✿✿ ธุรกิจนี้มีรัก ✿✿
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ✿✿ ธุรกิจนี้มีรัก ✿✿  (อ่าน 109955 ครั้ง)

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
✿✿ธุรกิจนี้มีรัก✿✿
CHAPTER 17 ❋ เรื่องที่ไม่น่าถาม



ที่เซ็นเตอร์วันนี้คนค่อนข้างเยอะทีเดียว ในห้องเล็กๆ ขนาด 32 ตารางเมตรอัดแน่นไปด้วยผู้คนหลากหลายวัย ตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงรุ่นเกษียณอายุ หลากหลายอาชีพตั้งแต่แม่บ้านทำความสะอาดไปจนถึงผู้บริหารหรือนักธุรกิจ หลากหลายการศึกษาตั้งแต่ประถมไปจนถึงด็อกเตอร์ อาชีพไหนในโลกนี้บ้างที่คนแตกต่างกันมากขนาดนี้อยู่รวมกันได้ เริ่มต้นศูนย์เปอร์เซ็นต์เหมือนกัน ไม่มีใครได้เปรียบเพราะภูมิหลังของตัวเอง ความได้เปรียบขึ้นอยู่กับว่าใครเชื่อและคิดบวกมากกว่ากัน รายได้ไม่ขึ้นอยู่กับวุฒิการศึกษาหรือตำแหน่ง ใครทำมากได้มาก ใครทำน้อยได้น้อย จะมีอาชีพไหนยุติธรรมขนาดนี้

วันนี้เจพาดาวน์ไลน์ใหม่มาอีกสองคนพร้อมกับดาวน์ไลน์เก่าอีกสี่ห้าคน เนื่องจากเซ็นเตอร์มีหลายวัน แต่ละคนจึงเลือกมาในวันและเวลาที่ตัวเองสะดวก เล็กเห็นเจมีดาวน์ไลน์ใหม่มาก็นึกถึงตัวเองบ้าง เขาอยากมีดาวน์ไลน์มาเซ็นเตอร์เหมือนกัน เดือนที่แล้วเล็กเป็น 18% ได้รายได้มาพอจ่ายค่าผ่อนบ้านแถมเหลือเก็บอีกหน่อย มีลูกค้าประจำอยู่สิบกว่าคน ลูกค้าขาจรมากกว่าห้าสิบ แต่ยังไม่มีใครมาทำธุรกิจด้วยเลย เล็กพอทำเป็นแล้ว อยากสอนคนอื่นบ้าง

เสียงเพลงดังขึ้นแล้ว เจวิ่งขึ้นไปอยู่บนเวทีที่ยกพื้นสูงราวหนึ่งศอก ขนาดเวทีไม่ใหญ่นัก มีโต๊ะวางตัวอย่างสินค้า มีจอฉายวิดีโอหรือพรีเซนเทชั่นอยู่ข้างหลัง ถ้าต้องการใช้ไวท์บอร์ดก็เพียงเลื่อนจอฉายขึ้น

"สวัสดีคร้าบบบบ ก่อนอื่น ขอเสียงเรียกความตื่นเต้นหน่อยครับ" เจเริ่มต้นด้วยการเรียกเสียงกรี๊ดและเสียงปรบมือ

"ผมเจ วรภพ ตันติวินิจกุลครับ ก่อนอื่นก็ต้องขอไหว้ครูก่อน ขอขอบคุณอัปไลน์ผู้เปิดโอกาส น้องวิทิต ประสิทธิ์ชล ครับ แม้ว่าวันนี้อัปไลน์จะไม่ได้ทำธุรกิจต่อแล้ว แต่สำหรับผมเขาคือคนที่มีบุญคุณที่ทำให้ผมได้มาเจอธุรกิจดีๆ แบบนี้ครับ ไม่มีเขา ไม่มีเรา ขอบคุณพี่จุ๊ นักธุรกิจยัวร์เวย์ระดับมงกุฎทูตที่คอยช่วยเปิดปัญญา และให้ที่นั่งในการเรียนรู้กับผมและดาวน์ไลน์ทุกคนด้วยครับ"

เสียงปรบมือและกรี๊ดกร๊าดดังขึ้นอีกคำรบ

"ที่เราต้องขอบคุณตัวเองเพราะว่าเราคือผู้เสียสละครับ แทนที่เย็นๆ แบบนี้เหนื่อยจากการทำงานแล้วเราจะกลับไปพักผ่อน ดูทีวีสบายๆ หรือไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ เรากลับเลือกมาอยู่ที่นี่เพื่อเรียนรู้แนวคิดและธุรกิจดีๆ ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราและครอบครัว อ. เหวิน กล่าวไว้ว่า คนเราเป็นลูกหลานของบรรยากาศ เราอยู่ในบรรยากาศแบบไหน อนาคตเราก็จะเป็นแบบนั้น เพื่อนที่เราคบ หนังสือที่เราอ่าน การใช้เวลาว่างของเรา บรรยากาศที่เราอยู่จะเป็นตัวที่บอกอนาคตของเราได้ดีที่สุด ไม่ต้องไปดูหมอดูที่ไหนครับ"

จากนั้นเจก็แนะนำแขกที่จะขึ้นพูดวันนี้ว่ามีใครบ้าง เล่าประวัติคร่าวๆ ด้วยเพื่อเรียกความสนใจ ภาษาธุรกิจเครือข่ายเรียกว่าการ "โปรโมท" แน่นอน ผู้พูดท่านสุดท้ายวันนี้เป็นใครไปไม่ได้ พี่จุ๊ของเรานั่นเอง มีหลายประโยคมากที่เล็กสนใจจนต้องจดบันทึกลงสมุดไว้

"...ธุรกิจของเราเองคืออะไร หลายๆ คนไม่เข้าใจแนวคิดนี้ มีคนมาถามพี่หลายคนว่าทำไมต้องมาเซ็นเตอร์ทุกอาทิตย์ ทำไมต้องเสียเงินค่าคอร์สเยอะแยะมากมาย ทำไมต้องไปงานแคมป์ที่ต่างจังหวัด ทำไมต้องซื้อสินค้าโปรโมชั่น ทำไมต้องมีสินค้าติดตัวไว้ และอีกสารพัดคำถามว่าทำไมๆๆ พี่ไม่มีคำตอบให้นะคะ"

"ต้องคิดเองค่ะว่าเราอยากสำเร็จไหม ถ้าอยากสำเร็จก็ต้องทำตามเงื่อนไขของความสำเร็จ อย่าถามพี่ว่าทำไมต้องมาเรียนรู้ ทำไมต้องจ่ายเงินให้กับอะไรมากมาย เราต้องคิดเองว่าจะเรียนอะไร หลักสูตรไหน เรียนไปทำไม ในเดือนๆ หนึ่งเราควรจะต้องมียอดเท่าไหร่ เราจะต้องมีสินค้าอะไรติดตัวไว้บ้างเพื่อให้ขายได้ทันทีเวลาที่ลูกค้าต้องการซื้อ เราจะสปอนเซอร์ใคร เท่าไหร่ กี่คน เรามีอิสระที่จะคิดวางแผนของเรา ไม่มีใครบังคับ นี่คือธุรกิจของเราเอง"

"ในยัวร์เวย์เราไม่ต้องลงทุนเป็นแสนเป็นล้านเหมือนธุรกิจอื่น เช่น อยากมีเซเว่นของตัวเอง พี่ท่านหนึ่งเคยแชร์ให้ฟังว่าต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่าเจ็ดล้านบาท เราจะกล้าลงทุนไหม เราคิดว่าจะคืนทุนได้เมื่อไหร่ ถ้ามีคนมาเปิดแข่งจะทำไง แต่ยัวร์เวย์ค่าสมัครเก้าร้อยบาท ราคาสินค้าส่วนมากหลักร้อยหลักพัน เป็นสินค้าอุปโภคบริโภค ถึงไม่ทำยัวร์เวย์ก็ต้องซื้อใช้อยู่แล้ว ไม่ยี่ห้อนี้ก็ยี่ห้ออื่น ส่วนค่าคอร์สต่างๆ ก็อยู่ในหลักสิบหลักร้อย ลองไปคอร์สพัฒนาตัวเองข้างนอกสิคะ มีตั้งแต่หลายพัน หลายหมื่นหรือเป็นแสน เราไม่ต้องลงทุนมากเหมือนคนอื่นเลย ทีเราไปดูหนังฟังเพลง ซื้อเสื้อผ้า เที่ยว ซื้อโทรศัพท์แพงๆ เรายังจ่ายได้เลย ทั้งๆ ที่ไม่ทำให้เราฉลาดขึ้น เพราะฉะนั้น อะไรที่ต้องทำคือต้องทำ เราต่อรองเงื่อนไขความสำเร็จไม่ได้ อย่างคุณเล็กเป็นดารา เป็นดาราก็มีเงื่อนไขว่าต้องลงทุนอะไรบ้าง คุณเล็กต้องเรียนการแสดงไหมคะ"

เล็กนั่งงงเพราะมัวแต่ฟังเพลิน เจจึงสะกิดให้ตอบ "ครับ ต้องเรียนการแสดงครับ" เล็กยิ้มให้พี่จุ๊ รู้สึกชื่นชมพี่ท่านนี้มาก พูดได้เฉียบขาด แหลมคม สมกับเป็นคนสำเร็จอย่างแท้จริง

"แล้วเรียนฟรีไหมคะ หรือว่าต้องจ่ายเงิน ไม่เรียนได้ไหมคะ"

"ต้องจ่ายเงินครับ ต้องเรียนด้วยเพราะถ้าเราไม่พัฒนาตัวเอง เราจะสู้ดาราคนอื่นไม่ได้ ขนาดว่าพัฒนาตัวเองแล้วยังลำบากเลยครับ" เล็กตอบ

"พอจะบอกได้ไหมคะว่าจ่ายค่าเรียนการแสดงหรือว่าค่าอื่นๆ ในการเป็นดาราไปเท่าไหร่"

"ค่าเรียนการแสดงก็หลายหมื่นครับ เราต้องดูแลตัวเองด้วย ต้องจ่ายค่าฟิตเนส ค่าเครื่องสำอางค์ เสื้อผ้าบางครั้งก็ต้องซื้อ เฉพาะส่วนนี้ บางเดือนก็เฉียดครึ่งแสน หรือมากกว่านั้นก็มี แต่ไม่เคยน้อยกว่าหลักหมื่น ไหนจะเงินเดือนผู้จัดการส่วนตัวอีกหลายหมื่น ค่าเดินทางด้วยครับ ไปต่างจังหวัดก็ไปเครื่องบิน นั่งรถนานๆ ไม่ไหว เราต้องถนอมตัวเอง แต่ละเดือน ถ้าได้เงินน้อยกว่าแสนอยู่ไม่ได้ครับ อ้อ ผมผ่อนบ้านด้วย เดือนหนึ่งก็หลายหมื่น" เล็กสาธยายเสียยาว

"เห็นไหมคะ นี่คือเงื่อนไขการเป็นดารา ไม่ทำได้ไหมคะ? คุณเล็กบอกว่าเดือนหนึ่งต้องมีหลักแสนถึงจะอยู่ได้ แต่เราไม่ต้องใช้เงินมากขนาดนั้นนะคะ มีหลักร้อยหลักพันก็ทำได้ บางคนขนาดเงินซื้อยาสีฟันหลอดเดียวยังไม่มียังทำได้เลย"

"เราไม่ต้องลงทุนได้ไหม? พี่จะจัดคอร์สให้พวกเราเรียนฟรีกันก็ยังได้ พี่ไม่มีปัญหาเรื่องรายได้ แต่ถามว่าต่อให้เรียนฟรี เราจะยังเห็นคุณค่าไหม ต่อให้พี่ย้ายเซ็นเตอร์ไปอยู่หน้าบ้าน เราจะยังมาเรียนกันไม่เคยขาดไหม เราจะยังไม่บ่นอยู่ไหม เราจะไม่มีคำถามว่าทำไมๆๆ อยู่อีกไหม ก็ไม่แน่ใช่ไหมคะ เพราะฉะนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องของการกลัวเสียเงินไหม ไม่หรอกค่ะ เป็นเรื่องของทัศนคติที่เรามีต่อการลงทุนในการเรียนรู้ต่างหาก อ. เหวินสอนว่า คนที่ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้เป็นอันดับหนึ่งคือคนชั้นหนึ่ง..."


หลังเลิกเซ็นเตอร์ เจพาดาวน์ไลน์สามคนที่ต้องการปรึกษาแผนการทำงานเพิ่มเติมมาคุยกันที่ร้านแม็กซ์วาลู ในสามคนนั้นก็มีอาร์ตนักศึกษา พี่ฉ่ำวินมอไซค์และเล็กดารา อาร์ตค่อนข้างทำได้ดีแล้ว แต่อาสามาช่วยฟังและเพิ่มเติมมุมมองให้

"เวลาสปอนเซอร์ใคร เราต้องเริ่มจากการสร้างสายสัมพันธ์ก่อนครับ ยังไม่ต้องชวนเขามาทำอะไร พูดคุย ทักทาย ไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบกันไปก่อน ถ้านัดมาคุยกัน กินข้าวกันหรือไปทำอะไรด้วยกันได้ก็ดีครับ หรือแวะไปเยี่ยมเยียนกันบ้าง ถือโอกาสเช็คฟอร์มไปในตัว" เจเริ่มต้นสอน กะว่าจะใช้เวลาไม่นานมากจะได้ไม่ดึกเกินไป

"ฟอร์มคืออะไรครับ" พี่ฉ่ำถาม

"อ๋อ...ฟอร์มก็คือ F-O-R-M ครับ เอฟตัวแรกคือแฟมิลี่หรือครอบครัว เราต้องรู้ว่าครอบครัวเขาอยู่กันยังไง มีกี่คน ชีวิตเป็นยังไง พอใจกับสภาพครอบครัวที่เป็นอยู่มากน้อยแค่ไหน"

"โอก็คือออคคิวเพชั่น หรืออาชีพ งานเขาเป็นยังไงบ้าง เขาพอใจกับงานไหม รู้สึกว่าสำเร็จในงานไหม รายได้ดีไหม มีเวลาไหม ทำงานหนักไหม แต่ไม่ต้องถามเหมือนสัมภาษณ์นะครับ"

"อาร์คือเรคครีเอชั่นหรือการใช้เวลาว่าง เขาใช้เวลาว่างยังไง เขาทำอะไรเสริมไหม เขาอ่านหนังสือไหม เขาไปหาความรู้หรือพัฒนาตัวเองไหม แต่ถ้าถามแล้วไม่ทำสักอย่าง ลองชวนคุยเรื่องการพัฒนาตัวเองดูครับ ใครที่สนใจพัฒนาตัวเอง คนนั้นน่าสนใจ"

"สุดท้าย เอ็มก็คือโมติเวชั่นหรือแรงกระตุ้น เขามีความฝันอะไร ชวนเขาคุยเรื่องความฝันของเขาครับ คนที่มีความฝันเป็นคนที่น่าสนใจ อาจจะลองถามก็ได้ว่าอาชีพที่เขาทำช่วยให้ฝันเป็นจริงได้ไหม ส่วนมากที่ผมเคยถามมักจะตอบว่าไม่ได้ ลองชวนคุยเรื่องการเลือกเครื่องมือครับ ลองถามเขาว่าถ้าจะไปอเมริกา จะไปโดยเครื่องบินหรือจะพายเรือไป จะตักน้ำไปจนตายหรือจะสร้างท่อน้ำไว้ใช้ เครื่องมือสำคัญกว่าความพยายาม"

"โดยรวมก็คือ F-O-R-M เอาไว้ดูความน่าสนใจของคนที่เราจะสปอนเซอร์ คนไหนรักครอบครัว รู้จักใช้เวลาว่าง มีความหวังความฝัน คนแบบนี้น่าสนใจมาก แต่เราไม่ค่อยเจอหรอกครับคนแบบนี้ แต่อย่างน้อยขอให้เจอคนที่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง ไม่ต้องสมบูรณ์แบบทุกอย่างหรอกครับ"

"ถ้าเขาสนใจก็ค่อยแนะนำธุรกิจ ขอให้เน้นย้ำชัดๆ นะครับว่ายัวร์เวย์คือธุรกิจของเขาเอง บอกให้ชัดเจนว่าถ้าเขาสมัครแต่ไม่ทำอะไรเลยก็ได้ ไม่ซื้อสินค้าก็ได้ ไม่ขายก็ได้ ไม่สปอนเซอร์ใครก็ได้ ไม่มาประชุมก็ได้ ไม่เข้าคอร์สก็ได้ ไม่ทำตามที่สอนก็ได้ อยากจะลาออกเมื่อไหร่ก็ได้ อยากคืนสินค้าก็ได้ ทำแล้วเหนื่อย ไม่ไหว อยากหยุด ทำๆ หยุดๆ หรืออะไรตาม ทำได้หมดเลย ไม่มีการบังคับกัน ไม่ต้องโทรแจ้ง ไม่ต้องขออนุญาตใคร เพราะเป็นธุรกิจของเขาเอง เขาจะได้สบายใจ ไม่กดดัน แต่ถ้าอยากสำเร็จ เราช่วยได้ ใครอยากสำเร็จต้องเชื่อเรา"

"โห...ขอบคุณครับคุณเจ เริ่มเข้าใจแล้วครับ สงสัยคราวที่แล้วผมจะพูดให้เขากลัว ฟังดูเหมือนต้องทำเยอะมาก สงสัยผมจะกดดันเขามากไป มิน่าล่ะ...เขาถึงไม่สมัคร" เล็กบ่นตัวเองให้ฟังระคนขำ

"ของผมก็เหมือนกันครับคุณเล็ก สปอนเซอร์ทีไรไม่ค่อยมีคนสมัครเลย เพราะผมมัวแต่บอกเขาว่าต้องทำอะไรบ้าง มันเหมือนกับผมอยากให้เขาทำ ไม่ใช่เขาอยากทำเอง" พี่ฉ่ำเล่าไปก็ขำตัวเองไปเช่นเดียวกัน

เจกับอาร์ตช่วยกันแชร์ประสบการณ์ของตัวเองสั้นๆ สองสามตัวอย่าง จากนั้นก็ถึงเวลาแยกย้ายกันกลับบ้าน พี่ฉ่ำขับมอเตอร์ไซค์ไปก่อน อาร์ตกับเจมีรถยนต์ของตัวเอง เล็กกลับกับเจ ทั้งสามคนจึงขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นจอดรถของตัวเอง

ระหว่างทาง อาร์ตชวนคุยไปด้วย

"เอ...พี่เจ ทำไมเดี๋ยวนี้ผมไม่เห็นฝนเลยครับ" อาร์ตเรียกน้ำฝนว่า "ฝน" เฉยๆ เพราะอายุเท่ากัน เรียนอยู่ปีสี่เหมือนกัน

"พี่กับฝนไม่ได้เป็นแฟนกันแล้ว" เจตอบอย่างอารมณ์ดี

"อ้าว เลิกกันเหรอครับพี่" อาร์ตทำหน้าแปลกใจ

เจพยักหน้าและตอบสั้นๆ "ใช่"

"ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ"

"ไม่นานนี้เอง"

"เหรอครับ น่าเสียดายจัง ผมว่าพี่กับฝนดูเหมาะสมกันมากเลยนะครับ" อาร์ตทำท่าเสียดาย

เจหัวเราะหึๆ ในลำคอ ดูเหมือนไม่เศร้าเลยแม้แต่น้อย

"แต่พี่ทำใจโคตรไวเลย ถ้าเป็นผม เดือนหนึ่งไม่รู้จะหายเปล่า" อาร์ตว่าพลางขำ ก่อนหันไปคุยกับเล็กบ้าง "พี่เล็กล่ะครับ มีแฟนยังครับเนี่ย เอ...หล่อๆ อย่างนี้ไม่น่าถามเนอะ เป็นดาราด้วย สาวๆ คงมาชอบเยอะใช่ไหมครับ"

"ยังไม่มีเลย" เล็กหันไปตอบ

อาร์ตทำหน้าไม่เชื่อ "จริงเหรอพี่ ตอบแบบดาราตอบหรือเปล่าครับเนี่ย"

"จริงๆ ไม่เชื่อถามคุณเจดูสิ" เล็กหันไปหาอีกคนให้ช่วยยืนยัน

เจยิ้มแห้ง ดูเหมือนไม่สะดวกใจตอบเท่าไหร่ สถานะของเจกับเล็กตอนนี้ก็ยังดูคลุมเครือ จะตอบว่ามีหรือไม่มีแฟนก็ไม่ตรงความจริงอยู่ดี แต่เล็กตอบไปแล้วว่าไม่มี ถ้าอย่างนั้นเจคงตอบอย่างเดียวกัน

"ยังไม่มีหรอก แต่ก็ไม่แน่" เจพูดติดตลกให้ดูไม่เครียด อีกสองคนจึงขำตาม

เจกับเล็กเดินไปส่งอาร์ตที่รถ พออาร์ตออกไปแล้ว เจจึงพาเล็กไปที่รถของตัวเองบ้าง นั่งประจำที่เรียบร้อยเจก็ขับรถออกไป

เล็กหยิบโทรศัพท์ตัวเองมาดู เปลี่ยนจากระบบสั่นเป็นระบบเสียง จากนั้นเปิดดูว่ามีใครโทรหาบ้าง เล็กเห็นมิสคอลจากน้ำฝนหลายสาย ในขณะกำลังสงสัย น้ำฝนก็โทรมาอีกครั้ง เล็กหันไปมองเจด้วยท่าทางกระอักกระอ่วนใจ

"ฝนโทรมาเหรอครับ" เจหันมาถามเสียงเรียบ

"ครับ"

"ก็รับสิครับ" เจบอก ก่อนหัวเราะหึๆ ในลำคอ

"ครับ" เล็กรับคำ ก่อนยกโทรศัพท์ขึ้นรับอย่างเสียมิได้

"ฝนมีอะไรหรือเปล่าครับ อ๋อ...พี่เพิ่งเลิกเซ็นเตอร์ ช่วงนี้เหรอ...พี่ไม่ว่างเลย งานเข้ามาเยอะมาก แล้วพี่ก็ว่าจะนัดคนสปอนเซอร์เพิ่มขึ้น คงไม่สะดวกเท่าไหร่ ช่วงนี้พี่ว่างเมื่อไหร่ พี่จะทำยัวร์เวย์ทันที" เล็กคุยไปคอยมองเจไป เพราะกลัวอีกฝ่ายไม่พอใจหรือสงสัย แต่เจกลับดูนิ่งและขับรถไปอย่างสบายๆ ดูเหมือนไม่สนใจเลย

แค่ฟังเจก็พอเดาได้ว่าน้ำฝนต้องการนัดเจอเล็ก แต่ดูเหมือนเล็กพยายามบ่ายเบี่ยง ไม่รู้เป็นเพราะเกรงใจเจหรือเปล่าถึงได้ตอบอย่างนั้น

ภาพสองหนุ่มสาวกอดกันหน้าบ้านยังคาใจและเป็นปริศนา แม้ว่าเจไม่อยากคิดมาก แต่ใครบ้างจะห้ามใจไม่ให้สงสัยได้ แต่จะถามตรงๆ ก็ไม่กล้าถาม เรื่องบางอย่างเปราะบางเกินกว่าที่จะถามตรงๆ ได้

ความเงียบแล่นเข้าจับจองพื้นที่ภายในตัวรถ แม้เล็กวางสายไปแล้วแต่ก็ไม่มีเสียงคุยกัน ต่างคนต่างเงียบและคิดเรื่อยเปื่อยไปตามความต้องการของตัวเอง

นานทีเดียวก่อนเจจะยอมเสียสละทำลายความเงียบ "ต่อไป...เราควรจะตอบคำถามคนอื่นๆ ว่าไงดีครับคุณเล็ก"

เล็กทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจคำถาม กระนั้นก็ดีใจที่อีกฝ่ายคุยด้วย "ตอบเรื่องอะไรเหรอครับ"

"ก็ที่อาร์ตถามคุณเล็กเมื่อกี้ไงครับ"

สีหน้าของเจดูเครียด แม้ไม่มากแต่ก็ไม่ใช่สีหน้าปกติ ไม่รู้ว่าเครียดเรื่องที่น้ำฝนโทรมา หรือเครียดเรื่องที่เล็กตอบว่าไม่มีแฟนกันแน่ ดูๆ ไปแล้วน่าจะมีส่วนทั้งสองอย่าง

"ผมไม่รู้จะอธิบายยังไงครับ" เล็กทำหน้ายุ่งยากใจ

"ต่อไป...ถ้าเราจะบอกคนอื่นๆ ว่าเราเป็นอะไรกัน คุณเล็กจะลำบากใจหรือเปล่าครับ ผมว่าหลายคนกำลังสงสัย อาร์ตเขาก็ดูสงสัย แต่เขาแค่ไม่กล้าถาม"

"ที่จริงผมก็ไม่ลำบากใจหรอกครับ แต่ว่า..." เล็กกลืนเสียงลงคอ

เจหันแวบมามอง "แต่ว่าอะไรครับ"

"เอ่อ..." เล็กลังเล กลัวพูดไปแล้วจะเกิดความบาดหมางใจกัน แต่สักพักก็ยอมเปิดปากพูด "คุณเจ...กำลังทำอะไรอยู่หรือเปล่าครับ"

แน่นอน คำถามเมื่อกี้ของเล็กมาจากเชื้อไฟที่น้ำฝนทิ้งไว้ให้ เธอทำให้เล็กสงสัยไปแล้วว่าเจกำลังวางแผนแกล้งเล็ก ยิ่งน้ำฝนแสดงออกชัดเจนว่าชอบเล็ก เจก็รู้เรื่องแล้ว เล็กจึงอดคิดไม่ได้ว่าเจอาจไม่พอใจ แต่จะทำอะไรกับเล็กก็สุดจะคาดเดา

เจรู้ดีว่าคำถามอย่างนี้หมายถึงความไม่เชื่อใจ ดูเหมือนต่างคนต่างก็ไม่เชื่อใจกันไปแล้ว ก็อย่างว่า คนเพิ่งรู้จักกัน ถ้าผ่านด่านทดสอบความไว้ใจไม่ได้ ความสัมพันธ์ก็จะเข้าสู่ภาวะวิกฤติ ช่วงนี้จึงต้องคอยประคับประคองใจตัวเองและอีกฝ่ายให้ดี

"อ. เหวิน สอนเรื่องความเชื่ออยู่เรื่องหนึ่ง ถ้าเชื่อ...ก็จะเห็นแสงสว่าง ถ้าสงสัย...ก็จะเจอแต่ความมืดมน" เจยกคำครูมาตอบให้อีกฝ่ายสะดุดคิดก่อน จากนั้นจึงพูดต่อ "แต่ความเชื่อ...คงต้องอาศัยเวลาพิสูจน์ใช่ไหมครับ ผมจะยังไม่ตอบหรอกครับว่าผมกำลังทำอะไร ขอให้คุณเล็กเก็บคำถามนี้เอาไว้ก่อน ที่สำคัญ ผมอยากขอให้คุณเล็กอดทนพิสูจน์ไปกับผม ใช้เวลาไม่นานหรอกครับ แล้วคุณเล็กจะได้คำตอบเอง"

เล็กยิ้มเจื่อน นึกอยากตบปากตัวเองที่ถามเจไปอย่างนั้น ถ้าเล็กเป็นเจ เล็กคงมองว่าผู้ชายคนนี้ไม่น่ารักเสียเลย "คุณเจ...ผมขอโทษ" เล็กบอกด้วยสีหน้ารู้สึกผิด

"ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ ผมเข้าใจ" เจขัดขึ้น "ไม่แปลกหรอกครับที่คนจะสงสัยคนที่ทำอาชีพนี้ น่าจะเป็นหนึ่งในอาชีพที่ไม่น่าไว้ใจที่สุดในโลกมั้งครับ ดูอย่างผมกับฝน เป็นแฟนกันมาตั้งหลายปี เขายังไม่เชื่อใจผมเลย นับประสาอะไรกับคนที่เพิ่งคบกัน"

เล็กเจ็บจี๊ดไปถึงขั้วหัวใจ ปกติเจไม่ใช่คนชอบตัดพ้อต่อว่า ไม่น้อยอกน้อยใจให้ใครเห็นง่ายๆ แต่การแสดงออกคราวนี้คงมีนัยสำคัญบางอย่าง อย่างน้อยก็ทำให้เล็กได้สติและรู้ตัวว่าไม่ควรทำอะไร

จะว่าไปเล็กก็ชอบคนแบบนี้ เวลามีปัญหาแล้วไม่สาดอารมณ์เข้าใส่กัน รู้จักเตือนสติกัน ถ้าเป็นแฟนคนก่อนของเล็กคงทะเลาะกันบ้านแตกไปแล้ว นับว่าเจมีภาวะความเป็นผู้นำที่ดีมาก

ถ้าได้คนอย่างเจเป็นคู่ชีวิตคงดีไม่น้อย แต่ตอนนี้ เล็กคงต้องพิสูจน์ให้เจเห็นความจริงใจของเล็กก่อน ไม่ใช่ด้วยคำพูด แต่เป็นการกระทำของเล็กเอง พูดแก้ตัวตอนนี้คงไม่มีประโยชน์อะไร

ทั้งสองคนนั่งเงียบมาตลอดทาง จนกระทั่งมาถึงหน้าบ้านของเล็ก สองหนุ่มพลันตกใจเมื่อเห็นว่าใครมายืนรออยู่

"น้ำฝน" เล็กเรียกชื่อนั้นอย่างแปลกใจ สาวน้อยในชุดนักศึกษายิ้มให้เมื่อเล็กก้าวขาลงจากรถ

"กลับมาแล้วเหรอคะพี่เล็ก ฝนรอตั้งนานแน่ะ นึกว่าพี่เล็กจะไม่กลับบ้านตามที่สัญญาซะอีก" น้ำฝนยิ้มกว้างสดใส ไม่สนใจอดีตแฟนหนุ่มที่นั่งตะลึงในรถด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่เจเลย เล็กเองก็ตะลึงเหมือนกันเพราะไม่คิดว่าน้ำฝนจะพูดอย่างนั้น

"ผมกลับก่อนนะครับคุณเล็ก เอาไว้เราค่อยคุยกันวันหลัง" เจบอกเสียงห้วน หน้าเครียด จากนั้นก็ขับรถออกไป

"คุณเจ มันไม่ใช่แบบนั้นนะครับ" เล็กตะโกนตามไปแต่ไม่เป็นผล ไม่กี่วินาทีรถของเจก็หายลับตาไป

เล็กหันกลับมาที่น้ำฝน พยายามข่มสติอารมณ์ไม่ให้พลุ่งพล่าน แต่ก็คงต้องต่อว่าเสียหน่อย  "ฝน...ฝนมาที่นี่ทำไมครับ มันไม่ดีนะครับฝน แล้วเมื่อกี้...ฝนก็ไม่ควรพูดแบบนั้นเลย"

"ก็ฝนคิดถึงพี่เล็กนี่คะ ก็เลยมาหา" น้ำฝนทำหน้าเศร้า คล้ายกับจะขอความเห็นใจ

"ฝน พี่จะบอกฝนอีกครั้งนะครับ พี่ไม่เคยเห็นฝนเป็นมากกว่าแฟนคลับหรือน้องสาวคนหนึ่งเลย ยังไงพี่ก็รักฝนแบบนั้นไม่ได้ คนที่พี่รัก...คือคุณเจ แล้วพี่ก็มีสิทธิ์ที่จะรักคุณเจเพราะฝนกับคุณเจเลิกกันแล้ว"

เล็กไม่รู้ว่าที่พูดไปบาดหัวใจอีกฝ่ายแค่ไหน รู้แต่ว่าน้ำฝนกำมือแน่น น้ำตาไหล ริมฝีปากสั่นระริก สีหน้าเหมือนคนกำลังผิดหวัง

"พี่ขนมเขาไม่ได้รักพี่เล็ก! เขาไม่เคยชอบผู้ชาย! และเขากำลังจะแก้แค้นพี่! เขาคิดเรื่องนี้มานานแล้ว ฝนขอเตือนพี่เล็กเป็นครั้งสุดท้ายนะคะ แล้วอย่าหาว่าไม่เตือน!" น้ำฝนกระแทกเสียง ก่อนเดินสะบัดหน้าไปยังรถของตัวเองที่จอดอยู่ไม่ไกล

เล็กไม่สนใจตามเธอไปแม้แต่น้อย คนที่เล็กควรจะห่วงตอนนี้คือคนที่เพิ่งจากไปก่อนหน้านี้ต่างหาก เล็กพลาดไปแล้วอย่างไม่น่าให้อภัย เจน้อยใจที่เล็กไม่เชื่อใจ เหมือนที่น้ำฝนไม่เคยเชื่อใจเจมาตลอด แถมตอนนี้น้ำฝนก็คงทำให้เจเข้าใจผิดไปแล้วว่าเล็กกับน้ำฝนนัดเจอกันที่นี่

เล็กหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง จากนั้นเปิดไลน์และพิมพ์ข้อความหนึ่งส่งให้เจ

"ผมไม่รู้ว่าคุณเจคิดอะไรนะครับ คุณเจขอให้ผมอดทน ผมก็อยากขอให้คุณเจอดทนอีกนิด แล้วผมจะพิสูจน์ให้คุณเจเห็น อย่าเพิ่งปล่อยมือผมนะครับคุณเจ"

TBC
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-09-2016 18:07:25 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ Rabity

  • #slytherinforlife
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 523
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-8
ตอนหน้าต้องมีง้อนะเล็ก อย่าปล่อยให้เจน้อยใจ อ้อนเข้าไว้ คึคึ
ชอบที่วันนี้เจไม่ปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล นอกเหนือจากคำว่าแฟนแล้ว อัปไลน์ก็คือหน้าที่อย่างหนึ่ง การที่เจไม่เอาอารมณ์เข้าปะทะช่วยทำให้เรื่องผ่านไปได้โดยง่าย ที่นี้ก็เหลือแต่ว่าเล็กจะง้อคนใจน้อยยังไงดี
คนเขียนสู้ๆนะจ๊ะ ติดตามอยู่ รอตอนต่อไปด้วยยยยย

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
แย่แล้ว ความตรงไปตรงมาของเล็ก
ทำอัปไลน์เจน้อยใจไปโขเลยนะนั่น
ง้อด่วนเลยนะเล็ก ิย่าให้เจน้อยใจนาน

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
เห็นภาพตัวแทนคุณเล็กไปแล้ว ทีนี้ก็มาดูภาพคุณเจบ้างนะครับ หนุ่มตี๋หน้าใสประมาณไผ่ พาทิศเลยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-06-2015 22:12:51 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ manutty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 846
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-0
ความระแวง ความสงสัย เป็นธรรมดาของคน ยิ่งคนที่กำลังจะมีความรักด้วยแล้วยิ่งมากหน่อย ไม่แปลกถ้าเล็กจะไม่มั่นใจถึงได้ถามออกไป เพราะน้ำฝนไม่ใช่คนอื่น นางเป็นแฟนเก่าของเจ คนที่เล็กบอกชอบและเจก็ชอบตอบด้วย เลยทำให้เล็กต้องพูดไปแบบนั้น แต่ยังดีที่เจมีความเป็นผู้นำที่ดีบวกกับนิสัยส่วนตัวที่เป็นคนมีเหตุผล เลยไม่แสดงอารมณ์ออกไป แต่เล็กก็อดคิดมากไม่ได้อยู่ดี เลยโทษตัวเองว่าทำให้ความสัมพันธ์ที่กำลังไปด้วยดีกลับไปเป็นเหมือนตอนแรก เป็นแค่ดาวไลน์กับอัปไลน์ เจก็อดจะคิดไม่ได้เช่นกัน แต่เราชอบการผิดใจกันของเขานะ มันดูไม่งี่เง่า มันดูแบบผู้ชายแมนๆ คนเขียนสื่อออกมาดีมากเลย ตรงนี้ขอชม  o13 หวังว่าตอนหน้าจะหันหน้าเปิดใจคุยกันนะ จะได้โชคดีทั้งงานและความรัก จะได้เป็นชายคู่แรกที่ทำสำเร็จ สู้สู้ นะ  :mc4:

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
ก็อย่างว่าแหละ ถ้างั้นเขาจะมีกฏอับไลน์กับดาวไลน์ห้ามรักกันเหรอ มันมีผลต่อธุรกิจ แถมเป็นการทำผิดที่ร้ายแรงด้วยนะ รู้สึกผิดหวังกับตอนนี้อยู่มากเลย แบบนี้ก็คงมีใครสักคนต้องผิดหวังล่ะนะ การจะรักใครสักคนมันก็ยากพอแล้ว  ยังจะมีเรื่องงาน เรื่องสังคมอีก ถ้าเป็นแบบนี้บ่อยๆก็คงได้เลิกกันแล้วล่ะ ถึงเจจะไม่แสดงอารมณ์แต่การกระทำมันฟ้องเหมือนเดิม นี้จะว่าแต่พึ่งคบกันเลย ขนาดคนแต่งงานมีลูกด้วยกันหลายคนก็ไม่ค่อยจะเชื่อใจสามีหรือภรรยาเท่าไหร่หรอกกว่าแอบไปมีน้อย ดูแบบนี้ก็รู้แล้วว่ามีปัญหาตามมาอีกเยอะ รู้สึกผิดหวัง พระเอกผมชอบอยู่นะรูปอ่ะ ผมว่าไผ่เท่ดีน่ารักด้วย คนแต่งก็สู้ๆต่อไปละกัน

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
เพราะยัยน้ำฝนคนเดียวเลย
แต่ก็อย่างว่าด้วยละเพิ่งจะ
คบกันคนพูดไรนิดหน่อยก็
ทำให้จิตตกคิดมากได้

ออฟไลน์ loveaaa_somsak

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-3
เนื้อเรื่องชวนติดตามมากครับ

2 วันอ่านทันทั้ง 2 เรื่องแล้วครับ


ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
คุณเล็กอย่างงี้ต้องมีง้อแล้วอย่าทิ้งไว้นานนะคะ เดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องใหญ่นะค่ะ

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :katai2-1:คุณเจอย่าเพิ่งฝ่อจ้า เป็นเรื่องธรรมดาของคนเพิ่งรักกันและเป็นการเริ่มต้นความรักแบบใหม่ด้วยน่ะ ย่อมมีอะไรให้ต้องคิดหลายอยางและอาจจะหวั่นไหวได้ง่าย ยังไงก้อต้องอดทนและเรียนรู้กันไปน่ะจ้ะ  :mew2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
คุณเล็กคนซื่อ.. -.-' ไม่เป็นไรนะคะ ที่พลาดไปแล้วก็ต้องปล่อยไป ตอนนี้มานั่งคิดหาวิธีง้อเจกันดีกว่าค่ะ ดูท่าว่ารายนั้นจะงอนหนักเสียด้วยน้า~

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
เจน้อยใจเล็กซะแล้วเพราะน้ำฝนคนเดียว เฮ้อ

น้ำฝนนี่เป็นผู้หญิงที่งี่เง่าจริงๆ ดูมโนเก่ง คิดเองเออเองหมดเลย


ปล. มาอ่านสองตอนรวดเลย :)
เป็นกำลังใจให้นักเขียนเหมือนเดิมนะครับ

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
ไม่มีอะไรครับ แค่อยากนำเสนอภาพประกอบนิยายใหม่ ช้อบบบ ชอบบบบบ


ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
^
^
น่าร๊ากกกกก~ :m3: ว่าแต่ตอนนี้คุณเล็กคงไม่ได้กำลังร้องไห้ที่ตัวเองทำเจเสียใจอยู่ใช่ไหมคะเนี่ย? >.<

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
อิมเมจที่หามานี่ ตรงมาก ๆ เลยน่ะเนี่ย เราไม่ค่อยชอบผู้ชายหน้าตาแบบบ๊อบเท่าไหร่ น่ะ แต่ดูละครที่เขาเล่นประจำเลย  :o8: เวลาเขาเล่นละครจะมีเสน่ห์มาก ๆ น่ะ เป็นผู้ชายที่แต่งหญิงได้สวยเลยล่ะ และแต่งชายโบราณก้อเท่มาก ๆ ส่วนอิมเมจของเจเราก้อว่าตรง ชอบผู้ชายหน้าตาแบบนี้น่ะ ถูกใจเลยล่ะ  :mew3: แต่ไม่ค่อยได้ดูเขาเท่าไหร่ เพราะไม่ได้ดูละครช่อง 7

ออฟไลน์ Rabity

  • #slytherinforlife
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 523
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-8
หัวข้อเปลี่ยนแล้ววว เอาเนื้อเรื่องลงมาเร็วเลยยยยย อยากอ่านแล้วอ่ะ!

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ชื่อตอนต่อไปมันชวนฟินจริงๆ
ใครสารภาพกับใครล่ะ
ไม่อยากจะเดา อิอิ

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
เข้ามารอจ้าา.. :interest:

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
✿✿ธุรกิจนี้มีรัก✿✿
CHAPTER 18 ❋ สารภาพรัก


พึงจดจำไว้
เราแข็งแรงมากกว่าที่เราเป็น
เราเข้มแข็งมากกว่าที่เราคิด
เราเป็นได้มากกว่าที่เราเป็น
เราไปได้มากกว่าที่เราเชื่อ - กรกฎ บุญรักษา

--- <+> -- <+> --- <+> -- <+> --- <+> -- <+> ---

"ไง มาหาพี่ถึงนี่ มีอะไรอีกแล้วสิ" แม้ไม่ใช่คำทักทายที่ฟังดูดีนัก แต่ก็ทักแบบนี้มาตลอด เพราะมาทีไรมักมีเรื่องให้เดือดร้อนและเสียเงินทุกที

"โธ่พี่ รู้ทันอีกแล้ว พี่ก็รู้นี่ว่าผมน่ะรายได้น้อยกว่าพี่เไม่รู้กี่เท่า เงินเดือนผมนิดเดียวเอง จะไปพอกินอะไรครับ" เจ้าตัวโอดครวญและนิ่วหน้า

"ก็พี่ให้มาทำงานกับพี่ก็ไม่มา ให้มาอยู่ที่บ้านด้วยกันก็ไม่เอา" คนพูดหมายถึงให้มาเป็นผู้จัดการส่วนตัว

"โธ่พี่ ผมชอบติดต่อกับคนที่ไหน แล้วถ้าผมมาอยู่บ้านพี่ ผมก็ต้องตื่นแต่ตีสี่โน่นแหละถึงจะไปทำงานทัน"

"คราวนี้จะเอาเท่าไหร่" คนพี่ถามเข้าเรื่อง เพราะไม่อยากฟังคนน้องบ่นน้อยอกน้อยใจ โทษแต่อย่างอื่น แต่ไม่เคยมองมาที่ตัวเอง

"ห้าหมื่นครับ" เจ้าตัวตอบทันที ราวกับว่ากำลังขอเงินแม่ห้าสิบบาทไปซื้อขนมกิน

"ห้าหมื่นเลยเหรอ! นี่เอ็งจะเอาเงินไปทำอะไรเยอะขนาดนี้วะไอ้จิ๊ด" คนพี่ชักเริ่มไม่สบอารมณ์ ที่ใช้คำว่า "เอ็ง" เพราะเรียกอย่างนี้มาตั้งแต่เด็กตามประสาคนบ้านนอก

"ก็ผมผ่อนรถแล้วก็ซื้อของเข้าคอนโดตั้งหลายอย่าง" คนน้องแก้ตัว

"แล้วก็หนี้บัตรเครดิตด้วยใช่ไหม" คนพี่รู้ทัน

"ครับ" จิ๊ดรับคำอายๆ

เล็กถอนหายใจแล้วก็ส่ายหน้า "ทำไมเอ็งใช้เงินแบบนี้วะจิ๊ด บ้านก็ผ่อน คอนโดก็ผ่อน ข้าวของอะไรก็ผ่อน เงินก็ไม่เคยส่งให้แม่ใช้เลย ขนาดพี่เป็นดาราพี่ยังไม่กล้าใช้เงินเหมือนเอ็งเลยนะจิ๊ด รถพี่ยังไม่กล้าผ่อนเลย เห็นไหมว่าพี่ยังต้องรอให้ผ่อนบ้านหมดก่อน"

"โธ่พี่ พี่ก็รู้ว่าผมน่ะลำบากกว่าพี่น้องคนอื่น ผมไม่ได้โชคดีเหมือนพวกพี่ๆ นี่ พี่เล็กเป็นดารา เงินเยอะกว่าผมตั้งหลายเท่า พี่จิ๋วก็เป็นข้าราชการ อยู่ต่างจังหวัดแทบไม่ต้องใช้อะไร ก็ส่งให้แม่ได้สิครับ ผมก็อยากส่งให้แม่เหมือนกันนะพี่ แต่พี่คิดดูสิ แค่พนักงานรัฐวิสาหกิจเงินเดือนหมื่นกว่าบาทจะไปพออะไรล่ะครับ"

ลำบากกว่าพี่น้องหรือ? ตอนที่เล็กกับน้องเรียนหนังสือ ที่บ้านประสบปัญหาการเงิน เล็กต้องออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อเสียสละให้น้องชายเรียนจนจบ ดีที่พี่สาวจบไปก่อนแล้ว ไม่งั้นคงแย่เหมือนกัน หลังจากนั้นเล็กต้องระหกระเหินมาหางานทำที่กรุงเทพทั้งที่เรียนไม่จบ ชีวิตลำบากเลือดตาแทบกระเด็น โชคดีที่จับพลัดจับผลูมาเป็นดารากับเขาได้ นับว่าโชคดีกว่าพี่น้องอีกสองคน แต่ก็ต้องแลกมาด้วยคราบน้ำตา

"เออๆ พอเหอะๆ พี่ขี้เกียจพูดกับเอ็งเรื่องพวกนี้แล้ว เดี๋ยวพี่โอนให้ละกัน แต่ว่า..."

"อะไรครับพี่" จี๊ดชะงัก แต่ท่าทางก็ดูดีใจที่จะได้เงิน

"ช่วยพี่ฟังอะไรหน่อยดิ" เล็กคิดว่าไหนๆ น้องชายก็มาหาถึงบ้านแล้ว จะขอฝึกซ้อมสปอนเซอร์กับน้องชายนี่แหละ ก่อนที่เล็กจะเริ่มดำเนินการตามแผนที่คุยกับเจไว้

ถ้าจี๊ดเข้ามาอยู่ในยัวร์เวย์น่าจะดี เล็กหมดปัญญาจะสอนน้องชายคนนี้แล้ว จิ๊ดเป็นคนใช้เงินฟุ่มเฟือย คิดลบ ชอบอ้าง ชอบแก้ตัว ไอ้ที่ผ่อนๆ มาใช้ทั้งหลายแหล่ก็มีแต่เล็กทั้งนั้นที่ช่วย ถ้าให้คนสำเร็จในยัวร์สอน น่าจะดีกว่าที่เล็กสอนเอง เผื่อจะคิดอะไรกับชีวิตได้มากขึ้น

จากนั้นเล็กทำตามที่เจสอน เริ่มจากการเช็ค F-O-R-M ก่อน แม้จะรู้อยู่แล้วแต่เล็กก็เน้นฝึกถาม สรุปคร่าวๆ ว่าจิ๊ดเป็นลูกชายคนเล็กของบ้าน ไม่รับภาระในบ้านเลย แถมเป็นภาระของพี่ๆ น้องๆ อีก ส่วนอาชีพก็เป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง เงินเดือนไม่พอใช้ รบกวนพี่ชายตลอด การใช้เวลาก็ใช้อย่างไม่เป็นประโยชน์ เที่ยวเตร่ กินเหล้า หลีหญิง ส่วนความฝันก็นึกไม่ออก ไม่รู้จะฝันอะไร อยากมีเงินเยอะๆ มั้ง ตรวจสอบดูแล้วเล็กก็ไม่พบว่ามีอะไรน่าสนใจสักอย่าง ไม่มีคุณสมบัติไหนบ่งบอกว่าจะเป็นคนสำเร็จเลย

"ดูตามที่พี่เขียนนะ สมมติว่านายกอไก่ทำงานเป็นวิศวกรที่บริษัทเอมาสิบปี จิ๊ดคิดว่าเขาน่าจะมีเงินเดือนเท่าไหร่"

"แสนนึงมั้งครับ เพื่อนผมบางคนก็ได้เกือบเท่านี้แล้ว" จิ๊ดพูดพลางก้มมองตามที่พี่ชายเขียนบนกระดาษ เล็กเขียนตัวเลขหนึ่งแสนลงไปข้างๆ นายกอไก่

"แสนนึงนะ ทีนี้ นายกอไก่ก็ทำธุรกิจเอ็กซ์ ทำมาสามปี ใช้เวลาว่างตอนเลิกงานหรือวันหยุดเสาร์อาทิตย์ แล้วก็มีรายได้ประมาณหนึ่งแสนบาทต่อเดือนเหมือนกัน"

"ธุรกิจเอ็กซ์คืออะไรเหรอครับพี่เล็ก" จี๊ดทำหน้าสงสัย

"เออน่า อย่าเพิ่งถามตอนนี้ ฟังไปเรื่อยๆ ก่อน ทีนี้วันหนึ่งนายกอไก่ประสบอุบัติเหตุ ไปทำงานไม่ได้ ต้องพักรักษาตัวนาน เดือนแรกนายกอไก่มาทำงานไม่ได้ ถ้าจิ๊ดเป็นนายจ้าง จิ๊ดจะจ่ายเงินเดือนแสนนึงให้นายกอไก่ไหม"

"โห...ตั้งแสนนึง ไม่น่าให้เลยครับ แต่กฎหมายกำหนดนี่ครับว่าต้องจ่ายอย่างน้อยสองเดือนแรก ก็ต้องจ่ายแหละครับ"

"โอเค งั้นสองเดือนแรกจ่ายเดือนละแสนนะ แล้วเกิดเดือนที่สามยังมาทำงานไม่ได้อีกล่ะ จะจ่ายไหม"

"ไม่จ่ายแล้วพี่ ใครจะบ้าจ่ายให้ งานก็ทำให้ไม่ได้ ต้องจ้างคนมาแทนแล้ว"

"อืม...แล้วถ้าเกิดว่าภายในหกเดือนเขาหายล่ะ จะให้เขากลับมาทำงานในตำแหน่งเดิมได้ไหม"

"ใครจะรอล่ะพี่ หางานใหม่ละกัน"

เล็กยิ้มพอใจ "ถ้าสมมติว่าเขาเกิดตายในเดือนที่สอง แล้วนายกอไก่ก็มีลูกกับเมียอยู่ จิ๊ดจะให้ลูกเมียนายกอไก่มาทำงานแทนนายกอไก่ไหม"

"มันแทนกันได้ด้วยเหรอพี่ มีที่ไหนเขาทำกัน ไม่ได้หรอก" จี๊ดส่ายหัวไปมา พานคิดไปว่าพี่ชายพูดอะไรไม่เข้าท่า

"แต่จี๊ดเชื่อไหม ธุรกิจเอ็กซ์ที่นายกอไก่ทำจนสำเร็จ เดือนแรกที่นายกอไก่ป่วยก็โอนมาแสนนึง เดือนที่สอง เดือนที่สาม เดือนที่สี่ เดือนที่ห้า เดือนที่หกก็ยังจ่ายมาแสนนึงทุกเดือน ถ้าหายแล้วอยากกลับมาทำใหม่ ก็ทำต่อจากจุดเดิมได้เลย ถ้าเกิดนายกอไก่ตายไป ลูกเมีอนายกอไก่ก็มารับเงินแทนได้ ไม่ว่าจะกี่เดือนหรือกี่ปี เงินหนึ่งแสนก็จะยังโอนมาทุกเดือน เกิดวันหนึ่งลูกโตแล้วอยากทำธุรกิจของนายกอไก่ต่อแทนพ่อที่ตายไป ก็ทำต่อจากนายกอไก่ได้เลย วันหนึ่งก็อาจจะได้มากกว่าหนึ่งแสน อาจจะเป็นสองแสน สามแสน ล้านนึง สิบล้านหรือร้อยล้านก็ยังได้"

จิ๊ดหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความสงสัย "ธุรกิจเอ็กซ์มันคือธุรกิจอะไรเหรอพี่ มีด้วยเหรองานแบบนี้ ป่วยก็ได้เงิน ตายก็ได้เงิน ไม่น่ามีนะพี่"

"มีสิ สนใจหรือเปล่าล่ะ"

จิ๊ดพยักหน้าทันที "สนใจครับพี่เล็ก ว่าแต่ มันงานอะไรเหรอครับ"

"ยัวร์เวย์ไง ยัวร์เวย์ที่พี่จิ๋วเคยทำนั่นแหละ"

"อะไรนะพี่! นี่พี่ทำยัวร์เวย์เหรอครับ! โหพี่...พี่โดนใครเขาหลอกมาหรือเปล่า ยัวร์เวย์เนี่ยนะจะให้รายได้แบบนี้ ผมเห็นเจ๊งไปหลายคนแล้ว วิ่งขายของทำยอดกันเต็มไปหมด ที่ทำงานผมก็ทำเยอะ จะเดินชนกันตายอยู่แล้ว ไม่เอาหรอกพี่ ผมทำไม่ได้หรอกงานแบบนี้ ผมพูดไม่เก่งพี่ก็รู้อยู่" จิ๊ดโวยวาย เกิดอาการกลัวยัวร์เวย์เหมือนเล็กไม่มีผิดเลย นี่แหละเขาว่าทำกับอัปไลน์ไว้ยังไง กรรมก็จะตามสนองอย่างนั้น

ดีที่ว่าเป็นน้องชาย เล็กจึงไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่ ถ้าเป็นคนอื่นพูดแบบนี้ บางทีเล็กก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน ให้ดูสลิปรายได้ดีกว่า ว่าแล้วเล็กก็หยิบสลิปเงินโอนจากยัวร์เวย์ที่เตรียมไว้ให้จี๊ดดู

"อะไรพี่" จิ๊ดหยิบมาดูแล้วก็มองหน้าพี่ชาย

"สามหมื่นกว่าบาท พี่ใช้แค่เศษเวลาเล็กๆ น้อยๆ ทำนะจิ๊ด ไม่ได้ต้องเข้างานแปดโมงเช้าเลิกสี่โมงเย็นเหมือนเอ็ง เอ็งทำขนาดนั้นยังได้แค่หมื่นกว่าบาท พี่ใช้เวลาน้อยกว่าเอ็งยังได้มากกว่าเอ็งตั้งสองเท่า แล้วเดือนนี้พี่ตั้งใจเป็น 21% จะได้มากกว่านี้อีก อย่างน้อยๆ ก็สองเท่า"

เงินน่ะ...ซื้อจิ๊ดไม่ได้หรอก...ถ้าไม่มากพอ

แววตาเป็นประกายพลันวิบวับขึ้นในดวงตา แม้เคยเห็นคนทำหลายคน แต่จิ๊ดไม่เคยเห็นใครเอาสลิปแบบนี้มาให้ดูเลย ใช้เวลาไม่มากแต่ได้เงินขนาดนี้ก็ไม่เลว จริงอย่างที่พี่ชายว่า ทำงานแต่เช้ายันเย็น ห้าวันต่อสัปดาห์ สี่สัปดาห์ผ่านไปได้เงินมาหมื่นกว่าบาท เล็กแบ่งเวลาจากงานแสดงมาทำเล็กๆ น้อยๆ ยังได้เยอะกว่าที่จิ๊ดทำทั้งเดือนเลย

"แล้วมันทำยังไงล่ะพี่" จิ๊ดดูสงวนท่าที แต่เล็กดูออกว่าน้องชายเริ่มสนใจแล้ว

จากนั้นเล็กก็เขียนแผนการตลาดให้น้องชายดู ทำให้จิ๊ดเข้าใจที่มาของรายได้มากขึ้น จากนั้นเล็กก็เล่าเรื่องบุญหกแบบให้น้องชายฟัง จิ๊ดก็ฟังไปอย่างงั้นๆ เพราะยังเด็กอยู่ ไม่ค่อยสนใจแนวคิดดีๆ แบบนี้ แต่ไม่เป็นไรหรอก ถ้าจิ๊ดได้เข้ามาในธุรกิจก็จะค่อยๆ ซึมซับไปเอง เด็กๆ หลายคนที่เข้ามาในยัวร์เวย์ก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีทั้งนั้น

สรุปว่าจิ๊ดสมัคร เล็กจึงพาจิ๊ดไปยื่นใบสมัครที่ช็อปของยัวร์เวย์ ดีที่จิ๊ดมีรถมาด้วย เล็กจึงสบายหน่อย ในระหว่างทางเล็กก็โปรโมทอัปไลน์ของเล็กให้น้องชายฟังว่าเจเรียนจบอะไร ไปทำงานที่ไหน ที่บ้านทำธุรกิจอะไร ทำไมเจถึงมาทำยัวร์เวย์ จี๊ดก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้างตามประสา

สมัครเสร็จ จิ๊ดก็ซื้อสินค้าไปทดลองใช้ มีชุดยาสีฟัน ชุดอาบน้ำ ชุดสระผมพร้อมด้วยชุดอาหารเสริมโปรตีน หมดไปหลายพันโดยที่เล็กไม่ช่วยออกเงินให้ ก็แน่ล่ะ เดี๋ยวเล็กก็จะโอนไปให้ห้าหมื่นอยู่ดี จิ๊ดก็เลยไม่บ่น จากนั้นเล็กก็นัดจิ๊ดมาที่เซ็นเตอร์เย็นวันจันทร์แถวบางกะปิ จิ๊ดโอดครวญนิดหน่อย แต่ด้วยความอยากได้เงินสามหมื่นเหมือนพี่ก็เลยรับปาก

สำเร็จไปแล้วรายแรก ในที่สุดดาวน์ไลน์ที่เป็นนักธุรกิจคนแรกก็เป็นน้องชายของเล็กนี่เอง มาได้จังหวะพอดี เล็กส่งไลน์ไปบอกเจ สักพักเจก็ส่งสติ๊กเกอร์สุดยอดกลับมาให้ จากนั้นไม่พูดอะไรอีกเลย ดูเฉยชาผิดปกติ

คงเป็นเพราะเมื่อวานนี้แน่ๆ!

--- <+> -- <+> --- <+> -- <+> --- <+> -- <+> --- 

เล็กให้น้องชายมาส่งที่อาคารเอวันมีเดียส์ก่อนแยกย้ายกันไป เล็กขึ้นไปสัมภาษณ์รายการวิทยุ วันนี้มาเพื่อโปรโมทซีรี่ส์ "ไม่ได้รักหรือรักไม่ได้" ตอนนี้ฉายไปหนึ่งตอนแล้ว ได้รับเสียงตอบรับดีมาก สัปดาห์หน้าจะฉายตอนต่อไป

เสร็จจากงานโปรโมทซีรี่ส์ เล็กก็เดินทางไปหาคุณสนิทที่บ้าน ว่าจะปรึกษาเรื่องงาน รวมทั้งสปอนเซอร์เข้ามาในธุรกิจด้วย หลังด้อมๆ มองๆ มาหลายครั้งหลายครา ระหว่างนั่งแท็กซี่ไปก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

"สวัสดีครับพี่ฉิม วันนี้พี่โทรหาผมเองเลยเหรอครับ พี่สบายดีนะครับ" เล็กทักไป

"สบายดีจ้ะ เล็กสบายดีนะ"

"สบายดีครับพี่ พี่มีอะไรให้รับใช้ครับ"

ทางปลายสายหัวเราะเล็กน้อย "มีสิจ๊ะ เล็กสนใจเล่นเป็นพระเอกให้พี่สักเรื่องไหม ตอนนี้พี่เพิ่งซื้อนิยายใหม่มาเรื่องหนึ่ง กำลังให้เขาเขียนบทอยู่ พี่จะเอามาทำเป็นละคร พี่คุยกับผู้ใหญ่แล้ว เขาไฟเขียวเลย"

"สนใจครับพี่" เล็กทำเสียงตื่นเต้น แต่พอนึกได้ก็มุ่นคิ้ว "เอ...แต่ว่า...ผมไม่ได้ต่อสัญญากับช่องสิบแล้ว จะเป็นไรไหมครับ"

"ไม่เป็นไร" พี่ฉิมลากเสียงสูง "หรือว่าเล็กจะไปต่อสัญญาเขาก็โอเคนะ คุณชิงชัยเขาคุยให้แล้ว"

"จริงเหรอครับพี่!" เล็กตกตะลึง ไม่น่าเชื่อว่าคนที่เล็กเคยเกลียดนักเกลียดหนา พอทำตามที่เจกับพี่ประสิทธิ์แนะนำเท่านั้น ชิงชัยก็เปลี่ยนเป็นอีกคน สงสัยต้องไปขอบคุณเสียหน่อย

"จริงสิ" พี่ฉิมยืนยันเสียงใส

"ว่าแต่...พี่จะให้ผมเล่นเรื่องอะไรครับ แล้วเรื่องมันเป็นยังไงครับ"

"อ๋อ...พี่อยากชวนเรามาเล่นละครที่ไม่มีนางเอกน่ะเล็ก น่าจะรู้นะว่าหมายถึงอะไร"

"ละครชายรักชายเหรอครับ" เล็กแปลกใจ นึกในใจว่า...อีกแล้วเหรอ

"ใช่จ้ะ ชื่อเรื่อง ปาฏิหาริย์รักที่รอคอย เรื่องมันดีมากเลยนะเล็ก เล็กต้องชอบแน่ ดราม่าน้ำตาท่วมจอเลย เป็นละครหลังข่าวเรื่องแรกที่เป็น boys' love เลยนะเล็ก อ้อ คุณโฮป ธนวัฒน์ รับเล่นเป็นพระเอกด้วย เล็กเคยเจอหรือยัง ตอนนี้กำลังมาแรงเลย"

"ยังครับพี่ฉิม เอ่อ...คือ...พี่ฉิมจะให้ผมเล่นเป็น...นายเอกเหรอครับ" เล็กถามอย่างไม่แน่ใจ

"ใช่จ้ะเล็ก ก็เหมือนกับซีรี่ส์ที่เล็กเล่นตอนนี้ไง พี่ว่าเล็กเล่นดีมากเลย พี่ชอบมาก เล็กเล่นดูอินยังไงไม่รู้ พอพี่ได้เรื่องนี้มา พี่ก็เลยคิดถึงเล็กคนแรกเลย สนใจไหมเล็ก พี่ว่าเล็กนี่แหละเหมาะที่จะแสดงเป็นต้นมากๆ เลย พี่ดูๆ ดาราคนอื่นแล้วไม่เข้ากับบุคลิกแบบตัวละครตัวนี้ สู้เล็กไม่ได้เลย" พี่ฉิมโน้มน้าวเต็มที่

"อ๋อ...สนใจครับพี่" เล็กรับปาก สงสัยคงต้องหันมาเอาดีทางบทเกย์ คงมีคนแซวว่าเป็นแผนแกรนด์โอเพนนิ่งแน่ แต่ช่างเถอะ ถ้ามันหนีไม่พ้นก็คงต้องทำ

"ขอบใจมากจ้ะเล็ก เดี๋ยวไว้เรานัดคุยกันอีกที พี่จะได้เอาบทให้ดูด้วย"

"ครับพี่ฉิม ขอบคุณมากครับที่นึกถึงผมอยู่ สวัสดีครับพี่"


ช่วงนี้เล็กกับเจเจอกันบ่อยมาก ทั้งที่เซ็นเตอร์ ที่บ้านของเจเอง บ้านของเล็กหรือในคอร์สอบรมต่างๆ เล็กตัดสินใจแล้วว่าจะเป็น 21% อัปไลน์จึงต้องช่วยหนัก ช่วงนี้เล็กกับเจทำงานหนักมาก แต่เจน่าจะหนักกว่าใครเพราะต้องดูแลดาวน์ไลน์อีกหลายคน นอนวันละไม่กี่ชั่วโมง ตื่นเช้ามาก็ออกจากบ้าน ไปช่วยดาวน์ไลน์วางแผนบ้าง สปอนเซอร์ส่วนตัวบ้าง ขายสินค้าบ้าง นอกจากนี้ต้องแบ่งเวลาไปเซ็นเตอร์ ไปงานอบรม รวมทั้งแบ่งเวลามาช่วยงานร้านที่บ้านอีก

เดือนนี้เล็กทำงานได้เกินเป้าหมายไปแล้ว เพราะเป็น 21% ช่วงเลยกลางเดือนมาเล็กน้อย เจจึงชวนเล็กตั้งเป้าหมายเป็นทับทิม แต่ต้องทำงานเพิ่มจากเดิมเป็นสองเท่า วอลลุ่มธุรกิจของเล็กจะเพิ่มจากหลักแสนเป็นหลักล้าน

โชคดีที่อัปไลน์สอนดีและตั้งใจทำงาน เล็กจึงไม่ใช้โอกาสเปลือง ทุกครั้งที่นัดไปเจอผู้มุ่งหวัง เจมักตามไปด้วย ถ้าไปด้วยไม่ได้เล็กก็จะปรึกษากับเจอย่างละเอียดทางโทรศัพท์ เล็กทำตามที่อัปไลน์บอกทุกอย่าง ตรงไหนไม่แน่ใจเล็กจะแอบขอเข้าห้องน้ำปรึกษาอัปไลน์ตลอด ถ้าเจช่วยแล้วมักไม่ค่อยพลาด

ทุนของเล็กคือการรู้จักคนมากหน้าหลายตา เพราะงานที่ทำอยู่ทำให้เจอคนบ่อยๆ คนที่เล็กสปอนเซอร์ส่วนมากมักจะเป็นคนในวงการบันเทิง เช่น เพื่อนๆ ดารา ศิลปินและคนทำงานเบื้องหลัง นอกนั้นก็มีทีมออร์แกไนเซอร์ที่ทำงานด้วยกันบ่อยๆ แต่ใช่ว่ารู้จักคนเยอะแล้วจะง่ายกว่าคนอื่น เพราะทุกอย่างเป็นไปตามกฎค่าเฉลี่ย ในสิบคนอาจมีเพียงแค่คนหรือสองคนที่สนใจธุรกิจ บางครั้งไม่มีเลย แต่ยังดีตรงที่มีคนซื้อสินค้าตลอด

เล็กไม่ได้โชคดีเพราะรู้จักคนเยอะ แต่โชคดีที่มีอัปไลน์ดี เล็กเชื่อฟังอัปไลน์ทุกอย่าง เจย่อประสบการณ์ของตัวเองที่ทำมาหลายปีมาสอนเล็กแล้ว ถ้ามัวแต่เถียงก็จะไม่ได้ลงมือทำ พอเชื่อคนมีประสบการณ์จึงพลาดน้อยลง

เจแนะนำให้ข้ามคนสปอนเซอร์ยากไปก่อน อย่าเก็บมาท้อใจแต่ไปต่อทันที ทำมากพอแล้วจะเก่งขึ้นเอง อีกเรื่องที่ช่วยได้มากก็คือ การทำตัวเป็นผลิตผลของผลิตภัณฑ์ เล็กใช้สินค้าอย่างตั้งใจจนเห็นการเปลี่ยนแปลง ทุกวันนี้เวลาไปไหนจะมีคนมาถามตลอดว่าเล็กไปทำอะไรมาถึงดูดีขึ้น เท่านี้ก็เปิดโอกาสธุรกิจให้เล็กได้แล้ว

พอทำงานยัวร์เวย์อย่างจริงๆ จังๆ มาเกือบเดือน เล็กก็ค้นพบสัจธรรมอย่างหนึ่งว่า คนปฏิเสธมีมากกว่าคนตอบรับ ถ้าไม่ใช่เพราะเจช่วยให้ความคิดและให้กำลังใจ เล็กก็ไม่รู้ว่าจะทนถูกปฏิเสธได้มากแค่ไหน

เล็กมีดาวน์ไลน์ที่สนใจทำแค่สามคนเท่านั้น น้องชายเล็ก คุณสนิทและบีซึ่งเพื่อนสมัยเรียนมัธยมที่บังเอิญเจอกัน ตอนนี้เธอทำงานเป็นเทคนิคการแพทย์อยู่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง คนนี้สปอนเซอร์ยากสุดเพราะเป็นนักวิทยาศาสตร์ เชื่ออะไรยาก เล็กยังอดขำไม่ได้วันที่พาบีมาเซ็นเตอร์วันแรก

"เล็ก...คนที่ขึ้นไปสาธิตสินค้าเป็นแค่แม่ค้าจบปอสี่เองเหรอ แล้วเขาจะมาช่วยอะไรเราได้ ตัวเขาเองเอาตัวรอดหรือเปล่าก็ไม่รู้ ทำไมคนจบปอโทเทคนิคการแพทย์อย่างเราต้องมาฟังแม่ค้าปอสี่ด้วยล่ะ เดี๋ยวเราจะจับผิดให้ดู เราเป็นนักวิทยาศาสตร์ โกหกเราไม่ได้นะเล็ก" บีบ่นกระปอดกระแปด ผมได้แต่ยิ้มๆ

จากนั้นบีก็คอยจ้องดูแม่ค้าจบปอสี่สาธิตสบู่ทุกขั้นตอน เล็กเคยสาธิตด้วยตัวเองมาแล้วก็เลยไม่กลัวว่าเพื่อนจะจับผิดได้ สุดท้ายบีก็ยอมรับว่าจับผิดไม่ได้เลยแม้แต่จุดเดียว แถมยังพูดขำๆ กับเล็กอีกว่าตัวเองเป็นนักวิทยาศาสตร์แท้ๆ ยังเลือกสบู่ด้วยการดมกลิ่นหรือซื้อตามดารา แต่แม่ค้าปอสี่เลือกสบู่จากการทดสอบคุณภาพไขมันที่ใช้ในการผลิตสบู่ น่าอายจริงๆ

ช่วงใกล้สิ้นเดือน เล็กสังเกตว่าเจดูเหนื่อยมากกว่าเดิม ดูโทรม อิดโรย ขอบตาคล้ำ บางทีก็เบลอ บางวันเผลอสัปหงกในเซ็นเตอร์ เล็กได้แต่สงสารและเห็นใจ แต่เจก็ไม่บ่น ไม่เคยบอกว่าเหนื่อย เมื่อไหร่ที่เล็กหรือใครต้องการให้ช่วย เจจะรีบจัดเวลาให้

ในส่วนของการช่วยดาวน์ไลน์ทำงาน เล็กยังต้องอาศัยเจช่วยหลายจุด เหนื่อยอัปไลน์อีกตามเคย พอตัดสินใจทำจริงๆ เล็กพบว่าไม่ใช่แค่ตัวเองเท่านั้นที่เหนื่อย แต่อัปไลน์ก็เหนื่อยด้วย เล็กเข้าใจแล้วว่าทำไม อ. เหวิน ถึงสอนว่า "ใครทำอะไรดีๆ ให้เราไม่ใช่หน้าที่" ฉะนั้น เล็กต้องตอบแทนอัปไลน์ให้ได้

พอถึงวันสิ้นเดือนปิดยอด เจยิ่งต้องทำงานหนักกับดาวน์ไลน์ที่ต้องการเป็น 21% มากขึ้น บางคนสมหวัง บางคนไม่สมหวัง แม้เหนื่อยแต่เจก็ดูมีพลังเสมอ

ตอนนี้คะแนนของเล็กขึ้นไปถึง 290,000 PV เศษๆ ขาดอีกเพียง 10,000 PV เศษๆ ก็จะเป็นทับทิม หรือเรียกว่าเป็น 21% สองครั้ง ถ้าใครสักคนซื้อเครื่องกรองน้ำสักตัว เล็กก็จะได้เป็นทับทิมแล้ว

วันนี้ เล็กและดาวน์ไลน์ที่ตั้งใจของเจมารวมกันที่สำนักงานใหญ่ตอนเย็น คงอยู่กันถึงเที่ยงคืน เล็กพยายามโทรหาและส่งไลน์ถามหลายคนที่เคยไปแนะนำเครื่องกรองน้ำ แต่ยังไม่มีใครสนใจ เกือบจะเที่ยงคืนอยู่แล้ว สุดท้ายคนที่สนใจอยากได้เครื่องกรองน้ำก็คือบีนั่นเอง เล็กแนะนำไปหลายครั้งแล้วแต่เธอก็ไม่เอาท่าเดียว อยู่ดีๆ ไม่รู้นึกครึ้มยังไงถึงได้ตัดสินใจซื้อ

เพราะฉะนั้นเดือนนี้เล็กเป็นทับทิมแน่นอน พอเจคำนวณรายได้ให้ดูเล็กก็ตาโต อีกไม่กี่บาทก็จะถึงแสน เล็กจึงตัดสินใจซื้อครีมทาหน้าตัวท็อปสุดของยัวร์เวย์มาหนึ่งกระปุก เจบอกว่าจะช่วยย้อนอายุผิวไปสิบห้าปี พอเช็ครายได้อีกครั้งจึงเกินแสนไปแล้ว คราวนี้จิ๊ดตะลึงแน่

--- <+> -- <+> --- <+> -- <+> --- <+> -- <+> ---

"เดี๋ยวผมกลับแท็กซี่เองนะครับคุณเจ คุณเจเหนื่อยแล้วจะได้กลับไปพักผ่อน ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยผม ถ้าไม่ได้คุณเจ...ผมไม่มีวันนี้หรอก" เล็กบอกอัปไลน์ด้วยแววตาซาบซึ้ง คนอื่นๆ ร่ำลากันไปหมดแล้ว เหลือแต่เล็กกับเจที่ยังอยู่

เจพยักหน้า แม้จะไม่บอกว่าเหนื่อยเล็กก็รู้ว่าเจเหนื่อยมาก กลับไปคงนอนสลบ เล็กได้แต่ยิ้มบางๆ ให้กำลังใจ อัปไลน์เหนื่อยขนาดนี้ ไม่รู้ว่าต้องการให้ใครสักคนอยู่ข้างๆ หรือเปล่า แฟนคนก่อนเพิ่งเลิกกันไป ส่วนคนที่กำลังดูใจกันอยู่กลับทำให้น้อยใจซะอย่างนั้น แล้วใครหนอจะช่วยดูแลเจยามเหนื่อยล้า

"ผมไปแล้วนะครับคุณเจ" เล็กฝืนบอกไป ตั้งแต่เจเข้าใจผิดว่าเล็กนัดน้ำฝนไปเจอกันที่บ้านวันนั้น ทั้งสองคนก็ไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกเลย ไปๆ มาๆ เล็กก็ไม่กล้าคุยเรื่องส่วนตัวกับเจ พากันทำแต่งานตลอดเดือน

เล็กออกมายืนโบกแท็กซี่อยู่ข้างถนน รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ เป็นเพราะสำนึกผิดแล้วแต่ไม่มีโอกาสขอโทษ คิดไปแล้วก็นึกชื่นชมเจ ทั้งๆ ที่เจก็ระแวงเรื่องเล็กกับน้ำฝน แต่พอเล็กขอให้ช่วย เจกลับไม่เคยปฏิเสธหรือเล่นแง่ แถมยังช่วยเต็มที่โดยไม่ปริปากบ่น

เล็กไม่เพียงแต่ชื่นชมในฐานะอัปไลน์เท่านั้น แต่ความรู้สึกในใจที่มีให้ก็พัฒนามากขึ้นตามไปด้วย ยิ่งเห็นเจเหนื่อย ยิ่งเห็นเจทุ่มเท ยิ่งรู้ว่าเจไม่เคยบ่นน้อยใจทั้งที่ควรจะน้อยใจ ความรู้สึกนั้นก็ยิ่งทวีคูณ

'เอาวะ กลับไปขอบคุณอัปไลน์ให้ดีกว่านี้หน่อยดีกว่า'

เล็กบอกตัวเอง จากนั้นก็วิ่งกลับเข้ามาในอาคารสำนักงานใหญ่ ประตูกำลังจะปิดพอดี เล็กวิ่งทะลุด้านหลังไปยังลานจอดรถ ก่อนวิ่งไปขึ้นลิฟต์ กดขึ้นไปชั้นสามที่เจมักใช้จอดรถบ่อยๆ ได้แต่ภาวนาขอให้เจยังไม่ขับรถออกไป

พอลิฟต์เปิดออกก็เห็นลานจอดรถพอดี เล็กรีบออกจากลิฟต์แล้วเดินตามหาเจจนทั่ว ลานจอดไม่ใหญ่มากแต่กลับหาไม่เจอ หรือว่าเจกลับไปแล้ว จะตามไปที่บ้านดีหรือเปล่า แต่อย่าเลย เดี๋ยวป๊ากับม๊าเจสงสัย เจจะเดือนร้อนอีก

เล็กเดินคอตกกลับมาที่ลิฟต์ ความผิดหวังฉายทั่วใบหน้า รู้สึกเสียดายที่เมื่อกี้ดันปากหนัก ถ้าบอกเจตรงๆ ว่ามีเรื่องอยากคุยด้วยก็จบแล้ว

เล็กกดลิฟต์แล้วยืนรอ ตอนนี้ไม่มีใครเหลืออยู่เลย อึดใจเดียวลิฟต์ก็เปิดออก เล็กกำลังจะเดินเข้าไป พลันต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงดังมาจากข้างหลัง

"ตามหาใครอยู่เหรอครับ"

แค่ได้ยินเสียง เล็กก็ฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจ "คุณเจ!"

เล็กหันหลังกลับไปหาต้นเสียง เห็นเจยืนอยู่ห่างไปไม่กี่ก้าวก็วิ่งเข้าไปกอด น้ำตาซึมด้วยความดีใจ เจกอดตอบคนขี้แยพลางลูบหลังเบาๆ อ้อมกอดแบบนี้เล็กรอคอยมากว่าหนึ่งเดือนเต็มแล้ว

"ผมคิดถึงคุณเจมากเลยรู้ไหมครับ"

"คิดถึงทำไมครับ เจอกันเกือบทุกวัน" เจสัพยอก

"แต่มันไม่ใช่แบบนี้ไง" เล็กกอดเจแน่นขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าเจเข้าใจตรงกันว่า "แบบนี้" คือ "แบบไหน" เมื่อกอดพอใจแล้วเล็กจึงผละออก มองหน้าอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มละไม "ผมได้คำตอบแล้วนะครับคุณเจ"

เจยิ้มกว้าง แม้เหนื่อยแต่ก็ดูมีความสุข "ชัดแล้วใช่ไหมครับ" เจถาม

เล็กพยักหน้า "ชัดยิ่งกว่าชัดเลยครับ คุณเจไม่ปล่อยมือผม ทั้งๆ ที่..." เล็กละไว้ในฐานที่เข้าใจ

"ก็ผมสัญญาไว้แล้วไงว่าจะไม่ปล่อยมือคุณเล็ก" เจบอกพลางวางมือบนไหล่สองข้างของเล็ก จ้องตาให้อีกฝ่ายเขินเล่น

"ก็นั่นแหละ แต่ผมรู้ว่ามันไม่ใช่เพราะหน้าที่หรือคำสัญญาอย่างเดียวหรอก ผมก็ไม่รู้จะอธิบายเป็นคำพูดยังไง รู้แต่ว่า...มันเป็นการพิสูจน์ตัวเองที่โคตรดีเลย" เล็กยิ้มด้วยแววตาชื่นชม "อ้อ...คุณเจอยากให้ผมพูดหรืออธิบายอะไรไหมครับ หรือว่าไม่จำเป็น"

เจส่ายหน้า แค่นี้เล็กคงรู้แล้วว่าเจคิดอะไร ส่วนเรื่องเล็กกับน้ำฝน เจคงรู้จักนิสัยแฟนสาวของตัวเองดี ไม่จำเป็นต้องอธิบายให้เปลืองน้ำลาย

"คุณเล็กเป็นไรทำไมขี้แยครับวันนี้ ไม่ดีใจเหรอ เป็นทับทิมแล้วนะครับ ได้เงินเป็นแสนเลย" เจยกมือขึ้นปัดเกลี่ยไรผมให้เล็กเบาๆ

"ดีใจสิครับ แต่ได้เงินเป็นแสน...ก็ยังไม่ดีใจเท่ากับได้รู้ว่า..." เล็กละไว้ในฐานที่เข้าใจอีก สักพักก็เปลี่ยนเป็นถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง "คุณเจเหนื่อยหรือเปล่า"

"นิดหน่อย แต่เห็นคนเติบโตก็หายเหนื่อยแล้ว"

"นิดหน่อยจริงเหรอ ผมว่าคุณเจเหนื่อยมากเลยนะ นอนก็ไม่ค่อยได้นอน"

เจยิ้มละไมแต่ไม่พูดอะไร

"ไปบ้านผมไหมครับคุณเจ ผมจะดูแลคุณเจเอง จะบริการให้ทุกอย่างเลย อยากได้อะไร อยากให้ทำอะไร...บอกผม" เล็กใจกล้าหน้าด้านชวน ช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เจไปส่งเล็กที่บ้านก็จริง แต่ไม่เคยอยู่ค้างด้วยเลย

เจยืนนิ่ง ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ เล็กจึงขอร้องอีกครั้ง "ไปนะครับคุณเจ คุณเจน่ะ...ไม่ได้นอนบ้านผมมาเป็นเดือนแล้ว ไม่เหงาบ้างเหรอครับ ผมน่ะ...นอนเหงาทุกคืนเลย" พูดไปแล้วเล็กก็เขิน นี่คือครั้งแรกในชีวิตที่ออกปากชวนผู้ชายไปนอนบ้าน "ไปนะครับคุณเจ"

เจพยักหน้าในที่สุด เล็กดีใจจนนึกอยากกระโดดกอด

"คุณเจครับ" เล็กทำท่าซึ้ง แต่ก็ดูแปลกๆ นิดหน่อย

"หืม..." เจเอียงคอ

"ตั้งแต่เกิดมา นอกจากแม่แล้ว ผมยังไม่เคยเห็นใครดีกับผมอย่างนี้เลย คุณเจไม่ใช่ญาติ ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่กลับห่วงผม ห่วงอนาคตผม แถมยังยอมเหนื่อยกับผมอีก ขอบคุณนะครับอัปไลน์ ไม่รู้จะขอบคุณยังไงให้เท่ากับความรู้สึกของผม"

เล็กหยุดเว้นจังหวะ ใจเริ่มเต้นรัว ริมฝีปากก็เริ่มสั่นไปด้วย ยิ่งเห็นเจรอฟังก็ยิ่งประหม่าและตื่นเต้น

"ขอโทษที่เคยไม่เชื่อใจนะครับ ขอโทษที่วันนั้นผมถามพล่อยๆ ออกไป แล้วก็ขอโทษ...ที่ทำให้คุณเจน้อยใจเรื่องนั้น ตอนนี้...ผมรู้แล้วว่า..." เล็กหยุดเว้นจังหวะอีก สูดลมหายใจลึกๆ เพื่อรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่พอมี

เจเลิกคิ้วสงสัย "รู้ว่าอะไรเหรอครับ"









"ผมรักคุณเจครับ!!!"

TBC
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-09-2016 18:07:40 โดย sarawatta »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
ถึงเหนื่อยก็มีความสุขเนอะ

ในที่สุดเล็กก็บอกรักเจแล้ว

ชอบฉากสุดท้ายสุดมากๆ ตื้นตันใจ เห็นคนมีความสุข

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
จะมีปัญหาอีกแล้วสิ น่าปวดหัวจริงๆ น่าสงสารเล็กนะที่มีน้องชายแย่ๆแบบนั้น สู้ต่อไปแล้วกันคุณเล็ก ดูจะโดนหนักก็เล็กนี้แหละเรื่องนี้

ออฟไลน์ Rabity

  • #slytherinforlife
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 523
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-8
มาแล้วๆๆๆๆ
ดีใจกับเล็กด้วยนะคะ ในที่สุดก็เป็นทับทิมแล้ว
และดีใจมากที่เล็กสารภาพรักแล้ว อิอิ
รอตอนหน้าค่ะ อยากเห็นคู่นี้เขาสวีทกัน วันนี้แอบฉีกยิ้มหลังอ่านจบ คู่นี้เขาน่ารักกันจริงๆ
ยัยน้ำฝน น้ำเน่า ถอยไปไกลๆเลยนะยะ
อย่าดราม่านักเลยนะคะ เราชอบบรรยากาศแบบนี้ และหวังว่ามันคะจะมีต่อไป 555
ปล.ละครหลังข่าวเรื่องใหม่ชื่อคุ้นๆนะคะ 555 คุณ sarawatta เป็นคนเขียนบทรึเปล่าคะเนี่ย กร๊ากกกกกกกก

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
คุณเล็กน่ารักจังเลยค่ะ เหมือนเด็กจริงๆ ด้วยน้าา ^^ ยิ่งตอนที่วิ่งเข้าไปกอดเจนะคะ งื้ออ.. น่าเอ็นดูเหลือเกิน~ :กอด1: ขอกอดด้วยคนได้หรือเปล่าคะเนี่ย >.<

น้ำฝนนี่ยังไม่จบอีกเหรอ? -*- ที่ผู้ชายเขาไม่ต้องการก็เพราะทำตัวเองทั้งนั้น ไม่ได้สำนึกถึงความจริงอะไรบ้างเลย ที่สำคัญ..เวลาของคุณเล็กกับเจมีค่าเกินกว่าจะเอามาวางแผนการกลั่นแกล้งเธออย่างที่เธอเข้าใจนะคะ ขอบอก~ สำคัญตัวเองผิดจริงๆ เลยค่ะ

ปล. น้ำฝน กับ นินา เขาสองคนเป็นพี่น้องที่พลัดพลากจากกันหรือเปล่าคะเนี่ย? เหมือนกันเกิ๊น~ อยากจะจับทั้งสองคนมาเขย่ารวมกันแล้วยัดเข้าไหเสียเหลือเกินค่าา :katai1:

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :katai2-1:การทำงานร่วมกันก้อทำให้ความสัมพันธ์แนบแน่นขึ้นอีกน่ะ ได้เห็นอะไรหลาย ๆ อย่างที่เราไม่เคยคิด รอบทสวีทหวาน ๆ ด้วยล่ะ
ได้อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้อยากกลับไปทำธุรกิจแบบนี้จังเลย ดูน่าสนุก เสียดายเราไม่ได้อัปไลน์ดี ๆ แบบเจ  :katai1: ยังไงถ้ามาอัพตอนใหม่ช่วยลงหน้าให้ด้วยน่ะจ้ะ จะดีมาก ๆ เลย  :mew1:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ห๊ะ น้ำฝนยังไม่เลิกอีกเหรอ

แต่ไม่เป็นไนคุณเล็กบอกรักคุณเจแล้ว

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
ก็อย่างว่าแหละ ถ้างั้นเขาจะมีกฏอับไลน์กับดาวไลน์ห้ามรักกันเหรอ มันมีผลต่อธุรกิจ แถมเป็นการทำผิดที่ร้ายแรงด้วยนะ รู้สึกผิดหวังกับตอนนี้อยู่มากเลย แบบนี้ก็คงมีใครสักคนต้องผิดหวังล่ะนะ การจะรักใครสักคนมันก็ยากพอแล้ว  ยังจะมีเรื่องงาน เรื่องสังคมอีก ถ้าเป็นแบบนี้บ่อยๆก็คงได้เลิกกันแล้วล่ะ ถึงเจจะไม่แสดงอารมณ์แต่การกระทำมันฟ้องเหมือนเดิม นี้จะว่าแต่พึ่งคบกันเลย ขนาดคนแต่งงานมีลูกด้วยกันหลายคนก็ไม่ค่อยจะเชื่อใจสามีหรือภรรยาเท่าไหร่หรอกกว่าแอบไปมีน้อย ดูแบบนี้ก็รู้แล้วว่ามีปัญหาตามมาอีกเยอะ รู้สึกผิดหวัง พระเอกผมชอบอยู่นะรูปอ่ะ ผมว่าไผ่เท่ดีน่ารักด้วย คนแต่งก็สู้ๆต่อไปละกัน

ลืมตอบ

ความรักห้ามไม่ได้หรอกครับ จริงๆ ไม่มีกฎจรรยาบรรณเรื่องนี้ ยัวร์เวย์ให้อิสระในการตั้งกฎหลายๆ อย่างด้วยกลุ่มเราเอง (เพราะเขาคิดว่าเราโตแล้ว คิดเองได้) หลายๆ กลุ่มจึงตั้งกฏขึ้นมาเรื่องการผิดศีลข้อ 3 แต่ว่าไม่ได้ห้ามรักกันครับ อันนี้ไม่น่าจะห้ามได้นะครับ รักกันได้ ขอแค่อย่าผิดศีลข้อสามก็พอครับ อิๆ

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
ครับผม ผมก็แค่เป็นห่วงว่าอนาคตทั้งเจเล็กจะถูกมองไม่ดี อีกอย่างถ้าเกิดเขาทะเลาะกันแบบนี้จะทำให้มีปัญหาในภายภาคหน้ารึเปล่า แล้วเจยังมาทำให้เล็กใจแป้วอีก เจเป็นคนมีความคิดน่าจะคิดได้และสอนเล็กให้คิดมีเหตุผล แต่ก็เพราะความคิดของคนเรามันไม่แน่นอน แล้วยิ่งเจกับเล็กเปิดตัวช้าผมว่าเล็กจะยิ่งมีปัญหาคนอื่นว่าเล็กเสียๆหายๆก็ได้ คนแต่งก็สู้ต่อไปนะครับ

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
กรี้ด!!  เจบอกรักคุณเล็กแล้วน่ารักที่สุด

 :katai1: น้ำฝน จะวางแผนอะไรอีก  :ling1:

รอตอนต่อไป

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด