{ _____ นิราศโชซอน ______ } {จบ}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: { _____ นิราศโชซอน ______ } {จบ}  (อ่าน 444460 ครั้ง)

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
เขินมากๆๆๆ

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1915
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
หึงอย่างนี้รักตายเลย

ออฟไลน์ Isunn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 349
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
กระต่ายน้อยเอ้ย  เกือบเสร็จโจรไปแล้วมั้ยล่ะ  :hao5:

ออฟไลน์ jbook

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :hao7: มารอกระต่ายน้อย 5555+  :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ kaokorn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
อ๊ายยยยย คังยูน่ารักมากอ่ะ
กระต่ายน้อยน่าโดนจับตีก้นเป็นอย่างมว้ากกกกก
รอฉากต่อไปที่เขาดีกันแล้ว อิอิ  :o8:

ออฟไลน์ Jploiiz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-2
นังจูเกือบไปแล้ว  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ poohanddew

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
อร๊ายยยยยยยยยยยยยย
ตามอ่านครบแล้ว
อ่านไปยิ้มไป  ขำแรงมาก

ออฟไลน์ ToeyTato

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-1
แต่งยาวๆพรีสสสส เราชอบมากค่าสนุกมากๆเลนแปลกใหม่ดี ตลกน่ารัก โอ๊ยยยยชอบอ่ะ

ออฟไลน์ Chocobear

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ในที่สุดก็มา ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆครับ
 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:

ออฟไลน์ ycrazy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
กรี๊ดดดดดดๆๆ :impress2: ฟินอะ
กัดปากคืออะไร เขินนะะ
คังยูเท๊เท่ ถ้าชอบกระต่ายน้อยน่าจะแสดงออกชัดเจนนิดนึง
เราเดาว่ายองวอนซื่อบื้ออยู่นะ :katai3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ muio

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ร๊อ รอ เธอ  :กอด1:

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ขอเขินแทนน้องจูแปป คือแบบ ฟินค่ะ คังยูนี่หาที่ไหนได้อีกมั่งคะ
พ่อซองกยุนกวานคิ้วท์บอย พ่อพระเอก พ่อคนหล่อ พ่อคนโหดดดด
จังหวะดีจริงๆเลยนะมาช่วยน้องจูได้ทัน ปลื้มมมม มาอัพเร็วๆน้า รออยู่

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
นึกว่าตาฝาดไปที่เห็นอัพ 55555
มินจุนนี่ไม่ใช่คนเลวช้ะ?
มีพวกเป็นผู้คุมกฎก็โออยู่นะ หนีเที่ยวได้ 5555
แล้วสอบวันศุกร์พร้อมยัง ติวให้หนักเลย

ต่ออีกๆๆๆๆ

ออฟไลน์ mishiyosan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ทำเป็นเรื่องยาวเลยค่ะ เราเชียร์  o13
น่ารักมากกกกก  :-[

เป็นกำลังใจให้นะคะ

ออฟไลน์ bangkeaw

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 567
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-4
คังยูแสดงออกขนาดนี้ คนอื่นก็เห็น แต่น้องจูคนเดียวที่ไม่รู้

ออฟไลน์ love AJ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2

ออฟไลน์ April❤

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
เขิลลลล :mew3:

ออฟไลน์ ReiiHarem

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 887
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-3
ชอบให้น้องจูอ้อนคังยูเยอะๆ

ออฟไลน์ 9nawKIHAE

  • ♥BJYX~
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ว่าจะไม่เข้ามาอ่านเรื่องนี้
กะเอาไว้รอให้ลงเยอะๆ
ค่อยเข้ามาอ่านรัวๆ
แต่แล้วในที่สุดก็ห้ามใจไม่ได้
ฮืออออออออออออ สนุกมากค่ะ
ชอบคังยูวววววว น้องจู๋เฮี้ยยยเกรียนมาก
อยากอ่านเยอะๆเลย  :katai5:
รอตอนต่อไปนะคะ เป็นกำลังใจให้คนแต่งน้า  :กอด1: :L2:

ออฟไลน์ saotome

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
วาบหวามหัวใจ อิ้วๆๆๆ
อยากให้คนเขียนเขียนยาวๆ เลยชอบๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
คิดถึงเมื่อไรจะมาอีกน้า???

ออฟไลน์ tsubasa_6927

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
มาแปะไว้ก่อน กำลังตามอ่านค่ะ เห็นชื่อคนเขียนนี่รีบมาดูเลย ชอบจูเนียร์จัง นางดูเกรียนๆดี :m20:

ออฟไลน์ JUzpETeR

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
แงงงงงงงงงงง

เขินนนนนนนนนนนน ///_\\\

กระต่ายน้อยซนขนาดนี้ ลงโทษเลยมั้ยคะองค์ชาย

โบยก้นร้อยทีแล้วงดข้าวเย็นค่ะ!! (โบยก้นน้องจูด้วย.............)

มือตีเบาๆก็พอค่ะแหม คึคึคึคึ -..-

ออฟไลน์ pimkihae

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
คิดถึงกระต่ายน้อยยยยย
 :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ PRiiNZE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
กรี๊ดดดด เขินแรงเว้ยยยยเขินแรงงงงงงง
คังยูอ่าาา ><

ออฟไลน์ cocoagx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
กรี้ดคังยูน่ารักอะะ ขนาดงอนเค้าหึงเค้ายังเป็นห่วง
เจ้าเห็นแล้วยังละว่าการห่วงมากเกินไปไม่ใช่ไม่ดี /me ตายค่ะะ

ออฟไลน์ narunarutoboyz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 595
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
งื้อออออออออออ หลายวันเเล้ว คิดถึงยองจู จูเหี่ยของเรามากๆเลยอ่ะ   :man1: o9 :เฮ้อ:

น้องเค้กกกกกกกก  :sad4:

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ finn~luv

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
ร้องห้ายยยยย น่ารักมากกกกก  :impress2: :impress2:
ซองคยุนกวานคิ้วท์บอยเอาใจไปเลยยยย
ดีจังที่ห่วงจนตามมาใช่มั้ย งื้อออ ตอนมาช่วยน้องจูนี่เท่โคด!!

แต่พอเรียกน้องจูของเราเท่านั้นล่ะ กระต่ายน้อย....

โฮฮฮฮฮ ​เขินแรงงงงง องค์ชายจีบเลยๆๆ กัดอีกๆๆๆ ฮี่ๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12
นิราศโชซอน ตอนที่ 12













   ช่างน่าอับอายขายขี้หน้า...   
   นอกจากจะโดนพวกไอ้บ้ากามมารุมทำบ้าอะไรไม่รู้ ผมยังเผลอไปซบอกของไอ้คังยูด้วย หลังจากที่ผมรู้ตัวผมก็รีบผละตัวเองออกไปอย่างรวดเร็วและก็เดินก้มหน้างุดกลับเข้าโรงเรียนไปเลย โดยไม่สนใจคนที่ส่ายหน้าให้ผมเบาๆ อยู่เบื้องหลัง

   ผมจบเขาชนไก่มาได้ยังไงวะ สี่รุมหนึ่งทำไมผมเอาตัวรอดไม่ได้ ทำไมวะ เว เว(แปลว่าทำไมเช่นกัน...)

   ระหว่างทางที่เดินกลับโรงเรียน คังยูเอาแต่เดินอยู่ข้างหลังผม ในขณะที่ผมรีบสาวเท้าให้ไวที่สุดเท่าที่ขาสั้นๆ จะอำนวย ไม่รู้ว่าตอนนี้ในหัวคังยูมันคิดอะไรอยู่ มันอาจจะคิดว่าผมอ่อนแอ หรือไม่ก็ใจเสาะอย่างกับปลาซิวที่โผเข้าซบคนอย่างมัน ใช่แล้ว มันต้องคิดแบบนั้นแน่ๆ มันต้องคิดกับผมแบบนั้นแน่ๆ

   “โอ๊ย!” ผมเดินชนชาวบ้านคนหนึ่งที่เดินสวนมา เป็นคุณลุงแก่ๆ ท่านหนึ่ง ผมรีบก้มหน้าก้มตาขอโทษขอโพย
   “เดินดูทางบ้างสิเจ้าหนุ่ม ไม่ใช่เก่งแต่ท่องตำรา เจ้าเด็กนักเรียนพวกนี้นี่...” แล้วลุงแกก็บ่นอีกไปตลอดทางเหมือนคนที่มีความเครียดในชีวิตมาก่อนอยู่แล้ว

   ตอนที่ชน มือใหญ่ๆ ของคังยูจับตัวผมเอาไว้ และตอนนี้ก็ยังจับอยู่

   “ซุ่มซ่ามจริง” มันบ่น ใครจะเลิศเลอเพอร์เฟ็คเหมือนมึงล่ะฟะ “หรือโดนแค่นั้นทำให้เจ้าช็อคจนประสาทของเจ้าใช้การไม่ได้เสียแล้ว”
   “โดนแค่นั้น? เหตุไฉนทำไมเจ้าพูดอย่างนั้น” ผมเริ่มไม่พอใจ คนมันจะโดนจับแก้ผ้าสี่รุมหนึ่งไม่เรียกว่าแค่นั้นหรอกนะผมว่า
   “ขออภัย” คังยูเอ่ยเบาๆ “ข้าคงชอบแกล้งเจ้าจนติดเป็นนิสัย”

   คนอย่างมันขอโทษเป็นด้วยแฮะ เอาเถอะ...ผมไม่ใช่พวกคิดเล็กคิดน้อยเสียหน่อย...

   “คุณชายซองโจ”

   เสียงหวานๆ ดังอยู่ไม่ไกลจากพวกเรา ทันทีที่ผมเห็นไป ความสวยงามแบบฉบับคนโบราณราวกับภาพวาดก็ปรากฎขึ้นสู่สายตา แม่นางยุนนารานั่นเอง นางมาพร้อมกับบริวารเช่นเคย มีแม่เลี้ยงนางหนึ่งคน และก็องครักษ์ส่วนตัว
   นางเหลือบมองสภาพของผมที่เปื้อนเปรอะไปทั้งตัว รวมถึงสภาพของคังยูด้วย ปกตินักเรียนซองกยุนกวานไม่ใช่พวกที่เล่นเลอะเทอะเหมือนเด็กประถาม นางคงจะแปลกใจมากเลยล่ะครับ

   “เหตุไฉนพวกท่านถึงได้มีสภาพเช่นนั้น?”

   คังยูเหลือบมองผมสลับกับมองหน้าคู่หมั้นของตัวเอง

   “ข้ากับยองวอนเล่นกันเล็กน้อยที่ริมแม่น้ำ” คังยูเอ่ยให้ฟัง “ทำไมเจ้าถึงได้ผ่านมาทางนี้”
   “นี่เป็นทางผ่านกลับบ้านของข้า ท่านลืมแล้วเหรอ” นารายิ้มอย่างมีเสน่ห์ ผมกลืนน้ำลายดังเอื้อก ไม่ใช่อยากกินเธอนะครับ เธอไม่ได้หน้าเหมือนคริสปี้ครีม เพียงแต่สงสัยว่ารอยยิ้มที่สวยขนาดนั้นจะสะกิดหัวใจคังยูมันบ้างหรือเปล่า
   “อ๋อ นั่นสินะ” คังยูกระแอม ท่าทางของเขาอึดอัด
   “ในเมื่อข้ากับท่านไม่ได้เจอะเจอกันมาสักพัก จะรังเกียจหรือไม่ หากข้าจะชวนท่าน...” นาราปรายตามามองผม “...และสหายของท่าน มาร่วมดื่มน้ำชาที่บ้านของข้าสักเล็กน้อย”

   คังยูหันขวับมามองหน้าผม ในขณะที่ผมใบ้กินไปแล้ว

   “อีกไม่นานตะวันก็จะตกดิน ข้าเกรงว่าข้ากับยองวอนจะกลับเข้าโรงเรียนไม่ทัน”
   “ท่านลืมไปแล้วเหรอว่าท่านเป็นใคร” นารายังคงเอ่ยอย่างแย้มยิ้มต่อไป “อำนาจของท่านสามารถสั่งให้ปิดโรงเรียนซองกยุนกวานก็ยังได้”
   
   พระญาติทำได้ขนาดนั้นเลยเหรอวะ ผมมองคังยูด้วยสายตาที่มีคำถาม มันไม่มองหน้าผม เอาแต่ชักสีหน้าเล็กน้อย

   “ถึงจะเป็นเช่นนั้น ข้าก็ไม่อยากทำผิดกฎ”
   “ท่านมิต้องห่วง ข้าจะให้คนของข้าส่งข่าวกับทางโรงเรียนให้ว่าท่านจะกลับไปที่โรงเรียนช้ากว่าเวลากำหนดสักเล็กน้อย” นาราหันไปหาองครักษ์ส่วนตัวของเธอที่พยักหน้าแล้วทำตามที่เธอสั่งทันที “ทีนี้ท่านก็สะดวกแล้วใช่หรือไม่”

   ผมเห็นคนบ้าอำนาจอย่างคังยูกำหมัดเล็กน้อย เหอะ...เก่งมาจากไหน ก็แพ้คนอย่างยุนนารา

   “ไปกันเถอะ” นารายิ้ม และก็เดินนำทางไป

   ผมกระซิบกระซาบกับคังยู “ข้าไปกับเจ้าจะดีเหรอ ข้าไม่อยากขัดเวลาเจ้าอยู่กับคู่หมั้น”

   คังยูหันมามองหน้าผม รู้สึกว่ามันจะหงุดหงิดหนักกว่าเดิมเสียอีก มันยกดาบที่ถูกแอบไว้ในกางเกงของมันเอาไว้ “ข้าช่วยเจ้า ถึงเวลาที่เจ้าจะช่วยข้าบ้าง”

   “ข้าจะช่วยเจ้าได้อย่างไร”
   “มีเจ้าไปด้วย ข้าคงไม่อึดอัด”
   “เจ้าอึดอัดได้อย่างไร นั่นมันคู่หมั้นของเจ้านะ”

   คังยูทำหน้าเหมือนอยากเอาสันดาบฟาดที่กระหม่อมของผมเหลือเกิน

   “จะให้ข้าพูดอีกกี่ครั้งว่าข้าไม่อยากแต่งงานกับนาง” อีกฝ่ายหันมามองหน้าผมอย่างข่มขู่ “และถ้าเจ้าเอ่ยปากเรียกนางว่าคู่หมั้นของข้าอีกล่ะก็...ข้าจะตัดลิ้นที่ขยับไปมาในปากของเจ้าเสีย”

   มึงจะโหดเกินไปแล้ว

   “ข้าไม่เอ่ยเช่นนั้นก็ได้!” ผมรีบเอ่ย
   “หึ...เหตุไฉนเจ้าชอบทำให้ข้าหงุดหงิด”
   “เจ้าเองนั่นแหละที่เป็นคนอารมณ์ร้อนมากจนเกินไป”
   
   คังยูชะงักฝีเท้า จนทำให้ผู้หญิงสองคนที่เดินอยู่ข้างหน้าถึงกับเหลียวหลัง

   “เจ้าไม่มีสิทธิ์มาเถียงข้ายามที่ข้าหงุดหงิด”

   ยอมใจมันเลยครับ...มันเอาแต่ใจอย่างกับมันเป็นเจ้าชายแห่งโชซอน อยากได้อะไรก็ต้องได้

   “เจ้าหยุดทำไม รีบเดินไปสิ”
   “เจ้าสั่งข้าไม่ได้”
   “นี่เจ้า...”

   คังยูมองผมอย่างท้าทาย ไม่ได้ต่างอะไรจากเด็กประถมที่เป็นลูกเศรษฐีแสนล้านวอนเลยครับ...ชอบให้คนอื่นเอาอกเอาใจ

   ให้ตายเถอะ... “ก็ได้ เจ้าไม่ใช่คนอารมณ์ร้อน อารมณ์ของเจ้าเยือกเย็นอย่างกับธารน้ำไหล สดใสอย่างกับอรุณรุ่ง” ผมประชดเต็มๆ
   
   ไม่น่าเชื่อว่ามันยิ้มอย่างพอใจ แล้วมันก็เดินต่อไป โดยไม่ทำให้ผู้หญิงสองคนที่มองมาเกิดความสงสัย

   “ต้องอย่างนี้สิ...ถึงสมกับที่ข้าช่วยเจ้า”

   มันรำพึงอย่างพึงพอใจ ในขณะที่ผมแอบพ่นลมออกมาทางปากอย่างฟึดฟัด
   ต้องมีสักวันที่มันยอมผมบ้างใช่ไหมครับ...








   

   
   

   บ้านเสนาบดียุน
   ผมนึกว่าวังหลวง นี่มันใหญ่พอๆ กับตำหนักพระพันปีเลยนะครับ นอกจากความใหญ่ของมันจะสะกดตาผมให้จ้องมองอย่างตกตะลึงงันแล้ว ความหรูของมันก็ทำให้ผมตะลึงเช่นเดียวกัน สีที่ทารวมไปถึงเสาไม้ที่มันเงาวับ มันทำให้ผมรู้ว่าบ้านของเสนาบดียุนนั้นดูหรูหราโอ่อ่าเสียยิ่งกว่าบ้านของเสนาบดีลีพ่อของผมเสียอีก
   ผมจำชุดขุนนางที่พ่อผมในยุคนี้ใส่ได้...แม้จะมีสีแดงก็จริงแต่มันก็ซอมซ่อมีรอยปะชุน นั่นทำให้ผมเริ่มสงสัยว่าขุนนางทั้งสองฝั่งได้เบี้ยหวัดไม่เท่ากันหรือเปล่า
   ดูเหมือนการมาเยือนของคังยูจะทำให้คนในบ้านกระตือรือร้นยิ่งกว่าอาคันตุกะจากต้าหมิงมาเยี่ยม ผมเห็นบริวารหลายสิบวิ่งกันให้ควั่ก ในขณะที่คนถูกต้อนรับเอาแต่ทำหน้าบึ้งตึง อยากจะกลับโรงเรียนท่าเดียว

   “พวกเราอาจไม่ได้เตรียมตัวกันเป็นอย่างดีนัก ต้องขออภัยคุณชายทั้งสองด้วย” นารายิ้มเบา “ข้าได้สั่งให้บริวารจัดเตรียมชุดใหม่ให้พวกท่านทั้งสองแล้ว...ในระหว่างที่พวกท่านเปลี่ยนชุด การจัดเตรียมน้ำชาคงจะเสร็จเรียบร้อยพอดี”

   เผด็จการไม่แพ้คู่หมั้นของนางเลยครับ...ผมกับซองโจถูกพามายังห้องรับรองโดยที่ในห้องนั้นมีชุดอย่างหรูสำหรับบุรุษเตรียมไว้ให้สองชุด จะว่าไปก็นึกสงสัยว่าในระยะเวลาอันสั้นทำไมนางใช้เวลาจัดการได้ไวขนาดนี้ ไม่รวยจริงทำไม่ได้นะเนี่ย
   
   “ข้าอยากกลับ” คังยูบ่นออกมาราวกับเด็กน้อย ขณะเริ่มถอดชุดนักเรียนเน่าๆ ของตัวเอง
   “ข้าไม่อยากมากกว่าเจ้าหรือไง” ผมพูดเสียงดังกว่า
   “หนีดีไหม” คังยูชวนผม ท่าทางจริงจังยิ่งกว่าทุกครั้ง
   “เจ้าเป็นชายชาตรี เรื่องแค่นี้เจ้าอย่ากลัวนักเลย” ผมเตือนสติเขา
   “ข้าไม่ได้กลัว เพียงแต่ข้าเกลียดเรื่องที่ข้าเลี่ยงไม่ได้...”
   “…”
   “เจ้าไม่เคยเจอเสนาบดียุน บิดาของนางหรือ”

   ลียองวอนมันอาจจะเคยเจอ แต่จูเนียร์นี่ไม่น่าจะเคยเจอ
   ผมไม่รู้จะตอบยังไง ได้แต่หันหลังและก็เปลี่ยนชุดไปเรื่อยๆ ในขณะที่คังยูเอาแต่ทอดถอนใจ จนกระทั่งผมกับมันเปลี่ยนชุดเสร็จและก็จะเดินไปที่ห้องน้ำชา ยังไม่ทันจะเข้าห้อง ก็ได้ยินเสียงยุนนาราเอ็ดตะโรบ่าวไพร่ไปทั่ว แต่ทันทีที่คังยูโผล่หน้าไปให้นางเห็น นางก็เปลี่ยนเป็นยิ้มหวานสดใสราวกับมีคนมากดสวิตช์เปิดปิดยังไงยังงั้น

   “หวังว่าชุดจะพอดีกับพวกท่าน”

   ผมกับคังยูนั่งแหมะลงตรงข้ามนาง...นางรินน้ำชาให้พวกผม บนโต๊ะมีน้ำชาอย่างดีที่ส่งกลิ่นหอมรวมไปถึงอาหารว่างที่น่าจะทำให้ผมกับคังยูลืมอาหารเย็นในวันนี้ได้

   “เสียดายที่วันนี้บิดาของข้าไปราชการต่างเมือง ไม่ทันอยู่พบท่าน”

   คังยูลอบมองหน้าผม ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะส่งยิ้มดีใจให้ผมแฮะ
   มึงกลัวพ่อตามึงเหรอ...

   “โปรดอภัยแก่ตระกูลของข้าด้วย”
   “มิใช่ปัญหา รีบดื่มน้ำชากันเถอะ” คังยูตัดบท จัดการส่งถ้วยน้ำชามาให้ผม ผมมองอย่างแหยะๆ มันน่าจะขมปี๋อย่างชาออริจินัล
   
   กูคิดถึงชาเขียวรสน้ำผึ้งมะนาวขึ้นมาทันใด

   “ข้าได้ยินมาว่า...คุณชายยองวอนเคยเป็นคู่หมั้นคู่หมายองค์ชายรองมาก่อน”

   ผมที่เพิ่งดื่มชาขมเข้าไปถึงกับสำลักน้ำอย่างรุนแรง

   “เป็นเรื่องที่ตลกดีนะว่าไหม”
   “ข้าคิดว่ามันไม่ตลก” คังยูพูดเสียงเย็น “เป็นเรื่องของโชคชะตาที่อยากล้อเล่นเสียมากกว่า”

   ตกลงมันดีหรือไม่ดีวะ...เป็นคู่หมั้นกูเนี่ย มึงช่วยชี้แจงแถลงไขให้ชัดเจนกว่านี้ซิ

   “นั่นสินะ” นาราหน้าเจื่อนไปเล็กน้อย ก่อนที่จะหันหน้ามาหาผม “ได้ยินข่าวว่าตอนนี้บิดาของท่านกำลังลำบาก”   
   ผมหน้าซีดเผือด “ท่านหญิงว่าอย่างไรนะ”
   “ข้าได้ข่าวมาว่าบ้านของท่านกำลังประสบปัญหาวิกฤตทางการเงิน ข้าเอาใจช่วยท่านอยู่ คุณชายยองวอน”
   
   ทำไมกูไม่รู้อะไรเลยวะ...ผมเริ่มใจคอไม่ดีจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว คนที่บ้านไม่ส่งข่าวให้ผมสักนิดเลยเหรอ ตกลงมันเรื่องจริงหรือไม่จริง...

   “เจ้าอย่าเพิ่งวิตกไป ข้าก็ได้ยินข่าวเช่นกัน” คังยูตวัดสายตามามองผม “ไม่ได้ร้ายแรงอะไรนัก”   
   “ทำไมเจ้าไม่บอกข้า” ผมถามคนข้างตัว
   “บอกไปเจ้าก็มีแต่วิตกกังวล”
   
   วันนี้ผมกับมันต้องมีเรื่องให้ทะเลาะกันอีกกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง

   “นั่นมันเรื่องบ้านของข้า ทำไมเจ้าถึงไม่บอกข้า เจ้าคิดว่าข้าช่วยอะไรที่บ้านไม่ได้อย่างนั้นหรือ” ผมเริ่มเสียงดังขึ้น
   “เปล่า ข้าคิดว่าบิดาเจ้าคงจะแก้ปัญหาได้ ข้าบอกแล้ว มันไม่ใช่เรื่องร้ายแรง”
   “แต่อย่างน้อยก็ควรจะบอกข้า”
   “เจ้าเสียงดังขึ้นนะ”   
   “ทำไมต้องให้ข้ารู้จากคนที่ไม่ใช่สหายข้า...” เสียงของผมอ่อยลงอย่างไม่น่าเชื่อ คังยูมองอย่างตกตะลึง เขาดูทำอะไรไม่ถูกไปพักใหญ่ๆ
   “ข้าผิดไปแล้ว” เป็นอีกครั้งที่เขาเอ่ยขอโทษ “ข้าขอโทษที่คิดแทนเจ้า”

   ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ แม้ว่าพ่อในชาตินี้อาจจะเป็นอะไรที่ผมไม่คุ้น แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นเรื่องที่บ้าน พอได้ยินว่าเดือดร้อนอะไรผมก็ขึ้นหมดแหละครับ
   คังยูทำหน้าเหมือนรู้สึกผิดจริงๆ เขาใช้มือของเขามากระตุกชายเสื้อของผม

   “ข้าขอโทษ ข้าบอกแล้วไง”

   “…”

   “เจ้าจะเงียบอีกนานไหม”

   “…”

   “ยองวอนนา...”

   “อะแฮ่ม”

   เสียงกระแอมของนาราทำเอาผมกับคังยูคิดได้ว่ามีนางอยู่ในห้องด้วย

   “ดื่มน้ำชากันเถอะ” เสียงของนางเต็มไปด้วยความเย็นชายิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ผมเลิกสนใจคังยูแล้วมาสนใจน้ำชาตรงหน้าแทน
   บรรยากาศเต็มไปด้วยความอึดอัดที่แท้จริง มีแต่นาราเท่านั้นที่ชวนคังยูคุย ถามมา ตอบไป ไม่มีอะไรอย่างอื่นเลยครับ
   จริงๆ ผมเองก็แอบผิดที่ไปอารมณ์เสียใส่คังยู อาจเป็นเพราะผมหงุดหงิดที่ผมรู้เป็นคนท้ายๆ มั้งครับว่าที่บ้านมีปัญหา
   ท่าทางสุดสัปดาห์นี้ผมจะมีที่ไปแล้ว...

   บ้านเสนาบดีลี บ้านของผมเอง...











   หลังจากที่กลับโรงเรียนไป ผมก็เอาแต่คิดเรื่องนี้ทั้งคืน จนลืมความอึดอัดจากบ้านคุณหนูยุนนาราไปเสียสนิท จำได้ว่าสายตาที่นางมองผมเริ่มเปลี่ยนไปไม่ใช่ความเป็นมิตรเหมือนอย่างเคย แต่ผมไม่สนใจ เพราะว่าความสนใจของเธอส่วนใหญ่ตกอยู่ที่คังยูอยู่แล้ว
   อีกฝ่ายที่นอนอยู่อีกฝั่งในห้องของผมเอาแต่เงียบ เขาอาจจะหลับไปแล้ว ในขณะที่ผมยังคงกังวลเรื่องที่บ้านอยู่
   หรือเขาจะพูดถูกเรื่องที่ว่าบอกไปผมก็เอาแต่กังวล ขนาดยังไม่รู้รายละเอียดผมยังกังวลขนาดนี้
   มันรู้ด้วยแฮะว่าผมเป็นคนยังไง...

   “คังยู” แม้ว่ามันจะนอนอยู่ ผมก็เอ่ยปากเรียกมันอย่างคนเสียมารยาท
   “หืม?” มันยังไม่นอน สรุปว่าผมไม่ใช่คนเสียมารยาทเท่าไหร่นะครับ
   “เจ้ารู้จักบ้านของข้าไหม”

   นี่แหละเหตุผลที่ผมต้องถามมัน...ผมจะไปรู้จักทางไปบ้านตัวเองในยุคนี้ได้ยังไง

   “บ้านของเจ้า? นี่เจ้าไม่รู้จักบ้านตัวเองหรืออย่างไร”
   “ก็...”
   “อยู่ทางใต้ของเมืองหลวง” คังยูตอบแค่นั้น
   “เจ้าเคยไปเหรอ”
   “เคย...ตอนเด็กๆ”
   “ตอนนั้นเจ้าเจอข้าหรือยัง”
   “ท่าทางอาการประสาทของเจ้าจะกู่ไม่กลับ”
   “ตอบข้ามาเถอะ”
   “ข้าเจอเจ้า...แต่เจ้าไม่เจอข้า” คังยูเอ่ยเสียงเรียบ “ตอนนั้นเจ้าเขี่ยดินอยู่ตอนที่ข้าเดินเล่นที่สวนในบ้านเจ้า ข้ามิได้เข้าไปรบกวนเพราะตอนนั้นข้าคิดว่าเจ้ากำลังขุดหาไส้เดือนกิน”

   ว่าไงนะ...

   “คิดไปแล้วก็ตลกดี...”
   “ข้าจะไปหาไส้เดือนมากินได้อย่างไร “
   “ฮ่าๆๆ ก็ท่าทางเจ้าดูเป็นคนแบบนั้น”
   “…”
   “เจ้าดูซุกซน จนเสนาบดีลีไม่อยากให้เจ้ามารบกวนการพบปะของเขากับเสด็จพะ...พระราชา” คังยูเหมือนอยากตีปากตัวเองเต็มแก่ เขาพูดผิดบ่อยเหมือนกันนะครับ
   “เจ้าดูรู้จักข้า มากกว่าที่ข้ารู้จักเจ้า”
   คังยูหันหน้ากลับมานอนตะแคงจ้องหน้าผม... “มันก็ดูเป็นแบบนั้นมานานไม่ใช่เหรอ”

   …นึกไปถึงบันทึกของยองวอน...บันทึกที่ผมไม่ได้จับมานานแล้วหลังจากที่มัวแต่ยุ่งอยู่กับการใช้ชีวิตเป็นมัน ว่าไปแล้วก็สงสารมันนะครับ คังยูรู้จักมัน แต่มันคิดว่าคังยูไม่รู้จักมัน

   “สุดสัปดาห์นี้ข้าจะกลับบ้าน” ผมค่อยๆ เปรย “เจ้าช่วย...”
   “ช่วยอะไร”
   “ไปเป็นเพื่อนข้า”
   “…”
   “เจ้าเงียบทำไม”
   “ขอร้องข้าสิ”
   “ไม่ดีกว่า ข้าจะเปลี่ยนไปขอร้องพยองอัน”
   “ข้าไปก็ได้...ทำไมคนอย่างเจ้าถึงเปลี่ยนใจง่ายนัก”

   ผมหัวเราะเบาๆ จนคังยูหงุดหงิดและก็หันหลังให้ผม











   

   วันเวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า
   กว่าการสอบในวันศุกร์จะผ่านพ้นไป ผมนี่ลมแทบจับ พยองอันทำทุกวิถีทาง กล่าวถึงบทเรียนให้ผมฟังซ้ำไปซ้ำมาจนผมจำได้เพื่อนำไปสอบ ในขณะที่รูมเมททึของผมเอาแต่นอนและก็หัวเราะหึหึกับท่าทางการท่องหนังสืออย่างเคร่งเครียดของผม
   เชื่อมัั้ยครับ ตอนสอบจริงๆ ไอ้คนที่เอาแต่นอนแม่งก็ออกคนแรกอีกตามเคย
   กว่าจะผ่านพ้นมาได้ ผมนี่อยากจะเป็นลมเสียให้รู้แล้วรู้รอด ถึงอย่างนั้นสุดสัปดาห์ที่ผมรอคอยก็มาถึง ผมแจ้งกับทางโรงเรียนแล้วว่าจะกลับบ้าน ในขณะที่คนที่สัญญาว่าจะไปเป็นเพื่ิอนผมไม่เห็นว่ามันต้องวิ่งเต้นแจ้งห่าแจ้งเหวอะไรเลย
   ลืมไป เส้นมันใหญ่ ใหญ่ที่สุดในโชซอนแล้วมั้งน่ะ
   ผมบอกลาพยองอันโดยให้สัญญากับเขาว่าจะซื้อขนมมาฝาก ก่อนที่จะเดินออกไปจากโรงเรียนโดยมีคังยูอยู่เคียงข้าง หมอนั่นทำตัวสบายๆ ชิวๆ เหลือเกิน ในขณะที่ผมนั้นเริ่มจะเครียดนิดหน่อยเพราะไม่รู้ว่าสถานการณ์ที่บ้านจะดีขี้นแล้วหรือยัง   
   ข้างหลังคังยูนั่น...คือซองชิล ท่าทางจะไม่อยากปล่อยให้นายน้อยของมันมาเดินเพ่นพ่านในที่ๆ มีคนแออัดเช่นตลาดใกล้โรงเรียน
   
   “ข้าบอกแล้วนะ ว่าบ้านของเจ้าไกล เจ้าอาจจะเป็นลมล้มพับกลางทางได้” น้ำเสียงเยือกเย็นของคังยูมีความกวนตีนแฝงอยู่ในที ผมมองมันอย่างเอือมๆ
   “ข้าเป็นลมแล้วอย่างไร เจ้าก็มากับข้านี่” มึงก็แบกกูไงครับ มึงเป็นเพื่อนกูนะเว้ย
   “คิดจะให้ข้าแบกหมูอย่างเจ้าขึ้นบ่าจริงๆ น่ะเหรอ”
   “หมู?”
   “ใช่ เจ้ากินเยอะเหมือนหมู แม้ว่าร่างเจ้าจะผอมบาง...” มันใช้สายตาประเมินผมตั้งแต่หัวจรดเท้า “...แต่น้ำหนักของเจ้าก็คงจะหนักเหมือนหมู”

   บอกแล้วครับว่าคังยูน่ะมันสบายๆ ชิวๆ มันถึงได้ว่างมากัดคนอย่างผมนี่ไง

   “คุณชายซองโจ” ผมหันไปเจอคุณหนูยุนนาราผู้ซึ่งร้องเรียกคนข้างๆ ผมด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน นางยังคงสวยสะกดตาเช่นเคย ชาวบ้านชาวช่องแถวนั้นหันมามองนางกันหมด
   “แม่นางยุน” คังยูเอ่ย ท่าทางเขาตกใจเล็กน้อย
   “ท่านผ่านมาทางนี้พอดี” นางเห็นผมเป็นหัวหลักหัวตอไปแล้ว “ข้ากำลังสงสัยว่าเครื่องประดับสองชิ้นนี้ ชิ้นไหนสวยกว่ากัน”

   ตอนนั้นพวกผมบังเอิญเดินผ่านร้านเครื่องประดับพอดีน่ะครับ ก็เลยต้องหยุดแหมะกลางคันเพราะมีคนเรียกคังยูเอาไว้
   
   “ข้าเกรงว่าข้าไม่มีความสามารถในการเลือกเครื่องประดับ” คังยูดันตัวผมออกไป “ยองวอนน่าจะมีความสามารถนั้น”
   พ่องมึงดิ... “ขออภัยคุณหนูด้วย ข้าเองก็ไม่มีความสามารถ”
   “คุณหนูลังเลระหว่างเครื่องประดับสองชิ้นนี้อยู่นานสองนาน เพราะคิดไม่ตกเกรงว่าหากสวมเครื่องประดับที่ไม่ถูกตาต้องใจคุณชายซองโจแล้ว คุณหนูอาจจะไม่ใช่คนโปรดของคุณชายอีกต่อไป”

   ยุนนาราตีแขนป้าพี่เลี้ยงของเธออย่างเคอะเขิน

   ผมเหลือบมองไปที่คังยู คำว่าคนโปรดคงวนอยู่ในหัวเขาซ้ำไปซ้ำมา...
   …หัวผมก็เช่นกัน

   ผมหันไปมองซ้ายมองขวาสนใจอย่างอื่นแทนที่จะเป็นร้านเครื่องประดับ ในระหว่างที่คังยูต้องไปเลือกเครื่องประดับพวกนั้นอย่างจำใจและก็ตัดความรำคาญ ทันใดนั้นผมก็เห็นชายผู้หนึ่งกำลังถูกไล่ตามอยู่ด้านหลังละแวกบ้าน พวกไล่ตามเป็นชายในชุดดำสามสี่คนท่าทางเป็นคนมีฝีมือ
   บรรลัยแล้วมั้ยล่ะ...

   “คังยู”
   
   ผมสะกิดร่างสูงๆ ที่อยู่ข้างๆ แม้จะเรียกแค่คนหนึ่งคนแต่ก็ทำให้คนสองคนหันมาพร้อมกัน

   “หืม? เจ้ามีอะไรหรือ” คังยูถามผม
   “คังยูเหรอ” ยุนนาราทวนคำช้าๆ อย่างไม่เชื่อหูตัวเอง “ไม่ทราบว่าทำไมคุณชายยองวอนถึงทราบชื่อจริงของคุณชายซองโจได้”
   “ก็ข้าบอกเขาน่ะสิ” คังยุเอ่ยเสียงเข้มก่อนที่จะหันมาหาผม “ตกลงเจ้ามีอะไรเจ้ากระต่าย”
   “ข้าจะไปดูอะไรที่ฝั่งโน้น เดี๋ยวข้ามา”
   “เจ้าจะไปไหนนะ”
   “ข้าไปก่อนนะ”
   “ยองวอน!”

   ผมไม่ฟังเสียงคังยู รีบเลี้ยวเข้าทางด้านหลังของร้านเครื่องประดับเพื่อไปช่วยชายผู้นั้นทันที ไม่รู้สิ ผมรู้สึกว่ายังไงไอ้พวกที่ใส่ชุดดำเนี่ยมันต้องเป็นคนร้ายแน่ๆ(คนดีๆ เขาจะปิดหน้าตัวเองทำไมกันล่ะ) สี่รุมหนึ่งแม่งโคตรไม่แฟร์เลย ยังไงก็ต้องไปช่วยก่อน
   โชคดีที่ทันทีที่ผมโผล่หน้าไปชายคนนั้นก็วิ่งมาทางผมพอดี
   เขาอายุอานามน่าจะประมาณสี่สิบกว่า ผมขอเรียกลุงแล้วกัน ถึงแม้ว่าจะเด็กกว่าพ่อผมก็เถอะ

   “ลุง...ทำไมลุงถึงวิ่งหนีหัวซุกหัซุนแบบนี้ล่ะขอรับ” ความเสือกไม่เข้าใครออกใคร ผมเป็นคนไทยนะ...ผมชอบดราม่า (แซวนะครับแซว)
   จริงๆ แล้วเขาเป็นลุงก็จริง แต่เสื้อผ้าอาภรณ์และผิวพรรณยังไม่สมอายุเท่าไหร่เลย ผิวพรรณก็ดี ท่าทางก็ดูเป็นผู้ดีมากๆ
   “เจ้า...นักเรียนซองกยุนกวาน” ลุงหอบอย่างหนักและก็จับตัวผมเอาไว้ “ช่วยข้าด้วย”
   “หือ?”
   “คนพวกนั้นทำองครักษ์ของข้าพัดหลงไปและก็ตามหาข้าไม่เจอ”
   “ลุงมีองครักษ์ด้วยหรือ” ไม่มีก็แปลก ท่าทางรวยชิบหายวายป่วงขนาดนี้ ผมคิดถูกคิดผิดเนี่ยที่เลือกที่จะมาพัวพันกับลุงเศรษฐีผู้นี้ “ไม่ว่าจะยังไงเจ้าต้องช่วยข้า ข้าสัญญาว่าจะตบรางวัลให้เจ้าอย่างงาม”
   “เอ่อ ไม่ต้องก็ได้ขอรับ” ผมรีบพูด ทันใดนั้นชายในชุดดำแม่งก็ตามไล่ทันมาพอดี ทีนี้ไม่ใช่แค่ลุงที่ต้องหนีแล้ว มีผมด้วยที่ต้องหนี บอกเลยว่าวุ่นวายชิบหาย

   “ยองวอน” คังยูเห็นผม ผมรีบชนเขาและก็จับแขนลุงผู้นั้นให้รีบตามผมมา “เจ้ากำลังเล่นอะไรอยู่น่ะ”
   
   เล่นห่าเล่นเหวอะไร...ทันทีที่มันเห็นคลื่นสีดำที่วิ่งตามมามันก็เข้าใจถึงสถานการณ์ทันที

   บอกเลยว่าพัง...วิ่งกันฝุ่นตลบ แถมชาวบ้านยังแตกตื่น ผมกับลุงวิ่งไปเรื่อยๆ พากันหลบซ้ายหลบขวาบ้าง แปลกแต่จริงที่ลุงดูเหนื่อยหนักกว่าผม ขนาดผมเป็นคนอ่อนแอแถมยังขี้โรคยังหอบไม่สู้ลุง แต่ก็หอบ
   คังยูที่ไล่ตามมาทีหลังบอกให้ผมรีบเลี้ยวเข้าไปในบ้านสุดซอย มันบอกว่านั่นแหละบ้านผม โดยให้ซองชิลช่วยถ่วงเวลาพวกนั้นเอาไว้ให้ ไอ้นั่นมันก็เก่งนะครับ สามารถปะฉะดะกับพวกมีฝีมือเหล่านั้นได้
   กว่าจะมาถึงบ้านผมกันครบทั้งสี่คน เรียกได้ว่าหอบและก็พังกันมากเลยทีเดียว

   “ข้าไม่คิดว่าเจ้าควรจะช่วยใครสุ่มสี่สุ่มห้า...ข้าเกรงว่า...” คังยูยังด่าไม่จบ เขาก็ตะลึงพรึงพรืดมาเห็นว่าลุงเป็นใคร “พระราชา!!!”

   ว่าไงนะ...

   คนที่ผมฉุดกระชากลากถูเขายิ่งกว่าหมูกว่าหมาเมื่อตะกี้คือ...

   พระราชา

   เข่าทรุดเลยกู...ผมคุกเข่าโดยอัตโนมัติ

   ที่จำพระองค์ไม่ได้ก็เพราะตอนไปเข้าเฝ้าผมเอาแต่นั่งตัวเล็กเป็นจิ๋มมดในท้องพระโรงไง! ใครจะไปกล้ามองพระพักตร์ได้!

   “ว่าไงคังยู” พระองค์ยังคงหอบอยู่ คังยูรีบเข้ามาหาพร้อมกับพยุงตัวเอาไว้
   “เหตุใดพระองค์ถึงได้...แล้วองครักษ์ส่วนพระองค์หายไปไหน!”
   “เรื่องมันยาว เจ้าใจเย็นลงก่อน”
   “แบบนี้เรียกว่าบกพร่องต่อหน้าที่ กระหม่อมจะลงโทษพวกนั้นให้สาสม”
   “เจ้าลงโทษไอ้หนูนี่ด้วยสิ” นั่นไง ผมที่คุกเข่าอยู่เริ่มอยากทรุดลงไปกอง “เขาไม่เกรงใจสภาพข้าที่วิ่งตามเขาไม่ทันเลย”

   คังยูมองผมอย่างเจ็บปวดใจ

   “ข้าล้อเจ้าเล่น” พระราชาขยิบตาให้ผม “ถ้าไม่มีสหายของเจ้า ป่านนี้ข้าคงโดนอริสอยร่วงไปแล้ว”

   ซองชิลช่วยพยุงผมให้ลุกขึ้นยืน

   “ข้าเลือกสหายให้เจ้าได้ดีใช่หรือไม่คังยู”
   “…”
   “ข้าจำเจ้าได้ตั้งแต่แรกเห็นเลยนะลียองวอน”
   “โปรดประทานอภัย” ผมรีบพูดอย่างรวดเร็ว

   “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร คังยู ข้ารู้สึกถูกชะตาเจ้าหนูนี่ยังไงชอบกล” พระราชาตรัสต่อไป “นี่ถ้าเจ้าหนูนี่เป็นสตรี ป่านนี้คงได้แต่งงานกับองค์ชายรอง กลายเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้วใช่หรือไม่”

   คังยูไม่ตอบอะไร เอาแต่ก้มหน้าก้มตาอย่างเดียว

   “นึกเสียดายที่ข้าไม่ได้เกี่ยวดองกับเจ้านะ”

   ผมเองก็ก้มหน้าก้มตาเช่นกัน คังยูเขยิบเข้ามาอยู่ในระดับเดียวกันกับผม โดยปล่อยให้ซองชิลดูแลพระราชาต่อไป

   “เจ้าหาเรื่องเข้าตัวเอง” คังยูยังคงด่าผมเช่นเคย
   “เป็นเจ้าเจ้าจะช่วยหรือไม่ พระราชาแห่งโชซอนเชียวนะ”
   “ตอนนั้นเจ้าไม่รู้ไม่ใช่เหรอว่าพระองค์เป็นพระราชา”
   “ถึงอย่างนั้นข้าก็เป็นวีรบุรุษก็แล้วกัน!”
   “เจ้านี่มันกระต่ายจริงๆ เจ้าอยากทำคะแนนเพื่อที่จะให้ข้อตกลงนั้นยังอยู่ใช่หรือไม่”

   ผมมองหน้าคังยู หมอนั่นพูดทีเล่นทีจริงจนผมดูไม่ออก “ข้อตกลงอะไร”

   “เจ้าเป็นคู่หมั้นข้า”

   หัวใจของผมเต้นรัวเร็วทันทีหลังประโยคนั้น...

   “เจ้าคิดไปไกลยิ่งนัก” ผมรีบพูด “ข้าไม่ได้หวังเช่นนั้น”
   “หึ...ไม่รู้เหตุไฉนเหมือนกันนะ”
   “…”

   “ข้ารู้สึกดีใจที่พระองค์ทรงชอบเจ้า”
   “เจ้าไม่อิจฉาข้าหรือ”
   “ข้าจะอิจฉาเจ้าทำไม”
   “…”
   “หากพระองค์ทรงยอมรับเจ้า”
   “…”
   “เรื่องที่ข้าอยากจะทูลขอในอนาคตอาจเป็นจริงก็ได้”

   ผมมองหน้ามัน...แม้ว่ามันจะกระซิบกระซาบและก็เดินตามพระราชาเข้าไปในบ้าน ถึงอย่างนั้นผมก็สัมผัสได้ว่ามันจริงจังมากพอดู

   “เจ้าจะทูลขออะไร...”

   “ข้าจะไม่แต่งงานกับยุนนารา”

   “…แล้วมันเกี่ยวข้องกับข้าตรงไหน”

   “เกี่ยวสิ”



   “…”




   “ถึงข้าจะแต่งกับเจ้าไม่ได้...แต่ข้าก็อยากอยู่กับเจ้านะ”






   ผมทำอะไรไม่ถูกไปพักใหญ่ๆ ไม่ต้องพูดถึงหัวใจครับ มันเต้นแรงเหมือนมันจะหลุดออกมาเสียให้ได้

   “เจ้าถามข้าหรือยังว่าข้าอยากอยู่กับเจ้าหรือเปล่า” ผมพูดแก้เขินไปงั้น...ให้ตายสิ...เจอคนหล่อขนาดนี้มาหยอดแถมเป็นคนหล่อประเภทที่ว่าครึ่งหนึ่งในใจผมก็เป็นของมันไปแล้วบอกเลยว่า...ใจแทบพังเลย

   “เจ้าจะอยู่ได้อย่างไรถ้าไม่มีข้า”
   
   ว่าไงนะ

   “หลายวันมานี่ตัวเจ้าติดกับข้ายิ่งกว่าพยองอันเสียอีก”

   พูดไม่ออก...แม้ว่าตอนแรกผมจะคิดว่ามันเป็นเพื่อน แต่ลึกๆ แล้วผมกลับรู้สึกดีที่รู้สึกว่าผมกับมันเป็นอะไรที่เกินเพื่อนอยู่...นิดๆ
   ให้ตายสิ...มันจีบผมเหรอ หรือยังไงเนี่ย

   ที่แน่ๆ กูหวั่นไหวไปแล้ววววววววววววววววววววววว...

   “เจ้าจะว่าอย่างไรล่ะ...”

   ผมเงียบไปนาน...จนกระทั่งผมพูดขึ้นมา และคำพูดนั้นก็เป็นคำพูดที่ทำให้คังยูหลุดยิ้มออกมาให้ผมแบบหล่อมากๆ กันเลยทีเดียว





   “พระราชาทรงชอบคนแบบไหนหรือ...”






   TBC*







talk : สัมผัสได้ว่ามีคนจีบกัน 5555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-01-2016 21:50:38 โดย chiffon_cake »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด