Chapter : 53 : อยากกินหญ้าอ่อน
[พี่หมอ...♡]
ผมนั่งคุยนั่งกับพวกน้อง ๆ จนอาหารเสร็จ เพราะจำนวนคนเยอะมั้งทำให้อาหารมื้อนี้อร่อยมากเป็นพิเศษ ผมนั่งซดต้มยำน้ำใสในถ้วยเล็กตรงหน้า
“เอาอีกไหม”
ผมเงยหน้ามองคนถาม ฝนครับ มันพยักหน้ามาทางถ้วยน้ำชุปต้มยำผม สงสัยจะเห็นผมอร่อยจัด ผมยื่นไปให้ มันรับถ้วยไปยื่นให้ฟ้าช่วยตักอีกที
“อร่อยใช่ไหมคะ”
“มากครับ” ผมตอบยิ้ม ๆ
“งั้นต้องมากินที่ร้านบ่อย ๆ หลังจากฟ้าเปิดร้านแล้ว”
“ไม่พลาดแน่นอน”
ผมตอบก่อนเสสายตามองฝน ให้รู้ว่าผมจะไปเพราะอะไรและเพราะใคร ไผ่กระแอมไอคล้ายจะสำลัก
“แม่ง ตีนติดคอ” มันแกล้งบ่น
“มีที่ไหนเล่า มีแต่น้องไก่” ฟ้าว่าใส่ไผ่
“แล้วน่องมันติดกับอะไร”
“ตีน”
“แล้วไผ่เรียกผิดตรงไหน”
“น่องก็น่อง ตีนก็ตีนสิ”
ฟ้าเถียง ทุกคนฮาก๊าก หม้อต้มยำหม้อใหญ่ ๆ แทบไม่เหลือซาก มีลูกพี่ลูกน้องของฝนอยู่ด้วยครับสองคน ชายทั้งคู่ เรียนอยู่มหา’ลัยแล้ว
หลังจากนั้นผู้หญิงก็ไปช่วยกันเก็บจานชามล้าง ปล่อยให้พวกผู้ชายอย่างเรา ๆ เดินเล่นสำรวจกันไปรอบ ๆ ผู้ใหญ่เล่าให้ฟังคร่าว ๆ ว่าพื้นที่ที่ยายฝนซื้อไว้มีประมาณ 7 ไร่ ซึ่งพื้นที่รีสอร์ททั้งหมดก็อยู่ในจำนวนนี้แหละ มีเพื่อนบ้านบ้างที่เหลือก็ต้นไม้ใหญ่ ๆ
“มึงกูอยากไป A Cup Of Love กับผาเก็บตะวัน”
เพื่อนผู้หญิงฝนเริ่มแง๊ว ๆ เห็นบ่นกันว่าอยากเที่ยวเลย เพราะเดี๋ยวคนจะเยอะจนพื้นที่ว่าง ๆ และมุมถ่ายรูปดี ๆ จะไม่เหลือ ยืนถกกันประมาณสิบนาทีมติเป็นเอกฉันท์ที่ทุกคนจะไปกันที่ร้านกาแฟ A Cup Of Love ร้านกาแฟมีชื่อของวังน้ำเขียว เราใช้รถสี่คันเท่าเดิมในการเดินทาง แต่จำนวนคนเยอะกว่าเดิมเพราะติดสอยห้อยตามด้วยลูกพี่ลูกน้องของฝน
พ่อแม่ตายายป้าแล้วก็ฟ้านั่งรถของพ่อน้ำฝนไป รถที่มีตันเป็นคนขับอัดเพื่อนมันไปกันครบทุกคน ตันบีม หิน ตา น้ำตาลและน้ำหวาน ในขณะที่รถของผมก็ไม่น้อยหน้า นอกจากผมสี่คน ผม หมอนนท์ ไผ่และน้ำฝนแล้ว ยังเพิ่มลูกพี่ลูกน้องมันมาด้วยอีกสองรวมกันเป็นคนละหกคนเต็มอัตราศึก ซึ่งครั้งนี้นนท์ต้องมานั่งข้างผมให้เด็ก ๆ นั่งด้วยกันข้างหลัง
รถนำขบวนโดยคุณพ่อเหมือนเดิมเพราะมีคุณป้าผู้รู้เส้นทาง ขับนำไปก่อน ข้างหลังผมคุยกันอย่างออกรส
“ไม่สูงขึ้นเลยนี่หว่า”
แฮ็คลูกพี่ลูกน้องฝนทัก จับหัวฝนโยกเบา ๆ ฝนอมยิ้มมอง
“สูง” ฝนมันเถียง
“กี่เซ็น” แฮ็คขมวดคิ้วมอง
“สูงเท่าเดิม”
แล้วมันก็ถูกจับโยกหัวแรง ๆ สองที
“อึดอัดว่ะฝน มานั่งนี่มา”
ไผ่มันไม่พูดเปล่ายกเพื่อนมันลอยหวือขึ้นนั่งบนตัก จนตอนนี้มันหันหน้ามองหน้าต่างรถแทน
“เอ้อ น่าจะทำตั้งนานละ อึดอัดฉิบ”
ทุกคนขยายที่นั่งให้ดี ๆ เหมือนรอเวลานี้มานาน ผมอมยิ้มมอง
“พวกพี่นั่งสบายแต่ตักไผ่มันนิ่มไหม แม่ง แข็งเป็นหิน”
“อ้าวเหรอ”
ไผ่มันแกล้งเขย่าขาจนตัวฝนสะเทือน พวกนั้นหัวเราะร่วน
“หยุด เดี๊ยะถีบตกรถเลย” ฝนขู่
“พี่แซมกับพี่นนท์นี่เก่งเนอะ ผมสอบเข้าแพทย์ไม่ผ่านตั้งแต่ยังไม่ไปสอบเลย”
“ยังไง”
นนท์มันถาม
“ปีแรกรถล้มพี่ แทนที่จะได้เป็นหมอ กลับไปนอนให้หมอทำแผลอยู่เป็นเดือน ปีถัดมามุ่งมั่นว่าจะสอบอีก ดั๊นป่วยวันสอบ อย่าว่าแต่นึกข้อสอบออกเลย ชื่อตัวเองยังจำไม่ได้”
ทุกคนฮาครื้นถึงแม้ว่ามันไม่น่าจะฮาก็เถอะ
“ดวงกุดเรื่องการเป็นหมอป่าวพี่ หาแฟนเป็นหมอง่ายกว่ามั้ง”
ฝนมันแซวขำ ๆ
“ดีแล้วไม่เป็น”
ไผ่มันโพล่งขึ้นมาแล้วก็ไม่พูดอะไรอีก ฝนชกไหล่มันเบา ๆ
“ปีหน้าผมจะลองพยายามอีกรอบ ถ้าสอบไม่ผ่านจริง ๆ เพราะมีอะไรมาขวางจะหาเมียเป็นหมอแทนแล้ว”
ขับรถกันไม่นานก็มาถึงร้านกาแฟ A Cup of Love ผมวนหาที่ว่าง เพราะรถจอดเต็มไปหมดทุกพื้นที่จนต้องไปจอดไว้ข้างทางแทน คนที่นั่งเบาะหลังพากันก้าวลงทีละคนจนหมดพอ ๆ กับหมอนนท์ ผมลงเป็นคนสุดท้าย กดล็อกรถ
“อากาศโคตรดี”
ฝนมันสูดลมหายใจเข้าปอด วิวสวยจริง ๆ
“ไปเร็วมึงฝนไผ่ไปถ่ายรูปกัน”
พวกตาตะโกนชวน ไผ่รีบคว้าข้อมือฝนวิ่งตามไปติด ๆ ไม่ชวนลูกพี่ลูกน้องมันด้วยซ้ำ แฮ็คกับฮัทไปหาผู้ใหญ่ ผมกับหมอนนท์มองหน้ากัน ตอนนี้เราต้องเลือกแล้วว่าจะเดินกันเองสองคน ตามพวกฝนไป หรือจะไปนั่งคุยกับผู้ใหญ่ พวกคุณพ่อของฝนพากันเดินไปสั่งเครื่องดื่ม
“เอาไงแก จะตามเด็กแกไป หรือจะไปเดินเล่นกันเอง”
ผมมองตามฝนที่ไปยืนกอดคอเพื่อนถ่ายรูป พวกนั้นเขาเอาขาตั้งกล้องมาครับ มันเซตตั้งไว้ แล้ววิ่งไปแอ็คท่า น่าจะทำกันบ่อย ไม่ต้องง้อให้ใครมาถายให้ บางทีก็ถ่ายกันเอง บางทีก็แยกชายแยกหญิง มีบางภาพไผ่มันถ่ายคู่กับฝน สองคนนั้นกอดคอกันแน่น
จริง ๆ ก็ว่าจะให้เวลาเด็ก ๆ แหละนะ แต่เห็นแบบนี้แล้วหมั่นไส้ครับ
“ตีนกระตุกอีกแล้วล่ะสิ”
เพื่อนผมพูดอย่างรู้ทัน
“งั้นเราตามห่าง ๆ ละกัน เดินเที่ยวไปในตัว ให้พวกนั้นได้สนุกกับเพื่อนไปก่อน เวลานี้ปล่อยให้เขามีประสบการณ์ร่วมกับเพื่อนจะดีกว่า”
ผมพยักหน้า พวกนั้นวิ่งรอกถ่ายรูป ผมกับนนท์เดินเคียงกันไปห่าง ๆ มันหยิบมือถือมาถ่ายบ้าง เข้ากล้องกันสองคนครับ มันยกมือถือขึ้นสูง ผมฉีกยิ้มใส่กล้องตาม มันลดกล้องลงดู เราถ่ายคู่กับป้าย A Cup of Love ไกล ๆ
“เหมือนคู่เกย์”
มันถ่ายเอง บ่นเอง ผมหัวเราะ พอถ่ายรอบ ๆ กันจนหมด พวกนั้นก็พากันจ่ายเงินเพื่อเข้าไปดูแกะ มาถึงตรงนี้ตันหันมาเห็นผมกับเพื่อนแล้ว
“อ้าวเฮ้ยพี่หมอ มาเลย ๆ”
มันรีบวิ่งเข้ามาลากผมกับเพื่อนเข้าไปในเลนส์ด้วยกัน ไผ่หน้าบูด ฝนทำหน้าอึดอัด ผมยืนเก็กหล่อใส่กล้องตามปกติ นนท์ฉีกยิ้มกว้าง เราได้ตั๋วมากันคนละใบ ใบละ 50 บาท เพื่อเข้าไปดูแกะในบ้านแกะ เราต้องไต่สะพานข้ามน้ำไป มันโยก ๆ พวกนั้นบ้างก็เดินเฉย ๆ บ้างก็เดินเร็ว ๆ หวังแกล้งเพื่อน ผมหัวเราะจนไปถึงบ้านแกะ พวกนั้นซื้อหญ้าคนละยี่สิบบาทเพื่อไปป้อนแกะ ไม่ได้กะจะใจดีเลี้ยงแกะกันหรอก เน้นป้อนเพื่อถ่ายรูปมากกว่า
ผมมองฝนที่ก้มป้อนหญ้าแกะ พอแกะจะกินมันก็ดึงออก ผมเดินเข้าไปใกล้ ปลอดไผ่ครับ เพราะมันกำลังนั่งถ่ายรูปกับแกะตรงลานหญ้าด้านนอก
“แกล้งมัน”
มันหันมามองผม ยื่นหญ้ามาใกล้หน้าจนผมต้องเอนตัวไปด้านหลัง มองหญ้าอันนั้นงง ๆ
หรือมันจะให้ผมป้อนแกะ?
“คิดว่าอยากกินซะอีก”
ผมยกยิ้ม
“ฉันไม่กินหญ้าแก่หรอก แต่ชอบกินหญ้าอ่อน โดยเฉพาะหญ้ามอปลาย”
แก้มมันแต้มสีขึ้นนิด ๆ รีบหันไปป้อนหญ้าแกะต่อ
“อ้าวไม่ป้อนแล้วเหรอ ฉันกำลังอยากกิน”
“บ้า เชิญพี่หากินแถว ๆ นี้เองละกัน ผมขอตัว จะไปป้อนนมแกะ”
มันรีบเดินหนีผมไปทางที่เขาขายนมแกะ ผมเดินเคียงไปกับมัน
“ฉันเองก็อยากกินนมบ้างเหมือนกัน”
“ซื้อเอาสิ”
“นมพวกนั้นไม่อร่อยหรอก”
“หรือว่าอยากกินนมแกะ ที่นี่ไม่มีหรอกนะ”
“ใครว่า” ผมยกยิ้ม “นมจากเต้าต่างหาก” ผมมองมันด้วยสายตากรุ้มกริ่ม
แดงเถือกเลยครับ ไม่ใช่อะไร แต่หน้าคนฟังนั่นแหละ แดงเถือกเลย
“คิดอะไรบ้า ๆ”
“แล้วคิดอะไรอยู่” ผมยวนกลับ มันอ้าปากค้าง ทำท่าจะพูด ผมเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม “ฉันไม่ได้กินมานานแล้วนะ อดอยากมาก ๆ เดี๋ยวก็ลงแดงตายหรอก”
“เรื่องของพี่”
มันรีบวิ่งไปที่เขาขายนม ผมหัวเราะหึ ๆ เดินตามมันไป เพื่อน ๆ มันกำลังซื้ออยู่ มันได้มาขวดหนึ่ง
“เอาไหมพี่หมอ”
หินหันมาถาม ผมมองหน้าฝน พยักหน้า
“พี่ขอนมสองเต้า”
“ฮ่า ๆ ผมคิดลึกว่ะพี่ ว่าแต่เอาเต้าเล็กหรือเต้าใหญ่”
มันคงหมายถึงจะเอาขวดเล็กหรือขวดใหญ่ ผมเหลือบมองฝนนิดหนึ่ง
“ช่วงนี้พี่กำลังพิศวาสไซ้ส์มินิ ขอเต้าเล็ก ๆ ก็พอ” แก้มคนฟังแดงเถือก หินมันหยิบมาให้ผมสองขวดเล็ก ๆ ผมรับมาถือด้วยมือเดียว
เราพากันเดินไปที่แกะ ผมพยายามมองหาไผ่ เพราะปกติถ้าผมเข้าใกล้ฝนระดับนี้มันต้องชาร์จผมแล้ว ปรากฏว่านู่น… มันถูกหมอนนท์สะกัดดาวรุ่งอยู่แถว ๆ แกะฝูงใหญ่ แน่นอนมันเห็นผมแล้ว แต่มาหาไม่ได้ เพราะเพื่อนผมไม่ปล่อยมา นนท์มันขยิบตาให้ผมนิดหนึ่งอย่างรู้งาน
แน่นอน ผมคงไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือแน่นอน
ผมขยับเข้าไปใกล้ฝน มันก้มป้อนนมแกะผ่านรั้ว ผมเดินไปหยุดอยู่ข้างมัน แกะรีบเดินเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว นมของมันหมดขวดพอดี ผมจึงยื่นของผมอีกอันให้
“ช่วยกันป้อนหน่อย”
มันรับไปถือ สงสัยจะยังสนุกอยู่ ก้มป้อนอีกรอบ มือผมถือขวดนมป้อนแกะก็จริง แต่ตามองคนข้าง ๆ แทน
ตอนแรกมันก็ยิ้มแย้มกับแกะอยู่หรอก สงสัยจะรู้ว่าผมมองอยู่ รอยยิ้มมันค่อย ๆ จางลง เลียริมฝีปากเบา ๆ แก้มเรื่อสีนิด ๆ ผมยังไม่หยุดมอง มันเริ่มกลืนน้ำลาย ทำหน้าลำบากใจ
“มองหน้าผมทำไม มองแกะสิ”
มันพูดโดยไม่หันมามอง
“อ้าวเหรอ คิดว่าเป็นแกะซะอีก เห็นขาว ๆ เหมือนกัน”
“อะไรขาว”
มันหันมาถามตรง ๆ
“ผิว” แล้วสีแก้มมันก็เปลี่ยนนิด ๆ “กลิ่นเหมือนนม” แดงขึ้นอีกแล้ว “เนียนและนุ่มยิ่งกว่าขนแกะ” มันทำหน้าอึดอัด
เพราะผมไม่ได้มอง เลยไม่เห็นว่าผมยกขวดหนีแกะ แกะมันร้องเรียกใหญ่เพราะอยากกิน ผมหันไปมองนิดหนึ่ง ก่อนหันกลับมามองฝน
“แต่เสียงนายร้องเพราะกว่าแกะพวกนี้เยอะ”
“บ้า”
นมมันหมดขวดพอดี มันรีบเดินหนีไป ผมหัวเราะหึ ๆ เดินตามไป มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะจริง ๆ เราย้ายกันไปถ่ายกับกังหันลมบ้าง ดาดฟ้าบ้าง เสียอย่างเดียวคนเยอะ บางครั้งต้องรอจังหวะคนปลอด ๆ ถึงจะได้ภาพสวย ๆ
“ตันถ่ายให้พี่หน่อย”
ผมเรียก ตันหันมามอง
“ได้พี่”
ผมลากฝนมายืนอยู่ตรงจุดที่ผมเล็งไว้ แล้วผมก็เลือกเดินไปหยุดอยู่ตรงคำว่า A Cup of Love แต่ตัวผมเลือกยืนบังคำว่า A Cup of เหลือแค่คำว่า ‘Love’ ตรงกลางระหว่างเรา ผมยิ้มให้กล้องเมื่อตันนับหนึ่งถึงสาม
“ทำหน้าให้มันมัน ๆ หน่อยฝน”
“โทษทีกูไม่ได้พกน้ำมันมา”
ฝนมันแย้ง
“เอ้อ ยิ้มหน่อย”
ผมไม่ได้หันไปมอง แต่ฉีกยิ้มนิด ๆ ใส่กล้อง
“ว้าย มุมนี้สวย”
แล้วพวกสาว ๆ ก็เวียนกันมาถ่าย คราวนี้ผมเริ่มสนุกถ่ายรูปแล้วล่ะครับ แต่เน้นลากฝนมาถ่ายด้วย อีกมุมที่ผมชอบคือบ่อน้ำ ตันให้แต่ละคนลงไปแล้วแอ็คท่า ผมลากฝนมายืนอยู่ข้าง ๆ บ่อ แล้วผมลงไปในนั้น มองหน้ามัน
“พี่ ทำไมต้องถ่ายกับฝนด้วยเนี่ย คิดไรกับมันเปล่า”
พีมเริ่มจับสังเกตได้
“จริง ๆ พี่อยากถ่ายกับฟ้า แต่ฟ้าดูแลตายายอยู่ ลากน้องมาถ่ายด้วยน่าจะทดแทนกันได้”
ผมปดไป ทุกคนโห่ฮิ้ววว ฝนหน้าบูดทันที ผมหัวเราะหึ ๆ
“จริง ๆ ที่นี่มันต้องถ่ายแบบคู่รัก งั้นติ๊ต่างว่าฝนเป็นพี่ฟ้าละกัน มะผมถ่ายให้”
แล้วตันมันก็สนุกถ่าย พวกมันดูจะฮา ๆ กันมากกว่าทำซีเรียส อีกอย่างเหมือนได้แกล้งฝนไปในตัว หินแกล้งถ่ายแอ๊บหญิงกับตัน เล่นเป็นคู่เกย์ที่มาถ่ายคู่กัน เพื่อน ๆ มันขำก๊ากไม่เว้นผม เพราะมันดูทุเรศมากจริง ๆ ตันยืนพุงพลุ้ยด้วยท่าที่คิดว่าเท่ที่สุด หินยืนหันหน้าเข้าหาตัน วางมือไว้บนไหล่ ดีดขาหนึ่งขึ้นข้างหนึ่ง แอ่นก้นนิด แอ็คท่า ทุกคนขำกันจนท้องคัดท้องแข็ง
ในที่สุด ไผ่มันก็สลัดหลุดจากเพื่อนผมกลับมาเข้ากลุ่ม แน่นอนพอมันกลับมาก็เข้าชาร์จฝนทันที ดึงให้ออกห่างจากผม นนท์มันกลับมาเดินเคียงผมอีกครั้ง
พวกมันอยากถ่ายรูปที่กำลังกระโดด ท่าฮิตของคนที่มากันเป็นกลุ่ม นนท์อาสาเป็นมือกล้อง ผมยืนมองเฉย ๆ พวกมันเรียงกันเป็นแถว แล้วนับสาม(นับสามครับไม่มีหนึ่งกับสอง) กระโดดสูงเหนือดิน แรก ๆ โดดไม่พร้อมกัน หลัง ๆ ก็ได้ภาพที่ออกมาสวยจนถูกใจ แล้วพวกมันก็พากันไปถ่ายกับแกะอีก
แกะที่นี่เชื่องมาก กอดเพื่อถ่ายรูปได้สบาย
ภาพหนึ่งที่ผมชอบมากจนต้องยกมือถือมากดถ่ายคือภาพฝนที่นั่งอยู่กับพื้น ฉีกยิ้มกว้างท่ามกลางแกะนับสิบ มันยิ้มร่าจนโลกทั้งใบดูสว่างไสวไปหมด สักพักพวกฟ้า ลูกพี่ลูกน้องฟ้าแล้วก็ผู้ใหญ่ก็ตามเข้ามาให้อาหารแกะ การถ่ายแบบครอบครัวจึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง มีภาพหนึ่งที่พวกเราทุกคนต้องถ่ายพร้อมกันหมด
ผมเหลือบมองฝนนิดหนึ่ง อยากให้มันมายืนอยู่เคียงผมมากกว่ายืนห่างไกลกันแบบนั้น
to be Con..
#1คอมเม้นท์1กำลังใจ
Tag #พี่หมอน้ำฝน #ทาสแค้น