-THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [แจ้งข่าวหน้า 56 ค่ะ] <14.03.16>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [แจ้งข่าวหน้า 56 ค่ะ] <14.03.16>  (อ่าน 707303 ครั้ง)

ออฟไลน์ Tatangth

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [14] <30.09.15> page 28
«ตอบ #870 เมื่อ05-10-2015 00:47:59 »

 :call:
 :katai5:

ออฟไลน์ gessuriyong

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [14] <30.09.15> page 28
«ตอบ #871 เมื่อ05-10-2015 02:49:57 »

เย้ๆๆ กลับมาแล้วววววว
โมเม้นมุ้งมิ้ง ชวนจิกหมอนน
ยิ้มกับหมอน่ารักแบบนี้ไปนานๆน้าาา :กอด1: :กอด1:
ขอบคุณไรท์ด้วยน้าาาาาาา

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [14] <30.09.15> page 28
«ตอบ #872 เมื่อ05-10-2015 17:02:29 »

ยิ้มหวานของหมอ ยิ้มฟินของคนอ่าน >__<

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [14] <30.09.15> page 28
«ตอบ #873 เมื่อ05-10-2015 22:46:00 »

ชอบอารมณ์ของเรื่องมากเลยค่ะ  :o8:
น่ารัก มีสเน่ห์ดี

ออฟไลน์ ดาวพฤหัส

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [14] <30.09.15> page 28
«ตอบ #874 เมื่อ06-10-2015 01:03:52 »

รออออออออออคะ
สนุกมากกกกกกกกกก  o13
เป็นเรื่องแรกที่อ่านแล้วฟินจัดขนาดนี้  :impress2:
อ่านแล้วเขิน อ่านแล้วยิ้มตลอดเลยยย  o22
ชอบบบ  :katai2-1:

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [14] <30.09.15> page 28
«ตอบ #875 เมื่อ06-10-2015 14:01:47 »

น่ารักกกกกกกก อยากได้แบบเน้อ่ะ

ออฟไลน์ Toei-Toei

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [14] <30.09.15> page 28
«ตอบ #876 เมื่อ07-10-2015 20:50:13 »

อ่านแล้วเขิล :-[ :-[
มาต่อเร็วๆนะค่ะ รอ~ร้อ~รอ~ :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Littlesir

  • I adore all the things you hate about yourself.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 442
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [14] <30.09.15> page 28
«ตอบ #877 เมื่อ08-10-2015 21:29:59 »

ยิ้มหวานนน จะน่ารักไปไหนอะ หมอทนได้ไงอะได้อยู่ใกล้ๆคนน่ารักๆแบบนี้ เขินแทนนนนนนน
เราชอบนิสัยของหมอมากเลยนะ ไม่เร่งรัดคนที่ชอบ ค่อยๆจีบไปเรื่อย คือดีอะ #อยากมีแฟนเป็นหมอ

รอตอนต่อนะ

ออฟไลน์ Littlesir

  • I adore all the things you hate about yourself.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 442
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [14] <30.09.15> page 28
«ตอบ #878 เมื่อ08-10-2015 21:31:03 »

ยิ้มหวานนน จะน่ารักไปไหนอะ หมอทนได้ไงอะได้อยู่ใกล้ๆคนน่ารักๆแบบนี้ เขินแทนนนนนนน
เราชอบนิสัยของหมอมากเลยนะ ไม่เร่งรัดคนที่ชอบ ค่อยๆจีบไปเรื่อย คือดีอะ #อยากมีแฟนเป็นหมอ

รอตอนต่อนะ

ออฟไลน์ BIRD

  • บี เบิ๊ด นก ^___^
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [14] <30.09.15> page 28
«ตอบ #879 เมื่อ10-10-2015 17:34:04 »

คิดถึงยิ้มหวาน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [14] <30.09.15> page 28
« ตอบ #879 เมื่อ: 10-10-2015 17:34:04 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ am_am

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [14] <30.09.15> page 28
«ตอบ #880 เมื่อ10-10-2015 21:35:28 »

น่ารักจังเลยยยยยยยย

ออฟไลน์ กวังกีเมย์บี

  • วาย ว๊าย วาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [14] <30.09.15> page 28
«ตอบ #881 เมื่อ12-10-2015 12:24:13 »

:m1: :m3: :m1: :m3:

ออฟไลน์ spsygk

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 193
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [14] <30.09.15> page 28
«ตอบ #882 เมื่อ13-10-2015 10:14:42 »

แล้วความรักเป็นโรคติดต่อได้ไหม เวลารักใครก็อยากส่งความรักให้เขา.  :hao6: :hao7:

ออฟไลน์ kipuuu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [15] <13.10.15> page 30
«ตอบ #883 เมื่อ13-10-2015 14:49:25 »


กรี้ดกร้าดในทวิตฝากติดแทค #ยิ้มหวานของหมอ นะคะ


[15]



ยังครับ...
เทศกาลสอบมหาโหดโคตรมหาประลัยมันยังไม่จบลง ถึงแม้ตอนนี้มหาลัยที่ผมเรียนอยู่จะแปรสภาพไปเป็นมหาลัยร้างเรียบร้อยแล้ว เพราะคณะอื่นๆเค้าสอบเสร็จกลับบ้านนอน หนีเที่ยวออกนอกประเทศกันหมด

ยกเว้นพวกผม นักศึกษาแพทย์ผู้อดทน สิบช้อชนสิบล้อตาย -_-
และคณะอื่นๆในสายเดียวกันอีกนิดหน่อย 

สองวันสุดท้ายของการสอบ เป็น 2 วันที่ผมมีสอบติดกัน

พวกผมสอบเสร็จตอนเที่ยงของวันแรก และพุ่งตัวไปอ่านหนังสือกันอยู่ที่หอสมุดจนเย็น พอตอนเย็นก็ย้ายกันไปที่ร้านกาแฟต่อ

ผมหยิบมือถือขึ้นเล่นดูตอนสี่ทุ่มกว่าๆ ก่อนจะเห็นยิ้มหวานอัพรูปลงอินสตาแกรม ว่าเจ้าตัวไปส่งเพื่อนที่สนามบินผมกดไลค์รูปภาพ ไม่ได้คอมเม้นอะไร แต่กลับเปิดไลน์แล้วทักเขาไปแทน


*อยากไปเที่ยวมั้ย?


กลับไปอ่านหนังสือได้สักพักเขาก็ตอบกลับมา


*รู้ทันอีก
*มากโคตร
*ตอนเห็นเพื่อนเดินเข้าเกท
*งงเลยว่าทำไมเราถึงไม่ได้ไปกับพวกนั้นด้วย

*ว่าแล้ว
*อยู่ไหนเนี่ย


*สนามบิน
*กำลังจะกลับละ

*มาหามั้ย?

*หมอเปลี่ยนเรื่องเร็วอีกละ



อ่านข้อความที่เขาส่งมาปุ๊บผมก็หลุดยิ้ม
รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงเจ้าตัวลอยมาเลยครับ

*มาเหอะ
*เดี๋ยวเลี้ยงหนม


*น่าสนเลย
*ถ้าจะออกไปเดี๋ยวบอกแล้วกัน
* ^ ^

*โอเค
*ถ้ามานั่งแท็กซี่มานะ


*ทำไมอ่ะ?

*เราเอารถมา
*ตอนกลับเดี๋ยวขับไปส่ง


*อือ ยังไม่ชัวร์นะว่าจะไปมั้ย
*เดี๋ยวบอกอีกที



ผมส่งสติ๊กเกอร์โอเคกลับไป แล้วเก็บมือถือลงกระเป๋ากางเกง ก่อนจะก็ลุกขึ้นไปซื้อน้ำเปล่าที่เค้าน์เตอร์

ผม ไอ้เบอร์ 1 กับไอ้โคนันนั่งคุยเรื่องสอบกันไปเรื่อยเปื่อย ส่วนไอ้เบอร์ 2 ที่พอเห็นว่าพวกผมเริ่มเข้าสู่โหมดพักเบรคปุ๊บ มันก็ขอตัวออกไปโทรหาแฟนมันทันที

พอเริ่มรู้สึกหายเหนื่อยขึ้นมานิดหน่อยก็ติวกันต่อ บทนี้เป็นหน้าที่รับผิดชอบของผมที่ต้องติวให้เพื่อนๆพอดี มากันครบ 4 คน ผมก็เริ่มอธิบายไปเรื่อยโดยไม่ได้สนใจบรรยากาศโดยรอบอีก เวลาผ่านไปนานเหมือนกัน ก่อนที่ผมจะรู้สึกว่ามีคนมาสะกิดเข้าที่ไหล่

ผมหยุดพูด พอมองไปยังไอ้สองคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกัน ก็เห็นว่ามันทำหน้าอึ้งแล้วส่งสายตาข้ามหัวผมไป เห็นอย่างนั้นผมเลยหันไปด้านหลัง...แล้วหน้าตาตอนตกใจของไอ้สองคนนั้นก็เป็นเรื่องเล็กไปเลย

เพราะยิ้มหวานยืนอยู่ตรงนี้

รอยยิ้มน่ามองของเขาปรากฎเด่นชัดอยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะตามมาด้วยน้ำเสียงที่ผมคุ้นเคย

“หวัดดี นั่งด้วยดิ"

ตอนนั้นเองที่ผมเพิ่งเข้าใจสถานการณ์ทุกอย่าง และพบว่ามันยากมากที่ต้องพยายามเก็กหน้านิ่งในเหตุการณ์แบบนี้

แอบมาเงียบๆ โคตรน่ารักเลยเว้ย!

ไอ้โคนันที่นั่งอยู่ข้างผมดีดตัวลุกขึ้นทันทีเหมือนโดนใครถีบตูด แล้วบอกให้ยิ้มหวานนั่งที่ของมันแทน
ก่อนที่จะเดินไปขอเก้าอี้ที่เหลือจากโต๊ะข้างๆมานั่งลงตรงหัวโต๊ะที่ยังว่าง

เขานั่งลง ท่าทางอารมณ์ดีอยู่ไม่น้อย ตอนที่ส่งยิ้มทักทายเพื่อนๆของผมทุกคน
...ซึ่งทำให้ไอ้พวกเพื่อนชั่วมันทำเป็นยิ้มตาลอยกันใหญ่ เดี๋ยวกุตีปากแตกเลย!

“ตกใจปะ?”

“โคตรมาก มาไม่บอก"

“ถ้าบอกก็ไม่ตกใจดิ"

เขาพูดแล้วหลุดขำ  ก่อนจะละสายตาจากผมแล้วไปหันหน้าเขากำแพงเพื่อมองหาปลั๊กไฟ ปล่อยให้ผมชวนคุยทั้งๆที่อีกฝ่ายยังก้มหน้าอยู่อย่างนั้น

"หาแท็กซี่ยากป่ะ"

"ไม่นะ"

เขาพูดพลางก้มลงไปเสียบปลั๊ก ก่อนจะหันกลับมามองหน้าผมพร้อมยิ้มให้กันนิดหน่อย แล้วหยิบกระเป๋าตังค์เตรียมจะลุกขึ้น แต่ผมกลับรู้ทัน เอากระเป๋าตัวเองยื่นไปให้เขาก่อน

"บอกแล้วไงว่าจะเลี้ยง"

คำพูดของผมทำให้เขาหยุดชะงัก ก่อนจะส่ายหน้ามาให้แทนคำตอบ ในขณะที่ผมก็ขมวดคิ้วมองหน้าเหมือนจะบังคับให้เขารับกระเป๋าไปให้ได้

"ไม่เอา~"

“เอาไป"

ผมพูดพร้อมกับยัดกระเป๋าตังค์ใส่มือเขา ก่อนจะทำเป็นกลับมาติวให้ไอ้พวกนี้ต่อ โดยที่ปลายสายตาเห็นอยู่ว่าอีกฝ่ายกำลังทำหน้ามุ่ย

แทนที่จะเดินตรงไปสั่งเครื่องดื่ม เขาดันมาหยุดอยู่ตรงไอ้โคนันที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ แล้วยื่นกระเป๋าผมให้มันหน้าตาเฉย

"อ่ะ เราฝากคืนเพื่อนหน่อยดิ"

แสบมั้ยล่ะคนเรา -_-

ผมมองตามคนที่เดินไปหยุดสั่งเครื่องดื่นที่บาร์แล้วได้แต่นึกคาดโทษในใจ  พร้อมกับที่ ไอ้โคนันโยนกระเป๋าสตางค์ลอยมาเพื่อให้ผมยกมือขึ้นไปรับ แล้วเอามาวางไว้บนโต๊ะเหมือนเดิม

สักพักยิ้มหวานก็กลับมาพร้อมกับชาร้อนและน้ำเปล่า พออีกฝ่ายเห็นว่ากระเป๋าสตางค์ผมวางอยู่ใกล้ๆก็แอบขำนิดหน่อย ก่อนจะเปิดแม็คบุ๊กที่ดูเหมือนวันนี้จะต้องใช้เจ้าเครื่องใหญ่ในการทำงาน

"ฝากตัววันนึงนะ เราโดนเพื่อนทิ้งอ่ะ"

เขาพูดพลางหันมาส่งยิ่มให้เพื่อนๆของผม พอเห็นว่าพวกนั้นพยักหน้ารับและส่งยิ้มกลับไปเขาก็หยิบหูฟังขึ้นมาใส่แล้วนั่งทำงานต่อไปเงียบๆ โดยไม่สนใจพวกผมอีก

เวลาผ่านไปสักพัก ก่อนที่พวกผมจะพักกันอีกรอบตอนเที่ยงคืนกว่าๆ ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปตามสบาย ไอ้เบอร์ 1ลุกไปสูบบุหรี่จนได้ หลังจากบ่นว่าอยากอยู่พักใหญ่ ไอ้เบอร์2ไปโทรหาแฟนมันเหมือนเดิม ไอ้โคนันไปสั่งอะไรมากินเพิ่ม แล้วเดินเลยไปเข้าห้องน้ำ ส่วนยังคงผมนั่งอยู่ที่โต๊ะ...เพราะว่ายิ้มหวานของผมอยู่ที่นี่ทั้งคน

พอหันมามองคนข้างๆที่ยังคงนั่งทำงานอยู่เงียบๆแล้วก็นึกอยากจะหาเรื่องกวนเขาขึ้นมาเล่นๆซะอย่างนั้น

ผมฟุบตัวลงกับโต๊ะโดยหันหน้าไปทางเขา และมองคนที่มีสีหน้าจริงจังอย่างไม่รู้จักเบื่อ จนเจ้าตัวต้องส่งสายตากลับมาจนได้ แววตาคู่นั้นเหมือนจะถามผมว่า 'มองอะไร?' ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้น แล้วผลักหน้าผากผมเบาๆ พร้อมกับบ่น แล้วดึงหูฟังออกข้างนึง

“จ้องหน้ากันทำไมเนี่ย"

ผมไม่ตอบไม่สิ่งที่เขาถาม แต่กลับพูดในสิ่งที่กำลังคิดอยู่ออกไป
นั่นทำให้ยิ้มหวานขมวดคิ้วเข้าด้วยความสงสัย

"ยืมมือหน่อย"

ผมยื่นไปเอื้อมมือไปจับข้อมือข้างซ้ายที่ว่างอยู่ของเขา แล้วดึงมาตรงหน้าตัวเอง ระหว่างนั้น ยิ้มหวานก็ตอบกลับมา

"มือถืออ่ะนะ?"

“มือที่จับอยู่เนี่ย"

ผมพูดพร้อมกับสังเกตท่าทีของอีกฝ่ายไปด้วย และเห็นว่าเจ้าตัวไม่ได้มีท่าที่ปฏิเสธตอนที่ผมจับมือ เขาทำเพียงแค่ส่งสายตามองมายังฝ่ามือที่โดนขโมยไป แล้วทำหน้าเหมือนเพิ่งจะเข้าใจในคำพูดของผมก็ตอนนั้น
 พอรู้ว่าผมจะจับมือ เจ้าตัวก็ส่งสายตามองไปรอบๆ พอเห็นว่าไม่มีใครสนใจเราอยู่ เขาก็ปล่อยให้ผมทำตามใจ

“แปลกนะเนี่ย ยอมให้จับด้วย"

คำพูดของผมทำให้ริมฝีปากคู่นั้นเชิดขึ้น จนดูเป็นคุณหนูหยิ่งๆขึ้นมาทันตาเห็น พร้อมกับตอบกลับ

“ก็เห็นท่าทางเหนื่อยๆอ่ะ เราไม่อยากรังแกคนที่อ่อนแอกว่า

ถามจริง – ทำมาจากอะไรทำไมโคตรน่ารัก?

"5นาที เดี๋ยวคืน"

ผมพูดพร้อมกับกับก้มหน้าลง แล้วใช้มือของเขารองใบหน้าเอาไว้ก่อนจะนอนฟุบอยู่บนนั้น
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหนื่อยมาทั้งวันหรือว่าฝ่ามือที่ขโมยเจ้าของเค้ามามันนุ่มชวนเคลิ้มกันแน่ ผมถึงได้หลับไปอย่างรวดเร็ว

แต่ในช่วงที่กำลังจะหลับสนิท อีกฝ่ายก็ดันแกล้งขยับมือยุกยิก จนต้องฝืนลืมตาแล้วลุกขึ้นมามอง เห็นสีหน้าซนๆของคนตรงหน้าแล้วก็อดไม่ได้ที่จะแกล้งขู่เขาเล่นพร้อมกับแยกเขี้ยวใส่

“เดี๋ยวกัดมือเลย"

ได้ผล ได้ยินผมพูดปุ๊บเขาก็ทำหน้าตกใจ แล้วรีบเถียงกลับ

“กล้าเหรอ?”

“ลองมั้ยล่ะ?”

ผมพูดพลางทำท่าจะก้มลงไปกัดมือของเขาที่ยังคงถูกล็อคเอาไว้ตรงที่เดิม แต่แทนที่จะใช้ฟันงับลงไปบนเนื้อนุ่มๆ ผมกลับแตะริมฝีปากลงไปบนฝ่ามือของเขา ก่อนจะกลับไปฟุบหน้าอยู่ในท่าเดิมอีกครั้ง

“หมอ! เนียนไปแล้วนะ! รีบนอนเลย!"

“โอเคครับ 5 นาทีปลุกด้วยนะ"

“อืม"

ผมไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมองว่าอีกฝ่ายมีปฏิกริยาตอบกลับมาแบบไหน เพราะแค่รับมือกับตัวเองที่กำลังรู้สึกดีจนแทบบ้าผมก็ยังแย่ ปล่อยให้เวลาผ่านไปสักพักผมก็หันไปมองยิ้มหวาน ก่อนจะเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ด้วยมืออีกข้างที่ยังว่าง

พอเขาเห็นว่าผมหันมามองกัน เท้าที่อยู่ใต้โต๊ะก็ยกขึ้นมาเตะเข้าที่ขาผมเต็มๆ ริมฝีปากน่ารักของเขาคว่ำลงแถมยังปั้นหน้าดุใส่กัน ทั้งๆที่แก้มกำลังแดงจัด

วินาทีนั้น เมโลดี้อันเป็นเอกลักษณ์ของเพลงๆนึงก็ดังขึ้นมาในใจผม พร้อมเนื้อร้องท่อนแรก

ไม่แน่ใจกับท่าที แต่รู้ว่ามีความหมาย...


- - -


พวกผมแยกย้ายกันกลับบ้านตอนตีสาม ระหว่างที่กำลังเดินกลับไปที่รถ อยู่ดีๆยิ้มหวานก็แบมือแล้วยื่นมาขวางกันซะอย่างนั้น ผมหันไปทำหน้าง่วงใส่คนที่ยังคงตาสว่างถึงแม้ว่าตอนนี้จะดึกมากแล้ว พร้อมกับเอ่ยถาม

“อะไร?”

“เราอยากขับเบ็นซ์อ่ะ"

ผมยิ้มรับก่อนจะยกมือไปขยี้หัวเขาเล่นด้วยความเคยชิน แล้วจะยื่นกุญแจให้

“ขับไปแค่คอนโดนะ เดี๋ยวเราขับกลับบ้านเอง"
 
คนฟังรับกุญแจรถไป ระหว่างที่กดรีโมทปลดล็อคแล้วขึ้นมานั่งบนรถ เขาก็ชวนผมคุยไปด้วย

“อ้าว! ตอนหมอขับรถเรายังไปส่งเราถึงที่เลย ทำไมเราขับรถหมอแล้วเราไม่ได้ไปส่งบ้างอ่ะ"

ผมขึ้นมานั่งที่ว่างข้างคนขับ รู้สึกไม่ค่อยคุ้นกับการนั่งรถให้คนอื่นขับให้สักเท่าไหร่
แต่ในใจก็รู้สึกดีอยู่ไม่น้อยเลยเหมือนกัน

ก่อนจะส่งสายตาไปมองคนที่เอาของไปวางไว้ที่เบาะหลังรถ แล้วถามออกมา

“จีบเราเหรอ?”

ปฏิกริยาของเขาน่ารักดีครับ ยิ้มหวานหันมาทำตาโตใส่ผมพร้อมกับแก้มที่แดงขึ้นมานิดหน่อย พอตั้งตัวได้เขาก็โวยวายออกมาทันที

“จีบอีกแล้วนะ!”

“อ้าว เล่นทำเหมือนตอนเรามาตามจีบใหม่ๆทุกอย่าง ก็เลยนึกว่ากำลังจีบกันอยู่อ่ะดิ"

“ลืมตายังไม่ขึ้นอยู่แล้วยังจะมากวนประสาทกันอีก"

เขาเลิกสนใจผม แล้วพูดออกมาเหมือนกำลังบ่นกับตัวเอง ก่อนจะถอยรถออกจากที่จอด ส่วนผมที่นั่งมองท่าทางน่ารักๆตรงหน้าอยู่ก็ได้แต่ยิ้มออกมา

ไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกันไหม...
แต่ผมว่า พรุ่งนี้ผมทำข้อสอบได้ชัวร์ๆ


- - -


ในเช้าวันสอบ...พวกผมทั้ง 4 คนก็เลยเดินเรียงกันไปในสภาพของซอมบี้ที่ใฝ่เรียนรู้คู่คุณธรรมนำสังคมหลุดพ้นจากยาเสพติด และนั่งทำข้อสอบเหมือนสมองโดนกินไปเรียบร้อยแล้ว

พอหลุดพ้นจากขุมนรกที่คนทั่วไปเรียกกันว่าห้องสอบ พวกผมก็มายืนมองหน้ากัน ส่งสัญญานเป็นอันเข้าใจว่าลา! แล้วก็แยกย้ายกันทันทีโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ตอนแรกผมตั้งใจจะกลับบ้าน แต่พอเปิดไลน์เข้าไปดูก็เห็นว่ามีข้อความมาพิมพ์ทิ้งเอาไว้ในกรุ๊ปครอบครัวจากแม่ของผม

เหมือนวันนี้คุณนายเค้าจะมีนัดทานข้าวพูดคุยกับเพื่อนสมัยเรียน แล้วก็รู้ว่าผมน่าจะสอบเสร็จช่วงเที่ยงเลยมาแวะบอกกันว่าให้ผมหาข้าวกินเองให้เรียบร้อยจากนอกบ้าน

นาทีนี้สถานการณ์เข้าทางโจรเต็มๆครับบอกเลย อ่านไลน์ของแม่จบปุ๊บ ผมก็แสดงบทบาทลูกที่ดีด้วยการพิมพ์บอกแม่ไปว่าปาร์ตี้ให้สนุกนะครับ ไม่ต้องห่วงผม ก่อนจะรีบถามยิ้มหวานต่อทันทีว่าวันนี้อยู่ห้องไหม จะออกไป

พออีกฝ่ายตอบกลับมาว่าคงอยู่ห้องทั้งวัน ผมก็เลยบอกไปว่าเดี๋ยวจะแวะเข้าไปหา เพราะโดนแม่ทิ้ง ไม่มีที่ไป
ไหน...รางวัลลูกดีเด่นประจำปีอยู่ไหน รีบเอามาให้ผมเหอะ -_-

ไปถึงปุ๊บก็โทรเรียกเจ้าของห้องให้ลงมารับ ก่อนที่สภาพของผมจะทำให้เขาหลุดหัวเราะออกมา แล้วถามต่อ

“หมอ...ไปโดนใครยิงถล่มมาเหรอ?”

ผมยักคิ้ว แต่ไม่ตอบ ก่อนจะรู้สึกได้ว่ามีมืออุ่นวางลงบนหัวของตัวเองแล้วขยี้เบาๆ พร้อมกับเสียงพูดของคนตรงหน้าที่ขยับเข้ามาใกล้มากกว่าเดิม

“เมื่อวานก็ว่าแย่แล้วนะ วันนี้หนักกว่าอีกอ่ะ น่าสงสารคุณหมอจังเลย~"

เจ้าตัวบอกว่าน่าสงสาร แต่ผมกลับไม่รู้สึกอย่างนั้นสักนิด จังหวะการหัวเราะที่แฝงอยู่ในคำพูดก็บอกอยู่ชัดๆว่าเขากำลังขำที่ผมมีสภาพย่ำแย่ขนาดนี้

ก่อนที่ผมจะจับมือที่ขยี้หัวผมเล่นไม่ต่างกับเวลาลูบขนหมา แล้วถือโอกาสจูงมือเขาเอาไว้พร้อมกับลากให้เดินไปหน้าลิฟต์ด้วยกัน สภาพง่วงจัดทำให้ผมต้องคอยบิดคอบิดตัวเพื่อคลายความรู้สึกเมื่อยๆหนักๆอยู่หลายครั้ง

ระหว่างที่ลิฟต์กำลังขึ้นสูงไปเรื่อยๆ ผมก็รู้สึกได้ถึงแรงบีบเบาๆที่เกิดขึ้นบนไหล่ทั้งสองข้าง พอสังเกตดูถึงได้เห็นว่าคนที่เคยยืนข้างๆกันตอนนี้ขยับไปยืนอยู่ทางด้านหลัง และกำลังใช้มือทั้ง 2 ข้างจับไหล่ของผมไว้ แล้วออกแรงบีบนวดลงมา

“รู้สึกดีขึ้นมั้ย?”

ถึงแม้ร่ายกายจะย่ำแย่จนแทบร่วง
แต่ความห่วงใยเล็กๆของเขาก็ทำให้หัวใจมันแข็งแรงขึ้นมาทันตาเห็น

“ดีโคตร"

“จริงเหรอ? เรานวดมั่วๆอ่ะ" 

“ก็ไม่ได้ดีเพราะนวด"

“...”

“ดีเพราะมีคนมาเป็นห่วง"

แค่นั้น...แรงบีบเบาๆที่ชวนสบายก็ได้เปลี่ยนเป็นแรงฟาดจากฝ่ามือแบบเต็มแรง พร้อมกับที่ประตูลิฟต์เปิดออก คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผมก้าวขึ้นมาแซงกัน ก่อนจะหันมาทำหน้ายู่ใส่ผม แล้วเดินนำออกไป

ก้าวเข้ามาในห้องยิ้มหวานปุ๊บ สิ่งแรกที่สายตาของผมจับจ้องไปคือโซฟาตัวใหญ่...​

หลังจากถอดรองเท้าเสร็จเรียบร้อยผมก็เดินตรงไปยังเบาะหนังนุ่มๆกลางห้องแล้วทิ้งตัวนอนลงทันที พร้อมกับส่งเสียงบอกเจ้าของห้องที่เดินตามมา

“นอนก่อนนะ"

หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก ผมได้ยินเสียงยิ้มหวานทำอะไรสักอย่างอยู่ที่อีกฝั่งนึงของห้อง แต่ก็ไม่ได้ลืมตาดู จนกระทั่งรู้สึกได้ว่ามีแรงเขย่าเบาๆพร้อมกับเสียงที่ดังอยู่ใกล้ๆเรียกกันเอาไว้ก่อนที่จะหลับไป

“หมอ~~”

“ฮึ?”

"อย่าเพิ่งนอนดิ! ตั้งแต่เช้ากินอะไรรึยัง"

“ยัง ไอ้หมอบอกยังไม่หิว"

“นี่~ กวนตีนอีกทีเราโยนลงระเบียงเลยนะ คุยกันก่อน!"

“ยังไม่กินครับ ยังไม่กิน"

“งั้นก็กินซะ"

ทันทีที่เขาพูดจบ กลิ่นหอมหวานของน้ำตาลก็ลอยใกล้เข้ามา...
ก่อนผมจะรู้สึกได้ถึงสัมผัสนุ่มๆเหมือนขนมปัง กับรสชาติหวานๆของเกล็ดน้ำตาลที่ถูกจิ้มลงมาบนริมฝีปากซ้ำๆ
การรบกวนเล็กๆทำให้ผมลืมตาขึ้นมาครึ่งนึง เพื่อหรี่ตามอง

โดนัท... สีชมพูหวานแหววสิ้นดี - _ -

"ต้องกินเหรอ?”

ผมถามงัวเงีย ก่อนจะได้ยินเสียงถอนหายใจดึงกลับมา

"โดนัทมันใช้หยอดตาได้มั้ยล่ะ ของกินก็ต้องเอาไว้กินดิ!”

“ชิ้นใหญ่ กินไม่ได้"

“หมอก็กัดดิวะ ฟันน้ำนมยังไม่ขึ้นเหรอ?”

ได้ยินอย่างนั้นผมก็ส่งสายตาไปมองคนที่นั่งดูอาการผมอยู่บนพื้นด้วยสีหน้าเพลียๆ ก่อนจะยื่นมือไปจับต้นแขนเขา ดึงเบาๆสองสามทีแล้วพูดต่อ

“ป้อนหน่อยดิ"

ได้ยินปุ๊บ ยิ้มหวานก็ตอบกลับมาแบบไม่ต้องคิดเลยครับ

“กินเองไม่ได้ก็อดตายไปเลย"

เขาพูดพลางทำท่าจะลุกขึ้นจริงๆ จนผมต้องรั้งไว้

“เหอะน่า ป้อนหน่อยดิ ขยับแขนไม่ไหวแล้ว"

คนฟังเหมือนจะชั่งใจอยู่นิดหน่อย ก่อนเสียงถอนหายใจหนักๆจะดังตามมา พร้อมกับที่เขาทรุดตัวนั่งลงที่เดิมแล้วบ่น

“เพลียขนาดนี้ทำไมไม่กลับบ้านเนี่ย"

เขาพูดพลางดึงโดนัทไปจากมือผมแล้วฉีกออกเป็นชิ้นเล็กๆ ระหว่างนั้นผมก็ตอบกลับไป

“ที่บ้านไม่มีใครเลย พ่อทำงาน แม่ไม่อยู่ น้องไปเข้าค่าย วันนี้แม่บ้านไม่มา..."

ยังไม่ทันได้บรรยายความน่าสงสารของชีวิตนักศึกษาแพทย์คนหนึ่งจนครบ โดนัทชิ้นเล็กๆก็ถูกยัดเข้าปากผมในทันที...เป็นอันจบบทสนทนา

“บางทีเราก็สงสัยว่านี่หมอเหนื่อยจริงๆ หรือหมอกำลังหาเรื่องให้เราป้อนขนมอยู่กันแน่ว่ะ"

“อันหลังอยู่แล้ว"

ผมนอนเคี้ยวโดนัทรสชาติหวานจัดแล้วยักคิ้วให้เขาด้วยสภาพร่อแร่ ก่อนจะบ่นออกมาเบาๆ

“หวานโคตร"

หมายถึงเขาอ่ะ...

“ทนๆกินไปเถอะน่า กินน้ำตาลเยอะๆจะได้สดชื่น"

“ครับผม"

ผมนอนกินโดนัทหวานจ๋อยที่อีกคนป้อนให้จนหมด รู้สึกว่าน้ำตาลที่หวานบาดคอในตอนแรกก็ให้พลังงานดีเหมือนกัน พอยิ้มหวานลุกกลับไปทำงานสักพัก ผมก็หลับไปจริงๆ

[มีต่อค่ะ]

ออฟไลน์ kipuuu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [15] <13.10.15> page 30
«ตอบ #884 เมื่อ13-10-2015 14:50:04 »

[❤]

อาจจะเป็นเพราะว่าห้องนี้เงียบมาก...นอกจากเพลงสากลทำนองช้าๆเฉื่อยๆที่เจ้าของห้องเปิดทิ้งเอาไว้จากมุมทำงานแล้วก็ไม่มีเสียงอะไรอีก ผมเลยหลับสนิทแบบไม่รู้เรื่องอะไรเลย และตื่นนอนขึ้นมาอีกทีตอนฟ้ามืด

พอหยิบมือถือขึ้นมากดดูเวลาก็พบว่าตอนนี้มันห้าทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว - _ -

สิ่งต่อมาที่ผมรับรู้คือเสียงพูดคุยที่ดังมาจากที่ไกลๆ ใช้เวลาตั้งใจฟังอยู่สักพัก ถึงได้รู้ว่าเสียงที่ว่านั่นคือการที่ของเจ้าของห้องที่กำลังคุยกับแก๊งเพื่อนสนิทที่อยู่อีกประเทศหนึ่ง

ผมนอนฟังบทสนทนาของพวกเขา แล้วก็รู้เลยว่าที่อีกฝ่ายบอกว่าตัวเองเก่งเรื่องเที่ยวญี่ปุ่นมากๆนี่ เจ้าตัวไม่ได้พูดเกินจริง เพราะตอนนี้เขากำลังวางโปรแกรมเที่ยวของวันถัดไปให้เพื่อน พร้อมแนะนำร้านที่น่าสนใจในย่านต่างๆได้เหมือนเป็นไกด์นำเที่ยว

แอบฟังเขาได้ไม่นาน ผมก็ตัดสินใจลุกขึ้น  พร้อมกับที่ได้ยินคำถามดังตามมาติดๆ

“เมื่อกี้เงาอะไรแว้บๆอ่ะมึง"

พออีกฝ่ายได้ยินอย่างนั้นก็หันมามองผม แล้วกลับไปตอบอย่างรวดเร็ว

“ไม่มีนี่"

“มีจริงๆเว่ย กูเห็น"

“ผีหลอกแล้ว!"

คำตอบของยิ้มหวานชวนให้ขำ แต่ผมก็ไม่ได้อยากจะไปแสดงตัวอะไรอยู่แล้ว เลยแวะเข้าไปล้างหน้าในห้องน้ำ ก่อนจะเดินต่อไปยังระเบียงเพื่อสูดอากาศยามค่ำคืน นี่ถ้าอยู่กับไอ้พวกนั้นก็คงสูบบุหรี่กันคนละมวน นั่งจิบเบียร์แล้วคุยไร้สาระเรื่อยเปื่อยหาที่เที่ยวกันจนดึกดื่น

ได้ยืนรับลมพร้อมกับดูวิวกรุงเทพฯตอนกลางคืนจนรู้สึกสดชื่นขึ้นมาหน่อยผมก็กลับเข้ามาข้างใน  พร้อมกับรับรู้ว่าตัวเองกำลังเป็นหัวข้อสนทนาของกลุ่มเด็กสถาปัตย์อยู่พอดี

“พวกมึงหยุดพูดถึงหมอก่อนได้ไหม นี่เป็นเพื่อนกูหรือเป็นเพื่อนหมอกันแน่วะ"

“ก็พูดถึงมึงอยู่เนี่ย ว่ามึงดื้อแล้วหมอจัดการมึงได้"

“ไม่จริงอ่ะ ทำไมหมอต้องจัดการกูได้ พวกมึงอ่ะคิดไปเอง"

ริมฝีปากของผมยกยิ้มขึ้นโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น ก่อนจะนึกอยากแกล้งคนขึ้นมา

ผมเดินไปนั่งลงบนโซฟาแล้วหยิบหมอนอิงขึ้นมาถือไว้  รอจังหวะที่อีกฝ่ายกำลังพูดเพลินๆก่อนจะโยนหมอนุ่มๆไปกระแทกแผ่นหลังเขาเข้าเต็มๆ

คนที่นั่งคุยกับเพื่อนอยู่ หน้าทิ่มไปนิดหน่อย ก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงของเพื่อนเขาพูดตามมา

“ผีห้องมึงนี่แข็งแรงดีนะ"

“เหี้ย หุยปาก!”

“หมออ~”

พอได้ยินคนเรียก ผมก็มองสบตากับเจ้าของห้องที่หันมาหากัน พร้อมกับยักไหล่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แล้วเดินไปนั่งลงใกล้ๆยิ้มหวานก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปในจอ แล้วทักเบาๆ

“ไง...”

ไม่ทันได้พูดอะไรต่อ ผมก็โดนฝ่ามือของอีกคนผลักหน้าให้หลุดออกจากกรอบไป ก่อนที่ยิ้มหวานจะเอามือไปปิดกล้องทางฝั่งตัวเองเอาไว้ จนเพื่อนของเขาเห็นทุกอย่างเป็นสีดำสนิท

“ขอบคุณนะที่คอยดูแลมันอะ"

“อือ เต็มใจว่ะ"

ผมตอบไปแค่นั้น ก่อนที่เพื่อนอีกคนจะพูดแทรกขึ้นมา

“ยิ้ม!! มึงเอามือออกจากกล้องได้มั้ย ยิ่งมึงปิดแบบนี้ยิ่งดูผิดปกตินะเว่ย!”

ได้ยินอย่างนั้นยิ้มหวานก็เอามือออก ทำให้ใบหน้าของเขาปรากฎให้เพื่อนๆเห็นอีกครั้ง พร้อมกับไหล่ของผมที่ติดเข้าไปบางส่วน

“เออ หันจอไปทางไอ้หมอด้วย กูจะคุยกับหมอ"

“นี่คอมกูนะ"

“มึงอย่างอแง เดี๋ยวกูให้หมอตี เร็วๆ"

คนโดนดุส่งสายตามาให้ผมแล้วทำหน้ายุ่ง ก่อนจะหันหน้าจอมาหากัน

“ไง เที่ยวสนุกปะ?”

ผมเอ่ยทักไปอย่างนั้น ดูเหมือนเพื่อนๆของเขาน่าจะกลับมาที่โรงแรมเรียบร้อยแล้ว และกำลังนอนเบียดกันอยู่บนเตียงเพื่อคุยกับอีกคนที่อยู่ทางนี้ พอผมถามไปแบบนั้นก็ได้ยินเสียงตอบรับกลับมา

“สนุกดี -- แกสอบเสร็จยัง"

“แล้ว วันนี้เลย"

“ดีอ่ะ สอบเสร็จปุ๊บมาหาเพื่อนเราปั๊บ ดีขนาดนี้ ถ้าจีบไม่ติดเดี๋ยวเราด่าไอ้ยิ้มให้"

ผมหัวเราะรับ พร้อมกับที่ยิ้มหวานหมุนหน้าจอกลับไป แล้วพูดออกมาพร้อมกับกดตัดสาย

“กวนตีน! กูวางละ"

ผมมองคนตรงหน้าแล้วได้แต่ขำ  ก่อนจะลุกขึ้นเดินตรงเข้าไปในห้องครัว แล้วไปหยิบน้ำดื่มออกมาเทใส่แก้ว พร้อมกับสังเกตเห็นที่วางอยู่บนโต๊ะกินข้าวไปด้วย

บนนั้นมีกล่องโดนัทที่เขาเอามาบังคับให้ผมกินเมื่อตอนเที่ยง กล่องสีขาวประดับด้วยลายโลโก้ของร้าน แถมยังมีกระดาษโพสอิทใบเล็กแปะอยู่ กับลายมือหวัดๆ


- สู้เค้านะครับเด็กน้อย -


เด็กน้อยอะไรวะ?
แอ๊บแบ๊วสัด ใครเค้าเรียกผู้ชายอายุ 20 ว่าเด็กน้อย?  -_-

ผมมองกระดาษสีบาดตาแผ่นนั้นด้วยสีหน้าอธิบายไม่ถูก ก่อนจะรู้สึกว่ามีคนเดินมาลากเก้าอี้ออกแล้วนั่งลงข้างๆกัน  มาถึงปุ๊บยิ้มหวานก็เปิดกล่องโดนัทแล้วหยิบขนมเคลือบน้ำตาลขึ้นมาทำท่าจะกิน ถ้าไม่โดนผมถามเอาไว้ก่อน

“วันนี้ออกไปไหนมาเนี่ย?”

ถามอ้อมโลกโคตรเลยครับ
ถ้าอยู่ๆจะไปถามว่า ใครให้โดนัทมา? ก็ฟังดูแปลกๆ แถมยังดูเสือกๆอีกด้วย
ทำเป็นถามเรื่องอื่นก่อนอย่างนี้นี่แหละดีแล้ว

คนฟังเลิกคิ้ว ทำตาโตมองหน้าผม ก่อนตอบ

"ไม่ได้ไปไหนนี่"

“อ้าว แล้วโดนัทนี่มาไงอ่ะ?”

นั่นแหละ! เข้าประเด็น!

“ลูกเพื่อนสนิทแม่อ่ะซื้อมาให้อ่ะ บังเอิญเจอกันตอนเรากลับบ้าน พี่เค้าคงเห็นเราเหนื่อยๆ แล้วบังเอิญผ่านมาแถวนี้พอดีมั้ง เลยซื้อขนมมาฝาก"

“เออดีอ่ะ  มีพี่ทำงานใกล้ๆคอยส่งขนม"

ที่ผมอยากถามคือจริงๆอะไร?
'ไอ้พี่นั่นมันทำงานแถวนี้รึไงถึงได้แวะมา?'
กูโคตรเกลียดตัวเองเลยนาทีนี้

“เปล่า ออฟฟิศพี่เค้าอยู่สาธร"

สาธรกับคอนโดยิ้มหวานนี่คนละทิศกันเลยนะเว่ย!
ผมมองคนที่กำลังจะอ้าปากงับโดนัทในมือแล้วทนไม่ไหวจนต้องก็ยื่นมือไปแย่งขนมในมือเขามาคาบเอาไว้เอง

ก่อนจะกัดเนื้อแป้งกับรสหวานจัดของน้ำตาลละลายที่เคลือบอยู่เข้าปาก กินไปเป็นชิ้นที่ 2 แล้ว แต่ผมก็ยังคงไม่เข้าใจว่าทำไมคนถึงได้ชอบไอ้ขนมนี่นักหนา

ยิ้มหวานมองผมอยู่สักพักโดยไม่พูดอะไร พอเห็นว่าผมทำหน้าแหยๆเพราะรสชาติของสิ่งที่กินเข้าไป เขาก็หัวเราะออกมา พร้อมกับยกแขนขึ้นมาเท้าคางจ้องหน้าผม ก่อนจะถาม

“นี่คือหึงเราเหรอ?”

เชี่ย...โหมดนี้โคตรขยี้ใจ!

ลมหายใจผมสะดุดไปจังหวะนึง ก่อนจะพบว่าทางเลือกเดียวที่มีคือการยอมรับซึ่งๆหน้าครับ
ทำไปขนาดนี้แล้วจะแถไปทางไหนได้อีกวะ ถามจริง... ผมเลยยักคิ้วรับ 2 ทีแทนคำตอบ

“คิดเยอะไปแล้ว พี่เค้าไม่ได้จีบเราหรอก เป็นแค่พี่น้องกันจริงๆ..."

"..."

"หมอแม่งตลกว่ะ"

“ถึงกับต้องแม่ง?”

“ทำไม แม่งไม่ได้ไง?”

ผมหรี่ตามองคนที่หยิบโดนัทอีกชิ้นขึ้นมากินทั้งๆที่ยังยิ้มขำผมอยู่ไม่หาย
ก่อนจะทนไม่ไหวยื่นมือมาบิดปลายจมูกเขาเล่น พร้อมถาม

“เถียงเก่งไปปะวะ?”

“เพิ่งรู้เหรอ?”

เขาตอบแล้วทำตาโต  ดูสนุกที่จะแกล้งกันมากจนผมเห็นแล้วไม่รู้จะจัดการ
เลยเปลี่ยนไปถามเรื่องงานเขาแทน

“แล้วงานใกล้เสร็จยัง?”

“ใกล้...แต่ก็ไม่ใกล้อ่ะ"

“ห๊ะ? ต้องนั่งทำถึงเช้าเลยปะเนี่ย?”

“ไม่หรอก เดี๋ยวตีสามตีสี่ก็นอนแล้วมั้ง"

“เดี๋ยวอยู่เป็นเพื่อน...”

ได้ยินผมพูดออกมาอย่างนั้น ยิ้มหวานก็ทำตาโตมองหน้าผมเหมือนจะงงๆ แล้วพูดต่อ

“บ้าดิ หมอจะมานั่งข้ามวันข้ามคืนกับเราทำไม เพิ่งสอบเสร็จไม่ใช่เหรอ? ไม่ไปเมากับเพื่อนอ่ะ?”

มีการไล่ไปกินเหล้าด้วยเว้ย -_-

“ไม่ไปว่ะ อยู่นี่แหละ สั่งสอนเด็กดื้อ"

ทำไม?
ไอ้เด็กส่งโดนัทนั่นยังเรียกเค้าว่า 'เด็กน้อย' ได้เลย
ทำไมผมจะเรียกเขาว่า 'เด็กดื้อ' มั่งไม่ได้
กูก็แบ๊วเป็นนะครับ...

“ดื้ออีกละ เราไม่ดื้อเว่ย ไม่เด็กแล้วด้วย"

“เออ...จริงๆก็ไม่ดื้อเท่าไหร่หรอก...”

“...”

เขาส่งยิ้มมาให้ทันทีที่ผมพูดจบ ก่อนจะหุบยิ้มแล้วทำหน้ามุ่ยทันทีที่ได้ยินประโยคถัดมา

“แต่ชอบทำตัวเหมือนอยู่คนเดียวในโลก ไม่ยอมพึ่งใคร ไม่ยอมให้ใครช่วย"

เพราะผมพูดโดยไม่มีท่าทีเหมือนกำลังล้อเล่น  คนฟังเลยหลบสายตาไปนิดนึง ไม่แน่ใจว่ากำลังรู้สึกผิด หรือน้อยใจที่โดนผมดุเข้านิดๆกันแน่...

ก่อนที่ผมจะพูดประโยคถัดไปพร้อมกับยกมือขึ้นดีดหน้าผากเขาเบาๆ  1 ที
และมันทำให้เขามองกลับมาที่ผม

“ลืมไปแล้วมั้ง ว่าเราตามจีบอยู่"

“บ้าดิ ลืมได้ไง หมอจีบหนักขนาดนี้"

“จริงปะ ไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ย"

ผมพูดพลางทำหน้าทะเล้น แล้วสีหน้านั้นก็ทำให้รอยยิ้มของเขากลับมาอีกครั้ง

“ยิ้มละ...ดุนิดเดียว หงอยเลย"

“ก็อย่าดุมากดิ"

เขาพูดพลางลุกขึ้น เอาโดนัทบนโต๊ะเข้าไปเก็บในตู้เย็น ก่อนจะหันมาพูดกับผมด้วยท่าทีเหมือนกับกำลังพูดเรื่องทั่วๆไป

“อยากนั่งเฝ้าเราก็ตามใจ เบื่อจนทนไม่ไหวเราไม่ลุกมาเล่นด้วยหรอกนะ"

น่ารักไปปะวะคนเรา?

คนที่บอกผมเอาไว้ดิบดีว่าจะไม่สนใจหรอกถ้าผมเบื่อขึ้นมา นั่งทำงานอยู่สักพัก ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องนอนแล้วกลับมากับกล่องพลาสติกใบใหญ่ พอเขาเข้ามาใกล้ผมถึงได้เห็นว่ามันคือกล่องใส่แผ่นดีวีดี เขาวางมันลงบนโต๊ะตัวเล็กหน้าโซฟาแล้วหันมาบอกกัน

“ ไม่มีอะไรทำก็ดูหนังได้นะ รื้อตามสบายเลย"

ผมละความสนใจจากการ์ตูนที่อ่านอยู่ในไอแพดแล้วขยับตัวไปหยิบดีวีดีในกล่องขึ้นมาดู มีตั้งแต่ภาพยนตร์ไปจนถึงซีรี่ย์ฝรั่งเรื่องดัง

“ขอบคุณนะ"

“อืม...เราไปทำงานต่อละ"

ผมนั่งอ่านการ์ตูนไปเรื่อยๆ เปลี่ยนไปตอบไลน์บ้างเล่นเกมบ้าง รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เจ้าของห้องเขาก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องนอนอีกครั้งตอนตี 3 คราวนี้เขาหายไปพักใหญ่ แล้วกลับออกมากับข้าวของเต็ม 2 มือ ก่อนจะเดินมาหยุดลงตรงหน้าผม พร้อมกับยื่นอะไรบางอย่างให้

“หมอ...อาบน้ำปะ?”

ผมเงยหน้ามอง แล้วเดาเอาจากกลิ่นหอมอ่อนๆกับเสื้อผ้าที่เปลี่ยนไป ว่าอีกฝ่ายก็คงไปอาบน้ำมาเหมือนกัน พอมองลงมายังของที่เขายื่นมาให้ ก็ต้องเดาต่อไปอีกว่าน่าจะเป็นเสื้อผ้าที่จะให้ผมเปลี่ยน

“เราเอาชุดมาให้ เผื่ออยากอาบน้ำ"

ผมยื่นมือไปรับของจากเขา แล้วหยิบขึ้นมาดูทันทีว่าอีกฝ่ายเอาอะไรมาให้ใส่ พอเห็นว่าเป็นเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงวอร์มสีเทาที่ผมน่าจะใส่ได้สบายๆก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา

“ข้อดีของการมีแฟนเป็นผู้ชายนะเนี่ย"

ผมแค่พูดเล่นๆ แต่อีกฝ่ายกลับอายขึ้นมาซะอย่างนั้น...
ยิ้มหวานซ่อนท่าทีเขินๆของตัวเองด้วยการย่นจมูกเข้า ก่อนจะยกเท้าขึ้นมาเตะหน้าขาผมอีกแล้ว

ทำอะไรไม่ได้ก็เตะกันตลอด  -_-

“พูดงี้ แสดงหมอซักแห้งเวลาไปนอนบ้านสาวๆบ่อยอ่ะดิ"

“ไม่ใช่ละ"

พอเห็นว่าผมตอบกลับด้วยหน้านิ่งๆ อีกฝ่ายก็หลุดขำ ยกมือขึ้นมาโบกให้ผมแล้วบอกกันสั้นๆว่า 'ไปละ' ก่อนจะกลับไปทำงานต่อ

ผมนั่งอ่านการ์ตูนเรื่องนี้จนถึงตอนล่าสุด ก่อนจะรู้สึกว่าควรจะลุกขึ้นไปอาบน้ำเหมือนกัน เพราะอยู่กับชุดนักศึกษามาทั้งวันแล้ว

หลังจากที่ลุกขึ้นยืนแล้วหยิบเสื้อกับกางเกงที่ยิ้มหวานเอามาให้ขึ้นมาถือไว้
ผมก็...ไม่รู้ว่าต้องไปอาบน้ำที่ไหน -_-
เพราะเท่าที่จำได้ ห้องน้ำข้างนอกมันน่าจะไม่มีโซนสำหรับอาบน้ำ

ทางเดียวที่มีก็คือต้องถามเจ้าของห้อง...

“ยิ้ม...เราอาบน้ำที่ไหนได้อ่ะ"

"อ๋อ..." คนที่นั่งทำงานอยู่รับคำ ก่อนจะเงียบไปนิดหน่อยเพื่อใช้ความคิด แล้วตอบกลับมา "อาบในห้องเราก็ได้"

พูดจบเขาก็ลุกขึ้น หันมามองผม ก่อนจะกวักมือเรียกกันแล้วเดินนำไปยังห้องนอน ในระหว่างนั้นผมยังคงยืนอยู่ที่เดิมพร้อมกับคำถามในใจ เอางั้นเลยเหรอวะ?

ผมคิดไปคิดมาเหมือนกำลังเถียงกับตัวเอง และพบว่า...
ทั้งผมและเขา เราก็เป็นผู้ชายกันทั้งคู่ ถ้าไม่คิดอะไรให้มันมากเกินความจำเป็น
มันก็คงไม่ต่างจากการที่ผมไปนอนเล่นในห้องนอนไอ้พวกเวรสามตัวนั่น

ผมว่าเขาก็คงพยายามอยู่ที่จะไม่แสดงท่าทีอะไรให้มันเกิดสถานการณ์ชวนอึดอัด
ในเมื่ออีกฝ่ายไว้ใจกันมากขนาดนี้ ผมเองก็ควรจะทำตัวดีๆให้สมกับที่เขาเชื่อใจ ถูกไหม?

ท่องไว้ไอ้หมอ...
พูดจาปกติ ทำตัวตามธรรมชาติ อย่าทำให้เขาไม่สบายใจ
ตกลงกับตัวเองเรียบร้อบ ผมก็เดินตามเขาเข้าไป

ห้องนอนยิ้มหวานตกแต่งด้วยโทนสีเดียวกับด้านนอก ในห้องมีเตียง ตู้เสื้อผ้า โทรทัศน์ และสิ่งอื่นๆที่ไม่ต่างจากห้องนอนทั่วไปมี ทุกอย่างถูกจัดเอาไว้อย่างเรียบร้อย แต่สิ่งที่ผมชอบคือกลิ่นหอมอ่อนๆที่รู้สึกได้ทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้องนี้

มันเป็นกลิ่นที่ไม่ต่างจากห้องรับแขกด้านนอก แต่หอมมากกว่าเพราะมีกลิ่นอายความเป็นส่วนตัวของเขาแฝงอยู่

อีกรอบนะมึง...
 พูดจาปกติ ทำตัวตามธรรมชาติ อย่าทำให้เขาไม่สบายใจ

เจ้าของห้องหันมามองผมที่ยังไม่รู้จะเอาตัวเองไปวางไว้ตรงไหนดี  ก่อนจะพูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม

“เรียบร้อยอ่ะดิ"

“อืม...มากอ่ะ"

“ไม่ค่อยได้นอนไง ส่วนใหญ่หลับคาคอมอยู่ข้างนอกมากกว่า"

ได้ยินอย่างนั้นผมก็พยักหน้ารับ แล้วตอบกลับไป

“ก็ว่าอยู่..."

“เออใช่! เรายังไม่ได้หยิบผ้าเช็ดตัวให้หมอ"

อยู่ดีๆเขาก็พูดออกมาพร้อมกับทำตาโต ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ผมพร้อมกับเปิดตู้เสื้อผ้าที่อยู่ทางขวามือออก และหยิบผ้าเช็ดตัวมาถือเอาไว้ ไม่ทันได้ยื่นผ้าผืนนั้นให้ เจ้าตัวก็พูดออกมาอีก แล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ

“แปรงสีฟันด้วย!"

ผมมองคนที่เดินไปเดินมา แบบที่เห็นได้ชัดเลยว่าดูลนลานกว่าทุกครั้งแล้วก็เดาได้ไม่ยากหรอกว่าอีกฝ่ายก็คงจะเขินไม่แพ้กัน

สักพัก...ผ้าขนหนูเนื้อนุ่มสีน้ำเงินเข้มก็ถูกยื่นมาให้ตรงหน้า โดยที่มีแปรงสีฟันที่ยังอยู่ในกล่องวางอยู่ข้างบน กับถุงพลาสติกใสๆ

“นี่ถุงซิปล็อค เอาไว้ใส่เสื้อผ้าของวันนี้นะ"

“อ...อืม"

ผมรับคำแบบที่สมองยังคงประมวลอะไรไม่ค่อยได้เท่าไหร่
งงอยู่ว่า แค่มนุษย์คนนึงจะอาบน้ำที่บ้านคนอื่นนี่มันต้องใช้อุปกรณ์เยอะขนาดนี้เลยเหรอ?

“กางเกงในด้วยปะ? เรามีแบบที่ยังไม่ได้แกะอ่ะ คือ...เพื่อนๆเรา....ซื้อทิ้งไว้.."

นี่มันคอนโดส่วนตัวจริงเหรอวะ?
-_-

ผมรับผ้าขนหนูผืนนั้นเอาไว้ แล้วก็ยืนนิ่งๆอยู่ตรงหน้าเขา ก่อนที่ยิ้มหวานจะเริ่มเดินไปทั่วห้องอีกครั้ง

...มันชักจะ พูดจาปกติ ทำตัวตามธรรมชาติ อย่าทำให้เขาไม่สบายใจ ไม่ไหวขึ้นมาเพราะท่าทีของคนตรงหน้านี่แหละ

สักพักกระเป๋าพลาสติกใสๆที่ใส่กางเกงในสามตัวอัดแน่นกันอยู่ในนั้นก็ถูกยื่นมาตรงหน้า

โอเค...กูมาถึงจุดที่กำลังยืมกางเกงในจากคนที่ตัวเองชอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เปิดประสบการณ์ใหม่เหี้ยๆ -_-

คนที่อยู่ตรงหน้าผมมองกองข้าวของเยอะแยะที่อยู่ตรงหน้า แล้วยิ้มออกมาด้วยท่าทีเขินๆ

“แหะ...ของเต็มเลย..."

“มากอ่ะ"

“ห้องน้ำอยู่มุมขวาในสุดของห้อง ของในนั้นใช้ได้ตามสบายเลยนะ ครีมล้างหน้าอยู่ตรงอ่างอาบน้ำ แล้วก็ สบู่กับยาสระผมอ่านชื่อเอาที่ขวดนะ ไดร์เป่าผมอยู่ในตู้หลังกระจก สับสวิตซ์ก่อนเปิดเครื่องทำน้ำอุ่นด้วย.....นะ"

คำพูดของเขาสะดุดไปเพราะผมรวบถือของทั้งหมดไว้ด้วยมือข้างเดียว และใช้อีกข้างที่ว่างอยู่นั่นจับต้นแขนเขาเบาๆ แล้วพูดออกมา

“ยิ้ม...”

อีกฝ่ายขมวดคิ้วเข้าจนยุ่งเหมือนคนกำลังทำอะไรไม่ถูก เขาสบตาผมครู่หนึ่ง ก่อนจะเปลี่ยนไปตรึงสายตามองค้างอยู่ตรงห่อผ้าขนหนูในอ้อมกอดของผม โดยไม่ยอมสบตากันตอนที่ตอบกลับมา

“อ....อะไร?”

“ใจดีขนาดนี้ เราจะมีความหวังแล้วนะ"

คำพูดของผมเหมือนจะไปกระเทาะเปลือกบางๆที่เขาสร้างขึ้น...
นั่นทำให้เจ้าคนฟังตกอยู่ในสภาวะคุมสถานการณ์ไม่อยู่ยิ่งกว่าเดิม

ยิ้มหวานดูเขิน...เขาเขินมากกว่าครั้งไหนๆที่ได้ยินคำพูดหยอดๆของผม น่ารักดีที่ตอนนี้นิ้วมือของเขากำลังจิกปลายเสื้อของตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย

ไม่ทันไรเขาก็จัดการทุกอย่างได้ คนตรงหน้าผมสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะหายใจออกจนสุด แล้วเงยขึ้นมามองสบตากับผมเหมือนเดิม โดยที่ความรู้สึกขัดเขินก็ยังคงมีให้เห็น...

“ก็...ตามใจหมอดิ"

กลายเป็นว่าผมกลับมาเป็นฝ่ายที่ถูกเขาจู่โจม...
คำตอบที่ได้ยินเรียกให้ผมก้าวเท้าเข้าไปใกล้เขามากขึ้น

ผ้าขนหนูนุ่มๆในมือที่ผมถืออยู่มันแทบจะโดนแขนอีกข้างที่เขาทิ้งไว้ข้างลำตัว ตอนที่ผมก้มหน้าลงไปแล้วพูดเบาๆ

“ถ้าตามใจเรา....”

ไหล่ของเขาเกร็งขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตอนที่ผมขยับเข้าไปใกล้
อีกฝ่ายเหมือนจะพยายามก้าวเท้าหนี แต่ร่างกายก็ไม่ยอมขยับไปไหนเพราะฝ่ามือของผมที่สัมผัสต้นแขนเขาอยู่มันจับกระชับแน่นเข้า
ระหว่างที่ผมก้มหน้าลง แล้วประทับริมฝีปากลงไปบนผิวแก้มนุ่มที่มุมปากอย่างแผ่วเบา


“...ก็จะเป็นอย่างนี้นะ”



tbc.


- - - -




ไอ้น้องหมอลูกแม่...
ไหนวะ "พูดจาปกติ ทำตัวตามธรรมชาติ อย่าทำให้เขาไม่สบายใจ" ของแก.... -*-
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-10-2015 15:09:08 โดย kipuuu »

ออฟไลน์ แพรวฐา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [15] <13.10.15> page 30
«ตอบ #885 เมื่อ13-10-2015 15:23:15 »

 :-[ :o8:

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [15] <13.10.15> page 30
«ตอบ #886 เมื่อ13-10-2015 15:25:00 »

ดีใจกับหมอด้วยยยย ก้าวไปอีกขั้นแล้ววว  :impress2:
ทั้งคู่ดูเขินนะตอนอยู่วในห้องนอน ยิ้มหวานน่ารักมากกก  :-[ :กอด1:

ออฟไลน์ Nongying2012

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [15] <13.10.15> page 30
«ตอบ #887 เมื่อ13-10-2015 15:25:30 »

แค่เขาหอมแก้มกันก็ฟินยิ่งกว่า NC โอ๊ยเขิน :-[ :-[

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [15] <13.10.15> page 30
«ตอบ #888 เมื่อ13-10-2015 15:28:57 »

หมอยืมกางเกงในยิ้มหวาน :mew3:

หวังว่าอีกไม่นานหมอจะไม่ต้องยืม

เพราะของใช้ส่วนตัวและตัวหมอเองจะมาอยู่ที่ห้องยิ้มหวาน

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

 

ออฟไลน์ lonesomeness

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [15] <13.10.15> page 30
«ตอบ #889 เมื่อ13-10-2015 15:29:25 »

เขินจนต้องจิกเท้า
เง้อ เขินง่าาาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [15] <13.10.15> page 30
« ตอบ #889 เมื่อ: 13-10-2015 15:29:25 »





ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [15] <13.10.15> page 30
«ตอบ #890 เมื่อ13-10-2015 15:40:13 »

เขาหอมแก้มกันแล้ววววววว

ออฟไลน์ Honeyhoney

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [15] <13.10.15> page 30
«ตอบ #891 เมื่อ13-10-2015 16:02:26 »

 :hao7:  ยิ้มน่ารักหมอก็น่ารัก  :katai4:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [15] <13.10.15> page 30
«ตอบ #892 เมื่อ13-10-2015 16:02:40 »

ไอ้ที่ทำตัวปกติไม่ได้สุดๆ ก็คนอ่านนี่แหละ

เขินจนกัดหมอนกระจุยไปแล้ว

โอย....ใจละลาย


ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [15] <13.10.15> page 30
«ตอบ #893 เมื่อ13-10-2015 16:04:39 »

เขินหมออ่ะ >_<



ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [15] <13.10.15> page 30
«ตอบ #894 เมื่อ13-10-2015 16:10:03 »

เขินเลย

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [15] <13.10.15> page 30
«ตอบ #895 เมื่อ13-10-2015 16:15:53 »

เมื่อไหร่ยิ้มจะยอมใจอ่อนซะที หมอสู้ สู้  :mew1:

ออฟไลน์ anandawan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [15] <13.10.15> page 30
«ตอบ #896 เมื่อ13-10-2015 16:16:28 »

นี่แหละคือ "พูดจาปกติ ทำตัวตามธรรมชาติ อย่าทำให้เขาไม่สบายใจ"
พูดจาปกติ คือ พูดหยอดเป็นปกติ
ทำตัวตามธรรมชาติ คือ จีบเนียนๆ แต๊ะอั๋งตามธรรมชาติ
อย่าทำให้เขาไม่สบายใจ คือ จุ๊บแก้มเบาๆ ขั้นเริ่มต้น ไม่จู่โจมมาก แค่นี้ ยิ้มหวานก็ไม่ตกใจ สบายใจหายห่วง

กรี๊ดดดดดดดดดดดดมาก ขอบอก ตอนแรกคิดว่าหมอมันไม่มีน้ำยา ที่ไหนได้ น้ำยาของหมอมันมาแบบกระปิ้ด กระปิ้ด แต่ฟินมากเลยอะ
 :-[  :-[

ออฟไลน์ fanglest

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [15] <13.10.15> page 30
«ตอบ #897 เมื่อ13-10-2015 16:36:43 »

แอร๊ยยยยยยยยย
้เขินอย่างบ้าคลั่ง
จีบไม่ติดให้มันรู้ไปสิ
อ่อย แถมให้ท่าขนาดนี้แล้ว
เขินมาก บอกเลย อ่านไปร้องไปอะ
 :hao7:

ออฟไลน์ silverrain

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [15] <13.10.15> page 30
«ตอบ #898 เมื่อ13-10-2015 17:04:53 »

งื้อ น่ารักอ่ะ
เค้าหอมแก้มกันแล้ว เขินヾ(*´∀`*)ノ

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
Re: -THAT SMILE- #ยิ้มหวานของหมอ [15] <13.10.15> page 30
«ตอบ #899 เมื่อ13-10-2015 17:10:57 »

จุ๊บแก้มก็ยังดีเนาะหมอเนาะ!!!!!!!
อย่างฟิน อร๊ายยยย เขินอะดิๆๆๆๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด