▓ ▒ ░ ต้น-สน∞ปาฏิหาริย์รักที่รอคอย - SP6: จากเพื่อนสู่รัก [5.2.2017] ░ ▒ ▓
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ▓ ▒ ░ ต้น-สน∞ปาฏิหาริย์รักที่รอคอย - SP6: จากเพื่อนสู่รัก [5.2.2017] ░ ▒ ▓  (อ่าน 193237 ครั้ง)

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10

อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ด กรุณาอ่านทุกคน
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วย

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

ขอบคุณพี่ๆ น้องๆ และเพื่อนๆ ทุกคนที่ได้เดินทางมาส่ง "ต้น" กับ "สน" น้องชายที่น่ารักของผมจนถึงที่หมาย ขอบคุณที่ติดตามให้กำลังใจกันมาตลอด ที่ผมเขียนเรื่องนี้จนจบได้เพราะได้กำลังใจดีๆ นี่แหละครับ แม้จะเหนื่อยและท้อหลายครั้ง ผมก็ผ่านมันมาได้และเขียนจนจบ


นิยายแสนรักเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องหนึ่งที่จบไป แต่เป็นของขวัญที่พิเศษสุดสำหรับชีวิตผม นิยายชาย-ชายเรื่องแรกและเรื่องเดียวในชีวิตที่ผมจะเล่าถึงความรักและผูกพันที่ยาวนานของคนสองคนได้อย่างลงตัวและสมบูรณ์แบบอย่างที่ผมอยากได้

นี่คือหนึ่งในเรื่องราวความรักที่คนที่ได้สัมผัสอย่างลึกซึ้งจะไม่มีวันลืม


ต้น-สน∞ปาฏิหาริย์รักที่รอคอย



"ต้น-สน" ในหัวใจและความทรงจำของพี่ชายคนนี้ตลอดไป

อ้างถึง
"นายคงจะรอคอยปาฏิหาริย์นี้มานานแล้วใช่ไหม"

แม้จะเป็นคำถามที่มาจากเนื้อเพลง แต่มันก็ทำให้ต้นอดใจเต้นรัวไม่ได้ว่าสนต้องการสื่ออะไรกันแน่ ต้นพยักหน้ายอมรับ ส่งรอยยิ้มให้คนที่นั่งข้างๆ อย่างมีความหวัง

"เหนื่อยจัง ขอนอนหน่อยนะ"

แล้วสนก็เอนตัวซบลงบนไหล่ของต้น ไม่ได้พูดอะไรอีกเลยหลังจากนั้น แล้วก็หลับไปจริงๆ เพราะความอ่อนเพลียจากการเดินทางตลอดทั้งคืน นี่คือปาฏิหาริย์ที่ต้นรอคอยหรือเปล่านะ?

แม้สนจะไม่ได้พูดอะไร ปล่อยให้ต้นคิดเดาไปต่างๆ นาๆ แต่ต้นก็มีความสุขมากแล้ว ตอนนี้คนที่ต้นรักหมดหัวใจนอนซบอยู่ที่ไหล่ ช่างเหมือนกับที่เคยฝันไว้ ต้นใช้มือปัดเกลี่ยผมที่ปรกหน้าสนขึ้นอย่างเบามือ ความอบอุ่นจากคนที่นอนหลับไหลแผ่ซ่านซึมผ่านเข้ามาถึงหัวใจของต้น เสียงเพลงที่เพิ่งฟังไปเมื่อสักครู่นี้ดังขึ้นในใจอีกครั้ง แม้จะรู้ว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้คงเป็นเพียงแค่ความฝัน ตื่นขึ้นมาแล้วทุกอย่างก็หายไป ต้นจะขอยอมแลกความเจ็บปวดทั้งหมดกับช่วงเวลาสั้นๆ ขอเพียงแค่ได้อยู่ใกล้ชิดกับสนในบรรยากาศพิเศษแห่งค่ำคืนนี้

"เรารักนายนะสน หวังว่าวันนึงจะมีปาฏิหาริย์ ทำให้เราสองคนได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไป"

อ้างถึง
"...คนที่ไม่เคยผิดเลยก็คือคนที่ไม่ได้ทำอะไร เสื้อผ้าที่ไม่เคยเปื้อนเลยก็คือเสื้อผ้าที่ไม่มีใครหยิบมาใส่ ความรักก็เหมือนกันนะต้น ความรักที่ไม่มีรอยเปื้อนก็คือความรักที่ไม่เคยเกิดขึ้น...

...ไม่มีความรักของใครแม้แต่คนเดียวหรอกนะต้นที่ไม่เคยมีรอยเปื้อน ไม่มีความทรงจำของใครที่ไม่เคยมีเรื่องไม่ดี ตลอดเวลาสิบกว่าปีที่เรารักกัน ถึงจะรักกันมากแค่ไหนมันก็มีรอยเปื้อนเกิดขึ้น ถึงจะดีต่อกันแค่ไหน ก็ยังมีหลายๆ เรื่องที่เป็นรอยเปื้อนในความทรงจำของเรา ความรักของเราก็คงเหมือนกับเสื้อตัวนี้ที่นายซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเรานั่นแหละ มันมีรอยเปื้อนอยู่หลายจุด ถึงเราจะทำความสะอาดมันดีแค่ไหนมันก็หายไปไม่หมด แต่นายรู้ไหม...ต่อให้เสื้อตัวนี้มีรอยเปื้อนเยอะแค่ไหน มันก็เป็นเสื้อที่เรารัก เราจะเก็บมันไว้ตลอดไป แล้วนายล่ะต้น นายยังเก็บความรักของเราที่มีรอยเปื้อนไว้อยู่หรือเปล่า ถ้าความรักเหมือนเสื้อที่เปื้อนตัวหนึ่ง นายยังจะเก็บมาซักให้สะอาดแล้วใส่ใหม่อีกครั้งหรือเปล่าต้น"


"ต้น-สน" เป็นเรื่องราวความรักของ "ต้น" ที่ใช้ชีวิตผูกพันกับเพื่อนคนหนึ่งที่ชื่อ "สน" ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม ต้นพบว่าตัวเองแอบรักเพื่อนตั้งแต่อายุ 13 คงไม่มีใครคิดว่ารักแรกแบบเด็กๆ ของต้นจะเป็นความรักที่ยั่งยืน ยาวนาน เป็นรักแรก รักเดียว รักแท้และรักสุดท้ายของต้น ที่ต้นจะเก็บไว้และมอบให้กับคนที่ต้นรักเมื่อใดก็ตามที่คนๆ นั้นต้องการ

บทพิสูจน์รักแท้ของต้นกับสนไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งคู่เป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัวที่ถูกคาดหวังให้ทำหน้าที่เหมือนผู้ชายทั่วไป จึงนำไปสู่เงื่อนไขความรักที่ยากจะเป็นจริงได้ คงมีเพียงปาฏิหาริย์เท่านั้นที่จะทำให้ความรักของต้นกับสนเป็นจริง ปาฏิหาริย์รักที่รอคอยของต้นกับสนจะเป็นจริงได้หรือไม่ โปรดติดตามครับ

ผมหวังว่า ความรักความผูกพันของต้นกับสนจะสร้างความซาบซึ้งประทับใจให้กับคุณผู้อ่านทุกท่าน นิยายเรื่องนี้ผมรักมากที่สุด และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า "ต้น-สน" จะอยู่ในความทรงจำดีๆ ของผู้อ่านตลอดไป




สารบาญ

CHAPTER 01 ∞ รักแรก แรกรัก
CHAPTER 02 ∞ ใครๆ ก็ลืมวันเกิดสน
CHAPTER 03 ∞ พ่อสื่อจำเป็น
CHAPTER 04 ∞ กุหลาบช่อแรกและคู่จิ้นวันวาเลนไทน์
CHAPTER 05 ∞ การตัดสินใจของต้น
CHAPTER 06 ∞ เพื่อนใหม่ของต้น-สน
CHAPTER 07 ∞ พี่รหัสของต้นและคนที่แอบหวง
CHAPTER 08 ∞ ความลับไม่มีในโลก
CHAPTER 09 ∞ สามทางเลือกของสน
CHAPTER 10 ∞ หากรักนั้นมีปาฏิหาริย์
CHAPTER 11 ∞ จูบแรกที่ไม่ตั้งใจ
CHAPTER 12 ∞ รักสี่เส้า
CHAPTER 13 ∞ คืนพิเศษ
CHAPTER 14 ∞ เพื่อนจนๆ อย่างสน
CHAPTER 15 ∞ หรือจะเป็นบุพเพสันนิวาส
CHAPTER 16-1 ∞ ความผิดหวังของแม่ ความน้อยใจของสน
CHAPTER 16-2 ∞ ความผิดหวังของแม่ ความน้อยใจของสน
CHAPTER 17 ∞ จูบแรกที่เกินห้ามใจ
CHAPTER 18 ∞ จุดแปรผัน
CHAPTER 19 ∞ เสียของรัก
CHAPTER 20 ∞ ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล
CHAPTER 21 ∞ วันที่รักหมดหนทางไป
CHAPTER 22 ∞ กลับคืนสู่ความเป็นเพื่อน
CHAPTER 23 ∞ ฟ้าสั่งให้มารักกัน
CHAPTER 24-1 ∞ เขากอดกันแน่แล้ว
CHAPTER 24-2 ∞ แผนลับของสน
CHAPTER 25 ∞ ความรักของนินา!?
CHAPTER 26 ∞ คำขอร้องจากสน
CHAPTER 27 ∞ คนขี้งอน
CHAPTER 28-1 ∞ คนเป็นแม่
CHAPTER 28-2 ∞ ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
CHAPTER 29-1 ∞ กลับมายืนที่เดิม
CHAPTER 29-2 ∞ กลับมายืนที่เดิม
CHAPTER 30 ∞ ความรักของชายที่ชื่อสน
CHAPTER 31-1 ∞ วาเลนไทน์พิสูจน์รักแท้
CHAPTER 31-2 ∞ วาเลนไทน์พิสูจน์รักแท้
CHAPTER 32 ∞ คำว่ารักที่รอคอย
CHAPTER 33 ∞ รักแรกแปลกนักหนา (NC)
CHAPTER 34 ∞ คนทรยศ
CHAPTER 35 ∞ ลาก่อนความรัก
CHAPTER 36 ∞ ครอบครัวที่แตกสลาย
CHAPTER 37 ∞ ความทารุณที่เกินทนไหว
CHAPTER 38 ∞ แม่ที่ขายลูกกิน
CHAPTER 39 ∞ ชีวิตใหม่ของสน
CHAPTER 40 ∞ คนที่คิดถึงทุกลมหายใจ
CHAPTER 41 ∞ ความรักเปื้อนๆ
CHAPTER 42 ∞ เสียงจากนินา
CHAPTER 43 ∞ คนจะรักกัน
CHAPTER 44 ∞ รักสุดท้ายของเราสามคน (ตอนจบ)

ตอนพิเศษ

SPECIAL CHAPTER 01 ∞ มิตรภาพของเพื่อนที่แสนรัก
SPECIAL CHAPTER 02 ∞ ผู้ชายคนนี้ยอมแลกทุกอย่างเพื่อความรัก
SPECIAL CHAPTER 03 ∞ แค่ได้คิดถึง
SPECIAL CHAPTER 04 ∞ พ่อสน อาต้นและน้องภูคา
SPECIAL CHAPTER 05 ∞ ตำนานรัก "ต้น-สน" (31 ธ.ค. 58 @23:59:59) (http://bit.ly/1OuJgH2)

เก็บตกต้น-สน

เก็บตกรอบที่ 1 ∞ ก่อนจะมาเป็น "ต้น-สน" เวอร์ชั่น 3
เก็บตกรอบที่ 2 ∞ ความประทับใจของคนเขียน (ไล่ทีละตอน)
เก็บตกรอบที่ 3 ∞ ฉากหรือตอนที่ประทับใจสุดๆ
เก็บตกรอบที่ 4 ∞ ความเป็นมาของเรื่อง "ต้น-สน" ที่แสนรัก
เก็บตกรอบที่ 5 ∞ "ต้น-สน" ในหัวใจและความทรงจำของพี่ชายคนนี้ (อำลา)
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-02-2017 16:40:39 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
▓ ▒ ░ ต้น-สน∞ปาฏิหาริย์รักที่รอคอย ░ ▒ ▓
CHAPTER 01: รักแรก แรกรัก


ใครจำความรักครั้งแรกได้บ้าง? หากขอให้ยกมือ เชื่อว่าคงมีหลายคนยกมือตอบ แม้อาจเป็นเพียงความทรงจำสีจางๆ และลางเลือน แต่เรามักจำครั้งแรกได้เสมอ แล้วถ้าถามสืบไปว่าความรักครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของใครเป็นความรักเดียวกันบ้าง คนที่ยังยกมืออยู่อาจไม่เหลือเลย แม้รักแรกน่าประทับใจสักแค่ไหน แต่มักไม่คงทนผ่านกาลเวลาที่นำพาเรื่องราวร้อยพันและใครต่อใครเข้ามาในชีวิต ท้ายที่สุดจึงเหลือแค่ความทรงจำ

รักแรกของต้นเกิดขึ้นตอนไหน ต้นจำได้ดีทีเดียว ที่สำคัญไปกว่านั้น ต้นอยากขอเป็นหนึ่งคนบนโลกใบนี้ที่ยังยกมือตอบคำถามข้อที่สองอยู่ ต่อให้ยากเพียงใดก็ตาม

เย็นวันธรรมดาๆ วันหนึ่ง เมื่อเสียงกริ่งบอกเวลาเลิกเรียนดังขึ้น ต้นรีบเก็บของแล้ววิ่งตัวปลิวออกไปจากห้อง เขามีการบ้านอยู่ชิ้นหนึ่งที่จะต้องทำให้เสร็จพร้อมส่งภายในวันพรุ่งนี้ จึงต้องรีบกลับบ้านเร็วกว่าปกติ ต้นไม่ค่อยมีหัวทำของเล่นประดิษฐ์เท่าไหร่ เวลามีการบ้านอย่างนี้ทีไร คนแรกที่มักจะนึกถึงเสมอคือ "สน" เพื่อนรักนั่นเอง

สนเรียนอยู่ถัดไปอีกห้อง เมื่อต้นมาถึงหน้าห้องของเพื่อนรักจึงพบว่าครูห้อง ม. 1/2 ยังคงสอนอยู่ สงสัยวันนี้สนคงได้กลับบ้านช้าแน่ๆ สนมองออกมาเจอต้นพอดีจึงปัดมือส่งสัญญาณให้ต้นกลับไปก่อน ต้นส่งสัญญาณมือตอบว่า "โอเค" ก่อนเดินแกมวิ่งลงบันไดอาคารเรียนไปยังบริเวณที่จอดจักรยานด้านหลัง คว้าจักรยานได้แล้วปั่นฉิวออกไปพร้อมกับเด็กๆ อีกหลายคน

เมื่อพ้นประตูโรงเรียนออกมาก็เห็นคลองส่งน้ำที่ทอดตัวยาวไปไกลสุดลูกหูลูกตา ช่วงหน้าฝนต้นข้าวเขียวชอุ่มช่วยให้อากาศสดชื่น น้ำในคลองมีระดับสูงขึ้นจากฝนที่ตกลงมาในช่วงต้นหน้าฝนที่เพิ่งมาถึง เด็กๆ ที่เลิกเรียนแล้วขี่จักรยานคุยกันไปตามทาง มีเสียงหัวเราะดังเป็นระยะๆ ส่วนเด็กที่โตหน่อยมักขี่มอเตอร์ไซค์ เป็นภาพที่ต้นเห็นจนชินตาตั้งแต่เกิดจนโต แม้คลองส่งน้ำบริเวณโรงเรียนและหมู่บ้านจะไม่กว้างและลึกมากแต่อันตราย เคยมีเด็กจมน้ำตายหลายคนแล้ว เวลาออกจากบ้านทีไรพ่อแม่ของเด็กๆ จึงต้องกำชับให้ระวังเสมอ

ต้นมาถึงบ้านแล้วรีบเอากระเป๋าไปเก็บบนห้อง ก่อนรีบลงมาหลังบ้านเพื่อจัดเตรียมไม้ กาว เลื่อยขนาดเล็ก แล็กเกอร์และสีทาบ้านที่เหลือๆ ไว้ให้สน ต้นใช้เวลาอยู่หลายวันทีเดียวกว่าจะหามาได้ครบ วันนี้กะว่าจะทำบ้านนกที่มีหลังคาเป็นสามเหลี่ยมทรงสูง มีช่องกลมๆ ตรงหน้าบ้านให้นกเข้าออกได้ แล้วทาสีให้สวยงาม ความจริงใช้เวลาทำไม่นานหรอก แต่พอทำเองทีไรมักช้าและไม่สวยเหมือนที่สนทำให้

ต้นขนอุปกรณ์ทั้งหมดมากองรวมกันไว้บนโต๊ะเก่าๆ ตัวหนึ่ง หาเก้าอี้ตัวเล็กๆ สำหรับนั่งมาเตรียมไว้ให้สนด้วย สักครู่ใหญ่มีเสียงรถยนต์วิ่งเข้ามาจอดหน้าบ้าน พ่อกับแม่คงกลับมาจากทำงานแล้วนั่นเอง ต้นละมือแล้วเดินแกมวิ่งออกไปหาพ่อกับแม่ที่หน้าบ้าน ยิ้มดีใจเมื่อเห็นว่าเป็นบุพการี วันนี้เงินเดือนออก ต้นคงได้กินอะไรอร่อยๆ อีกแล้ว

"ทำไมวันนี้ซื้อของมาเยอะจังครับแม่ โห...มีขนมด้วย น่ากินจัง"

ต้นทำท่าตื่นเต้นพลางกุลีกุจอช่วยแบ่งถุงที่พ่อกับแม่ถือไว้มาจำนวนหนึ่ง

"วันนี้เงินเดือนออกน่ะลูก อ้อ แล้ววันนี้สนจะมาช่วยต้นทำของเล่นหรือเปล่าล่ะ จะได้กินข้าวเย็นด้วยกัน"

แม่ของต้นถามพลางมองหาเพื่อนสนิทของลูกชายที่มักปรากฎตัวให้เห็นในบ้านนี้อยู่บ่อยๆ

"กำลังมาครับ พอดีวันนี้ต้นเลิกเร็วเลยมาก่อน แล้วพ่อกับแม่สนจะมากินข้าวเย็นด้วยกันไหมครับวันนี้"

"พ่อแวะบอกเมื่อกี้แล้วลูก เดี๋ยวคงมา" พ่อของต้นบอกพลางตบไหล่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเบาๆ

"ดีจังเลยครับ ไม่ได้กินข้าวกับที่บ้านสนนานแล้ว"

ต้นยิ้มดีใจ พอช่วยเอาของไปเก็บในครัวเสร็จจึงออกมานั่งรอสนที่หลังบ้านตามเดิม

"ต้นอยู่หลังบ้านนะครับ"

ต้นไม่ลืมที่จะตะโกนบอกพ่อกับแม่ให้รู้ว่าอยู่ตรงไหน เผื่อท่านทั้งสองจะไหว้วานให้ทำงาน แม้ว่าต้นเป็นลูกชายคนเดียว แต่พ่อแม่สอนให้ต้นรู้จักช่วยงานบ้าน ไม่นิ่งดูดาย ต้นจึงไม่ใช่ลูกคนเดียวที่เอาแต่ใจ ที่น่าแปลกคือสนเป็นลูกคนเดียวเหมือนกัน เมื่อสองครอบครัวมาเป็นเพื่อนบ้านและสนิทกัน ต้นกับสนจึงเปรียบเหมือนเป็นลูกชายที่น่ารักของทั้งสองบ้านไปเลย

"ต้น เรามาแล้ว โทษทีที่ให้รอนาน พร้อมยัง"

เสียงที่ต้นคุ้นเคยดังมาจากหน้าบ้าน ต้นเงยหน้าจากการนับชิ้นไม้ที่มีแล้วยิ้มกว้างด้วยความดีใจให้กับคนที่เพิ่งมาถึง

"ไม่นานหรอก พร้อมแล้ว เนี่ยะ เตรียมของไว้ให้หมดแล้ว" ต้นบอกพลางชี้ให้เพื่อนดูของที่เตรียมไว้ทั้งหมด

"อ้อ วันนี้กินข้าวเย็นด้วยกันนะ แม่เราจะเลี้ยง ชวนพ่อกับแม่นายมาด้วย"

"ดีเลย ไม่ได้กินข้าวฝีมือแม่นายมาหลายวันแล้ว" สนบอกพลางนั่งลงบนเก้าอี้ตัวเล็กๆ ที่ไม่มีพนักที่ต้นจัดเตรียมไว้ให้

"นายดูแบบก่อนนะ เราจะทำเป็นบ้านแบบนี้" ต้นบอกพลางส่งกระดาษที่เขาร่างแบบของเล่นให้เพื่อนดู

"สบายมาก แป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว ลงมือเลยนะ"

ต้นพยักหน้า แม้ไม่ได้เป็นคนทำเอง อย่างน้อยก็พอช่วยอำนวยความสะดวกให้เพื่อนด้วยการหยิบจับของส่งให้ หรือไม่ก็ช่วยทำงานเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่น ขัดไม้ด้วยกระดาษทรายหรือติดกาว

ทำไปสักพักพลันได้ยินเสียงผู้ใหญ่คุยกันในบ้าน พ่อกับแม่ของสนคงมาถึงแล้ว แม่ของสนทำอาหารเก่งจึงมักมาช่วยแม่ของต้นทำครัว บางทีครอบครัวของต้นไปกินข้าวที่บ้านสนบ้าง สลับกันไปมาตามแต่บ้านไหนจะนึกครึ้ม ต้นชอบไปกินข้าวบ้านสนมาก ติดใจแกงผักกาดจอฝีมือแม่ของสนจนต้องขอให้ทำให้กินบ่อยๆ

สนทำงานอย่างขะมักเขม้น เลื่อยไม้ออกเป็นรูปทรงตามที่ต้นออกแบบไว้แล้วส่งให้ต้นขัดจนผิวเรียบเนียน ต่างคนต่างช่วยกันคนละไม้ละมือเพื่อให้งานเสร็จก่อนอาหารเย็นจะมาถึง

เพื่อนรักสองคนทำงานไปคุยกันไปอย่างสนุกสนานและสนิทสนม ปีนี้ต้นกับสนอายุสิบสามปีแล้ว รูปร่างหน้าตาของสนเริ่มเปลี่ยนแปลงไป พูดง่ายๆ คือเริ่มมีเค้าความเป็นหนุ่มนั่นเอง ผิวขาวละเอียดแบบคนเหนือและทรงผมแบบวัยรุ่นที่สนเพิ่งไปตัดมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ช่วยให้สนดูแปลกตาไปจากที่เคยเห็นมากทีเดียว พูดตรงๆ คือหล่อขึ้น ต้นได้ยินมาว่าสาวๆ มอหนึ่งกรี๊ดกันทั้งโรงเรียนเลย

ต้นเผลอนั่งมองหน้าเพื่อนที่กำลังขะมักเขม้นเลื่อยไม้ชิ้นเล็กๆ โดยไม่รู้ตัว มองไปยิ้มไป ปล่อยให้ความรู้สึกแปลกๆ ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในหัวใจอย่างเงียบๆ ยิ่งเห็นเพื่อนตั้งใจทำงานให้มากแค่ไหน ต้นยิ่งรู้สึกดีกับคนตรงหน้ามากขึ้นและมากขึ้น

"ยิ้มอะไร"

สนถามอย่างแปลกใจเมื่อสังเกตเห็นว่าต้นคอยมองและยิ้มแปลกๆ มาสักพัก รอยยิ้มอย่างนี้สนไม่เคยเห็นมาก่อนเลย

ต้นสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อรู้สึกตัวจึงยิ้มแก้เขิน "อ๋อ...เปล่าหรอก เราว่าทรงผมนายเท่ดีนะ เดี๋ยวเราจะไปตัดแบบนี้มั่ง"

"เอาสิ เนี่ยผมนายใกล้ยาวพอตัดได้แล้ว ไปไหม เดี๋ยวเราพาไปตัดในเมือง"

"เหรอ ดีเหมือนกัน กำลังอยากตัดผมพอดีเลย" ต้นยิ้มกลบเกลื่อนแต่ยังดูประหม่าเล็กน้อย

"ได้เลยเพื่อน เดี๋ยวเราจะพาไปนะ" สนบอกแล้วหันมาทำงานต่อ

ต้นแอบโล่งใจที่หาคำตอบมาแก้ตัวได้ทัน ถึงตอนนี้ต้นพอเข้าใจแล้วว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้คืออะไร เด็กวัยสิบสามอย่างต้นพอเข้าใจเรื่องนี้ได้ไม่ยาก ความรู้สึกอย่างนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเด็กที่ย่างเข้าสู่วัยรุ่นหรอก แต่ที่มันแปลกคือต้นกับสนเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ ความรู้สึกอย่างนี้ไม่ควรเกิดขึ้นระหว่างต้นกับสนเลย

สนช่วยต้นทำบ้านนกเสร็จทันเวลากินข้าวเย็นพอดี บรรยากาศอาหารเย็นวันนี้อบอวลไปด้วยความสุขและความอบอุ่นเหมือนทุกครั้ง มีเสียงพูดคุยหัวเราะแทบตลอดเวลา บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าทั้งสองครอบครัวสนิทสนมกันมากแค่ไหน

ต้นเกิดและโตที่หมู่บ้านนี้ในอำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ส่วนครอบครัวของสนนั้นเพิ่งย้ายจากน่านมาอยู่ที่นี่ได้สามปี สมัยเรียนประถมต้นกับสนเรียนห้องเดียวกัน สองปีสุดท้ายในวัยประถมดูไม่น่าจะทำให้เด็กสองคนนี้สนิทกันได้มาก แต่ต้นกับสนกลับสนิทกันมากกว่าเพื่อนๆ ที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ชั้นอนุบาลด้วยซ้ำ

ต้นเป็นเพื่อนคนแรกที่คุยกับสนเพราะได้ที่นั่งติดกัน คอยช่วยเหลือสนหลายอย่างจนสนปรับตัวเข้ากับโรงเรียนใหม่ได้ ต้นเป็นคนอาสาช่วยติวการบ้านจนสนสามารถเรียนทันเพื่อนได้ในเวลาไม่นาน รู้จักกันได้ไม่นานเท่าไหร่ เพื่อนๆ ที่โรงเรียนมักเห็นสองคนนี้ตัวติดกันตลอด มีต้นที่ไหน มีสนที่นั่น

นอกจากความสนิทสนมแล้ว สนยังหวงและปกป้องเพื่อนยังกะอะไรดี ครั้งหนึ่งต้นเคยโดนเพื่อนคนหนึ่งแกล้งเอาประทัดโยนใส่ขา แม้ว่าแค่ตกใจและไม่เป็นไรมาก สนกลับโกรธเพื่อนคนนั้นและตามไปต่อยจนปากแตก ผู้ปกครองเด็กคนนั้นรู้เข้าจึงเป็นเรื่อง ดีที่ว่าเจรจายอมความกันได้ นับตั้งแต่นั้นมาจึงไม่มีเพื่อนคนไหนกล้าแกล้งต้นให้สนเห็นอีกเลย

{-- + --- + -- + --- + --}

นั่นคือครั้งแรกที่ความรักเกิดขึ้น แต่หลังจากนั้นมีหลายๆ เหตุการณ์ที่ทำให้ต้นยิ่งมั่นใจว่าไม่ได้รักสนแค่เพื่อน ย้อนกลับไปปีนั้นที่ต้นกับสนอยู่มอสาม ตอนนั้นเริ่มมีสาวๆ มาชอบสนหลายคน ต้นพอมีเหมือนกันแต่ไม่เคยสานต่อกับใคร ไม่นานต้นจึงรู้มาว่าสนจีบน้องมอสองคนหนึ่งเป็นแฟนและคบกันอยู่พักใหญ่ พอเพื่อนมีแฟน ต้นจึงได้รู้ว่าความเจ็บปวดของการแอบรักเป็นยังไง

"ต้น นี่เฟิร์นนะ นายน่าจะเคยเห็นแล้ว เป็นเชียร์ลีดเดอร์งานกีฬาสีครั้งที่แล้วไง"

นั่นคือวันแรกที่สนพาแฟนมาให้ต้นรู้จักขณะที่ต้นกำลังนั่งรอเพื่อนๆ ที่เข้าไปทำธุระในห้องสมุด ต้นถึงกับทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นว่าคนที่สนิทและยืนอยู่ข้างสนไม่ใช่ต้นเสียแล้ว แม้ไม่อยากคิดมากแต่กลับอดน้อยใจไม่ได้ กระนั้น ต้นควรต้องยิ้มเพื่อแสดงความยินดีที่ได้รู้จักกับแฟนของเพื่อนรักเสียหน่อย

"เฟิร์นรู้จักต้นแล้วใช่ไหม" สนหันไปถามสาวน้อยที่เพิ่งคบกันไม่นาน แม้ไม่ถึงกับจับมือถือแขนกัน แต่รู้สึกได้ถึงความสนิทสนมที่ไม่ใช่เพียงเพื่อนธรรมดา

"รู้จักแล้ว ตอนกีฬาสีอยู่สีเดียวกัน แล้วพี่ทำไมต้นมานั่งตรงนี้คนเดียวล่ะ" เฟิร์นบอกพลางยิ้มให้เพื่อนของแฟน

"พี่รอเพื่อนอยู่" ต้นตอบสั้นๆ รู้สึกกระอักกระอ่วนใจที่เห็นเพื่อนรักยืนอยู่ข้างสาวน้อยหน้าตาน่ารักสมวัย

"กินข้าวกันแล้วเหรอ" ต้นถามตามมารยาท นึกอยากให้เพื่อนมาถึงไวๆ เสียที

"กินแล้ว กำลังว่าจะไปซื้อไอติมกินที่สหกรณ์ ต้นเอาไอติมไหม เดี๋ยวเราซื้อมาให้" สนถามอย่างกระตือรือร้น

"ไม่เป็นไร นายไปกินกับเฟิร์นเหอะ เดี๋ยวเพื่อนมาเราก็จะไปแล้ว"

"ไม่เอาจริงๆ เหรอ ร้อนๆ แบบนี้กินไอติมก็ดีนะ จะได้เย็นๆ" สนยังรบเร้า

"ไม่เป็นไร อ้อ เพื่อนเรามาแล้ว เราไปก่อนนะ"

สนว่าจะร้องห้ามก็ไม่ทันเสียแล้ว ต้นลุกขึ้นแล้วเดินฉับๆ ไปหาเพื่อนสามสี่คนที่กำลังเดินตรงมาหาอย่างรวดเร็ว สนมองตามแผ่นหลังเพื่อนไปอย่างไม่เข้าใจนัก ไม่เคยมีสักครั้งเลยที่สนรู้สึกว่าต้นไม่อยากคุยด้วย เมื่อไม่รู้สาเหตุจึงได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจ


แอบรักกับแอบเจ็บมักเป็นของคู่กันเสมอๆ ต้นเข้าใจเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดีเพราะเริ่มมีเหตุการณ์ให้ต้องคอยแอบเจ็บคนเดียวบ่อยขึ้น

วันหนึ่งสนวิ่งเข้ามาหาต้นขณะที่กำลังยกเก้าอี้เก็บบนโต๊ะเรียนในห้องกับเพื่อนๆ ด้วยท่าทางแปลกๆ ดูอึกๆ อักๆ จะพูดก็ไม่กล้าพูด

"สนมีอะไรหรือเปล่า" ต้นเป็นฝ่ายถามเสียเองเมื่อเห็นสนยังไม่กล้าพูด

"ต้น เอ่อ...เย็นนี้เราต้องไปส่งเฟิร์น พอดีมอไซค์เขาเสีย นายกลับกับซีลได้ไหม"

แม้รู้ว่าเพื่อนกำลังเห่อแฟนตามประสา แต่ต้นกลับอดเศร้าใจไม่ได้ ปกติต้นกับสนไปกลับโรงเรียนด้วยกันเสมอ สนมีรถมอเตอร์ไซค์ที่พ่อเพิ่งซื้อให้อยู่คันหนึ่ง ส่วนต้นขับมอเตอร์ไซค์ไม่เป็นจึงอาศัยไปมากับสน ยกเว้นวันไหนสนมีธุระ ต้นถึงจะขอติดรถไปกับเพื่อนคนอื่นๆ ส่วนมากเป็นซีลเพราะเป็นเพื่อนอีกคนที่ต้นสนิทด้วย บางครั้งก็ป้อง หรือถ้าจำเป็นจริงๆ ต้นจะให้พ่อกับแม่แวะมารับส่งที่โรงเรียน

"อ๋อ...ไม่เป็นไร นายไปส่งเฟิร์นเหอะ"

"ขอโทษจริงๆ นะต้น" สนมีท่าทางรู้สึกผิดเพราะกลัวต้นน้อยใจ

"อย่าคิดมากน่า" ต้นตัดบทแล้วหยิบกระเป๋านักเรียนขึ้นมาถือไว้ ก่อนหันไปบอกเพื่อนที่อยู่ข้างหลัง

"ซีล วันนี้กูกลับด้วยนะเว้ย"

"เออๆ ได้ แหม...ไอ้สน มึงนี่เห่อแฟนจนลืมเพื่อนเลยนะมึง" ซีลไม่วายหันไปแขวะสนจนได้ แม้ไม่จริงจังแต่กลับทำให้สนหน้าเสีย

"เฮ้ยต้น เราไม่ได้..."

"ไม่ต้องคิดมากหรอก ไปเหอะ เดี๋ยวเฟิร์นรอ เราไปก่อนนะ" ต้นฝึนยิ้มยืนยันเพราะกลัวเพื่อนไม่สบายใจ จากนั้นจึงเดินออกไปจากห้องพร้อมกับซีล

ทันทีที่ต้นนั่งรถมอเตอร์ไซค์กับซีลออกมาข้างหน้าโรงเรียน ภาพบาดตาบาดใจบังเอิญปรากฎให้เห็น สนกับเฟิร์นกำลังเดินซื้อของกินด้วยกันอยู่ ความรู้สึกเสียวแปล๊บแล่นเข้าจับขั้วหัวใจทันที หนุ่มน้อยกับสาวน้อยที่เพิ่งคบกันคุยกันไปยิ้มกันไป ต้นคงได้แต่อิจฉาเพราะชาตินี้คงไม่มีวันได้ทำอย่างนั้นกับสน

สนคงเห่อแฟนตามประสา หลังๆ จึงมักไปรับไปส่งและใช้เวลากับเฟิร์นมากขึ้น ความจริงคงไม่ถึงขั้นลืมเพื่อน แต่ต้นเลือกอยู่ห่างๆ ด้วยเพราะไม่อยากเห็นคนที่ตัวเองแอบรักสวีทหวานแหววกับสาวอื่นให้เจ็บปวดใจ

วันหนึ่งหลังเลิกเรียน ต้นแวะมาหาสนที่มักเล่นเตะบอลกับเพื่อนๆ ก่อนกลับบ้าน ต้นชอบมานั่งดูบ่อยๆ และเตรียมน้ำเย็นๆ ไว้ให้เพื่อนดื่มเสมอ แต่พอเฟิร์นมาทำหน้าที่นี้แทนต้นจึงไม่ค่อยได้มาดูสนเล่นฟุตบอลเลย ในช่วงหลังๆ

เพื่อนรักของต้นถอดเสื้อเล่นเตะบอลอยู่กับเพื่อนผู้ชายด้วยกันอยู่อย่างสนุกสนาน ต้นนั่งรอที่ม้านั่งข้างสนามเงียบๆ บางคราวก็ยิ้มและคอยสังเกตเพื่อน สนเริ่มมีกล้ามเนื้อ อกผาย ไหล่ผึ่ง ดูมีเสน่ห์ต่างจากตอนเด็กๆ มากทีเดียว ทั้งขาว ทั้งหล่อ จึงไม่น่าแปลกใจที่สาวๆ ให้ความสนใจจนกลายเป็นหนุ่มฮ็อตของโรงเรียน ไปแล้ว

สนหันมาเห็นเพื่อนพอดีจึงส่งยิ้มและโบกมือให้ เล่นต่อสักพักจึงถึงช่วงเบรก ต้นหยิบขวดน้ำขึ้นมาเตรียมไว้และยิ้มรอเพื่อนที่กำลังเดินแกมวิ่งมาหาด้วยความดีใจ แต่ก่อนที่จะทันส่งให้เพื่อน ใครบางคนกลับมาตัดหน้าไปเสียก่อน

"พี่สน โทษที เพื่อนเฟิร์นชวนคุยนานไปหน่อยเลยมาช้า"

ต้นจำเสียงนั้นได้ดี สาวน้อยคนนั้นมาพร้อมกับขวดน้ำเหมือนต้น มือที่กำลังยื่นออกไปหดกลับอย่างรวดเร็วแล้วเอามือไพล่หลังซ่อนขวดน้ำไว้ สนยืนหน้าเหลอหลาเพราะไม่รู้ว่าจะรับน้ำจากใครดี ต้นจึงเป็นฝ่ายบุ้ยใบ้ให้เพื่อนรับน้ำจากแฟนแทน

"อ้าวพี่ต้น มาดูพี่สนเล่นบอลเหรอ ทำไมไม่ลงเล่นด้วยล่ะ ไม่เคยเห็นพี่ต้นเตะบอลเลย ไม่ชอบเหรอ"

เฟิร์นหันมาถามเพราะสังเกตเห็นว่าสนมองมาที่ใครอีกคนอยู่

"พี่เล่นไม่ค่อยเป็น ชอบเล่นบาสมากกว่า"

"อ้อ ใช่ๆ เฟิร์นจำได้ กีฬาสีปีที่แล้วพี่ต้นแข่งบาส" เฟิร์นพูดแล้วหันกลับไปหาสน สาวน้อยยิ้มหวานก่อนส่งขวดน้ำให้

"น้ำค่ะ"

สนรับน้ำมาจากเฟิร์นก็จริง แต่สายตากลับมองมาที่ต้นอย่างเป็นห่วง

"เราไปก่อนนะสน"

ต้นบอกแล้วรีบหันหลังเดินออกไป ถ้าขืนอยู่ตรงนี้ต่ออีกแค่วินาทีเดียวคงมีน้ำตาให้เพื่อนเห็นจนได้ ต้นกะพริบตาถี่ๆ ไล่น้ำตาที่เตรียมพร้อมจะไหลลงมาอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า พอเห็นห้องน้ำอยู่ใกล้ๆ จึงวิ่งเข้าไปในห้องน้ำชายที่ยังว่างอยู่ พอปิดประตูแล้วจึงยืนพิงและปล่อยให้น้ำตาค่อยๆ ไหลลงมา

ชีวิตของต้นคงไม่ง่ายอีกแล้วเมื่อแอบรักเพื่อน แม้ว่าคนวัยอย่างต้นน่าจะตัดใจได้ง่าย แต่กลับไม่ง่ายอย่างที่คิด ต้นจะแอบรักเพื่อนอย่างนี้ไปอีกนานแค่ไหน นี่ก็สามปีแล้ว จะห้ามสนไม่ให้มีแฟนก็ใช่ที่

ความหวังของต้นดูเลือนลางเหลือเกิน สนไม่ชอบผู้ชายอย่างแน่นอน หรือต่อให้ชอบ พ่อของสนคงไม่ยอมอย่างเด็ดขาด ต้นจำได้ว่าครั้งหนึ่งเคยมีกลุ่มกะเทยขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมาและแซวสนที่นั่งเล่นกับต้นตรงหน้าบ้าน พ่อของสนไม่พอใจมาก ถึงกับคาดโทษกับสนว่า

"อย่าให้พ่อรู้นะว่าสนไปยุ่งกับพวกวิปริตผิดเพศพวกนี้ ต้นคอยดูสนให้พ่อด้วยนะลูก เราสองคนน่ะเป็นผู้ชาย อย่าให้เสียชาติเกิด"

ต้นแอบสะดุ้งในใจเมื่อเห็นสายตารังเกียจเดียดฉันท์ของพ่อสนที่มีต่อกระเทยกลุ่มนั้น ถ้าลองเอ่ยปากแล้วย่อมแปลว่าเป็นเรื่องใหญ่แน่ถ้าสนไม่เชื่อฟัง

ต้นไม่อยากถูกสนรังเกียจอย่างนั้น แต่ให้กลับไปเป็นเพื่อนรักธรรมดาๆ คนหนึ่งคงไม่ง่าย เป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ความรักเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วห้ามได้ยากที่สุด โดยเฉพาะ "รักต้องห้าม" ที่ค่อยๆ ก่อร่างสร้างตัวจากความสนิทสนมและผูกพันของเพื่อนชายสองคน!

'สน...เราไม่อยากรักนายอย่างนี้หรอก ไม่อยากทำให้นายลำบากใจเลย แต่เรา...ห้ามตัวเองไม่ให้รักนายไม่ได้' ต้นรำพึงรำพันในใจอย่างขื่นขมเพียงคนเดียว


หลังจากนั้น ดูเหมือนว่าต้นพยายามอยู่ห่างจากเพื่อนมากขึ้น อาศัยไปกลับโรงเรียนกับเพื่อนคนอื่นๆ บ้าง ให้พ่อแม่แวะไปรับไปส่งบ้าง แม้ว่าพยายามไม่ให้สนผิดสังเกต แต่คนเป็นเพื่อนรักกันย่อมรู้ดีว่ามีบางอย่างไม่เหมือนเดิม

เย็นวันหนึ่ง ต้นไปนั่งเล่นตรงสะพานเหล็กเล็กๆ เยื้องๆ บ้านของตัวเองหลังจากช่วยทำงานบ้านเสร็จแล้ว ก่อนหน้านี้สะพานนี้มีคนใช้บ่อย แต่ตอนหลังมีสะพานคอนกรีตสร้างใหม่อยู่ใกล้ๆ คนจึงหันไปใช้สะพานนั้นแทน ต้นกับสนมักชอบมานั่งเล่นที่นี่สองคนบ่อยๆ ดูพระอาทิตย์ตกดินและพูดคุยกันตามประสาเพื่อนรู้ใจ

ต้นนั่งคิดและเหม่อมองอย่างเหงาๆ แกว่งขาเตะน้ำเล่นเบาๆ พร้อมกับมองดูดวงตะวันกลมโตสีแดงอมส้มที่กำลังจะหมดหน้าที่ไปอีกวันหนึ่ง ดวงตะวันจะสงสัยหรือเปล่าว่าทำไมวันนี้ต้นถึงมานั่งคนเดียว จะว่าไป พอห่างสนมากเข้าต้นชักคิดถึงเพื่อนเพราะไม่มีเพื่อนคนไหนทดแทนเพื่อนอย่างสนได้เลย

ตอนนี้สนยังไม่กลับบ้าน ป่านนี้คงพาเฟิร์นไปเดินเที่ยวที่ไหนสักแห่ง จากนั้นคงไปส่งที่บ้าน กลับมาอีกทีก็มืด ต้นได้ยินพ่อกับแม่ของสนบ่นบ่อยๆ ว่าหลังๆ สนไม่ค่อยช่วยทำงานบ้านเลยเพราะมัวแต่ติดสาว พ่อกับแม่ของต้นไม่ค่อยเห็นสนมาที่บ้านจึงเริ่มถามหาเหมือนกัน พอต้นบอกว่าสนมีแฟน พ่อกับแม่แค่ร้องอ๋อแล้วหัวเราะขำๆ

"นั่งด้วยคนได้ไหม"

จู่ๆ เสียงที่ต้นคุ้นเคยดังมาจากทางด้านข้าง พอหันไปมองจึงเห็นสนยืนยิ้มอยู่ในชุดนักเรียน รอยยิ้มและแววตาที่แสนพิเศษนี้ต้นจำได้ดีเสมอ ถ้าสนสามารถเห็นแววตาของตัวเองตอนนี้ได้จะรู้ทันทีว่าสนไม่เคยมองใครอย่างนี้เลย

เพื่อนรักจากน่านถือวิสาสะนั่งลงข้างๆ โดยไม่รอให้ตอบรับ ต้นแอบยิ้มดีใจเพราะเพิ่งแอบน้อยใจว่าเพื่อนรักคงไม่สนใจตัวเองไปแล้ว แต่สุดท้ายสนมาหาต้นจนได้

"คิดถึงต้นน่ะ หายไปไหนมาตั้งหลายวัน เดี๋ยวนี้ไม่เห็นมาบ้านเราเลย ตอนเย็นๆ ไปหาก็ไม่ค่อยอยู่" สนพูดพลางแกว่งขาเตะน้ำเล่นเบาๆ ด้วย คอยจับจ้องมองดูเพื่อนที่ไม่ยังค่อยกล้าสบตากันเท่าไหร่

"ไปช่วยซีลติวหนังสือไง ใกล้สอบแล้ว" ต้นหันหน้าไปมองเพื่อนแว่บหนึ่งแล้วหันกลับมาตามเดิม

"อ๋อ...ถึงว่าล่ะ แล้วนายไม่คิดถึงเรามั่งเหรอ เดี๋ยวนี้ไม่เห็นเอาน้ำไปให้เลย เรารออยู่ทุกวันรู้ป่าว"

"มีคนเอาไปให้แล้วนี่" ต้นบอกเสียงมุบมิบ ก้มหน้าดูขาตัวเองที่กำลังตีน้ำเล่นเบาๆ

"นายน้อยใจเราหรือเปล่า" สนถามตรงๆ ด้วยน้ำเสียงห่วงใย

ต้นหันไปส่ายหน้าเดียะ "เปล่าซะหน่อย น้อยใจเรื่องอะไร"

"นายก็รู้นี่ เรารู้สึกแย่มากนะที่..." สนละไว้ในฐานที่เข้าใจแล้วพูดต่อ "เราขอโทษนะต้น"

"ขอโทษเรื่องอะไร นายไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย"

"เรื่องที่นายเอาน้ำไปให้เรา แต่เรารับของเฟิร์นมาแทนไง" สนบอกไปตามตรง

ต้นอึ้งไปเล็กน้อย พยายามยิ้มเจื่อนๆ เพื่อกลบเกลื่อนร่องรอยบางอย่าง "เฮ้ย...ไม่เห็นมีอะไรเลย อย่าคิดมากสิ"

"ไม่รู้สิ ก็นายหลบหน้าเรา เรารู้นะ นายหลบหน้าเราทำไมล่ะต้น"

ต้นอึ้งไปอีกรอบ หันหน้าหนีไปทางอื่นเพราะไม่อยากให้เพื่อนเห็นความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ในแววตาที่มีพิรุธของตัวเอง

"เราบอกนายแล้วไงว่าเราไปติวหนังสือให้ซีล ไม่มีอะไรหรอก"

"ก็รู้ แต่เราว่านายไม่เหมือนเดิมนะ นายเคยไปบ้านเราบ่อยๆ ไปนอนห้องเราบ่อยๆ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ไปเลย เราน้อยใจนายเหมือนกันนะต้น" สนบอกพลางทำท่าทางน้อยใจ

"เราเห็นนายมีแฟนแล้ว เราก็เลยไม่อยากกวนเวลาของนายกับแฟนไง" ต้นตัดสินใจบอกไป

"ทำไมนายคิดอย่างงั้นล่ะต้น แฟนก็ส่วนแฟนสิ นายเป็นเพื่อนรักของเรา ยังไงๆ นายก็สำคัญกับเรานะ"

ต้นเงยหน้ามองดูดวงตะวันที่กำลังจะลับขอบฟ้าไปอย่างเศร้าๆ บางทีไม่เข้าใจตัวเองว่าต้องการอะไรกันแน่

"เหรอ...เรานึกว่านายอยากมีเวลาอยู่กับแฟนมากกว่าเราไง เราก็เลย..." ต้นไม่รู้จะพูดอะไรต่อ

"นายคิดอย่างงี้ใช่ไหมถึงได้หลบหน้าเรา"

ต้นอึ้งเป็นรอบที่สาม ก้มหน้าลงเล็กน้อยก่อนจะยอมรับแต่โดยดี "ก็...ประมาณนั้น"

สนอึ้งไปเช่นเดียวกัน แต่ไม่นานจึงเอามือโอบไหล่เพื่อนไว้และตบตรงหัวไหล่เบาๆ

"ถึงเราจะมีแฟน เรายังเป็นเพื่อนกับนายเหมือนเดิมไม่ใช่เหรอต้น นายอย่าน้อยใจสิ เป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน นายก็น่าจะรู้ว่าเราน่ะ...แคร์นายขนาดไหน หรือนายอยากให้เราเลิกกับเฟิร์น"

ต้นตกใจและอึ้งไปเลยทีเดียว ไม่เคยคิดว่าเพื่อนจะยอมทำขนาดนั้น "ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ เฟิร์นเป็นแฟนนายนะ"

"แต่เพื่อนเราสำคัญกว่านี่" สนแย้ง ไม่นานจึงยิ้ม "เราทำได้หมดแหละ ขอแค่...ให้นายกับเราเป็นเหมือนเดิม"

ต้นทำท่าทางเกรงใจระคนรู้สึกผิดเพราะไม่ต้องการให้เพื่อนเสียสละมากขนาดนี้ "อย่าเลย ความจริง...เราแค่...ทำตัวไม่ถูกเวลานายมีแฟนแค่นั้นแหละ เดี๋ยวเราก็ชินแล้ว ต่อไปเราจะไม่ทำอย่างงี้อีก ไม่ต้องห่วงนะ"

"ไม่ห่วงได้ไง ก็เราบอกแล้วไงว่าเราน่ะแคร์ต้นมากที่สุด...รู้ป่าว" สนพูดพลางเอามือลูบผมต้นเบาๆ อย่างเอ็นดู

แม้ปล่อยมือไปแล้วแต่ไออุ่นจากสัมผัสนั้นยังอยู่กับต้น ต้นจำความอบอุ่นนี้ได้เสมอ ความอบอุ่นที่ไม่มีใครให้ได้เหมือนเพื่อนคนนี้ เลย

"ยิ้มหน่อยดิ ไม่ดีใจเหรอที่เรามาหา"

สนชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แววตาเป็นประกายวิบวับ แม้ดูทะเล้นแต่ทำให้ต้นหัวใจพองโต สุดท้ายจึงยิ้มตามจนได้ สนเอามือโอบไหล่ต้นแล้วตบเบาๆ อีกครั้ง

"วันนี้ไปกินข้าวบ้านเรานะ เราเพิ่งบอกให้แม่ทำแกงผักกาดจอของโปรดนาย ถ้าไม่ไป...แม่เราโกรธจริงๆ ด้วย" สนขู่แล้วขำเบาๆ

ต้นพยักหน้าเร็วๆ อย่างดีใจ แม้ว่าจะไม่ชอบกินผักหลายชนิด แต่ต้นกลับชอบแกงผักกาดจอมากทีเดียว นานๆ จะได้กินที

"อ้อ มีน้ำพริกอ่องด้วยนะ นายต้องกินผักเยอะๆ หน่อยนะต้น คนไม่กินผักจะเป็นมะเร็งรู้ป่าว" สนเตือนอย่างรู้ทัน เพราะเตือนเพื่อนอย่างนี้บ่อยๆ

"จะพยายามนะ" ต้นแบ่งรับแบ่งสู้

"อ้อ...วันนี้มานอนที่ห้องเรานะ จะถามวิชาคณิตศาสตร์หน่อย"

"อ๋อ...ที่แท้ก็..."

สองหนุ่มน้อยหัวเราะและยิ้มให้กันเมื่อรู้ว่าทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ใครเลยจะรู้ว่าเพื่อนสนิทของสนคนนี้คิดไม่ซื่อเสียแล้ว จนกว่าวันหนึ่งต้นจะยอมบอกความจริงไปนั่นแหละ แต่วันนั้นจะไม่มีวันมาถึงอย่างแน่นอน

หลังจากนั้นไม่นาน สนเลิกกับเฟิร์นไปโดยไม่มีใครรู้สาเหตุ เจ้าตัวดูไม่ทุกข์ไม่ร้อนมากนัก แถมยังดูมีความสุขที่ได้กลับมาใช้เวลากับต้นอย่างเพื่อนรักเหมือนเดิมด้วยซ้ำ แต่บางครั้งต้นยังแอบเจ็บกับคำพูดหรือการกระทำธรรมดาๆ ของเพื่อนอยู่เนืองๆ โดยเฉพาะการสนทนาครั้งนั้นที่สะพานเหล็กหลังจากที่สนเลิกกับเฟิร์นไม่นาน

"ต่อไปนะ ถ้าเราจะมีแฟน แฟนของเราจะต้องนิสัยเหมือนนาย"

"ทำไมล่ะ" ต้นขมวดคิ้วและเอียงคอมองเพื่อนอย่างสงสัย

"เราชอบคนนิสัยอย่างนายไง" สนตอบโดยไม่ลังเล

"อ๋อ..." ต้นลากเสียงยาวแล้วเอียงหน้าหลบ รู้สึกเจ็บแปลบลึกๆ จนต้องใช้เวลาครู่ใหญ่สงบความรู้สึก

"ถ้าเราเป็นผู้หญิง...นายก็จะชอบเรางั้นสิ" แม้ถามทีเล่นทีจริงแต่ท่าทางคนถามกลับดูขื่นขมชอบกล

สนพยักหน้ายอมรับแล้วยิ้มด้วยท่าทางตื่นเต้นเล็กน้อย "แน่นอน ถ้านายเป็นผู้หญิงนะ เราจะให้พ่อกับแม่ไปขอตั้งแต่วันนี้เลย"

ต้นได้แต่ยิ้มเศร้าๆ เมื่อเพื่อนอีกคนไม่เคยรู้เลยว่ากำลังทำร้ายหัวใจเพื่อนคนนี้อยู่ แต่ช่างเถอะ สนพูดไปเพราะไม่รู้ว่าต้นคิดยังไง อีกอย่าง ต้นไม่เคยคิดจะบอกความลับนี้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้น มิตรภาพของเพื่อนที่แสนรักจะยังดำเนินต่อไปอย่างนี้จนวันตาย ดีกว่าถูกทำลายย่อยยับเพราะคำว่า "รัก" จากเพื่อนสนิทที่คิดไม่ซื่อ!

TBC


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-06-2016 10:09:02 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ เข็มวินาที

  • Those who make the worst use of their time are the first to complain of its shortness
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ต้นสนมาแล้วววว มีการปรับเปลี่ยนภาษาให้ดูลื่นขึ้นอย่างบอกจริงๆด้วย เป็นกำลังใจให้จ้า สู้ๆน้าา :katai3:

ออฟไลน์ jamesnaka

  • วิหคเหมันต์
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
▓ ▒ ░ ต้น-สน∞ปาฏิหาริย์รักที่รอคอย ░ ▒ ▓
CHAPTER 02: ใครๆ ก็ลืมวันเกิดสน


"สนๆ มานี่แป๊บนึง"

เสียงเรียกร้อนรนดังมาจากห้องน้ำในห้องนอนของสน ใครบางคนแง้มประตูห้องน้ำโผล่ออกมาแต่ศีรษะ สนละจากการนั่งทำการบ้านแล้วรีบเดินไปหาอย่างสงสัย

"อะไรเหรอ"

"เราลืมเอากางเกงในมาจากบ้านน่ะ" บอกอย่างอายๆ

"อ๋อ...จะให้เราไปเอาให้ไหม" สนขำเบาๆ ต้นนะต้น ลืมอะไรไม่ลืม ดันมาลืมของสำคัญแบบนี้

"ไม่เป็นไรหรอก"

"อ้าว แล้วจะทำไงล่ะ หรือว่าจะไม่ใส่"

"เฮ้ยไม่ได้! พ่อเราบอกว่าถ้าไม่ใส่จะเป็นใส้เลื่อน" ต้นรีบแย้ง

"ใส้เลื่อนเป็นไงเหรอ"

"เออ...อันนี้เราก็ไม่รู้ พ่อบอกแค่นี้" ต้นหัวเราะแหะๆ

สนหันรีหันขวางเหมือนมองหาอะไรบางอย่าง "เอาของเราไปใส่ก่อนไหมล่ะ เพิ่งซื้อมาแพ็คนึง ยังเหลือไม่ได้ใส่ตัวนึงพอดีเลย"

"ก็ดีเหมือนกัน" ต้นบอกเขินๆ "เดี๋ยวเราซักแล้วเอามาคืนให้นะ"

"เฮ้ย! ไม่ต้องคืนก็ได้ เดี๋ยวเราหยิบให้ รอแป๊บนะ"

สนบอกแล้วก็เดินดุ่มๆ ไปค้นๆ ในตู้เสื้อผ้า ไม่นานนักก็หยิบชุดชั้นในสีขาวตัวหนึ่งที่ยังไม่ได้ใส่มาให้เพื่อน

"ไม่รู้เล็กไปหรือเปล่านะ" สนพูดติดตลกพร้อมกับทำหน้าทะเล้น

"นั่นน่ะสิ" ต้นหัวเราะชอบใจ "แต่ไม่เป็นไรหรอก เราคิดว่าใส่ได้" ต้นหยิบชุดชั้นในจากเพื่อนมาแล้วก็ปิดประตูห้องน้ำไป

สนกลับมานั่งทำการบ้านเหมือนเดิม สักพักก็หันไปตะโกนถามว่า "ใส่ได้หรือเปล่า"

"ได้ๆ เล็กไปนิดนึงแต่ก็โอเค" ต้นตะโกนตอบมาเป็นเชิงล้อเลียน

"จริงเหรอ! ของนายใหญ่กว่าของเราอีกเหรอต้น ชักอยากเห็นแล้วสิ ไม่ได้เห็นนานแล้วต้องขอดูหน่อย"

ต้นเปิดประตูห้องน้ำพร้อมกับนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาพอดี สนลุกขึ้นแล้วก็วิ่งไปแกล้งกระตุกผ้าเช็ดตัวเพื่อน ต้นรีบดึงเอาไว้อย่างรู้ทัน

"ไหนๆ ขอดูหน่อย ใหญ่กว่าของเราจริงหรือเปล่า"

"เรื่องอะไร เดี๋ยวนายเห็นแล้วจะตะลึง ช็อกตายเราไม่รับผิดชอบนะ" ต้นหัวเราะร่า มือคอยดึงผ้าเช็ดตัวไว้แน่น

หยอกกันพอหอมปาหอมคอสนก็หยุด

"เชื่อละๆ ไม่ดูตอนนี้ก็ได้ เดี๋ยวค่อยแอบดูตอนกลางคืนดีกว่า" ยิ้มมีเลศนัยแล้วก็หัวเราะ

สนกลับมานั่งทำการบ้านเหมือนเดิม แต่ดูเหมือนคราวนี้ไม่ค่อยมีสมาธิ พอต้นใส่เสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยสนก็เก็บสมุดปากกาเข้าที่แล้วเดินมานั่งบนเตียงนอน ต้นใส่กางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดตัวเก่งที่ต้นมักจะใส่นอนเป็นประจำเดินมายืนข้างๆ

"อ้าว ไม่ทำการบ้านแล้วเหรอ" ถามอย่างแปลกใจแล้วก็เดินมานั่งลงบนเตียงข้างๆ

"ขี้เกียจแล้ว ไว้ทำต่อพรุ่งนี้ดีกว่า พรุ่งนี้พ่อกับแม่นายกลับมาแล้วใช่ปะ"

"อืม" ต้นพยักหน้า

พ่อกับแม่ของต้นพานักเรียนของโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งที่พ่อกับแม่ของต้นสอนอยู่ไปประกวดแข่งขันวิชาการที่กรุงเทพ ต้องพักค้างคืนด้วย ต้นก็เลยต้องมานอนที่บ้านของสน อันที่จริง ถึงแม้ว่าพ่อแม่จะไม่ได้ไปไหน ต้นกับสนก็มักนอนเป็นเพื่อนกันเป็นประจำ สลับกันไปสลับกันมา

"ต้น..." สีหน้าคนพูดเหมือนมีความลับหรือเรื่องพิเศษที่อยากจะพูดคุย

"พรุ่งนี้...นายไปไหนไหม"

ต้นทำท่านึก "อืม...พรุ่งนี้เราไม่ค่อยว่างน่ะ เดี๋ยวพ่อกลับมาแล้วเราก็จะเข้าไปในเมืองกับพ่อตอนสายๆ"

"ไปทั้งวันหรือเปล่า"

"อืม...ก็...น่าจะทั้งวันนะ ไปซื้อของแล้วก็ต้องทำธุระหลายอย่างเลย"

สนหน้าม่อยลงทันทีทันใด

"เหรอ อืม... นายรู้ไหมว่าพรุ่งนี้เป็นวันอะไร" น้ำเสียงเศร้าหม่นลงจนคนฟังรู้สึกได้

"อ๋อ...ก็วันเสาร์ไง" ตอบโดยไม่ต้องคิดให้ยุ่งยาก

"อืม... แล้วมันไม่มีอะไรพิเศษเลยเหรอ"

ต้นส่ายหน้า "ก็ไม่มีอะไรพิเศษนี่ ก็เป็นแค่วันเสาร์เฉยๆ อ้อ...มันเป็นวันหยุดไง เราชอบวันหยุด ใครๆ ก็ชอบวันหยุดทั้งนั้นแหละ"

สนนั่งเงียบ สีหน้าเศร้ามากยิ่งขึ้น

"นายมีอะไรหรือเปล่า หรือว่าพรุ่งนี้นายจะให้เราช่วยดูการบ้านให้ไหม ถ้างั้นดูตอนนี้เลยก็ได้" ต้นรีบอาสา

"เปล่าหรอก ไม่มีอะไร อย่าไปสนใจเลย เดี๋ยวเราจะอาบน้ำแล้ว"

ท่าทางแบบนี้ ต้นรู้ว่าเพื่อนงอนแน่ๆ ถึงต้นกับสนจะไม่เคยทะเลาะต่อยตีกัน แต่ก็มีงอนกันบ้างเล็กน้อย แต่ก็แทบจะนานๆ ทีมีครั้ง ต้นมองตามเพื่อนที่เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วก็แอบยิ้ม

"ขอโทษนะสนที่ต้องแกล้งนาย อดใจรออีกนิดนะเพื่อนรัก" ต้นคิดในใจ

ก็คงต้องทำอะไรสักอย่างให้สนอารมณ์ดีขึ้นกว่านี้ จะได้รู้สึกผิดน้อยลง

"เราลงไปคุยกับพ่อกับแม่แป๊บนึงนะสน" ต้นตะโกนบอกเมื่อสนเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำแล้ว

ไม่มีเสียงตอบรับ คงงอนใหญ่แล้ว แน่ล่ะเพราะสนคิดว่าเพื่อนรักจำวันสำคัญไม่ได้ ต้นเดินลงมาชั้นล่างก็เห็นพ่อกับแม่ของสนนั่งดูทีวีกันอยู่อย่างสบายอารมณ์

"อ้าวต้น สนล่ะลูก" แม่ของสนเอ่ยถามเมื่อเห็นต้นเดินลงบันไดมาคนเดียว

"อาบน้ำอยู่ครับ" ต้นบอกในขณะที่เดินลงบันไดมา

"มาๆ มานั่งดูทีวีด้วยกันก่อน ต้นจะดูเรื่องอะไรบอกพ่อกับแม่ได้นะ เดี๋ยวพ่อเปิดให้" พ่อของสนบอกพลางทำท่าเชื้อเชิญให้ต้นมานั่งด้วย

ต้นนั่งลงที่โซฟาอีกตัว ท่าทางดูเหมือนอยากคุยเรื่องสำคัญกับพ่อและแม่ของสนมากทีเดียว ดูมีลับลมคมในจนผู้ใหญ่สองคนที่นั่งอยู่ผิดสังเกต

"พ่อแต้วแม่พลอยครับ ต้นมีเรื่องอยากจะปรึกษาครับ"

พ่อกับแม่ของสนขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

"อะไรเหรอลูก" แม่สนถามด้วยความอยากรู้

"คืออย่างงี้ครับ..." แล้วต้นก็เล่าแผนการทั้งหมดให้พ่อกับแม่สนฟังจนจบ ดูเหมือนพ่อกับแม่ของสนจะชอบใจแผนของต้นมากทีเดียว

"สนมันคงเซอร์ไพรส์น่าดูเลยนะลูก" แม่ของสนนึกสนุก

"ครับ แต่ว่าตอนนี้ สนเขางอนผมใหญ่เลยครับ" ต้นขำเบาๆ

"ไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวพ่อกับแม่จัดการให้ ขอบใจมากนะลูก" พ่อสนบอกพลางยิ้ม

"งั้นผมขอตัวขึ้นไปข้างบนก่อนนะครับ"

"เอาเลยลูก ตามสบาย อ้อ...แล้วพรุ่งนี้พ่อกับแม่กลับมากี่โมง" แม่สนถามขึ้นมาเมื่อนึกได้

"สายๆ ก็น่าจะมาถึงแล้วครับแม่พลอย"

ต้นค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วก็เดินขึ้นบันไดกลับเข้าไปในห้องสนตามเดิม พ่อกับแม่ของสนมองตามแล้วก็หัวเราะคิกคักด้วยความชอบใจ


สนนอนเงียบๆ อยู่บนเตียงเมื่อต้นเข้ามาในห้อง ช่วงนี้เป็นหน้าหนาวสนเลยเอาผ้าห่มนวมมาห่มแทนผ้าห่มปกติที่มักใช้อยู่เป็นประจำ

"นอนแล้วเหรอ"

"อืม"

ถามคำตอบคำแบบนี้แสดงว่างอนมากพอดูเลยล่ะ เห็นเพื่อนงอนอย่างนี้ต้นก็ชักทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะชวนสนคุยแบบไหนดีที่จะไม่ให้สนงอนไปมากกว่านี้ก็เลยมานอนด้วย ห่มผ้าห่มแล้วก็ครุ่นคิดอยู่สักพัก

"สน เรามีอะไรจะถามนายแน่ะ"

ได้ผล สนหันมาทางต้นด้วยความสนใจ แต่ก็ดูไว้ท่าทีเล็กน้อย

"นายรู้ไหมว่า...ถ้าจะทำอะไรใหม่ๆ จะต้องไปหาใคร"

"หาใครล่ะ" สนทำหน้างงๆ

"นายก็ทายมาก่อนสิ"

"ไปหาพระหรือเปล่า พระจะได้ให้ศีลให้พรไง" สนพยายามเล่นด้วยและทำสีหน้าให้เป็นปกติ กลัวว่างอนมากไปเดี๋ยวจะทำให้ต้นหมดสนุกไปด้วย

"ไม่ใช่"

"อืม...ไปหา...พ่อกับแม่"

"ไม่ใช่อีกแหละ"

"ไปหาครู"

"ก็ยังไม่ใช่"

"เหรอ ไม่ถูกอีกเหรอ งั้น...ไปหา ไม่รู้...นึกไม่ออกแล้ว ไปหาใครเหรอ หาหมอหรือเปล่า"

ต้นก็ยังส่ายหน้าอยู่ดี

"ยอมแล้ว บอกมาเลยละกัน ขี้เกียจเดาแล้ว"

"ก็มาหาเราไง" คนพูดหัวเราะชอบใจ

"อ้าว ทำไมล่ะ ทำไมต้องมาหานาย นายให้พรคนอื่นเป็นด้วยเหรอ"

"เปล่า ไม่ใช่อย่างงั้นซะหน่อย ก็คนที่เขาอยากจะทำอะไรใหม่ๆ เขาก็ต้องเริ่มต้นใช่ไหมล่ะ เพราะฉะนั้น ถ้าเขาอยากเริ่มต้นเขาก็ต้องมาหาเรา เพราะทุกอย่างเริ่มที่ต้น จริงไหม"

ต้นหัวเราะชอบใจ สนขำไปกับมุกตลกของเพื่อนด้วย

"อ๋อ...ดีเลย ถ้างั้นต่อไปถ้าเราจะเริ่มต้นอะไรเราก็มาหานายได้เลยใช่ไหม"

"แน่นอน"

ดูเหมือนสนอารมณ์ดีขึ้นแล้ว ต้นจึงค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย

"ต้น...ตกลงนายไม่รู้จริงๆ เหรอว่าพรุ่งนี้เป็นวันอะไร"

ดูเหมือนสนจะติดใจเรื่องนี้มากที่ต้นจำไม่ได้ว่าพรุ่งนี้เป็นวันอะไร สงสารเพื่อนก็สงสาร แต่จะตอบไปตามตรงก็คงไม่ได้ ความจริงสนก็น่าจะรู้ว่าไม่มีทางเป็นไปได้ที่ต้นจะลืมวันสำคัญของเพื่อนรัก แถมตอนนี้ยังเป็นมากกว่าเพื่อนรักเสียด้วยซ้ำ

"รู้สิ"

สนยิ้มลิงโลด ท่าทางดูตื่นเต้นไม่น้อย "นายรู้แล้วเหรอ"

"ไม่เห็นจะยากเลย วันพรุ่งนี้เป็นวัน...วันพระใช่ไหมล่ะ"

ดูเหมือนความพยายามที่จะเล่นเป็นเรื่องขำๆ ของต้นจะไม่เป็นผลสักเท่าไหร่ สนหน้าม่อยไปอีกแล้ว

"ไม่เป็นไร นายไม่รู้ก็ไม่เป็นไร พรุ่งนี้มันไม่สำคัญหรอก อย่าสนใจเลย นอนเหอะ"

ว่าแล้วสนก็พลิกตัวหันหน้าหนีไป ต้นก็เลยหน้าเสียด้วยความสงสารเพื่อน แต่เอาเถอะนะ อดทนอีกนิดเดียวละกัน

"อืมๆ เดี๋ยวเราปิดไฟให้นะ"

ต้นอาสาพลางลุกขึ้นเดินเพื่อไปปิดสวิตช์ไฟพร้อมกับแอบชำเลืองมองดูสนที่นอนหน้าเศร้า เห็นแล้วก็ยิ่งอดสงสารเพื่อนอีกไม่ได้ แค่วันนี้วันเดียวนะสน เราขอโทษจริงๆ ต้นคิดในใจ

 

เช้าวันใหม่ ใครๆ ต่างก็ไม่สนใจสนเลย ต้นก็หายไปกับพ่อตั้งแต่ตอนสายๆ สนไปช่วยพ่อกับแม่ที่สวนส้มโอทั้งวันอย่างหงอยเหงา แม้ว่าพ่อกับแม่จะจับสังเกตได้ว่าสนดูซึมๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร จนกระทั่งตกเย็น หลังจากกลับจากสวนแล้วพ่อกับแม่ก็พาสนมาที่บ้านต้น ใจจริงสนไม่อยากมาเลย รู้สึกเซ็งจนไม่อยากไปไหนทั้งนั้น จึงบ่นกระปอดกระแปด

"ทำไมต้องไปด้วยล่ะแม่"

"ไปเถอะลูก เนี่ยพ่อแอ๊ดกับแม่เยาเพิ่งมาถึงบ้าน ต้นก็อยู่นะ" แม่สนคะยั้นคะยอ

"ไปลูก ไปแต่งตัวดีๆ หน่อย" แม่สนรุนหลังลูกชาย สนลุกขึ้นอย่างจำใจแล้วก็ขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า วันนี้สนเฝ้าแต่คอยหวังว่าจะมีใครจำได้ว่าวันนี้เป็นวันอะไร ขนาดพ่อกับแม่ยังลืมเลยแล้วคนอื่นๆ จะไปจำได้ยังไง ต้นก็จำไม่ได้ เสียใจจริงๆ ที่เพื่อนรักทำเหมือนไม่สนใจเลย

พอมาถึงบ้านต้น ก็เจอแค่พ่อกับแม่ของต้น ส่วนต้นก็ไม่รู้หายไปไหน

"อ้าวสน พ่อแต้ว แม่พลอย" แม่ของต้นเอ่ยทักเมื่อมาเปิดประตูบ้าน

"เข้ามาข้างในก่อน มาๆ เข้ามานั่งข้างในตามสบายเลย"

สนยกมือสวัสดีพ่อกับแม่ของต้นที่ออกมาต้อนรับแล้วก็เลยถาม "ต้นล่ะครับ"

"อยู่ข้างบนน่ะลูก สงสัยอาบน้ำอยู่ มาๆ มานั่งข้างในก่อน" พ่อของต้นเชื้อเชิญ

สนและพ่อกับแม่เดินมานั่งลงที่โซฟารับแขก จากนั้นผู้ใหญ่ทั้งสี่ท่านก็สนทนากันอย่างออกรสออกชาติ สนได้แต่นั่งฟังอย่างเซ็งๆ แล้วก็มองไปมองมา ถ้าแม่ไม่คะยั้นคะยอก็คงไม่แบกหน้าแบบนี้มาบ้านต้นหรอก จะว่าไปต้นก็อาบน้ำนานไปหน่อยจนน่าผิดสังเกต

ยังไม่ทันที่สนจะถามหาเพื่อนรัก อยู่ดีๆ ไฟในบ้านก็ดับพรึ่บลง จากนั้นเสียงร้องเพลงของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้นพร้อมกับมีแสงส่องสว่างบางอย่างเคลื่อนที่ออกมาจากบริเวณห้องครัว

เมื่อสนตั้งสติและปะติดปะต่อได้จึงได้รู้ว่าต้นและพ่อกับแม่ของทั้งสองบ้านกำลังร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์อยู่ ต้นเป็นคนค่อยๆ เดินถือถาดขนมเค้กวันเกิดเข้ามาใกล้ๆ แล้ววางเค้กลงบนโต๊ะที่สนนั่งอยู่ จากนั้นก็เป็นต้นเสียงร้องเพลงอวยพรวันเกิดอีกคำรบ

"แฮปปี้เบิร์ธเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ธเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ธเดย์ แฮปปี้เบิร์ธเดย์ แฮปปี้เบิร์ธเดย์ทูยู"

เมื่อสิ้นเสียงทูยูที่ลากยาวรอบที่สอง ทุกคนก็ปรบมือพร้อมกันพร้อมกับบอกให้สนเป่าเค้กวันเกิดของตัวเอง

"สุขสันต์วันเกิดนะสน มีความสุขมากๆ นะ...เพื่อนรัก" ต้นเป็นคนอวยพรคนแรก

สนยิ้มจนแก้มแทบปริ ที่แท้ต้นรวมทั้งพ่อกับแม่ของทั้งสองบ้านต่างก็แกล้งลืมวันเกิดของสน ความขุ่นเคืองที่มีมาตลอดวันหายไปหมดสิ้นเมื่อเห็นเค้กวันเกิดวางอยู่ตรงหน้า สนเป่าเค้กวันเกิดจนเทียนดับหมด พ่อของต้นเดินไปเปิดไฟในบ้านให้สว่างแล้วก็กลับมานั่งที่เช่นเดิม ทุกคนที่ได้เห็นเค้กวันเกิดชัดๆ ต่างก็ตาโตด้วยความตื่นเต้น

"สุขสันต์วันเกิดนะสน ขอให้สนเรียนเก่งๆ จบมามีหน้าที่การงานดีๆ แฟนสวยๆ นะลูก" แม่ของต้นอวยพรต่อจากต้น

"ของขวัญวันเกิดจากบ้านเรา อะต้น มอบให้สนเร็ว"

ต้นรีบกุลีกุจอรับกล่องของขวัญมาจากแม่แล้วยื่นส่งต่อให้สน ต้นเห็นเพื่อนยิ้มมีความสุขแล้วก็ดีใจจนยิ้มแก้มแทบปริเช่นกัน สนรับกล่องของขวัญวันเกิดมาจากเพื่อนด้วยท่าทางตื่นเต้น

"อะไรเหรอ แกะดูเลยได้ไหม"

"เอาสิ" ต้นเห็นดีด้วย

สนจึงค่อยๆ แกะกล่องของขวัญอย่างเบามือเหมือนกับกลัวว่าสิ่งที่อยู่ข้างในจะเสียหาย ต้นเดินไปหยิบคัตเตอร์มาให้สนเพื่อให้แกะได้ง่ายขึ้น พอเปิดออกเห็นของขวัญที่อยู่ข้างสนแล้วสนก็ตาโต

"กางเกงยีนส์" สนพูดเหมือนรำพึงรำพันกับตัวเอง หยิบกางเกงยีนส์ออกมาแล้วก็ลุกขึ้นยืน คลี่กางเกงยีนส์ที่พับอยู่ออก ยกตรงเอวทั้งสองข้างของกางเกงขึ้นเพื่อดูรูปทรง จากนั้นก็ยิ้มด้วยความพอใจ

"เท่มากเลยครับ ขอบคุณมากครับพ่อแอ๊ด แม่เยา ต้น ชอบมากเลยครับ" สนยกมือไหว้ขอบคุณพ่อกับแม่ของต้น ใบหน้าเปื้อนยิ้มบ่งบอกว่ามีความสุขมากแค่ไหน

"สุขสันต์วันเกิดนะลูกพ่อ ขอให้สนเรียนเก่งๆ เป็นเด็กดีของพ่อกับแม่ หล่อๆ รวยๆ นะลูก อะนี่ ของขวัญจากบ้านเรา แม่...เอาให้ลูก" พ่อสนหยิบกล่องขวัญส่งให้แม่ แม่ของสนลุกขึ้นยืนแล้วก็ยื่นกล่องของขวัญให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน

"ขอบคุณครับพ่อ ขอบคุณครับแม่"

สนยกมือไหว้ผู้มีพระคุณทั้งสองท่านก่อนที่จะรับของขวัญมา "สนแกะเลยนะครับ"

"เอาเลยลูก" แม่สนบอกอย่างตื่นเต้น เห็นลูกชายมีความสุขแล้วก็พลอยมีความสุขตามไปด้วย

สนนั่งลงบนเก้าอี้ ใช้คัตเตอร์ที่ต้นให้มาแกะกล่องของขวัญอย่างเบามือ เมื่อเห็นของที่อยู่ข้างในสนก็ตาโตด้วยความดีใจอีกเช่นกัน

"เสื้อ...โห...เท่มากเลยครับ"

"เข้ากับกับกางเกงยีนส์พอดีเลย" แม่ของต้นชม

"ใส่แล้วรับรองสาวๆ กรี๊ดทั้งโรงเรียนเลยลูก" พ่อของต้นชมบ้าง

"เก็บของขวัญก่อนลูก ตัดเค้กก่อน เดี๋ยวเค้กไอศกรีมละลายหมด" แม่ของสนเตือน

"ครับๆ"

สนรีบหยิบมีดมาตัดแบ่งเค้กตามที่แม่บอก ต้นเป็นคนหยิบจานใบเล็กและช้อนส่งให้สน ต้นส่งเค้กที่ตัดแล้วให้พ่อกับแม่ของสนก่อน จากนั้นก็ส่งให้พ่อกับแม่ของต้น ส่วนต้นกับสนเป็นสองคนสุดท้ายที่ได้กินเค้กแสนอร่อยนี้

ระหว่างที่ทุกคนกำลังสนุกเพลิดเพลินกับการกินเค้กไอศกรีม ต้นก็ไม่ลืมที่จะขอโทษเรื่องแกล้งลืมวันเกิดจนเพื่อนงอนไปทั้งวัน

"ขอโทษด้วยนะสนที่เราแกล้งลืมวันเกิดของนาย เซอร์ไพรส์ใช่ไหมล่ะ"

"สุดๆ เลย" สนหัวเราะ แล้วก็พูดต่อ "เราน้อยใจทั้งวันเลย นึกว่าจะไม่มีใครสนใจ"

ทุกคนได้ยินแล้วก็ขำ

"เด็กดีอย่างสน ใครจะไปลืมวันเกิดได้ลงคอล่ะลูก" แม่ของต้นบอก

"คือว่า...ทั้งหมดนี้ เป็นแผนของเราเองแหละ" ต้นบอกเสียงอ่อยๆ พร้อมกับหัวเราะแหะๆ

เมื่อทุกคนหัวเราะต้นก็หัวเราะไปด้วย สนเอามือยีผมเพื่อนเล่นเบาๆ แล้วก็ขำ

"ตัวการอยู่นี่เอง เราว่าแล้ว ทำไมไม่มีใครสนใจเราเลย แต่ไม่เป็นไร เค้กอร่อยมาก เสื้อก็สวย กางเกงยีนส์ก็เท่ห์ ให้อภัยๆ"

สนพูดติดตลกตอนท้าย เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้ดีทีเดียว บรรยากาศที่แสนอบอุ่นและมีความสุขของสองครอบครัวนี้เกิดขึ้นติดต่อกันมาหลายปีแล้วตั้งแต่ที่ได้มารู้จักกัน ลูกชายที่น่ารักทั้งสองคนเข้ากันได้เป็นอย่างดีจนพ่อกับแม่ของทั้งสองบ้านหมดกังวล ต้นกับสนคอยดูแลกันเป็นอย่างดีเสมอ แถมยังเป็นเด็กดีทั้งคู่ ไม่เคยชวนกันไปเกเรที่ไหน เล่นกันอยู่สองคนได้ทั้งวัน คนในหมู่บ้านต่างก็ชื่นชมที่เด็กสองคนนี้ต่างจากเด็กคนอื่นๆ ในหมู่บ้านเดียวกัน


สนอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็มานั่งดูเสื้อกับกางเกงยีนส์ที่วางคู่กันบนเตียงด้วยความปลาบปลื้มใจ อยากได้เสื้อกับกางเกงยีนส์เท่ๆ แบบนี้มานานแล้ว ต้นคงเคยได้ยินที่สนเปรยให้ฟังบ่อยๆ ถึงได้ซื้อเป็นของขวัญให้ สนรู้ว่าต้นใส่ใจกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของสนเสมอ บางเรื่องสนเองยังไม่เคยสังเกตตัวเองขนาดนั้นเลยด้วยซ้ำ ตั้งแต่มีต้นเป็นเพื่อน สนก็รู้สึกว่าชีวิตมีความสุขมาก อย่างน้อยก็ได้รู้ว่ามีใครคนหนึ่งที่คอยรักและเป็นห่วง สนเองก็รักและเป็นห่วงเพื่อนไม่แพ้กัน

เสียงเคาะประตูห้องทำให้สนต้องรีบเอาเสื้อกับกางเกงยีนส์ไปเก็บใส่ตู้เสื้อผ้า เพราะกลัวใครมาเห็นเข้าแล้วจะหาว่าเห่อ

"เดี๋ยวครับ" สนตะโกนบอกไป เมื่อแขวนเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็รีบเดินมาเปิดประตู

"แม่"

"สนยังไม่นอนใช่ไหมลูก" แม่สนถามพลางเดินเข้ามาในห้องลูกชาย แล้วก็เดินไปนั่งบนเก้าอี้ที่สนใช้นั่งทำการบ้าน

"ยังครับ"

"เป็นไงมั่งลูกวันนี้"

สนเดินไปนั่งลงบนพื้นข้างๆ แม่ด้วยรอยยิ้มที่ระบายบนใบหน้า "สนมีความสุขมากเลยครับแม่"

"ดีแล้วลูก สนอย่าลืมไปขอบคุณต้นอีกนะลูก"

"ครับ" สนรับคำแต่สีหน้าออกจะงงๆ เพราะในงานสนก็ขอบคุณต้นไปหลายครั้งแล้ว ทำไมแม่ถึงอยากให้ไปขอบคุณอีก

"แม่มีอะไรจะบอก" แม่สนหยุดเว้นจังหวะ

"สนรู้ไหมว่างานวันเกิดของลูกวันนี้ ต้นเป็นคนจัดการให้ทั้งหมดเลยนะลูก ต้นวางแผนไว้นานแล้ว อุตส่าห์เก็บเงินค่าขนมมาจัดงานแล้วก็ซื้อของขวัญวันเกิดให้ลูก สนโชคดีนะลูกที่มีเพื่อนดีๆ อย่างต้น แม่ก็เลย...อยากให้สนไปขอบคุณต้นอีกสักทีนะลูก"

"จริงหรือครับแม่" สนถามอย่างแปลกใจ ไม่คิดมาก่อนว่าต้นจะยอมทำให้ถึงขนาดนี้

"จริงสิลูก อ้าวสน จะไปไหนลูก" แม่ของสนร้องถามเมื่อจู่ๆ สนก็ลุกขึ้นพรวดแล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

"ไปหาต้นครับแม่"

สนตะโกนตอบขณะที่วิ่งลงบันไดไป ก่อนจะดิ่งตรงไปบ้านเพื่อนที่อยู่ไม่ไกล วิ่งมาถึงหน้าบ้านต้นก็ประมาณห้าทุ่มแล้ว บ้านของต้นกับสนไม่ได้อยู่ติดกันแต่ก็ไม่ห่างกันมาก มีที่่ดินว่างๆ เล็กๆ ผืนหนึ่งคั่นไว้อยู่ สามารถเดินไปมาหาสู่กันได้อย่างสบายๆ

ไม่รู้ว่าต้นนอนหรือยัง แต่สนต้องคุยกับต้นให้ได้ ถ้าไม่ได้คุยคืนนี้สนต้องนอนไม่หลับอย่างแน่นอน ไฟในบ้านต้นยังเปิดอยู่ แสดงว่าใครสักคนยังคงไม่นอนเป็นแน่ ถ้าไม่ใช่ต้นก็คงเป็นพ่อกับแม่ของต้นนั่นแหละ

สนกดกริ่งหน้าบ้าน สักพักก็เห็นพ่อของต้นเดินออกมาเปิดประตูให้ด้วยสีหน้าแปลกใจ

"อ้าวสน มีอะไรเหรอลูก ต้นขึ้นนอนไปแล้ว มา...เข้ามาก่อน"

"ต้นนอนแล้วเหรอครับพ่อแอ๊ด" สนถามเมื่อเดินตามพ่อของต้นเข้ามาในบ้าน

"น่าจะนอนแล้วล่ะ เห็นปิดไฟไปแล้ว สนมีอะไรหรือเปล่าล่ะลูก" พ่อของต้นหยุดเดินแล้วหันมามองหน้าเพื่อนของลูกชาย

"ผมจะมาขอบคุณต้นอีกครั้งครับพ่อแอ๊ด ไม่งั้นผมนอนไม่หลับแน่ๆ เลยคืนนี้ ผมเพิ่งรู้ว่าต้น...เก็บเงินค่าขนมมาจัดงานวันเกิดให้ผม"

"อ้อ..." พ่อต้นยิ้มแล้วก็พยักหน้าน้อยๆ เป็นเชิงยอมรับ

"พ่อก็เพิ่งรู้เหมือนกัน ไปลูก ลองขึ้นไปดูก่อน ถ้าต้นนอนแล้วก็ปลุกได้" พ่อต้นบอกด้วยความเข้าใจ ถ้าพ่อแอ๊ดเป็นสนก็คงต้องทำอย่างนี้เหมือนกัน

"ขอบคุณครับพ่อแอ๊ด" บอกแล้วสนก็รีบเดินเข้าไปในบ้าน จากนั้นก็วิ่งขึ้นไปชั้นสอง ตรงไปที่ห้องของต้นทันทีทันใด

สนลองบิดลูกบิดประตูก็ปรากฎว่าเปิดได้เพราะต้นไม่ได้ล็อกไว้ มีแสงสลัวๆ พอมองเห็นได้เพราะต้นปิดแค่ผ้าม่านไว้ไม่ได้ปิดหน้าต่าง จึงพอมีแสงไฟจากข้างนอกทะลุผ่านเข้ามาในห้องบ้าง

สนเดินไปนั่งลงข้างๆ เตียงเพื่อน ต้นนอนหลับไปแล้วก็เลยลังเลว่าจะปลุกเพื่อนดีหรือเปล่า แต่ก็คงต้องปลุกล่ะนะ ยังไงๆ ก็ต้องขอบคุณต้นให้ได้คืนนี้

สนเอื้อมมือไปจับแขนเพื่อนเบาๆ ความรู้สึกประหลาดบางอย่างแล่นเข้าสู่หัวใจราวกับมีกระแสไฟฟ้าวิ่งมาจากตัวของต้น แม้จะสัมผัสตัวกันอยู่บ่อยๆ แต่ก็ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อนเลย

สนมองหน้าเพื่อนที่นอนหลับอย่างพิจารณา ริมฝีปากที่ยิ้มน้อยๆ นั้นยิ่งเพิ่มความรู้สึกประหลาดเมื่อสักครู่นี้ให้มากขึ้นไปอีก ต้นเป็นคนรูปร่างสมส่วน ถึงจะตัวไม่ใหญ่เหมือนผู้ชายทั่วไปแต่ก็ไม่อ้อนแอ้น ทุกครั้งที่อยู่ใกล้เพื่อนสนรู้สึกอยากทะนุถนอม ต้นเป็นเพื่อนผู้ชายเพียงคนเดียวที่สนไม่เล่นด้วยแรงๆ ไม่พูดมึงกูด้วย ตรงกันข้าม สนจะเล่นกับต้นต่างจากเพื่อนคนอื่นๆ หลายครั้งก็มักจะเล่นแบบถึงเนื้อถึงตัวมากกว่าเพื่อนทั่วไป เช่น กอดคอ นอนตัก จับมือถือแขนหรือไม่ก็กอดได้โดยไม่รู้สึกขัดเขิน

สนเขย่าแขนต้นเบาๆ แล้วก็เรียกชื่อ ถือว่าเป็นการสลัดความรู้สึกประหลาดนั้นออกไปจากความคิดด้วย

"ต้น ต้น"

ต้นลืมตาตื่นขึ้นหลังจากที่สนเรียกไปสองสามครั้ง อาจจะเป็นเพราะยังไม่หลับลึกจึงตื่นได้ง่าย พยายามปรับสายตาสักพักก็เห็นเงาและใบหน้าของใครบางคนอยู่ตรงหน้า แม้จะไม่ชัดเจนเท่าไหร่แต่ต้นก็รู้ว่าเป็นใคร

"อ้าวสน มีอะไรหรือเปล่า" ต้นถามด้วยเสียงงัวเงียแล้วก็ค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะค่อยๆ เอื้อมมือไปเปิดไฟที่หัวเตียง

สนลุกขึ้นมานั่งข้างๆ พอต้นเห็นสนน้ำตาซึมเหมือนกับจะร้องไห้ก็ตกใจ

"เฮ้ยสน! นายเป็นอะไร!"

"เพราะนายนั่นแหละ" สนพูดติดตลก แต่ต้นดูเหมือนจะไม่ตลกตามไปด้วย

"เราเหรอ วันนี้เราทำให้นายเสียใจเหรอ" ต้นถามแล้วก็หน้าเสีย ใจคอไม่ดีเพราะคิดว่าตัวเองทำให้เพื่อนเสียใจมากจนร้องไห้

"ใช่...นายนั่นแหละ เรารู้หมดแล้วนะว่านาย...อุตส่าห์เก็บเงินค่าขนมมาจัดงานวันเกิดให้เรา แล้วก็ซื้อกางเกงยีนส์ให้เราด้วย ยี่ห้อนี้...แพงด้วยนะ"

"อ้อ" ต้นพูดแค่นั้นแล้วก็เงียบไปเพราะไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี

"ขอบคุณมากนะต้น นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเราเลยรู้ไหม นายรู้หรือเปล่าว่าตั้งแต่เรามีนายเป็นเพื่อน เราโคตรมีความสุขเลย จริงๆ นะต้น"

ถ้าใครมีเพื่อนดีๆ อย่างต้นไม่ร้องไห้ก็คงผิดปกติแล้วล่ะ วันเกิดวันนี้ของสนคงจะเป็นวันที่จะต้องจดจำไปอีกนานแสนนาน สนเอามือป้ายน้ำตาเหมือนเด็กๆ จนเพื่อนอีกคนเห็นแล้วก็อดขำไม่ได้

"ขอโทษที่มากวนเวลานอนของนาย แต่ถ้าเราไม่ได้มาขอบคุณนาย เราก็คงนอนไม่หลับแน่เลยคืนนี้"

"ไม่เป็นไรหรอก เรื่องแค่นี้เอง อ้อ...ไหนๆ ก็มาแล้ว นายจะนอนนี่เลยไหม"

สนพยักหน้า ใบหน้าเปื้อนน้ำตาทำให้สนดูแปลกไปพอสมควร ต้นไม่เคยเห็นสนร้องไห้อย่างนี้เลย ทำให้ต้นอดขำอีกไม่ได้

"ขำอะไร ไม่เคยเห็นคนร้องไห้เหรอ"

"อืม...ไม่เคยเห็นเลย"

"ก็ดูไว้ซะ นายน่ะ...ทำให้เราซึ้งขนาดนี้ เราจะไม่ร้องไห้ได้ยังไงล่ะ"

แล้วต่างคนก็ต่างเงียบไปสักพักเหมือนคิดอะไรบางอย่าง สนดึงมือต้นมาแล้วก็จับมือกันคล้ายเชคแฮนด์ ต้นเกิดอาการประหม่าอย่างเห็นได้ชัด ถึงสนจะเล่นด้วยอย่างถึงเนื้อถึงตัวบ่อยๆ แต่ก็ไม่เคยจับมืออย่างนี้

"เราสัญญานะต้น เราจะดูแลเพื่อนดีๆ อย่างนายให้ดีที่สุด" สนยิ้มอย่างอบอุ่น แววตาบ่งบอกว่าจริงจังกับสิ่งที่พูดมากแค่ไหน

"เราก็จะดูแลนายให้ดีที่สุดเหมือนกัน...เพื่อนรัก" ต้นบอกกลับไปพร้อมกับรอยยิ้ม

สนยิ้มด้วยความปลาบปลื้มใจอย่างที่สุด ไม่บ่อยนักที่สนจะได้ยินคำว่า "เพื่อนรัก" จากต้น ได้ยินทีไรก็มีความสุขทุกที

"ต้น...นายจะทำให้เราหาแฟนยากรู้ไหม ถ้าหาแฟนที่ดีกับเราเหมือนที่นายดีกับเราไม่ได้ เราขอไม่มีแฟนดีกว่า" สนพูดติดตลกในตอนท้าย

ต้นได้ฟังแล้วก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ารู้สึกยังไง ต้นไม่ใช่ผู้หญิง ยังไงต้นก็ทำหน้าที่นั้นที่ต้นอยากทำแทนแฟนในอนาคตของสนไม่ได้หรอก แค่คิดก็ผิดแล้ว

นี่ก็คือหนึ่งในเหตุการณ์ที่ทำให้ต้นได้รู้ว่าความผูกพันระหว่างเพื่อนของต้นกับสนนั้นแน่นแฟ้นมากแค่ไหน ต้นรู้ดีว่ามันเป็นเรื่องยากเพียงใดที่จะปฏิเสธหัวใจไม่ให้รู้สึกผูกพันและรักเพื่อนคนนี้มากขึ้น นานวันเข้า หลายๆ เหตุการณ์ที่เกิดจากมิตรภาพของทั้งสองคนก็ยิ่งทำให้ความรู้สึกของต้นเกินเลยไปไกล ยากที่จะดึงกลับมาได้ ถนนสายนี้เริ่มต้นด้วยมิตรภาพ ต้นไม่รู้หรอกว่าปลายทางจะไปสิ้นสุดที่ไหน คงไม่ใช่ความรักหรอกนะ เรื่องนั้นไกลจนเกินที่คนอย่างต้นจะกล้าฝันด้วยซ้ำ[/size]

TBC

ป.ล. ตอนที่ 1-4 จะเป็นลักษณะของการเล่าเรื่องย้อนหลังนะครับ[/size]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-08-2016 13:44:41 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
เข้ามาตามลิงค์แล้วเจอต้นสนอ่อนโยน นุ่มนวลมาก
บวกเป็ดขอบคุณ+เป็นกำลังใจ
 :mew1:

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5

ออฟไลน์ shichina

  • Hina-Chang
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ชอบแบบนี้~ คือเราไม่ค่อยชอบเฟิร์นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว 555
ปรับใหม่ให้ลงเอยแบบนี้ก็ดีค่ะ ไม่ต้องมีบทให้ชะนีเยอะหรอก  :hao7:

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
ตอนที่สองซึ้งดีอ่ะ ที่เพื่อนคนนึงทำให้ได้ขนาดนี้

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ question09

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-10

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
ขอเข้ามาติดตาม ความรัก ความผูกพัน ความทรงจำของ ต้น-สน

ออฟไลน์ Fragrant

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 859
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
เริ่ดจ้าาาา า า า า า รอตอนต่อไปนะค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :impress2: บวกเป็ดสำหรับความประทับใจค่ะ เป็นความรักที่ค่อยๆก่อตัวขึ้นจากความประทับใจ รอตอนต่อไปน้า

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
▓ ▒ ░ ต้น-สน∞ปาฏิหาริย์รักที่รอคอย ░ ▒ ▓
CHAPTER 03: พ่อสื่อจำเป็น


คุณเคยแอบรักใครสักคนไหม แล้วจำความรู้สึกที่มีทั้งความสุข ความเศร้าและหัวใจที่หวิวๆ โหวงๆ นั้นได้หรือเปล่า อยู่ใกล้แต่บางครั้งก็รู้สึกเหมือนไกล อยากจะบอก อยากจะพูดความรู้สึกแต่ก็ไม่กล้าเพราะกลัวความสัมพันธ์ไม่เหมือนเดิม มันทรมานมากเหมือนกันนะ แต่พอได้เห็น ได้อยู่ใกล้ ได้เห็นรอยยิ้ม ได้พูดคุย ได้ทักทายหรือทำอะไรให้กันบ้าง ที่เคยคิดว่าจะตัดใจก็ลืมไปเสียสิ้น ยอมแพ้ใจตัวเองอย่างราบคาบ

ประสบการณ์เรื่องนี้ของต้นก็คงไม่ต่างจากเรื่องราวการแอบรักเพื่อนของใครหลายๆ คน แต่ไม่ว่าจะสุขจะเศร้าอย่างไร ต้นก็อยู่กับความรู้สึกนี้มาได้หลายปีแล้ว แม้ในบางครั้งจะเจ็บปวดจนอยากหลบลี้หนีหน้าไป แต่ความรักก็ยังคงฉุดดึงให้ต้นยังคงอยู่ตรงนี้เสมอ ยอมที่จะเจ็บปวดในบางครั้งเพื่อแลกกับความสุขที่ได้อยู่ใกล้ชิดและคอยดูแลใครบางคนที่ต้นรักนั่นเอง


ต้นยืนมองสนเล่นบาสกับเพื่อนๆ ตรงระเบียงอาคารเรียนในคาบอิสระอย่างเพลินๆ เวลามองไกลๆ แบบนี้ ทำให้ต้นกล้าที่จะมองและสังเกตทุกท่วงท่ากิริยาของเพื่อนมากขึ้น รอยยิ้มของสนดูอบอุ่น มีเสน่ห์ ไม่ว่าสนจะทำอะไร เดินไปทางไหน พลังที่อบอุ่นดูเหมือนจะตามสนไปทุกที่

สนอายุ 16 แล้ว เป็นหนุ่มมากขึ้น ใบหน้าคมคายตัดกับผิวขาวละเอียดแบบคนเหนือของสนยิ่งทำให้สนดูโดดเด่นมากกว่าเพื่อนๆ คนอื่นๆ สนชอบเล่นกีฬาจึงทำให้รูปร่างดี ถ้าจะพูดตรงๆ ก็คือมีเสน่ห์ดึงดูดทางเพศอย่างมากทีเดียวล่ะ หลายครั้งที่สนมานอนที่บ้านต้น สนมักจะใส่บ็อกเซอร์ที่แสนวาบหวิว ทำให้ต้นใจสั่นได้บ่อยๆ ต้องคอยหักห้ามใจอย่างมากที่จะไม่ทำอะไรเกินเลยกับเพื่อน

"ดูอะไรวะต้น"

เสียงที่เรียกมาจากข้างหลังฉุดให้ต้นตื่นขึ้นจากภวังค์

"อ้าวซีล..." ต้นมองเพื่อนร่วมห้องอย่างหวั่นใจ

ไม่รู้ว่าซีลจะสงสัยอะไรหรือเปล่า แต่สีหน้าก็ดูเหมือนกำลังครุ่นคิด

"เฮ้ยต้นมานี่" พูดไม่พูดเปล่า ซีลคว้าข้อมือต้นได้แล้วก็พาเดินออกไป ต้นขัดขืนเล็กน้อยแต่รู้ว่าไม่มีประโยชน์ก็เลยต้องยอมตามไปโดยดี

"อะไรวะไอ้ซีล มึงจะพากูไปไหน"

"เออน่า กูมีอะไรจะคุยกับมึงหน่อย"

ซีลพาต้นมาที่ลับตาคนในอาคารเรียนได้แล้วก็หยุด สังเกตเห็นได้ชัดว่าต้นดูประหม่าเหมือนกับกลัวบางสิ่งบางอย่าง โดยเฉพาะเรื่องนั้นที่ต้นยังไม่อยากให้ใครรู้

"จะถามอะไรวะ ทำไมต้องมาคุยที่นี่ด้วย"

"ต้น...มึงบอกกูมาตามตรงได้ปะวะ"

แค่เพื่อนถามแบบนี้ต้นก็ชักระแวงเสียแล้ว

"อะไรล่ะ"

"มึงชอบไอ้สนใช่ไหม"

คนถูกถามทำหน้าตกใจ สีหน้าซีดเผือด หัวใจเต้นโครมครามราวกับจะหลุดออกมาจากอกเมื่อได้ยินคำถามที่ไม่เคยมีใครถามมาก่อน แน่ล่ะ มันคือความลับที่ก่อนหน้านี้มีแต่ต้นเท่านั้นที่รู้ ตอนนี้มันเริ่มจะไม่เป็นความลับเสียแล้ว เอายังไงดี ต้นควรจะบอกเพื่อนดีหรือเปล่า

"ก็สนมันเป็นเพื่อนกู มึงจะให้กูเกลียดสนหรือไงล่ะ"

ต้นพยายามเฉไฉ ไม่กล้าสบตาเพื่อนตรงๆ เพราะสายตาที่คาดคั้นสงสัยของซีลนั้นทำให้ต้นไม่มั่นใจเอาเสียเลย

"เฮ้ยต้น มึงไว้ใจกูหรือเปล่าวะ กูกับมึงก็เป็นเพื่อนวิ่งเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ นะเว้ย มึงก็เป็นเพื่อนคนหนึ่งที่กูสนิทด้วย กูเป็นห่วงมึงไม่น้อยกว่าไอ้สนหรอก บอกตามตรง กูสังเกตดูมึงกับไอ้สนมานานแล้ว กูว่ามันแปลกๆ ว่ะ ถ้ามึงชอบสนจริงๆ กูจะได้หาทางช่วยให้มึงสมหวังไง กูช่วยได้นะเว้ย"

"อย่านะเว้ย" ต้นรีบร้องห้ามทันที แต่นั่นก็เท่ากับว่าต้นได้เผยความจริงออกไปแล้ว พอรู้ตัวว่าเสียทีก็ทำอะไรไม่ได้เพราะสายไปเสียแล้ว

"แบบนี้แสดงว่ามึงยอมรับแล้วสิว่ามึงชอบไอ้สนมัน" ซีลถามพลางจ้องตาต้นที่ตอนนี้เริ่มทำตัวไม่ถูก

"ไอ้ซีล แล้วมึงจะมากดดันให้กูพูดทำไมวะ มึงจะอยากรู้ไปทำไม"

ดูเหมือนคำถามนั้นจะทำให้ซีลได้สติกลับมา ความอยากรู้ที่มากเกินไปก็สร้างความกดดันให้กับเพื่อนมากเกินไปเช่นเดียวกัน เมื่อกี้ซีลก็ใจร้อนอยากรู้มากไปหน่อย บางทีต้นอาจจะยังไม่พร้อมที่จะพูดตอนนี้ก็ได้

"เฮ้ย กูขอโทษว่ะ ที่กูถาม เพราะกูอยากช่วยมึง ถ้ามึงชอบไอ้สนแล้วได้แต่แอบชอบมันอยู่อย่างนี้ มึงจะสมหวังได้ไงวะ ถ้ามึงไม่กล้าบอกมัน กูจะช่วยเอง"

"เฮ้ยซีล กูขอร้อง อย่าให้สนรู้เรื่องนี้อย่างเด็ดขาดเลยนะเว้ย" ต้นบอกด้วยสีหน้าวิงวอน

"ทำไม" ซีลขมวดคิ้ว

"ถ้าเกิดสนไม่ได้คิดเหมือนที่กูคิดกับสน กูกับสนอาจจะเลิกคบกันไปเลยนะเว้ย กูไม่อยากให้มันเป็นอย่างงั้น กูไม่อยากเสียเพื่อนไป มันไม่ง่ายอย่างที่มึงคิดนะไอ้ซีล อีกอย่าง...มึงก็รู้ว่ากูกับสนเป็นลูกชายคนเดียวเหมือนกัน แถมครอบครัวกูกับสนก็สนิทกันอีก พ่อแม่ของพวกกูสองคนจะรู้สึกยังไงถ้ารู้เรื่องนี้ มันจะเป็นเรื่องใหญ่นะเว้ยไอ้ซีล เกิดเขารับไม่ได้ขึ้นมากูก็แย่เลยนะเว้ย"

จริงด้วยสินะ ซีลลืมคิดไป พอรู้อย่างนี้แล้วก็รู้สึกสงสารเพื่อนจับใจที่ต้องมาเจอสภาพชีวิตอย่างนี้ ถ้าเกิดสนมันรับไม่ได้ขึ้นมา เกิดมันไม่ชอบที่ต้นเป็นแบบนี้ ต้นก็คงแย่ ต้นกับสนที่เป็นเพื่อนรักกันมานานก็อาจจะเลิกคบกันไปเลยก็ได้ ที่ร้ายไปกว่านั้น พ่อกับแม่ของต้นและสนจะรับได้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้ เกิดรับไม่ได้ขึ้นมาล่ะก็ ชีวิตของเพื่อนสองคนนี้คงลำบากแน่ๆ สงสัยจะไม่คุ้มแล้วล่ะ

"เออๆ กูไม่บอกมันก็ได้" ซีลเสียงอ่อยเมื่อได้คิดทบทวนข้อดีข้อเสียทั้งหมดแล้ว

"ซีล...มึงไม่รังเกียจกูเหรอ...ที่เป็นแบบนี้"

คำถามของต้นทำให้คนฟังนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย สายตาของต้นเองก็ดูหวาดหวั่นเพราะกลัวคำตอบที่เพื่อนกำลังจะตอบกลับมา ซีลยิ้มมุมปาก ก่อนจะค่อยๆ ฉีกยิ้มกว้างให้ต้นพอรู้สึกสบายใจขึ้น

"มึงจำไว้นะต้น ไม่ว่ามึงจะเป็นแบบไหน มึงก็เป็นเพื่อนกู ไม่ว่ามึงจะเป็นอะไรกูก็รับได้ ไม่ใช่ทุกคนจะคิดแบบกูหรอกนะต้น แต่กูไม่เคยรังเกียจมึง ที่กูถามมึงเพราะกูอยากช่วยมึงแค่นั้นแหละ อ้อ...ถ้ามึงมีอะไรอยากจะให้กูช่วยเมื่อไหร่ บอกมาได้เลยนะเว้ย"

พอได้ฟังเพื่อนพูดอย่างนั้นแล้วต้นก็น้ำตาซึม ต้นเคยกลัวมาตลอดว่าถ้าความลับที่ปิดไว้ถูกเปิดเผย เพื่อนๆ อาจจะรังเกียจจนเลิกคบกับต้นไปเลยก็ได้ แต่พอได้ฟังแบบนี้แล้วต้นก็รู้สึกโล่งใจขึ้นเยอะเลย แต่ก็นั่นแหละ แล้วเพื่อนคนอื่นๆ ล่ะ อาจจะไม่ใช่ทุกคนที่คิดแบบซีล หนึ่งในนั้น...ก็อาจจะเป็นสนด้วย ใครจะรู้

"ขอบใจมากซีล แต่...."

"แต่อะไรอีกล่ะวะ"

"สัญญากับกูนะเว้ย ห้ามบอกสนอย่างเด็ดขาด"

ต้นถามด้วยสีหน้าคาดคั้น ยังไงๆ ต้นก็คงจะวางใจไม่ได้ถ้าซีลยังไม่ยอมให้คำมั่นสัญญาที่จริงจังกว่านี้ ซีลถอนหายใจด้วยความสงสารเพื่อน ต้นเป็นคนดีมาก เพื่อนๆ ในห้องทุกคนก็รักต้น ซีลเชื่อว่าทุกคนพร้อมที่จะช่วยอยู่แล้วถ้ารู้เรื่องนี้เข้า แต่ก็นั่นแหละ เมื่อต้นไม่ต้องการก็ไม่มีเหตุผลจะดึงดันทำต่อไป

"เออ...กูสัญญา"

นั่นล่ะจึงทำให้ต้นพอใจและวางใจได้ แต่ความลับก็เป็นสิ่งที่มีแรงดึงดูดและพลังพิเศษ เมื่อใครหนึ่งคนรู้ความลับที่สำคัญแล้วก็ยากที่จะคาดเดาได้ว่าความลับนั้นจะยังเป็นความลับต่อไปอีกหรือไม่



เย็นวันหนึ่ง ต้นกับสนนั่งคุยกันบนสะพานเหล็กที่เดิม แดดร่มลมตกแล้วอากาศจึงเย็นสบาย สองหนุ่มน้อยหย่อนขาลงไปตีน้ำเล่นสนุกตามประสา เคยเล่นจนตกน้ำไปครั้งหนึ่ง ดีที่ว่าว่ายน้ำเป็นกันทั้งคู่จึงไม่เป็นอะไร

 "เฮ้ยต้น นายเคยแอบชอบใครบ้างไหม"

การคุยกันครั้งนี้ดูจะคุกคามชีวิตของต้นไม่น้อย เมื่อคำถามแรกของสนเป็นคำถามที่ต้นรู้สึกอึดอัดทุกครั้งเมื่อมีใครถาม จะให้ต้นตอบว่าอย่างไรดีล่ะ ก็คนที่ต้นแอบชอบก็นั่งอยู่ตรงนี้นี่เอง ชอบมาตั้งแต่มอหนึ่งจนจะจบชั้นมัธยมแล้วก็ยังไม่เคยได้บอกเลย

"อ๋อ...ก็...มีบ้าง แต่ไม่บ่อยหรอก เราอยากตั้งใจเรียนให้จบมากกว่า อีกอย่าง...เรายังเด็กเกินไปที่จะมีความรักน่ะ เรายังไม่อยากรักใครหรอก"

แต่ใครเลยจะรู้ว่าความรักของต้นเกิดขึ้นตั้งแต่เพิ่งเป็นวัยรุ่นเสียด้วยซ้ำ เพราะความรักไม่เกี่ยวกับอายุว่ามากหรือน้อย บางครั้งมันก็เกิดขึ้นโดยที่เราอาจจะยังไม่พร้อมเสียด้วยซ้ำ

"จริงเหรอ แล้วแอบชอบใครบ้างล่ะ เราพอรู้จักไหม" สนดูเหมือนจะอยากรู้มากทีเดียว หยุดเอาขาตีน้ำเล่นแล้วก็จ้องหน้าเพื่อนใหญ่

"ก็...น่าจะรู้จักมั้ง" ต้นพยายามหลบตา ช่วงนี้ไม่รู้เป็นยังไง มีแต่คนถามเรื่องความรักอยู่เรื่อยเลย

"บอกชื่อได้ไหม เราไม่บอกใครหรอก สาวคนไหนมั่ง รุ่นน้องหรือเปล่าหรือว่าห้องเดียวกัน"

"เอ่อ...นายอย่ารู้เลยดีกว่า ตอนนี้เราไม่ได้แอบชอบใครแล้วล่ะ" ต้นพยายามบ่ายเบี่ยง

"อะไรวะ นายกลัวเราไปบอกสาวๆ ที่นายแอบชอบเหรอ ไม่หรอกน่า เราไม่บอกใครหรอก เราแค่อยากรู้เฉยๆ น่า...บอกหน่อยน่า นายชอบสาวคนไหนมั่ง"

"คือ..." ต้นชักลำบากใจ โดยปกติก็ไม่อยากโกหกเลย แต่ถ้ามันจำเป็นก็คงต้องทำบ้างล่ะนะ

"ก็มีแค่...จอย...กับ...น้องพริม แค่นั้นแหละ"

ต้นอ้างถึงจอยที่เป็นเพื่อนหญิงร่วมห้อง ส่วนพริมเป็นรุ่นน้องชั้นมอสาม

"โห...แต่ละคน น่ารักทั้งนั้นเลย แล้วทำไมนายไม่บอกเขาว่านายชอบเขาล่ะ"

สนยังคงอยากรู้ต่อไป ช่วงวัยนี้คงไม่มีอะไรน่าสนใจเท่ากับเรื่องความรักอีกแล้ว

"ก็...เราแค่ชอบ แต่ไม่ได้อยากจีบเป็นแฟนน่ะ ก็เลยไม่ได้บอกใคร"

พูดจบแล้วต้นก็หันไปมองดวงตะวันที่กำลังตกดินพลางเอาขาตีน้ำเล่น ในใจก็คอยภาวนาให้สนเปลี่ยนเรื่องคุยเสียที ต้นไม่อยากคุยเรื่องนี้แล้ว อึดอัดเหลือเกิน

"อ๋อ...เข้าใจละ เอาอย่างงี้นะต้น ทีหลังนะ ถ้านายชอบใคร มาบอกเรานะต้น เดี๋ยวเราช่วยนายเอง รับรอง จีบติดแน่นอน เราใช้ได้ผลมาหลายคนแล้ว"

ดูเหมือนสนจะภูมิใจกับเรื่องลีลาจีบสาวของตัวเองมากทีเดียว พูดไปก็ยิ้มอย่างภูมิใจไปด้วย

"อืม...ได้ๆ ถ้ามีเดี๋ยวเราจะบอกนายนะ" ต้นรีบรับคำเพราะอยากให้การสนทนาเรื่องนี้จบลงโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

"อ้อ...ตอนนี้นะ มีกะเทยสองสามคนมาชอบเรา ซื้อช็อกโกแล็ตมาให้ ซื้อดอกไม้มาให้ แล้วก็ชอบแซวเราบ่อยๆ เวลาเดินผ่าน เราไม่ชอบเลยว่ะต้น"

ได้ยินแล้วต้นก็แอบสะดุ้งในใจ ถึงต้นจะไม่ได้เป็นกะเทยอย่างนั้น แต่สิ่งที่สนพูดขึ้นมาก็พอจะบอกได้แล้วว่าสนมองความรักระหว่างชายกับชายเป็นแบบไหน นั่นก็ยิ่งทำให้ต้นต้องเก็บความลับในใจนั้นไว้ให้ดีที่สุด สนจะรู้เรื่องนี้ไม่ได้เลยจนชั่วชีวิต

"นายรังเกียจพวกเขาเหรอ"

"ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก แค่รู้สึกว่าพวกนี้เข้าหาเราน่ากลัวไปนิดนึง ชอบลวนลามเราบ่อยๆ ด้วย เราขนลุกน่ะต้น"

สนทำท่าทางขนลุกราวกับกำลังถูกกะเทยกลุ่มนั้นลวนลามอยู่ก็ไม่ปาน ยิ่งเห็นต้นก็ยิ่งใจหาย ถ้าสนรู้ว่าต้นคิดยังไงกับเพื่อนรักที่คบกันมาตั้งแต่ชั้นปอห้า สนจะทำท่าทางอย่างนี้กับต้นหรือเปล่านะ ให้ตายเสียดีกว่าที่จะต้องเห็นสนทำท่าทางอย่างนี้ใส่ต้น

ไม่รู้จะทำยังไงต้นก็เลยต้องหัวเราะกลบเกลื่อนน "เกิดเป็นคนหล่อก็ลำบากอย่างนี้แหละ"

แม้จะพยายามพูดให้ฟังดูเป็นเรื่องตลก แต่ในใจของต้นกลับรู้สึกเศร้าจนบอกไม่ถูกเลยล่ะ

สนหัวเราะชอบใจบ้าง "อันนี้ก็ช่วยไม่ได้ ว่าแต่นายเหอะ เคยโดนกะเทยพวกนี้มันลวนลามหรือเปล่า ถ้ามีบอกเราเลยนะ เดี๋ยวเราจะไปจัดการให้"

ต้นส่ายหน้า แล้วก็ลอบถอนหายใจเบาๆ อย่างเหนื่อยใจที่การสนทนาก็ยังคงวนๆ เวียนๆ อยู่แต่เรื่องความรักที่ต้นไม่อยากคุยเอาเสียเลย

"เฮ้ยต้น คุยมาตั้งนาน เรามีอะไรจะบอกนายแน่ะ"

ท่าทางยิ้มกรุ้มกริ่มของสนทำให้ต้นอดจะหวั่นใจอีกไม่ได้ ทำสีหน้าอย่างนี้ทีไรมักจะมีเรื่องแอบชอบสาวคนใหม่มาบอกต้นอยู่เรื่อยเลย

"อะไรเหรอ"

"เราว่าเรา...ชอบจอยว่ะ เพื่อนห้องนายนั่นแหละ คนที่นายเคยแอบชอบไง"

เหมือนฟ้าผ่าลงมากลางใจอีกครั้ง ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนที่ต้นจะต้องเจอเหตุการณ์อย่างนี้ แอบรักเพื่อน เพื่อนไม่เคยรู้ บอกก็ไม่ได้ แล้วก็ต้องคอยฟังข่าว คอยรับรู้ คอยเห็น คอยเจ็บปวดอยู่อย่างนี้เรื่อยไป

"นายช่วยเราหน่อยได้ไหม วันวาเลนไทน์ที่จะถึงนี้เราอยากจะซื้อดอกกุหลาบให้จอย นายช่วยถามจอยให้หน่อยสิว่าเขาชอบสีอะไร"

ต้นดูอึกอักไปเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มเพื่อไม่ให้เพื่อนสงสัย "อ๋อ...ได้สิ เดี๋ยวเราถามให้"

"ขอบคุณมากเพื่อน แล้วนายล่ะ นายชอบสีอะไร"

สนหมายถึงอะไร? สนจะซื้อดอกกุหลาบให้ต้นหรือเปล่า? หรือว่าต้นฟังผิด?

"ทำไมเหรอ นายจะซื้อให้เราเหรอ"

สนรีบส่ายหน้าแล้วก็ขำ

"ไม่ใช่อย่างนั้น เผื่อนายชอบสาวคนไหนอยู่ตอนนี้ไง เราจะได้ไปบอกให้สาวคนนั้นซื้อดอกกุหลาบสีที่นายชอบมาให้นายไง ดีไหมต้น"

ต้นแอบถอนหายใจอย่างผิดหวัง ไม่ใช่ความผิดอะไรของสนสักหน่อย ทั้งหมดนี้ก็เป็นแค่เรื่องธรรมดาของผู้ชายวัยรุ่นคนหนึ่ง สนไม่ได้ทำอะไรผิดแปลกไปจากวัยรุ่นชายทั่วไปเลย มีแต่ต้นนั่นแหละที่ไม่เหมือนใครเสียเอง

"สน...เรารักนาย รักมานานแล้ว นายได้ยินไหม นายไม่รู้เลยเหรอ นายไม่ได้ยินเสียงหัวใจของเราบ้างเลยเหรอ"

ต้นแอบตะโกนถามอยู่ในใจ แต่ก็คงเป็นเสียงที่ไม่มีใครได้ยิน คิดแล้วก็สงสารตัวเองเหลือเกินที่ต้องทนอยู่กับความรักที่ยากที่จะเป็นไปได้อย่างนี้



"จอยๆ ถามอะไรหน่อยสิ เนี่ยเราว่าจะลองปลูกดอกกุหลาบดู เอาไว้ขายในวันวาเลนไทน์ เราอยากรู้ว่าดอกกุหลาบสีไหนที่ขายดีที่สุดน่ะ"

ต้นบอกแล้วก็กางหนังสือหน้าที่มีมีรูปดอกกุหลาบหลายๆ สีให้จอยดูในช่วงระหว่างรอเรียนวิชาต่อไป หนังสือเล่มนี้ต้นเพิ่งไปยืมมาจากห้องสมุดเมื่อกลางวันนี่เอง

"เหรอ...แล้วทำไมมาถามเราล่ะ"

สาวน้อยเพื่อนร่วมห้องถามพลางคอยลอบสังเกตว่าต้นมีพิรุธหรือเปล่า มีผู้ชายมาจีบเธอหลายคนและมักจะมีมุกแปลกๆ อย่างนี้มาเล่นกับเธอบ่อยๆ จนเธอรู้ทัน

"ก็...เห็นจอยได้กุหลาบจากหนุ่มๆ บ่อยๆ ไง เผื่อจอยจะรู้ว่าสีไหนจอยได้รับเยอะที่สุด เราก็จะปลูกกุหลาบสีนั้นขายไง เผื่อจะได้เงินเยอะ" ต้นตอบแก้เขิน

"อ๋อ..."

จอยลากอ๋อเสียงยาว ร้อยวันพันปีต้นไม่เคยถามเธอเรื่องนี้เลย คงมีอะไรบางอย่างที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

"สีแดงนั่นแหละ แต่จอยไม่ชอบหรอก มันดูเหมือนคนแก่ไป จอยชอบกุหลาบสีแปลกๆ อย่างพวกกุหลาบสีเหลือง สีน้ำเงิน อะไรประมาณนี้มากกว่า แล้วนี่ต้นจะปลูกกุหลาบขายวันวาเลนไทน์จริงเหรอ แล้วมันจะทันไหมล่ะ อีกแค่ไม่กี่วันเอง มันโตไม่ทันขายหรอก"

จอยพูดกึ่งแซวอย่างรู้ทัน เพื่อนๆ ในห้องที่อยู่ใกล้ๆ ที่ได้ยินก็เข้ามาร่วมแจมด้วย

"นั่นแน่ไอ้ต้น มึงแอบชอบจอยอยู่หรือเปล่าวะ แล้วมาหลอกถามว่าเขาชอบกุหลาบสีอะไร มุกนี้ใช้ไม่ได้ผลแล้วนะเว้ย"

ป้องแซวเป็นคนแรกพลางทำหน้าทะเล้นเป็นเชิงล้อเลียน เสียงโห่แซวของเพื่อนๆ ดังไปทั่วห้อง

"เฮ้ยเปล่านะเว้ย กูจะปลูกดอกกุหลาบจริงๆ เอาไว้ขายปีหน้า ไม่ใช่ปีนี้" ต้นรีบแย้งเป็นพัลวัน

"เฮ้ยต้น! ไม่ต้องมาจีบเรานะเว้ย เราไม่ชอบกินเพื่อนในห้องว่ะ เขินตายกันพอดี ไม่เอาๆ" จอยรีบบอกพร้อมกับหัวเราะไปด้วย

"เออๆ เราไม่จีบจอยหรอกน่า เราก็ไม่ชอบกินเพื่อนในห้องเหมือนกัน"

ต้นพยายามขำ แล้วก็เดินกลับมานั่งที่โต๊ะของตัวเองเพื่อเตรียมเรียนวิชาถัดไป รู้สึกเสียหน้าเล็กน้อยที่โดนเพื่อนจับได้ แต่ต้นไม่ได้ถามให้ตัวเองหรอกนะ คนที่อยากรู้ไม่ใช่ต้นเสียหน่อย

ท่าทางที่ดูแปลกๆ ของต้นทำให้ซีลที่นั่งอยู่ข้างหลังอดสงสัยไม่ได้ อยู่ดีๆ ต้นก็ไปถามจอยเรื่องดอกกุหลาบ แล้วที่สำคัญ ช่วงนี้ ซีลเห็นเพื่อนรักของต้นมาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ จอยบ่อยๆ เสียด้วยสิ ชักน่าสงสัยว่าน่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกันซะแล้ว ด้วยความอยากรู้ซีลจึงเดินมาถามต้นที่โต๊ะด้วยเสียงที่เบาเหมือนกระซิบ

"เฮ้ยต้น มึงแอบถามไปให้ไอ้สนหรือเปล่าวะ"

ต้นหันมามองเพื่อนอย่างตกใจ ยิ้มเจื่อนๆ "มึงรู้ได้ไง"

"ก็เห็นไอ้สนมาป้วนเปี้ยนกับจอยช่วงหลังๆ ไง มึงไม่เห็นเหรอ มันให้มึงมาถามใช่ไหมว่าจอยชอบดอกกุหลาบสีอะไร"

ต้นหน้าเสียอีกรอบที่ปกปิดความลับให้เพื่อนรักไม่ได้ แต่ก็พยักหน้ารับไปตามตรงเพราะต้นก็รู้สึกเหนื่อยที่จะคอยโกหก แค่ต้องคอยปิดบังความจริงเรื่องแอบรักเพื่อนรักต้นก็เหนื่อยมากพอแล้ว

ซีลถอนหายใจ ยิ่งเห็นต้นยอมทำถึงขนาดนี้ก็ยิ่งรู้สึกสงสารที่เพื่อนต้องมาเป็นพ่อสื่อให้กับคนที่ตัวเองแอบรัก ถ้าซีลเป็นต้นก็คงเจ็บปวดน่าดู

"สู้ๆ นะต้น"

ซีลบอกพลางตบไหล่เพื่อนเบาๆ เพื่อจะสื่อสารให้เพื่อนได้รู้ว่าซีลเข้าใจและเห็นใจต้นที่ต้องอดทนทำในสิ่งที่ขัดแย้งกับตัวเองเพื่อให้เพื่อนรักอีกคนได้สิ่งที่ต้องการ

ต้นยิ้มเศร้าๆ ให้เพื่อนแล้วก็พยักหน้า รู้สึกขอบคุณเหลือเกินที่เพื่อนคอยเป็นห่วง ครั้งนี้ต้นริจะเป็นพ่อสื่อให้เพื่อนทั้งๆ ที่หัวใจของตัวเองก็เจ็บแทบแย่ จะไปรอดอีกหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย

หลายครั้งที่ต้นอยากจะบอกความจริงให้สนรู้ไปเลยให้รู้แล้วรู้รอด แต่ต้นก็กลัวว่าผลที่ตามมาอาจจะไม่คุ้ม สนจะทำตัวยังไงถ้ารู้เรื่องนี้ ครอบครัวของต้นและสนจะรับได้หรือเปล่า มันไม่ใช่เรื่องที่ต้นนึกอยากจะพูดอะไรก็ได้

ถ้าสนเป็นคนอื่น ถ้าครอบครัวของทั้งสองคนไม่ได้สนิทกัน ถ้าต้นกับสนไม่ใช่ลูกชายเพียงคนเดียวของครอบครัว ป่านนี้ ต้นก็อาจจะบอกความจริงไปแล้วก็ได้ ต้นก็ไม่อยากเก็บมันไว้ในใจนานนักหรอก ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง ต้นก็คงพอรับได้ แต่ด้วยเงื่อนไขชีวิตแบบนี้ ต้นไม่กล้าแม้แต่จะคิดเลยด้วยซ้ำ

ต้นถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน อยากจะร้องไห้เหลือเกิน เมื่อไหร่ต้นจะทำใจได้เสียที เมื่อไหร่ต้นจะเลิกแอบชอบเพื่อนเสียทีก็ไม่รู้ กลับตัวก็ไม่ได้ จะไปต่อก็ไปไม่ได้อีกเหมือนกัน ราวกับว่ามีอะไรที่คอยฉุดคอยดึงจากทุกทิศทุกทางตลอดเวลา ต้นจึงติดกับอยู่กับที่จนไปไหนไม่ได้เลย แล้วอะไรล่ะที่คอยฉุดดึงต้นไว้ ก็คงจะเป็นความรักนั่นเอง อยากรักอย่างคนรักแต่ก็กลัวเสียเพื่อนไป ครั้นจะรักอย่างเพื่อนต่อไปก็กลายเป็นการหลอกลวงหัวใจของตัวเอง

นี่แหละคือความรักของต้น ไม่ง่ายเลยล่ะ แต่ต้นก็อยู่กับมันมาได้หกปีแล้วและไม่รู้ว่าความรักครั้งนี้จะอยู่กับชีวิตของต้นไปได้อีกนานแค่ไหน

TBC

ขอรณรงค์ให้คนอ่านสละเวลา 1 วินาทีบวกเป็ดเป็นกำลังใจให้ 'นักเขียนทุกคน' ทุกเรื่อง ทุกตอนนะครับ สร้างสรรค์ชุมชนแห่งการแลกเปลี่ยนแบ่งปัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-10-2015 11:25:40 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ Fragrant

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 859
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0

ออฟไลน์ CorNnE PRiNCeS

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4
ลงชื่อ ไว้ก่อน
เดี๋ยวตามอ่าน นะคับ
แต่ว่าอย่าเศร้ามากเลยนะ
กลัวน้ำตาจะท่วมห้อง เดี๋ยวเมียพ่อ จะมาว่าได้

เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคับ
บรรยายได้อบอุ่นดี จริงๆ

 :pig4:
 :L1:

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
สู้ต่อไปต้น แต่ถ้าไม่ลองก้าวออกมาแอบชอบก็เป็นได้แค่แอบนะ

ออฟไลน์ manutty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 846
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-0
อันนี้ปรับเปลี่ยนใหม่หรือเปล่าเนี่ย คืออันเดิมที่อ่านตอนเข้ามหาลัยนี่ลบเหรอ หาไม่เจอ :mew2: แต่ไม่เป็นไรจ้า อันนี้ อืม ภาษาลื่นไหลมากขึ้น แต่ความหน่วงยังเสียดไม่หาย ไอ้อาการแอบรักเพื่อนนี่ไม่ว่าสมัยไหน เพศอะไร ก็ให้ความรู้สึกอึดอัดจริงๆ เป็นกำลังใจให้ต้นกับสน และคนเขียนด้วย สู้สู้  :katai2-1:

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ jum1201

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-5

ออฟไลน์ jamesnaka

  • วิหคเหมันต์
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
 :pig4: รอตอนต่อไปค่ะ

แต่แอบอยากอ่านตอนเข้ามหาลัยไวๆจัง  :m13:

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
:pig4: รอตอนต่อไปค่ะ

แต่แอบอยากอ่านตอนเข้ามหาลัยไวๆจัง  :m13:

อดใจรออีกนิดครับ ตอนนี้กำลังย้อนอดีตอยู่ อย่างที่บอกไว้ ตอนที่ย้อนอดีตจะมีอยู่ 4 ตอนแรกครับ
จากนั้นก็จะไปมหาลัยแล้ว ช่วงนี้ดื่มด่ำไปกับความรักความผูกพันในวัยเด็กก่อน วัยเด็กมีน้อย ต้องทะนุถนอม  :m20:

:L2: :กอด1: :3123:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :ling2:

นั่งรอช่วงหนักหน่วง

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
ภาษาลื่นจังเลยค่ะ
เราชอบต้นจัง รู้ตัวตัวเองไวมากอ่ะ แต่แอบน่าสงสารนิดๆ
ติดตามๆ รออ่านนะเออออออ :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
มาติดตาม ตามติด ครับผมมมมม อยากอ่านช่วงที่สนเริ่มรู้ตัวว่าชอบต้นแล้วอะ

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
มาตาม คำเชิญค่า
ท่าทางก็ใจตรงกันอยู่นิ สนก็แลจะเอ็นดูต้นมิน้อย คู่นี้ ถ้ากล้าพูดออกไป อะไรๆก็คงง่ายขึ้น...แต่มันจะสนุกอะไร ชิมิ
เพราะงั้น ทรมานน้องต้นไปอีกซักพัก นะคะ โฮะๆๆๆ

ออฟไลน์ DLuciFer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
หน่วงดีแท้ แต่ก็เป็นความรู้สึก
ที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนที่แอบรักเพื่อน

อ่านลื่นไหลมาก ชอบอ่ะ มาต่ออีกนะ
ลุ้นว่าถ้าวัยมหาวิทยาลัยจะเป็นอย่างไรกันบ้าง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-08-2015 15:31:14 โดย snowboxs »

ออฟไลน์ bradpitt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1

ขอบคุณเรื่องรักดีๆ ที่มาแต่งเติมฝันให้กันนะครับ

อ่านแล้ว ซาบซึ้งกับความรัก แบบเพื่อน มากกกกกกกกกกก  :กอด1:  อินมากเหมือนกัน .


 :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven


ยังไงจะติดตาม ฉบับแต่งใหม่นี้เรื่อยๆ .. รอปาฏิหาริย์รักให้เกิดขึ้น....(ต้องหักใจไว้ไม่ไปอ่าน ver. 1. 2.   :เฮ้อ: )


ประสบการณ์แอบรักเพื่อน ที่เป็นผู้ชาย ทำใจลำบากจริงๆ

ได้แต่ทำใจ ทำใจ ละก้อ ยินดีที่เขา แต่งงานไปมีความสุข ตามแบบของเขาละเน้อ  :mew1:


//เราก้อ อ่านนิยาย  ฟินของเรา  รอปาฏิหาริย์รักต่อไป  :heaven

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด