▓ ▒ ░ ต้น-สน∞ปาฏิหาริย์รักที่รอคอย ░ ▒ ▓CHAPTER 37: ความทารุณที่เกินทนไหว (ปาฏิหาริย์ครั้งที่ 4) "ต้น...สนเขายังรอต้นอยู่นะลูก" แม้ว่าลูกชายจะห้ามไม่ให้พูดเรื่องของสนอีก แม่เยาก็อดพูดขึ้นมาไม่ได้ในวันหนึ่งที่ต้นโทรมาหา ต้นใช้โทรศัพท์สาธารณะเสมอเพื่อไม่ให้ใครโทรกลับหาต้นที่ที่พักได้
ต้นเงียบไปนานพอสมควรทีเดียวที่ได้ยินเช่นนั้น แล้วก็ถอนหายใจ "แม่ครับ...ผมฝากบอกสนด้วยละกันว่า...ไม่ต้องรอต้นอีกแล้ว ต้นมีแฟนใหม่แล้วครับแม่"
"จริงเหรอลูก" แม่ของต้นอุทานอย่างตกใจ เธอเคยคิดว่าต้นคงรักสนมาก ไม่น่าจะลืมกันได้ง่ายๆ ผ่านไปสองปีกว่าๆ ต้นกลับมีแฟนใหม่เสียแล้ว
"ตั้งแต่เมื่อไหร่"
"ไม่นานนี้ครับ" ต้นหยุดเว้นจังหวะเหมือนกับกำลังครุ่นคิด "แม่ครับ แม่ต้องบอกสนให้ได้นะครับ อย่ารอต้นอีกเลย สนมีลูกแล้ว ดูแลลูกให้ดีๆ ดูแลภรรยาเขาให้ดีๆ เรื่องเก่าๆ ต้นลืมไปหมดแล้วล่ะ กลับไปแล้วเราสองคนก็จะเป็นแค่เพื่อนกันเหมือนเดิม"
"ต้นพูดจริงๆ เหรอลูก" ดูเหมือนแม่ของต้นจะยังค้างคาใจมากทีเดียว
"ครับ ผมไม่ได้รักสนอย่างนั้นแล้ว คงจะกลับไปรักสนอย่างนั้นอีกไม่ได้ ไม่มีประโยชน์ที่สนจะรอผม บอกสนให้ลืมผมนะครับแม่ แม่บอกสนให้ได้นะครับ"
เมื่อต้นยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะอย่างนั้น แม่ของต้นก็คงไม่สงสัยอีกแล้วว่าลูกชายพูดความจริงหรือเปล่า เมื่อสนกลับมาในตอนเย็นวันเดียวกันนั้น แม่ของต้นจึงถือโอกาสนั่งคุยกับสนก่อนจะเข้านอน
"เป็นไงบ้างลูก วันนี้ที่ร้านคนเยอะไหม"
"เยอะเหมือนกันครับแม่เยา แต่ละคนเหนื่อยกันน่าดูเลยครับวันนี้ วิ่งกันวุ่นไปหมดเลย"
"เหรอลูก ดีแล้วล่ะ ลูกค้าเยอะน่ะดีแล้ว อ้อ...วันนี้สนพอจะคุยกับแม่สักครึ่งชั่วโมงหน่อยได้ไหมลูก แม่จะถามอะไรสนหน่อย"
สนพยักหน้า แล้วก็นั่งลงตรงโซฟารับแขกพร้อมๆ กับแม่ของต้น
"พ่อแอ๊ดนอนแล้วเหรอครับ"
แม่ของต้นพยักหน้า "เห็นว่าปวดหัวนิดหน่อย ก็เลยกินยา คงจะหลับไปแล้วล่ะ"
สนพยักหน้าเข้าใจ หลังๆ มานี้พ่อของต้นเครียดและปวดหัวบ่อยๆ คงจะเป็นเพราะคิดถึงลูกชายที่ไม่ยอมพูดจาด้วยมาหลายปีนั่นเอง แม้ว่าจะเห็นใจแต่สนก็ไม่รู้จะช่วยได้ยังไง สนเองยังไม่เคยได้คุยกับต้นเลยแม้แต่คำเดียว
"แม่ก็เป็นห่วงพ่อเขาเหมือนกันนะลูก แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ต้นไม่ยอมคุยกับพ่อเขาเลย บทจะดื้อก็ดื้อจริงๆ ลูกคนนี้"
แม่ของต้นถอนหายใจ "มาที่เรื่องของสนดีกว่า สนจะทำยังไงต่อล่ะลูก แม่ว่าสนทรมานตัวเองมามากพอแล้ว ถ้าทนไม่ไหวก็หย่ากับเขาไปเถอะลูกเอ๊ย อย่าทนมันเลยลูก"
"เขาไม่ยอมน่ะครับแม่เยา แล้วเขาก็ขู่ว่าจะเอาลูกไปด้วยถ้าหย่ากัน พ่อกับแม่ผมไม่ยอมแน่ๆ ผมก็ไม่อยากให้ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกันเพราะโดยปกติแล้วศาลก็จะให้ลูกอยู่กับแม่เป็นหลัก ผมก็ไม่รู้จะกดดันเขายังไงแล้วครับแม่เยา เขาดื้อด้านกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเลย ขนาดว่าแยกห้องไม่นอนด้วย ไม่พาไปเที่ยว ไม่เคยแนะนำใครว่าเป็นภรรยา แล้วก็อีกสารพัด เขาก็ยังทนอยู่ได้ แต่ผมก็รู้ว่าเขาไม่มีความสุขหรอก เขาเจ็บมากเลยล่ะครับ ถ้าเขายังดื้อด้านอยู่อีก ผมจะใช้วิธีสุดท้าย ผมจะทำให้เขามีชู้ครับแม่เยา"
แม่เยาเอามือทาบอกด้วยความตกใจ "ตายจริง ต้องทำขนาดนั้นเลยเหรอสน แม่ว่า...แค่นี้มันก็แย่มากพอแล้วนะลูก โอย...เป็นบาปเป็นกรรมกันเปล่าๆ ไม่ดีเลยลูก แม่ไม่อยากให้สนทำอย่างนี้เลย สนมีวิธีอื่นหรือเปล่าลูก"
เธอเลี้ยงดูสนมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่เคยสอนให้สนกับต้นมีจิตใจโหดร้ายอย่างนี้ ได้ยินอย่างนั้นก็อดจะใจหายไม่ได้ แต่เธอก็ต้องเข้าใจสนเพราะรู้ว่าสนคงอยากหลุดพ้นจากชีวิตอย่างนี้เสียทีจึงต้องยอมทำทุกอย่าง ตอนแรกสนคิดว่ามันจะง่าย กดดันนินานิดหน่อยเธอก็น่าจะทนไม่ไหวแล้ว ที่ไหนได้ เธอกลับอดทนมากกว่าที่คิดไว้เสียอีก
"ผมยังนึกไม่ออกเลยครับแม่เยา พยายามมาหลายวิธีแล้ว กดดันเขามาสารพัดวิธีแล้วเขาก็ไม่ยอมไป ผมก็ไม่อยากทำหรอกครับถ้ามันไม่จำเป็น"
"ผู้หญิงคนนี้ก็กระไร คนเขาไม่รักก็ยังทนอยู่ได้ ไม่เคยพบเคยเจอ ระวังร้านสนให้ดีนะลูก เกิดเขาหาวิธีฮุบสมบัติขึ้นมาแล้วจะแย่กันหมด" แม่ของต้นอดจะว่าภรรยาของสนไม่ได้ ดูจากลักษณะท่าทางแล้วนินาก็เป็นผู้หญิงเอาเรื่องไม่ใช่น้อย
"ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอกครับแม่เยา ผมป้องกันไว้หมดแล้ว ร้านของผมไม่ใช่สินสมรส เป็นทรัพย์สินของพ่อผม เขาคงไม่บ้ายกให้นินาหรอกครับ"
ถ้าจะถามว่ามันแย่ไหมที่ต้องทำอย่างนี้ สนก็รู้ว่ามันแย่ เขาดูเหมือนผู้ชายเลวๆ ที่กลั่นแกล้งผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่มีทางสู้ แต่จะว่าไป ผู้หญิงคนนี้ก็สู้สุดฤทธิ์ทีเดียวล่ะ ความจริงนินาก็ใกล้จะหมดแรงต่อสู้แล้ว สองปีที่ทนทุกข์ทรมานอยู่กับสนทำให้แรงทิฐิและอยากเอาชนะของเธอค่อยๆ อ่อนแรงลงไปทุกทีๆ อีกไม่ช้าเธอก็คงจะทนไม่ไหวเสียเอง
"ดีแล้วลูก หวังว่าพ่อแต้วคงไม่บ้ายกให้เขาไปละกัน เฮ้อ" แล้วแม่ของต้นก็นึกถึงเรื่องที่เพิ่งคุยกับลูกชายเมื่อช่วงหัวค่ำ
"สน...สนยังรอต้นอยู่ใช่ไหมลูก"
สนนั่งนิ่ง หันหน้าออกไปมองที่หน้าต่างแล้วก็หันกลับมาตามเดิม "ครับ" สนรับคำแต่โดยดี
จากนั้นก็ถามเรื่องที่สนอยากรู้ "ต้นเขาโทรมาหาแม่เยาไหมครับช่วงนี้"
สนกะพริบตาถี่ๆ กลัวว่าตัวเองจะต้องร้องไห้เสียแล้วหลังจากที่ไม่เคยต้องเสียน้ำตาให้ใครอีกเลยมาสองปีกว่า พูดถึงต้นทีไรสนก็อดจะร้องไห้ไม่ได้อยู่เรื่อย จนหลังๆ ไม่ค่อยพูดถึงไปเลย
"ก็...เพิ่งคุยกันเมื่อตอนหัวค่ำนี่เอง" แม้ลังเลใจที่จะพูดเรื่องนั้น แต่เมื่อรับปากลูกชายมาแล้วเธอก็คงต้องทำตามที่สัญญาไว้
"สน...ต้นเขามีแฟนใหม่แล้วนะลูก"
ความรู้สึกชาวาบไปทั้งตัวเหมือนคราวนั้นกลับมาอีกแล้ว ได้รู้อย่างนี้แล้วสนก็ไม่อาจห้ามน้ำตาเอาไว้ได้ ปล่อยให้มันไหลลงมาอย่างช้าๆ ตามที่มันอยากจะไหล ริมฝีปากและมือไม้สั่นเทา แม่ของต้นเห็นแล้วก็อดสงสารและพลอยร้องไห้ไปด้วยไม่ได้
"แม่ขอโทษนะลูก แม่ก็ไม่อยากจะบอกหรอก แต่ต้นเขาให้แม่บอกสนให้ได้ว่าต้นเขามีแฟนใหม่แล้ว ให้สนลืมต้นไปเถอะ ดูแลลูก ดูแลภรรยาของสนให้ดี ต้นเขาบอกแม่ว่าต้นไม่ได้รักสนอย่างนั้นอีกแล้ว แม่ก็ไม่รู้ว่าต้นพูดจริงหรือเปล่า สนจะไปไหนลูก!"
แม่ของต้นร้องถามเมื่อเห็นสนลุกขึ้นพรวดแล้วก็เดินออกไปจากบ้านทั้งที่ยังฟังเธอพูดไม่จบ พอเดินตามออกไปดูที่หน้าบ้านก็เห็นสนนั่งอยู่ที่สะพานเหล็กที่เขาเคยนั่งเล่นกับต้นบ่อยๆ สมัยเป็นเด็ก ไม่ต้องบอกก็คงจะพอจะเดาได้ว่าสนคงกำลังร้องไห้อย่างหนักแค่ไหน
"ลูกเอ๊ย...แม่ก็ไม่รู้จะช่วยสนยังไงแล้วลูก"
แม่ของต้นยืนดูอยู่สักพักก็ค่อยๆ เดินเข้าบ้านไป สนมีกุญแจอยู่เพราะเธอเป็นคนเอาไปปั๊มให้สนไว้ต่างหาก เวลาสนมาถึงดึกๆ ดื่นๆ จะได้ไม่ต้องคอยเรียกให้เธอหรือสามีมาคอยเปิดให้
แม้ดูภายนอกจะดูเหมือนสนเย็นชา เหมือนคนไม่มีหัวใจ เพราะสนพยายามสร้างเกราะกำบังความอ่อนแอของตัวเองไว้ แต่พอได้ยินเรื่องนี้แล้วสนก็หมดความอดทนที่จะปิดกั้นความอ่อนแอนั้นได้ ชีวิตของสนตอนนี้เหมือนเหลืออยู่ตัวคนเดียว พอไม่มีต้นแล้วสนก็ไม่ค่อยคุยกับใคร สะสมความเครียดทุกอย่างที่ต้องเจอในแต่ละวันไว้คนเดียว ไหนจะพ่อกับแม่ ไหนจะนินา ไหนจะลูก ไหนจะปัญหามากมายที่ร้านอาหารที่สนต้องคอยแก้ปัญหา แล้ววันนี้ก็มีเรื่องของต้นอีก สนจะต้องพยายามถึงแค่ไหนถึงจะทานทนความกดดันรอบด้านอย่างนี้ต่อไปได้ คนที่จะเป็นน้ำทิพย์ชโลมใจให้กับสนต่อสู้ต่อไปได้ก็มีเพียงต้นเท่านั้น
สายไปแล้วใช่ไหม แล้วสนจะพยายามทำไปเพื่อใครกัน สนกลัวมาตลอดว่าจะได้ยินเรื่องนี้ สุดท้ายมันก็เกิดขึ้นจนได้ ต้นลืมสนไปแล้ว มีแฟนใหม่ไปแล้ว แล้วสนจะรอใคร จะอยู่เพื่อใคร
ข่าวนั้นที่แม่ของต้นบอกทำเอาสนเสียศูนย์ไปหลายวัน บางครั้งก็อยากจะเดินเข้าร้านเหล้าแล้วก็กินให้เมาให้รู้แล้วรู้รอด จะได้ลืมๆ ความเจ็บปวดเสียบ้าง แต่พอนึกได้ว่าต้นไม่ชอบสนก็เดินหนีออกมา ไม่รู้จะไประบายความเจ็บปวดและปัญหามากมายนี้กับใคร สนจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว เขากำลังจะแย่เสียเองแล้วตอนนี้
อีกไม่กี่วันต่อมาแม่ก็มาคุยกับสนเพราะพ่อขอให้แม่มาช่วยพูด แม่ขอให้สนเห็นแก่ลูก ขอให้สนทำตัวดีๆ กับนินาจะได้ไม่ต้องเลิกกัน ไม่ต้องเสี่ยงกับการสูญเสียหลานไป มองไปเห็นลูกชายตาดำๆ แล้วสนก็อดสงสารลูกไม่ได้ที่ต้องมาอยู่ในสภาพครอบครัวมีปัญหา ใครๆ ก็อยากให้สนรักลูกรักเมีย ไม่เว้นแม้กระทั่งต้น ก็ดีเหมือนกัน ถ้าอยากให้สนทำสนก็จะทำให้ดู ทำเพื่อพ่อแม่ ทำเพื่อลูก ทำเพื่อต้น ที่ผ่านมาสนคงจะมีความทุกข์น้อยไปกระมัง ใครๆ จึงคาดหวังให้สนทำสารพัดอย่างโดยไม่เคยถามความสมัครใจของสนเลย สติสัมปชัญญะที่มีอยู่จึงขาดผึงอย่างช่วยไม่ได้จากสารพัดปัญหาที่รุมเร้า จนนำมาสู่การประชดชีวิตที่สิ้นคิดเช่นนี้
แต่สุดท้าย สนก็ค่อยๆ ปล่อยมือจากนินาเมื่อรู้ตัวว่ากำลังขาดสติ นินาดูงงๆ อยู่ไม่น้อยกับอาการแปลกๆ ของสนแต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไร ดูเหมือนเธอจะสนใจละครที่กำลังสนุกอยู่เสียมากกว่า
สนถอนหายใจเบาๆ ขนาดพยายามมองหาข้อดีของนินาแล้วเขาก็ยังรู้สึกขยะแขยงผู้หญิงคนนี้เกินกว่าจะรับได้ ยิ่งคิดถึงตอนที่เธอเรียกต้นด้วยคำดูถูกเหยียดหยาม สนก็ยิ่งรังเกียจเป็นร้อยเท่าพันทวี
แต่เดี๋ยวก่อน คนดีพระย่อมคุ้มครองเสมอ เภทภัยร้ายที่สุมรุมอยู่ตอนนี้กำลังอ่อนแรงและเตรียมตัวจะเปิดทางให้สนแล้ว ถึงคราวที่คนคิดชั่วจะต้องได้รับผลกรรมเสียบ้าง
ก่อนที่สนจะลุกออกไปจากห้องนี้ ฉากในละครประโลมโลกนั้นก็ดึงดูดให้สนนั่งดูด้วยความสนใจ สนไม่ชอบดูละครทีวีตามประสาผู้ชาย แต่คราวนี้เหตุการณ์ในละครเรื่องนั้นที่กำลังออกอากาศอยู่กำลังจะช่วยให้สนรู้ความลับอะไรบางอย่าง สนจ้องดูอย่างไม่วางตา
ตัวละครผู้หญิงที่น่าจะเป็นตัวอิจฉากำลังเทยาอะไรบางอย่างลงในเครื่องดื่ม เธอคนๆ จนแน่ใจว่ามันละลายดีแล้วก็ยกแก้วเครื่องดื่มแก้วนั้นไปให้ผู้ชายอีกคนที่นั่งรออยู่ในห้องรับแขกที่บ้านของเธอ ดูจากรูปร่างหน้าตาแล้วก็คงจะเป็นพระเอก เขารับแก้วเครื่องดื่มนั้นมาดื่มจนหมดแก้ว นั่งคุยกันกับผู้หญิงคนนั้นอยู่สักพัก ก่อนที่ตัวอิจฉาจะเดินเข้าไปกอดพระเอก จากนั้นพระเอกก็ดูเหมือนจะควบคุมอารมณ์ความต้องการของตัวเองไม่ได้ จนนำไปสู่ฉากรักที่ดูเร่าร้อนแล้วก็ตัดฉากไป
ช่างเป็นโชคดีของสนแท้ๆ ที่บังเอิญได้ดูฉากสำคัญนี้
มือไม้ของสนสั่นเทา เขานึกถึงเหตุการณ์นั้นที่สนไปบ้านนินา แล้วเธอก็เอาน้ำผลไม้มาให้เขาดื่ม ไม่นานนักสนรู้สึกถึงความต้องการทางเพศที่มากจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการมีอะไรกับเธอจนแม่ของนินามาเห็นในตอนเช้า นินาทำอย่างนั้นกับสนเหมือนในละครหรือเปล่า สนสงสัยมาตลอดว่าทำไมเขาถึงไปมีอะไรกับเธอได้ทั้งๆ ที่ไม่ได้รักเลย เขารอดพ้นจากผู้หญิงคนอื่นมาได้แต่กลับต้องมาเสียทีให้กับผู้หญิงคนนี้ แค่คิดมันก็น่าแปลกแล้ว ทำไมสนไม่เคยเอะใจเรื่องนี้มาก่อนเลย
แล้วครั้งนั้นที่บ้านของสนล่ะ สนไม่ยอมนอนห้องเดียวกับนินาจนต้องยอมยกห้องของตัวเองให้นินานอน สนมานอนอีกห้องหนึ่งที่ไม่ค่อยได้ใช้มากนัก ตอนนั้นสนกำลังนั่งสร้างแฟนเพจร้านอาหารที่กำลังจะเปิดอยู่ นินาเดินเข้ามาพร้อมกับนมอุ่นๆ แล้วก็บอกว่าแม่ให้เธอเอานมอุ่นๆ มาให้สน สนเห็นว่าแม่ให้เอามาให้ก็เลยดื่มโดยไม่ได้คิดอะไร แล้วเหตุการณ์คล้ายๆ กันนั้นก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ใช่แล้วล่ะ มันต้องเป็นเพราะเรื่องนี้แน่ๆ ที่ทำให้สนต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไป อนิจจา...นี่ก็หมายความว่าลูกของสนนอกจากจะไม่ได้เกิดเพราะพ่อกับแม่รักกันแล้ว ยังเกิดมาเพราะยาบ้าๆ นี่ด้วยหรือเปล่า
สนหันไปมองนินาที่ตอนนี้ส่ออาการมีพิรุธ เธอคงกลัวว่าสนจะสงสัยเธอนั่นเอง แต่ก็ช้าไปแล้วล่ะ สนเก็บความสงสัยไว้ไม่ไหวแล้ว
"เธอทำอย่างนั้นกับพี่หรือเปล่านินา"
"พี่สนพูดเรื่องอะไรคะ" นินาพยายามหลบตาสน
"เธอทำอย่างนั้นกับพี่ใช่ไหมนินา" สนถามเสียงดังจนนินาสะดุ้ง
ท่าที่อึกอักนั้นยิ่งส่อพิรุธมากขึ้น สนแน่ใจแล้วล่ะว่านินาต้องทำอย่างนั้นอย่างแน่นอน ทำไมสนไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนเลย สนสงสัยตัวเองมาตลอด นึกยังไงก็นึกไม่ออกว่ามีเหตุผลอะไรที่เขาต้องไปมีอะไรกับผู้หญิงคนนี้ที่เขาไม่ได้รัก ไม่คิดแม้แต่จะแตะเนื้อต้องตัวด้วยซ้ำ
"ค่ะ นินาทำอย่างนั้นค่ะ" นินายอมรับตามตรง เธอก็ไม่อยากโกหกอีกต่อไป ที่สนทำเย็นชากับเธอมาตลอดสองปีกว่าก็แทบจะทำให้เธอเป็นบ้าอยู่แล้ว เธอคงไม่สามารถที่จะอยู่กับคนใจร้ายอย่างสนได้อีกต่อไป
"เลวมาก" สนสบถออกมาเสียงดังด้วยอาการมือไม้สั่น
นินามองสนอย่างตกใจ ไม่คิดว่าสนจะกล้าด่าเธอถึงขนาดนี้
"เธอรู้ไหมว่าที่เธอทำอย่างนั้น มันทำให้ฉันต้องสูญเสียอะไรไปบ้าง ฉันไม่ควรจะโง่หลงกลผู้หญิงอย่างเธอเลย" ริมฝีฝากสนสั่นระริก น้ำตาค่อยๆ ไหลลงมาอย่างสะเทือนใจเมื่อรู้ว่าทุกอย่างสายไปหมดแล้ว เพราะความโง่ของเขาเองที่ทำให้สนต้องเสียคนที่รักที่สุดในชีวิตไป
"พี่สน นินาขอโทษ" นินาจับมือสนไว้แต่สนรีบสะบัดออกทันที
"อย่ามาแตะต้องตัวฉันอีก ฉันเคยสงสัยว่าฉันทำกับเธอเกินไปหรือเปล่า ตอนนี้...ฉันรู้แล้วว่าไอ้ที่ฉันทำไปทั้งหมด มันยังสู้ความเลวครั้งเดียวของเธอไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ฉันเกลียดเธอได้ยินไหมนินา ฉันเกลียดเธอ เธอไปให้พ้นๆ หน้าฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ ไปให้พ้นๆ จากชีวิตฉันเดี๋ยวนี้เลยนะนินา ฉันไม่สามารถจะเห็นหน้าเธอได้อีกต่อไปแล้ว" สนตะโกนเสียงดังราวกับคนบ้าคลั่ง ดีที่ว่ายังพอควบคุมสติไม่ให้ลงไม้ลงมือกับนินาได้
พ่อกับแม่ของสนรีบพาหลานไปนอนอีกห้องหนึ่งทันทีเมื่อได้ยินเสียงสนกับนินาทะเลาะกันดังลั่น
"เออ ไม่ต้องมาไล่ฉันหรอก นึกว่าฉันอยากอยู่นักหรือไง ไอ้ผู้ชายเฮงซวย ไอ้คนใจร้าย ถ้าไม่ใช่เพราะลูกฉันเลิกกับแกไปนานแล้ว" นินาตวาดเสียงดังกลับพร้อมกับร้องไห้
"งั้นเธอก็ไปซะเดี๋ยวนี้เลย ไปเลย ผู้หญิงชั่ว" สนตะโกนลั่น อีกนิดเดียวสนคงได้ใช้คำว่า "อี" และ "มึง-กู" แล้ว
"ฉันไปแน่นอน แต่ยังไม่ใช่วันนี้ ขอให้ฉันจัดการเรื่องของฉันให้เสร็จก่อนเถอะ ฉันก็ไม่อยากอยู่นักหรอก ไอ้คนไม่มีหัวใจ ไอ้คนเย็นชา" นินาทรุดลงกับพื้นแล้วก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นราวกับคนบ้า
สนนึกถึงต้นขึ้นมาในทันทีทันใด รูปใบนั้นสนไม่ได้เอามาด้วยเพราะสนเอาไปไว้ที่ห้องของต้นแล้ว แต่สนยังมีสำรองอยู่อีกหนึ่งใบเก็บไว้ในลิ้นชักในห้องนี้ สนรีบเดินไปที่ลิ้นชักเก็บของที่ว่านั้น ลนลานควานหารูปของต้นมือไม้สั่น เปิดลิ้นชักเข้าออกอยู่หลายอัน
พอเจอรูปที่เก็บไว้แล้วสนก็ถือรูปนั้นเดินออกไปนอกระเบียงห้องนอน นั่งลงแล้วก็กอดรูปของต้นพร้อมกับร้องไห้ราวกับคนเสียสติ
"ต้น...เราขอโทษ เราขอโทษนะต้น เรามันโง่เอง เมือไหร่นายจะกลับมาเสียทีล่ะต้น เราคิดถึงนายใจจะขาดอยู่แล้ว ฮือๆ ต้น...นายอยู่ที่ไหน เราอยากไปหานาย ฮือๆ"
สนใช้มือลูบไปที่ใบหน้าของต้นในรูปภาพนั้น แล้วก็กอดรูปแนบไว้กับอก "เรารักนายนะต้น เรารักนายได้ยินไหมต้น เราไม่เคยลืมนายเลยรู้หรือเปล่า เรารอนายอยุ่ทุกวัน มองหาอยู่ทุกวัน คิดถึงอยู่ทุกลมหายใจ เมื่อไหร่นายจะกลับมาเสียทีล่ะต้น เราไม่มีใครแล้ว ไม่มีใครเลย ไม่มีใครเข้าใจเราเลยต้น นายกลับมาเสียทีได้ไหม ฮือๆ"
นินาลุกขึ้นยืน มองไปที่สนที่กำลังร้องไห้กับรูปของต้นพร้อมกับพร่ำเพ้อรำพันไม่ขาดปาก เธอเข้าใจมาตลอดว่าต้นคงแอบชอบสน ไม่คิดเลยว่าสนก็รักต้นมากถึงขนาดนี้ด้วย เมื่อปะติดปะต่อเรื่องทั้งหมดได้แล้วนินาก็พอจะเข้าใจแล้วล่ะว่าคนที่สนรักอยู่แล้วคือใคร นี่สนเป็นเกย์เหมือนต้นหรือนี่
"อ๊าาาาาาาาาาา ไม่จริง ไม่จริงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง" นินากรีดร้องเสียงดังลั่นบ้าน แต่ก็ไม่ได้ทำให้สนหันมาสนใจเลยแม้แต่น้อย ยังคงนั่งร้องไห้คร่ำครวญแล้วก็กอดรูปต้นไว้ราวกับคนบ้า
แม่ของสนเดินแกมวิ่งเข้ามาในห้องนอนของลูกชายด้วยอาการหน้าตาตื่น ปกติสนกับนินาก็ทะเลาะกันอยู่บ่อยๆ อยู่แล้ว แต่ไม่เคยเห็นทะเลาะกันรุนแรงขนาดนี้เลย
"เกิดอะไรขึ้น เป็นอะไรกันไปหมดแล้วเนี่ยหา! ทะเลาะกันเรื่องอะไร! ไม่อายชาวบ้านชาวช่องเขาบ้างหรือไง!"
ปกติแม่ของสนก็ไม่เคยพูดจาเช่นนี้ เธอคงจะทนไม่ไหวแล้วที่เห็นสภาพครอบครัวแบบนี้มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา นินาไม่ตอบ เอาแต่นั่งร้องไห้อยู่บนเตียงนอน โทรทัศน์ก็เปิดทิ้งไว้ แล้วสนล่ะ ลูกชายของเธอหายไปไหน
พอฟังดีๆ แล้วแม่ของสนก็ได้ยินเสียงอีกคนร้องไห้ดังมาจากข้างนอก พอเหลือบหันไปมองก็เห็นสนนั่งร้องไห้พร้อมกับกอดรูปอะไรบางอย่างไว้อยู่ เธอไม่รอช้ารีบเดินออกไปหาลูกชายทันที
"สน...เป็นไรน่ะลูก"
สนเงยหน้าขึ้นมามองผู้เป็นแม่ น้ำตาเต็มใบหน้า สนค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วก็เดินมากอดแม่ไว้พร้อมกับกรอบรูปถ่ายใบนั้น
"แม่...สนคิดถึงต้น ฮือๆ ต้นอยู่ไหนครับแม่ แม่พาสนไปหาต้นหน่อยได้ไหมครับ สนอยากเห็นหน้าต้น สนเป็นห่วงต้นครับแม่ สนอยากไปดูแลเค้า ฮือๆ"
สนกอดแม่แน่น ในมือยังคงถือกรอบรูปที่เขาถ่ายกับต้นที่บางแสนไว้ สิ่งที่สนเพิ่งรับรู้ทำให้เขาเสียใจจนแทบไม่มีสติควบคุมตัวเอง ใครมาเห็นสนตอนนี้เข้าคงไม่เชื่อว่าชายหนุ่มหน้าตาดี มาดเคร่งขรึม ขยันทำงาน จะร้องไห้สะอึกสะอื้นราวกับเป็นเด็กน้อย
"แม่ครับ...พาสนไปหาต้นทีนะครับแม่ ฮือๆ เมื่อไหร่ต้นจะกลับมาเสียที สนไม่ไหวแล้ว สนคิดถึงต้นจะตายอยู่แล้วครับแม่ ฮือๆ" สนยังคงคร่ำครวญราวกับคนไร้สติ ไม่รับรู้และไม่สนใจอีกแล้วว่าใครจะมองหรือคิดอย่างไร
แม่ของสนได้แต่กอดลูกชายที่บัดนี้ไม่ต่างจากเด็กงอแงคนหนึ่งไว้ พร้อมกับลูบหลังเป็นการปลอบใจ ต้นกับสนไม่เคยจากกันไปไหนนานขนาดนี้ สองปีกว่าที่ผ่านมาสนดูเหงาไปมาก วันๆ ก็เอาแต่ทำงานไม่ค่อยสุงสิงกับใคร แม้ไม่เคยแสดงออกแต่ในใจลึกๆ สนคงคิดถึงต้นมากทีเดียว จนในที่สุดวันนี้ก็ไม่สามารถทานทนความรู้สึกที่ทารุณนั้นได้อีกต่อไป บวกกับปัญหาหลายอย่างที่รุมเร้าตอนนี้ ถ้าสนไม่ระเบิดมันออกมาเสียก่อนเขาก็คงเสียสติไปแล้วเป็นแน่
"เดี๋ยวต้นก็กลับมาแล้วลูก รออีกนิดเดียวนะลูกนะ" แม่ของสนอดร้องไห้ตามลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนเดียวคนนี้ไม่ได้
ดูเหมือนคำปลอบใจของแม่จะไม่เป็นผลเท่าใดนัก สนยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้นตัวโยน คร่ำครวญคิดถึงต้นไม่ขาดปาก เธออดจะสงสัยไม่ได้ว่าทำไมสนถึงคิดถึงต้นมากขนาดนี้ จะว่าเป็นเพราะสนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็กก็ไม่น่าจะทำให้สนถึงกับคร่ำครวญราวกับคนไร้สติได้ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก็มากแล้ว เธอยังไม่เคยเห็นเพื่อนคนไหนคร่ำครวญคิดถึงกันแบบนี้เลย
"ไปนอนห้องแม่นะลูก ไปลูกไป"
สนเดินตามแม่ไปอย่างว่าง่าย ท่าทางของสนเหมือนเด็กน้อยที่ต้องการการคุ้มภัยจากแม่ ก็คงจะเหลือแต่แม่เพียงคนเดียวเท่านั้นที่สนมีอยู่ตอนนี้
สนนอนลงบนเตียงนอนของแม่พรัอมกับมีแม่คอยนั่งอยู่ข้างๆ ลูบผมปลอบใจลูกชายที่ร้องไห้ราวกับเด็กน้อย ในมือยังถือรูปที่ถ่ายกับต้นที่บางแสนไว้ตลอดเวลา
"แม่...แม่จำรูปนี้ได้หรือเปล่า ตอนที่สนกับต้นไปเที่ยวบางแสนด้วยกันครั้งแรก สนมีความสุขมากเลยครับแม่ สนอยากพาแม่ พ่อ พ่อแอ๊ด แม่เยาแล้วก็ต้นไปเที่ยวที่บางแสนด้วยกันอีกครั้ง แม่ว่าดีไหม" สนพูดเสียงขาดเป็นห้วงๆ เพราะยังไม่หยุดสะอื้นให้
"แม่จำได้ลูก ให้ต้นกลับมาแล้วเราไปเที่ยวบางแสนกันอีกนะลูก"
สนหันมายิ้มทั้งน้ำตากับแม่ แล้วก็หันกลับไปตามเดิม "แม่...อีกไม่กี่เดือนต้นก็จะกลับมาแล้ว แม่อย่าลืมทำแกงผักกาดจอให้ต้นกินด้วยนะแม่ ต้นเขาชอบกินฝีมือแม่ ขนาดสนทำแล้วต้นยังบอกว่าอร่อยสู้ของแม่ไม่ได้เลย แม่อย่าลืมนะครับแม่"
"จ้ะลูก แม่ไม่ลืมหรอก เดี๋ยวแม่จะทำสุดฝีมือเลยลูก" แม่ของสนพลอยร้องไห้กับลูกชายไปด้วย สนคงคิดถึงต้นมากจนเพ้อเหมือนคนไม่ได้สติ เธอชักสงสัยแล้วสิว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างต้นกับสนที่เธอไม่เคยรู้มาก่อน
"แม่...แม่จำได้ไหม ตอนที่สนไม่สบายอยู่ที่บ้าน สนไม่ยอมให้ใครเช็ดตัวให้จนแม่ต้องไปตามต้นมาช่วยเช็ดตัวให้สน ต้นมานอนเป็นเพื่อนสนแล้วก็ไม่สบายตามไปด้วย แม่ด่าสนใหญ่เลยว่าทำให้เพื่อนไม่สบาย ต้นเขาใจดีนะแม่ เขาไม่เคยบ่นเลย ขนาดติดหวัดจากสนก็ยังไม่บ่นสักคำ"
"แม่จำได้จ้ะลูก แม่จำได้ สนเป็นอะไรน่ะลูก บอกแม่ได้หรือเปล่าลูก แม่จะทนไม่ไหวอยู่แล้วนะลูก"
สนยังคงไม่ตอบแม่ สายตาเหม่อลอย จากนั้นก็กอดรูปถ่ายนั้นไว้แนบอก
"แม่...สนคิดถึงต้น แม่คิดถึงต้นเหมือนสนหรือเปล่า สนคิดถึงต้นมาก เมื่อไหร่ต้นจะกลับมาซะทีล่ะแม่ แม่รู้หรือเปล่าว่าต้นจะกลับมาวันไหน ทำไมต้นหายไปนานอย่างนี้ล่ะแม่ สนอยากไปหาต้น ฮือๆ"
สนก็เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งที่เจ็บเป็น เสียใจเป็น แม้จะทำเป็นเข้มแข็ง เงียบขรึม แต่ภายในจิตใจของสนแล้วเขาก็ยังคงเป็นสนที่อ่อนโยนเหมือนเดิม
"แม่ก็คิดถึงต้นจ้ะลุก เดี๋ยวต้นก็มาแล้วนะ สนอย่าร้องไห้นะลูก อีกไม่นานต้นก็มาแล้ว"
แม่ของสนดึงศีรษะของลูกชายมากอดไว้ ร้องไห้กันจนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด เธอเริ่มจะพอเข้าใจแล้วล่ะ สนคงไม่ได้คิดถึงต้นอย่างเพื่อนธรรมดาเสียแล้ว ไม่มีเพื่อนคนไหนในโลกที่คิดถึงกันมากขนาดนี้
"แม่...แต่งงานแล้วไม่เห็นจะมีความสุขเลย ไม่เหมือนตอนที่สนกับต้นยังเป็นเด็ก เรามีกันอยู่สองครอบครัว ไปไหนไปกัน สนกับต้น...เราสองคนมีความสุขกันมาก เป็นลูกชายที่น่ารักของพ่อกับแม่ทั้งสองบ้าน เราไม่เคยไปไหนไกลจากกันเลย สนอยากให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมน่ะแม่ สนไม่อยากแต่งงานแล้ว สนไม่ไหวแล้วแม่ ฮือๆ"
"โธ่ลูก...แม่ขอโทษด้วยนะลูก แม่ไม่รู้มาก่อน ทำไมสนไม่บอกแม่ล่ะลูก ทำไมสนไม่บอกแม่"
แม่ของสนกอดลูกชายแน่นขึ้น สงสารลูกจับจิตจับใจเมื่อพอจะปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดได้แล้ว เธอไม่เคยเอะใจเลยว่าตัวเธอเองก็ทำร้ายลูกจนเสียใจแทบเป็นบ้า
"แม่...สนรักต้นนะครับแม่ แม่อย่าโกรธสนนะแม่ที่สนรักต้น ต้นเขาเป็นคนดี สนรักเขามาก รอเขาอยู่ทุกวัน แม่อย่าว่าสนนะแม่ แม่ช่วยสนหน่อยนะแม่ สนไม่รู้จะไปหาใครแล้ว"
"ลูกแม่...แม่ไม่โกรธสนหรอกลูก แม่จะโกรธลูกของแม่ได้ยังไง แม่รักสนนะลูก แม่เข้าใจสนแล้ว ต่อไป...แม่จะไม่บังคับสนอย่างนี้อีกแล้วนะลูก แม่ขอโทษ แม่ขอโทษจริงๆ ลูก แม่ไม่รู้จริงๆ"
สองแม่ลูกกอดกันร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่นาน สนยังคงคุยกับแม่เรื่องของสนกับต้นสมัยเด็กๆ คุยไป ดูรูปไป แล้วก็กอดรูปไว้ สลับกันไปอยู่อย่างนี้ จนในที่สุดสนก็เหนื่อยอ่อนและเผลอหลับไปบนตักของแม่ในที่สุด
"หลับเถอะนะลูก ต่อไปนี้ แม่จะคอยปกป้องสนเอง แม่จะไม่ให้ใครมาทำร้ายลูกของแม่อย่างนี้อีกแล้วนะลูก แม่สัญญา"
TBC