ปัง ทิ้งไว้เพียงก้อนบรรยากาศแห่งความเงียบงัน
คนถูกเปิงโปงหูอื้อตาลายคล้ายจะเป็นลม เขินเสียยิ่งกว่าแก้ผ้าอีก เสียฟอร์มชะมัด!! ให้ตายเถอะ ร้อนจนหน้าชาไปหมดแล้ว เขาจะหน้าแตกกับคนทั้งโลกก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่กับหลงสิ
“คุณอโณ” เสียงทุ้มเรียกหา แต่เจ้าของชื่อยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมา “แอบมาตามหาผมเหรอครับ”
“......”
“จริงเหรอครับเนี่ย” ปกติก็หลงตัวเอง แต่รอบนี้หลงไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ฟูกนอนยุบลงไปฟากหนึ่งตอนที่ร่างสูงๆ คลานเข้ามาใกล้ อโณชาเผลอกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัวเมื่อเห็นอีกคนทิ้งตัวนั่งยังฝั่งตรงข้าม “ขอบคุณนะครับ”
อ่า...แบบนั้นยิ่งเสียฟอร์มเข้าไปใหญ่เลย“ผมดีใจ ดีใจมากๆ เลยครับ” น้ำเสียงสั่นจนคนฟังรู้สึกได้ หลงขบกัดปากอย่างคิดไม่ตก นี่คนอย่างเขาสามารถทำให้คุณอโณขับรถเป็นชั่วโมงมาตามหาได้เลยเหรอเนี่ย ทั้งที่เป็นแค่ไอ้หลงแท้ๆ นี่มันจะมากไปหรือเปล่านะ
“ขอบคุณที่ให้ความสำคัญกับผมขนาดนี้นะครับ” ดวงตาหลุบต่ำ “คุณอโณใจดีแบบนี้เสมอเลย ไม่ว่าเมื่อก่อนหรือตอนนี้”
“มันต่างกันนะ” คนตาโศกโพล่งออกมาหลังจากปล่อยให้ความเงียบเข้าปกคลุม “รอบก่อนฉันปล่อยหลงไปไม่ได้เพราะว่าสงสาร แต่คราวนี้มันไม่ใช่”
หลังมือหยาบกร้านถูกฝ่ามือขาววางทาบทับ วินาทีนั้นดวงตาทั้งสองคู่สบประสานกัน
“มันเพราะฉันรักหลง” คำว่า ‘รัก’ หวานหอนเช่นไรเพิ่งรู้แก่ใจวันนี้ ซาบซ่านในทรวงอกร้าวผ่าวที่ดวงตา เป็นครั้งแรกที่ได้ยินคำนี้จากอโณชาโดยตรง ไม่มีการวิ่งหนีหรือหลบเลี่ยงอีกต่อไป
ใบหน้าทั้งสองเคลื่อนเข้ามาใกล้กันราวกับมีแรงดึงดูด และเป็นอีกครั้งที่ได้สัมผัสริมฝีปากของอีกฝ่าย เผยอตอบรับและผละออกซ้ำอยู่อย่างนั้นไม่รู้เบื่อ สติสัมปชัญญะชักเลือนหาย รู้เพียงอย่างเดียวว่าต้องการคนตรงหน้า สัมผัสให้ลึกซึ้งขึ้น ครอบครองทุกตารางนิ้ว
“โอ๊ย!” อโณชาเผลออุทานเมื่อแผ่นหลังหล่นตุบบนฟูกบาง
“ขอโทษครับ เจ็บหรือเปล่า”
“ไม่เป็นไรหรอก”
“ฟูกมันบางมากเลย แบบนี้คง...”
“ก็เอามาวางซ้อนกันสิ”
หลงชะงักกึกกับประโยคเชื้อเชิญให้เบียดเสียดนัวเนียแบบอ้อมๆ เห็นอีกฝ่ายยิ้มเผล่แล้วเป็นต้องร้อนวูบวาบไปทั้งตัว ยั่วกันขนาดนี้จะมาว่าเขาทีหลังไม่ได้นะ
ฟูกนอนขนาด 3.5 ฟุตถูกยกวางซ้อนกันก่อนอโณชาจะถูกผลักลงไปนอนพร้อมเลิกเสื้อยืดขึ้นมากอง สีดำของมันตัดกับผิวขาวๆ สวยงามจนละสายตาไม่ได้ สองมือไม่วายโอบรอบคอดึงรั้งคนด้านบนลงมามอบจูบที่ปลายคางให้ ใบหน้าตกกระซุกลงที่ซอกคอ ไล้เลียต่ำลงมาถึงร่องไหปลาร้า ระมัดระวังไม่ให้เผลอทิ้งร่องรอยบนผิวขาว
“อื้อ” เสียงครางเล็ดลอดจากปากเมื่อยอดอกข้างหนึ่งถูกครอบครอง โพรงปากร้าวผ่าวดูดดึงหยอกล้อจนเผลอแอ่นกายขึ้นรับสัมผัส
ส่วนกลางลำตัวไวต่อสัมผัสจนซึมเลอะกางเกงบางๆ ทั้งที่น่าอายแต่อโณชากลับพึงพอใจอย่างที่สุดเมื่ออีกฝ่ายเคลื่อนริมฝีปากลงต่ำ พรมจูบไปทั่วหน้าท้องพร้อมกับดึงรั้งอาภรณ์ส่วนล่างลง เสียงครางหวิวลอดออกมาอีกครั้งเมื่อชายหนุ่มส่งมันเข้าสู่โพรงปาก
ปรนเปรอให้อีกฝ่ายด้วยความเต็มใจ คนด้านล่างได้แต่ดึงทึ้งฟูกเก่าๆ จนน่ากลัวว่ามันจะขาดติดคามือ
“อ๊า หลง” ชื่อปลอมที่กลายเป็นชื่อจริงถูกเปล่งออกมาพร้อมปลายนิ้วที่แทรกเข้าไปตามเส้นผม ดึงรั้งมันขึ้น “พะ..พอก่อน”
แม้จะสงสัยเหลือแสนแต่ไอ้ลูกหมาก็เชื่อฟังเจ้านาย คุณอโณไม่ใช่คนประเภทที่พูดว่า ‘อย่า’ แล้วแปลว่าให้ทำต่อเสียด้วย พอเห็นน้ำใสๆ ยืดติดจากส่วนนั้นขึ้นมาถึงริมฝีปากแล้วก็พานเดือดพล่านไปทั้งกาย
“ทำไมล่ะครับ ยังไม่ถึงเลยนี่นา”
หมับ “แว้ก!!” คนถูกลวนลามแทบกรี๊ดลั่น กะ...ก็ที่อยู่ในมือคุณอโณนั่นมัน...
“ใส่เข้ามาดีกว่า”
พูดออกมาแล้ว!! พูดออกมาแล้ว!! แถมไม่พูดอย่างเดียว แรงกดแรงบีบที่เป้ากางเกงนี่มันอะไร ลำพังก็ตื่นจะแย่แล้วคุณอโณมาจับแบบนี้มันตาสว่างยิ่งกว่าดื่มยาชูกำลังสิบขวดต่อวันเสียอีก
“ตะ...แต่...” พ่อลูกหมาสั่นหงักๆ อ้อมแอ้มถาม “ไม่มีอุปกรณ์นะครับ”
“ฉันเอาใส่กระเป๋ามาด้วย”
ขวับ มันหันแทบไม่ทัน อ้าปากค้างขณะที่ร่างด้านล่างคลานออกไปคว้ากระเป๋าเดินทางพร้อมหยิบของสองสิ่งในนั้น แค่เห็นหลงก็เขินจนต้องถูใบหน้าแรงๆ
“เรื่องวางแผนผมสู้คุณอโณไม่ได้จริงๆ” ไอ้ที่คิดว่าพามาออกทริปทำคะแนนตีตื้นคุณนายเก๋ากี้นี่เด็กน้อยไปเลย
“ไหนว่าเป็นเจ้าพ่อละครไทย” อโณชาเลิกคิ้ว “กระต๊อบกลางป่านี่โลเกชั่นยอดนิยมเลยนะ”
“ถ้างั้นลองไปมัดคุณอโณติดกับต้นไม้ดีไหมครับ ผมให้เลือกเลยว่าชอบต้นไหน แอ้ก!!” กล่องถุงยางปะทะดั้งแทบยุบ กระเกรอะแทบหลุดออก ด้วยกลัวจะโดนด่าซ้ำมือไม้สั่นๆ รีบแกะของในมือ “คะ..ครับ ใส่เลยนะครับ”
แม้จะทำร่วงไปรอบหนึ่งแต่ไอ้หลงก็สามารถดึงถุงยางออกมาจากซองพร้อมสวมเรียบร้อย เรียกขวัญกำลังใจกลับมาได้เป็นผลสำเร็จ คุณทิวนักเรียนนอกยกสองขาพาดบนบ่า ครั้งนี้เขาจะเป็นคนปรนนิบัติให้อโณชาเอง เจลหล่อลื่นเย็นๆ ถูกชโลมไปทั่วช่องทางด้านหลัง
“อา” ทันทีที่นิ้วแรกแทรกเข้าไปร่างนั้นก็บิดเกร็ง กล้ามเนื้อสวยๆ ปรากฏยามเอี้ยวตัว สองมือจิกลงหมอนที่รองอยู่ใต้คอ
คนกระทำกลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่ ขยับวนในร่างอีกฝ่ายเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าพร้อมแล้วจึงเพิ่มจำนวนเข้าไป เสียงเฉอะแฉะดังทุกครั้งที่ขยับนิ้ว
“หลง อื้อ.. พอแล้ว” อโณชางึมงำเหมือนคนเมา “เข้ามาเถอะ”
สองขากางออกกว้างขึ้นให้หลงแทรกตัวเข้าไป ส่วนนั้นค่อยๆ ถูกดูดกลืนช่างเป็นภาพที่ลามกเสียจริง แต่กระนั้นหลงก็ชอบมองจุดที่ร่างกายเชื่อมต่อกัน เขากระชับท่อนขาบนบ่า ยกสะโพกอีกฝ่ายขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเริ่มขยับเข้าออก
อากาศด้านนอกเย็นสบาย ทว่าด้านในกลับร้อนรุ่ม เสียงเนื้อกระทบกันยามขยับกายดังก้องในรูหู อโณชายกแขนโอบรั้งร่างด้านบนลงมา แลบปลายลิ้นแตะที่คาง ยั่วยวนเสียจนไอ้หลงแทบคลั่ง
มือหยาบกร้านเอื้อมไปสัมผัสส่วนนั้นของอโณชาเช่นกัน ขยับให้อีกฝ่ายรู้สึกดีไปด้วย สองร่างสอดประสานกันราวกับต้องการถูกอีกฝ่ายกลืนกินให้ลึกเข้าไปอีก
วินาทีที่ปลดปล่อยออกมาเหมือนล่องลอยบนฟ้า การถูกเติมเต็มด้วยอีกฝ่ายชวนอิ่มเอมไปทั้งอก หลงถอนกายออกมา มองอโณชาที่เหลือเพียงเสื้อยืดกองที่คอแถมหน้าท้องยังเลอะคราบขาวเต็มไปหมด ฟีโรโมนแผ่ซ่านจนแทบสำลัก มันเอื้อมไปคว้าผ้าขนหนูบนหัวเตียงมาซับของเหลวออก
“ขอโทษนะครับ เลอะหมดเลย” พูดไปก็หน้าร้อนไป “รอบนี้ผมทำได้ดีกว่าคราวก่อนไหมครับ”
“รอบก่อนฉันขยับนี่ หลงไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย” มาแอบอ้างแบบนี้อโณชาต้องบ่นบ้างล่ะ
“อ้าว เหรอครับ” มันขมวดคิ้ว “แล้วมันดีไหมครับ”
“อืม” คนแก่กว่าพลิกตัวตะแคง มองใบหน้าของหลงให้เต็มตา ดวงตาเรียวๆ สันจมูกเลอะกระที่น่ารักน่าชัง สีหน้าที่ลุ้นระทึกแบบนั้นจะให้ทำร้ายได้ลงคอเชียวเหรอ “ดีสิ”
“จริงเหรอครับ!”
“บอกตามตรงนะ คราวก่อนน่ะเห็นอย่างนั้นแต่ฉันกังวลมาก” นิ้วเขี่ยไปมาที่ปลายจมูกอีกฝ่าย “มีอะไรด้วยทั้งที่ปิดบังเรื่องอดีตของหลง มันแย่มากนะ ถ้าหลงจะเกลียดฉันก็ไม่แปลกเลย”
“ไม่นะครับ ผม...”
“แต่รอบนี้ฉันมีความสุขมาก” เสียงทุ้มนุ่มแทรกขึ้นมา อกซ้ายอบอวลด้วยความสุข รอยยิ้มในดวงตาโศกนั้นสวยงามที่สุดเท่าที่หลงเคยเห็นมา “ขอบใจนะ”
การยอมรับตัวตนของกันและกันมันดีแบบนี้นี่เอง ร่างสูงๆ โถมเข้ากอดอโณชา ฟัดซ้ายฟัดขวาเหมือนลูกหมาเขี้ยวเพิ่งขึ้น ไม่ไหวแล้วทำไมคุณอโณถึงได้น่ารักขนาดนี้ ทั้งจูบทั้งดูดแก้มประหนึ่งจะเคี้ยวเข้าปาก
“โล้งงงงงงง เลอะน้ำลายหมดแล้ว”
“ทีคุณอโณเลียคางผมล่ะครับ”
“โอ๊ย จั๊กจี้นะ”
“แฮ่กๆ ๆ ๆ”
ใบหูถูกโจมตีแทะโลมจนอโณชาหดคอหนีแทบไม่ทัน เขาระเบิดเสียงหัวเราะลั่นเมื่อสันจมูกเลอะกระดมฟุดฟิดที่ข้างแก้ม ถูไปมาอย่างบ้าคลั่ง “ฮ่าๆ ๆ”
ไม่ไหวเลย ไอ้ลูกหมานิสัยเสียเอ๊ย!....................................................
..............................
.............
......
แข็งแกร่งกว่าคนเหล็กก็อโณชาเนี่ยแหละ!จะอะไรเสียอีกถ้าไม่ใช่ว่าเมื่อคืนโดนไปสองรอบ แต่ตอนเช้าลุกขึ้นมาซักผ้าปูที่นอนหน้าตาเฉย แถมยังแยบยลด้วยการมาหลอกขอใช้เครื่องกับเมียพี่สายัณห์อีก! เทพกว่านี้มีอีกไหม
แต่ความเหนือธรรมชาตินั้นยังไม่จบเมื่อหลงหันไปทางขวาของตัวเอง อโณชานั่งอยู่ตรงนั้นในมือถือพวงมาลัยรถไว้แน่น ย้ำอีกครั้ง! พวงมาลัยรถ!
“ให้ผมขับเถอะครับ คิดเสียว่าขอร้อง”
“ไม่ให้” ทางนั้นก็ดื้อแพ่งจับแน่นกว่าเดิมอีกทีนี้ “บอกแล้วไงว่าไม่เป็นไร จะให้ฉันเตะกอกล้วยโชว์เลยไหมล่ะ”
เพราะเสียวๆ ว่าถ้าดื้อต่อกอกล้วยจะเปลี่ยนเป็นคอมันแทนไอ้หลงจึงยกมือยอมแพ้ “คะ..ครับ เชิญขับตามสบาย”
หลังจากล่ำลาป้าสาและคณะเรียบร้อย Chevrolet Cruze คันเดิมออกทะยานสู่ท้องถนนอีกครั้งพร้อมหันพิกัดเข้าหาเมืองหลวง
ล้อหมุนช้าๆ เรื่อยเปื่อยให้คุ้มค่ากับที่ลางาน บรรยากาศตอนออกจากกาญฯ รายล้อมไปด้วยป่าเขาสลับกับบ้านเตี้ยๆ หลังคามุงกระเบื้องสีแสบตา อโณชากดเปิดเพลงอีกครั้งไม่ให้เงียบเหงาเกินไป ไม่อย่างนั้นเขาจะเผลอหลับระหว่างทางได้ ไอ้เจ็บน่ะไม่เท่าไหร่เขาอึดอยู่แล้ว แต่ความเพลียนี่สิน่าเป็นห่วง เอาเป็นว่าถ้าง่วงเมื่อไรก็ขอแวะงีบที่ปั๊มสักหน่อยก็แล้วกัน
“ไว้เรา...” ตุ๊กตาหน้ารถอ้อมแอ้มพูดเมื่อเห็นป้ายว่าข้ามมาอีกจังหวัดแล้ว “มากันอีกดีไหมครับ”
“หลงชอบต้นไม้สินะ”
“ไม่ใช่แค่ชอบต้นไม้สักหน่อยครับ” เจ้าตัวรีบโพล่งเพราะกลัวอีกฝ่ายเข้าใจผิด “ผมอยากไปทุกที่กับคุณอโณต่างหาก”
“หือ?”
“รอบนี้คุณอโณมารู้จักผม ผมก็อยากรู้จักคุณอโณมากขึ้นเหมือนกัน”
“นี่ยังรู้จักฉันไม่พอหรือไง ตัวติดกันมากี่เดือนแล้วหือ?”
“ไม่พอหรอกครับ!” มันตบเข่าตัวเอง งอแงเหมือนเด็ก “กับคุณอโณน่ะเท่าไหร่ก็ไม่พอหรอก”
ดูโรคจิตยังไงชอบกล แต่อโณชากลับใจเต้นตึกตักอย่างห้ามไม่ได้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าดีใจแค่ไหนที่ถูกอีกฝ่ายผูกมัดเอาไว้ ยิ่งหลงขยับเข้ามาเท่าไหร่โลกของเขาก็สว่างราวกับได้แสงสะท้อนจากดวงอาทิตย์
“ว่าแต่...” ทางนั้นลากเสียงยาว “ทั้งที่เคยมาแล้ว แต่คุณอโณแกล้งถามทางผมเลยเหรอครับ”
พรืด! มือกระตุกจนเกือบโดนรถด้านหลังสอยไปนอนเป็นกล้วยทับ อโณชาเถียงข้างๆ คูๆ ด้วยใบหน้าขึ้นสี “กะ..ก็มีลืมบ้าง”
“แถมยังแกล้งหลงทางอีก เพราะอยากจะอยู่กับผมนานๆ ใช่ไหมล่า”
“...คือมัน...”
“น่ารักจัง”โธ่เว้ย! ใครสั่งใครสอนให้หลงทำตัวแบบนี้ ชักจะมากไปแล้วนะ! เขามีสิทธิใช้คำนั้นกับหลงได้ฝ่ายเดียวไม่ใช่เหรอ กล้าดียังไงมาพูดจาไล่ต้อนเขาแบบนี้ เป็นแค่หลงแท้ๆ!
ร่างฟิวชั่นระหว่างทิวากรกับหลงช่างน่ากลัวนัก จะประมาทไม่ได้เด็ดขาด!อโณชาพึมพำ “แต่ก่อนน่ารักกว่านี้แท้ๆ”
“อะไรนะครับ?”
“เปล๊า” ขืนรู้เดี๋ยวก็มางอแงหลงคนนั้นคนนู้นอีก เอาเป็นว่าเจ้าเล่ห์ขึ้นแต่ปัญญานิ่มเท่าเดิม แต่ตรงนั้นแหละที่อโณชาว่าน่ารัก
ล้อหมุนเข้าสู่เขตป่าไม้อีกครั้งพร้อมท้องฟ้าที่ขึ้นสีจัด เครื่องปรับอากาศต่อสู้กับแสงแดดด้านนอกได้อย่างสูสีจนอโณชาต้องปรับลดแอร์ลง ถนนทอดยาวด้านหน้ามีแต่ต้นไม้เต็มสองข้างทาง สบายตาจนเผลอสัปหงกไปหนึ่งที โชคดีที่ไม่มีรถแถวนั้นจึงรอดตายมาได้
หงึก..“คุณอโณ!”
“หือ?” คนขับสะบัดหัวแรงๆ พยายามทำตาตาโตๆ เอาไว้ “มีอะไรเหรอ”
“ง่วงใช่ไหมครับ” เห็นอีกฝ่ายทำท่าจะดื้อแพ่งไอ้ลูกหมายิ่งคาดคั้น “เมื่อกี้สัปหงกสองสามรอบอย่าคิดว่าผมไม่เห็นนะครับ!” ระดับนี้แค่คุณอโณกระดิกหูยังเห็นเลย นี่เล่นผงกทั้งหัวอย่าหวังจะรอด
“ก็นิดหน่อย เดี๋ยวพ้นเขตตรงนี้ไปน่าจะมีปั๊ม”
“ไหวเหรอครับ ขามาผมจำได้ว่าเส้นนี้มีแต่ต้นไม้ยาวเลยนะครับกว่าจะถึง” แววตาห่วงใยนั่นปิดไม่มิด “ให้ผมขับแทนไหมครับ”
“หลงขับไม่คล่องจะน่าเป็นห่วงกว่าฉันน่ะสิ” ทางนั้นก็ไม่ยอมท่าเดียว “ถ้าจะช่วยก็ชวนฉันคุยแล้วกัน”
“งั้นเรามา...อ๊ะ!!” ดวงตาเรียวเบิกกว้างเมื่อพบเป้าหมายบางอย่าง มันรีบชี้ไม้ชี้มือเข้าข้างทาง “ตรงนั้นครับตรงนั้น มีที่พักรถด้วย”
ถึงจะพูดว่าที่พักรถจริงๆ มันก็แค่ศาลาริมทางหลังเล็กที่มีพื้นที่ให้จอดรถข้างๆ แต่ด้วยขี้คร้านจะเถียง แถมยังเพลียเหลือทนอโณชาจึงพยักหน้าแล้วหักพวงมาลัยเข้าไปจอดเทียบทันที ชายหนุ่มปลดเข็มขัดนิรภัยออกพร้อมปรับเบาะให้นอนเอนจนสุด ไหลลงไปราวกับไม่มีกระดูกสันหลัง
“ผมดับเครื่องให้นะครับ”
“อื้อ” เปลือกตาหนักอึ้งปรือขึ้นเล็กน้อยแล้วก็ปิดลงทันที “ไม่ต้องหรอก ขอสักสิบนาทีหลงปลุกหน่อยก็แล้วกัน”
อโณชารู้ลิมิตตัวเอง ถ้านอนนานกว่านั้นจะกลายเป็นหลับลึกพอตื่นอีกทีจะปวดหัวสุดๆ เวลาประมาณนี้แหละกำลังดี ดูท่าจะเพลียมากจริงๆ แค่วางหัวเพียงครู่เดียวก็เข้าสู่นิทราไปแล้ว
ผู้โดยสารอีกคนเอนเบาะตามลงมาให้อยู่ระดับเดียวกัน ไม่ได้ง่วงอะไร แต่ถ้านั่งมันมองหน้าคุณอโณไม่ถนัดนี่นา ใบหน้ายามหลับทั้งสวยงามและใสซื่อราวกับเทวดา อยากจะเอื้อมมือเข้าไปสัมผัสทว่ากลัวจะไปรบกวน
ต้นไม้ใหญ่ด้านบนแผ่กิ่งก้านทาบทับเงาบนใบหน้านั้นราวกับงานศิลปะชิ้นหนึ่ง หลงงอแงกับตัวเองในใจว่าไม่อยากกลับไปเลย แต่พอคิดอีกทีกลับไปก็ได้อยู่กับคุณอโณอยู่ดี งั้นกลับก็ได้!
เพลงสากลจาก USB บรรเลงกล่อมอย่างอ่อนโยน รสนิยมการฟังเพลงของอโณชาเย็นสบายเหมือนเจ้าตัว ไม่มีเพลงตี๊ดๆ บาดหูสักเท่าไร จึงเหมาะจะเปิดฟังระหว่างเดินทางกลางป่ากลางเขามากๆ หลงเลยได้เคลิบเคลิ้มกับอาหารตาและหูไปพร้อมๆ กับ
เวลาไหลผ่านไปเรื่อยๆ สิบนาทีนั้นสั้นราวหายใจทิ้ง แม้จะอยากอยู่ต่อเพียงไหนแต่หมาที่ดีก็เชื่อฟังเจ้านาย เอื้อมมือไปเขย่าเบาๆ ที่แขนเสื้อ
“สิบนาทีแล้วครับ”
“อื้อ” ทางนั้นครางหงุดหงิดเหมือนเก๋ากี้ไม่มีผิด เสียแต่ว่าคุณอโณน่ารักกว่าเยอะ เปลือกตาค่อยๆ ขยับเปิดอย่างอ่อนล้า พลิกตัวนอนตะแคงมาทางหลง “ขออีกห้านาที”
“เดี๋ยวปวดหัวนะครับ”
“นอนเฉยๆ ไม่หลับแล้ว ปรับสมองแป๊บหนึ่ง” ทางนั้นต่อรอง
“ถ้าอย่างนั้นมาเล่นเดาเพลงกันอีกดีไหมครับ” เพลง Man in the mirror ของ James Morrison กำลังจะจบลง หลงเงี่ยหูฟังเพลงต่อไปทันที และทันทีที่อินโทรขึ้นเจ้าตัวก็พูดอย่างตื่นเต้น
“เพลงนี้ผมชอบครับ!” พ่อหนุ่มนักเรียนนอกร้องทัก
“ฟัง Ed Sheeran ด้วยเหรอ” เพราะหลงทำเสียงตื่นเต้นอโณชาจึงพลอยตื่นตามไปด้วย
“ประจำเลยล่ะครับ เสียงกีต้าร์โปร่งเด่นเวลาไปออกค่ายเลยนิยมเล่น” คนเล่าตาเป็นประกาย “นี่เพลงโปรดผมก่อนเสียความจำเลยครับ ร้องบ่อยมาก”
“งั้นเหรอ” ชายหนุ่มทำหน้าไม่เชื่อ หลงที่ร้องเพลงชาติเพี้ยนขนาดนั้นน่ะนะมีเพลงที่ร้องประจำด้วย
https://www.youtube.com/v/bFgZMe7mHggดวงตาซุกซนของไอ้ลูกหมาวาววับตอนที่ขับคอร์ดได้ มันวาดนิ้วขึ้นในอากาศ “นี่ไงครับ มันเริ่มด้วย E”
“เลิปวิ่ง แคน เฮิร์ท เลิปวิ่ง แคน เฮิร์ท ซัมทาม~ บัท อิส เดอะ โอนลี่ติง แดท ไอ โนว~”
“โล้งงงงง ไม่ต้องร้องเสียงหลงสมชื่อก็ได้”
ใบหน้าตอนหัวเราะของอโณชาสวยงามเสียจนต้องหยุดร้อง ปล่อยให้ดนตรีบรรเลงไป
When it gets hard, you know it can get hard sometimes
It is the only thing that makes us feel alive น้ำตาในใจแห้งเหือดไปแล้ว อโณชายิ้มออกมาเคาะปลายนิ้วตามจังหวะเพลง
We keep this love in a photograph “เหมือนรูปนั้นเลยเนอะครับ”
We made these memories for ourselves “ที่หลงตาเหลือกน่ะเหรอ” เสียงกลั้วหัวเราะนั้นน่าฟังอย่างที่สุด
Where our eyes are never closing
Hearts are never broken
And time's forever frozen still ใช่แล้ว รูปที่ตลกที่สุด ทว่าสวยงามที่สุดเมื่อถูกหยุดเวลาไว้...
So you can keep me
Inside the pocket of your ripped jeans
Holding me closer 'til our eyes meet
You won't ever be alone, wait for me to come home มือหยาบกร้านสอดประสานเข้ากับอีกฝ่าย บีบเบาๆ ให้มั่นใจ
Loving can heal, loving can mend your soul
And it's the only thing that I know, “know”
“ฮ่าๆ ๆ ไม่ว่าแล้วก็ได้ จะร้องก็ร้องสิ”
I swear it will get easier,
Remember that with every piece of you
And it's the only thing we take with us when we die แสงแดดทาบทับบนร่าง เงาไม้ สีเขียว และคนตรงหน้า ภาพนี้กำลังถูกประทับลงในความทรงจำไม่ต่างจากรูปถ่ายอีกใบ
We keep this love in this photograph
We made these memories for ourselves
Where our eyes are never closing
hearts are never broken
And time's forever frozen still เสียงฮัมเพลงดังขึ้นพร้อมกับเสียงหัวใจ และมากขึ้นอีกเมื่อหลงยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้
So you can keep me
Inside the pocket of your ripped jeans
Holding me closer 'til our eyes meet
You won't ever be aloneลมร้อนๆ เป่าอยู่ข้างใบหูราวกับเอ่ยบอก “And if you hurt me that's okay baby, only words bleed. Inside these pages you just hold me and I won't ever let you go”
Wait for me to come home
Wait for me to come home
Wait for me to come home
Wait for me to come home นิ้วโป้งเกลี่ยลงบนฝ่ามือขาวอย่างทะนุถนอม
You can fit me
Inside the necklace you got when you were sixteen
Next to your heartbeat where I should be
Keep it deep within your soul
And if you hurt me
Well, that's okay baby, only words bleed
Inside these pages you just hold me
And I won't ever let you go จดจำทุกรายละเอียดของคนตรงหน้า อ้อมกอด รสจูบ รอยยิ้มอันแสนหวาน..
When I'm away, I will remember how you kissed me
Under the lamppost back on Sixth street
Hearing you whisper through the phone,กระซิบคำสัญญาที่ข้างหู
"Wait for me to come home."
รอยจูบที่หลังมือร้อนผ่าวจนแทบละลายถึงกระดูก อโณชาเฝ้ามองใบหน้าของคนรักที่แนบสนิทลงมา รอยกระน่ารักๆ นั่นขึ้นสีแดงเรื่อจนอดจะหน้าร้อนตามไม่ได้ เขาดึงมืออีกฝ่ายกลับมา ประทับจูบลงบนหลังมือเช่นกัน
ค่อยๆ ถักทอความทรงจำเข้าด้วยกัน
รอยยิ้ม หัวเราะ จากลา
แต่เขารู้ดีว่ามันจะสวยงามที่สุดเมื่อมีคนตรงหน้า
จดจำทุกช่วงเวลา บันทึกรูปถ่ายด้วยดวงตาคู่นั้น
เพราะมันไม่มีวันเลือนหายไปอย่างแน่นอน