▓ ▒ ░ ต้น-สน∞ปาฏิหาริย์รักที่รอคอย - SP6: จากเพื่อนสู่รัก [5.2.2017] ░ ▒ ▓
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ▓ ▒ ░ ต้น-สน∞ปาฏิหาริย์รักที่รอคอย - SP6: จากเพื่อนสู่รัก [5.2.2017] ░ ▒ ▓  (อ่าน 194397 ครั้ง)

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
จะตัดสินใจทางไหน ก็เป็นกำลังใจให้นะครับ

ปล. รู้สึกเศร้าๆ บอกไม่ถูก T_T

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17

ออฟไลน์ ขนมโก๋

  • เป็ดหัวเน่า
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-0

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10

ออฟไลน์ Moral

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
แอบขัดใจสนที่ไม่บอกอะไรสักที มันอึดอัด คับข้องใจ มันอยากรู้เข้าใจม้ายยยยยยย!!!!

ฉันไม่ชอบนินาเลย ยิ่งนานก็ยิ่งทำลายคุณค่าของตัวเองลงไปเรื่อยๆ ตื่นซะทีเถอะหนู

เราก็เข้าใจพ่อของสนกับแม่ของต้นนะ เขาเติบโตในช่วงเวลาและสภาพสังคมรอบตัวที่เพศสภาพคือชายหรือหญิงเท่านั้น อะไรที่ต่างจากนี้คือ 'ผิดปกติ'  หลายๆ คนก็เปิดใจยอมรับรสนิยมทางเพศที่หลากหลายได้ หลายๆ คนยอมรับได้แบบตะขิดตะขวงใจบ้าง และอีกหลายคนที่ไม่ยอมรับเลย ไม่ใช่ความผิดของเขา และยิ่งไม่ใช่ความผิดของผู้ที่มีรสนิยมต่างไปจากสายหลัก

การคาดหวังให้คนอื่นๆ เป็นดั่งใจเราต้องการและบังคับให้เป็นไปเช่นนั้นสิที่ผิดแน่นอน

คุณ sarawatta ขอให้ประสบความสำเร็จในทุกทางที่เลือกนะ หวังว่าคงได้เห็นผลงานของคุณอีก

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
รับทราบครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10

คำถามที่ผ่านมายังไม่มีใครทายถูกเลยนะครับ คิดว่าคงยากที่จะทายถูกเหมือนกัน ผมเองยังไม่เคยให้เรื่องจบแบบนี้เลย 555 เอาเป็นว่าผมขอลดเหลือคำถามเดียว

3 คนแรกที่ตอบถูกรับของรางวัลพิเศษไปเลยครับ อยากให้ได้รางวัลกันจริงๆ ทิ้งท้ายก่อนจะร่ำลาไป (ตอบกี่ครั้งก็ได้ จนกว่าจะถึงปาฏิหาริย์ที่ 3)

ของรางวัลสำหรับผู้หญิง - https://www.amwayshopping.com/amwayshopping-frontend/shopping/contentPage?pageKey=amway.product.detail&productCategoryId=205&productId=52
ของรางวัลสำหรับผู้ชาย - https://www.amwayshopping.com/amwayshopping-frontend/shopping/contentPage?pageKey=amway.product.detail&productCategoryId=214&productId=62

คำถาม: สนเริ่มรู้ตัวว่ารู้สึกพิเศษกับต้นตอนไหน? เพราะอะไรเหตุการณ์นั้นถึงทำให้สนเริ่มสงสัยว่าเขารู้สึกพิเศษกับต้น

1) ตอนที่สนทำการบ้านงานประดิษฐ์บ้านนกสามเหลี่ยมให้ต้น (ม. หนึ่ง พร้อมกับต้นเลย ตอนที่หนึ่ง) เพราะ...
2) ตอนที่ต้นเอาน้ำมาให้สน แต่แฟนสน (เฟิร์น) ชิงเอามาให้ก่อน (ม. สาม ตอนที่หนึ่ง) เพราะ...
3) ตอนงานวันเกิดของสนที่ต้นเก็บเงินค่าขนมมาจัดให้ (ม. สี่ ตอนที่สอง) เพราะ...
4) ตอนวันวาเลนไทน์ที่สนให้ช่อดอกกุหลาบกับต้น (ม. หก ตอนที่สี่) เพราะ...
5) ตอนไปเที่ยวบางแสนด้วยกัน (ม. หก ตอนที่ห้า) เพราะ...
6) หลังจากที่สนรู้ว่าต้นเป็นเกย์แล้ว (ปีหนึ่ง ตอนที่แปด) เพราะ...

ขอให้สนุกกับการตอบคำถามนะครับ
 :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:

ป.ล. เพิ่งเปลี่ยนภาพธีมของเรื่องใหม่เพื่อต้อนรับฉากบอกรักกันที่โรแมนติกที่สุดในโลกบนดอยอินทนนท์ของต้นกับสน
อย่าพลาดตอนนี้เป็นอันขาดนะครับ อีกไม่เกิน 5 ตอนนับจากนี้ จะบอกรักกันทั้งที ไหนๆ ก็รอมานาน ต้องให้มันสุดๆ ไปเลย



Sarawatta
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-07-2015 07:48:02 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ bradpitt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1


 :กอด1:

ขอร่วมสนุกนะครับ  สนเริ่มรุ้สึกพิเศษกับต้นตอนไหน? :o8:

เพราะ ..

4) ตอนวันวาเลนไทน์ที่สนให้ช่อดอกกุหลาบกับต้น (ม. หก ตอนที่สี่) เพราะ สน เริ่มนึกถึงความหลังก่อนๆ  เลยเอา ดอกไม้มาให้ ต้น ตอบแทน ความดีที่ต้น ทำให้โดยตลอด

 :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ขอตอบว่าข้อ 6
อ้างถึง
6) หลังจากที่สนรู้ว่าต้นเป็นเกย์แล้ว (ปีหนึ่ง ตอนที่แปด) เพราะ...
เพราะเป็นครั้งแรกที่ต้นกับสนต้องห่างกัน สนไม่รู้ว่าต้นไปอยู่ไหน ทำให้สนเป็นห่วงและคิดถึงต้นเป็นพิเศษ ก็เลยได้ทบทวนความรู้สึกของตนที่มีต่อต้น

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
ขอร่วมสนุกด้วย ที่ตอบ ๆ ไปไม่มีใครถูกเลย แสดงว่าเรื่องราวที่คนแต่งคิดออกมานี่ต้องเป็นอะไรที่คาดไม่ถึงแน่ ๆ อดใจรอไม่ไหวแล้วเนี่ย  :katai1:
ขอตอบข้อ 4 จ้ะ ตอนแรกจะตอบข้อสุดท้ายแต่ตอนนั้นน่าจะเป็นตอนที่สนรู้ตัวว่ารักต้นมากกว่าความเป็นเพื่อนพิเศษ งั้นคำตอบสำหรับคำถามนี้ก้อน่าจะเป็นข้อนี้แหละ เพราะ เดิมทีแล้วสำหรับสนแล้วต้นคือเพื่อนสนิทมากแต่ไม่เคยรู้ตัวเลยว่าความสนิทระหว่างเขาทั้งคู่นั้นเป็นอะไรที่พิเศษเกินกว่าแค่คำว่าสนิทจนกระทั่งได้ยินคำพูดจากมุมมองของคนอื่นเลยทำให้สนได้ฉุกคิดและทบทวนความสัมพันธ์ระหว่างกันตลอดมาที่ทุกอย่างทุกการกระทำของสนนั้นจะมีต้นอยู่ทุกครั้งไม่ว่าจะทุกข์สุขเศร้าดีใจมีความสุขต้นคือคนเดียวที่อยู่เคียงข้างและสนนึกถึงเสมอ  :mew3:

ออฟไลน์ gambee

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :L2:  :L2:
มาให้กำลังใจต้นสนและนักเขียน
รอตอนต่อไปนะ เกมส์ถ้ายังไม่เฉลยจะเข้ามาเล่นใหม่  :mew1:

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :mew3: เรานึกว่าคนแต่งไม่ชอบฉาก nc เพราะอ่านมาหลายเรื่องจะไม่ค่อยมีฉากนี้ให้เห็น ถ้ามีก้อมีแบบให้ได้รู้แล้วก้อตัดจบน่ะ  :hao5: แต่พอให้มาโหวตแบบนี้ก้อขอแบบเป็นสตรีมเลยล่ะกันน่ะ  :katai3:

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
ข้อ 4  เพราะได้จอยช่วย จนเกิดย่อหน้านี้ขึ้น

"ก็วันวาเลนไทน์ไง ของนายพิเศษกว่าใครเลยรู้ไหม เพราะนายเป็นคนพิเศษสำหรับเรา รับไปสิต้น" สนยังคงยิ้มละไม รอคอยให้เพื่อนรับช่อดอกไม้จากเขาไปอย่างใจจดใจจ่อ

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
ข้อเลือกข้อสี่เพราะสนได้คุยกับคนที่แอบรักต้นผู้หญิงคนนั้นได้คุยกับสนเรื่องของต้นหลายอย่าง...แล้วทำให้สนคิดได้ขึ้นมาว่าลืมคนที่สำคัญที่สุดอีกคนไปนันก็คือต้นและทำสนกลับมาคิดเรื่องต่างๆจนสุดท้ายก็ตัดสินใจมอบดอกกุหลาบให้ต้นแล้วก็บอกว่าต้นเป็นคนพิเศษของสนตลอดไป...และจากเหตุการณ์นี้ทำให้สนกลับไปคิดทบทวนเรื่องความรู้สึกที่มีต่อต้นครับ

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
6) หลังจากที่สนรู้ว่าต้นเป็นเกย์แล้ว (ปีหนึ่ง ตอนที่แปด) เพราะ...

เพราะว่าทำให้สน คิดทบทวนเรื่องที่ผ่านมาระหว่างสนกับต้นมันเห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้น ได้อ่านตอนที่ ความลับไม่มีในโลก ที่นิกเล่าให้สนฟังเรื่องที่ต้นต้องทาเจ็บปวดที่ทนเห็นสนจีบคนนั้นคนนี้ คิดว่าสนน่าจะรู้ตัวแล้ว

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
5) ตอนไปเที่ยวบางแสนด้วยกัน (ม. หก ตอนที่ห้า) เพราะ...

เราคิดว่าเป็นช่วงนี้นะ จำได้ว่าสนมาพูดทำนองอยากรู้ว่าต้นจะเลือกเข้าที่ไหน และอยากให้ต้นมาเรียนด้วยกัน เขาน่าจะเริ่มรู้แล้วว่าต้นพิเศษสำหรับเขา คำตอบข้อ 6 เราว่ามันเป็นชนวนที่ทำให้ต้นได้คิด ว่าสนรักต้นแบบไหนมากกว่า

ความคิดเราแหกคอกหรือเปล่า  :m23:

ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
ตอบ 4) ตอนวันวาเลนไทน์ที่สนให้ช่อดอกกุหลาบกับต้น (ม. หก ตอนที่สี่) เพราะ... น่าจะเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้สนรู้ใจตัวเองว่าต้นทำอะไรให้มากมาย และสนเองก็มีความสุขเสมอเวลาอยู่กับต้น

ออฟไลน์ RIRIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +492/-2
แวะมาแปะไว้ก่อนคะ

วันนี้รู้สึกไม่สบายครั่นเนื้อครั่นตัวมาก o6
เดี๋ยวจะแวะมาอ่านนะคะ

ฝันดีค่ะ  :m1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
มาร่วมตอบคำถามด้วยคับ อยากตอบข้อ 4 นะคับ แต่ตอบกันไปเกิน3 คนล่ะ ๕๕๕ ผมขอตอบแบบแหกคอก แบบนักเรียนทำข้อสอบตอบไม่ตรงคำถามเพราะไม่อ่านคำถามให้ละเอียดแล้วกันนะคับ ๕๕๕ 

     คำถาม: สนเริ่มรู้ตัวว่ารู้สึกพิเศษกับต้นตอนไหน? เพราะอะไรเหตุการณ์นั้นถึงทำให้สนเริ่มสงสัยว่าเขารู้สึกพิเศษกับต้น
   
     ตอบ:  6) หลังจากที่สนรู้ว่าต้นเป็นเกย์แล้ว (ปีหนึ่ง ตอนที่แปด) เพราะ...
                 มาถึงตอนที่ 8 ขึ้นปี 1  ผมว่าตอนนี้เป็นจุดหักเหของเรื่องที่จะนำไปสู่ปาฏิหารย์ต่างๆของเรื่องไปจนถึงตอนจบเรื่องเลยก็ว่าได้ เหตุผลเพราะเนื้อเรื่องก่อนหน้านี้ดำเนินมาแบบเปรยหรือปูทางถึงความเป็นมาของต้น-สนก่อนว่าจุดเริ่มต้นของความรักของต้นนั้นเป็นมาตั้งแต่สมัยไหน และฝ่ายสนเองก็รู้ว่าต้นเป็นเพื่อนสนิทมากๆเท่านั้น ก่อนหน้าจะเข้ามหาวิทยาลัยต้นทำทุกอย่างให้สนอย่างที่เพื่อนสนิทมากๆทำให้กัน แต่ต้นรู้ตัวว่ารักสนฝ่ายเดียว พอมาถึงตอนที่ 8 นี้ความลับถูกเปิดเผยทำให้สนรู้ว่าต้นคิดยังไงกับสน ถ้าไม่มีเหตุกาณณ์ที่ซีลเพื่อนต้น สน โทรมาแล้วโทรศัพท์ต้นไม่หล่นพื้นรถ มันก็จะไม่มีอะไรมาสะกิดสนให้รู้ความลับในใจของต้นว่าต้นเพื่อนสนิทมากๆคิดยังไงกับสน และจากเหตุการณ์นี้ก็ทำให้สนเอะใจกับสิ่งต่างๆที่ต้นเคยได้ทำให้สนเรียกว่ามันทำให้สนได้คิดและจากเหตุการณ์ที่ต้นหนีขึ้นรถไฟไปหาซีลที่กรุงเทพก็ทำให้สนอยู่คนเดียวมากขึ้นได้นึกย้อนถึงเรื่องต่างและถามใจตัวเองมากขึ้นถึงรู้สึกพิเศษกับต้น โดยมีนิกกับปั้นจั่นเป็นแรงเสริมกระตุ้นใจสนอีกที จนนำไปสู่ปาฏิหาริย์ในบทที่10 และปาฏิหาริย์อื่นๆอีกจนจบเรื่อง
     
         ป.ล. ฉาก NC ผมก็อยากให้มีนะคับ เคยอ่านแต่แบบฉบับผู้หญิงเขาแต่งกันแล้ว ผมก็อยากอ่านฉบับผู้ชายแต่งบ้างคับ  และขอเป็นกำลังใจให้ผู้แต่งเขียนนิยายเรื่องนี้ต่อไปนะคับ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-07-2015 20:59:37 โดย GuoJeng »

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4

         ป.ล. ฉาก NC ผมก็อยากให้มีนะคับ เคยอ่านแต่แบบฉบับผู้หญิงเขาแต่งกันแล้ว ผมก็อยากอ่านฉบับผู้ชายแต่งบ้างคับ  และขอเป็นกำลังใจให้ผู้แต่งเขียนนิยายเรื่องนี้ต่อไปนะคับ 

ส่วนใหญ่งานวายที่อ่าน ๆ ร้อยทั้งร้อยจะเป็นผู็หญิงเขียนแทบทั้งหมด เวลาเจอคนเขียนเป็นผู้ชายน่ะจะดีใจมากกกกกกกก เพราะมันได้อีกมุมมองนึงน่ะ และฉาก nc ก้อเป็นหนึ่งในนั้น เราเคยอ่านแล้วละที่เป็นผู้ชายเขียนน่ะสุดยอดมากเลยน่ะ แต่ผู้หญิงก้อเขียนได้ไม่น้อยหน้ากันหรอก สรุปว่าเก่งพอ ๆ กัน  :hao6:

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
เห็นผลโหวต NC แล้วแอบกลัว จะเอาอย่างนั้นจริงๆ เหรอครับ :z1: จะพยายามนะครับ
ไหนๆ ก็ชอบโป๊บมากขนาดนี้ ผมก็จะสมมติตัวเองว่าเป็นต้นกำลังจะมีอะไรกับโป๊บละกันนะครับ
มี something กับหนุ่มในฝันนี่มันสุดๆ ไปเลยนะเนี่ย 555555
สาธุ ขอให้มีปาฏิหาริย์ครั้งที่ 6 คนเขียนได้เป็นแฟนกับโป๊บ 555555

เอาฉาก NC เวอร์ชั่น 2 มาให้อ่านฆ่าเวลาครับ เผื่อใครอยากอ่าน
แต่ V3 ต้องแซ่บกว่านี้ 18 ล้านเท่าแน่นอน ผมรับรอง เอิ๊กๆ

ตอนที่ 30: รักแรกแปลกนักหนา (love scene)
.
.
.
.

เสร็จธุระจากการจัดการทั้งหลายแหล่แล้วสนก็ขับรถมุ่งตรงสู่กรุงเทพทันที พอมาถึงคอนโดของต้นเขาก็ขึ้นไปดูบนห้องต้นก่อน ปรากฏว่าต้นยังมาไม่ถึง สนจึงลงมานั่งรอตรงส่วนรับแขกที่ทางคอนโดจัดไว้ให้สำหรับคนที่มาติดต่อหรือรอพบแขกที่พักอยู่ที่คอนโดนี้

ประมาณครึ่งชั่วโมงเจ้าของแก้มใสที่สนแสนจะเป็นห่วงและคิดถึงก็มาถึง แต่ที่ทำให้สนขุ่นเคืองใจก็คือ...ต้นมากับทดแทน ก็คงจะหมายความว่าสองคนนี้ไปด้วยกันนั่นเอง สนลุกขึ้นแล้วก็รีบเดินไปหาต้นกับทดแทนด้วยสีหน้าไม่ค่อยพอใจนัก ไม่ได้อยากจะแสดงอาการหึงหวงเลยแต่สนก็อดไม่ได้จริงๆ

ต้นเห็นสนแล้วก็หน้าเสีย รู้ทันทีว่าสนคงโกรธที่เขาหายไปแล้วไม่บอกสักคำ ส่วนทดแทนนั้นก็ดูจะแปลกใจเหมือนกันที่เห็นสนมารอต้น สนยังมาที่นี่อีกทำไมหรือก็ในเมื่อเขาเองก็จะแต่งงานอยู่อีกไม่กี่วันนี้

"ขอบคุณที่มาส่งนะครับ ต้น...ไปกับเราเดี๋ยวนี้" สนทำเสียงเฉียบขาดแล้วก็คว้าข้อมือต้นไว้ให้เดินตามเขามา ปล่อยให้ทดแทนยืนงงอยู่คนเดียวแต่ก็ตามไปไม่ได้เพราะเขาไม่มีคีย์การ์ด

พอพาต้นเข้ามาในห้องแล้วสนก็จัดการเอากระเป๋าเสื้อผ้าของต้นไปเก็บในห้อง แล้วก็ออกมาจัดการต้นที่ยืนหน้าเสียด้วยความรู้สึกผิดทันที  สนเดินเข้ามาใกล้แล้วก็จับไหล่ต้นไว้ ต้นกลัวจนต้องยืนตัวแข็งทื่อ

"นายไปไหนมาต้น ทำไมไม่บอกเราสักคำ รู้ไหมว่าเราเป็นห่วงมากแค่ไหน เราจะบ้าอยู่แล้วรู้หรือเปล่า"

เห็นสนโกรธแบบนี้ต้นก็ชักใจคอไม่ค่อยดี "เรา...ไปนั่งสมาธิมา" ต้นตอบอย่างหวั่นๆ

"กับพี่แทน"

ต้นค่อยๆ พยักหน้าช้าๆ "ใช่" แล้วต้นก็ก้มหน้าหลบตา "เราขอโทษ...ที่ไม่ได้บอกนาย เราเห็นนายยุ่งๆ อยู่ก็เลยไม่อยากกวน"

"นายกำลังหลบหน้าเราใช่ไหมต้น หลบหน้าเราหรือเปล่า" สนคาดคั้น

ต้นเงียบและไม่ตอบ ก็แสดงว่าใช่

"เรารู้ว่านายหลบหน้าเรา แต่นายรู้ไหมว่าเราอยากเจอนายมากแค่ไหน เราพยายามโทรหานายทั้งวัน ห่วงก็ห่วง ไม่รู้ว่าไปอยู่ไหน กลัวว่านายจะเสียใจจนเป็นอะไรไปแล้ว ถ้านายเป็นอะไรไปเราจะทำยังไง นายเห็นใจเราบ้างสิ"

ต้นได้แต่รู้สึกผิด แต่เขาก็ทำไปแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไง ชำเลืองขึ้นมองหน้าสนก็เห็นเขาทำหน้าเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง แล้วสนก็เขยิบตัวเข้ามาแนบชิดกับต้นมากขึ้น พร้อมกับดันต้นไปจนหลังติดกำแพงห้อง ใบหน้าสนกับต้นอยู่ห่างกันเพียงไม่ถึงคืบ

"นายจะทำอะไรน่ะสน" ต้นถามเสียงสั่น ต้นไม่เคยเห็นสนมีสีหน้าท่าทางแบบนี้เลย

"ทำอะไรก็ได้ที่จะไม่ให้นายไปจากชีวิตเราอีก" สนตอบเสียงสั่นพอกัน เขาตัดสินใจแล้ว ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นเขาก็จะยอมแลกเพื่อให้เขาได้อยู่กับคนที่เขารักตลอดไป

"อย่าทำแบบนี้นะสน นายกำลังจะแต่งงานกับนาอยู่อีกไม่กี่วันนะ" ต้นพยายามจะเรียกสติสนกลับมา เขาพอจะรู้แล้วว่าสนกำลังจะทำอะไร เพราะร่างกายของส่วนนั้นของสนที่เบียดเข้ามามันฟ้องความต้องการบางอย่างของสนอยู่

"ไม่ต้องสนใจคนอื่นได้ไหมต้น มันเป็นเรื่องของเราสองคน เราต้องการนาย เราอยากให้นายอยู่กับเรา ไม่อยากให้นายไปไหนอีก ไม่อยากเสียนายให้คนอื่น เราทนไม่ได้ที่จะให้นายเป็นของคนอื่น รู้ไหมต้น" สนพูดเหมือนคนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ต่างคนต่างเนื้อตัวสั่นเทิ้ม

"นายหมายความว่าไง"

"นายตอบเรามาคำเดียวต้น นายต้องการเราหรือเปล่า" สนไม่ตอบแต่ถามกลับ ต้นมองหน้าสนอย่างใช้ความคิด ต้นเองก็ต้องตัดสินใจเหมือนกันว่าจะเอายังไง จะยอมปล่อยอารมณ์ตามที่ใจปรารถนาหรือจะยอมเป็นแค่คนดีคนหนึ่ง

"ว่าไงล่ะต้น...นายต้องการเราเหมือนที่เราต้องการนายหรือเปล่า" สนถามย้ำอีกครั้ง

"เราต้องการนาย" ต้นพูดเสียงเบาหวิว สนยิ้มอย่างพอใจ

"เรารักนาย" สนตัดสินใจบอกไปในที่สุด เมื่อเขาตัดสินใจแล้วนั่นก็หมายความว่าสนจะต้องทำอย่างที่เขาตั้งใจ ต้นจะต้องไม่เสียใจกับเรื่องนี้อีก ถ้าเขาทำให้ต้นเสียใจ เขาจะเป็นฝ่ายจากไปเองเหมือนที่เขาเคยพูดไว้

ต้นไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกอิ่มเอมตื้นตันใจของเขาที่มีอยู่ตอนนี้ได้อย่างไร นับสิบปีที่ต้นเฝ้ารักเฝ้าคอยผู้ชายคนนี้ ในที่สุดวันนี้ต้นก็ได้ยินคำว่ารักจากปากเขาแล้ว มันคือการรอคอยที่คุ้มค่าที่สุด ไม่ว่าที่ผ่านมาจะมีเรื่องราวให้เจ็บปวดเสียใจแค่ไหน คำว่ารักของสนก็เป็นยารักษาบาดแผลทั้งหมดเหล่านั้นให้หายไปจนสิ้น

"เราก็รักนาย" ต้นบอกในสิ่งที่สนก็คงรู้อยู่แล้ว แต่สนก็ยิ้มดีใจที่ได้ยินมันอีกครั้ง

น้ำตาแห่งความตื้นตันใจของสนไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว ต้นใช้มือปาดน้ำตาบนใบหน้าของเขาอย่างแผ่วเบา

"อย่าร้องไห้สิสน"

"เราดีใจต่างหาก...ที่ในที่สุดเราก็ได้บอกว่ารักกัน"

สนค่อยๆ โน้มใบหน้าของเขาเข้าไปหาใบหน้าของต้น ใกล้กันจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมหายใจ ริมฝีฝากของสนค่อยๆ แตะลงบนริมฝีปากของต้นอย่างแผ่วเบาๆ เป็นเชิงทักทาย สนเริ่มด้วยการขบริมฝีปากบนของต้นเบาๆ จากนั้นก็ย้ายมาริมฝีปากล่าง เมื่อความต้องการทวีขึ้นเขาจึงค่อยๆ บดริมฝีปากลงไปพร้อมกับน้ำหนักของสัมผัสที่เพิ่มขึ้น สนสอดลิ้นเข้าไปควานหารสหวานในโพรงปากของเจ้าของร่างที่กำลังสั่นเทิ้มอยู่ เพียงไม่นานนักเขาหยุดแล้วก็สอดเข้าไปใหม่พร้อมกับให้เวลาเพิ่มขึ้น ต้นรู้สึกเสียวสะท้านจนต้องโอบมือรอบคอสนไว้ เขาเริ่มใช้ลิ้นตอบสนองกับการรุกล้ำของสนบ้าง พอสนเปลี่ยนมาใช้ลิ้นดุนไปตามไรฟันของต้น ต้นก็ส่งปฏิกิริยาตอบสนองด้วยการโอบคอเขาแน่นขึ้นจนตัวลอย ต้นไม่รู้จริงๆ ว่ามันเป็นวิธีจูบอย่างหนึ่งหรือเปล่าแต่เขาก็รู้สึกดีกับมันทีเดียว สนสอดมือของเขาเข้าไปในเสื้อของต้น ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังขาวเนียนนั้น แม้ปากจะยังไม่ว่างแต่เสียงครางของต้นก็เล็ดลอดออกมาให้พอได้ยิน

เมื่อสนพอใจกับรสจูบนั้นแล้วเขาก็ค่อยๆ ถอนปากออก ต้นหอบหายใจด้วยความตื่นเต้นและรัญจวนใจ เขาค่อยๆ คลายอ้อมแขนของตัวเองออกจากการโอบกอดลำคอของสน

"พร้อมหรือยังต้น" สนถามเสียงหอบเช่นกัน แววตาหื่นกระหายแบบนี้ต้นเพิ่งเคยเห็นจากสนเป็นครั้งแรก

ต้นพยักหน้าเป็นเชิงตอบรับ

"ไม่ว่านายจะรู้สึกอะไร กอดเราไว้นะต้น กอดเราไว้แล้วนายจะปลอดภัย"

ต้นพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย

"ไปกันเถอะต้น"

สนจับมือต้นแล้วทำท่าจะพาวิ่ง แต่ต้นก็ยังดูงงๆ อยู่เพราะไม่รู้ว่าสนกำลังจะพาเขาไปไหน สนอดขำไม่ได้จนต้องบอกว่า "เข้าไปในห้อง"

นั่นแหละต้นจึงได้ยอมวิ่งตามสนเข้าไปในห้องของเขาเอง

พอเข้ามาในห้องนอนของต้นแล้ว สนก็คว้าต้นมากอดไว้แล้วบรรเลงเพลงจูบที่เร่าร้อนขึ้นอีกครั้ง เขาใช้มือที่ยังว่างอยู่ไล่ปลดกระดุมเสื้อของต้นอย่างเร่งรีบ ต้นเห็นแบบนั้นก็เลยทำให้สนบ้าง จนทั้งคู่เหลือแต่ท่อนบนที่เปล่าเปลือย ต้นถึงกับเสียวสะท้านเมื่อร่างกายได้สัมผัสกับกล้ามเนื้อแกร่งของสน เมื่อเพลงจูบคำรบที่สองจบลงสนก็ค่อยๆ ดันตัวต้นให้ลงไปนอนบนเตียง ตัวของสนตามมาทาบทับอยู่ข้างบน ท่อนล่างของร่ายกายเบียดกันแน่นจนรู้สึกได้ถึงความเครียดเขม็งของส่วนนั้น แม้ต้นจะเคยกอดสนบ่อยๆ แต่ก็ไม่เคยกอดสนตอนที่ท่อนบนเปล่าเปลือยแบบนี้เลย เมื่อเนื้อแนบเนื้อมันช่างให้อารมณ์และความรู้สึกที่แตกต่างกันมากมายนัก ทั้งเสียวซ่านและอบอุ่น ผิวเนื้อและกล้ามเนื้อที่กำยำสมชายของสนได้ปลุกเร้าความต้องการของต้นให้กระเจิดกระเจิงจนยากจะเรียกกลับคืนมาแล้ว มันจะกลับมาได้ก็ต่อเมื่อภารกิจนี้เสร็จสิ้นไปเท่านั้น สนรู้สึกดีเหลือเกินที่ต้นกอดเขาไว้ราวกับกลัวว่าเขาจะหนีหายไปไหน เขารักต้นเหลือเกิน กอดเราไว้แบบนี้นะต้น

สนระดมจูบไปตามใบหน้าและซอกคอของต้น เสียงครางด้วยความเสียวกระสันทำให้สนยิ่งฮึกเหิมมากยิ่งขึ้น ต้นบีบแขนสนแน่น ใบหน้าเหยเกด้วยความเสียวซ่าน จากนั้นมือของต้นเองก็ควานสะเปะสะปะไปทั่วจนไปเจอกับส่วนนั้นที่แม้จะยังอยู่ในกางเกงแต่ต้นก็รู้ว่ามันคืออะไร ต้นลูบคลำและขยำเบาๆ จนสนต้องร้องครางออกมา

"อาห์...เก่งมากต้น"

คำชมนั้นทำให้ต้นยิ่งกล้ามากขึ้น เขาค่อยๆ ปลดตะขอกางเกงและรูดซิปลงด้วยความอยากรู้จักกับส่วนนั้นว่ามันจะมีขนาดเท่าใด ต้นค่อยๆ ดึงกางเกงและบ็อกเซอร์ของสนให้เลื่อนต่ำลงไปจนกางเกงในสีขาวที่ยังห่อหุ้มส่วนนั้นของเขาไว้อยู่โผล่พ้นออกมา มือของต้นกลับมาลูบไล้และเคล้นคลึงส่วนนั้นอีกครั้งจนสนต้องหยุดและครางออกมาด้วยความเสียวซ่านรัญจวนใจ

"อาห์...ต้น...ดีมาก"

สนปล่อยให้ต้นเล่นกับส่วนนั้นของเขาจนรู้สึกว่าต้นพอใจแล้ว จากนั้นสนก็เลื่อนตัวต่ำลงมาตรงบริเวณอกของต้น เขาใช้ลิ้นเลียวนตรงยอดอกต้นทีละข้าง เริ่มจากซ้ายก่อน แล้วก็ย้ายไปขวา สลับกับขบกัดเบาๆ ต้นถึงกับผวากอดเขาแน่น แล้วมือของสนก็เริ่มซุกซนเช่นกัน เขาควานต่ำลงไปจนเจอกับส่วนนั้นของต้น สนทำแบบเดียวกับที่ต้นทำ เขาค่อยๆ ลูบไล้และบีบคลึงเล่นอย่างสนุกมือพร้อมกับน้ำหนักมือที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้น ต้นถูกจู่โจมทั้งบนและล่างแบบนี้ก็ถึงกับทนไม่ไหวจนต้องกดศีรษะของสนให้แนบแน่นอยู่บนยอดอกของเขาอย่างลืมตัว

ไม่ทันเท่าไรกางเกงของต้นก็ถูกปลดออกไปเช่นกัน ต่างคนจึงต่างเหลือแต่กางเกงในสีขาวด้วยกันทั้งคู่ สนรู้ว่าต้นต้องการอะไรเขาจึงเป็นฝ่ายพลิกตัวไปนอนบนเตียงบ้าง รูปร่างของสนกำยำและสมส่วน มีกล้ามเนื้อพองาม อกกว้างแกร่งนั้นชวนให้ต้นอยากซุกไซ้ลงไปหาความอบอุ่นยิ่งนัก ผิวเขาขาวละเอียดอย่างคนเหนือ ต้นเคยได้แต่แอบหลงไหลและเชยชมด้วยสายตามานาน แต่วันนี้ต้นกำลังจะได้สัมผัสของจริงแล้ว ต้นดึงปราการด่านสุดท้ายนั้นลงมาอยู่บริเวณน่องแล้วก็จัดการกับส่วนนั้นของสนอย่างหิวกระหาย มืออีกข้างของเขาคอยลูบไล้บนแผ่นอกกว้างของสนราวกับจะเพิ่มความเสียวกระสันให้มากขึ้นไปอีก ให้ตายเถอะ สนไม่เคยรู้สึกดีอย่างนี้มาก่อนเลยจนเขาต้องกำผ้าปูที่นอนแน่น

เมื่อต้นพอใจแล้วสนก็เป็นฝ่ายจัดการส่วนนั้นของต้นบ้าง เขาไม่เคยทำแบบนี้กับผู้ชายคนไหนมาก่อนเลย ต้นเองก็ไม่เคยเหมือนกัน แต่สนก็พยายามประยุกต์ใช้ประสบการณ์ที่เขาพอมีกับผู้หญิงมาบ้างมาใช้กับต้น ครั้งแรกๆ ก็อาจจะเก้ๆ กังๆ ไปหน่อย แต่ก็ทำให้ต้นถึงกับบิดตัวเร่าๆ ได้ทีเดียว สนเหลือบตาขึ้นมองดูเจ้าของแก้มใสที่บัดนี้ใบหน้าบิดเบี้ยวจากการถูกรุกล้ำอย่างพอใจ

จนกระทั่งมาถึงขั้นตอนสุดท้าย สนรู้ว่าต้นคงเจ็บไม่น้อยเพราะเป็นครั้งแรก แต่ต้นก็ยังกัดฟันสู้เพราะต้นก็อยากทำให้คนที่เขารักมีความสุขเช่นกัน เมื่อเจ้าท่อนเนื้อประหลาดที่ผ่านเข้ามาทางด้านหลังของต้นค่อยๆ ขยับเข้าออก ต้นก็เจ็บจนน้ำตาแทบไหล แต่เมื่อเริ่มคุ้นเคยแล้วความเจ็บปวดก็กลายเป็นความเสียวกระสันที่มากยิ่งกว่าขั้นตอนอื่นๆ ที่ผ่านมาเสียอีก ต้นเริ่มสนุกกับมันแล้ว เขาเอื้อมมืออีกข้างไปด้านหลังแล้วจับกดก้อนกลมกลึงของอีกฝ่ายเป็นจังหวะเพื่อช่วยเพิ่มแรงที่โหมเข้ามา

เนิ่นนานทีเดียวที่สองหนุ่มได้โหมป้อนความสุขทางร่างกายให้แก่กัน จนกระทั่งพายุแห่งความรักนั้นสงบลงพร้อมกับหยาดรักที่ขับพ่นออกมามากมายราวกับไม่ได้ผ่านกิจกรรมเช่นนี้มาแรมปี นับว่าเป็นพายุที่แปลกมากเพราะเมื่อมันทวีไปถึงขั้นรุนแรงสูงสุด พายุนั้นก็ลดระดับลงอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วินาที ภารกิจแห่งความสุขนั้นเสร็จสิ้นลงไปแล้ว ผู้ทำภารกิจต่างก็เหนื่อยหอบแต่ก็มีรอยยิ้มที่เต็มเปี่ยมด้วยความสุขบนใบหน้าด้วยกันทั้งคู่

แม้จะเคยมีประสบการณ์เรื่องนี้มาแล้ว แต่สนก็ไม่เคยรู้สึกว่าจะมีครั้งไหนที่ทำให้เขามีความสุขและรู้สึกดีได้แบบนี้เลย เพราะความรักนั่นเองเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้ทุกสัมผัสของเขากับต้นมีความหมาย ความรักทำให้สนกล้าทำในสิ่งที่เขาไม่เคยทำมาก่อนเพื่อให้คนที่เขารักมีความสุข ถ้าไม่มีความรัก ค่ำคืนนี้ก็คงเป็นเพียงการปลดปล่อยธรรมดาๆ หมดความต้องการแล้วก็จากไป แต่เมื่อมีความรัก เขาทั้งสองคนก็จะยังอยู่ตรงนี้ด้วยกันเพื่อที่จะดูแล ห่วงใยและทำสิ่งดีๆ ให้กันต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-07-2015 14:07:48 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
มาแอบโหวตฉาก NC ด้วยคน

ปล. ไม่ต้องบอกนะว่าผมโหวตข้อไหน กร๊ากกกกๆ

ออฟไลน์ jamesnaka

  • วิหคเหมันต์
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
ตอบคำถามจ้า

เลือกข้อ 6) หลังจากที่สนรู้ว่าต้นเป็นเกย์แล้ว (ปีหนึ่ง ตอนที่แปด) เพราะ...

การที่สนรู้ว่าต้นเป็นเกย์นั้นเป็นตัวเร้าให้สนได้คิดกับต้นผิดกับที่ผ่านมา ในอดีตสนน่าจะคิดกับต้นเป็นเพื่อนที่สนิทเป็นพิเศษ

หลังจากรู้ความรู้สึกต้น เราว่ามันทำให้สนได้คิดอะไรๆได้ลึกขึ้น แล้วมองต้นเปลี่ยนไปจากที่ผ่านๆมา

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
อ่านเวอร์ชั่น 2 ยังขนาดนี้
ถ้าเวอร์ชั่น 3 มิต้องแอบอ่านคนเดียวรึ 555

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ตอบคำถามค่าา ^^

ข้อ 2) ตอนที่ต้นเอาน้ำมาให้สน แต่แฟนสน (เฟิร์น) ชิงเอามาให้ก่อน (ม. สาม ตอนที่หนึ่ง)

เพราะ...หลังจากที่เฟิร์นชิงเอาน้ำมาให้สนก่อนต้น ต้นก็ดูหลบหน้าหลบตาสนอย่างผิดสังเกต จนกระทั่งสนตามไปง้อได้สำเร็จ

สนคงกลับมานั่งทบทวนกับตัวเองคนเดียวว่า เพราะอะไร? ทำไมสนถึงต้องแคร์ต้นขนาดนั้น ทั้งๆ ที่สนก็มีแฟนสาวอย่างเฟิร์นมานั่งเป็นกำลังใจอยู่ข้างสนามแล้วแท้ๆ หรือถ้าจะบอกว่าเพราะต้นนั้นเป็น 'เพื่อนคนพิเศษ' ของสนไงสนถึงได้ห่วงใยความรู้สึกของต้นมาก นั่นก็ถูกต้อง..แต่ไม่ทั้งหมด

เพราะถึงวันนี้ไม่มีเฟิร์นสนก็ต้องมีผู้หญิงคนอื่นเข้ามาในชีวิตอีกอยู่ดี แต่พอสนนึกไปถึงภาพวันนั้น วันที่สนมีใครอีกคนข้างกาย แต่กลับไร้ซึ่งเงาหรือตัวตนของต้นแล้วนั้น ใจของสนก็รู้สึกแกว่งแปลกๆ เหมือนทำสิ่งที่สำคัญมากๆ หล่นหายไป สนจึงไพล่คิดไปอีกว่า หรือสนจะรู้สึกกับต้นมากเกินกว่าความเป็นเพื่อนไปแล้วนะ? ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงสนคงต้องพิสูจน์ใจตัวเองดูแล้วล่ะ

ด้วยความที่ตอนนั้นสนก็ยังเด็ก ฮอร์โมนมันพลุ่งพล่าน แถมมีผู้หญิงเข้าหามากมาย ในบางครั้งจึงอาจดูเหมือนกับสนหลงลืมต้นไปบ้างในชั่วขณะหนึ่ง 

แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าสนจะกำลังอยู่กับใครก็ตามแต่ คนสุดท้ายและคนเดียวที่สนไม่เคยปล่อยให้หายไปจากชีวิตได้เลยก็คือ 'ต้น' คนที่สนเริ่มจะมั่นใจเสียแล้วล่ะว่า 'ความรู้สึกที่สนมีนั้นมันพิเศษมากไปกว่าความเป็นเพื่อนแล้วจริงๆ'

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
ลุ้นกับบท NC ของต้น สน มากๆคับจะออกมาแบบไหน อยากรู้ว่าสนจะสร้างบรรยากาศให้ต้นมีอารมณ์ยังไง ๕๕๕  NC แบบกำลังจูบกันแล้วตัดเข้าตู้ปลาหรือตัดไปที่หลังคาบ้าน หน้าต่างผมไม่เอานะผู้แต่ง ๕๕๕   เป็นกำลังใจให้คับผู้แต่ง ตอนใหม่มาเร็วๆนะคับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-07-2015 21:03:04 โดย GuoJeng »

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
▓ ▒ ░ ต้น-สน∞ปาฏิหาริย์รักที่รอคอย ░ ▒ ▓
CHAPTER 27: คนขี้งอน


เสียงหัวเราะชอบใจของพ่อสนดังไปทั่วบริเวณหน้าบ้าน แม่ของสนที่กำลังทำอาหารอยู่ในครัวได้ยินแล้วก็ขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ พ่อของสนกำลังคุยกับใครหนอถึงได้อารมณ์ดีและหัวเราะถูกใจขนาดนั้น

"มาสิลูก เดี๋ยวพ่อบอกสนให้ นอนห้องเดียวกับสนนั่นแหละ"

"ขอบคุณค่ะพ่อ พ่อรู้ไหมคะว่าพอนินาได้เห็นแม่กับพ่อตอนงานหมั้น นินารู้สึกถูกชะตากับพ่อกับแม่มากเลยค่ะ คิดอยู่ว่าจะหาเวลาไปเยี่ยมบ้าง แต่ก็เรียนหนักค่ะช่วงนี้ เลยไม่ได้มาซะที แล้วแม่ทำอะไรอยู่คะ"

"แม่เขาทำกับข้าวอยู่ในครัวลูก ต่อไปหนูก็จะมาอยู่ที่นี่อยู่แล้ว มาทำความรู้จักบ้านเรา มารู้จักพ่อกับแม่มากขึ้น จะได้ปรับตัวไม่ยากเวลาต้องมาอยู่จริงๆ"

"ค่ะพ่อ นินาตื่นเต้นจังเลยค่ะ อยากให้ปีใหม่มาถึงไวๆ จะได้ไปหาพ่อกับแม่"

พ่อของสนหัวเราะร่วน ว่าที่ลูกสะใภ้คนนี้ดูจะถูกใจพ่อของสนมากทีเดียว "บ้านเรายินดีต้อนรับหนูเสมอนะลูก มาเลยๆ อ้อ...ว่าแต่ตอนนี้หนูกับสนเป็นไงมั่งลูก สนเขาดูแลหนูดีไหม มีอะไรก็บอกพ่อนะ เดี๋ยวพ่อจัดการให้"

นินาหน้าเจื่อน แน่ล่ะ สนไม่เคยสนใจใยดีเธอเลย ตอนนี้ก็ไม่ยอมมาขายของที่ถนนคนเดินกับเธอนานแล้ว ทำเฉพาะสูตรขนมให้ป้าของนิกอย่างเดียวเท่านั้น

"อ๋อ...ก็...ดีมั้งคะ"

พ่อของสนขมวดคิ้ว แม้ไม่เห็นหน้าแต่น้ำเสียงแบบนี้คงต้องมีเรื่องผิดปกติ "มีอะไรก็บอกพ่อตรงๆ ได้เลยลูก ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวพ่อจัดการให้ ตกลงสนเขาดูแลหนูดีหรือเปล่าลูก"

นินาเงียบไปอีก สักพักก็ได้ยินเสียงถอนหายใจยาว "พี่สน...เขาไม่ค่อยสนใจนินาเลยค่ะพ่อ เคยพาไปเที่ยวอยู่ครั้งนึงก็ไม่พาไปอีกเลยค่ะ เจอกันที่มหาลัยพี่สนก็ดูยุ่งๆ ตลอดเวลา ไม่ค่อยได้คุยกัน"

"ใช้ไม่ได้เลยลูกคนนี้ เดี๋ยวพ่อจะจัดการให้หนูเองนะลูก ยังไงๆ ช่วงปีใหม่หนูมาที่บ้านเรากับสน พ่อจะได้พาไปดูร้านอาหารของสนด้วย ตอนนี้ทำแบบใกล้เสร็จแล้ว อีกไม่กี่เดือนก็จะลงมือสร้าง ช่วงปีใหม่ก็น่าจะใกล้เรียบร้อย สนเรียนจบแล้วก็มาทำร้านได้เลย"

"ค่ะพ่อ นินาจะไปให้ได้ค่ะพ่อ"

พ่อของสนคุยกับนินาสักพักก็วางสายไป จากนั้นก็จัดการโทรหาลูกชายตัวดีทันที ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันได้สักพัก พ่อของสนก็เริ่มเรื่อง

"สน นินาเขาบอกว่าลูกไม่ดูแลไม่สนใจเขาเลย ทำไมสนไม่ดูแลน้อง น้องเขาเป็นคู่หมั้นสน ทิ้งๆ ขว้างๆ เขาอย่างนี้ไม่ดีนะลูก"

สนฟังแล้วก็ได้แต่เกาหัวแกรกๆ รู้สึกหงุดหงิดทีเดียวที่นินาใช้วิธีการเข้าหาพ่อของเขาแทน พ่อของสนชอบคนเอาใจ พอเจอว่าที่ลูกสะใภ้ฉอเลาะก็เลยถูกจริต ไม่อย่างนั้นคงไม่โทรมาคุยกับสนเรื่องนี้แน่ อีกอย่าง พ่อคงกลัวเรื่องที่เคยคุยกับสนไว้ ถ้าสนแต่งงานแล้วนั่นแหละพ่อถึงจะวางใจได้

"ช่วงนี้ผมยุ่งๆ น่ะครับพ่อ ผมเรียนหนักเลย ไหนจะธุรกิจของผม แล้วตอนนี้ผมก็มาช่วยงานชมรมกับต้นเพิ่มอีกอย่าง ผมไม่ค่อยว่างจริงๆ ครับพ่อ"

สนเดินวนอยู่บริเวณหน้าบ้าน หน้านิ่วคิ้วขมวด เพื่อนๆ คนอื่นๆ กลับมาถึงบ้านกันหมดแล้ว อีกไม่นานก็จะกินข้าวเย็นพร้อมกัน

"ยังไงๆ สนก็ต้องหาเวลามาดูแลน้องเขาบ้างนะลูก ถ้าเราไม่สนใจเขาแบบนี้ เกิดเขาถอนหมั้นขึ้นมาจะทำยังไง สินสอดทองหมั้นก็ไม่ใช่น้อยๆ"

สนอยากจะบอกพ่อเหลือเกินว่าเงินจำนวนนั้น ถ้าสนยังมีชีวิตอยู่ยังไงก็หามาใช้คืนพ่อกับแม่ได้อยู่แล้ว แต่คงจะบอกพ่ออย่างนั้นไม่ได้

"ผมจะพยายามนะครับพ่อ" สนรับปากอย่างหนักใจ

"นี่ก็หมั้นกันมาเป็นปีๆ อยู่แล้ว สนยังไม่รักน้องเขาอีกเหรอลูก พ่อว่าหนูนินานี่เขาก็น่ารักน่าเอ็นดูอยู่ แถมยังขยันอีกต่างหาก หาเงินเรียนเอง ไม่ต้องเดือดร้อนพ่อแม่ น้องเขาจะมาช่วยธุรกิจของครอบครัวเราได้ดีเลยนะลูก"

ฟังแล้วสนก็เงียบไปนาน อยากจะถอนหายใจแต่ก็ไม่กล้า "พ่อครับ...ผมพยายามแล้วนะครับ แต่...ยังไงๆ ผมก็รักนินาไม่ได้ ผมรักใครไม่ได้อีกแล้วครับพ่อ"

"นี่สนอย่าบอกนะว่าสนยัง..."

"ครับ" สนรีบรับคำ "พ่อครับ...ผมรักต้นครับ เราสองคนผูกพันกันมาก มันยากมากที่ผมจะตัดใจ ผมเอาหัวใจของผมไปให้คนอื่นไม่ได้"

"สน...สนสัญญากับพ่อแล้วนะลูก สนจะผิดสัญญากับพ่ออย่างงั้นเหรอ" พ่อของสนเสียงดังอย่างไม่พอใจ แล้วก็รีบลุกเดินออกไปหน้าบ้านเพราะกลัวแม่ของสนได้ยินเข้า

"สนยังไม่ได้ผิดสัญญาครับ สนยังไม่เคยบอกต้นเลยว่าสนคิดยังไงกับเค้า"

"มันเป็นไปไม่ได้นะลูก ลูกจะรักต้นแบบนั้นไม่ได้อย่างเด็ดขาด" พ่อของสนกำชับเสียงหนักแน่น

"ผมเข้าใจครับพ่อ แต่ผมพยายามแล้ว ผมก็ยังรักต้นอยู่เหมือนเดิม"

"พอๆๆ ไม่ต้องพูดเรื่องนี้แล้ว พ่อไม่อยากฟัง เอาเป็นว่า...มันเป็นไปไม่ได้ สนอย่าทำให้พ่อกับแม่ต้องลำบากใจเรื่องนี้อีก" แล้วพ่อสนก็ถอนหายใจ "ที่พ่อโทรมา พ่อจะบอกสนว่า...ปีใหม่นี้ หนูนินาเขาอยากมาหาพ่อกับแม่ที่บ้าน สนพาน้องมาด้วยละกัน"

"อะไรนะครับพ่อ"

"สนมีปัญหาอะไรหรือเปล่า อีกไม่นานหนูนินาเขาก็จะมาอยู่บ้านเราแล้ว ให้เขามารู้จักครอบครัวของเรา เขาจะได้ปรับตัวได้"

คราวนี้สนอดรนทนไม่ไหวจนต้องถอนหายใจออกมาจริงๆ

"ครับพ่อ" สนรับคำไปอย่างแกนๆ เพราะรู้ว่ายังไงก็ขัดพ่อไม่ได้ เห็นทีพรุ่งนี้สนจะต้องไปต่อว่านินาเสียหน่อยที่เล่นเข้าทางพ่อของสนแบบนี้

สนคุยกับพ่ออีกสองสามคำจากนั้นก็วางสายไป

"พ่อมึงรู้เรื่องมึงกับต้นแล้วเหรอวะ"

สนสะดุ้งตกใจเมื่อจู่ๆ คำถามนี้ก็ดังขึ้น นิกนั่นเอง ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ สนพยักหน้าช้าๆ เป็นเชิงยอมรับ

"กูรู้แล้วว่าทำไมมึงไม่ยอมบอกรักต้น เพราะพ่อมึงใช่ไหม" ไม่ใช่ว่านิกมาแอบฟัง แต่บังเอิญออกมาตามสนไปกินข้าวก็เลยได้ยินพอดี

สนถอนหายใจด้วยสีหน้าหนักใจ มาถึงขั้นนี้แล้วก็คงไม่มีประโยชน์ที่จะปิดบัง ใครๆ ก็รู้หมดแล้วว่าสนคิดยังไงกับต้น เหลือแค่ต้นคนเดียวเท่านั้น

"กูหนักใจว่ะนิก...ตอนนี้นินาเขาเข้าทางพ่อกู แล้วพ่อกูก็ดูเหมือนจะชอบเขามากด้วย"

นิกพยักหน้าเข้าใจ "ถ้าพวกมึงสองคนเป็นคู่กันจริงๆ ยังไงก็ต้องได้อยู่ด้วยกัน เชื่อกูสิ พวกกูเอาใจช่วย ว่าแต่...ปาฏิหาริย์ครั้งที่สามของมึง มึงอยากให้เป็นแบบไหนวะ"

นิกพูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ ไปด้วย อดขำปั้นจั่นไม่ได้ที่คิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาจนเป็นตุเป็นตะ น่าให้ไปเป็นหมอดูเสียจริง

สนครุ่นคิด ถึงตอนนี้ก็คงมีเรื่องเดียวแล้วล่ะที่สนอยากทำให้ได้เสียที "กูอยากให้เกิดเหตุการณ์อะไรก็ได้ที่จะทำให้กู...ได้บอกรักต้น กูรักต้นว่ะนิก ยิ่งตอนนี้...กูบอกได้เลยว่ากูรักต้นมาก แต่ก็พูดไม่ได้ มันโคตรทรมานเลย ต้นรอคอยกูมาเป็นสิบปีแล้วกูก็ยังไม่ได้บอกซะที บางทีกูก็อยากผิดสัญญากับพ่อให้รู้แล้วรู้รอด"

"ใจเย็นๆ เว้ยเพื่อน ค่อยๆ คิด ไป...ไปกินข้าวก่อน ต้นกับจั่นรอกินข้าวอยู่ เดี๋ยวไอ้จั่นมันบ่นอีก ไอ้นี่หิวแล้วชอบพาล" นิกว่าเพื่อนอีกคนอย่างไม่จริงจังนัก

สนพยักหน้า เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงแล้วก็เดินตามนิกเข้าไปในบ้าน บ้านที่อีกไม่นานนี้ต้นกับสนก็จะต้องจากไปแล้ว เกือบสี่ปีที่อยู่ที่นี่มีความทรงจำดีๆ มากมายทั้งระหว่างสนกับต้นและเพื่อนอีกสองคน สนได้ค้นพบหัวใจตัวเองก็ที่บ้านหลังนี้นี่แหละ แต่จะว่าไป สนเริ่มรู้สึกพิเศษกับต้นตั้งแต่ตอนไหนกันแน่นะ ตอนที่รู้ว่าต้นเป็นเกย์หรือเปล่า หรืออาจจะก่อนหน้านั้น สนยังไม่เคยหาคำตอบเรื่องนี้เลย เขาผูกพันกับต้น อยู่ด้วยกันมานานจนแทบจะแยกความรู้สึกรักอย่างเพื่อนกับรักอย่างคนรักไม่ออก รู้ตัวอีกทีก็รักไปแล้ว

 

"นินา ช่วงปีใหม่พี่จะต้องไปดูร้านที่กำลังสร้าง พี่ไม่มีเวลาพานินาไปเที่ยวไหนหรอกนะ ไปตอนอื่นได้ไหม"

สนพยายามต่อรอง สีหน้าไม่บอกก็รู้ว่าไม่ค่อยสบอารมณ์ มองดูคู่หมั้นสาวที่ยืนคอตั้งระหงแล้วก็ยิ่งเหนื่อยใจกับอาการดื้อรั้นของเธอ

"ไม่ได้ค่ะ ก็นินารับปากพ่อพี่สนไปแล้วนี่คะ จะให้นินาผิดคำพูดกับผู้ใหญ่ได้ยังไง ยังไงๆ นินาก็จะไป นินาอยากรู้จักครอบครัวของพี่สนก่อนที่เราจะแต่งงานกัน ไม่ดีเหรอคะ"

"แล้วจะไปนอนที่ไหน" สนถามเสียงห้วน

"ก็นอนห้องพี่สนสิคะ เราเป็นคู่หมั้นกันแล้วนะคะ"

"ไม่ได้" สนรีบตอบทันที

"ทำไมคะ ยังไงๆ เราก็ต้องเแต่งงานกัน ต่อไปก็ต้องอยู่ด้วยกัน ต้องนอนด้วยกัน ทำไมนินาจะนอนห้องเดียวกับพี่สนไม่ได้คะ" นินาชักจะโมโหบ้าง

"เรายังไม่ได้เแต่งงานกันเลยนะนินา"

"แล้วไงคะ ก็หมั้นกันแล้ว ทำไมพี่สนถึงมีปัญหาล่ะ นินาเป็นของพี่แล้วนะคะ ไม่ใช่ว่าเราไม่เคยมีอะไรกันมาก่อนซะหน่อย"

"นินา เธอไม่อายบ้างหรือไงที่พูดอย่างนี้ จะให้พี่บอกอีกกี่ครั้งว่าพี่ไม่ได้รักเธอ พี่ยังนึกไม่ออกเลยว่าพี่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องไปมีอะไรกับเธอ" สนสวนกลับไป

"คำก็ไม่รัก สองคำก็ไม่รัก แล้วมาทำอย่างนี้กับนินาทำไมคะ เห็นนินาเป็นของเล่นของพี่เหรอ แล้วหมั้นกับนินาทำไม ให้ความหวังกับนินาทำไม นินารักพี่จนถอนตัวไม่ขึ้นแล้วรู้ไหม"

เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นทำให้สนต้องหยุดอารมณ์พลุ่งพล่านลงมาบ้าง เขาก็ไม่อยากใจร้ายใจดำกับผู้หญิงตาดำๆ คนหนึ่งขนาดนี้หรอก

"นินา...พี่ไม่เข้าใจว่าเธอรักพี่ทำไม เธอจะอยากได้พี่ไปทำไมในเมื่อพี่ไม่ได้รักเธอเลย เธอจะมีความสุขเหรอที่เธอต้องทนอยู่กับคนที่เขาไม่รักเธอ" สนพูดด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่อ่อนลง จะว่าสงสารก็สงสาร จะว่ารำคาญก็รำคาญ

"ก็นินารักไปแล้ว จะให้ทำไงคะ ก็ตอนนินาอยู่ปีหนึ่ง พี่สนมาสนิทกับนินาทำไมล่ะ ถ้าพี่สนไม่รักนินาแล้วมาคบกับนินาทำไม เพราะพี่ดีกับนินาไง นินาถึงได้รักพี่ ทำไมตอนนี้พี่สนไม่เห็นเป็นเหมือนตอนนั้นเลยล่ะคะ นินาทำอะไรผิดพี่ถึงเปลี่ยนไปแบบนี้"

จะว่าไปสนก็ผิดเหมือนกันที่ดึงนินาเข้ามาเกี่ยวข้องกับการทดสอบจิตใจของตัวเองตอนนั้น เพราะเหตุนี้กระมังเขาจึงต้องมาชดใช้กรรมด้วยเรื่องที่คาดไม่ถึง

"พี่ขอโทษละกันนะนินา เอาเป็นว่า...ถ้าเธออยากไปก็ไป เดี๋ยวพี่จะหาห้องให้เธอนอนเอง พี่จะไปเรียนแล้ว" สนตัดบทเพราะขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงด้วย

"ตอนกลางวัน พี่มากินข้าวกับนินานะคะ"

สนหยุดชะงักในขณะที่กำลังจะเดินออกไป เห็นสีหน้าอ้อนวอนแล้วก็อดสงสารไม่ได้ ก็เลยต้องพยักหน้าตกลง

จะว่าไปสนก็สงสารนินาอยู่หรอก ไม่ใช่สงสารเพราะรัก แต่สงสารเพราะรู้ว่าความพยายามของเธอต้องเสียเปล่า สนไม่มีวันรักเธอได้หรอก สนจะเอายังไงดี ตอนนี้ในหัวของสนสับสนไปหมด ทางเลือกสองทางนั้นเป็นสิ่งที่ตัดสินใจได้ยากเหลือเกินสำหรับสน แต่ถ้ามันถึงที่สุดจริงๆ สนก็คงต้องยอมเป็นคนใจร้าย ถ้าสนได้รู้ว่านินาทำอะไรกับเขาบ้าง บางทีสิ่งที่สนคิดจะทำก็อาจจะสาสมกับความผิดนั้นของนินาทีเดียวล่ะ

 

ใกล้เริ่มงานเข้ามาทุกขณะ แต่วิทยากรที่จะมาบรรยายให้นักศึกษาฟังยังคงมาไม่ถึง สรกฤษณ์อดรนทนไม่ไหวจึงตรงดิ่งมาถามคนที่รับผิดชอบเรื่องการติดต่อวิทยากรเมื่อเห็นว่าใกล้เวลาแล้ว ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน สนนั่นเอง

"สน ทำไมวิทยากรยังมาไม่ถึงอีกล่ะ"

สนมองหน้าคนที่เดินเข้ามาหาอย่างแปลกใจ

"ก็ยังไม่ถึงเวลาไม่ใช่เหรอครับ"

"ไม่ถึงได้ยังไง อีกสิบห้านาทีก็จะเริ่มแล้ว สนติดต่อวิทยากรยังไงถึงยังไม่มาอีก" สรกฤษณ์อดตำหนิอีกไม่ได้ เขาเป็นคนที่เวลาทำงานแล้วมักเผลอจริงจังเกินไปอยู่บ่อยๆ

"มีอะไรเหรอครับพี่" ต้นรีบเดินเข้ามาดูเมื่อเห็นสรกฤษณ์ทำท่าทางคล้ายๆ โวยวายสนอยู่

"ก็สนน่ะสิ ติดต่อวิทยากรยังไม่รู้ นี่ยังไม่มาเลย งานจะเริ่มอยู่แล้ว ผู้ใหญ่มารอกันแล้วเห็นหรือเปล่า" สรกฤษณ์บ่นอุบอีก

"ก็ในกำหนดการบอกไว้ว่า 10 โมงไม่ใช่เหรอครับ นี่เพิ่งจะเก้าโมงสิบห้า ทำไมจะต้องรีบร้อนล่ะครับ" สนเถียง

"ใช่ที่ไหนล่ะครับ เขาเปลี่ยนเวลาเป็นเก้าครึ่งแล้ว สนไม่รู้เหรอว่าเขาเปลี่ยนเวลา ท่านอธิการบดีมีธุระด่วนต้องไปก่อนสิบโมง สนรีบโทรหาวิทยากรเลย ทีหลังอย่าให้พลาดแบบนี้อีก ไปต้น ต้นไปเตรียมตัวที่หน้าเวทีก่อน"

สรกฤษณ์พูดพลางรุนหลังต้นให้เดินไป ต้นหันกลับมามองสนแล้วก็อดสงสารไม่ได้ที่ถูกสรกฤษณ์ว่าอย่างนั้น ต้นผิดเองที่ลืมบอกสนว่าเขาเปลี่ยนกำหนดการใหม่แล้ว

สนถอนหายใจด้วยความหงุดหงิด มาช่วยงานชมรมของต้นครั้งแรกก็เจอดีเสียแล้ว ทำไมสรกฤษณ์ถึงต้องมาเจ้ากี้เจ้าการขนาดนี้ ทำยังกะเป็นคนจัดงานซะเอง แต่สนก็ต้องรีบโทรหาวิทยากรเพื่อแจ้งเวลาใหม่ เผื่อจะเดินทางออกมาแล้วน่าจะพอทันอยู่ แล้วสนก็ได้รับแจ้งจากทางวิทยากรมาว่าอาจจะมาไม่ทันเก้าโมงครึ่ง ขอเปลี่ยนเป็นเก้าโมงสี่สิบห้าแทนเพราะแจ้งเปลี่ยนเวลากะทันหันเกินไป

สนเดินไปบอกต้นที่ยืนคุยกันอย่างอารมณ์ดีกับสรกฤษณ์ที่หน้าเวทีเรื่องที่วิทยากรมาไม่ทัน แล้วก็ต้องหน้าหงายอีกรอบ

"เห็นไหมสน ทีหลังทำงานต้องระวังหน่อยนะครับ แล้วนี่จะทำยังไง ท่านอธิการก็จะไปแล้ว วิทยากรยังมาช้าอีก" สรกฤษณ์ไม่วายบ่นอีกจนได้

"ก็ผมไม่รู้ว่ามีการเปลี่ยนกำหนดการนี่ครับ"

"พอๆๆ ไม่ต้องมาแก้ตัวเลย สนไปดูแลผู้ใหญ่ก่อน เดี๋ยวพี่กับต้นจัดการตรงนี้เอง" สรกฤษณ์รีบตัดบท สีหน้าของทั้งสองคนต่างหงุดหงิดพอกัน

สนส่ายหน้าอย่างหัวเสีย แล้วก็รีบเดินออกมาก่อนจะรู้สึกหงุดหงิดไปมากกว่านี้

"พี่กริด ต้นผิดเองครับ พอดีต้นลืมบอกสนเรื่องเปลี่ยนกำหนดการ" ต้นบอกเสียงอ่อย เห็นสนถูกว่าแบบนั้นแล้วก็ยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่

"อ้าว..." สรกฤษณ์ก็หน้าเสียเช่นเดียวกัน เมื่อกี้เขาว่าสนไปซะหลายดอกเลย ท่าทางสนคงจะไม่พอใจน่าดู

"เอางี้ ต้นไปบอกผู้ใหญ่กับอาจารย์อัศวิณีหน่อยละกันว่าวิทยากรรถติด จะมาถึงช้าหน่อย"

"ครับพี่"

ต้นรับคำแล้วก็เดินมาบอกอาจารย์อัศวิณีกับท่านอธิการบดีตามที่สรกฤษณ์แนะนำ สนกำลังเอากาแฟและของว่างมาเสิร์ฟพอดี เห็นสีหน้าของสนแล้วต้นก็พอจะรู้ว่าสนไม่ค่อยพอใจ สงสัยต้นจะพลอยโดนหางเลขไปด้วยแน่เลย

"กิจกรรมของชมรมไปได้ดีก็เพราะคนนี้มาช่วยค่ะ ช่วยคิดกิจกรรมดีๆ ให้ชมรมของเราได้หลายอย่างเลย ขยันทำงานด้วย" อาจารย์อัศวิณีชมต้นให้ท่านอธิการบดีฟัง ต้นว่าจะคุยกับสนเสียหน่อยก็เลยไม่ได้คุย

"ดีๆๆ ผมก็อยากให้มหาวิทยาลัยของเราเป็นต้นแบบในเรื่องนี้ให้ได้ ตอนนี้ผมได้ข่าวว่ามีมหาลัยอื่นๆ สนใจอยากมาดูงานหลายที่เลย แล้วผมก็เพิ่งคุยกับเพื่อนที่ทำงานที่ สสส. ไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เขาก็สนใจกิจกรรมของชมรมนี้มาก น่าจะมีทุนมาสนับสนุนกิจกรรมเพิ่มอีก ได้เรื่องยังไงผมจะบอกอาจารย์อีกทีนะครับ"

ต้นกับอาจารย์อัศวิณีหันมายิ้มให้กัน ถ้าได้ สสส. มาสนับสนุนก็คงดีไม่น้อย

"ผมขอตัวก่อนนะครับ พอดีจะต้องไปเป็นพิธีกรครับ" ต้นบอก

"อ้อๆ เชิญเลยครับๆ" ท่านอธิการบดีบอกพลางยิ้มให้ต้นอย่างเอ็นดู

ต้นค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วก็เดินออกไปยังหน้าเวทีในห้องประชุม ตอนนี้สนกำลังโทรศัพท์อยู่ เข้าใจว่าวิทยากรท่านนั้นคงโทรมาถามทางที่จะมาที่ห้องประชุมนั่นเอง เห็นอาการปั้นปึงอย่างนั้นต้นก็รู้แล้วล่ะว่าสนงอนเข้าให้แล้ว สนไม่ค่อยงอนต้นบ่อยนัก นานๆ จะเห็นที

ต้นกล่าวต้อนรับผู้ใหญ่ที่มาเป็นเกียรติในงานรวมทั้งเพื่อนๆ นักศึกษาทั่วไปและนักศึกษาพิการที่มาร่วมงานสำรวจสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในวันนี้ ต้นพูดถึงวัตถุประสงค์ของงานและกิจกรรมคร่าวๆ ในวันนี้จบ วิทยากรที่จะมาบรรยายเรื่องอารยะสถาปัตย์หรือ Universal Design ก็มาถึงพอดี ทำให้ต้นโล่งใจมากทีเดียวที่ไม่ต้องพูดยื้อเวลา

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีการในช่วงเช้า ดร. ชนิกา กระจ่างศรี จึงได้ขึ้นบรรยายเรื่อง Universal Design พร้อมทั้งให้คำแนะนำกับนักศึกษาที่มาร่วมกิจกรรมวันนี้ว่าการสำรวจสิ่งอำนวยความสะดวกต้องใช้เครื่องมืออะไรบ้าง เก็บข้อมูลยังไง วัดผลยังไง จากนั้นจึงแบ่งกลุ่ม และแยกย้ายกันไปสำรวจตามจุดที่สำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่จอดรถ ห้องน้ำ อาคารเรียน ทางเดินเท้า โรงอาหาร และอีกหลายๆ จุดสำคัญของมหาวิทยาลัย หลังจากที่สำรวจเสร็จสิ้นแล้วต้นจะเป็นคนรวบรวมข้อมูลส่งให้มหาวิทยาลัยเพื่ออนุมัติงบประมาณมาปรับปรุงแก้ไขต่อไป

ต้น สนและเพื่อนๆ ในชมรมแยกย้ายกันไปดูแลตามกลุ่มต่างๆ สนสังเกตเห็นว่าสรกฤษณ์มักจะตามไปอยู่ใกล้ๆ ต้นบ่อยๆ ถ้าสนยังอารมณ์ดีๆ อยู่ บางทีสนอาจจะตามไปหวงก้างบ้าง แต่โดนสรกฤษณ์ดุเมื่อเช้า แถมต้นยังทำเหมือนไม่สนใจสนอีก สนก็หมดกะจิตกะใจ กิจกรรมวันนี้จึงทำอย่างไปอย่างแกนๆ

ตอนเที่ยง สนแยกตัวไปกินข้าวกับเพื่อนในชมรมคนอื่นๆ แต่สายตาก็คอยแอบมองต้นกับสรกฤษณ์เป็นระยะๆ ต้นเองก็ได้แต่คอยมองไกลๆ อย่างห่วงๆ เหมือนกัน แต่ต้นก็มีเรื่องที่ต้องรับผิดชอบหลายอย่างจึงไม่ได้มาคุยกับสนที่ตอนนี้คงงอนต้นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว พอถึงตอนบ่าย สนมีเรียนจึงไม่ได้อยู่ช่วยต่อ สรุปว่าต้นก็เลยไม่มีโอกาสได้คุยกับสนเลยทั้งวัน

 

สรกฤษณ์มาส่งต้นที่บ้านเกือบๆ สามทุ่ม หลังจากที่เสร็จกิจกรรมต้นต้องประชุมทีมงานและคุยแผนการทำงานต่อไปกับอาจารย์อัศวิณี เสร็จธุระแล้วถึงได้ไปกินข้าวกับสรกฤษณ์

ปั้นจั่นเดินลงมาหาน้ำดื่มข้างล่างพอดี พอเห็นต้นเข้ามาก็รีบมารายงาน

"เพิ่งกลับเหรอวะต้น ไปดูไอ้สนมันหน่อยดิ ไม่รู้เป็นไร ดูมันเงียบๆ ไงไม่รู้ ไม่พูดไม่จา กินข้าวเสร็จก็เข้าห้องไปเลย"

ต้นถอดรองเท้าวางไว้บนชั้นวางแล้วก็หัวเราะแหะๆ "สงสัยจะงอนกูนั่นแหละ เมื่อกลางวันมีเรื่องนิดหน่อยว่ะ"

"จริงเหรอ ไอ้สนมันงอนมึงเป็นด้วยเหรอวะ ปกติเห็นมันรักมึงจะตาย" ปั้นจั่นสงสัย

"ก็มีบ้าง แต่ไม่บ่อยหรอก เดี๋ยวกูขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะเว้ย จะได้ไปง้อเขาหน่อย"

"เออๆ ไปทำให้มันงอน ระวังโดนมันปล้ำเอานะมึง" ปั้นจั่นแซวอย่างอารมณ์ดี

ต้นหัวเราะชอบใจเบาๆ แล้วก็เดินขึ้นห้องไป

พอจัดการอาบน้ำอาบท่าให้ให้สบายเนื้อสบายตัวแล้วต้นก็เดินมาห้องสน เคาะประตู สักพักเจ้าตัวก็มาเปิดห้องให้ ใส่เสื้อกล้ามสีขาวและกางเกงบ็อกเซอร์ตัวโปรดเหมือนเคย แม้จะดีใจที่เห็นต้นมาหาแต่ก็ทำเป็นขรึมๆ

"วันนี้เรามานอนห้องนายนะ" ต้นถามหยั่งเชิงเพื่อจะดูว่าอาการงอนของสนอยู่ระดับไหน

"อืม" สนตอบสั้นๆ แล้วก็เดินกลับมานั่งที่โต๊ะทำงาน สนเปิดคอมพิวเตอร์ทิ้งไว้ ไม่ได้ทำงานแต่ดูแข่งฟุตบอลอยู่

ต้นปิดห้องให้แล้วก็เดินตามมาดู

"ดูบอลอยู่เหรอ"

สนพยักหน้าแทนการตอบคำถาม แล้วจู่ๆ ก็ปิดคอมพิวเตอร์ไป

"อ้าว ไม่ดูแล้วเหรอ" ต้นเอียงคอถามอย่างงงๆ

"จะนอนแล้ว" ตอบห้วนๆ เหมือนเดิม จากนั้นก็เดินไปที่เตียงพร้อมกับทิ้งตัวลงนอน ไม่ใช่อะไรหรอก สนรู้ว่าต้นมาเพราะอยากคุยเรื่องเมื่อกลางวัน ก็เลยปิดคอมพิวเตอร์ไป เปิดทางให้ต้นมาคุยด้วยนั่นเอง

ต้นเดินตามไปที่เตียง เห็นสนทำท่ามึนๆ ตึงๆ ใส่ก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน

"โกรธเราเหรอวันนี้" ต้นนั่งลงบนเตียงข้างๆ สน สีหน้ารู้สึกผิด

"เปล่า" ถามคำตอบคำ แล้วจะบอกว่าไม่โกรธได้ยังไง

"เราจะบอกว่า...เราลืมบอกนายเองแหละเรื่องเปลี่ยนกำหนดการ เราขอโทษนะสน ทำให้นายโดนพี่กริดว่าเลย พี่กริดเขาเป็นแบบนี้แหละ เวลาทำงานเขาชอบซีเรียส"

"มาขอโทษแทนเขาเหรอ" พูดแล้วก็ยันตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง

"เปล่า...เรามาขอโทษของเราเองนั่นแหละ ไม่เกี่ยวกับพี่กริดหรอก ขอโทษนะ เราลืมจริงๆ เรามัวแต่ยุ่งๆ ก็เลยลืม" ต้นทำสีหน้าอ้อนวอน

"ก็เห็นอยู่กับพี่กริดทั้งวัน"

ต้นทำหน้าเหรอหรา ไม่แน่ใจว่าสนงอนเรื่องที่ถูกตำหนิหรือเรื่องที่ต้นอยู่กับสรกฤษณ์ทั้งวันกันแน่ เผลอๆ อาจจะทั้งสองอย่างรวมกัน

"ก็...พี่กริดเขาทำงานละเอียดน่ะ เขาจะคอยถามเราตลอดว่าจะให้ถ่ายวิดีโอยังไง ตรงไหน จะเพิ่มจะลดอะไร แล้วพี่เขาก็มาช่วยงานนานแล้วก็เลยรู้งาน ช่วยเราทำตั้งหลายอย่างแน่ะ"

"อืม" สีหน้ายังดูมึนตึงอยู่เล็กน้อย

สงสัยต้นต้องหาวิธีใหม่มาง้อแล้วล่ะ ต้นเดินอ้อมไปอีกฝั่งของเตียงแล้วขึ้นมานั่งชันตัวข้างๆ สน

"สน...เรารู้ละ นอกจากต้นแขนแล้วยังมีอีกอย่างที่เราชอบของตัวนาย อยากรู้ไหม"

ยิ้มมีเลศนัยของต้นทำให้สนเกิดความอยากรู้มากทีเดียว "อะไรเหรอ"

"นายหันข้างๆ ไว้อย่างนี้นะ แล้วก็ยิ้ม ให้เห็นฟันด้วย"

สนพยายามทำตามที่ต้นบอก แต่เนื่องจากอารมณ์ยังไม่แจ่มใสเต็มที่เลยทำให้ยิ้มแปลกๆ ไปหน่อย

"เหมือนแยกเขี้ยวเลย ไม่เอา เอาใหม่ๆๆ"

ต้นแซว สนก็เลยหัวเราะเบาๆ ออกมา ทำให้ต้นได้เห็นรอยยิ้มที่อยากเห็นพอดี

"เออๆ แบบนี้แหละ เราชอบเวลานายยิ้ม เห็นฟัน แล้วก็มีรอยบุ๋มๆ ตรงแก้มนิดหน่อย แต่ต้องมองข้างๆ นะ"

"ทำไมต้องมองข้างๆ ล่ะ มองตรงๆ แล้วดูไม่ดีเหรอ" สนนิ่วหน้า

"คนหล่อๆ อย่างนาย มองมุมไหนก็หล่อทั้งนั้นแหละ แต่เราชอบมองข้างๆ ไง" ต้นพูดพลางขำอย่างเอ็นดู

สนหัวเราะเบาๆ พอนึกอะไรได้ก็ยิ้มมีเลศนัย "อยากให้เราหายโกรธไหม"

ต้นทำหน้างง "ยังไม่หายโกรธอีกเหรอ นึกว่าหายแล้ว"

สนส่ายหน้า "ใครบอก"

"อ้าว แล้วกัน จะให้เราทำอะไรอีกล่ะ เราขอโทษแล้วนะ"

สนเอานิ้วชี้ที่ตรงแก้มของตัวเอง ข้างที่ต้นบอกว่าชอบนั่นแหละ

"อะไร จะให้เราต่อยนายเหรอ"

"ไม่ใช่" สนรีบบอก

"อ้าว แล้วจะให้เราทำอะไรล่ะ"

สนไม่รู้จะอธิบายยังไง ก็เลยเอามือแตะที่ริมฝีปากของต้นแล้วมาแตะที่แก้มของเขาเอง

"เฮ้ย ไม่เอา ไม่กล้า" ต้นบอกปัดเป็นพัลวันเมื่อรู้ว่าสนหมายถึงอะไร

"งั้น...เราก็ไม่หายโกรธ" สนทำหน้าเย็นชาไม่รู้ไม่ชี้เหมือนเดิม แต่แอบยิ้มอยู่ในที

"เอางั้นเหรอ" ต้นทำหน้าม่อย "ก็ได้"

ต้นยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ พอจะถึงจังหวะที่ต้องหอมแก้มจริงๆ ต้นก็เอามือมากันปากตัวเองไว้แล้วทำเหมือนหอมแก้มสนลงไป

"ขี้โกงเหรอ"

ว่าแล้วสนก็รวบตัวต้นมากอดไว้ แล้วก็ดันตัวของต้นให้นอนลงบนตักของตัวเอง ต้นขัดขืนเล็กน้อยแต่สุดท้ายก็ยอมแต่โดยดี รอยยิ้มและเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขกลับมาเหมือนเดิมแล้ว ต้นกับสนประสานสายตากัน ต้นคงไม่ได้คิดไปเองเป็นแน่ แววตาแบบนี้ รอยยิ้มแบบนี้ สัมผัสแบบนี้ ช่างเต็มไปด้วยความรัก ต้นเห็นแต่ความรักที่สนส่งผ่านออกมาในทุกสิ่งที่สนทำอยู่ตอนนี้ แม้ไม่พูด ต้นก็เห็นได้ชัดเจน ผู้ชายคนนี้รักต้น รักมากเสียด้วย แล้วทำไมเขาถึงไม่บอกต้นเลย

ต้นเอามือบีบจมูกสนก่อนจะเขินไปมากกว่านี้ แล้วต่างคนก็ต่างหัวเราะ ต้นชอบแซวว่าสนจมูกใหญ่ ก็ไม่ถึงกับใหญ่มาก แค่ดูใหญ่นิดๆ ในบางมุม

"เราอยากไปเที่ยวดอยอินทนนท์น่ะ เมื่อไหร่นายจะพาเราไปซะที จะเรียนจบอยู่แล้วยังไม่ได้ไปด้วยกันเลย"

"อ้อ..." สนทำท่าครุ่นคิด "หลังปีใหม่ได้ไหม ช่วงนี้เรายุ่งๆ กับร้านอยู่ กว่าจะเสร็จก็น่าจะหลังปีใหม่นั่นแหละ"

"ได้ๆ ไปหลังปีใหม่ก็ได้ ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่หนาวมาก"

"ชวนนิกกับจั่นไปด้วย ถือโอกาสไปเที่ยวด้วยกันสักครั้งก่อนแยกย้ายกันไป ดีไหม"

ต้นพยักหน้า "น่าใจหายนะ เราคงคิดถึงที่นี่มาก คิดถึงนิกกับจั่น คิดถึงอะไรดีๆ หลายอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่"

"ธรรมดาแหละ มีพบก็มีจาก แต่เรากับนายสองคนก็ยังกลับบ้านด้วยกันอยู่ดี แปลกดีนะต้น เราไม่เคยห่างกันเลย เพื่อนคนอื่นๆ ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่เรากับนาย...ก็ยังเจอกันอยู่เหมือนเดิม"

"แล้วถ้าเราไปเรียนเมืองนอกล่ะ" ต้นทำหน้าเศร้า

"แค่สามปีเอง ยังไงนายก็ต้องกลับมาบ้านอยู่แล้ว จริงไหม"

ต้นพยักหน้า แล้วก็กลับไปทำหน้าเศร้าอีก "พอเรากลับมา นายก็คงแต่งงานกับนินาไปแล้ว อาจจะมีลูกด้วยกันแล้วก็ได้"

สนหน้าสลดไปอย่างเห็นได้ชัด เขาคิดถึงสองทางเลือกนั้นอีกแล้ว จนป่านนี้สนก็ยังตัดสินใจเลือกไม่ได้เลย หวังว่าปาฏิหาริย์ครั้งที่สามจะทำให้สนตัดสินใจได้เสียที

"มันอาจจะไม่เป็นอย่างที่นายคิดก็ได้นะต้น ขอเวลาเราอีกหน่อยนะ" สนพูดพร้อมกับใช้มือลูบผมต้นเล่นอย่างเบามือ

ต้นพยักหน้ายิ้มๆ "ไม่เป็นไรหรอก เราเชื่อนาย เรารู้ นายไม่ทำให้คนที่นายรักผิดหวังหรอก"

สนทำหน้าไม่ถูกเลยทีเดียว ต้นคงดูออกแล้วสินะว่าสนรักต้นมากแค่ไหน รอวันที่สนจะพูดคำนั้นออกมาเท่านั้น คงอีกไม่นานนี้แล้วล่ะ สนจะเก็บมันไว้ไม่ไหวแล้ว ถ้าจะต้องผิดสัญญากับพ่อ สนก็คงต้องยอม!

TBC
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-08-2015 19:14:01 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ถ้าคุณพ่ออยากได้นินาขนาดนั้น..มาเป็นเจ้าบ่าวในงานแต่งงานเองเลยไหมคะ? o18 ยัดเยียดให้ลูกอยู่นั่นล่ะ คนบอกไม่รักๆ เคยฟังบ้างไหมเนี่ย~ คิดจะควบคุมทุกอย่างในชีวิตของสนแม้กระทั่งเรื่องของความรู้สึกเลยหรือยังไงกัน บ้าจริงๆ เลย

ปล. รอวันสนขัดใจคุณพ่อนะค้าา ^^

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด