► หลง (มา) รัก ◄ เขาเรียกผมว่าหลง+แจ้งข่าวเปิดจอง [UP! 19/06/60] p.37
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ► หลง (มา) รัก ◄ เขาเรียกผมว่าหลง+แจ้งข่าวเปิดจอง [UP! 19/06/60] p.37  (อ่าน 332465 ครั้ง)

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ถถถถถ ร้องไห้ได้น่าสงสารและน่าเอ็นดูมากกกกกกก

ออฟไลน์ sine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 321
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +129/-3
ฮืออออ  แอบสงสารคนป่วยนะ
ความกลัว...แบบนั้นมันน่ากลัวจริงๆค่ะ  เฮ่ออออ

ว่าแล้วไม่จนไปกว่าพี่ภาพกับตาคิน  ก็น่ากลัวว่าจะไปขุดหนอนกินนะคะนั่น ฮา..

สู้ๆค่ะ
รอตอนต่อไป^^

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
คนดีจริงๆ

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
เดาเคะเดาเมะไม่ยากหรอ -______-!

ไอ่เราหนะอยากให้คนที่ความจำเสื่อมเป็นเมะอ่าาาาาา
เมะทำอาหารเก่ง ไปอยู่กับอโณก็ค่อยทำกับข้าว ทำงานบ้านให้ โรเเมนติก น่ารักกกกก

ออฟไลน์ Fragrant

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
ใครจะรุก ใครจะรับยังนึกภาพไม่ออกเลย
ปล. ขี้มูก?!  :a5:

ออฟไลน์ Pamaipraewa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
คิดภาพตามแล้วขำกร๊ากกกก

นายอโณนี่ช่างน่าสงสารจริงๆ-..-

รอสองคนนี้ไปอยู่ด้วยกัน//เหมือนได้ลูกมาเลี้ยง555

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
รอติดตามตอนต่อไป อยู่น้า สนุกมากก :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ mirin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ลุ้นว่าใครจะเป็นพระเอก  :hao3:

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
น่าสงสาร จนอยากเอามาเลี้ยงเลย

พี่อโณก็หล่อจน ขนาดคนความจำเสื่อมยังหลง 555555+

ออฟไลน์ akashita

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
โอยย ร้องไห้ขนาดนี้ น่าเอ็นดู....

พี่อโณ เอาไปรับเลี้ยงไว้ก่อนนี่แหละดีที่สุดคร่า หุหุ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เอิ่ม นี่คือแผนสำนึกบุญคุณเพื่อความมั่นคงในชีวิตรึเปล่า ว่าแต่ตอนร้องไห้น่ารักดีนะ (อโณไม่ได้กล่าวไว้ ฮา)
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 847
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
ทำไมอ่านแล้วตลกทุกดอก ขำจริงขำจัง
หนุ่มไม่มีชื่อคนนี้ทำม้ายยยทำไมถึงได้ขี้แงนัก น่ารักละเกิน
 

ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
ขำแรงมากจนหน้าสั่น 555555555555555555555

 :laugh: :laugh: :laugh:

พ่อหนุ่มความจำเสื่อมนี่ช่างน่าเอ็นดูเหลือเกิน ฮือววววววววว
ตะลั่คมั่ก! สงสารแต่ก็ขำพี่อโณด้วย ไม่รู้จะซวยอะไรนักหนาเนอะ โถๆๆๆ

แต่รับพ่อหนุ่มความจำเสื่อมไปอยู่ด้วยแบบนี้
สังหรณ์ใจว่าพี่อโณอาจจะมีเรื่องซวยตามมาอีกเป็นพรวน กร้ากกกกกก

รอติดตามตอนหน้านะคะ
อยากให้เค้าไปอยู่ด้วยกันไวๆ ล่ะ แอร๊ยยย  :hao7:

ออฟไลน์ ต้นไม้กลางป่าใหญ่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รอๆค่ะ  :pig4:

ออฟไลน์ ssipra

  • นักอ่านมืออาชีพ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ทำไมร้องไห้ได้น่ารัก

ออฟไลน์ jaja-jj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
พี่อโณเป็นเคะใช่มั้ยคะ   คุณค่าที่นายความจำเสื่อมคู่ควร 55555  ไหนบอกไม่ปล่อยมุกไงคะ  talk ยังขำเลย จนกว่าพี่ภาพกะคินคงต้องขุดหนอนกิน   เห็นภาพพอๆกะขี้มูกในตอนนี้เลยค่ะ

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
น้อง 'หลง' น่ารักจัง ร้องไห้เหมือนเด็กเลย พี่โณรับมือดีๆ นะ

ปล. ดีใจที่ได้อ่านงานของคุณ Indigo แบบถ่ายทอดสด
เราหลงรักใส่รักป้ายสีกับ DND ล่ะ กลับไปอ่านอยู่เรื่อยๆ

ออฟไลน์ bew_yunjae

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เหมือนอโณจะได้ลูกแทนสามีนะคะ
ทำไมร้องไห้ขี้มูกโป่งอย่างนี้ 5555
โอ๊ยขนาดบอกไม่ฮานะ แค่ตอนร้องไฟ้งอแงเราก็ขำแล้ว
อัพๆต่อนะคะ จะรอจ้าาา

ออฟไลน์ kaokorn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
บทมันเหมือนจะเศร้านะ แต่อ่านแล้วยิ้มอ่ะ 555+
รออ่านตอนต่อไปว่าสองคนนี้จะใช้ชีวิตหลังจากนี้ยังไง

ออฟไลน์ Indigo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1030/-7
ความทรงจำที่ 3

   “มาอยู่กับฉันก่อนก็ได้นะ....”

“อ่า...คงจะฟังดูแปลก ๆ ใช่ไหม” คนเอ่ยชวนเกาท้ายทอย “แต่คิดว่าเราน่าจะคุยให้เป็นกันเองมากขึ้นน่ะ  คุณเองก็น่าจะอายุน้อยกว่า  ถ้าขอเปลี่ยนสรรพนามเป็น ‘ฉัน’ แทน  น่าจะไม่เกร็งหรือเปล่า?” อโณดูเสียความมั่นใจไปเล็กน้อย “แต่ถ้าไม่ชอบใจก็...”
หมับ!
   สองมือคว้าหมับเข้าที่กลางเสื้อของคนตรงหน้าก่อนจะดึงเข้ามาซบใบหน้าลงตรงหน้าท้อง  แผ่นหลังกว้างของคนป่วยสั่นเหมือนลูกนกเปียกน้ำ  ปากก็เอาแต่บ่นพึมพำ
   “ขอบคุณครับ  ฮึก...ขอบคุณมากครับ”



   ครืดดดดดดดดดดดดดด
   “อ้าว!  ขอโทษที่ทำให้ตื่นนะคะ” เสียงโทนแหลมสูงของผู้หญิงแล่นเข้าสู่โสตประสาทเป็นอย่างแรก  ตามมาด้วยแสงแดดที่วิ่งแย่งกันเข้ามาในม่านตา “หลับต่อก็ได้นะคะ”
   “อื้อ...” เขาครางในลำคอ  ทุกวันการลืมตาตื่นเป็นเรื่องยากเสมอ  ทั้งปวดหัวปวดตัว  แถมกระดูกซี่โครงที่หักยังทำให้หายใจแรง ๆ ไม่ได้อีกต่างหาก  ชายหนุ่มขยับตัวพอให้รู้สึกกระฉับกระเฉงขึ้น “ไม่เป็นไรครับ  ตื่นเช้าก็ดีเหมือนกัน”
   เขาแว่วเสียงพยาบาลหัวเราะคิกคัก “อีกสักยี่สิบนาทีมื้อเช้าถึงจะมานะคะ”
   “ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มยิ้มตอบ “อ้อ  รบกวนคุณพยาบาลเปิดผ้าม่านให้สุดหน่อยครับ”
   “ห้องอับสินะคะ  รับแดดบ้างก็ดีเหมือนกันค่ะ”
   ผ้าสีเทาถูกลากไปสุดราง  เผยให้เห็นท้องฟ้าสีส้มกับตึกสูงของกรุงเทพฯ  คนป่วยใช้เวลาปรับสายตาสักพักจึงจะมองภาพนั้นได้เต็มตา  จะว่าสวยก็สวย  จะว่าเฉย ๆ ก็ใช่  ว่าไงดีล่ะ...ตอนนี้เขาเหมือนคนต่อมสุนทรีย์ตายด้าน  ไม่รู้จะเรียกอะไรว่าสวยหรือขี้เหร่ดี

   โอ๊ะ!  แต่จะว่าไปก็มีอย่างหนึ่งที่รู้สึกว่าสวยนี่นะ...

   “ดีใจด้วยนะคะ  วันนี้ได้ออกโรงพยาบาลแล้ว” หล่อนเดินมาเช็คระดับน้ำเกลือ  ดึงนู่นดึงนี่ไปมาพลางชวนคุย “นอนมาตั้งสองอาทิตย์กว่า  คงเบื่อแย่สินะคะ”
   “ก็ไม่เชิงนะครับ”

   พูดตามตรงแล้ว  เขาก็ไม่รู้ว่าเบื่อหรือเปล่า  ตามปกติแล้วคนจะรู้สึก ‘เบื่อ’ ก็ตอนที่อยากไปทำอะไรอย่างอื่นใช่ไหม  แต่เขาไม่รู้ว่าตัวเองควรจะทำอะไร  งานเหรอ?  หน้าที่เหรอ?  ของแบบนั้นมันคืออะไรล่ะ  เพราะไม่มีจุดหมายที่ว่า  เขาเลยพูดคำว่า ‘เบื่อ’ ได้ไม่เต็มปาก

   “เสียดายวันนี้แมกกาซีนฉบับใหม่มาลงด้วย   เลยไม่ได้อยู่อ่านเลยนะคะ” เขาพยักหน้าหงึกหงัก  จริงของหล่อน  ตั้งแต่ดวงตาเริ่มฟื้นตัวเขาก็เอาแต่ดูรูปในแมกกาซีน  หนังสือพิมพ์และทีวี  ด้วยหวังว่าจะนึกอะไรขึ้นมาได้บ้าง  แต่ก็นั่นแหละ  นอกจากพบว่าตัวเองอ่านหนังสือไม่ค่อยคล่องแล้ว  ก็ไร้เบาะแสอย่างอื่น “เดี๋ยวมาเก็บของเก่าไปไว้ข้างนอกนะคะ  เผื่อรอคนมารับจะได้อ่านฉบับใหม่ทัน”
   “อย่าลำบากเลยครับ”
   “ไม่ลำบากหรอกค่า” หล่อนว่าขณะรวบหนังสือที่หัวเตียงไว้เป็นกองเดียวกัน  ก่อนจะเหลือบไปเห็นแจกันข้าง ๆกัน “ดอกไม้ก็เหี่ยวหมดแล้วด้วย  ถ้าอย่างไรดิฉันเอาไปทิ้งให้นะคะ”
   “อย่าครับ!” ชายหนุ่มเผลอเสียงดัง  พอรู้ตัวก็รีบปรับลงมา “คะ...คืออย่าเพิ่งทิ้งเลยครับ”
   “เอ๋  แต่ดอกไม้มัน...”
   “เดี๋ยวผมจัดการเองครับ  คุณพยาบาลไปดูแลห้องอื่นต่อเถอะครับ”
   “อ๋อ...ค่ะ” แม้ว่าจะมึนงงแต่เธอก็ยอมจากไปแต่โดยดี  โดยไม่ลืมกล่าวนัดแนะเรื่องอาหารเช้าเสียด้วย  ทำหน้าที่ได้ไม่ขาดตกบกพร่องเลยทีเดียว

   หนุ่มหน้าตกกระชะเง้อคอกระทั่งบานประตูงับลงจนเหลือเขาเพียงคนเดียวในห้อง  จึงค่อย ๆ ยื่นมือไปหยิบช่อดอกไม้เล็ก ๆ   ไม่สิ...พูดให้ถูกมันก็แค่ดอกไม้สี่ดอกมัดรวมกันเท่านั้น  ไม่ได้มีการจัดวางที่ดีอะไรเลย  ถึงกระนั้นเขาก็ยังมองว่ามันสวย
   ใช่...เป็นหนึ่งในไม่กี่อย่างที่เขารู้สึกว่า ‘สวย’
   เขามองมันอย่างอาลัย  ดอกไม้ย่อมเหี่ยวเฉาตามธรรมชาติ  ทั้งที่เป็นแบบนั้นแต่เขาก็ยังชอบที่จะจ้องมาสีม่วงของมันที่ค่อย ๆ กลายเป็นสีน้ำตาลกรอบ ๆ   เขาตัดสินใจเด็ดมันออกมาดอกหนึ่งแล้วซุกไว้ในกระเป๋าเสื้อ  สมองนึกโยงไปถึงเจ้าของดอกไม้
   ความทรงจำหนึ่งเดียวที่มีตอนนี้  คือวินาทีที่ผู้ชายคนนั้นดึงเขาขึ้นมาจากหลุมอันมืดมิด
   นี่ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เขารู้สึกว่า....

   “อาหารเช้ามาแล้วค่า” คนป่วยบนเตียงหลุดออกจากภวังค์หันมองคุณพยาบาลที่เข็นถาดอาหารเข้ามาวางให้ “วันนี้วันสุดท้ายแล้วนะคะ  ทนกินอาหารจืดไปหน่อยนะคะ”
   ชายหนุ่มคลี่ยิ้มให้ “ขอบคุณมากครับ”

......................................................................
.............................................
........................
..............

   ให้ฉันรอแล้วได้อะไร  ให้ทนรอขอมากไปไหม  แล้วชีวิตฉันที่เหลือให้ทำไง  เธอเคยจะนึกถึงฉันบ้างไหม  คนที่รอ~

   เพลงจากโทรทัศน์ดังไม่หยุด  เป็นจังหวะเดียวกับที่พยาบาลสาวเปิดประตูห้องเข้ามา “เอ๋~  ยังไม่มารับอีกเหรอคะ?”
   ฉึก! ดั่งมีศรแหลมทิ่มแทงใจ ‘คนที่รอ’
   “นี่ก็จะเที่ยงแล้วนะคะเนี่ย”
   ฉึก! หล่อนกระชากศรออกก่อนกระซวกเข้ามาใหม่
   “ไหนว่าจะมาก่อนเที่ยงกันน้อ  แบบนี้ให้ดิฉันยกข้าวกลางวันมาให้ก่อนไหมคะ”
   คราวนี้หล่อนง้างศรสุดมือ
   “หรือว่า...จะลืมมารับนะคะ”
   ซวก!  ซวก!  ซวก!

   แม่พยาบาลฆาตกรยิ้มเลือดเย็นพลางเอียงคอสงสัยแบบแบ๊ว ๆ   หล่อนถามด้วยจิตใจใสซื่อจริง ๆ   ใครจะไปคิดว่าคนบนเตียงจะทำหางลู่หูตกแบบนั้นล่ะ “ดิฉันล้อเล่นน่ะค่ะ  แฮะ ๆ” เกือบหลุดปากต่อว่า ‘อย่าร้องไห้นะคะ’ แล้วเชียว
   คนป่วยส่ายหน้าให้หล่อนเหมือนจะบอกว่าไม่เป็นอะไร  ทั้งที่หน้าเน่อซีดไปหมด  ความกังวลสั่งสมมาตั้งแต่เช้ากำลังกัดกินหัวใจดวงน้อย ๆ ของผู้ชายตัวใหญ่  เขานั่งห่อไหล่ม้วนตัวเข้ากับผ้าห่มดูคล้ายดักแด้
   ชุดสีเขียวของโรงพยาบาลยังติดคาตัวอยู่ทั้งที่ใกล้จะได้เวลาออกจากโรงพยาบาล  เพราะเขาไม่มีชุดมาเปลี่ยนและยังไม่มีใครนำมาให้  ชายหนุ่มกัดเล็บกึก ๆ เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเข้าไม่มีแผนสำรองสำหรับเรื่องนี้เลย  จริงสิ...ทำไมเขาถึงไม่ฉุกคิดเลยว่าอโณชาอาจจะไม่มารับเขาก็ได้
   ตลอดสองอาทิตย์ที่อยู่ที่นี่  ฝ่ายนั้นมาเยี่ยมเขาน้อยมาก  นับรวมทั้งหมดน่าจะราว ๆ ห้าวันได้  แถมเสาร์อาทิตย์ที่น่าจะหยุดงานก็ดันหายจ้อยปล่อยเขาเขี่ยรีโมตทีวีเล่นจนหมดวัน  เขารู้ตัวว่าไม่มีสิทธิเรียกร้องอะไร  แต่บางครั้งมันก็สร้างความกลัวในใจขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้
   พอมาลองคิดดูแล้ว...ไม่มีหลักประกันอะไรเลยว่าอโณชาจะกลับมา...

   ผัวะ!
   สิ้นความคิดนั้นประตูบานหนักก็ถูกผลักเข้ามา  พร้อมกับร่างของชายที่กำลังถูกนึกถึง  อโณชาดูสบาย ๆ ในชุดเสื้อยืด  กางเกงขาสามส่วน  รองเท้าผ้าใบและทรงผมยุ่ง ๆ ที่ไม่ได้เซ็ท  ดูเด็กลงกว่าปกติที่ใส่สูทมาก ๆ จนผู้ร่วมห้องอีกสองคนได้แต่อ้าปากค้าง
   “โทษทีที่มาสายนะ  พอดีรถติดมากเลย” เจ้าตัวพูดแบบนั้นทั้งที่หน้ามีรอยยับ  ดูอย่างไรมันก็เพิ่งตื่นไม่ใช่เรอะ!!  ดีไม่ดีนี่ออกจากบ้านมาไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำไป  โกหกได้แย่บรม! “อ๊ะ!  ชุดเอาไปเปลี่ยน”
   คนป่วยรับมาแบบงง ๆ ขณะที่อโณชารีบตัดบท “เดี๋ยวเปลี่ยนชุดเสร็จไปพบคุณหมอประวิทย์อีกทีนะ”
   หนุ่มตกกระพยักหน้าหงึก ๆ ก่อนจะรีบกระตือรือร้นลงจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำไป  ทิ้งให้อโณชาถอนหายใจโล่งอก  นึกว่าจะโดนบึ้งตึงใส่แบบวันก่อนที่มารับช้าซะแล้ว  ก็ไอ้มือถือเจ้ากรรมมันดันไม่ปลุกน่ะสิ  หรือปลุกแล้วแต่อโณไม่ตื่นก็ไม่อาจรู้ได้  แต่เอาเป็นว่าเพราะมัน!  เพราะมันแน่ ๆ !

   “ดีนะคะเนี่ย  ที่คุณอโณมาทัน” อโณหันขวับไป  สาวพยาบาลเจ้าเนื้ออีกแล้ว  เพิ่งรู้ว่าเธอเข้าเวรกะเช้ากับเขาด้วย
   “มาทัน?  ผมพลาดอะไรไปเหรอครับ?”
   เธอหัวเราะคิกคัก “เปล่าหรอกค่ะ  ไม่ได้พลาดอะไรหรอกค่ะ” ฟังแบบนี้คิ้วอโณยิ่งขมวดไปกันใหญ่  เธอจึงช่วยคลายสงสัย “ก็คุณคนป่วยน่ะสิคะ  สงสัยกลัวคุณอโณจะเบี้ยว  ชะเง้อคอรอแล้วรอเล่า”
   “หา?  ผมเนี่ยนะจะเบี้ยว?”
   “หูยยยยยย  คุณอโณน่าจะมาเห็น  หน้างี้หงอยเป็นหมาถูกทิ้งเลยค่ะ” หล่อนตบเข่าฉาด  ก่อนจะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าคนถูกนินทาอยู่ในห้องน้ำจึงค่อย ๆ ลดวอลลุ่มลง  หล่อนป้องปาก “คงกลัวไม่มีคนมารับมั้งคะ  เฮ้อ...จะว่าไปก็สงสารแก”
   หวา...รู้สึกผิดไปกันใหญ่เลยแฮะ  อโณถูกหน้าตัวเองแรง ๆ หวังให้รอยที่นอนบนใบหน้าคลายลงบ้าง  ถ้าถูกจับได้ว่ามารับช้าเพราะตื่นสายคงน่าโกรธอยู่หรอก
   ยังไม่ทันต่อบทสนทนาประตูห้องน้ำก็เปิดผัวะออกมาเสียก่อน  ไม่รู้ว่าแต่งตัวเร็วอะไรปานนั้น  ตอนนคนป่วยสลัดชุดสีเขียวเหม็นน้ำลายบูด ๆ นั่นทิ้ง  แล้วเปลี่ยนมาเป็นเสื้อยืดกับกางเกงยางยืดของอโณแทน  ดูท่าอโณชาจะไตร่ตรองเป็นอย่างดี  ถึงได้เลือกเสื้อผ้าที่ค่อนข้างฟรีไซส์มาแบบนี้  จะมีติดขัดนิดหน่อยก็ตรงรองเท้าแตะที่เล็กเกินจนส้นเท้าเกินออกมาเกือบครึ่ง
   “เรียบร้อยแล้วเราไปคุยกันคุณหมอกันเถอะ” คนป่วยพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะออกเดินตามต้อย ๆ ไปเงียบ ๆ   เขาแหงนหน้ามองท้องฟ้าที่วันนี้แดดจ้าจนปวดหัวแล้วก็อดจะตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้

   ความรู้สึกเหมือน ‘เกิดใหม่’ คงจะเป็นแบบนี้สินะ...

................................................................
..........................................
.........................
.............

   คุณหมอประวิทย์ลงตารางนัดไว้ในวันอาทิตย์ของสัปดาห์หน้า  เขาว่าช่วงแรก ๆ ต้องติดตามผลอย่างใกล้ชิดเพื่อวางแนวทางการรักษา  กรณีของผู้ชายคนนี้เป็นการสูญเสียความทรงจำที่เกิดจากอุบัติเหตุ  คุณหมอบอกว่ามีโอกาสหายสูงมาก  แต่ต้องได้รับการกระตุ้นอย่างสม่ำเสมอ  หมั่นฝึกสมองด้วยการกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้งห้าอันประกอบไปด้วยการได้ยิน  มองเห็น  ได้กลิ่น  ลิ้มรส  และสัมผัสอารมณ์ต่าง ๆ   รวมไปถึงการออกไปพบปะผู้คน  เผื่อว่าจะเจอจุดเชื่อมโยงกับตัวเองในอดีต
   อโณชาก้มหน้าก้มตาจดคำแนะนำของคุณหมอลงสมุดโน้ตจนตัวอักษรติดกันเป็นเส้นเดียวและคงมีแค่เขาที่อ่านออก  ชายหนุ่มเหลือบมองคนเด็กกว่าที่กำลังจะมาร่วมอยู่อาศัยด้วย  ฝ่ายนั้นดูเกร็ง ๆ ตั้งใจฟังคุณหมอจนเกินงาม  อโณนึกสงสัยว่ารู้เรื่องหรือไม่รู้เรื่องกันแน่
   หลังนัดหมายเรียบร้อยก็แวะไปรอรับยาที่ชั้นล่าง  ราว ๆ สิบนาทีต่อมา  ร่างทั้งสองก็ออกเดินไปยังทางเดินสีขาวเกลี้ยงของโรงพยาบาล  คนป่วยรู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อย  แต่พอยกมือขึ้นจับที่อกตัวเองพบว่ามันไกลคำว่านิดหน่อยไปโขเลย

   ตึกตัก  ตึกตัก

   ก้อนเนื้อที่อกซ้ายดีดดิ้นอย่างบ้าคลั่งจนเขาอยากจะหันหลังกลับไปให้หมอตรวจให้อีกสักรอบ  ทว่าเสียงเรียกจากด้านหน้าดังขึ้น
   “รีบมาเร็ว  เดี๋ยวเย็นกว่านี้รถจะติดมากนะ”
   ไม่รู้ว่าดีขึ้นหรือแย่ลง  หัวใจเจ้ากรรมดูจะบีบตัวแรงขึ้น  แต่สองเท้าของเขาเริ่มก้าวไปข้างหน้าอย่าไม่ลังเล  ก้าวออกไปสัมผัสแดดโดยตรงในรอบสองอาทิตย์  เสียงรองเท้าแตะกระทบกับพื้นดังเป็นจังหวะเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับนกที่กำลังโผออกจากกรง  เมื่อพ้นขอบประตูบานเลื่อน  แสงแดดแรกที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นใหม่สาดแสงลงบนใบหน้า  แล้วเขาก็พบว่ามันช่าง...

   ร้อนฉิบหาย...

   “ไปยืนตรงนั้นทำไมล่ะ  รถจอดทางนี้” อโณโบกมือหย็อย ๆ เรียกจากทางซ้ายเป็นตัวตัดอารมณ์ชั้นดี  หนุ่มผู้ได้รับแสงแรกของชีวิตใหม่เดินคอตกตามต้อย ๆ ไปอย่างเสียมิได้  เขาเดินช้ากว่าปกตินิดหน่อยเพราะขนาดรองเท้าที่เล็กเกินไป “ก่อนเข้าห้อง  เราแวะซื้อของกันดีกว่าเนอะ”
   “ซื้อของ?” ชายหนุ่มดูกังวลอย่างเห็นได้ชัด “แต่ว่าผมไม่มีเงิน”
   “เอาน่า  แค่เสื้อผ้ามันจะสักกี่ตังค์เชียว  แล้วดูสิรองเท้าเล็กขนาดนั้นจะใส่ได้ยังไง” อโณเริ่มรู้สึกว่าตัวเองพูดอะไรเหมือนตาลุงแก่ ๆ ที่หวังจะเคลมเด็ก  ไม่ได้การละ  เขาต้องรีบตัดบท “ขึ้นรถเร็ว”
   โชคดีที่การสื่อสารของเด็กนี่ดูจะมึน ๆ เอ๋อ ๆ   พ่อหนุ่มตกกระจึงไม่ทักท้วงอะไร  แถมยังพยักหน้าแล้วเปิดเข้าไปนั่งข้างคนขับเสียดิบดี
   รถเชฟโรเลต  ครูซ  สีดำของอโณชาค่อย ๆ แล่นออกจากโรงพยาบาล  โดยมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง  เสียงเพลงจากวิทยุเปิดเพลงสากลเคล้าด้วยเสียงฮัมเพลงจากอโณชาก็ฟังรื่นหูดีหรอก
   “พอจะนึกอะไรออกไหม?” อโณหันไปถามคนข้าง ๆ เล่นเอาสะดุ้งสุดตัว  จะให้บอกเหรอว่าไม่ได้ตั้งใจดูวิวข้างทางเพราะมัวแต่ฟังเพลงน่ะ
   “ยังนึกอะไรไม่ออกเลยครับ” เขาโกหกเอาตัวรอด  จริง ๆ ยังไม่ได้มองอะไรเลยต่างหาก
   “เหรอ” ฝ่ายนั้นก็ดูไม่คาดหวังเช่นกัน “ไม่เป็นไรเนอะ  ค่อย ๆ คิดไปแล้วกัน”
   “ครับ”
   “นอนโรงพยาบาลนานจนหนวดขึ้นแล้วนั่น” อโณชาว่า “เดี๋ยวซื้อมีดโกนด้วยเนอะ”
   คนป่วยพยักหน้าหงึก ๆ แล้วหันไปตั้งใจมองถนนหนทางแทน  เสาไฟฟ้าต้นแล้วต้นเล่าผ่านหน้าผ่านตาพร้อมป้ายชื่อถนนต่าง ๆ   เขาพยายามอ่านตามและจดจำข้อมูลที่ไร้ประโยชน์เหล่านี้  ทั้งที่ยังนึกไม่ออกว่าจะเอาไปใช้อะไรในอนาคตเหมือนกัน
   เพราะออกมาตอนบ่ายสองทำให้ใช้เวลาไม่นานก็ฝ่ารถออกมาจากถนนร้อน ๆ ได้สำเร็จ  อโณชาพยายามชวนคนข้าง ๆ คุยนู่นนี่ตลอดทาง  หนักไปทางฝนฟ้าอากาศเสียเยอะ  ถึงสมองจะอืด ๆ โหลดข้อมูลอยู่นานกว่าจะตอบได้  อย่างที่คุณหมอบอก  เรื่องความรู้รอบตัวยังจดจำได้  แต่เหมือนกับคุยกับคนปกติที่เอ๋อ ๆ นิดหน่อย
   หลังจากวนหาที่จอดรถราวสิบนาที  รถของอโณชาก็จอดแน่นิ่งในซองเรียบร้อย  เจ้าตัวเดินตัวปลิวลิ่ว ๆ นำไปแบบไม่เห็นฝุ่น  ลำบากถึงคนป่วยต้องเร่งฝีเท้าตาม  โชคดีที่ขายาวกว่าเดินตามความเร็วได้ไม่ยาก
   “หิวข้าวหรือยัง?  ขอโทษนะ  บ่ายสองแล้วยังไม่ได้กินข้าวกลางวันเลย”
   “ไม่เป็นไรครับ”
   “โทษทีน้า  ฉันกินข้าวไม่เป็นเวลาตลอดเลย  แต่คุณหมอบอกให้นายกินข้าวเป็นเวลา  จะได้เป็นกิจวัตร” คนพูดว่าไปเรื่อย ๆ “ถ้ายังไง  ตั้งแต่พรุ่งนี้เริ่มกินข้าวกันเป็นเวลาเลยแล้วกัน”
   “.........” อโณเล่นรัวใส่แบบนี้  ใครจะไปตอบอะไรทัน
   “อยากกินอะไรล่ะ?”
   “อะไรก็ได้ครับ”
   อโณนึกด่าตัวเอง  ให้คนป่วยเลือกนี่คงไม่เวิร์คจริง ๆ นั่นแหละ “คงเบื่ออาหารโรงพยาบาลใช่ไหม  งั้นไปกินราเมนกันดีกว่า  น่าจะย่อยง่ายหน่อย  กินเสร็จแล้วรีบไปซื้อรองเท้าใหม่กัน  ไม่พอดีแบบนี้คงเดินลำบาก”
   “ครับ”

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Indigo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1030/-7

   มื้ออาหารแรกนอกโรงพยาบาลผ่านไปอย่างเรียบง่าย  คนป่วยหลับหูหลับตาจิ้มเมนู  ได้ราเมนจืด ๆ มีหมูลอยอยู่สามสี่แผ่นมาชามหนึ่ง  ดีที่รสชาติถูกปากอยู่บ้าง
   ระหว่างกินอาหาร  หนุ่มตกกระลอบสังเกตคนฝั่งตรงข้าม  วันนี้ผู้ชายคนนี้ดูดีมีชีวิตชีวากว่าตอนมาเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาลมาก  คาดว่าเพราะไม่ได้ไปทำงานล่ะมั้ง  และยิ่งมองเขาก็ยิ่งพบว่า  คนตรงหน้ามีความสุนทรีย์ไม่ต่างจากดอกไม้ที่เขาแอบซ่อนในกระเป๋าเลย
   ผมแสกกลางปล่อยปอยผมยุ่ง ๆ ปรกข้างแก้มเรียกได้ว่าเป็นทรงผมปราบเซียนสุด ๆ   ทำแล้วไม่ตายแถมยังดูดีนี่ไม่ธรรมดาจริง ๆ   ไหนจะใบหน้าได้รูป  ดวงตาโศก   ริมฝีปากบางเปื้อนยิ้ม  ไม่แปลกใจเลยที่ตั้งแต่เข้าห้างฯมา  เขาจะสัมผัสได้ว่ามีคนแอบมองมาทางอโณชาแล้วซุบซิบกัน  แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่
   “มีแบบเสื้อผ้าที่อยากใส่เป็นพิเศษหรือเปล่า?” อโณถามโพล่งขึ้นมาระหว่างเดินออกมาจากร้านอาหาร “อ่า...จำไม่ได้ว่าตัวเองใส่แบบไหนด้วยสินะ  อืม...”
   “ผมแต่งตัวแบบไหนก็ได้ทั้งนั้นครับ”
   “แบบนั้นยิ่งยากไปกันใหญ่เลย!” อโณเกาหัว  สองขาหยุดเดินเมื่อตอนนี้เคว้งคว้างไร้จุดหมาย “เอ่อ...อยากใส่เสื้อตัวใหญ่ไหม?”
   “แค่ใส่สบายก็พอแล้วครับ”
   “แล้วเอ่อ...กางเกงล่ะ  ผ้าหรือยีนส์ดี?”
   “ได้หมดครับ”
   “โธ่!   อะไรก็ได้นี่มันยากที่สุดเลยนะรู้ไหม!” อโณชาเกาหัวแกรก ๆ
   “งั้นเอาแบบไม่ต้องแพงน่ะครับ  ผมเอ่อ...เกรงใจ...”
   “ไม่ได้หรอก  ไม่ได้!” เจ้าของกระเป๋าตังค์ส่ายหน้า “เสียเงินทั้งที  ฉันไม่ยอมซื้อของไม่ดีหรอกนะ  เสื้อผ้ายิ่งแล้วใหญ่เลย!” เห็นคนป่วยไม่กระตือรือร้น  อโณเลยเป็นฝ่ายลากแขนไปแทน “มาร้านนี้แล้วกัน  แนว Casual ดีไซน์ดีมากเลย”

   ถามว่าเป็นประโยคแนะนำเหรอ?  ไม่เลย!  มันคือประโยคคำสั่งกลาย ๆ ชัด ๆ   เมื่ออโณชาลากแขนหนุ่มตกกระเข้าร้านเสื้อผ้าที่อยู่ถัดไปอีกโซน  พนักงานกล่าวต้อนรับเสียงใส  ดูท่าจะเป็นร้านประจำ  อโณชาพาเดินเข้าไปมุมเสื้อผ้าสุภาพบุรุษราวกับล็อกเป้ามายมาจากบ้านแล้ว  มาถึงปุ๊บก็คุ้ยเขี่ยหาเสื้อผ้าทันที
   “น่าจะเน้นเสื้อยืดหน่อยนะ  เพราะนายพักผ่อนอยู่บ้าน  ว้าว!  เซลพอดีเลย!” ใครว่ามีแต่ผู้หญิงที่ชอบของเซลโปรดดู!  นายอโณชาคนนี้ขอยืนยันว่าของถูกใครก็ชอบทั้งนั้นแหละ “ลายกราฟฟิกเรียบ ๆ น่าจะเหมาะนะ” ว่าแล้วก็ยกทาบตัวนายแบบ “โอ้ว!  เหมาะนี่นา”
   ไอ้หนุ่มนายแบบยืนทำหน้ามึน ๆ   ยังไม่ทันจะอ้าปากพูด  ตัวใหม่ก็ทาบลงมาต่อ “ฉันชอบพวกเสื้อยืดสกรีนลายไทโปน่ะ  นายโอเคไหม?”
   “ห๊ะ?”
   “หรือว่าชอบเป็นลายการ์ตูนหน่อย” ว่าแล้วก็ยกเสื้อลายหมาโกลเด้นหน้าโง่ ๆ ขึ้นมา “ตัวนี้ก็น่ารักดีนะ  หน้าตาดูเหมาะ...เอ่อ...ฉันหมายถึงเหมาะกับแฟชั่นน่ะ”
   ผมก็ยังไม่ได้ว่าอะไรเลยครับ
   “มีแต่เสื้อยืดมันก็แปลก ๆ เนอะ  หาเชิ้ตไปสักตัวเผื่อมีเรื่องต้องใช้ด้วยดีกว่า  นายไหล่กว้างกว่าฉันเยอะยืมใส่คงไม่ไหว”
   ตัวแล้วตัวเล่าทาบลงที่คอหนุ่มตกกระจนลายเสื้อที่ใส่อยู่แทบลอกออกตามไปด้วย  อยากจะบอกอยากจะห้ามใจจะขาดว่าจะซื้ออะไรมาเยอะแยะขนาดนั้น  แต่เห็นสีหน้าอาเสี่ยกระเป๋าหนักแล้วพูดไม่ออก  อะไรมันจะมีความสุขกับการเลือกเสื้อผ้าปานนั้น  ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่หยิบนู่นหยิบนี่  แล้วทำหน้าเหมือนซื้อเสื้อนักเรียนตัวแรกให้ลูกชายนั่นมันอะไรกัน

   “คุณ...ชอบแต่งตัวใช่ไหมครับ?” ชายหนุ่มอดจะถามออกไปไม่ได้
   “ฉันดูเป็นแบบนั้นเหรอ?” คนถามพยักหน้า “งั้นเหรอ”
   “ก็ดูมีความสุขมาก ๆ น่ะครับ”
   “การได้ใส่เสื้อผ้าดี ๆ มันทำให้มีความมั่นใจใช่ไหมล่ะ  ดังนั้นมันเป็นสิ่งสำคัญ  ต้องพิถีพิถันกันหน่อย”
   “แต่ซื้อเยอะขนาดนั้นมัน...”
   “ไม่เป็นไรน่า!  ของมันได้ใช้  ซื้อ ๆ ไปเถอะ” เสื้อยังไม่ทันวางอโณก็ก้มหน้าลงไปดูที่เท้า “รองเท้านี่ต้องซื้อเปลี่ยนอย่างแรกเลย”
   “........” คนเท้ายาวพูดไม่ออกเพราะหลักฐานมันตำตา
   อโณจดจ้องมันอยู่พักหนึ่งคำนวณคร่าว ๆ ด้วยสายตา “น่าจะราว ๆ เบอร์45-46 นะ  เดี๋ยวฉันดูแตะคู่ที่ใส่สบาย ๆ ให้”

   สถานการณ์คล้ายอาเสี่ยซื้อของเต๊าะเด็กนี่มันอะไรกันนะ  อีหนูนี่ก็เล่นตัวจั๊ง!  เสี่ยหยิบแอร์เมสยัดใส่มือก็ปัดออก  บอกเอาแค่กระเป๋าเกรดมิเรอร์ก็พอ  เล่นตัวไปก็เท่านั้น  อย่างไรเสี่ยก็จะซื้อ!
   เสี่ยอโณเดินถือตะกร้าที่บรรจุเสื้อผ้าเสียเต็มสตรีมเข้าไปจ่ายเงินแบบไม่กลัวขนหน้าแข้งร่วง  พ่อนายแบบตัวสูงและไหล่กว้าง  จับใส่เสื้อตัวไหนก็สนุกไปหมดเลยเผลอหยิบหนักมือไปหน่อย  เอาเถอะ  ถ้าหายดีกลับบ้านได้เมื่อไรค่อยยึดเสื้อกลับมาใส่ก็ได้  หลวมไปหน่อย  แต่แต่งให้ดี ๆ ก็พอไหว

   แหม...แต่มองดูปริมาณแล้ว  แค่เห็นก็กระเป๋าเบา...
   กระเป๋า...

   “เวรกรรม!!” ไอ้หนุ่มที่เดินตามหลังสะดุ้งเฮือกตาม  อะไรของเขา  อยู่ดี ๆ ก็สบถลั่น “กระเป๋าตังค์!!  ไปร่วงไว้ที่ไหนก็ไม่รู้เนี่ย”
   “หา!?” ไอ้คนป่วยเผลอร้องตาม “หาดีแล้วเหรอครับ?”
   อโณลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างประหนึ่งจะโฆษณาสบู่กลางห้าง  บอกเลยว่าแก้ผ้าได้ทำไปแล้ว  ลูบเสร็จก็หันมาบอกหน้าซีด ๆ “แย่แล้ว ทำไงดี! กระเป๋ากางเกงตัวนี้มันตื้น  บางทีอาจจะตกอยู่ร้านราเมนเมื่อกี้”
   “ผมกลับไปดูให้นะครับ”
   “ไม่ต้องหรอก  ฉันไปแป๊บเดียว  นายรออยู่ตรงนี้นะ” อโณสั่งชัดถ้อยชัดคำ “ห้ามไปไหนเด็ดขาด”
   เห็นอีกฝ่ายพยักหน้าหงึก ๆ แล้วอโณชาก็ออกวิ่งทันที  โง่ซ้ำโง่ซ้อนจนอโณยังนึกรำคาญตัวเอง  เดี๋ยวมือถือเดี๋ยวกระเป๋าตังค์  กลับไปรอบนี้คงไม่เจอใครโดนทวงหนี้อีกนะ!
   ปกติอโณชาไม่ขี้ลืมขนาดนี้นะ  ต้องเป็นเพราะเมื่อคืนนอนดึกแน่ ๆ   การพักผ่อนนี่มันสำคัญจริง ๆ   สองขาเลี้ยวที่หัวมุมตรงหน้าก็เจอร้านราเมนแล้ว  อโณชารีบพุ่งเข้าไป  และทันทีที่พนักงานเห็นหน้าเขาก็ไม่ต้องเอ่ยปากถามด้วยซ้ำ

   “พี่คะ  พี่ลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ค่ะ” บริกรหญิงหันไปตะโกนเรียกเพื่อนที่หลังเคาน์เตอร์ “แก!  พี่เขามาเอากระเป๋าคืน!”
   “เฮ้ย!  พี่คะ  หนูเอาไปฝากไว้ที่ประชาสัมพันธ์ห้างแล้วน่ะค่ะ” หล่อนหน้าเหวอ “ไม่คิดว่าพี่จะกลับมาเอาเร็วขนาดนี้”
   “ไม่เป็นไรครับ  ประชาสัมพันธ์เนอะ  เดี๋ยวผมลงไปติดต่อเองครับ” อโณยิ้มโล่งอก “ขอบคุณมากนะครับ”
   อโณอยากจะกำมือทำท่า ‘เยส’ ในใจ  อย่างน้อยมันก็ไม่หายล่ะวะ  ถือว่าซวยแบบมีบุญมาหนุนชัด ๆ   สองขาเดินเอื่อยลงบันไดเลื่อนจนถึงชั้นอันเป็นที่ตั้งของประชาสัมพันธ์
   หลังจากการสอบถามและตรวจเช็คหน้ากับบัตรประชาชนแล้ว  ฝ่ายประชาสัมพันธ์ก็คืนของให้อโณชาในทันที  เขาก้มหัวขอบคุณแล้วขอบคุณเล่าก่อนจะเดินหน้าบานกลับไปยังร้านเสื้อร้านโปรด  อโณชาก้มมองนาฬิกาข้อมือก็พบว่าเขาใช้เวลาไปถึงยี่สิบนาทีเลยทีเดียว

   หวังว่าคนรอจะไม่โกรธกันนะ...

   สองขาก้าวเร็วขึ้นหลังจากเอื่อยเฉื่อยตามประสามานาน  อโณเดินผ่านเครื่องตรวจขโมยเข้ามาในบริเวณร้าน  เขาหันซ้ายหันขวาก่อนจะเดินไปยังเสาตรงหัวมุมที่นัดแนะกันไว้  และพบว่า....หายไป!
   ไอ้หนุ่มความจำเสื่อมมันหายไป!!
   ตาย!  ตาย!  ตาย!  ตายไม่ต้องสืบ  สิ้นแล้วบุญกุศลที่เคยทำมา  เดี๋ยวมือถือหาย  เดี๋ยวกระเป๋าตังค์หาย  ล่าสุดคนหาย!!  อโณชาอยากจะวิ่งไปบวชเก้าวัดชดใช้ความผิดนี้

   “น้องครับ!  น้อง!” เขาวิ่งไปหาพนักงานที่อยู่ใกล้ที่สุด “เห็นผู้ชายตัวสูงประมาณนี้” เขาทำมือกะขนาด “ใส่เสื้อสีเทาไหมครับ”
   “เอ๋!” พนักงานก็ช็อกไปสิ  รูปพรรณสัณฐานที่ว่ามาหาไม่ได้เล้ยบนโลกใบนี้  ทั้งโลกนี้มันต้องมีคนสูงเท่านี้ใส่เสื้อสีเทาแค่คนเดียวแน่ ๆ   หล่อนตอบเลี่ยง ๆ “ไม่แน่ใจเหมือนกันนะคะ”
   “เดี๋ยวนะครับ  ผมมีรูป” อโณชาล้วงมือถือหน้าจอแตกขึ้นมาปัด ๆ สองสามที  ก่อนจะยื่นรูปคนป่วยหน้าซีดเป็นศพไปให้ “คนนี้น่ะครับ”
   สาวเจ้าจ้องรูปในมือถือนานมาก  นานเสียจนอโณชาเผลอกลั้นหายใจตาม  ก่อนหล่อนจะประมวลผลว่า “เหมือนจะเห็นอยู่นะคะ  แต่ตอนนี้ไม่เห็นแล้ว”
   ใช่ครับ!!  ก็ต้องไม่เห็นสิ!  ถ้าเห็นคงจะถามหรอก  คนขี้ลืมรีบยิงถามต่อ “แล้วพอจะจำได้หรือเปล่าครับ  ว่าเขาหายไปไหน”
   “ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ” บางทีเธออาจจะไม่แน่ใจอะไรสักอย่างเลยบนโลกนี้ “เดี๋ยวไปถามคนอื่นในร้านให้นะคะ”

   ด้วยความช่วยเหลือจากหล่อน  อโณได้ข้อมูลว่าผู้ป่วยความจำเสื่อมออกจากร้านไปไม่ถึงห้านาที  เอาล่ะ!  เขาจะใจเย็นรอตรงนี้สักหน่อย  ชายหนุ่มสงบจิตสงบใจยืนกอดอกพิงป้ายโฆษณาด้านหลังพลางแสยะยิ้มอย่างมั่นใจ  ตามทฤษฎีแล้ว  คนที่พลัดหลงกันก็ต้องกลับมาเจอตรงจุดนัดพบอยู่แล้ว  หึ ๆ   จะหลอกให้ตกใจน่ะเหรอ  ไม่มีทาง!

   ใช่ ๆ   ไม่มีทางหรอก  คนความจำเสื่อมนะเว้ย  จะกล้าไปไหนไกล
   แต่เดี๋ยวสิ  ถ้าเกิดว่ามีอุบัติเหตุอะไรล่ะ...
   จะบ้าเหรอ  กลางห้างฯนะ  มันจะมีใครตามมาทวงหนี้อีกหรือไง
   นั่นสิ!  ก็คงออกไปเดินเล่นเพราะรอจนเบื่อตามเรื่องตามราวนั่นแหละ  ไปแป๊บเดียวเดี๋ยวก็กลับ...
   แป๊บเดียวบ้าอะไรล่ะ!  นี่มันจะสิบห้านาทีแล้วนะ!  หายไปไหนห๊ะ!!!!!

   หมดแล้วซึ่งความอดทนรอ  อโณชายกกระเป๋าที่พื้นขึ้นพาดบ่าก่อนจะออกวิ่งไปที่บันไดเลื่อน  เป้าหมายคือประชาสัมพันธ์ที่เขาเพิ่งจากมาเมื่อครู่นี้  ใช่แล้ว!  ตามหาคนมันก็ต้องประชาสัมพันธ์เนี่ยแหละ  ขายาว ๆ ก้าวป้าบ ๆ เข้าไปเอามือเกาะโต๊ะหินอ่อนพลางหอบแฮ่ก ๆ จนลิ้นแทบแตะพื้น
   “ผม...แฮ่ก” อโณสุดหายใจเข้าลึก ๆ “ขะ...ขอประกาศหาคนหายหน่อยครับ  แค่ก ๆ” เขาสำลักน้ำลายเล็กน้อยจนสาวที่เคาน์เตอร์อยากจะหยิบยื่นยาอมให้สักเม็ด
   “ได้ค่ะ  ได้” หล่อนรับคำเป็นมั่นเป็นเหมาะก่อนจะเลื่อนกระดาษโน้ตมาตรงหน้า “ก่อนอื่นขอทราบชื่อหน่อยนะคะ”
   “ผมอโณชาครับ” อโณรับปากกามาเขียนชื่อและนามสกุลตัวเองลงไป “ประกาศหาคนชื่อ...”

   ชื่ออะไร...
   อ๊ากกกกกกกกกกก!  ชื่ออะไรล่ะ!!!  ก็มันไม่มีนี่นา!
   อโณอยากจะต่อยหน้าตัวเองซ้ายขวาแล้วเขกโต๊ะสิบครั้งปฏิบัติ!  ลงโทษในความประมาทเลินเล่อของตัวเองที่ลืมรายละเอียดที่โคตรสำคัญอย่าง ‘ชื่อ’ ไปซะได้  นี่ก็เรียกฉัน ๆ นาย ๆ อยู่ได้ตั้งนาน  แถมยังมีหน้าไปลงรายละเอียดเปลี่ยนสรรพนามอีกนะ  เจริญล่ะ!
   “ขอชื่อคนที่ต้องการให้ประกาศหาด้วยนะคะ” เห็นชายหนุ่มนิ่งไปนานหล่อนจึงเตือนสติ  แหมทีตอนมานี่รีบเชียวนะคะ
   “ผม...เอ่อ...ไม่ทราบเหมือนกันครับ”
   “ห๊ะ!?”
   “คะ...คือว่า...ถ้ายังไงรบกวนประกาศหาแบบนี้แทนนะครับ”

   อโณชาทิ้งเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ไว้เบื้องหลังแล้วออกวิ่งอีกครั้งหนึ่ง  คราวนี้มันเคว้างคว้างไร้จุดหมายยิ่งกว่าเดิม  พร้อมกับเสียงตามสายเป็นเพลงแบ็กกราวน์
   ตึ่ง  ดือ  ดื๊อ~
   ท่านใดพบเห็นชายอายุประมาณยี่สิบห้าปี  สูงประมาณหนึ่งร้อยแปดสิบห้า  สวมเสื้อสีเทาและกางเกงขาสามส่วน  กรุณาติดต่อที่ประชาสัมพันธ์ด้วยนะคะ  คุณอโณชา  จันทรศานต์ต้องการพบค่ะ


   อ่า...ฟังแล้วโคตรจะสิ้นหวัง  ข้อมูลในการตามหาอยู่ระดับสูงกว่า ‘ผู้ชายที่มีแขนซ้ายข้างเดียว’ ไปนิดหน่อยเท่านั้น  ว่าแต่ไอ้หนุ่มนั่นจำชื่อเขาได้หรือเปล่าก็ไม่รู้  เห็นเรียกคุณ ๆ ตลอดเลย  คิดแล้วก็ถอนหายใจอีกครั้งแล้ววิ่งไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง
   อโณชาพยายามเค้นสมองว่าจะมีสถานที่ไหนที่คนความจำเสื่อมจะไปได้อีก  เริ่มตั้งแต่ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ชั้น G  ก่อนจะค่อย ๆ ขยับไปที่ชั้นเสื้อผ้าสตรี  เสื้อผ้าเด็ก  ฟู้ดคอร์ท  วกกลับลงไปที่อุปกรณ์กีฬา และไม่ว่าที่ไหนเขาก็ยังไม่เห็นวี่แววของพ่อคนความจำเสื่อมเลย
   ความกังวลเริ่มเกาะกินจิตใจอีกครั้ง  ทั้งกายและใจเหนื่อยล้าเกินจะทน  เขาจะทำอย่างไรดี  ถ้าคนคนนั้นหายไปจริง ๆ ล่ะ  โดนหลอกไปไหนหรือเปล่าก็ไม่รู้  ถึงจะโตแล้วแต่ก็ไว้ใจไม่ได้  ยิ่งคิดอโณยิ่งโกรธตัวเองที่มัวแต่เอื่อยเฉื่อยจนต้องมาวุ่นวายแบบนี้
   พื้นรองเท้าผ้าใบเสียดสีกับพื้นลั่นเอี๊ยดอ๊าด  สองขาออกก้าวไม่หยุดในเวลาร่วมยี่สิบนาที  ไม่มีการติดต่อจากประชาสัมพันธ์แต่อย่างใด  อโณวิ่งกลับขึ้นมาที่ชั้นเสื้อผ้าสุภาพบุรุษอีกครั้ง  สองขาก้าวเชื่องช้าลงเมื่อพบวัตถุบางอย่างขดกลมอยู่บนพื้น

   เฮ้อออออออออออออออ
   เขาถอนหายใจเสียงดัง  พยายามอย่างที่สุดที่จะไม่หอบเมื่อก้าวเข้าไปใกล้  บุคคลสูญหายที่ว่า  นั่งกอดเข่าอยู่บนพื้นข้าง ๆ ผนังของร้านเสื้อผ้า  และเมื่อได้ยินเสียงการย่างก้าวเขาก็รีบเงยหน้าขึ้นมา
   ไม่มีคำตัดพ้อต่อว่าอะไรทั้งนั้น  ผู้ชายคนนั้นนั่งอยู่ตรงนี้เงียบ ๆ และส่งแววตาที่เปล่งประกายดีใจเพียงแค่เห็นหน้าอโณชา

   “หายไปไหนมา?” กลับเป็นอโณเสียอีกที่ต้องถามคำถามนี้
   “หาย?” ฝ่ายนั้นเอียงคอ “ผมอยู่ที่นี่ตลอดนะครับ”
   “ไม่จริง” อโณกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอ “ก็ฉันขึ้นมาหาแล้วนายไม่อยู่”
   “อ๋อ...ผมไปเข้าห้องน้ำมารอบหนึ่งครับ”
   “แต่ฉันยืนรออยู่นานมากเลยนะ  นายก็ไม่มาสักที”
   “คือ...เอ่อ...” ชายหนุ่มหลบตาวูบหนึ่ง “คุณจะไม่โกรธผมใช่ไหม...”
   “ทำไมเหรอ?”
   เพื่อคลายความสงสัย  ไอ้หนุ่มความจำเสื่อมค่อย ๆ ยันตัวเองขึ้นมาจากพื้นแล้วดึงชายเสื้อที่ซุกกางเกงออกมาให้ดู “ผมทำเสื้อคุณเลอะ”
   ห๊ะ...
   “คะ...คือผมก็ไม่ได้ตั้งใจนะครับ  เด็กเขาเดินเอาไอติมมาชน”
   ไอติมเรอะ...
   “ละ...แล้วผมก็พยายามล้างออกแล้วนะ  แต่คือยังไงมันก็ไม่ออกเลยครับ  รสช็อกโกแลตด้วย” เจ้าตัวว่าพร้อมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้  ดูจากชายเสื้อชุ่มน้ำนั่นก็รู้ว่าผ่านการขยี้อย่างโหดร้ายเพียงใด “อย่าโกรธผมเลยนะ”
   เดี๋ยว ๆ   แล้วทำหน้าเหมือนลูกชายทำเสื้อเลอะในโฆษณาผงซักฟอกนั่นมันอะไร!!
   เห็นอโณชาเงียบไปนานก็ชักใจไม่ดี “กลับไปผมจะลองซักให้อีกรอบนะครับ” ว่าแล้วไอ้หนุ่มก็ทำหางลู่หูตก
   “เฮ้อ” ไม่รู้ว่าอโณชาถอนหายใจเป็นรอบที่เท่าไรของวันนี้ “ช่างเสื้อมันเถอะ  ฉันไม่ได้โกรธหรอก”
   “จะ...จริงเหรอครับ”
   “จริง” อโณชาโล่งใจจนแทบจะทิ้งตัวลงไปนั่งหอบบนพื้นด้วยซ้ำ  เห็นหายใจติด ๆ ขัด ๆ จนคนสูงกว่าจับสังเกตได้
   “คุณวิ่งตามหาผมเหรอ”
   “ช่างมันเถอะ” ไม่ได้ประชด  อโณหมายความตามนั้นจริง ๆ “เดี๋ยวไปจ่ายค่าเสื้อก่อน  แล้วเราไปหาซื้อของใส่ตู้เย็นกัน”
“ขอบคุณนะครับ”

ถึงอโณชาจะไม่ได้รู้สึกว่าการวิ่งตามหามันสำคัญอะไร  แต่ชายหนุ่มกลับดีใจเหลือเกิน  ดีใจจนอดยิ้มไม่ได้  เขาบีบหน้าตัวเองไม่ให้เผลอยิ้มกว้างไปกว่านี้ขณะก้าวตามคนตรงหน้าไปติด ๆ

“จะว่าไปแล้ว  พอไม่มีชื่อแล้วมันยุ่งยากจังเลยน้า~”อโณชาเปรยขึ้นลอย ๆ ขณะที่กำลังมุ่งหน้าไปยังซุปเปอร์มาร์เก็ต “เมื่อกี้ไปฝากประชาสัมพันธ์ประกาศก็ดันบอกชื่อเขาไม่ได้เสียด้วย”
“เอ๋~  ประกาศทางประชาสัมพันธ์ด้วยเหรอครับ  เหมือนเด็กหายเลยเนอะ”
ก็เด็กหายนะสิ  อโณค่อนขอดในใจ
“พูดแบบนี้  แสดงว่าไม่ได้ยินประกาศล่ะสิ”
“ขอโทษครับ”
“หยุดขอโทษได้แล้วน่า” เป็นตุ๊กตาไขลานหรือไงนะ “ว่าแต่เรื่องชื่อน่ะ”
“ครับ?”
“เรากำหนดชื่อเรียกนายเอาไว้ดีไหม?  จะได้สื่อสารกันง่าย ๆ หน่อย”
“ก็ดีเหมือนกันนะครับ” คนไร้ชื่อพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วย “ชื่ออะไรดีครับ?”
“เดี๋ยวสิ!  ชื่อนายทำไมนายไม่ตั้งเองล่ะ” แล้วดูถามอย่างกับตั้งชื่อหมาชื่อแมว “อยากชื่ออะไรก็ตั้งเลย ได้โอกาสเปลี่ยนใหม่แล้วนะ”
“ผมชื่ออะไรก็ได้ครับ”
“อะไรก็ได้อีกแล้ว  มันยาวเกินไปไหม” อโณเอ่ยแซว “ชื่ออะไรก็เลือก ๆ มาเถอะ”
“คุณตั้งให้ผมหน่อยสิครับ”
“หา?”
คนสูงกว่าขยับตัวเข้ามาใกล้ก้มตัวลงอย่างนอบน้อม “คุณอโณตั้งชื่อให้ผมหน่อยสิครับ”

จำชื่อเขาได้จริง ๆ ด้วย  อโณนึกอยู่ในใจ  หารู้ไม่ว่ามากกว่าชื่อก็จำได้  คนแก่กว่ายืนนิ่งคิดอยู่นานทั้งที่เป็นเรื่องเล็กน้อยแท้ ๆ   ไอ้ขาว  ไอ้ดำ  ไอ้แดง  อะไรก็ว่าไปสิ
ไม่มีใครเร่งเร้าอะไร  กลางห้างใหญ่ที่ผู้คนเดินสวนกันไปมา  อโณชาเหมือนจุดเล็ก ๆ บนกระดาษขาว  แต่เป็นจุดจุดเดียวที่คนตรงหน้ามองเห็น  ชายหนุ่มเฝ้ารอคอยชื่อใหม่อย่างเงียบสงบ
อโณชาย้อนนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาภายในสองอาทิตย์กว่า  ชั่ววินาทีนั้นเขาก็คิดถึงคำคำหนึ่งขึ้นมา

“หลง”
“ครับ?”
“ชื่อหลงก็แล้วกัน  ดีไหม?”
“หลง?” เจ้าตัวเอียงคอ “ให้ผมชื่อหลง”
“ถ้าไม่ชอบก็เปลี่ยนได้นะ”
“ไม่ครับ!” คนได้ชื่อใหม่รีบส่ายหน้า “ชอบครับ!  เรียกผมว่า ‘หลง’ ได้เลยครับ”
ผลตอบรับดีเกินคาดจนอโณกอดอกภูมิใจอยู่เงียบ ๆ “งั้นดีเลย  หลง!  ไปเอารถเข็นมาซิ!”
หลงพยักหน้ารับแล้วรีบวิ่งดุ๊ก ๆ ไปเอารถเข็นซุปเปอร์มาร์เก็ตในทันที  ใช้งานง่ายแบบนี้ค่อยสบายใจหน่อย  ชายหนุ่มเอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เดินตามหลังอโณพลางช่วยหยิบนู่นนี่ให้

ชื่อ ‘หลง’ นี่มันดีจริง ๆ เลยนะ  รู้สึกว่าได้รับการสนใจ  ลุ่มหลงอะไรประมาณนั้น...

อโณชาเองก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่แพ้กัน  มีคนมาเดินตามหลังต้อย ๆ แบบนี้  มันใช่เลย!


หมาหลงชัด ๆ !!

อ่า...เขานี่อัจฉริยะในการตั้งชื่อจริง ๆ


TBC

ขออภัยที่มาช้านะคะ  พอดีงานเข้าเล็กน้อยต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ค่ะ  เขียนนิยายหรือก่ออาชญากรรมเนี่ย 555555
ในที่สุดเราก็มีชื่อเรียกไอ้หนุ่มความจำเสื่อมกันแล้ว  ยังไงฝากเอ็นดูไอ้หลงด้วยนะคะ
เจอกันตอนหน้านะคะ  ขอบคุณที่ติดตามอีกเช่นเคยค่าาา //กอดให้ซี่โครงแตกแทงทะลุกระเพาะ

ป.ล.เห็นเขามีแท็กนิยายกัน  เราขอมีบ้างนะคะเพื่อความเก๋ไก๋  เชิญ #หลงมารัก เลยค่ะ 5555555

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
โอ้ยยยย หลงจะมีชีวิตใหม่แล้ว  ไม่อยากให้จำอดีตได้เลยแฮะ

ออฟไลน์ Cappello

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
หลงงงงง เมะเหรอ ?
เป็นผู้ชายที่มุ้งมิ้งมากเลย หลง
อโณเคะแน่เลย

 :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
อ้างถึง
แสงแดดแรกที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นใหม่สาดแสงลงบนใบหน้า  แล้วเขาก็พบว่ามันช่าง...

 
ร้อนฉิบหาย...


อ่านจบคือขำแรงมาก ก๊ากกกกกกกกกกกกก
อากาศประเทศไทยก็อย่างนี้แหละเนอะหลงเนอะ

ชื่อหลงนี่ขำมากพี่อโณก็คิดได้
รู้สึกเหมือนเก็บหมามาเลี้ยงเลยค่ะ 5555555555555555
เจ้าหลงเหมือนโกลเด้นท์ตัวโตๆ โอ้ยยย น่าเอ็นดู๊ เอ็นดู
อ่านแล้วอยากฟัดแรงๆ น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกก  :-[

ชอบตอนชอปปิ้งแล้วซื้อเสื้อผ้าให้กันจังเลย >_<
ชอบลุคพี่อโณแบบใสๆ อะไรงี้ น่ารักกกกกก

รอตอนหน้า

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
คุณพยาบาลแกล้งหยอกเสียจนน่ากลัวว่าหลงจะร้องไห้เลยนะคะเนี่ย น่าเอ็นดูมากๆ เลยน้า~ :-[ ..แต่จะว่าไปเพลงประกอบฉากในตอนนั้น(?)ก็ช่างเป็นใจจริงๆ :laugh:

แต่ตอนนี้อโณหลั่นล้ามากเลยเน้อ~ คงจะชอบช็อปปิ้งเป็นชีวิตจิตใจเลยสินะคะ เพราะว่าดูร่าเริงกว่าตอนที่ทำงานมากโขเลยล่ะค่าา >< แต่แอบเหนื่อยแทนตั้งแต่ตอนไปหากระเป๋าเงินแล้วล่ะค่ะ ฟิตมาก ^^ ทำให้ได้รู้เลยว่า 'อายุเป็นเพียงแค่ตัวเลขจริงๆด้วยน้าา~' :mew3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-06-2015 19:47:24 โดย Mouse2U »

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ชื่อเหมือนหมาเลยค่ะ หลง  :laugh:

ออฟไลน์ bew_yunjae

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
แหมะหมาหลง นี่ช่างน่ารักจริงๆ อย่างนี้อโณหลงตายเลย
แต่ฮาตรงคิดว่าหลงคือ ลุ่มหลง แต่จริงๆคือหมาหลง
เรื่องนี้ทำเรายิ้มเราฮาตลอดเรื่องเลยอ่ะ น่ารักมากๆ
แต่กลัวมาม่าคุณ indigo ที่สู๊ดดด เค้าร้องไห้ทุกเรื่องเลย

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
คนแบบอโณหาได้ที่ไหนหรือ อยากได้ คนอะไรช่างดีขนาดหนัก

ออฟไลน์ แป้งข้าวหมาก

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
เจ้าตูบหลง 5555 น่ารักเชียว

เอาจริงนะเวลามีน้องหมาหลงมาอยู่บ้านแล้วเลี้ยงไว้
ก็ตั้งชื่อว่า หลง นี่แหละ  :laugh:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
หลงรักอโณมาก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด