CHAPTER
: 55 :
ยอมรับ
[พี่หมอ...♥]
ผมมองคนสองคนที่กำลังนั่งพรอดรักกันอยู่ โดยมีเพื่อนสนิทยืนตบยุงเปาะแปะอยู่ข้าง ๆ
“แกจะมาแอบมองเขาพรอดรักกันทำไม นอนกันเถอะ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า”
ผมยังยืนนิ่งไม่สนใจคำชวนของเพื่อน มองภาพทุกอย่างอย่างใจเย็น แต่จริง ๆ ภายในไม่ได้เย็นอย่างที่เห็นหรอก มันกำลังเดือดปุด ๆ จนแทบจะระเบิดแล้ว
“ไปกัน”
มันแตะหลังผมเบา ๆ แต่ผมไม่เขยื้อน จ้องเขม็งไปยังสองคนนั้น
“นนท์ ช่วยอะไรหน่อยได้ไหม”
“อะไร”
“ขอเวลาชั่วโมงหนึ่ง”
“เพื่อ?”
“ให้ฉันได้อยู่กับฝน… เพียงลำพัง”
“แซม ฉันว่ามันมากไปแล้วนะ เราสัญญากับพวกนั้นแล้ว”
ผมหันไปมอง ทำสายตาเว้าวอนใส่ มันไม่ใช่สายตาอยากเอาชนะ แต่เป็นสายตาขอร้องจริง ๆ
“ฉันรู้ว่าสิ่งที่ทำมันเลวนะ แต่ฉันกำลังจะขาดเด็กนั่นไม่ได้”
มันมองผมอึ้ง ๆ ก่อนถอนหายใจแรง
“มาถึงขั้นนี้แล้วนี่”
เราสองคนรอจังหวะ พอพวกนั้นลุกขึ้นหันหลังให้ นนท์มันชาร์จไผ่ก่อนทันทีกันการโวยวาย ฝนกำลังจะหันมามอง ผมเข้าชาร์จบ้าง ปิดปากล็อกตัวมันไว้ จับมันพาดบ่า เดินตรงดิ่งกลับห้องพัก
ผมกดล็อกประตู วางคนที่กำลังโวยวายลงพื้น
“ทำบ้าอะไรของพี่! ไหนสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรไง!”
มันรัวลิ้นต่อว่าหน้าแดงก่ำ แต่คงไม่ใช่เพราะความอายแบบที่เคยเจอหรอก
“ตอนแรกว่าจะไม่ทำ แต่พอเห็นพวกนายสองคนสวีทกันแล้วมันกระตุ้นต่อมอยากทำขึ้นมากะทันหัน”
“ไอ้คนสับปรับ”
มันด่าจะเดินออกจากห้อง แต่ผมจับแขนมันไว้ รั้งมาจูบทันทีไม่มีลีลา บดเบียดนวดคลึงด้วยริมฝีปากจนตัวมันสั่นนิด ๆ ผมถึงได้คลายออก
“อย่า.. ที่นี่..ไม่ได้..”
มันห้ามหอบ ๆ
“ทำไม ทีทำกับไผ่ยังทำกันหน้าบ้านเลย”
“ผมไม่ได้ทำอะไรกับไผ่ทั้งนั้น”
“แล้วที่ฉันเห็นคืออะไร”
มันอึ้งไป
“พะ พี่เห็นอะไร”
“ต้องให้บรรยายทีละฉากไหม”
มันกลืนน้ำลาย
“ไม่มีอะไรทั้งนั้น พวกเราแค่ทดลองอะไรกันเล่น ๆ ปล่อย!”
“ทดลองเล่น ๆ?” ผมยกยิ้ม “ด้วยการจูบเนี่ยนะ”
“ใช่”
“ตอบสมกับเป็นเด็กร่านจริง ๆ”
ผมหัวเราะ
“ไม่ใช่ในความหมายนั้น”
“จะแหลยังไงความหมายมันก็เหมือนเดิม ฉันเคยบอกแล้วไง ว่าถ้าอยากจริง ๆ ให้ใช้บริการฉัน พร้อมตอบสนองได้ทุกเมื่อ แต่ก็ลืมไปว่านายชอบที่ที่มันตื่นเต้น เสียดายห้องนี้มิดชิดไปหน่อย”
“ไม่นะพี่หมอ!”
มันรีบร้องค้าน ดันตัวผมไว้ ผมดึงมันเข้ามาชิด ก้มซุกซอกคอ เลื่อนมือผ่านชายเสื้อเข้าไปเกลี่ยไล้หัวนมเม็ดเล็ก สะกิดมันเบา ๆ มันครางหวิวตอบรับ
“อย่า พี่หมอ ที่นี่ไม่ได้”
“ฉันรู้ว่านายอยากได้ที่ที่มันตื่นเต้นกว่านี้ แต่ทำไปก่อนละกัน”
“ไม่ใช่!!”
มันค้านอีก ผมไม่ฟัง ลากมันไปโยนไว้บนเตียง รวบจับสองมือมันตรึงไว้เหนือหัว
“พี่หมอ!!”
ผมใช้อีกมือเลิกชายเสื้อมันยกสูงจนโชว์หัวนม บีบบี้สิ่งนั้นด้วยหลังนิ้วชี้และนิ้วกลาง กึ่งรุกรานกึ่งอ่อนโยนเพราะไม่อยากให้มันขัดขืนมาก มันแอ่นอกครางใส่ผมเบา ๆ
ผมละมือไปเกลี่ยริมฝีปากมัน ริมฝีปากที่มันจูบไผ่ ผมก้มจูบเบา ๆ อย่างถือสิทธิ์ ละออกมามองคนที่หอบนิด ๆ มันใส่กางเกงบอลธรรมดา ขากว้างนิด พอมันดิ้นถึงได้เห็นต้นขาขาว ๆ ผมวางมือไว้บนนั้น เกลี่ยนวดเบามือ มันครางมากขึ้น จิกเท้ากับพื้น ผมค่อย ๆ ล้วงมือผ่านเข้าไปภายใน บีบแก้มก้นมันเบา ๆ หัวใจผมไหวแรง ยิ่งเรือนร่างมันเคลื่อนไหวด้วยความวาบหวิวเท่าไหร่ หัวใจผมยิ่งถูกกระชากมากขึ้นเท่านั้น ผมค่อย ๆ ดึงกางเกงมันลงช้า ๆ จนกางเกงตัวน้อยหลุดออกจากขา
“อย่าพี่หมอ”
ผมรู้ว่ามันเมา และเวลาเมา ฝนจะขัดขืนน้อยลง ครั้งนี้ก็เหมือนกัน เพียงการนวดคลึงแก้มก้นจากผมเบา ๆ มันก็เริ่มขยับเรือนร่างเข้าหามือผมแล้ว
“เด็กร่าน”
ผมว่า มันมองผมตาเชื่อม มือผมยังตรึงสองข้อมือมันไว้เหนือหัว อีกมือค่อย ๆ ปลดกางเกงมันออกจากตัววางไว้ที่พื้น มันหนีบเข่าเข้าหากันเพื่อบดบังบางส่วนที่เริ่มตื่นตัว ผมหัวเราะหึ ๆ นวดคลึงน้องมันจนตื่นตัวเต็มที่ แทรกนิ้วเข้าไปด้านหลัง
ผนังนุ่มรัดนิ้วผมแน่น ก่อนคลายออกแล้วรัดใหม่ ผมไม่แน่ใจว่าถูกรัดเพราะอีกคนต้องการต่อต้านหรือว่าเป็นปฏิกิริยาตอบรับกันแน่ ผมยกยิ้มเมื่อคนข้างใต้เครือครางออกมาเบา ๆ อย่างวาบหวิว ขยับแยกขาออกกว้าง ท่าทางทรมานกึ่งต้องการกึ่งต่อต้านนั้นทำให้รู้ว่าฝนน่าจะพร้อมระดับหนึ่งแล้ว ผมค่อย ๆ ถอนนิ้วออก ยกขาหนึ่งมันพาดบ่า ยกสะโพกมันขึ้นนิด ๆ ดึงน้องออกมาจากกางเกงแล้วค่อย ๆ กดแทรกเชื่อมร่างของเราทันที
“พี่หมอ…”
มันครางพร่า ฝืดนิดหนึ่งครับ ผมพยายามทำอย่างเบามือเพราะไม่อยากให้มันเจ็บ ค่อย ๆ ทำอยู่อย่างนั้น จนของผมหายเข้าไปในตัวมันจนหมด มาถึงตรงนี้ไม่จำเป็นต้องตรึงมือมันแล้ว ผมปล่อยออกมาจับยกสองขามันพาดบ่า
ผมผิดสัญญาที่จะไม่แตะต้องมันวันนี้ แต่เพราะมันนั่นแหละ ทำให้ผมต้องเป็นแบบนี้ ผมขยับเขยื้อนร่างกายเบา ๆ จนมันเริ่มแหงนหน้า ครางด้วยน้ำเสียงหวานหยด มาถึงตรงนี้มันคงไม่คิดจะห้ามให้ผมหยุดแล้วล่ะ
ผมบดขยี้ร่างกายมันเบา ๆ เมื่อร่างกายมันปรับสภาพได้ มีเวลาไม่มาก เพราะไม่รู้ว่าหมอนนท์จะทานไผ่ไว้นานแค่ไหน ผมรีบเร่งตีตราประทับให้มันจดจำรสสัมผัสจากผม ผมก้มจูบมัน ทำให้อ่อนโยนที่สุด ลูบไล้ผิวเนื้อมัน กอดมันไว้ในอ้อมแขน
“ฝน...”
ผมครางเรียก มันมองผมตาเชื่อม รัดของผมแรงขึ้นจนผมแทบพุ่ง ผมตวัดอุ้มมันขึ้นไปออนท๊อป ฝนมองผมด้วยดวงตาเชื่อมหวาน ดวงตาที่เหมือนกับดวงตาในคืนนั้น
“จัดการฉันสิน้ำฝน ช่วงเวลานี้เท่านั้น ที่ฉันจะให้นายเหนือกว่า”
ผมกระตุ้น และมันก็ทำตาม เป็นผู้คุมเกมด้วยตัวเอง มันไหวสะโพกไปมา เสื้อตัวนั้นเกะกะเสียจริง ผมรีบถลกถอดออก เกลี่ยยอดอกสีชมพูเม็ดเล็กอย่างโหยหา เวลาฝนร้อน ฝนจะไม่ใช่น้ำฝน แต่ฝนจะเป็นเหมือนน้ำมันที่ราดลงมาบนตัวผม มันพร้อมที่จะเผาไหม้ผมให้กลายเป็นจุณทุกเวลา
ผมกอดมันไว้ได้แค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้น แต่ก็มากพอแล้วสำหรับหัวใจที่ร้อนรุ่มอิจฉาริษยาในใจผม มันหอบแฮก นอนอยู่ภายใต้เรือนร่างผม
“สารเลว”
พอแรงมันกลับคืน มันก็เหวี่ยงหมัดใส่ผม แต่ผมรับมันไว้ได้ มันจะง้างอีกหมัดต่อย
“ต่อยหนึ่งครั้ง ต่ออีกหนึ่งยก”
ผมขู่ มันชะงัก ผมยิ้ม ก้มคลอเคลียซอกคอมันเบา ๆ
“ปล่อย”
มันเปลี่ยนจากต่อยมาผลักผมออกแทน
“อีกนิดน่า”
อันนี้ผมพูดจากใจจริง ไม่อยากหยุดกอดมันเลยจริง ๆ
“พี่หมอ” มันพยายามดันอกผมออกมามองหน้าจริงจัง “อย่าทำแบบนี้อีกได้ไหม ผมขอร้อง”
“ไม่ได้”
ผมจ้องตากลับตอบกลับชัดถ้อยชัดคำ มันมองผมเหวี่ยง ๆ ผมหัวเราะหึ ๆ ชอบกิริยานี้ของมันดี ผมก้มซุกซอกคออีกรอบ บดจูบอีกนิดหน่อย และหยุดไว้ก่อนจะห้ามตัวเองไม่ได้อีก พามันลุกไปทำความสะอาดแต่งตัวเดินออกจากห้อง
“พี่หมอนนท์พาไผ่ไปไว้ไหน”
“ไม่รู้สิ”
มันหันมาเผชิญหน้ากับผมตรง ๆ
“พี่หมอ ผมขอถามพี่หน่อย”
“ว่า…”
“พี่ทำแบบนี้กับผมทำไม เอ่อ.. เรื่องที่เราเพิ่งทำกันเมื่อกี้ เพราะแก้แค้นไผ่ เพราะต้องการแกล้งผม หรือเหตุผลอื่น”
มันมองตาผมนิ่ง
“ไม่รู้สิ แค่อยากทำ”
นั่นคือคำตอบหนึ่งเดียวจากผม มันเม้มปากแน่น
“งั้นอีกคำถาม”
“ว่า…”
“พี่ยังชอบพี่ฟ้าอยู่ไหม”
มันจ้องลึกเข้ามาในดวงตาผม ผมยกยิ้ม
“ชอบสิ”
มันอึ้งไป ยืนนิ่ง กลืนน้ำลาย
“งั้นก็เลิกยุ่งกับผม”
“ทำไม ถ้าฉันทำแบบนั้นจะให้ฉันจีบฟ้าได้โดยไม่ขัดขวางรึไง”
“ไม่มีทาง ผมไม่รู้ว่าพี่วางแผนอะไรไว้ แต่นั่นเป็นสิ่งเดียวที่ผมจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นแน่ ๆ”
ผมยกยิ้ม
“งั้นฉันมีข้อเสนอ”
“อะไร”
“เลิกกับไผ่” มันมองผมนิ่งค้าง “ถ้านายเลิกกับไผ่ ฉันจะเลิกจีบฟ้า” มันยืนนิ่ง หลุกหลิกสายตาไปมา
“ก็ได้”
แล้วมันก็รับปากง่าย ๆ
“อย่าลูกไม้นะ คำว่าเลิกไม่ใช่แค่ลมปาก ต้องเลิกให้มันแตะเนื้อต้องตัว สัมผัสเกินกว่าคนเป็นเพื่อน” มันตวัดสายตามอง อ้าปากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่เงียบไป
“งั้นพี่ก็ต้องเลิกจีบพี่ฟ้าถาวร”
ผมกระตุกยิ้ม
“ได้สิ”
“ถ้าตกลงกันได้ผมก็ขอตัว” มันหันหลัง ผมฉุดข้อมือมันไว้ทันที ยิ้มเย็น ส่ายหน้าไปมา “แค่ลมปากเชื่อได้แค่ไหน ฉันอยากได้รับการยืนยันจากไผ่ว่าเลิกกันแล้วจริง ๆ หรือไม่ก็ต้องเห็นกับตา”
“พี่หมอ มันจะบังคับกันเกินไปแล้วนะ”
“งั้นฉันจะกลับไปจีบฟ้าต่อ”
“พี่หมอ” มันรีบรั้งข้อมือผมไว้ทันที นิ่งคิด “ได้ แต่ผมขอเวลาหน่อย อย่างน้อยจะได้พูดคุยปรึกษากับมันได้”
“อย่าเล่นแง่”
ผมขู่ มันถอนหายใจแรง
ผมพามันเดินหาสองคนที่ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน ผมเลือกหยิบมือถือมากดโทรหาเพื่อน มันอยู่ไม่ห่างเท่าไหร่ ผมกับฝนเดินเข้าไปใกล้ นนท์มันยืนกอดอกพิงต้นไม้รอ ส่วนไผ่นั่งกอดเข่าฟังเพลงจากไอพอดของมันอยู่บนพื้นหญ้า
“แกทำให้ฉันรู้สึกผิดเลยว่ะแซม”
มันเดินเข้ามาพูดใกล้ ๆ ฝนเดินเลยเข้าไปหาคู่ขามัน แตะไหล่ไผ่เบา ๆ รายนั้นหันมามอง ไม่สนใจว่าผมหรือใครอยู่ด้านหลัง รวบฝนเข้าไปกอดแน่น ซบหน้ากับอกฝน หมอนนท์มองภาพนั้นอย่างกระอักกระอ่วน ผมรู้ว่ามันคงรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ที่ทำแบบนี้ แต่เมื่อลงเรือมากับโจรแล้ว ถ้าไม่เป็นเหยื่อก็ต้องกลายร่างเป็นผู้ร้ายซะเองแบบนี้แหละ
“ผมขอเวลาอยู่กับไผ่หน่อย”
ฝนร้องขอ ใจผมไม่อยากให้เลย แต่ก็รู้ว่าต้องให้เวลามันได้พูดคุยกันบ้าง ผมรู้ว่าผมชั่ว ผมรู้ว่าผมเป็นคนเห็นแก่ตัว
แต่ผมอยากได้ฝนมาเป็นของตัวเองจริง ๆ
“ฉันเลวมากไหมนนท์”
“ยังกล้าถามเนอะ สมแล้วที่เด็กนั่นเรียกแกว่าปีศาจ บางครั้งฉันก็คิดว่าแกเลือดเย็นจริง ๆ”
ผมนั่งกอดเข่าคุยกับเพื่อนอยู่หน้าห้องพัก รู้ว่าดึกแล้วครับ แต่บางทีหน้าที่การงานก็ทำให้เรานอนกันแค่สองชั่วโมงต่อวันหรืออาจไม่ได้นอน ทำให้เรื่องแค่นี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่
“แกอาจพูดถูก”
“เรื่อง?”
“ฉันอาจชอบฝน”
“เปล่าแกไม่ได้ชอบฝน” มันส่ายหัวไปมา ผมหันไปมอง ขมวดคิ้วงุนงง “แกไม่ได้ชอบ แต่แกรักเด็กนั่นเลยล่ะ”
ผมมองเพื่อนนิ่งค้าง
“เหรอ” ผมถามมันเหมือนเป็นการถามตัวเองอีกรอบ “ได้ไง ทั้งที่ฉันเกลียดคนประเภทนี้จะตาย”
“ถามหัวใจแกสิ แกรักเขาที่เขาเป็นเพศเดียวกับแก หรือแกรักเขาที่เขาเป็นเขา” มันให้ช้อยท์ “ฉันให้เวลาแกได้คิดนะแซม นอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องตื่นไปใส่บาตร”
“อือ”
ผมรับปาก เดินเข้าห้อง ก้าวขึ้นเตียง เตียงที่ผมเพิ่งใช้กอดเด็กนั่นไปเมื่อกี้
“กลิ่นหอมจัง กลิ่นฝนล่ะสิ” มันถามขณะทิ้งตัวลงนอน ผมครางรับในลำคอ “รู้สึกยังไงที่ได้กอดเด็กนั่น”
“ดี”
“ดีขนาดไหน”
“ดีมาก ๆ”
ผมตอบเพื่อนตามตรง
“ทั้งที่ฝนเขาเป็นผู้ชายและเคยผ่านมือคนอื่นมาก่อน”
ผมนิ่งไปกับคำถามนั้น ผมรู้ว่ามันกำลังพยายามจี้ผมให้ผมหาคำตอบของคำถามมัน แต่ผมก็ยังไม่แน่ใจขนาดจะยอมรับได้ขนาดนั้น ความรักเป็นสิ่งยิ่งใหญ่เกินไป และถ้าจะให้ยอมรับ ผมต้องแน่ใจว่าผมพร้อมกับมันจริง ๆ หรือเปล่า ถ้ายังไม่พร้อม สำหรับผมมันก็แค่ความชอบ หรือเป็นเพียงความหลงใหลต้องการเพียงชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น
To be Con....
เดินตัวเอียง ๆ มาอัพ (จะเอียงทำเพื่อ?) = =
ขอบคุณทุกเม้นท์ ทุกจิ้มโหวต เดี๋ยวเขาเต้นให้ดู
(ลองเต้นจริง ๆ ในห้องแล้ว ทุเรศฉิบ... = =)