ตอนจบ : รับเเล้วห้ามคืน
“ไอ้สมอ ช่วงนี้มึงหลบหน้าไอ้ท่านทำไมวะ” สักถามเพื่อนตัวเล็กสุดในกลุ่มที่หลังกลับมาจากอัมพวาคอยหลบหน้าหลบตาไททันโดยพยายามปลีกหนีไปก่อนที่คู่กรณีมาหา
“เออ นั่นดิ” สินพยักหน้าเห็นด้วยอย่างสงสัยพฤติกรรมที่แปลกไปของเพื่อน
“เปล่า”
“ไม่ต้องมาปฏิเสธ ช่วงนี้มึงรีบกลับห้องทันที่เลิกเรียนไม่ไปปาร์ตี้ต่อกับพวกกูเลย แถมไม่กินข้าวกลางวันแต่เสือกไปแอบหลับในห้องสมุดแทน” พฤติกรรมช่างสังเกตนี่มันถ่ายทอดทางพันธุกรรมหรือยังไง
“ช่างสังเกตเหลือเกินมึง เชี่ยสืบ”
“ไอ้สืบไม่ต้องสังเกตพวกกูก็รู้สึก” เส็งแย้งทันที
“ไม่มีไร พวกมึงเลิกสงสัยสักที ข้าวจะไปกินไหมมัวแต่นั่งถามเดี๋ยวเวลาแม่งหมดพอดี”
“เออ แดกข้าวกัน” สินตอบก่อนจะหันไปยักคิ้วให้สืบก่อนจะกระซิบไม่ให้สมอได้ยินว่า
“กูว่าเรื่องต้องมีเงี่ยนงำ”
‘ผัวะ’ “เงื่อนงำก็พอไอ้ห่า ทะลึ่งตึงตังนะมึงเนี่ย” สักยกมือขึ้นโบกเพื่อนตัวดี
ผมหลบหน้าไททันมาได้อาทิตย์กว่าแล้วอย่างที่โดนพวกสอมันกล่าวหาแต่ผมไม่ยอมรับหรอก ถ้าหากยอมรับนั่นเท่ากับว่าต้องยอมบอกเหตุผลว่าทำไมต้องพยายามไม่เจอหน้าไอ้ยักษ์ ใครมันจะไปกล้าบอกว่าโดนขโมยจูบแถมไอ้นั่นของมันแทงก้นตัวเองมา
พวกเพื่อนที่แสนจะหวังดี? เรียกให้ไปหามันที่ห้องชมรมถ่ายภาพ แล้วคิดหรอว่าผมจะไปถ้าหากมันไม่ขโมยกุญแจรถมอ’ไซค์ตอนผมเผลอเป็นตัวประกัน
“พวกมึงแม่งเล่นทีเผลอ เจอหน้ามึงโดนแน่” คนตัวเล็กยืนบ่นคาดโทษกับประตูทางเข้าชมรมที่ไม่ยอมเข้าสักที
“ถ้าพวกมึงแกล้งกูนะ…เฮ้ยยยย” ระหว่างที่เปิดประตูจู่ๆมีแรงผลักหลังผมให้เข้าไปข้างในห้องก่อนจะ
‘ปึง แกร็ก’ ประตูห้องถูกล็อค
“เชี้ยสักมึงจะขังกูทำไม เปิดเดี๋ยวนี้นะเว้ย”
‘ปึง ปึง ปึง’ เสียงทุบประตูรัวให้คนที่แกล้งขังให้เปิดประตู
“ศักดา เปิดประตู”
“ห่าเตี้ย นั่นพ่อกู” สักตะโกนบอกข้ามประตูห้องชมรม
“เออกูจะฟ้องพ่อมึง”
“รีบขี่ม้าก้านกล้วยไปฟ้องเลย” อีกฝั่งตะโกนเยาะเย้ย
“ฝากไว้ก่อนนะมึง”
‘จึก จึก’แรงจิ้มด้านหลังทำให้คนตัวเล็กต้องหันกลับไปมองว่ามีใครอีกคนที่อยู่ในห้องเช่นเดียวกับตัวเอง
“สมอคุยกันก่อน” ไททันยกกระดาษขึ้นให้อีกคนอ่านทั้งที่อีกฝ่ายหันหน้าหนีเหมือนไม่อยากคุย
“สมอ” เหมือนคนตัวโตไม่ยอมแพ้เช่นกันจึงเดินอ้อมไปทางด้านหน้าของอีกคนให้อ่านกระดาษที่เขียนใหม่
“นี่กูพี่มึงสองปีเลยนะ เรียกชื่อกันห้วนๆอย่างนี้ได้ไงวะ” สุดท้ายทนรำคาญสีหน้าที่เหมือนลูกหมาของอีกฝ่ายไม่ไหวจึงยอมพูดด้วย
“ไม่ได้อยากเป็นน้องแต่อยากเป็นแฟน” ผมจะเป็นลมเมื่ออ่านข้อความในกระดาษจบ
“กูไม่ใช่เกย์”
“เราก็ไม่ใช่” คนตัวโตก้มลงไปเขียนในกระดาษก่อนจะชูขึ้นมาใหม่
“ไอ้ห่า แล้วที่ผู้ชายจีบผู้ชายด้วยกันไม่ให้เรียกว่าเกย์แล้วจะเรียกว่าอะไร”
“ผู้ชายที่ผมชอบก็มีแต่ตัวเล็ก”“อยากอยู่ใกล้ อยากดูแล อยากใช้เวลาด้วยกัน ไปกินข้าว ไปเที่ยวด้วยกัน อยากเป็นคนรักของตัวเล็ก” สกิลความเร็วในการเขียนมึงเทพมากเอาซะกูอึ้งเลย
“พออออ ไปจีบคนอื่นนู่น” มึงจะรุกหนักเกินไปแล้ว กูตั้งตัวไม่ทัน
“ไม่ เพราะหลังจากนี้” ไททันส่ายหน้าปฏิเสธก่อนจะเปิดกระดาษอีกหน้าที่คิดไว้ก่อนหน้าให้คนตัวเล็กอ่าน
“ไทจะจีบตัวเล็กอย่างเป็นทางการแล้วนะครับ”.
.
.
.
.
.
“ไม่รู้โว้ยยยย”“ช่วงนี้ชีวิตดี๊ดีเนอะมึง” สินหันหน้ามาแซวผมเมื่อเห็นว่าสมาชิกใหม่กำลังเดินถือจานข้าวมาสองจาน
“ห่าไร”
“ไม่ต้องด่ากลบเกลื่อนเลย หลังปรับความเข้าใจนี่หวานออกสื่อมากนะครับเพื่อน” เส็งมึงก้มหน้ากินข้าวต่อไปกูจะไม่ว่าเลยนะ
“หวานอะไรของพวกมึง” ผมบอกปัดแล้วก้มหน้าเล่นเกมส์ในมือถือต่อ
“มากินข้าวด้วยทุกวันแถมเดินไปซื้อมาให้ถึงที่ ส่วนขนมมีมาให้กินตลอด” สักมึงกินข้าวไปไม่ต้องมารุมถามกู
“ไม่รู้”
“หัดตอแหลนะมึง”
“สัส” เป็นอันจบบทสนทนาเพราะเจ้าตัวหัวข้อสนทนาเดินมาถึงโต๊ะพอดี พวกสอจึงได้ฤกษ์กินกันข้าว
“แล้วคืนนี้จะไปตื้ดกับพวกพี่ไหมครับ” สักเงยหน้ามาถามผมหลังจากฟาดข้าวในจานจนเกลี้ยง
“เออดิ งั้นกูกลับก่อนนะ” ตอบเสร็จกำลังจะลุกไปเก็บจานแต่โดนคนข้างตัวคว้าจานเดินไปเก็บให้แทน
“แล้วกลับไงวะ” นั่นไง
“มึงไม่เอาลูกรักขี่มามอ ไม่ใช่หรอ” ไม่ต้องมาแอ็บทำหน้าสงสัยใส่กูเลย เชี้ยสัก
“กูได้ข่าวว่าช่วงนี้มีสารถีขับรถบีเอ็มมารับมาส่งนี่หว่า” สามัคคีเหลือเกินนะพวกมึงเวลาทำงานให้มันได้อย่างนี้บ้างสิ
“ทะเบียนรถคุ้น ๆ เหมือนของลูกเจ้าของมหาลัย” ข้อมูลมึงแน่นมากไอ้สืบ
“เออ กูกลับกับมัน พวกมึงพอใจยัง”
“แค่นั้น ยืนอมพะนำอยู่ได้”
“งั้นกูไปละ” ยกนิ้วกลางเสร็จจึงเดินออกจากโรงอาหารคณะเมื่อเห็นว่าอีกคนยืนรอตรงทางออก
“คืนนี้มารับ” ทันที่รถหรูจอดหน้าหอพักของคนเบาะข้างคนขับ สารถีหยิบมือถือกดข้อความให้อีกฝ่ายอ่าน
“ไม่ต้องเดี๋ยวไปเอง”
“สองทุ่มเจอกัน” พิมพ์เองเออเอง ไม่ได้ถามแค่แจ้งให้กูทราบแค่นั้นใช่มะ
“เออ” ผมเดินลงจากรถแล้วตรงดิ่งขึ้นห้องทันที ไม่มีหรอกที่จะยืนส่งมันขับรถกลับหรือพูดบอกให้ขับกลับดี ๆ
อย่างที่ทุกคนอ่านหลังจากถูกขังวันนั้นไอ้ยักษ์ก็โผล่หน้ามารับ-ส่งผมที่หอทุกวัน กลางวันมานั่งกินข้าวด้วยแถมขนมที่ซื้อมาให้โดยที่ผมไม่ได้ขอ ชีวิตดี๊ดีเหมือนเพื่อนผมมันแซวละครับ รถไม่ต้องขี่ ข้าวไม่ต้องซื้อมีคนถือจานมาให้ถึงโต๊ะ
ตอนแรกก็มีไล่แต่ไอ้ยักษ์มันตีหน้ามึนไม่ฟังจนผมเลิกไล่ไปเอง เพราะสุดท้ายผมก็ได้ประโยชน์อยู่ดี ส่วนพฤติกรรมแอบถ่ายของเจ้าตัวยังทำอยู่แต่มักอาศัยช่วงที่ผมเผลอแต่ก็เลิกบ่นเพราะผมชิน ถ้าถามว่ารูปคู่มีไหม ตอบว่ามีคงได้เพราะรูปคู่ของเรามักเป็นหน้าผมตอนเหวอกับเสี้ยวหน้าของมัน ไม่มีหรอกครับที่แอคท่าถ่ายด้วยกัน จะว่าไปมารู้ตัวอีกทีผมก็ชินกับการที่มีมันอยู่ด้วยกันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ อย่าแอบไปบอกมันล่ะ
“แหมมาสังสรรค์กับเพื่อนแค่นี้ต้องมีคนมาคุมด้วย” เสียงทักทายดังมาจากโต๊ะด้านในสุดของร้านประจำกลุ่มพวกผม
“แดกเหล้าไปมึง”
“แซวนิดแซวหน่อยไม่ได้เลยนะครับ” เส็งที่นั่งข้างสืบหยิบแก้วเหล้าส่งมาให้ผมกับไททันเมื่อนั่งลงที่โต๊ะเรียบร้อย
‘จึก จึก’ คนตัวใหญ่ที่นั่งข้างตัวสะกิดให้หันมามองว่าตัวเองจะออกไปโทรศัพท์ของแม่มัน ผมเลยพยักหน้าให้มันรีบไปรับสาย
“สมอ มึงกับไอ้ท่านเป็นแฟนกันยัง” พวกมึงจะมาสงสัยอะไรตอนนี้วะ
“เปล๊า”
“เสียงสูงนะมึง มีพิรุธ” ไม่เอา ไม่เล่นเกมจับผิดกันเวลานี้นะเพื่อน
“เริ่มใจอ่อนบ้างยังวะ”
“ไม่เลย” สืบจ้องหน้าเพื่อนตัวเล็กที่พยายามหลบสายตาเวลาตอบคำถาม
“สักนิด”
“ไม่มี๊”
“หัดโกหกนะมึง ไอ้เตี้ย” สักทนไม่ไหวที่เพื่อนตัวเองปากไม่ตรงกับใจ
“ถึงกูเตี้ยแต่ก็ทำให้เพลียได้นะเว้ย” ตอบอย่างนั้นออกไปได้ยังไง มั่นหน้ามั่นโหนกเหลือเกินกู
“วู้วววว บอกผัวมึงนู้น” บรรดาสอส่งเสียงชอบใจไปทางคนที่พึ่งเดินออกไปรับโทรศัพท์กลับมา
“เอ้า ว่ายังไงดีครับไอ้ท่าน” เจ้าตัวกระตุกยิ้มส่งสายตาวาววับมาให้สมอแล้วขยับปากว่า
“จะรอดู” ประโยคไร้เสียงเรียกเสียงแซวจากบรรดาสอ พ่อทุกสถาบันได้ดี
สมอยืนรอสารถีมารับหน้าตึกคณะเหมือนเคยแต่อีกฝ่ายยังไม่มาสักทีไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงยังไม่มา ขณะที่รอเขาเห็นรุ่นน้องผู้ชายมีท่าทีลุกลี้ลุกลนเดินตรงเข้ามาหาแล้วล้วงมือถือส่งมาให้
“ผมขอเบอร์มือถือพี่หน่อยได้ไหมครับ”
“เอ่อออ เห้ย” ยังไม่ทันที่เจ้าตัวจะตอบ แขนข้างซ้ายถูกสารถีฉุดให้เดินก้าวออกมาตามคนตัวสูงที่ก้าวยาวไม่รอคนตามหลังแต่คนถูกลากไม่ยอมเดินตามพยายามสะบัดมือออก
“กูเจ็บนะเว้ย” อีกฝ่ายเหมือนได้สติรีบคลายมือก่อนจะหันกลับมาดูข้อมือเล็กแต่โดนผลักออก
“เป็นบ้าอะไรวะ” ท่านพ่นลมออกแรงๆก่อนจะล้วงมือถือจากกางเกงขึ้นมากด
“ผมหึง”“หึงไรของมึง”
“มีผู้ชายเข้ามาขอเบอร์คนที่ตัวเองชอบจะให้ยืนเฉยได้ไง”“เราเป็นไรกัน กูจะให้หรือไม่ให้เบอร์มันสิทธิ์ของกูปะวะ แล้วมึงคิดว่าคนอย่างกูจะให้มันหรือไง” ผมจ้องหน้ามัน
“ผมมันบ้าเอง ที่ไปหึงคุณทั้งที่ไม่สิทธิ์อะไรเลยสักอย่าง” “ขอโทษที่ขัดจังหวะและขอโทษที่ทำให้เจ็บ” ให้ดูข้อความเสร็จก็เดินหนีขึ้นรถแล้วขับออกไป
“อยากจะมาก็มา อยากจะไปก็ไป เห็นกูเป็นไรวะ” คนถูกทิ้งตะโกนตามหลังรถที่พึ่งขับออกไปก่อนจะนั่งยองลงกับพื้น
“มาทำให้กูรู้สึกดีแล้วจะมาทิ้งกันอย่างนี้ไม่ได้นะเว้ย มึงรีบกลับมารับผิดชอบกูเดี๋ยวนี้เลย ไอ้ห่ายักษ์”
“โหมดหงอยหรอมึง”
“ไม่มีไร”
“ไม่มีห่าไร เล่ามาเลยถ้าเห็นว่าพวกกูยังเป็นเพื่อน” เห็นสีหน้าจริงจังของพวกมัน ผมจึงต้องเล่าให้ฟังว่าเกิดไรขึ้น
“ห่าเตี้ยมึงไปบอกน้องมันอย่างนั้น เป็นกู กูก็ถอดใจ” สินส่ายหน้าอย่างอ่อนอกอ่อนใจ
“พูดห่าไรไม่ถนอมใจคนอื่นเลย” กูรู้เว้ยเส็งว่าพูดแรงไป
“หม้ายละมึง โดนผัวทิ้ง”
“เชี้ยยย เค้าดราม่ากันอยู่ เล่นดูเวลาด้วย” ขอบคุณสินที่ด่าไอ้สักให้
“ถ้างั้นกูขอถามมึงตรง ๆ นะสมอ” สืบจ้องหน้าผม
“มึงคิดยังไงกับไททันมันวะ ตอบให้ปากให้มันตรงกับใจด้วย”
“กูไม่รู้ว่ะ”
“ถ้ามึงไม่รู้แล้วพวกกูจะตรัสรู้กับมึงด้วยไหมห๊า”
“เมื่อก่อนกูคิดว่าอยู่ตัวคนเดียวมันสบาย แถมมีพวกมึงด้วยเลยไม่เคยคิดเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มาก่อนจนไอ้ห่ายักษ์เข้ามาป้วนเปี้ยน
ในชีวิตจนกูชินที่จะมีมันอยู่ข้าง ๆ เข้ามาดูแลทั้งที่กูดูแลตัวเองได้ นั่งคอยมันมารับทั้งที่เมื่อก่อนกูก็กลับหอเอง ไม่ต้องไปยืนต่อแถวรอซื้อข้าวเหมือนคนอื่น รอข้อความมือถือจากมัน คอยด่าเวลามันแอบถ่ายแต่ไม่ได้รำคาญเหมือนเคย มันทำให้กูรู้สึกว่ากูไม่ได้พูดอยู่คนเดียวทั้งที่มันไม่ได้พูดสักคำ มาทำให้ใจกูเต้นแรงเวลาเข้าใกล้จนกลัวว่ามันจะได้ยินเสียงหัวใจ อย่างนี้มันแปลว่ากูชอบมันใช่ไหมวะ”
“เอออออ” ประสานเสียงเชียวนะ
“รู้ตอนนี้คงสายไปแล้ว”
“ทำไมจะไม่ทันวะ อย่าลืมว่าพวกเราคือ สอ พ่อทุกสถาบัน”
“งานนี้เพื่อนต้องได้ผัวอย่างแน่นอน”
“เออ กูต้องได้” ไททันมายืนรอตามนัดของประธานชมรมถ่ายภาพตรงทางเชื่อมที่เจอสมอครั้งแรก ไม่คิดว่าตัวเขาเองจะตกหลุมรักผู้ชายตัวเล็กที่ปากจัดแถมห่ามไม่ตรงสเปคเลยสักอย่าง มีเพียงกลิ่นกับบรรยากาศรอบตัวที่คล้ายแม่ของเขาถึงทำให้สนใจคนตัวเล็กของกลุ่มสอได้
‘จึก จึก’ แรงสะกิดจากข้างหลังทำให้ต้องหันกลับไปมอง ก็พบคนที่คิดถึงกำลังยืนก้มหน้าอยู่
คนตัวเล็กยกฝ่ามือซ้ายขึ้นมาที่ระดับหัวใจ ใช้ปลายมือข้างขวาวนในทิศตามเข็มนาฬิกา เหนือฝ่ามือซ้ายอยู่ 3 รอบ ซึ่งไททันรู้ความหมายดีว่าคนตรงหน้าต้องการที่จะบอกว่าขอโทษ
สมอชี้นิ้วไปหาไททันก่อนจะกำมือหันเข้าหาตัว หมุนแขนเป็นวงกลมตามทิศทวนเข็มนาฬิกา 3 รอบ สื่อให้รู้ว่าที่ทำให้ไททันต้องเสียใจแต่คนตัวใหญ่หันหลังจะเดินหนี
“อย่าพึ่งไป ขอเวลาไม่นาน” ผมเดินอ้อมไปข้างหน้ามันก่อนจะเอื้อมมือทั้งสองข้างถอดสร้อยที่ห้อยเกียร์ประจำรุ่นออกจากคอแล้วสวมให้คนตรงหน้าแทน
“ไม่รับคืนนะ” ผมยกมือขึ้นมากำแล้วเหยียดนิ้วชี้และนิ้วโป้งให้ตรง ก่อนหันมือเข้าหาลำตัว จากนั้นลากมือลงพร้อม ๆ กับขยับปลายนิ้วชี้และนิ้วโป้งให้สัมผัสกัน ไททันมองที่ผมทำอย่างไม่อยากเชื่อก่อนจะล้วงปากกาออกมาเขียนที่มือตัวเองว่า
“ไม่หลอกกันใช่ไหม”“เออ” คนตัวเล็กเขย่งเท้าแล้วเอื้อมมือทั้งสองข้างไปจับหน้าคนที่สูงกว่าไว้ให้มองที่ตัวเอง
“เป็นแฟนกันนะ” ท่านยิ้มกว้างก่อนจะกอดสมอไว้เต็มแรง
“คราวนี้มึงมีสิทธิ์เต็มที่แล้วนะ”
“ทุกอย่างเลยใช่ไหม”“เออ ทุกอย่าง” ไททันดึงสมอเข้ามาจูบพร้อมดอกพันธ์ุทิพย์โปรยปรายอย่างเป็นใจ
// ตัดภาพไปที่แก๊งค์สอที่ยืนหลบมุมอยู่ข้างตึกเรียน
“ไม่น่าเชื่อเพื่อนกูจะได้ผัว” เส็งยืนเกาะไหล่สืบที่ชะโงกหน้าดูฉากเลิฟซีนของเพื่อน
“ทำดีสมสโลแกนประจำกลุ่มที่ว่า”
“ด้านได้อายอด”
“งานนี้มันต้องฉลองใช่ไหมที่รัก” สินหันหน้าไปหาประธานชมรมถ่ายภาพที่เป็นเจ้าของแผนการง้อคุณชายท่าน
“ใช่ครับเมีย”
“อ้วกกก” จบ.