Chapter : 36 : แอบจับมือ & ฝันดี
(น้ำฝน...♡)
“ฝนไปดูหนังกับพี่นะ”
ผมหันไปมองคนชวน
“เอาสิ ที่ไหน เมื่อไหร่”
“เซ็นทรัล อาทิตย์หน้า คุณหมอชวน พี่ไม่อยากไปกับเขาสองคน”
ผมมองพี่สาวอึ้ง ๆ
“แล้วทำไมไม่ปฏิเสธเขาไป”
“ก็อยาก แต่มันจะเสียมารยาทเอาน่ะสิ นะ ไปเป็นเพื่อนหน่อย พี่ว่าจะชวนไผ่ไปด้วยอีกคน”
ผมนิ่งคิด ตอนแรกก็ว่าจะปฏิเสธ แต่ปล่อยพี่ฟ้าไปกับพี่หมอสองคนไม่ได้แน่ ๆ อีกอย่าง มีไผ่ไปด้วยก็น่าจะปลอดภัย จะได้ช่วยกันดูแลพี่ฟ้า ได้ดูหนังด้วยกันด้วย
ผมพยักหน้ารับ
พอพี่ฟ้าชวนไผ่ มันก็โวยวายให้พี่ฟ้าปฏิเสธใหญ่ แต่พี่ฟ้าก็ยืนยันคำเดิมว่าเสียมารยาท รับปากไปแล้ว อีกอย่างพี่ฟ้าเองก็อยากดูหนังเรื่องนี้กับพวกผมด้วย
ไผ่มันมานอนค้างตั้งแต่คืนวันศุกร์(ช่วงนี้แรดไม่ได้ เลยมาอยู่ให้ผมปรนนิบัติแทน) เพราะมันอยากหายเร็ว ๆ เลยดูแลร่างกายตัวเองสุดฤทธิ์สุดเดช ยาบำรุงอะไรที่เขาว่าดีมันกินหมด แต่ก็ยังช้ากว่าทูเวย์น้องหมาร่วมชะตาของมัน (พี่ฟ้าตั้งชื่อให้) มันหายดีแล้ว นิสัยน่ารักเรียบร้อยกว่าวันเวย์เยอะ ดีใจที่ได้เจอเจ้าของมันขนาดไหนก็แค่กระดิกหางลิ้นห้อยทำหน้าดีใจใส่ ในขณะที่วันเวย์ กระโดดเลียหน้าเลย (แต่นิสัยเสียเหมือนกันอยู่อย่างคือชอบแทะรองเท้านี่แหละ สงสัยเพราะยังเด็กด้วยกันทั้งคู่)
ยิ่งใกล้เวลานัดหมายหน้าไผ่ยิ่งบูด บ่นเป็นหมีกินผึ้ง ตอนนี้พวกเรานั่งรอพี่หมอกันอยู่ในสวน พ่อตอกโต๊ะกับเก้าอี้ไว้ให้นั่งเล่นชุดหนึ่งใต้ต้นลีลาวดีนั่นแหละ ตรงหน้าของแต่ละคนเป็นน้ำผลปั่นที่ป้าแม่บ้านทำมาให้
“ไม่อยากไปดูด้วยกันขนาดนั้นเชียว” พี่ฟ้าถามงอน ๆ
“อยากดูกับพี่ฟ้า แต่ไม่ได้อยากดูกับมัน”
พี่ฟ้าเสนอให้มันนั่งข้างตัวเอง ให้ผมนั่งข้างมัน ปิดท้ายด้วยพี่หมอ
“มันคงจะยอม”
“งั้นไผ่นั่งข้างพี่ ฝนนั่งข้างพี่อีกด้านกั้นพี่หมออีกที”
“งั้นมันก็ต้อง...” มันชะงักคำไว้ มองหน้าผม ทึ้งหัวตัวเองแรง “โธ่โว้ย ยกเลิกแม่ง ๆ มันไปเลย!!”
“ได้ที่ไหนเล่า พี่อยากดูเรื่องนี้ อยากไปดูหนังกับไผ่กับน้ำฝนด้วย”
พี่ฟ้าใช้หลอดเขี่ยน้ำปั่นในแก้วไปมา
“เค ๆ งั้นพี่ฟ้านั่งก่อน ไผ่ ฝนแล้วก็ไอ้พี่หมอ มันจะยอมไม่ยอมก็ช่างหัวมัน”
พี่ฟ้าฉีกยิ้มกว้าง หัวใจผมไหวแรง กลัวเหมือนกันว่าพี่หมอจะทำอะไร แต่ไปกันหลายคน คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก
พี่หมอนัดไว้บ่ายสอง พอบ่ายโมงสี่สิบรถของเขาก็ขับมาจอดหน้าบ้าน ป้าแม่บ้านวิ่งออกไปเปิดประตูให้ พี่หมอเดินยิ้มหล่อเข้ามา ไผ่มันทำหน้าหน่ายเหมือนเห็นตัวเห้เดินเข้ามาแทน วันนี้พี่หมอใส่เสื้อยืดคอตั้ง กระชากวัยลงไปอีกหลายขุม พี่ฟ้าบอกพี่หมอไว้ก่อนหน้านั้นแล้วว่าไผ่จะไปด้วย ซึ่งเขาก็ไม่ว่าอะไร
หรือบางที เขาอาจรู้อยู่แล้วก็ได้ เพราะหลัง ๆ มานี่ มีผมที่ไหนมีไผ่ที่นั่น โดยเฉพาะหลังเกิดเหตุการณ์วันนั้นขึ้น
วันเวย์ดูจะคิดถึงพี่หมอมากกว่าใคร วิ่งหางตั้งออกไปหาตั้งแต่รถวิ่งมาไม่ทันถึง แต่รายนั้นไม่สนใจอะไรมันหรอก ป้าแม่บ้านรีบจับมันไว้ก่อนทำกางเกงพี่หมอเลอะ ลากพามันไปทางหลังบ้าน โดยมีทูเวย์วิ่งตามก้นพี่ชายไปติด ๆ (พ่อต่อบ้านหมาไว้ให้พวกมันสองตัว หลังเบ้อเร่อเลย) พี่หมอมาพร้อมดอกไม้ช่อหนึ่งในมือ ยื่นให้พี่ฟ้า
“คุณฟ้าสวยจัง”
“ขอบคุณค่ะ” พี่ฟ้าเขินหน้าแดง ทัดผมเหน็บหูเบา ๆ
“มาแล้วก็ไปกันได้แล้ว” ไผ่มันพูดห้วน ๆ คว้าดอกไม้จากมือพี่ฟ้าไปโยนตุบไว้บนโต๊ะไม่ไยดี จับมือพี่ฟ้าเดินสามขาลากนำลิ่วไปก่อน ผมมองตามเพื่อนอึ้ง ๆ ไม่คิดว่ามันจะกล้าทำ หันไปมองเจ้าของดอกไม้นิดหนึ่ง ไม่พูดอะไร เดินตามเพื่อนไป พี่หมอก้าวตามมาติด ๆ พูดกระซิบข้างหู
“ถูกทิ้ง”
ผมหันขวับไปมองคนพูด
“พี่นั่นแหละ”
พี่หมอแสยะยิ้ม
“บังเอิญเป้าหมายของฉันวันนี้ไม่ใช่ฟ้า แต่เป็น…”
ผมขนลุกซู่ รีบเดินเร็วขึ้นไปสมทบเพื่อน ชักอยากเปลี่ยนที่นั่งดูหนังกับพี่ฟ้าซะแล้ว แต่ถ้าทำแบบนั้น อันตรายอาจเกิดกับพี่ฟ้าก็ได้ พี่หมอเปิดประตูหน้าให้พี่ฟ้านั่ง แต่ไผ่มันดึงไว้
“พี่ฟ้าจะนั่งหลัง”
มันไม่พูดเปล่า เปิดประตูหลังออก ดันพี่ฟ้าเข้าไปแทน แล้วก้าวเข้าไปนั่งตาม หันมองมาทางผม
“รีบเข้ามาเลยมึง”
ผมรีบก้าวตามขึ้นไปติด ๆ พี่หมอไม่พูดอะไร ปิดประตูหน้าลง เดินอ้อมไปยังฝั่งคนขับ สตาร์ทเครื่อง พารถมุ่งตรงไปยังเซ็นทรัลใกล้บ้านทันที
โชคดีมีที่ว่างติดกัน พี่หมอเป็นคนออกค่าตั๋วทั้งหมด ที่นั่งเป็นไปตามแพลนที่ไผ่วางไว้ มันให้พี่ฟ้านั่งก่อน ต่อด้วยตัวเอง ผมและพี่หมอ เห็นมันลอบมองพี่หมออยู่บ่อย ๆ คงเช็กมั้งว่าพี่หมอจะมายุ่มย่ามอะไรกับผมหรือเปล่า แต่พี่หมอยังนิ่ง กระทั่งหนังฉาย
นั่งไปได้พักเดียวก็รู้สึกเหมือนมีมือของใครสักคนมาจับมือผมไว้ ผมหันไปมอง ยิ้มให้มันนิดหนึ่ง มันกระชับมือผมแน่น คล้ายกับจะให้คำยืนยันว่ามันจะอยู่เคียงข้างผมเสมอ ผมบีบมือมันตอบเบา ๆ ก่อนมือผมอีกข้างจะถูกดึงไปกุมไว้บ้าง
หัวใจผมไหวแรง
ของไผ่ผมรู้ความหมาย แต่ของพี่หมอล่ะ เขาทำไปเพื่ออะไร ผมพยายามจะชักมือกลับ แต่พี่หมอตรึงไว้แน่น เอียงตัวมาทางผมจนไหล่ชิดไหล่ ไผ่หันมาเห็นพอดี ผมทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น แกล้งสนใจเฉพาะหนัง มันปล่อยมือผมออกเปลี่ยนมาเป็นโอบไหล่ไว้แทน ดึงเข้าหาตัวมันเองนิด ๆ
เอ่อ... มึง
ผมหายใจแทบไม่ทั่วท้อง พี่หมอปล่อยมือผมออก นั่งตัวตรง กอดอกไขว่ห้าง พอเห็นว่าพี่หมอไม่สนใจ ไผ่มันก็คลายมือจากไหล่ผมออกไปนั่งดูหนังดี ๆ ผมถอนหายใจเบา ๆ นั่งดูหนังต่อ
ความสนุกของหนังทำเอาผมลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ไปเลย กระทั่งมือผมข้างเดิมถูกกอบกุมเอาไว้อีกรอบ ผมพยายามจะชักกลับ แต่พี่หมอไม่ปล่อย หนำซ้ำยังแทรกนิ้วเข้ากับนิ้วผมอีกต่างหาก ถึงจะรู้ว่าพี่หมอทำไปด้วยจิตไม่บริสุทธิ์ แต่ก็อดใจเต้นแรงไปกับการกระทำนั้นไม่ได้
ผมเม้มปากแน่น
เพราะท่าจับมือแบบนี้มันเป็นท่าจับมือของคนเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอ
ผมพยายามจะคลายมือออก แต่ทำยังไงพี่หมอก็ไม่ยอมปล่อย จะดิ้นมากก็ไม่ได้ เดี๋ยวไผ่เห็น จนในที่สุด ผมต้องยอมนั่งอยู่เฉย ๆ ให้มือตัวเองถูกครอบครองไว้อย่างนั้น กระทั่งหนังจบเรื่อง
“สนุกดีเนอะ” พี่ฟ้าดี๊ด๊า แน่นอนสิ พี่ฟ้าอยากดูมากนี่
“ไปหาอะไรกินกันเถอะ หิวแล้ว” พี่ฟ้าชวนต่อ แล้วพวกเราก็ขนขบวนกันไปร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าดังของทางห้าง ระหว่างนั่งรอ ผมก็เพิ่งรู้สัจธรรมของสองหล่อตัวใหญ่ที่มาด้วย พวกมันเรียกสายตาจากสาว ๆ ได้รอบร้านเลย โต๊ะเราเป็นแบบสี่คนนั่ง เก้าอี้ฝั่งละสองตัว ไผ่นั่งข้างผม ซึ่งอยู่ตรงข้ามพี่ฟ้าพอดี ในขณะที่พี่ฟ้านั่งข้างพี่หมอที่อยู่ตรงข้ามผมพอดีเหมือนกัน
“มากับมึงทีไร ราศีกูหายทุกที ขนาดขาเดี้ยงนะเนี่ย”
ผมบ่นใส่ไอ้หล่อข้าง ๆ มันหันมายักคิ้วให้สองที
“กูทำบุญมาดี”
ผมเบ้ปากใส่
“ไม่เห็นจะหล่อเลย”
พี่ฟ้าว่า ไผ่หันไปมอง
“ต่อมมองผู้ชายผิดปกติหรือเปล่าเจ้”
พี่ฟ้าไม่ตอบ เอาตะเกียบตีกันเบา ๆ ลอยหน้าลอยหน้าไปมา
“แล้วผมล่ะ อยู่ในเกณฑ์ไหน”
อยู่ ๆ พี่หมอก็ถามขึ้น พี่ฟ้าหยุดตีตะเกียบทันที มองคนถามอึ้ง ๆ
“คุณหมอน่ะหล่ออยู่แล้ว ดูสิ สาว ๆ มองกันตรึม”
“แล้วสาว ๆ โต๊ะนี้ล่ะครับ ไม่คิดจะมองบ้างเหรอ”
พี่ฟ้าหน้าแดงก่ำ
“สเปคพี่ฟ้าคือเตี้ย ล่ำ ดำ ขนดก ซกมกฟันเหลือง”
ไผ่มันขัดมาเบา ๆ ผมขำก๊ากออกมาทันที พี่ฟ้าฟาดไหล่มันแรง
“สเปคบ้านเธอน่ะสิ”
ไผ่ลูบไหล่ตัวเองป้อย ๆ
“อ้าว ไม่ใช่หรอกเหรอ คิดว่าชอบแนวนี้ซะอีก”
พี่ฟ้าหน้าง้ำใช้ตะเกียบเป็นอาวุธตีมันอีกรอบ ไผ่หัวเราะร่วน หลบหนีการโจมตีใหญ่
“คุณฟ้าให้คำตอบไม่ได้แฮะ งั้นฝนตอบแทนพี่สาวทีว่าพี่หมอหล่อไหม”
ผมมองคนตรงหน้าอึ้ง ๆ ไม่คิดว่าพี่หมอจะมาถามผมแบบนี้ ไม่พูดเปล่ายังยื่นหน้าเข้ามาใกล้อีกต่างหาก สายตาแพรวพราวน่าดู
หัวใจผมเต้นแรงไปกับสายตาแบบนั้น
“เอ้า อาหารมาแล้ว”
ไผ่มันใช้ตะเกียบเคาะโต๊ะแรง ผมรีบละสายตาหนี พี่หมอเองก็ดึงตัวกลับช้า ๆ เหมือนกัน
ดีว่าเรานั่งเก้าอี้กันคนละตัว ไม่งั้นไผ่มันคงได้ยินเสียงหัวใจที่กำลังเต้นแรงของผมอยู่ตอนนี้แน่ ๆ
ถ้าเป็นร้านอื่น ไผ่มันคงเบิ้ลสอง แต่ร้านนี้แค่คนละชามครับ เพราะมันใหญ่มาก ผมกับพี่ฟ้ากินไม่หมด ไผ่เลยทำหน้าที่เป็นเทศบาล เก็บกวาดเรียบอาวุธ พี่หมอกินหมดชามเหมือนกัน
หลังจากนั้นพี่ฟ้าก็ชวนไปดูขนมเค้กเพื่อซื้อกลับไปไว้กินที่บ้าน ไผ่ลอบมองมาทางผมกับพี่หมอบ่อย ๆ อย่างไม่ไว้วางใจ ส่วนตัวมันเองตอนนี้ถูกพี่ฟ้าลากให้ไปดูเค้กแฟนซีด้วยกันอีกมุมของร้าน พนักงานกำลังทำให้ดูกันสด ๆ พี่ฟ้าเขาชอบเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ครูพักลักจำนี่อย่างเก่งเลย ผมไม่สนใจแยกตัวออกมาดูเค้กเพื่อสุขภาพอีกด้าน มีให้เลือกเยอะแยะ ผมก้มมองผ่านกระจก
“น่ากินดีเนอะ”
ผมสะดุ้งเฮือก หันไปมองคนพูด ไม่รู้ว่าพี่หมอจงใจหรือแค่เรื่องบังเอิญ เพราะหน้าผมเฉียดหน้าพี่หมอไปนิดเดียว ผมพยายามตีหน้านิ่ง ๆ เขยิบออกห่าง
“ถ้าชอบก็ซื้อสิ”
“อยากกินอันไหน”
พี่หมอถามโดยไม่มองหน้า ตาจ้องอยู่ที่เค้ก
จริง ๆ ไม่อยากจะพูดด้วยหรอก แต่ปากผมก็ตอบไป
“เค้กส้ม”
พี่หมอยืดตัวขึ้นตรง ๆ
“ขอเค้กส้มชิ้นหนึ่งครับ”
“เลือกอันที่พี่อยากกินสิ”
“ฉันเป็นคนกินง่าย กินได้ทุกอย่าง และกินได้ทุกที่”
ไม่รู้ว่าพี่หมอจงใจพูดให้ผมคิดหรือเปล่า แต่ผมแอบคิดไปถึงสิ่งอื่นที่ไม่ใช่เค้กแล้ว
“ตามสบายนะ ผมขอตัว”
ผมรีบละจากคนตัวสูงจะเดินไปทางพี่ฟ้า แต่เบรกไว้ เพราะตอนนี้สองคนนั้นกำลังสนุกอยู่กับการทดลองช่วยกันทำขนม ผมอยากให้สองคนนั้นได้มีเวลาอยู่ด้วยกันแบบนี้นาน ๆ สีหน้าพี่ฟ้าดูมีความสุขมากด้วย
พี่หมอกำลังจะเดินไปทางนั้นเหมือนกัน ผมรีบจับแขนคนตัวสูงไว้ ลากกลับมาที่เดิม
“พี่ชอบกินเค้กรสไหน เอาที่ชอบที่สุด หรือถ้าไม่รู้ก็เลือกอันที่กินบ่อยที่สุด”
พี่หมอยืนคิด
ยังคิดอยู่…
ยังคิดอยู่ครับ…
“พี่หมอ เลือกได้รึยัง มันยากขนาดนั้นเลยรึไง”
เขาหันมามอง
“เลือกให้หน่อยสิ นายเลือกอันไหนจะได้ชอบอันนั้น”
“บ้า เลือกเอาอันที่ตัวเองชอบสิ”
“บอกแล้วว่าชอบทุกอัน”
ผมจ้องหน้าคนตอบ ไม่รู้ว่าตอบรวนหรือว่าตอบจริง ผมก้มมอง หนังหน้าแบบพี่หมอเอาที่มันดูไฮโซหน่อยละกัน
“เค้กบลูเบอรี่ผสมไวน์”
ผมเดา ๆ เอา
“งั้นเอานั่นด้วยชิ้นหนึ่ง”
พี่หมอบอกพนักงานอย่างไม่คิดอะไรมาก
“ได้อะไรกันบ้าง”
พี่ฟ้ากับไผ่เดินตรงเข้ามาหา ไผ่มันมองพี่หมอตาขวาง
“ได้อะไรบ้างมึง”
ผมรีบถามมันขึ้นก่อนที่มันจะพ่นไฟใส่พี่หมอ
“กูไม่ได้ คนได้ก็นู่น”
มันบุ้ยปากไปทางพี่ฟ้า ซึ่งตอนนี้คุยกับพี่หมออยู่ มันรีบลากผมออกไปยืนห่าง ๆ ทันทีกระซิบถาม
“มันรังแกอะไรมึงหรือเปล่า”
ผมโบกหัวมันไปที
“คิดอะไรเป็นเด็กสิบขวบ เขาเป็นผู้ใหญ่จะมารังแกอะไรกู”
“ก็มึงเคยห้ามไม่ให้กูทำเรื่องแบบนั้น เลยคิดว่ามันรังแกมึง”
คิดช้าไปแล้วเพื่อน กูโดนจนพรุนแล้ว
“ที่กูพูด เพราะกูแค่กลัวว่ามันจะเกิดขึ้น กูอึดอัด มองเขาได้ไม่เต็มตาแค่นั้นเอง ต้องรอให้เขารังแกกูก่อนใช่ไหม มึงถึงจะหยุด”
“กูขอโทษ”
“ไม่เป็นไร”
ผมลากมันกลับไปหาพี่ฟ้า เราได้เค้กกันคนละกล่องสองกล่อง พี่หมอขับรถมาส่งพวกเราที่บ้าน จริง ๆ อยู่บ้านเดียวกัน ไผ่มันควรจะกลับพร้อมพี่หมอเลย แต่มันเลือกที่จะอยู่ต่อ ทิ้งช่วงไว้สักพักถึงได้นั่งแท็กซี่กลับเอง
ผมนั่งคุยกับพี่ฟ้าสักพักก็แยกตัวกลับขึ้นห้อง อาบน้ำใส่ชุดนอนตัวเก่งเตรียมนอน ได้ยินเสียงเมสเสจดังเบา ๆ ผมเดินไปหยิบมาดูเบอร์ผู้ส่ง เม้มปากเมื่อรู้ว่าเป็นใคร หัวใจไหวแรงนิด ๆ กดเปิดอ่าน
‘นอนรึยัง’
ผมควรจะเมินข้อความนี้ใช่ไหม แต่ผมก็เลือกที่จะกดตอบไป
‘ยัง กำลังจะนอน’
‘ถ่ายรูปมาให้ดูหน่อย ดูว่าไม่ได้กำลังโกหก’
ผมฉุนกึก
‘ทำไมผมต้องทำ’
ผมส่งกลับไป
‘ถ้านายไม่ส่งภาพนายกลับมา ฉันจะส่งภาพนายที่ฉันมีไปให้’
ผมเม้มปากแน่น โดดขึ้นเตียง ยืนเซลฟี่ตัวเอง ถ่ายหน้าบูด ๆ นี่แหละไปให้ ให้รู้ว่าผมไม่พอใจสุด ๆ ผมกดส่งไป รอไม่ถึงนาทีก็ได้ข้อความสั้น ๆ ตอบกลับ
‘ฝันดี’
ผมอึ้งไปกับข้อความสุดท้ายนั้น ไม่ได้ส่งอะไรกลับไป จ้องมองมันนิ่งค้าง
ใจอยากลบทิ้ง แต่มือผมดันกดเก็บไว้ ผมวางมือถือลงบนโต๊ะข้างหัวเตียง ทิ้งตัวลงนอน ดึงผ้าห่มมาห่ม ปิดไฟ ปิดตา
แต่ให้ตายสิ หัวใจบ้านี่ ทำไมเต้นแรงขนาดนี้
To Be Con..
น้องฝนหวั่นไหว นี่ขนาดพี่หมอยังไม่รู้ใจตัวเอง และยังไม่ได้จีบน้องนะ ฝนยังใจรวนขนาดนี้ ถ้าพี่หมอรู้ตัวและรุกเมื่อไหร่ ฝนเอ้ย ฝนไม่รอดแน่ ๆ -,.-
ตัวอย่างตอนต่อไป : ทาสแค้น 37 กลืนกิน (พี่หมอ)
“นี่ผมถามจริง ๆ เถอะ ทำแบบนี้ไม่รู้สึกผิดบ้างรึไง อย่างน้อยพี่ก็กำลังจีบพี่ฟ้าอยู่”
“ไม่นี่”
“เลว พี่มันไม่คู่ควรกับพี่ฟ้าเลยสักนิด พี่ฟ้าดีเกินไปสำหรับคนเลว ๆ แบบพี่”
มันทุบต้นแขนผมปั๊ก ๆ เจ็บนะครับไม่ใช่ไม่เจ็บ ผมเบรกมือที่กำลังทุบไว้ด้วยมือเดียว กดหลังมันแนบอก ก้มงับหูมันเบา ๆ
“แล้วฉันเหมาะกับคนแบบไหนล่ะ หรือว่าคนร่าน ๆ แบบนาย”
Next to NC ....หึ ๆ <<<< หัวเราะอย่างมีเลศนัย
ปล. ขออภัยหายหัว งานยุ่งมว๊ากกกก -,.-