Chapter : 45 : จบ...แต่ไม่จบ
[พี่หมอ...♡]
♡
♡
วันนี้ไผ่มันไม่กลับบ้าน ถึงจะมั่นใจขนาดไหน ผมก็แอบหวั่น ๆ อยู่เหมือนกันว่าบางทีน้ำฝนอาจเปลี่ยนใจเอาเรื่องผมก็ได้ ผ่านไปหนึ่งคืนโดยที่ผมไม่ได้ส่งเมสเสจหรือโทรหามันเลย นนท์มันแทบจะโทรหาทุกสองชั่วโมงเพื่อเช็กความเป็นไป
วันอาทิตย์ผมเข้าเวรเช้าเหมือนเดิม เลิกงานก็กลับบ้าน ผมเลี้ยวรถเข้าบ้าน ปิดประตูก้าวลงจากรถ ชะงักเท้ามองรถมอเตอร์ไซค์ของไผ่
มันคงกลับมาแล้ว…
ผมสูดลมหายใจเข้าปอดลึก เพราะไม่รู้ว่ามันจะดักต่อยผมอีกรอบหรือเปล่า พอเข้าไปก็เห็นมันนั่งอยู่ตรงบันไดขั้นที่สอง ขวางทางเป็นจระเข้เลย มันนั่งกางขาประสานมือค้ำศอกไว้บนเข่า สายตาวาวโรจน์จนเห็นได้ชัด
ถ้ามันซ่อนปืนหรือมีดมาจิ้มพุงผม ผมก็เชื่อว่ามันทำได้ตอนนี้ ผมถอดรองเท้าเก็บ ก้าวเข้าไปภายในบ้าน เดินช้า ๆ ตรงไปเผชิญหน้ากับมัน มันยังนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม สายตาไม่ละไปจากดวงตาผม
“กูมีเรื่องจะคุยกับมึง”
“ไงฉันก็เป็นพี่นะไผ่ เรียกให้เกียรติกันหน่อย”
“กูอยากให้มึงเลิกยุ่งกับน้ำฝนในทุกกรณี”
มันไม่ฟังสิ่งที่ผมพูดเลย ผมก็ไม่ว่าอะไร ขี้เกียจจะต่อล้อต่อเถียงด้วย
“อย่ามาบังคับขู่เข็ญอะไรฝนอีก ฝนมันไม่เอาเรื่องอย่างที่มึงคาดเดาไว้ ไม่ใช่กูไม่อยากทำ แต่แค่ต้องการทำตามสิ่งที่ฝนต้องการเท่านั้น มันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องของเรา ห้ามเอามันมาเกี่ยวข้องอีก”
“ก็ได้”
ผมตอบรับง่าย ๆ มันอึ้งไป คงไม่คิดว่าผมจะตอบรับง่าย ๆ แบบนี้ แน่ละ ผมเตรียมคำตอบไว้ก่อนล่วงหน้าแล้วนี่
มันลุกขึ้นยืนเผชิญหน้า
“มึงสัญญากับกูไหม ว่าจะไม่เอาฝนมาแก้แค้นกันอีก”
“ได้ ฉันสัญญา”
ดวงตามันฉายแววยินดี
“แล้วก็สัญญาด้วยว่าจะไม่ยุ่งกับฝนอีก”
ผมคลี่ยิ้มเยือกเย็น
“ฉันสัญญาว่าจะไม่เอาฝนมาเกี่ยวข้องกับเรื่องความบาดหมางของเราอีก แต่ไม่สัญญาเรื่องยุ่งเกี่ยวกับฝนเป็นการส่วนตัว”
“มึง!!”
มันกระชากจับคอเสื้อผมไว้
“อย่ามายุ่งกับเพื่อนกู!!”
“คงไม่ได้หรอก”
ผมค่อย ๆ ดึงเสื้อตัวเองออก
“เพราะฉันถูกใจน้ำฝนเป็นการส่วนตัว และอยากได้เขามาครอบครอง ต่อให้ต้องแย่งมาจากนายก็ตาม”
ผมมองมันตาวาว มันมองผมกลับด้วยสายตาแบบเดียวกัน
“ถ้ากูปล่อยให้มึงคบกับฝนได้ แปลว่ากูมีแต่ร่างที่ไร้วิญญาณเท่านั้น ฝนจะคบกับใครได้ทั้งโลก ยกเว้นมึง”
มันประกาศก้อง ผมยกยิ้ม
“ก็ลองดูสิ”
ผมผลักมันออกห่าง ก้าวขึ้นบันไดไป พอถึงขั้นสุดท้าย ผมหันกลับไปมอง มันยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม กำหมัดแน่น มองผมตาวาว
ผมยังยืนยันคำเดิมว่าชาตินี้ทั้งชาติ ผมกับมันไม่มีทางญาติดีกันได้แน่ ๆ
“อย่าลีลา เล่ามาเร็ว ๆ แซม”
เพื่อนผมเร่ง ผมหัวเราะหึ ๆ ผ่านโทรศัพท์
“เพื่อนแกยังไม่ตาย พวกมันยอมความ ฝนไม่เอาเรื่อง ไผ่มันก็ไม่เอาเรื่องอะไร และสัญญากันแล้วว่าจะไม่เอาฝนมาเกี่ยวข้องในความขัดแย้งของเราสองคน”
“แปลว่าแกจะเลิกยุ่งกับน้ำฝน”
“เปล่า”
“อ้าว”
“ฉันจะไม่เอาน้ำฝนมาเป็นเรื่องบาดหมางระหว่างฉันกับไผ่ แต่จะแย่งน้ำฝนมาเป็นของตัวเองเป็นการส่วนตัว”
“เฮ้ย เอาจริงเหรอวะ”
“อื้อ”
มันนิ่งไป คงกำลังช็อก
“แล้วเมื่อไหร่ปัญหาระหว่างแกกับน้องแกจะคลี่คลายว้า จบจากเรื่องส่วนตัวมาเป็นแย่งคนรักกันอีก ไงแกก็ผิด เพราะคิดแย่งของของเขา”
“ฉันยอมผิด”
“แกนี่น้า ยอมรับแล้วใช่ไหมว่าแกรักเด็กนั่น”
“ไม่”
“อ้าว”
“ให้เรียกว่ารักคงไม่ใช่ แต่ถูกใจล่ะก็ยอมรับ”
“ไอ้ปากแข็ง”
ผมไม่พูดอะไรต่อ
“เอ้อ ๆ เอาไงก็ตามใจแกละกัน แต่ระวังเอาไว้หน่อย กลัวไผ่มันจะโกรธจัดจนเอาปืนมาไล่ยิงแกล่ะยุ่งแน่”
ผมหัวเราะหึ ๆ
“มันไม่กล้าหรอก”
“อย่าเพิ่งชะล่าใจไป ดูจากที่เคยเจอแล้ว สำหรับเด็กนั่นเพื่อคนรักล่ะก็ มันทุ่มเทสุด ๆ ไปเลย ถ้าแกไม่คิดจะรักอย่าไปพรากเขาออกจากกันดีกว่า มันไม่ดี อย่างน้อยถ้าไม่สงสารไผ่ ก็สงสารคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างฝนดีกว่า”
ผมนิ่งคิด
“ฉันไม่คิดจะเล่นบทพระเอกนะนนท์ ฉันเล่นบทผู้ร้าย คนเห็นแก่ตัว โรคจิต ปีศาจ ถ้าจะให้คำนิยามอะไรฉันอีกสำหรับเรื่องนี้ฉันก็ยอม”
“ยอมแพ้แกเลย แล้วฟ้าล่ะ ถ้าแกคิดจะแย่งฝนมาจากไผ่ แล้วฟ้าล่ะ”
ผมนิ่งงันไปกับคำถามนี้
“ไม่รู้”
“แค่นี้แกน่าจะตอบคำถามที่ฉันเคยถามไปได้แล้วนะ”
“อะไร”
“แกรักน้ำฝนเข้าให้แล้ว การที่แกตัดสินใจแย่งน้ำฝนมาจากไผ่ นั่นหมายถึงแกพร้อมใจจะเสียฟ้าไปแล้วเหมือนกัน”
ผมยืนนิ่งรับฟัง
จริงสินะ ตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งนั้น ในหัวผมแทบจะไม่มีฟ้าเข้ามาให้วุ่นวายใจเลย มีแต่เรื่องของฝนกับไผ่เท่านั้น
โดยเฉพาะฝน…
“ให้เวลาเป็นเครื่องตัดสินดีกว่า”
มันถอนหายใจแรง
“ตามใจแกละกัน ขี้เกียจยุ่งด้วยแล้ว”
ผมหัวเราะหึ ๆ วางสายจากมันไป
เมื่อวานไม่ได้ติดต่อฝนเลย ผมยืนนิ่ง คิดอยู่ว่าจะโทรไปหามันหรือว่าคุยกับมันทางไลน์ดี สุดท้ายผมก็เลือกไลน์
‘หลับรึยัง’
ผมกดส่งไป
‘ยัง’
มันตอบกลับมาสั้น ๆ หลังจากนั้นไม่กี่วินาที
‘อยู่กับใคร’
‘กับตัวเอง’
มันรวนกลับ ถ้าเป็นไผ่ผมคงเท้ากระตุก แต่สำหรับฝนกลับทำให้ผมยิ้มได้มากกว่า
‘พี่หมอ ผมมีเรื่องจะถาม’
‘ว่า…’
‘พี่สัญญาว่าจะเลิกมีเรื่องกับไผ่แล้วใช่ไหม’
หึ ไผ่คงเล่าให้ฟัง
‘ไผ่เล่าให้ฟังแค่ไหน’
ผมถามกลับบ้าง
‘มันบอกว่าพี่จะเลิกเอาผมมาเป็นเครื่องมือระหว่างพี่กับมันแล้ว’
‘แค่นั้น?’
‘ใช่ หรือว่ามีอะไรมากกว่านี้’
มันถามกลับ ผมยกยิ้ม
‘ไม่มีอะไร คิดว่ามันจะใส่ร้ายอะไรฉันอีก ฉันไม่เคยหาเรื่องไผ่ก่อนนะ ถ้าทางนู้นไม่รวนมา ฉันก็จะไม่ยุ่ง’
‘ถ้างั้น แปลว่าพี่จะเลิกเอาผมเป็นเครื่องมือแก้แค้นไผ่แล้ว’
‘ใช่’
‘ขอบคุณ งั้นผมขอภาพถ่ายที่พี่มีทั้งหมด รวมถึงลบทุกภาพที่พี่มีในคอมด้วย’
‘อันนั้นคงไม่ได้’
‘ก็ไหนพี่สัญญาแล้ว’
‘ฉันสัญญาว่าจะไม่ใช้นายเป็นเครื่องมือแก้แค้นระหว่างฉันกับไผ่ แต่เรื่องรูปถ่ายมันคนกรณี’
‘พี่จะเก็บไว้ทำไม ก็ในเมื่อพี่จะเลิกยุ่งกับผมแล้ว ขอผมเถอะ ผมต้องการทำลายทิ้ง’
‘ฉันจะไม่ใช้ภาพถ่ายนั้นมาเป็นเครื่องมือแก้แค้นระหว่างฉันกับไผ่ แต่จะใช้ภาพถ่ายนั้นบังคับให้นายทำตามที่ฉันสั่งต่อไป’
‘พี่หมอ!!!’
‘พี่มันโรคจิตที่สุด’
‘ใช่ เพราะงั้นนายต้องทำตามสิ่งที่ฉันต้องการทุกอย่าง’
‘สารเลว’
‘ขอบคุณที่ชม’
ผมหัวเราะหึ ๆ นึกภาพออกเลยว่าฝนจะกระฟัดกระเฟียดขนาดไหน
‘อื้มว่าแต่คิดถึงนายจัง คืนก่อนนายน่ารักมาก เรียกหาฉัน กอดฉันก่อน แถมยังเรียกร้องให้ฉันกอดแรง ๆ อีกต่างหาก’
ผมยั่วมันต่อ
‘ผมเมา’
‘เขาบอกคนเมาจะทำในสิ่งที่ในเวลาปกติอยากทำแต่ไม่ทำ งั้นก็แปลว่า..’
‘ผมเกลียดพี่’
ผมหัวเราะหึ ๆ
‘นอนหลับฝันดี ฝันถึงฉันด้วย’
‘ไม่มีทาง’
ผมไม่ได้ตอบกลับอะไรพอ ๆ กับฝั่งตรงข้ามที่เงียบไป ผมวางมือถือลง ยิ้มอย่างสุขใจ
ทำไมการแกล้งคน ถึงทำให้รู้สึกมีความสุขขนาดนี้นะ
To be Con..
#พี่หมอโรคจิต = = ; ด่าไปก็เท่านั้น ไม่สำนึกหรอกคนนี้ โธ่น้ำฝนของมี๊ มามะ มาซบอกแบน ๆ ของมี๊ดีกว่า กางแขนกว้าง ห่อปากเตรียมจูบรับขวัญ
ตัวอย่างตอนต่อไป ทาสแค้น {พี่หมอน้ำฝน} 46 : วีดีโอคอล [น้ำฝน]
“พอยังหนาวแล้ว”
พี่หมอหัวเราะหึ ๆ พยักหน้ามาทางผมอีกรอบ
“ขึ้นไปบนที่นอน เอากล้องไปวางไว้แถว ๆ ปลายเท้า แล้วช่วยตัวเองให้ฉันดูหน่อย”
“โรคจิตน่าพี่!!”
“ทำตามนั้น”
“ไม่!”
“เลือกเอาว่าจะทำให้ฉันดูตอนนี้หรือจะให้ฉันไปรับมาทำด้วยตัวเองที่บ้าน”
#หมอโรคจิต -,.- ตอนหน้า NC เบา ๆ
อย่าลืมติดแท็ก #พี่หมอน้ำฝน หรือ #ทาสแค้น เมื่อพูดคุยถึงเรื่องนี้ในทวิตนะค่าา >///<
เจอคำผิดสะกิดด้วยน้าาา