{ _____ นิราศโชซอน ______ } {จบ}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: { _____ นิราศโชซอน ______ } {จบ}  (อ่าน 445891 ครั้ง)

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
ยกตำแหน่งไปเถอะคังยู แล้วไปใช้ชีวิตเรียบง่ายนอกวังกับยองวอน 555+

ออฟไลน์ ycrazy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
คังยูหนีมาขนาดนี้ก็แปลว่าไม่ได้อยากเป็นรัชทายาทแล้วป่ะ
ไหนๆองค์ชายใหญ่ก็ได้ประโยชน์ ไม่เห็นต้องมาตามเลย
คนเค้าจะหนีไปสวีตกัน โถ่ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
เหนื่อยใจกะชายใหญ่ ไม่ได้มีใครอยากแย่งเล้ย

ออฟไลน์ มาม่าหมูสับ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตอนนี้มันต้องเครียดสิ แต่ทำไมอ่านแล้วมันเขินๆหว่า ยองวอนกดคังยูเลย :katai3:

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
คังยูมีหึงด้วยอะ

ออฟไลน์ PiSCis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2

ออฟไลน์ Misakiiz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เราว่าถ้าพี่ชายใหญ่เอ่ยปากบอกกับคังยูไปตรงๆว่า อยากเป็นองค์ชายรัชทายาท เราว่าคังยูนางพร้อมที่จะยกให้เลยแหละนะ

ออฟไลน์ PAiPEiPEi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-3
เราว่าดีไม่ดีนะ  พีคไปอีกตรงองค์ชายใหญ่นั่นแหละ ฟ้องเสด็จพ่อไปๆมาๆ  เค้าจะได้แต่งงานกันจริงๆ  สาธุ~~ ขอให้ราชาเอ็นดูยองวอนมากๆ   หรือไม่ก็จูเนียร์ แกคือจูเนียร์นะเเสดงความบราโว่ในตัวหน่อย

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12
ตอนที่ 23







หลังจากนั้นก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรสำคัญอีกนอกจากเดินทางอย่างเดียว อ้อ แต่มีเหตุการณ์หนึ่งครับ ผมต้องจำใจอยู่ห่างไอ้กล้วยที่พยายามจะเข้ามาใกล้ผมเพราะกลัวผมเป็นลม เป็นอย่างที่คังยูพูดไม่ผิดเพี้ยน เขาสั่งให้ซองชิลมาอยู่ใกล้ๆ ผมและก็จับตาดูผม ได้ยินแว่วๆ จากปากของขงเบ้งว่าคังยูสั่งว่าถ้าไอ้กล้วยเข้ามาใกล้รัศมีเกินสองเมตร ใช้ดาบชี้หน้าขู่ได้เลย

ประเด็นคือซองชิลมันก็เสือกจะเชื่อ! เกือบทำเขาวุ่นวายไปทั้งขบวนแล้วมั้ยล่ะ ทหารรวมไปถึงพวกฝ่ายผู้ตรวจการต่างก็พากันคิดว่าพวกเราจะหลบหนี มาล้อมหน้าล้อมหลังพวกเราเอาไว้เพียงแค่ซองชิลใช้ดาบขู่ไอ้กล้วย

กูล่ะจะบ้า...ดีนะที่คังยูเคลียร์กับพี่มันอย่างรวดเร็ว ไม่อย่างนั้นล่ะก็ล่าช้าไปกว่านี้แน่ๆ

พวกเราเดินทางกันทั้งวันทั้งคืนตามปกติวิสัยขององค์ชายใหญ่ของโชซอน ผมยอมรับนะครับว่าผมเหนื่อยมาก แต่ผมก็ฝืนตัวเองให้เดินทางไปจนถึงเมืองหลวงจนได้ เนื่องจากพวกเราเร่ง เวลาตอนขากลับจึงเร็วกว่าขาไปมาก (ไม่มีพวกชุดดำไหนมาคอยขัดขวางด้วย)

ตอนที่เราเข้ามาในเมือง สภาพของผมเหมือนนักโทษที่ถูกเนรเทศไปเกาะเชจูแบบไร้น้ำไร้ข้าวแล้วก็กลับมาเมืองหลวง พวกชาวบ้านชาวช่องต่างก็ให้ความสนอกสนใจเป็นอย่างมาก ทุกคนหลีกทางให้ขบวนและก็ชี้ไม้ชี้มือมาที่ผมกับสหายเรากับพวกเราเป็นลิงในกรงของสวนสัตว์

อย่างไรก็ตาม คนที่โดนชาวบ้านชาวช่องให้ความสนอกสนใจมากที่สุดก็คือคังยู ข่าวแพร่สะพัดไปทั่วแล้วว่าเขาคือองค์ชายที่หนีการอภิเษก นอกจากเขาจะโดนชาวบ้านซุบซิบแบบที่ก้มหัวให้แล้ว(ถึงอย่างไรชาวบ้านก็ไม่กล้านินทาตรงๆ อยู่ดี) เขายังโดนชาวบ้านมองมากเป็นพิเศษ มากเสียยิ่งกว่าองค์ชายใหญ่

เหตุการณ์มันตึงเครียดกว่าที่ผมคิดมากกว่าร้อยเท่าถึงสองร้อยเท่า ยิ่งตอนที่พวกเราก้าวเท้าเข้าสู่วังหลวง ผมก็รู้สึกได้ถึงการขนลุกชูชันของตัวผมเอง

การลงโทษไม่ว่าจะหนักหรือเบายังไงมันก็รอผมอยู่...

“พวกเจ้าทั้งหมดต้องไปทางด้านนี้” ไอ้กล้วยเอ่ยกับผมและก็สหายด้วยน้ำเสียงดังฟังชัด “องค์ชายซองโจจะต้องไปเข้าเฝ้าพระราชาเพื่อรอรับโทษต่อไป”

ผมเหลือบมองไปที่ซองโจที่กำลังลงจากม้า สภาพเขาดูเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้ามากมายเช่นเดียวกัน เขาหันมาสบตากับผมที่อยู่ห่างออกไป ในขณะที่ตัวผมเองกำลังถูกทหารของทางการดันตัวให้ไปอีกทางหนึ่ง

ผมตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ นี่คือของจริง นี่คือสิ่งที่ผมต้องเจอใช่มั้ย บรรยากาศที่น่าเกรงขามในวังหลวง อีกทั้งรอบตัวผมยังเต็มไปด้วยทหารที่ทำหน้าถมึงทึง มันทำให้ผมกลัวไปหมด โชคยังดีที่ข้างๆ ผมยังมีสหายที่ตามมาด้วยกัน และทุกคนก็ถูกกระทำเหมือนไม่ใช่คนใหญ่คนโตเหมือนกัน

เอาวะ...ก็อย่างที่ผมบอก ถึงผมตาย ผมก็กลายเป็นจูเนียร์ที่เป็นคนไทยและเรียนรัฐศาสตร์การทูต เอกความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แถมชีวิตยังกินดีอยู่ดีเพราะเกิดมาอยู่ในครอบครัวของเศรษฐีจากภาคอีสานมาตั้งรกรากอยู่แถวๆ เยาวราช(เซ้งร้านทองต่อเขามา) เพราะฉะนั้นผมไม่ควรที่จะต้องกลัวอะไรทั้งนั้น

เว้นเสียแต่ว่าเกิดเหตุผิดพลาด...ผมอาจจะเกิดเป็นหนอนน้อยที่อยู่บนยอดใบชาเพื่อเอามาทำชาเขียว...

อี๋...สยอง

“พวกเราอาจจะถูกสอบสวนจากขุนนางใหญ่โต” จีซูกระซิบกระซาบให้พวกเราได้ยินกันทุกคน “พยายามทำหน้าให้น่าสงสารเข้าไว้”

“ทำไมต้องทำเช่นนั้น” พยองอันสงสัยจึงถามออกไป ผมเองก็สงสัยมากมายเหมือนกัน

“ลียองวอน เจ้าคือบุตรชายของเสนาบดีคนสำคัญอีกทั้งเจ้ายังสอบเข้าไปเรียนในซองกยุนกวานได้เป็นอันดับหนึ่ง พยองอัน เจ้าก็คือบุตรขุนนางคนสำคัญของวังหลวง ซองชิลคือองครักษ์มากฝีมือที่พระราชาถึงกับตรัสชมและก็ยังวางใจให้ดูแลองค์ชายคนโปรด และก็ข้า...” จีซูยืดตัวเล็กน้อย “บุตรชายนักปราชญ์ที่ได้ขึ้นชื่อว่าฉลาดที่สุดในโชซอน”

แม้จะฟังดูน่าหมั่นไส้แต่ก็จริงอย่างที่จีซูพูด พวกเราไม่ใช่ลูกตาสีตาสาลูกอีแก้วอีคำนี่หว่า...

“อีกอย่างหนึ่งราชสำนักให้ความสำคัญกับนักเรียนของซองกยุนกวานมาก ถือเป็นบุคลากรที่จะกลายเป็นแนวหน้าในการพัฒนาประเทศ พวกเขาคงไม่ประหารพวกเราง่ายๆ หรอก ข้าเชื่อเช่นนั้น”

พูดง่ายๆ ก็คือพวกเราคือเยาวชนของที่นี่ใช่มั้ย แม้จีซูจะเอ่ยปากให้พวกเราเลิกกังวลเรื่องบทลงโทษ แต่ท้ายที่สุดก็น่ากังวลอยู่ดี เพราะคนที่จะมาไต่สวนพวกเราคือเสนาบดียุน พ่อของคุณหนูยุนนารา คู่หมั้นของซองโจ

ไอ้เช็ดเป็ด

ผมกับเพื่อนที่ถูกจับมัดมือมัดเท้าต้องนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าเสนาบดียุนที่มีพร็อบมาเต็ม (ไม่ว่าจะเป็นทหารที่อยู่เบื้องหลังหรือเก้าอี้สูงสำหรับพิจารณาโทษ) ยังมีทหารล้อมรอบเราทั้งสี่ทิศราวกับศาลไคฟงของเปาบุ้นจิ้น ผมกลืนน้ำลาย มองไปทางขวามือของตัวเอง ซึ่งมีพยองอัน จีซู และก็ซองชิลนั่งเรียงกันตามลำดับ

“ข้าเสนาบดียุน เสนาบดีฝั่งขวาแห่งราชสำนัก วันนี้รับหน้าที่พิจารณาความผิดของลียองวอน คิมพยองอัน เชวจีซู และมุนซองชิล”
เสียงที่น่าเกรงขามของเสนาบดียุนทำเอาร่างเล็กๆ ของพยองอันสั่นงันงก ผมเอาแต่ก้มหน้าอย่างเดียว
“ในความผิดสมรู้ร่วมคิดกับองค์ชายรองซองโจ หนีการอภิเษกสมรสกับยุนนารา บุตรสาวของข้า”

ปึง!

ม้วนกระดาษที่วางอยู่ตรงหน้าพ่อหนูยุน (ขอเรียกอย่างคิขุเพื่อให้เหตุการณ์ตึงเครียดนี้มีความซอฟต์ลงมาหน่อย) หล่นกระจายเกลื่อนหลังจากที่เขาวางม้วนกระดาษที่อยู่ในมือลง เขาโมโหอย่างมากและหน้าแดงก่ำ

“ไม่รู้ว่าความคิดในหัวของพวกเจ้ามีอะไรบ้าง ทำไมถึงพากันทำเรื่องโง่ๆ เช่นนี้!”

จริงอย่างที่ขงเบ้งมันพูดจริงๆ ว่ะ อยู่ที่นี่เราคือเยาวชนของเขาจริงๆ ด้วย ที่พ่อหนูยุนกำลังด่าอยู่เหมือนสั่งสอนเด็กที่ทำความผิดมายังไงชอบกล

“สารภาพมา...ใครเป็นคนนำพาความคิดเรื่องที่จะให้องค์ชายซองโจหลบหนีการอภิเษกสมรส”

ทุกคนมองหน้ากัน...ไม่มีใครเป็นต้นเหตุความคิดนี้ทั้งนั้น องค์ชายซองโจหรือคังยูคิดเอาเองและก็พาหนีเอง แต่ใครเล่าจะกล้าทำร้ายสหายผู้สูงศักดิ์ พวกเราได้แต่นั่งนิ่งๆ ไม่มีใครตอบ

“ในเมื่อไม่มีใครยอมรับความผิด เห็นทีว่าข้าจะต้องใช้วิธีรุนแรงจัดการกับพวกเจ้าซะแล้ว”

“ช้าก่อน” เสียงหนึ่งดังขึ้น ผมมองไปเห็นอาจารย์จากซองกยุนกวานเดินเข้ามาประมาณสามสี่คน มีอาจารย์ผู้เฒ่าที่สอนภาษาจีนด้วย น้ำตาจะไหล...

“ที่นี่อาจารย์จากซองกยุนกวานไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทหาร พาพวกเขาออกไปให้หมด!”

“ฟังข้าก่อนท่านเสนาบดี” อาจารย์ผู้เฒ่าโค้งให้พ่อหนูยุนเก้าสิบองศา นี่ผมน้ำตาจะไหลจริงๆ นะครับ ดูเหมือนอาจารย์เหล่านี้จะมาช่วยให้ผมกับเพื่อนของผมมีโทษเบาลง “พวกข้ามีเรื่องจะขอร้อง เด็กพวกนี้ยังเยาว์วัย เช่นเดียวกันกับองค์ชายซองโจ การกระทำที่เกิดขึ้นอาจจะทำโดยพลการ หุนหันพลันแล่น ไม่คิดหน้าคิดหลัง ได้โปรด ปล่อยเด็กพวกนี้ให้ข้ากับเหล่าคณาจารย์หลายที่นี้จัดการกับพวกเขาเถอะ”

พ่อหนูยุนดูเหมือนจะเกรงใจท่านผู้เฒ่าอยู่มากโขเหมือนกัน เขาถอนหายใจ ก่อนที่จะมองหน้าพวกผมทีละคนอย่างเหน็ดเหนื่อยใจ

“ท่านเองก็บุตรสาวที่อยู่ในวัยแรกรุ่นเช่นเดียวกับเด็กพวกนี้ ได้โปรด เห็นใจข้าสักครั้ง ปล่อยให้พวกเขาถูกลงโทษตามกฎของซองกยุนกวานเถอะ”

ท่านผู้เฒ่าเปิดการ์ดพูดถึงลูกสาวพ่อหนูยุน...การ์ดอันนี้น่าจะช่วยได้และมีประสิทธิภาพเหมือนการ์ดนางฟ้าในเกมส์เศรษฐีเลยทีเดียว

“บุตรสาวของข้าเสียใจมาก นางไม่ยอมกินไม่ยอมนอนมานานหลายวันแล้ว...”

“ข้าจักลงโทษนักเรียนที่กระทำผิดให้สาสม ให้สมกับความเสียใจของบุตรสาวของท่าน”

“ข้าไว้ใจท่านมากนะ”

จีซูมองสบตาผมและส่งยิ้ม ผมผู้ที่ไม่รู้ว่านี่คือหนทางรอดจริงหรือเปล่าจริงไม่กล้าทำหน้าอะไรที่ชัดเจนออกไป

“ถ้าเช่นนั้น...ข้าขอให้ท่านจับพวกเขาขังไว้ในคุกใต้ดินของที่นี่สักสามวันก่อนจะได้หรือไม่”

จีซูหุบยิ้ม...เขาเงยหน้ามองหน้าพ่อหนูยุนอย่างตื่นตระหนก พยองอันเหงื่อไหลจนตกลงบนพื้นเป็นเม็ดๆ ทั้งๆ ที่อากาศเย็นมาก ในขณะที่ซองชิลผู้กล้าได้แต่นั่งนิ่งๆ น้อมรับการลงโทษไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม

“แต่ท่าน...”
“พวกเขาทำผิดกฎอย่างร้ายแรง ทำให้ราชสำนักเสียหาย ทำให้ราชสำนักอับอายต่อแขกเหรื่อที่พระราชาทรงเชิญให้พวกเขามางานอภิเษกสมรส...”

ไม่ว่าทางไหนก็ต้องลงโทษแรงๆ จริงๆ ว่ะ...

“แต่สามวันนั้น...”
“หรือจะให้ข้าเพิ่มเป็นเจ็ดวันล่ะ ท่านผู้เฒ่า”

เสนาบดียุนคงโกรธแค้นมากเลยสินะ ผมกับเพื่อนมองสบตาอาจารย์อย่างขอโทษขอโพย ซึ่งท่านเหล่านั้นก็ไม่ได้จะเมตตาเราเท่าไหร่หรอกมั้ง เห็นมองมาที่พวกเราอย่างถมึงทึงเชียว

คุกใต้ดิน...สามวันก็สามวัน...ก็แค่ขังเองคงไม่มีอะไรหรอกมั้ง

“อา...ข้าจะบ้าตายเสียให้ได้” พยองอันทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ หลังจากตอนที่พวกเขาสรุปให้พวกเราไปเข้าคุกใต้ดินของศาลไต่สวนก่อน และก็จับพวกเราเดินไปยังคุกอย่างรวดเร็ว

“คุกใต้ดินมีอะไรให้น่ากลัวหรือ”
“ความมืด...กลิ่นอับ...ไร้ซึ่งอาหาร มีเพียงแต่น้ำดื่ม”
กูเครียดเลย “จริงหรือ”
“จริงอย่างที่พยองอันเอ่ย” จีซูถอนหายใจ “พวกข้าไหว ข้ากับซองชิลโดนลงโทษจากท่านเสนาบดียุนบ่อยครั้งเมื่อยามเป็นเด็ก แค่นี้ทำอะไรเราสองคนไม่ได้...แม้จะหิวไปหน่อย” เขาทำหน้าเศร้า พวกเราเดินทางกันมาทั้งคืนไม่ได้กิน ไม่ได้นอน แถมยังต้องมาโดนลงโทษอะไรแบบนี้อีก
“แต่ก็ยังดี นี่ถือว่าเป็นโทษสถานเบาที่สุดแล้ว”
“ข้าบอกแล้ว ให้ทำหน้าน่าสงสารเข้าไว้จะเป็นการดี”

ด่านต่อไปที่จะมาทดสอบผมก็คือความมืดของคุกใต้ดินและความหิวจากท้องของผมเอง










คุกใต้ดินศาลไต่สวน

ในตอนแรกผมคิดว่าสามวันที่ไม่ได้กินข้าวของผมนั้นมันคงจะเล็กจิ๊บจ๊อยพอทนไหว แต่ที่ไหนได้ที่นี่มันทรมานมากกว่าที่คิดไว้
เคยอยู่ในที่ๆ มีความมืดมากที่สุดในโลกมั้ยครับ มองอะไรไม่เห็นทั้งสิ้น ผมต้องทำให้สายตาของผมปรับตัวอยู่นานมาก แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ทรมานมากจนเกินไปอยู่ดี เหมือนเป็นคุกที่จะต้องต่อสู้กับความคิดของตัวเอง นอกจากจะโดนกักขังแล้ว ยังจะต้องควบคุมไม่ให้ตัวเองกลายเป็นบ้าอีกต่างหาก

นอกจากจะมืดสุดติ่งกระดิ่งแมวแล้ว ผมกับเพื่อนยังถูกจับขังแยกไปคนละทิศคนละทาง ข้างๆ ผมเป็นคุณลุงคนหนึ่งที่ได้ข่าวว่าจับสาวชาวบ้านไปฆ่าข่มขืน ส่วนอีกข้างหนึ่งเป็นคุณน้าที่แต่ละวินาทีของชีวิตไม่ได้ทำอะไรนอกจากส่งเสียงเป็นระยะๆ ว่า...

”อา”

มันจะโอเคมากเลยครับ ถ้าน้าแกยอมหยุดพูดสักห้านาทีสิบนาทีบ้าง นี่เล่นพูดทุกสิบห้ายี่สิบวินาทีแบบนี้ ผมก็แทบจะอยากเป็นบ้าเหมือนกันนะ

แต่ไม่กล้าด่า กลัวด่าไปแล้วแม่งพังคุกมาเล่นงานผม...

ผมเอาแต่นั่งอยู่ในสุดของคุก บนพื้นมีเพียงฟางแห้งๆ สีเหลืองวางอยู่อย่างกระจัดกระจาย ตั้งแต่ที่เข้ามาผมนอนไม่หลับ ผมเอาแต่นั่งนิ่งๆ อยู่แบบนั้น และก็ดื่มน้ำที่ทหารคอยส่งมาให้ทุกหนึ่งชั่วยาม เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ นี่อาจจะเป็นแค่ตอนกลางคืนของวันแรกเท่านั้น

ช่างเป็นคุกที่ดัดนิสัยเด็กดื้ออย่างพวกผมได้ชะงัดนักแล...

“อา ไอ้เวรนั่น!”

ร้องเป็นครั้งที่หนึ่งพันแปดสิบสี่ของน้าแก...ผมพ่นลมออกมาอย่างเบื่อๆ ขณะที่คิดว่าควรจะนั่งวิปัสสนาในนี้ดีมั้ย เ   ผื่อจะช่วยให้จิตใจผ่องใสมากยิ่งขึ้น ความมืดแม่งไม่น่าใช่สิ่งที่จะเอามาเล่น มันทำร้ายและบั่นทอนจิตใจลงไปทีละนิดๆ จริงๆ ครับ

“เจ้าได้ข่าวหรือเปล่า” ทหารเวรที่เดินผ่านไปมากระซิบกระซาบกัน “ข่าวเรื่ององค์ชายซองโจน่ะ”

ผมหูผึ่งทันที เดินเข้าไปใกล้ประตูและก็พยายามที่จะแอบฟัง

“พระราชาทรงกริ้วมาก...พระองค์สั่งให้ทหารโบยองค์ชายตั้งหลายสิบที”
“จริงหรือ”
“แต่องค์ชายไม่ร้องเจ็บเลยสักแอะ”

หัวใจของผมหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม...ถูกโบยเลยเหรอ...ไม่ใช่ป่านนี้หลังเป็นแผลเหวอะหวะแล้วเหรอ

“แล้วเรื่องการแต่งงานล่ะจะยังดำเนินต่อไปหรือไม่ เห็นว่าทางคุณหนูยุนนาราก็ยังคงรอองค์ชายอยู่นี่นา”
“เรื่องนี้ได้ยินข่าวมาว่าองค์ชายน่ะยืนยันอย่างเด็ดขาดว่าจะไม่อภิเษกสมรสกับคุณหนูยุนอย่างแน่นอน”
“พระราชาต้องทรงกริ้วมากแน่ๆ”
“ก็ต้องเป็นอย่างนั้น ในเมื่อพระราชาโปรดองค์ชายซองโจมากกว่าองค์ชายแทจง ถึงขนาดสั่งเร่งงานอภิเษกสมรสขององค์ชายซองโจเพื่อเข้ารับตำแหน่งองค์ชายรัชทายาทอย่างเต็มภาคภูมิ”
“เรื่องนี้ต้องมีหลายฝ่ายไม่เห็นด้วยแน่ๆ องค์ชายแทจงมีเลือดเนื้อเชื้อไขของพระมเหสีโดยตรง...”
“เพราะวิสัยขององค์ชายใหญ่ไม่เหมาะกับการเป็นพระราชาน่ะสิ”

ฟังแล้วยิ่งเครียดยิ่งปวดหัวจี๊ด ที่แท้พระราชาก็อยากให้คังยูเป็นองค์ชายรัชทายาทมากกว่าองค์ชายใหญ่นี่เอง การถูกข้ามหน้าข้ามตาแบบนี้องค์ชายใหญ่คงต้องเก็บกดกับเรื่องนี้มากแน่ๆ นี่เป็นเรื่องใหม่ที่ผมเองก็เพิ่งจะทราบ

คังยูเคยบอกผมว่าเขาไม่สนใจเรื่องตำแหน่งองค์ชายรัชทายาทเลยสักนิด นั่นหมายความว่าความคิดของเขาสวนทางกับพระราชาโดยตรง

นี่มันเรื่องใหญ่ไปเรื่อยๆ แล้ว...ผมรู้สึกว่าตัวของผมหดเล็กลงอีกหลายต่อหลายเซนต์(ทั้งๆ ที่มันก็เล็กอยู่แล้วอ่ะนะ)

ความรักของผมในยุคนี้ แม่งไม่ใช่แบบที่ว่าสารภาพรักแล้วได้คบกันเป็นแฟน จบแฮปปี้เอนดิ้งจริงๆ ว่ะ

ผมตัวสั่นเกินกว่าจะควบคุม เมื่อยิ่งได้รู้ว่าคังยูกำลังตกที่นั่งลำบากผมยิ่งกลัวไปหมด เขาต้องเผชิญความตึงเครียดต่อหน้าพระพักตร์ของพระราชาอีกทั้งยังต้องเผชิญหน้าต่อขุนนางทั้งราชสำนักที่ตอนนี้คงแทบจะไม่มีใครสนับสนุนเขา เพราะเขาคือองค์ชายที่หนีการแต่งงาน

คังยูทำให้ผมรู้สึกว่าความมืดที่ผมเจอนั้นกลับกลายเป็นเรื่องเล็กแทบจะในทันที

“พวกเจ้าสองคน มาทางนี้!”

เสียงเหี้ยมของใครสักคนเรียกทหารเวรยามสองคนนั่นให้ออกไปหา หลังจากนั้นผมก็ได้ยินเสียงล้มตึง ดีที่ส่วนใหญ่นักโทษกำลังหลับ ไม่อย่างนั้นล่ะก็คนที่มาเยือนอาจจะได้รับความสนใจจากนักโทษในความมืดเหล่านี้

ผมที่ยืนอยู่ใกล้ประตูได้ยินเสียงก้าวย่างอยู่ทางเดินหน้าประตูห้องขัง ผมตกใจผงะถอยหลัง ล้มก้นจ้ำเบ้า

คนๆ นั้นกำลังเปิดประตูห้องขังผมอย่างแผ่วเบา จากนั้นเขาก็ปิดประตู...

ความมืดนี้ทำเอาผมจินตนาการไปต่างๆ นานาว่าผีหรือปีศาจร้ายกันแน่ที่เป็นผู้มาเยือน แต่เมื่อสัมผัสได้ว่าคนที่เข้ามานั้นมีกลิ่นและการขยับร่างกายที่เป็นเอกลักษณ์ ผมก็พอจะเดาออกทันทีว่าเป็นใคร

องค์ชายซองโจหรือว่าคังยูของผม...

เขาเดินสะดุดขาผม ผมถอยหลังจนชิดกำแพง ควานหาไปทั่วว่าเขาอยู่ไหน ในที่สุดผมก็จับเจอขาของเขา(ซึ่งยาวมากๆ เลยแม่เจ้าโว้ย) ผมดึงให้เขาลงมานั่งข้างๆ ผม เขาน่าจะนั่งข้างๆ ผมแล้วล่ะตอนนี้

“เป็นอย่างไรบ้าง” ผมกระซิบ

ปุก

คอยาวๆ ของคังยูเอนตัวลงมาซบกับไหล่ของผมอย่างเหนื่อยล้า ใจผมเต้นโครมคราม มือไม้ของผมเอื้อมไปจับใบหน้าของเขาอย่างห่วงใย

“เจ็บ...”

คังยูกล่าวสั้นๆ ง่ายๆ แต่นั่นเป็นเหมือนถ้อยคำที่เสียดแทงเข้าไปในหัวใจของผม

“ตรงไหน หลังเหรอ...”
“เจ็บไปหมดทุกส่วนเลย”

เขากางขายาวๆ ของเขาออกและก็ดึงร่างผมเข้าไปกอดแทน ตอนนี้ผมรู้สึกตื่นเต้นจนตัวสั่น พวกเราไม่เคยแสดงออกกันมากขนาดนี้ แม้ว่าจะตื่นเต้นแต่ด้วยเหตุการณ์ที่เราประสบพบเจอมันยากลำบากเกินกว่าที่จะมาโฟกัสเรื่องตื่นเต้น ผมก็เลยกอดเขาตอบ และมือของผมนั้นก็ได้สัมผัสกับแผ่นหลังของเขา...

...มันเต็มไปด้วยร่องรอยที่ผ่านการโบยมาจริงๆ ด้วย บางส่วนยังมีเลือดติดอยู่...ผมอ้าปากค้าง ไม่คิดว่าเขาจะโดนหนักขนาดนี้

“ทำไมเจ้ายอมข้าง่ายๆ” เขากระซิบข้างหูผม เอาศีรษะของเขาซบเข้ากับไหล่ของผม “หากเป็นเวลาปกติ เจ้าคงจะโวยวายหรือไม่ก็เดินหนีข้าไปแล้ว...”

“เจ้าจะยอมให้ข้าหนีมั้ยล่ะ”

“เรื่องอะไรที่ข้าจะยอม...” เขากระชับอ้อมกอดของเขาแน่นขึ้นและพยายามไม่ส่งเสียงดัง

“เจ็บมากหรือไม่” มือของผมไล้ไปตามรอยแผลที่อยู่ด้านหลังของคังยู

“ดีขึ้นแล้วล่ะ”

“...มือข้าไม่ใช่มือวิเศษนะ”

“ข้ารู้สึกว่าข้าดีขึ้นมากจริงๆ” คังยูไม่ยอมเอาหน้าของตัวเองขึ้นมาจากไหล่ของผมเลย “อา...จู๋...เนียร์”

จูเนียร์ที่ผมเคยสอนเขาไว้ไม่ได้หมายถึงชื่อของผม...แต่หมายถึงที่รัก อันนี้เขาจำไปเอง
นั่นทำให้ผมหน้าแดงก่ำแม้เราจะอยู่ในคุกที่โคตรจะอับนี่ก็ตาม

“ข้ายอมทำเรื่องใหญ่ขนาดนี้เพื่อคนที่ตัวเล็กเท่านี้” มือของคังยูกำลังจับตัวผมอยู่ “บอกข้ามาซิยองวอน”
“หืม?”
“เจ้ารู้สึกเหมือนกันกับข้าหรือเปล่า”

ผมกลืนน้ำลาย...มันใช่เวลาที่มาถามเหรอวะ

“ตอบข้ามา...คำตอบของเจ้าคือกำลังใจชิ้นดีของข้า”

ดีนะที่แม่งมืด...ผมค่อยๆ ผละออกมาจากตัวมัน ถึงอย่างนั้นก็ตามคังยูก็ไม่ยอมให้ผมอยู่ห่างมันไปไหน มันจับผมให้นั่งลงบนตักที่กำลังขัดสมาธิของมัน เฮ้อ กูยอมใจในความตัวเล็กของกูจริงๆ...

เป็นอีกครั้งที่อยากจะพูดว่าดีนะที่แม่งมืด ผมถึงกล้าพูดอะไรที่น่าเขินอายม้วนต้วนนี้ออกไป

“เจ้าถามว่าข้ารู้สึกเหมือนเจ้าหรือเปล่า แล้วเจ้ารู้สึกอย่างไรกับข้าล่ะ”

ไม่รู้ล่ะ เกมส์นี้กูต้องพลิกมาชนะมึงก่อน ก่อนที่มึงจะชนะกู...

“หืม?” คังยูเหมือนตอบไม่ถูก โอ้ย อยากเห็นหน้ามันตอนนี้มากๆ เลยครับ “ข้าน่ะหรือ...”

“...”

“อา ยองวอน จะให้ข้าพูดตรงๆ หรือ ถ้าหากว่าใจข้าต้องแป้วเพราะเจ้าไม่ได้คิดเหมือนข้าล่ะ ความรู้สึกของข้ามันไม่ใช่สิ่งที่จะพูดออกมาตรงๆ ได้นะ เพราะ...”

“ข้ารักเจ้า” ผมพูดตัดบทเขาด้วยหัวใจที่เต้นอย่างรุนแรง หลับหูหลับตาพูดแม่งไปแล้ว

สัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายตัวแข็งไปแล้วครับ เขาไม่ขยับเลยแม้กระทั่งหายใจ

“เจ้าว่าอย่างไรนะ”

ทำไมหูต้องมีปัญหาทุกทีเวลาแบบนี้นะ... “ข้า...”

“เจ้าบอกว่า...เจ้ารักข้าหรือ ยองวอน” มือเรียวยาวของคังยูดึงตัวให้ผมเข้าไปแนบชิดติดกับตัวของมัน “บอกมาให้ข้าได้ยินชัดๆ ดังๆ”

“พูดดังไม่ได้ บ้าหรือ” ชาวคุกตื่นกันหมดพอดี “ข้ารักเจ้า...คังยู”

คังยูนิ่งไปสักพัก ก่อนที่จะใช้มือเรียวยาวของเขามากุมมือผมเอาไว้...

“นี่ถ้าไม่มืด เจ้าก็คงไม่พูดสินะ”

“...”

“ข้าดีใจมากเลย จูเนียร์” คำนี้ของมันเหมือนจะชัดขึ้นไปเรื่อยๆ จนผมนึกว่าคนไทยกำลังเรียกผมอยู่

“อย่าปล่อยให้ข้าต้องพูดคนเดียวสิ” ผมอายจนต้องเอาหน้าไปซบกับไหล่มัน แม้จะรู้ว่ามันมองไม่เห็นหน้าผมก็เถอะ ตอนนี้คังยูเหมือนกำลังอุ้มเด็กวัยกำลังโต เขาหัวเราะเบาๆ ก่อนที่จะกอดผมแน่นขึ้น

“มันอาจจะแปลกไปสักหน่อยนะ ข้าเองก็ไม่คิดว่าข้าจะรู้สึกแบบนี้กับบุรุษเพศเดียวกัน...” คังยูกระซิบ “...แต่เจ้าคือคนที่ข้าสามารถสละทุกอย่างได้ ลาภยศ ทรัพย์สิน เงินทอง ข้าสามารถทิ้งมันทั้งหมดได้ หากได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเจ้า...”

ปลายจมูกโด่งของเขาฝังเข้าที่แก้มซ้ายของผม

“...ได้แต่งงานกับเจ้า”

เหมือนผมได้ขึ้นสวรรค์ไปแล้วทั้งๆ ที่ตอนนี้อยู่บนโลก มันซาบซึ้งกินใจมากสำหรับคำพูดของคังยู

“ข้าดีใจที่เจ้าคิดเหมือนข้า มองความรู้สึกข้าไม่ใช่เรื่องแปลก หลายครั้งหลายคราที่ข้าเองอยากจะกระโดดน้ำตายไปเสียเพื่อให้ข้าลืมความรู้สึกที่มีต่อเจ้า แต่ข้าทำไม่ได้...”

หากเป็นยุคสมัย 2015 ป่านนี้คังยูคงจะสามารถพูดมันออกมาตรงๆ และไม่มีความรู้สึกที่อยากจะกระโดดน้ำตาย...
ผมกำเสื้อเขาแน่น ขณะที่ผละใบหน้าออกไปจากไหล่ของเขา

ขออนุญาตใช้สิทธิ์คนรุ่นใหม่สั่งสอนคนรุ่นเก่า

“ความรักก็คือความรัก ในยามที่เจ้ารู้สึกรักใครสักคนก็ตาม เจ้าห้ามไม่ได้หรอก มันไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่มันคือสิ่งที่สวยงาม เพราะหลายครั้งที่ความรักนำพาความสุขมาให้...”

“...”

“หรือเจ้าไม่เห็นด้วยกับคำพูดนี้”

สิ้นสุดคำพูดของผม ริมฝีปากของคังยูก็เข้ามาประกบแลกจูบดูดดื่มกับริมฝีปากของผม ในความมืดมิดนั้นคังยูส่งผ่านความรักความรู้สึกที่มีให้ผมผ่านจูบร้อนแรงและมือที่ไม่ยอมปล่อยผมให้ห่างไปไหน

อย่างที่ผมบอก...นี่มันเหมือนขึ้นสวรรค์...

“ข้าสามารถพูดคำนี้ได้เต็มปากแล้วใช่หรือไม่...” ผมรอคอยคำพูดต่อไปของคังยู “เจ้าคือของๆ ข้า...”

ก็นึกว่าจะได้ยินคำนี้ซะอีก... เป็น แฟน กัน นะ

ผมหัวเราะกับความคิดของตัวเองก่อนที่จะตอบคังยูไปด้วยน้ำเสียงกระซิบตามเดิม

“เจ้าก็คือของๆ ข้าเช่นเดียวกัน...”

“อา...ข้าถูกใจเจ้าจริงๆ” คังยูเอาหน้ามาซุกไซร้ลำคอผมไม่เลิก

“นี่เจ้าไม่เจ็บแล้วหรือ”

“ความเจ็บน่ะ...ข้าลืมไปหมดแล้วล่ะ”

ผมยิ้มก่อนที่จะอยู่นิ่งๆ ให้คังยูฟัดได้อย่างตามใจชอบ...ยอมรับครับว่าผมน่ะปล่อยเนื้อปล่อยตัว...แต่เชื่อดิเป็นคุณคุณก็ทำจริงมั้ย #ยิ้มอ่อน

คังยูมันงานดีเกรดพรีเมี่ยมนะ...เขาติดกับผมแล้ว ผมก็ต้องทำให้เขารักเขาหลงผมสิ ใครเบะปากอยู่ผมเห็นนะ

เฮ้ย แล้วใครโยนรองเท้ามาใส่ผมครับ!!!!!! #กระโดดหลบ

“แล้วแอบออกมาเช่นนี่ หมั่นโถวไม่ว่าหรือ” จำพี่เลี้ยงร่างอ้วนของคังยูได้มั้ยครับ คนนั้นนั่นแหละ

“หมั่นโถวเฝ้าอยู่ทางเข้าคุกใต้ดินด้านนอก”

กูว่าแล้ว...มีหรือที่องค์ชายรองผู้อยู่ในกระแสจะเดินเพ่นพ่านในวังหลวงได้ตามใจชอบถ้าไม่มีคนช่วย

“อีกสักหน่อยข้าก็คงต้องไปแล้ว...”

อ้าวมึง...กูอุตส่าห์ปล่อยให้แต๊ะอั๋งจนพอใจแล้วจะทิ้งกูไปอย่างงี้น่ะเหรอออออ

ผมอ้าปากค้าง อดยอมรับไม่ได้ว่ารู้สึกผิดหวัง คืองี้ครับมันไม่ใช่เรื่องของการแต๊ะอั๋งอะไรใดๆ เลย แต่การที่คังยูอยู่ห่างจากผมไปแบบนี้ผมไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดคังยูในแบบนี้อีกมั้ย และเขาจะได้กลับไปเรียนซองกยุนกวานเหมือนพวกเราหรือเปล่า ผมไม่รู้อะไรเลยจริงๆ ครับ

มือเล็กๆ ของผมจับเสื้อของคังยูเอาไว้ราวกับต้องการเหนี่ยวรั้ง...

“กระต่ายน้อย ข้าเองก็อยากอยู่นี่เช่นเดียวกัน เมื่อสักครู่ข้าคิดว่าข้ายังได้ความหวานจากริมฝีปากของเจ้าอย่างไม่สาแก่ใจข้า...” มือของคังยูแตะริมฝีปากผม “...แต่ข้าหายไปจากตำหนักได้ไม่นาน เพราะเสด็จพ่อกำลังจับตาดูพฤติกรรมของข้าอยู่...”

ผมพยักหน้าเข้าใจเขา แม้จะผิดหวัง แต่คำว่ารักที่เพิ่งได้ยินก็ทำให้ผมมีกำลังใจที่จะอยู่ลำพังต่อ เพื่อรอเขา

“ข้าจะทำทุกอย่างให้เราสองคนได้อยู่ด้วยกัน”

คังยูจูบผมอีกครั้งหนึ่ง และก็จูบย้ำๆ หลายครั้งราวกับไม่ต้องการห่างไปไหน เขาเอาหน้าผากของเขามาชนกับหน้าผากของผมอยู่นานสองนานกว่าที่เขาจะลุกขึ้นและก็ออกจากห้องขังของผมไปอย่างเงียบเชียบ





TBC*






ขอโทษที่ย่อหน้าอาจจะแปลกๆ นะคะ
พอดีก็อปมาจากเวิร์ดของคอมใหม่แล้วมันไม่ยอมย่อหน้าให้
ต้องเคาะมือเอา กลัวจะบิดๆ เบี้ยวๆ เอียงๆ เหมือนสายตาคนเขียนค่ะ  :ling3:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
 :z13:
จิ้ม
คังยู... ฉันอยากได้ผู้ชายคนนี้ T.,T
น่ารักกริ๊บกริ้วปนหน่วงชอบกล
แต่นังจู ไหนบอกว่าจะไม่ยอมให้คังยูชนะไง สุดท้ายแกก็พูดก่อน
 5555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-03-2016 14:50:25 โดย boboman »

ออฟไลน์ SheGame

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ทำไมรู้สึกดีและเศร้าพร้อมๆกัน ของให้สำเร็จและได้อยู่ด้วยกันด้วยน้าาาาา เพี้ยงงงงๆๆๆ

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
ดีงาม ในที่สุดคังยูกับได้จูบแสนหวานจากจูเนียร์ 5555+

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
ดูมันยากนะถ้าจะได้อยู่ด้วยกัน

ออฟไลน์ bradpitt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
   “ข้ารักเจ้า...คังยู”

:mew3:

อ๊างงงงงงงงงงงงงงงงงง  :กอด1: 2 หนุ่ม เปิดเผยความในใจต่อกันแล้ว


 :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven

ลุ้นๆๆ  ฟันฝ่าอุปสรรค ข้างหน้า  .....พระราชา  :mew3:

ออฟไลน์ cocoaharry

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
    • cocoaharry_Demmy Chan_Otaku Y Girl
เป็นตอนที่หวานแต่เจ็บปวดไปพร้อมๆกัน ถ้าสุดท้ายไม่ได้อยู่ด้วยกันจะเศร้าขนาดไหน

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
อ๊ายยยยย....บอกรักกันแล้ว

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ขอให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี  :hao5:

บอกรักกันในคุกนี่มันก็เขินใช่ย่อย :-[

ออฟไลน์ haemin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
 :-[kiss คิสสึ กันแล้วววววววว

ออฟไลน์ มาม่าหมูสับ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
คังยูวววววว มีผู้ชายแบบนี้อีกไหม??  :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
หวานปนขม.  นี่แหละรักในยุคอดีต
เราควรกลับมาปัจจุบันกันดีไหม พากันข้ามมาโซล2016กันเถอะ.
เห็นแผลและน้ำตานี่ทนไม่ได้. ถึงเขาจะใจตรงกันรักกันแต่จะให้หวังรักสมหวังระหว่างชายกับชายในยุคโชซอนนี่นึกไม่ออกดลยอะค่ะ
ยังไงก็ขอจบแฮปปี้นะคะ.  :pig4:    :L2:   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-03-2016 21:36:44 โดย ❣☾月亮☽❣ »

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
โหยยยยยเศร้า เขาบอกรักกันแล้วว

ออฟไลน์ SLEEPERINDY

  • I am a normal girl.
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
จูบกันแล้วคะคุณ ขอจบแบบแฮปปี้เถอะน้า

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
อิจนังจูแรงมากอ่ะ นี่เบะปากมองบนเลยทีเดียว กระถางบินแปป ฟิ้วๆๆ~
กรี๊ดเบาๆ คือนางจูบกันแล้วค่ะ เขินค่ะ ฟินแปป อยากได้คนแบบคังยูบ้าง
แต่อ่านแล้วสงสารคังยูกับนังจูมาก อยากให้นังจูพาคังยูกลับปัจจุบันจริงๆ

ออฟไลน์ fanglest

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
เค้ามาหวานกันในคุกค่าาา
จะทำยังไงให้ได้อยู่ด้วยกันล่ะ
เรื่องรักเพศเดียวกันน่ะ คนสมัยก่อนเขามแงว่ามันวิปริตนะ ราชาจะยอมเหรอ อาจจะต้องยอมตายไปด้วยกันเลยก็ได้นาา

ออฟไลน์ tempo_oil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
ข้าอยากได้คังยูเหลือเกินนนนนนนนนนนน

ขอบคุณที่มาต่อนะคะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
ก็จับยุนนาราไปแต่งกับองค์ชายใหญ่ซะก็หมดเรื่อง ถ้าองค์ชายใหญ่มีมเหสีอยู่แล้วก็ให้เป็นสนมไปซะเลย

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
รู้สึกดีมากๆเลย รักคังยู งานดีงานเริ่ดสุด!!!!!!!

ออฟไลน์ apisaraa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
แม่คะ เขาบอกรักกัน ;______; ฮืออออออ ฟิน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด