✿✿ อัปไลน์ที่รัก ✿✿CHAPTER 27 ❋ The Grand Opening
เล็กแจ้งดาวน์ไลน์ที่อยู่ในไลน์กลุ่มว่าจะขอปิดโทรศัพท์หนีนักข่าวชั่วคราวแล้วจากนั้นก็ปิดโทรศัพท์ของตัวเองไปเลย ตั้งแต่ออกมาจากงานจนมาถึงบ้าน มีโทรศัพท์ติดต่อเข้ามาตลอดเวลาจนนับสายแทบไม่ถ้วน บรรดานักข่าวและสำนักข่าวที่อยากได้ข่าวไปขายต่างก็เห็นโอกาสนี้เป็นโอกาสทองทั้งนั้น แต่ ณ เวลานี้เล็กไม่ต้องการตอบคำถามใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนหนึ่งนั้นเป็นเพราะว่ามีหลายอย่างที่เล็กยังไม่เข้าใจชัดเจนดีพอ
พอเดินมาจนสุดทางเดินของสะพานที่ทอดตัวยาวมาถึงเกือบกลางทะเลสาบในหมู่บ้านแล้วเล็กกับเจก็นั่งลงและหันหลังพิงกัน คืนนี้ไม่มีดวงจันทร์ให้เห็น เห็นแต่แสงดาวรางๆ เพราะแสงไฟโดยรอบทำให้มองเห็นความสวยงามของท้องฟ้ายามค่ำคืนได้ไม่เต็มที่ ตอนแรกว่าจะนั่งคุยกันในบ้านแต่เล็กเห็นว่าการได้ออกมานั่งรับลมเย็นๆ นอกบ้านบ้างก็น่าจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้น
"คุณเล็กว่ามันเป็นการจัดฉากเพื่อเรียกเรตติ้งละครหรือเปล่าครับ"
"อืม...ก็น่าคิดนะครับคุณเจ แต่ปกติ...ถ้าจะมีการจัดฉากผมก็จะต้องรู้ด้วยทุกครั้ง แต่ครั้งนี้...ไม่เห็นมีใครบอกอะไรผมเลย ผมก็เลยคิดว่าไม่น่าจะใช่"
เล็กตอบไปแล้วก็ยังคงครุ่นคิดอยู่ จะว่าไปเรื่องนี้ก็มีเงื่อนงำน่าสงสัยหลายอย่าง อยู่ๆ โฮปที่ไม่เคยมีทีท่าว่าจะสนใจผู้ชายกลับมาชอบเล็กทั้งๆ ที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน หรือว่ามันจะเป็นแผนเรียกเรตติ้งละครอย่างที่เจสงสัย แต่มันก็ดูจะเกินไปหน่อยที่โฮปต้องทำถึงขนาดนี้ งานเปิดตัวของเล็กและเจกับแฟนคลับพังลงอย่างไม่เป็นท่าเลย พรุ่งนี้นักข่าวคงเขียนข่าวกันอย่างสนุก แม้ว่าเล็กกับโฮปจะไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ ก็เชื่อว่านักข่าวสามารถเขียนให้มันน่าสนใจและขายได้อย่างแน่นอน
เล็กยกโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาโฮปอีกรอบก็ยังติดต่อไม่ได้อยู่ดี สงสัยขานั้นคงปิดเครื่องหนีนักข่าวเหมือนกัน ถ้าเป็นการจัดฉากจริงโฮปก็น่าจะเป็นคนที่รู้ดีที่สุดนั่นแหละ แต่ตอนนี้กลับติดต่อไม่ได้เลย
"คุณเล็กดูนี่สิครับ มีคนโพสคลิปที่ผมทะเลาะกับนายโฮปนั่นลงยูทูปแล้ว"
เจหันหน้ามาพร้อมกับยื่นโทรศัพท์มือถือของตัวเองให้เล็กดู ตอนนี้ในหน้าแฟนเพจของเล็กและโฮปมีคนเอาคลิปที่ถ่ายไว้ไปแปะไว้แล้ว มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันไปต่างๆ นาๆ อย่างล้นหลาม ถ้าหากว่านี่คือการเรียกเรตติ้ง ก็นับว่าเป็นกลยุทธที่ได้ผลมากเพราะเดี๋ยวนี้คนชอบเรื่องฉาวๆ แรงๆ หรือมีเงื่อนงำให้น่าค้นหา
เล็กดูแล้วก็ชักกังวลใจ ไม่ห่วงตัวเองเท่าไหร่หรอกเพราะเจอเรื่องไม่ดีในวงการนี้มาเยอะแล้ว คนที่น่าเป็นห่วงมากกว่าก็คือเจนี่แหละที่ต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องไม่เป็นเรื่องในวงการนี้ไปด้วย
"อีกไม่นานคลิปกับข่าวก็คงจะแพร่ไปทั่ว ผมกลัวที่บ้านของคุณเจรู้เรื่องนี้จังเลยครับ"
พอเล็กพูดจบก็ทำให้เจนึกขึ้นมาได้ จึงรีบเอาโทรศัพท์คืนมาแล้วก็โทรหาพี่สาวทันที
"เจ๊เจน ได้ข่าวอะไรเกี่ยวกับผมหรือเปล่าครับ" เจเข้าเรื่องทันทีโดยไม่ต้องอ้อมค้อมเพราะถ้าพี่สาวเห็นข่าวหรือคลิปแล้วก็น่าจะเข้าใจได้ไม่ยาก
"ข่าวอะไรเหรอ"
พอรู้ว่าพี่สาวยังไม่รู้แล้วเจจึงโล่งใจขึ้นมาหน่อย อย่างนี้ก็น่าจะแปลว่าป๊ากับม๊ายังไม่รู้เช่นกัน
"คืออย่างนี้ครับเจ๊เจน..." แล้วเจก็เล่าเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นให้พี่สาวฟัง
"ตายแล้วขนม พรุ่งนี้มันต้องเป็นข่าวใหญ่แน่ๆ เลย ป๊ากับม๊าคงไม่รู้หรอกเพราะเขาไม่ค่อยดูข่าวบันเทิง แต่ญาติๆ เราต้องเห็นแน่ๆ เลย แล้วถ้าเกิดเขาโทรมาบอกป๊ากับม๊า เจ๊ก็ไม่อยากจะคิดเลยขนม"
"ทำไงดีล่ะครับเจ๊" สีหน้าของเจกังวลอย่างเห็นได้ชัด
"มันปิดยากแล้วล่ะขนม" เจนเงียบไปเหมือนกับกำลังครุ่นคิดหาทางออกช่วยน้องชาย
"เอางี้ไหมขนม บอกป๊ากับม๊าไปก่อนก็ได้ว่าเป็นแค่การเรียกเรตติ้งละครเฉยๆ นักข่าวเข้าใจผิดกันไปเอง ดีไหม"
"อืม...ดีเหมือนกันครับเจ๊"
"พี่รู้ว่าขนมคงคิดไว้แล้วล่ะว่าต่อไปจะทำยังไง คนดีๆ อย่างขนมกับคุณเล็กตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้หรอก คิดบวกไว้นะขนม เจ๊จะคอยเอาใจช่วย"
ได้กำลังใจจากพี่สาวแล้วก็ทำให้เจใจชื้นขึ้นมาอีกมากทีเดียว อย่างน้อยในครอบครัวก็ยังมีอย่างน้อยหนึ่งคนที่เข้าใจและยอมรับเรื่องนี้ได้
"ขอบคุณครับเจ๊ แค่นี้ก่อนนะครับ"
พอเจวางสายปุ๊บเล็กก็รีบถามอย่างเป็นห่วง "พี่เจนว่าไงครับคุณเจ"
เจเหยียดยิ้มน้อยๆ สีหน้าดูหายกังวลไปพอสมควร
"พี่สาวผมเข้าใจผมดีครับคุณเล็ก เจ๊เจนแนะนำว่าให้ผมบอกป๊ากับม๊าไปก่อนว่าเป็นการจัดฉากเพื่อเรียกเรตติ้งละคร แต่หลังจากนี้...เราคงต้องทำให้มันเป็นเรื่องจริงแล้วล่ะคุณเล็ก"
เล็กพยักหน้าเห็นด้วย ความลับไม่มีในโลกหรอก สักวันที่บ้านเจก็ต้องรู้จนได้
"คุณเล็กกลัวหรือเปล่าครับ ถ้าเกิดว่า...ป๊ากับม๊าผมรับไม่ได้ คุณเล็กจะสู้ไปกับผมไหม"
เล็กขำเบาๆ เมื่อเห็นเจนิ่วหน้า "คุณเจ...ผมรู้อยู่แล้วว่าความรักของเราสองคนไม่ง่ายหรอก การที่ผมปล่อยให้ความสัมพันธ์ของเราสองคนมาไกลขนาดนี้ก็เพราะผมอยากใช้ชีวิตอยู่กับคุณเจไงครับ ไม่ว่าจะมีอุปสรรคมากแค่ไหนผมก็ยินจะร่วมฝ่าฟันไปกับคุณเจ จนกว่าคุณเจจะปล่อยมือผมไปนั่นแหละ"
เจรีบเอานิ้วชี้มาแตะปากเล็กไว้ทันทีที่ได้ยินเรื่องให้เจปล่อยมือ
"ผมจะไม่ปล่อยมือคุณล็กอย่างเด็ดขาด อย่าพูดอย่างนี้อีกนะครับ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราก็ต้องจับมือกันไว้...นะครับคุณเล็ก"
เล็กหยุดมองคนตรงหน้าอย่างสนใจ ผู้ชายคนนี้ครั้งหนึ่งเคยสัญญากับเล็กไว้ว่าถ้าเล็กให้อภัยและให้โอกาสอีกสักครั้ง ผู้ชายคนนี้จะไม่ปล่อยมือเล็กไป จะทำงานไปด้วยกัน สำเร็จไปด้วยกัน จับมือกันไปจนกว่าวันหนึ่งเล็กจะปล่อยมือไปเสียเอง เจได้ทำตามทุกอย่างตามที่สัญญาไว้แล้วในเรื่องธุรกิจ เหลืออีกเพียงสามเดือนเท่านั้นที่เล็กจะนับคุณสมบัติเป็นแพลตินัม คงไม่ยากเกินไปอย่างแน่นอนถ้าเจยังคอยสนับสนุนด้วยดีเหมือนที่ผ่านมา
แล้วเรื่องความรักล่ะ เล็กเชื่อใจเจเหมือนกับที่เชื่อใจเรื่องธุรกิจหรือเปล่า อันที่จริง ที่มาของความเชื่อใจก็คงมาจากความรักนั่นแหละ
"ครับคุณเจ ต่อไป...ผมจะไม่พูดอย่างนี้อีก" เล็กรับคำพร้อมกับยิ้มน้อยๆ
"อ้อ...เป็นแฟนกับผม คุณเจต้องอดทนหน่อยนะครับ อาชีพอย่างผม...ใครๆ ก็อยากรู้อยากเห็น มีคนคอยตาม คอยสอดแนมอยู่ตลอดเวลา เรื่องส่วนตัวที่ไม่ควรจะเป็นปัญหาก็อาจจะเป็นปัญหาได้"
"ก็ดีเหมือนกันนะครับ เผื่อผมจะดังเหมือนคุณเล็กบ้าง"
เจพูดติดตลก แล้วก็เอามือโอบศีรษะของเล็กให้ซบลงบนไหล่ของตัวเอง มืออีกข้างหนึ่งดึงมือเล็กมาจับไว้
"ผมรักคุณเล็กนะ"
เจไม่ได้พูดอะไรต่อ แค่คำว่ารักก็คงเพียงพอที่จะบอกอะไรหลายๆ อย่างได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องพูดให้มากเรื่องมากราว การกระทำหลายๆ อย่างของสองคนที่ผ่านมาต่างหากที่พูดแทนทุกสิ่งทุกอย่างได้ดีที่สุด
เล็กซบลงบนไหล่ของคนรักอย่างเหนื่อยอ่อน โชคดีที่จิตใจของเล็กเข้มแข็งขึ้นมามาก โชคดีที่เล็กได้เตรียมทางสำรองของชีวิตไว้แล้ว เล็กเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าการมีทางเลือกอื่นที่ดีกว่าสำรองไว้ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นมากแค่ไหน ทุกวันนี้เล็กก็แทบจะไม่รับงานเล็กๆ น้อยๆ เลย ไม่ต้องวิ่งหาเงินจนเหนื่อยเหมือนเมื่อก่อน ที่สำคัญ เล็กโชคดีมากที่สุดที่มีผู้ชายคนนี้อยู่เคียงข้าง เป็นทั้งอัปไลน์คนเก่งและคู่ชีวิตที่แสนดีที่เล็กหวังว่าจะได้อยู่ด้วยกันอย่างนี้ตลอดไป
✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷
วันรุ่งขึ้นคุณสนิทก็มาหาเล็กถึงที่บ้านเพื่อแจ้งให้เล็กรู้ว่าผู้ใหญ่ของช่องต้องการคุยด้วย ทางนั้นพยายามติดต่อเล็กแล้วแต่เล็กปิดเครื่องก็เลยติดต่อไปที่คุณสนิทแทน เล็กจึงต้องรีบไปพบผู้ใหญ่ที่สถานีตั้งแต่เช้า ส่วนเจก็กลับบ้านและทำงานตามปกติ
พอมาถึงก็เห็นโฮปมารออยู่ก่อนแล้ว ที่น่าแปลกคือมีคุณชิงชัยอยู่ด้วย ไม่รู้ว่ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้ยังไง
"เราต้องจัดงานแถลงข่าวโดยเร็วแล้วล่ะคุณเล็ก ผมอยากจัดพรุ่งนี้เลย คุณเล็กพร้อมไหม"
มาถึงคุณวิทวัสซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงของช่องก็เข้าเรื่องทันที เล็กออกจะแปลกใจที่คุณวิทวัสไม่ถามโฮปที่นั่งเงียบอยู่ข้างๆ เล็กว่าพร้อมที่จะแถลงข่าวด้วยหรือเปล่า
"แถลงข่าวเรื่องอะไรเหรอครับ"
เล็กนั่งลงพร้อมกับถามอย่างงงๆ พอถึงตอนนี้ก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะแถลงข่าวยังไง จะให้บอกว่าเป็นการจัดฉากเพื่อเรียกเรตติ้ง หรือจะให้บอกว่าเป็นการเข้าใจผิดกัน หรือจะให้บอกว่ายังไงกันแน่ เล็กเองยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้ยังไง
"เอาเป็นว่าพอถึงวันแถลงข่าวคุณก็จะรู้เองนั่นแหละว่าจะแถลงเรื่องอะไร นักข่าวจะถามคุณเอง คุณก็แค่ตอบไปตามที่นักข่าวถาม แค่นั้นล่ะครับ"
คุณวิทวัสบอกแล้วก็หันหน้าไปยิ้มๆ กับคนอื่นๆ ที่อยู่ในห้องอีกสามสี่คน เล็กขมวดคิ้วอย่างสงสัย คงต้องมีความไม่ชอบมาพากลอย่างแน่นอน ผู้ใหญ่ช่องนี้กำลังจะเล่นตลกอะไรกับเล็กอีกหรือเปล่า นายชิงชัยที่เล็กเพิ่งจะไว้ใจได้ไม่นานก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกแล้วหรือ แถมยังให้พระเอกอันดับต้นๆ ของเมืองไทยมาร่วมขบวนการนี้ด้วย
"ถ้าไม่มีอะไรชัดเจนผมจะไม่แถลงข่าวครับ ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับคุณวิทวัส คุณชิงชัย คุณโฮป ทุกคนกำลังทำอะไรกันอยู่เหรอครับ"
เล็กถามพร้อมกับหันไปมองหน้าทุกคนที่เล็กเรียกชื่อ ไม่มีอะไรที่เล็กต้องกลัวอีกแล้ว ต่อให้ผู้ใหญ่ไม่ป้อนงานให้เล็กก็ไม่ต้องกังวลใดๆ อีกต่อไป
"ถ้าเล็กเชื่อใจพี่ พรุ่งนี้บ่ายสามเล็กมางานแถลงข่าวที่นี่ละกัน เราจะจัดงานแถลงข่าวที่นี่ เดี๋ยววันนี้พี่จะให้คนแจ้งสำนักข่าวต่างๆ ให้ เล็กมาให้ได้ละกัน"
ชิงชัยที่นั่งฟังอยู่เงียบๆ พูดขึ้นมาบ้าง แต่ก็ไม่ช่วยทำให้เล็กหายสงสัยได้เลย มีแต่จะงุนงงมากยิ่งขึ้นเท่านั้น เล็กไม่ตอบคำถามว่าจะมาหรือไม่มางานแถลงข่าวเพราะคิดว่าเรื่องนี้มีเงื่อนงำอย่างแน่นอน ปกติผู้ใหญ่มักจะยัดสคริปต์ให้พูด แต่คราวนี้กลับไม่ให้แนวทางใดๆ เลย นับว่าเป็นเรื่องแปลกมาก
"แล้วคุณโฮปล่ะครับ" เล็กถามพลางหันไปมองชายหนุ่มที่นั่งก้มหน้าก้มตาอยู่ข้างๆ ไม่ยอมพูดยอมจาตั้งแต่ที่เล็กมาถึง
"เอาไว้เราไปคุยกันในงานแถลงข่าวละกันนะครับคุณเล็ก ตอนนี้คุณเล็กกลับบ้านไปก่อน ทำใจสบายๆ แล้วพรุ่งนี้มาเจอกัน ไม่ต้องกลัวหรอกครับ ไม่มีอะไรน่ากลัวอย่างที่คุณเล็กคิดหรอกครับ"
คุณวิทวัสรีบพูดแทรกขึ้นมาเพื่อช่วยกันไม่ให้โฮปตอบคำถาม โฮปที่ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างก็เงียบไปตามเดิม เล็กมองหน้าแต่ละคนที่อยู่รอบๆ ห้องแล้วก็ยิ่งแปลกใจ ดูเหมือนจะไม่มีใครแสดงท่าทีร้อนใจใดๆ เลย มีแต่โฮปเท่านั้นที่ดูเงียบๆ ไม่พูดไม่จาอยู่คนเดียว
พอออกมาจากห้องผู้ใหญ่แล้วเล็กก็ก้าวฉับๆ เดินตามโฮปที่สาวเท้าเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว พอเห็นว่าจะไม่ทันเล็กก็เปลี่ยนเป็นวิ่งไปดักหน้าแทน
"นี่มันอะไรกันครับคุณโฮป"
โฮปหยุดเดิน มองหน้าเล็กแล้วก็หันหนีไปทางอื่น "ผมยังพูดอะไรไม่ได้ พรุ่งนี้คุณเล็กก็จะรู้เอง ผมขอตัวก่อนนะครับ พอดีผมต้องรีบไปงาน"
ว่าแล้วโฮปก็เดินแกมวิ่งหนีหายเข้าไปในลิฟต์ท่ามกลางสายตาของพนักงานที่อยู่แถวๆ นั้นที่มองมาอย่างสงสัย เล็กถอนหายใจอย่างหนักใจ ไม่แน่ใจว่าควรจะมาแถลงข่าวพรุ่งนี้ดีหรือเปล่า แต่เอาเถอะ ถ้าใครอยากจะกลั่นแกล้งเล็กอีกก็คงไม่เป็นไรหรอก บางทีมันอาจจะถึงคราวที่เล็กต้องอำลาจากไปเสียที หลังจากที่ยึกๆ ยักๆ อยู่หลายครั้ง ถ้ายังมีเรื่องให้ต้องเสียใจอีกเล็กคงไม่อยู่แล้วล่ะ
✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷
ในที่สุดเล็กก็ตัดสินใจมาร่วมงานแถลงข่าวอย่างงงๆ มีนักข่าวมาอย่างมากมายล้นหลามจนห้องแถลงข่าวคับแคบไปถนัดตา นอกจากนักข่าวแล้วก็ยังมีบรรดาแฟนคลับและดาวน์ไลน์ของเล็กหลายคนมาให้กำลังใจด้วย น้องชายของเล็กกับบีถึงกับยอมลางานช่วงบ่ายมาร่วมงานด้วย เจนั่งอยู่กับจิ๊ด บี น้ำฝน อาร์ทและพี่ประสิทธิ์ เห็นแล้วก็รู้สึกดีใจที่คนเหล่านี้ยังคงอยู่เคียงข้างเล็กเสมอมาไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้น
พอเห็นป้ายชื่องานเล็กก็ยิ่งแปลกใจ แทนที่จะเขียนว่างานแถลงข่าวกลับเขียนว่า "The Grand Opening" แต่ก็ไม่มีใครให้คำตอบที่ชัดเจนกับเล็กได้แม้แต่คนเดียว นั่นก็ยิ่งทำให้ทุกอย่างน่าสงสัยมากขึ้นไปอีก
พอถึงเวลา เล็กกับโฮปก็เดินมานั่งที่โต๊ะแถลงข่าวด้วยกัน ช่างภาพรัวชัตเตอร์กันอย่างสนุกมือ แสงแฟลชวูบวาบอาจเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเล็ก แต่วันนี้เล็กกลับรู้สึกตื่นเต้นและประหม่าราวกับเพิ่งออกงานอย่างนี้เป็นครั้งแรก
พอนั่งลงปุ๊บ โฮปก็จัดการพูดเกริ่นนำก่อนใคร
"ขอบคุณพี่ๆ น้องๆ สื่อมวลชนแล้วก็ทุกๆ ท่านที่มาร่วมงานแถลงข่าวในวันนี้นะครับ มากันอย่างอุ่นหนาฝาคั่งเลย ขอบคุณมากๆ ครับที่ให้ความสนใจ ผมว่า...การแถลงข่าวครั้งนี้น่าจะเป็นนิมิตหมายอันดี แล้วก็น่าจะเป็นมิติใหม่ให้กับวงการบันเทิงของเราด้วยครับ ผมว่าสังคมของเรามาถึงจุดที่เราสามารถยอมรับความแตกต่างหลากหลายได้พอสมควรแล้ว มีคนมากมายที่อาจจะไม่ได้คิด ทำหรือเป็นเหมือนกับคนส่วนใหญ่ แต่คนเหล่านี้หลายๆ คนก็เป็นคนที่มีความสามารถ เป็นคนที่ทำประโยชน์ให้กับสังคมและวงการต่างๆ เพราะฉะนั้นผมก็มองว่าการที่เราจะอยู่ร่วมกันและให้โอกาสคนเหล่านี้ได้มีพื้นที่ของตัวเองในสังคมก็เป็นสิ่งที่ดีมาก ใช่ไหมครับ"
แม้ว่าเล็กจะสงสัยสิ่งที่โฮปพูดอย่างมากแต่ก็ต้องทำเป็นยิ้มๆ ไว้ก่อน ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกถึงความแปลกประหลาดจนเล็กชักไม่มั่นใจเสียแล้วว่านี่คืองานแถลงข่าวอะไรกันแน่
"อย่างที่ทุกท่านคงจะได้เห็นและได้ทราบผ่านสื่อบ้าง ผ่านโซเชี่ยลมีเดียบ้าง บางคนก็อาจจะเห็นด้วยตัวเอง ผมอยากจะขอชี้แจงให้ทราบว่าทั้งหมดนี้...เป็นการจัดฉากครับ"
สิ้นเสียงของโฮป นักข่าวและคนที่มาร่วมแถลงข่าวก็ส่งเสียงฮือฮากันใหญ่ เล็กเองได้แต่ทำหน้าเหรอหรา มองหน้าโฮปที่ไม่ยอมหันมาสบตาด้วยอย่างงงๆ ปกติไม่มีใครยอมรับง่ายๆ หรอกว่าเป็นการจัดฉาก ทำไมคราวนี้โฮปถึงได้เฉลยว่าเป็นการจัดฉากโดยไม่ต้องอ้อมค้อมเลยแม้แต่น้อย
"ส่วนจะเป็นการจัดฉากเรื่องอะไรนั้น สักครู่เราก็จะได้รู้คำตอบแล้วครับ"
คราวนี้โฮปหันมายิ้มกับเล็กแล้วก็หันไปพูดต่อ
"เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ผมขออนุญาตมอบเวทีแถลงข่าวให้คุณเล็กเลยละกันนะครับ ทุกเรื่องที่ทุกคนสงสัยคุณเล็กจะตอบได้ทั้งหมดครับ"
พูดจบแล้วโฮปก็เดินหลบไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้เล็กมองตามอย่างงงๆ ก่อนจะหันมายิ้มเจื่อนๆ กับนักข่าวที่พร้อมจะถามคำถามแล้ว แต่ละคนจ้องมองมาอย่างกระเหี้ยนกระหือรือที่จะระดมสรรพคำถามใส่เล็กอย่างเต็มที่
"ทราบมาว่าคุณเล็กจะเปิดตัวเรื่องนี้มานานแล้ว ทำไมคุณเล็กถึงอยากเป็นตัวอย่างให้คนอื่นๆ ในวงการบันเทิงได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเองล่ะคะ คุณเล็กไม่กลัวเหรอคะ"
แค่คำถามแรกก็เล่นเอาเล็กงงเป็นไก่ตาแตกเสียแล้ว
"อะไรนะครับน้อง เปิดตัวเรื่องอะไรเหรอครับ"
"แหม...ใครๆ ก็รู้กันหมดแล้วล่ะค่ะคุณเล็ก ก็คุณเล็กเล่นรับงานอย่างนี้ตลอดในช่วงหลังๆ" นักข่าวสาวคนนั้นพูดไปพร้อมกับหัวเราะไปด้วย คนอื่นๆ ก็พลอยหัวเราะตาม
"นี่มันอะไรกันครับ จะให้ผมเปิดตัวเรื่องอะไรเหรอครับ" เล็กยังคงไม่เข้าใจอยู่ดี หันมองไปที่เจกับดาวน์ไลน์ก็เห็นแต่ละคนทำหน้างงๆ เช่นเดียวกัน
"อ้าว ก็เรื่องที่คุณเล็กจะเปิดตัวว่าเป็นดาราชายที่เป็นชายรักชายไงครับ" น้องนักข่าวคนหนึ่งเฉลยออกมา
"อ้อ"
จากนั้นก็ดูเหมือนว่าเล็กจะเริ่มปะติดปะต่อเรื่องได้แล้ว วันนั้นที่เล็กกับเจเปิดตัวที่เซ็นเตอร์แห่งหนึ่งของนักธุรกิจยัวร์เวย์ระดับสูง เล็กเชิญชิงชัยไปฟังด้วย พอลงมาจากเวทีก็มีโอกาสได้เล่าให้ชิงชัยฟังว่าต่อไปเล็กอยากจะเปิดตัวเรื่องนี้ในวงการบ้าง ไม่อยากอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ อีกต่อไป แต่ยังนึกไม่ออกว่าจะเปิดตัวยังไงดี เล็กจำไม่ได้ว่าชิงชัยให้คำแนะนำยังไงบ้าง แต่เดาว่าชิงชัยน่าจะเป็นคนต้นคิดให้เกิดการจัดฉากขึ้นพร้อมกับเป็นที่มาของงานแถลงข่าวในวันนี้ ถ้าไม่ใช่ชิงชัยแล้ว โฮปก็ไม่น่าจะมาเข้าร่วมขบวนการจัดฉากนี้ได้อย่างแน่นอน
เล็กรวบรวมสมาธิอีกครั้ง เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วก็คงตามน้ำไป ก็ดีเหมือนกันที่งานเปิดตัวของเล็กมีนักข่าวให้ความสนใจกันเยอะขนาดนี้ ถ้าให้เล็กจัดงานเองอาจจะเชิญคนเยอะไม่ได้เท่านี้ด้วยซ้ำ
"เรื่องนี้นี่เอง ไม่กลัวหรอกครับ ผมไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย ผมไม่อยากหลบๆ ซ่อนๆ เหมือนหลายๆ คนที่เป็นอยู่ตอนนี้ ทำไมผมจะต้องหลบๆ ซ่อนๆ ด้วยล่ะครับในเมื่อผมไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ต่อให้เปิดตัวแล้วงานน้อยลงผมก็ไม่กลัวครับ ผมอยากเป็นตัวอย่างให้หลายๆ คนยอมรับในสิงที่ตัวเองเป็น ไม่งั้นเราจะไม่มีความสุขกับชีวิตเลย ไปไหนก็ต้องคอยหวาดระแวง เราไม่ได้ค้ายาหรือฆ่าใครตายนี่ครับ เราก็ควรจะมีชีวิตอยู่ในสังคมเหมือนกับคนทั่วๆ ไป"
เล็กหยุดเว้นจังหวะเพื่อดูผลการตอบรบจากสิ่งที่เล็กเพิ่งพูดไป พอเห็นทุกคนฟังอย่างตั้งใจก็ค่อยใจชื้นขึ้นมาได้หน่อย
"ธรรมชาติเป็นคนสร้างผมขึ้นมา เหมือนกับที่สร้างคนอื่นๆ ขึ้นมานั่นแหละครับ ถ้าผมผิดปกติ คนอื่นๆ ก็คงผิดปกติด้วยเพราะเราถูกสร้างมาเหมือนๆ กัน สร้างมาจากสิ่งเดียวกัน เราวัดคุณค่าของคนที่ไหนล่ะครับ จากรูปร่างหน้าตา จากสิ่งที่ธรรมชาติสร้างให้เขาเป็น หรือว่าจากคุณค่าของงานที่เขาทำ"
พอเล็กพูดจบทั้งห้องก็เงียบไปชั่วขณะ สักพักก็มีเสียงพูดคุยกันเซ็งแซ่ตามเดิม
"เอาอย่างงี้ ไม่ต้องถามคำถามอะไรผมก็ได้ ผมจะเล่าให้ฟังเองละกันนะครับ ฟังผมเล่าจบแล้วอยากถามอะไรก็ค่อยถามได้ครับ"
ไมค์และเวทีเป็นของเล็กแล้ว เพราะฉะนั้น เล็กจะกำหนดให้มันเป็นยังไงก็ได้ มันอาจจะน่าตกใจอยู่บ้างที่ถูกเซอร์ไพรส์หนักขนาดนี้ แต่ธุรกิจยัวร์เวย์ก็ช่วยทำให้เล็กมีจิตใจที่เข้มแข็ง คิดบวกและแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าให้เป็นคุณกับตัวเองได้
"ตอนนี้...ผมมีความรักแล้วกับผู้ชายคนหนึ่ง ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ ถ้าแฟนผมโอเค ผมจะพามาเปิดตัวเอง ไม่ปิดบังแน่นอนครับ อย่าเพิ่งสงสัยหรือตั้งคำถามว่าเป็นใคร เอาเป็นว่าผมยอมรับว่าผมกำลังคบหาดูใจกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่ละกัน คือ...เมื่อก่อนผมก็ไม่คิดว่าผมจะมีแฟนเป็นผู้ชายได้หรอกนะครับ แต่เชื่อผมอย่างหนึ่งเถอะครับ ความรักนอกจากจะไม่มีพรมแดนแล้ว ความรักก็ไม่มีเพศด้วย"
"วันนี้เราจะรักใครสักคนเพราะว่าอะไรล่ะครับ เราถูกสอนมาว่าผู้ชายต้องรักกับผู้หญิง ผู้หญิงก็ต้องรักกับผู้ชาย แต่บางครั้ง เราก็อาจจะได้เจอใครสักคนที่ดีๆ ที่เราคิดว่าจะอยู่กับเราได้ ดูแลกันและกันได้ เคมีเข้ากัน พูดคุยกันเข้าใจ แล้วคนๆ นั้นก็อาจจะเป็นเพศเดียวกับเรา ถ้าเราเจอใครคนนั้น เราจะทำยังไงครับ หลายคนอาจจะกลัว ปล่อยผ่านเลยไป ไม่กล้าทำตามสิ่งที่หัวใจเราบอกว่าใช่ ทำไมเราไม่ลองมีความรักอย่างนี้ดูบ้างล่ะครับ สำหรับผม ความรักเป็นเรื่องของหัวใจครับ ถ้าหัวใจบอกว่าใช่ผมก็อยากทำตามที่หัวใจผมต้องการ ผมไม่อยากโกหกตัวเอง พอตัดสินใจมีความรักอย่างนี้แล้วก็ไม่เห็นจะมีอะไรนี่ครับ เราก็มีคนคอยห่วงใย ดูแลกัน คิดถึงกัน ก็เหมือนที่เรามีแฟนปกติทั่วไปนั่นแหละครับ"
"ก็อย่างที่หลายๆ คนอาจจะเคยรู้มาก่อนว่าผมเคยมีแฟนเป็นผู้หญิงอยู่คนหนึ่งก่อนหน้านี้ แล้วก็เลิกกันไป แต่ก็ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ผมเปลี่ยนใจมาชอบผู้ชายหรอกครับ แต่ผมอยากจะบอกว่า วันหนึ่งที่ผมได้เจอกับผู้ชายคนหนึ่งที่บังเอิญผ่านเข้ามาในชีวิต ความรู้สึกหลายๆ ที่เคยเกิดขึ้นตอนที่ผมเคยมีความรักกับผู้หญิงก็กลับมา มันก็เป็นความรู้สึกเดียวกัน ไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย ก็คิดถึงกัน เป็นห่วงกัน อยากดูแลกัน อยากอยู่ใกล้กัน แล้วก็อยากให้ใครคนนั้นทำเหมือนกับที่เราทำ ในเมื่อมันไม่ต่างกันแล้ว มันก็ควรจะเป็นความรักเหมือนกัน และผม...ก็ควรจะทำตามเสียงเรียกร้องในหัวใจของผม ไม่ใช่เอาแต่กลัวว่าใครจะมองยังไง"
"ทุกวันนี้ ผมไม่แคร์หรอกครับว่าใครจะมองยังไง เพราะผมบังคับใครไม่ได้ ในธุรกิจที่ผมทำอยู่ มีอยู่คำพูดหนึ่งที่ผมชอบมากๆ คนสำเร็จหลายคนสอนผมว่า...ความพยายามเปลี่ยนแปลงผู้อื่นเป็นจุดเริ่มต้นของความล้มเหลว ความพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ เพราะฉะนั้น ผมจะไม่เปลี่ยนใคร ผมแค่จะบอกว่าผมเป็นยังไง รับได้ก็คบกันไป รับไม่ได้ จะไม่คบกันก็ไม่เป็นไรครับ คนทั้งโลกไม่จำเป็นต้องเข้าใจผมคนเดียว ถ้าจะมีคนไม่เข้าใจบ้างก็ไม่เป็นไร อย่างเช่นทุกคนที่มาในวันนี้ คงไม่ใช่ทุกคนที่รับได้ แต่ผมก็ทำได้แค่บอกหรืออธิบาย ส่วนใครจะเข้าใจว่ายังไงก็เป็นสิทธิ์ของคนนั้นครับ"
"เอาเป็นว่า...ผมขอเปิดตัวอย่างเป็นทางการละกันครับว่าผมเป็นชายรักชาย จะเรียกผมว่าเกย์ก็ยินดีครับ แล้วผมก็มั่นใจว่าสิ่งที่ผมเป็นไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยกับใคร ผมจะทำหน้าที่นักแสดงของผมให้ดีที่สุด ผมจะทำงานทุกชิ้นด้วยความตั้งใจอย่างที่สุด ผมจะเป็นคนดีของสังคมนี้ให้มากที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ ถ้าผมมีมากพอ ผมก็จะเผื่อแผ่แบ่งปันให้คนอื่นๆ ด้วย คนอย่างผมก็มีสิทธิ์ที่จะอยู่ในสังคมนี้ใช่ไหมครับ ผมขออ้างสิทธินี้ของผมอย่างเต็มที่ละกัน ไม่ต้องมาไล่ผมนะครับเพราะผมจะไม่ไปไหน ผมจะอยู่ในที่ที่เดียวที่ทุกคนอยู่ ผมจะไม่ปิดบังตัวเองอีกต่อไป ขอบคุณทุกคนที่รับฟังและเข้าใจผมนะครับ ถึงจะไม่เข้าใจก็ขอขอบคุณที่มารับรู้ หวังว่าต่อไปคนที่ยังไม่เข้าใจก็อาจจะเข้าใจมากขึ้น ขอบคุณจากใจครับ"
จากนั้นเสียงปรบมือก็ดังกึกก้องไปทั่วห้องพร้อมกับเสียงโห่ร้องแสดงความยินดี เล็กถึงกับน้ำตาไหลเลยทีเดียว เจ ดาวน์ไลน์และแฟนคลับของเล็กก็ดูเหมือนจะอยู่ในอาการเดียวกัน เล็กหันไปสบตากับเจแล้วก็ยิ้มด้วยความรู้สึกที่โล่งใจอย่างบอกไม่ถูก
จากนั้นโฮปก็เดินถือช่อดอกไม้ออกมาพร้อมกับคุณวิทวัสและชิงชัย แล้วโฮปก็เป็นตัวแทนมอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีให้กับเล็ก
"ยินดีด้วยนะครับคุณเล็ก" โฮปกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม เสียงโห่ร้องดังขึ้นยิ่งกว่าเดิม
"ขอบคุณคุณโฮปมากนะครับ" เล็กรับช่อดอกไม้มาพร้อมกับกล่าวขอบคุณอย่างจริงใจ
"ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณคุณชิงชัยดีกว่า"
โฮปโบ้ยไปที่อีกคนที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆ โฮป
"ถ่ายรูปก่อนครับ" คุณวิทวัสเตือนเมื่อเห็นนักข่าวเริ่มรัวชัตเตอร์
ทุกคนจึงหันไปยิ้มให้กับนักข่าวและปล่อยให้นักข่าวถ่ายรูปจนหนำใจ ชิงชัยเดินมาหาเล็กแล้วก็ตบไหล่เล็กเบาๆ
"ขอโทษด้วยนะที่พี่เซอร์ไพรส์เล็กหนักไปหน่อย จะเปิดตัวทั้งที จะเปิดให้มันเล็กๆ ทำไมล่ะ มันต้อง Grand Opening อย่างนี้ไปเลย ไหนๆ เล็กก็อยากจะเป็นตัวอย่างให้คนอื่นๆ แล้วก็เปิดให้มันชัดๆ ไปเลย เล็กพูดดีมากเลยรู้ไหมวันนี้"
"ขอบคุณครับพี่ ขอบคุณที่คอยช่วยเหลือสนับสนุนผมมาตลอด ขอบคุณคุณวิทวัสด้วยครับ"
เล็กพูดทั้งน้ำตา ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้รับความช่วยเหลือและความเอ็นดูจากผู้ใหญ่ถึงขนาดนี้ เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว เล็กก็คงไม่ทิ้งวงการบันเทิงไปง่ายๆ แล้วล่ะ
หลังจากที่ให้นักข่าวสัมภาษณ์กันอย่างหนำใจแล้วเล็กก็เดินหลบไปข้างหลังที่มีห้องรับรองของดาราอยู่ ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในห้องนอกจากโฮปคนเดียวที่นั่งรออยู่ คุณชิงชัยกับคุณวิทวัสมีธุระต้องไปต่อจึงรีบไปตั้งแต่ตอนที่เล็กยังให้สัมภาษณ์นักข่าว
โฮปลุกขึ้นเดินมาหาแล้วก็ตบไหล่เล็กเบาๆ แม้จะมีรอยยิ้มแต่ก็ดูเศร้าๆ อยู่ในทีจนเล็กอดแปลกใจไม่ได้
"คุณเล็ก ตอนแรก...ผมก็คิดแค่ว่าจะมาช่วยสร้างสถานการณ์เฉยๆ แต่คุณเล็กรู้ไหม ตอนนี้...ผมว่าผม...คงจะชอบคุณเล็กไปจริงๆ แล้วล่ะ"
เล็กมองโฮปอย่างตกใจ แต่ก็พยายามรักษาสีหน้าไม่ให้ดูตกใจมากจนเกินไปเพราะกลัวว่าจะมีใครโผล่เข้ามาเห็นเสียก่อน
"คุณโฮปไม่ได้อำผมเล่นใช่ไหมครับ"
โฮปส่ายหน้า "คนน่ารักๆ อย่างคุณเล็ก ใครๆ ก็อยากรักทั้งนั้นแหละครับ เสียดาย...ผมคงมาช้าไป"
เล็กได้แต่แอบสงสารในใจ แต่จะให้เล็กเปลี่ยนใจตอนนี้ก็คงจะสายไปเสียแล้วล่ะเพราะหัวใจทั้งหมดของเล็กอยู่ที่ใครคนนั้นคนเดียวเท่านั้น เพราะฉะนั้น โฮปก็คงต้องแก้ปัญหาในหัวใจของตัวเองไปตามระเบียบ เรื่องนี้มันช่วยกันไม่ได้จริงๆ คุณพระเอกสุดหล่อ
TBCขอรณรงค์ให้คนอ่านสละเวลา 1 วินาทีบวกเป็ดเป็นกำลังใจให้ 'นักเขียนทุกคน' ทุกเรื่อง ทุกตอนนะครับ สร้างสรรค์ชุมชนแห่งการแลกเปลี่ยนแบ่งปัน