[ชีวิตรัก หมอนักผ่า] UP.ตอนพิเศษ (31-03-59)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [ชีวิตรัก หมอนักผ่า] UP.ตอนพิเศษ (31-03-59)  (อ่าน 200616 ครั้ง)

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
หมอซันรุกหนักมากก หนูพายก้คิดเยอะเกินน
หมอซันสู้ๆค่ะ ผ่าตัดนี่กลัวแผลปริจัง
แต่ก้นะ เจ็บแลกรักนะงานนี้
รอค่ะ สนุกมากกเรื่องนี้

ออฟไลน์ myd3ar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
หมอโจนี่ร้ายจริงๆ

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
อ้อนเข้าไป!

อิจฉาเว้ย

ออฟไลน์ Honeyhoney

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
ตอนหน้าลุ้นมากแน่นอน ทั้งห่วงหมอ ทั้งลั้นความสัมพันธ์ คนไข้จะหายไหม รอนะคะ :katai5:

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
ลุ้นๆ  หมอซันน่ารักดีค่ะ  เรื่องนี้อ่านแล้วให้คะแนนความตั้งใจ เอาไป100 เต็มเลยค่ะ ติดตามอยู่นะคะ ^^

ออฟไลน์ G-bazo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-1

-14-


                  ทุกคนมาพร้อมกันในห้องผ่าตัด พร้อมกับทีมแพทย์อายุรกรรม ทีมรังสีแพทย์ที่นั่งอยู่บนห้องอัฒจรรย์เพื่อเฝ้าดูการผ่าตัดเคสนี้ วิสัญญีแพทย์ (วิสัญญีแพทย์ = หมอดมยา) ให้ยาสลบกับคนไข้เรียบร้อย ก็เป็นหน้าที่ของศัลยแพทย์มือหนึ่งอย่างภูตะวันและแพทย์เฟลโล่ (Fellow = แพทย์ผู้ช่วยอาจารย์ เป็นแพทย์ที่จบเฉพาะทางแล้วต่ออนุสาขาย่อยลงไปอีก)


"ถ้าไม่ไหวรีบบอกนะครับ" แพทย์ผู้ช่วยที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามบอกกับภูตะวันด้วยความเป็นห่วง เขาพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงรับรู้ ก่อนจะมองไปยังลูกศิษย์หน้าหวานที่ยืนสังเกตการณ์การผ่าตัดอยู่ไม่ไกล ถึงอีกฝ่ายจะมีผ้าปิดปากปิดบังอยู่ แต่ก็รู้ว่าภายใต้ผ้าปิดปากนั้นพระพายกำลังยิ้มให้เขา


"ผมจะผ่าด้านข้างทั้งหมดสองแผล แผลแรกคือเข้าทางช่องอกเพื่อหนีบเส้นเลือดแดงใหญ่เหนือกระบังลม แผลที่สองทางช่องท้องโกยอวัยวะทุกอย่างขึ้นมาเพื่อหาเส้นเลือดแดงโป่งพองที่แตกให้เจอและหนีบเส้นเลือดแดงที่ยังไม่แตกใกล้เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงไต ต้องทำให้ได้ภายใน 30 นาที .. เริ่มจับเวลา" เขาอธิบายการผ่าตัดครั้งนี้ให้ทุกคนได้ฟังเพื่อจะได้เข้าใจตรงกัน รับมีดผ่าตัดจากพยาบาลผู้ช่วยในเวลาเดียวกับที่เวลาเริ่มนับถอยหลัง


"Blunt" (Blunt = ใช้เลาะบริเวณที่มีหลอดเลือดหรือเส้นประสาททอดผ่าน) หมอซันชะงักมือที่กำลังจะเลาะบริเวณที่มีหลอดเลือด นิ่วหน้าเล็กน้อยเมื่อรู้สึกเจ็บปวดที่แผล ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติอย่างรวดเร็วและลงมือทำหน้าที่ของตัวเองต่อ


"forceps" รับคีมจับหลอดเลือดเพื่อหนีบเส้นเลือดแดงใหญ่เหนือกระบังลม โดยมีแพทย์ผู้ช่วยคอยช่วย เมื่อทำในส่วนนี้เสร็จก็เริ่มลงมือแผลที่สองด้านข้างช่องท้องทันที โดยที่เวลาก็นับถอยหลังไปเรื่อยๆ โดยมีพระพายสังเกตอาการของเขาสลับกับสังเกตการผ่าตัดอยู่ตลอดเวลา


"เหลือเวลา 15 นาทีครับ" บุรุษพยาบาลร้องบอก เรียกความตื่นเต้นและกดดันให้กับทุกคนในห้องผ่าตัดรวมถึงเหล่าแพทย์ต่างสาขาที่บางคนถึงกับนั่งไม่ติด ต้องลุกขึ้นมายืนดูภาพจริงอย่างใกล้ชิด


"อาจารย์ครับ" แพทย์เฟลโล่เห็นอาการของอาจารย์ไม่ดีนัก ด้วยเหงื่อที่ผุดพราวออกมาเยอะกว่าปกติทั้งที่พยาบาลก็คอยซับอยู่ตลอด มือที่จับอุปกรณ์ก็ค่อนข้างไม่มั่นคงจึงเรียกเป็นเชิงถามว่าอีกฝ่ายไหวหรือเปล่า ภูตะวันหลับตาลงเป็นเวลาสั้นๆหวังระงับความเจ็บปวดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะกระชับมือที่จับอุปกรณ์ผ่าตัดและเริ่มต้นผ่าอีกครั้ง


"เราว่าอาจารย์จะไม่ไหวแล้ว ถึงเห็นแค่ครึ่งหน้าแต่ก็รู้ว่าหน้าเริ่มไม่มีสีเลือด" แพรดาวพูดเสียงเบากับเพื่อนทั้งสองคน ซึ่งพระพายที่สังเกตอาการของอีกคนมาตลอดย่อมรู้ดีว่าเป็นอย่างไร ห่วงแค่ไหนตอนนี้เขาก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากภาวนาให้มันจบลงเร็วๆ


"ความดันลดลงมากครับ!!"


"ชีพจรล่ะ!?"


"อ่อนครับ!!" เสียงของศัลยแพทย์และวิสัญญีแพทย์พูดกันเสียงดังแข่งกับเสียงเตือนของเครื่องวัดชีพจรและความดัน ทำให้ภูตะวันและแพทย์ผู้ช่วยต้องรีบเร่งโกยอวัยวะภายในขึ้นเพื่อหาเส้นเลือดแดงโป่งพองที่แตกออกให้ทันอย่างระมัดระวัง


"ระวังด้วย" ภูตะวันบอกเสียงเครียด ระหว่างที่ค่อยๆขยับอวัยวะภายในร่างกายออกจากตำแหน่งของมันไปเพื่อหาเส้นเลือดที่แตกออกให้เจอทันเวลา


"เจอแล้วครับ!!" เสียงแพทย์ผู้ช่วยร้องดัง อาจารย์จึงเริ่มขั้นตอนต่อไปคือการหนีบเส้นเลือดแดงใหญ่ที่ไปเลี้ยงไตและเปลี่ยนเส้นเลือดแดงที่โป่งพองเข้ากับเส้นเลือดเทียม"


"ทุกอย่างกลับมาปกติแล้วครับ" วิสัญญีแพทย์บอกอีกครั้ง ภูตะวันเหลือบมองเครื่องวัดชีพจรและความดันเล็กน้อย เขากัดกรามแน่นเมื่อความเจ็บปวดแผลยังไม่ทุเลาลง จนทำการผ่าตัดเสร็จลงในที่สุด ภายในระยะเวลา 25 นาที


"ผมเปลี่ยนเส้นเลือดเทียมเข้าไปแล้ว คุณจัดการต่อด้วย" เอ่ยสั่งแพทย์ผู้ช่วยให้จัดการเย็บปิดแผลต่อ ก่อนที่ทุกคนจะก้มหัวเล็กน้อยเพื่อแสดงความเคารพ เขาจึงพาร่างของตัวเองเดินออกจากห้องผ่าตัดช้าๆและรู้สึกเหมือนทุกอย่างรอบตัวหมุนเคว้งไปหมด


"เราไปดูอาจารย์นะ"


"อืม รีบไปเถอะ" อนุวัฒน์บอกเพื่อนให้รีบไป ด้วยเข้าใจว่าทั้งสองสนิทกันไม่แปลกหากเพื่อนจะเป็นห่วง พระพายจึงรีบวิ่งออก
จากห้องผ่าตัดและตามอีกคนไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าบริเวณคลีนโซนทันที



              เมื่อตามเข้ามาก็เห็นคนตัวสูงในชุดผ่าตัดสีน้ำเงินเข้มนั่งพิงผนังพลางหลับตาอย่างเหนื่อยอ่อน เขาเดินเข้ามานั่งข้างๆอีกฝ่าย พลางจับมือหนาที่กุมแผลของตัวเองอยู่ออก ก่อนจะค่อยๆเปิดเสื้อผ่าตัดเนื้อบางขึ้นดู


"ทำไมไม่อยู่สังเกตการณ์ให้จบ" อาจารย์หมอพูดเสียงอ่อนระโหย เหลือบมองลูกศิษย์ที่กำลังเปิดเสื้อเขาออกอย่างช้าๆ


"ผมเย็บแผลเป็นแล้วครับ" ตอบกลับไปเสียงนิ่ง คนฟังจึงหัวเราะเบาๆกับความดื้อรั้นที่แสนน่ารักของอีกคน พระพายใช้มืออีกข้างจับชายเสื้อให้เหนือแผล หน้าท้องที่เป็นลอนสวย มีผ้าก๊อซขนาดใหญ่ปิดแผลเอาไว้


"เลือดออกนี่ครับ แผลอักเสบแน่ๆ ไปทำแผลเดี๋ยวนี้เลยครับ ผมจะทำให้" ลูกศิษย์คิ้วขมวด ทำหน้าเครียดยิ่งกว่าคนเจ็บที่กำลังมองเขาและยิ้มมุมปากทั้งที่ใบหน้าก็แทบจะไม่มีสีเลือดอยู่แล้ว ซึ่งพระพายก็ได้แต่ถอนหายใจให้กับความไม่จริงจังของอีกฝ่าย ก่อนจะพาคนเจ็บไปพักที่ห้องทำงาน


                พระพายกลับเข้ามาในห้องทำงานของอาจารย์หมออีกครั้งพร้อมด้วยอุปกรณ์ทำแผล ก่อนจะนั่งลงที่โซฟาข้างคนเจ็บที่ตอนนี้เอาศีรษะพาดกับพนักโซฟาอย่างหมดสภาพ


"จับชายเสื้อไว้ครับ" มือบางดึงชายเสื้อขึ้นให้อีกฝ่ายจับเอาไว้ ภูตะวันทำตามที่ลูกศิษย์บอกอย่างว่าง่าย เขาหายใจถี่เนื่องจากความเจ็บไม่ทุเลาลงเลยตั้งแต่อยู่ในห้องผ่าตัด ก่อนที่พระพายจะเริ่มทำแผลโดยการแกะผ้าก๊อซที่ปิดแผลไว้ออก


"แผลอักเสบแล้วครับเนี่ย" เขาพูดเสียงเข้ม พลางใช้คีมหนีบสำลีที่ชุบแอลกอฮอล์เอาไว้แล้วมาทาแผลเพื่อทำความสะอาด คนเจ็บได้แต่สูดปากร้องเมื่อเจ็บและแสบอย่างที่สุด กัดฟันแน่นอย่างทรมาน พลางผงกหัวมาดูแผลของตัวเอง


"เป็นถึงศัลยแพทย์ที่มีฝีมือ แต่ปล่อยให้แผลอักเสบ" พระพายบ่นแต่ก็ทำแผลให้อาจารย์ของตนอย่างตั้งใจ ก่อนใช้สำลีชุบยาใส่แผล


"เจ็บแล้วยังจะไปผ่าตัด ไม่เป็นลมล้มพับไปก็ดีเท่าไหร่แล้วครับ"


"พูดมากจังพระพาย" ภูตะวันมองลูกศิษย์ที่พูดบ่นเขาไม่หยุด ก่อนจะเอื้อมมือข้างที่ว่างไปปิดปากอีกฝ่ายเอาไว้ พระพายจึงรีบเอามือนั้นออก ค้อนวงโตใส่ จิ้มสำลีกดไปที่แผลอย่างหมั่นไส้ อวดเก่งแล้วยังทำเหมือนรำคาญเขาอีก


"... ถ้ารำคาญผมก็ขอโทษแล้วกันครับ" พูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ ทำแผลให้อีกฝ่ายต่อ โดยมีสายตาของภูตะวันมองไม่วางตาเพราะประโยคเมื่อครู่


"... ผมไม่ได้รำคาญ ผมแค่แปลกใจที่คุณพูดเยอะกว่าปกติ ถ้าทำให้คุณคิดแบบนั้นผมขอโทษ" พระพายขมวดคิ้วก่อนจะระบายยิ้มออกมาเมื่อเห็นสีหน้ารู้สึกผิดของอีกคน


"ผมไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย อย่าจริงจังขนาดนั้นสิครับ ที่ผมพูดมากเพราะเป็นห่วงอาจารย์มากหรอกนะ" เขาหัวเราะน้อยๆ ใช้ผ้าก๊อซสีขาวสะอาดปิดปากแผลจนเสร็จเรียบร้อย


"เสร็จแล้วครับ อาจารย์ก็ควรกลับไปนอนพักที่คอนโดนะครับถ้าไม่อยากนอนให้น้ำเกลืออยู่ห้องพักฟื้น"


"ผมมีงานต้องทำ" หมอซันปิดชายเสื้อลง พลางขยับท่านั่งเล็กน้อย คนฟังถอนหายใจเพิ่งจะบ่นไปแล้วแท้ๆยังจะไม่ยอมฟัง


"จะฟังผมบ้างได้ไหมครับ?" พระพายมองอีกฝ่ายอย่างน้อยใจ ทั้งที่ก็รู้ว่าเขาเป็นห่วงแต่ก็ยังไม่ยอมฟังกันบ้าง


"โอเคๆ กลับก็กลับ" ยอมกลับง่ายๆเพียงเพราะสีหน้าแววตาของลูกศิษย์ที่ทำให้เขาอ่อนใจ


         
                 หลังจากที่ภูตะวันกลับไปพักที่คอนโดได้ไม่นาน ก็เป็นเวลาพักของบรรดาแพทย์และบุคลากรในโรงพยาบาล กลุ่มแพทย์เรสสิเดนท์อย่างพระพายก็ลงมานั่งกินข้าวกันตามปกติเหมือนทุกวัน


"วันนี้บอสไม่มานั่งด้วยกันเหรอพาย?" แพรดาวถามอย่างสงสัย เพราะหลายวันมานี้ที่โต๊ะอาหารของพวกเขามักจะมีบอสมาร่วมด้วยเสมอ


"ไม่ว่างล่ะมั้ง" พระพายตอบอย่างไม่ใส่ใจมากนัก เพราะก่อนหน้านี้ก็ใช่ว่าจะเคยเจอกันในโรงพยาบาลด้วยโรงพยาบาลก็มีหลายตึกและแผนกของบอสก็อยู่กันคนละตึกกับเขา


"เออ แล้วอาจารย์เป็นไงบ้าง?"


"กลับไปพักที่คอนโดแล้ว" เขาตอบก่อนจะตักข้าวเข้าปาก ถึงแม้จะกลับไปพักแล้วแต่เขาก็ยังเป็นห่วงอยู่ดีว่าฝ่ายนั้นจะกินยาหรือยังหรือว่าทำอะไรอยู่ ได้นอนพักหรือเปล่า เขาเองก็ไม่กล้าจะโทรไปด้วยกลัวว่าจะรบกวน


"แต่นับถือสปิริตอาจารย์เลยนะ เจ็บขนาดนั้นยังเข้าผ่าตัดเองจนเสร็จโคตรเท่เลย"


"เท่ตรงไหน ทำอย่างกับตัวเองเป็นยอดมนุษย์" พระพายพูดขัดที่อวยอาจารย์เกินจริง แพรดาวกับอนุวัฒน์จึงได้แต่มองหน้ากันอย่างแปลกใจที่อยู่ๆเพื่อนก็ทำเหมือนหงุดหงิดอะไรขึ้นมา ก่อนที่ผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มจะสะกิดเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆเมื่อเห็นว่าใครเดินเข้ามาในศูนย์อาหาร


"หมอโจมา เราไปกันเถอะ" ทั้งแพรดาวและอนุวัฒน์อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้นที่พฤติพงศ์บุกมาหาเรื่องภูตะวันถึงแผนกเรื่องขโมยคนไข้ คำพูดดูถูกเหล่านั้นทำให้ทั้งสองมีอคติกับหมอคนนี้ไปโดยปริยาย พระพายหันไปมองเป็นจังหวะเดียวกับที่ฝ่ายนั้นเห็นเข้าพอดี พฤติพงศ์ยิ้มเย็นๆพลางเดินตรงเข้ามายังโต๊ะของพวกเขา


"ไปเถอะ ไม่อยากหายใจร่วมด้วย" พระพายพูดเสียงขุ่น พลางลุกขึ้นยืนถือจานข้าวเตรียมเอาไปเก็บ ทว่าร่างสูงของหมอแก่ก็ขวางเอาไว้ก่อน เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ข่มใจตัวเองให้ใจเย็นกลัวว่าโรคที่เป็นจะกำเริบขึ้นมา


"ฉันเพิ่งรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ยังไงก็ระวังตัวกันมากกว่านี้ล่ะ มันอาจจะไม่โชคดีไปตลอด" พฤติพงศ์แสร้งทำสีหน้าเป็นห่วงเสียเต็มประดา หากแต่พระพายกลับรู้ดีว่าที่เห็นนั่นมันคือหน้ากากที่มันใส่เอาไว้แสดงละครเท่านั้น


"ขอบคุณมากนะครับที่เป็นห่วง ผมจะระวังตัวไว้ให้มาก แต่ผมว่าคนร้ายมันก็คงจะไม่โชคดีไปตลอดเหมือนกันครับ วันนี้มันหนีไปได้ ต่อให้ผ่านไปอีกสิบปียี่สิบปี ผมก็จะเอามันเข้าคุกให้ได้ครับ" ปิดท้ายประโยคด้วยรอยยิ้มหวานที่ประดับบนใบหน้า ทำเอาพฤติพงศ์หน้าชาและเผลอกำหมัดแน่น ก่อนจะแสร้งยิ้มกลับเช่นเดียวกัน


"ยังไงก็พยายามเข้านะ อย่าปล่อยให้มันลอยนวลนาน ... เพราะมันอาจจะตามมาปิดปากคุณก็ได้" พฤติพงศ์เหยียดยิ้มเย็น ไม่มีท่าทีหวาดหวั่น พระพายมองอีกฝ่ายเขม็งทำท่าจะเดินเลี่ยงไป แต่ก็ไม่วายทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงราบเรียบ


"ถึงผมตาย คนที่ยังอยู่ก็จะพามันเข้าคุกเองครับ" คำพูดอวดดีของแพทย์เรสสิเดนท์ทำให้พฤติพงศ์โกรธและคาใจอยู่ไม่น้อย ดูเหมือนฝ่ายนั้นจะรู้เบื้องลึกของตัวเขามากแน่ๆ เขากดโทรศัพท์ต่อสายถึงคนสนิทที่คอยช่วยงานกันทันที


“สืบให้ฉันทีว่า นายแพทย์พระพาย ภูวนัตถ์ เป็นใคร มาจากไหน"




"พายกล้าไปพูดกับเขาแบบนั้นได้ยังไง เขาดูน่ากลัวออก เหมือนหมอจิตๆ" แพรดาวทำท่าขยาด ขนลุกเกรียว ในระหว่างที่กำลังเดินออกจากศูนย์อาหาร


"รอยยิ้มอย่างกับปีศาจ" อนุวัฒน์พูดเสริมอีกคน รอยยิ้มเย็นๆของหมอคนนั้นยังติดตาเขาไม่หาย พระพายได้แต่เงียบและถอนหายใจ ยังดีที่เพื่อนทั้งสองไม่ได้สนใจว่าเขากับไอ้หมอนั่นมีความหลังอะไรกันมา ไม่นานฝ่ายนั้นคงรู้แน่ว่าเขาเป็นลูกชายของคนที่มันปลอมเอกสารและขโมยอวัยวะไปอย่างหน้าตาเฉยโดยที่ไม่มีใครทราบเรื่อง



               ตั้งแต่ภูตะวันกลับคอนโดไป เขาก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกจนกระทั่งเวลาเลิกงาน พระพายจึงกลับคอนโดด้วยมอเตอร์ไซค์รับจ้างเช่นเคย ถึงแม้จะสนิทสนมคุ้นเคยกับอาจารย์หมอ ทว่าเขาก็ยังเว้นระยะห่างของอาจารย์กับลูกศิษย์อย่างถูกต้องเสมอ นานครั้งถึงจะมาหรือกลับพร้อมอีกคน ...

              เมื่อถึงห้องก็ทิ้งตัวลงบนเตียงกว้างด้วยสภาพอิดโรยจากที่ไม่ได้นอนมาเกือบสองวัน นึกถึงคำพูดเชิงข่มขู่ของพฤติพงศ์เมื่อกลางวันที่ผ่านมา หากฝ่ายนั้นพูดแบบนั้นออกมาได้ ก็เท่ากับว่าต่างฝ่ายต่างรู้ความลับของกันและกัน ก่อนที่เสียงสมาร์ทโฟนในกระเป๋าสะพายจะแผดเสียงดังขึ้นมาให้เขาหลุดออกจากความคิดเมื่อครู่นี้


"ครับแม่"


(พายทำอะไรอยู่ลูก เสียงดูเหนื่อยๆ ได้พักบ้างรึเปล่า) คุณหมอหน้าหวานระบายยิ้มบางๆเมื่อสัมผัสถึงความเป็นห่วงในน้ำเสียงของบุคคลอันเป็นที่รัก


"พายเพิ่งเลิกงาน คิดถึงแม่กับยายจัง ไว้ถ้าพายว่างจะกลับไปหานะ" พระพายพูดเสียงออดอ้อนราวกับเด็กน้อย และมักจะเป็นแบบนี้เสมอหากเขาได้คุยกับแม่และยายที่รักอย่างสุดหัวใจ


(แม่ก็คิดถึงจ้ะ ยายก็บ่นคิดถึงทุกวัน ถ้างานมันหนักนักไม่ต้องทำแล้วก็ได้นะพาย เรื่องนั้นก็ด้วยเหมือนกัน หยุดซะเถอะลูก แม่กลัวพายจะเป็นอะไร) น้ำเสียงของผู้เป็นแม่อ่อนระโหย พระพายถอนหายใจเบาๆ รู้ว่ามารดาเป็นห่วงตนมากแค่ไหน เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยสนับสนุนให้เขามาแก้แค้น มีแต่ตัวเขาเองเท่านั้นที่ดึงดันจะทำ เอาความถูกต้องเป็นธรรมกลับมาให้ครอบครัว


"พายรู้นะว่าแม่เป็นห่วง แต่พายดูแลตัวเองได้ อีกไม่นานหรอกแม่เดี๋ยวมันก็จบแล้ว ... พายรักแม่กับยายนะ" เขาบอกคนปลายสายด้วยน้ำเสียงหนักแน่น กดวางสายเมื่อฝ่ายนั้นบอกให้ดูแลตัวเองเพื่อรอวันกลับไปเจอกันอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงและเตรียมขึ้นไปหาคนที่คอยทำให้หัวใจเขาคิดหนักวันละหลายหนอย่างอาจารย์ภูตะวัน




                 กำปั้นเล็กเคาะลงบนประตูไม้เนื้อดีไม่ดังมากนัก ทั้งที่ก็ไม่อยากให้คนในห้องเป็นฝ่ายลุกมาเปิดด้วยกลัวว่าแผลจะอักเสบจนหายช้ากว่าเดิม แต่ก็ช่วยไม่ได้ในเมื่อเขาไม่มีคีย์การ์ดเข้าห้องนี้ รออยู่ไม่นานประตูก็ถูกเปิดออก พระพายชะงักไปนิดเมื่อคนที่มาเปิดประตูคือหญิงสาวแพทย์สูติ-นารี


"เอ่อ สวัสดีครับ" เขายกมือไหว้อย่างมีมารยาท แต่น้ำเสียงก็ตะกุกตะกัก แปลกใจเล็กน้อยที่เห็นว่าคุณหมอสาวสวยอยู่ในห้องอาจารย์ของเขาด้วย


"สวัสดีจ้ะ เข้ามาสิ ซันหลับอยู่" ขายาวเดินก้าวเข้าไปด้วยจังหวะไม่มั่นคงนัก สโรชาอยู่ในชุดทำงานสวมทับด้วยผ้ากันเปื้อนทำอาหาร


"คุณหมอ ... เข้ามาได้ยังไงเหรอครับ?" ถามอย่างสงสัย ในเมื่ออาจารย์ของตนหลับอยู่และเพิ่งจะเป็นเวลาเลิกงานได้ไม่นาน หากอาจารย์เป็นคนเปิดก็คงไม่น่าจะหลับไปเร็วขนาดนั้น


"ฉันมีคีย์การ์ด ซันเคยให้เอาไว้ใช้เวลาฉุกเฉิน ก็ไม่เคยได้ใช้จนวันนี้นี่แหละ เข้าไปดูมันเถอะ" พระพายพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเปิดประตูเลื่อนเข้าห้องนอนไปจนเห็นว่าคนเจ็บนอนหลับอยู่และสีหน้าดูดีขึ้นกว่าเมื่อเช้ามากแล้ว



               เขานั่งลงที่พื้นข้างเตียง มองหน้าคมเข้มของอีกฝ่ายที่กำลังนอนหลับสนิท ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ พระพายเบะปากด้วยความรู้สึกหมั่นไส้เล็กๆ


"สนิทกันขนาดไหนครับ ถึงได้ให้คีย์การ์ดเข้าห้องได้ มีหลายใบเลยสิท่า" ตาคู่สวยเหล่มองอีกคนอย่างไม่ชอบใจนัก ก่อนจะพูดอีกครั้งเป็นการทิ้งท้ายก่อนออกจากห้องเพราะไม่อยากรบกวนคนเจ็บที่กำลังพักผ่อนอยู่


"หมอบีเธอเป็นผู้หญิงนะครับ ไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วมาอยู่ในห้องสองต่อสอง มันน่าเกลียด" พูดจบก็ถอนหายใจและลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ทว่ายังไม่ทันที่จะได้เดินออกไปก็ถูกมือหนารั้งข้อมือเอาไว้และดึงจนเขาเสียหลักล้มลงบนเตียงไปอย่างไม่ทันตั้งตัว


"เห้ย!!!" คนตัวเล็กกว่าร้องเสียงหลง เมื่อคิดว่าคนที่หลับอยู่กลับไม่ได้หลับอย่างที่คิด พระพายดิ้นขลุกๆให้หลุดจากพันธนาการของอ้อมแขนแข็งแกร่ง


"อย่าดิ้น! ผมเจ็บ" ภูตะวันบอกเสียงแข็ง อีกฝ่ายก็กลัวว่าอาจารย์ของตนจะเจ็บจริงๆจึงนอนนิ่งให้อีกฝ่ายกอดเอาไว้และยื่นใบหน้ามาใกล้กันเพียงคืบ


"ปล่อยผมสิครับ" พยายามดึงแขนอีกคนออกแต่ก็ไม่เป็นผล เหนียวยิ่งกว่าตีนตุ๊กแก แน่นยิ่งกว่าหนวดปลาหมึก พระพายจึงต้องยอมนอนนิ่งอย่างอ่อนใจ


"รู้ไหมว่าทำตัวน่ารัก" ภูตะวันยิ้มละมุน เขาได้ยินสิ่งที่พระพายพูดตั้งแต่ประโยคแรก ถึงจะหลับไปแล้วแต่เขาก็เป็นประเภทรู้สึกตัวง่าย เพราะเป็นหมอมาหลายปีการจะหลับสนิทจึงเป็นเรื่องยาก


"ไม่เข้าใจครับ" ลูกศิษย์ตอบซื่อๆพร้อมด้วยแววตาสงสัย อยู่ๆก็มาพูดว่าทำตัวน่ารักทั้งที่เขาเองยังไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ ภูตะวันหัวเราะเบาๆเอ็นดูกับท่าทางของคนในอ้อมกอดที่นอนตัวแข็งทื่อ


"คุณหึงผมกับบี" คนฟังเบิกตากว้างอย่างตกใจสุดขีด เขามั่นใจว่าเขาไม่ได้หึง ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นหรือบางทีเขาอาจจะไม่เข้าใจว่านี่คืออาการของคนที่กำลังหึงหวง ไม่เคยรู้ ไม่เคยสนใจความรักเพราะชีวิตที่ผ่านมาอยู่กับเป้าหมายในชีวิตของตัวเองมาโดยตลอด


"ผะ ผมไม่ได้หึง ผมแค่ ..."


"แค่อะไร?" สายตาคมกริบมองลูกศิษย์ ราวกับหมาป่าที่กำลังต้อนลูกแกะให้จนมุม ใบหน้าคมเคลื่อนเข้ามาใกล้จนเว้นระยะห่างไม่ถึงคืบ


"... ไม่รู้ครับ!" พระพายพูดเสียงห้วน ดันหน้าอีกฝ่ายออกห่าง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของอาจารย์ที่มองมันทำให้เขารู้สึกเก้อเขินแปลกๆ ทั้งที่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ภูตะวันหัวเราะนิดๆ ไม่พูดล้อให้อีกฝ่ายต้องเขินอายมากกว่านี้ เดี๋ยวจะกลายเป็นไม่ชอบใจกันเสียเปล่าๆ ก่อนจะลูบหัวกลมของลูกศิษย์แผ่วเบาด้วยความเอ็นดู


"อาการเจ็บดีขึ้นรึยังครับ?" เมื่อเงียบไปนาน พระพายก็ถามถึงอาการเจ็บของอีกคนและนอนสบายตัวมากขึ้น เมื่ออาจารย์คลายอ้อมกอดที่รัดแน่นออกเหลือเพียงโอบไว้หลวมๆเท่านั้น


"ดีขึ้นแล้ว ไม่ได้โกหก"


"ถ้างั้นก็ลุกไปกินข้าวครับ หมอบีเขาทำไว้ให้แล้ว"


"... ผมกับบีเป็นเพื่อนสนิทกันมาก ไม่มีอะไรนอกเหนือกว่าความเป็นเพื่อน สบายใจได้" ภูตะวันตอบสีหน้าจริงจัง ลูบแก้มใสของอีกฝ่ายอย่างเบามือ


"ผมก็ไม่ได้คิดอะไรนี่ครับ" พระพายตอบอ้อมแอ้มก่อนจะจับแขนของอีกฝ่ายที่โอบเอวของตัวเองออกแล้วลุกจากเตียง เดินหนีคนเจ็บออกจากห้องไปทันที ทิ้งให้อาจารย์หมอได้แต่นอนยิ้มกับตัวเอง



"ซันตื่นหรือยังล่ะ?" สโรชาถามระหว่างจัดโต๊ะอาหารเย็น เมื่อเห็นว่าพระพายเดินออกมาจากห้องนอนของเพื่อนสนิทตตัวเอง


"ตื่นแล้วครับ" พระพายคลี่ยิ้ม ก่อนจะช่วยหญิงสาวจัดโต๊ะอาหาร ไม่ใช่ว่าไม่คิดจะหาอะไรให้อาจารย์ทานเป็นอาหารเย็น ขึ้นมาหาเพราะอยากจะถามว่าอยากกินอะไรทว่ากลับกลายเป็นสโรชามาหาและจัดการทุกอย่างก่อนแล้ว


"เดี๋ยวฉันต้องรีบไปแล้ว มีเข้าเวรต่อ นี่ก็แว้บมา เดี๋ยวมันจะหาว่าฉันใจจืดใจดำ เพื่อนเจ็บแล้วไม่ดูแล"


"ไม่อยู่ทานก่อนเหรอครับ?"


"ตามสบายเถอะจ้ะ" สโรชายิ้มสวย พลางถอดเสื้อกันเปื้อนออกในขณะที่หมอซันเดินออกมาจากห้องนอนพอดี


"ฉันทำอาหารไว้ให้ กินแล้วกินยาด้วยล่ะ ฉันกลับละอยู่เวร หายๆไวนะแก"


"อืม ขอบใจ" ภูตะวันพยักหน้าตอบเล็กน้อย เป็นเรื่องธรรมดาที่เพื่อนสนิทคนนี้จะชอบทำอาหารและชอบดูแลคนอื่น โดยเฉพาะเขา ทุกครั้งที่อยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากสโรชาจะเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่อยู่ข้างเขาเสมอ


"ถ้างั้นผมลงไปส่งครับ" พระพายอาสาเดินลงไปส่งเธอที่ข้างล่างตึก แทนคำขอบคุณแทนอาจารย์ที่เธอสละเวลามาทำอาหารให้



                บรรยากาศภายในลิฟท์ดูจะอึดอัดไม่น้อย เมื่อทั้งสองคนที่ไม่สนิทกันเลยมาอยู่ด้วยกันและด้วยความที่เป็นผู้ใหญ่เห็นอีกฝ่ายมีอาการประหม่าอยู่บ้างจึงเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาทำลายความเงียบก่อน


"โชคดีนะที่ไม่เป็นอะไรมาก ตอนรู้เรื่องก็ตกใจเหมือนกัน" พระพายทำเพียงยิ้มบางๆเท่านั้นเพราะไม่รู้จะพูดอะไรด้วยไม่สนิทกันและอีกฝ่ายโตกว่าเขาจึงประหม่าอยู่บ้าง


"กับซันเป็นยังไงบ้าง?" เธอถามด้วยน้ำเสียงสบายๆ ถึงแม้ในใจจะยังรู้สึกกับผู้ชายที่ชื่อภูตะวัน แต่ไม่ว่าเธอพยายามมากเท่าไหร่ เขาก็เหมือนจะไกลออกไปทุกที จนต้องปล่อยทุกอย่างเอาไว้และเข้าใจโลกของความเป็นจริง


"... ก็ ไม่มีอะไรนี่ครับ ยังเป็นอาจารย์กับลูกศิษย์เหมือนเดิม" พระพายตอบอย่างไม่สะดวกใจ เงยหน้ามองตัวเลขสีแดงบอกที่บอกชั้นไปเรื่อยๆ


"อย่าหาว่าฉันยุ่งเลยนะ ถ้าไม่ได้คิดอะไรก็บอกมันไปซะ ซันมันเป็นคนเย็นชา แข็งกระด้าง น่ากลัว อ่อนโยนไม่เป็น บางทีอาจจะเข้าถึงยาก" ลิฟท์เปิดออกในขณะที่สโรชายังพูดไม่จบ เธอหยุดพูดพักหนึ่งและเดินเลี่ยงคนที่จะเข้าลิฟท์ต่อ ก่อนจะเดินไปอย่างช้าๆคู่กันกับลูกศิษย์ของเพื่อนไปที่รถ


"แต่รู้ไหมว่าคนเย็นชาเวลารักใครแล้วเขาจะอบอุ่นและดูแลดีมาก ตอนนี้ฉันเห็นว่าซันมันเป็นแบบนั้น ฉันถึงบอกว่าถ้าไม่ได้คิดอะไรก็ควรบอกตั้งแต่ตอนนี้ อย่ายื้อเวลาเพื่อรอคำตอบของใจตัวเอง คนเย็นชาเวลาเขาเสียใจก็เจ็บหนักเหมือนกัน ..."


"... แค่ใจตรงกันแล้วรักกันได้ โลกนี้ก็คงมีคนสมหวังเต็มไปหมดแล้วครับ" นายแพทย์หนุ่มหน้าหวานถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะหันมายิ้มบางๆให้กับหญิงสาว


"ถ้าเป็นฉัน ... ฉันจะทำสิ่งที่ใจฉันต้องการ ความรักมันไม่มีเงื่อนไขอะไรหรอก เราต่างหากที่ตั้งเงื่อนไขให้กับมัน" หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง เธอวางมือบนบ่าของพระพายที่ตัวสูงกว่าเธอเล็กน้อยพร้อมกับบีบมันเบาๆให้กำลังใจ ก่อนจะเดินไปที่รถ ทิ้งให้พระพายจมอยู่กับความคิดของตัวเองถึงบทสนทนาระหว่างเขาและเธอเมื่อครู่



"ส่งถึงไหน ไปซะนาน" ภูตะวันพูดเสียงขรึม คนที่เพิ่งเข้ามาห้องมาคลี่ยิ้มให้แทนคำตอบก่อนจะเดินมานั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะอาหาร


"มียาก่อนอาหารรึเปล่าครับ?"


"กินเรียบร้อยแล้ว ผมรอคุณมากินข้าวด้วยกัน" พระพายเบะปากยิ้มๆ ตักข้าวสวยร้อนๆใส่จานอีกฝ่ายอย่างพอดี


"วันนี้ผมเจอมันด้วย" เขาพูดเสียงขุ่น จนหมอซันต้องเงยหน้าจากจานข้าวขึ้นมองใบหน้าอีกฝ่ายว่าหมายถึงใคร แต่เมื่อเห็นลูกศิษย์ทำหน้าบูดเบี้ยวก็รู้ว่าเป็นใครไม่ได้นอกจากพฤติพงศ์


"พูดไม่เพราะเลย เขาแก่กว่า .. แล้วเขาทำอะไรคุณรึเปล่า?" ตำหนิลูกศิษย์ด้วยเสียงที่นุ่มนวลและถามต่อด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าฝ่ายนั้นจะทำอะไรให้ลูกศิษย์ต้องเจ็บตัวหรือโกรธเคือง


"เป็นฆาตรกรยังจะให้พูดเพราะด้วยอีก" บ่นเบาๆพลางเขี่ยข้าวในจาน จนอีกคนต้องจับมือให้หยุดเขี่ยแล้วคุยกันก่อน


"เขาทำอะไรไหม?"


"ไม่ครับ แต่หลังจากนี้ผมว่าเขาต้องทำแน่" ตาคู่สวยมองคนตรงหน้าด้วยความกังวลเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างกังวลใจ


"เราก็ต้องเร่งมือหาหลักฐานเหมือนกัน อาผมได้ข้อมูลผู้ป่วยเมื่อไหร่เราคงทำอะไรได้ง่ายขึ้น"


"เอาไว้ก่อนเถอะครับ อาจารย์ยังไม่หายดี" เมื่อลูกศิษย์พูดแบบนั้นเขาจึงไม่อยากจะขัดใจ แต่ถึงยังไงก็คงไม่ปล่อยให้ช้ากว่าฝ่ายนั้นแน่ๆ ก่อนที่ทั้งสองจะนั่งกินข้าวกันไปเงียบๆโดยมีเสียงจากโทรทัศน์ที่เปิดทิ้งเอาไว้ไม่ให้ห้องเงียบจนเกินไป ...



***************



Talk : เสร็จเร็วมากตอนนี้ พิมพ์ในไอโฟนมือหงิก เรื่องเรียนยังไม่ขยันขนาดนี้เลย เขินจัง >///< 5555555555 มันก็เริ่มเข้มข้นขึ้นบ้างแล้วล่ะ ตอนหน้าอาจารย์หมอสุดหล่อของเราก็น่าจะหายได้แล้ว พร้อมระเบิดภูเขา เผากระท่อม ชำแหละหมอโจเอาคืนให้น้องพายอย่างเลือดเย็น (?) ไม่ใช่ละ นั่นแหละ แค่อยากให้ติดตามกันต่อไป อิอิ


เราอ่านคอมเม้นท์ตลอดนะ เม้นท์ได้เราชอบอ่าน อ่านแล้วชอบยิ้ม เราเป็นบ้า 555555555 พบกันตอนหน้าค่าาาา :3
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-12-2015 21:35:35 โดย G-bazo »

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
กรี๊ดดดด มาต่อไวมาก ดีใจน้ำตาไหล ชอบอ่านฉากในห้องผ่าตัดมากๆๆๆๆ ขอบคุณคนแต่งค่า

หมอซันผู้เย็นชา เป็นจิ้งจอกจะตะครุบน้องพายผู้น่ารักชัดๆ เลย

ออฟไลน์ nuja

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
หมอซันเท่มากกกกกกกกกเลย หายไวไวนะคะ

คนชั่วจะออกลายแล้ว เดี๋ยวหมอพายจะโดนทำร้าย

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ลุ้นเป็นห่วงหมอซันในช่วงผ่าตัด แล้วก็ผ่านไปด้วยดี
แต่โดนมาพายบ่นแทน

หมอซันรีบหายจะได้ช่วยหมอพายเอาผิดหมอโจ
คงไม่นิ่งนอนใจ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
รอดูหมอซันบู๊เพื่อปกป้องน้องพาย กรี๊ดดดดดดดดด

ออฟไลน์ GETIIZ

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-4
อร้ายยยยยย เค้ามีหึงกันด้วยอะ น่ารักกกกก
ว่าแต่หมอซันนี่พร้อมจะเบิดภูเขาเผผากระท้อมเพื่อพระพายเลนหรอ 555555555

ส่วนหมอโจยิ่งจิตขึ้นทุกวัน
อยากให้พระพายระวังตัวมากกว่านี้ คนลอบกัดมันก็ลอบกัดวันยังค่ำ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
หมอซันเก่งมาก เท่มากด้วย น้องพายก็รีบรับรักหมอซันซะที คนอ่านลุ้น
ศัตรูออกตัวแรงอย่างนั้น ปะทะเดือดแน่ ระวังตัวกันด้วยนะ

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
สนุกมากชอบที่สุดเลย เรื่องหมอๆเนี่ยะ






ต้องเข้ามาเป็นแฟนหมอซันกับหมอพระพายแล้วละ







แต่ตาแก่หมอโจนี่ จะร้ายไปถึงใหน







ไม่กลัวเป็นมะเร็งในสมองตายหรือไงตาแก่นี่

ออฟไลน์ Sugar

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
หมอซันโหมดอินเลิฟเนี่ย มันช่างน่ารักได้อกได้ใจจริงจริ๊ง เชียร์สุดตัวเลยแบบนี้

หมอบีก็น่ารักอ่ะ เป็นหญิงที่แมนนนนนมาก สุดยอดเลย

ตั้งตารออ่านต่อนะค๊า อยากเห็นหมอซันจัดหนักๆ กับตาหมอโจแล้ว

ออฟไลน์ Tatangth

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
หมอซันมีความรัก น่าร้ากกกกกก

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
หมอซันเก่งมากกก ใส่ใจหมอพายมากๆๆๆด้วย
กลัวน้องเค้าโกรธจนต้องรีบกลับไปพัก น่ารักกกก
หมอพายก้หึง หวง ห่วงแบบไม่รุตัว เมาๆมึนๆ 5555
ส่วนหมอบีนี่คือดีอะ ผญเข้าใจโลกและรับความจริงได้ เธอแมนมากก
แต่หมอโจนี่ควรโดนเก็บ น่าหมั่นไส้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-08-2015 00:05:16 โดย MSeraph »

ออฟไลน์ ToeyTato

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-1
โอ๊ยยยยยยยย หมอขี้ซันอ้อนจริงรุกเรื่อยๆแบบนี้แหละพระพายจะได้ตกลงเร็วๆ ว่าแต่อีตาหมอโจนี่น่ากลัวนะ ไม่น่าเรียกหมอเลยเสียหมด ดูจิตด้วย 

ดีใจที่มาต่อเร็วนะคะ รักษาเวลาในการมาต่อเร็วแบบนี้ได้เราจะรักมากเลย 5555

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ DREAM COME TRUE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 379
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
เรื่องนี้น่ารักมากกกกกกกกกกก
สนุกมากกกกกกก

มีปมเล็กๆ
ตัวละครมีสเน่ห์

แถมรายละเอียดในวงการแพทย์ก็แน่นกว่าหลายๆเรื่อง
ขนาดผู้แต่งไม่ได้เรียนแพทย์นะ แสดงว่าทำการบ้านมาดีมาก

ชอบมากครับ อยากแนะนำคนอื่นๆให้อ่านจริงๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kpHJstdy

  • HHD요
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เพิ่งเข้ามาอ่านครั้งแรกชอบมากกกกกกก เป็นนิยายเกี่ยวกับหมอที่ดีงามเลอค่าสุดๆ แบบดีมากกก อ่านแล้วลุ้นตลอดเลย ชอบตอนผ่าตัดมากๆเลยค่ะ อ่านแล้วอินนึกว่าโดนผ่า 55555555555 อันนี้ไม่ใช่และ คนแต่งเก่งมากเลย สุดยอดในความตั้งใจสุดๆเลยค่ะ หาข้อมูลและแต่งได้ขนาดนี้เรานับถือมาก แถมสนุกมากด้วย มีปมให้ชวนลุ้น อ่านแล้วเกลียดหมอโจมากกกก เลวสุดๆ  แล้วตอนนี้พี่หมอซันสุดหล่อของเรา(???) ยิ่งน่ารักคิดเรื่อยๆเลย ฮื้อออออออ ขอคบหมอพายแล้วความน่ารักของอาจารย์หมอของเรานี่พุ่งทะลุมากกกกกกกก อยากให้หมอพายคิดให้น้อยลงแล้วตกลงคบกับพี่หมอซันเถอะนะคะ   :hao5:   จะรอตอนต่อไปนะคะ ชอบมากกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
งวดนี้คนแต่งหายไปนานจัง คิดถึงค่าาา

ออฟไลน์ G-bazo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-1

-15-


"พระพาย ภูวนัตถ์ เป็นลูกชายของนายพีระ ภูวนัตถ์ เสียชีวิตไปหลายสิบปีก่อน เคยเป็นคนไข้ของคุณหมอครับ" ชายร่างสูงที่ถูกแพทย์รุ่นใหญ่ว่าจ้างให้สืบเรื่องราวของฝ่ายนั้น รายงานด้วยความนอบน้อมเพราะอีกคนมีอำนาจเหนือกว่าตนอยู่มาก


"พีระ ภูวนัตถ์ ... เสียชีวิตเพราะอะไร" ดวงตาภายใต้กรอบแว่นสายตาหรี่ลงมองชายร่างสูงอย่างต้องการคำตอบที่แน่ชัด ตลอดชีวิตการเป็นหมอเขาผ่านคนไข้มาหลายราย จึงจดจำได้ไม่ทั้งหมด


"ผ่าตัดหลังเกิดอุบัติเหตุครับ แต่มีเอกสารการบริจาคอวัยวะของนายพีระ ซึ่งผมคิดว่า .."


"เอกสารปลอม ฉันพอจะเดาทางของเด็กคนนั้นออกละ มันคงโกรธแค้นฉันมากที่ทำให้พ่อมันตาย ฉันก็ไม่ได้ให้พ่อมันตายฟรีๆเสียหน่อย เงินค่าทำศพฉันก็หยิบยื่นให้แต่ครอบครัวมันไม่เอาเอง ... ช่วยไม่ได้"


"จากนี้คุณหมอจะทำยังไงต่อครับ?"


"... มันกำลังรนหาที่ตาย มีอวัยวะครบดีๆไม่ชอบ ให้คนจับตาดูมันไว้ ฉันปล่อยให้มันเล่นสนุกนานกว่านี้ไม่ได้แล้ว" พฤติพงศ์สั่งเสียงเรียบ ก่อนจะลุกเดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่ มองออกไปข้างนอกด้วยสีหน้าครุ่นคิด ชายร่างสูงจึงเดินออกจากห้องไปอย่างรู้หน้าที่ของตัวเอง



                 ภายในห้องทำงานของแพทย์เรสสิเดนท์ตอนนี้เงียบจนได้ยินเสียงเดินของเข็มนาฬิกาติดผนัง ปากกาด้ามสีดำถูกมือเล็กหมุนไปมาอยู่ครู่ใหญ่ นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างใช้ความคิด


"พาย"


"พระพาย!" เสียงเรียกที่ดังขึ้นพร้อมแรงจับบนไหล่ทำให้พระพายสะดุ้งเล็กน้อย เขาเงยหน้ามองแพรดาวที่เป็นคนเรียกเขาให้หลุดออกจากความคิดของตัวเอง


"เป็นอะไร หลายวันมานี้ดูเครียดๆเหม่อๆนะ" แพรดาวถามอย่างเป็นห่วงระคนสงสัย หลายวันมานี้ดูพระพายจะไม่ค่อยปกติเท่าไหร่นัก อีกฝ่ายเหมือนมีเรื่องให้คิดตลอดเวลา ซึ่งเธอไม่รู้ว่าเรื่องอะไร


"... ไม่มีอะไรหรอก" พระพายตอบปัดพลางส่งยิ้มบางให้อีกฝ่ายสบายใจ ถึงแม้แพรดาวจะไม่เชื่อเท่าไหร่ก็ตาม แต่เธอก็ไม่เซ้าซี้ถาม เพราะถ้าพระพายอยากจะเล่าก็คงจะเล่าให้ฟังตั้งแต่แรกแล้ว


"อ้อ! วันนี้อาจารย์จะกลับมาทำงานแล้วใช่ไหม? OPD คิวรอตรวจแน่นเลย"


"อืม เราไปรออาจารย์ที่วอร์ดกันเลยเถอะ" เขาลุกจากเก้าอี้และเดินนำแพรดาวออกไปจนถึงวอร์ด ก็พบว่าอาจารย์หมอกำลังยืนอ่านชาร์จคนไข้พร้อมกับอนุวัฒน์อยู่ก่อนแล้ว ทั้งสองคนจึงยกมือไหว้สวัสดีทั้งอาจารย์และพยาบาลสาวประจำวอร์ดอย่างเช่นทุกวันจนเป็นเรื่องปกติ


"ทำไมมาช้ากันจัง" หมอเอิร์ธโอดครวญ ให้เขายืนอยู่กับอาจารย์หมอที่ได้ชื่อว่าโหดและดุของแผนก เขาเองก็เกร็งไปบ้างเหมือนกัน ถึงแม้จะอยู่ที่นี่มาได้สักพักแล้วก็ยังไม่สนิทกับอาจารย์หมอเท่ากับพระพาย


"โทษพายเลย พายมัวแต่นั่งเหม่อ ไม่รู้มีเรื่องอะไรให้คิดนัก" แพรดาวระบายยิ้ม แกล้งโยนความผิดให้เพื่อนก่อนจะรับชาร์จคนไข้ในแผนกจากพยาบาลสาวมาเปิดอ่าน ภูตะวันละสายตาจากชาร์จเหลือบขึ้นมองลูกศิษย์หน้าหวานเมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายเอาแต่นั่งเหม่อ คนถูกมองหลบสายตาก่อนยื่นหน้าอ่านชาร์จร่วมกับแพรดาวอีกคน


"ไปกันได้แล้ว" ภูตะวันบอกเสียงเรียบก่อนจะเดินนำทุกคนไปยังห้องพักฟื้นพิเศษของผู้ป่วยเพื่อตรวจอาการหลังจากผ่าตัด นึกเป็นห่วงอีกคนใจจะขาดว่าเรื่องใดที่ทำให้ลูกศิษย์เก็บมาคิด แต่ก็ต้องละเอาไว้ด้วยคิดว่าหากถามไปตอนนี้ก็คงจะไม่เหมาะนักเมื่อไม่ได้อยู่ในเวลาที่สมควรพูดเรื่องส่วนตัว



                 คณะแพทย์นำโดยภูตะวันมาถึงที่ห้องพักฟื้นของผู้ป่วยที่เขาเพิ่งจะทำการผ่าตัดไปเมื่อหลายวันก่อน วันนี้เป็นวันแรกที่ได้กลับมาทำงานอีกครั้งหลังจากพักฟื้นจากแผลถูกแทงจนดีขึ้นแล้ว จึงเป็นครั้งแรกอีกเช่นกันที่เขาได้มาตรวจเยี่ยมอาการ


"สวัสดีครับ" ภูตะวันทักทายญาติผู้ป่วยด้วยรอยยิ้มเพียงเล็กน้อย คณะแพทย์และพยาบาลที่เหลือจึงค้อมหัวลงเล็กน้อยเป็นการแสดงความเคารพ


"สวัสดีค่ะ มากันเยอะเลยนะคะวันนี้" หญิงผู้เป็นบุตรสาวของผู้ป่วยเอ่ยทักอย่างเป็นกันเองพร้อมระบายยิ้มสวยที่ทำเอาหลายคนหัวใจกระตุก


"หลายวันมานี้มีอาการอะไรผิดปกติหรือเปล่าครับ?" ภูตะวันถามพลางเดินเข้าไปชิดเตียง ก่อนชายสูงอายุที่เป็นผู้ป่วยจะขยับตัวเล็กน้อยและลืมตาขึ้นมาเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรรบกวนการนอน


"ก็มีแค่บ่นว่าปวดแผลนะคะ นอกนั้นก็ไม่มีอะไร" อาจารย์หมอพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงรับรู้ เขาตรวจคลื่นหัวใจและวัดความดัน เรสสิเดนท์และแพทย์คนอื่นต่างก็จดโน๊ตไว้ในสมุดของตัวเองเพื่อเป็นความรู้ พระพายมองหญิงสาวที่สวยดูมีสง่าสลับกับมองอาจารย์หมอของตน หากเขาไม่ได้คิดมากไปสายตาของหญิงสาวที่มองอีกฝ่ายนั้น ต่างจากสายตาของญาติผู้ป่วยและหมอทั่วไป


"อีกสองสามวันก็กลับไปพักฟื้นที่บ้านได้แล้วล่ะครับ จากนี้ผมก็ขอให้ดูแลเรื่องการสูบบุหรี่ ควรจะเลิกนะครับ หลังจากนั้นหมอรังสีจะนัดมาตรวจเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์อีกที"


"ค่ะ ขอบคุณคุณหมอมากนะคะที่ช่วยผ่าตัดพ่อจนปลอดภัย เห็นพยาบาลบอกว่าตอนนั้นคุณหมอเองก็เจ็บอยู่ด้วย ..." เธอมีสีหน้าเกรงใจเล็กน้อยแต่ก็ขอบคุณออกมาจากใจจริงๆและชื่นชมสปิริตของภูตะวันไม่น้อย


"เป็นหน้าที่ของพวกผมอยู่แล้วล่ะครับ" อาจารย์หมอคลี่ยิ้มบาง ผู้หญิงที่ดูสวยและมั่นใจแฝงเสน่ห์ไว้ในดวงตาคู่สวยที่ไร้แววแต่งแต้มจากเครื่องสำอาง ไม่แปลกนักหากผู้ชายอย่างเขาจะคิดว่ามันดูน่ามอง


"ยังไงฉันก็ต้องขอบคุณทุกคนจริงๆค่ะ" หญิงสาวระบายยิ้ม พระพายกลอกตาไปมาแอบยู่ปากที่เห็นอาจารย์กับเธอพูดคุยกันราวกับว่าในห้องนี้มีเพียงเขาสองคนทั้งที่ยังมีอีกหลายชีวิตยืนมองพวกเขาอยู่อย่างเงียบๆ


                หลังจากการราววอร์ดในช่วงเช้าเสร็จ พวกเขาก็ต้องไปตรวจ OPD ที่ชั้นของผู้ป่วยนอกต่อ เนื่องจากภูตะวันเป็นแพทย์ที่เก่งในระดับต้นๆของโรงพยาบาล ผู้ป่วยหลายรายจึงยอมจองคิวรอเพื่อจะได้ตรวจกับเขา ทำเอาพระพายแอบภูมิใจและชื่นชมอีกฝ่ายอยู่ในใจและด้วยการตรวจที่ค่อนข้างยาวนานจึงทำให้ทั้งสองคนไม่ได้มีเวลาพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวเลยจนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาจนถึงพักกลางวัน ...


"ไม่ไปทานข้าวด้วยกันก่อนเหรอคะอาจารย์?" แพรดาวเอ่ยถาม


"ไม่ล่ะ เชิญพวกคุณตามสบายแล้วเจอกันที่ประชุม" ปฏิเสธเสียงเรียบ ในขณะที่กำลังจะเดินแยกไปอีกทาง เสียงของลูกศิษย์ปากแข็งก็รั้งเอาไว้เสียก่อน


"อยากทานอะไรฮะ ผมจะซื้อขึ้นไปให้" หมอพายพูดเสียงอ่อน ถึงแม้จะยังหงุดหงิดจากเรื่องเมื่อเช้าแต่ความเป็นห่วงอีกฝ่ายก็มีมากกว่า


"... ไม่เป็นไร ผมไม่ค่อยหิว" คนตัวสูงยิ้มบางให้อีกคนวางใจว่าเขาไม่หิวอย่างที่พูดจริงๆ ก่อนจะเดินจากไปเพื่อให้ลูกศิษย์มีเวลาส่วนตัวกับเพื่อนบ้าง พระพายจึงถอนหายใจเมื่ออีกฝ่ายเดินลับตาไปแล้ว



                ภูตะวันนั่งอ่านทบทวนประวัติของผู้ป่วยในระบบคอมพิวเตอร์ที่เข้ามาตรวจเมื่อเช้านี้เพื่อนำไปวินิจฉัยต่ออย่างละเอียดอีกครั้งอย่างเคร่งเครียด ก่อนที่เสียงเคาะประตูห้องจะดังขึ้นและประตูก็ถูกเปิดในเวลาต่อมาโดยที่เขายังไม่ได้อนุญาตด้วยซ้ำ


"ขออนุญาตครับ"


"พระพาย" อาจารย์หมอพูดเสียงเบา แปลกใจที่อีกฝ่ายมาหาในเวลานี้ทั้งที่อีกตั้งเกือบสองชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาประชุม แต่เมื่อไล่สายตาลงไปก็พบว่ามือเล็กถือถุงที่ข้างในบรรจุกล่องข้าวเข้ามาด้วย


"ต้องให้ผมบอกกี่ครั้งครับว่าเป็นหมอก็ต้องดูแลตัวเองด้วย ถึงจะยุ่งแค่ไหนก็ควรหาเวลากินข้าวนะครับ" พระพายพูดเสียงเรียบเช่นเดียวกับสีหน้าพลางเดินไปนั่งลงที่โซฟาและจัดแจงเอากล่องข้าวออกมาจากถุง หมอซันอมยิ้มเล็กน้อยถึงแม้ลูกศิษย์จะทำเหมือนไม่ค่อยพอใจแต่เขากลับมองว่ามันดูน่ารักที่อีกฝ่ายเป็นห่วงเป็นใยตน


"มากินสิครับ เดี๋ยวจะเย็นหมด" พระพายเรียกอีกฝ่ายเสียงดังขึ้นเล็กน้อย เรียวคิ้วขมวดมุ่นไม่พอใจที่อีกฝ่ายเอาแต่นั่งมองเขาจากโต๊ะทำงานทั้งที่เขาก็เตรียมทุกอย่างให้จนพร้อมแล้ว

ภูตะวันหัวเราะเล็กน้อยกับความดุที่ดูน่ารักมากกว่าของลูกศิษย์ก่อนจะลุกขึ้นและเดินไปนั่งที่โซฟาฝั่งตรงข้ามกับพระพาย นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มมองอีกฝ่ายอย่างขอบคุณ


"สายตาแบบนี้ของอาจารย์ ใช้มองทุกคนที่สนใจเลยรึเปล่าครับ"


"หมายถึงอะไร?"


"ก็! ... ไม่มีอะไรครับ" หมอพายปฏิเสธเสียงเบาในประโยคหลัง หลังคิดขึ้นมาได้ทันว่าไม่ควรที่จะพูดไป ในเมื่อตัวเองก็ไม่ได้มีสิทธิ์ไม่พอใจ หากพูดไปก็คงจะไม่เหมาะ


"ผมอยากให้คุณมีอะไรก็พูดออกมา เล่าออกมาให้ผมฟัง เหมือนกับที่คุณพูดตอนผมหลับ" ภูตะวันพูดด้วยสีหน้าจริงจังและรู้สึกน้อยใจอยู่ลึกๆที่อีกฝ่ายไม่กล้าที่จะพูดความจริงกับเขา มันทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองไม่สำคัญกับอีกคนเลย พระพายเองก็รู้สึกแย่ขึ้นมาเมื่อเห็นสีหน้าของอาจารย์หมอ เขาจึงสูดหายใจเข้าปอดลึกๆเพื่อเรียกกำลังใจให้ตัวเอง ก่อนจะพูดสิ่งที่อัดอั้นอยู่ข้างในออกมา


"... ผมเห็นนะครับสายตาที่อาจารย์มองลูกสาวคนสวยของคนไข้เมื่อเช้า เธอเองก็ดูจะชอบอาจารย์ด้วยเหมือนกัน ถ้าอาจารย์ชอบเธอก็ควรจะบอกผมให้รู้ก่อน จะได้เป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจของผม ... ให้ตายเถอะ ผมไม่ชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้เลย ผมขอตัวครับ" เขาพูดรัวเร็วจนแทบจะไม่ได้หยุดหายใจ ก่อนจะลุกออกจากห้องไปด้วยความรู้สึกที่แปลกประหลาดปะปนกันไปหมด ทิ้งให้อาจารย์หมอได้แต่อึ้งไปกับประโยคที่รัวมาเป็นชุดของลูกศิษย์ ก่อนจะหัวเราะเบาๆเมื่อจับใจความทั้งหมดได้


"... พระพาย ผมแค่มอง" เขาส่ายหัวไปมาเล็กน้อย นึกขำที่อีกฝ่ายคิดเองไปต่างๆนาๆ ทั้งที่ความจริงเขาไม่ได้คิดอะไรกับฝ่ายหญิงเลยด้วยซ้ำ เขาเองก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ชอบมองผู้หญิงที่น่ามองเหมือนผู้ชายทั่วไป จะให้คิดเป็นอื่นได้อย่างไรในเมื่อหัวใจมีใครอีกคนจองพื้นที่เดินเล่นจนเต็มหัวใจไปแล้ว ...



              ถึงเวลาประชุมของแผนกหัวใจและหลอดเลือดในช่วงบ่าย ทีมแพทย์มากันเกือบจะครบแล้ว ขาดก็แต่เรสสิเดนท์สามคนที่ยังไม่ถึงที่ประชุมเสียที ภูตะวันและคนอื่นๆนั่งรออย่างใจเย็น เพราะยังเหลือเวลาอยู่อีกนิดหน่อยก่อนประชุม


"มาแล้วครับ" แพทย์เฟลโล่พูดขึ้นเมื่อเห็นว่ารุ่นน้องเรสสิเดนท์เข้ามาแล้ว อาจารย์หมอขมวดคิ้วเล็กน้อยที่เห็นเพียงแพรดาวและอนุวัฒน์


"พระพายล่ะ?"


"เขาขอกลับไปก่อนค่ะ เห็นบอกว่าไม่ค่อยสบาย" แพรดาวตอบคำถามอาจารย์ตามที่พระพายบอกเอาไว้ก่อนออกไป โดยที่เธอเองไม่ได้รับคำอธิบายอะไรมากนักจากอีกคน


"เป็นอะไรมากรึเปล่า?" ภูตะวันถามอย่างร้อนใจ เมื่อพักกลางวันฝ่ายนั้นก็ยังดูปกติทุกอย่าง ไม่มีอาการอะไร เมื่อถูกถามแพรดาวและอนุวัฒน์จึงทำได้เพียงส่ายหัวช้าๆเพราะเขาไม่รู้อะไรมากกว่านั้นจริงๆ คนตั้งคำถามจึงได้แต่ถอนหายใจ ถึงจะเป็นห่วงมากแค่ไหนก็ละทิ้งหน้าที่ของตัวเองไม่ได้


"เริ่มเลยไหมครับ?" แพทย์หนุ่มพูดหลังจากที่แพรดาวและอนุวัฒน์นั่งลงแล้ว เมื่อได้รับการอนุญาตที่เป็นเพียงการพยักหน้าลงเล็กน้อยจากอาจารย์หมอที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ เขาจึงเปิดจอโปรเทคเตอร์เป็นภาพเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ของผู้ป่วยรายหนึ่ง

การประชุมที่คล้ายกับการแลกเปลี่ยนความคิดทางวิชาการแพทย์จึงเริ่มขึ้นไปอย่างเรื่อยๆ โดยที่สมองของภูตะวันก็สลับกันคิดเรื่องของลูกศิษย์และเรื่องผู้ป่วยบนจอฉายข้างหน้าอย่างไม่มีติดขัด


              เสียงเครื่องบดกาแฟดังลั่นร้านแต่ก็ไม่ทำให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการหงุดหงิด อาจเป็นเพราะกลิ่นกาแฟที่หอมอบอวล ชวนให้รู้สึกอบอุ่นและสบายใจ เช่นเดียวกับนายแพทย์หนุ่มที่ใช้ช้อนคนกาแฟร้อนในแก้วอย่างใจลอย


"โทษทีจ้ะที่ให้รอ" เสียงใสของแพทย์หญิงสโรชาดังขึ้น เรียกให้พระพายหลุดออกจากโลกของตัวเอง พลางลุกจากเก้าอี้เพื่อเป็นการให้เกียรติคนมาใหม่


"ผมต่างหากครับที่ต้องขอโทษ ผมนัดฉุกละหุกเกินไป แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณนะครับที่มา"


"ไม่เป็นไรจ้ะ ถ้าว่างฉันก็มา ... นัดฉันมากะทันหันแบบนี้ เรื่องซันใช่ไหม?" สโรชาถามลูกศิษย์ของเพื่อนอย่างไม่อ้อมค้อม เพราะที่พระพายนัดเธอมาอย่างกะทันหัน คงไม่มีเรื่องอะไรนอกจากเรื่องของคนที่ไม่ได้มาด้วย


"... คือ" พระพายอึกอัก เมื่อถูกจี้ถามตรงๆโดยที่เขาเองยังไม่ทันตั้งตัว ถึงแม้จะนัดเธอมาเพราะเรื่องนี้แต่ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายถูกจี้ให้ตอบ


"ถ้าเป็นเรื่องซัน ฉันว่าวันนั้นฉันพูดไปหมดแล้ว"


"ผมสับสน คิดมาก ... และกลัว" เขาสับสนและกลัวไปหมด ความรู้สึกหลากหลายประเดประดังเข้ามา นัยน์ตาวูบไหวไปมาจนสโรชารู้สึกเห็นใจ ไม่รู้ว่าพระพายต้องจมอยู่กับความรู้สึกแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว แต่กลับกันเธอก็พอรู้ว่าภูตะวันก็คงจะผ่านช่วงเวลาแบบที่พระพายเป็นมาก่อน


"แต่ฉันก็คิดว่าเพื่อนของฉันคงไม่ได้ตัดสินใจอะไรโดยที่ไม่คิดให้ดีซะก่อน ซันคงจะผ่านช่วงเวลาสับสนในหัวใจมาแล้วเหมือนกัน เขาไม่เคยรักหรือชอบผู้ชายคนอื่นจนมาเจอคุณ คุณคิดว่าเขาจะไม่สับสนเลยเหรอ ... ความกลัวฉันคิดว่าเขาก็เคยมี แต่เขาก็ก้าวข้ามเส้นความกลัวนั้นมา เพื่อมาหาคุณ"


"..........." พระพายอึ้งไปกับคำพูดของหญิงสาว รู้สึกผิดในใจอยู่ลึกๆที่เขาเองก็มองและสนใจแต่ความรู้สึกตัวเองจนลืมไปว่า อาจารย์ของเขาก็อาจจะผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากเหมือนอย่างเขาตอนนี้มาก่อนแล้วก็ได้


"คนที่เขาแสดงความรู้สึกออกมาไม่เก่ง เขาอาจจะซ่อนความเจ็บไว้ลึกๆในใจก็ได้ ... รอได้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะรอตลอดไปหรอกนะ" สโรชาพูดอย่างเข้าใจทั้งสองฝ่าย ภูตะวันเองไม่ใช่คนที่แสดงความรู้สึกออกมาได้เก่งนัก เขาอาจจะเสียใจอยู่ลึกๆหากรักครั้งนี้มันไม่สมหวังและเธอเองก็เข้าใจพระพายอีกเช่นเดียวกันว่ากำลังรู้สึกอย่างไรในขณะนี้ แต่ในเมื่อเพื่อนของเขาก้าวออกมาจากความกลัวนั้นแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่พระพายจะต้องคิดมากหรือกังวลอีก พระพายถอนหายใจ ก่อนจะเสตามองออกไปนอกกระจกบานใหญ่แทน



               ร่างสูงของอาจารย์หมอเดินวนไปมาอยู่ในห้องพักคอนโดของตัวเองอย่างวิตกกังวล เมื่อติดต่อลูกศิษย์ไม่ได้ตั้งแต่ช่วงเย็นหลังการประชุมจบลง จนตอนนี้ก็หัวค่ำแล้ว ไปหาที่ห้องก็ไม่มีใครเปิดประตู เป็นห่วงแทบขาดใจเพราะกลัวจะเกิดเรื่องที่ไม่ดี อีเมล์จากผู้เป็นอาที่ส่งเวชระเบียนคนไข้ของพฤติพงศ์ก็ไม่มีกะจิตกะใจจะเปิดดูในตอนนี้
 
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
                เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นเพียงไม่กี่ครั้ง ขายาวก็วิ่งถลาไปเปิดประตูทันที หวังจะให้เป็นบุคคลที่ตนกำลังรอ ทันทีที่เห็นใบหน้าหวานของลูกศิษย์ปรากฏก็ถอนหายใจโล่งอกทันที


"ไป.." ยังไม่ทันจะถามจนจบประโยค ร่างที่เล็กกว่าก็ก้าวเข้ามาสวมกอดเขาเบาๆ จนภูตะวันเองก็งงอยู่ไม่น้อย ไม่รู้ว่าคนตัวเล็กกว่าไปเจออะไรมา


"เป็นอะไร บอกผมได้ไหม?" ถามเสียงอ่อนโยน พลางยกมือขึ้นกอดตอบร่างของอีกฝ่ายและลูบหลังช้าๆอย่างปลอบโยน


"... หลายวันมานี้ผมรู้สึกแปลกๆ ไม่สิ อาจจะเป็นมานานแล้ว แต่ช่วงนี้ผมแค่รู้สึกว่ามันแปลกกว่าปกตินิดหน่อย" พระพายพูดเสียงอูอี้อยู่กับบ่าของคนที่สูงกว่า เขารู้สึกว่าหัวใจตัวเองเต้นเร็วกว่าปกติมาก ทำให้การพูดของเขามันดูวกไปวนมา


"ผมหงุดหงิดง่ายๆที่เห็นว่าอาจารย์ใกล้ชิดกับผู้หญิงคนอื่น ..." เสียงที่สั่นเครือของคนพูด ทำให้ภูตะวันต้องดันคนที่อยู่ในอ้อมกอดออกเบาๆแล้วจ้องมองนัยน์ตาคู่สวยที่ตอนนี้เริ่มแดงก่ำเหมือนคนจะร้องไห้แต่กลั้นเอาไว้


"... อาจารย์ทำให้ผมสับสนและกลัวไปหมด ว่าถ้าผมตัดสินใจไป พรุ่งนี้ของเรามันจะเป็นยังไงต่อ คนอื่นที่เขามองเราเขาจะมองด้วยความรู้สึกแบบไหน ... ผมเห็นแก่ตัวที่เอาแต่กลัวกับสิ่งที่ตัวเองสร้างขึ้น จนมองข้ามความรู้สึกของอาจารย์ และวันนี้ผมอยากตอบคำถามนั้นของอาจารย์อีกครั้ง ถามผมอีกรอบได้ไหมครับ?" คนตัวสูงเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ แต่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงมีสีหน้าจริงจัง ก็เลือกที่จะถามประโยคนั้นอีกครั้งตามที่ขอ


"... คบกับผมได้ไหม พระพาย"


"... ตกลงครับ ผมจะคบกับอาจารย์" ภูตะวันค่อยๆระบายยิ้มออกมาช้าๆเมื่อได้รับคำตอบที่รอมานาน พระพายอมยิ้มเล็กน้อย เขาก้มหน้าหลบสายตาอีกฝ่ายที่มองอย่างล้อๆ ก่อนจะถูกจับที่ปลายคางให้เงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้าอีกครั้ง


"ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ผมจะพาคุณผ่านมันไปด้วยกัน" ปลายนิ้วโป้งเกลี่ยแก้มใสของอีกคนเบาๆและเขามองกันอย่างมีความหมายลึกซึ้ง


"ผมเชื่ออาจารย์เสมอครับ" พระพายตอบด้วยรอยยิ้มหวาน เมื่อได้พูดมันออกไปแล้ว ความรู้สึกที่เคยเป็นก็เหมือนจะค่อยๆหายไป ทำตามที่หัวใจสั่งมันไม่ใช่เรื่องผิด คนฟังขมวดคิ้วพลางหัวเราะเล็กน้อย จนลูกศิษย์มองอย่างสงสัยว่าตนพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า


"เพื่อไม่ให้รู้สึกว่าเราต่างกัน เราควรเปลี่ยนสรรพนามกันดีไหม เลิกเรียกผมว่าอาจารย์ได้แล้ว"


"ไม่ได้หรอกครับ อยู่ที่โรงพยาบาลก็คืออาจารย์ของผมอยู่ดี" พระพายยืนยันเสียงแข็ง จนภูตะวันต้องถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะจับมือเล็กทั้งสองข้างเอาไว้


"ถ้าอยู่กันสองคน ไม่เป็นอาจารย์กับลูกศิษย์ได้ไหม?"  เขาทำสีหน้าเว้าวอนพร้อมด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง จนพระพายใจอ่อนยอมพยักหน้าตกลง ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ยากเย็นหรือหนักหนาอะไร


"... ขอบคุณที่ยอมเชื่อใจและตกลงคบกับผม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ คุณจะมีผมอยู่ข้างคุณเสมอ" พระพายระบายยิ้มกับคำพูดที่ฟังดูน่ารักของอีกฝ่าย ค่อยๆหลับตาลงช้าๆ เมื่อคนตัวสูงโน้มหน้าเข้ามาใกล้ พร้อมฝังจูบที่หน้าผากมนแผ่วเบาแล้วผละออก ก่อนจะสวมกอด กอดที่เต็มไปด้วยความรัก กอดที่แนบแน่นเป็นครั้งแรก แน่นจนได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะเดียวกัน ...


***************



Talk : กรี๊ดดดดดด เขาคบกันแล้ววว ไม่ชอบพิมพ์ตอนหวานๆเลยให้ตายเถอะ รู้สึกไม่ถนัดอย่างแรง 5555555555 ต่อไปนี้ก็เอาใจช่วยให้พวกเขาสู้กับศัตรูด้วยนะคะ เมล์จากอาส่งมาให้หมอซันแล้ว คงจะเริ่มจริงจังเรื่องคนร้ายได้แล้ว หมอโจเองก็คงจะไม่อยู่เฉยแล้วล่ะ หมอซันกับหมอพายก็คงจะไม่อยู่เฉยเหมือนกัน ลุ้นให้รักกันแล้วก็ไปลุ้นให้จับคนร้ายได้ต่อ จะลุ้นอะไรนักหนาเนาะ อิอิ


เราได้อ่านทุกคอมเม้นท์ในนี้ อ่านตาม #ชีวิตรักหมอนักผ่า ในทวิตเตอร์ และได้เห็นอยู่ในกระทู้แนะนำนิยายด้วย ... ต้องขอบคุณจริงๆค่ะกับการตอบรับเรื่องแรกดีขนาดนี้ เราไม่ใช่นักเขียนที่ดีที่สุด แต่จะพัฒนาการเขียนต่อไปให้ดีกว่านี้ ฝากติดตามเราต่อไปด้วยนะคะ :)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-12-2015 21:39:12 โดย G-bazo »

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
จิ้มจึกๆ

ออฟไลน์ nuja

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
คบกันแล้ววววววววววววววววววววววววววว

หวานง่ะ แอบเขิน  :o8:  :-[  :o8:  :-[

ตามต่อค่ะ

ออฟไลน์ supernatural

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รอมานานมาต่อเร็วๆนะ

ออฟไลน์ ZYSQ_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
มาทำเอาเขินตอนสามวิสุดท้าย(ฮา)
รออ่านตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ acorntan

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +566/-34
กรี้ดดดดดด

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
คบกันแล้ว ต้องขอบคุณหมอสโรชาด้วย
ที่ช่วยให้หมอพายตัดสินใจได้สักที
หมอซันก็แอบหวานนะท้ายตอน
 :-[ :-[

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด