตอบ #501 เมื่อ29-06-2015 07:15:05 »

งื้อออ~ ยิ้มหวานน่าร๊ากกกกก :m3: ถึงจะแปลคถ.ที่คนทั่วไปเขาแปลได้ว่า 'คิดถึง' ไปเป็น 'คนถ่อย' ก็ยังน่าเอ็นดูเหมือนเดิมเลยจ้าา ^^

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [10] <29.06.15> page 17
«ตอบ #502 เมื่อ29-06-2015 07:36:13 »

คงความน่ารักไว้ไม่เปลี่ยนน

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [10] <29.06.15> page 17
«ตอบ #503 เมื่อ29-06-2015 07:37:02 »

 :impress2:

ออฟไลน์ phoenixa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 569
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [10] <29.06.15> page 17
«ตอบ #504 เมื่อ29-06-2015 07:55:56 »

ค.ถ. ก็คิดถึงนั่นแหละ แล้วเราก็คิดว่ายิ้มหวานก็คิดเหมือนกันนะ
เพราะน้องเงียบ ตั้งหลักแป๊บบบ
ยิ้มหวานมามุกนี้ตลอด เวลาโดนจีบ

ชอบให้หมอจีบน้อง น่ารัก จีบไปอีกสักพักเหอะ

ออฟไลน์ icecreamii8_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [10] <29.06.15> page 17
«ตอบ #505 เมื่อ29-06-2015 07:58:49 »

คนถ่อยโครตๆเลยด้วย 555555
ยิ้มหวานน่ารักกกก ><

ออฟไลน์ GlassesgirL

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1037
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-2
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [10] <29.06.15> page 17
«ตอบ #506 เมื่อ29-06-2015 08:00:54 »

น่ารัก หมอก็ค่อยๆเริ่มจีบหนักขึ้น
ยิ้มหวานก็น่ารัก ไม่ตีตัวออกห่างแม้จะรู้ว่าเขาจีบ

*เห็นครั้งแรกก็คิดว่า คิดถึง อะค่ะ

 :pig4: :L2:

ออฟไลน์ khunkun91

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [10] <29.06.15> page 17
«ตอบ #507 เมื่อ29-06-2015 08:37:13 »

 :o8:
อ่านไปก็ยิ้มตามไป
ค.าถ.าคนเขียนนะ รอทุกวันเลย 55555555

ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [10] <29.06.15> page 17
«ตอบ #508 เมื่อ29-06-2015 08:52:39 »

เอาน่ะ~! จะคิดถึง หรือจะคนถ่อยแต่ถ้าคนบอกมีความหมายในตัวมันก็ไม่ต่างกันหร้อกกกก~~

น่ารักจริงจังคู่นี้แม่ยิ้มหวาน~~~~~

รอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ Junekid

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [10] <29.06.15> page 17
«ตอบ #509 เมื่อ29-06-2015 08:58:36 »

ยังน่ารักเหมือนเดิม ขอยิ้มหวานได้ไหมมมมมมม :o8:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด