✿✿ ธุรกิจนี้มีรัก ✿✿
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ✿✿ ธุรกิจนี้มีรัก ✿✿  (อ่าน 109712 ครั้ง)

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
✿✿ธุรกิจนี้มีรัก✿✿
CHAPTER 06 ❋ Your Way ทำพิษ


"ได้ข่าวว่าพี่เล็กขายยัวร์เวย์ด้วยเหรอคะ ทำไปถึงไหนแล้วคะเนี่ย"

เสียงใครบางคนถามขึ้น แม้ฟังเผินๆ ก็ยังฟังออกว่าติดหยันหน่อยๆ ไม่ใช่เพียงแต่คนถูกเรียกเท่านั้น ช่างแต่งหน้า ตากล้อง โปรดิวเซอร์และอีกหลายคนในกองถ่ายแบบหันมามองด้วยความสนใจด้วย

"อ๋อ...ครับ ตาต้ารู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ" เล็กยิ้มแหยๆ พลางมองไปรอบๆ

"รู้สิคะ แหม...เรื่องแบบนี้มันปิดกันไม่มิดหรอกค่ะ ช่วงนี้งานน้อยเหรอคะพี่ อืม...แต่ก็น่าจะเป็นอาชีพเสริมแก้เซ็งได้ดีนะคะ คนแถวบ้านตาต้าก็ขายค่ะ เนี่ย...ตาต้ายังเคยช่วยเขาซื้อเครื่องกรองน้ำเลยค่ะ ก็ดีนะคะ กรองน้ำได้ใสแจ๋วเชียวค่ะ เสียดาย...ไม่รู้ว่าพี่เล็กขายจะได้มาช่วยซื้อ อ้อ...คนนั้นเขาได้ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยนะคะ สงสัยคงขายเก่งน่าดู พี่เล็กขายได้เยอะยังคะ" ตาต้าพูดระคนขำ

เล็กออกจะไม่พอใจเล็กน้อย แต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้ ในวงการบันเทิงก็เป็นแบบนี้ เบื้องหน้าดูสวยงาม หรูหรา หล่อ สวย นิสัยดี แต่เบื้องหลังมีการอิจฉาริษยา เยาะเย้ยและแทงข้างหลังกัน ถ้าไม่มีเรื่องแบบนี้คงขาดสีสันไปมากทีเดียว

เล็กเลิกคิ้วมองนางแบบสาวที่จะขึ้นปกคู่กัน อดสงสัยไม่ได้ว่าเธอไปรู้มาจากไหน หรือใครสักคนในกองถ่ายละครเก่าที่เล็กถูกปลดออกเป็นคนกระจายข่าว เพราะเป็นเพียงที่เดียวที่เล็กเพิ่งเปิดเผยว่าทำยัวร์เวย์

"อ๋อ...ยังไม่เยอะหรอกครับ พี่ขายไม่เก่งหรอก ทำเล่นๆ สนุกๆ ไปงั้นแหละครับ" เล็กหัวเราะกลบเกลื่อน กระนั้นก็แอบหนักใจไม่น้อย ดูเหมือนเค้ารางความยุ่งยากจะเริ่มก่อตัวขึ้นเสียแล้ว

"วันหลังเอาแค็ตตาล็อกมาด้วยสิคะ เผื่อตาต้าจะช่วยซื้อ เห็นเขาว่าชุดเครื่องสำอางค์คุณภาพดีมาก วันหลังพี่เล็กติดมาด้วยนะคะ" ตาต้าหัวเราะชอบใจ การได้ข่มกันเล็กๆ น้อยๆ เป็นความสุขอย่างหนึ่งของคนวงการบันเทิง

"ครับ เดี๋ยว...พี่ขอตัวไปห้องน้ำแป๊บหนึ่งนะครับ เดี๋ยวมานะครับ" เล็กหันไปบอกนางแบบสาวสวยและคนอื่นๆ ก่อนผลุนออกไปอย่างรวดเร็ว

พอเข้ามาในห้องน้ำ เล็กเปิดดูโทรศัพท์ว่าเจติดต่อมาบ้างหรือเปล่า แต่ไม่มีแม้แต่อักษรตัวเดียวส่งมาให้ ช่วงนี้เจไม่โทรมาคุยด้วย ไม่ไลน์มาหา โทรไปก็ไม่รับสาย ไม่รู้ว่าเป็นอะไรกันแน่ ทำพฤติกรรมแปลกๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ผีเข้าผีออก เล็กชักจะเริ่มไม่ไว้ใจเสียแล้ว

ดูเหมือนยัวร์เวย์จะทำพิษกับเล็กไม่หยุดไม่หย่อน อีกไม่กี่วันต่อมาก็มีข่าวซุบซิบในคอลัมน์หนังสือบันเทิงหลายฉบับ

คุณสนิทซึ่งเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเล็กส่งไลน์มากบอกในเช้าวันหนึ่ง เล็กจึงรีบไปขนหนังสือพิมพ์ในกล่องไปรษณีย์มาดู พอเปิดดูหนังสือพิมพ์ที่คุณสนิทอ้างถึง เล็กก็ถึงกับกุมขมับ ในนั้นเขียนแซวว่า...

'ติ๊งต่อง มิสสะตอ เอ๊ย แมงเม้าท์แมวเหมียวมาแล้วค่าาาาา วันนี้มีเรื่องฟินเฟร่อมาแฉเอ๊ยเล่าอีกแล้วค่ะคุณขาาาา ตอนนี้เขาลือกันว่าพระเอก ล. ลิง ตกอับหนัก!!! ถึงขนาดหันไปยึดอาชีพ MLM แล้วนะคะคุณขา สงสัยงานในวงการบันเทิงจะไม่รุ่ง ละครคงถูกดองจนเหม็นเปรี้ยว ฝากผู้ใหญ่ทั้งหลายเมตตาด้วยนะคะ แมงเม้าท์แมวเหมียวกลัวว่าพระเอกของเราจะไปเอาดีด้านขายตรงซะก่อนนะคะคุณขาาาาา ติ๊งต่อง แมงเม้าท์แมวเหมียวขอบินว่อนไปหาลูกค้าก่อนนะคะ อีกสองปีจะเป็นมงกุฎเพชรแล้วค่าาาาาา'

เล็กนึกโมโหจนแทบจะโยนหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นทิ้ง ไม่ได้การแล้ว เล็กควรต้องลาออกโดยเร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นอนาคตในวงการบันเทิงคงดิ่งเหวเพราะขายยัวร์เวย์แน่ คนในวงการคงล้อกันสนุกปาก ดีไม่ดีจะทำงานหายเงินหด ไม่น่าตัดสินใจพลาดเลย

เล็กยังไม่ทันไปลาออก วันต่อมา ผู้ใหญ่ของช่องที่เล็กสังกัดอยู่ก็เรียกไปเตือนพร้อมกับคุณสนิท

"คุณเล็ก คุณเห็นข่าวซุบซิบทั้งหลายแหล่แล้วใช่ไหมครับ บอกตรงๆ ว่าผมผิดหวังในตัวคุณมาก คุณปล่อยให้มีข่าวแบบนี้ออกไปได้ยังไง เสียภาพลักษณ์ของคุณหมดเลย จะทำผมก็ไม่ว่า แต่ไม่ต้องทำให้เป็นข่าวแบบนี้ก็ได้ อาชีพแบบนี้คุณก็รู้ว่าคนทั่วไปเขารับไม่ได้หรอก พวกอยากรวยทางลัดแต่ไม่ทำอะไร ผมล่ะเกลียดจริงๆ ไอ้พวกทำนาบนหลังคน ผมว่าคุณเลิกทำเถอะ ไม่อย่างนั้นคุณจะลำบาก อย่าหาว่าผมไม่เตือน"

เล็กได้แต่นั่งก้มหน้า ผู้บริหารท่านนี้ดูท่าจะไม่ชอบธุรกิจเครือข่ายมากทีเดียว "ครับ"

"ดีครับ อาทิตย์หน้าผมจะรอฟังคำตอบจากคุณ แต่ถ้าจะให้ดีก็รีบไปลาออกให้เร็วที่สุด ไม่งั้นอย่าหาว่าผมใจร้ายใจดำกับคุณนะคุณเล็ก"

ไม่รู้ว่าเป็นคำแนะนำหรือคำสั่ง แต่เล็กคงไม่มีทางเลือกนอกจากไปลาออกให้เร็วที่สุด แต่ช่วงนี้ยังไม่สะดวกเพราะมีงานตลอดวัน ต้องรอไปอีกสองสามวันถึงจะพอปลีกตัวได้

เล็กกับคุณสนิทลงมาจากตึกที่ทำการของช่องแล้ก็แยกย้ายกันไป คุณสนิทมีธุระกับลูกสาว ส่วนเล็กต้องไปทำงานต่อ วันนี้มีรายการเกมส์โชว์หนึ่งรายการ ไม่รู้ว่าจะมีใครล้อเรื่องยัวร์เวย์อีกหรือเปล่า รู้อย่างนี้ไม่ทำเสียก็ดี

ขณะที่เล็กนั่งแท็กซี่ออกไปยังสตูดิโอถ่ายทำรายการ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นเบอร์แปลกๆ ที่ไม่คุ้นเคย แต่เป็นเรื่องปกติสำหรับเล็ก เพราะมีคนแปลกหน้าโทรมาหาทุกวันอยู่แล้ว

"สวัสดีครับเล็ก ไม่ได้เจอกันซะนาน สบายดีนะครับ"

น้ำเสียงจากปลายสายฟังคุ้นหู แต่เล็กก็ยังนึกไม่ออกว่าเป็นเสียงใคร จึงตอบไปด้วยน้ำเสียงเรียบๆ "ครับ สบายดีครับ จากไหนครับ"

เล็กถามพลางมองออกไปนอกกระจกรถ รู้สึกกังวลใจเล็กน้อยเพราะรถติดมากและใกล้เวลานัดแล้ว ถึงจะเป็นดารา แต่เล็กไม่ชอบไปสายแล้วให้คนอื่นรอ

"แหม...ทำเป็นจำพี่ไม่ได้นะครับ ฟังเสียงพี่ไปเรื่อยๆ ละกัน เดี๋ยวเล็กก็จะจำได้เองแหละ เพราะเราเคยเจอกันแล้ว ที่พี่โทรมาวันนี้ เพราะพี่เห็นข่าวซุบซิบของเล็ก ก็เลยรู้สึกเป็นห่วง เดี๋ยวนี้งานมันน้อยขนาดนั้นเลยเหรอครับ"

เล็กแอบถอนหายใจอย่างรำคาญ เรื่องนี้อีกแล้ว ไม่รู้อะไรกันนักกันหนา

"ถ้ามีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกนะ เรื่องเงินน่ะหาไม่ยากหรอก ถ้าขัดสนจริงๆ มาทำงานบางอย่างให้พี่ไหมล่ะ ใช้เวลาไม่นานหรอก พี่รับรองว่าได้เยอะแน่ๆ"

เพียงเท่านี้เล็กก็นึกออกแล้วว่าเป็นใคร "คุณชิงชัย"

"นั่นไง เห็นไหมล่ะ พี่ถึงบอกไงว่าสุดท้ายเล็กก็ต้องจำได้ว่าพี่เป็นใคร แหม...คนคุ้นเคยขนาดนี้จะลืมกันง่ายๆ ก็เกินไปละ" ทางนั้นพูดหยอกอย่างสนุก

"พี่ต้องการอะไร ผมไม่มีเวลามากนะครับ เดี๋ยวจะต้องไปถ่ายรายการแล้ว" เล็กบอกเสียงเกือบห้วน ถึงจะตกอับยังไงก็ไม่มีทางไปหานายคนนี้อย่างเด็ดขาด

ชิงชัยหัวเราะร่วน "ไม่มีอะไรหรอก ทำไมต้องกลัวพี่ขนาดนั้นล่ะ พี่ไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อนเล็กก็รู้ มีแต่ทำให้..." ชิงชัยหัวเราะร่าอีก "แถมยังมีเงินใช้อีกต่างหาก ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัวเลย"

เล็กกัดฟันแน่นด้วยความโมโห อย่าคิดว่าพอตกอับแล้วจะยอมทำอะไรก็ได้ ยังไงเล็กก็ยังมีทางเลือกอื่น อย่ามาดูถูกกันแบบนี้ดีกว่า

"ก็คิดดูละกัน งานที่สบายและได้เงินเยอะขนาดนี้ พี่ไม่ได้มีให้กับทุกคนนะ ก็เอาเป็นว่า....อยากให้พี่ช่วยอะไรก็บอก เรื่องละครที่ถูกดองน่ะ รู้ไหมว่าแค่พี่ยกหูโทรเข้าไปที่ช่อง พรุ่งนี้ละครของเล็กก็อาจจะได้ออกอากาศแล้ว เรื่องขี้ปะติ๋วแค่นี้พี่ช่วยเล็กได้เสมอ บอกพี่มาละกัน"

"ไม่เป็นไรหรอกครับ ขอบคุณ แค่นี้ก่อนนะครับ พอดีผมไม่สะดวกคุย"

เล็กรีบวางสายไปอย่างหงุดหงิด สมัครทำยัวร์เวย์แค่ไม่กี่วันก็เกิดเรื่องปวดหัวแล้ว คิดผิดซะแล้วที่เชื่อเจ จนป่านนี้ก็ยังติดต่อไม่ได้ จะเอายังไงกันแน่

ไม่นานโทรศัพท์ของเล็กก็ดังขึ้นมาอีก คุณสนิทนั่นเอง เล็กจึงรีบรับเผื่อว่าจะมีงานติดต่อเข้ามา ช่วงนี้รายได้หายไปพอสมควร อีกไม่กี่วันก็ต้องจ่ายค่าผ่อนบ้านและค่าใช้จ่ายรายเดือนอีกจิปาถะ ถ้าซื้อรถด้วยก็คงแย่ ผ่อนจนตัวตายกันเลยทีเดียว

"ครับคุณสนิท" เล็กกรอกเสียงลงไป

"คุณเล็กครับ รายการที่คุณเล็กจะไปออก ตอนนี้เขาโทรมาบอกว่า...ไม่ต้องไปแล้วครับ ทางนั้นติดต่อให้น้องกันมาออกแทนแล้วครับ พอดีมีคำสั่งด่วนมาจากทางผู้ใหญ่ ทางนั้นเขากำลังจะดันน้องคนนี้ ก็เลย...เอ่อ...ก็อย่างที่คุณเล็กรู้นั่นแหละครับ อ้อ ข่าวซุบซิบในหนังสือพิมพ์ก็มีส่วนด้วย" น้ำเสียงของคุณสนิทฟังดูเศร้า

เล็กนึกอยากตะโกนให้ก้องฟ้า นี่มันอะไรนักหนา ทำไมช่วงนี้ถึงโชคร้ายแทบทุกวัน เป็นเพราะไอ้ธุรกิจยัวร์เวย์บ้านั่นแท้ๆ แทนที่จะมีรายได้ กลับต้องเสียรายได้ไปโดยไม่คาดฝัน

เล็กคุยกับคุณสนิทสักพักก็วางสาย ก่อนบอกให้แท็กซี่เปลี่ยนจุดหมายปลายทางไปที่หนึ่ง เล็กยังมีงานสัมภาษณ์ลงนิตยสารเรื่องการดูแลสุขภาพของผู้ชายอีกที่ เนื่องจากเล็กเป็นคนชอบออกกำลังกายและฟิตหุ่น ถึงกับยอมเสียเงินแสนแพงเป็นสมาชิกฟิตเนสแห่งหนึ่งไว้ สิ้นเดือนนี้ก็ดันครบกำหนดจ่ายค่าสมาชิกพอดี

เล็กพยายามโทรหาเจ แต่ก็เป็นเหมือนเดิม โทรติดแต่ไม่รับสาย ไม่รู้ว่าวันนั้นกลับบ้านไปทะเลาะกับแฟนหรือเปล่า แล้วก็พาลโกรธเล็กไปด้วย แต่มันไม่ใช่ความผิดของเล็กสักหน่อย

เมื่อไม่รู้จะทำอย่างไร เล็กจึงส่งข้อความไปหาอีกรอบ

"ขอบคุณที่ช่วยนำโอกาสมาให้นะครับ แต่อีกไม่กี่วันนี้ผมจะไปลาออกแล้ว"

เล็กเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าอย่างหงุดหงิด นึกระแวงว่านิตยสารนั้นจะโทรมายกเลิกหรือเปล่า แต่ดีที่ยังไม่มีวี่แวว


"ไหนว่าธุรกิจของพี่คือการช่วยเหลือแบ่งปันกันไงคะ ไหนว่าแข่งขันกันที่การยกระดับจิตใจ แล้วนี่อะไรคะ"

ยังไม่ทันที่เจจะได้พูดอะไรด้วยซ้ำ พอนั่งลงแฟนสาวก็โยนหนังสือพิมพ์กับนิตยสารสองสามเล่มมาให้ น้ำเสียงเธอฟังดูไม่พอใจมากทีเดียว

วันนี้เป็นวันแรกที่เจเพิ่งเจอหน้าน้ำฝน ก่อนหน้านี้หลังเธอปั้นปึงเพราะโกรธที่เจชวนเล็กมาทำยัวร์เวย์ แต่อยู่ดีๆ วันนี้ก็โทรมาหา บอกให้ยกเลิกนัดทุกอย่างแล้วเธอจะมาหาที่บ้าน ด้วยความคิดถึงแฟนสาวมาหลายวัน เจจึงยอมจัดตารางเวลาตัวเองใหม่

"อะไรเหรอน้ำฝน" เจถามอย่างงงๆ ในขณะมองดูสิ่งพิมพ์หลากชนิดบนโต๊ะ

น้ำฝนส่ายหน้าอย่างระอาใจ เจช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย เอาแต่ทำงาน ไม่เคยรู้ความเคลื่อนไหวของวงการอื่นใดทั้งสิ้น เธอจึงเปิดหน้าหนังสือที่มีข้อความเจ้าปัญหาให้เจอ่านทีละเล่มเสียเอง

"นี่ใช่ไหมคะคือสิ่งที่พี่ขนมต้องการ ไหนว่าธุรกิจนี้สอนให้เป็นคนดีอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วคนที่เขาสอนพี่เขาทำเรื่องแบบนี้กันด้วยไหมคะ"

ถ้าไม่ใช่เพราะข้อความเจ้าปัญหานั้น เจคงโกรธน้ำฝนมากทีเดียวที่ไปลามปาม เจแทบพูดไม่ออก คิดไม่ถึงว่าจะเกิดความเดือดร้อนกับเล็กถึงขนาดนี้

"ฝนผิดหวังในตัวพี่มาก" น้ำฝนเน้นย้ำชัดถ้อยชัดคำ "ฝนเคยคิดว่าถ้าธุรกิจนี้มันดีจริง ฝนก็อาจจะลองไปเรียนรู้ดูบ้าง แต่ตอนนี้คงไม่แล้วล่ะค่ะ ถ้าเขาสอนให้เป็นคนดีจริง แล้วพี่ทำอย่างนี้ทำไมคะ พี่เล็กเขาไปทำอะไรให้พี่ขนมไม่พอใจเหรอ ที่ผ่านมาชีวิตพี่เขาก็น่าสงสารมากพอแล้ว ทำไมพี่จะต้องไปซ้ำเติมเขาอีก รู้ไหมคะว่า...ตอนนี้พี่เล็กแทบไม่มีงานเข้ามาเลย งานที่รับไว้ก็ถูกยกเลิก ละครที่ว่าจะให้พี่เล็กไปลองเทสต์ดูเขาก็ไม่เอาแล้ว" น้ำฝนพูดพร้อมน้ำตานองหน้า เธอสงสารเล็กอย่างจับจิตจับใจ

"ฝน....พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจ" เจบอกด้วยสีหน้ารู้สึกผิด ไม่โกรธฝนเลยที่ต่อว่า ทุกวันนี้ที่เจไม่กล้าติดต่อกับเล็กเพราะรู้สึกละอายใจ เล็กเป็นคนดีและน่าสงสาร เจไม่ควรพาเล็กเข้ามาเดือดร้อนเลย

"ขอให้มันเป็นครั้งสุดท้ายละกันนะคะพี่ขนม ถ้ามีเรื่องแบบนี้อีก ฝนคิดว่าเราก็คงต้องอยู่ห่างๆ กันแล้วล่ะค่ะ" น้ำฝนพูดเฉียบขาด ก่อนสะบัดหน้าลุกเดินออกไปจากบ้านของเจ ไม่นานก็ขับรถออกไป

เจไม่ได้ตามไปง้อเหมือนอย่างเคย ได้แต่นั่งนิ่งๆ และครุ่นคิด ไม่นานก็หยิบโทรศัพท์มาดูข้อความที่เล็กส่งมาให้ คำพูดของน้ำฝนเมื่อกี้เสียดแทงใจดีแท้ พี่จุ๊เคยสอนเรื่องหนึ่ง เล็กประทับใจมาก เคยเอามาเล่าให้น้ำฝนฟังบ่อยๆ แม้ว่าน้ำฝนจะยืนกระต่ายขาเดียวว่าไม่ทำธุรกิจนี้ร่วมด้วย

พี่จุ๊สอนไว้ว่า...

"ธุรกิจนี้ ไม่ได้แข่งขันกันที่รายได้หรือวัตถุสิ่งของที่เรามี แต่เราแข่งขันกันที่การยกระดับจิตใจ จิตใจที่มีปัญญา จิตใจที่จะยอมเสียสละเพื่อช่วยเหลือให้คนอื่นได้ประสบความสำเร็จก่อน จิตใจที่ยอมทำงานหนักเพื่อพัฒนาคนที่เขาตามเรามา จิตใจที่จะเป็นคนที่รู้จักคว่ำมือลง ไม่ใช่แค่คนที่หงายมือเพื่อขอเป็นอย่างเดียว...."

พี่จุ๊สอนแบบนี้ เจนำคำสอนนี้ไปสอนดาวน์ไลน์หรือคนที่เข้ามาใหม่เสมอ แต่สุดท้ายเจก็อาจจะทำไม่ได้เสียเอง แล้วจะพูดไปทำไมในเมื่อตัวเองยังทำไม่ได้

แม้ไม่กล้าไปสู้หน้า แต่เจคงต้องทำอะไรบางอย่าง แม้ว่าไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเรื่องแบบนี้ แต่ผลกระทบก็ขยายไปมากกว่าที่คิด เผลอๆ จะเป็นการทำลายคนๆ หนึ่งด้วยซ้ำ


ไม่น่าเชื่อเลยว่าเล็กจะโชคร้ายได้ตลอดวัน ตอนนี้เล็กมานอนให้หมอรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง งานหลายงานถูกยกเลิกไปเกือบหมดแล้ว รายได้หายวับไปอย่างน่าใจหาย แถมยังต้องมาเจ็บตัวอีก ดีที่มีประกันสุขภาพ ไม่งั้นคงได้เสียเงินเพิ่มอีกเป็นแน่

ขณะที่เล็กกำลังคิดหงุดหงิด ประตูห้องก็ถูกเปิดออก บรรดาสาวๆ แฟนคลับต่างกรูกันเข้ามา หนึ่งในนั้นก็มีน้ำฝนด้วย มีของมาฝากหลายอย่างอีกเช่นเคย เห็นอย่างนี้ก็พอทำให้มีกำลังขึ้นมาบ้าง

"พี่เล็กเป็นไงบ้างคะ" แฟนคลับคนหนึ่งถามเมื่อมาถึงเตียงคนไข้ แฟนคลับคนอื่นๆ ก็ถามด้วยคำถามคล้ายๆ กัน ทุกคนดูเป็นห่วงเป็นใย บางคนขอดูแผลด้วย

"ไม่เป็นไรมากแล้วล่ะครับ พอดีเมื่อวานไปสัมภาษณ์หนังสือแมนเนอร์ พอสัมภาษณ์เสร็จ พี่ก็เห็นหมาตัวเล็กๆ ตัวหนึ่ง มันน่ารักดี เป็นหมาของคนสัมภาษณ์นั่นแหละ พี่ก็ไปเล่นด้วย แล้วยังไงไม่รู้ มันกัดตาพี่เฉยเลย ดีโดนแค่หางๆ พี่ฉีดยากันพิษสุนัขบ้าแล้ว ไม่ต้องห่วงครับ ขอบคุณมากๆ เลยที่อุตส่าห์มาเยี่ยม พี่ก็ได้กำลังใจดีๆ จากพวกเรานี่แหละ" เล็กบอกอย่างซาบซึ้งใจ

"พี่เล็กอย่าท้อนะคะ คนดีๆ อย่างพี่เล็กต้องได้เจอสิ่งดีๆ แน่ๆ ค่ะ" น้ำฝนปลอบ น่าแปลกที่วันนี้เธอดูเงียบๆ จนผิดสังเกต

"ขอบคุณครับน้องฝน พี่ไม่ท้อง่ายๆ หรอก" เล็กยิ้มน้อยๆ

เห็นน้ำฝนแล้วก็พานคิดไปถึงแฟนหนุ่มของเธอ อยากจะถามเหลือเกินว่านายหมอนั่นเป็นอย่างไรบ้าง ไม่เคยโผล่มาดูดำดูดีดาวน์ไลน์เลย นี่หรือคือธุรกิจของการช่วยเหลือแบ่งปันกัน หลอกลวงสิ้นดี แต่ช่างเถอะ อีกไม่นานเล็กก็จะไปลาออกแล้ว คงไม่ต้องเจอกันอีกแล้ว น่าเสียดายที่เคยรู้สึกดีๆ ต่อกัน

"พวกเราทุกคนจะเป็นกำลังใจให้พี่เล็กนะคะ มีอะไรให้พวกเราช่วยก็บอกค่ะ ไม่ต้องเกรงใจ" น้ำฝนบอกด้วยสีหน้าเห็นใจ คนอื่นๆ เออออตามเธอไปด้วย

เล็กรู้สึกแปลกๆ กับท่าทางของน้ำฝนเหมือนกัน เล็กรู้สึกได้ว่าเธอมีบางอย่างไม่เหมือนแฟนคลับคนอื่นๆ หลังกลับจากสมุยด้วยกันคราวนั้น เธอมักมีรอยยิ้มแปลกๆ คล้ายกับเขินเวลาเจอเล็ก

เจคงหึงแฟนสาวเพราะเหตุนี้ คงไม่มีผู้ชายที่ไหนชอบที่แฟนตัวเองไปตามผู้ชายคนอื่น แม้ว่าจะเป็นการชอบแบบดาราก็เถอะ

เล็กได้แต่ยิ้มและพยักหน้ารับรู้ คงไม่กล้ารบกวนแฟนคลับหรอก แค่ตามมาให้กำลังใจก็ดีมากแล้ว ไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าจะมีคนติดตามชื่นชอบและคอยให้กำลังใจมากขนาดนี้

{-- + --- + -- + --- + --} 

ตอนเย็นคุณสนิทขับรถมารับเล็กกลับบ้าน ผู้จัดการส่วนตัวคนนี้ก็ดีเหลือหลาย คอยเป็นห่วงเป็นใยเสมอมา เหมือนพี่ชายคนหนึ่งไปแล้ว

เห็นหน้าผู้จัดการก็พานให้กังวลอีก สิ้นเดือนนี้เล็กต้องจ่ายเงินเดือนให้คุณสนิทหลายหมื่นบาท แถมยังมีค่าใช้จ่ายอีกจิปาถะ ในขณะที่งานก็หายไปเกือบหมด ที่จริงเล็กยังพอมีเงินเก็บไว้ในธนาคารอยู่บ้าง แต่ก็ไม่อยากถอนออกมาใช้โดยไม่จำเป็น ยกเว้นว่าฉุกเฉินจนเลี่ยงไม่ได้

พอคุณสนิทกลับบ้านไปได้ไม่นาน นายชิงชัยก็โทรมาหา ในวงการนี้ก็แปลกดี เล็กแทบไม่เคยมีความส่วนตัวเลย เกิดอะไรขึ้นที่ไหน คนในวงการก็รู้กันอย่างรวดเร็ว ยิ่งมีอินเตอร์เน็ตและเทคโนโลยีก็ยิ่งไปกันใหญ่ แทบจะรู้พร้อมๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยซ้ำ

"เล็กเป็นไงบ้าง พอดีมีคนโทรมาบอกพี่ว่าเล็กถูกหมากัด เป็นอะไรมากหรือเปล่า"

เล็กไม่รู้สึกซาบซึ้งกับความห่วงใยจอมปลอมของนายคนนี้เลยแม้แต่น้อย เพราะเล็กรู้ดีว่าฝ่ายนั้นต้องการอะไรบางอย่างจากตนเอง

"ไม่เป็นไรมากหรอกครับ พี่มีอะไรก็ว่ามาตามตรงดีกว่าครับ ผมจะได้พักผ่อน" เล็กบอกไปอย่างรำคาญ

"โธ่...เล็กก็ พี่เป็นห่วงเล็กนะ แต่เอาเถอะ เล็กยังไม่เชื่อใจพี่ตอนนี้ก็ไม่เป็นไร แต่พี่อยากให้รู้ว่าพี่เป็นห่วงเล็กจริงๆ นะครับ ช่วงนี้รายได้พอใช้หรือเปล่า พี่เห็นเราถูกยกเลิกงานหลายงานเลย เอางี้ไหม มาคุยกับพี่ก่อน ยังไม่ต้องทำอะไรก็ได้ พี่ยินดีช่วย เนี่ย...พี่มีงานมาให้เล็กทำชิ้นหนึ่ง สนใจไหม ถ่ายแบบเสื้อผ้า แป๊บเดียวก็ได้เงินแล้ว ถ้าสนใจก็มาหาพี่พรุ่งนี้ พี่จะได้นักเจ้าของแบรนด์มาเจอ เขาอยากเจอเล็ก เขาเครซี่เล็กมากๆ เลยนะ ติดตามดูเล็กทุกเรื่องเลย" ชิงชัยโน้มน้าว

เล็กนิ่งเงียบและครุ่นคิด ช่วงนี้สถานการณ์ทางการเงินข้างย่ำแย่ ถ้าพอมีงานให้ทำบ้างคงพอช่วยผ่อนหนักเป็นเบา หรือว่าเล็กจะลองไปดูสักหน่อย

"ยี่ห้ออะไรเหรอครับ แล้วต้องถ่ายแบบไหน" เล็กตัดสินใจถามไป แม้รู้ว่าเป็นการเผยไต๋ให้อีกฝ่ายรู้ว่าตนเองสนใจก็ตาม

"อ๋อ...ก็...เป็นกางเกงในนั่นแหละ แต่ว่าไม่ได้ถ่ายแบบถอดหมดเหลือแต่กางเกงในนะ แค่เปลือยท่อนบน ถ่ายให้เห็นขอบๆ ไม่ทำให้ภาพลักษณ์ของเล็กเสียหายหรอกน่า เชื่อพี่สิ พี่มีค่าตัวให้สามแสน สนใจไหมครับ"

สามแสนเลยหรือ? เงินก้อนนี้คงช่วยชีวิตเล็กได้มากทีเดียว แค่ถ่ายแบบเห็นขอบกางเกงในก็ไม่น่ามีอะไรเสียหาย ดีกว่าไปนอนกับพวกนักปั้นดาราหื่นกามเป็นไหนๆ เมื่อก่อนชิงชัยเคยเสนอค่าตัวให้เล็กมากกว่านี้ แต่เล็กก็ปฏิเสธไปทุกครั้ง ต่อให้เสนอมามากกว่านี้อีกก็จะปฏิเสธอยู่ดี

เล็กกลับมาเจอสถานการณ์วิกฤติแบบนี้อีกแล้ว หลังลืมตาอ้าปากได้ไม่นาน โชคชะตากลับเล่นตลกอย่างไม่ปราณีปราศรัยเลย ลำบากมานานหลายปี พอมีความหวังก็มักเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเสมอ

"ขอผมคิดดูก่อนละกันครับ" เล็กแบ่งรับแบ่งสู้

เป็นครั้งแรกที่เล็กไม่ปฏิเสธนายชิงชัยอย่างสิ้นเชิงเหมือนที่ผ่านมา ฝ่ายนั้นจึงหัวเราะชอบใจ แน่ล่ะ คงรู้แล้วว่าเล็กกำลังจะเข้าตาจน นับว่าฉลาดที่ไม่ยื่นข้อเสนอแบบเดิมให้ กระนั้นเล็กก็รู้ว่าอีกไม่นานนายชิงชัยจะต้องหาวิธีตะครุบตัวเขาให้ได้ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ลงทุนขนาดนี้

ไม่รู้ว่าเล็กคิดถูกหรือผิดที่ตอบตกลงว่าจะไปพบ ไม่รู้จะรนหาที่อีกหรือเปล่า แต่ความจำเป็นก็บีบบังคับเหลือเกิน


พอถูกหมากัดแบบนี้ เล็กต้องหยุดรับงานไปโดยปริยาย เพราะเป็นดาราต้องใช้หน้าตาในการทำงาน คงไปในสภาพนี้ไม่ได้ ช่วงนี้จึงอยู่บ้านจนเบื่อ สรุปว่าเดือนนี้เล็กเสียรายได้ไปนับแสนบาท จึงเหตุให้เล็กต้องคิดทบทวนข้อเสนอของนายชิงชัย

ส่วนเรื่องธุรกิจนั่น เล็กตัดสินใจแล้วว่าจะไปลาออกวันพรุ่งนี้ แม้จะชอบสินค้าหลายตัวมาก แต่คงไม่ซื้อมาใช้อีกแล้ว พอกันที เสียดายที่เคยรู้สึกดีๆ ด้วย

เล็กกำลังจะเข้านอน เสียงแตรรถก็ดังขึ้นที่หน้าบ้าน เล็กวางขวดเขย่าโปรตีนที่กินหมดแล้วไว้บนโต๊ะ ก่อนเดินลงไปข้างล่าง เกือบจะห้าทุ่มแล้ว ใครกันมาหาดึกๆ ดื่นๆ

หรือว่าจะเป็นนายเจ?

ใช่อย่างที่เล็กเดาไว้เสียด้วย เจจอดรถรออยู่หน้าบ้าน ไม่รู้ว่าเล็กรู้สึกดีใจ คิดถึงหรือเป็นเพราะอะไรกันแน่จึงรีบไปเปิดประตูบ้านให้

"คุณเล็ก" เจเอ่ยทักเมื่อลงมาจากรถ สภาพดูเหนื่อยๆ จนพอสังเกตได้

"ตาคุณเล็กไปโดนอะไรมาครับ" เจถามอย่างตกใจเมื่อสังเกตเห็นปลายหางตาของเล็กมีรอยแผล ตอนนี้เล็กเอาผ้าปิดแผลออกได้แล้ว

ยังไม่ทันได้ตอบ เจเดินเข้ามาหาพร้อมกับเอามือมาจับรอยแผลของเล็กอย่างเบามือ

"เจ็บหรือเปล่าครับ"

น้ำเสียงเป็นห่วงสะกดเล็กนิ่ง แต่พอนึกได้ก็รีบตอบกลับไป "ไม่ค่อยเจ็บแล้วครับ"

"เดี๋ยวผมเอาโลชั่นมาทาให้ มันจะช่วยเรื่องแผลเป็น"

เจบอกพลางวิ่งกลับไปที่รถที่จอดอยู่ สักพักก็กลับมาพร้อมกับขวดโลชั่นแบบกระป๋องสเปรย์สีขาว

เจกดหัวฉีด เอาโลชั่นที่เป็นเนื้อโฟมสีขาวๆ มาทาให้ เล็กเคยเห็นที่ช็อปของยัวร์เวย์แล้ว แต่ยังไม่ได้ซื้อมาลองใช้ เจเองก็ยังไม่เคยแนะนำให้รู้จักด้วย

แปลกแท้ แทนที่เล็กจะโกรธ กลับรู้สึกโกรธไม่ลง แถมเวลาที่เจมาอยู่ใกล้ๆ แบบนี้ เล็กกลับรู้สึกอบอุ่นใจอย่างประหลาด ทำไมเล็กถึงไม่รู้สึกแบบนี้กับผู้ชายคนอื่นเลย ไม่ว่าจะเป็นน้องชาย คุณสนิทหรือเพื่อนผู้ชายในวงการที่เล็กรู้จัก

เจทาโลชั่นอย่างเบามือ พอเสร็จแล้วก็ยิ้ม แต่สีหน้าดูเศร้าๆ เหมือนคิดอะไรบางอย่าง หรือจะเป็นเพราะว่าสงสารเล็ก สายตาของเจบ่งบอกว่ากำลังรู้สึกแบบนั้น เจคงจะรู้เรื่องของเล็กผ่านสื่อมาบ้างแล้วไม่มากก็น้อย

เล็กพาเจเข้ามาในบ้าน เจ้าตัวเดินตามเล็กเข้ามาอย่างช้าๆ สีหน้าดูเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่างตลอดเวลา

"ผมมารบกวนคุณเล็กหรือเปล่าครับ พอดีเพิ่งจะไปคุยกับดาวน์ไลน์คนใหม่ เขาอยู่นครปฐม ก็เลยมาถึงดึกเลย"

"ไม่เป็นไรหรอกครับ ถ่ายละครจนเช้าผมก็เคยมาแล้ว แค่นี้ไม่ถือว่าดึกสำหรับผมหรอก" เล็กบอก แม้จะรู้สึกดีที่อีกฝ่ายมาหาเสียที แต่อีกใจหนึ่งก็นึกโกรธ

จะว่าไป เล็กจะโกรธที่เจไม่หาไปทำไม ไม่มาหาก็ดีแล้ว เล็กจะได้ไปลาออกจากธุรกิจได้ง่ายๆ ที่สำคัญ เล็กไม่จำเป็นต้องได้กำลังใจหรืออยากให้นายคนนี้ช่วยเลย ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเสียหน่อย รู้จักกันก็แค่ไม่กี่วัน แต่ทำไม...หน้าใสๆ ของหนุ่มตี๋คนนี้กลับทำให้เล็กรู้สึกแปลกๆ หลายหน เวลาเจอยู่ใกล้ก็เหมือนมีรังสีความอบอุ่นแผ่ไปทั่ว

เจทำหน้าสลด ก่อนทำในสิ่งที่เล็กคาดไม่ถึงเมื่อเจคุกเข่าลงตรงหน้าเล็ก เงยหน้ามาสบตากัน แววตาดูเศร้าเหมือนกับรู้สึกผิด

"คุณเล็ก...ผมมีเรื่องสารภาพกับคุณเล็กครับ"

TBC
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-09-2016 18:01:53 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
โหย ค้างมากเลยครับ

รอฟังคำสารภาพจากเจ

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
คุณเล็กน่าสงสารสุดๆ เลยค่ะ ฮึก~ :hao5: .. ต่อให้ลำบากแค่ไหนคุณเล็กก็อย่าไปหลงเชื่อคำลวงของนายชิงชัยนั่นนะค้าา คนไม่ดีแบบนั้นอยู่ห่างเอาไว้เป็นดีที่สุดเลยล่ะค่ะ

ปล. รอตอนต่อไปนะคะ อยากรู้เสียเหลือเกินค่ะว่าคุณเล็กจะ 'พิพากษา' ให้นายเจได้รับโทษทัณฑ์ที่หนักแค่ไหน :laugh:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ปีนี้เป็นปีชงของเล็กรึเปล่า  :mew5:
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
วันนี้ขอนำคำคมที่น่าสนใจหลายๆ คำคมมาฝากนะครับ นี่คือสิ่งที่สอนกันเป็นประจำในธุรกิจ
มีหลายคนสงสัยว่า "ถ้าทำได้มันก็ดี แต่จะมีสักกี่คนที่ทำได้"
คำตอบอยู่ที่ไหนครับ ใครจะตอบให้เราได้ ก็ตัวเราไงครับ
บางคน คนทำเยอะก็มีปัญหา ของราคาสูงก็มีปัญหา พูดไม่เก่งก็เป็นปัญหา เวลาน้อยก็มีปัญหา เวลามากก็มีปัญหา
อายุน้อยอายุมากก็เป็นปัญหา เพื่อนน้อยเพื่อนมากก็เป็นปัญหา ฝนตกแดดออกก็เป็นปัญหา ฯลฯ ทุกอย่างเป็นปัญหา
คนสำเร็จไม่ได้มองทุกอย่างเป็นปัญหา ปัญหาเป็นเพียงสิ่งที่เรายังไม่คุ้นเคยและยังหาทางจัดการไม่ได้ตอนนี้เท่านั้น
พอหาวิธีจัดการไปเรื่อยๆ ฝึกไปเรื่อยๆ ปัญหาจะหายไปหรือลดลงไปเอง

ถ้าเราคิดว่าทำไม่ได้ก็จะทำไม่ได้เพราะเราจะไม่ลงมือทำ
ถ้าเราคิดว่าเราทำได้ เราก็จะลงมือทำ ผลลัพธ์ก็คือ "ทำได้" กับ "ต้องพยายามต่อไป"









« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2015 10:37:21 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
✿✿ธุรกิจนี้มีรัก✿✿
CHAPTER 07 ❋ คำสารภาพของอัปไลน์


เล็กรีบย่อตัวลงมานั่งในระดับเดียวกับเจแทบไม่ทัน ไม่รู้เจจะสารภาพอะไรถึงต้องคุกเข่า ทำอย่างกับจะสารภาพรัก แต่จะเป็นไปได้อย่างไร

โอ...ไม่นะ เล็กยังไม่อยากเปลี่ยนรสนิยมเอาตอนนี้

"คุณเล็ก...ผมขอโทษ ขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมทำให้คุณเล็กเดือดร้อน ผมเสียใจ ผมไม่คิดว่ามันจะเลยเถิดถึงขนาดนี้น่ะครับ" เจสารภาพออกมาแล้ว สีหน้ารู้สึกผิดมากทีเดียว

แต่มันเรื่องอะไรกัน ยัวร์เวย์หรือเปล่า แล้วทำไมเจต้องเสียใจขนาดนี้

"เรื่อง...ยัวเวย์เหรอครับ" เล็กขมวดคิ้ว

"ครับ แต่มันมีอะไรมากกว่าแค่ชวนมาทำธุรกิจ ถ้าผมบอกความจริงกับคุณเล็ก คุณเล็กจะโกรธผม เกลียดผมหรือจะยังไงก็ได้ ผมยอมชดใช้ให้ทุกอย่าง"

ยิ่งฟังเล็กยิ่งไม่เข้าใจ แค่ชวนสมัครยัวร์เวย์ ไม่เห็นมีอะไรให้โกรธขนาดนั้น แค่รู้สึกว่ายัวร์เวย์คงไม่ใช่งานที่เหมาะกับคนที่ทำอาชีพดาราอย่างเล็กเท่านั้น

"มีอะไรเหรอครับคุณเจ จริงๆ....ผมก็สมัครด้วยความเต็มใจนะครับ ไม่ได้โดนบังคับอะไรเลย ทำไมผมจะต้องเกลียดคุณเจด้วยล่ะครับ"

"คุณเล็ก..." เจครางเบาๆ สีหน้าเหมือนคนจะร้องไห้ "คุณเล็กเป็นคนดี ผมไม่น่าทำแบบนี้กับคุณเล็กเลย"

เจดูเหมือนเศร้ากว่าเดิม เล็กไม่พูดตอบ รอจังหวะให้เจพร้อมที่จะเล่า

"คือว่า...ผมไม่พอใจที่น้ำฝน...แฟนของผม...มาตามเชียร์คุณเล็ก หลังๆ มานี้ ผมกับเขาแทบจะไม่มีเวลาได้อยู่ด้วยกันเลย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผมทำยัวร์เวย์..." เจเกริ่นนำ คอยดูท่าทีอีกฝ่ายว่ารู้สึกอย่างไร ก่อนพูดสืบไป

"น้ำฝนเขาไม่ชอบยัวร์เวย์ แม้กระทั่งผมเอง น้ำฝนก็ไม่ชอบที่ผมมาทำธุรกิจนี้ ผมก็เลยแกล้งมาชวนคุณเล็กให้ทำยัวร์เวย์กับผม เพื่อที่ว่า...พอน้ำฝนรู้ น้ำฝนจะได้ไม่ไปตามคุณเล็กอีก ผมคิดแค่นั้น ไม่ได้คิดว่าจะทำให้ชีวิตคุณเล็กต้องเดือดร้อนขนาดนี้ ผมขอโทษนะครับคุณเล็ก ขอโทษจากใจจริงของผม คุณเล็กจะทำอะไรผมก็ได้ จะเตะ จะต่อย จะด่า จะว่าหรือทำอะไรผมก็ยอม"

หา! ที่แท้เป็นเพราะหึงแฟนหรอกเหรอ!?

มิน่าล่ะ เจอกันวันแรกแทบจะกินหัวกันเลย นึกอยู่แล้วเชียวว่าเจคงไม่โอเคที่แฟนมาตามเชียร์เล็ก

โอ้โห...แผนการช่างลึกลับซับซ้อน ถ้าเจไม่บอก เล็กคงคิดไม่ถึงว่าจะมีเรื่องแบบนี้ด้วย

หึงแฟนก็เลยมาชวนทำยัวร์เวย์ แต่ดูผลที่เกิดขึ้นสิ ชีวิตของเล็กเสียหายหลายแสน งานหายเงินหด เป็นขี้ปากชาวบ้าน เสียภาพลักษณ์ของพระเอกที่กำลังมีละครออนแอร์อยู่ตอนนี้ อนาคตที่ดูท่าจะรุ่งก็เลยร่วงไม่เป็นท่า

ว่าจะไม่โกรธ แต่พอรู้แบบนี้มันก็น่าโกรธไม่ใช่น้อย

"ผมรู้ว่ามันเป็นความผิดที่ไม่น่าให้อภัย ผมทำผิดจรรยาบรรณของนักธุรกิจที่ดี ทำผิดจากที่ครูสอนอย่างมาก ถ้าครูผมรู้เข้า เขาคงไล่ผมออกจากกลุ่มสานฝันแน่ๆ"

เห็นสีหน้าอึ้งผสมความโกรธของเล็ก เจก็ยิ่งรู้สึกผิด

"ถ้าคุณเล็ก...ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรให้มันสาสมกับความผิดที่ผมทำ ผมมีข้อเสนอสองอย่างให้คุณเล็กเลือก คุณเล็กบอกผมมาได้เลยว่าจะเลือกข้อไหน ผมทำให้ได้ทั้งสองข้อ"

มีข้อเสนอด้วยหรือ? ก็ดีเหมือนกัน เล็กยังนึกไม่ออกเลยว่าจะทำยังไงกับนายหมอนี่ดี ใจจริงไม่อยากอาฆาตพยาบาทหรอก แต่คงต้องทำอะไรสักอย่าง อย่างน้อยก็สั่งสอนให้สำนึกเสียบ้าง

"ว่ามาเลยครับ" เล็กบอกเสียงห้วน จากนั้นเจจึงยื่นข้อเสนอแรก

"ข้อเสนอแรก ผมจะยอมชดใช้เป็นเงินเท่าที่คุณเล็กพอใจ ผมจะพยายามหามาชดใช้ให้ได้ คุณเล็กบอกผมมาเลยว่า...ช่วงนี้คุณเล็กเสียงานไปกี่งาน เป็นรายได้เท่าไหร่ แล้วผมจะไปหามาให้ ถ้าไม่พอ ผมก็จะหามาให้ทีหลัง หลังจากนั้น ผมก็จะไปจากชีวิตคุณเล็ก ไม่มายุ่งวุ่นวายอะไรอีก"

อืม...ก็น่าจะเข้าท่าดี เล็กชักไม่อยากฟังข้อเสนอข้อที่สองซะแล้ว ช่วงนี้ยิ่งไม่ค่อยมีงาน เรียกค่าเสียหายแค่พอให้พ้นเดือนนี้ได้ก็พอ แต่ก็แปลว่าเล็กจะไม่ได้เจอเจอีกเลย

อะไรบางอย่างบอกเล็กผู้ชายคนนี้ไม่ควรผ่านมาแล้วผ่านไป ถึงจะไม่ได้ทำธุรกิจด้วยกัน แต่อย่างน้อยก็น่าจะพอคบเป็นเพื่อนกันได้ คนที่ทำผิดแล้วยอมรับผิด แถมยังเสนอทางแก้ปัญหาให้ ต้องเป็นคนมีจิตใจดีมากพอสมควร

ถ้าอย่างนั้น...ฟังข้อเสนอข้อที่สองด้วยดีกว่า

"ส่วนข้อเสนอที่สอง ผมจะขอเสนอ...ตัวผมเองครับคุณเล็ก!"

เล็กตกใจจนแทบลืมหายใจ เจกำลังจะเสนอตัวขัดดอกหรือเปล่า!?

ไม่นะ เล็กยังไม่ชอบอะไรแบบนี้หรอก ทุกวันนี้ยังชอบผู้หญิงอยู่ ยังไม่คิดอยากเปลี่ยนแนวเลย แค่คิดก็หวาดเสียวแล้ว

"คุณเจหมายความว่าไงครับ!" เล็กถามอย่างตกใจ

"ถ้าคุณเล็กเชื่อใจผม ถ้าคุณเล็กอยากสำเร็จในธุรกิจนี้ ผมขอสัญญา ผมจะทำหน้าที่อัปไลน์ให้ดีที่สุด ผมจะทำทุกวิถีทางให้คุณเล็กประสบความสำเร็จ อย่างน้อยในระดับเพชรให้ได้ภายในสามปีนี้ ผมขอเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ถ้าผมทำไม่ได้ ผมจะชดใช้เป็นเงินทั้งหมดที่ผมมี ถ้าเชื่อใจผม...ผมจะไม่ทำให้คุณเล็กเสียใจอีกเลย"

สีหน้าและแววตาที่จริงจังบ่งบอกถึงความตั้งใจจริงของคนพูด เล็กถึงกับพูดไม่ออก ที่จริงก็เพิ่งรู้จักกับเจเพียงไม่กี่สัปดาห์ จะให้บอกว่าเชื่อใจกันก็คงแปลก แต่เล็กกลับพบว่าเป็นเรื่องยากที่จะปฏิเสธ ถ้าเป็นคนอื่น เล็กคงบอกไปแล้วว่าไม่เชื่อใจ แต่กับเจ เล็กกลับไม่คิดอย่างนั้น

"เราสองคนอาจจะรู้จักกันไม่นาน แต่ผมรู้ว่าคุณเล็กเจอคนมาเยอะ ดูคนเป็น ถ้าคิดว่าผมเป็นคนที่เชื่อใจได้ ผมสัญญาด้วยเกียรติของลูกผู้ชาย ผมจะขอปวารณาตัวทำทุกอย่างให้คุณเล็กประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ ผมสัญญาครับคุณเล็ก" เจยืนยันอีกรอบ

เล็กยังคงครุ่นคิด ดูๆ ไปแล้วเจเป็นคนรับผิดชอบการกระทำของตัวเอง ไม่ใช่ขับรถชนคนอื่นแล้วหนี แต่กลับยินดีชดใช้ให้ทุกอย่าง คนแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ เลย ที่สำคัญ เล็กไม่รู้สึกว่าเจกำลังเสแสร้ง แววตาที่ฉายออกมาของอีกฝ่ายบอกชัดเจนว่ารู้สึกตามที่พูดจริงๆ

แต่ถ้าเล็กเชื่อใจเจ เท่ากับว่าเล็กจะก้าวขาเข้ามาในอาชีพนี้อย่างเต็มตัว แม้อยากได้เงินและความสำเร็จ แต่พิษของยัวร์เวย์ก็แรงจนน่าเข็ดขยาด กลัวจะได้ไม่คุ้มเสีย แต่...

เพื่อนที่ดี ครูที่ดี โอกาสที่ดี สามสิ่งนี้ ถ้าไม่คว้าไว้จะเสียใจไปตลอดชีวิต

สิ่งที่เล็กไม่เคยได้รับในวงการนี้เลยก็คือเพื่อนที่จริงใจ บางทีสิ่งนี้อาจมีค่ามากที่สุดก็ได้ เจอาจเป็นเพื่อนที่ดี พาเล็กไปเจอครูที่ดีและโอกาสที่ดี ความพยายามเป็นพันครั้ง ไม่สู้การตัดสินใจถูกเพียงหนึ่งครั้ง ถ้าเล็กยังทำอย่างเดิม ใช้ชีวิตแบบเดิม ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะเป็นแบบเดิม ถ้าอยากได้ผลลัพธ์ใหม่ ก็ต้องทำสิ่งที่แตกต่างไปจากเดิม

แปลว่า...เล็กกำลังเอนเอียงมาที่ข้อเสนอที่สองหรือเปล่า?

ให้ตายเถอะ! ผู้ชายคนนี้มีบางอย่างไม่ธรรมดา ไม่อย่างนั้นคงไม่ทำให้เล็กตัดสินใจอย่างนี้แน่

"ผมเลือก..." เล็กหยุดคิดก่อนตัดสินใจครั้งสุดท้าย การตัดสินใจครั้งนี้คงเปลี่ยนแปลงชีวิตเล็กไม่มากก็น้อย ไม่ลองก็ไม่รู้ รู้แล้วถึงจะตอบได้ว่าดีหรือไม่ดี ก็หมายความว่าเล็กตัดสินใจแน่แล้ว

"ผมเลือก...ข้อเสนอที่สองครับ"

ทุกอย่างนิ่งสนิทและเงียบไปหลายวินาที เจทำสีหน้าราวกับไม่เชื่อ

"คุณเล็ก" เจพูดเสียงเครือ น้ำตาคลอที่เบ้าตา รู้สึกตื้นตันใจที่อีกฝ่ายให้โอกาส นึกว่าเล็กจะเลือกข้อหนึ่งเสียอีก

"ขอบคุณที่ให้โอกาสผมนะครับคุณเล็ก ผมสัญญา ผมจะทำให้ดีที่สุด"

เจยื่นมือมาหาเล็ก คล้ายจะขอจับมือด้วย เล็กมองด้วยความสงสัย แต่เมื่อเลือกแล้วก็ควรจะเชื่อใจอัปไลน์ เล็กจึงตัดสินใจยื่นมือไปจับมือกับเจไว้

"เราจะจับมือกัน ทำงานไปด้วยกัน สำเร็จไปด้วยกันนะครับคุณเล็ก" เจย้ำหนักแน่น แรงบีบที่มือก็หนักแน่นพอกัน

คำพูดสามประโยคนั้น เล็กจำได้ชัดเจน เจพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ ไม่มีอะไรให้ต้องสงสัยเลย

"ขอบคุณมากที่ให้โอกาสผมได้แก้ตัว ผมจะไม่ลืมโอกาสครั้งนี้ที่คุณเล็กมอบให้ผมเลยครับ ผมจะทะนุถนอมโอกาสนี้อย่างดีที่สุด ผมสัญญาครับคุณเล็ก" เจบอกอย่างซาบซึ้งใจ

เล็กคลี่ยิ้มบางๆ แม้จะรู้สึกแปลกที่อีกฝ่ายจับมือ แต่เล็กก็รู้สึกพอใจ "ขอบคุณสำหรับความจริงใจของคุณเจด้วยครับ ผมไม่รู้ว่าผมตัดสินใจเร็วเกินไปหรือเปล่า แต่ผมเชื่อว่า...คนที่ทำผิดแล้วยอมรับผิด พร้อมที่จะรับผิดชอบ ไม่ใช่แค่ขอโทษส่งๆ คนแบบนี้ต้องเป็นคนดีมาก ถ้าผมไม่ไว้ใจคุณเจ ผมก็ไม่รู้จะไปไว้ใจใครที่ไหน ผมไม่เคยเจอใครแบบคุณเจเลย เอาเป็นว่า...ผมจะเชื่อใจอัปไลน์ จับมือทำงานไปด้วยกันครับ"

เมื่อเล็กพูดจบ เจก็ดึงเล็กเข้ามากอดไว้ แผ่ซ่านความอบอุ่นใจส่งผ่านไปให้อีกฝ่าย เล็กรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เหมือนกับชีวิตโหยหาสัมผัสอย่างนี้มานานแล้ว

ไม่น่าเชื่อ อะไรหลายอย่างที่เล็กเคยอยากได้อยู่ที่ผู้ชายคนนี้!!!


คืนนี้เล็กตัดสินใจนอนดึก อัปไลน์ขนสินค้าหลายอย่างมาให้เล็กได้ทดลองสาธิต เพราะเล็กอยากทำเป็นบ้าง จะได้เริ่มธุรกิจอย่างจริงจังได้เสียที

เจสอนสาธิตสบู่เหลวก่อน เริ่มจากนำดีเกลือใส่ลงไปในแก้วน้ำพลาสติกสองใบ จากนั้นเติมสบู่เหลวยี่ห้อทั่วไปลงในแก้วแรก คนๆๆๆ ให้เข้ากัน จากนั้นใส่สบู่เหลวของยัวร์เวย์ลงในแก้วที่สอง คนๆๆๆ ให้เข้ากันเช่นเดียวกัน ผลที่ได้คือ แก้วแรกมีตะกอนขุ่นคล้ายไขมันจับตัวเป็นก้อนๆ ส่วนของยัวร์เวย์ไม่มีการจับตัวใดๆ

"รู้ไหมครับว่าทำไมคนส่วนใหญ่เป็นสิวที่หลัง เพราะไขมันพวกนี้ไงครับ" เจอธิบาย จากนั้นก็หยิบไอแพดมาเปิดรูปก่อนและหลังให้เล็กดู

"เมื่อก่อน...หลังผมเป็นสิวเยอะมาก ดูรูปนี้สิครับ แต่พอใช้ครีมอาบน้ำตัวนี้ สิวที่หลังหายหมดเลย คุณเล็กดูสิครับ" เจบอกพลางเลื่อนรูปแผ่นหลังเปลือยของตัวเองให้เล็กดู เล็กเห็นความต่างแล้วก็ตื่นเต้น

"เดี๋ยวจะหาว่าผมไปเอารูปใครมาก็ไม่รู้ ให้ดูของจริงเลยครับ" เจลุกขึ้นจากเก้าอี้ หันหลังให้เล็ก ก่อนดึงชายเสื้อของตัวเองขึ้นสูงจนถึงราวนม เผยผิวขาวเนียนละเอียดอย่างลูกคนจีนให้เล็กดู

"มีสิวที่หลังไหมครับ" เจถาม

เล็กไล่มองแผ่นหลังขาวเนียนด้วยความรู้สึกแปลกๆ ตั้งแต่ช่วงบนจนมาถึงแถวบั้นท้าย เห็นขอบกางเกงในโผล่พ้นขอบกางเกงมาเล็กน้อย เล็กพลันรู้สึกว่าตัวเองใจสั่น ไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น

"ไม่มีเลยครับ" เล็กบอก

"แล้วคุณเล็กมีสิวที่หลังหรือเปล่า ถ้าผมจะขอดู จะว่าอะไรไหมครับ" เจหันมาถาม ก่อนปล่อยชายเสื้อลงตามเดิมและยัดเข้าไปในกางเกง

"ก็...น่าจะมีมั้งครับ" เล็กแบ่งรับแบ่งสู้ เห็นผิวของเจแล้วแทบไม่กล้าอวดของตัวเองเลย

"ผมขอดูได้ไหมครับ" เจถามย้ำ

"อ๋อ...ได้ครับ" เล็กตอบเขินๆ จากนั้นก็ยืนขึ้น ก่อนยกชายเสื้อขึ้นเหมือนเจ

"อืม...มีสิวสองสามเม็ด ผมขอถ่ายรูปไว้หน่อยนะครับ พอคุณเล็กใช้ครีมอาบน้ำตัวนี้ไปสักเดือน แล้วค่อยมาถ่ายใหม่ เปรียบเทียบให้เห็นชัดๆ ไปเลยว่าสิวหายไปหรือเปล่า" เจบอก ก่อนหยิบไอแพดมาถ่ายรูปหลังของเล็กไว้

จากนั้นเล็กขอลองสาธิตสินค้าอีกหลายตัว อย่างเช่น น้ำยาทำความสะอาดเอนกประสงค์ ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน สเปรย์ระงับกลิ่นกาย กว่าจะได้นอนก็เกือบตีสอง นอกจากลองสาธิตสินค้าแล้ว เจยังชวนคุยและสอนแนวคิดหลายอย่าง ทั้งที่เกี่ยวกับบริษัท สินค้าหรือคำสอนจากอาจารย์เหวินหรือพี่จุ๊ เล็กจำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ก็ชอบมากทีเดียว

เวลาล่วงเลยมาขนาดนี้ เล็กคงไม่กล้าบอกให้เจขับรถกลับไปนอนบ้านแน่ คืนนี้จึงเป็นคืนแรกที่อัปไลน์ได้นอนที่บ้านเล็ก ก่อนนอน เจเล่าประวัติของตัวเองช่วงที่ตัดสินใจมาทำธุรกิจให้ฟังด้วย

"พอผมจบวิศวะเครื่องกลมา ผมก็ไปทำงานที่โรงงานที่หนึ่งที่ระยอง ทำไปได้สองปีก็รู้สึกเบื่อ เพราะเขาให้ผมทำงานอย่างอื่นที่ไม่เกี่ยวกับที่ผมเรียนมาด้วย ทำเวิร์ดมั่ง เอ็กเซลมั่ง แล้วก็จิปาถะ บางวันก็นั่งขันน็อต ผมนึกสงสัยว่าผมเรียนมาตั้งมากมาย ป๊าม๊าลงทุนไปหลายล้าน สุดท้ายก็มานั่งขันน็อตแค่นี้หรือเปล่า ผมเริ่มเบื่อชีวิตงานประจำ เบื่อที่ต้องรีบตื่นแต่เช้าไปทำงาน ทำงานเสร็จก็ต้องรีบกลับบ้าน แล้วก็รีบนอนเพื่อที่จะได้รีบตื่นไปทำงาน วนเวียนอยู่แบบนี้ ผมคิดจะลาออกเลยตอนนั้น วางแผนว่าจะกลับมาช่วยป๊ากับม๊าขายของที่ร้าน"

"แล้วผมก็ได้เจออัปไลน์ผม เป็นรุ่นน้องที่มหาลัย เขาเพิ่งมาทำงานที่เดียวกับผมนี่แหละครับ เขาแนะนำธุรกิจนี้ให้ผม ตอนแรกๆ ผมไม่เอาเลยนะครับ แอนตี้มากๆ ด่าน้องคนนั้นไปเยอะเลย ผมด่าถึงขนาดว่าเรียนวิศวะมา ไม่น่าโง่ให้เขาหลอก" เจหยุดเล่าแล้วขำ จากนั้นจึงเล่าต่อ

"แต่เขาพูดมาคำหนึ่งว่า ถ้าพี่จะทำงานประจำ ชีวิตของพี่ก็จะเป็นอย่างที่พี่เป็นอย่างนี้ต่อไป ถ้าพี่กลับไปขายของที่บ้าน พี่ก็จะนั่งเฝ้าเก๊ะเก็บเงินไปจนตาย มีเงินแต่ไปไหนไม่ได้ ผมอึ้งไปเลยเพราะมันตรงกับที่ผมคิดพอดี ก็จริงอย่างที่น้องเขาว่า ทำงานประจำก็พอมีรายได้ แต่มันเหมือนติดคุกของคนอื่น แต่ถ้ามาขายของที่ร้าน ก็เหมือนติดคุกในบ้านตัวเอง ป๊ากับม๊าผมขายของแบบนี้มาตลอดชีวิต นั่งเฝ้าเก๊ะเก็บเงินแทบทุกวัน มีน้อยมากที่จะได้ไปข้างนอก แค่ออกมาข้างนอกร้านก็แทบจะไปไหนไม่ถูกแล้ว เพราะเขาไม่ค่อยได้ออกไปไหน ผมไม่อยากมีชีวิตเหมือนป๊ากับม๊า ก็เลยยอมไปที่เซ็นเตอร์กับน้องเขาที่ระยอง"

"หลังจากนั้นผมก็เริ่มต้นทำธุรกิจ แต่อีท่าไหนไม่รู้ อัปไลน์ผมดันเลิกทำซะอย่างนั้น ผมล้มลุกคลุกคลานน่าดูเลยช่วงแรก จะเลิกอยู่หลายหน แต่ก็กัดฟันทนเอา น้ำฝนก็ไม่ชอบอีกต่างหาก อัปไลน์ก็ไม่มี ป๊ากับม๊าก็ด่าผมใหญ่ ถึงขนาดบอกว่า...ถ้ารู้ว่าจะมาขายยัวร์เวย์ ไม่ส่งให้เรียนดีๆ แบบนี้หรอก แทบจะตัดผมออกจากครอบครัวเลย ผมไม่ได้กลับบ้านเกือบสองปี เพราะผมตั้งใจว่าผมจะเป็นแพลตินัมให้ได้  โชคดีที่ได้อัปไลน์บุญธรรมคอยช่วยสอนตอนอยู่ระยอง ปีเศษๆ ผมก็เป็นแพลตินัม ผมเอาโบนัสแพลตินัมมาให้ป๊ากับม๊าเป็นของขวัญวันแม่ พอเขาเห็นว่ารายได้จากยัวร์เวย์มากกว่างานประจำที่ผมทำ เขาก็เลยค่อยๆ เปิดใจ ผมลาออกจากโรงงานมาอยู่ที่บ้าน ทำยัวร์เวย์อีกปีก็เป็นไพลิน มีสองสายงานที่เบร๊กเป็นแพลตินัมออกไป"

"โห...คุณเจสู้ชีวิตน่าดูเลยนะครับ นับถือๆ" เล็กมองคนที่นอนข้างๆ ด้วยสายตาชื่นชม ถ้าไม่ติดว่าง่วงนอนมาก เล็กคงอยากถามมากกว่านี้ กระนั้น เล็กก็เริ่มมีความมั่นใจขึ้นมามากขึ้น ถ้าอัปไลน์มุ่งมั่นตั้งใจขนาดนี้ ต้องช่วยเล็กได้อย่างแน่นอน อย่างน้อยก็เป็นตัวอย่างในเรื่องความมานะพยายาม เด็กวัยจบใหม่อย่างเจคิดแบบนี้ได้ในตอนนั้นถือว่าไม่ธรรมดาเลย ในขณะที่เด็กทั่วไปยังทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันด้วยซ้ำ

{-- + --- + -- + --- + --}

วันรุ่งขึ้น เจกระเตงเล็กไปทำงานด้วย เล็กจะได้เรียนรู้การทำงานก่อนลงมือทำจริง มีทั้งไปหาดาวน์ไลน์ที่ทำธุรกิจแล้ว หรือพาไปคุยกับผู้มุ่งหวังที่สนใจ แต่ละที่ที่ไปนั้นอยู่ห่างไกลกันพอสมควร ต้องเดินทางจากจังหวัดหนึ่งข้ามไปอีกจังหวัดหนึ่ง แต่เล็กก็สนุก จะว่าไปแล้วเล็กก็สนุกที่ได้คุยและฟังเรื่องราวชีวิตของคนที่ไม่เคยรู้จัก บางอาชีพเล็กไม่เคยรู้จักด้วยซ้ำ

"คุณเจทำงานแบบนี้ทุกวันเลยหรือเปล่าครับ" เล็กถามในขณะที่พักกินข้าวเที่ยงแถวๆ จังหวัดสมุทรปราการ

"ก็เกือบทุกวันครับ"

"เหนื่อยไหมครับ"

"ทำงานอะไรก็เหนื่อยทั้งนั้นแหละครับคุณเล็ก" เจหยุดยิ้ม "แต่คุณเล็กก็เห็นใช่ไหมครับว่าคนที่ผมไปหามีความหวังความฝันทั้งนั้นเลย อย่างบ้านของพี่วินมอไซค์คนนั้น แค่เขามีรายได้เพิ่มมาเดือนละหมื่นกว่าบาท ผมไปหาเขาทีไรเขาก็ขอบคุณผมทุกครั้ง มีของฝากให้ผมตลอด แค่นี้ผมก็มีความสุขและหายเหนื่อยแล้วครับ มันทำให้ผมมีพลังที่จะทำงานต่อไป พี่จุ๊สอนผมว่างานที่ดีต้องให้ได้สามอย่าง ให้คุณภาพชีวิตที่ดี ให้ความหวังความฝันที่มากขึ้น แล้วก็ให้คุณค่าหรือความภูมิใจที่เราได้ช่วยเหลือและเป็นประโยชน์กับผู้คน เมื่อก่อนที่ผมทำงานเป็นวิศวกร ผมแทบจะช่วยอะไรใครไม่ได้เลยครับ ไม่เคยคิดด้วยซ้ำ แค่ทำงานไปวันๆ หนึ่ง แล้วก็หวังว่าชีวิตของจะดีขึ้น แต่ในงานนี้...ผมช่วยเหลือใครก็ได้ที่ต้องการโอกาส ผมรับผิดชอบความหวังความฝันของเขา ผมต้องเรียนรู้อย่างมากที่จะเป็นอัปไลน์ที่ดี  คนที่ตามเรามาจะได้พึ่งพาเราได้ พี่จุ๊สอนว่า...ผู้นำที่ไม่เรียนรู้คือหายนะของทีม ต่อไป...คุณเล็กต้องเรียนรู้เยอะๆ นะครับ เราจะได้เป็นที่พึ่งให้กับคนที่เขาตามเรามา"

เล็กพยักหน้าตอบรับ ทำงานไหนๆ ก็ต้องเหนื่อยและต้องแลกทั้งนั้น ไม่งั้นก็จะแค่ทำไปวันๆ ที่บ้านพี่วินมอไซค์คนนั้น ผู้ชายจนๆ คนหนึ่งดูซาบซึ้งใจที่เจไปช่วย ได้ฟังคำขอบคุณอย่างจริงใจแล้วก็หายเหนื่อยแทนเจ

พอมาคิดทบทวนดู เล็กเป็นดารา จะไปชวนคนอื่นมาเป็นดาราด้วยก็ทำไม่ได้ เพราะไม่ใช่งานที่ใครก็ทำได้ พี่วินมอไซค์คนนั้นคงเป็นได้อย่างมากแค่ตัวประกอบ แต่คนจ้างก็มีทางเลือกมากมายที่จะจ้างใครมาเป็นตัวประกอบก็ได้ แม้กระทั่งพระเอกอย่างเล็กก็ยังจ้างคนใหม่มาแทนได้เหมือนกัน เล็กเริ่มเข้าใจที่เจย้ำแล้วว่า...

งานนี้เป็นงานที่ช่วยเหลือคน ไม่ใช่ขอคน

"แต่ไม่ง่ายแบบนี้เสมอไปทุกคนหรอกครับ ผมเองก็เจอคำปฏิเสธมาเยอะ อย่างตอนบ่ายที่ผมจะพาไปบ้านพี่สมศรี เขาเป็นข้าราชการ เขาก็รู้สึกว่างานที่เขาทำก็ดีอยู่แล้ว ยังไม่อยากทำอะไรเพิ่มเพราะไม่มีเวลา ผมก็เลยให้เขาใช้สินค้าไปก่อน ใครที่ยังไม่พร้อม ก็ให้เขาได้ลองใช้สินค้าครับ เราเองก็จะมีรายได้ด้วย จริงๆ ผมไม่อยากจะขายหรอก อยากให้เขาไปซื้อใช้ด้วยตัวเองมากกว่า แต่บางคนเขายังไม่อยากทำเป็นธุรกิจด้วยหลายๆ เหตุผล เราก็ต้องฟังเขา บริการเขาบ้าง บางคนนะครับ ใช้สินค้าแล้วติดใจอยากบอกต่อ ตอนหลังมาขออัปเกรดเป็นนักธุรกิจก็มี"

"เหรอครับ แบบนี้ก็มีด้วยเหรอ ชักน่าสนุกแล้วครับ"

"ดีครับคุณเล็ก ถ้านัดใครได้...บอกผมนะครับ เดี๋ยวผมไปช่วย"

"ครับ" เล็กตอบรับ

ถ้าเล็กทำได้คงทำให้ชีวิตมีค่ามากขึ้นไม่น้อย การช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตคนอื่นไม่ใช่เรื่องง่าย เรามักไม่อดทนทำมากพอ โดยเฉพาะถ้าเป็นชีวิตของใครก็ไม่รู้

เล็กเริ่มมั่นใจในตัวอัปไลน์มากขึ้น ถ้าเจรับผิดชอบความหวังความฝันของคนและตั้งใจแบบนี้ ความสำเร็จคงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมถึง


"เล็ก ขอบคุณมากที่มาวันนี้ พี่ดีใจที่สุดเลยรู้ไหม มาๆ มานั่งตรงนี้"

ชิงชัยยิ้มจนหน้าบานเมื่อเห็นเล็กมาตามที่นัด ทันทีที่เห็นก็รีบเดินมาหาเล็ก ก่อนพาเข้ามาในร้านอาหารที่นัดกันไว้ แอบฉวยโอกาสโอบและสัมผัสตัวไปด้วย ถ้าไม่ติดว่ามีแขกอีกคนนั่งอยู่ เล็กคงเอาเรื่องแน่

ที่จริงเล็กม่ได้อยากมาเลยถ้าไม่จำเป็น คิดหนักอยู่หลายวันกว่าจะตัดสินใจ แค่มาฟังดูก่อนคงไม่เสียหายอะไรมาก

"นี่พี่เอนะครับเล็ก พี่เอเป็นเจ้าของหนังสือ APTITUDE แล้วก็เป็นเจ้าของแบรนด์กางเกงในสมาร์ทแอสด้วย เห็นไหมว่าวันนี้เล็กไม่ใช่ธรรมดาเลยนะ" ชิงชัยแนะนำให้เล็กรู้จักกับอีกฝ่ายที่นั่งรอในร้านอาหารอยู่ก่อนแล้ว

"สวัสดีครับ" เล็กยกมือสวัสดีชายแปลกหน้า ฝืนยิ้มให้เท่าที่พอจะทำได้ ดูจากการแต่งตัวคาดว่าคงไม่ใช่ "ชายแท้" แต่เล็กเจอแบบนี้บ่อยจนชินแล้ว

"สวัสดีจ้ะ คุณเล็กตัวจริงหล่อไม่ใช่เล่นเลยนะคะเนี่ย ดูท่าทางจะซ่อนรูปนะ พี่เห็นในละครที่เล่น มีฉากนุ่งผ้าเช็ดตัวด้วย กล้ามเป็นมัดๆ เลย เซ็กซี่มากๆ" เจ้าของเสียงพูดพลางหัวเราะกิ๊กกั๊กชอบใจ จริตจะก้านความเป็นหญิงออกชัด

เล็กชักหวั่นใจ ขนาดยังไม่ได้เริ่มทำอะไรยังแทะโลมกันซะแล้ว กระนั้นก็รีบนั่งลงเพราะรู้สึกรำคาญชิงชัยที่ตามมาโอบประชิด ทำอย่างกับว่าเล็กเดินเองไม่เป็น

พอสั่งเครื่องดื่มประเภทน้ำผลไม้ไป พี่เอก็เอาตัวอย่างนิตยสารที่ทำมาให้ดู เล็กถึงกับอ้าปากค้างด้วยความตกใจ เพราะมันเป็นนิตยสารสำหรับเกย์ชัดๆ ถึงจะไม่ถอดจนหมด ไม่เปลือยโล่งโจ้ง แต่ก็อวดสัดส่วนและเรือนร่างพอสมควร

"ผมถ่ายไม่ได้หรอกครับพี่" เล็กรีบปฏิเสธทันทีที่เปิดดูได้ไม่กี่หน้า

เล็กยังมีภาพลักษณ์ของการเป็นพระเอกอยู่ ถึงจะไม่ยึดติด แต่ก็ไม่อยากถูกใครดูถูกว่าเป็นพระเอกตกอับ คราวที่แล้วโดนเมาท์เรื่องยัวร์เวย์ ถ้ามาถ่ายนิตยสารเกย์อีกคงไปกันใหญ่

แต่ก็ไม่แน่เสมอไป เดี๋ยวนี้ดาราหลายคนชอบถ่ายหนังสือแนวนี้กันเยอะ ในละครที่เล็กเล่นก็ยังให้โชว์ซิคแพ็กอยู่บ่อยๆ จนบางทีเล็กสงสัยว่าเกี่ยวกับเรื่องที่เล่นตรงไหน

"เอาอย่างนี้ละกัน เล็กอยากได้เท่าไหร่ งานนี้พี่ยอมทุ่มสุดตัว ชัยเขาบอกว่าจะให้สามแสนใช่ไหม ถ้าพี่ให้ห้าแสน...เล็กคิดว่ายังไง คุยตรงๆ เลยละกัน เล็กเรียกมาเลย ถ้าพี่ให้ได้พี่ก็จะให้"

เงินห้าแสนแลกกับการขึ้นปกนิตยสารเกย์ชื่อดัง นี่ไม่ใช่เงินจำนวยน้อยๆ เลย แต่เล็กก็ลำบากใจ หรือว่าจะลองเรียกราคาสูงๆ ไปเลย ทางนั้นจะได้ไม่กล้าจ้าง

แต่ถ้าเกิดเขาให้ขึ้นมาล่ะ เล็กก็ต้องถ่ายแบบให้เขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ถ้าเกิดเรียกราคาสูง เล็กอาจต้องโชว์เยอะก็ได้ จะเอาอย่างไรดี ใกล้สิ้นเดือนแล้ว เล็กแทบจะสิ้นใจ เมื่อไม่กี่วันมานี้น้องชายก็มาขอยืมเงินไปอีก แต่เล็กไม่เคยได้คืนเลย

เล็กถอนหายใจเฮือกใหญ่ ที่มาวันนี้ก็ไม่ได้ปรึกษาใครเลย ไม่ว่าคุณสนิท เจหรือทางต้นสังกัด เผลอๆ เล็กอาจจะโดนเรียกไปต่อว่า แต่ทางนั้นก็แทบไม่เคยดูดำดูดีเล็กแล้ว ที่ผ่านมาก็ดองงานเล็กมาตลอด เล็กแทบไม่มีหวังอะไรจากช่องนี้เลย อีกอย่าง ถ่ายเซ็กซี่เล็กๆ น้อยๆ แค่นี้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

ถ้าอย่างนั้นก็คงแปลว่าเล็กตัดสินใจแล้ว ดูเหมือนช่วงนี้มีเรื่องให้ต้องตัดสินใจสำคัญหลายเรื่องทีเดียว

"ถ้าผม...จะขอค่าตัว...หนึ่งล้านบาท แต่ไม่โชว์เยอะ พี่คิดว่าไงครับ" เล็กต่อรอง

"โห...เล็ก เล็กจะเรียกพี่เขาตั้งล้านหนึ่งเลยเหรอ" คนที่ตกใจมากกว่าใครกลับเป็นชิงชัย ทั้งที่ไม่ได้เป็นคนจ่ายเงินค่าจ้างเสียหน่อย

"ครับ...คิดว่ายังไงครับ" เล็กยืนยันพลางกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ

ถ้าลองลังเลแบบนี้ แสดงว่าคงไม่กล้าสู้ราคาหรอก มันก็ต้องอย่างนี้แหละ ถ้าอยากได้ดาราระดับพระเอกขึ้นปกนิตยสารเกย์ ก็ต้องลงทุนหน่อย

คุณเอดูมีท่าทีหนักใจ เขาคงคิดว่าห้าแสนก็เป็นราคาที่สูงมากแล้ว เจอหนึ่งล้านบาทเข้าไปก็เลยอึ้ง

สองหนุ่มวัยสี่สิบต้นๆ มองหน้ากัน คล้ายกับจะถามว่าจะเอาอย่างไร ส่วนเล็กนั่งเฝ้ารอคำตอบใจจดใจจ่อ พอบอกไปแล้วก็ชักกังวล การตัดสินใจครั้งนี้อาจตัดสินอนาคตชีวิตวงการบันเทิงของเล็กไปเลย

พี่เอคลี่ยิ้ม ดูเหมือนพร้อมจะให้คำตอบ เล็กยิ่งตื่นเต้นจนมือเย็นเฉียบ

"แหม...น้องเล็กเรียกค่าตัวซะขนาดนี้ พูดตรงๆ ว่าพี่ก็หนักใจไม่ใช่เล่นเลย แต่ถ้ามันจะทำให้หนังสือของพี่ดังขึ้นมาได้ พี่ก็คิดว่า...."

TBC
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-09-2016 18:02:30 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ nemesis

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2287
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-3
สปอยเกิดไรขึ้นนน

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
คุณเล็ก!!! ทำไมไม่รู้จักปรึกษาคุณสนิทกับคุณเจซะก่อน
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
คุณเล็กโตแล้วนะคะ ทำไมทำอะไรถึงไม่ปรึกษาใครเลยล่ะ? น่าตีจริงๆ เลยเชียว~

ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
 :z13: เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
นึกว่าเล็กจะโกรธเจซะอีก

รอตอนต่อไปครับ

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
ดูแปลกแหวกแนวมาก ๆ ไม่คิดว่าจะมาเป็นแบบธุรกิจเลยน่ะ เราว่าดีน่ะ คนเขียนทำการบ้านมาเยอะดี รู้ลึกรู้จริง เราโอเคเลยล่ะ ปกตินิยายมักจะมองข้ามเรื่องธุรกิจไปก้อเหมือนกับละครไทยเกาหลีแหละ เห็นแต่งตัวสวย ๆ บอกมีธุรกิจร่ำรวยมาก ๆ แต่ดูมาทั้งเรื่องไม่รู้ว่าทำอะไร  :katai1: น่าติดตามดีจ้ะ

ออฟไลน์ Rabity

  • #slytherinforlife
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 523
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-8
ว่าจะมาอ่านหลายวันแล้วแต่ก็ติดโน่นติดนี่ ในที่สุดวันนี้ก็มีโอกาสได้อ่านถึงตอนล่าสุดจนได้
คืออยากจะบอกความรู้สึกตั้งแต่เริ่มต้นที่อ่านเรื่องนี้ค่ะ เราคิดว่าเรื่องนี้ค่อนข้างสนุกทีเดียว (จริงๆก็เคยเขียนไว้แหละ แต่วันนี้อยากจะมาพูดต่อสักหน่อย) แต่มีบางส่วนที่เป็นคำคมต่างๆ เราให้ความรู้สึกว่าจะเป็นเหมือนกับการยัดมากจนเกินไป คือมันเป็นความคิดเห็นส่วนตัวน่ะค่ะ แต่หลังจากที่เปิดตัวยัวร์เวย์ และเห็นทิศทางของเรื่องชัดเจนมากขึ้นก็รู้สึกว่าโครงเรื่องมันชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ คำคมแต่ละอย่างคือสิ่งที่ได้ผ่านเหตุการณ์นั้นๆ มันทำให้เรารู้สึกอินมากขึ้น อยากสารภาพว่าตอนที่เล็กโดนลอยแพเราแอบน้ำตาไหลเลยจริงๆ ยอมรับว่าคนเขียนมีข้อมูลที่แน่นมาก และเราเองก็อยากจะสนับสนุน และบอกต่อเรื่องดีๆเรื่องนี้ต่อไป

โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าหลักการทำงานที่อ้างอิงถึงนั้นดีมาก เมื่อเราทุ่มเทให้กับคนอื่นอยากเต็มที่ มอบแรงกาย มอบความฝัน สุดท้ายแล้วสิ่งเหล่านั้นก็จะหมุนวนกลับมาหาเราเช่นกัน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามทุกสักคม ทุกการทำงานต่างก็มีมุมมืดด้วยกันทั้งนั้น เช่นเดียวกันกับมุมที่ดีงามทั้งหลาย ถ้าให้เปรียบเทียบอย่างการเป็นนักเขียน ถามว่าดีไหม ย้อนถามง่ายๆมีใครคิดที่จะยึดอาชีพนี้เป็นงานหลักโดยไม่ต้องดิ้นรนหางานอื่นมาทำเสริม ไส้แห้งก็เท่านั้น เขียนไม่ออกชีวิตก็จบ งานขายไม่ออกก็จบชีวิต แต่สิ่งดีๆอย่างแฟนคลับที่คอยติดตามก็ยังคงมีให้เห็น คนที่ติดตามเราและให้กำลังใจเสมอ แม้ว่าอาจไม่ได้เป็นนักเขียนที่ยิ่งใหญ่ที่ใครๆก็ต้องติดตาม แต่ไม่แน่ว่าเราเองอาจจะเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจอันสำคัญที่เปลี่ยนชีวิตคนๆหนึ่งไปตลอดกาลก็ได้

เราเชื่อว่าทุกสังคมมีมุมนี้ค่ะ และเราเองก็อยากเห็นมุมของยัวร์เวย์มาก เพราะคงจะไม่ได้เห็นกันง่ายๆแน่ คุณ sarawatta เสียค่าใช้จ่ายไปมากมายสำหรับการเรียนรู้ ค่าไฟนิดหน่อยที่เราจ่ายถือเป็นราคาที่ถูกมากสำหรับการเรียนรู้สิ่งดีๆที่คุณอยากจะบอกต่อ

จะติดตามเรื่องนี้ต่อไปนะคะ เราจะเข้ามารีเฟรชหน้าทุกวันก็แล้วกันเนาะ ^O^
รอตอนต่อไปจ้าา

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
เรื่องนี้ให้น้ำหนักของเรื่องธุรกิจขายตรงพอๆ กับเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละคร เลยขอแสดงความเห็นเป็นสองส่วนแล้วกันครับ

ส่วนตัวละครและนิยายนั้น ยังมองไม่เห็นความจริงใจของเจเท่าไหร่ การที่เอาเรื่องหึงหวงนิดหน่อยมาเป็นเหตุให้กึ่งๆ ไปหลอกล่อคนอื่นมาทำธุรกิจด้วยโดยหวังผลในเรื่องอื่นนี่มันไม่จริงใจเอามากๆ ขัดกับหลักธุรกิจของตัวเองที่พร่ำพูดมาตลอด เปรียบเทียบไปก็คล้ายคนที่เอาเรื่องส่วนตัวไปปนกับเรื่องงาน อาจไม่ถึงกับเป็นการกระทำที่เลวทราม คนเยอะแยะในสังคมก็เป็นกัน แต่คนดีๆ มีศีลธรรมหน่อยคงไม่ทำแบบนี้

ส่วนที่เรื่องมันออกมาแย่ขนาดนี้คงเพราะฝั่งเล็กด้วย อยู่ในวงการนี้มาตั้งนานน่าจะคิดหน้าคิดหลังให้มากกว่านี้ เล็กไม่ผิดที่ตัดสินใจทำยัวร์เวย์ถ้าคิดดีแล้วว่าเหมาะสมกับตัวเองจริงๆ และวางแผนให้รอบครอบว่าจะค่อยๆ ปรับจากอาชีพหนึ่งไปอีกอาชีพหนึ่งอย่างไร ก็น่าจะรู้ว่าดารานี่ภาพลักษณ์สำคัญขนาดไหน แล้วขายตรงนี่คนก็มองไม่ค่อยดีนัก แต่เล็กกลับทำแบบไม่คิดหน้าคิดหลังอะไรเลย ถ้าจะให้วิเคราะห์ตรงๆ ก็คงหลงเสน่ห์เจจนเชื่อไปหมดทุกเรื่อง  เจน่าจะมีจิตวิทยาในการกล่อมคนที่สั่งสมมาจากการขายยัวร์เวย์มานาน บวกกับเล็กคงชอบเจในเชิง yaoi โดยไม่รู้ตัว

มาต่อที่เรื่องธุรกิจบ้าง ขอออกตัวก่อนนะครับว่าผมค่อนข้างมีอคติกับขายตรงอยู่พอประมาณ โดยส่วนตัวผมคิดว่าหลักการของ MLM ไม่ได้ไม่ดีแต่อย่างไร ถือเป็นช่องทางการจำหน่ายอีกทางนึงที่ทำให้เกิดการกระจายรายได้ที่ดีทีเดียว ไม่ต้องไปกระจุกตัวอยู่ตาม Modern Trade หรือพวกค้าปลีกรายใหญ่ และโครงสร้างผลตอบแทนแบบอัพไลน์ดาวน์ไลน์ก็สร้างความเป็นเจ้าของร่วมของธุรกิจได้จริง

แต่ผมมองว่าโครงสร้างธุรกิจแบบ MLM ยังขาดการควบคุมตรวจสอบที่ดี ผมไม่ได้มีความรู้ในระบบข้างในเท่าไหร่แต่ตามที่เข้าใจอัพไลน์ดาวไลน์จะผูกกันในระบบของบริษัทด้วยการแบ่งรายได้เท่านั้น เรื่องอื่นๆ เป็นเรื่องที่ไปจัดการกันเองโดยบริษัทอาจจะมี Resource ให้บางส่วน อัพไลน์ก็จะพยายามสอนและสนับสนุนให้ดาวน์ไลน์พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ขายของได้และหาลูกข่ายเพิ่มเติม ด้วยโครงสร้างผลตอบแทนที่ดีและความโลภที่มีในตัวมนุษย์ มันมีโอกาสที่จะเกิดการพยายามขายหรือหาดาวน์ไลน์ในแบบสีเทาๆ หรือไปถึงขั้นผิดศีลธรรม อาจเริ่มจากใช้ความเกรงใจ ใช้อำนาจในงานประจำ ไปจนถึงหลอกลวง เราจึงได้ยินเรื่องไม่ค่อยดี เช่น ของการบังคับลูกน้องที่ทำงานให้ช่วยซื้อสินค้า การไปอวดอ้างสรรพคุณที่เกินจริงของอาหารเสริมกับคนป่วยโรคมะเร็ง กันอยู่ตลอด

MLM ทุกอันเป็นระบบเปิด การคัดกรองคนเข้าไม่มี การประเมินผลด้านอื่นไม่มี ใช้แค่เงินเป็นตัวผลักดันการขาย ถึงตัวอัพไลน์จะทำงานอย่างมีศีลธรรม แต่จะมั่นใจได้ยังไงล่ะว่าลูกข่ายจะรับนโยบาย แถมการขายแบบถึงตัวก็ไม่รู้ว่าแต่ละคนไปพูดอะไรไว้ เผลอๆ สอนกันเป็นสายๆ ด้วยซ้ำ ผมไม่รู้ว่าเราจะควบคุมคนร้อยพ่อพันแม่ได้อย่างไร ถึงส่วนใหญ่จะทำกันแบบจริยธรรมที่ดี แต่คนส่วนน้อยพวกนี้ก็ทำให้ชื่อเสียงและภาพลักษณ์ธุรกิจขายตรงไม่ค่อยดีนัก ยิ่ง MLM ใหม่ๆ ที่เข้ามาดูจะมีประเด็นพวกนี้แรงขึ้น

อันนี้แค่อยากแชร์ให้เห็นมุมมองของผมนะครับไม่ได้ตั้งใจจะโจมตีใดๆ หรือถ้าใครมีข้อมูลเรื่องการควบคุมตรวจสอบมาเล่าให้ฟังก็จะดีมากครับ

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
อ่านไปก้อสงสารเล็กน่ะ ก้อคงเหมือนดาราหลาย ๆ คนที่ต้องเจอแบบนี้ วงการดาราต้องอาศัยเส้นสายมาก ๆ ยังเคยพูดกับเพื่อนเลยว่าดาราบางคนทำไมหน้าตาก้องั้น ๆ เล่นละครก้องั้น ๆ ทำไมมีงานป้อนให้ตลอดแถมยังดันให้เล่นเรื่องดี ๆ อีก ถ้าไม่มีเส้นก้อไม่รู้จะว่าไงแล้ว ส่วนบางคนก้อดูมีพร้อมหมดแต่ขาดโอกาสที่จะมีให้น่ะ มีคนอยากเข้าวงการนี้มากแต่จะมีสักกี่คนที่จะไปถึงดวงดาว ลุ้นมากว่าเล็กจะโดนหลอกอีกรึเปล่าเนี่ยสิ ได้เงินมามากแต่อาจจะตัดอนาคตตัวเองไปเลยก้อได้น่ะ คิดให้ดี ๆ ล่ะ เล็ก
ส่วนเจเราคิดว่าก้อคงเป็นธรรมดาของคนเป็นแฟนน่ะ แต่เราว่าเขาน่าจะพูดกับแฟนเขาไปตรง ๆ เลยดีกว่าถ้าไปกันไม่ได้ก้อเลิกไปเลยเหอะ มันอยู่ที่คนสองคนเองแหละ คนอื่นไม่เกี่ยวถ้าจะไปกันไม่ได้ก้อคงเพราะไม่รักกันมากพอน่ะ  :katai1:

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
เพิ่งตามมาอ่านค่ะ  พล็อตนิยายเรื่องนี้น่าสนใจมากเพราะว่าไม่ได้มีให้เห็นบ่อยนัก
เจตนาของเจในตอนแรกต่ำมาก  อ่านมาถึงตอนนี้ก็ยังไม่ชอบเจ  เล็กโดนกดดันมากๆในชีวิต เดินหมากผิดตาเดียวสามารถทำให้ล้มทั้งกระดานได้  อนาคตการเป็นดาราของเล็กถ้าจะริบหรี่  ยิ่งถ้าหากว่าไปถ่ายแบบให้นิตยสารเกย์ด้วย แฟนคลับและแวดวงจะมีปฏิกิริยายังไง ไม่อยากคิด  อย่างน้อยที่สุดก็อยากให้เล็กปรึกษาแฟนคลับก่อน เพื่อนที่ดีที่สุดของดาราก็คือแฟนคลับนี่แหละที่จะช่วยสนับสนุน ถ้าหากว่าเสียแฟนคลับก็คือเสียฐานไปเลย

เราไม่มายด์คนที่ถ่ายภาพลงนิตยสารแบบล่อแหลมนะ ถ้าหากว่าถ่ายออกมาแล้วดูดี ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับ message ที่ภาพสื่อออกมา  ที่ๆเราอยุ่คนทั่วไปไม่แม้แต่จะทำหน้าแปลกใจถ้าหากว่าดาราเปลื้องผ้าถ่ายนู๊ด หรือดาราเป็นเกย์  แต่ก็อย่างว่าค่ะ  เมืองไทยก็มีบรรทัดฐานที่ต่างกันออกไป

ขอไม่ออกความเห็นเรื่องการขายตรง  แต่ตอนนี้อ่านมาได้ 5 - 6 บทรู้สึกว่าเนื้อหาของระบบและข้อมูลการขายตรงเริ่มมีมากกว่าเนื้อเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละคร   ไม่แน่ใจว่านิยายเรื่องนี้คนเขียนตั้งใจจะให้เป็นเกี่ยวกับการขายตรงเป็นหลักหรือเป็นส่วนประกอป  ไม่ได้มีเจตนาย้อนแย้งนะคะ  เราสงสัยก็ถามตรงๆค่ะ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
คุณเล็กคือดีอ่ะ

เล็กต้องถ่ายแน่เลย

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
✿✿ธุรกิจนี้มีรัก✿✿
CHAPTER 08 ❋ ขึ้นปก Aptitude


เจพาเล็กมางานรับเข็มเพชรของนักธุรกิจยัวร์เวย์คนหนึ่งที่เมืองทองธานี เขาอยากให้เล็กได้เห็นภาพของการเฉลิมฉลองคนประสบความสำเร็จ ไม่น่าเชื่อว่าแค่คนๆ หนึ่งซึ่งบอกชื่อไปคงไม่มีใครรู้จัก แต่วันนี้ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจ กลับมีเพื่อนร่วมอาชีพมากมายพากันมาร่วมแสดงความยินดีจากทั่วทุกสารทิศ บางคนมาไกลจากต่างจังหวัดก็มี ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันส่วนตัวมาก่อน

เจพาดาวน์ไลน์คนอื่นๆ มาด้วยอีกห้าคน รวมกับเล็กก็เป็นหกคนพอดี ถ้าเจช่วยให้หกคนนี้สำเร็จ ไม่ช้าก็จะมารับเข็มรางวัลที่นี่ด้วยเช่นกัน

หนึ่งในดาวน์ไลน์หกคนมีพี่ประสิทธิ์อยู่ด้วย เล็กเคยเจอครั้งสองครั้ง ว่าจะหาโอกาสคุยด้วยแต่ก็ไม่ได้คุยสักที ดูเหมือนเจจะล่วงรู้ความคิดอีกฝ่าย คราวนี้จึงแนะนำให้รู้จักกันอย่างเป็นทางการ

"พี่ประสิทธิ์ครับคุณเล็ก เป็นแพลตินัมแล้ว พี่เขาดูแลการเงินให้กับเศรษฐียี่สิบตระกูลในเมืองไทย มีรายได้จากงานประจำที่ทำอยู่เดือนหนึ่งเป็นล้านเลยครับ แต่พื้นเพเป็นลูกชาวนา พ่อแม่เคยขายนาส่งให้เรียนจนหมด พี่ประสิทธ์ก็เลยตั้งเป้าหมายว่าจะรวยให้ได้ จะได้เอาเงินมาซื้อที่นาคืนให้พ่อแม่"

แค่เกริ่นนำก็น่าสนใจแล้ว เล็กชอบธุรกิจนี้ตรงที่ได้เจอคนหลากหลาย ได้เรียนรู้ว่าคนสำเร็จหลายคนล้วนแต่ผ่านความยากลำบากในชีวิตมาทั้งนั้น ไม่ใช่อยู่ดีๆ ก็สำเร็จเลย

"สวัสดีครับพี่ โห...พี่รายได้เยอะกว่าดาราอย่างผมอีกนะครับเนี่ย" เล็กบอก รู้สึกแปลกใจที่คนรายได้เดือนเป็นล้านก็มาทำธุรกิจนี้ด้วย จะว่าเงินไม่พอใช้ก็คงไม่ใช่  หรือว่าจะไม่รู้จักพอ แต่ช่างเถอะ เดาไปก็ไม่ถูกหรอก

พี่ประสิทธิ์รับไหว้พร้อมกับรอยยิ้มที่อบอุ่น ดูจากหน้าตาแล้วน่าจะเกือบห้าสิบได้ ใบหน้ามีรอยยิ้มบ่งบอกว่าเป็นคนมีความสุขในชีวิต

"ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณเล็ก ลูกสาวผมเขาชอบละครที่คุณเล็กเล่นมากเลยครับ ตามดูทุกวันเลย"

"ขอบคุณครับพี่" เล็กรู้สึกตะขิดตะขวงใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำว่าละคร

"แล้วคุณเล็กทำไมสนใจธุรกิจยัวร์เวย์ล่ะครับ"

"ผมอยากหาความมั่นคงให้ชีวิตครับพี่ พี่คงเคยเห็น ดาราหลายคนพอแก่ตัวลงก็ลำบากทั้งนั้น บางคนต้องมาออกทีวีขอให้คนช่วย ผมไม่อยากมีชีวิตแบบนั้นครับ ก่อนหน้านี้ ผมเคยมองหาโอกาสดีๆ มาตลอด พอดีเจอคุณเจ ได้คุยกันก็เลยสนใจครับ"

พี่ประสิทธิ์พยักหน้าเข้าใจ "แล้วมาเจอคุณเจได้ไงครับ"

เจกับเล็กหันมามองหน้ากันด้วยสีหน้ายิ้มๆ คงนึกถึงตอนทะเลาะกันวันที่เจอกันครั้งแรก

"อ๋อ...พอดีแฟนของคุณเจเขาเป็นแฟนคลับผมอยู่ครับ เมื่อเดือนที่แล้วคุณเจเขาไปงานแฟนคลับมีตติ้งของผมกับแฟน ก็เลยได้เจอกัน" เล็กบอก เจแอบหัวเราะเบาๆ

พี่ประสิทธิ์พยักหน้า "ดีแล้วครับคุณเล็ก คุณเล็กทำได้ครับ"

พี่ประสิทธิ์ยื่นมือมาขอจับมือ เล็กอยู่ในวงการนี้ได้สักพักก็เรียนรู้ว่าการจับมือให้กำลังใจกันเป็นเรื่องธรรมดา เจ้าตัวจึงยื่นมือมาจับด้วยโดยไม่ตะขิดตะขวงใจ

เมื่อพิธีกรเริ่มขึ้นพูด เจก็คอยอธิบายให้ดาวน์ไลน์ใหม่ๆ ฟังไปด้วย ตอนนี้มีเล็กคนเดียวที่ใหม่ เจจึงอธิบายให้เล็กฟังเป็นหลัก

"คุณเล็กเห็นไหมว่าคนเยอะขนาดไหน นี่ขนาดไม่ใช่ดารานะครับ ยังมีคนมาให้กำลังใจนับหมื่นๆ คน ผมว่าวันไหนที่คุณเล็กไปยืนบนนั้น จะต้องมีคนเยอะกว่านี้แน่นอนครับ"

เล็กหันไปยิ้ม พลันรู้สึกเขินเล็กน้อย สงสัยเจจะเริ่มสนิทกับเล็กมากขึ้น เจ้าตัวจึงเผลอเอาแขนโอบพนักเก้าอี้ของเล็กไว้ตอนคุยด้วย

"ให้คุณเจสำเร็จก่อนละกันครับ เดี๋ยวผมตามไป"

"ไม่ต้องรอผมหรอกครับคุณเล็ก ธุรกิจนี้ใครมาก่อนมาหลังไม่สำคัญ ใครช่วยคนได้มากกว่าก็สำเร็จได้ก่อนครับ คุณเล็กก็สำเร็จก่อนผมได้" เจบอก ก่อนหันไปมองบนเวทีและเล่าประวัติคร่าวๆ ของคนสำเร็จที่จะขึ้นพูดให้ฟัง

"พี่คนนี้ชื่อคุณเต้ยครับ เป็นคนนครสวรรค์ สมัครยัวร์เวย์เพราะว่าพี่ชายฝาแฝดที่เสียชีวิตไปมาชวน พอไปฟังแผนการตลาดกับพี่ชายก็ตื่นเต้น อยากทำมาก แต่ตัวเองไม่มีเงิน ไม่มีทุนอะไรเลย ก็เลยไปขอยืมเงินเพื่อนมาสมัคร ตอนที่สมัครพี่เขาไม่มีเงินซื้อสินค้าเลย ต้องเอาแค็ตตาล็อกไปเปิดให้เพื่อนๆ ในมหาลัยดูก่อน พอมีคนสั่ง พี่เต้ยก็จะนั่งรถไฟมาเอาของที่กรุงเทพ นั่งรถไฟฟรี เพราะว่านั่งบนหลังคาน่ะครับ เวลารถวิ่งผ่านสะพาน พี่เขาต้องนอนราบลง ไม่งั้นจะโดนสะพานตัดหัวขาด" เจพูดติดตลกตอนท้าย

"เพื่อนบางคนนะครับ พอเอาของมาให้ก็ไม่รับ บอกว่ารอไม่ไหว เขาต้องแปรงฟันทุกวัน จะให้มารอยาสีฟันของยัวร์เวย์ไม่ได้ แฟนของพี่เขาก็ดีมากเลยครับ ถึงขนาดยอมขายแหวนทองของตัวเอง แล้วก็เอามาให้พี่เต้ยใช้เป็นทุนทำธุรกิจ เขาสู้ด้วยกันมาจนสำเร็จ ล้มลุกคลุกคลานมาด้วยกันหลายปี โชคดีที่เขาได้อัปไลน์ดีคอยให้กำลังใจ ก็เลยทำได้จนสำเร็จ"

เล็กพยักหน้าช้าๆ ตามตลอด ดูท่าทางสนใจไม่น้อย ขนาดไม่มีเงินซื้อสินค้ายังสำเร็จได้เลย ทำไมใครๆ ถึงบอกว่ามันยาก เป็นไปไม่ได้ หรือว่าคนเหล่านั้นแค่ไม่รู้อะไรบางอย่าง อาจจะเป็นหลักคิดที่ทำให้ใครก็ตามที่คิดแบบนี้ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่แค่ยัวร์เวย์ แต่ทุกเรื่อง

"ผมชอบที่พี่เขาบอกว่า เขาไม่แคร์หรอกว่าใครจะว่าเขาบ้าหรือโง่ เมื่อก่อนที่บ้านเขาก็ไม่มีใครเห็นด้วย แต่เขาพอใจกับสิ่งที่เขาได้รับจากธุรกิจนี้มาก พี่เขาเล่าตลกๆ ให้ฟังว่า คนโง่อย่างเขา วันจันทร์ไปตีกอล์ฟ เขาไม่ไปวันอื่นเพราะคนเยอะ สนามเป็นของเขาคนเดียว แต่คนฉลาดกลับต้องไปทำงานเพื่อแลกกับเงินที่จะเอามาเลี้ยงชีวิต"

เล็กฟังมาถึงตรงนี้ก็พลอยขำไปกับเจด้วย

"คุณเล็กเห็นไหมว่า ขนาดเขาไม่มีเงินเลยนะครับ แต่เขาก็ยังสามารถทำจนสำเร็จได้ อย่างคุณอุทัยก็เหมือนกัน อ่านหนังสือไม่ออกซักกะตัว แถมยังเป็นคนพิการอีก อัปไลน์ต้องมาช่วยสอนอ่านหนังสือให้ สุดท้ายเขาก็ทำสำเร็จ พี่จุ๊สอนว่า...คนเราไม่ได้ยากจนเพราะขาดโอกาส หรือเพราะเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน แต่ที่เขายากจนก็เพราะเขายากจนความคิด ยากจนทัศนคติที่ดี คนที่ยากจนความคิดทำอะไรก็ไม่สำเร็จ พี่เต้ยบอกว่า...คนจนขายแรง คนรวยขายของ"

เล็กรู้สึกเหมือนโดนตีแสกหน้าเข้าอย่างจังเลย แต่ละคนที่เจเล่าให้ฟังล้วนแต่มีชีวิตยากลำบากตอนเริ่มต้น แต่คนเหล่านั้นก็ตั้งใจและทำมาหากินอย่างสุจริต ไม่มีใครเขาเอาร่างกายมาขาย คงจะมีแต่คนที่สิ้นคิดที่ทำแบบนี้ แต่เล็กก็ตัดสินใจทำไปแล้ว เรียกคืนกลับมาไม่ได้ ถ้าคุณสนิทรู้คงไม่พอใจที่เล็กรับงานโดยไม่ผ่านผู้จัดการส่วนตัวเลย

"เป็นไรหรือเปล่าครับคุณเล็ก" เจถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นเล็กเงียบไป

เล็กสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนยิ้มกลบเกลื่อน "เปล่าหรอกครับ ผมคิดอะไรเพลินๆ ไปเรื่อยเปื่อย"

"มีอะไรก็บอกผมนะคุณเล็ก คุณเล็กตามผมมาแล้ว ผมยินดีดูแลให้ทุกเรื่องที่ทำได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นแค่เรื่องธุรกิจหรอกครับ เรื่องหัวใจก็คุยได้นะครับ ตอนสมัยเรียน ผมชอบเป็นที่ปรึกษาให้เพื่อนที่มันอกหัก" เจพูดติดตลก ก่อนเอามือตบไหล่เล็กเบาๆ

เล็กรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ตั้งแต่เลิกกับแฟนไปเมื่อสองสามปีที่แล้ว เล็กแทบไม่เคยมีความรู้สึกอบอุ่นแบบนี้อีกเลย

"ครับ" เล็กตอบสั้นๆ แม่พยายามยิ้ม แต่ในใจกลับคิดกังวล

ไม่น่าเลย ตัดสินใจทำอะไรโง่ๆ ลงไปอีกแล้ว ถ้าปรึกษากับเจก่อนคงไม่ทำแบบนี้ ไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ใจคอของเล็กไม่ดีเอาเสียเลย คงมีอะไรสักอย่างเกิดขึ้นแน่ แต่จะร้ายแรงแค่ไหนก็สุดจะคาดเดา


"เป็นไงฝน ติดไหม" เสียงใครคนหนึ่งในกลุ่มถามขึ้น

"ไม่ติดเลย เหมือนพี่เขาปิดเครื่อง" คนตอบหน้าเครียด

"เอาไงดี เป็นห่วงพี่เล็กจัง สงสัยคงจะเครียดหนักแน่ๆ เลย" อีกคนพลอยกังวลไปด้วย เพื่อนๆ ในกลุ่มก็รู้สึกไม่ต่างกัน

"เนี่ยเราว่านะ ทางช่องคงเล่นงานพี่เล็กหนักแน่ๆ เลยว่าไหม ปกติก็ไม่ใช่ลูกรักอยู่แล้ว ยิ่งมาเจอเรื่องแบบนี้อีก โอ๊ย ทำไงดี พี่เล็กเขาจะเป็นอะไรหรือเปล่า ไม่น่ามีเรื่องแบบนี้เลย" แฟนคลับอีกคนวิตกจริต

พอเห็นข่าวในสารพัดสื่อวันนี้ กลุ่มแฟนคลับเหนียวแน่นของเล็กก็นัดมาเจอกันที่ห้างแห่งหนึ่ง ต่างคนต่างกลุ้มใจและเป็นห่วงดาราคนโปรดจะคิดมาก

"ไปบ้านพี่เล็กกันไหม" น้ำฝนเสนอ แต่แอบกังวลว่าจะไม่ได้เจอ

"เอางี้ก่อนไหม เอ่อ...ฝนจะว่าอะไรไหมถ้าเราจะขอให้ฝนโทรถามแฟนฝนหน่อย เผื่อพี่เล็กจะไป...เอ่อ...ทำยัวร์เวย์กับพี่ขนม" เพื่อนอีกคนถามอย่างเกรงอกเกรงใจ ปกติไม่ค่อยมีใครคุยเรื่องแฟนของน้ำฝนกับยัวร์เวย์นัก เพราะรู้ว่าน้ำฝนไม่ชอบ

น้ำฝนทำท่าครุ่นคิด ไม่นานก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาแฟนหนุ่ม

"พี่ขนมคะ" น้ำฝนกรอกเสียงลงไปเมื่อเจรับสาย

"ฝน...คิดถึงฝนจังเลย มีอะไรหรือเปล่า พี่ว่าจะเย็นนี้จะไปหาฝนซะหน่อย" เจบอกอย่างอารมณ์ดี

"เปล่าค่ะ พี่ขนมอยู่ไหนคะ"

"อ๋อ...จัดเฮาส์มีตติ้งที่บ้านพี่ฉ่ำคับ แถวๆ สาธร ฝนมีอะไรจะให้พี่ช่วยหรือเปล่า หรือจะให้พี่พาไปไหนไหม"

"ไม่มีค่ะ" น้ำฝนตอบกลับไปทันที ก่อนถามเรื่องที่อยากรู้ "เอ่อ...พี่เล็กไปด้วยไหมคะ"

"อ๋อ...เปล่า มีอะไรหรือเปล่าฝน" เจสงสัย

น้ำฝนกลั้นความหงุดหงิดไว้ ไม่น่าเชื่อว่าเจไม่รู้เรื่องอะไรเลย ขนาดว่าเล็กเป็นดาวน์ไลน์ของตัวเองแท้ๆ

"คือว่า..." น้ำฝนถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจ "พี่เล็กเขาหายตัวไป โทรติดต่อไม่ได้เลยค่ะ ฝนนึกว่าพี่เล็กจะมากับพี่ขนม ก็เลยโทรมาถามดู"

"อะไรนะ ทำไมคุณเล็กเขาหายตัวไปล่ะ หายไปไหน" เจถามด้วยน้ำเสียงตกใจ

"พี่ลองเช็คดูข่าวในอินเตอร์เน็ตเองเถอะค่ะ ฝนไม่รู้จะเล่ายังไง แค่นี้นะคะ"

พูดจบแล้วฝนก็รีบวางสายไป ก่อนหันไปส่ายหน้ากับเพื่อนๆ ที่รอฟังอย่างใจจดใจจ่อ ทุกคนดูผิดหวังมาก เล็กหายไปเกือบครึ่งวันแล้ว แต่ไม่มีใครติดต่อได้เลย

{-- + --- + -- + --- + --}

เจรีบขอตัวไปเข้าห้องน้ำทันทีหลังคุยโทรศัพท์กับน้ำฝน ไม่ลืมติดไอแพดไปด้วย พอเข้าไปในห้องน้ำในบ้านของดาวน์ไลน์ เจก็รีบเปิดอินเตอร์เน็ต ค้นหาข่าวที่เกี่ยวกับเล็กทันที ไม่นานก็เจอเรื่องน่าตกใจ

"ดาราหนุ่มตกอับหนัก ขึ้นปกหนังสือเกย์สุดสยิวพร้อมรับค่าตัวเจ็ดหลัก"

เจขมวดคิ้วด้วยความสงสัยสุดขีด เล็กไม่เคยพูดเรื่องนี้ให้ฟังเลย ทำไมอยู่ดีๆ ถึงได้ไปถ่ายนิตยสารเกย์ พอเปิดเข้าไปอ่านข้างในก็ยิ่งตกใจยิ่งกว่าเดิม มีภาพตัวอย่างให้ดูสองสามรูป ที่จริงก็ไม่โป๊เปลือยมาก แค่ดูเซ็กซี่มากไปหน่อยเท่านั้น มีอยู่รูปหนึ่ง เล็กดึงขอบกางเกงลงมาจนเห็นแก้มก้น รูปนั้นเองที่เป็นชนวนปัญหา เพราะทางช่องต้นสังกัดไม่พอใจมาก

ที่จริงอยากถ่ายก็ไม่เป็นไร แต่เล็กควรปรึกษาผู้ใหญ่ก่อน ไม่ใช่ถือวิสาสะตัดสินใจโดยพละการ เพราะถึงอย่างไรเล็กก็ยังมีสัญญากับทางช่องอยู่ ต้องให้เกียรติผู้ใหญ่

เจไล่อ่านดูคอมเมนต์ของคนที่เข้ามาอ่านข่าว มีทั้งคนด่าคนชม พอเข้าไปอ่านในหน้าแฟนเพจของเล็ก เจก็ได้เห็นแฟนคลับหลายคนแสดงความไม่พอใจ บางคนด่าว่าเสียๆ หายๆ บางคนถึงกับจะเลิกติดตามผลงานไปเลยก็มี

เล็กคงได้เห็นพวกนี้หมดแล้ว ไม่ต้องสงสัยว่าเล็กจะเสียใจแค่ไหน เจรีบยกโทรศัพท์โทรหาเล็ก แต่เล็กก็ไม่รับสาย เหมือนกับไม่ได้เปิดเครื่องไว้

เป็นเพราะความหึงหวงไร้สาระของเจแน่ๆ ที่มีส่วนทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ พอเล็กขาดรายได้ก็เลยต้องทำอะไรสักอย่าง ผลจากความไม่รู้จักยั้งคิดสร้างบาปกรรมให้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างคาดไม่ถึง แม้ขอโทษไปแล้วก็ยังรู้สึกผิดไม่หาย


กว่าเจจะเสร็จธุระก็ค่ำพอสมควร จากนั้นก็ตรงดิ่งมาที่บ้านของเล็ก เจโทรถามคุณสนิทแล้ว ไม่มีใครได้ข่าวคราวของเล็กเลย ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน แต่เจคิดว่าเล็กต้องกลับบ้านเวลาใดเวลาหนึ่ง จึงตัดสินใจมารอที่นี่

บ้านของเล็กปิดสนิท ไม่มีวี่แววว่าจะมีคนอยู่ข้างใน ประตูหน้าบ้านก็ล็อคไว้ แสดงว่าคนในบ้านคงไม่อยู่ เจพยายามโทรศัพท์หาเล็กเป็นระยะๆ แต่ก็ไร้วี่แววเช่นเคย

คงไม่มีอะไรจะทำได้ดีมากกว่าไปกว่านั่งรอ เจจึงได้แต่ยืนบ้าง นั่งบ้าง เดินไปเดินมาบ้าง แถมยังต้องคอยตบยุงที่ออกอาละวาด แต่ก็ไร้วี่แววของคนที่เจเป็นห่วง

สามทุ่มผ่านไป...

สี่ทุ่มผ่านไป...

ห้าทุ่มผ่านไป...

เที่ยงคืนแล้วเล็กก็ยังไม่มา ท้องเริ่มหิวจนหายหิว เจไม่ได้กินอะไรเลยมาตั้งแต่บ่าย แต่ช่างเถอะ ตอนนี้เจเป็นห่วงเล็กมากกว่าอะไรทั้งหมด ถ้าคืนนี้ต้องนอนหน้าบ้านเล็กก็ต้องยอม

เจนั่งชันเข่าที่หน้าประตูบ้านอย่างเหนื่อยอ่อนเพราะเหนื่อยมาทั้งวัน เริ่มรู้สึกง่วงมากขึ้น แต่ก็พยายามไม่ให้ตัวเองเผลอหลับ

จนกระทั่งเกือบๆ ตีหนึ่ง เจกำลังจะหลับไปอยู่แล้ว รถแท็กซี่คันหนึ่งก็วิ่งมาจอดที่หน้าบ้านของเล็ก พอเห็นคนที่ลงมาจากรถ เจก็ยิ้มดีใจ แต่สักพักต้องหุบยิ้มเมื่อคนที่รอคอยไม่ได้มาคนเดียว แต่มาพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เจไม่รู้จักเลย ท่าทางเมาด้วยกันทั้งคู่

"คุณเล็ก ไปไหนมาครับ รู้ไหมผมเป็นห่วงคุณเล็กแทบแย่เลย"

เล็กค่อยๆ ปรับสายตาและประมวลผลสมองที่หนักอึ้งเมื่อได้ยินเสียงคุ้นหู พอรู้ว่าเป็นใคร เล็กก็ตกใจไม่น้อย ไม่คิดว่าคนที่มายืนรอจะเป็นอัปไลน์ของตัวเอง

"คุณเจ!" เล็กอุทานด้วยความตกใจ

"ใครคะพี่เล็ก มีเพื่อนมาทำไมไม่บอกคะ แอนไม่ชอบแบบสวิงกิ้งนะคะ" หญิงสาวที่มาด้วยบ่นเสียงอ้อแอ้ๆ ต่างคนต่างยืนโงนเงนไปมาเพราะเมาหนักทั้งคู่

"เชิญตามสบายละกันนะครับ เดี๋ยวผมจะกลับแล้ว" เจบอกอย่างผิดหวังที่เห็นอีกฝ่ายมากับผู้หญิง อุตส่าห์เป็นห่วงแทบแย่ ที่แท้ไม่เห็นมีอะไรให้น่าห่วงเลย

เล็กใจหายวาบเมื่อเห็นเจเดินหนีไปที่รถ จึงพยายามใช้แรงกายและสติสัมปชัญญะที่พอมี เดินแกมวิ่งโซซัดโซเซตามเจไป เจคงโกรธที่อุตส่าห์นั่งรอ เล็กไม่อยากให้เจเสียความรู้สึกและกลับบ้านไปด้วยความรู้สึกนี้

"คุณเจ อย่าเพิ่งปายยยย" เล็กร้องห้ามด้วยเสียงอ้อแอ้

เจกำลังจะเปิดประตูรถเข้าไปพอดี พอไปถึงตัว เล็กก็คว้าข้อมือเจไว้ทันที ต่างคนต่างมองหน้ากันด้วยความรู้สึกที่ยากจะบอก

ถึงจะโกรธแต่เล็กก็เห็นแววตาเป็นห่วงของอีกฝ่าย แววตานั้นมีแรงดึงดูดอย่างประหลาด เมื่ออยู่ใกล้ๆ เล็กก็รู้สึกอบอุ่นใจ คนนี้หรือเปล่า...ที่เล็กต้องการมากที่สุดในเวลานี้

"คุณเจ...ผมขอโทษ" เล็กบอกด้วยสีหน้ารู้สึกผิด

เจเห็นท่าทางอ่อนระโหยโรยแรงของอีกฝ่ายก็อดสงสารไม่ได้ เล็กคงเจ็บปวดมากถึงต้องหาทางระบายออกด้วยวิธีนี้

เจดึงเล็กมากอดไว้ เล็กกอดเจแน่นจนสุดอ้อมแขนของตัวเอง เขาเหนื่อยเหลือเกิน เหนื่อยกับชีวิต เหนื่อยกับความสิ้นคิดของตัวเอง เหนื่อยกับปัญหาที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดไม่หย่อน ครั้งนี้นับว่าหนักที่สุดแล้ว จึงต้องใช้ความเมาช่วยบรรเทาจิตใจที่บอบช้ำ

"คุณเจ...ช่วยผมด้วย ผมม่ายหวายแล้ว ช่วยผมด้วยนะครับคุณเจ" เล็กร้องไห้ ทุกอย่างที่อดกลั้นมาตลอดทั้งวันเลยจุดที่จะทานทนแล้ว เหล้าก็ช่วยไม่ได้ ผู้หญิงก็ช่วยไม่ได้ เหลือแต่เจนี่แหละที่เป็นที่พึ่งสุดท้าย ถ้าไม่มีเจแล้ว เล็กก็ไม่รู้จะไปหาใครที่ไหน

หัวใจที่เจ็บปวดและอ่อนล้ามาทั้งวันได้เจอที่พึ่งแล้ว อ้อมกอดนี้ช่างอบอุ่นจนเล็กไม่อยากปล่อยไปไหน ต่อให้มีปาปารัซซี่มาแอบถ่ายก็จะกอดไว้อย่างนี้ ต่อให้ต้องขึ้นหน้าหนึ่งว่าเป็นเกย์ก็ยอม

เจถือโอกาสนี้หันไปสื่อสารกับคนที่ตามเจมาด้วย เธอยืนมองอย่างงงๆ เมื่อเห็นเจทำท่าสะบัดมือไล่ ในที่สุดผู้หญิงคนนั้นก็เข้าใจ

"อะไรเนี่ย เป็นเกย์ก็ไม่บอก" เธอพูดอย่างหัวเสีย ก่อนสะบัดหน้าและเดินโซซัดโซเซออกไป รปภ. ที่นี่คงพอช่วยเรียกแท็กซี่ให้เธอได้

เมื่อผู้หญิงคนนั้นเดินหายลับไปแล้ว เจจึงหันมาปลอบใจดาวน์ไลน์ของตัวเอง "เข้มแข็งนะครับคุณเล็ก ผมจะอยู่เป็นเพื่อนคุณเล็กคืนนี้นะครับ"

น้ำเสียงของเจฟังดูอบอุ่นเหลือเกิน เล็กจึงกอดแน่นขึ้น "คุณเจ อย่าทิ้งผมปายนะคร้าบ ผมม่ายเหลือครายเลย"

เล็กพูดเพราะเมาหรือเปล่าไม่รู้ แต่ก็ไม่เหลือใครเลยจริงๆ น้องชายก็โทรมาด่าแต่เช้า แฟนคลับหลายคนด่าในสื่อออนไลน์เสียๆ หายๆ ตอนสายๆ ทางช่องต้นสังกัดก็เรียกเข้าไปต่อว่า เล็กยังจำคำพูดสุดเจ็บนั้นได้ดี

"คุณจะเป็นพระเอกหรือว่าจะเล่นหนังโป๊ครับคุณเล็ก! จะเอาดีทางด้านไหนกันแน่ คุณสิ้นคิดแล้วหรือไงถึงได้ทำแบบนี้! อยากจะถ่ายผมก็ไม่ว่า แต่คุณควรจะมาถามผมก่อน นี่อะไร ขนาดผู้จัดการส่วนตัวของตัวเองคุณยังไม่บอกเขาเลย ทำไมถึงได้ทำอะไรข้ามหน้าข้ามตากันแบบนี้ ไม่เห็นหัวคนอื่นเลยหรือไง!"

เล็กจุกจนพูดไม่ออก คุณสนิทเองก็ทำหน้ากระอักกระอ่วนใจ แต่กระนั้นก็ไม่ตำหนิเล็กสักคำ คงเป็นเพราะเข้าใจสถานการณ์ของเล็กเป็นอย่างดี

พอออกจากบริษัท เล็กก็ปิดโทรศัพท์ กลับมาที่บ้าน แต่ไม่เข้าบ้าน ใกล้ๆ กันมีสวนสาธารณะ เล็กไปอยู่ที่นั่นเกือบทั้งวัน นั่งจับเจ่าคนเดียว ตกเย็นจึงไปผับ และกลับมาในสภาพนี้

"ครับคุณเล็ก คุณเล็กไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะไม่ไปไหน ผมจะไม่ทิ้งคุณเล็กแน่นอน" พูดจบน้ำตาของเจก็ซึมเบ้าตา อดโทษตัวเองไม่ได้ที่เป็นต้นเหตุให้ชีวิตของเล็กลำบากขนาดนี้

คราวนี้เล็กไม่โทษเจหรอก เป็นเพราะเล็กสิ้นคิดเองต่างหาก เพราะยากจนความคิดถึงต้องทำอะไรโง่ๆ

"ผมมันโง่เองครับคุณเจ" เล็กร้องไห้ในที่สุด คงอดกลั้นไว้ไม่ไหวแล้ว

"อย่าคิดอย่างนั้นสิครับ อะไรที่มันผ่านแล้วก็ผ่านไป เริ่มต้นใหม่นะครับคุณเล็ก" เจปลอบ

เล็กยิ่งกอดแน่นขึ้น คงจะมีแต่เจคนเดียวเท่านั้นที่คิดจะให้โอกาสเล็กอีกครั้ง คนอื่นๆ ขุดหลุมฝังกลบเล็กไปเรียบร้อยแล้ว

ผ่านไปหลายนาที เล็กเริ่มสงบจิตสงบใจได้ จึงค่อยๆ ปล่อยตัวเป็นอิสระจากอ้อมกอดของอัปไลน์ คิดไปคิดมา มีอัปไลน์ก็ดีเหมือนกัน เหมือนมีพี่เลี้ยง มีเพื่อน และมีคนคอยดูแลความคิดและชีวิตให้

"คุณเล็กไปไหนมาครับ ทำไมเมามากขนาดนี้" เจถามอย่างสงสัย

"หลายที่ ปายให้เขาด่ามาครับ สนุกเป็นบ้าเลย" เล็กแค่นเสียงอย่างสมเพชตัวเอง

"แล้วเมื่อกี้พาใครมาด้วยครับ ผมไม่เห็นรู้จักเลย"

พอเจถาม เล็กจึงเพิ่งนึกได้ พอหันไปมอง ผู้หญิงคนนั้นก็หายตัวไปเสียแล้ว

"ม่ายรู้ เจอเขาที่ผับ เขาตามผมมาเอง แล้วเขาปายหนายแล้วคร้าบ"

"กลับไปแล้ว" เจบอก

เล็กไม่รู้สึกอะไรมากนัก คงเป็นเพราะคนที่เล็กต้องการอยู่ตรงนี้แล้ว พอเป็นดารา มีผู้หญิงมาเสนอตัวให้เล็กอยู่เรื่อยๆ แต่เล็กก็ระวังตัวพอสมควรเพราะไม่อยากมีปัญหาทีหลัง

"เข้าบ้านดีกว่าครับ" เจตัดบท

เล็กพยักหน้า ก่อนควานหากุญแจบ้านในกระเป๋ากางเกง จากนั้นส่งให้เจเพราะรู้ว่าตัวเองคงไม่สามารถไขกุญแจเปิดบ้านได้ในสภาพนี้ โชคดีที่มันยังอยู่ แต่ว่า...

กระเป๋าสตางค์หายไปไหน! ตอนอยู่บนรถแท็กซี่ยังคลำเจออยู่เลย เล็กควานหากระเป๋าสตางค์ในกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้าง แต่ไม่พบเลย อย่าบอกนะว่า...

"คุณเจ กระเป๋าตังค์ผมหาย!" เล็กอุทานเสียงชัดเหมือนหายเมาแล้ว

พอได้ฟัง เจก็เดาออกได้ไม่ยากนัก "รอผมแป๊บนึงนะครับ เดี๋ยวผมมา"

ว่าแล้วเจก็รีบวิ่งออกไปที่หน้าปากทางเข้าหมู่บ้าน เล็กยืนรออย่างใจจดใจจ่อ ไม่นานเจก็กลับมาพร้อมกับข่าวร้าย

"ไม่ทันแล้วครับคุณเล็ก รปภ. เขาบอกว่าผู้หญิงคนนั้นขึ้นรถไปแล้ว เข้าบ้านก่อนดีกว่าครับ ตอนนี้คงทำอะไรไม่ได้เพราะมันดึกมาก นอนก่อนดีกว่าครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจัดการให้"

เล็กพยักหน้าเห็นด้วย นึกโมโหตัวเองที่ประมาท ดีไม่ดีจะมีเรื่องให้ต้องเสียเงินอีกแล้ว

พอเข้ามาในบ้าน  เล็กอ้วกไม่เป็นท่าอยู่หลายรอบ หมดสภาพพระเอกละครไปเลย เจต้องคอยตามมาช่วยลูบหลังให้ ก่อนพาเล็กมานอนบนเตียง เช็ดตัวให้อีกฝ่ายนอนสบายๆ เช็ดตัวเสร็จก็ไปทำความสะอาดห้องน้ำที่เลอะเทอะเปรอะเปื้อนอีกที

หลังจากนั้น เล็กไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เผลอหลับไปจนถึงเช้า มารู้ตัวอีกทีก็ตอนสายของวันใหม่ เล็กลืมตาตื่นขึ้นอย่างยากลำบาก หัวหนักอึ้งจนแทบลุกไม่ขึ้น แต่ก็ยันกายลุกขึ้นมาจนได้

พอผ้าห่มหลุดออกจากตัว เล็กก็พบว่าตัวเองไม่มีเสื้อผ้าติดตัวเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ปกติเล็กไม่เคยนอนแก้ผ้าเลย อย่างน้อยต้องมีกางเกงในชิ้นหนึ่งติดตัว พอหันไปมองข้างๆ ก็เห็นเจนอนอยู่ด้วย

นี่มันเกิดอะไรขึ้น! ทำไมเล็กไม่มีเสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียว! แล้วทำไมเจมานอนที่นี่! เล็กจำอะไรไม่ได้เลย นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกว่าตัวเองอยู่ในสภาพนี้ได้อย่างไร

เจเริ่มขยับตัว สักพักก็ค่อยๆ งัวเงียตื่น เล็กรีบคว้าผ้าห่มขึ้นมาปิดส่วนสำคัญไว้ ก่อนเจจะหันมาเห็นเข้า

เจหันมองคนข้างๆ และส่งยิ้มกว้างให้ "ตื่นแล้วเหรอครับที่รัก"

คำทักทายแรกในเช้าวันนี้ทำเอาเล็กตกใจจนแทบตกจากเตียง เจ้าตัวหน้าเหวอ ไม่แน่ใจว่าฟังผิด หรือเจแค่ละเมอพูดออกมา แต่ลืมตาแป๋วขนาดนี้จะละเมอได้อย่างไร

"คุณเจเรียกผมว่าอะไรนะครับ" เล็กทำหน้าแหย

"อ้าว ก็เรียกว่าที่รักไงครับ" เจยืนยัน

ที่รัก!!!

ทำไมเจเรียกแบบนั้น แถมยังทำท่าเหมือนไม่เห็นว่าเป็นเรื่องแปลกอีก หรือว่า...

เล็กตกเป็นของเจไปแล้วเมื่อคืนนี้!!!

TBC
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-09-2016 18:02:43 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
อ้าว อ้าว เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย งงเมื่อคุณเล็กเลยค่ะ ตื่นมาเจอคุณเจเรียกที่รักเนี่ย

ปล. รีบมาอัพต่อไวๆ นะคะ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
อูย

ไหงพี่เจเรียกงี้ล่ะนี่ อยากเมนท์ยาวๆแต่ปิดคอมไปแล้ว

ขอเปนพรุ่งนี้นะค้า(จิ้มมือถือมันหงุดหงิด)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
เราว่าต่อให้ผู้หญิงคนนั้นจะเอาเรื่องที่นายเจพูดว่าคุณเล็กเป็นเกย์ ไปป่าวประกาศกับคนอื่นหรือไม่ก็ตามแต่ ก็คงจะไม่ส่งผลเสียอะไรให้เรื่องราวมันร้ายแรงไปมากกว่านี้แล้วล่ะค่ะ เพราะจากการที่คุณเล็กไปถ่ายหนังสือแบบนั้นมา เหตุผลแรกๆ ที่คนเขาคิดกันก็คงเป็น 'คุณเล็กตกอับ' แต่ความคิดที่ว่า 'คุณเล็กอาจจะเป็นเกย์จริงๆ ก็ได้ เพราะคงไม่มีผู้ชายปกติที่ไหนเขาอยากจะถ่ายหนังสือแบบนี้กันหรอก' จะไม่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงนี่นา..ใช่ไหมคะ? อีกอย่างถ้าอยู่ในชีวิตจริงประเด็นเรื่อง 'เป็นเกย์ หรือ ไม่เป็นเกย์' สำหรับสื่อแล้วน่าเล่นยิ่งกว่าประเด็นเรื่องตกอับเยอะเลยค่ะ

แต่ถ้าเรื่องที่นายเจพูดแดงขึ้นมาจริงๆ สำหรับเราแล้ว เราเห็นดีด้วยนะคะ เพราะถึงยังไงตอนนี้คุณเล็กก็มีแนวโน้มที่จะเป็น 'เกย์' สูงเลยเชียวล่ะ ให้คิดเสียว่าเป็นการเปิดเผยตัวตนไปเลยแล้วกัน เพราะถ้าคุณเล็กมัวแต่มานั่งแคร์ความรู้สึกของทุกคน แล้วเมื่อไรคุณเล็กถึงจะมีความสุขเป็นของตัวเองใช่ไหมล่ะคะ อีกอย่าง ใช่ว่าการที่ปัญหาทุกอย่างรุมเร้าเข้ามาหาคุณเล็กในคราวเดียวแบบนี้จะแย่ไปทั้งหมดเสียเมื่อไร เพราะอย่างน้อยๆ ประสบการณ์ครั้งนี้ก็ช่วยสอนให้คุณเล็กเข้มแข็งได้มากขึ้น และมีสติในการตัดสินใจทุกอย่างได้มากขึ้นแบบนี้ดีจะตายไปค่ะ จริงไหมล่ะคะ? ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-05-2015 13:10:03 โดย Mouse2U »

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
เจให้ร้ายคุณเล็กอีกแล้ว   ถึงจะไม่ตั้งใจก็เถอะ  การที่ไปบอกผู้หญิงคนที่ตามเล็กมาจากผับว่าเล็กเป็นเกย์ไม่คิดบ้างหรือว่าจะเป็นเรื่องอื้อฉาวขึ้นมา?
เล็กเป็นคนที่มีคนรู้จักนะ เป็นดาราถึงจะตกอับก็เถอะ  ยิ่งผู้หญิงคนนั้นมีกระเป๋าตังค์ด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่เพราะคำพุดของหล่อนมีน้ำหนักเพราะโชว์ได้ว่าเจอกับเล็กมา

เล็กมาเจอเจแล้วซวยจริงๆ ไม่ใช่เรื่องขายตรงนะ

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
จะขอแสดงความคิดเห็นกับที่คุณ insomniac พูดไว้ในบางประเด็นนะครับ ผมจะไม่เอ่ยถึงยี่ห้ออื่น เพราะไม่ได้เข้าไปสัมผัสอย่างลึกซึ้ง พูดไปอาจจะผิดได้ ขอใช้ "ยัวร์เวย์" เล่าเรื่องนะครับ มีวิธีคิดหลายอย่างที่ดีมากที่ผมอยากแชร์ให้ฟัง

"คนไม่ดีแม้สำเร็จก็เป็นเรื่องชั่วคราว คนดีแม้ยังไม่สำเร็จก็เป็นเรื่องชั่วคราว" คำสอนนี้ของคนสำเร็จสูงสุดของยัวร์เวย์ (เป็นชาวไต้หวัน) เป็นคำจำกัดความที่ตรงที่สุดของธุรกิจนี้ในมุมมองของผม

เรื่องกฎเกณฑ์การกรองคน ไม่มีครับ แม้กระทั่งกฎจรรยาบรรณ ตอนแรกผู้ก่อตั้งยัวร์เวย์ก็จะไม่ให้มี แต่อาจจะสุดโต่งมากไป จึงยอมให้มีกฎจรรยาบรรณเพื่อลงโทษคนที่เอาเปรียบผู้อื่นในตอนหลัง ทำไมเป็นแบบนั้น???

เอาวิธีคิดก่อนนะครับ ยัวร์เวย์จะผลิตสินค้าที่ดีที่สุดโดยไม่ต้องสนใจราคา สร้างแผนการตลาดที่จะให้ผลตอบแทนกับคนที่ทำงานหนักที่สุด ยุติธรรมที่สุด ไม่ว่าจะมาก่อนหรือหลัง หน้าที่ของเขามีแค่นี้ เมื่อยัวร์เวย์เป็น Free enterprise ทุกคนมีสิทธิ์ออกแบบแผนการทำงานยังไงก็ได้ โตแล้ว คิดเองเป็น ไม่ต้องให้ใครมาสั่งหรือบอก ถ้าจะกรองคน ในกลุ่มก็ต้องสรรหาวิธีการเอาเอง ยัวร์เวย์จะไม่ก้าวก่ายการทำงานของเรา เพราะเขาเชื่อมั่นในศักยภาพของมนุษย์ทุกคนว่าทำได้ เรียนรู้ได้ ถ่ายทอดได้ สั่งสมประสบการณ์ที่สำเร็จเพื่อเอาไปสอนต่อได้ เรียนรู้ความผิดพลาดและแก้ไขได้ ทุกคนจะหาวิธีการที่ดีขึ้นของตัวเองได้ ที่สำคัญ แผนการตลาดของธุรกิจนี้คือ ยิ่งเราสอนให้คนที่ตามมาสำเร็จจำนวนมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งสำเร็จมากขึ้น คนมาก่อนจึงไม่หวงวิชาความรู้ ความรู้จึงถูกสร้างและถ่ายทอดอย่างไม่จำกัด ในขณะที่โลกข้างนอก ใครชนะคนอื่นมากกว่าถึงจะสำเร็จ เราจึงต้องแข่งขันกัน การสอนคนอื่นให้เก่งเหมือนเราเป็นความเสี่ยงที่จะทำให้เราเสียตำแหน่งไป เวลาคนข้างนอกมองเข้ามาในยัวร์เวย์จึงไม่เข้าใจเพราะวิธีคิดไม่เหมือนกัน เอาสิ่งที่ตัวเองรู้ไปตัดสินสิ่งที่ตัวเองไม่รู้

ผมจึงได้ข้อคิดจากตรงนี้ว่า ถ้าจะตัดสินใจเลือกอะไร ถามคนสำเร็จสูงๆ ในอาชีพนั้นเท่านั้น อย่าถามคนไม่สำเร็จ อย่าถามคนทำไม่เป็น เราจะได้แต่ความคิดเห็น (บ่น อ้าง โทษคนอื่น) ไม่ได้ข้อเท็จจริง แล้วเราค่อยตัดสินใจเลือก

ถ้ายัวร์เวย์มีระบบกรองคน โอกาสนี้จะไม่ใช่ของทุกคน คนไม่มีการศึกษา คนจน ฯลฯ จะถูกคัดออกทันที เหมือนที่กำลังเกิดขึ้นในสังคมเราตลอดมา ถ้าเราจะไปเป็นตัวแทนจำหน่ายโซนี่ (สมมติ) ผมฟังจากหลายคนที่ทำเรื่องนี้ เขาบอกว่าเหมือนกับต้องแก้ผ้าให้คนอื่นดูทุกซอกทุกมุม จบอะไรมา ทำงานอะไรมา มีประสบการณ์ไหม มีเงินในบัญชีเท่าไหร่ มีทรัพย์สินเท่าไหร่ จะทำงานให้เขาได้ไหม มีที่ไหม ความน่าเชื่อถือทางการเงินมีไหม ฯลฯ ถ้ายัวร์เวย์มีระบบกรองคนละเอียดขนาดนั้น ผมว่าให้เขาใช้บริการค้าส่ง ค้าปลีกทั่วไปดีกว่าครับ ง่ายกว่าเยอะ

แล้วมันจะมีคนเอาไปทำแบบไม่ดีไหม มีครับ แล้วจะทำให้ยัวร์เวย์เสียชื่อเสียงไหม ใช่ครับ แต่ยัวร์เวย์ไม่สนใจประเด็นนี้เลย ไม่คิดที่จะออกมาแก้ตัว อธิบายหรือสร้างภาพใดๆ ทั้งสิ้น ทำไม???

ทิศทางผิดความพยายามก็สูญเปล่า - คนที่ทำไม่ดีไม่มีใครสำเร็จยั่งยืนแม้แต่คนเดียว ธุรกิจนี้กรองคนในตัวของมันเอง การก้าวไปสู่ตำแหน่งสูงเราต้องเป็นคนที่ดีเข้าขั้นสมบูรณ์แบบเท่านั้น (อย่างน้อยขั้นที่ 4 ในกฎของมาสโลว์) ผมอยู่มาสามปี ผมไม่เห็นทางลัดอื่นเลย ไม่ว่าเราจะพยายามใช้วิธีการที่ไม่ดียังไงเพื่อทำให้เราสำเร็จเร็วขึ้น มันจะสูญเปล่าในที่สุดเพราะทิศทางมันผิด อย่าพยายามหาทางลัด อย่าพยายามเล่นกล อย่าพยายามใช้จิตวิทยา อย่าพยายามเสแสร้ง สิ่งเหล่านี้นำไปสู่ความสูญเปล่า คนที่มาก่อนเขาได้บทเรียนไปแล้ว เราจะไปทำผิดซ้ำทำไมครับ

ชื่อเสียงของยัวร์เวย์หรือนักธุรกิจล่ะ ไม่มีใครสนใจความคิดเห็นเหล่านี้หรอกครับ ทุกคนรู้ว่าตัวเองทำอะไร สัมผัสอยู่ทุกวันย่อมเข้าใจมากกว่าคนที่มองจากข้างนอก คนสำเร็จทุกคนบนโลกนี้ไม่สนใจความคิดเห็นครับ เราจะพูดยังไงก็ได้ ด่าเขาเสียๆ หายๆ ยังไงก็ได้ เอาไปขยายต่อให้แย่ยังไงก็ได้ ถ้าเราเจอนักธุรกิจไม่ดี รู้สึกไม่ดี จะเข้าใจเหมารวมว่าทั้งหมดไม่ดีก็ไม่มีปัญหาใดๆ นี่คือธรรมชาติของมนุษย์ แต่เชื่ออย่างหนึ่ง ถ้าเราไม่ได้ข้อมูลที่ถูกต้องเป็นประโยชน์ ข้อมูลนี้เอาไปใช้ประโยชน์ไม่ได้เลย อย่างเช่น เครื่องสำอางค์หลายยี่ห้อเอาสินค้าไปให้คนลองใช้ แล้วก็ถามความรู้สึกว่าแพ้ไหม ดีไหม ฯลฯ แล้วเอาข้อมูลนี้มาใช้ว่ามีคนตอบว่าดีกี่เปอร์เซ็นต์ พวกนี้คือข้อมูลขยะ ใช้ไม่ได้ครับ เป็นความคิดเห็นล้วนๆ เราต้องไม่ใช้ชีวิตบนความคิดเห็นของคนอื่น

คนที่ทำยัวร์เวย์และอยากประสบความสำเร็จต้องจัดการ  EQ ตัวเองได้ครับ เอาชนะความกลัวในใจตัวเองให้ได้ แยกแยะข้อเท็จจริงกับข้อคิดเห็นได้ เชื่อมั่นในสิ่งที่ใจเรารู้สึก ถ้าทำตรงนี้ไม่ได้ ไม่มีประโยชน์ที่จะสำเร็จ ยัวร์เวย์จะไม่กรุยทางให้มากกว่านี้ ไม่ต้องง่ายกว่านี้ เพราะเขาเชื่อมั่นในศักยภาพของเราว่าเราทำได้ คนที่เข้าใจผิดอาจจะไม่ซื้อ ไม่ทำ ไม่เป็นไรครับ ทุกคนไม่จำเป็นต้องทำ คนที่จะทำคือคนที่ได้คุยกับนักธุรกิจโดยตรง เข้าใจว่ามันคืออะไรและอยากทำเท่านั้น

กฎของแรงดึงดูด - ถ้าเราบังเอิญไปสมัครกับกลุ่มที่เป็นมืออาชีพ ที่ทำทุกอย่างถูกต้อง แต่เราไม่ยอมเปลี่ยนตัวเองและคิดจะทำแย่ๆ ต่อไป สุดท้ายเราจะอยู่ไม่ได้ครับ เราจะรู้ตัวเองว่าควรจะไปอยู่กับใคร เพราะฉะนั้น เรื่องนี้ไม่มีอะไรน่าห่วง อัปไลน์อาจจะดีจริง แต่คนที่ตามมาล่ะ จะเอาไปทำแบบไหนก็ไม่รู้ เขารู้ครับ คนสำเร็จในชีวิต เขาฟังเราพูดแป๊บเดียวเขาก็ดูเราออกหมดแล้ว โกหกไม่ได้ครับ ทัศนคติของคนสำเร็จกับไม่สำเร็จมันต่างกัน ผมอยู่มาสามปี ผมยังดูออกเลย (ทั้งๆ ที่ผมยังไม่สำเร็จด้วยซ้ำ) ผมเคยไปทำแบบไม่ดี ทำในสิ่งที่เขาไม่ได้สอน สุดท้ายอัปไลน์ก็รู้จากมุมมองความคิดของเราเองนั่นแหละ สุดท้ายผมก็ต้องเลิกคิดหาทางลัด

ความรักที่ปราศจากความอดทนไม่เรียกว่าความรัก - การล่อลวงคนเข้ามาในธุรกิจนี้ไม่มีประโยชน์ครับ นี่คือสิ่งที่เข้าใจผิดกันมากว่าถ้ามีคนสมัครเยอะเราก็จะสำเร็จมากขึ้น ต้องหลอกล่อคนทุกวิถีทางให้เข้ามา ธุรกิจนี้คือการทำงานกับคน ถ้าเราไม่รักในเพื่อนมนุษย์จริงๆ สำเร็จไม่ได้ครับ เข้ามาไม่ได้แปลว่าทำ ถึงทำก็ไม่ได้แปลว่าจะทำได้ตลอด ทำแล้วเลิกมีเยอะแยะ สมัครมาแล้วไม่ทำอะไรมีเยอะแยะ มนุษย์มีความหลากหลาย แต่คนกว่า 80% บนโลกนี้เป็นคนไม่มีเป้าหมายในชีวิต ขี้เกียจ ผลัดวันประกันพรุ่ง ขี้อิจฉา ชอบทางลัด ชอบเอาเปรียบ โลภ ไม่มั่นใจตัวเอง ขี้กลัว ขี้แพ้ ขี้งอแง ไม่อดทน ท้อง่าย เบื่อง่าย เอาแต่ใจตัวเอง ชอบสบาย ฯลฯ การจะสอนและช่วยคนให้เปลี่ยนจากนิสัย "ขี้ๆ" ทั้งหลายไม่ง่ายนะครับ คุณต้องอดทนกับคนมาก เขาเองก็ไม่ใช่ลูกน้องที่เราจะสั่งหันซ้ายขวาได้ตามใจ ไม่พอใจเขาก็ไป การที่ใครคนหนึ่งเข้ามา เป็นภาระของอัปไลน์และทีมนะครับ เขาต้องทำงานหนักกว่าจะสอนคนๆ หนึ่งให้เปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ใช้เวลาหลายปีนะครับ ไม่ง่ายอย่างที่คนทั่วไปมอง เรารักผู้คนจริงไหม อดทนจริงไหม เราเห็นคนเป็นโอกาสของเรา หรือเราเห็นโอกาสเป็นของทุกคน องศาความคิดตรงนี้ผิดนิดเดียวไม่ได้เลยครับ มันพาดิ่งเหวได้เลย

ที่ผมตัดสินใจยังไม่ทำหลังจากที่ลองมาพักหนึ่งเพราะผมรู้เลยว่าโลกข้างนอกสอนเรื่องไม่ดีให้เราเยอะ เราชอบเอาเปรียบคนอื่นโดยไม่รู้ตัว เราไปหาใครก็คิดแต่จะไปเอาอะไรจากเขา ผมเคยคิดว่าความคิดพวกนี้เกิดขึ้นเพราะเราทำยัวร์เวย์ เปล่าครับ วันนี้ผมตระหนักแก่ใจตัวเองว่าเราเป็นแบบนี้มานานแล้ว แต่ไม่มีใครสอนเราให้เปลี่ยนแปลง ลองสังเกตตัวเราเองดีๆ สิครับ ทัศนคติหวังประโยชน์จากคนอื่นเอามาใช้ทำงานไม่ได้เลยครับ ใครครับที่จะยอมให้เราเอาเปรียบ มุมมองตรงนี้ลึกซึ้งมาก เรามักคิดว่าอาชีพนี้ขายของ ต้องทำยังไงก็ได้ให้ขายของได้ คิดแบบนี้ เดาผลลัพธ์สุดท้ายได้เลยครับ ล้มเหลวตั้งแต่คิดแล้ว ผมยังต้องเรียนรู้และเปลี่ยนแปลงตัวเองอีกมากกกกกกก

ทำไมต้องใช้กฎธรรมชาติ - วันนี้เกิดเราเดินพลัดตกระเบียง กฎของแรงโน้มถ่วงจะทำงานทันที ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ก็ตาม แต่ถ้าสมมติว่า "ตัวเรา" เป็นแรงโน้มถ่วงเสียเอง วันหนึ่งคนที่เรารักบังเอิญเดินพลัดตกระเบียง เราจะกล้าดึงเขาตกมาตายไหม? ผมกำลังจะบอกว่ากฎที่มนุษย์สร้างขึ้นเที่ยงตรงและยุติธรรมเท่ากับกฎธรรมชาติไม่ได้ครับ มนุษย์มีอคติ มีข้อยกเว้น แต่กฎของแรงโน้มถ่วง กฎแห่งความสำเร็จ กฎของจักรวาล กฎแห่งแรงดึงดูด กฎของความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ฯลฯ กฎธรรมชาติเหล่านี้มนุษย์ควบคุมไม่ได้ ร้องขอไม่ได้ ต่อรองไม่ได้ มันทำงานได้ดีกว่ากฎที่มนุษย์สร้างขึ้น ดูสิครับ สังคมเรามีกฎมากมาย แล้วเราเป็นระเบียบกันไหม ก็ไม่นี่ครับ เชื่อมั่นในธรรมชาติเถอะครับ

ในจักรวาลนี้ กฎธรรมชาติทำงานเที่ยงตรงที่สุดเพราะเขาสร้างเรามา เราไม่ได้เป็นคนสร้าง กฎสุดท้ายที่สำคัญมากๆ สำหรับเราทุกคนก็คือ "ชีวิตสำคัญที่การเลือก ทิศทางผิดความพยายามก็สูญเปล่า" ผมใช้เวลาหลายปีมากกว่าจะเข้าใจความหมายที่แท้จริงของมัน ผมเชื่อได้เลยว่าคนที่เห็นประโยคนี้จะคิดว่าตัวเองเข้าใจ แต่ไม่หรอกครับ มันลึกซึ้งกว่าความเข้าใจภาษาเยอะเลยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-05-2015 11:56:12 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ nemesis

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2287
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-3

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
เพิ่งตามมาอ่านค่ะ  พล็อตนิยายเรื่องนี้น่าสนใจมากเพราะว่าไม่ได้มีให้เห็นบ่อยนัก
เจตนาของเจในตอนแรกต่ำมาก  อ่านมาถึงตอนนี้ก็ยังไม่ชอบเจ  เล็กโดนกดดันมากๆในชีวิต เดินหมากผิดตาเดียวสามารถทำให้ล้มทั้งกระดานได้  อนาคตการเป็นดาราของเล็กถ้าจะริบหรี่  ยิ่งถ้าหากว่าไปถ่ายแบบให้นิตยสารเกย์ด้วย แฟนคลับและแวดวงจะมีปฏิกิริยายังไง ไม่อยากคิด  อย่างน้อยที่สุดก็อยากให้เล็กปรึกษาแฟนคลับก่อน เพื่อนที่ดีที่สุดของดาราก็คือแฟนคลับนี่แหละที่จะช่วยสนับสนุน ถ้าหากว่าเสียแฟนคลับก็คือเสียฐานไปเลย

เราไม่มายด์คนที่ถ่ายภาพลงนิตยสารแบบล่อแหลมนะ ถ้าหากว่าถ่ายออกมาแล้วดูดี ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับ message ที่ภาพสื่อออกมา  ที่ๆเราอยุ่คนทั่วไปไม่แม้แต่จะทำหน้าแปลกใจถ้าหากว่าดาราเปลื้องผ้าถ่ายนู๊ด หรือดาราเป็นเกย์  แต่ก็อย่างว่าค่ะ  เมืองไทยก็มีบรรทัดฐานที่ต่างกันออกไป

ขอไม่ออกความเห็นเรื่องการขายตรง  แต่ตอนนี้อ่านมาได้ 5 - 6 บทรู้สึกว่าเนื้อหาของระบบและข้อมูลการขายตรงเริ่มมีมากกว่าเนื้อเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละคร   ไม่แน่ใจว่านิยายเรื่องนี้คนเขียนตั้งใจจะให้เป็นเกี่ยวกับการขายตรงเป็นหลักหรือเป็นส่วนประกอป  ไม่ได้มีเจตนาย้อนแย้งนะคะ  เราสงสัยก็ถามตรงๆค่ะ

ผมเคยคิดอยากเขียนนิยายที่พูดถึงอาชีพอะไรสักอย่างอย่างละเอียดมานานแล้วครับ เห็นหลายๆ เรื่อง พระเอก นางเอก นายเอกรวยกันล้นฟ้า แต่อ่านไปดูไปก็ไม่รู้ว่าทั้งเรื่องทำอะไรกันบ้างถึงได้รวยขนาดนั้น ถ้าทำแล้วรวยทำไมไม่บอกเรามั่ง ทำไมไม่สอนเรามั่ง สอนผ่านละคร/นิยายก็ได้ อีกอย่าง เวลาอ่านก็มักจะเกิดคำถามว่าตกลงเขาทำงานทำการกันบ้างไหม เห็นแต่ไปเที่ยว ไปเล่น พอถึงส่วนที่เป็นงานหรือธุรกิจก็มักข้ามไป ก็เลยอยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องที่งานกับชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างสมดุลย์ ในชีวิตจริง เราทำงานมากกว่าอย่างอื่นด้วยซ้ำแต่เรากลับพูดถึงน้อยในนิยาย

ช่วงแรกๆ ผมอาจจะอธิบายเยอะหน่อยเพราะอยากให้อ่านแล้วเข้าใจ โดยตัวธุรกิจมันค่อนข้างเข้าใจยากสำหรับคนทั่วไป บางอย่างไม่อยากปล่อยให้เข้าใจกันไปเอง แต่ในตอนต่อๆ ไปคงจะอธิบายเรื่องพวกนี้น้อยลง

นิยายเรื่องนี้จะเป็นชีวิตของคนทำมาหากิน คนที่มีเป้าหมายในชีวิต คนที่ต้องการพัฒนาเปลี่ยนแปลงตัวเองไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้น จำเป็นต้องมีเหตุผลมาสนับสนุนอยู่บ้างเพื่อไม่ให้เหตุผลมันดูเลื่อนลอย แต่จะพยายามรักษาสมดุลย์และคงความเป็นนิยายเอาไว้ให้ได้มากที่สุดครับ

 :L2: :3123: :L1: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-05-2015 10:48:09 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ gambee

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
อ่านยังไม่จบแปะไว้ก่อน
น่าสนใจค่ะ ติดตามๆ
 :L2:  :L2:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
เอ่อ อะไร ยังไงคะคุณเจ
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
สงสัยเจจะเช็ดตัวให้เล็กละมั้งที่อ้วก คงไม่มีอะไรกัน มั้งนะ 5555+
แต่ทำไมเจ..ต้องเรียกว่าที่รักอ่ะ อิอิ

ออฟไลน์ Rabity

  • #slytherinforlife
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 523
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-8
รอๆ
เจแกล้งมากว่ามั้ง (แต่แอบฟิน อิอิ)

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด