♥
♥
Chapter : 13 : ลูกไก่ในกำมือ
(พี่หมอ...♥)
♥
♥
ผมหัวเราะหึ ๆ มองตามแผ่นหลังของคนที่กำลังวิ่งออกจากบ้านไป ชีวิตผมไม่เคยรู้สึกสนุกแบบนี้มาก่อนจริง ๆ รสชาติแห่งความวาบหวิวยังคุกรุ่นอยู่เต็มอก เหมือน ๆ สัตว์ร้ายในตัวผมได้กินอาหารอร่อยเต็มที่
ผมไม่ได้มาหามันหรือฟ้าเลยตลอดสองอาทิตย์เพราะติดเดินทางไปดูงาน กลับมาอีกทีคนไข้พิเศษผมก็หายสนิทแล้ว
ผมหันหลังเดินไปคว้าชุดนอนมาใส่ ทิ้งตัวลงนอน หยิบมือถือมากดเปิดดู ผมลบไปแล้วภาพหนึ่ง แต่ยังเหลืออีกหลายภาพเอาไว้เป็นข้อต่อรอง และที่มันไม่รู้ก็คือ จริง ๆ ผมถ่ายเป็นวีดีโอเก็บไว้ แล้วแคปเฉพาะบางฉากมา ผมไล่เปิดดูแต่ละภาพ ฝนในอิริยาบถที่ถูกผมสอดใส่ครั้งแล้วครั้งเล่า
ผมรู้ว่ามันอันตรายที่ทำแบบนี้
แต่เกมนี้มันสนุกเกินกว่าที่ผมจะหยุดตัวเองได้ ผมปิดภาพลง กดส่งข้อความไปหาคนที่เพิ่งขึ้นรถไปเมื่อกี้ พร้อมภาพต่อไปที่จะใช้แบล็คเมล์
'กูดไนท์ ฝันดีนะ ลูกไก่ของฉัน'
และในไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น ผมก็ได้รับข้อความสั้น ๆ ที่ทำให้ผมยิ้มทันทีที่ได้อ่าน
‘สัตว์นรก’
…
…
…
…
…
“ดูช่วงนี้คุณหมออารมณ์ดีผิดปกตินะคะ” พี่ณีย์ถามยิ้ม ๆ ผมไม่ได้ตอบเพียงแต่ยิ้มรับเท่านั้น
“หรือว่า...เจอคู่เดทถูกใจแล้ว”
เธอถามด้วยสีหน้ามีเลศนัย ผมนิ่งคิด
“จะว่าใช่ก็ใช่ จะว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่”
พี่ณีย์ทำหน้างง ทำท่าจะพูดอะไรต่อ แต่มือถือผมดังขัดขึ้นมาก่อน ผมหันไปมอง พอรู้ว่าเป็นใครก็รีบหยิบขึ้นมากดรับ
“ไง ลูกชาย สบายดีไหมลูก” พ่อผมเองครับ
“สบายดีครับพ่อ อยู่ไหนเนี่ย”
“โรมาเนีย เดี๋ยวอาทิตย์หน้าพ่อกับแม่จะกลับบ้านนะ” ผมแอบถอนหายใจเบา ๆ ถึงเวลาต้องใส่หน้ากากทำตัวเป็นลูกที่ดีอีกแล้ว “โทรบอกน้องด้วยนะลูก อย่าให้ไปเที่ยวไหน พอดีที่นี่ไม่ค่อยมีสัญญาณ โทรหาแกได้คนเดียว”
ผมรับปากแม้ไม่อยากจะรับปากก็ตาม พอเลิกงานผมก็กลับบ้าน เขียนโน้ตแปะไว้หน้าห้องมันว่าพ่อกับแม่จะกลับอาทิตย์หน้า
…
…
…
…
…
“ไง ไอ้ลูกชายทั้งหลาย”
พ่อเดินเข้าบ้านมาด้วยสีหน้าร่าเริงตามติดด้วยแม่ ส่วนพวกข้าวของสัมภาระที่หอบกลับมาด้วย แม่บ้านกำลังลากขึ้นห้องไปเก็บ พวกท่านเดินเข้ามาสวมกอดทั้งผมและไผ่ ซึ่งเราทั้งคู่ก็พากันสวมหน้ากากทำตัวเป็นลูกที่ดีทันที วันนี้มันลากคู่ขาติดตัวมันมาด้วย ไม่รู้ว่าฝนคิดยังไงถึงได้ตัดสินใจมา เพราะมันยังกลัวผมอยู่ อาทิตย์ที่แล้วมันไม่ได้พาฟ้ามาหาผมด้วยตัวเอง แต่ให้ป้าแม่บ้านพามาแทน คงหลีกเลี่ยงที่จะพบผม
ฝนยกมือไหว้คนทั้งคู่ ตลอดระยะเวลาที่เข้าบ้านมา มันไม่มองผมเลย ติดหนึบอยู่กับเพื่อนมันนั่นแหละ
“เดี๋ยวจะมีเพื่อนมานอนค้างเพิ่มอีกสามคนนะแม่ ต้องทำรายงานส่งพรุ่งนี้”
“เหรอ งั้นเดี๋ยวแม่จะทำอะไรให้กิน”
แม่รีบเสนอตัวทันที
“อย่าดีกว่า เพิ่งเดินทางกลับมาเหนื่อย ๆ ให้แม่บ้านทำให้ก็ได้” แม่รีบส่ายหน้า
“แค่นี้เอง เพื่อลูก ทำได้อยู่แล้ว”
ไผ่ยิ้มกว้าง กอดแม่แน่น แต่ผมว่ามันหาเรื่องพาเพื่อนมานอนพักเพราะต้องการกกคู่ขามันมากกว่า
ตกดึกหน่อย ก็มีเพื่อนมันมาเพิ่มอีกสามคน หลังจากกินอาหารเย็นรวมกัน ทุกคนก็พากันแยกย้าย พ่อกับแม่แยกตัวขึ้นห้องไปอาบน้ำพักผ่อน ผมก็เข้าห้องด้วยเหมือนกัน ในขณะที่ไผ่ก็ต้อนเพื่อนฝูงมันยกโขยงกันเข้าห้องนอนส่วนตัว เสียงของพวกนั้นดังทะลุมาถึงห้องผม ผมถอนหายใจเบา ๆ ยอมรับว่ารำคาญมาก แต่ก็แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน
ผมทิ้งตัวลงนั่งกึ่งนอนบนเตียง หยิบหนังสือมาเปิดอ่านรอเวลาให้ง่วง ได้ยินเสียงเฮลั่นดังมาอีกรอบ ผมขมวดคิ้ว มองไปทางต้นเสียง
แน่ใจนะว่ามาทำรายงานกัน
พวกมันเฮกันขึ้นแค่นั้นแล้วเงียบเสียงไป ผมหันกลับมามองหนังสือต่อ ก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นมือถือที่นอนนิ่งอยู่บนโต๊ะ
บางสิ่งวิ่งเขามาในหัว ผมปิดหนังสือลง วางมันไว้ที่เดิม ลุกจากเตียงเดินไปหยิบสิ่งนั้นขึ้นมาดู ผมหันไปทางห้องไผ่ มองกำแพง หวังให้เห็นทะลุไปถึงใครบางคนหลังกำแพงนั้น หันกลับมามองภาพในมือถืออีกรอบ ก่อนตัดสินใจส่งภาพพร้อมเมสเสจไปหามัน
ไม่เกินสิบนาทีหลังจากนั้น ผมก็ได้ยินเสียงเคาะประตูเบา ๆ ผมยกยิ้ม ลุกจากเตียง เดินช้า ๆ ไปหมุนลูกบิด ทันทีที่ประตูแง้มเปิด มันรีบผลักและแทรกตัวเข้ามาทันทีด้วยสีหน้าร้อนรน
“เร็วดีนี่”
“ผมกำลังทำรายงานอยู่” ไม่รู้ว่านี่คือคำบอกเล่าหรือกำลังร้องขอให้ผมเห็นใจกันแน่ แต่ผมไม่สนใจ ยกภาพในมือถือที่เปิดค้างไว้ให้ดู มันรีบโฉบคว้า แต่ผมยกหนีขึ้นสูง
“ฉันจะลบภาพนี้ ก็ต่อเมื่อนายทำสิ่งที่ฉันต้องการแล้ว”
มันมองผมแค้นเคือง แต่ยิ่งเห็นผมยิ่งชอบ ผมจับคางมันไว้ มันรีบเบือนหน้าหนี
คงรังเกียจผมมากซินะ
แต่ยิ่งมันเกลียดผมมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ผมรู้สึกดี เพราะผมจะให้มันได้ลิ้มรสชาติของคนที่มันเกลียดเพื่อคนที่มันรัก ผมจับข้อมือมันเหวี่ยงโยนลงบนเตียง มันรีบตะเกียกตะกายลุกหนี ยิ่งเห็นสีหน้าตื่นตระหนกของมัน ยิ่งทำให้ผมรู้สึกดี
ไม่ว่ามันจะไปครางสุขสมกับคู่ขามันแบบไหน แต่ผมจะให้มันรับรู้รสชาติที่ตรงกันข้ามกันเมื่อมานอนกับผม พอมันลุกจากเตียงได้ ผมก็กระชากจับมันโยนลงไปนอนบนเตียงอีกรอบ และก่อนที่มันจะลุกหนีได้อีก ผมรีบจับมันกดให้ตัวเล็ก ๆ นั้น จมลึกลงไปกับที่นอนสีขาวเนื้อนุ่ม ผมยกยิ้มเมื่อเห็นแววตาหวาดผวาและเหงื่อที่กำลังซึมซื้นผ่านขมับ ตัวมันสั่นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
แต่แปลกนะ ที่ผมกลับชอบ
ผมก้มงับลำคอมันเบา ๆ มันสะดุ้งเฮือกรีบร้องปราม
“อย่า ขอร้องล่ะ ปล่อยผมไปเถอะ” น้ำตามันไหลลงมา เสียงมันสั่นไม่ต่างกับเด็กน้อยที่กำลังหวาดกลัวจัด ๆ ผมไม่สนใจ หยิบถุงยางมาใส่ มันดิ้นใหญ่พยายามผลักผมออก ผมดึงมันมานอนคว่ำ ดึงกางเกงมันลง ก่อนเริ่มต้นโหมความเจ็บปวดใส่
ผมรู้ว่ามันเจ็บ
ผมรู้ว่ามันทรมาน
ผมรู้ว่ามันหวาดกลัว
แต่ทั้งหมดทั้งมวล กลับทำให้ผมรู้สึกชื่นชอบ
คงเพราะมันหายป่วยแล้ว เรี่ยวแรงเลยกลับมาดีเหมือนเดิม ผมหอบหายใจแรง มองคนที่ขยับกางขาออกกว้าง โดยมีร่างของผมแทรกตัวอยู่ตรงกลาง สองมือมันถูกมัดแน่นไว้ด้านหน้าด้วยเนกไทของผม มันดิ้นแรงจนข้อมือแดงไปหมด น้ำตายังไหลพราก ปากแดงจนฉ่ำ ครางเจ็บปวดผสมครางพร่าแผ่วเบาแต่หวานหยดออกมา
ผมชักจะเข้าใจไผ่มันขึ้นมาบ้างแล้วว่าทำไมถึงได้ติดใจคู่ขามันขนาดนี้ แม้ลีลาจะไม่เด็ดดวงเหมือนสาว ๆ ที่ผมเคยนอน แต่เสน่ห์มันอยู่ที่ความไม่ประสาและเสียงครางแผ่ว ๆ ของมันนี่แหละ
ผมไม่รู้ว่ามันบอกเพื่อนมันว่ายังไงที่มานอนกับผม เพราะผมไม่สน ถุงยางชิ้นที่สามถูกหยิบมาใส่อีกรอบ มันเลิกขัดขืนผมแล้ว ตามันปรอยจนฉ่ำ ร่างกายดูโรยแรง คงสิ้นฤทธิ์ขัดขืนผมแล้ว ครั้งนี้เลยไม่ยากเย็นเท่าไหร่สำหรับการสอดใส่ ผมครางออกมาเบา ๆ ภายในบีบรัดแน่นจนผมปวดไปหมด มันยกสองมือที่ถูกมัดมาผลักช่วงท้องผมเบา ๆ ลดแรงกดหนักของผม ผมตัดสินใจคลายเนกไทออกจากมือมัน
น้ำตามันยังไหลพราก เป็นผู้ชายที่ร้องไห้เก่งจริง ๆ แต่ไม่รู้ว่ามันร้องเพราะความเจ็บปวดคับแค้น หรือเพื่อระบายความหวาบหวิวแบบเจ็บ ๆ ที่ผมให้มันกันแน่
มันยังไม่หมดฤทธิ์ดี พยายามผลักอกผมออก ผมกดร่างหนักขึ้น จนมันครางหวาน เปลี่ยนจากผลักมาเป็นทาบมือกับอกผมแทน
“พอ…” มันครางเสียงพร่า แต่ผมไม่คิดจะหยุด ขยับร่างกายไหวตามอารมณ์ตัวเอง มันหลับตาลง พลิกหน้าแก้มแนบที่นอน ครางออกมาเบา ๆ สองมือมันยังดันอยู่ที่หน้าท้องผม
ผมจับหน้ามันพลิกให้หันมาตรง ๆ
“ลืมตา” ผมสั่ง มันค่อย ๆ ลืมตาซื้นหยาดน้ำขึ้นมอง ก่อนแหงนหน้าครางหวานเพราะจังหวะที่ผมกระทั้นลงไปเมื่อกี้
ทุกอย่างหยุดลงเมื่อผมและมันมาถึงปลายทางเกือบพร้อมกัน ผมลุกเดินเข้าห้องน้ำไป พอออกมาก็ไม่เห็นมันอยู่ในห้องแล้ว มือถือผมเคลื่อนไปจากตำแหน่งเดิม ผมหยิบมากดดู
มันคงจะพยายามลบภาพในนี้ แต่เครื่องต้องเข้าระหัสก่อนถึงจะเปิดดูได้ มันคงพยายามอยู่นานแล้ว แล้วรีบออกไปก่อนที่ผมจะออกมาจากห้องน้ำ
ผมยิ้ม กดลบภาพของมันไปภาพหนึ่ง ส่งเมจเสจไปบอกมันว่าผมลบให้แล้ว โยนมือถือลงบนโต๊ะ เดินอารมณ์ดีไปแต่งตัว
และทันทีที่หัวผมแตะหมอน สติผมก็จางหายไปทันที
TBC.
ขอบคุณทุกรีไพลค่ะ อ่านแล้วชื่นใจ
รังแกกันมาก ๆ วันไหนลูกไก่สู้ขึ้นมาพี่หมอจะหนาว